Share

แผนการ

last update Last Updated: 2024-12-14 08:15:34

‘กรี๊ดดดดดดดด พ่อแก้วแม่แก้วมันเดินมาทางนี้แล้ว คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย บรรพบุรุษทั้งหลายของลูกช้างลูกม้าลูกกาลูกไก่ โปรดจงดลบันดาลให้ลูกรอดพ้นออกไปจากที่นี่ให้ได้ด้วยเถิด สาธุ’

“ไงจ๊ะ น้องสาว เก่งคักติมึงอีคนสวย!!”

(ไงจ๊ะ น้องสาว เก่งนักเหรอมึงอีคนสวย)

ชายแปลกหน้าคนหนึ่งพูดขึ้น พลางเดินเข้ามาหาเธออย่างเอาเรื่อง

“ถอยไป!! พวกมึงสิไสหัวไปไสกะไปคั่นบ่อยากเจ็บโต!”

(ถอยไป!! พวกมึงจะไสหัวไปไหนก็ไป ถ้าไม่อยากเจ็บตัว!)

วายุภัคเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว ประกอบกับนัยน์ตาที่ลุกโชนด้วยไฟโทสะ

“นี่บรรพบุรุษของโรสเข้าไปสิงพี่แล้วหรือไง พี่ไปพูดแบบนั้นกับพวกมันทำไมกัน เดี๋ยวก็พากันเจ็บตัวหมดหรอก” เธอสบถออกมาอีกครั้ง

“ถ้าจะเจ็บตัว ก็คงจะเจ็บตั้งแต่เธอไปปาเก้าอี้ใส่พวกมันแล้วไหม เธอนี่แหละตัวดีเลยยัยติ๊งต๊อง!!” วายุภัคอดที่จะพูดจาต่อว่าเธอไม่ได้ ก็ถ้าไม่ใช่เพราะเธอไปวุ่นวายปาเก้าอี้ใส่พวกมันก่อน เขาก็คงจะไม่ต้องมาเสียเวลาออกโรงแบบนี้หรอก

“กะ ก็โรสตกใจหนิ” เธอบ่นอุบอิบขึ้นมาอีกครั้ง พลางก้มหน้างุดลงมองพื้นเมื่อรู้ว่าตัวเองนั้นเป็นคนผิด

“ฮ่า ๆ คิดว่าพวกกูสิย่านสั้นติ บักหน้าหล่อจั่งมึงสิมาเฮ็ดอีหยังพวกกูได้!!”

(ฮ่า ๆ คิดว่าพวกกูจะกลัวงั้นเหรอ ไอ้หน้าหล่ออย่างมึงจะมาทำอะไรพวกกูได้!!)

ชายแปลกหน้าสบถขึ้นมาด้วยน้ำเสียงกระโชกโฮกฮาก

โรสรินทร์กระตุกชายเสื้อของเขาสองสามครั้ง เธอกลัวทั้งน้ำตา เธอกลัว...กลัวชายแปลกหน้าพวกนั้นมันจะทำอะไรเขาเข้าจริง ๆ

‘ฮือออ… ถ้าประชากรคนหล่อหน้าตาดีอย่างกับพระเอกเกาหลีลดน้อยลงไปอีกเธอจะทำยังไง…โรสรับบ่ได้!!’

“พะ พี่วะ!!” เธอยังไม่ทันเรียกชื่อเขาจบ เขาก็พูดแทรกขึ้นอีกประโยคหนึ่งซะก่อนทันที

“หลบอยู่หลังพี่ แล้วจับมือพี่เอาไว้ อย่าปล่อยเชียวนะ!!”

เขาเอ่ยออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว ก่อนที่เธอจะรีบคว้ามือหนาของเขาเอาไว้แน่นอย่างที่เขาบอกโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น

วายุภัคกำหมัดแน่นแล้วซัดเข้าที่หน้าของชายที่อยู่ตรงหน้า ก่อนชายคนนั้นจะล้มลงไปกองกับพื้น ที่เหลืออีกสองคนวิ่งเข้ามาจะชกเขา แต่เขาหลบทันแล้วถีบเข้าเต็ม ๆ ท้องของชายผมหยิก แต่ก็ยังเหลือชายอีกหนึ่งคน

“เก่งคักติมึงบักหน้าหล่อ อยากฮู้คือกันว่ามึงสิเก่งส่ำได๋”

(เก่งนักหรอมึงไอ้หน้าหล่อ อยากรู้เหมือนกันว่ามึงจะเก่งสักแค่ไหน)

“เข้ามาโลด อย่าเว้าโดน กูเหม็นขี้แข่ว!!”

(เข้ามาเลย อย่าพูดมาก กูเหม็นขี้ฟัน!!)

เสียงขึงขังเอ่ยขึ้น ประกอบกับท่าทางที่ดูเอาจริงเอาจัง

โรสรินทร์ดวงตาเบิกโพลงขึ้นมาทันทีที่ได้ยินคำพูดนั้น ก่อนผู้ชายคนนั้นจะหยิบมีดสั้นที่พกเอาไว้ออกมา

“พี่ไวน์ !!” เธอเรียกชื่อเขาออกมาเสียงดังด้วยความตกใจ

“พี่จัดการได้ ไม่ต้องเป็นห่วง หลับตาซะถ้าเธอไม่อยากเห็นมัน”

คราวนี้เธอคงไม่ทำตามที่เขาบอกแน่ ๆ เพราะอันตรายขนาดนี้เขาจะให้เธอหลับตาลงได้ยังไงกัน

ในขณะที่ชายคนนั้นถือมีดและหัวเราะอย่างสะใจอยู่นั้น วายุภัคก็อาศัยจังหวะนี้เตะเข้าที่หมกหม่ำ (กล่องดวงใจ) ของมัน ชายคนนั้นล้มลงไปนอนกับพื้นร้องโอดโอยหน้าดำหน้าแดงอย่างเจ็บปวด ในขณะเดียวกันชายคนที่ถูกถีบท้องก็ลุกขึ้นมาชนวายุภัคจากข้างหลัง แล้วรวบตัวไว้แน่นจนเขาขยับไม่ได้ แต่พอได้จังหวะหนึ่งเขาก็ใช้ศอกกระแทกจากทางด้านหลังเข้าไปบริเวณท้องชายคนนั้นอย่างเต็มแรง พร้อม ๆ กับป้าคนขายก๋วยเตี๋ยววิ่งเข้ามาจากข้างหลังและชนผู้ชายที่กอดรัดวายุภัคอยู่กระเด็นออกไปจนหน้าไถลไปกับพื้น ส่วนผู้ชายที่ถูกเตะหมกหม่ำ (กล่องดวงใจ) และชายคนที่เธอปาเก้าอี้ใส่จะวิ่งเข้าไปช่วยพยุงชายคนที่หน้าไถลไปกับพื้นให้ลุกขึ้นมาอย่างทุลักทุเล ก่อนพวกมันจะพูดขึ้นทิ้งท้ายพร้อมกันทั้งสามคน

“ฝากไว้ก่อนเถอะมึง!!”

“หึ แล้วอย่าลืมมาเอาคืนเด้อ!!”

(หึ แล้วอย่าลืมมาเอาคืนล่ะ)

วายุภัคตะโกนเสียงดังขึ้นมาตามหลังชายแปลกหน้าทั้งสามคนนั้น

เพี๊ยะ เพี๊ยะ!!

