Share

ขอนอนด้วย

last update Last Updated: 2024-12-14 08:16:00

หลังจากอาบน้ำอาบท่าชำระร่างกายให้ตัวเองได้สดชื่นกระปรี้กระเปร่าแล้ว โรสรินทร์จึงหยิบยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรออกหาผู้เป็นแม่ด้วยความคิดถึง

(สวัสดีค่ะคุณแม่ คุณแม่เป็นยังไงบ้างคะ โรสคิดถึงคุณแม่จังเลยค่ะ) น้ำเสียงหวานเอ่ยขึ้นอย่างออดอ้อนผู้เป็นแม่

(ไม่ต้องมาพูดเอาอกเอาใจแม่เลย ไปถึงที่โน่นหลายวันแล้วเพิ่งจะโทรหาแม่ นึกว่าหลงคนที่โน่นจนลืมแม่ไปแล้วซะอีก) คุณหญิงพิศมัยเอ่ยขึ้นอย่างค่อนขอด

(แหม…คุณแม่ก็ ใครจะลืมคุณแม่สุดที่รักของโรสได้ล่ะคะ ขี้น้อยใจแบบนี้แก่แล้วนะคะเนี่ย)

(ไม่ต้องมาพูดเลย ว่าแต่…หนูอยู่ที่โน่นเป็นยังบ้างลูก พี่ไวน์เขาดูแลเทคแคร์หนูดีไหม)

(ดูแลดีมากเลยละค่ะคุณแม่ เสียอย่างเดียวขี้บ่นเป็นคนแก่เหมือนพี่รามเลยค่ะ ชิส์!)

เธอกรอกเสียงผ่านปรายสายพลางทำปากยื่นปากยาวอย่างนึกหมั่นไส้คนที่กำลังนินทาอยู่

(เรานี่น๊า…ก็ทำตัวเป็นเด็กดื้อให้พี่เขาบ่นใช่ไหมล่ะ)

(เปล่าซะหน่อยนะคะคุณแม่)

(ว่าแต่…พี่เขาถูกใจหนูบ้างไหม พี่ไวน์เขาพอจะเป็นผู้ชายในแบบที่หนูชอบได้ไหมลูก)

(กล้ามแน่นมากค่ะ อุ๊ย!! มะ ไม่ใช่ค่ะโรสพูดผิด แหะแหะ! พี่เขาก็พอใช้ได้ค่ะคุณแม่ ก็โอเคในระดับนึงค่ะ)

โรสรินทร์พูดผิด ๆ ถูก ๆ อย่างคนลืมตัว จนผู้เป็นแม่ต้องลอบยิ้มมุมปากอย่างชอบใจ

(แค่ลูกเปิดใจให้พี่เขาบ้างแม่ก็ดีใจแล้วล่ะ)

โฮ่ง โฮ่ง บรู๊ววววววว~~

(อุ๊ย! ขะ คุณแม่คะ งั้นเดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะคะ ไว้ว่าง ๆ โรสจะโทรหา คิดถึงนะคะคุณแม่ สวัสดีค่ะ)

โรสรินทร์รีบวางสายสนทนาทันทีเมื่อได้ยินเสียงเสียงหมาหอนโหยหวนดังก้องไปทั่วบริเวณบ้าน เสียงของมันดังกังวานเข้ามาในโสตประสาทของเธอ เสียงนั้นแหลมสูงฟังดูน่าสยดสยองยังไงก็ไม่รู้จนทำให้ขนอ่อนลุกชันไปทั้งตัว หัวใจของเธอตอนนี้เต้นรัวแรงขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว

บรู๊ววววววว!!

“อร๊ายยย!! ไอ้พวกหมาบ้า แกจะมาเห่ามาหอนเอาอะไรตอนนี้” โรสรินทร์สบถออกมาเบา ๆ พลางยกมือเรียวขึ้นมาปิดหูทั้งสองข้างของตัวเองเอาไว้

เธอหันหน้าไปมองตรงบริเวณหน้าต่างที่มีแต่ความมืดมิด ไร้แสงจันทร์ ไร้หมู่ดาว ความมืดมิดกลืนกินทุกสิ่งเหลือเพียงแค่เสียงหมาหอนที่ดังก้องกังวานไปทั่วบริเวณบ้าน

“แปลก…ร้อยวันพันปีไม่เคยได้ยินเสียงหมาหอนเลยสักครั้ง ไอ้ด่างเองก็ไม่เคยเห็นมันจะหอนเลยสักคืน แต่ทำไมวันนี้มาแปลก” วายุภัคพูดคนเดียวเบา ๆ ก่อนจะก้มลงอ่านหนังสือตรงหน้าต่อและไม่ได้สนใจอะไรอีก

โบร๋ววววววววว~~

โรสรินทร์ยังคงนั่งนิ่งอยู่บนเตียง เธอเอาผ้าห่มคลุมโปงแทบจะไม่กล้าขยับตัว ไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียงอะไรออกมา เพราะตอนนี้ความกลัวครอบงำเธอจนหมดสิ้นแล้ว เธอคิดไปต่าง ๆ นานา คิดถึงเรื่องผีสาง เรื่องวิญญาณ เรื่องสิ่งลี้ลับปะปนกันไปหมด ยิ่งนึกไปถึงประโยคที่หวึ่งศรีสาวใช้พูดก่อนหน้านี้เธอก็ยิ่งรู้สึกกลัว

“แบบนี้มันสิได้ผลแน่เด้ออีหวึ่ง”

(แบบนี้มันจะได้ผลจริง ๆ เหรออีหวึ่ง) ลุงเหม้าเอ่ยขึ้น

“นั่นติ๊ล่ะ เปิดเทปเสียงหมาหอนดังคักปานนี้ยังบ่เห็นคุณโรสเพิ่นสิออกมาจากห้องเลย”

(นั่นสิ เปิดเทปเสียงหมาหอนดังขนาดนี้ยังไม่เห็นคุณโรสจะออกมาจากห้องเลย)

คราวนี้นายมืดพูดกระซิบกระซาบขึ้นมาบ้างเมื่อเป็นเวลานานกว่าหลายนาทีแล้ว แต่ยังไม่เห็นโรสรินทร์จะออกมาจากห้องตามแผนที่พวกเขาพากันคาดการณ์เอาไว้เลย

“ใจเย็น ๆ แหน่เป็นหยัง เดี๋ยวคุณโรสกะออกมา แล้วกะไปขอนอนห้องคุณไวน์แท้ ๆ ล่ะ ถ่าเบิ่งเลย”

(ใจเย็น ๆ หน่อย เดี๋ยวคุณโรสก็ออกมา แล้วก็คงไปขอนอนห้องคุณไวน์แน่ ๆ ล่ะ รอดูได้เลย)

หวึ่งศรีเอ่ยขึ้นมาอย่างมั่นใจเต็มเปี่ยม ก่อนจะเร่งเสียงหมาหอนให้ดังขึ้นมาอีกครั้ง

บรู๊วววววววว~

“นะโมตัสสะภะคะวะโต ภะคะวะโตนะโมตัสสะ อุ๊ย! มะ ไม่ใช่ ๆ ๆ” เธอท่องบทสวดมนต์ผิดถูก ๆ เพราะตอนนี้ในสมองของเธอมันแทบจะไม่สั่งการอะไรแล้ว เพราะเธอได้ยินแค่เสียงหมาหอนแว่วอยู่ในหู

โบว๋วววววววว…

“นะโมตัสสะภะคะวะโต อะระห้าโตหกโตเจ็ดโต อ๊ายยยย!! มันต้องท่องยังไงเนี่ย!!” ใบหน้าหวานถึงกับเหงื่อไหลพรากด้วยความกลัวที่ครอบงำ จึงทำให้เธอท่องบทสวดมนต์ผิด ๆ ถูก ๆ ยิ่งพยายามท่องเท่าไหร่ บทสวดมนต์ก็ยิ่งเพี้ยนไปกันใหญ่เพราะสติเริ่มจะไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

“เอาใหม่ ๆ…นะโมตัสสะภะคะวะโต อะระหะโตนะโมพุทตัสสะ อร๊ายยยยย!! ไม่ท่องแล้วโว้ยยยยย!!”

