แชร์

ตอนที่ 3 รอยยิ้มของน้องชาย

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-23 11:57:09

เสิ่นซื่อที่กลับมาจากขุดผักป่ากับเพื่อนบ้าน เมื่อมาถึงกลับพบว่าลูกชายทั้งสองไม่อยู่ในบ้าน นางหาจนทั่วแล้วแต่หาลูกชายทั้งสองไม่พบ สวนหลังบ้านก็ไม่มี เมื่อไปดูในห้องเก็บฟืนถึงได้รู้ว่าตะกร้าสะพายหลังของลูกชายทั้งสองหายไป นี่ไม่เท่ากับว่าสองพี่น้องพากันขึ้นเขาไปหรือ 

ลูกชายของนางยังไม่ทันได้หายดีก็ขึ้นเขาไปอีกแล้ว ด้วยความร้อนใจเสิ่นซื่อรีบออกไปตามหาทันที แต่ยังไม่ทันที่นางจะได้ก้าวขาออกไปพ้นประตูบ้านก็พบว่าสองพี่น้องจูงมือกันกลับมา และได้ยินเสียงลูกชายคนเล็กหัวเราะคิกคักดังลอยมา เสิ่นซื่อถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งใจ 

“เสี้ยวเอ๋อร์เจ้าพาน้องไปที่ใดมา ไม่ใช่ว่าแม่บอกให้เจ้าพักผ่อนหรือ เจ้ายังไม่หายดีด้วยซ้ำ เสียนเอ๋อร์เหตุใดเจ้าไม่ห้ามปรามพี่ชาย ไม่ใช่แม่บอกให้เจ้าอยู่ดูแลพี่ชายหรือ”

“ท่านแม่ ท่านแม่ขอรับ ข้าเป็นน้องชายเผื่อท่านแม่จะลืม ท่านพี่บอกว่าหายแล้ว อยากออกไปเดินเล่น พวกเราไม่ได้ไปไหนไกลเลยนะขอรับ ไปแค่ลำธารหลังบ้านเอง”

“เจ้าลูกคนนี้นี่ ไม่ใช่ว่าเจ้ารบเร้าให้พี่ใหญ่ของเจ้าพาออกไปหรอกนะ”

“ท่านแม่ขอรับ อย่าตำหนิน้องเลยขอรับ เป็นข้าเองที่ชวนน้องชายออกไป ข้าหายแล้วจริง ๆ ขอรับ ข้านอนมากเกินไปจนปวดหัวไปหมดเลยชวนน้องเล็กไปที่ลำธารหลังบ้านขอรับ”

“ใช่แล้วล่ะท่านแม่ ท่านดูสิพี่ใหญ่เก่งมากเลย พวกเราได้ของกินกลับมาเยอะแยะเลยขอรับ” หยางเสียนพูดด้วยสีหน้าภาคภูมิใจในตัวพี่ชาย

“ท่านแม่เข้าไปคุยกันในบ้านดีกว่าขอรับอย่ายืนอยู่ตรงนี้กันเลย” 

“เสี้ยวเอ๋อร์ ลูกเก็บยอดหญ้าน้ำมาทำอันใดรึ มันกินไม่ได้หรอกนะลูก แล้วไหนจะหน่อไม้นี่อีก มันขมเสียขนาดนั้นมันไม่อร่อยหรอกนะลูก แม่ขอโทษพวกเจ้าพี่น้องที่แม่ไม่มีความสามารถมากกว่านี้นะลูก ทำให้พวกเจ้าต้องหิวโหยหลายต่อหลายครั้ง” เสิ่นซื่อเห็นสิ่งที่ลูกชายเก็บกลับมาก็น้ำตารื้นขึ้นมาทันที

“ท่านแม่ ยอดหญ้าน้ำพวกนี้กินได้ขอรับ ข้าเคยเห็นคนหมู่บ้านอื่นเก็บไปกินกัน มันมีชื่อว่าผักบุ้งขอรับ เพียงแค่ผักบุ้งชนิดนี้เจริญเติบโตได้ดีในน้ำ เป็นคนละพันธุ์กับผักบุ้งที่เราปลูกขอรับ ส่วนหน่อไม้ข้าจะคิดหาวิธีกำจัดความขมของมันออกไปขอรับ”

“ท่านแม่ขอรับ พี่ใหญ่ยังจับปลาตัวใหญ่ได้ตั้ง 4 ตัว ท่านแม่ดูสิขอรับ เท่านี้เราก็มีเนื้อกินแล้ว” หยางเสียนพูดไปรื้อของในตะกร้าออกจนหมด เสิ่นซื่อมองลงไปในตะกร้าก็เห็นปลาตัวใหญ่ ขนาดน่าจะหนักถึงตัวละ 5 ชั่งอยู่ 4 ตัว

“นี่พวกเจ้าจับปลามาได้อย่างไรกัน ไม่ใช่ว่าพวกเจ้าลงไปในลำธารใช่หรือไม่ ไม่ถูกสิปลาพวกนี้ว่ายน้ำเร็วมาก พวกลูกไม่รู้วิธีจับปลาเหตุใดถึงได้จับปลามาได้ ขนาดท่านพ่อของพวกเจ้า ยังไม่เคยจับปลาตัวใหญ่ขนาดนี้ได้เลยนะ”

“ท่านแม่ขอรับ พี่ใหญ่รู้วิธีดักปลาขอรับ ท่านแม่อย่าไปบอกใครเชียวล่ะ นี่เป็นความลับของพี่ใหญ่”

“เจ้าลูกคนนี้นี่ แม่รู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควรพูด เจ้าเห็นแม่เป็นเด็ก ๆ หรือยังไง เอาล่ะบอกความจริงแม่มาได้แล้ว”

“ท่านแม่ขอรับ พวกเราไม่ได้ลงไปในลำธารขอรับ เพียงแต่ข้าลองขุดหลุมดักปลาขึ้นมาตามที่ข้าบังเอิญได้ยินนายพรานต่างหมู่บ้านพูดกันตอนตามท่านพ่อไปขายสัตว์ป่าในเมืองขอรับ ข้าก็เลยลองทำตามที่ได้ยินมาเท่านั้น ปรากฏว่ามันได้ผล ต่อไปนี้พวกเราจะมีปลากินทุกวันขอรับ ท่านแม่ขอรับ เราแบ่งปลาไปให้บ้านท่านปู่ท่านย่า 2 ตัวได้หรือไม่ขอรับ ลุงใหญ่เองก็ไม่อยู่ ป้าสะใภ้เองก็เจ็บไข้อยู่ตลอดเวลา ท่านย่าเองก็อายุมากแล้ว จะได้ต้มน้ำแกงบำรุงร่างกาย”

“ได้สิ ทำไมถึงจะไม่ได้ล่ะ เช่นนั้นหน่อไม้กับผักบุ้งของลูกจะทำยังไงกับมัน”

“ท่านแม่ช่วยข้าปอกเปลือกหน่อไม้ จากนั้นนำไปต้ม ตอนต้มใส่เกลือลงไปเล็กน้อย ต้มจนหน่อไม้สุกจากนั้นท่านแม่นำออกมาล้างน้ำและชิมดู ถ้ายังขมท่านแม่นำกลับไปต้มอีกครั้งขอรับ ข้าคิดว่าเท่านี้น่าจะได้แล้ว”