จู่ ๆ ฝ่ามือเล็ก ๆ ของเธอก็ฟาดแขนของเขาอย่างเต็มแรง

“โอ๊ย !! นี่เธอมาตีพี่ทำไม?” เขาเอ่ยถามพลางลูบแขนตัวเองป้อย ๆ บริเวณที่ถูกมือน้อย ๆ ของเธอตี

“ใครใช้ให้พี่ไวน์ไปพูดกับพวกมันแบบนั้นล่ะ ถ้าพวกมันมาเอาคืนจริง ๆ จะทำยังไง?”

“ก็สู้กับมันสิ กลัวทำไม” เขาสบถออกมาเบา ๆ

“ก็โรสเป็นห่วงพี่หนิ อย่าพูดแบบนี้อีกนะโรสไม่ชอบ” เธอพูดขึ้นพลางหน้าดำหน้าแดง หยดน้ำตาใส ๆ ที่พยายามกลั้นเอาไว้กลอกกลิ้งไปมารอบดวงตาก่อนจะหยดแหมะลงมาอาบแก้ม

“เธอจะร้องไห้ทำไมกัน พี่ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย”

“……”

“อย่าห่วงไปเลยน่า…พี่สู้พวกมันได้อยู่แล้ว สบายมาก”

“ฮือ…ฮึก!” สองมือเรียวยกขึ้นมาปิดหน้าพร้อมกับเสียงสะอื้นไห้ที่ดังเล็ดลอดออกมามากกว่าเดิม ทำให้ผู้ชายอกสามศอกอย่างเขารู้สึกหัวใจกระตุกวูบลงไปอยู่ตาตุ่ม

“เฮ้ย!! นี่เธอจะร้องไห้ทำไม!!”

“ฮือออออ ก็โรสกลัวหนิ!!”

“โอเค ๆ พี่ขอโทษ เอาเป็นว่าพี่จะไม่พูดอะไรแบบนั้นอีก โอเคไหมครับ?”

“แต่ว่า….” เธอพูดได้แค่นั้น วายุภัคก็พูดแทรกขึ้นมาซะก่อน

“พี่เข้าใจแล้ว…เธออย่าห่วงเลย” เขาพูดขึ้นมาอีกครั้ง ประกอบกับแววตาที่ดูแน่วแน่จริงจัง

‘โรสเป็นห่วงพี่ไวน์จริง ๆ นะ ถ้าพี่เป็นอะไรขึ้นมา แล้ว….แล้วโรสจะทำยังไงล่ะ? เธอก็คงต้องอดได้เขาเป็นผัว คราวนี้ก็แย่เลยสิ!’ เธอได้แต่นึกในใจ

ป้าคนขายก๋วยเตี๋ยวเดินตรงดิ่งมาหาเธอกับเขาด้วยสีหน้าที่มีแต่ความเป็นกังวล ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ยังดูหวาดกลัว

“ขอบใจหลาย ๆ เด้อ ซุมขี้ยาหมู่นี่มันมักมาอาละวาดอยู่ร้านป้าประจำ บางเทื่อกะมาขู่กินก๋วยเตี๋ยวฟรี บางเทื่อกะมาขู่เอาเงิน ป้าบ่อยากมีปัญหากะเลยยอม ๆ พวกมันไป เพราะขี้คร้านเว้ากับพวกมัน”

(ขอบใจมาก ๆ นะ พวกขี้ยาพวกนี้มันมักมาอาละวาดที่ร้านป้าเป็นประจำ บางครั้งก็มาขู่กินก๋วยเตี๋ยวฟรี บางครั้งก็มาขู่เอาเงิน ป้าไม่อยากมีปัญหาก็เลยยอม ๆ พวกมันไป เพราะขี้คร้านจะคุยกับพวกมัน)

ป้าคนขายก๋วยเตี๋ยวอธิบายให้ฟังและเข้ามาขอบคุณวายุภัคและโรสรินทร์ที่ช่วยเหลือ

“ผมว่าป้าควรจะไปแจ้งตำรวจนะครับ หากคนพวกนี้มาก่อกวนบ่อย ๆ แบบนี้ ถ้าป้าปล่อยพวกมันไปเฉย ๆ พวกมันก็จะได้ใจและก็คงมาทำแบบนี้อยู่เรื่อย ๆ” วายุภัคพูดขึ้นมา

“นั่นสิคะป้า ปล่อยไปแบบนี้เดี๋ยวพวกมันก็ได้ใจ วันหลังพวกมันก็คงมาก่อกวนอีกแน่ ๆ”

“จ้า เดี๋ยวป้าสิไปแจ้งความไว้ แบบนี้ป้ากะบ่ไหวคือกันล่ะ ว่าแต่...ป้าจะขอบใจพวกคุณจั่งได๋ดี?”

(จ้า เดี๋ยวป้าจะไปแจ้งความไว้ แบบนี้ป้าเองก็ไม่ไหวเหมือนกัน ว่าแต่…ป้าจะขอบใจพวกคุณยังไงดี?)

“ไม่เป็นไรหรอกครับ แค่เลี้ยงก๋วยเตี๋ยวพวกเราวันนี้ก็พอ” วายุภัคเอ่ยขึ้น

“แค่นั้นเหรอพ่อหนุ่ม?”

“ครับ งั้นพวกผมคงต้องขอตัวกลับก่อนนะครับ”

“จ้ะ ๆ ขอบใจหลาย ๆ เด้อ”

พูดเพียงแค่นั้นเขาก็จูงมือคนตัวเล็กเดินมาที่รถ ก่อนจะขับออกไปอย่างเร่งรีบเพื่อกลับไปยังโคกหนองนาที่ทุ่งกุลาร้องไห้ โดยที่ระหว่างทางเธอและเขาต่างคนก็ต่างเงียบ ไม่มีใครเอ่ยประโยคไหนออกมาเลยแม้แต่ประโยคเดียว จนกระทั่งขับรถมาถึงโคกหนองนา

หลังจากนั้น…

ภายในห้องลับโดยที่ไม่มีใครรู้ (ไม่งั้นจะเรียกว่าห้องลับเรอะ!!) ได้มีการเจรจาอย่างลับ ๆ เกิดขึ้น

“พวกเจ้าทั้งสี่คนเฮ็ดดีอีหลีเด้อ สมจริงบักคัก ไปเป็นนักแสดงได้เลยเด้หนิ!”

(พวกคุณทั้งสี่คนทำดีมาก สมจริงมาก ๆ ไปเป็นนักแสดงได้เลยนะหนิ!)

