แชร์

หวง

ผู้เขียน: สโนว์ไวท์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-14 08:14:22

“ผมว่าคุณโรสไปล้างเท้าตรงโน้นก่อนดีกว่านะครับ”

หมอณภัทรเอ่ยขึ้นพลางชี้นิ้วเรียวยาวไปตรงตุ่มใส่น้ำที่อยู่ใต้ต้นมะม่วง ก่อนโรสรินทร์จะรีบก้มลงไปมองที่เท้าของตัวเองซึ่งตอนนี้ขี้ควายติดเต็มเท้าของเธอไปหมด

“อี๋ ขี้ควายเลอะเต็มเท้าเลยค่ะคุณหมอ”

“ไปครับ เดี๋ยวผมช่วยล้าง”

“ค่ะ”

หมั่บ!!

“อุ๊ย พี่ไวน์!!” เธอร้องขึ้นมาเสียงดังเมื่อจู่ ๆ วายุภัคก็เดินเข้ามากระชากแขนเธอแรง ๆ จนร่างบางเซถลาเข้าไปกระแทกกับอกแกร่งอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว

“เดี๋ยวพี่พาไปล้างเอง หากให้ไอ้หมอพาไปมีหวังเดี๋ยวคนซุ่มซ่ามอย่างเธอได้หาเรื่องให้ไอ้หมอมันซวยไปด้วยอีก” พูดจบมือหนาก็จับข้อมือบางดึงกระชากแรง ๆ ให้เธอเดินตามไป

“เบา ๆ สิวะไอ้ไวน์ เดี๋ยวคุณโรสได้ล้มหน้าทิ่มลงไปอีกหรอก” สัตวแพทย์หนุ่มเอ่ยขึ้นตามหลังในขณะที่ทั้งสองคนได้เดินออกไปแล้ว พลางส่ายหัวเบา ๆ อย่างระอาให้กับพฤติกรรมที่ส่อแววไปในทางหึงหวงของเพื่อน

“เบิ่งท่าแล้ว…คุณไวน์คงสิหึงคุณโรสล่ะครับคุณหมอ”

(ดูท่าแล้ว…คุณไวน์คงจะหึงคุณโรสล่ะครับคุณหมอ)

นายมืดเอ่ยขึ้นพลางมองตามหลังของบุคคลทั้งสองที่เดินห่างออกไปแล้ว

“นั่นน่ะสิ หึงขนาดนี้มันยังฟอร์มเยอะอยู่ได้ เดี๋ยวพ่อจะแกล้งซะให้เข็ดเลยไอ้เพื่อนบ้าเนี่ย”

ณภัทรสบถออกมาเบา ๆ ริมฝีปากหนายกยิ้มมุมปากอย่างพอใจ เมื่อพลางนึกอะไรสนุก ๆ เพื่อแกล้งเพื่อนสนิทอย่างวายุภัคขึ้นมาได้

“ยืนนิ่ง ๆ เดี๋ยวพี่ล้างให้” น้ำเสียงนิ่ง ๆ ปนดุนิด ๆ แต่แฝงไปด้วยความห่วงใยเอ่ยขึ้น ก่อนวายุภัคจะเดินไปเปิดก๊อกน้ำแล้วจึงลากสายยางมาฉีดตรงบริเวณเท้าทั้งสองข้างของเธอเพื่อล้างขี้ควายออกให้ ดวงตากลมโตจ้องมองการกระทำของเขาไม่วางตา เวลาเขาพูดดี ๆ ไม่ดุด่าเธอเขาก็ช่างเป็นผู้ชายที่ดูน่ารัก สุภาพ และยังดูอบอุ่นอีก ไหนจะท่าทางที่เขาดูเป็นห่วงเป็นใยเธอ มิหนำซ้ำเขายังใช้มือถู ๆ และล้างขี้ควายออกจากเท้าให้เธออย่างไม่รังเกียจนั่นอีก การกระทำที่ดีแสนดีแบบนี้มีหรือผู้หญิงอย่างเธอจะไม่เทใจให้หนุ่มภูธรคนนี้ คนที่เมื่อก่อนเธอตั้งแง่รังเกียจ

“นั่นเธอกำลังคิดอะไรอยู่” วายุภัคเอ่ยขึ้นเมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นเธอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่พลางทำหน้าเคลิบเคลิ้มใจลอยแปลก ๆ

“หล่อ…” เธอพูดขึ้นมาอย่างไม่ได้คิด

“อะไรนะ!!”

“เอ่อ…ปะ เปล่าค่ะ เมื่อกี้พี่วายวอดพูดว่าอะไรนะคะ โรสไม่ได้ฟัง!!” วายุภัคถึงกับถอนหายใจออกมาเบา ๆ อย่างเอือมระอา ก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างนึกรำคาญ

“ติ๊งต๊อง!!” พูดเพียงแค่นั้นเจ้าของร่างสูงใหญ่ก็เดินลิ่วขึ้นไปบนบ้านทันที ปล่อยให้เธอยืนทำปากบ่นขมุบขมิบอยู่คนเดียวแบบนั้น

“คุณไวน์สิให้หวึ่งศรีตั้งโต๊ะอาหารเช้าเลยบ่คะ”

(คุณไวน์จะให้หวึ่งศรีตั้งโต๊ะอาหารเช้าเลยไหมคะ)

หวึ่งศรีเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นชายหนุ่มเดินขึ้นมาบนบ้าน

“อืม” เขาตอบเพียงสั้น ๆ แค่นั้น ก่อนจะเดินเข้าห้องไปล้างเนื้อล้างตัวให้สะอาด

20นาทีผ่านไป….

“คุณโรสมาเที่ยวต่างจังหวัดเหรอครับ” หมอณภัทรชวนเธอพูดคุย ในขณะที่กำลังลงมือรับประทานอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย

“เปล่าค่ะ พอดีคุณแม่กับป้าดาอยากให้โรสมาอยู่กับพี่ไวน์เพื่อศึกษาดูใจกันก่อนที่เราสองคนจะแต่งงานกันค่ะ พอดีโรสกับพี่ไวน์เป็นคู่หมั้นกันค่ะ ใช่ไหมคะพี่ไวน์”

เธอพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสดใส ก่อนจะหันไปมองหน้าวายุภัคคู่หมั้นหนุ่มที่ยังคงนั่งนิ่งและรับประทานอาหารอย่างเงียบ ๆ เพื่อขอความเห็น

“อะไรนะครับ คุณโรสกับไอ้ไวน์เป็นคู่หมั้นกัน?…จริงเหรอวะไอ้ไวน์ ทำไมเรื่องนี้กูถึงไม่รู้มาก่อนเลยวะ”

“นี่มันเรื่องส่วนโต เป็นหยังมึงต้องฮู้!”

(นี่มันเรื่องส่วนตัว ทำไมมึงต้องรู้)

วายุภัคเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ประกอบกับสีหน้าที่ยังคงเรียบเฉยจนออกไปทางเย็นชาเหมือนเดิมตามสไตล์ของเขา

“เออ ไม่อยากรู้ก็ได้โว้ย!! นี่ครับคุณโรส ต้มยำกุ้งอร่อยมาก น้ำซุปเข้มเข้นกุ้งก็ตัวใหญ่” หมอณภัทรตักอาหารใส่จานให้กับโรสรินทร์อย่างสุภาพ

“ขอบคุณค่ะคุณหมอ”

“อย่าเรียกคุณหมอเลยครับ มันดูห่างเหินยังไงก็ไม่รู้ เรียกพี่ภัทรเฉย ๆ ก็ได้ครับคุณโรส” หมอภัทรเอ่ยขึ้นอย่างเป็นกันเอง

“ได้ค่ะ พี่ภัทรเฉย ๆ”

แค่ก แค่ก !!