“ตกลงแม่จะลองดู วิธีนี้ลูกก็ได้ยินพวกนายพรานพูดกันอีกหรือ”

“ขอรับ” หยางเสี้ยวได้แต่แอบเอานิ้วไขว้กันอยู่ด้านหลัง เขาไม่ได้อยากจะโกหกสักหน่อย แต่มันจำเป็นเพื่อความอยู่รอดของครอบครัว

สองพี่น้องเดินจับจูงมือกันไปบ้านของท่านปู่ หยางเสี้ยวสะพายตะกร้า ระหว่างที่เดินไปบ้านของท่านปู่นั้นเด็กชายรู้สึกได้ว่าหมู่บ้านลี่จวงแห่งนี้ชาวบ้านส่วนใหญ่ฐานะยากจนเสียส่วนใหญ่ มีเพียงหลานชายของหัวหน้าหมู่บ้านเท่านั้นที่มีโอกาสได้เรียนหนังสือในตำบล ทั้งสองคนเดินมาได้ไม่นานก็มาถึงบ้านของท่านปู่ ถึงแม้ว่าบ้านของท่านปู่จะมีสภาพดีกว่าบ้านของเขาอยู่เล็กน้อย แต่รวม ๆ แล้วคือมันเก่าจวนเจียนจะพังลงมาเสียให้ได้ ไม่รู้ว่าด้วยสภาพบ้านแบบนี้พวกเขาจะผ่านฝนผ่านหนาวไปได้อย่างไร

“ท่านปู่ ท่านย่า พวกข้ามาแล้ว มีใครอยู่บ้างขอรับ ป้าสะใภ้อยู่บ้านหรือไม่ขอรับ” หยางเสียนยังคงเป็นเด็กน้อยร่าเริงที่ส่งเสียงดังเรียกหาคนในบ้าน

“เสียนเอ๋อร์เองหรอกหรือ เสี้ยวเอ๋อร์ก็มาด้วย หลานหายดีแล้วหรือ ถึงได้ออกมาข้างนอก” หานซื่อถามไถ่หลานชายด้วยความเป็นห่วง

“ท่านย่า ข้าหายดีแล้วขอรับ วันนี้ข้ากับน้องจับปลาได้เลยเอามาให้ท่านป้าสะใภ้ต้มน้ำแกงบำรุงให้ท่านปู่ท่านย่ากินขอรับ แล้วนี่ท่านปู่ไปที่ใดหรือขอรับ”

“ปู่ของเจ้าออกไปเก็บฟืนประเดี๋ยวก็กลับแล้วล่ะ ส่วนป้าสะใภ้ของเจ้าไปซักผ้าอีกเดี๋ยวก็คงกลับมาแล้วล่ะ"

“เช่นนั้นข้าเอาปลาไปไว้ที่ห้องครัวนะขอรับท่านย่า”

“ไม่ต้อง ๆ ย่าเอาไปเองได้ เจ้ากับเสียนเอ๋อร์นั่งรอย่าที่นี่ล่ะ” หานซื่อยกตะกร้าเข้าไปในครัว หลังจากเอาใบไม้ที่ปิดอยู่ด้านบนออก ก็ต้องตกใจเพราะปลาที่หลานชายนำมาให้นั้นตัวใหญ่มากทีเดียว

“เสี้ยวเอ๋อร์ ครั้งหน้าไม่ต้องแบ่งปลามาให้ย่ามากขนาดนี้ หลานเอาไปขายให้บ้านตาเฒ่าฟู่กุ้ย จะได้มีเงินเอาไว้ใช้ในบ้าน”

“ท่านย่า นี่ถือเป็นความกตัญญูจากพวกเรานะขอรับ อีกอย่างข้ามีวิธีจับปลา แต่ว่าจะมากพอนำไปขายหรือไม่นั้นต้องดูอีกที แต่ข้าอยากให้ท่านย่าท่านปู่ ท่านป้าสะใภ้ รวมถึงทุกคนในครอบครัวของพวกเราร่างกายแข็งแรงมากกว่าขอรับ ถ้าหากร่างกายแข็งแรงไม่เจ็บป่วยเราก็ไม่ต้องหาเงินเพื่อจ่ายค่ายาแบบนี้ดีกว่าขอรับ ท่านย่ากินน้ำแกงปลาให้สบายใจได้เลย พรุ่งนี้ข้าจะเอาปลามาให้อีกนะขอรับ ตอนนี้ข้ากับน้องกลับบ้านก่อนท่านแม่อยู่บ้านคนเดียว”

“เช่นนั้นก็กลับบ้านดี ๆ ล่ะ ขอบใจหลานมาก”

“ข้ากลับก่อนนะขอรับท่านย่า”

หลานชายทั้งสองกลับไปแล้ว หานซื่อได้แต่มองตามแผ่นหลังของเด็กทั้งสองคน นางมีลูกทั้งหมดสามคน ลูกชายสองคน ส่วนลูกสาวคนเล็กนั้นแต่งออกไปอยู่หมู่บ้านอื่นไม่รู้ว่าจะได้รับความลำบากใจจากแม่สามีบ้างหรือไม่ เพราะครอบครัวของนางยากจน สินเดิมเจ้าสาวไม่สามารถจัดหาได้มากมายนัก ถึงแม้ว่าลูกเขยจะเป็นคนดีมากคนหนึ่ง แต่หน้ามือก็มารดาหลังมือก็ภรรยาย่อมลำบากใจอยู่บ้าง

หลินซื่อกลับมาจากซักผ้าเห็นแม่สามียืนเหม่ออยู่หน้าบ้าน ไม่รู้ว่าในใจนางคิดอะไรอยู่ดูแล้วท่าทางทุกข์ใจไม่น้อย นางเองก็ร่างกายไม่แข็งแรงตั้งแต่คลอดลูกคนเล็ก ทำให้ไม่สามารถทำงานหนัก ๆ ได้เหมือนเดิม ภาระทั้งหลายจึงตกอยู่ที่แม่สามี

“ท่านแม่ ทำไมถึงมายืนอยู่ตรงนี้เจ้าคะ แล้วนี้ เด็ก ๆ ยังไม่กลับจากตัดหญ้าให้หมูหรือเจ้าคะ”

“อ่อ ข้าออกมาส่งเสี้ยวเอ๋อร์กับเสียนเอ๋อร์น่ะ พวกเจ้าใหญ่กับน้อง ๆ ยังไม่กลับมาหรอก เจ้ารีบไปตากผ้าเถอะ ประเดี๋ยวแม่จะไปทำกับข้าวรอพ่อเจ้า วันนี้เสี้ยวเอ๋อร์กับเสียนเอ๋อร์เอาปลามาให้ตัวใหญ่เลยล่ะ”

“ปลาหรือเจ้าคะ ปลาจากที่ใดกัน” หลินซื่อถามออกมาด้วยความตกใจ หยางเสี้ยวอายุน้อยกว่าลูกชายของนางถึง 2 ปี 

“เห็นบอกว่าจับมาจากลำธารหลังบ้าน เลยแบ่งมาให้พวกเราต้มน้ำแกงบำรุงร่างกาย”

“เจ้าค่ะ”

