แชร์

เหตุการณ์ไม่คาดคิด

ผู้เขียน: สโนว์ไวท์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-14 08:15:01

ในเวลาเดียวกัน ขณะที่วายุภัคและโรสรินทร์นั่งรถออกไปในตัวเมือง…

“เด็ก ๆ พวกนั้นออกไปกันแล้ว หวึ่งศรีเพิ่งโทรมารายงานฉันเมื่อกี้ และตอนนี้ฉันก็ให้คนของคุณสุพจน์ตามเด็ก ๆ พวกนั้นไปแล้ว”

คุณนายสีดาแม่ของวายุภัคพูดกรอกผ่านปลายสายเมื่อโทรคุยกันกับคุณหญิงพิศมัยแม่ของโรสรินทร์ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท

“แล้วแผนที่พวกเราวางไว้มันจะสำเร็จเหรอสีดา”

คุณหญิงพิศมัยเอ่ยขึ้น

“ยังหรอก…เพราะความสำเร็จจริง ๆ คือการที่ลูกของเราต้องแต่งงานกันต่างหากล่ะ นี่มันเป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น ฉันแค่อยากทำให้พวกเขาทั้งสองรักและเป็นห่วงเป็นใยกัน”

“นั่นสิเนอะ แต่เธอแน่ใจจริง ๆ เหรอสีดา ว่าแผนแบบนี้จะทำให้ลูก ๆ ของเราสนิทสนมกันมากขึ้น” พิศมัยเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง

“แน่ใจสิ !!” สีดาตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“งั้นก็จัดการตามที่เธอเห็นสมควรเลยแล้วกัน เธอจะทำยังไงก็ได้ให้ลูกทั้งสองของเรารักกันเร็ว ๆ จะได้แต่งงานมีหลานให้พวกเราอุ้มสักที”

คุณหญิงพิศมัยพูดขึ้นอีกครั้งด้วยแววตาเป็นประกาย เพราะทั้งสองต่างฝันอยากจะเป็นคุณยายคุณย่าเต็มทีแล้ว แต่ลูกสาวและลูกชายทั้งสองคนก็ยังไม่มีวี่แววที่จะช่วยสานฝันให้คนแก่แบบพวกเธอได้สมหวังสักที

สองชั่วโมงผ่านไป….

18:30น.

มือเรียวบางยกขึ้นมาปาดเหงื่อที่ไหลซึมผ่านหน้าผาก หลังจากที่เธอเดินซื้อของใช้จำเป็นเสร็จแล้วโรสรินทร์ยังบังคับให้คนตัวโตพาแวะตลาดคลองถมประจำอำเภอต่ออีกเป็นชั่วโมง เพราะเธอไม่เคยได้มีโอกาสมาเดินตลาดแบบนี้เลยสักครั้ง จึงทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นมากเป็นพิเศษ

“เฮ้อ!… เหนื่อยจัง ร้อนด้วย” โรสรินทร์เอ่ยขึ้นมา แก้มของเธอแดงปลั่งราวกับมะเขือเทศ พร้อมกับเหงื่อเม็ดใส ๆ ที่ผุดขึ้นมาตามกรอบใบหน้าสวย

วายุภัคหันไปมองเด็กสาวหน้าหวานที่ยืนบ่นอุบอิบอยู่ข้าง ๆ หลังจากเอาของที่ซื้อมาไปเก็บไว้ท้ายรถเรียบร้อยแล้ว กี่ปีแล้วนะที่เขาและเธอไม่ได้เจอกัน เธอยังจะจำเรื่องราวของเราสองคนสมัยเด็ก ๆ ได้ไหมนะ คำสัญญาของเขาและเธอในวันนั้น เขายังจำมันได้แม่น แล้วเธอล่ะ…?

ย้อนไปเมื่อ 18 ปีที่แล้ว….

“พี่ไวน์สัญญาแล้วนะคะว่าจะไม่ลืมน้องโรส” น้ำเสียงเจื้อยแจ้วของเด็กน้อยผมเปียเอ่ยขึ้น มือน้อย ๆ ของเธอจับมือของเขาเอาไว้แน่น เพราะไม่อยากจะกลับไปที่กรุงเทพ

“พี่สัญญาครับว่าพี่จะไม่ลืมน้องโรส”

“โตขึ้นพี่ไวน์ต้องมาขอน้องโรสแต่งงานนะคะ”

ประโยคที่เธอเอ่ยขึ้นสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับทุกคนที่อยู่บริเวณนั้น ทุกคนต่างเอ็นดูให้กับความน่ารักและความช่างพูดของเธอ

“ครับ พี่สัญญาว่าจะแต่งงานกับน้องโรส ถ้าพี่โตขึ้นและเรียนจบแล้วพี่จะให้คุณแม่กับคุณพ่อไปขอน้องโรสแต่งงานครับ” วายุภัคหนุ่มน้อยในวัย 12 ขวบเอ่ยขึ้นอย่างหนักแน่น

“สัญญาแล้วนะคะ” นิ้วก้อยน้อย ๆ ของเธอยื่นไปข้างหน้า ก่อนหนุ่มน้อยวัย12ขวบจะยื่นมือของตนเองไปเกี่ยวก้อยให้คำมั่นสัญญาอย่างหนักแน่น

“พี่สัญญาครับ!”

“ถ้าพี่ไวน์ลืมสัญญาน้องโรสจะโกรธและไม่ให้อภัยจริง ๆ ด้วย!” เด็กน้อยผมเปียสองข้างเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงพร่าสั่น ก่อนจะโผเข้าไปกอดหนุ่มน้อยวัย 12 ขวบแน่น พลางร้องไห้ขี้มูกโป่งเพราะไม่อยากกลับไปที่กรุงเทพ….

“นี่ค่ะ พี่หมีของน้องโรส น้องโรสยกพี่หมีให้พี่ไวน์ค่ะ พี่ไวน์จะได้ไม่ลืมน้องโรส” มือเล็ก ๆ ยื่นตุ๊กตาหมีตัวสีขาวที่เธอกอดไว้แนบอกตลอดให้กับวายุภัค ก่อนเขาจะเอื้อมไปรับมันมาถือไว้อย่างทะนุถนอม

ภาพในอดีตฉายแว้บเข้ามาในหัวซ้ำ ๆ ก่อนวายุภัคจะส่ายหัวไปมาเพื่อสลัดความคิดอันไร้สาระนั้นออกไป

‘เฮ้อ..!! นี่เรากำลังคิดอะไรอยู่ ยัยเด็กซื่อบื้อนี่คงจำอะไรไม่ได้หรอก เพราะตอนนั้นเธอแค่สี่ขวบเอง นี่ก็ผ่านมาสิบกว่าปีแล้วด้วย’

“พี่ไวน์เป็นอะไรไปคะ” โรสรินทร์เอ่ยถาม พลางจ้องหน้าทำตาปริบ ๆ รอฟังคำตอบ

“อะ เอ่อ…ปะ เปล่า พี่ไม่ได้เป็นอะไร”

“อ๋อ…ค่ะ” เธอพยักหน้ารับเบา ๆ

“อืม ว่าแต่…เราสองคนไม่ได้เจอกันนานกี่ปีแล้วนะคะ โรสจำอะไรตอนนั้นไม่ได้เลย” จู่ ๆ เธอก็เอ่ยถึงเรื่องราวในอดีตขึ้นมาเอาเสียดื้อ ๆ ทั้งที่เขาเพิ่งจะสลัดภาพในอดีตพวกนั้นออกจากหัวไปแท้ ๆ ทำไมเธอต้องมานึกถึงเรื่องราวพวกนี้ในช่วงจังหวะเดียวกันกับเขาด้วยนะ วายุภัคได้แต่คิดในใจ

“สิบกว่าปีเลยล่ะ ราว ๆ 18 ปีได้มั้ง” เขาตอบขึ้นมาพลางนึกถึงเรื่องราวเมื่อครั้งในอดีตขึ้นมาอีกครั้ง

“โห นานมากเลยนะคะ”

“อืม ใช่…คิดถึงจัง!” วายุภัคพูดขึ้นพลางหันมามองสบตาเธอที่ตอนนี้แทบจะละลายไปกับคำพูดของเขาอยู่แล้ว

‘ให้ตายเถอะ …อ๊ายยย !! คิดถึงจัง…ประโยคนี้เขินวุ้ย !’

