แชร์

ดูผู้ชายถอดเสื้อ

ผู้เขียน: สโนว์ไวท์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-14 08:13:31

แอ๊ดดดด…!!

โรสรินทร์เปิดประตูห้องเข้าไปอย่างช้า ๆ พลางสอดส่ายสายตามองหาคนตัวโต ก่อนหัวใจดวงน้อย ๆ ของเธอจะเต้นรัวแรงขึ้นมาประกอบกับใบหน้าแดงก่ำ ร่างกายของเธอร้อนผ่าวราวกับไฟกำลังลุกโชนอยู่ภายใน ดวงตาของเธอเบิกกว้างจับจ้องไปที่ร่างกายแกร่งกำยำของชายหนุ่มตรงหน้า เธอเผลอมองอย่างลุ่มหลง และไม่สามารถที่จะละสายตาออกจากภาพเคลื่อนไหวตรงหน้านี้ได้

วายุภัคอาบน้ำเสร็จเขาใช้ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่พันรอบเอวเอาไว้ หยดน้ำจากเส้นผมสีดำขลับไหลรินจากปลายผมไหลผ่านใบหน้าคมเข้มลงสู่ลำคอที่ขาวเนียนก่อนจะหยดลงสู่แผ่นอกกว้าง วายุภัคใช้ผ้าขนหนูสีขาวผืนเล็กเช็ดผมและใบหน้าอย่างคล่องแคล่ว กล้ามเนื้อแขนและหน้าอกของเขาตึงแน่น แผ่นหลังกว้างมีรอยสักรูปนกอินทรี รอยสักนั้นมันช่างดูดุดัน เข้มแข็ง แต่แฝงไปด้วยเสน่ห์ เขายังคงใช้ผ้าขนหนูเช็ดตัวอย่างเรื่อย ๆ กล้ามเนื้อทุกส่วนของเขาขยับไปมาอย่างมีเสน่ห์ชวนมอง

เธอเผลอกัดริมฝีปากกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกมนต์สะกดให้มองภาพตรงหน้าแต่ทันใดนั้นเขาก็หันไปมองตัวเองผ่านหน้ากระจกใบโต ก่อนจะเบิกตาโพลงขึ้นมาทันทีเมื่อปรากฏเห็นภาพอีกคนสะท้อนอยู่ในกระจกใบนั้น วายุภัครีบหันขวับกลับมาด้านหลัง สายตาของเขาจับจ้องมาที่เธอด้วยความตกใจ

โรสรินทร์หัวใจเต้นรัว ใบหน้าแดงก่ำ รู้สึกเหมือนกับว่าถูกจับได้คาหนังคาเขาว่าเธอกำลังแอบดูหุ่นผู้ชาย…ไม่ใช่สิ! เธอไม่ได้แอบดูสักหน่อย แต่เธอตั้งใจเดินเข้ามายืนดูเขาต่อหน้าต่อตาเลยต่างหากล่ะ

“เธอมาทำอะไรในห้องพี่?” เขาถามเอ่ยถามขึ้น พลางจ้องหน้าเธออย่างไม่ชอบใจนัก โรสรินทร์ได้แต่กลืนน้ำลายฝืด ๆ ลงคอ ก่อนที่จะเอ่ยตอบออกไปอย่างไม่ลังเล

“มะ มาดู ผู้ชายถอดเสื้อ!!”

เธอพูดขึ้นมาทันควันอย่างไม่คิดอะไร วายุภัคจ้องหน้าเธออยู่นานดวงตาของเขาเต็มไปด้วยคำถาม

“ว่าอะไรนะ?” เขาเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้งพลางเอาผ้าขนหนูผืนเล็กที่ใช้ซับน้ำที่ผมพาดลงบริเวณลำคอ ก่อนจะค่อย ๆ เดินสาวเท้าเข้ามาหาเธอด้วยใบหน้าที่ดูเย็นชาจนน่าขนลุก

โรสรินทร์รีบก้าวถอยหลังอย่างอัตโนมัติเมื่อเขาเดินไล่ต้อนเข้ามาใกล้จนแทบจะประชิดตัวเธอ หัวใจของเธอตอนนี้สั่นระรัว เธอไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนในชีวิต และตอนนี้เธอรู้ว่าเธอควรหนี แต่เธอก็ไม่อาจละสายตาจากเขาได้ เพราะกล้ามแน่น ๆ และหัวนมชมพูนั่นก็ด้วย เธออยากจะเอื้อมมือไปสัมผัสมันสักครั้งเสียเต็มประดา เธอไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไมถึงได้รู้สึกหื่นได้ขนาดนี้ เธอต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ

“ทะ ทำไมพี่ไวน์ต้องเดินไล่ต้อนโรส บะ แบบนี้ด้วยคะ”

น้ำเสียงแหบพร่าพูดขึ้นมาตะกุกตะกักอย่างร้อนรน

“อยากเห็นผู้ชายถอดเสื้อนักไม่ใช่หรือไง พี่เดินมาให้เธอดูใกล้ ๆ ไม่ดีเหรอ?” โทนเสียงทุ้มต่ำที่ออกไปในทางเยือกเย็นเอ่ยขึ้น

“ดีค่ะ อุ๊ย! มะ ไม่ใช่ค่ะ ดูไกล ๆ ก็ได้ เห็นเหมือนกัน ตาไม่ได้บอดค่ะ”

“หึ แค่ดูเฉย ๆ มันไม่ฟินหรอกนะ มันต้องทำอย่างอื่นด้วย”

เขาพูดด้วยน้ำเรียบนิ่ง แต่ฟังดูแล้วเธอแทบจะขนลุก ริมฝีปากหนายกยิ้มมุมปากอย่างยั่วยวน ยิ่งเขายิ้มให้เธอแบบนี้ หัวใจของเธอก็แทบจะละลายลงเสียตรงนี้

“ทำอย่างอื่น ละ แล้ว ทะ ทำอะไรคะ ?” เธอเอ่ยถามอย่างละล่ำละลัก

“ลองจับดูไหมล่ะ”

เขาถามขึ้นสายตาคมกริบยังจ้องหน้าเธอไม่วางตา สายตาของเขาจ้องมองราวกับจะอ่านทะลุถึงสิ่งที่อยู่ข้างในใจ จนเธอนั้นอึ้งไม่รู้จะตอบคำถามเขาได้ยังไง แต่ปากกับสมองมันไม่สามัคคีกันเอาเสียเลย

“ห๊ะ!! ดะ ได้เหรอ??” เธอถามขึ้นมาทันควัน

“จับสิ”

เธอช้อนสายตาขึ้นมามองหน้าเขา ซึ่งตอนนี้ริมฝีปากหนาประดับด้วยรอยยิ้มยั่ว แต่เธอก็ยังมองว่ารอยยิ้มนี้ช่างชวนหลงใหล ก่อนจะตัดสินใจเอื้อมมือไปแตะกล้ามเนื้อหนัดแน่นของเขาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ

หมั่บ!!