หญิงต่างวัยทั้งสองคนแยกกันทำงาน หลินซื่อนำผ้าที่ซักขึ้นตากเสร็จพอดี พ่อสามีก็แบกฟืนกลับมาพร้อมด้วยลูกชายทั้งสามคนของนาง หยางเซวียน อายุ 10 ขวบพี่เป็นใหญ่ หยางชิง อายุ 8 ขวบเท่ากับหยางเสี้ยว หยางอิน อายุ 6 ขวบเท่ากับหยางเสียน

“โอ๊ะ ท่านย่าทำอันใดกินหอมมาก ท้องข้าร้องประท้วงแล้ว” หยางอินตัวน้อยวิ่งเข้ามาในลานบ้านพร้อมกับตะโกนออกมา

“น้องสาม เก็บความตะกละเอาไว้บางเถอะ” หยางชิง

“พี่ใหญ่พี่รองว่าข้า” หยางอินฟ้องพี่ชาย

“พอได้แล้วพวกเจ้าสองคน เอาผักป่าพวกนี้ไปให้หมูก่อนจะได้ล้างมือมากินข้าว เซวียนเอ๋อร์หลานพาน้องเอาผักป่าพวกนี้ไปที่เล้าหมูก่อนแล้วค่อยมากินข้าว อย่านานล่ะ”

“ขอรับท่านปู่”

หยางไห่นำฟืนที่หามาได้วันนี้ไปเก็บไว้ในห้องเก็บฟืน จากนั้นก็รีบไปล้างมือเพื่อเตรียมกินมื้อกลางวันที่ล่าช้ามานาน เพราะวันนี้พวกเขาปู่หลานออกไปหาฟืนและตัดหญ้าเพื่อนำมาเลี้ยงหมูไกลกว่าเดิม ทำให้เสียเวลาไปกลับนานกว่าปกติ

“ยายเฒ่าข้ากลับมาแล้ว วันนี้เจ้าทำอันใดกิน ข้าได้กลิ่นเหมือนน้ำแกงปลา”

“จมูกดีจริงนะตาเฒ่า ข้าก็ทำน้ำแกงปลาน่ะสิ เสี้ยวเอ๋อร์กับเสียนเอ๋อร์เอาปลามาให้ตัวใหญ่เชียวล่ะ”

“หลานไปเอาปลามาจากไหน”

“เห็นบอกว่าจับมาจากลำธารหลังบ้าน”

“จริงรึ เสี้ยวเอ๋อร์จับเองเลยรึ”

“เอ๊ะ ตาเฒ่านี่ เสี้ยวเอ๋อร์บอกว่าจับเองก็จับเองสิ เจ้าไม่เชื่อในตัวหลานหรือ”

“ไม่ใช่ ไม่ใช่ ข้าเพียงแต่คิดว่าปลาว่ายน้ำเร็วมาก เสี้ยวเอ๋อร์อาจจะมีวิธีจับปลาก็เป็นได้ หากว่าข้าจะไปถามหลานเจ้าว่าจะเป็นการเห็นแก่ตัวหรือไม่”

“เจ้าไม่ต้องไปถามหลาน หากหลานอยากบอกหลานจะบอกเอง อย่าทำให้หลานลำบากใจ เสี้ยวเอ๋อร์ยังบอกว่าหากจับปลาได้อีกจะเอามาให้ เจ้ารอกินก็พออย่าไปสร้างความอึดอัดใจให้หลาน”

“ข้าเข้าใจแล้ว”

หยางเสี้ยวกลับมาถึงบ้านเสิ่นซื่อก็ต้มหน่อไม้สุกพอดี เมื่อชิมดูแล้วไม่หลงเหลือรสขมอีก มีเพียงรสหวานเท่านั้น เสิ่นซื่อดีใจจนน้ำตาไหล นางตั้งใจว่าจะไปขุดหน่อไม้แล้วนำมาต้มตากแดดเพื่อเก็บไว้เป็นเสบียง หลังจากจัดการหน่อไม้เสร็จแล้ว หยางเสี้ยวล้างผักบุ้งมาส่งให้ที่ห้องครัว เสิ่นซื่อผัดผักบุ้งใส่เพียงเกลือนิดหน่อยเท่านั้น และผัดหน่อไม้ตามคำแนะนำของลูกชายอีกหนึ่งจาน อาหารวันนี้ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์กว่าวันไหน ๆ มีผัดหน่อไม้ ผัดผักบุ้ง น้ำแกงปลา อาหารธรรมดาแต่ดูหรูหราสำหรับครอบครัวชาวบ้านจน ๆ 

“เสียดายที่ท่านพ่อยังไม่กลับมา ไม่เช่นนั้นท่านพ่อก็จะได้กินน้ำแกงปลาแล้ว” หยางเสียน

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    ตอนที่ 4 ขายปลา

    เช้าวันต่อมาหยางเสี้ยวตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น ข้อดีของการทะลุมิติมาในโลกคู่ขนานแห่งนี้ก็คือ ที่นี่มีทั้งท่านแม่ที่หน้าตาเหมือนคุณแม่ในโลกเดิมทุกอย่าง รวมถึงลักษณะนิสัยด้วย ตอนนี้หยางเสี้ยวมีความมั่นใจว่าท่านพ่อเองก็คงจะมีหน้าตาเหมือนกับคุณพ่อของเขาด้วยเช่นกัน ที่สำคัญเขาไม่ได้เป็นลูกคนเดียวโดดเดี่ยวอีกแล้ว เขามีน้องชายที่น่ารักสดใส ถึงแม้ครอบครัวจะยากจนมากก็ตามที และความยากจนนี่ล่ะที่เป็นอุปสรรคสำคัญของหยางเสี้ยว แต่ถึงจะยากจนหยางเสี้ยวก็ไม่คิดเก็บเอามาใส่ใจ มีเพียงพยายามใช้ชีวิตและมีชีวิตอยู่ตราบใดที่เราพยายามพอ ความยากจนก็ไม่ใช่อุปสรรคสำคัญอีกต่อไป ไม่แน่ว่าการที่เขาทะลุมิติมาอาจจะเป็นบททดสอบในการใช้ชีวิต เหมือนกับการรับภารกิจตอนเล่นเกมออนไลน์ หากทำภารกิจสำเร็จย่อมมีรางวัลตามมา หยางเสี้ยวเชื่อเช่นนั้นหลังจากล้างหน้าล้างตาบ้วนปากเรียบร้อยแล้ว หยางเสี้ยวสะพายตะกร้าเดินมุ่งหน้าไปยังลำธารที่เขาขุดหลุมดักปลาเอาไว้ วันนี้หยางเสี้ยวตั้งใจจะขึ้นเขาเผื่อว่าจะได้อะไรติดไม้ติดมือกลับมาบ้าง ตอนนี้ตัวเขาเองมาอยู่ในร่างของเด็กอายุ 8 ขวบ จึงไม่สามารถทำอะไรได้มากมายนัก สำหรับการล่าสัตว์เขาทำได้เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23
  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง     ตอนที่ 5 สมาชิกใหม่