“นี่คุณโรสแค่แกล้งพูดเล่นใช่ไหมครับเนี่ย”

ณภัทรพูดขึ้นพลางหยิบแก้วน้ำขึ้นมาจิบเบา ๆ ชายหนุ่มแทบจะสำลักให้กับความขี้เล่นของเธอ

“ค่ะพี่ภัทร ฮ่า ๆ โรสแค่ล้อเล่นนิดเดียวเองค่ะ”

“แหม๋ คุณโรสนี่ก็ขี้เล่นเหมือนกันนะครับ ฮ่า ๆ ดีแล้วล่ะครับขี้เล่นเพื่อสร้างรอยยิ้มคลายเครียด แต่ขี้เล่นอย่างเดียวก็พอนะครับ อย่าเล่นขี้เชียวล่ะ ฮ่า ๆ ๆ”

วายุภัคได้แต่กลอกตามองบนพลางยกแก้วน้ำขึ้นดื่มเมื่อรู้สึกเหมือนอาหารจะติดคอ

“แต่เมื่อเช้าโรสก็เล่นขี้ไปแล้วนะคะ เหยียบกองขี้ควายตั้งสองกองแน่ะ ฮ่า ๆ ๆ”

“นี่ตกลงจะพูดเรื่องขี้ ๆ ระหว่างที่ทานข้าวกันใช่ไหม ?” วายุภัคพูดแทรกขึ้นมาอย่างขุ่นเคืองและจ้องมองหน้าหมอณภัทรกับโสรินทร์สลับกันไปมาอย่างหงุดหงิดไม่พอใจ

“ไม่พูดแล้วก็ได้ค่ะ งั้น...นี่ค่ะแกงเขียวหวาน โรสชิมแล้วอร่อยมากค่ะ ไม่เผ็ดมากกำลังดีเลย”

เธอตักอาหารใส่จานให้กับคู่หมั้นหนุ่มอย่างเอาใจ แต่อีกคนกลับนิ่งและตักข้าวเข้าปากโดยไม่สนใจอะไรเธออีก โรสรินท์ได้แต่ทำหน้าบึ้งตึงเมื่ออีกคนไม่สนใจใยดีอะไรเลย ทั้ง ๆ ที่เธอก็อุตส่าห์เอาอกเอาใจเขาขนาดนี้ แต่เขากลับนิ่งเฉยทำเหมือนเธอไม่มีตัวตนสะอย่างนั้น เขาเป็นคนหรือหุ่นยนต์กันแน่นะถึงได้ดูเย็นชาแบบนี้ เธอได้แต่พูดกับตัวเองในใจและน้อยใจเขาอยู่เงียบ ๆ

“นี่ครับส้มตำ อร่อยครบรสเลยครับ คุณโรสลองชิมดูสิครับ” หมอณภัทรตักส้มตำใส่จานให้เธอชิมอย่างเอาใจ ส่วนอีกคนได้แต่เหล่ตามองด้วยหางตาภายใต้สีหน้าเรียบเฉย

“ขอบคุณค่ะพี่ภัทร”

“เป็นง่อยหรือไงโรสรินทร์ถึงตักทานเองไม่ได้!” น้ำเสียงเข้มเอ่ยขึ้นห้วน ๆ

“นี่มึงกลายเป็นคนปากเสียไปตั้งแต่เมื่อไหร่วะไอ้ไวน์ เมื่อกี้คุณโรสเขาก็ตักให้มึงเหมือนกัน หรือว่ามึงเองก็เป็นง่อยวะ?” ณภัทรเอ่ยขึ้นอย่างเหน็บแนมบ้าง เมื่อรู้ว่าเพื่อนจอมขี้หึงกำลังหงุดหงิด

“อย่าไปสนใจเลยค่ะคุณหมอ มนุษย์กับหุ่นยนต์คุยกันไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ เดี๋ยวจะทำให้ไม่เจริญอาหารเปล่า ๆ”

“นั่นสินะครับ งั้นทานต่อเลยครับคุณโรส นี่ครับอันนี้ก็อร่อย” สัตวแพทย์หนุ่มตักอาหารจานนั้นทีจานนี้ทีให้กับคนตัวเล็กอย่างเอาใจ ส่วนอีกคนก็ได้แต่นั่งทานไปมองไปอย่างไม่สบอารมณ์อยู่ภายใต้ใบหน้าที่ยังดูเรียบเฉยเหมือนเดิม

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป…

หลังจากรับประทานอาหารกันเสร็จสรรพแล้วคุณหมอณภัทรก็ขอตัวกลับทันทีเพราะยังมีงานที่ต้องกลับไปทำอีกหลายอย่าง ทางด้านโรสรินทร์เองก็ขอตัวกลับเข้าไปนอนพักผ่อนและอ่านหนังสืออยู่ในห้องส่วนตัว

วายุภัคเดินสำรวจดูความเรียบร้อยต่าง ๆ ภายในบริเวณโคกหนองนา และเดินดูนั่นนี่จนมาถึงทุ่งนาเขาก็พบกับบัวขาวควายคู่ใจอีกตัวที่กำลังนอนเคี้ยวเอื้องอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ พร้อมกับควายตัวอื่น ๆ ที่นายมืดเอามาผูกไว้ก่อนหน้านี้ วายุภัคยิ้มให้กับเจ้าบัวขาวอย่างอบอุ่น ก่อนที่จะปลดเชือกและจูงมันไปยังแหล่งน้ำ

วายุภัคปลดปล่อยควายให้กินน้ำและเล่นน้ำอย่างอิสระ ชายหนุ่มนั่งลงบนหินก้อนใหญ่มองดูเจ้าบัวขาวและควายตัวอื่น ๆ อย่างเพลิดเพลิน

หลังจากควายกินน้ำอิ่มแล้ว เขาก็จูงมันไปยังทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ที่ปลูกหญ้าไว้สำหรับให้วัวและควายกิน

เวลาล่วงเลยมาถึงเวลาเย็นร่างสูงใหญ่ก็จูงเจ้าบัวขาวกลับ พร้อมกับนายมืดและลุงเหม้าที่เดินต้อนวัวควายราว ๆ เกือบสามสิบตัวกลับคอก ก่อนวายุภัคจะปลีกตัวมาให้อาหารปลาในหนองน้ำที่เขาเลี้ยงไว้หลายชนิด และดูแลรดน้ำพืชผักและต้นไม้ที่ปลูกไว้บนโคกหนองนาแห่งนี้อย่างเช่นทุก ๆ วันที่เคยทำ

“พี่วายวอด!! อยู่ที่นี่นี่เองโรสตามหาตั้งนานแน่ะ”

น้ำเสียงใสแจ๋วตะโกนขึ้นมาในขณะที่เจ้าตัวยังเดินมาไม่ถึง

“เสียงมาก่อนตัวเลยนะ ถอดหัวมารึไง!” วายุภัคสบถออกมาเบา ๆ พลางส่ายหัวอย่างเอือมระอา ก่อนจะก้มหน้าก้มตารดน้ำพืชผักตรงหน้าต่อโดยไม่สนใจอีกคนเท่าไหร่นัก

“คนนะคะไม่ใช่กระสือ ที่จะได้ถอดหัวมาน่ะ!” เธอรีบแย้งทันทีเมื่อได้ยินประโยคระคายหูออกจากปากคนตัวโต

“มีอะไร” เขาเอ่ยถามเธอเพียงสั้น ๆ และรดน้ำพืชผักต่าง ๆ ไปพลาง ๆ

“โรสอยากไปซื้อของใช้ค่ะ พวกของใช้ส่วนตัวน่ะ ไม่ทราบว่า…”

“ไม่ว่าง!!”