โบร๋วววววววว!!

เสียงหมาหอนยังคงดังก้องไม่หยุดหย่อน บางครั้งเสียงหมาหอนก็ดังสั้น ๆ ติดต่อกัน บางครั้งก็หอนยาวนานเป็นนาที เสียงนั้นฟังดูน่ากลัวจนขนลุกชัน ราวกับมีวิญญาณเร่ร่อนกำลังร้องไห้คร่ำครวญซะอย่างนั้น

สองขาเรียวรีบก้าวออกมานอกห้อง ก่อนจะวิ่งเข้าไปยังห้องข้าง ๆ ซึ่งเป็นห้องของวายุภัคคู่หมั้นหนุ่มสุดหล่อของเธอ โดยไม่แม้แต่จะเคาะประตูห้องเพื่อส่งสัญญาณให้เจ้าของห้องได้รับทราบ

“สำเร็จ!!”

หวึ่งศรี นายมืดและลุงเหม้าสบถออกมาพร้อมกันเบา ๆ เมื่อเห็นเจ้าของร่างเล็กวิ่งฉิวเข้าไปในห้องของวายุภัคตามแผนการที่วางเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ก่อนหวึ่งศรีจะรีบปลีกตัวออกมาเพื่อโทรรายงานคุณนายสีดา

แอ้ดดดดดด!!

ตึ่ก ตึ่ก ตึ่ก !!

เสียงฝีเท้าหนัก ๆ ของโรสรินทร์ดังขึ้นเมื่อเจ้าของร่างเล็กวิ่งเสียงดังตึกตักเข้ามาภายในห้องนอนส่วนตัวของเขา วายุภัคที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียงเงยหน้าขึ้นมองด้วยความตกใจ ดวงตาดำขลับเบิกโพรงขึ้นมาทันที ก่อนจะเคลื่อนสายตามองสำรวจอีกคนตั้งแต่หัวจรดเท้า โรสรินทร์สวมใส่กระโปรงชุดนอนสายเดี่ยวบางเบา ที่ทำเอาตาเนื้อมองแล้วแทบจะทะลุปรุโปร่งไปถึงไหนต่อไหน ก่อนเขาจะรีบสลัดความคิดนี้ออกไปจากหัวรัว ๆ

“นี่เธอเล่นอะไรของเธอ โรสรินทร์!!” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างไม่พอใจ

“ละ เล่นอะไรกันคะ ไม่ได้เล่นอะไรสักหน่อย พี่ไวน์ไม่ได้ยินเสียงหมาหอนรึไงคะ โหยหวนน่ากลัวขนาดนี้โรสไม่กล้านอนคนเดียวหรอกค่ะ….ขะ ขอนอนด้วยคนได้ไหมคะ”

“ไม่ได้!!”

วายุภัครีบปฏิเสธขึ้นมาทันควันด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

“ทำไมล่ะคะ ก็โรสกลัวหนิ โรสไม่กล้านอนคนเดียวหรอก”

“เธอจะมานอนห้องพี่ได้ยังไง มันไม่เหมาะสม!!”

“อะไรคือไม่เหมาะสมคะ เราสองคนก็เป็นคู่หมั้นกันนี่คะ นอนห้องเดียวกันจะเป็นไรไป!!”

“ต่อให้เป็นคู่หมั้นกันก็เถอะ เราก็ไม่ควรนอนด้วยกัน เราสองคนยังไม่ได้แต่งงานกันเลยนะ”

“งั้นเราก็แต่งกันพรุ่งนี้เลยไหมคะ? ทำตัวเป็นพวกคนแก่หงำเหงือกหัวโบราณไปได้!! ถอยไปค่ะ ยังไงโรสก็จะนอนห้องนี้!!”

เธอบ่นอุบอิบขึ้นมาอย่างไม่สะทกสะท้านอะไร เธอทำเหมือนมันเป็นแค่เรื่องธรรมดา ๆ เรื่องหนึ่งแค่นั้น

หลังจากพูดจบเจ้าของร่างเล็กก็ผลักคนตัวโตที่ยืนอยู่ด้านหน้าจนเซถลาไปนิด ก่อนจะสะบัดหน้าใส่แล้วรีบกระโจนขึ้นไปบนเตียงนอนทันที มือเรียวเล็กตวัดผ้าห่มขึ้นมาห่มจนมิดคอ วายุภัคได้แต่ถอนหายใจออกมาพรืดยาว พลางส่ายหัวเบา ๆ อย่างเอือมระอาให้กับความดื้อรั้นของเธอ

“จะคลุมอะไรขนาดนั้น ไม่ร้อนรึไง” เขาเอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

“ก็คนมันกลัวหนิ ไอ้หมาบ้าพวกนั้นมันก็ไม่เลิกหอนกันสักที กลัวจนฉี่จะราดอยู่แล้ว” เธอบ่นอุบอิบขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะกระชากแขนแกร่งของคนตัวโตให้ล้มลงนอนข้าง ๆ เธอ

หมั่บ!!

พรึ่บบบ!!

“เฮ้ย ! เล่นอะไรของเธอเนี่ย!!”

“กอดกันไงคะ อบอุ่นดีออก” โรสรินทร์ซุกตัวเข้าหาอกแกร่ง และโอบกอดรอบตัวเขาเอาไว้แน่น พลางหลับตาพริ้มอย่างสบายอารมณ์

“นี่เธอเป็นผู้หญิงแบบไหนกันแน่ พี่เป็นผู้ชายนะ เธอควรจะกลัวพี่บ้าง” เขาพูดเค้นเสียงต่ำเบา ๆ พลางจ้องใบหน้าหวานที่นอนหลับตาพริ้มโดยไม่รู้ร้อนรู้หนาว

“กลัวทำไม นอนกับพี่ไวน์ก็เหมือนนอนกับวัตถุโบราณนั่นแหละ ไม่เห็นจะรู้สึกอะไรเลย!!”

พรึ่บ !!

“อุ๊ย!!”