“เธอหิวหรือยัง?” เขาเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

“ค่ะ หิวแล้ว”

“งั้นเราก็ไปทานข้าวกันก่อนเถอะ แล้วค่อยกลับ”

“ขะ ค่ะ” พูดจบเขาก็เดินนำหน้าไปขึ้นรถ ตามด้วยเธอที่เดินตามหลังเขามาติด ๆ ก่อนเขาจะขับรถออกไปอย่างช้า ๆ วายุภัคประคองรถออกมาได้ไม่นานนักรถยนต์คันหรูก็ค่อย ๆ ขับชะลอตัวลง ก่อนจะจอดเทียบสนิทบนไหล่ทาง

ณ ร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งหนึ่ง…

“นะ นี่มันร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางนี่คะ” เธอพูดขึ้นเสียงดัง พลางจ้องหน้าเขาที่ยังตีสีหน้าเรียบเฉยไม่รู้ร้อนรู้หนาวเหมือนเดิม

“ก็ใช่ไง เธอคิดว่าตามต่างจังหวัดแบบนี้จะมีร้านอาหารหรู ๆ ให้เธอไปนั่งทานเหมือนในกรุงเทพหรือไง”

“แต่โรสไม่ชอบร้านอาหารข้างทางแบบนี้หนิ!!”

“แต่พี่ชอบ !! และร้านนี้ก็เด็ดสุดแล้วนะ ของอร่อยไม่จำเป็นต้องแพงหรือต้องเป็นร้านอาหารหรู ๆ เสมอไปหรอก นั่งลง!!” ประโยคสุดท้ายเขาเอ่ยออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงดุ ๆ

“……”

เธอยังคงยืนนิ่งไม่ยอมนั่งลงตามที่เขาสั่ง พร้อมกับทำหน้าบูดบึ้งเหมือนตูดแมวอยู่แบบนั้น

“นั่งลง!!” น้ำเสียงห้วน ๆ เอ่ยขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับเอื้อมมือมากระชากแขนเธอให้นั่งลงบนเก้าอี้ แม้เธอจะไม่ชอบใจและทำหน้าหงิกหน้างอใส่ เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรเธอเลยสักนิด

“สิเอาอิหยัง? สั่งมาได้เลยอีหนู”

(จะเอาอะไร สั่งมาได้เลยแม่หนู)

ป้าคนขายก๋วยเตี๋ยวที่มีจุดเด่นคือไฝเม็ดโตอยู่ตรงมุมปากข้างขวาได้เอ่ยถามเธอขึ้น

“กระเพราไก่ไข่ดาวค่ะ” เธอเอ่ยตอบพลางทำหน้างอง้ำเหมือนเด็กโดนขัดใจ

“……”

สีหน้าคนขายคงไม่ต้องอธิบายอะไรให้มากความหรอกมั้ง เพราะตอนนี้แทบจะกินหัวเธอได้อยู่แล้ว

“นี่เธอเป็นนางเบ๊อะหรือไง? พี่พาเธอมาร้านก๋วยเตี๋ยวนะ ไม่ใช่ร้านอาหารตามสั่ง จะสั่งอะไรก็หัดดูหน้าคนขายซะบ้าง เดี๋ยวเจ๊แกได้จับเธอทำลูกชิ้นใส่ลงในถ้วยก๋วยเตี๋ยวนี่หรอก” เขาบ่น ๆ ขึ้นมาอีกครั้งอย่างนึกหงุดหงิด

“ก็โรสสั่งไม่เป็นหนิ!!”

“เธอนี่มันซื่อบื้อจริง ๆ” เขาบ่นเบา ๆ ก่อนจะหันไปพูดกับแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยว

“เอ่อ ขอเป็นเส้นเล็กหมูน้ำตกสองชาม น้ำเก๊กฮวย2 แล้วก็…ไอศกรีม2 เด้อครับป้า”

(เอ่อ ขอเป็นเส้นเล็กหมูน้ำตกสองชาม น้ำเก๊กฮวย2 แล้วก็…ไอศครีม2 นะครับป้า)

เขาบอกกับแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยว ก่อนเธอและเขาจะนั่งรอแม่ค้าสักพัก

โรสรินทร์สอดส่ายสายตามองไปรอบ ๆ บริเวณร้าน ซึ่งร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางนั้นดูเรียบง่าย ประกอบไปด้วยโต๊ะและเก้าอี้พลาสติกเก่า ๆ วางเรียงรายอยู่ใต้ร่มผ้าใบ ตอนนี้กลิ่นหอมของน้ำซุปที่ลอยโชยมาแตะจมูกกระตุ้นต่อมรับรสของเธอได้เป็นอย่างดี

ไม่นานนักเธอกับเขาก็ได้กินก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตกตามที่สั่ง บนโต๊ะตัวเล็ก ๆ นั้นเต็มไปด้วยชามก๋วยเตี๋ยวควันฉุย กลิ่นหอมเย้ายวนของน้ำซุปลอยฟุ้งกระตุ้นต่อมรับรส ที่มาพร้อมกับน้ำเก๊กฮวยเย็น ๆ ชื่นใจ ส่วนไอศกรีมคงรอเสิร์ฟหลังจากให้พวกเธอทานก๋วยเตี๋ยวเสร็จ

วายุภัคกำลังตักเส้นก๋วยเตี๋ยวเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย พร้อม ๆ กับหญิงสาวข้างกายที่ตอนนี้ส่งยิ้มหวานพลางมองเขาด้วยแววตาเป็นประกาย และตักก๋วยเตี๋ยวร้อน ๆ เข้าปากอย่างเอร็ดอร่อยเช่นเดียวกัน ท่าทางของเธอดูผ่อนคลายลงและมีความสุขกับบรรยากาศรอบตัว ซึ่งผิดไปจากก่อนหน้านี้ที่ทำหน้าหงิกหน้างอไม่อยากทานอาหารข้างทาง

วายุภัคเงยหน้าขึ้นสบตากับดวงตากลมโตของเธอก่อนจะส่งยิ้มให้เธอบาง ๆ เช่นเดียวกัน รอยยิ้มของเขาอบอุ่นละมุนละไม ถ้าจะให้เธอคิดเข้าข้างตัวเอง สายตาของเขาที่มองเธอตอนนี้ต่างเต็มไปด้วยความรักและความห่วงใยเต็มเปี่ยม