“อุ๊ย! พี่ไวน์ทำอะไรคะ” เธอเอ่ยขึ้นด้วยความตกใจ เมื่อจู่ ๆ เขาก็คว้าหมับเข้าที่ข้อมือเรียวของเธอ แล้วกระชากมือน้อย ๆ ของเธอให้มาลูบไล้สัมผัสบนแผงอกแกร่งของเขาไปมา

“รู้สึกยังไงบ้าง?” เขาถามเสียงเรียบนิ่ง

“ดะ ดะ ดี...ค่ะ” เธอตอบเสียงสั่น

“อยากลองจับตรงอื่นอีกไหม?” เขาถามในขณะที่เธอยังอึ้งไม่รู้จะตอบคำถามเขาอย่างไร ทำไมเขาถึงได้ถามแต่คำถามที่ชวนใจสั่นขนลุกขนพองแบบนี้ด้วยนะ แต่มีหรือที่คนอย่างเธอจะปฏิเสธ ก็ต้องอยากจับอยู่แล้ว คริคริ

“เอาสิ ร่างกายนี้พี่ยกให้เธอคนเดียวเลยนะ”

พูดเพียงแค่นั้นเธอจึงตัดสินใจจับกล้ามเนื้อส่วนอื่น ๆ ของเขาอย่างคนที่กำลังเลื่อนลอย ฝ่ามือน้อย ๆ ลูบไล้กล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องลงมาเรื่อย ๆ จนถึงสะดือราวกับรนไม่มีสติ ก่อนมือหนาของเขาจะคว้าหมับเข้าที่ข้อมือของเธอเอาไว้ก่อนมันจะเลื่อนลงไปตรงจุดสำคัญที่ต่ำกว่าสะดือ

“พอแล้ว….” เขาพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“……”

“ไว้ค่อยจับต่อคราวหน้า…เดี๋ยวพี่จะทนไม่ไหวเอาซะก่อน”

พูดเพียงแค่นั้น ดวงหน้าเธอพลันร้อนฉ่าขึ้นมาเอาเสียดื้อ ๆ แก้มเธอแดงก่ำราวกับมะเขือเทศ เธอไม่รู้ว่าเขาหมายถึงอะไร แต่สายตาคมกริบที่เขามองเธอมันทำให้เธอรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ แปลก ๆ

“มะ ไม่ไหวอะไรคะ” เธอเอ่ยถามขึ้น ริมฝีปากหนายกยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ พลางกวาดสายตาคมกริบไปทั่วร่างบอบบาง และพินิจพิจารณาตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนเขาจะลากสายตาคมมาจดจ่ออยู่ที่หน้าอกอวบอิ่มของเธอที่ซุกซ่อนอยู่ภายใต้อาภรณ์ตัวบาง

“มะ มองอะไร ขะ คนลามก!!” เธออดที่จะต่อว่าเขาไม่ได้ เมื่อเขายังคงจับจ้องอยู่บริเวณหน้าอกของเธออยู่แบบนั้น

“พูดผิดพูดใหม่ได้นะ ใครกันแน่ที่ลามกและแอบเข้ามาในห้องพี่ มิหนำซ้ำยังมาแอบดูพี่แต่งตัวอีก แต่จะว่าไป…เธอดูพี่และสัมผัสตัวพี่อยู่เพียงฝ่ายเดียวมันก็ไม่ค่อยแฟร์เท่าไหร่นะ…ว่าไหม”

“มะ ไม่แฟร์ยังไง…”

“ก็ต้องแลกกันดูสิ” เขาพูดขึ้นมาอย่างหน้าตาเฉย ทำเอาอีกคนถึงกับหน้าเหวอไปชั่วขณะ ก่อนจะรีบเรียกสติที่เตลิดไปไกลให้กลับมา

“คนลามก โรคจิต!!”

เพียงแค่นั้นร่างบางก็รีบวิ่งออกจากห้องเขาไปทันที วายุภัคยกยิ้มมุมปากอย่างชอบใจ ตัวเองเป็นฝ่ายทำตัวลามกก่อนแท้ ๆ พอเขาทำกลับบ้างแต่ดันรับไม่ได้ซะงั้น ชายหนุ่มส่ายหัวเบา ๆ อย่างนึกขันในท่าทางของเธอ เขาก็แค่อยากจะแกล้งเด็กดื้ออย่างเธอเล่น ๆ แค่นั้นเอง

โรสรินทร์กึ่งเดินกึ่งวิ่งออกมาจากห้องของวายุภัค เป็นจังหวะเดียวกันที่หวึ่งศรีกำลังเดินมาเรียกเธอไปรับประทานอาหารเที่ยงพอดี

“อ้าว คุณโรส หวึ่งศรีกำลังนำหาคุณโรสพอดีเลยค่ะ คุณนายสีดาให้หวึ่งศรีมาเอิ้นคุณโรสกับคุณไวน์ไปกินข้าวเที่ยงค่ะ”

(อ้าว คุณโรส หวึ่งศรีกำลังตามหาคุณโรสพอดีเลยค่ะ คุณนายสีดาให้หวึ่งศรีมาเรียกคุณโรสกับคุณไวน์ไปทานข้าวเที่ยงค่ะ)

“อ่อ ขะ ค่ะพี่หวึ่งศรี พอดีโรสก็เพิ่งมาตามพี่ไวน์ไปทานข้าวเหมือนกันค่ะ งั้นโรสไปก่อนนะคะ” เธอพูดโกหกออกไปอย่างเขินอายก่อนจะรีบเดินปรี่ออกไปทันที หวึ่งศรีได้แต่ยืนงงเอามือเกาศีรษะแกร่ก ๆ ก่อนจะเดินไปเคาะประตูเรียกชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของบ้าน

“เป็นยังไงบ้างหนูโรส พอจะอยู่ที่นี่ได้ไหม อีสานบ้านนาก็แบบนี้แหละ อาจจะไม่สะดวกสบายเหมือนในเมืองกรุง”

สุพจน์พ่อของวายุภัคและคือสามีของคุณนายสีดาได้เอ่ยถามขึ้น เมื่อทุกคนนั่งล้อมวงกันพร้อมหน้าพร้อมตาเพื่อรับประทานอาหารกันแล้ว คุณนายสีดาให้หวึ่งศรีปูเสื่อบนพื้นตรงชานบ้านเพื่อตั้งวงรับประทานอาหารกันแบบคนอีสาน โดยที่ไม่ได้ตั้งโต้ะเพราะอยากจะให้ว่าที่ลูกสะใภ้ได้ซึมซับความเป็นอีสานบ้านนอกแบบถ่องแท้

“โรสอยู่ได้ค่ะคุณลุง สบายมากค่ะ” เธอตอบด้วยใจจริงพร้อมกับส่งรอยยิ้มหวานจนตาเป็นสระอิ

“ขาดเหลืออะไรก็บอกพี่ไวน์เขาได้เลยนะลูก ป้าจะให้หวึ่งศรีคอยอยู่ดูแลหนูที่นี่อีกคน นอกจากหวึ่งศรีแล้วก็ยังมีนายมืด และลุงเหม้าที่คอยอยู่ช่วยพี่ไวน์ทำงานที่นี่และคอยดูแลโคกหนองนา” คุณนายสีดาพูดขึ้น

“อ้าว แล้วป้าดากับลุงพจน์ล่ะคะ ไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วยกันเหรอคะ” เธอเอ่ยถามขึ้นพลางรอฟังคำตอบด้วยความงุนงง

“ป้าต้องอยู่ดูแลบ้านอีกหลังหนึ่งที่อยู่ในตัวอำเภอน่ะลูก ส่วนลุงพจน์เขาก็ต้องคอยดูแลงานที่ร้านน่ะ นาน ๆ ทีพี่ไวน์เขาถึงจะได้เข้าไปช่วยลุงพจน์ดูแลกิจการบ้าง เพราะงานที่โคกหนองนาก็เยอะอยู่แล้วในแต่ละวัน”

“งั้นหนูก็ต้องอยู่กับพี่วายวอดเพียงลำพังเหรอคะป้าดา แบบนี้มันจะไม่ผิดผีเอาเหรอคะ”

แค่ก แค่ก !!