วายุภัคจับแขนทั้งสองข้างที่โอบกอดตัวเขาออก ก่อนจะเปลี่ยนเป็นฝ่ายขึ้นมาคร่อมบนตัวเธอแทน มือหนาจับข้อมือทั้งสองข้างของเธอตรึงไว้เหนือศีรษะ ก่อนจะพูดประโยคถัดมาพลางจ้องหน้าเธออย่างเอาเรื่อง

“เมื่อกี้เธอว่าอะไรนะ เธอว่าใครคือวัตถุโบราณนะ”

เขาถามขึ้นพลางทำหน้าตาดุ ๆ แต่อีกคนยังคงจ้องตาเขาปริบ ๆ อย่างไม่เกรงกลัว

“พะ พี่ไวน์จะทำ…อะไร?” เธอเอ่ยถามพลางทำตาปริบ ๆ จ้องหน้าเขา

“เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ พูดใหม่อีกทีสิ ได้ยินไม่ค่อยถนัด!” โทนเสียงทุ้มต่ำปนเยือกเย็น ดวงตาคมจ้องหน้าเธอนิ่ง

“ก็แค่ล้อเล่นนิดเดียวเองน่า ไม่เห็นจะต้องทำหน้าเหมือนโกรธเลย ทำจริงจังไปได้!!” เธอบ่นอุบอิบพลางหลบสายตาคมกริบนั้นที่กำลังจ้องหน้าเธออย่างเอาเรื่อง

“หึ ปากดี ปากเก่ง เก่งให้ได้ตลอดเถอะ”

“ทำไมคะ พี่ไวน์จะทำอะไรโรสไม่ทราบ จะปล้ำโรสเลยไหมล่ะ หรือว่า…จะให้โรสเป็นฝ่ายปล้ำพี่ก็ได้นะ”

เธอพูดขึ้นพลางทำหน้าตาล้อเลียน วายุภัคได้แต่อึ้ง ผู้หญิงแบบเธอนี่มันเกินเยียวยาไปแล้วจริง ๆ อย่างน้อยเขาก็เป็นผู้ชาย เธอควรจะกลัวเขาเอาไว้บ้างไม่ใช่มาท้าทายอะไรแบบนี้

“ขอเตือนไว้ก่อนเลยนะ ว่าพี่มันก็แค่ผู้ชายคนหนึ่ง และไม่ใช่พระอิฐพระปูน” เขาเอ่ยขึ้นมาอย่างขุ่นเคืองและปล่อยข้อมือของเธอให้เป็นอิสระจากการเกาะกุม ก่อนร่างหนาจะลุกพรวดพราดและก้าวขาลงจากเตียงนอน

“ชิส์! ก็อยากจะให้ไม่เป็นพระอิฐพระปูนเหมือนกันแหละ” เธอบ่น ๆ ทำปากขมุบขมิบเบา ๆ อย่างหมั่นไส้

“ละ แล้วนั่นพี่จะไปไหน อย่าบอกว่าจะออกไปนอนที่อื่นนะ เพราะต่อให้พี่ไวน์ไปนอนห้องอื่น โรสก็จะตามไปด้วย!!” เธอพูดขึ้นมาเสียงดังเมื่อเขาลงจากเตียงนอนและตั้งท่าจะเดินออกไป

“ไปอาบน้ำ จะไปอาบด้วยไหมล่ะ?”

“ได้เหรอคะ? อาบด้วยได้จริงหรอ?” เธอถามเขาด้วยแววตาเป็นประกาย ทำเอาเขาได้แต่อ้าปากกรามแทบค้าง เพราะหมดคำจะพูดกับคนแบบเธอเธอจริง ๆ

“ทะลึ่ง !! ถ้าง่วงก็นอนก่อนได้เลย”

เขาพูดเพียงแค่นั้นก็เดินเลี่ยงเข้าไปในห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัวทันที ปล่อยให้เธอนอนคลุมโปงอยู่บนเตียงนอนแบบนั้น วายุภัคหายเข้าไปในห้องน้ำนานเกือบชั่วโมง เพื่อเตรียมตัวเตรียมใจที่จะนอนร่วมเตียงกับยัยติ๊งต๊องอย่างเธอ นี่นับว่าเป็นครั้งแรกที่ผู้ชายทั้งแท่งอย่างเขาได้นอนร่วมเตียงเดียวกันกับผู้หญิงเพียงคนเดียวที่อยู่ในหัวใจของเขามาตลอดเวลาสิบกว่าปี ถึงแม้มันจะไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้นอนร่วมเตียงเดียวกันกับผู้หญิงก็ตาม ก็อย่างที่พูดนั่นแหละ…เพราะเขาก็แค่ผู้ชายคนหนึ่ง ตอนอยู่เมืองนอกเรื่องอย่างว่ามันก็ต้องมีบ้างตามประสาผู้ชาย

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป…

วายุภัคเปิดประตูห้องน้ำออกมาก็เห็นยัยซื่อบื้อนอนหลับไปแล้ว เธอหลับแทบไม่รู้เรื่องรู้ราวเลยด้วยซ้ำ ท่านอนของเธอก็กระไร เตะผ้าห่มร่นลงมาจนถึงขา ไหนจะชุดนอนบางเบาที่เธอสวมใส่นั่นอีก วายุภัคถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปจับผ้าห่มผืนหนาเลื่อนขึ้นไปห่มคลุมตัวให้เธอ

ร่างหนาเดินเลี่ยงไปสวมใส่กางเกงนอนขายาวบางเบาแต่เปลือยท่อนบน เพราะปกติเขาชอบใส่กางเกงนอนเพียงตัวเดียวเป็นประจำอยู่แล้ว ก่อนร่างสูงใหญ่กำยำจะก้าวขาขึ้นเตียง พร้อมกับตวัดผ้าห่มมาคลุมตัวทั้งเธอและเขาเอาไว้ ก่อนมือหนาจะดึงร่างนุ่มนิ่มของอีกคนเข้ามาไว้ในอ้อมกอดอย่างรักใคร่ เขากะจะไม่แตะต้องตัวเธอแล้ว แต่ในเมื่อความใกล้ชิดและความโหยหาที่ซ่อนอยู่ในส่วนลึกมาตลอด กลับทำให้เขาห้ามใจตัวเองไม่ให้สัมผัสโอบกอดเธอได้

“อื้อออออ” เธอขยับตัวเล็กน้อย ก่อนจะเข้ามาซุกอกแกร่งของเขาราวกับลูกแมวเหมียวขี้อ้อน เธอคงหนาวสินะ แต่…เพราะเธอขยับตัวนั่นแหละทำให้เสื้อสายเดี่ยวชุดนอนไม่ได้นอนของเธอที่สวมใส่อยู่นั้นเลื่อนลงมาจากไหล่มน

‘โอ้วววว มะ แม่เจ้า นี่มัน โนบาร์ !! ’

วายุภัคแทบจะตกตะลึงในความสวยงามเบื้องหน้า ดอกบัวตูมอันอวบใหญ่ที่ถูกบดบังด้วยชุดนอนสีชมพูบางเบา ซึ่งตอนนี้มันแทบจะปิดเต้าอวบเอาไว้ไม่มิด และเผยให้เห็นยอดถันสีหวานอยู่รำไร

“บ้าจริง! มานอนห้องผู้ชายแต่ดันโนบาร์ นี่เธอเป็นผู้หญิงแบบไหนกัน!”

Related chapters

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   จัดการกับความหื่น

    “อื้ออออ…” เธอขยับตัวเบา ๆ อีกครั้งและกระชับอ้อมกอดที่โอบกอดเขาอยู่ให้แน่นขึ้นราวกับเขาเป็นหมอนข้างซะอย่างนั้น พลางซุกไซ้ใบหน้าหวานเข้ากับอกแกร่ง แขนเรียวเล็กตวัดท่อนแขนและขาขึ้นมากอดก่ายพาดหาหมอนข้างที่เธอเคยกอดก่ายอยู่เป็นประจำ แต่กลับกลายเป็นว่าความอ่อนนุ่มของหมอนข้างที่เธอต้องการนั้น เป็นกำลังกอดก่ายชายหนุ่มผู้ซึ่งคืนนี้เธอต้องนอนร่วมเตียงเดียวกันกับเขา วายุภัคเหลือบสายตาคมกริบมองใบหน้าหวานจิ้มลิ้ม ซึ่งตอนนี้เธอเคลื่อนใบหน้าขึ้นมาเกยบนหน้าอกแกร่งหนัดแน่นของเขาราวกับเป็นเด็กน้อยขี้เซา แต่เขาก็ต้องกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่อย่างยากลำบาก เมื่อเห็นปทุมคู่งามอันใหญ่โตเกินขนาดของเธอที่ตระหง่านอยู่เบื้องหน้า เขาลอบกลืนน้ำลายลงคอหลายอึกเพื่อข่มอารมณ์ที่พุ่งสูงของตัวเองเอาไว้ ตอนนี้อะไร ๆ ของเขามันตื่นเพลิดขึ้นมาจนปวดหนึบไปหมดแล้ว เขาได้แต่พยายามข่มอารมณ์ความต้องการของตัวเองเอาไว้ในใจ และพูดกับตัวเองว่าใจเย็นไว้ ๆ “หายใจเข้าพุทธ…หายใจออกโธ…พุทธ…โธ !!” วายุภัคท่องพุทธโธเบา ๆ อยู่หลายรอบ และพยายามสงบจิตสงบใจให้นิ่งไว้ที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ แต่แล้วสายตาคมกริบก็ยังแอบเคลื่อนไปมองหน้าอ