เขาพูดแทรกขึ้นมาในขณะที่เธอยังพูดไม่จบประโยคเลยด้วยซ้ำ ก่อนเธอจะทำหน้าบึ้งตึงขึ้นมาทันที

“โรสยังพูดไม่จบเลยนะคะ อีกอย่างแค่นี้เองก็พาไปไม่ได้หรือไง” เธอพูดขึ้นมาอย่างกระเง้ากระงอด พลางทำหน้างอง้ำอย่างหงุดหงิด

เมื่อเขาได้ยินน้ำเสียงไม่พอใจของคนตัวเล็กก็ทำให้เขาต้องหันหน้ากลับไปมองเธออีกครั้ง สายตาคมจ้องมองไปที่ใบหน้าสวยที่กำลังแสดงสีหน้าไม่พอใจใส่เขา ท่าทางเหมือนเด็กน้อยที่เอาแต่ใจของเธอทำให้เขาหวนนึกถึงวันเก่า ๆ ในอดีต ที่เธอมักจะแสดงท่าทีแบบนี้ใส่เขาในเวลาที่ไม่ได้ดั่งใจ

“ค่อยไปวันหลัง เพราะอีกเดี๋ยวก็มืดแล้ว”

“โรสจะไปวันนี้ค่ะ!!” เธอยังยืนยันเสียงแข็งใบหน้างอง้ำ

“ซื้อของอะไร สำคัญถึงขนาดอดใจรอไปซื้อพรุ่งนี้ไม่ได้เลยเหรอ”

“ก็พวกของใช้ส่วนตัวของผู้หญิงทั่ว ๆ ไปนั่นแหละ”

“ก็แล้วมันอะไรล่ะ ถึงได้รีบนัก”

“ก็บอกว่าของใช้ส่วนตัวไงคะ บอกไม่ได้ค่ะเพราะเดี๋ยวมันไม่ส่วนตัว!!”

วายุภัคได้แต่ถอนหายใจออกมาหนัก ๆ อย่างรู้สึกเหนื่อยหน่าย เมื่อได้ฟังประโยคกวนประสาทจากเธอ เหนื่อยอะไรก็ไม่สู้เท่ากับเหนื่อยใจให้กับคนเอาแต่ใจอย่างเธอนี่แหละ

“เธอไม่เห็นหรือไงว่าพี่กำลังรดน้ำต้นไม้อยู่” เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยโดยที่ไม่แม้แต่จะหันมามองเธอเลยด้วยซ้ำ ว่าตอนนี้หน้าเธอบูดบึ้งและไม่พอใจมากแค่ไหน

“ก็ได้ค่ะ พี่ไวน์ไม่ว่างก็ไม่เป็นไร งั้นเดี๋ยวโรสจะโทรให้พี่หมอภัทรพาไปเองก็ได้ค่ะ พอดีเมื่อวานพี่หมอภัทรให้เบอร์ส่วนตัวโรสไว้ หมอภัทรเขาคงน่าจะว่าง”

พูดเพียงแค่นั้นเธอก็หันหลังกลับทันที และเดินออกไปโดยไม่แม้แต่จะสนใจอะไรเขาอีก ในเมื่อเขาเองยังไม่สนใจใยดีอะไรเธอเลย แล้วทำไมคนสวย ๆ อย่างเธอต้องสนใจเขาด้วยล่ะ สวยขนาดนี้ต้องเริศต้องเชิดเข้าไว้…จริงไหม!

วายุภัควางสายยางรดน้ำที่ถืออยู่ในมือลงทันที ก่อนจะรีบสาวเท้ายาว ๆ เดินตามคนตัวเล็กที่เดินลิ่วนำหน้าเขาไปก่อนแล้ว เพียงแค่เธอบอกจะให้หมอณภัทรเพื่อนสนิทเขาพาไปหัวใจแกร่งของเขาก็กระตุกวูบ และเขาเองคงจะปล่อยให้เธอไปกับเพื่อนเขาสองต่อสองไม่ได้เด็ดขาด

หมั่บ!!

“เอ๊ะ!! อะไรอีกคะพี่ไวน์ ปล่อยค่ะโรสรีบ เดี๋ยวก็มืดค่ำกันก่อนพอดี” เธอรีบหันมาแหวใส่เขาทันทีก่อนจะชักสีหน้าไม่พอใจใส่ เมื่อจู่ ๆ มือหนาก็เอื้อมมากระชากแขนเธอแรง ๆ แบบนี้

“ถ้ารีบก็ไปขึ้นรถสิ พี่จะพาไปเอง” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้น โรสรินทร์ลอบยิ้มมุมปากอย่างพอใจ อย่างน้อยผู้ชายเย็นชาอย่างเขาก็ยังหวงเธอบ้างแหละถึงไม่ยอมให้เธอไปกับหมอภัทรตามลำพังสองต่อสอง

“ยิ้มอะไรของเธอ จะไม่ไปใช่ไหมซื้อของ ถ้าไม่ไปพี่จะได้กลับไปรดน้ำผักและต้นไม้ต่อ” หลังจบประโยครอยยิ้มกว้างที่แทบจะเห็นฟันเรียงสวยครบสามสิบสองซี่ของเธอได้หุบลงทันทีอย่างอัตโนมัติ

“ปะ ไปสิคะ พี่ไวน์ก็เดินนำไปสิคะ”

สองหนุ่มสาวเดินตามกันไปขึ้นรถยนต์ที่จอดไว้ในโรงจอดรถ ก่อนจะค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกไปอย่างช้า ๆ มุ่งหน้าเข้าไปที่ตัวเมืองซึ่งห่างจากโคกหนองนาราว ๆ สิบสามกิโลเห็นจะได้

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   เหตุการณ์ไม่คาดคิด

    ในเวลาเดียวกัน ขณะที่วายุภัคและโรสรินทร์นั่งรถออกไปในตัวเมือง… “เด็ก ๆ พวกนั้นออกไปกันแล้ว หวึ่งศรีเพิ่งโทรมารายงานฉันเมื่อกี้ และตอนนี้ฉันก็ให้คนของคุณสุพจน์ตามเด็ก ๆ พวกนั้นไปแล้ว” คุณนายสีดาแม่ของวายุภัคพูดกรอกผ่านปลายสายเมื่อโทรคุยกันกับคุณหญิงพิศมัยแม่ของโรสรินทร์ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท “แล้วแผนที่พวกเราวางไว้มันจะสำเร็จเหรอสีดา” คุณหญิงพิศมัยเอ่ยขึ้น “ยังหรอก…เพราะความสำเร็จจริง ๆ คือการที่ลูกของเราต้องแต่งงานกันต่างหากล่ะ นี่มันเป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น ฉันแค่อยากทำให้พวกเขาทั้งสองรักและเป็นห่วงเป็นใยกัน” “นั่นสิเนอะ แต่เธอแน่ใจจริง ๆ เหรอสีดา ว่าแผนแบบนี้จะทำให้ลูก ๆ ของเราสนิทสนมกันมากขึ้น” พิศมัยเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง “แน่ใจสิ !!” สีดาตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “งั้นก็จัดการตามที่เธอเห็นสมควรเลยแล้วกัน เธอจะทำยังไงก็ได้ให้ลูกทั้งสองของเรารักกันเร็ว ๆ จะได้แต่งงานมีหลานให้พวกเราอุ้มสักที” คุณหญิงพิศมัยพูดขึ้นอีกครั้งด้วยแววตาเป็นประกาย เพราะทั้งสองต่างฝันอยากจะเป็นคุณยายคุณย่าเต็มทีแล้ว แต่ลูกสาวและลูกชายทั้งสองคนก็ยังไม่มีวี่แววที่จะช่วยสานฝันให้คนแก่แบบพวกเธอไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   แผนการ