หญิงวัยกลางคนเส้นผมสีน้ำตาลอ่อนหยิกเป็นลอนสวยแบบสาวทันสมัยพูดขึ้น เธอคือคุณนายสีดาแม่ของวายุภัคนั่นเอง

“ขอบคุณค่ะ/ครับ” คนขายก๋วยเตี๋ยวและชายแปลกหน้าทั้งสามคนพูดขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน

“ส่วนนี่ !! คือค่าจ้างสำหรับการแสดงของซุมเจ้าเด้อ”

(ส่วนนี่!! คือค่าจ้างสำหรับการแสดงของพวกคุณนะ)

คุณนายสีดาพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับยื่นเงินค่าจ้างจำนวนหนึ่งให้กับทั้งสี่คน ก่อนป้าคนขายก๋วยเตี๋ยวจะเป็นตัวแทนรับเงินนั้นมาจากคุณนายสีดา

“ขอบคุณมากค่ะ/ครับ”

“ขอให้สมหวังเด้อค่ะคุณนาย ถ้ามีงานกินดองมื้อได๋ อย่าลืมเชิญพวกอีฉันไปร่วมงานเด้อค่ะ”

(ขอให้สมหวังนะคะคุณนาย ถ้ามีงานแต่งวันไหน อย่าลืมเชิญพวกเราไปร่วมงานนะคะ) ป้าคนขายก๋วยเตี๋ยวพูด

“อืม บ่ลืมดอก ว่าแต่เจ้านั่นอย่าเผลอเฮ็ดให้ลูกชายฉันสงสัยกะแล้วกัน เพราะลูกชายฉันมากินก๋วยเตี๋ยวร้านนี่เป็นประจำ”

(อืม ไม่ลืมหรอก ว่าแต่คุณอย่าเผลอทำให้ลูกชายฉันสงสัยก็แล้วกัน เพราะลูกชายฉันมากินก๋วยเตี๋ยวร้านนี้เป็นประจำ)

คุณนายสีดาเอ่ยขึ้นทิ้งท้าย ก่อนจะขอตัวกลับบ้านไป….

“เฮ้ออออออ เหนื่อยจัง หาน้ำเย็น ๆ ดื่มดีกว่า...”

โรสรินทร์พูดขึ้นมาเบา ๆ หลังจากกลับมาถึงโคกหนองนา ก่อนจะเดินเลี่ยงเข้าไปในห้องครัวแล้วจึงหยิบขวดน้ำเปล่าเย็น ๆ มาเทลงแก้ว และยกขึ้นดื่มเพื่อดับกระหาย

“ชื่นใจจัง”

หลังจากดื่มน้ำเสร็จแล้ว ร่างบางก็หมุนตัวจะเดินกลับห้องส่วนตัว เพื่อจะได้ไปอาบน้ำชำระร่างกายให้รู้สึกสดชื่น แต่ระหว่างทางเดินก็เจอเข้ากับหวึ่งศรีที่เดินเข้ามาในห้องครัวพอดี

“อ้าว คุณโรส มาเฮ็ดอีหยังอยู่ในครัวคะ”

(อ้าวคุณโรส มาทำอะไรอยู่ในครัวคะ) หวึ่งศรีถามขึ้น

“โรสหิวน้ำค่ะ เลยแวะมาหาน้ำเย็น ๆ ดื่ม งั้นโรสขอตัวก่อนนะคะ ยังไม่ได้อาบน้ำเลยเหนียวตัวจะแย่อยู่แล้ว”

“ฟ้าวอาบฟ้าวนอนเด้อค่ะคุณโรส มื้อนี่วันพระใหญ่ เขาว่ากันว่า…วันพระวันโกนดวงวิญญาณจะถูกปลดปล่อยให้มาขอส่วนบุญ พวกเล่นขงเล่นของกะมักสิปล่อยของในวันพระวันโกน แล้วกะห้ามออกข้างนอกเดี๋ยวสิโดนลมเพลมพัดเด้ค่ะคุณโรส”

(รีบอาบรีบนอนนะคะคุณโรส วันนี้เป็นวันพระใหญ่ เขาว่ากันว่า…วันพระวันโกนดวงวิญญาณจะถูกปลดปล่อยให้มาขอส่วนบุญ พวกเล่นของก็มักจะปล่อยของในวันพระวันโกน แล้วก็ห้ามออกข้างนอกเดี๋ยวจะโดนลมเพลมพัดนะคะคุณโรส)

หวึ่งศรีพูดกระซิบกระซาบให้โรสรินทร์ฟัง พลางทำท่าทางขนลุกขนพองอย่างน่าหวาดกลัว

“จะ จริงเหรอคะพี่หวึ่งศรี” โรสรินทร์ถามขึ้นอีกครั้งเพื่อความแน่ใจพร้อมกลับแสดงท่าทีที่ดูหวาดกลัวเช่นเดียวกัน

“อีหลีค่ะคุณโรส เว้าแล้วหวึ่งศรีฟ้าวกลับห้องก่อนเด้อค่ะ หวึ่งศรีย่านผีค่ะคุณโรส”

(จริง ๆ ค่ะคุณโรส พูดแล้วหวึ่งศรีก็รีบกลับห้องก่อนนะคะ หวึ่งศรีกลัวผีค่ะคุณโรส)

หวึ่งศรีพูดเพียงแค่นั้นก็รีบเดินลิ่วกลับเข้าห้องตัวเองไปทันที ทางด้านโรสรินทร์เองได้ยินแบบนั้นก็รีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าห้องของตัวเองไปเช่นกัน ก่อนหวึ่งศรีที่หลบอยู่อีกมุมหนึ่งจะโผล่หัวออกมาดู ก็ได้แต่ยืนหัวเราะคิกคักอยู่คนเดียวอย่างพอใจ ก่อนจะเดินเลี่ยงไปเรียกนายมืดและลุงเหม้า เพื่อมาทำตามแผนของคุณนายสีดาที่ได้วางแผนเอาไว้ก่อนหน้านี้

Related chapters

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   ขอนอนด้วย

    หลังจากอาบน้ำอาบท่าชำระร่างกายให้ตัวเองได้สดชื่นกระปรี้กระเปร่าแล้ว โรสรินทร์จึงหยิบยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรออกหาผู้เป็นแม่ด้วยความคิดถึง (สวัสดีค่ะคุณแม่ คุณแม่เป็นยังไงบ้างคะ โรสคิดถึงคุณแม่จังเลยค่ะ) น้ำเสียงหวานเอ่ยขึ้นอย่างออดอ้อนผู้เป็นแม่ (ไม่ต้องมาพูดเอาอกเอาใจแม่เลย ไปถึงที่โน่นหลายวันแล้วเพิ่งจะโทรหาแม่ นึกว่าหลงคนที่โน่นจนลืมแม่ไปแล้วซะอีก) คุณหญิงพิศมัยเอ่ยขึ้นอย่างค่อนขอด (แหม…คุณแม่ก็ ใครจะลืมคุณแม่สุดที่รักของโรสได้ล่ะคะ ขี้น้อยใจแบบนี้แก่แล้วนะคะเนี่ย) (ไม่ต้องมาพูดเลย ว่าแต่…หนูอยู่ที่โน่นเป็นยังบ้างลูก พี่ไวน์เขาดูแลเทคแคร์หนูดีไหม) (ดูแลดีมากเลยละค่ะคุณแม่ เสียอย่างเดียวขี้บ่นเป็นคนแก่เหมือนพี่รามเลยค่ะ ชิส์!) เธอกรอกเสียงผ่านปรายสายพลางทำปากยื่นปากยาวอย่างนึกหมั่นไส้คนที่กำลังนินทาอยู่ (เรานี่น๊า…ก็ทำตัวเป็นเด็กดื้อให้พี่เขาบ่นใช่ไหมล่ะ) (เปล่าซะหน่อยนะคะคุณแม่) (ว่าแต่…พี่เขาถูกใจหนูบ้างไหม พี่ไวน์เขาพอจะเป็นผู้ชายในแบบที่หนูชอบได้ไหมลูก) (กล้ามแน่นมากค่ะ อุ๊ย!! มะ ไม่ใช่ค่ะโรสพูดผิด แหะแหะ! พี่เขาก็พอใช้ได้ค่ะคุณแม่ ก็โอเคในระดับนึงค่

