ไคโรก้าวเข้ามาในผับคู่แข่งอย่าง เดอะ กลาส เนื่องจากจู่ ๆ พวกเพื่อนของเขาก็เกิดอยากเปลี่ยนบรรยากาศซะงั้น
ตั้งแต่ร่างสูงเข้ามาที่ผับ สายตาของหญิงสาวหลายคน ก็มองมายังเขาแถมยังส่งสายตาเชิญชวนจนออกนอกหน้า เขาส่งสายตาเย็นชาก้าวเดินผ่านพวกสาว ๆ ไปอย่างไม่สนใจ
ลีโอมือขวาของเขาเปิดประตูห้อง VIP ที่เพื่อนของเขาจองเอาไว้ ก่อนจะเห็นพวกเพื่อน ๆ ของเขาที่มากันครบทุกคนแล้ว
“มึงมาช้า” วิคเตอร์หนึ่งในเพื่อนของเขาบ่นออกมาทันทีที่เห็นหน้าเขา
“มึงมาช่วยเขาปิดผับ?” ลีออนถามเขาด้วยสีหน้ากวนตีนตามนิสัยของมัน
“กูต้องเคลียร์งานที่ผับกูก่อนไหม”
ไคโรตอบก่อนจะหยิบแก้วเครื่องดื่มที่สาวข้างกายลีออนชงส่งมาให้ ในห้องนี้นอกจากจะมีเพื่อนของเขาทั้งสามคน ก็ยังมีสาว ๆ ที่วิคเตอร์และลีออนเรียกเข้ามาดูแล
“แต่นี่มันตี 1 อีกชั่วโมงเดียวผับก็ปิดแล้วไหม” ลีออนยังคงบ่นต่อไป
ไคโรไม่ได้สนใจจะตอบคำถามของลีออน เขามองไปยังภายนอกห้องกระจกที่เห็นโซนผับด้านนอก
“ทำไมเลือกมาผับไอ้เควิน”
“เบื่อผับมึงไง” วิคเตอร์ตอบ ก่อนจะหันกลับไปนัวเนียสาวที่เขาเรียกเข้ามาดูแล
“ถือว่ามาดูคู่แข่งแล้วกัน”
ไคโรส่ายหัวให้กับคำตอบของวิคเตอร์ ไอ้พวกนี้คงแค่อยากมาดูสาว ๆ หน้าใหม่ ๆ บ้างแค่นั้น เพราะพวกมันไปที่ผับของเขาบ่อย พนักงานสาวในร้านพวกมันคงก็เห็นหน้าจนเบื่อ
“มึงก็พูดบ้างเถอะไอ้นิกซ์ ตั้งแต่มาถึงร้านกูแทบจำไม่ได้เลยว่ามึงพูดอะไรบ้าง” ลีออนหันไปพูดกับโอนิกซ์ หนึ่งในกลุ่มเพื่อนของเขาอีกคน
“มึงพูดแต่เรื่องไร้สาระ” โอนิกซ์ตอบกลับลีออนไป แต่สายตาไม่ได้ละไปจากแก้วเหล้าสีอำพันที่ตัวเองถือโคลงไปมา
“ไอ้นี่ก็เงียบเสมอต้นเสมอปลาย มึงสื่อสารทางจิตหรือเปล่าวะ”
โอนิกซ์ไม่ได้ตอบอะไรกลับมาแค่ยักไหล่แล้วกลับไปอยู่ในโลกส่วนตัวอีกครั้ง
หลังจากที่ออกมาจากห้องทำงานของเควิน มิลินก็เลือกเข้าไปนั่งตั้งสติในห้องน้ำสักพัก ก่อนจะตัดสินใจว่าคงต้องขอความช่วยเหลือจากคลีโอดีกว่า เธอทำงานที่ผับของพี่ชายเพื่อนคงปลอดภัยกว่าทำงานที่นี่แน่นอน แต่คงต้องให้หมดวันนี้ไปก่อน แล้วจะไปคุยเรื่องขอลาออกกับพี่ผู้จัดการหลังเลิกงาน
“อ้าวมิลิน ไปไหนมาเนี้ย ทำไมหน้าดูซีด ๆ” พี่ใบชาทักถามเธอขณะที่เธอเดินกลับมายังบริเวณบาร์เครื่องดื่มเพื่อทำงานต่อ
“เอ่อ...ลินรู้สึกไม่ค่อยสบายนิดหน่อยค่ะ”
“ทำงานต่อไหวไหมนั่น”
“ไหวค่ะ อีกชั่วโมงเดียวก็เลิกงานแล้ว ลินโอเคค่ะ” เธอพยายามฝืนยิ้มให้อีกฝ่าย เพื่อให้พี่ใบชาไม่ต้องกังวลกับเธอ
“เอางั้นเหรอ”
“ค่า ลินแค่มึนหัวเฉย ๆ ค่ะ น่าจะเพราะแสงไฟในผับ”
“โอเค ๆ งั้นช่วยเอาออเดอร์นี้ไปเสิร์ฟ VIP3 ทีนะ ตอนนี้ลูกค้าก็เบาลงเยอะแล้ว” พี่ใบชาเลื่อนถาดบรรจุเครื่องดื่มมาให้เธอ หญิงสาวก็พยักหน้าก่อนจะหมุนตัวออกไปทำหน้าที่ของเธอต่อ
เธอยืนถือถาดเครื่องดื่มอยู่หน้าห้อง VIP3 ภาพของเหล่าชายใส่สูทชุดดำ คอยยืนอยู่แต่ละจุดรวมถึงหน้าห้องที่เธอต้องเข้าไปเสิร์ฟ ทำให้หญิงสาวรู้สึกกลัวขึ้นเล็กน้อย
เธอพยายามก้มหน้าก้มตาไม่สนอะไรมาก เพราะเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาเมื่อครู่ก็คล้ายแบบนี้ หวังว่าคงไม่มีคนน่ากลัวอยู่ในห้องนั้นนะ “คงแค่ลูกค้ามีชื่อเสียง เลยมีคนดูแลเยอะ” มิลินปลอบใจตัวเอง
“เครื่องดื่มที่สั่งได้แล้วค่ะ” เธอก้มหน้าพูดกับชายชุดดำที่ยืนอยู่หน้าห้อง VIP
…ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เครื่องดื่มครับนาย” หนึ่งในชายหนุ่มที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูห้อง เคาะประตูห้องขออนุญาต
“เข้ามา”