    หยางเสี้ยวที่เดินมุ่งหน้าไปตรวจดูกับดักที่เขาวางเอาไว้ด้วยความเร่งรีบ ถึงแม้ว่าวันนี้เขาจะไม่พบของกินอย่างอื่นอีกนอกจากผักป่ากับเห็ดหูหนูดำ แต่ในใจลึก ๆ เด็กน้อยหวังว่าจะมีไก่ฟ้าหรือกระต่ายป่ามาติดกับดักที่เขาวางเอาไว้บ้าง อย่างน้อย ๆ จะได้นำไปทำอาหารบำรุงร่างกาย เขาจำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายที่กินเนื้อคือเมื่อไหร่ ความปรารถนาของหยางเสี้ยวในตอนนี้คือ มีอาหารมากพอให้กินอิ่มในทุกวัน และมีอาหารมากพอเพื่อเก็บสะสมเอาไว้เป็นเสบียงในฤดูหนาว ที่สำคัญหลังคาบ้านคงต้องทำการซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน เพราะดูจากสภาพของบ้านในตอนนี้คงอยู่ไม่พ้นฤดูหนาวแน่ พอหิมะตกลงมาหลังคาบ้านคงถล่มลงมาแน่ ๆ แค่คิดก็กลัวแทบแย่แล้ว ไหนจะเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มที่ต้องเตรียม เหมือนกับว่าเขาได้ทะลุมิติมาเพื่อทำภารกิจเอาชีวิตรอดในโลกคู่ขนานยังไงยังงั้น“เฮ้อ ชาติที่แล้วว่ายากจนแล้ว ชาตินี้ยิ่งยากจนกว่า ไหน ๆ ก็มาแล้วก็คงต้องสู้กันสักตั้ง หวังว่าจะไม่ตายรอบสองหรอกนะ ทำไมไม่เหมือนที่เราคิดเอาไว้เลยล่ะ ไม่ใช่ชีวิตที่แล้วจน พอได้มีโอกาสได้เกิดใหม่จะต้องรวยหรือเปล่า ทำไมไม่เหมือนที่คิดเอาไว้เลยล่ะ ไม่เห็นเหมือนที่นิยายเขียนเอาไว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23
  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง     ตอนที่ 6 เรื่องราวในป่าใหญ่

    ชาวบ้านที่รวมกลุ่มกันเข้าป่าล่าสัตว์พวกเขาเข้าป่ามาหลายวันแล้วแต่เดิมสมควรจะกลับออกจากป่าได้แล้ว เพียงแต่ว่าการเข้าป่ามาครั้งนี้ยังล่าสัตว์ใหญ่อย่างหมูป่าไม่ได้เลยสักตัว หากยังไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือกลับไปไม่นับว่ามาเสียเที่ยวหรอกหรือ เพราะความเป็นอยู่ของครอบครัวล้วนยากจน การรวมกลุ่มเข้าป่าล่าสัตว์วันนี้ทุกคนพกความหวังมาเต็มเปี่ยม หากกลับไปมือเปล่าไม่เท่ากับว่าคว้าน้ำเหลวหรอกหรือเพราะเป็นแบบนี้คนทั้งกลุ่มได้ตัดสินใจเข้าไปในป่าลึกกว่าที่เคยมา การรวมกลุ่มกันออกมาล่าสัตว์ในครั้งนี้ กินเวลาไปหลายวันกว่าทุกครั้ง หากว่าอีกสองวันยังคงล่าอะไรไม่ได้เลย พวกเขาก็ตัดสินใจที่จะออกจากป่ากลับบ้านทันที “พี่ใหญ่ พวกเราออกจากบ้านมาหลายวันแล้วข้ารู้สึกใจคอไม่ดีเลย ไม่รู้ว่าจะมีเรื่องอันใดเกิดขึ้นหรือไม่ วันที่พวกเราเดินทางมาเสี้ยวเอ๋อร์มีไข้ ตัวร้อนมาก” หยางเทียน“น้องรองอย่าคิดมากเลย ไม่มีอะไรหรอก ทำใจให้สบายเถอะ ไม่แน่ว่าตอนนี้เสี้ยวเอ๋อร์อาจจะหายดีแล้วก็เป็นได้” หยางเทาได้แต่ปลอบน้องชาย“ถ้าหากว่าสองวันนี้ยังล่าอะไรไม่ได้อีก ข้าจะกลับบ้านแล้วล่ะ อีกอย่างข้าไม่อยากจะเข้าป่าไปลึกมากกว่านี้แล้วพี่ใหญ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23
  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    ตอนที่ 7 เข้าป่ากับหยางเชวียน

    วันนี้เพราะมีหยางเชวียนมาด้วยทำให้หยางเสี้ยวกำลังตัดสินใจว่าจะไปที่ภูเขาอู๋หลงดีหรือไม่ เพราะการที่เขาเข้าป่าลึกไปทุกวันนั้นเขาไม่ได้บอกให้ใครรู้ ทุกคนเข้าใจว่าเขาไปขุดผักป่าและวางกับดักที่ภูเขาซิ่วสือที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของภูเขาอู๋หลง แต่หลังจากคิดไตร่ตรองรอบคอบแล้ว หยางเสี้ยวคิดว่าตัวเองสมควรจะพูดจาตกลงกับพี่ชายลูกพี่ลูกน้องของตัวเองให้เข้าใจ ตอนนี้ท่านลุงยังไม่กลับบ้าน ลำพังอาศัยแค่ท่านปู่คนเดียวคงจะไม่ได้ ป้าสะใภ้เจ็บป่วยอ่อนแอ ท่านย่าเองร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงเช่นเดียวกัน หยางเสี้ยวคิดว่าที่ทุกคนร่างกายไม่แข็งแรงมักเจ็บป่วยอยู่เสมอนั้นอาจจะเป็นเพราะขาดสารอาหาร เมื่อความเป็นอยู่ไม่ดีอาหารมีไม่เพียงพอ เนื้อสัตว์คือสิ่งที่หายาก อาหารแต่ละมื้อไม่ผักป่าผัดกับน้ำเติมเกลือนิดหน่อยก็เป็นโจ๊กที่หาเม็ดข้าวไม่เจอ น้ำมันสำหรับทำอาหารนั้นเป็นสิ่งที่หายากสำหรับชาวบ้านยากจน ส่วนเกลือก็ราคาแพง แต่ที่แพงกว่าเกลือก็น้ำตาล ไม่ว่าจะอะไรล้วนแล้วแต่ต้องใช้เงินทั้งนั้น“อาเสี้ยว มีอะไรหรือเปล่า ข้าเห็นเจ้าทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่นานสองนาน แล้วนี่เราจะไปขุดผักป่าที่ไหนหรือ ทำไมเจ้าพาข้าเดินมาทางนี้ล่ะ เราไม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23
  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง     ตอนที่ 8 รู้ความจริง