    Last Updated : 2024-12-14
  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   อย่างอื่นก็ใหญ่

    หนึ่งชั่วโมงต่อมา… “พี่หวึ่งศรีไปไหนคะพี่ไวน์” น้ำเสียงใสแจ๋วเอ่ยถามขึ้นเมื่อเดินเข้ามาถึงห้องครัว แต่กลับเจอเพียงแค่คนตัวโตที่กำลังยืนทำอาหารอยู่ด้วยท่าทางที่ดูคล่องแคล่ว “เห็นบอกว่าคุณแม่เรียกให้ไปช่วยทำธุระน่ะ” “ป้าดาน่ะเหรอคะ” “อืม” เขาตอบเพียงสั้น ๆ แค่นั้น ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาทำอาหารตรงหน้าต่อ “แล้วนี่พี่ไวน์ทำอะไรอยู่คะ ให้โรสช่วยไหม” เธอถามขึ้นเมื่อเห็นอีกคนกำลังกุลีกุจอทำอาหารตรงหน้าอย่างตั้งอกตั้งใจ “จะช่วยทำให้มันยุ่งยากเปล่า ๆ มากกว่าล่ะมั้ง” “คิดในทางแง่ดีบ้างสิคะ ถึงโรสจะไม่ถนัดเรื่องทำอาหาร แต่โรสก็พอช่วยหั่นผักได้นะ” พูดเพียงแค่นั้นเธอก็เดินไปหยิบมีดและผักที่วางอยู่บนเคาเตอร์ครัวขึ้นมาและช่วยเขาหั่นผักตรงหน้า “หั่นให้เล็กกว่านี้หน่อยสิ หั่นผักนะไม่ใช่หั่นศพ” “ก็โรสทำไม่เก่งนี่คะ” “มา...เดี๋ยวพี่สอนให้” เขาพูดเพียงแค่นั้นก่อนจะวางมีดที่ถืออยู่ในมือตัวเองลง ร่างแกร่งเดินเข้าไปช้อนด้านหลังก่อนจะเอื้อมไปจับมือเธอที่ถือมีดอยู่แล้วจึงสอนวิธีหั่นผัก ดวงตาคมจ้องมองใบหน้าของเธออย่างอ่อนโยน ร่างกายของเขาแนบชิดกับร่างกายนุ่มนิ่ม ก่อนจะละสายตาจากแก้มเนียนใ

    Last Updated : 2024-12-14
  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   ปะทะริมฝีปาก

    “ไปกันเถอะ เดี๋ยวพี่ต้องเข้าไปที่ร้านอีก” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นก่อนเธอจะพยักหน้ารับเบา ๆ มือหนาเอื้อมไปจับมือเรียวของเธอ สองมือประสานกันก่อนเขาจะเดินจูงมือเธอเดินออกมา เพียงแค่เขาสัมผัสหัวใจไม่รักดีของเธอก็เต้นถี่รัวขึ้นมาราวกับกลองศึก เธอรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นอ่อนโยนจากเขาที่มอบให้ ริมฝีปากอวบอิ่มยิ้มร่าออกมาอย่างมีความสุข จากที่เมื่อก่อนเธอตั้งแง่รังเกียจคนบ้านนอก แต่ตอนนี้เธอกลับอยากจะให้พ่อแม่จับเธอแต่งงานกับเขาซะตอนนี้ให้รู้แล้วรู้รอด เธอหลงรักผู้ชายบ้านนอกที่แสนจะธรรมดาแบบนี้เข้าให้แล้วจริง ๆ แต่…ความรู้สึกของเขานี่สิ เธอไม่รู้เลยว่าเขารู้สึกกับเธอแบบไหนกันแน่ เพราะเขาไม่เคยแสดงออกเลยด้วยซ้ำว่าชอบเธอ โรสรินทร์เดินผ่านแผงขายเนื้อสัตว์ เสียงพ่อค้าเชือดเนื้อดังสนั่นแววตาของเขาดูจริงจังกับงานมาก ๆ กลิ่นคาวของเนื้อสัตว์โชยมาแตะจมูก แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่รบกวนอะไรเธอมากนัก เธอเดินต่อมาจนถึงแผงขายของชำ ข้าวสารอาหารแห้งที่เรียงรายบนชั้นอย่างเป็นระเบียบ แม่ค้าใจดีกำลังชั่งน้ำหนักข้าวสารให้กับลูกค้า ใบหน้าของเธอยิ้มแย้มแจ่มใส เสียงพ่อค้าแม่ค้าตะโกนเรียกลูกค้ากันดังระงม เสียงเด็ก ๆ ที

    Last Updated : 2024-12-14
  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   จูบแรก

    “เข้าไป!!” “โอ๊ยยย โรสเจ็บนะพี่ไวน์!!” เธอบ่นขึ้นมาทันทีเมื่ออีกคนจับร่างของเธอยัดเข้ามาภายในรถ ในขณะที่เขาเองยังคงตีสีหน้าบึ้งตึงและเดินอ้อมขึ้นไปนั่งตรงที่นั่งประจำคนขับ ก่อนจะเหยียบคันเร่งออกไปอย่างรวดเร็วด้วยห้วงอารมณ์ฉุนเฉียว “ขับช้า ๆ หน่อยสิคะ โรสกลัว!!” “ทีอย่างนี้ทำเป็นกลัว ทีเธอไปด่าคนอื่นเขาทำไมไม่กลัว! เมื่อไหร่จะเลิกทำตัวเป็นเด็กไม่รู้จักโตสักทีโรสรินทร์ !!” เขาเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงดุดันแข็งกร้าว “แต่พี่ไวน์ก็เห็น ว่ายัยเตี้ยนั่นมันก็ด่าโรสเหมือนกัน และมันมาว่าโรสก่อนด้วยซ้ำ!!” เธอยังคงเถียงคำไม่ตกฟากอย่างไม่ยอมลดละ “แต่เธอก็ไม่ควรไปต่อล้อต่อเถียงแบบนั้นกับเขา!!” “นี่พี่ไวน์เขาข้างยัยขาสั้นนั่นเหรอ! พี่เข้าข้างคนอื่นทั้งที่คนที่พี่ควรจะเข้าข้างคือโรสซึ่งเป็นคู่หมั้นพี่ ไม่ใช่ยัยเตี้ยตื่นตดนั่น!!” เธอรีบหันไปแหวใส่ด้วยน้ำเสียงแตกพร่า ประกอบกับน้ำตาหยดใส ๆ ที่กำลังเริ่มเอ่อคลอ ทำไมเธอถึงเหมือนจะต้องร้องไห้ทุกครั้งที่โดนเขาเมินใส่ด้วยนะ ทีกับผู้ชายคนอื่นโดยเฉพาะแทนไทซึ่งเป็นแฟนเก่าเธอเอง เธอยังไม่บ่อน้ำตาตื้นเหมือนกับที่โดนเขาต่อว่าแบบนี้เลย เธอแค่โมโหและน