    ‘กรี๊ดดดดดดดด พ่อแก้วแม่แก้วมันเดินมาทางนี้แล้ว คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย บรรพบุรุษทั้งหลายของลูกช้างลูกม้าลูกกาลูกไก่ โปรดจงดลบันดาลให้ลูกรอดพ้นออกไปจากที่นี่ให้ได้ด้วยเถิด สาธุ’ “ไงจ๊ะ น้องสาว เก่งคักติมึงอีคนสวย!!” (ไงจ๊ะ น้องสาว เก่งนักเหรอมึงอีคนสวย) ชายแปลกหน้าคนหนึ่งพูดขึ้น พลางเดินเข้ามาหาเธออย่างเอาเรื่อง “ถอยไป!! พวกมึงสิไสหัวไปไสกะไปคั่นบ่อยากเจ็บโต!” (ถอยไป!! พวกมึงจะไสหัวไปไหนก็ไป ถ้าไม่อยากเจ็บตัว!) วายุภัคเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว ประกอบกับนัยน์ตาที่ลุกโชนด้วยไฟโทสะ “นี่บรรพบุรุษของโรสเข้าไปสิงพี่แล้วหรือไง พี่ไปพูดแบบนั้นกับพวกมันทำไมกัน เดี๋ยวก็พากันเจ็บตัวหมดหรอก” เธอสบถออกมาอีกครั้ง “ถ้าจะเจ็บตัว ก็คงจะเจ็บตั้งแต่เธอไปปาเก้าอี้ใส่พวกมันแล้วไหม เธอนี่แหละตัวดีเลยยัยติ๊งต๊อง!!” วายุภัคอดที่จะพูดจาต่อว่าเธอไม่ได้ ก็ถ้าไม่ใช่เพราะเธอไปวุ่นวายปาเก้าอี้ใส่พวกมันก่อน เขาก็คงจะไม่ต้องมาเสียเวลาออกโรงแบบนี้หรอก “กะ ก็โรสตกใจหนิ” เธอบ่นอุบอิบขึ้นมาอีกครั้ง พลางก้มหน้างุดลงมองพื้นเมื่อรู้ว่าตัวเองนั้นเป็นคนผิด “ฮ่า ๆ คิดว่าพวกกูสิย่านสั้นติ บักหน้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   ขอนอนด้วย

    หลังจากอาบน้ำอาบท่าชำระร่างกายให้ตัวเองได้สดชื่นกระปรี้กระเปร่าแล้ว โรสรินทร์จึงหยิบยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรออกหาผู้เป็นแม่ด้วยความคิดถึง (สวัสดีค่ะคุณแม่ คุณแม่เป็นยังไงบ้างคะ โรสคิดถึงคุณแม่จังเลยค่ะ) น้ำเสียงหวานเอ่ยขึ้นอย่างออดอ้อนผู้เป็นแม่ (ไม่ต้องมาพูดเอาอกเอาใจแม่เลย ไปถึงที่โน่นหลายวันแล้วเพิ่งจะโทรหาแม่ นึกว่าหลงคนที่โน่นจนลืมแม่ไปแล้วซะอีก) คุณหญิงพิศมัยเอ่ยขึ้นอย่างค่อนขอด (แหม…คุณแม่ก็ ใครจะลืมคุณแม่สุดที่รักของโรสได้ล่ะคะ ขี้น้อยใจแบบนี้แก่แล้วนะคะเนี่ย) (ไม่ต้องมาพูดเลย ว่าแต่…หนูอยู่ที่โน่นเป็นยังบ้างลูก พี่ไวน์เขาดูแลเทคแคร์หนูดีไหม) (ดูแลดีมากเลยละค่ะคุณแม่ เสียอย่างเดียวขี้บ่นเป็นคนแก่เหมือนพี่รามเลยค่ะ ชิส์!) เธอกรอกเสียงผ่านปรายสายพลางทำปากยื่นปากยาวอย่างนึกหมั่นไส้คนที่กำลังนินทาอยู่ (เรานี่น๊า…ก็ทำตัวเป็นเด็กดื้อให้พี่เขาบ่นใช่ไหมล่ะ) (เปล่าซะหน่อยนะคะคุณแม่) (ว่าแต่…พี่เขาถูกใจหนูบ้างไหม พี่ไวน์เขาพอจะเป็นผู้ชายในแบบที่หนูชอบได้ไหมลูก) (กล้ามแน่นมากค่ะ อุ๊ย!! มะ ไม่ใช่ค่ะโรสพูดผิด แหะแหะ! พี่เขาก็พอใช้ได้ค่ะคุณแม่ ก็โอเคในระดับนึงค่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   จัดการกับความหื่น

    “อื้ออออ…” เธอขยับตัวเบา ๆ อีกครั้งและกระชับอ้อมกอดที่โอบกอดเขาอยู่ให้แน่นขึ้นราวกับเขาเป็นหมอนข้างซะอย่างนั้น พลางซุกไซ้ใบหน้าหวานเข้ากับอกแกร่ง แขนเรียวเล็กตวัดท่อนแขนและขาขึ้นมากอดก่ายพาดหาหมอนข้างที่เธอเคยกอดก่ายอยู่เป็นประจำ แต่กลับกลายเป็นว่าความอ่อนนุ่มของหมอนข้างที่เธอต้องการนั้น เป็นกำลังกอดก่ายชายหนุ่มผู้ซึ่งคืนนี้เธอต้องนอนร่วมเตียงเดียวกันกับเขา วายุภัคเหลือบสายตาคมกริบมองใบหน้าหวานจิ้มลิ้ม ซึ่งตอนนี้เธอเคลื่อนใบหน้าขึ้นมาเกยบนหน้าอกแกร่งหนัดแน่นของเขาราวกับเป็นเด็กน้อยขี้เซา แต่เขาก็ต้องกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่อย่างยากลำบาก เมื่อเห็นปทุมคู่งามอันใหญ่โตเกินขนาดของเธอที่ตระหง่านอยู่เบื้องหน้า เขาลอบกลืนน้ำลายลงคอหลายอึกเพื่อข่มอารมณ์ที่พุ่งสูงของตัวเองเอาไว้ ตอนนี้อะไร ๆ ของเขามันตื่นเพลิดขึ้นมาจนปวดหนึบไปหมดแล้ว เขาได้แต่พยายามข่มอารมณ์ความต้องการของตัวเองเอาไว้ในใจ และพูดกับตัวเองว่าใจเย็นไว้ ๆ “หายใจเข้าพุทธ…หายใจออกโธ…พุทธ…โธ !!” วายุภัคท่องพุทธโธเบา ๆ อยู่หลายรอบ และพยายามสงบจิตสงบใจให้นิ่งไว้ที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ แต่แล้วสายตาคมกริบก็ยังแอบเคลื่อนไปมองหน้าอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   อย่างอื่นก็ใหญ่