วายุภัคกับสุพจน์ผู้เป็นพ่อต่างสำลักหน้าดำหน้าแดงพร้อมกัน ทุกคนแทบจะขำก๊ากออกมาเสียให้ได้ในความช่างพูดช่างถามของเธอ

“ไม่เป็นไรหรอกหนูโรส ยังมีหวึ่งศรีอีกทั้งยังมีนายมืดและลุงเหม้าอีก พวกลูก ๆ ไม่ได้อยู่กันตามลำพังสักหน่อย” คุณนายสีดาตอบ

“เอ่อ..ค่ะ”

“ว่าแต่หนูโรสทานอาหารพื้นบ้านอีสานได้นะลูก”

“สบายมากเลยค่ะป้าดา ตอนอยู่กรุงเทพคุณแม่ก็ทำให้โรสทานบ่อย ๆ”

“เอาล่ะ ๆ ทานข้าวกันก่อนดีกว่า เดี๋ยวกับข้าวกับปลาจะเย็นหมดซะก่อน” สุพจน์พูดขึ้นก่อนทั้งหมดจะเริ่มลงมือรับประทานอาหารเที่ยงกันอย่างเอร็ดอร่อย

เมนูเที่ยงนี้มี ส้มตำ เรียกได้ว่าเป็นอาหารอีสานที่โด่งดังที่สุดเลยก็ว่าได้ รสชาติแซ่บนัวสะใจจนน้ำหูน้ำตาแทบจะไหลถึงกับทานไปร้องไห้ไปเลยก็ว่าได้ เมนูต่อมาคือลาบหมู ประกอบไปด้วยเนื้อหมูสับละเอียด ปรุงรสด้วยข้าวคั่ว หอมแดง ต้นหอม ผักชี ใบสะระแหน่ น้ำมะนาว น้ำปลา ผงนัว รสชาติอร่อยจนเธออธิบายไม่ถูก ส่วนเมนูต่อมาคือต้มแซ่บกระดูกหมู มีรสชาติเปรี้ยวเผ็ดแต่ก็แซ่บสะใจเธอไม่เบา และเมนูต่อมาคือแกงอ่อมไก่ นอกจากนี้ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือผักสด น้ำจิ้มแจ่ว และปลาร้าสับ หรือที่คนอีสานเรียกว่า ‘ปลาแดกบอง’ พร้อมข้าวเหนียวร้อน ๆ

อาหารอีสานมีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใคร รสชาติจัดจ้าน เปรี้ยว เผ็ด เค็ม กลมกล่อม สะท้อนวิถีชีวิตและภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวอีสานที่อาศัยอยู่ในดินแดนที่แห้งแล้ง วัตถุดิบส่วนใหญ่หาได้ง่ายในท้องถิ่น เน้นผักพื้นบ้าน สมุนไพร และเนื้อสัตว์ ถึงแม้เธอจะไม่ถนัดทานอาหารอีสานสักเท่าไหร่แต่เธอก็สามารถทานได้ และรสชาติมันไม่ได้แย่เลยสักนิด แต่กลับแซ่บนัวถูกใจสาวชาวกรุงอย่างเธอไม่เบา

หลังจากรับประทานอาหารเที่ยงกันเสร็จแล้ว สุพจน์และคุณนายสีดาสองสามีภรรยาก็ขอตัวกลับบ้านที่ตั้งอยู่ในตัวเมือง ปล่อยให้หนุ่มสาวได้ใช้เวลานี้พักผ่อน และศึกษาดูใจกันที่โคกหนองนาบนพื้นที่ของทุ่งกุลาร้องไห้แห่งนี้ต่อไป ส่วนโรสรินทร์เองก็ขอตัวเข้าไปพักผ่อนในห้องส่วนตัว เพราะการเดินทางจากกรุงเทพมาทุ่งกุลาร้องไห้ ก็ทำเอาเธอรู้สึกเหนื่อยล้าและสูญเสียพลังงานไปมากโขเช่นเดียวกัน

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   ควายคลอดลูก

    เช้าวันใหม่…. เสียงไก่ขันปลุกให้ตื่นตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่โผล่พ้นขอบฟ้า โรสรินทร์ตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้ามืดเพราะเมื่อคืนเธอหลับสนิทตั้งแต่หัววัน เช้าวันนี้เธอจึงรู้สึกกระปรี้กระเปร่าเพราะได้นอนหลับเต็มอิ่ม ร่างบางรีบลุกจากที่นอนเพื่อไปอาบน้ำชำระร่างกายให้ตัวเองสดชื่น และแต่งตัวผลัดเปลี่ยนสื้อผ้าก่อนจะเดินออกมาด้านนอก เธอตั้งใจว่าเช้านี้จะเดินเที่ยวเล่นชมนกชมไม้บริเวณภายในรอบ ๆ โคกหนองนาแห่งนี้ โรสรินทร์สูดหายใจเอาอากาศที่บริสุทธิ์เข้าปอดลึก ๆ ก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ อย่างรู้สึกโล่ง นี่นับว่าเป็นครั้งแรกที่เธอได้สูดเอาอากาศที่บริสุทธิ์แบบนี้เข้าเต็มปอดเลยก็ว่าได้ ยามเช้าตรู่อากาศที่นี่เย็นสบายและปราศจากมลพิษ หมอกบาง ๆ ลอยอยู่เหนือพื้นดินประกอบกับท้องฟ้าสีครามสดใส เช้า ๆ แบบนี้บรรยากาศโดยรอบเงียบสงบได้ยินเพียงแค่เสียงนกร้องและเสียงไก่ขัน ดวงตากลมโตจ้องมองท้องฟ้าสีครามซึ่งสะท้อนลงบนผิวน้ำในหนองที่นิ่งสงบบนโคกดินที่สูงขึ้นจากพื้นราบ โดยรอบมีไม้ยืนต้นเรียงรายสลับกับพืชพรรณนานาพันธุ์ เสียงนกร้องเพลงขับกล่อม บรรยากาศต่างร่มรื่น อากาศเย็นสบาย โรสรินทร์จับจ้องไปที่แปลงผักสวนครัวที่เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   หวง