    Last Updated : 2024-12-14
  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   จัดการกับความหื่น

    “อื้ออออ…” เธอขยับตัวเบา ๆ อีกครั้งและกระชับอ้อมกอดที่โอบกอดเขาอยู่ให้แน่นขึ้นราวกับเขาเป็นหมอนข้างซะอย่างนั้น พลางซุกไซ้ใบหน้าหวานเข้ากับอกแกร่ง แขนเรียวเล็กตวัดท่อนแขนและขาขึ้นมากอดก่ายพาดหาหมอนข้างที่เธอเคยกอดก่ายอยู่เป็นประจำ แต่กลับกลายเป็นว่าความอ่อนนุ่มของหมอนข้างที่เธอต้องการนั้น เป็นกำลังกอดก่ายชายหนุ่มผู้ซึ่งคืนนี้เธอต้องนอนร่วมเตียงเดียวกันกับเขา วายุภัคเหลือบสายตาคมกริบมองใบหน้าหวานจิ้มลิ้ม ซึ่งตอนนี้เธอเคลื่อนใบหน้าขึ้นมาเกยบนหน้าอกแกร่งหนัดแน่นของเขาราวกับเป็นเด็กน้อยขี้เซา แต่เขาก็ต้องกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่อย่างยากลำบาก เมื่อเห็นปทุมคู่งามอันใหญ่โตเกินขนาดของเธอที่ตระหง่านอยู่เบื้องหน้า เขาลอบกลืนน้ำลายลงคอหลายอึกเพื่อข่มอารมณ์ที่พุ่งสูงของตัวเองเอาไว้ ตอนนี้อะไร ๆ ของเขามันตื่นเพลิดขึ้นมาจนปวดหนึบไปหมดแล้ว เขาได้แต่พยายามข่มอารมณ์ความต้องการของตัวเองเอาไว้ในใจ และพูดกับตัวเองว่าใจเย็นไว้ ๆ “หายใจเข้าพุทธ…หายใจออกโธ…พุทธ…โธ !!” วายุภัคท่องพุทธโธเบา ๆ อยู่หลายรอบ และพยายามสงบจิตสงบใจให้นิ่งไว้ที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ แต่แล้วสายตาคมกริบก็ยังแอบเคลื่อนไปมองหน้าอ

    Last Updated : 2024-12-14
  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   อย่างอื่นก็ใหญ่

    หนึ่งชั่วโมงต่อมา… “พี่หวึ่งศรีไปไหนคะพี่ไวน์” น้ำเสียงใสแจ๋วเอ่ยถามขึ้นเมื่อเดินเข้ามาถึงห้องครัว แต่กลับเจอเพียงแค่คนตัวโตที่กำลังยืนทำอาหารอยู่ด้วยท่าทางที่ดูคล่องแคล่ว “เห็นบอกว่าคุณแม่เรียกให้ไปช่วยทำธุระน่ะ” “ป้าดาน่ะเหรอคะ” “อืม” เขาตอบเพียงสั้น ๆ แค่นั้น ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาทำอาหารตรงหน้าต่อ “แล้วนี่พี่ไวน์ทำอะไรอยู่คะ ให้โรสช่วยไหม” เธอถามขึ้นเมื่อเห็นอีกคนกำลังกุลีกุจอทำอาหารตรงหน้าอย่างตั้งอกตั้งใจ “จะช่วยทำให้มันยุ่งยากเปล่า ๆ มากกว่าล่ะมั้ง” “คิดในทางแง่ดีบ้างสิคะ ถึงโรสจะไม่ถนัดเรื่องทำอาหาร แต่โรสก็พอช่วยหั่นผักได้นะ” พูดเพียงแค่นั้นเธอก็เดินไปหยิบมีดและผักที่วางอยู่บนเคาเตอร์ครัวขึ้นมาและช่วยเขาหั่นผักตรงหน้า “หั่นให้เล็กกว่านี้หน่อยสิ หั่นผักนะไม่ใช่หั่นศพ” “ก็โรสทำไม่เก่งนี่คะ” “มา...เดี๋ยวพี่สอนให้” เขาพูดเพียงแค่นั้นก่อนจะวางมีดที่ถืออยู่ในมือตัวเองลง ร่างแกร่งเดินเข้าไปช้อนด้านหลังก่อนจะเอื้อมไปจับมือเธอที่ถือมีดอยู่แล้วจึงสอนวิธีหั่นผัก ดวงตาคมจ้องมองใบหน้าของเธออย่างอ่อนโยน ร่างกายของเขาแนบชิดกับร่างกายนุ่มนิ่ม ก่อนจะละสายตาจากแก้มเนียนใ

    Last Updated : 2024-12-14
  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   ปะทะริมฝีปาก

    “ไปกันเถอะ เดี๋ยวพี่ต้องเข้าไปที่ร้านอีก” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นก่อนเธอจะพยักหน้ารับเบา ๆ มือหนาเอื้อมไปจับมือเรียวของเธอ สองมือประสานกันก่อนเขาจะเดินจูงมือเธอเดินออกมา เพียงแค่เขาสัมผัสหัวใจไม่รักดีของเธอก็เต้นถี่รัวขึ้นมาราวกับกลองศึก เธอรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นอ่อนโยนจากเขาที่มอบให้ ริมฝีปากอวบอิ่มยิ้มร่าออกมาอย่างมีความสุข จากที่เมื่อก่อนเธอตั้งแง่รังเกียจคนบ้านนอก แต่ตอนนี้เธอกลับอยากจะให้พ่อแม่จับเธอแต่งงานกับเขาซะตอนนี้ให้รู้แล้วรู้รอด เธอหลงรักผู้ชายบ้านนอกที่แสนจะธรรมดาแบบนี้เข้าให้แล้วจริง ๆ แต่…ความรู้สึกของเขานี่สิ เธอไม่รู้เลยว่าเขารู้สึกกับเธอแบบไหนกันแน่ เพราะเขาไม่เคยแสดงออกเลยด้วยซ้ำว่าชอบเธอ โรสรินทร์เดินผ่านแผงขายเนื้อสัตว์ เสียงพ่อค้าเชือดเนื้อดังสนั่นแววตาของเขาดูจริงจังกับงานมาก ๆ กลิ่นคาวของเนื้อสัตว์โชยมาแตะจมูก แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่รบกวนอะไรเธอมากนัก เธอเดินต่อมาจนถึงแผงขายของชำ ข้าวสารอาหารแห้งที่เรียงรายบนชั้นอย่างเป็นระเบียบ แม่ค้าใจดีกำลังชั่งน้ำหนักข้าวสารให้กับลูกค้า ใบหน้าของเธอยิ้มแย้มแจ่มใส เสียงพ่อค้าแม่ค้าตะโกนเรียกลูกค้ากันดังระงม เสียงเด็ก ๆ ที

    Last Updated : 2024-12-14
  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   จูบแรก