    หนึ่งชั่วโมงต่อมา… “พี่หวึ่งศรีไปไหนคะพี่ไวน์” น้ำเสียงใสแจ๋วเอ่ยถามขึ้นเมื่อเดินเข้ามาถึงห้องครัว แต่กลับเจอเพียงแค่คนตัวโตที่กำลังยืนทำอาหารอยู่ด้วยท่าทางที่ดูคล่องแคล่ว “เห็นบอกว่าคุณแม่เรียกให้ไปช่วยทำธุระน่ะ” “ป้าดาน่ะเหรอคะ” “อืม” เขาตอบเพียงสั้น ๆ แค่นั้น ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาทำอาหารตรงหน้าต่อ “แล้วนี่พี่ไวน์ทำอะไรอยู่คะ ให้โรสช่วยไหม” เธอถามขึ้นเมื่อเห็นอีกคนกำลังกุลีกุจอทำอาหารตรงหน้าอย่างตั้งอกตั้งใจ “จะช่วยทำให้มันยุ่งยากเปล่า ๆ มากกว่าล่ะมั้ง” “คิดในทางแง่ดีบ้างสิคะ ถึงโรสจะไม่ถนัดเรื่องทำอาหาร แต่โรสก็พอช่วยหั่นผักได้นะ” พูดเพียงแค่นั้นเธอก็เดินไปหยิบมีดและผักที่วางอยู่บนเคาเตอร์ครัวขึ้นมาและช่วยเขาหั่นผักตรงหน้า “หั่นให้เล็กกว่านี้หน่อยสิ หั่นผักนะไม่ใช่หั่นศพ” “ก็โรสทำไม่เก่งนี่คะ” “มา...เดี๋ยวพี่สอนให้” เขาพูดเพียงแค่นั้นก่อนจะวางมีดที่ถืออยู่ในมือตัวเองลง ร่างแกร่งเดินเข้าไปช้อนด้านหลังก่อนจะเอื้อมไปจับมือเธอที่ถือมีดอยู่แล้วจึงสอนวิธีหั่นผัก ดวงตาคมจ้องมองใบหน้าของเธออย่างอ่อนโยน ร่างกายของเขาแนบชิดกับร่างกายนุ่มนิ่ม ก่อนจะละสายตาจากแก้มเนียนใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   ปะทะริมฝีปาก

    “ไปกันเถอะ เดี๋ยวพี่ต้องเข้าไปที่ร้านอีก” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นก่อนเธอจะพยักหน้ารับเบา ๆ มือหนาเอื้อมไปจับมือเรียวของเธอ สองมือประสานกันก่อนเขาจะเดินจูงมือเธอเดินออกมา เพียงแค่เขาสัมผัสหัวใจไม่รักดีของเธอก็เต้นถี่รัวขึ้นมาราวกับกลองศึก เธอรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นอ่อนโยนจากเขาที่มอบให้ ริมฝีปากอวบอิ่มยิ้มร่าออกมาอย่างมีความสุข จากที่เมื่อก่อนเธอตั้งแง่รังเกียจคนบ้านนอก แต่ตอนนี้เธอกลับอยากจะให้พ่อแม่จับเธอแต่งงานกับเขาซะตอนนี้ให้รู้แล้วรู้รอด เธอหลงรักผู้ชายบ้านนอกที่แสนจะธรรมดาแบบนี้เข้าให้แล้วจริง ๆ แต่…ความรู้สึกของเขานี่สิ เธอไม่รู้เลยว่าเขารู้สึกกับเธอแบบไหนกันแน่ เพราะเขาไม่เคยแสดงออกเลยด้วยซ้ำว่าชอบเธอ โรสรินทร์เดินผ่านแผงขายเนื้อสัตว์ เสียงพ่อค้าเชือดเนื้อดังสนั่นแววตาของเขาดูจริงจังกับงานมาก ๆ กลิ่นคาวของเนื้อสัตว์โชยมาแตะจมูก แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่รบกวนอะไรเธอมากนัก เธอเดินต่อมาจนถึงแผงขายของชำ ข้าวสารอาหารแห้งที่เรียงรายบนชั้นอย่างเป็นระเบียบ แม่ค้าใจดีกำลังชั่งน้ำหนักข้าวสารให้กับลูกค้า ใบหน้าของเธอยิ้มแย้มแจ่มใส เสียงพ่อค้าแม่ค้าตะโกนเรียกลูกค้ากันดังระงม เสียงเด็ก ๆ ที

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   จูบแรก

    “เข้าไป!!” “โอ๊ยยย โรสเจ็บนะพี่ไวน์!!” เธอบ่นขึ้นมาทันทีเมื่ออีกคนจับร่างของเธอยัดเข้ามาภายในรถ ในขณะที่เขาเองยังคงตีสีหน้าบึ้งตึงและเดินอ้อมขึ้นไปนั่งตรงที่นั่งประจำคนขับ ก่อนจะเหยียบคันเร่งออกไปอย่างรวดเร็วด้วยห้วงอารมณ์ฉุนเฉียว “ขับช้า ๆ หน่อยสิคะ โรสกลัว!!” “ทีอย่างนี้ทำเป็นกลัว ทีเธอไปด่าคนอื่นเขาทำไมไม่กลัว! เมื่อไหร่จะเลิกทำตัวเป็นเด็กไม่รู้จักโตสักทีโรสรินทร์ !!” เขาเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงดุดันแข็งกร้าว “แต่พี่ไวน์ก็เห็น ว่ายัยเตี้ยนั่นมันก็ด่าโรสเหมือนกัน และมันมาว่าโรสก่อนด้วยซ้ำ!!” เธอยังคงเถียงคำไม่ตกฟากอย่างไม่ยอมลดละ “แต่เธอก็ไม่ควรไปต่อล้อต่อเถียงแบบนั้นกับเขา!!” “นี่พี่ไวน์เขาข้างยัยขาสั้นนั่นเหรอ! พี่เข้าข้างคนอื่นทั้งที่คนที่พี่ควรจะเข้าข้างคือโรสซึ่งเป็นคู่หมั้นพี่ ไม่ใช่ยัยเตี้ยตื่นตดนั่น!!” เธอรีบหันไปแหวใส่ด้วยน้ำเสียงแตกพร่า ประกอบกับน้ำตาหยดใส ๆ ที่กำลังเริ่มเอ่อคลอ ทำไมเธอถึงเหมือนจะต้องร้องไห้ทุกครั้งที่โดนเขาเมินใส่ด้วยนะ ทีกับผู้ชายคนอื่นโดยเฉพาะแทนไทซึ่งเป็นแฟนเก่าเธอเอง เธอยังไม่บ่อน้ำตาตื้นเหมือนกับที่โดนเขาต่อว่าแบบนี้เลย เธอแค่โมโหและน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   อยากจับไอ้นั่น