    หยางเสี้ยวยังคงเดินหน้าเข้าไปในภูเขาอู๋หลงต่อไปเรื่อย ๆ หยางเชวียนเองก็ไม่ได้มีความหวาดกลัวเท่ากับตอนแรกที่ยังไม่ได้เข้ามา ตอนนี้ในตะกร้าของเขามีผักป่าอยู่มากมาย หยางเสี้ยวบอกกับเขาว่าอย่าเก็บผักป่าไปมากนัก ให้เหลือพื้นที่ในตะกร้าเอาไว้ใส่ผลไม้ด้วย หากว่าไม่พบผลไม้อย่างอื่นค่อยเก็บผักป่าใส่ให้เต็ม“อาเสี้ยว ถ้าพวกเราเดินเข้าไปอีกจะกลับออกจากป่าไม่ทันนะ มันจะมืดเสียก่อน วันนี้พอแค่นี้ดีหรือไม่”“เอาแบบนั้นก็ได้ แต่ว่าพรุ่งนี้ข้าอยากไปดูแถวป่าไผ่ก่อน ไม่รู้ว่าจะมีเห็ดเยื่อไผ่ให้เก็บหรือไม่”“เห็ดเยื่อไผ่คืออะไร ทำไมข้าไม่เคยได้ยินหรือได้เห็นเห็ดเยื่อไผ่ที่เจ้าว่ามานี้เลย” “ข้าว่าท่านน่ะอาจจะเคยเห็นแต่ไม่รู้จักก็เป็นได้”ในตอนที่ทั้งสองคนคุยกันเดินกลับออกจากป่าเพื่อจะไปตรวจดูกับดักที่หยางเสี้ยววางเอาไว้นั้น หยางเสี้ยวได้ยินเสียงคนคุยกันมาจากอีกด้านของป่า เด็กชายส่งสัญญาณให้หยางเชวียนเงียบ จากนั้นจึงพากันไปหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ เสียงที่ทั้งสองคนได้ยินนั้นคือเสียงของลูกชายผู้ใหญ่บ้านเป็นไปตามที่หยางเสี้ยวได้คาดการณ์เอาไว้ไม่มีผิด ปล่อยข่าวลือที่ทำให้ชาวบ้านหวาดกลัว เพื่อที่ตัวเองจะได้เก็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23
  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง     ตอนที่ 9 การกลับมาของท่านพ่อ

    เสิ่นซื่อมองแผ่นหลังของลูกหลานเดินออกจากบ้านไปพร้อมตะกร้าใบเล็กที่ใส่กระต่ายเอาไว้ กระต่ายตัวอ้วนน้ำหนักน่าจะประมาณสี่หรือห้าชั่ง หยางเชวียนแบกตะกร้าที่เต็มไปด้วยของป่า นอกจากนี้ยังมีไก่ฟ้ากับกระต่ายป่าอย่างละตัว ทั้งสองคนใช้เวลาไม่นานก็เดินมาถึงบ้านลุงฟู่กุ้ย หยางเสี้ยวต้องการขายกระต่ายตัวนี้ก่อน ค่อยไปบ้านท่านปู่พร้อมกับหยางเชวียน “อาเสี้ยว เจ้าว่าท่านปู่กับท่านย่าจะกล้ากินผูเถานี่หรือไม่ แล้วเราสองคนจะโดนท่านปู่ตำหนิหรือไม่ที่เข้าป่าไปลึก” หยางเชวียนเริ่มวิตกกังวล“ท่านไม่ต้องกลัวไป ประเดี๋ยวข้าจะอธิบายให้ท่านปู่ฟังเอง ข้าเชื่อว่าท่านปู่มีเหตุผลพอที่จะไม่ดุด่าพวกเรา อาจจะมีตักเตือนนิดหน่อย”“ข้ากลัวว่าจะโดนไม้เรียวนี่สิ”“ท่านคิดมากไปแล้ว”เด็กชายทั้งสองยืนคุยกันอยู่หน้าบ้านของท่านลุงฟู่กุ้ยจนทำให้ท่านป้าหนิงเปิดประตูออกมาเรียกให้ทั้งสองเข้าไปในบ้าน“เจ้าสองคนพี่น้อง มายืนทำอันใดอยู่ตรงนี้ หรือว่ามีของมาขายให้ลุงฟู่กุ้ยของพวกเจ้ากันล่ะ เข้ามาก่อนสิ”“ขอบคุณท่านป้ามากขอรับ ข้าเอากระต่ายมาขายน่ะขอรับ” “โอ้ กระต่ายเหรอ เจ้ารอสักประเดี๋ยวป้าจะไปเรียกลุงของเจ้ามา”“ขอบคุณท่านป้าขอรับ”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23
  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    ตอนที่ 10 ครอบครัวพร้อมหน้า

    เสิ่นซื่อได้ยินเสียงลูกชายคนเล็กร้องเอะอะเรียกนางกับบุตรชายคนโตเสียงดัง ในที่สุดสามีของนางก็กลับมาได้เสียที ความกังวลใจที่มีตลอดหลายวันมานี้ ก็สามารถวางลงได้แล้ว หยางเสี้ยวเองก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ ท่านพ่อที่ไม่เคยได้พบหน้ากันผู้นี้ จะมีหน้าตาเหมือนพ่ออาทิตย์ของเขาหรือไม่สองแม่ลูกรีบเดินออกไปยังลานหน้าบ้านด้วยความเร่งรีบ เสิ่นซื่อมีรอยยิ้มอยู่เต็มหน้า เมื่อเห็นว่าผู้เป็นสามีกลับมาด้วยความปลอดภัย ไม่ได้เกิดเรื่องอะไรร้ายแรงขึ้นกับเขาอย่างที่นางเป็นกังวล เพราะครั้งนี้หยางเทียนเข้าป่าไปหลายวันกว่าทุกครั้ง เสิ่นซื่ออดกลัวไม่ได้ว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นในป่า"ท่านพี่ ท่านกลับมาแล้ว""อื้ม ข้ากลับมาแล้ว ครั้งนี้ไปเสียหลายวันพวกเจ้าแม่ลูกคงเป็นห่วงแย่"หยางเสี้ยวที่เดินตามหลังผู้เป็นแม่ออกมา เมื่อเห็นหน้าคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นบิดาในภพภูมินี้ของตน ก็อดที่จะหลั่งน้ำตาออกมาไม่ได้ หยางเทียน บิดาในชาตินี้ของเขามีหน้าตาเหมือนพ่ออาทิตย์อย่างไม่ผิดเพี้ยน ราวกับว่าเป็นคนคนเดียวกันเสียอย่างนั้น หากเขาไม่ได้มาเกิดใหม่ในร่างของหยางเสี้ยว ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าของเขาตอนนี้ก็คือพ่ออาทิตย์ของเขาอย่างไม่ต้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23
  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง     ตอนที่ 11 ขายผูเถา

    เช้าวันต่อมาหยางเทียนแบกตะกร้าที่ใส่ผูเถาเอาไว้ออกจากบ้านไปตั้งแต่ยามเหม่า พร้อมด้วยหยางเทาผู้เป็นพี่ชาย เป้าหมายคือโรงเตี๊ยมเยี่ยนไหล เช้านี้ทั้งสองคนจะนำเอาผูเถาที่ลูกชายเก็บกลับมาจากภูเขาอู๋หลงเข้าไปขาย ทั้งสองคนไม่รู้ว่าจะขายได้หรือไม่ แต่หยางเสี้ยวบอกเอาไว้ว่าต้องขายได้แน่ ๆ เพียงแต่จะได้มากได้น้อยนั้นขึ้นอยู่กับราคารับซื้อของโรงเตี๊ยม“น้องรอง ตั้งแต่เสี้ยวเอ๋อร์หายป่วยท่านพ่อบอกว่าหลานเปลี่ยนไปมากหรือ” หยางเทาถามน้องชายถึงความเปลี่ยนแปลงของหลาน“ใช่ขอรับพี่ใหญ่ เสี้ยวเอ๋อร์เปลี่ยนไปมากจริง ๆ ข้าไม่รู้ว่าตอนที่ลูกล้มป่วยเขาไปเจอเรื่องอันใดมา แต่ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน เขาก็ยังคงเป็นลูกชายของข้าเสมอ”“เจ้าเองอย่าได้คิดมากเลย การที่อาเสี้ยวเปลี่ยนไปในทางที่ดีแบบนี้ก็ดีแล้ว อายุแค่ 8 ขวบปีแต่จิตใจเข้มแข็งกล้าหาญกว่าข้าที่เป็นท่านลุงอีก อาเชวียนเล่าว่าอาเสี้ยวสอนวางกับดักด้วย เสียดายที่พวกเราไม่มีเงินส่งเสียให้ลูกได้เรียนหนังสือ ด้วยความฉลาดของพวกเขาข้าคิดว่าต้องสอบได้เป็นซิ่วไฉแน่”“ไม่แน่ว่าในอนาคตชีวิตของพวกเราอาจจะดีขึ้นก็ได้ ข้าเองรู้สึกละอายใจมาก ข้ารู้สึกว่าข้าเป็นบิดาที่ไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23