    Last Updated : 2024-12-14
  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   อยากจับไอ้นั่น

    แกร่กกก!! เจ้าของร่างสูงใหญ่เดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จ โดยมีเพียงแค่ผ้าขนหนูผืนเดียวพันเอวสอบไว้พอหมิ่นเหม่ เผยให้เห็นหุ่นล่ำบึ้กซิกแพคเป็นลอนสวยที่ถ้าสาว ๆ คนไหนเห็นเป็นต้องหลงใหล วายุภัคเดินทอดกายไปเปิดตู้เสื้อผ้า และหยิบกางเกงนอนขายาวเนื้อนุ่มใส่สบาย ๆ ขึ้นมาสวมใส่เพียงตัวเดียวและเปลือยท่อนบน ก่อนจะเดินทอดกายมานั่งลงบนเตียงนอน แต่….. “แบร่!!!” “เฮ๊ยยยย!! เล่นอะไรของเธอเนี่ย!!” น้ำเสียงที่ดูตกอกตกใจเอ่ยขึ้นพร้อม ๆ กับร่างสูงใหญ่ดีดลุกขึ้นยืนเต็มความสูงทันทีด้วยความตกใจ ก่อนเขาจะทำหน้าตาดุ ๆ ใส่อีกคนเมื่ออยู่ดี ๆ ผ้าห่มผืนหนาก็เลิกขึ้น และปรากฏร่างบอบบางในชุดนอนบางเบาที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าห่ม เธอแลบลิ้นปลิ้นตาแกล้งทำให้เขาตกใจ และมันก็ได้ผลซะงั้น…เพราะเขาเองก็ดันตกใจขึ้นมาจริง ๆ “ฮ่า ๆ ๆ ทำไมพี่ไวน์หน้าเหวอแบบนั้นคะ ตลกชะมัด!!” เธอหัวเราะร่าออกมาอย่างชอบใจที่เห็นอีกคนหน้าเหวอทำอย่างกับเจอผี “นี่เธอเป็นเด็กสามขวบรึไง เล่นอะไรเป็นเด็ก ๆ ไปได้!!” เขาบ่น ๆ ขึ้นมา พลางถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย “คืนนี้ขอนอนด้วยคนนะคะ” เธอพูดขึ้นเสียงอ่อย “ไม่ได้!!” วายุ

    Last Updated : 2024-12-14
  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   จ๊วดเหล้าขาว

    แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านหลังคาสังกะสีกระทบกับผนังสีขาวสะอาดตาของโรงเพาะเห็ด อากาศข้างในเย็นชื้นต่างจากภายนอกที่ร้อนอบอ้าว ที่มาพร้อมกับกลิ่นดินเปียกผสมกับกลิ่นเห็ดที่โชยมาแตะจมูก วายุภัคในชุดเสื้อยืดสีขาวสบาย ๆ กางเกงยืนส์ขายาว สวมหมวกปีกกว้างและสวมรองเท้าบู๊ทกำลังยืนคุยกับโรสรินทร์ วันนี้เธอมาในชุดเสื้อยืดสีชมพูกางเกงขาสั้น และสวมหมวกปีกกว้างเช่นเดียวกัน ทั้งคู่ยิ้มแย้มอย่างมีความสุขภายในโรงเพาะเห็ด อากาศเย็นสบายอุณหภูมิและความชื้นถูกควบคุมให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของเห็ดแต่ละชนิด บนชั้นวางเรียงรายด้วยเห็ดหลากหลายสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นเห็ดนางฟ้า เห็ดเข็มทอง เห็ดฟาง และเห็ดออรินจิ ซึ่งล้วนเติบโตอย่างสวยงามจนคนตัวเล็กรู้สึกตื่นตาตื่นใจมากเป็นพิเศษ เพราะนี่นับว่าเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอได้มาเห็นอะไรแบบนี้ “การเก็บเห็ดต้องใช้ความระมัดระวัง ไม่ควรจับหรือบิดเห็ด เพราะอาจทำให้เห็ดช้ำได้” เขากำลังอธิบายวิธีการเก็บเห็ดให้กับโรสรินทร์ซึ่งเธอดูมีท่าทีสนอกสนใจมากเป็นพิเศษ “แล้วมันต้องทำยังไงล่ะคะ โรสเป็นคนมือหนัก กลัวว่าเห็ดพี่วายวอดจะวอดวายไปซะก่อนน่ะสิคะถ้าหากว่าให้โรสเป็นคนลงมือเก็บ

    Last Updated : 2024-12-14
  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   โรสของแท้

    “งึกงึกงักงัก มันเป็นงึกงึกงักงัก โอ๊ย …เอิ้กกกก” “อึก! เพลงหยังวะ คุ้น ๆ ฮ่า ๆๆ เอิ้กกก” นายมืดพูดขึ้นพลางหัวเราะชอบอกชอบใจ “จั่งซี้มันต้องถอน จั่งซี้มันต้องถอน…เอิ้กก กก!!… จั่งซี้มันต้องถอนนนน….” โรสรินทร์เริ่มร้องเพลงอย่างไม่เคอะเขิน แม้จะจำเนื้อเพลงได้ไม่ครบถ้วนแต่เธอก็ใส่เต็มอารมณ์ ร่างกายของเธอโยกไปมาตามจังหวะเคาะแก้วเคาะขวดที่ทุกคนบรรเลงให้เป็นจังหวะตามการร้องเพลงของเธอ ไม่เว้นแม้กระทั่งสัตวแพทย์หนุ่มรูปหล่ออย่างคุณหมอณภัทรที่ตบพื้นเถียงนาเสียงดังลั่นจนแทบจะพังถล่มลงมาอยู่แล้ว ส่วนหวึ่งศรีก็เหมือนจะโดนผีแดนช์เซอร์เข้าสิง เต้นโยกซ้ายโยกขวาส่ายเอวตามจังหวะอย่างเร้าใจ “เพลงอ้ายปอยฝ้ายกะมาบาดนี่ คุณโรสนี่สุดยอดอีหลี ร้องเพลงกะม่วน กินเหล้ากะเก่ง คอแข็งกว่าพวกผมอีก” (เพลงพี่ปอยฝ้ายก็มานะเนี่ย คุณโรสนี่สุดยอดจริง ๆ ร้องเพลงก็เพราะ ดื่มเหล้าก็เก่ง คอแข็งกว่าพวกเราอีก) นายมืดเอ่ยชมขึ้นพลางยกนิ้วโป้งให้และตบไม้ตบมืออย่างชอบอกชอบใจ “เกิดมาทั้งที…เราต้องใช้ชีวิตให้คุ้มค่านะนายมืด อึก!!อะไรม่ายเคยลองเราก็ต้องลองดิ อะไรม่ายเคยทำ เราก็ต้องทำ เอิ้กกก! จะได้เป็นรางวัลให้ชี…วิต

    Last Updated : 2024-12-14
  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   อยากเรียกผัว