    แกร่กกก!! เจ้าของร่างสูงใหญ่เดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จ โดยมีเพียงแค่ผ้าขนหนูผืนเดียวพันเอวสอบไว้พอหมิ่นเหม่ เผยให้เห็นหุ่นล่ำบึ้กซิกแพคเป็นลอนสวยที่ถ้าสาว ๆ คนไหนเห็นเป็นต้องหลงใหล วายุภัคเดินทอดกายไปเปิดตู้เสื้อผ้า และหยิบกางเกงนอนขายาวเนื้อนุ่มใส่สบาย ๆ ขึ้นมาสวมใส่เพียงตัวเดียวและเปลือยท่อนบน ก่อนจะเดินทอดกายมานั่งลงบนเตียงนอน แต่….. “แบร่!!!” “เฮ๊ยยยย!! เล่นอะไรของเธอเนี่ย!!” น้ำเสียงที่ดูตกอกตกใจเอ่ยขึ้นพร้อม ๆ กับร่างสูงใหญ่ดีดลุกขึ้นยืนเต็มความสูงทันทีด้วยความตกใจ ก่อนเขาจะทำหน้าตาดุ ๆ ใส่อีกคนเมื่ออยู่ดี ๆ ผ้าห่มผืนหนาก็เลิกขึ้น และปรากฏร่างบอบบางในชุดนอนบางเบาที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าห่ม เธอแลบลิ้นปลิ้นตาแกล้งทำให้เขาตกใจ และมันก็ได้ผลซะงั้น…เพราะเขาเองก็ดันตกใจขึ้นมาจริง ๆ “ฮ่า ๆ ๆ ทำไมพี่ไวน์หน้าเหวอแบบนั้นคะ ตลกชะมัด!!” เธอหัวเราะร่าออกมาอย่างชอบใจที่เห็นอีกคนหน้าเหวอทำอย่างกับเจอผี “นี่เธอเป็นเด็กสามขวบรึไง เล่นอะไรเป็นเด็ก ๆ ไปได้!!” เขาบ่น ๆ ขึ้นมา พลางถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย “คืนนี้ขอนอนด้วยคนนะคะ” เธอพูดขึ้นเสียงอ่อย “ไม่ได้!!” วายุ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14

บทล่าสุด

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   ปั้มลูกNC+ (จบบริบูรณ์)

    โรสรินทร์กับวายุภัคมองสบตากันลึกซึ้งด้วยความรัก ก่อนใบหน้าคมคายจะค่อย ๆ โน้มลงมาประทับลงบนเรียวปากอวบอิ่มของเธอเบา ๆ ริมฝีปากร้อนฉ่าบดเบียดความนุ่มนิ่มของกลีบปากงามอย่างเนิบนาบ นุ่มนวล ส่งผ่านความรักด้วยการกดย้ำขบเม้มริมฝีปากเธออย่างหนักหน่วงด้วยความเร่าร้อนโหยหา “โรสเสียใจไหม ที่ต้องมาอยู่บ้านนอกคอกนากับพี่แบบนี้” เขาเอ่ยถามสีหน้าจริงจัง ดวงตาคมมีเครื่องหมายคำถามอยู่ในดวงตาที่กำลังสะท้อนทุกความรู้สึกออกมาโดยไม่ต้องเอ่ยปากพูด ก่อนคนที่ได้ยินคำถามนั้นจะยิ้มบาง ๆ และเอื้อมมือเรียวสวยไปจับมือใหญ่มากุมไว้ “โรสยินดีและเต็มใจที่จะอยู่ที่นี่กับพี่ไวน์ค่ะ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน หากที่นั่นมีพี่ไวน์อยู่ด้วยโรสก็อยู่ได้ค่ะ” คำตอบของเธอเรียกรอยยิ้มกว้างจากเขาได้เป็นอย่างดี “พี่รักโรสนะครับ รักมากด้วย” วายุภัคเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังและหนักแน่น ก่อนจะค่อย ๆ โน้มตัวลงมาจูบริมฝีปากอวบอิ่มตรงหน้า ดวงตาคู่นั้นของเธอมองมาที่ริมฝีปากของเขาที่เลื่อนเข้ามาใกล้ ๆ รู้ตัวอีกทีเธอก็หลับตาลงอัตโนมัติก่อนจะสัมผัสถึงรสจูบ มันเป็นจูบที่แผ่วเบา นุ่มนวล อ่อนโยน ก่อนจะค่อย ๆ ทวีความลุ่มลึกร้อนแรงมากขึ้นเรื

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   วันแต่งงาน(งานกินดอง)

    สองเดือนผ่านไป… วันแต่งงาน (งานกินดอง) “อร๊ายยยยย วันนี้คุณไวน์หล่อม๊ากกกค้า หล่อจนพอลล่านี่อยากจะดื่มไวน์แดงเลยค่ะ คริคริ” เมื่อขบวนขันหมากของเจ้าบ่าวใกล้เข้ามาแล้ว พอลล่าตะโกนขึ้นมาเสียงดังด้วยความตื่นเต้น พลางหัวเราะคิกคักชอบใจหลงใหลในความหล่อเหลาบาดใจของเจ้าบ่าวป้ายแดง ที่แค่มองจากไกล ๆ รัศมีความหล่อก็แผ่กระจายไปทั่วทั้งทุ่งกุลาร้องไห้ “น้อย ๆ หน่อย นั่นมันผัวเพื่อนไม่ใช่ผัวแกนังพอลล่า” กชกรเอ่ยขึ้นอย่างนึกหมั่นไส้ที่เพื่อนชายใจเป็นหญิงรู้สึกจะดี๊ด๊าชื่นชมเจ้าบ่าวผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผัวเพื่อนอย่างออกหน้าออกตา “ผัวเพื่อนก็เหมือนผัวเรานั่นแหละย่ะ คริ คริ” “แล้วนี่ฉันไม่สวยเลยหรือไงยะ หัดชมเพื่อนแกบ้างก็ได้นะ นี่ขนาดวันนี้ฉันแต่งตัวสวยสุด ๆ แล้วยังไม่เห็นแกคิดจะชมเลยสักคำ ชิส์!” โรสรินทร์พูดแซะขึ้นมาบ้างอย่างหมั่นไส้ “แกก็สวยทุกวันอยู่แล้วค้านังโรส ต่อให้ไม่แต่งแกก็สวยย่ะ แต่…วันนี้พี่ไวน์ผัวแกหล่อมากจริง ๆ นะ หล่อเวอร์วังถูกใจพอลล่ามาก อ๊ายยยย พอลล่าอยากกินไวน์แดงแท่งใหญ่ ๆ!!” “พอ ๆ ๆ เลย ไวน์แดงมันไม่ได้มีเป็นแท่งเหมือนไอติมหรอกนะยะ เลิกสนใจผัวเพื่อนได้แล้ว อย่าง

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   ขอแต่งงาน

    ช่วงสายวันต่อมา…. “ตื่นได้แล้วนะครับ” “อื้อ…ตื่นไม่ได้ โรสง่วง..!” “แต่นี่มันเที่ยงแล้วนะครับ” มือหนาสะกิดปลุกคนขี้เซาที่ยังคนนอนหลับตาพริ้มอย่างสบายอยู่ในอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นราวกับเป็นลูกแมวขี้เซา ยิ่งเวลาเธอหลับแบบนี้เธอก็ยิ่งดูน่ารัก ทำเอาดวงตาคมกริบจ้องมองจนแทบไม่อยากจะละสายตาออกจากใบหน้าหวาน “อื้อ…” เจ้าของร่างบางขยับตัวออกจากอ้อมกอดของเขาเล็กน้อย ก่อนที่จะเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างช้า ๆ และกระพริบตาถี่ ๆ เพื่อไล่แสง “พี่ไวน์!! ออกไปเลยนะคะ ไม่ต้องมาใกล้โรส!!” เธอรีบแหวใส่เขาขึ้นมาทันทีเมื่อเริ่มจะจับต้นชนปลายทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้ ก่อนจะพยายามเบี่ยงตัวหลบออกจากอ้อมแขนแกร่งที่โอบกอดเธอเอาไว้ “จะให้ออกไปไหนล่ะ ก็นี่มันบ้านของพี่” ดวงตากลมโตหันไปมองภายในรอบ ๆ ห้องซ้ายทีขวาที และ…ที่นี่มันก็ไม่ใช่ห้องของเธอจริง ๆ “งั้นก็ปล่อยค่ะ โรสจะออกไปจากที่นี่เอง!!” เธอเอ่ยขึ้นพลางแกะมือหนาที่ยังคงโอบกอดเธอไว้แน่นราวกับคีบเหล็ก แต่มันก็หาเป็นผลไม่ “ปล่อยให้โง่สิครับ ไม่ปล่อย!” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างหน้าด้าน ๆ ยัยแม่มดตัวแสบพอหมดฤทธิ์ของแอลกอฮอล์แล้วตื่นขึ้นมาก็เลยแผลงฤทธิ์เดช