    “ผมว่าคุณโรสไปล้างเท้าตรงโน้นก่อนดีกว่านะครับ” หมอณภัทรเอ่ยขึ้นพลางชี้นิ้วเรียวยาวไปตรงตุ่มใส่น้ำที่อยู่ใต้ต้นมะม่วง ก่อนโรสรินทร์จะรีบก้มลงไปมองที่เท้าของตัวเองซึ่งตอนนี้ขี้ควายติดเต็มเท้าของเธอไปหมด “อี๋ ขี้ควายเลอะเต็มเท้าเลยค่ะคุณหมอ” “ไปครับ เดี๋ยวผมช่วยล้าง” “ค่ะ” หมั่บ!! “อุ๊ย พี่ไวน์!!” เธอร้องขึ้นมาเสียงดังเมื่อจู่ ๆ วายุภัคก็เดินเข้ามากระชากแขนเธอแรง ๆ จนร่างบางเซถลาเข้าไปกระแทกกับอกแกร่งอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว “เดี๋ยวพี่พาไปล้างเอง หากให้ไอ้หมอพาไปมีหวังเดี๋ยวคนซุ่มซ่ามอย่างเธอได้หาเรื่องให้ไอ้หมอมันซวยไปด้วยอีก” พูดจบมือหนาก็จับข้อมือบางดึงกระชากแรง ๆ ให้เธอเดินตามไป “เบา ๆ สิวะไอ้ไวน์ เดี๋ยวคุณโรสได้ล้มหน้าทิ่มลงไปอีกหรอก” สัตวแพทย์หนุ่มเอ่ยขึ้นตามหลังในขณะที่ทั้งสองคนได้เดินออกไปแล้ว พลางส่ายหัวเบา ๆ อย่างระอาให้กับพฤติกรรมที่ส่อแววไปในทางหึงหวงของเพื่อน “เบิ่งท่าแล้ว…คุณไวน์คงสิหึงคุณโรสล่ะครับคุณหมอ” (ดูท่าแล้ว…คุณไวน์คงจะหึงคุณโรสล่ะครับคุณหมอ) นายมืดเอ่ยขึ้นพลางมองตามหลังของบุคคลทั้งสองที่เดินห่างออกไปแล้ว “นั่นน่ะสิ หึงขนาดนี้มันยังฟอร์มเย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   เหตุการณ์ไม่คาดคิด

    ในเวลาเดียวกัน ขณะที่วายุภัคและโรสรินทร์นั่งรถออกไปในตัวเมือง… “เด็ก ๆ พวกนั้นออกไปกันแล้ว หวึ่งศรีเพิ่งโทรมารายงานฉันเมื่อกี้ และตอนนี้ฉันก็ให้คนของคุณสุพจน์ตามเด็ก ๆ พวกนั้นไปแล้ว” คุณนายสีดาแม่ของวายุภัคพูดกรอกผ่านปลายสายเมื่อโทรคุยกันกับคุณหญิงพิศมัยแม่ของโรสรินทร์ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท “แล้วแผนที่พวกเราวางไว้มันจะสำเร็จเหรอสีดา” คุณหญิงพิศมัยเอ่ยขึ้น “ยังหรอก…เพราะความสำเร็จจริง ๆ คือการที่ลูกของเราต้องแต่งงานกันต่างหากล่ะ นี่มันเป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น ฉันแค่อยากทำให้พวกเขาทั้งสองรักและเป็นห่วงเป็นใยกัน” “นั่นสิเนอะ แต่เธอแน่ใจจริง ๆ เหรอสีดา ว่าแผนแบบนี้จะทำให้ลูก ๆ ของเราสนิทสนมกันมากขึ้น” พิศมัยเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง “แน่ใจสิ !!” สีดาตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “งั้นก็จัดการตามที่เธอเห็นสมควรเลยแล้วกัน เธอจะทำยังไงก็ได้ให้ลูกทั้งสองของเรารักกันเร็ว ๆ จะได้แต่งงานมีหลานให้พวกเราอุ้มสักที” คุณหญิงพิศมัยพูดขึ้นอีกครั้งด้วยแววตาเป็นประกาย เพราะทั้งสองต่างฝันอยากจะเป็นคุณยายคุณย่าเต็มทีแล้ว แต่ลูกสาวและลูกชายทั้งสองคนก็ยังไม่มีวี่แววที่จะช่วยสานฝันให้คนแก่แบบพวกเธอไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   แผนการ

    ‘กรี๊ดดดดดดดด พ่อแก้วแม่แก้วมันเดินมาทางนี้แล้ว คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย บรรพบุรุษทั้งหลายของลูกช้างลูกม้าลูกกาลูกไก่ โปรดจงดลบันดาลให้ลูกรอดพ้นออกไปจากที่นี่ให้ได้ด้วยเถิด สาธุ’ “ไงจ๊ะ น้องสาว เก่งคักติมึงอีคนสวย!!” (ไงจ๊ะ น้องสาว เก่งนักเหรอมึงอีคนสวย) ชายแปลกหน้าคนหนึ่งพูดขึ้น พลางเดินเข้ามาหาเธออย่างเอาเรื่อง “ถอยไป!! พวกมึงสิไสหัวไปไสกะไปคั่นบ่อยากเจ็บโต!” (ถอยไป!! พวกมึงจะไสหัวไปไหนก็ไป ถ้าไม่อยากเจ็บตัว!) วายุภัคเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว ประกอบกับนัยน์ตาที่ลุกโชนด้วยไฟโทสะ “นี่บรรพบุรุษของโรสเข้าไปสิงพี่แล้วหรือไง พี่ไปพูดแบบนั้นกับพวกมันทำไมกัน เดี๋ยวก็พากันเจ็บตัวหมดหรอก” เธอสบถออกมาอีกครั้ง “ถ้าจะเจ็บตัว ก็คงจะเจ็บตั้งแต่เธอไปปาเก้าอี้ใส่พวกมันแล้วไหม เธอนี่แหละตัวดีเลยยัยติ๊งต๊อง!!” วายุภัคอดที่จะพูดจาต่อว่าเธอไม่ได้ ก็ถ้าไม่ใช่เพราะเธอไปวุ่นวายปาเก้าอี้ใส่พวกมันก่อน เขาก็คงจะไม่ต้องมาเสียเวลาออกโรงแบบนี้หรอก “กะ ก็โรสตกใจหนิ” เธอบ่นอุบอิบขึ้นมาอีกครั้ง พลางก้มหน้างุดลงมองพื้นเมื่อรู้ว่าตัวเองนั้นเป็นคนผิด “ฮ่า ๆ คิดว่าพวกกูสิย่านสั้นติ บักหน้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   ขอนอนด้วย