    “เข้าไป!!” “โอ๊ยยย โรสเจ็บนะพี่ไวน์!!” เธอบ่นขึ้นมาทันทีเมื่ออีกคนจับร่างของเธอยัดเข้ามาภายในรถ ในขณะที่เขาเองยังคงตีสีหน้าบึ้งตึงและเดินอ้อมขึ้นไปนั่งตรงที่นั่งประจำคนขับ ก่อนจะเหยียบคันเร่งออกไปอย่างรวดเร็วด้วยห้วงอารมณ์ฉุนเฉียว “ขับช้า ๆ หน่อยสิคะ โรสกลัว!!” “ทีอย่างนี้ทำเป็นกลัว ทีเธอไปด่าคนอื่นเขาทำไมไม่กลัว! เมื่อไหร่จะเลิกทำตัวเป็นเด็กไม่รู้จักโตสักทีโรสรินทร์ !!” เขาเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงดุดันแข็งกร้าว “แต่พี่ไวน์ก็เห็น ว่ายัยเตี้ยนั่นมันก็ด่าโรสเหมือนกัน และมันมาว่าโรสก่อนด้วยซ้ำ!!” เธอยังคงเถียงคำไม่ตกฟากอย่างไม่ยอมลดละ “แต่เธอก็ไม่ควรไปต่อล้อต่อเถียงแบบนั้นกับเขา!!” “นี่พี่ไวน์เขาข้างยัยขาสั้นนั่นเหรอ! พี่เข้าข้างคนอื่นทั้งที่คนที่พี่ควรจะเข้าข้างคือโรสซึ่งเป็นคู่หมั้นพี่ ไม่ใช่ยัยเตี้ยตื่นตดนั่น!!” เธอรีบหันไปแหวใส่ด้วยน้ำเสียงแตกพร่า ประกอบกับน้ำตาหยดใส ๆ ที่กำลังเริ่มเอ่อคลอ ทำไมเธอถึงเหมือนจะต้องร้องไห้ทุกครั้งที่โดนเขาเมินใส่ด้วยนะ ทีกับผู้ชายคนอื่นโดยเฉพาะแทนไทซึ่งเป็นแฟนเก่าเธอเอง เธอยังไม่บ่อน้ำตาตื้นเหมือนกับที่โดนเขาต่อว่าแบบนี้เลย เธอแค่โมโหและน

    Last Updated : 2024-12-14
  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   อยากจับไอ้นั่น

    แกร่กกก!! เจ้าของร่างสูงใหญ่เดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จ โดยมีเพียงแค่ผ้าขนหนูผืนเดียวพันเอวสอบไว้พอหมิ่นเหม่ เผยให้เห็นหุ่นล่ำบึ้กซิกแพคเป็นลอนสวยที่ถ้าสาว ๆ คนไหนเห็นเป็นต้องหลงใหล วายุภัคเดินทอดกายไปเปิดตู้เสื้อผ้า และหยิบกางเกงนอนขายาวเนื้อนุ่มใส่สบาย ๆ ขึ้นมาสวมใส่เพียงตัวเดียวและเปลือยท่อนบน ก่อนจะเดินทอดกายมานั่งลงบนเตียงนอน แต่….. “แบร่!!!” “เฮ๊ยยยย!! เล่นอะไรของเธอเนี่ย!!” น้ำเสียงที่ดูตกอกตกใจเอ่ยขึ้นพร้อม ๆ กับร่างสูงใหญ่ดีดลุกขึ้นยืนเต็มความสูงทันทีด้วยความตกใจ ก่อนเขาจะทำหน้าตาดุ ๆ ใส่อีกคนเมื่ออยู่ดี ๆ ผ้าห่มผืนหนาก็เลิกขึ้น และปรากฏร่างบอบบางในชุดนอนบางเบาที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าห่ม เธอแลบลิ้นปลิ้นตาแกล้งทำให้เขาตกใจ และมันก็ได้ผลซะงั้น…เพราะเขาเองก็ดันตกใจขึ้นมาจริง ๆ “ฮ่า ๆ ๆ ทำไมพี่ไวน์หน้าเหวอแบบนั้นคะ ตลกชะมัด!!” เธอหัวเราะร่าออกมาอย่างชอบใจที่เห็นอีกคนหน้าเหวอทำอย่างกับเจอผี “นี่เธอเป็นเด็กสามขวบรึไง เล่นอะไรเป็นเด็ก ๆ ไปได้!!” เขาบ่น ๆ ขึ้นมา พลางถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย “คืนนี้ขอนอนด้วยคนนะคะ” เธอพูดขึ้นเสียงอ่อย “ไม่ได้!!” วายุ

    Last Updated : 2024-12-14
  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   จ๊วดเหล้าขาว

    แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านหลังคาสังกะสีกระทบกับผนังสีขาวสะอาดตาของโรงเพาะเห็ด อากาศข้างในเย็นชื้นต่างจากภายนอกที่ร้อนอบอ้าว ที่มาพร้อมกับกลิ่นดินเปียกผสมกับกลิ่นเห็ดที่โชยมาแตะจมูก วายุภัคในชุดเสื้อยืดสีขาวสบาย ๆ กางเกงยืนส์ขายาว สวมหมวกปีกกว้างและสวมรองเท้าบู๊ทกำลังยืนคุยกับโรสรินทร์ วันนี้เธอมาในชุดเสื้อยืดสีชมพูกางเกงขาสั้น และสวมหมวกปีกกว้างเช่นเดียวกัน ทั้งคู่ยิ้มแย้มอย่างมีความสุขภายในโรงเพาะเห็ด อากาศเย็นสบายอุณหภูมิและความชื้นถูกควบคุมให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของเห็ดแต่ละชนิด บนชั้นวางเรียงรายด้วยเห็ดหลากหลายสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นเห็ดนางฟ้า เห็ดเข็มทอง เห็ดฟาง และเห็ดออรินจิ ซึ่งล้วนเติบโตอย่างสวยงามจนคนตัวเล็กรู้สึกตื่นตาตื่นใจมากเป็นพิเศษ เพราะนี่นับว่าเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอได้มาเห็นอะไรแบบนี้ “การเก็บเห็ดต้องใช้ความระมัดระวัง ไม่ควรจับหรือบิดเห็ด เพราะอาจทำให้เห็ดช้ำได้” เขากำลังอธิบายวิธีการเก็บเห็ดให้กับโรสรินทร์ซึ่งเธอดูมีท่าทีสนอกสนใจมากเป็นพิเศษ “แล้วมันต้องทำยังไงล่ะคะ โรสเป็นคนมือหนัก กลัวว่าเห็ดพี่วายวอดจะวอดวายไปซะก่อนน่ะสิคะถ้าหากว่าให้โรสเป็นคนลงมือเก็บ

    Last Updated : 2024-12-14
  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   โรสของแท้