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   น้ำพี่ยังเหลืออีกตั้งเยอะNC+

    สองมือหนาจับขาทั้งสองข้างของเธอแยกออกจากกัน ก่อนจะจ่อแท่งร้อนเข้าไปในร่องรักอันคับแน่นของคนใต้ร่าง วายุภัคมองใบหน้าหวานของโรสรินทร์ที่น้ำตาเอ่อคลอ ก่อนจะค่อย ๆ ดันปลายหัวเห็ดแดงก่ำเข้าไปในร่องคับแคบนั้นอย่างช้า ๆ “อ่าส์…แน่นมาก” “อึก ระ โรสเจ็บ” โรสรินทร์ร้องออกมาเมื่อเธอรู้สึกเจ็บ อีกทั้งความคับแน่นนี้มันยังคงแน่นเหมือนเดิมเหมือนครั้งแรก วายุภัคเองถึงกับต้องซี๊ดปากเบา ๆ เมื่อช่องทางรักของเธอบีบรัดท่อนเนื้อของเขาจนรู้สึกเจ็บเช่นเดียวกัน เขาพยายามดันท่อนเอ็นขนาดใหญ่เข้าไปให้สุด ก่อนเขาจะเริ่มขยับสะโพกสอบเข้าออกเมื่อภายในของเธอเริ่มปรับสภาพกับความใหญ่โตของเขาได้ ท่อนเอ็นที่กำลังผลุบเข้าผลุบออกในร่องสวาทนั้นทำให้คนใต้ร่างเริ่มรู้สึกเสียว “อะ อื้อออ โรสจุก!!” หน้าอกอวบใหญ่เริ่มกระเพื่อมขึ้นลงตามแรงกระแทกกระทั้น มือเรียวขยำผ้าปูที่นอนเอาไว้แน่นเมื่ออีกคนกระแทกเข้าใส่อย่างหนักหน่วง ปั่ก ปั่ก ปั่ก!! เสียงเนื้อกระทบกันเป็นจังหวะเมื่อเขาเริ่มขยับสะโพกแรงขึ้น หนักหน่วงขึ้น โรสรินทร์เม้มปากเอาไว้แน่นเพื่อพยายามข่มเสียงครางอันน่าเกลียดของตัวเองไม่ให้มันดังเล็ดลอดออกมา “อ๊าส์…พูดมาสิ

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   ดีที่จำผัวตัวเองได้

    “ถึงคุณไวน์จะเป็นผัวยัยโรสเพื่อนของพวกเราก็เถอะ ยังไงเกรชกับพอลล่าก็ไม่มีทางปล่อยให้ยัยโรสไปกับผู้ชายโลเลแถมยังกระล่อนปลิ้นปล้อนอย่างคุณไวน์ได้หรอกค่ะ ในเมื่อยัยโรสเพื่อนของพวกเราบอกว่าเลิกกับคุณไปแล้ว พวกเราไม่ปล่อยให้ยัยโรสกลับไปกับคุณได้แน่ ๆ” กชกรเอ่ยขึ้นเสียงแข็ง “ใช่ค่ะ คุณมันเป็นผู้ชายแบบไหนกันคะคุณไวน์ คุณมีคนรักอยู่แล้วยังมาหลอกฟันยัยโรสเพื่อนพวกเราอีก!!” คิ้วหนาของวายุภัคเลิกขึ้นพร้อมขมวดเข้าหากันเป็นปม “ผมไม่เคยทำอะไรแบบนั้นนะครับ ผมไม่เคยคิดแม้แต่จะหลอกอะไรโรสรินทร์” น้ำเสียงเรียบนิ่งของเขาเอ่ยขึ้น “ยัยโรสเป็นคนบอกกับพวกเราเอง ว่าคุณมีคนรักอยู่แล้ว แต่ก็ยังมาหลอกเอามันอีกตั้งหลายน้ำ แถมวันก่อนยังพาแฟนไปซื้อแหวน สวมแหวนให้ผู้หญิงคนนั้นต่อหน้าต่อตายัยโรส!!” “ใช่ เพราะฉะนั้นคุณจะมาพายัยโรสกลับไปไม่ได้ เด็ดขาด พวกเราเป็นเพื่อนรักที่รักที่สุดของยัยโรส ยัยโรสต้องจะกลับไปกับพวกเราเท่านั้น!!” พอลล่าพูดขึ้นอย่างชัดถ้อยชัดคำ อีกทั้งยังยืนยันนอนยันตีลังกายันเสียงแข็งหนักแน่น ก่อนจะพยายามเดินเข้าไปคว้าเอาตัวโรสรินทร์เพื่อนสาวที่สลบไปเพราะเมาหนักให้ออกจากอ้อมแขนแกร่งของวาย

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   เป็นผัว

    “เอาน่า…อย่าร้องไปเลย สวย ๆ รวย ๆ และแถมซาดิสม์อย่างแกหาใหม่ได้สบายอยู่แล้วเพื่อนเลิฟ เดี๋ยวฉันจะจัดน้อง ๆ ทีเด็ดมาเลียแผลใจที่เหวอะหวะของแกให้เอง หรือถ้าแกเผลอถูกใจจะควงไปเลียอย่างอื่นกันต่อก็ได้นะยัยโรส!!” กชกรเอ่ยขึ้นพลางกอดปลอบประโลมเพื่อน “อร๊ายยยย แกเนี่ยพูดถูกใจฉันจริง ๆ นังเกรช! สวยระดับนี้มีเหรอใครจะไม่อยาก เพื่อนฉันน่ะสวยแซ่บสะท้านทรวงนะบอกเลย!” พอลล่าเข้ามาปลอบใจเธอเช่นกัน ก่อนที่กชกรจะหันไปเป็นเชิงส่งซิกอะไรบางอย่างให้กับพนักงานในร้านเรียกบรรดาหนุ่มโฮสต์หล่อ ๆ ล่ำ ๆ ให้เข้ามาดูแลเทคแคร์เพื่อนสาว “ทางนี้จ้าเด็ก ๆ มาเร้ววววว!!” แค่เพียงไม่นานบรรดาเหล่าหนุ่มโฮสต์หล่อ ๆ ล่ำ ๆ มัดกล้ามแน่น ๆ ซิกแพคเป็นลอน ๆ แถมยังนุ่งน้อยห่มน้อยก็ได้เดินเข้ามายืนเรียงรายในห้อง VVIP ที่สามคนนั้นอยู่ แต่ละคนต่างหน้าตาหล่อล่ำ กล้ามแน่น เรียกให้น้ำลายพอลล่าและกชกรแทบจะไหลยืดออกมาราวกับเป็นโรคพิษสุนัขบ้าอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่กับโรสรินทร์เพราะเธอมองผู้ชายหุ่นล่ำกล้ามโตพวกนี้ด้วยใบหน้าเรียบเฉยเหมือนคนไม่มีความรู้สึก เพราะเรื่องหล่อล่ำกล้ามแน่นบรรดาผู้ชายพวกนี้สู้พี่วายวอดไม่ได้สักคนเลยด้วยซ้ำ