บอดี้การ์ดหนุ่มเปิดประตูห้อง VIP ให้เธอเดินเข้าไป มิลินเดินเข้าไปในห้อง เห็นว่ามีชายหนุ่มหน้าตาดี 4 คน และผู้หญิงที่ทำหน้าที่ดูแลนั่งดื่มกับลูกค้า 2 คน
“ขออนุญาตค่ะ” มิลินพูดก่อนที่เธอวางเครื่องดื่มลงบนโต๊ะ
“อื้อฮือ พนักงานที่นี่เขาคัดหน้าตาหรือเปล่า” เสียงทะเล้นของชายหนุ่มคนหนึ่งเอ่ยขึ้นมา “ทำไมผับมึงไม่มีแบบนี้บ้างวะ”
ร่างสูงที่นั่งอยู่ริมสุดใกล้กับจุดที่เธอยืนไม่ได้ตอบคำถามเพื่อนตัวเองแต่ยังคงจ้องมองหญิงสาวเงียบ ๆ
“หึหึ ใบ้แดกเลยโว้ยไอ้ไค”
“หุบปากมึงเถอะ” ชายหนุ่มละสายตาจากสาวเสิร์ฟ เอื้อมมือไปหยิบแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม แต่ก็ยังไม่วายแอบชำเลืองมองใบหน้าหวานของหญิงสาวอีกครั้ง
มิลินจัดวางเครื่องดื่มใหม่ไว้บนโต๊ะ แล้วเก็บขวดแก้วเปล่าไว้บนถาดแทน เธอโค้งตัวเล็กน้อยเป็นการขอตัวกับลูกค้าก่อนจะหันกลับออกมา
เธอเปิดประตูออกมาจากห้อง VIP ก่อนจะชะงักไปเล็กน้อย เมื่อสังเกตเห็นใบหน้าของชายหนุ่มที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องชัด ๆ
“อะ พี่ลีโอ”
เธอเคยเจอพี่ลีโอเนื่องจากบางครั้งเขาจะเป็นคนมารับมาส่งเพื่อนสนิทของเธอที่มหาลัย แสดงว่าหนึ่งในชาย 4 คนภายในห้อง คงจะต้องมีพี่ชายของเพื่อนเธออย่างแน่นอน
เสียงของมิลินที่เรียกชื่อมือขวาของไคโรอย่างสนิทสนม เรียกความสนใจจากบุคคลทั้งสี่ที่นั่งอยู่ภายในห้องให้หันไปมอง เนื่องจากประตูยังเปิดค้างอยู่
อีกฝ่ายไม่ได้ตอบอะไรเธอกลับมา เพียงแค่พยักหน้าให้เธอเท่านั้น
“แหะ ๆ ลินขอตัวก่อนนะคะ”
“อื้อ” อีกฝ่ายตอบกลับเพียงสั้นๆ มิลินจึงเดินเลี่ยงออกไป
หลังจากที่หญิงสาวตัวเล็กเดินออกไปแล้ว ลีโอจะเอื้อมมือมาปิดประตูห้องก็ชะงัก เพราะสายตาของทุกคนหันมามองที่เขา
“ไม่ธรรมดานี่หว่า เห็นเงียบ ๆ แบบนี้” ลีออนเอ่ยแซวออกมา
“มึงนี่มีเวลาหาหญิงด้วยเหรอวะ” ตามมาด้วยวิคเตอร์ ที่จ้องมองเขาด้วยสายตาล้อเลียน
“….” ไคโรเจ้านายหนุ่มของลีโอแม้ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่มองเขานิ่ง ๆ ลีโอก็รู้ความหมายของเจ้านายแล้ว
“เพื่อนสนิทคุณหนูครับ”
“เพื่อนยัยคลี ?” ไคโรขมวดคิ้วมองมือขวาด้วยความสงสัย ด้วยเขาก็เป็นพี่ชายที่ค่อนข้างสนิทกับน้องสาว แต่ไม่เคยเห็นหญิงสาวที่มือขวาบอกว่าเป็นเพื่อนสนิท
“ครับ”
ไคโรพยักหน้าให้กลับคำตอบ แล้วกลับมาสนใจเหล้าในมือแทน แต่ก็ยังคงครุ่นคิดถึงหญิงสาวที่เดินออกไปอยู่
“ท่าทางแบบนี้ สนใจล่ะสิ” วิคเตอร์หันกลับมาพูดกับเขา
“วู้ววว เห็นมึงแสดงอาการแบบนี้กูยกให้มึงก็ได้” ลีออนพูดเย้าแหย่อีกราย
“เขาไม่ใช่ของมึงไหม มึงมีสิทธิ์อะไรจะยกหรือไม่ยกให้กู”
“หูยย ออกตัวแรงวะ น่ารักแบบนี้ก็สเปคกูเหมือนกัน ถ้ามึงไม่เอา งั้นกูขอนะ”
มาเฟียหนุ่มตวัดตาไปมองลีออนเมื่อมันพูดจบประโยค เรียกรอยยิ้มของเพื่อนทั้งสามแม้กระทั่งโอนิกซ์ก็ยังแสยะยิ้มล้อเลียนเขา
“มึงคิดว่าไงไอ้นิกซ์”
“อื้อ น่ารักดี” โอนิกซ์ตอบกลับนิ่ง ๆ โดยที่สายตามองตรงมาที่เขา ราวกับต้องการปั่นประสาทเขาอีกคน
“ฮ่า ๆๆๆ เอาโว้ย ไอ้นิกซ์ยังร่วมด้วย” ลีออนหัวเราะสะใจ เมื่อเพื่อนที่นิ่งที่สุดในกลุ่มร่วมวงแซวเขา
“ไม่ได้สนใจจริงดิ”
“กูแค่สงสัยว่าทำไมเป็นเพื่อนสนิทน้องสาวกู กูถึงไม่เคยเห็น”
“ใช่หรือเปล่า” ลีออนยังคงสนใจกับท่าทีที่ไคโรมีให้หญิงสาว
“พวกกูก็เพื่อนสนิทมึง แต่กูก็ไม่เคยเห็นน้องสาวมึงเหมือนกัน” วิคเตอร์ส่ายหน้าตอบคำถามเขา ก่อนจะหันกลับไปสนใจสาวข้างกาย
“จริง! ทำไมไม่พาน้องสาวมาเจอพวกกูบ้าง”
“เพราะพวกมึงมันเลวไง” นิสัยพวกมันเป็นยังไงทำไมเขาจะไม่รู้ แม้จะเป็นเพื่อนที่ดี แต่ทุกคนก็คือเสือผู้หญิงดี ๆ นี่เอง เปลี่ยนผู้หญิงควงไม่เคยซ้ำหน้า ถึงแม้ว่าโอนิกซ์จะไม่ค่อยสนใจเรื่องผู้หญิง แต่มันก็ไม่ใช่คนที่พี่ชายอยากจะให้น้องสาวคบหาด้วยเท่าไหร่