    วายุภัคประคองโรสรินทร์ที่เดินโซเซเพราะอาการมึนเมามาตามทาง ใบหน้าของเธอแดงก่ำดวงตาเหม่อลอย ปากก็เอาแต่บ่นพึมพำอะไรบางอย่างที่แทบจะฟังไม่ได้ศัพท์มาตลอดทาง อ้อมแขนแกร่งโอบไหล่มนประคองเธอไว้แบกรับน้ำหนักตัวเธอที่อ่อนปวกเปียก กลิ่นแอลกอฮอลล์ผสมกับกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากตัวเธอโชยมาแตะจมูกเป็นระยะชวนให้เขารู้สึกใจเต้นแปลก ๆ พิลึก แต่เขาก็พยายามเดินอย่างมั่นคงเพื่อระวังไม่ให้เธอนั้นสะดุดหรือล้มลงไป ในใจของเขานั้นต่างเต็มไปด้วยความโกรธแต่ก็แฝงไปด้วยความห่วงใย แม้เธอเองจะชอบทำตัวดื้อรั้นกับเขาแต่เวลาที่เธอเมาแบบนี้ มันกลับทำให้เธอดูไร้เดียงสาและน่ารักไปอีกแบบ จนเขาต้องเผลอลอบยิ้มออกมาให้กับความโก๊ะของเธออยู่บ่อยครั้ง “ถึงไหนแล้ว…เอิ้กกกก ทำไมโลกมันถึงได้หมุนติ้วเป็นลูกข่างแบบนี้นะ!!” โรสรินทร์บ่น ๆ ออกมาเมื่อเริ่มรู้สึกสายตาพร่ามัวเหมือนโลกหมุนและเบลอไปหมด แม้เธอจะพยายามเพ่งมองแล้วมองอีกแต่กลับเห็นเป็นภาพซ้อนสองสามภาพซ้อนทับกัน มองไปทางไหนก็ดูพร่าเลือน “หึ ไหนบอกว่าโรสของจริงโรสของแท้ยังไงล่ะ แล้วนี่อะไร แค่จะยืนให้ตรงยังทำไม่ได้เลย” วายุภัคอดที่จะพูดต่อว่าเธอไม่ได้เมื่ออีกคนเซไปเซมายืนไม่ตรงจ

    Last Updated : 2024-12-14

Latest chapter

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   ปั้มลูกNC+ (จบบริบูรณ์)

    โรสรินทร์กับวายุภัคมองสบตากันลึกซึ้งด้วยความรัก ก่อนใบหน้าคมคายจะค่อย ๆ โน้มลงมาประทับลงบนเรียวปากอวบอิ่มของเธอเบา ๆ ริมฝีปากร้อนฉ่าบดเบียดความนุ่มนิ่มของกลีบปากงามอย่างเนิบนาบ นุ่มนวล ส่งผ่านความรักด้วยการกดย้ำขบเม้มริมฝีปากเธออย่างหนักหน่วงด้วยความเร่าร้อนโหยหา “โรสเสียใจไหม ที่ต้องมาอยู่บ้านนอกคอกนากับพี่แบบนี้” เขาเอ่ยถามสีหน้าจริงจัง ดวงตาคมมีเครื่องหมายคำถามอยู่ในดวงตาที่กำลังสะท้อนทุกความรู้สึกออกมาโดยไม่ต้องเอ่ยปากพูด ก่อนคนที่ได้ยินคำถามนั้นจะยิ้มบาง ๆ และเอื้อมมือเรียวสวยไปจับมือใหญ่มากุมไว้ “โรสยินดีและเต็มใจที่จะอยู่ที่นี่กับพี่ไวน์ค่ะ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน หากที่นั่นมีพี่ไวน์อยู่ด้วยโรสก็อยู่ได้ค่ะ” คำตอบของเธอเรียกรอยยิ้มกว้างจากเขาได้เป็นอย่างดี “พี่รักโรสนะครับ รักมากด้วย” วายุภัคเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังและหนักแน่น ก่อนจะค่อย ๆ โน้มตัวลงมาจูบริมฝีปากอวบอิ่มตรงหน้า ดวงตาคู่นั้นของเธอมองมาที่ริมฝีปากของเขาที่เลื่อนเข้ามาใกล้ ๆ รู้ตัวอีกทีเธอก็หลับตาลงอัตโนมัติก่อนจะสัมผัสถึงรสจูบ มันเป็นจูบที่แผ่วเบา นุ่มนวล อ่อนโยน ก่อนจะค่อย ๆ ทวีความลุ่มลึกร้อนแรงมากขึ้นเรื

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   วันแต่งงาน(งานกินดอง)

    สองเดือนผ่านไป… วันแต่งงาน (งานกินดอง) “อร๊ายยยยย วันนี้คุณไวน์หล่อม๊ากกกค้า หล่อจนพอลล่านี่อยากจะดื่มไวน์แดงเลยค่ะ คริคริ” เมื่อขบวนขันหมากของเจ้าบ่าวใกล้เข้ามาแล้ว พอลล่าตะโกนขึ้นมาเสียงดังด้วยความตื่นเต้น พลางหัวเราะคิกคักชอบใจหลงใหลในความหล่อเหลาบาดใจของเจ้าบ่าวป้ายแดง ที่แค่มองจากไกล ๆ รัศมีความหล่อก็แผ่กระจายไปทั่วทั้งทุ่งกุลาร้องไห้ “น้อย ๆ หน่อย นั่นมันผัวเพื่อนไม่ใช่ผัวแกนังพอลล่า” กชกรเอ่ยขึ้นอย่างนึกหมั่นไส้ที่เพื่อนชายใจเป็นหญิงรู้สึกจะดี๊ด๊าชื่นชมเจ้าบ่าวผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผัวเพื่อนอย่างออกหน้าออกตา “ผัวเพื่อนก็เหมือนผัวเรานั่นแหละย่ะ คริ คริ” “แล้วนี่ฉันไม่สวยเลยหรือไงยะ หัดชมเพื่อนแกบ้างก็ได้นะ นี่ขนาดวันนี้ฉันแต่งตัวสวยสุด ๆ แล้วยังไม่เห็นแกคิดจะชมเลยสักคำ ชิส์!” โรสรินทร์พูดแซะขึ้นมาบ้างอย่างหมั่นไส้ “แกก็สวยทุกวันอยู่แล้วค้านังโรส ต่อให้ไม่แต่งแกก็สวยย่ะ แต่…วันนี้พี่ไวน์ผัวแกหล่อมากจริง ๆ นะ หล่อเวอร์วังถูกใจพอลล่ามาก อ๊ายยยย พอลล่าอยากกินไวน์แดงแท่งใหญ่ ๆ!!” “พอ ๆ ๆ เลย ไวน์แดงมันไม่ได้มีเป็นแท่งเหมือนไอติมหรอกนะยะ เลิกสนใจผัวเพื่อนได้แล้ว อย่าง