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   เช็คเรตติ้ง

    “เอ่อ…ที่ผมมาวันนี้ก็เพราะเรื่องของน้องโรส คุณอาทั้งสองคงพอจะทราบเรื่องแล้ว” วายุภัครีบพูดถึงประเด็นของเรื่องราวที่เกิดขึ้น “อืม อาเองก็พอจะทราบเรื่องแล้ว ยังไงหลานชายเองก็อย่าไปถือสาน้องเลยนะ ยัยตัวแสบลูกสาวอาก็เป็นแบบนี้แหละ ยัยโรสเป็นคนค่อนข้างใจร้อนและเอาแต่ใจไปหน่อย นี่อาก็อุตส่าห์บังคับให้ยัยโรสไปปรับทัศนคติที่โคกหนองนาแล้วนะ ไอ้เราก็คิดว่าจะดีขึ้นและเป็นผู้ใหญ่ขึ้น แต่ที่ไหนได้กลับไม่ได้เรื่อง เฮ้อ!” ท่านสุรพลถอนหายใจออกมาเบา ๆ พลางส่ายหัวให้กับลูกสาวตนเองอย่างเอือมระอา “ยังไงผมก็ต้องกราบขอโทษคุณอาทั้งสองจริง ๆ นะครับ ที่เป็นต้นเหตุทำให้น้องต้องหนีกลับมากรุงเทพปุบปับแบบนี้” วายุภัคลงไปนั่งกับพื้นแล้วก้มลงกราบแทบเท้าของท่านสุรพลและคุณหญิงพิศมัยอย่างรู้สึกผิด ก่อนท่านสุรพลจะใช้มือหนาแตะไปที่บ่าแกร่งบึกบึนของเขาเป็นการยอมรับการกราบขอโทษและสำนึกผิดจริง ๆ “เมื่อทุกอย่างลงตัวแล้วหลังจากนี้ผมอยากจะขออนุญาตคุณอาทั้งสอง พาคุณพ่อคุณแม่มาทาบทามสู่ขอน้องตามธรรมเนียมอย่างสมเกียรติอีกที…ได้หรือไม่ครับ” น้ำเสียงหนักแน่นที่เอ่ยขอออกไปอย่างตรงไปตรงมาประกอบกับสีหน้าและแววตาที่จริงจ

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   กลับกรุงเทพฯ

    ณ สนามบินดอนเมือง… “ยัยโรส ทางนี้!!” กชกรร้องตะโกนขึ้นมาเสียงดัง พลางโบกไม้โบกมือไปมาเมื่อเห็นเพื่อนสาวคนสนิทเดินออกมาจากประตูฝั่งผู้โดยสารขาเข้า “ยัยเกรช! ฮือ…ฉันคิดถึงแกมากเลย” โรสรินทร์รีบโผเข้าหาอ้อมกอดของเพื่อนสนิททันทีที่เดินมาถึง “ไม่ต้องมาปากหวานเลย ไปอยู่บ้านนอกตั้งเดือนกว่า ๆ ฉันนึกว่าแกจะลืมเพื่อนอย่างพวกฉันไปแล้วซะอีก หลังจากวันนั้นแกก็ไม่คิดจะโทรกลับมาหาฉันกับพอลล่าบ้างเลยนะยะ!” กชกรเอ่ยขึ้นอย่างกระเง้ากระงอด “นี่ฉันไปอยู่ร้อยเอ็ดแค่แป้บเดียวเอง แกนี่กลายเป็นคนแก่ไปแล้วเหรอเนี่ย” “อะไร ใครแก่ยะ” กชกรรีบพูดแหวขึ้นมาทันควัน “ก็ขี้น้อยใจเป็นคนแก่ไปได้ไง ถึงฉันไม่ได้โทรหา แต่ฉันก็ส่งข้อความไลน์หาพวกแกทุกวันไหม!!” “เออ นั่นสินะ คิกคิก” กชกรหัวเราะคิกคักขึ้นมา ก่อนเสียงหัวเราะร่านั่นจะเงียบลงเมื่อสังเกตเห็นใบหน้าสวยหวานของเพื่อนสนิทดูแปลกไป ดวงตาคู่สวยนั้นบวมช้ำเหมือนคนที่เพิ่งจะผ่านการร้องไห้มาหมาด ๆ “ยัยโรส แกเป็นอะไรรึเปล่าเนี่ย ทำไมตาแกถึงได้ดูบวม ๆ แดง ๆ เหมือนคนเพิ่งร้องไห้มาเลยล่ะ” กชกรถามขึ้นอย่างห่วงใย พลางจ้องเพื่อนสนิทเพื่อรอฟังคำตอบ “ไว้เดี๋ยวจ

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   เรื่องเข้าใจผิด

    “โรสรินทร์!!” น้ำเสียงเข้มเอ่ยชื่อเธอขึ้น “ไหนพี่ไวน์บอกจะเข้าไปเคลียร์งานที่ร้านแทนลุงพจน์ไงคะ แล้วนี่ทำงานคงจะเหนื่อยมากเลยสินะคะ เลยพาผู้หญิงออกมาซื้อแหวนเล่นแก้เหนื่อยแก้เบื่อ” สองขาเรียวของเธอเดินย่างกรายเข้าไปหาเขาอย่างใจเย็น เพียงแค่เธอเดินผ่านประตูร้านเครื่องประดับสุดหรู ภาพของชายหนุ่มกับหญิงสาวสวยร่างสูงหุ่นดีราวกับนางแบบ ที่กำลังค่อย ๆ บรรจงสวมแหวนให้กันราวกับคู่รักได้เรียกความสนใจให้เธอหยุดยืนจ้องมองภาพของพวกเขาทั้งสองได้เป็นอย่างดี เธอยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นราวกับคนเป็นอัมพาตไปชั่วขณะ และตอนนี้เธอก็รู้สึกว่าทำไมพวกเขาสองคนถึงได้ดูเหมาะสมกันขนาดนี้นะ แต่แล้วจู่ ๆ เธอเองกลับรู้สึกน้อยใจเขาขึ้นมาเอาเสียดื้อ ๆ ทั้ง ๆ ที่เธอเองยังไม่เคยรู้ถึงความรู้สึกของเขาที่มีต่อเธอเลย แม้แต่บอกรักบอกชอบเธอเขาก็ไม่เคยพูดมันออกมาเลยสักครั้ง มีแค่เพียงเธอเท่านั้นที่รู้สึกว่าหลงรักเขาอยู่ฝ่ายเดียว “มะ มันไม่ใช่อย่างที่คิดเลยนะครับ” เขารีบพูดปฏิเสธขึ้นมาอย่างร้อนรน “คงพาแฟนมาซื้อแหวนสินะคะ?” เธอก็แค่พูดมันออกไปอย่างที่ใจนึกคิด เพียงแค่นั้นหัวใจดวงน้อย ๆ ของเธอก็เริ่มหวั่น เมื่อคิดว่า

DMCA.com Protection Status