@คอนโดมิลินแสงอาทิตย์ยามเช้าลอดผ่านผ้าม่านบางเข้ามากระทบร่างของหญิงสาวที่นอนหลับอยู่บนเตียงนุ่ม ทำให้เธอเริ่มรู้สึกตัวตื่น“อื้ออออ~” ร่างเล็กของมิลินบิดขี้เกียจขับไล่ความง่วง เธอหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ข้างเตียงขึ้นมาเพื่อดูเวลา“เกือบ 10 โมง แล้วเหรอเนี่ย”เธอบ่นพึมพำกับตัวเองเบา ๆ นอนมองเพดานสีขาวเหนือเตียง ครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องเมื่อคืน เธอขอลาออกกับผู้จัดการร้านที่ผับแล้ว พี่ผู้จัดการดูหงุดหงิดเล็กน้อยที่จู่ ๆ เธอมาขอลาออก หลังเพิ่งเข้ามาทำงานได้เพียง 2 สัปดาห์ แต่ก็ไม่ได้รั้งอะไรเธอไว้มิลินยังไม่ได้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้เพื่อนสนิทอย่างคลีโอฟัง เธอกังวลว่าเพื่อนสาวจะไม่ยอมปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปเพราะที่ผ่านมามีหลายครั้งที่คลีโอออกหน้าเอาเรื่องกับคนที่มารังแกเธอให้ หญิงสาวไม่อยากให้เพื่อนมีปัญหากับคนน่ากลัวแบบเควิน...ครืด ครืด-LINE-CLEO: ตื่นยางงงงงCLEO: ไปช็อปปิ้งเป็นเพื่อนหน่อยLin Lin: กี่โมง?CLEO: อีกชั่วโมงเดี๋ยวไปรับที่ห้องนะคะLin Lin: ยังไม่ได้รับปากว่าจะไปเลยอีกฝ่ายไม่ตอบกลับอะไรข้อความเธออีก แม้ข้อความที่เธอส่งไปจะขึ้นว่าอ่านแล้ว เห็นทีแบบนี้อีกฝ่ายคงไม่รั
@คอนโดคลีโอหลังจากทั้งคู่เดินซื้อของจนหมดแรง ต้องบอกว่ามีเพียงมิลินคนเดียวที่หมดแรง เพราะเพื่อนสาวของเธอยังคงมีเรี่ยวแรงเหลือเฟือ หากเธอไม่ออกปากรั้งไว้ก่อน เห็นทีจนค่ำเพื่อนเธอก็ยังซื้อไม่เสร็จคลีโอแปลงโฉมให้ร่างเล็กของเพื่อนอย่างปากว่าทั้งใบหน้าหวานถูกเครื่องสำอางลงเข้มกว่าทุกวัน เปลี่ยนจากสาวหวานเป็นสาวสวยแสนเซ็กซี่ ผมยาวตรงสีน้ำตาลเข้มของเธอก็ถูกดัดเป็นลอนใหญ่ๆที่ส่วนปลายผม เมื่อใส่ชุดเดรสสีดำที่เพิ่งถอยมาคู่กับรองเท้าส้นสูงแล้ว วันนี้เธอช่างดูสะดุดตากว่าเดิมมาก“สวยมากกกก!!” คลีโอกรีดร้องยินดี ยืนยิ้มมองผลงานชิ้นโบแดงมิลินจ้องมองเงาสะท้อนในกระจกบานใหญ่ด้วยความเคอะเขิน หญิงสาวในกระจกดูสวยจนเธอเองยังไม่แน่ใจว่าใช่ตัวเองหรือเปล่า“เยอะไปไหมแก” ร่างเล็กหันมาถามเพื่อน ไม่ค่อยมั่นใจกับภาพลักษณ์ใหม่“แกสวยมาก มั่นใจหน่อย วันนี้มาสนุกกันให้สุดเหวี่ยงค่ะ”คลีโอว่าจบก็หันไปเริ่มแต่งหน้าทำผมให้ตัวเอง ระหว่างรอเพื่อนสาวมิลินก็ถ่ายรูปภาพลุคใหม่นี้ เพื่อเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึก แอบอมยิ้มมองภาพในโทรศัพท์ ตั้งแต่เกิดมาเธอไม่เคยแต่งตัวแต่งหน้าจัดเต็มเช่นนี้เลย ชีวิตเธอมีเพียงเรื่องเรียน และท
ไคโรนั่งมองสองสาวที่เริ่มลุกขึ้นเต้นจากชั้น 3 ของผับ ด้วยความไม่พอใจ ภายในห้องทำงานโอ่โถงสไตล์โมเดิร์น ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์โทนสีดำตามรสนิยมของเขา ด้านหนึ่งของห้องเป็นกระจกทึบบานใหญ่ที่ด้านนอกจะมองไม่เห็น มีเพียงคนในห้องเท่านั้นที่จะมองเห็นภายนอกได้ แก้วเหล้าในมือถูกยกขึ้นมาดื่มเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็จำไม่ได้ แต่มันไม่อาจช่วยลดความหงุดหงิดภายในใจได้เลยสองสาวไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตัวเองเรียกความสนใจจากผู้ชายในผับเขาแค่ไหน แม้จะส่งลูกน้องไปยืนเฝ้าแล้ว แต่สายตาโลมเลียที่พวกนั้นมองทั้งคู่ก็ทำให้เขาไม่พอใจอยู่ดีแขนเรียวที่ตึงแน่นไปด้วยมัดกล้ามอย่างคนออกกำลังกายสม่ำเสมอยกขึ้น กำและคลายมือออกซ้ำ ๆ พลางก้มดูนาฬิกา เพิ่งจะ 5 ทุ่ม! เมื่อไหร่ทั้งคู่จะกลับกันเสียที อยู่แบบนี้เขาไม่มีสมาธิจะจดจ่อกับงานเลย..ก๊อก ก๊อก ก๊อก“ขออนุญาตครับ”ไม่รอให้คนในห้องตอบอะไรกลับมา ประตูก็ถูกเปิดเข้ามาแล้ว ไคโรไม่ได้ใส่ใจกับท่าทีไร้มารยาทของมือขวาคนสนิท“ของที่เตรียมจะส่งเรียบร้อย นายจะเข้าไปตรวจเช็คอีกทีไหม”“ถ้ามึงเช็คแล้ว ก็เตรียมส่งได้เลย” ร่างสูงตอบโดยไม่ได้ละสายตาไปจากร่างของคนตัวเล็กที่ร่อนสะโพกตามเสีย