“อร่อยไหม..?” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น ก่อนโรสรินทร์จะพยักหน้าหงึก ๆ เป็นคำตอบ

“อร่อยค่ะ น้ำซุปเข้มข้นมากเส้นก๋วยเตี๋ยวก็เหนียวนุ่ม” เธอตอบไปตามความจริงพลางส่งยิ้มหวานให้เขาอีกครั้ง

“บอกแล้วไงว่าร้านนี้เด็ด”

“จ้า เชื่อแล้วว่าเด็ดจริง อร่อยจริง” โรสรินทร์พูดขึ้นพลางหัวเราะเบา ๆ

“ของอร่อยไม่จำเป็นต้องแพงเสมอไป”

“ก็จริงค่ะ บางทีความสุขก็อยู่ใกล้ตัวเราแค่นี้เองเนอะ” โรสรินทร์มองดูบรรยากาศรอบ ๆ ร้าน ผู้คนนั่งกินข้าวเย็นกันอย่างเรียบง่าย ประกอบกับเสียงหัวเราะพูดคุยกันดังระงม วายุภัคเองลอบมองเธอเป็นระยะ เวลาที่เธอไม่ดื้อเธอก็น่ารักแบบนี้นี่เอง ชายหนุ่มได้แต่นึกในใจ

ผ่านไปสักพักในขณะที่เธอกำลังดื่มน้ำเก๊กฮวยจนเกือบจะสำลักอยู่นั้น...ก็มีผู้ชายแปลกหน้าสามคนเดินเข้ามานั่งภายในร้านก๋วยเตี๋ยว และท่าทางของผู้ชายพวกนั้นก็ดูไม่น่าไว้ใจ โดยเฉพาะหน้าตาของพวกมัน...บรึ๋ยยยย อย่างกับฆาตกรฆ่าหั่นศพ !!

โรสรินทน์เหลือบมองวายุภัคที่กำลังตักไอศกรีมอย่างใจเย็น และเหลือบมองคนอื่น ๆ ในร้าน แต่ทว่าในร้านตอนนี้กลับไม่มีใครเลยนอกจากเธอกับวายุภัค ทุกคนน่าจะทานกันอิ่มและทยอยกลับไปแล้ว จึงเหลือเพียงแต่พวกเธอ ป้าคนขาย และผู้ชายแปลกหน้าอีกสามคน

ปึ่กก !!

โครมมมมม~!!

‘ตายแล้ว!!…พ่อจ๋าแม่จ๋าช่วยลูกด้วย ไอ้ผู้ชายชั่วสามคนนี้มันกำลังทำลายร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางที่แสนจะอร่อยสุดอร่อยของฉ๊านนนน!!’

เธอคิดในใจได้เพียงแค่นั้น ก็ถูกมือหนาของวายุภัคคู่หมั้นสุดหล่อคว้าตัวของเธอให้ลุกขึ้นมายืนข้างกายเขา

ปึ่ก !!

โครมม !!

ตุ๊บ!!

“ว๊ายยยย ตายแล้ว อย่าเฮ็ดร้านป้า อย่าพังร้านป้าเลยลูกเอ้ย!!”

(ว๊ายยยย ตายแล้ว อย่าทำร้านป้า อย่าพังร้านป้าเลยลูกเอ้ย!!)

ป้าคนขายก๋วยเตี๋ยวร้องตะโกนขึ้นมา ก่อนชายแปลกหน้าอีกคนจะชี้หน้าด่าป้าคนขายก๋วยเตี๋ยว พลางเดินเข้าไปหาเรื่องและหมายจะทำร้ายร่างกาย

“กรี๊ดดดดดด นั่นแกจะทำอะไรคนขายก๋วยเตี๋ยวของฉัน!! ถ้าไม่มีคนขาย ถ้าไม่มีร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางที่แสนจะโคตรอร่อยแบบนี้ ชาตินี้ฉันคงอดที่จะได้กินของอร่อย ๆ พวกแกรู้ไหมห๊ะ !!”

โรสรินทร์ร้องตะโกนขึ้นมาอย่างสุดเสียง เมื่อชายคนนั้นกำลังจะเดินปรี่เข้าไปทำร้ายป้าคนขายก๋วยเตี๋ยว

“ทำอะไรของเธอ โรสรินทร์!!” วายุภัคอดที่จะต่อว่าเธอไม่ได้ที่ไปเผลอพูดอะไรกับคนเลวพวกนั้น โดยที่ไม่นึกถึงความปลอดภัยของตัวเองบ้างเลย

“ก็พวกนั้นมันจะทำร้ายป้าแกก่อนนี่คะพี่ไวน์”

ว่าแล้ว...เธอก็ขว้างเก้าอี้ไปถูกไอ้ผู้ชายแปลกหน้าพวกนั้นเข้าคนหนึ่งด้วยความมือไวของตัวเอง

ปึ่กก!!

“โอ๊ยยย!!..อีนี่!!”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   แผนการ

    ‘กรี๊ดดดดดดดด พ่อแก้วแม่แก้วมันเดินมาทางนี้แล้ว คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย บรรพบุรุษทั้งหลายของลูกช้างลูกม้าลูกกาลูกไก่ โปรดจงดลบันดาลให้ลูกรอดพ้นออกไปจากที่นี่ให้ได้ด้วยเถิด สาธุ’ “ไงจ๊ะ น้องสาว เก่งคักติมึงอีคนสวย!!” (ไงจ๊ะ น้องสาว เก่งนักเหรอมึงอีคนสวย) ชายแปลกหน้าคนหนึ่งพูดขึ้น พลางเดินเข้ามาหาเธออย่างเอาเรื่อง “ถอยไป!! พวกมึงสิไสหัวไปไสกะไปคั่นบ่อยากเจ็บโต!” (ถอยไป!! พวกมึงจะไสหัวไปไหนก็ไป ถ้าไม่อยากเจ็บตัว!) วายุภัคเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว ประกอบกับนัยน์ตาที่ลุกโชนด้วยไฟโทสะ “นี่บรรพบุรุษของโรสเข้าไปสิงพี่แล้วหรือไง พี่ไปพูดแบบนั้นกับพวกมันทำไมกัน เดี๋ยวก็พากันเจ็บตัวหมดหรอก” เธอสบถออกมาอีกครั้ง “ถ้าจะเจ็บตัว ก็คงจะเจ็บตั้งแต่เธอไปปาเก้าอี้ใส่พวกมันแล้วไหม เธอนี่แหละตัวดีเลยยัยติ๊งต๊อง!!” วายุภัคอดที่จะพูดจาต่อว่าเธอไม่ได้ ก็ถ้าไม่ใช่เพราะเธอไปวุ่นวายปาเก้าอี้ใส่พวกมันก่อน เขาก็คงจะไม่ต้องมาเสียเวลาออกโรงแบบนี้หรอก “กะ ก็โรสตกใจหนิ” เธอบ่นอุบอิบขึ้นมาอีกครั้ง พลางก้มหน้างุดลงมองพื้นเมื่อรู้ว่าตัวเองนั้นเป็นคนผิด “ฮ่า ๆ คิดว่าพวกกูสิย่านสั้นติ บักหน้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   ขอนอนด้วย