    หลังจากอาบน้ำอาบท่าชำระร่างกายให้ตัวเองได้สดชื่นกระปรี้กระเปร่าแล้ว โรสรินทร์จึงหยิบยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรออกหาผู้เป็นแม่ด้วยความคิดถึง (สวัสดีค่ะคุณแม่ คุณแม่เป็นยังไงบ้างคะ โรสคิดถึงคุณแม่จังเลยค่ะ) น้ำเสียงหวานเอ่ยขึ้นอย่างออดอ้อนผู้เป็นแม่ (ไม่ต้องมาพูดเอาอกเอาใจแม่เลย ไปถึงที่โน่นหลายวันแล้วเพิ่งจะโทรหาแม่ นึกว่าหลงคนที่โน่นจนลืมแม่ไปแล้วซะอีก) คุณหญิงพิศมัยเอ่ยขึ้นอย่างค่อนขอด (แหม…คุณแม่ก็ ใครจะลืมคุณแม่สุดที่รักของโรสได้ล่ะคะ ขี้น้อยใจแบบนี้แก่แล้วนะคะเนี่ย) (ไม่ต้องมาพูดเลย ว่าแต่…หนูอยู่ที่โน่นเป็นยังบ้างลูก พี่ไวน์เขาดูแลเทคแคร์หนูดีไหม) (ดูแลดีมากเลยละค่ะคุณแม่ เสียอย่างเดียวขี้บ่นเป็นคนแก่เหมือนพี่รามเลยค่ะ ชิส์!) เธอกรอกเสียงผ่านปรายสายพลางทำปากยื่นปากยาวอย่างนึกหมั่นไส้คนที่กำลังนินทาอยู่ (เรานี่น๊า…ก็ทำตัวเป็นเด็กดื้อให้พี่เขาบ่นใช่ไหมล่ะ) (เปล่าซะหน่อยนะคะคุณแม่) (ว่าแต่…พี่เขาถูกใจหนูบ้างไหม พี่ไวน์เขาพอจะเป็นผู้ชายในแบบที่หนูชอบได้ไหมลูก) (กล้ามแน่นมากค่ะ อุ๊ย!! มะ ไม่ใช่ค่ะโรสพูดผิด แหะแหะ! พี่เขาก็พอใช้ได้ค่ะคุณแม่ ก็โอเคในระดับนึงค่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   จัดการกับความหื่น

    “อื้ออออ…” เธอขยับตัวเบา ๆ อีกครั้งและกระชับอ้อมกอดที่โอบกอดเขาอยู่ให้แน่นขึ้นราวกับเขาเป็นหมอนข้างซะอย่างนั้น พลางซุกไซ้ใบหน้าหวานเข้ากับอกแกร่ง แขนเรียวเล็กตวัดท่อนแขนและขาขึ้นมากอดก่ายพาดหาหมอนข้างที่เธอเคยกอดก่ายอยู่เป็นประจำ แต่กลับกลายเป็นว่าความอ่อนนุ่มของหมอนข้างที่เธอต้องการนั้น เป็นกำลังกอดก่ายชายหนุ่มผู้ซึ่งคืนนี้เธอต้องนอนร่วมเตียงเดียวกันกับเขา วายุภัคเหลือบสายตาคมกริบมองใบหน้าหวานจิ้มลิ้ม ซึ่งตอนนี้เธอเคลื่อนใบหน้าขึ้นมาเกยบนหน้าอกแกร่งหนัดแน่นของเขาราวกับเป็นเด็กน้อยขี้เซา แต่เขาก็ต้องกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่อย่างยากลำบาก เมื่อเห็นปทุมคู่งามอันใหญ่โตเกินขนาดของเธอที่ตระหง่านอยู่เบื้องหน้า เขาลอบกลืนน้ำลายลงคอหลายอึกเพื่อข่มอารมณ์ที่พุ่งสูงของตัวเองเอาไว้ ตอนนี้อะไร ๆ ของเขามันตื่นเพลิดขึ้นมาจนปวดหนึบไปหมดแล้ว เขาได้แต่พยายามข่มอารมณ์ความต้องการของตัวเองเอาไว้ในใจ และพูดกับตัวเองว่าใจเย็นไว้ ๆ “หายใจเข้าพุทธ…หายใจออกโธ…พุทธ…โธ !!” วายุภัคท่องพุทธโธเบา ๆ อยู่หลายรอบ และพยายามสงบจิตสงบใจให้นิ่งไว้ที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ แต่แล้วสายตาคมกริบก็ยังแอบเคลื่อนไปมองหน้าอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   อย่างอื่นก็ใหญ่

    หนึ่งชั่วโมงต่อมา… “พี่หวึ่งศรีไปไหนคะพี่ไวน์” น้ำเสียงใสแจ๋วเอ่ยถามขึ้นเมื่อเดินเข้ามาถึงห้องครัว แต่กลับเจอเพียงแค่คนตัวโตที่กำลังยืนทำอาหารอยู่ด้วยท่าทางที่ดูคล่องแคล่ว “เห็นบอกว่าคุณแม่เรียกให้ไปช่วยทำธุระน่ะ” “ป้าดาน่ะเหรอคะ” “อืม” เขาตอบเพียงสั้น ๆ แค่นั้น ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาทำอาหารตรงหน้าต่อ “แล้วนี่พี่ไวน์ทำอะไรอยู่คะ ให้โรสช่วยไหม” เธอถามขึ้นเมื่อเห็นอีกคนกำลังกุลีกุจอทำอาหารตรงหน้าอย่างตั้งอกตั้งใจ “จะช่วยทำให้มันยุ่งยากเปล่า ๆ มากกว่าล่ะมั้ง” “คิดในทางแง่ดีบ้างสิคะ ถึงโรสจะไม่ถนัดเรื่องทำอาหาร แต่โรสก็พอช่วยหั่นผักได้นะ” พูดเพียงแค่นั้นเธอก็เดินไปหยิบมีดและผักที่วางอยู่บนเคาเตอร์ครัวขึ้นมาและช่วยเขาหั่นผักตรงหน้า “หั่นให้เล็กกว่านี้หน่อยสิ หั่นผักนะไม่ใช่หั่นศพ” “ก็โรสทำไม่เก่งนี่คะ” “มา...เดี๋ยวพี่สอนให้” เขาพูดเพียงแค่นั้นก่อนจะวางมีดที่ถืออยู่ในมือตัวเองลง ร่างแกร่งเดินเข้าไปช้อนด้านหลังก่อนจะเอื้อมไปจับมือเธอที่ถือมีดอยู่แล้วจึงสอนวิธีหั่นผัก ดวงตาคมจ้องมองใบหน้าของเธออย่างอ่อนโยน ร่างกายของเขาแนบชิดกับร่างกายนุ่มนิ่ม ก่อนจะละสายตาจากแก้มเนียนใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   ปะทะริมฝีปาก

    “ไปกันเถอะ เดี๋ยวพี่ต้องเข้าไปที่ร้านอีก” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นก่อนเธอจะพยักหน้ารับเบา ๆ มือหนาเอื้อมไปจับมือเรียวของเธอ สองมือประสานกันก่อนเขาจะเดินจูงมือเธอเดินออกมา เพียงแค่เขาสัมผัสหัวใจไม่รักดีของเธอก็เต้นถี่รัวขึ้นมาราวกับกลองศึก เธอรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นอ่อนโยนจากเขาที่มอบให้ ริมฝีปากอวบอิ่มยิ้มร่าออกมาอย่างมีความสุข จากที่เมื่อก่อนเธอตั้งแง่รังเกียจคนบ้านนอก แต่ตอนนี้เธอกลับอยากจะให้พ่อแม่จับเธอแต่งงานกับเขาซะตอนนี้ให้รู้แล้วรู้รอด เธอหลงรักผู้ชายบ้านนอกที่แสนจะธรรมดาแบบนี้เข้าให้แล้วจริง ๆ แต่…ความรู้สึกของเขานี่สิ เธอไม่รู้เลยว่าเขารู้สึกกับเธอแบบไหนกันแน่ เพราะเขาไม่เคยแสดงออกเลยด้วยซ้ำว่าชอบเธอ โรสรินทร์เดินผ่านแผงขายเนื้อสัตว์ เสียงพ่อค้าเชือดเนื้อดังสนั่นแววตาของเขาดูจริงจังกับงานมาก ๆ กลิ่นคาวของเนื้อสัตว์โชยมาแตะจมูก แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่รบกวนอะไรเธอมากนัก เธอเดินต่อมาจนถึงแผงขายของชำ ข้าวสารอาหารแห้งที่เรียงรายบนชั้นอย่างเป็นระเบียบ แม่ค้าใจดีกำลังชั่งน้ำหนักข้าวสารให้กับลูกค้า ใบหน้าของเธอยิ้มแย้มแจ่มใส เสียงพ่อค้าแม่ค้าตะโกนเรียกลูกค้ากันดังระงม เสียงเด็ก ๆ ที