“เธอ นี่เธอ” ไคโรพยายามสะกิดเรียกร่างบางที่ซบไหล่เขาอยู่ แต่หญิงสาวเพียงแค่ทำหน้ามุ่ย สะบัดศีรษะด้วยความรำคาญแต่ก็ไม่ได้รู้สึกตัวขึ้นมา“คุณหนูก็ไม่รู้สึกตัวครับ” ลีโอเอ่ยบอกเจ้านายหนุ่ม หลังจากลองปลุกหญิงสาวข้างกายเช่นกัน“เฮ้อ~ ลำบากคนอื่นอีกแล้ว”ชายหนุ่มถอนหายใจ แต่ก็ใช้แขนแกร่งช้อนร่างเล็กในท่าเจ้าสาวไว้ในอ้อมแขน ก้าวขาเพื่อเดินออกจากร้าน เช่นเดียวกับมือขวาหนุ่มที่ต้องดูแลน้องสาวเขาแบบเดียวกัน“มึงขับรถยัยคลีไป” ว่าจบไคโรก็ก้าวไปยังรถสปอร์ตสีดำคันหรูของตัวเอง วางร่างในอ้อมแขนไว้บนเบาะหน้า เดินอ้อมขึ้นมานั่งประจำที่ เสียงเครื่องยนต์คำรามลั่น ก่อนรถสปอร์ตจะเคลื่อนออกไปจากลานจอดรถอย่างรวดเร็วไคโรเลี้ยวรถผ่านประตูเหล็กบานใหญ่ที่มีลูกน้องยืนเฝ้าอยู่ทั่วบริเวณบ้านสุดหรูสไตล์โมเดิร์น 3 ชั้นขนาดใหญ่สีขาว ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวกลางเนื้อที่กว่า 2 ไร่ ล้อมไปด้วยกำแพงสูงเพื่อความเป็นส่วนตัวของเจ้าของบ้านบ้านนี้เป็นบ้านที่เขาซื้อเอาไว้เมื่อเริ่มเข้าสู่วงการธุรกิจสีเทา เพื่อความเป็นส่วนตัวและครอบครัวของเขาจะอยู่อีกหลังแต่ด้วยทั้งพ่อกับแม่ของเขาอาศัยอยู่ต่างประเทศเป็นหลัก น้
ขณะมิลินนั่งทานข้าวต้มอยู่คนเดียวในห้องอาหารขนาดใหญ่ เพื่อนสาวก็เดินเข้ามาสมทบ หญิงสาวมองท่าเดินแปลก ๆ ของเพื่อนด้วยความสงสัย“ทำไมเดินแบบนั้น” ร่างเล็กขมวดคิ้วถามออกไป“...ละ ล้มมั้ง หรือเดินชนอะไรสักอย่าง จำไม่ได้”“ไม่เอาแล้วนะ ฉันภาพตัดไปเลย ยังดีที่พี่ชายแกเขาพากลับ”“อื้ม ฉันก็จำ...อะไรไม่ค่อยได้” คลีโอตอบเพื่อนเบา ๆ นั่งลงกินข้าวของตัวเอง ก่อนจะหันมามองมิลินอีกครั้ง“แกใส่เสื้อพี่ฉันเหรอ”..พรวด!“แค่ก ๆ ๆ” มิลินสำลักอาหารในปากด้วยความตกใจ ไอจนหน้าแดง รีบหยิบน้ำขึ้นมาดื่มเธอก้มหน้างุดมองเสื้อผ้าตัวเองอีกครั้ง รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ ก่อนจะเอ่ยตอบเสียงเบา“ฉันจำไม่ได้เลย ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ไงยังไม่รู้”“….”“....” เราทั้งคู่ต่างคนต่างเงียบ ได้แค่มองหน้ากันโดยไร้คำพูด“ไม่ได้รู้สึกผิดปกติอะไรกับร่างกายตัวเองใช่ไหม” คลีโอย้ำถาม“ไม่มีปกติทุกอย่าง”“งั้นก็คง...ไม่มีอะไรหรอก ถึงพี่ชายฉันจะไม่ใช่คนดี แต่คงไม่เลวขนาดทำอะไรเพื่อนน้องสาวตัวเองตอนเมา...มั้ง” เพื่อนรักพยายามพูดให้เธอสบายใจ แม้สีหน้าตัวเองจะไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ก็ตาม“วันนี้ขอยืมเสื้อผ้าแกใส่กลับก่อนนะ”“ได้อยู่แล้
“ถ้าฉันไม่อยู่ ห้ามเธอเมาแบบนี้อีก” เสียงทุ้มเอ่ยเบาๆ ใบหน้าหล่ออยู่ห่างเธอไม่กี่นิ้ว เพียงแค่นั้นก็เรียกเสียงในอกซ้ายให้เต้นระรัวอย่างบ้าคลั่งจนใบหน้าหวานเห่อร้อนแดงก่ำ“….”“เข้าใจไหม” มาเฟียหนุ่มกล่าวถามย้ำเสียงเข้มขึ้น เธอจึงได้แต่พยักหน้ารับ สูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อให้หัวใจไม่รักดีสงบลงดวงตาคมไล่มองทั่วร่างหญิงสาว คิ้วหนาขมวดเป็นปม“ไม่มีเสื้อที่ใหญ่กว่านี้แล้ว?”“พี่น้ำหวานบอกว่าวันพรุ่งนี้จะเปลี่ยนตัวใหม่ให้ค่ะ วันนี้ให้ลินใส่ไปก่อน”“ก็เข้าใจนะว่ามันใหญ่ แต่จำเป็นต้องล้นขนาดนี้ไหม” ร่างสูงส่ายหัวปลงๆ เสยผมที่ตกปรกหน้าขึ้นลวกๆ พึมพำออกมาเสียงเบา“มะ...