    “งึกงึกงักงัก มันเป็นงึกงึกงักงัก โอ๊ย …เอิ้กกกก” “อึก! เพลงหยังวะ คุ้น ๆ ฮ่า ๆๆ เอิ้กกก” นายมืดพูดขึ้นพลางหัวเราะชอบอกชอบใจ “จั่งซี้มันต้องถอน จั่งซี้มันต้องถอน…เอิ้กก กก!!… จั่งซี้มันต้องถอนนนน….” โรสรินทร์เริ่มร้องเพลงอย่างไม่เคอะเขิน แม้จะจำเนื้อเพลงได้ไม่ครบถ้วนแต่เธอก็ใส่เต็มอารมณ์ ร่างกายของเธอโยกไปมาตามจังหวะเคาะแก้วเคาะขวดที่ทุกคนบรรเลงให้เป็นจังหวะตามการร้องเพลงของเธอ ไม่เว้นแม้กระทั่งสัตวแพทย์หนุ่มรูปหล่ออย่างคุณหมอณภัทรที่ตบพื้นเถียงนาเสียงดังลั่นจนแทบจะพังถล่มลงมาอยู่แล้ว ส่วนหวึ่งศรีก็เหมือนจะโดนผีแดนช์เซอร์เข้าสิง เต้นโยกซ้ายโยกขวาส่ายเอวตามจังหวะอย่างเร้าใจ “เพลงอ้ายปอยฝ้ายกะมาบาดนี่ คุณโรสนี่สุดยอดอีหลี ร้องเพลงกะม่วน กินเหล้ากะเก่ง คอแข็งกว่าพวกผมอีก” (เพลงพี่ปอยฝ้ายก็มานะเนี่ย คุณโรสนี่สุดยอดจริง ๆ ร้องเพลงก็เพราะ ดื่มเหล้าก็เก่ง คอแข็งกว่าพวกเราอีก) นายมืดเอ่ยชมขึ้นพลางยกนิ้วโป้งให้และตบไม้ตบมืออย่างชอบอกชอบใจ “เกิดมาทั้งที…เราต้องใช้ชีวิตให้คุ้มค่านะนายมืด อึก!!อะไรม่ายเคยลองเราก็ต้องลองดิ อะไรม่ายเคยทำ เราก็ต้องทำ เอิ้กกก! จะได้เป็นรางวัลให้ชี…วิต

    Last Updated : 2024-12-14

Latest chapter

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   ปั้มลูกNC+ (จบบริบูรณ์)

    โรสรินทร์กับวายุภัคมองสบตากันลึกซึ้งด้วยความรัก ก่อนใบหน้าคมคายจะค่อย ๆ โน้มลงมาประทับลงบนเรียวปากอวบอิ่มของเธอเบา ๆ ริมฝีปากร้อนฉ่าบดเบียดความนุ่มนิ่มของกลีบปากงามอย่างเนิบนาบ นุ่มนวล ส่งผ่านความรักด้วยการกดย้ำขบเม้มริมฝีปากเธออย่างหนักหน่วงด้วยความเร่าร้อนโหยหา “โรสเสียใจไหม ที่ต้องมาอยู่บ้านนอกคอกนากับพี่แบบนี้” เขาเอ่ยถามสีหน้าจริงจัง ดวงตาคมมีเครื่องหมายคำถามอยู่ในดวงตาที่กำลังสะท้อนทุกความรู้สึกออกมาโดยไม่ต้องเอ่ยปากพูด ก่อนคนที่ได้ยินคำถามนั้นจะยิ้มบาง ๆ และเอื้อมมือเรียวสวยไปจับมือใหญ่มากุมไว้ “โรสยินดีและเต็มใจที่จะอยู่ที่นี่กับพี่ไวน์ค่ะ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน หากที่นั่นมีพี่ไวน์อยู่ด้วยโรสก็อยู่ได้ค่ะ” คำตอบของเธอเรียกรอยยิ้มกว้างจากเขาได้เป็นอย่างดี “พี่รักโรสนะครับ รักมากด้วย” วายุภัคเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังและหนักแน่น ก่อนจะค่อย ๆ โน้มตัวลงมาจูบริมฝีปากอวบอิ่มตรงหน้า ดวงตาคู่นั้นของเธอมองมาที่ริมฝีปากของเขาที่เลื่อนเข้ามาใกล้ ๆ รู้ตัวอีกทีเธอก็หลับตาลงอัตโนมัติก่อนจะสัมผัสถึงรสจูบ มันเป็นจูบที่แผ่วเบา นุ่มนวล อ่อนโยน ก่อนจะค่อย ๆ ทวีความลุ่มลึกร้อนแรงมากขึ้นเรื

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   วันแต่งงาน(งานกินดอง)

    สองเดือนผ่านไป… วันแต่งงาน (งานกินดอง) “อร๊ายยยยย วันนี้คุณไวน์หล่อม๊ากกกค้า หล่อจนพอลล่านี่อยากจะดื่มไวน์แดงเลยค่ะ คริคริ” เมื่อขบวนขันหมากของเจ้าบ่าวใกล้เข้ามาแล้ว พอลล่าตะโกนขึ้นมาเสียงดังด้วยความตื่นเต้น พลางหัวเราะคิกคักชอบใจหลงใหลในความหล่อเหลาบาดใจของเจ้าบ่าวป้ายแดง ที่แค่มองจากไกล ๆ รัศมีความหล่อก็แผ่กระจายไปทั่วทั้งทุ่งกุลาร้องไห้ “น้อย ๆ หน่อย นั่นมันผัวเพื่อนไม่ใช่ผัวแกนังพอลล่า” กชกรเอ่ยขึ้นอย่างนึกหมั่นไส้ที่เพื่อนชายใจเป็นหญิงรู้สึกจะดี๊ด๊าชื่นชมเจ้าบ่าวผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผัวเพื่อนอย่างออกหน้าออกตา “ผัวเพื่อนก็เหมือนผัวเรานั่นแหละย่ะ คริ คริ” “แล้วนี่ฉันไม่สวยเลยหรือไงยะ หัดชมเพื่อนแกบ้างก็ได้นะ นี่ขนาดวันนี้ฉันแต่งตัวสวยสุด ๆ แล้วยังไม่เห็นแกคิดจะชมเลยสักคำ ชิส์!” โรสรินทร์พูดแซะขึ้นมาบ้างอย่างหมั่นไส้ “แกก็สวยทุกวันอยู่แล้วค้านังโรส ต่อให้ไม่แต่งแกก็สวยย่ะ แต่…วันนี้พี่ไวน์ผัวแกหล่อมากจริง ๆ นะ หล่อเวอร์วังถูกใจพอลล่ามาก อ๊ายยยย พอลล่าอยากกินไวน์แดงแท่งใหญ่ ๆ!!” “พอ ๆ ๆ เลย ไวน์แดงมันไม่ได้มีเป็นแท่งเหมือนไอติมหรอกนะยะ เลิกสนใจผัวเพื่อนได้แล้ว อย่าง

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   ขอแต่งงาน

    ช่วงสายวันต่อมา…. “ตื่นได้แล้วนะครับ” “อื้อ…ตื่นไม่ได้ โรสง่วง..!” “แต่นี่มันเที่ยงแล้วนะครับ” มือหนาสะกิดปลุกคนขี้เซาที่ยังคนนอนหลับตาพริ้มอย่างสบายอยู่ในอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นราวกับเป็นลูกแมวขี้เซา ยิ่งเวลาเธอหลับแบบนี้เธอก็ยิ่งดูน่ารัก ทำเอาดวงตาคมกริบจ้องมองจนแทบไม่อยากจะละสายตาออกจากใบหน้าหวาน “อื้อ…” เจ้าของร่างบางขยับตัวออกจากอ้อมกอดของเขาเล็กน้อย ก่อนที่จะเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างช้า ๆ และกระพริบตาถี่ ๆ เพื่อไล่แสง “พี่ไวน์!! ออกไปเลยนะคะ ไม่ต้องมาใกล้โรส!!” เธอรีบแหวใส่เขาขึ้นมาทันทีเมื่อเริ่มจะจับต้นชนปลายทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้ ก่อนจะพยายามเบี่ยงตัวหลบออกจากอ้อมแขนแกร่งที่โอบกอดเธอเอาไว้ “จะให้ออกไปไหนล่ะ ก็นี่มันบ้านของพี่” ดวงตากลมโตหันไปมองภายในรอบ ๆ ห้องซ้ายทีขวาที และ…ที่นี่มันก็ไม่ใช่ห้องของเธอจริง ๆ “งั้นก็ปล่อยค่ะ โรสจะออกไปจากที่นี่เอง!!” เธอเอ่ยขึ้นพลางแกะมือหนาที่ยังคงโอบกอดเธอไว้แน่นราวกับคีบเหล็ก แต่มันก็หาเป็นผลไม่ “ปล่อยให้โง่สิครับ ไม่ปล่อย!” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างหน้าด้าน ๆ ยัยแม่มดตัวแสบพอหมดฤทธิ์ของแอลกอฮอล์แล้วตื่นขึ้นมาก็เลยแผลงฤทธิ์เดช