บทล่าสุด

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง     ตอนที่ 11 ขายผูเถา

    เช้าวันต่อมาหยางเทียนแบกตะกร้าที่ใส่ผูเถาเอาไว้ออกจากบ้านไปตั้งแต่ยามเหม่า พร้อมด้วยหยางเทาผู้เป็นพี่ชาย เป้าหมายคือโรงเตี๊ยมเยี่ยนไหล เช้านี้ทั้งสองคนจะนำเอาผูเถาที่ลูกชายเก็บกลับมาจากภูเขาอู๋หลงเข้าไปขาย ทั้งสองคนไม่รู้ว่าจะขายได้หรือไม่ แต่หยางเสี้ยวบอกเอาไว้ว่าต้องขายได้แน่ ๆ เพียงแต่จะได้มากได้น้อยนั้นขึ้นอยู่กับราคารับซื้อของโรงเตี๊ยม“น้องรอง ตั้งแต่เสี้ยวเอ๋อร์หายป่วยท่านพ่อบอกว่าหลานเปลี่ยนไปมากหรือ” หยางเทาถามน้องชายถึงความเปลี่ยนแปลงของหลาน“ใช่ขอรับพี่ใหญ่ เสี้ยวเอ๋อร์เปลี่ยนไปมากจริง ๆ ข้าไม่รู้ว่าตอนที่ลูกล้มป่วยเขาไปเจอเรื่องอันใดมา แต่ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน เขาก็ยังคงเป็นลูกชายของข้าเสมอ”“เจ้าเองอย่าได้คิดมากเลย การที่อาเสี้ยวเปลี่ยนไปในทางที่ดีแบบนี้ก็ดีแล้ว อายุแค่ 8 ขวบปีแต่จิตใจเข้มแข็งกล้าหาญกว่าข้าที่เป็นท่านลุงอีก อาเชวียนเล่าว่าอาเสี้ยวสอนวางกับดักด้วย เสียดายที่พวกเราไม่มีเงินส่งเสียให้ลูกได้เรียนหนังสือ ด้วยความฉลาดของพวกเขาข้าคิดว่าต้องสอบได้เป็นซิ่วไฉแน่”“ไม่แน่ว่าในอนาคตชีวิตของพวกเราอาจจะดีขึ้นก็ได้ ข้าเองรู้สึกละอายใจมาก ข้ารู้สึกว่าข้าเป็นบิดาที่ไ

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    ตอนที่ 10 ครอบครัวพร้อมหน้า

    เสิ่นซื่อได้ยินเสียงลูกชายคนเล็กร้องเอะอะเรียกนางกับบุตรชายคนโตเสียงดัง ในที่สุดสามีของนางก็กลับมาได้เสียที ความกังวลใจที่มีตลอดหลายวันมานี้ ก็สามารถวางลงได้แล้ว หยางเสี้ยวเองก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ ท่านพ่อที่ไม่เคยได้พบหน้ากันผู้นี้ จะมีหน้าตาเหมือนพ่ออาทิตย์ของเขาหรือไม่สองแม่ลูกรีบเดินออกไปยังลานหน้าบ้านด้วยความเร่งรีบ เสิ่นซื่อมีรอยยิ้มอยู่เต็มหน้า เมื่อเห็นว่าผู้เป็นสามีกลับมาด้วยความปลอดภัย ไม่ได้เกิดเรื่องอะไรร้ายแรงขึ้นกับเขาอย่างที่นางเป็นกังวล เพราะครั้งนี้หยางเทียนเข้าป่าไปหลายวันกว่าทุกครั้ง เสิ่นซื่ออดกลัวไม่ได้ว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นในป่า"ท่านพี่ ท่านกลับมาแล้ว""อื้ม ข้ากลับมาแล้ว ครั้งนี้ไปเสียหลายวันพวกเจ้าแม่ลูกคงเป็นห่วงแย่"หยางเสี้ยวที่เดินตามหลังผู้เป็นแม่ออกมา เมื่อเห็นหน้าคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นบิดาในภพภูมินี้ของตน ก็อดที่จะหลั่งน้ำตาออกมาไม่ได้ หยางเทียน บิดาในชาตินี้ของเขามีหน้าตาเหมือนพ่ออาทิตย์อย่างไม่ผิดเพี้ยน ราวกับว่าเป็นคนคนเดียวกันเสียอย่างนั้น หากเขาไม่ได้มาเกิดใหม่ในร่างของหยางเสี้ยว ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าของเขาตอนนี้ก็คือพ่ออาทิตย์ของเขาอย่างไม่ต้

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง     ตอนที่ 9 การกลับมาของท่านพ่อ

    เสิ่นซื่อมองแผ่นหลังของลูกหลานเดินออกจากบ้านไปพร้อมตะกร้าใบเล็กที่ใส่กระต่ายเอาไว้ กระต่ายตัวอ้วนน้ำหนักน่าจะประมาณสี่หรือห้าชั่ง หยางเชวียนแบกตะกร้าที่เต็มไปด้วยของป่า นอกจากนี้ยังมีไก่ฟ้ากับกระต่ายป่าอย่างละตัว ทั้งสองคนใช้เวลาไม่นานก็เดินมาถึงบ้านลุงฟู่กุ้ย หยางเสี้ยวต้องการขายกระต่ายตัวนี้ก่อน ค่อยไปบ้านท่านปู่พร้อมกับหยางเชวียน “อาเสี้ยว เจ้าว่าท่านปู่กับท่านย่าจะกล้ากินผูเถานี่หรือไม่ แล้วเราสองคนจะโดนท่านปู่ตำหนิหรือไม่ที่เข้าป่าไปลึก” หยางเชวียนเริ่มวิตกกังวล“ท่านไม่ต้องกลัวไป ประเดี๋ยวข้าจะอธิบายให้ท่านปู่ฟังเอง ข้าเชื่อว่าท่านปู่มีเหตุผลพอที่จะไม่ดุด่าพวกเรา อาจจะมีตักเตือนนิดหน่อย”“ข้ากลัวว่าจะโดนไม้เรียวนี่สิ”“ท่านคิดมากไปแล้ว”เด็กชายทั้งสองยืนคุยกันอยู่หน้าบ้านของท่านลุงฟู่กุ้ยจนทำให้ท่านป้าหนิงเปิดประตูออกมาเรียกให้ทั้งสองเข้าไปในบ้าน“เจ้าสองคนพี่น้อง มายืนทำอันใดอยู่ตรงนี้ หรือว่ามีของมาขายให้ลุงฟู่กุ้ยของพวกเจ้ากันล่ะ เข้ามาก่อนสิ”“ขอบคุณท่านป้ามากขอรับ ข้าเอากระต่ายมาขายน่ะขอรับ” “โอ้ กระต่ายเหรอ เจ้ารอสักประเดี๋ยวป้าจะไปเรียกลุงของเจ้ามา”“ขอบคุณท่านป้าขอรับ”