หมายถึงอะไรคะ” ใบหน้าหวานจ้องมองชายหนุ่มกลับ เมื่อเห็นสายตาคมเหลือบมองหน้าอก ก็ยกมือขึ้นบังเนินเนื้อนุ่มด้วยท่าทางตื่นตระหนก“ไปหาเสื้อมาใหม่ ถ้างั้นก็ไม่ต้องลงไปทำงาน”“แล้วลินจะหาจากไหนละคะ” ใบหน้าหวานง้ำงอไคโรส่ายหัวเหนื่อยใจกับคนตัวเล็ก แม้จะพยายามห้ามตัวเองไม่ให้สนใจอีกฝ่าย แต่ก็อดหวงร่างน้อยไม่ได้ เขาหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูมากดโทรออก“หาเสื้อใหม่ให้มิลินที เอาขึ้นมาบนห้องทำงานเลย” ไม่รอให้อีกฝ่ายตอบอะไรกลับ เมื่
“วันหลังเลิกงานแล้วรอฉัน เดี๋ยวฉันไปส่ง” ชายหนุ่มพูดทำลายความเงียบบนรถ“อย่าดีกว่าค่ะ ลินไม่อยากรบกวนคุณไคโรไปมากกว่านี้” มิลินตอบกลับเสียงเรียบชายหนุ่มละสายตาจากถนนหันมองใบหน้าหวานที่เสมองไปนอกหน้าต่าง ร่างสูงสับสนกับท่าทางห่างเหินของหญิงสาวตัวเล็ก“เป็นอะไร”“เปล่านี่ค่ะ ลินเป็นแค่พนักงาน คุณไคโรเป็นเจ้านายมารับส่ง ลินว่ามันดูไม่ค่อยดี” สาวน้อยหันมาจ้องกลับเขา ดวงตาคู่สวยไหววูบไปครู่หนึ่ง“แต่เธอก็เป็นเพื่อนน้องฉันด้วย” ชายหนุ่มตอบไม่เต็มเสียง“ฉันไปส่งดีแล้ว”“แต่คุณไคโรคงมีธุระอื่นด้วย คงไม่ว่างมาส่งลินได้ตลอดหรอกใช่ไหมคะ” เมื่อคิดถึงเรื่องที่พนักงานในร้านคุยกันก็อดหงุดหงิดใจไม่ได้ เผลอพูดเสียงแข็งออกไปตามอารมณ์ เธอพยายามรักษาระยะห่างจากเขาแล้ว เหตุใดชายหนุ่มกลับพยายามเข้ามาใกล้ชิดเธอ“ถ้าฉันไม่ว่าง ก็ให้กลับกับลูกน้องฉัน” เขาตอบกลับอย่างไม่คิดอะไร แต่ยิ่งสร้างความอึดอัดให้อีกฝ่าย“คุณไคโรทำแบบนี้ทำไมคะ” เธอตัดสินใจกลั้นใจถามออกไปในที่สุด“เรื่องอะไร”“ทำไมต้องคอยดูแล ใส่ใจลินเป็นพิเศษแบบนี้...”“…เพราะลินเป็นเพื่อนยัยคลีเหรอคะ” ใบหน้าหวานจ้องเขาจริงจัง แม้เ
มิลินฟุบใบหน้าลงบนต้นคอหนาอย่างหมดแรงหอบหายใจเข้าออกอยู่หลายครั้ง ปล่อยให้ชายหนุ่มโอบเอวเธอไว้“หยิบกระดาษเบาะหลังให้หน่อย” ไคโรเอ่ยเสียงเรียบ เมื่อเห็นหญิงสาวเริ่มหายเหนื่อยแล้ว“น้ำเธอเลอะเต็มกางเกงฉันหมดแล้ว”ร่างเล็กบนตักเม้นปากแน่นด้วยความเขินอาย เอื้อมมือไปหยิบกระดาษให้โดยดี ร่างสูงเช็ดทำความสะอาดแก่นกายที่ยังคงไม่ยอมหลับ ก่อนจะช่วยทำความสะอาดส่วนล่างให้เธอ“อื้อ” มิลินเผลอร้อง สะดุ้งเบา ๆ เมื่อชายหนุ่มสัมผัสโดนส่วนอ่อนไหว“อยากทำอีกไหม” ไคโรกระตุกยิ้มเมื่อเห็นท่าทางของเธอ“มะ...ไม่แล้วค่ะ” เธอรีบส่ายหัว “ลินอยากกลับห้องแล้ว”“หึ”ชายหนุ่มไม่ได้ว่าอะไรต่อ เอี้ยวตัวไปหยิบสูทด้านหลังมาคลุมให้หญิงสาว เปิดประตูช้อนร่างเล็กบนตักลงจากรถ เขาปล่อยให้เธอยืนกับพื้นพลางมองสำรวจทั่วร่างเธออีกครั้ง“อะไรคะ”“กระโปรงเธอเลอะ ใส่คลุมไว้ก่อน” มิลินรีบซ่อนใบหน้าเห่อร้อน ก้มมองตัวเอง เสื้อสูทของชายหนุ่มยาวเลยกระโปรงที่เธอสวมอยู่ จึงช่วยปกปิดคราบน้ำรักเป็นดวงที่กระโปรงเธอได้“ขอบคุณค่ะ”ไคโรหันกลับเข้าไปในรถเอื้อมหยิบกระเป๋าใบเล็กที่ถูกวางทิ้งไว้ส่งให้หญิงสาว ก่อนจะล็อกรถหรู
1 ปี ต่อมามิลินอยู่ในชุดสบายๆ สำหรับอยู่บ้าน นั่งกองอยู่กับพื้นในคอกกั้นเด็ก ใบหน้าหวานฉายแววเหน็ดเหนื่อย เธอเคยคิดว่าโชคดีที่ตลอดช่วงตั้งครรภ์แทบไม่มีอาการแพ้ท้อง และสามารถทำงานใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ทุกสิ่งกลับเปลี่ยนไปเมื่อคลอดลูกสาวออกมา 'มีอา'เด็กสาวตัวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มราวตุ๊กตา ดวงตากลมโตเช่นเดียวกับมารดาขนตาหนาเป็นแพ เส้นผมสีดำสนิทแต่ดวงตาได้เชื้อจากไคโรมาคือสีน้ำตาลทอง ช่วงแรกเกิดเธอเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย กินนมเสร็จก็นอนไม่งอแง แต่ช่วงหลังเมื่อมีอาเริ่มมีพัฒนาการมากขึ้นเด็กสาวกลับดื้อดึง หากไม่พอใจอะไรนิดหน่อยก็จะร้องไห้เสียบ้านแทบแตก แถมช่วงกลางคืนก็หลับยากและตื่นกลางดึกบ่อย ๆ ทำให้ขอบตาของคุณแม่คล้ำลงจนเห็นได้ชัด"แงๆๆๆๆๆ~"เสียงกรีดร้องไห้งอแงของเด็กน้อยดังลั่นคฤหาสน์อีกครั้ง มือน้อย ๆ ปัดป่ายไปทั่ว จับคว้าอะไรได้ก็จะปาทิ้งเสียหมด จนคุณแม่เริ่มท้อใจ"ร้องอะไรคะคนเก่ง มามี้ทำอะไรให้หนูไม่พอใจอีกหื้ม"ร่างเล็กอุ้มลูกสาวที่นอนดีดดิ้นบนพื้นนวมนิ่มของคอกกั้นขึ้นมาแนบอก โยกตัวกล่อมให้ลูกสาวหยุดร้อง พยายามนึกหาสาเหตุ เพราะเพิ่งให้นมและเปลี่ยนผ้าอ้อมไปใบหน้าเล็กแดงก่ำ น้ำตาห
1 เดือนผ่านไปตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมาเต็มไปด้วยความวุ่นวายอย่างที่สุด หลังจากไคโรทราบข่าวเรื่องการท้องของมิลิน ชายหนุ่มก็ยืนกรานให้จัดงานแต่งให้เร็วที่สุด เดือดร้อนไปถึงน้องสาวและว่าที่เจ้าสาวที่แทบจะต้องหยุดงานเพื่อเตรียมงานแต่งในระยะเวลากระชั้นชิดลลิสาและคริสเตียนบิดามารดาของไคโรบินกลับมาประเทศไทยทันทีที่ทราบข่าว และช่วยหญิงสาวเตรียมงานพิธีหมั้นในช่วงเช้าเรียบง่ายมีเพียงครอบครัวและคนสนิทมาร่วมงาน ส่วนตอนเย็นไคโรจัดเตรียมงานอย่างยิ่งใหญ่ในโรงแรมหรูใจกลางกรุงเทพ กลุ่มเพื่อนตั้งแต่สมัยมัธยมและมหาลัยถูกชวนมาหมด และยังกลุ่มลูกน้องอีกหลายร้อยคนที่ได้รับเกียรติให้มาร่วมยินดีด้วย ราวกับต้องการป่าวประกาศให้ทุกคนรับรู้ว่าเขาแต่งงานมีลูกมีเมียแล้วพิธีการต่าง ๆ ถูกลดทอนให้น้อยลง เพื่อให้ไม่เจ้าสาวที่กำลังท้องกำลังไส้เหนื่อยจนเกินไป เน้นไปที่การฉลองดื่มสังสรรค์กันมากกว่าร่างเล็กในชุดเจ้าสาวเกาะอกสีขาวทำจากผ้าลูกไม้ มีผ้าชีฟองผืนบางปาดไหล่ทั้งสองข้าง ช่วงล่างเป็นกระโปรงพองยาว เส้นผมสีน้ำตาลเข้มถูกรวบเป็นมวยเตี้ย ๆ มีที่คาดผมประดับเพชรเม็ดเล็ก ๆ สวมไว้บนศีรษะ ใบหน้าหวานถูกแต
บริษัทของพิพัฒน์4 เดือนต่อมาตอนนี้มิลินเรียนจบอย่างเป็นทางการเรียบร้อย หญิงสาวยังคงช่วยงานที่บริษัทของบิดาต่อไป ปัญหาภายในบริษัทเริ่มคลี่คลายไปทีละอย่าง ทำให้การทำงานเป็นระบบระเบียบยิ่งขึ้นแต่กลับกันกับร่างกายเธอ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะโหมทำงานมากไปหรือเปล่า ช่วงนี้เธอถึงรู้สึกเหนื่อยและเพลียง่ายกว่าปกติ บางครั้งตั้งใจจะนำงานมาเคลียร์ต่อที่บ้าน แต่ 3 ทุ่มเธอก็เผลอหลับไปแล้วก๊อก ก๊อก"น้องลินคะ เที่ยงแล้วนะคะ ไม่ออกไปทานข้าวเหรอ"กิ่ง ผู้ช่วยของพิพัฒน์ชะโงกหน้าเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง เธอคอยช่วยเหลือมิลินตั้งแต่ช่วงฝึกงาน เมื่อได้เห็นความขยันตั้งใจจริงของหญิงสาวก็อดชื่นชมไม่ได้"อ๋อ เที่ยงแล้วเหรอ" ร่างเล็กหันมองนาฬิกาแขวนบนผนังห้องทำงานเล็ก เธอทำงานเพลินจนลืมเวลาเช่นเดิม แต่ตรงหน้ายังมีเอกสารอีกหลายปึกที่ต้องเคลียร์" ไม่เป็นไรค่ะ ลินยังไม่หิวเท่าไหร่ พี่กิ่งไปทานเถอะ""ไม่ได้นะคะน้องลิน แบบนี้จะเสียสุขภาพเอา...แบบนี้ดีกว่า เดี๋ยวพี่ซื้อเข้ามาเผื่อแล้วกันนะ""แฮะ ๆ ได้เลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ""น้องลินอยากกินอะไรไหม สั่งได้เลย""อะไรก็ได้เลยค่ะพี่กิ่ง""โอเคได้จ้า"กิ่งส่งยิ้มให้ลูกสาว