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   น้ำพี่ยังเหลืออีกตั้งเยอะNC+

    สองมือหนาจับขาทั้งสองข้างของเธอแยกออกจากกัน ก่อนจะจ่อแท่งร้อนเข้าไปในร่องรักอันคับแน่นของคนใต้ร่าง วายุภัคมองใบหน้าหวานของโรสรินทร์ที่น้ำตาเอ่อคลอ ก่อนจะค่อย ๆ ดันปลายหัวเห็ดแดงก่ำเข้าไปในร่องคับแคบนั้นอย่างช้า ๆ “อ่าส์…แน่นมาก” “อึก ระ โรสเจ็บ” โรสรินทร์ร้องออกมาเมื่อเธอรู้สึกเจ็บ อีกทั้งความคับแน่นนี้มันยังคงแน่นเหมือนเดิมเหมือนครั้งแรก วายุภัคเองถึงกับต้องซี๊ดปากเบา ๆ เมื่อช่องทางรักของเธอบีบรัดท่อนเนื้อของเขาจนรู้สึกเจ็บเช่นเดียวกัน เขาพยายามดันท่อนเอ็นขนาดใหญ่เข้าไปให้สุด ก่อนเขาจะเริ่มขยับสะโพกสอบเข้าออกเมื่อภายในของเธอเริ่มปรับสภาพกับความใหญ่โตของเขาได้ ท่อนเอ็นที่กำลังผลุบเข้าผลุบออกในร่องสวาทนั้นทำให้คนใต้ร่างเริ่มรู้สึกเสียว “อะ อื้อออ โรสจุก!!” หน้าอกอวบใหญ่เริ่มกระเพื่อมขึ้นลงตามแรงกระแทกกระทั้น มือเรียวขยำผ้าปูที่นอนเอาไว้แน่นเมื่ออีกคนกระแทกเข้าใส่อย่างหนักหน่วง ปั่ก ปั่ก ปั่ก!! เสียงเนื้อกระทบกันเป็นจังหวะเมื่อเขาเริ่มขยับสะโพกแรงขึ้น หนักหน่วงขึ้น โรสรินทร์เม้มปากเอาไว้แน่นเพื่อพยายามข่มเสียงครางอันน่าเกลียดของตัวเองไม่ให้มันดังเล็ดลอดออกมา “อ๊าส์…พูดมาสิ

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   ดีที่จำผัวตัวเองได้

    “ถึงคุณไวน์จะเป็นผัวยัยโรสเพื่อนของพวกเราก็เถอะ ยังไงเกรชกับพอลล่าก็ไม่มีทางปล่อยให้ยัยโรสไปกับผู้ชายโลเลแถมยังกระล่อนปลิ้นปล้อนอย่างคุณไวน์ได้หรอกค่ะ ในเมื่อยัยโรสเพื่อนของพวกเราบอกว่าเลิกกับคุณไปแล้ว พวกเราไม่ปล่อยให้ยัยโรสกลับไปกับคุณได้แน่ ๆ” กชกรเอ่ยขึ้นเสียงแข็ง “ใช่ค่ะ คุณมันเป็นผู้ชายแบบไหนกันคะคุณไวน์ คุณมีคนรักอยู่แล้วยังมาหลอกฟันยัยโรสเพื่อนพวกเราอีก!!” คิ้วหนาของวายุภัคเลิกขึ้นพร้อมขมวดเข้าหากันเป็นปม “ผมไม่เคยทำอะไรแบบนั้นนะครับ ผมไม่เคยคิดแม้แต่จะหลอกอะไรโรสรินทร์” น้ำเสียงเรียบนิ่งของเขาเอ่ยขึ้น “ยัยโรสเป็นคนบอกกับพวกเราเอง ว่าคุณมีคนรักอยู่แล้ว แต่ก็ยังมาหลอกเอามันอีกตั้งหลายน้ำ แถมวันก่อนยังพาแฟนไปซื้อแหวน สวมแหวนให้ผู้หญิงคนนั้นต่อหน้าต่อตายัยโรส!!” “ใช่ เพราะฉะนั้นคุณจะมาพายัยโรสกลับไปไม่ได้ เด็ดขาด พวกเราเป็นเพื่อนรักที่รักที่สุดของยัยโรส ยัยโรสต้องจะกลับไปกับพวกเราเท่านั้น!!” พอลล่าพูดขึ้นอย่างชัดถ้อยชัดคำ อีกทั้งยังยืนยันนอนยันตีลังกายันเสียงแข็งหนักแน่น ก่อนจะพยายามเดินเข้าไปคว้าเอาตัวโรสรินทร์เพื่อนสาวที่สลบไปเพราะเมาหนักให้ออกจากอ้อมแขนแกร่งของวาย

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   เป็นผัว

    “เอาน่า…อย่าร้องไปเลย สวย ๆ รวย ๆ และแถมซาดิสม์อย่างแกหาใหม่ได้สบายอยู่แล้วเพื่อนเลิฟ เดี๋ยวฉันจะจัดน้อง ๆ ทีเด็ดมาเลียแผลใจที่เหวอะหวะของแกให้เอง หรือถ้าแกเผลอถูกใจจะควงไปเลียอย่างอื่นกันต่อก็ได้นะยัยโรส!!” กชกรเอ่ยขึ้นพลางกอดปลอบประโลมเพื่อน “อร๊ายยยย แกเนี่ยพูดถูกใจฉันจริง ๆ นังเกรช! สวยระดับนี้มีเหรอใครจะไม่อยาก เพื่อนฉันน่ะสวยแซ่บสะท้านทรวงนะบอกเลย!” พอลล่าเข้ามาปลอบใจเธอเช่นกัน ก่อนที่กชกรจะหันไปเป็นเชิงส่งซิกอะไรบางอย่างให้กับพนักงานในร้านเรียกบรรดาหนุ่มโฮสต์หล่อ ๆ ล่ำ ๆ ให้เข้ามาดูแลเทคแคร์เพื่อนสาว “ทางนี้จ้าเด็ก ๆ มาเร้ววววว!!” แค่เพียงไม่นานบรรดาเหล่าหนุ่มโฮสต์หล่อ ๆ ล่ำ ๆ มัดกล้ามแน่น ๆ ซิกแพคเป็นลอน ๆ แถมยังนุ่งน้อยห่มน้อยก็ได้เดินเข้ามายืนเรียงรายในห้อง VVIP ที่สามคนนั้นอยู่ แต่ละคนต่างหน้าตาหล่อล่ำ กล้ามแน่น เรียกให้น้ำลายพอลล่าและกชกรแทบจะไหลยืดออกมาราวกับเป็นโรคพิษสุนัขบ้าอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่กับโรสรินทร์เพราะเธอมองผู้ชายหุ่นล่ำกล้ามโตพวกนี้ด้วยใบหน้าเรียบเฉยเหมือนคนไม่มีความรู้สึก เพราะเรื่องหล่อล่ำกล้ามแน่นบรรดาผู้ชายพวกนี้สู้พี่วายวอดไม่ได้สักคนเลยด้วยซ้ำ