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14

บทล่าสุด

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   ปั้มลูกNC+ (จบบริบูรณ์)

    โรสรินทร์กับวายุภัคมองสบตากันลึกซึ้งด้วยความรัก ก่อนใบหน้าคมคายจะค่อย ๆ โน้มลงมาประทับลงบนเรียวปากอวบอิ่มของเธอเบา ๆ ริมฝีปากร้อนฉ่าบดเบียดความนุ่มนิ่มของกลีบปากงามอย่างเนิบนาบ นุ่มนวล ส่งผ่านความรักด้วยการกดย้ำขบเม้มริมฝีปากเธออย่างหนักหน่วงด้วยความเร่าร้อนโหยหา “โรสเสียใจไหม ที่ต้องมาอยู่บ้านนอกคอกนากับพี่แบบนี้” เขาเอ่ยถามสีหน้าจริงจัง ดวงตาคมมีเครื่องหมายคำถามอยู่ในดวงตาที่กำลังสะท้อนทุกความรู้สึกออกมาโดยไม่ต้องเอ่ยปากพูด ก่อนคนที่ได้ยินคำถามนั้นจะยิ้มบาง ๆ และเอื้อมมือเรียวสวยไปจับมือใหญ่มากุมไว้ “โรสยินดีและเต็มใจที่จะอยู่ที่นี่กับพี่ไวน์ค่ะ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน หากที่นั่นมีพี่ไวน์อยู่ด้วยโรสก็อยู่ได้ค่ะ” คำตอบของเธอเรียกรอยยิ้มกว้างจากเขาได้เป็นอย่างดี “พี่รักโรสนะครับ รักมากด้วย” วายุภัคเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังและหนักแน่น ก่อนจะค่อย ๆ โน้มตัวลงมาจูบริมฝีปากอวบอิ่มตรงหน้า ดวงตาคู่นั้นของเธอมองมาที่ริมฝีปากของเขาที่เลื่อนเข้ามาใกล้ ๆ รู้ตัวอีกทีเธอก็หลับตาลงอัตโนมัติก่อนจะสัมผัสถึงรสจูบ มันเป็นจูบที่แผ่วเบา นุ่มนวล อ่อนโยน ก่อนจะค่อย ๆ ทวีความลุ่มลึกร้อนแรงมากขึ้นเรื

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   วันแต่งงาน(งานกินดอง)

    สองเดือนผ่านไป… วันแต่งงาน (งานกินดอง) “อร๊ายยยยย วันนี้คุณไวน์หล่อม๊ากกกค้า หล่อจนพอลล่านี่อยากจะดื่มไวน์แดงเลยค่ะ คริคริ” เมื่อขบวนขันหมากของเจ้าบ่าวใกล้เข้ามาแล้ว พอลล่าตะโกนขึ้นมาเสียงดังด้วยความตื่นเต้น พลางหัวเราะคิกคักชอบใจหลงใหลในความหล่อเหลาบาดใจของเจ้าบ่าวป้ายแดง ที่แค่มองจากไกล ๆ รัศมีความหล่อก็แผ่กระจายไปทั่วทั้งทุ่งกุลาร้องไห้ “น้อย ๆ หน่อย นั่นมันผัวเพื่อนไม่ใช่ผัวแกนังพอลล่า” กชกรเอ่ยขึ้นอย่างนึกหมั่นไส้ที่เพื่อนชายใจเป็นหญิงรู้สึกจะดี๊ด๊าชื่นชมเจ้าบ่าวผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผัวเพื่อนอย่างออกหน้าออกตา “ผัวเพื่อนก็เหมือนผัวเรานั่นแหละย่ะ คริ คริ” “แล้วนี่ฉันไม่สวยเลยหรือไงยะ หัดชมเพื่อนแกบ้างก็ได้นะ นี่ขนาดวันนี้ฉันแต่งตัวสวยสุด ๆ แล้วยังไม่เห็นแกคิดจะชมเลยสักคำ ชิส์!” โรสรินทร์พูดแซะขึ้นมาบ้างอย่างหมั่นไส้ “แกก็สวยทุกวันอยู่แล้วค้านังโรส ต่อให้ไม่แต่งแกก็สวยย่ะ แต่…วันนี้พี่ไวน์ผัวแกหล่อมากจริง ๆ นะ หล่อเวอร์วังถูกใจพอลล่ามาก อ๊ายยยย พอลล่าอยากกินไวน์แดงแท่งใหญ่ ๆ!!” “พอ ๆ ๆ เลย ไวน์แดงมันไม่ได้มีเป็นแท่งเหมือนไอติมหรอกนะยะ เลิกสนใจผัวเพื่อนได้แล้ว อย่าง

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   ขอแต่งงาน

    ช่วงสายวันต่อมา…. “ตื่นได้แล้วนะครับ” “อื้อ…ตื่นไม่ได้ โรสง่วง..!” “แต่นี่มันเที่ยงแล้วนะครับ” มือหนาสะกิดปลุกคนขี้เซาที่ยังคนนอนหลับตาพริ้มอย่างสบายอยู่ในอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นราวกับเป็นลูกแมวขี้เซา ยิ่งเวลาเธอหลับแบบนี้เธอก็ยิ่งดูน่ารัก ทำเอาดวงตาคมกริบจ้องมองจนแทบไม่อยากจะละสายตาออกจากใบหน้าหวาน “อื้อ…” เจ้าของร่างบางขยับตัวออกจากอ้อมกอดของเขาเล็กน้อย ก่อนที่จะเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างช้า ๆ และกระพริบตาถี่ ๆ เพื่อไล่แสง “พี่ไวน์!! ออกไปเลยนะคะ ไม่ต้องมาใกล้โรส!!” เธอรีบแหวใส่เขาขึ้นมาทันทีเมื่อเริ่มจะจับต้นชนปลายทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้ ก่อนจะพยายามเบี่ยงตัวหลบออกจากอ้อมแขนแกร่งที่โอบกอดเธอเอาไว้ “จะให้ออกไปไหนล่ะ ก็นี่มันบ้านของพี่” ดวงตากลมโตหันไปมองภายในรอบ ๆ ห้องซ้ายทีขวาที และ…ที่นี่มันก็ไม่ใช่ห้องของเธอจริง ๆ “งั้นก็ปล่อยค่ะ โรสจะออกไปจากที่นี่เอง!!” เธอเอ่ยขึ้นพลางแกะมือหนาที่ยังคงโอบกอดเธอไว้แน่นราวกับคีบเหล็ก แต่มันก็หาเป็นผลไม่ “ปล่อยให้โง่สิครับ ไม่ปล่อย!” น้ำเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างหน้าด้าน ๆ ยัยแม่มดตัวแสบพอหมดฤทธิ์ของแอลกอฮอล์แล้วตื่นขึ้นมาก็เลยแผลงฤทธิ์เดช