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   ขอแต่งงาน

    ช่วงสายวันต่อมา…. “ตื่นได้แล้วนะครับ” “อื้อ…ตื่นไม่ได้ โรสง่วง..!” “แต่นี่มันเที่ยงแล้วนะครับ” มือหนาสะกิดปลุกคนขี้เซาที่ยังคนนอนหลับตาพริ้มอย่างสบายอยู่ในอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นราวกับเป็นลูกแมวขี้เซา ยิ่งเวลาเธอหลับแบบนี้เธอก็ยิ่งดูน่ารัก ทำเอาดวงตาคมกริบจ้องมองจนแทบไม่อยากจะละสายตาออกจากใบหน้าหวาน “อื้อ…” เจ้าของร่างบางขยับตัวออกจากอ้อมกอดของเขาเล็กน้อย ก่อนที่จะเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างช้า ๆ และกระพริบตาถี่ ๆ เพื่อไล่แสง “พี่ไวน์!! ออกไปเลยนะคะ ไม่ต้องมาใกล้โรส!!” เธอรีบแหวใส่เขาขึ้นมาทันทีเมื่อเริ่มจะจับต้นชนปลายทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้ ก่อนจะพยายามเบี่ยงตัวหลบออกจากอ้อมแขนแกร่งที่โอบกอดเธอเอาไว้ “จะให้ออกไปไหนล่ะ ก็นี่มันบ้านของพี่” ดวงตากลมโตหันไปมองภายในรอบ ๆ ห้องซ้ายทีขวาที และ…ที่นี่มันก็ไม่ใช่ห้องของเธอจริง ๆ “งั้นก็ปล่อยค่ะ โรสจะออกไปจากที่นี่เอง!!” เธอเอ่ยขึ้นพลางแกะมือหนาที่ยังคงโอบกอดเธอไว้แน่นราวกับคีบเหล็ก แต่มันก็หาเป็นผลไม่ “ปล่อยให้โง่สิครับ ไม่ปล่อย!” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างหน้าด้าน ๆ ยัยแม่มดตัวแสบพอหมดฤทธิ์ของแอลกอฮอล์แล้วตื่นขึ้นมาก็เลยแผลงฤทธิ์เดช

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   น้ำพี่ยังเหลืออีกตั้งเยอะNC+

    สองมือหนาจับขาทั้งสองข้างของเธอแยกออกจากกัน ก่อนจะจ่อแท่งร้อนเข้าไปในร่องรักอันคับแน่นของคนใต้ร่าง วายุภัคมองใบหน้าหวานของโรสรินทร์ที่น้ำตาเอ่อคลอ ก่อนจะค่อย ๆ ดันปลายหัวเห็ดแดงก่ำเข้าไปในร่องคับแคบนั้นอย่างช้า ๆ “อ่าส์…แน่นมาก” “อึก ระ โรสเจ็บ” โรสรินทร์ร้องออกมาเมื่อเธอรู้สึกเจ็บ อีกทั้งความคับแน่นนี้มันยังคงแน่นเหมือนเดิมเหมือนครั้งแรก วายุภัคเองถึงกับต้องซี๊ดปากเบา ๆ เมื่อช่องทางรักของเธอบีบรัดท่อนเนื้อของเขาจนรู้สึกเจ็บเช่นเดียวกัน เขาพยายามดันท่อนเอ็นขนาดใหญ่เข้าไปให้สุด ก่อนเขาจะเริ่มขยับสะโพกสอบเข้าออกเมื่อภายในของเธอเริ่มปรับสภาพกับความใหญ่โตของเขาได้ ท่อนเอ็นที่กำลังผลุบเข้าผลุบออกในร่องสวาทนั้นทำให้คนใต้ร่างเริ่มรู้สึกเสียว “อะ อื้อออ โรสจุก!!” หน้าอกอวบใหญ่เริ่มกระเพื่อมขึ้นลงตามแรงกระแทกกระทั้น มือเรียวขยำผ้าปูที่นอนเอาไว้แน่นเมื่ออีกคนกระแทกเข้าใส่อย่างหนักหน่วง ปั่ก ปั่ก ปั่ก!! เสียงเนื้อกระทบกันเป็นจังหวะเมื่อเขาเริ่มขยับสะโพกแรงขึ้น หนักหน่วงขึ้น โรสรินทร์เม้มปากเอาไว้แน่นเพื่อพยายามข่มเสียงครางอันน่าเกลียดของตัวเองไม่ให้มันดังเล็ดลอดออกมา “อ๊าส์…พูดมาสิ

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   ดีที่จำผัวตัวเองได้

    “ถึงคุณไวน์จะเป็นผัวยัยโรสเพื่อนของพวกเราก็เถอะ ยังไงเกรชกับพอลล่าก็ไม่มีทางปล่อยให้ยัยโรสไปกับผู้ชายโลเลแถมยังกระล่อนปลิ้นปล้อนอย่างคุณไวน์ได้หรอกค่ะ ในเมื่อยัยโรสเพื่อนของพวกเราบอกว่าเลิกกับคุณไปแล้ว พวกเราไม่ปล่อยให้ยัยโรสกลับไปกับคุณได้แน่ ๆ” กชกรเอ่ยขึ้นเสียงแข็ง “ใช่ค่ะ คุณมันเป็นผู้ชายแบบไหนกันคะคุณไวน์ คุณมีคนรักอยู่แล้วยังมาหลอกฟันยัยโรสเพื่อนพวกเราอีก!!” คิ้วหนาของวายุภัคเลิกขึ้นพร้อมขมวดเข้าหากันเป็นปม “ผมไม่เคยทำอะไรแบบนั้นนะครับ ผมไม่เคยคิดแม้แต่จะหลอกอะไรโรสรินทร์” น้ำเสียงเรียบนิ่งของเขาเอ่ยขึ้น “ยัยโรสเป็นคนบอกกับพวกเราเอง ว่าคุณมีคนรักอยู่แล้ว แต่ก็ยังมาหลอกเอามันอีกตั้งหลายน้ำ แถมวันก่อนยังพาแฟนไปซื้อแหวน สวมแหวนให้ผู้หญิงคนนั้นต่อหน้าต่อตายัยโรส!!” “ใช่ เพราะฉะนั้นคุณจะมาพายัยโรสกลับไปไม่ได้ เด็ดขาด พวกเราเป็นเพื่อนรักที่รักที่สุดของยัยโรส ยัยโรสต้องจะกลับไปกับพวกเราเท่านั้น!!” พอลล่าพูดขึ้นอย่างชัดถ้อยชัดคำ อีกทั้งยังยืนยันนอนยันตีลังกายันเสียงแข็งหนักแน่น ก่อนจะพยายามเดินเข้าไปคว้าเอาตัวโรสรินทร์เพื่อนสาวที่สลบไปเพราะเมาหนักให้ออกจากอ้อมแขนแกร่งของวาย

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   เป็นผัว

    “เอาน่า…อย่าร้องไปเลย สวย ๆ รวย ๆ และแถมซาดิสม์อย่างแกหาใหม่ได้สบายอยู่แล้วเพื่อนเลิฟ เดี๋ยวฉันจะจัดน้อง ๆ ทีเด็ดมาเลียแผลใจที่เหวอะหวะของแกให้เอง หรือถ้าแกเผลอถูกใจจะควงไปเลียอย่างอื่นกันต่อก็ได้นะยัยโรส!!” กชกรเอ่ยขึ้นพลางกอดปลอบประโลมเพื่อน “อร๊ายยยย แกเนี่ยพูดถูกใจฉันจริง ๆ นังเกรช! สวยระดับนี้มีเหรอใครจะไม่อยาก เพื่อนฉันน่ะสวยแซ่บสะท้านทรวงนะบอกเลย!” พอลล่าเข้ามาปลอบใจเธอเช่นกัน ก่อนที่กชกรจะหันไปเป็นเชิงส่งซิกอะไรบางอย่างให้กับพนักงานในร้านเรียกบรรดาหนุ่มโฮสต์หล่อ ๆ ล่ำ ๆ ให้เข้ามาดูแลเทคแคร์เพื่อนสาว “ทางนี้จ้าเด็ก ๆ มาเร้ววววว!!” แค่เพียงไม่นานบรรดาเหล่าหนุ่มโฮสต์หล่อ ๆ ล่ำ ๆ มัดกล้ามแน่น ๆ ซิกแพคเป็นลอน ๆ แถมยังนุ่งน้อยห่มน้อยก็ได้เดินเข้ามายืนเรียงรายในห้อง VVIP ที่สามคนนั้นอยู่ แต่ละคนต่างหน้าตาหล่อล่ำ กล้ามแน่น เรียกให้น้ำลายพอลล่าและกชกรแทบจะไหลยืดออกมาราวกับเป็นโรคพิษสุนัขบ้าอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่กับโรสรินทร์เพราะเธอมองผู้ชายหุ่นล่ำกล้ามโตพวกนี้ด้วยใบหน้าเรียบเฉยเหมือนคนไม่มีความรู้สึก เพราะเรื่องหล่อล่ำกล้ามแน่นบรรดาผู้ชายพวกนี้สู้พี่วายวอดไม่ได้สักคนเลยด้วยซ้ำ