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   เช็คเรตติ้ง

    “เอ่อ…ที่ผมมาวันนี้ก็เพราะเรื่องของน้องโรส คุณอาทั้งสองคงพอจะทราบเรื่องแล้ว” วายุภัครีบพูดถึงประเด็นของเรื่องราวที่เกิดขึ้น “อืม อาเองก็พอจะทราบเรื่องแล้ว ยังไงหลานชายเองก็อย่าไปถือสาน้องเลยนะ ยัยตัวแสบลูกสาวอาก็เป็นแบบนี้แหละ ยัยโรสเป็นคนค่อนข้างใจร้อนและเอาแต่ใจไปหน่อย นี่อาก็อุตส่าห์บังคับให้ยัยโรสไปปรับทัศนคติที่โคกหนองนาแล้วนะ ไอ้เราก็คิดว่าจะดีขึ้นและเป็นผู้ใหญ่ขึ้น แต่ที่ไหนได้กลับไม่ได้เรื่อง เฮ้อ!” ท่านสุรพลถอนหายใจออกมาเบา ๆ พลางส่ายหัวให้กับลูกสาวตนเองอย่างเอือมระอา “ยังไงผมก็ต้องกราบขอโทษคุณอาทั้งสองจริง ๆ นะครับ ที่เป็นต้นเหตุทำให้น้องต้องหนีกลับมากรุงเทพปุบปับแบบนี้” วายุภัคลงไปนั่งกับพื้นแล้วก้มลงกราบแทบเท้าของท่านสุรพลและคุณหญิงพิศมัยอย่างรู้สึกผิด ก่อนท่านสุรพลจะใช้มือหนาแตะไปที่บ่าแกร่งบึกบึนของเขาเป็นการยอมรับการกราบขอโทษและสำนึกผิดจริง ๆ “เมื่อทุกอย่างลงตัวแล้วหลังจากนี้ผมอยากจะขออนุญาตคุณอาทั้งสอง พาคุณพ่อคุณแม่มาทาบทามสู่ขอน้องตามธรรมเนียมอย่างสมเกียรติอีกที…ได้หรือไม่ครับ” น้ำเสียงหนักแน่นที่เอ่ยขอออกไปอย่างตรงไปตรงมาประกอบกับสีหน้าและแววตาที่จริงจ

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   กลับกรุงเทพฯ

    ณ สนามบินดอนเมือง… “ยัยโรส ทางนี้!!” กชกรร้องตะโกนขึ้นมาเสียงดัง พลางโบกไม้โบกมือไปมาเมื่อเห็นเพื่อนสาวคนสนิทเดินออกมาจากประตูฝั่งผู้โดยสารขาเข้า “ยัยเกรช! ฮือ…ฉันคิดถึงแกมากเลย” โรสรินทร์รีบโผเข้าหาอ้อมกอดของเพื่อนสนิททันทีที่เดินมาถึง “ไม่ต้องมาปากหวานเลย ไปอยู่บ้านนอกตั้งเดือนกว่า ๆ ฉันนึกว่าแกจะลืมเพื่อนอย่างพวกฉันไปแล้วซะอีก หลังจากวันนั้นแกก็ไม่คิดจะโทรกลับมาหาฉันกับพอลล่าบ้างเลยนะยะ!” กชกรเอ่ยขึ้นอย่างกระเง้ากระงอด “นี่ฉันไปอยู่ร้อยเอ็ดแค่แป้บเดียวเอง แกนี่กลายเป็นคนแก่ไปแล้วเหรอเนี่ย” “อะไร ใครแก่ยะ” กชกรรีบพูดแหวขึ้นมาทันควัน “ก็ขี้น้อยใจเป็นคนแก่ไปได้ไง ถึงฉันไม่ได้โทรหา แต่ฉันก็ส่งข้อความไลน์หาพวกแกทุกวันไหม!!” “เออ นั่นสินะ คิกคิก” กชกรหัวเราะคิกคักขึ้นมา ก่อนเสียงหัวเราะร่านั่นจะเงียบลงเมื่อสังเกตเห็นใบหน้าสวยหวานของเพื่อนสนิทดูแปลกไป ดวงตาคู่สวยนั้นบวมช้ำเหมือนคนที่เพิ่งจะผ่านการร้องไห้มาหมาด ๆ “ยัยโรส แกเป็นอะไรรึเปล่าเนี่ย ทำไมตาแกถึงได้ดูบวม ๆ แดง ๆ เหมือนคนเพิ่งร้องไห้มาเลยล่ะ” กชกรถามขึ้นอย่างห่วงใย พลางจ้องเพื่อนสนิทเพื่อรอฟังคำตอบ “ไว้เดี๋ยวจ

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   เรื่องเข้าใจผิด

    “โรสรินทร์!!” น้ำเสียงเข้มเอ่ยชื่อเธอขึ้น “ไหนพี่ไวน์บอกจะเข้าไปเคลียร์งานที่ร้านแทนลุงพจน์ไงคะ แล้วนี่ทำงานคงจะเหนื่อยมากเลยสินะคะ เลยพาผู้หญิงออกมาซื้อแหวนเล่นแก้เหนื่อยแก้เบื่อ” สองขาเรียวของเธอเดินย่างกรายเข้าไปหาเขาอย่างใจเย็น เพียงแค่เธอเดินผ่านประตูร้านเครื่องประดับสุดหรู ภาพของชายหนุ่มกับหญิงสาวสวยร่างสูงหุ่นดีราวกับนางแบบ ที่กำลังค่อย ๆ บรรจงสวมแหวนให้กันราวกับคู่รักได้เรียกความสนใจให้เธอหยุดยืนจ้องมองภาพของพวกเขาทั้งสองได้เป็นอย่างดี เธอยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นราวกับคนเป็นอัมพาตไปชั่วขณะ และตอนนี้เธอก็รู้สึกว่าทำไมพวกเขาสองคนถึงได้ดูเหมาะสมกันขนาดนี้นะ แต่แล้วจู่ ๆ เธอเองกลับรู้สึกน้อยใจเขาขึ้นมาเอาเสียดื้อ ๆ ทั้ง ๆ ที่เธอเองยังไม่เคยรู้ถึงความรู้สึกของเขาที่มีต่อเธอเลย แม้แต่บอกรักบอกชอบเธอเขาก็ไม่เคยพูดมันออกมาเลยสักครั้ง มีแค่เพียงเธอเท่านั้นที่รู้สึกว่าหลงรักเขาอยู่ฝ่ายเดียว “มะ มันไม่ใช่อย่างที่คิดเลยนะครับ” เขารีบพูดปฏิเสธขึ้นมาอย่างร้อนรน “คงพาแฟนมาซื้อแหวนสินะคะ?” เธอก็แค่พูดมันออกไปอย่างที่ใจนึกคิด เพียงแค่นั้นหัวใจดวงน้อย ๆ ของเธอก็เริ่มหวั่น เมื่อคิดว่า

DMCA.com Protection Status