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง     ตอนที่ 8 รู้ความจริง

    หยางเสี้ยวยังคงเดินหน้าเข้าไปในภูเขาอู๋หลงต่อไปเรื่อย ๆ หยางเชวียนเองก็ไม่ได้มีความหวาดกลัวเท่ากับตอนแรกที่ยังไม่ได้เข้ามา ตอนนี้ในตะกร้าของเขามีผักป่าอยู่มากมาย หยางเสี้ยวบอกกับเขาว่าอย่าเก็บผักป่าไปมากนัก ให้เหลือพื้นที่ในตะกร้าเอาไว้ใส่ผลไม้ด้วย หากว่าไม่พบผลไม้อย่างอื่นค่อยเก็บผักป่าใส่ให้เต็ม“อาเสี้ยว ถ้าพวกเราเดินเข้าไปอีกจะกลับออกจากป่าไม่ทันนะ มันจะมืดเสียก่อน วันนี้พอแค่นี้ดีหรือไม่”“เอาแบบนั้นก็ได้ แต่ว่าพรุ่งนี้ข้าอยากไปดูแถวป่าไผ่ก่อน ไม่รู้ว่าจะมีเห็ดเยื่อไผ่ให้เก็บหรือไม่”“เห็ดเยื่อไผ่คืออะไร ทำไมข้าไม่เคยได้ยินหรือได้เห็นเห็ดเยื่อไผ่ที่เจ้าว่ามานี้เลย” “ข้าว่าท่านน่ะอาจจะเคยเห็นแต่ไม่รู้จักก็เป็นได้”ในตอนที่ทั้งสองคนคุยกันเดินกลับออกจากป่าเพื่อจะไปตรวจดูกับดักที่หยางเสี้ยววางเอาไว้นั้น หยางเสี้ยวได้ยินเสียงคนคุยกันมาจากอีกด้านของป่า เด็กชายส่งสัญญาณให้หยางเชวียนเงียบ จากนั้นจึงพากันไปหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ เสียงที่ทั้งสองคนได้ยินนั้นคือเสียงของลูกชายผู้ใหญ่บ้านเป็นไปตามที่หยางเสี้ยวได้คาดการณ์เอาไว้ไม่มีผิด ปล่อยข่าวลือที่ทำให้ชาวบ้านหวาดกลัว เพื่อที่ตัวเองจะได้เก็

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    ตอนที่ 7 เข้าป่ากับหยางเชวียน

    วันนี้เพราะมีหยางเชวียนมาด้วยทำให้หยางเสี้ยวกำลังตัดสินใจว่าจะไปที่ภูเขาอู๋หลงดีหรือไม่ เพราะการที่เขาเข้าป่าลึกไปทุกวันนั้นเขาไม่ได้บอกให้ใครรู้ ทุกคนเข้าใจว่าเขาไปขุดผักป่าและวางกับดักที่ภูเขาซิ่วสือที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของภูเขาอู๋หลง แต่หลังจากคิดไตร่ตรองรอบคอบแล้ว หยางเสี้ยวคิดว่าตัวเองสมควรจะพูดจาตกลงกับพี่ชายลูกพี่ลูกน้องของตัวเองให้เข้าใจ ตอนนี้ท่านลุงยังไม่กลับบ้าน ลำพังอาศัยแค่ท่านปู่คนเดียวคงจะไม่ได้ ป้าสะใภ้เจ็บป่วยอ่อนแอ ท่านย่าเองร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงเช่นเดียวกัน หยางเสี้ยวคิดว่าที่ทุกคนร่างกายไม่แข็งแรงมักเจ็บป่วยอยู่เสมอนั้นอาจจะเป็นเพราะขาดสารอาหาร เมื่อความเป็นอยู่ไม่ดีอาหารมีไม่เพียงพอ เนื้อสัตว์คือสิ่งที่หายาก อาหารแต่ละมื้อไม่ผักป่าผัดกับน้ำเติมเกลือนิดหน่อยก็เป็นโจ๊กที่หาเม็ดข้าวไม่เจอ น้ำมันสำหรับทำอาหารนั้นเป็นสิ่งที่หายากสำหรับชาวบ้านยากจน ส่วนเกลือก็ราคาแพง แต่ที่แพงกว่าเกลือก็น้ำตาล ไม่ว่าจะอะไรล้วนแล้วแต่ต้องใช้เงินทั้งนั้น“อาเสี้ยว มีอะไรหรือเปล่า ข้าเห็นเจ้าทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่นานสองนาน แล้วนี่เราจะไปขุดผักป่าที่ไหนหรือ ทำไมเจ้าพาข้าเดินมาทางนี้ล่ะ เราไม

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง     ตอนที่ 6 เรื่องราวในป่าใหญ่

    ชาวบ้านที่รวมกลุ่มกันเข้าป่าล่าสัตว์พวกเขาเข้าป่ามาหลายวันแล้วแต่เดิมสมควรจะกลับออกจากป่าได้แล้ว เพียงแต่ว่าการเข้าป่ามาครั้งนี้ยังล่าสัตว์ใหญ่อย่างหมูป่าไม่ได้เลยสักตัว หากยังไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือกลับไปไม่นับว่ามาเสียเที่ยวหรอกหรือ เพราะความเป็นอยู่ของครอบครัวล้วนยากจน การรวมกลุ่มเข้าป่าล่าสัตว์วันนี้ทุกคนพกความหวังมาเต็มเปี่ยม หากกลับไปมือเปล่าไม่เท่ากับว่าคว้าน้ำเหลวหรอกหรือเพราะเป็นแบบนี้คนทั้งกลุ่มได้ตัดสินใจเข้าไปในป่าลึกกว่าที่เคยมา การรวมกลุ่มกันออกมาล่าสัตว์ในครั้งนี้ กินเวลาไปหลายวันกว่าทุกครั้ง หากว่าอีกสองวันยังคงล่าอะไรไม่ได้เลย พวกเขาก็ตัดสินใจที่จะออกจากป่ากลับบ้านทันที “พี่ใหญ่ พวกเราออกจากบ้านมาหลายวันแล้วข้ารู้สึกใจคอไม่ดีเลย ไม่รู้ว่าจะมีเรื่องอันใดเกิดขึ้นหรือไม่ วันที่พวกเราเดินทางมาเสี้ยวเอ๋อร์มีไข้ ตัวร้อนมาก” หยางเทียน“น้องรองอย่าคิดมากเลย ไม่มีอะไรหรอก ทำใจให้สบายเถอะ ไม่แน่ว่าตอนนี้เสี้ยวเอ๋อร์อาจจะหายดีแล้วก็เป็นได้” หยางเทาได้แต่ปลอบน้องชาย“ถ้าหากว่าสองวันนี้ยังล่าอะไรไม่ได้อีก ข้าจะกลับบ้านแล้วล่ะ อีกอย่างข้าไม่อยากจะเข้าป่าไปลึกมากกว่านี้แล้วพี่ใหญ