    หลังจากอาบน้ำอาบท่าชำระร่างกายให้ตัวเองได้สดชื่นกระปรี้กระเปร่าแล้ว โรสรินทร์จึงหยิบยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรออกหาผู้เป็นแม่ด้วยความคิดถึง (สวัสดีค่ะคุณแม่ คุณแม่เป็นยังไงบ้างคะ โรสคิดถึงคุณแม่จังเลยค่ะ) น้ำเสียงหวานเอ่ยขึ้นอย่างออดอ้อนผู้เป็นแม่ (ไม่ต้องมาพูดเอาอกเอาใจแม่เลย ไปถึงที่โน่นหลายวันแล้วเพิ่งจะโทรหาแม่ นึกว่าหลงคนที่โน่นจนลืมแม่ไปแล้วซะอีก) คุณหญิงพิศมัยเอ่ยขึ้นอย่างค่อนขอด (แหม…คุณแม่ก็ ใครจะลืมคุณแม่สุดที่รักของโรสได้ล่ะคะ ขี้น้อยใจแบบนี้แก่แล้วนะคะเนี่ย) (ไม่ต้องมาพูดเลย ว่าแต่…หนูอยู่ที่โน่นเป็นยังบ้างลูก พี่ไวน์เขาดูแลเทคแคร์หนูดีไหม) (ดูแลดีมากเลยละค่ะคุณแม่ เสียอย่างเดียวขี้บ่นเป็นคนแก่เหมือนพี่รามเลยค่ะ ชิส์!) เธอกรอกเสียงผ่านปรายสายพลางทำปากยื่นปากยาวอย่างนึกหมั่นไส้คนที่กำลังนินทาอยู่ (เรานี่น๊า…ก็ทำตัวเป็นเด็กดื้อให้พี่เขาบ่นใช่ไหมล่ะ) (เปล่าซะหน่อยนะคะคุณแม่) (ว่าแต่…พี่เขาถูกใจหนูบ้างไหม พี่ไวน์เขาพอจะเป็นผู้ชายในแบบที่หนูชอบได้ไหมลูก) (กล้ามแน่นมากค่ะ อุ๊ย!! มะ ไม่ใช่ค่ะโรสพูดผิด แหะแหะ! พี่เขาก็พอใช้ได้ค่ะคุณแม่ ก็โอเคในระดับนึงค่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   จัดการกับความหื่น

    “อื้ออออ…” เธอขยับตัวเบา ๆ อีกครั้งและกระชับอ้อมกอดที่โอบกอดเขาอยู่ให้แน่นขึ้นราวกับเขาเป็นหมอนข้างซะอย่างนั้น พลางซุกไซ้ใบหน้าหวานเข้ากับอกแกร่ง แขนเรียวเล็กตวัดท่อนแขนและขาขึ้นมากอดก่ายพาดหาหมอนข้างที่เธอเคยกอดก่ายอยู่เป็นประจำ แต่กลับกลายเป็นว่าความอ่อนนุ่มของหมอนข้างที่เธอต้องการนั้น เป็นกำลังกอดก่ายชายหนุ่มผู้ซึ่งคืนนี้เธอต้องนอนร่วมเตียงเดียวกันกับเขา วายุภัคเหลือบสายตาคมกริบมองใบหน้าหวานจิ้มลิ้ม ซึ่งตอนนี้เธอเคลื่อนใบหน้าขึ้นมาเกยบนหน้าอกแกร่งหนัดแน่นของเขาราวกับเป็นเด็กน้อยขี้เซา แต่เขาก็ต้องกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่อย่างยากลำบาก เมื่อเห็นปทุมคู่งามอันใหญ่โตเกินขนาดของเธอที่ตระหง่านอยู่เบื้องหน้า เขาลอบกลืนน้ำลายลงคอหลายอึกเพื่อข่มอารมณ์ที่พุ่งสูงของตัวเองเอาไว้ ตอนนี้อะไร ๆ ของเขามันตื่นเพลิดขึ้นมาจนปวดหนึบไปหมดแล้ว เขาได้แต่พยายามข่มอารมณ์ความต้องการของตัวเองเอาไว้ในใจ และพูดกับตัวเองว่าใจเย็นไว้ ๆ “หายใจเข้าพุทธ…หายใจออกโธ…พุทธ…โธ !!” วายุภัคท่องพุทธโธเบา ๆ อยู่หลายรอบ และพยายามสงบจิตสงบใจให้นิ่งไว้ที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ แต่แล้วสายตาคมกริบก็ยังแอบเคลื่อนไปมองหน้าอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   อย่างอื่นก็ใหญ่

    หนึ่งชั่วโมงต่อมา… “พี่หวึ่งศรีไปไหนคะพี่ไวน์” น้ำเสียงใสแจ๋วเอ่ยถามขึ้นเมื่อเดินเข้ามาถึงห้องครัว แต่กลับเจอเพียงแค่คนตัวโตที่กำลังยืนทำอาหารอยู่ด้วยท่าทางที่ดูคล่องแคล่ว “เห็นบอกว่าคุณแม่เรียกให้ไปช่วยทำธุระน่ะ” “ป้าดาน่ะเหรอคะ” “อืม” เขาตอบเพียงสั้น ๆ แค่นั้น ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาทำอาหารตรงหน้าต่อ “แล้วนี่พี่ไวน์ทำอะไรอยู่คะ ให้โรสช่วยไหม” เธอถามขึ้นเมื่อเห็นอีกคนกำลังกุลีกุจอทำอาหารตรงหน้าอย่างตั้งอกตั้งใจ “จะช่วยทำให้มันยุ่งยากเปล่า ๆ มากกว่าล่ะมั้ง” “คิดในทางแง่ดีบ้างสิคะ ถึงโรสจะไม่ถนัดเรื่องทำอาหาร แต่โรสก็พอช่วยหั่นผักได้นะ” พูดเพียงแค่นั้นเธอก็เดินไปหยิบมีดและผักที่วางอยู่บนเคาเตอร์ครัวขึ้นมาและช่วยเขาหั่นผักตรงหน้า “หั่นให้เล็กกว่านี้หน่อยสิ หั่นผักนะไม่ใช่หั่นศพ” “ก็โรสทำไม่เก่งนี่คะ” “มา...เดี๋ยวพี่สอนให้” เขาพูดเพียงแค่นั้นก่อนจะวางมีดที่ถืออยู่ในมือตัวเองลง ร่างแกร่งเดินเข้าไปช้อนด้านหลังก่อนจะเอื้อมไปจับมือเธอที่ถือมีดอยู่แล้วจึงสอนวิธีหั่นผัก ดวงตาคมจ้องมองใบหน้าของเธออย่างอ่อนโยน ร่างกายของเขาแนบชิดกับร่างกายนุ่มนิ่ม ก่อนจะละสายตาจากแก้มเนียนใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   ปะทะริมฝีปาก