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   น้ำพี่ยังเหลืออีกตั้งเยอะNC+

    สองมือหนาจับขาทั้งสองข้างของเธอแยกออกจากกัน ก่อนจะจ่อแท่งร้อนเข้าไปในร่องรักอันคับแน่นของคนใต้ร่าง วายุภัคมองใบหน้าหวานของโรสรินทร์ที่น้ำตาเอ่อคลอ ก่อนจะค่อย ๆ ดันปลายหัวเห็ดแดงก่ำเข้าไปในร่องคับแคบนั้นอย่างช้า ๆ “อ่าส์…แน่นมาก” “อึก ระ โรสเจ็บ” โรสรินทร์ร้องออกมาเมื่อเธอรู้สึกเจ็บ อีกทั้งความคับแน่นนี้มันยังคงแน่นเหมือนเดิมเหมือนครั้งแรก วายุภัคเองถึงกับต้องซี๊ดปากเบา ๆ เมื่อช่องทางรักของเธอบีบรัดท่อนเนื้อของเขาจนรู้สึกเจ็บเช่นเดียวกัน เขาพยายามดันท่อนเอ็นขนาดใหญ่เข้าไปให้สุด ก่อนเขาจะเริ่มขยับสะโพกสอบเข้าออกเมื่อภายในของเธอเริ่มปรับสภาพกับความใหญ่โตของเขาได้ ท่อนเอ็นที่กำลังผลุบเข้าผลุบออกในร่องสวาทนั้นทำให้คนใต้ร่างเริ่มรู้สึกเสียว “อะ อื้อออ โรสจุก!!” หน้าอกอวบใหญ่เริ่มกระเพื่อมขึ้นลงตามแรงกระแทกกระทั้น มือเรียวขยำผ้าปูที่นอนเอาไว้แน่นเมื่ออีกคนกระแทกเข้าใส่อย่างหนักหน่วง ปั่ก ปั่ก ปั่ก!! เสียงเนื้อกระทบกันเป็นจังหวะเมื่อเขาเริ่มขยับสะโพกแรงขึ้น หนักหน่วงขึ้น โรสรินทร์เม้มปากเอาไว้แน่นเพื่อพยายามข่มเสียงครางอันน่าเกลียดของตัวเองไม่ให้มันดังเล็ดลอดออกมา “อ๊าส์…พูดมาสิ

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   ดีที่จำผัวตัวเองได้

    “ถึงคุณไวน์จะเป็นผัวยัยโรสเพื่อนของพวกเราก็เถอะ ยังไงเกรชกับพอลล่าก็ไม่มีทางปล่อยให้ยัยโรสไปกับผู้ชายโลเลแถมยังกระล่อนปลิ้นปล้อนอย่างคุณไวน์ได้หรอกค่ะ ในเมื่อยัยโรสเพื่อนของพวกเราบอกว่าเลิกกับคุณไปแล้ว พวกเราไม่ปล่อยให้ยัยโรสกลับไปกับคุณได้แน่ ๆ” กชกรเอ่ยขึ้นเสียงแข็ง “ใช่ค่ะ คุณมันเป็นผู้ชายแบบไหนกันคะคุณไวน์ คุณมีคนรักอยู่แล้วยังมาหลอกฟันยัยโรสเพื่อนพวกเราอีก!!” คิ้วหนาของวายุภัคเลิกขึ้นพร้อมขมวดเข้าหากันเป็นปม “ผมไม่เคยทำอะไรแบบนั้นนะครับ ผมไม่เคยคิดแม้แต่จะหลอกอะไรโรสรินทร์” น้ำเสียงเรียบนิ่งของเขาเอ่ยขึ้น “ยัยโรสเป็นคนบอกกับพวกเราเอง ว่าคุณมีคนรักอยู่แล้ว แต่ก็ยังมาหลอกเอามันอีกตั้งหลายน้ำ แถมวันก่อนยังพาแฟนไปซื้อแหวน สวมแหวนให้ผู้หญิงคนนั้นต่อหน้าต่อตายัยโรส!!” “ใช่ เพราะฉะนั้นคุณจะมาพายัยโรสกลับไปไม่ได้ เด็ดขาด พวกเราเป็นเพื่อนรักที่รักที่สุดของยัยโรส ยัยโรสต้องจะกลับไปกับพวกเราเท่านั้น!!” พอลล่าพูดขึ้นอย่างชัดถ้อยชัดคำ อีกทั้งยังยืนยันนอนยันตีลังกายันเสียงแข็งหนักแน่น ก่อนจะพยายามเดินเข้าไปคว้าเอาตัวโรสรินทร์เพื่อนสาวที่สลบไปเพราะเมาหนักให้ออกจากอ้อมแขนแกร่งของวาย

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   เป็นผัว

    “เอาน่า…อย่าร้องไปเลย สวย ๆ รวย ๆ และแถมซาดิสม์อย่างแกหาใหม่ได้สบายอยู่แล้วเพื่อนเลิฟ เดี๋ยวฉันจะจัดน้อง ๆ ทีเด็ดมาเลียแผลใจที่เหวอะหวะของแกให้เอง หรือถ้าแกเผลอถูกใจจะควงไปเลียอย่างอื่นกันต่อก็ได้นะยัยโรส!!” กชกรเอ่ยขึ้นพลางกอดปลอบประโลมเพื่อน “อร๊ายยยย แกเนี่ยพูดถูกใจฉันจริง ๆ นังเกรช! สวยระดับนี้มีเหรอใครจะไม่อยาก เพื่อนฉันน่ะสวยแซ่บสะท้านทรวงนะบอกเลย!” พอลล่าเข้ามาปลอบใจเธอเช่นกัน ก่อนที่กชกรจะหันไปเป็นเชิงส่งซิกอะไรบางอย่างให้กับพนักงานในร้านเรียกบรรดาหนุ่มโฮสต์หล่อ ๆ ล่ำ ๆ ให้เข้ามาดูแลเทคแคร์เพื่อนสาว “ทางนี้จ้าเด็ก ๆ มาเร้ววววว!!” แค่เพียงไม่นานบรรดาเหล่าหนุ่มโฮสต์หล่อ ๆ ล่ำ ๆ มัดกล้ามแน่น ๆ ซิกแพคเป็นลอน ๆ แถมยังนุ่งน้อยห่มน้อยก็ได้เดินเข้ามายืนเรียงรายในห้อง VVIP ที่สามคนนั้นอยู่ แต่ละคนต่างหน้าตาหล่อล่ำ กล้ามแน่น เรียกให้น้ำลายพอลล่าและกชกรแทบจะไหลยืดออกมาราวกับเป็นโรคพิษสุนัขบ้าอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่กับโรสรินทร์เพราะเธอมองผู้ชายหุ่นล่ำกล้ามโตพวกนี้ด้วยใบหน้าเรียบเฉยเหมือนคนไม่มีความรู้สึก เพราะเรื่องหล่อล่ำกล้ามแน่นบรรดาผู้ชายพวกนี้สู้พี่วายวอดไม่ได้สักคนเลยด้วยซ้ำ