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง     ตอนที่ 5 สมาชิกใหม่

    หยางเสี้ยวที่เดินมุ่งหน้าไปตรวจดูกับดักที่เขาวางเอาไว้ด้วยความเร่งรีบ ถึงแม้ว่าวันนี้เขาจะไม่พบของกินอย่างอื่นอีกนอกจากผักป่ากับเห็ดหูหนูดำ แต่ในใจลึก ๆ เด็กน้อยหวังว่าจะมีไก่ฟ้าหรือกระต่ายป่ามาติดกับดักที่เขาวางเอาไว้บ้าง อย่างน้อย ๆ จะได้นำไปทำอาหารบำรุงร่างกาย เขาจำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายที่กินเนื้อคือเมื่อไหร่ ความปรารถนาของหยางเสี้ยวในตอนนี้คือ มีอาหารมากพอให้กินอิ่มในทุกวัน และมีอาหารมากพอเพื่อเก็บสะสมเอาไว้เป็นเสบียงในฤดูหนาว ที่สำคัญหลังคาบ้านคงต้องทำการซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน เพราะดูจากสภาพของบ้านในตอนนี้คงอยู่ไม่พ้นฤดูหนาวแน่ พอหิมะตกลงมาหลังคาบ้านคงถล่มลงมาแน่ ๆ แค่คิดก็กลัวแทบแย่แล้ว ไหนจะเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มที่ต้องเตรียม เหมือนกับว่าเขาได้ทะลุมิติมาเพื่อทำภารกิจเอาชีวิตรอดในโลกคู่ขนานยังไงยังงั้น“เฮ้อ ชาติที่แล้วว่ายากจนแล้ว ชาตินี้ยิ่งยากจนกว่า ไหน ๆ ก็มาแล้วก็คงต้องสู้กันสักตั้ง หวังว่าจะไม่ตายรอบสองหรอกนะ ทำไมไม่เหมือนที่เราคิดเอาไว้เลยล่ะ ไม่ใช่ชีวิตที่แล้วจน พอได้มีโอกาสได้เกิดใหม่จะต้องรวยหรือเปล่า ทำไมไม่เหมือนที่คิดเอาไว้เลยล่ะ ไม่เห็นเหมือนที่นิยายเขียนเอาไว

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    ตอนที่ 4 ขายปลา

    เช้าวันต่อมาหยางเสี้ยวตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น ข้อดีของการทะลุมิติมาในโลกคู่ขนานแห่งนี้ก็คือ ที่นี่มีทั้งท่านแม่ที่หน้าตาเหมือนคุณแม่ในโลกเดิมทุกอย่าง รวมถึงลักษณะนิสัยด้วย ตอนนี้หยางเสี้ยวมีความมั่นใจว่าท่านพ่อเองก็คงจะมีหน้าตาเหมือนกับคุณพ่อของเขาด้วยเช่นกัน ที่สำคัญเขาไม่ได้เป็นลูกคนเดียวโดดเดี่ยวอีกแล้ว เขามีน้องชายที่น่ารักสดใส ถึงแม้ครอบครัวจะยากจนมากก็ตามที และความยากจนนี่ล่ะที่เป็นอุปสรรคสำคัญของหยางเสี้ยว แต่ถึงจะยากจนหยางเสี้ยวก็ไม่คิดเก็บเอามาใส่ใจ มีเพียงพยายามใช้ชีวิตและมีชีวิตอยู่ตราบใดที่เราพยายามพอ ความยากจนก็ไม่ใช่อุปสรรคสำคัญอีกต่อไป ไม่แน่ว่าการที่เขาทะลุมิติมาอาจจะเป็นบททดสอบในการใช้ชีวิต เหมือนกับการรับภารกิจตอนเล่นเกมออนไลน์ หากทำภารกิจสำเร็จย่อมมีรางวัลตามมา หยางเสี้ยวเชื่อเช่นนั้นหลังจากล้างหน้าล้างตาบ้วนปากเรียบร้อยแล้ว หยางเสี้ยวสะพายตะกร้าเดินมุ่งหน้าไปยังลำธารที่เขาขุดหลุมดักปลาเอาไว้ วันนี้หยางเสี้ยวตั้งใจจะขึ้นเขาเผื่อว่าจะได้อะไรติดไม้ติดมือกลับมาบ้าง ตอนนี้ตัวเขาเองมาอยู่ในร่างของเด็กอายุ 8 ขวบ จึงไม่สามารถทำอะไรได้มากมายนัก สำหรับการล่าสัตว์เขาทำได้เ

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง     ตอนที่ 3 รอยยิ้มของน้องชาย

    เสิ่นซื่อที่กลับมาจากขุดผักป่ากับเพื่อนบ้าน เมื่อมาถึงกลับพบว่าลูกชายทั้งสองไม่อยู่ในบ้าน นางหาจนทั่วแล้วแต่หาลูกชายทั้งสองไม่พบ สวนหลังบ้านก็ไม่มี เมื่อไปดูในห้องเก็บฟืนถึงได้รู้ว่าตะกร้าสะพายหลังของลูกชายทั้งสองหายไป นี่ไม่เท่ากับว่าสองพี่น้องพากันขึ้นเขาไปหรือ ลูกชายของนางยังไม่ทันได้หายดีก็ขึ้นเขาไปอีกแล้ว ด้วยความร้อนใจเสิ่นซื่อรีบออกไปตามหาทันที แต่ยังไม่ทันที่นางจะได้ก้าวขาออกไปพ้นประตูบ้านก็พบว่าสองพี่น้องจูงมือกันกลับมา และได้ยินเสียงลูกชายคนเล็กหัวเราะคิกคักดังลอยมา เสิ่นซื่อถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งใจ “เสี้ยวเอ๋อร์เจ้าพาน้องไปที่ใดมา ไม่ใช่ว่าแม่บอกให้เจ้าพักผ่อนหรือ เจ้ายังไม่หายดีด้วยซ้ำ เสียนเอ๋อร์เหตุใดเจ้าไม่ห้ามปรามพี่ชาย ไม่ใช่แม่บอกให้เจ้าอยู่ดูแลพี่ชายหรือ”“ท่านแม่ ท่านแม่ขอรับ ข้าเป็นน้องชายเผื่อท่านแม่จะลืม ท่านพี่บอกว่าหายแล้ว อยากออกไปเดินเล่น พวกเราไม่ได้ไปไหนไกลเลยนะขอรับ ไปแค่ลำธารหลังบ้านเอง”“เจ้าลูกคนนี้นี่ ไม่ใช่ว่าเจ้ารบเร้าให้พี่ใหญ่ของเจ้าพาออกไปหรอกนะ”“ท่านแม่ขอรับ อย่าตำหนิน้องเลยขอรับ เป็นข้าเองที่ชวนน้องชายออกไป ข้าหายแล้วจริง ๆ ขอรับ ข้าน

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status