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   เช็คเรตติ้ง

    “เอ่อ…ที่ผมมาวันนี้ก็เพราะเรื่องของน้องโรส คุณอาทั้งสองคงพอจะทราบเรื่องแล้ว” วายุภัครีบพูดถึงประเด็นของเรื่องราวที่เกิดขึ้น “อืม อาเองก็พอจะทราบเรื่องแล้ว ยังไงหลานชายเองก็อย่าไปถือสาน้องเลยนะ ยัยตัวแสบลูกสาวอาก็เป็นแบบนี้แหละ ยัยโรสเป็นคนค่อนข้างใจร้อนและเอาแต่ใจไปหน่อย นี่อาก็อุตส่าห์บังคับให้ยัยโรสไปปรับทัศนคติที่โคกหนองนาแล้วนะ ไอ้เราก็คิดว่าจะดีขึ้นและเป็นผู้ใหญ่ขึ้น แต่ที่ไหนได้กลับไม่ได้เรื่อง เฮ้อ!” ท่านสุรพลถอนหายใจออกมาเบา ๆ พลางส่ายหัวให้กับลูกสาวตนเองอย่างเอือมระอา “ยังไงผมก็ต้องกราบขอโทษคุณอาทั้งสองจริง ๆ นะครับ ที่เป็นต้นเหตุทำให้น้องต้องหนีกลับมากรุงเทพปุบปับแบบนี้” วายุภัคลงไปนั่งกับพื้นแล้วก้มลงกราบแทบเท้าของท่านสุรพลและคุณหญิงพิศมัยอย่างรู้สึกผิด ก่อนท่านสุรพลจะใช้มือหนาแตะไปที่บ่าแกร่งบึกบึนของเขาเป็นการยอมรับการกราบขอโทษและสำนึกผิดจริง ๆ “เมื่อทุกอย่างลงตัวแล้วหลังจากนี้ผมอยากจะขออนุญาตคุณอาทั้งสอง พาคุณพ่อคุณแม่มาทาบทามสู่ขอน้องตามธรรมเนียมอย่างสมเกียรติอีกที…ได้หรือไม่ครับ” น้ำเสียงหนักแน่นที่เอ่ยขอออกไปอย่างตรงไปตรงมาประกอบกับสีหน้าและแววตาที่จริงจ

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   กลับกรุงเทพฯ

    ณ สนามบินดอนเมือง… “ยัยโรส ทางนี้!!” กชกรร้องตะโกนขึ้นมาเสียงดัง พลางโบกไม้โบกมือไปมาเมื่อเห็นเพื่อนสาวคนสนิทเดินออกมาจากประตูฝั่งผู้โดยสารขาเข้า “ยัยเกรช! ฮือ…ฉันคิดถึงแกมากเลย” โรสรินทร์รีบโผเข้าหาอ้อมกอดของเพื่อนสนิททันทีที่เดินมาถึง “ไม่ต้องมาปากหวานเลย ไปอยู่บ้านนอกตั้งเดือนกว่า ๆ ฉันนึกว่าแกจะลืมเพื่อนอย่างพวกฉันไปแล้วซะอีก หลังจากวันนั้นแกก็ไม่คิดจะโทรกลับมาหาฉันกับพอลล่าบ้างเลยนะยะ!” กชกรเอ่ยขึ้นอย่างกระเง้ากระงอด “นี่ฉันไปอยู่ร้อยเอ็ดแค่แป้บเดียวเอง แกนี่กลายเป็นคนแก่ไปแล้วเหรอเนี่ย” “อะไร ใครแก่ยะ” กชกรรีบพูดแหวขึ้นมาทันควัน “ก็ขี้น้อยใจเป็นคนแก่ไปได้ไง ถึงฉันไม่ได้โทรหา แต่ฉันก็ส่งข้อความไลน์หาพวกแกทุกวันไหม!!” “เออ นั่นสินะ คิกคิก” กชกรหัวเราะคิกคักขึ้นมา ก่อนเสียงหัวเราะร่านั่นจะเงียบลงเมื่อสังเกตเห็นใบหน้าสวยหวานของเพื่อนสนิทดูแปลกไป ดวงตาคู่สวยนั้นบวมช้ำเหมือนคนที่เพิ่งจะผ่านการร้องไห้มาหมาด ๆ “ยัยโรส แกเป็นอะไรรึเปล่าเนี่ย ทำไมตาแกถึงได้ดูบวม ๆ แดง ๆ เหมือนคนเพิ่งร้องไห้มาเลยล่ะ” กชกรถามขึ้นอย่างห่วงใย พลางจ้องเพื่อนสนิทเพื่อรอฟังคำตอบ “ไว้เดี๋ยวจ

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   เรื่องเข้าใจผิด

    “โรสรินทร์!!” น้ำเสียงเข้มเอ่ยชื่อเธอขึ้น “ไหนพี่ไวน์บอกจะเข้าไปเคลียร์งานที่ร้านแทนลุงพจน์ไงคะ แล้วนี่ทำงานคงจะเหนื่อยมากเลยสินะคะ เลยพาผู้หญิงออกมาซื้อแหวนเล่นแก้เหนื่อยแก้เบื่อ” สองขาเรียวของเธอเดินย่างกรายเข้าไปหาเขาอย่างใจเย็น เพียงแค่เธอเดินผ่านประตูร้านเครื่องประดับสุดหรู ภาพของชายหนุ่มกับหญิงสาวสวยร่างสูงหุ่นดีราวกับนางแบบ ที่กำลังค่อย ๆ บรรจงสวมแหวนให้กันราวกับคู่รักได้เรียกความสนใจให้เธอหยุดยืนจ้องมองภาพของพวกเขาทั้งสองได้เป็นอย่างดี เธอยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นราวกับคนเป็นอัมพาตไปชั่วขณะ และตอนนี้เธอก็รู้สึกว่าทำไมพวกเขาสองคนถึงได้ดูเหมาะสมกันขนาดนี้นะ แต่แล้วจู่ ๆ เธอเองกลับรู้สึกน้อยใจเขาขึ้นมาเอาเสียดื้อ ๆ ทั้ง ๆ ที่เธอเองยังไม่เคยรู้ถึงความรู้สึกของเขาที่มีต่อเธอเลย แม้แต่บอกรักบอกชอบเธอเขาก็ไม่เคยพูดมันออกมาเลยสักครั้ง มีแค่เพียงเธอเท่านั้นที่รู้สึกว่าหลงรักเขาอยู่ฝ่ายเดียว “มะ มันไม่ใช่อย่างที่คิดเลยนะครับ” เขารีบพูดปฏิเสธขึ้นมาอย่างร้อนรน “คงพาแฟนมาซื้อแหวนสินะคะ?” เธอก็แค่พูดมันออกไปอย่างที่ใจนึกคิด เพียงแค่นั้นหัวใจดวงน้อย ๆ ของเธอก็เริ่มหวั่น เมื่อคิดว่า

DMCA.com Protection Status