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   เช็คเรตติ้ง

    “เอ่อ…ที่ผมมาวันนี้ก็เพราะเรื่องของน้องโรส คุณอาทั้งสองคงพอจะทราบเรื่องแล้ว” วายุภัครีบพูดถึงประเด็นของเรื่องราวที่เกิดขึ้น “อืม อาเองก็พอจะทราบเรื่องแล้ว ยังไงหลานชายเองก็อย่าไปถือสาน้องเลยนะ ยัยตัวแสบลูกสาวอาก็เป็นแบบนี้แหละ ยัยโรสเป็นคนค่อนข้างใจร้อนและเอาแต่ใจไปหน่อย นี่อาก็อุตส่าห์บังคับให้ยัยโรสไปปรับทัศนคติที่โคกหนองนาแล้วนะ ไอ้เราก็คิดว่าจะดีขึ้นและเป็นผู้ใหญ่ขึ้น แต่ที่ไหนได้กลับไม่ได้เรื่อง เฮ้อ!” ท่านสุรพลถอนหายใจออกมาเบา ๆ พลางส่ายหัวให้กับลูกสาวตนเองอย่างเอือมระอา “ยังไงผมก็ต้องกราบขอโทษคุณอาทั้งสองจริง ๆ นะครับ ที่เป็นต้นเหตุทำให้น้องต้องหนีกลับมากรุงเทพปุบปับแบบนี้” วายุภัคลงไปนั่งกับพื้นแล้วก้มลงกราบแทบเท้าของท่านสุรพลและคุณหญิงพิศมัยอย่างรู้สึกผิด ก่อนท่านสุรพลจะใช้มือหนาแตะไปที่บ่าแกร่งบึกบึนของเขาเป็นการยอมรับการกราบขอโทษและสำนึกผิดจริง ๆ “เมื่อทุกอย่างลงตัวแล้วหลังจากนี้ผมอยากจะขออนุญาตคุณอาทั้งสอง พาคุณพ่อคุณแม่มาทาบทามสู่ขอน้องตามธรรมเนียมอย่างสมเกียรติอีกที…ได้หรือไม่ครับ” น้ำเสียงหนักแน่นที่เอ่ยขอออกไปอย่างตรงไปตรงมาประกอบกับสีหน้าและแววตาที่จริงจ

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   กลับกรุงเทพฯ

    ณ สนามบินดอนเมือง… “ยัยโรส ทางนี้!!” กชกรร้องตะโกนขึ้นมาเสียงดัง พลางโบกไม้โบกมือไปมาเมื่อเห็นเพื่อนสาวคนสนิทเดินออกมาจากประตูฝั่งผู้โดยสารขาเข้า “ยัยเกรช! ฮือ…ฉันคิดถึงแกมากเลย” โรสรินทร์รีบโผเข้าหาอ้อมกอดของเพื่อนสนิททันทีที่เดินมาถึง “ไม่ต้องมาปากหวานเลย ไปอยู่บ้านนอกตั้งเดือนกว่า ๆ ฉันนึกว่าแกจะลืมเพื่อนอย่างพวกฉันไปแล้วซะอีก หลังจากวันนั้นแกก็ไม่คิดจะโทรกลับมาหาฉันกับพอลล่าบ้างเลยนะยะ!” กชกรเอ่ยขึ้นอย่างกระเง้ากระงอด “นี่ฉันไปอยู่ร้อยเอ็ดแค่แป้บเดียวเอง แกนี่กลายเป็นคนแก่ไปแล้วเหรอเนี่ย” “อะไร ใครแก่ยะ” กชกรรีบพูดแหวขึ้นมาทันควัน “ก็ขี้น้อยใจเป็นคนแก่ไปได้ไง ถึงฉันไม่ได้โทรหา แต่ฉันก็ส่งข้อความไลน์หาพวกแกทุกวันไหม!!” “เออ นั่นสินะ คิกคิก” กชกรหัวเราะคิกคักขึ้นมา ก่อนเสียงหัวเราะร่านั่นจะเงียบลงเมื่อสังเกตเห็นใบหน้าสวยหวานของเพื่อนสนิทดูแปลกไป ดวงตาคู่สวยนั้นบวมช้ำเหมือนคนที่เพิ่งจะผ่านการร้องไห้มาหมาด ๆ “ยัยโรส แกเป็นอะไรรึเปล่าเนี่ย ทำไมตาแกถึงได้ดูบวม ๆ แดง ๆ เหมือนคนเพิ่งร้องไห้มาเลยล่ะ” กชกรถามขึ้นอย่างห่วงใย พลางจ้องเพื่อนสนิทเพื่อรอฟังคำตอบ “ไว้เดี๋ยวจ

  • หยุมหัวใจอ้ายหนุ่มภูธร   เรื่องเข้าใจผิด

    “โรสรินทร์!!” น้ำเสียงเข้มเอ่ยชื่อเธอขึ้น “ไหนพี่ไวน์บอกจะเข้าไปเคลียร์งานที่ร้านแทนลุงพจน์ไงคะ แล้วนี่ทำงานคงจะเหนื่อยมากเลยสินะคะ เลยพาผู้หญิงออกมาซื้อแหวนเล่นแก้เหนื่อยแก้เบื่อ” สองขาเรียวของเธอเดินย่างกรายเข้าไปหาเขาอย่างใจเย็น เพียงแค่เธอเดินผ่านประตูร้านเครื่องประดับสุดหรู ภาพของชายหนุ่มกับหญิงสาวสวยร่างสูงหุ่นดีราวกับนางแบบ ที่กำลังค่อย ๆ บรรจงสวมแหวนให้กันราวกับคู่รักได้เรียกความสนใจให้เธอหยุดยืนจ้องมองภาพของพวกเขาทั้งสองได้เป็นอย่างดี เธอยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นราวกับคนเป็นอัมพาตไปชั่วขณะ และตอนนี้เธอก็รู้สึกว่าทำไมพวกเขาสองคนถึงได้ดูเหมาะสมกันขนาดนี้นะ แต่แล้วจู่ ๆ เธอเองกลับรู้สึกน้อยใจเขาขึ้นมาเอาเสียดื้อ ๆ ทั้ง ๆ ที่เธอเองยังไม่เคยรู้ถึงความรู้สึกของเขาที่มีต่อเธอเลย แม้แต่บอกรักบอกชอบเธอเขาก็ไม่เคยพูดมันออกมาเลยสักครั้ง มีแค่เพียงเธอเท่านั้นที่รู้สึกว่าหลงรักเขาอยู่ฝ่ายเดียว “มะ มันไม่ใช่อย่างที่คิดเลยนะครับ” เขารีบพูดปฏิเสธขึ้นมาอย่างร้อนรน “คงพาแฟนมาซื้อแหวนสินะคะ?” เธอก็แค่พูดมันออกไปอย่างที่ใจนึกคิด เพียงแค่นั้นหัวใจดวงน้อย ๆ ของเธอก็เริ่มหวั่น เมื่อคิดว่า

DMCA.com Protection Status