หลายเดือนผ่านไปตอนนี้มิลินและคลีโอเริ่มฝึกงานในเทอมสุดท้ายของ ปี 4 แล้ว แม้ตอนแรกจะตั้งใจออกไปหาที่ฝึกงานในบริษัทใหญ่ ๆ เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ แต่แฟนหนุ่มของเธอก็ไม่ยอมอนุญาต ทำให้สุดท้ายเธอจึงเลือกเข้าไปศึกษางานบริษัทผลิตและส่งออกอะไหล่เครื่องจักรของบิดาเธอแทนมิลินตั้งใจทำงานมาก ตั้งแต่ที่พิพัฒน์เลิกยุ่งเกี่ยวกับการพนัน เขาก็ตั้งหน้าตั้งตาฟื้นฟูกิจการที่ตกทอดมาตั้งแต่รุ่นปู่ จนเริ่มกลับมาเฟื่องฟู แม้จะเป็นบริษัทขนาดกลาง ไม่ได้มีความซับซ้อนอะไรมาก แต่เนื่องจากถูกปล่อยปละละเลยเป็นเวลานาน ทำให้ตอนนี้แม้หญิงสาวจะเข้ามาช่วย แต่ก็ยังมีปัญหาหลายอย่างภายในที่ต้องปรับเปลี่ยนแก้ไข"เป็นไงบ้างลูก เริ่มชินหรือยัง"พิพัฒน์ถามขึ้นมาหลังจากเปิดประตูเข้ามาในห้องแห่งหนึ่ง ที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้เป็นห้องทำงานของลูกสาว"ค่ะ แต่ตัวเลขบัญชีย้อนหลังนี่น่าเวียนหัวมากเลยนะ เหมือนมีการแอบยักยอกสั่งซื้อของเข้ามาเกินกว่าที่ควร ซึ่งของบางอย่างไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น แถมยังเลือกซื้อจากเจ้าที่ราคาสูงกว่าตลาดทั่วไปอีก"ใบหน้าหวานเคร่งเครียดจริงจัง เพราะหากลองคำนวณดูแล้ว บริษัทของบิดาเธอศูนย์เสียเงินไปจำนว
มหาวิทยาลัย Hร่างเล็กของมิลินนั่งเลื่อนโทรศัพท์มือถืออ่านข้อมูลบาง อยู่ที่ใต้ตึกคณะบริหารระหว่างรอคลีโอที่ยังเดินทางมาไม่ถึงหลังจากเมื่อวันก่อนได้เปิดอกคุยกับไคโรเรื่องความกังวลของตัวเองแล้ว แต่เธอก็ยังอยากอ่านคำแนะนำวิธีรักษาชีวิตคู่ให้ยั่งยืนยิ่งขึ้น เพราะไคโรก็เป็นแฟนคนแรกของเธอ มีอีกหลายเรื่องที่หญิงสาวไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับความรักและการมีแฟน"หื้มม อ่านอะไรน่ะ 'เคล็ดลับ' รักษาความรัก?"เสียงของเพื่อนสนิทดังขึ้นข้างหู พร้อมใบหน้าสวยชะโงกหน้าเข้ามาอ่านหัวข้อบทความที่เธอกำลังเลื่อนดู ทำให้มิลินสะดุ้งด้วยความตกใจ"ตกใจหมดเลยแก มาไม่ให้สุ้มให้เสียง" เธอหันไปตำหนิเพื่อนรักเบาไม่จริงจังคลีโอหัวเราะร่า ไหวไหล่เบา ๆ ก่อนจะเดินอ้อมมานั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม"ยังไม่หายนอยด์เรื่องเมื่อวานเหรอไง ถึงมาอ่านอะไรแบบนี้""ก็ไม่เชิง...แกก็รู้ฉันไม่เคยมีแฟนมาก่อน ไม่รู้เลยว่าแฟนที่ดีควรทำตัวยังไง"เธอไว้ใจไคโรเต็มที่ แต่ก็อยากจะทำอะไรพิเศษขึ้นเล็กน้อย เพื่อเป็นการมัดใจชายหนุ่ม และเพิ่มความมั่นใจให้ตัวเธอเองด้วย"อื้ม ถ้าทั่วๆ ไปก็คงเชื่อใจกัน มีอะไรคุยกันดี ๆ ใช้เหตุผล ไ
คฤหาสน์ไคโร"เป็นอะไรครับ ยังหน้ามุ่ยอยู่เลย" น้ำเสียงทุ้มออดอ้อนจนไม่เหลือคราบมาเฟียผู้เคร่งขรึมเอ่ยถามแฟนสาว ขณะคลอเคลียร่างบางในชุดนักศึกษาบนเตียงกว้าง"ละ...ลิน..."มิลินเม้มปาก หลบสายตาร้อนของแฟนหนุ่ม นึกหงุดหงิดตัวเองในใจที่ยังไม่อาจสลัดเรื่องเมื่อเย็นออกไปได้ เธอไม่มีความมั่นใจในตัวเองแม้แต่น้อย ยิ่งเห็นสาว ๆ ที่เขามาชายหนุ่มมีแต่สวย ๆ หน้าตาดี ก็แอบหวั่นใจ"เราตกลงกันแล้วนะ ว่าถ้ามีเรื่องอะไรไม่สบายเราจะคุยกัน""...""คิดอะไรอยู่ครับ?"ใบหน้าหวานแอบเศร้าลง เธอสูดหายใจเข้าปอดเพื่อเรียกสติ และสุดท้ายก็ยอมเปิดปากเล่าความรู้สึกในใจให้ไคโรฟัง"ลินกลัว...กลัวว่าวันหนึ่งพี่จะเบื่อลิน""โถ่ จะเอาอะไรมาเบื่อ พี่หลงเราขนาดนี้ เราดูไม่ออกเหรอครับ"ไคโรยิ้มกว้างเมื่อได้ฟังคำพูดของแฟนสาว เขาใช้นิ้วยาวช้อนใบหน้าของคนตัวเล็กข้างใต้ร่างให้หันกลับมาสบตา"ก็กลัวว่าแค่หลงเฉย ๆ พอนานไปพี่จะเบื่อ ลินแค่ผู้หญิงธรรมดา ได้มาอยู่ข้างพี่นี่ก็เกินฝันแล้ว""ไม่เอา ทำไมชอบดูถูกตัวเอง ลินพิเศษกว่าทุก ๆ คนรู้ไหม ลินคือคนที่ทำให้หัวใจพี่เต้นแรง คนที่พี่อยากปกป้องดูแล คนที่พี่อยากให้มีแต่รอ