    “ไปกันเถอะ เดี๋ยวพี่ต้องเข้าไปที่ร้านอีก” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นก่อนเธอจะพยักหน้ารับเบา ๆ มือหนาเอื้อมไปจับมือเรียวของเธอ สองมือประสานกันก่อนเขาจะเดินจูงมือเธอเดินออกมา เพียงแค่เขาสัมผัสหัวใจไม่รักดีของเธอก็เต้นถี่รัวขึ้นมาราวกับกลองศึก เธอรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นอ่อนโยนจากเขาที่มอบให้ ริมฝีปากอวบอิ่มยิ้มร่าออกมาอย่างมีความสุข จากที่เมื่อก่อนเธอตั้งแง่รังเกียจคนบ้านนอก แต่ตอนนี้เธอกลับอยากจะให้พ่อแม่จับเธอแต่งงานกับเขาซะตอนนี้ให้รู้แล้วรู้รอด เธอหลงรักผู้ชายบ้านนอกที่แสนจะธรรมดาแบบนี้เข้าให้แล้วจริง ๆ แต่…ความรู้สึกของเขานี่สิ เธอไม่รู้เลยว่าเขารู้สึกกับเธอแบบไหนกันแน่ เพราะเขาไม่เคยแสดงออกเลยด้วยซ้ำว่าชอบเธอ โรสรินทร์เดินผ่านแผงขายเนื้อสัตว์ เสียงพ่อค้าเชือดเนื้อดังสนั่นแววตาของเขาดูจริงจังกับงานมาก ๆ กลิ่นคาวของเนื้อสัตว์โชยมาแตะจมูก แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่รบกวนอะไรเธอมากนัก เธอเดินต่อมาจนถึงแผงขายของชำ ข้าวสารอาหารแห้งที่เรียงรายบนชั้นอย่างเป็นระเบียบ แม่ค้าใจดีกำลังชั่งน้ำหนักข้าวสารให้กับลูกค้า ใบหน้าของเธอยิ้มแย้มแจ่มใส เสียงพ่อค้าแม่ค้าตะโกนเรียกลูกค้ากันดังระงม เสียงเด็ก ๆ ที

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   จูบแรก

    “เข้าไป!!” “โอ๊ยยย โรสเจ็บนะพี่ไวน์!!” เธอบ่นขึ้นมาทันทีเมื่ออีกคนจับร่างของเธอยัดเข้ามาภายในรถ ในขณะที่เขาเองยังคงตีสีหน้าบึ้งตึงและเดินอ้อมขึ้นไปนั่งตรงที่นั่งประจำคนขับ ก่อนจะเหยียบคันเร่งออกไปอย่างรวดเร็วด้วยห้วงอารมณ์ฉุนเฉียว “ขับช้า ๆ หน่อยสิคะ โรสกลัว!!” “ทีอย่างนี้ทำเป็นกลัว ทีเธอไปด่าคนอื่นเขาทำไมไม่กลัว! เมื่อไหร่จะเลิกทำตัวเป็นเด็กไม่รู้จักโตสักทีโรสรินทร์ !!” เขาเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงดุดันแข็งกร้าว “แต่พี่ไวน์ก็เห็น ว่ายัยเตี้ยนั่นมันก็ด่าโรสเหมือนกัน และมันมาว่าโรสก่อนด้วยซ้ำ!!” เธอยังคงเถียงคำไม่ตกฟากอย่างไม่ยอมลดละ “แต่เธอก็ไม่ควรไปต่อล้อต่อเถียงแบบนั้นกับเขา!!” “นี่พี่ไวน์เขาข้างยัยขาสั้นนั่นเหรอ! พี่เข้าข้างคนอื่นทั้งที่คนที่พี่ควรจะเข้าข้างคือโรสซึ่งเป็นคู่หมั้นพี่ ไม่ใช่ยัยเตี้ยตื่นตดนั่น!!” เธอรีบหันไปแหวใส่ด้วยน้ำเสียงแตกพร่า ประกอบกับน้ำตาหยดใส ๆ ที่กำลังเริ่มเอ่อคลอ ทำไมเธอถึงเหมือนจะต้องร้องไห้ทุกครั้งที่โดนเขาเมินใส่ด้วยนะ ทีกับผู้ชายคนอื่นโดยเฉพาะแทนไทซึ่งเป็นแฟนเก่าเธอเอง เธอยังไม่บ่อน้ำตาตื้นเหมือนกับที่โดนเขาต่อว่าแบบนี้เลย เธอแค่โมโหและน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   อยากจับไอ้นั่น

    แกร่กกก!! เจ้าของร่างสูงใหญ่เดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จ โดยมีเพียงแค่ผ้าขนหนูผืนเดียวพันเอวสอบไว้พอหมิ่นเหม่ เผยให้เห็นหุ่นล่ำบึ้กซิกแพคเป็นลอนสวยที่ถ้าสาว ๆ คนไหนเห็นเป็นต้องหลงใหล วายุภัคเดินทอดกายไปเปิดตู้เสื้อผ้า และหยิบกางเกงนอนขายาวเนื้อนุ่มใส่สบาย ๆ ขึ้นมาสวมใส่เพียงตัวเดียวและเปลือยท่อนบน ก่อนจะเดินทอดกายมานั่งลงบนเตียงนอน แต่….. “แบร่!!!” “เฮ๊ยยยย!! เล่นอะไรของเธอเนี่ย!!” น้ำเสียงที่ดูตกอกตกใจเอ่ยขึ้นพร้อม ๆ กับร่างสูงใหญ่ดีดลุกขึ้นยืนเต็มความสูงทันทีด้วยความตกใจ ก่อนเขาจะทำหน้าตาดุ ๆ ใส่อีกคนเมื่ออยู่ดี ๆ ผ้าห่มผืนหนาก็เลิกขึ้น และปรากฏร่างบอบบางในชุดนอนบางเบาที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าห่ม เธอแลบลิ้นปลิ้นตาแกล้งทำให้เขาตกใจ และมันก็ได้ผลซะงั้น…เพราะเขาเองก็ดันตกใจขึ้นมาจริง ๆ “ฮ่า ๆ ๆ ทำไมพี่ไวน์หน้าเหวอแบบนั้นคะ ตลกชะมัด!!” เธอหัวเราะร่าออกมาอย่างชอบใจที่เห็นอีกคนหน้าเหวอทำอย่างกับเจอผี “นี่เธอเป็นเด็กสามขวบรึไง เล่นอะไรเป็นเด็ก ๆ ไปได้!!” เขาบ่น ๆ ขึ้นมา พลางถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย “คืนนี้ขอนอนด้วยคนนะคะ” เธอพูดขึ้นเสียงอ่อย “ไม่ได้!!” วายุ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   จ๊วดเหล้าขาว

    แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านหลังคาสังกะสีกระทบกับผนังสีขาวสะอาดตาของโรงเพาะเห็ด อากาศข้างในเย็นชื้นต่างจากภายนอกที่ร้อนอบอ้าว ที่มาพร้อมกับกลิ่นดินเปียกผสมกับกลิ่นเห็ดที่โชยมาแตะจมูก วายุภัคในชุดเสื้อยืดสีขาวสบาย ๆ กางเกงยืนส์ขายาว สวมหมวกปีกกว้างและสวมรองเท้าบู๊ทกำลังยืนคุยกับโรสรินทร์ วันนี้เธอมาในชุดเสื้อยืดสีชมพูกางเกงขาสั้น และสวมหมวกปีกกว้างเช่นเดียวกัน ทั้งคู่ยิ้มแย้มอย่างมีความสุขภายในโรงเพาะเห็ด อากาศเย็นสบายอุณหภูมิและความชื้นถูกควบคุมให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของเห็ดแต่ละชนิด บนชั้นวางเรียงรายด้วยเห็ดหลากหลายสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นเห็ดนางฟ้า เห็ดเข็มทอง เห็ดฟาง และเห็ดออรินจิ ซึ่งล้วนเติบโตอย่างสวยงามจนคนตัวเล็กรู้สึกตื่นตาตื่นใจมากเป็นพิเศษ เพราะนี่นับว่าเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอได้มาเห็นอะไรแบบนี้ “การเก็บเห็ดต้องใช้ความระมัดระวัง ไม่ควรจับหรือบิดเห็ด เพราะอาจทำให้เห็ดช้ำได้” เขากำลังอธิบายวิธีการเก็บเห็ดให้กับโรสรินทร์ซึ่งเธอดูมีท่าทีสนอกสนใจมากเป็นพิเศษ “แล้วมันต้องทำยังไงล่ะคะ โรสเป็นคนมือหนัก กลัวว่าเห็ดพี่วายวอดจะวอดวายไปซะก่อนน่ะสิคะถ้าหากว่าให้โรสเป็นคนลงมือเก็บ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14

บทล่าสุด

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   ปั้มลูกNC+ (จบบริบูรณ์)

    โรสรินทร์กับวายุภัคมองสบตากันลึกซึ้งด้วยความรัก ก่อนใบหน้าคมคายจะค่อย ๆ โน้มลงมาประทับลงบนเรียวปากอวบอิ่มของเธอเบา ๆ ริมฝีปากร้อนฉ่าบดเบียดความนุ่มนิ่มของกลีบปากงามอย่างเนิบนาบ นุ่มนวล ส่งผ่านความรักด้วยการกดย้ำขบเม้มริมฝีปากเธออย่างหนักหน่วงด้วยความเร่าร้อนโหยหา “โรสเสียใจไหม ที่ต้องมาอยู่บ้านนอกคอกนากับพี่แบบนี้” เขาเอ่ยถามสีหน้าจริงจัง ดวงตาคมมีเครื่องหมายคำถามอยู่ในดวงตาที่กำลังสะท้อนทุกความรู้สึกออกมาโดยไม่ต้องเอ่ยปากพูด ก่อนคนที่ได้ยินคำถามนั้นจะยิ้มบาง ๆ และเอื้อมมือเรียวสวยไปจับมือใหญ่มากุมไว้ “โรสยินดีและเต็มใจที่จะอยู่ที่นี่กับพี่ไวน์ค่ะ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน หากที่นั่นมีพี่ไวน์อยู่ด้วยโรสก็อยู่ได้ค่ะ” คำตอบของเธอเรียกรอยยิ้มกว้างจากเขาได้เป็นอย่างดี “พี่รักโรสนะครับ รักมากด้วย” วายุภัคเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังและหนักแน่น ก่อนจะค่อย ๆ โน้มตัวลงมาจูบริมฝีปากอวบอิ่มตรงหน้า ดวงตาคู่นั้นของเธอมองมาที่ริมฝีปากของเขาที่เลื่อนเข้ามาใกล้ ๆ รู้ตัวอีกทีเธอก็หลับตาลงอัตโนมัติก่อนจะสัมผัสถึงรสจูบ มันเป็นจูบที่แผ่วเบา นุ่มนวล อ่อนโยน ก่อนจะค่อย ๆ ทวีความลุ่มลึกร้อนแรงมากขึ้นเรื

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   วันแต่งงาน(งานกินดอง)

    สองเดือนผ่านไป… วันแต่งงาน (งานกินดอง) “อร๊ายยยยย วันนี้คุณไวน์หล่อม๊ากกกค้า หล่อจนพอลล่านี่อยากจะดื่มไวน์แดงเลยค่ะ คริคริ” เมื่อขบวนขันหมากของเจ้าบ่าวใกล้เข้ามาแล้ว พอลล่าตะโกนขึ้นมาเสียงดังด้วยความตื่นเต้น พลางหัวเราะคิกคักชอบใจหลงใหลในความหล่อเหลาบาดใจของเจ้าบ่าวป้ายแดง ที่แค่มองจากไกล ๆ รัศมีความหล่อก็แผ่กระจายไปทั่วทั้งทุ่งกุลาร้องไห้ “น้อย ๆ หน่อย นั่นมันผัวเพื่อนไม่ใช่ผัวแกนังพอลล่า” กชกรเอ่ยขึ้นอย่างนึกหมั่นไส้ที่เพื่อนชายใจเป็นหญิงรู้สึกจะดี๊ด๊าชื่นชมเจ้าบ่าวผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผัวเพื่อนอย่างออกหน้าออกตา “ผัวเพื่อนก็เหมือนผัวเรานั่นแหละย่ะ คริ คริ” “แล้วนี่ฉันไม่สวยเลยหรือไงยะ หัดชมเพื่อนแกบ้างก็ได้นะ นี่ขนาดวันนี้ฉันแต่งตัวสวยสุด ๆ แล้วยังไม่เห็นแกคิดจะชมเลยสักคำ ชิส์!” โรสรินทร์พูดแซะขึ้นมาบ้างอย่างหมั่นไส้ “แกก็สวยทุกวันอยู่แล้วค้านังโรส ต่อให้ไม่แต่งแกก็สวยย่ะ แต่…วันนี้พี่ไวน์ผัวแกหล่อมากจริง ๆ นะ หล่อเวอร์วังถูกใจพอลล่ามาก อ๊ายยยย พอลล่าอยากกินไวน์แดงแท่งใหญ่ ๆ!!” “พอ ๆ ๆ เลย ไวน์แดงมันไม่ได้มีเป็นแท่งเหมือนไอติมหรอกนะยะ เลิกสนใจผัวเพื่อนได้แล้ว อย่าง

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   ขอแต่งงาน

    ช่วงสายวันต่อมา…. “ตื่นได้แล้วนะครับ” “อื้อ…ตื่นไม่ได้ โรสง่วง..!” “แต่นี่มันเที่ยงแล้วนะครับ” มือหนาสะกิดปลุกคนขี้เซาที่ยังคนนอนหลับตาพริ้มอย่างสบายอยู่ในอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นราวกับเป็นลูกแมวขี้เซา ยิ่งเวลาเธอหลับแบบนี้เธอก็ยิ่งดูน่ารัก ทำเอาดวงตาคมกริบจ้องมองจนแทบไม่อยากจะละสายตาออกจากใบหน้าหวาน “อื้อ…” เจ้าของร่างบางขยับตัวออกจากอ้อมกอดของเขาเล็กน้อย ก่อนที่จะเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างช้า ๆ และกระพริบตาถี่ ๆ เพื่อไล่แสง “พี่ไวน์!! ออกไปเลยนะคะ ไม่ต้องมาใกล้โรส!!” เธอรีบแหวใส่เขาขึ้นมาทันทีเมื่อเริ่มจะจับต้นชนปลายทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้ ก่อนจะพยายามเบี่ยงตัวหลบออกจากอ้อมแขนแกร่งที่โอบกอดเธอเอาไว้ “จะให้ออกไปไหนล่ะ ก็นี่มันบ้านของพี่” ดวงตากลมโตหันไปมองภายในรอบ ๆ ห้องซ้ายทีขวาที และ…ที่นี่มันก็ไม่ใช่ห้องของเธอจริง ๆ “งั้นก็ปล่อยค่ะ โรสจะออกไปจากที่นี่เอง!!” เธอเอ่ยขึ้นพลางแกะมือหนาที่ยังคงโอบกอดเธอไว้แน่นราวกับคีบเหล็ก แต่มันก็หาเป็นผลไม่ “ปล่อยให้โง่สิครับ ไม่ปล่อย!” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างหน้าด้าน ๆ ยัยแม่มดตัวแสบพอหมดฤทธิ์ของแอลกอฮอล์แล้วตื่นขึ้นมาก็เลยแผลงฤทธิ์เดช