หลายเดือนผ่านไปความสัมพันธ์ของเธอและไคโรดำเนินไปตามปกติ ทั้งคู่แทบไม่เคยทะเลาะหรือมีปากเสียงกันเลย อาจจะด้วยมิลินเป็นคนหัวอ่อน ว่าง่าย ไม่จุกจิกจู้จี้ แต่ไคโรก็ทำหน้าที่แฟนอย่างดี เอาใส่ใจ เทคแคร์ ไม่เคยทำอะไรให้แฟนสาวไม่สบายใจแม้แต่น้อยเมื่อเดือนก่อนชายหนุ่มได้พาเธอไปอิตาลี เพื่อพบเจอพ่อแม่ของเขาแล้ว ซึ่งทั้งคู่ก็ใจดีและเป็นกันเองกับเธอมาก ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ราบรื่นเป็นอย่างดีครืด ครืด ครืดโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายของมิลินสั่นเบาๆ ขณะที่สองสาวเพื่อนรักกำลังเดินออกจากคลาสเรียน"แป๊บนะแก พี่ไคโรน่าจะโทรมา"มิลินหันไปบอกเพื่อนสาว ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู และก็ต้องอมยิ้มหวานเพราะสายที่โทรมาคือแฟนหนุ่มของเธอตามคาด"ค่ะพี่ไคโร"(เลิกเรียนหรือยังครับ)"เพิ่งเลิกพอดีเลยค่ะ ลินกับยัยคลีกำลังจะลงจากตึกกัน"(โอเค พี่เดินไปซื้อโกโก้ปั่นมาให้ รอหน้าคณะนะครับ)"ได้ค่ะ"ร่างเล็กก้มหน้างุด เขินอายทุกครั้งกับการเอาใส่ใจของชายหนุ่ม โดยมีสายตาล้อเลียนของคลีโอจ้องมองไม่วางตา"สวีทเว่อร์ มดจะไต่ขึ้นขาฉันแล้ว" ร่างสมส่วนอดเอ่ยปากแซวออกมาไม่ได้"แกก็ พูดเกินไป นี่จะไป
หลังจากทั้งคู่ทานดินเนอร์แสนโรแมนติกเสร็จก็จูงมือพากันกลับมายังห้อง แต่แล้วคู่รักเข้าใหม่ปลามันที่ควรสวีทหวานพูดจาภาษารักก็ต้องมายืนถกเถียงกันอยู่นานภายในห้องนอนหรูแทน"ไม่เอาจริง ๆ ลินไม่เชื่อพี่หรอก" มิลินหน้ามุ่ย มือเล็กถือเสื้อผ้าและผ้าเช็ดตัวเอาไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ไม่ได้เดินเข้าห้องน้ำเสียที"พี่เคยผิดคำพูดเหรอครับ""ถ้าพี่ไคโรอาบพร้อมลิน พี่ไม่จบแค่อาบน้ำเฉย ๆ แน่""เห็นพี่เป็นคนแบบนั้นเหรอ" มาเฟียหนุ่มส่งสายตาออดอ้อน พยายามทำหน้าตาน่าสงสารหวังให้หญิงสาวยอมใจอ่อน"พี่ทำลินหลายรอบแล้วนะคะ ปล่อยลินอาบน้ำดี ๆ เถอะ""พี่ก็แค่อยากช่วยลินถูหลังไง อีกอย่างอาบพร้อมกันไม่ต้องเปลืองน้ำด้วย"ร่างเล็กกลอกตาขึ้นมองด้านบน เมื่อได้ฟังเหตุผลจากชายหนุ่ม เขาร่ำรวยเสียจนเรียกได้ว่าเป็นมหาเศรษฐีจะมากังวลอะไรกับค่าน้ำประปาของทางโรงแรม ฟังอย่างไรก็ดูเป็นแค่ข้ออ้างรังแกเธอมากกว่า"วันนี้ลินไม่ไหวแล้วจริงๆ นะคะ วันหลังได้ไหม" ถกเถียงกันอยู่นานแฟนหนุ่มหน้ามึนก็ไม่ยอมแพ้เสียที จนหญิงสาวต้องเดินเข้าไปใกล้ร่างสูง ท่อนแขนเรียวโอบเอวเขาไว้หลวมๆ พลางเกยคางบนแผงอกกำยำเงยหน้ามองชายหนุ่มตาปริบ
ท้องฟ้าที่เริ่มเปลี่ยนสีเป็นแดงอมส้มของเวลาเกือบจะ 6 โมงเย็น หญิงสาวในชุดเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่สีฟ้าอ่อนด้านในสวมเสื้อกล้ามตัวเล็กสีขาวคู่กับกางเกงยีนขาสั่นสีซีด สายลมจากทะเลพัดจนผมสีน้ำตาลเข้มของเธอปลิวไสว จนต้องรวบมันเอาไว้ที่ไหล่ข้างหนึ่ง พลางหันไปส่งยิ้มหวานให้ตากล้องร่างสูงใบหน้าหล่อเหลาข้างกายทั้งคู่เดินเล่นเลียบริมหาดส่วนตัวหน้าที่พัก มือเล็กอีกข้างหิ้วรองเท้าแตะหนีบสีขาวไปด้วย เม็ดทรายเนื้อละเอียดติดตามนิ้วเท้า น้ำเย็นเฉียบของทะเลกระทบผิวระลอกแล้วระลอกเล่าชายหนุ่มแต่งกายสบาย ๆ ด้วยเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาว กระดุมเสื้อถูกปลดลงมา 3 เม็ด เผยให้เห็นแผงอกกำยำที่อัดแน่นไปด้วยมัดกล้าม ท่อนล่างสวมกางเกงขาสั้นสีน้ำตาล แว่นกันแดดสีชารับกับจมูกที่โด่งเป็นสัน มุมปากยกขึ้นประดับด้วยรอยยิ้ม เมื่อมองหญิงสาวผ่านกล้องมือถือ แม้จะดูเรียบง่ายแต่ร่างกายสมบูรณ์แบบ พร้อมใบหน้าคมคายก็ทำให้เขาดูราวกับเป็นนายแบบที่หลุดออกมาจากรันเวย์เขาเก็บภาพมิลินอีกหลายรูปทุกจังหวะการขยับตัว หญิงสาวหันมาส่งยิ้มให้บ้าง บางครั้งก็หันมองเหม่อไปยังท้องทะเล ทุกอิริยาบถดูสวยงามน่ารักเป็นธรรมชาติ จนทำให้คนที่ไม่เคยต้องถ่าย