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   น้ำพี่ยังเหลืออีกตั้งเยอะNC+

    สองมือหนาจับขาทั้งสองข้างของเธอแยกออกจากกัน ก่อนจะจ่อแท่งร้อนเข้าไปในร่องรักอันคับแน่นของคนใต้ร่าง วายุภัคมองใบหน้าหวานของโรสรินทร์ที่น้ำตาเอ่อคลอ ก่อนจะค่อย ๆ ดันปลายหัวเห็ดแดงก่ำเข้าไปในร่องคับแคบนั้นอย่างช้า ๆ “อ่าส์…แน่นมาก” “อึก ระ โรสเจ็บ” โรสรินทร์ร้องออกมาเมื่อเธอรู้สึกเจ็บ อีกทั้งความคับแน่นนี้มันยังคงแน่นเหมือนเดิมเหมือนครั้งแรก วายุภัคเองถึงกับต้องซี๊ดปากเบา ๆ เมื่อช่องทางรักของเธอบีบรัดท่อนเนื้อของเขาจนรู้สึกเจ็บเช่นเดียวกัน เขาพยายามดันท่อนเอ็นขนาดใหญ่เข้าไปให้สุด ก่อนเขาจะเริ่มขยับสะโพกสอบเข้าออกเมื่อภายในของเธอเริ่มปรับสภาพกับความใหญ่โตของเขาได้ ท่อนเอ็นที่กำลังผลุบเข้าผลุบออกในร่องสวาทนั้นทำให้คนใต้ร่างเริ่มรู้สึกเสียว “อะ อื้อออ โรสจุก!!” หน้าอกอวบใหญ่เริ่มกระเพื่อมขึ้นลงตามแรงกระแทกกระทั้น มือเรียวขยำผ้าปูที่นอนเอาไว้แน่นเมื่ออีกคนกระแทกเข้าใส่อย่างหนักหน่วง ปั่ก ปั่ก ปั่ก!! เสียงเนื้อกระทบกันเป็นจังหวะเมื่อเขาเริ่มขยับสะโพกแรงขึ้น หนักหน่วงขึ้น โรสรินทร์เม้มปากเอาไว้แน่นเพื่อพยายามข่มเสียงครางอันน่าเกลียดของตัวเองไม่ให้มันดังเล็ดลอดออกมา “อ๊าส์…พูดมาสิ

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   ดีที่จำผัวตัวเองได้

    “ถึงคุณไวน์จะเป็นผัวยัยโรสเพื่อนของพวกเราก็เถอะ ยังไงเกรชกับพอลล่าก็ไม่มีทางปล่อยให้ยัยโรสไปกับผู้ชายโลเลแถมยังกระล่อนปลิ้นปล้อนอย่างคุณไวน์ได้หรอกค่ะ ในเมื่อยัยโรสเพื่อนของพวกเราบอกว่าเลิกกับคุณไปแล้ว พวกเราไม่ปล่อยให้ยัยโรสกลับไปกับคุณได้แน่ ๆ” กชกรเอ่ยขึ้นเสียงแข็ง “ใช่ค่ะ คุณมันเป็นผู้ชายแบบไหนกันคะคุณไวน์ คุณมีคนรักอยู่แล้วยังมาหลอกฟันยัยโรสเพื่อนพวกเราอีก!!” คิ้วหนาของวายุภัคเลิกขึ้นพร้อมขมวดเข้าหากันเป็นปม “ผมไม่เคยทำอะไรแบบนั้นนะครับ ผมไม่เคยคิดแม้แต่จะหลอกอะไรโรสรินทร์” น้ำเสียงเรียบนิ่งของเขาเอ่ยขึ้น “ยัยโรสเป็นคนบอกกับพวกเราเอง ว่าคุณมีคนรักอยู่แล้ว แต่ก็ยังมาหลอกเอามันอีกตั้งหลายน้ำ แถมวันก่อนยังพาแฟนไปซื้อแหวน สวมแหวนให้ผู้หญิงคนนั้นต่อหน้าต่อตายัยโรส!!” “ใช่ เพราะฉะนั้นคุณจะมาพายัยโรสกลับไปไม่ได้ เด็ดขาด พวกเราเป็นเพื่อนรักที่รักที่สุดของยัยโรส ยัยโรสต้องจะกลับไปกับพวกเราเท่านั้น!!” พอลล่าพูดขึ้นอย่างชัดถ้อยชัดคำ อีกทั้งยังยืนยันนอนยันตีลังกายันเสียงแข็งหนักแน่น ก่อนจะพยายามเดินเข้าไปคว้าเอาตัวโรสรินทร์เพื่อนสาวที่สลบไปเพราะเมาหนักให้ออกจากอ้อมแขนแกร่งของวาย

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   เป็นผัว

    “เอาน่า…อย่าร้องไปเลย สวย ๆ รวย ๆ และแถมซาดิสม์อย่างแกหาใหม่ได้สบายอยู่แล้วเพื่อนเลิฟ เดี๋ยวฉันจะจัดน้อง ๆ ทีเด็ดมาเลียแผลใจที่เหวอะหวะของแกให้เอง หรือถ้าแกเผลอถูกใจจะควงไปเลียอย่างอื่นกันต่อก็ได้นะยัยโรส!!” กชกรเอ่ยขึ้นพลางกอดปลอบประโลมเพื่อน “อร๊ายยยย แกเนี่ยพูดถูกใจฉันจริง ๆ นังเกรช! สวยระดับนี้มีเหรอใครจะไม่อยาก เพื่อนฉันน่ะสวยแซ่บสะท้านทรวงนะบอกเลย!” พอลล่าเข้ามาปลอบใจเธอเช่นกัน ก่อนที่กชกรจะหันไปเป็นเชิงส่งซิกอะไรบางอย่างให้กับพนักงานในร้านเรียกบรรดาหนุ่มโฮสต์หล่อ ๆ ล่ำ ๆ ให้เข้ามาดูแลเทคแคร์เพื่อนสาว “ทางนี้จ้าเด็ก ๆ มาเร้ววววว!!” แค่เพียงไม่นานบรรดาเหล่าหนุ่มโฮสต์หล่อ ๆ ล่ำ ๆ มัดกล้ามแน่น ๆ ซิกแพคเป็นลอน ๆ แถมยังนุ่งน้อยห่มน้อยก็ได้เดินเข้ามายืนเรียงรายในห้อง VVIP ที่สามคนนั้นอยู่ แต่ละคนต่างหน้าตาหล่อล่ำ กล้ามแน่น เรียกให้น้ำลายพอลล่าและกชกรแทบจะไหลยืดออกมาราวกับเป็นโรคพิษสุนัขบ้าอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่กับโรสรินทร์เพราะเธอมองผู้ชายหุ่นล่ำกล้ามโตพวกนี้ด้วยใบหน้าเรียบเฉยเหมือนคนไม่มีความรู้สึก เพราะเรื่องหล่อล่ำกล้ามแน่นบรรดาผู้ชายพวกนี้สู้พี่วายวอดไม่ได้สักคนเลยด้วยซ้ำ

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   เช็คเรตติ้ง

    “เอ่อ…ที่ผมมาวันนี้ก็เพราะเรื่องของน้องโรส คุณอาทั้งสองคงพอจะทราบเรื่องแล้ว” วายุภัครีบพูดถึงประเด็นของเรื่องราวที่เกิดขึ้น “อืม อาเองก็พอจะทราบเรื่องแล้ว ยังไงหลานชายเองก็อย่าไปถือสาน้องเลยนะ ยัยตัวแสบลูกสาวอาก็เป็นแบบนี้แหละ ยัยโรสเป็นคนค่อนข้างใจร้อนและเอาแต่ใจไปหน่อย นี่อาก็อุตส่าห์บังคับให้ยัยโรสไปปรับทัศนคติที่โคกหนองนาแล้วนะ ไอ้เราก็คิดว่าจะดีขึ้นและเป็นผู้ใหญ่ขึ้น แต่ที่ไหนได้กลับไม่ได้เรื่อง เฮ้อ!” ท่านสุรพลถอนหายใจออกมาเบา ๆ พลางส่ายหัวให้กับลูกสาวตนเองอย่างเอือมระอา “ยังไงผมก็ต้องกราบขอโทษคุณอาทั้งสองจริง ๆ นะครับ ที่เป็นต้นเหตุทำให้น้องต้องหนีกลับมากรุงเทพปุบปับแบบนี้” วายุภัคลงไปนั่งกับพื้นแล้วก้มลงกราบแทบเท้าของท่านสุรพลและคุณหญิงพิศมัยอย่างรู้สึกผิด ก่อนท่านสุรพลจะใช้มือหนาแตะไปที่บ่าแกร่งบึกบึนของเขาเป็นการยอมรับการกราบขอโทษและสำนึกผิดจริง ๆ “เมื่อทุกอย่างลงตัวแล้วหลังจากนี้ผมอยากจะขออนุญาตคุณอาทั้งสอง พาคุณพ่อคุณแม่มาทาบทามสู่ขอน้องตามธรรมเนียมอย่างสมเกียรติอีกที…ได้หรือไม่ครับ” น้ำเสียงหนักแน่นที่เอ่ยขอออกไปอย่างตรงไปตรงมาประกอบกับสีหน้าและแววตาที่จริงจ

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   กลับกรุงเทพฯ

    ณ สนามบินดอนเมือง… “ยัยโรส ทางนี้!!” กชกรร้องตะโกนขึ้นมาเสียงดัง พลางโบกไม้โบกมือไปมาเมื่อเห็นเพื่อนสาวคนสนิทเดินออกมาจากประตูฝั่งผู้โดยสารขาเข้า “ยัยเกรช! ฮือ…ฉันคิดถึงแกมากเลย” โรสรินทร์รีบโผเข้าหาอ้อมกอดของเพื่อนสนิททันทีที่เดินมาถึง “ไม่ต้องมาปากหวานเลย ไปอยู่บ้านนอกตั้งเดือนกว่า ๆ ฉันนึกว่าแกจะลืมเพื่อนอย่างพวกฉันไปแล้วซะอีก หลังจากวันนั้นแกก็ไม่คิดจะโทรกลับมาหาฉันกับพอลล่าบ้างเลยนะยะ!” กชกรเอ่ยขึ้นอย่างกระเง้ากระงอด “นี่ฉันไปอยู่ร้อยเอ็ดแค่แป้บเดียวเอง แกนี่กลายเป็นคนแก่ไปแล้วเหรอเนี่ย” “อะไร ใครแก่ยะ” กชกรรีบพูดแหวขึ้นมาทันควัน “ก็ขี้น้อยใจเป็นคนแก่ไปได้ไง ถึงฉันไม่ได้โทรหา แต่ฉันก็ส่งข้อความไลน์หาพวกแกทุกวันไหม!!” “เออ นั่นสินะ คิกคิก” กชกรหัวเราะคิกคักขึ้นมา ก่อนเสียงหัวเราะร่านั่นจะเงียบลงเมื่อสังเกตเห็นใบหน้าสวยหวานของเพื่อนสนิทดูแปลกไป ดวงตาคู่สวยนั้นบวมช้ำเหมือนคนที่เพิ่งจะผ่านการร้องไห้มาหมาด ๆ “ยัยโรส แกเป็นอะไรรึเปล่าเนี่ย ทำไมตาแกถึงได้ดูบวม ๆ แดง ๆ เหมือนคนเพิ่งร้องไห้มาเลยล่ะ” กชกรถามขึ้นอย่างห่วงใย พลางจ้องเพื่อนสนิทเพื่อรอฟังคำตอบ “ไว้เดี๋ยวจ

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   เรื่องเข้าใจผิด

    “โรสรินทร์!!” น้ำเสียงเข้มเอ่ยชื่อเธอขึ้น “ไหนพี่ไวน์บอกจะเข้าไปเคลียร์งานที่ร้านแทนลุงพจน์ไงคะ แล้วนี่ทำงานคงจะเหนื่อยมากเลยสินะคะ เลยพาผู้หญิงออกมาซื้อแหวนเล่นแก้เหนื่อยแก้เบื่อ” สองขาเรียวของเธอเดินย่างกรายเข้าไปหาเขาอย่างใจเย็น เพียงแค่เธอเดินผ่านประตูร้านเครื่องประดับสุดหรู ภาพของชายหนุ่มกับหญิงสาวสวยร่างสูงหุ่นดีราวกับนางแบบ ที่กำลังค่อย ๆ บรรจงสวมแหวนให้กันราวกับคู่รักได้เรียกความสนใจให้เธอหยุดยืนจ้องมองภาพของพวกเขาทั้งสองได้เป็นอย่างดี เธอยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นราวกับคนเป็นอัมพาตไปชั่วขณะ และตอนนี้เธอก็รู้สึกว่าทำไมพวกเขาสองคนถึงได้ดูเหมาะสมกันขนาดนี้นะ แต่แล้วจู่ ๆ เธอเองกลับรู้สึกน้อยใจเขาขึ้นมาเอาเสียดื้อ ๆ ทั้ง ๆ ที่เธอเองยังไม่เคยรู้ถึงความรู้สึกของเขาที่มีต่อเธอเลย แม้แต่บอกรักบอกชอบเธอเขาก็ไม่เคยพูดมันออกมาเลยสักครั้ง มีแค่เพียงเธอเท่านั้นที่รู้สึกว่าหลงรักเขาอยู่ฝ่ายเดียว “มะ มันไม่ใช่อย่างที่คิดเลยนะครับ” เขารีบพูดปฏิเสธขึ้นมาอย่างร้อนรน “คงพาแฟนมาซื้อแหวนสินะคะ?” เธอก็แค่พูดมันออกไปอย่างที่ใจนึกคิด เพียงแค่นั้นหัวใจดวงน้อย ๆ ของเธอก็เริ่มหวั่น เมื่อคิดว่า

DMCA.com Protection Status