แชร์

ตอนที่ 11 ขายผูเถา

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-23 12:17:10

เช้าวันต่อมาหยางเทียนแบกตะกร้าที่ใส่ผูเถาเอาไว้ออกจากบ้านไปตั้งแต่ยามเหม่า พร้อมด้วยหยางเทาผู้เป็นพี่ชาย เป้าหมายคือโรงเตี๊ยมเยี่ยนไหล เช้านี้ทั้งสองคนจะนำเอาผูเถาที่ลูกชายเก็บกลับมาจากภูเขาอู๋หลงเข้าไปขาย ทั้งสองคนไม่รู้ว่าจะขายได้หรือไม่ แต่หยางเสี้ยวบอกเอาไว้ว่าต้องขายได้แน่ ๆ เพียงแต่จะได้มากได้น้อยนั้นขึ้นอยู่กับราคารับซื้อของโรงเตี๊ยม

“น้องรอง ตั้งแต่เสี้ยวเอ๋อร์หายป่วยท่านพ่อบอกว่าหลานเปลี่ยนไปมากหรือ” หยางเทาถามน้องชายถึงความเปลี่ยนแปลงของหลาน

“ใช่ขอรับพี่ใหญ่ เสี้ยวเอ๋อร์เปลี่ยนไปมากจริง ๆ ข้าไม่รู้ว่าตอนที่ลูกล้มป่วยเขาไปเจอเรื่องอันใดมา แต่ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน เขาก็ยังคงเป็นลูกชายของข้าเสมอ”

“เจ้าเองอย่าได้คิดมากเลย การที่อาเสี้ยวเปลี่ยนไปในทางที่ดีแบบนี้ก็ดีแล้ว อายุแค่ 8 ขวบปีแต่จิตใจเข้มแข็งกล้าหาญกว่าข้าที่เป็นท่านลุงอีก อาเชวียนเล่าว่าอาเสี้ยวสอนวางกับดักด้วย เสียดายที่พวกเราไม่มีเงินส่งเสียให้ลูกได้เรียนหนังสือ ด้วยความฉลาดของพวกเขาข้าคิดว่าต้องสอบได้เป็นซิ่วไฉแน่”

“ไม่แน่ว่าในอนาคตชีวิตของพวกเราอาจจะดีขึ้นก็ได้ ข้าเองรู้สึกละอายใจมาก ข้ารู้สึกว่าข้าเป็นบิดาที่ไม่ได้เรื่องได้ราวอะไร ตอนนี้คงต้องมาพึ่งพาลูกชายอายุเพียงแค่ 8 ขวบปีหาเงิน ข้าเป็นพ่อแท้ ๆ แต่กลับคิดอะไรไม่ได้เท่าอาเสี้ยว”

“เจ้าอย่าคิดมากเลยน้องรอง นับว่าสวรรค์เห็นใจครอบครัวของเรา ถึงไม่พรากอาเสี้ยวไปจากเจ้า ตอนนั้นอาเชวียนบอกว่าอาเสี้ยวนอนป่วยไม่ได้สติอยู่ตั้งสามวัน เจ้าอย่าได้โทษตัวเองเลย ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นหรอกนะ”

“ข้าเข้าใจขอรับพี่ใหญ่ การที่ข้าไม่เสียอาเสี้ยวไปนับว่าสวรรค์เมตตาข้าแล้ว”

ในระหว่างที่สองพ่อไปขายของป่าในเมือง สองลูกอย่างหยางเสี้ยวกับหยางเชวียน หลังจากกินมื้อเช้าแล้วทั้งสองคนก็เข้าป่าเช่นเคย หยางเสี้ยวยังคงหวังว่าจะพบเจออะไรก็ตามที่มันสามารถกินได้ 

“ทั้งสองคนอย่าได้เข้าไปในป่าลึกมากเข้าใจหรือไม่”

“ข้าเข้าใจขอรับท่านแม่”

“อาสะใภ้รองวางใจได้ พวกข้าจะระวัง”

“ท่านพี่ ท่านไม่ต้องห่วงนะ ข้าจะช่วยท่านแม่ถางหญ้าในสวนหลังบ้านเอง เสี่ยวไป๋ก็จะช่วยด้วย” หยางเสียน

“ขอบใจนะน้องเล็ก เดี๋ยวพี่ชายจะเอาผลไม้อร่อย ๆ มาฝาก”

“ท่านแม่ บ้านเรามีเมล็ดมันเทศหรือไม่ขอรับ”

“มันเทศหรือ มันเทศคือสิ่งใดแม่ไม่รู้จัก”

“แล้วเผือกเล่าขอรับ มีหรือไม่”

“เผือกหรือ ที่บ้านเราไม่มีหรอกลูก เผือกมีแต่อยู่ในป่าซึ่งหายากเข้าไปทุกวันแล้ว” เสิ่นซื่อทอดถอนใจ

“ทำไมเราไม่ปลูกเอาไว้เล่าขอรับท่านแม่”

“ปลูกหรือ ไม่มีใครเขาปลูกกันน่ะสิ”

“ขอรับข้าเข้าใจแล้ว เช่นนั้นท่านแม่เตรียมเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเอาไว้ให้ข้าด้วยนะขอรับ”

“ได้สิ แม่จะเตรียมเอาไว้ให้นะ”

“ขอบคุณท่านแม่ขอรับ พี่ใหญ่เชวียนเราไปกันเถอะขอรับประเดี๋ยวจะร้อนเอาได้”

“ไป รีบไปกันเถอะ อาสะใภ้รองพวกเราไปก่อนนะขอรับ”

จากการสอบถามท่านแม่ ที่แห่งนี้มีเผือก มีข้าวโพดแต่ไม่มีมันเทศและไม่น่าจะมีมันฝรั่ง เผือกมีแค่ในป่าแต่ไม่มีใครปลูก เป็นแบบนั้นก็ดี ในเมื่อไม่มีใครปลูก เขาจะเป็นคนแรกที่ปลูก ต่อไปจะได้ไม่ต้องกังวลว่าจะมีอาหารไม่พอ ก่อนอื่นต้องคุยกับท่านพ่อเรื่องซ่อมแซมบ้าน เงินไม่พอก็อาศัยไม้ในป่าก็แล้วกัน หรือจะเป็นไม้ไผ่ก็ดี เมื่อไหร่ที่มีเงินค่อยสร้างบ้านอิฐหลังคากระเบื้อง 

ทางด้านหยางเทียนที่เข้าเมืองมาเพื่อขายผูเถาตอนนี้เขาก็มาถึงโรงเตี๊ยมเยี่ยนไหลแล้ว  หยางเทาเองเกิดความลังเลไม่แน่ใจเขาได้แต่มองหน้าน้องชาย ในใจคิดว่าถ้าขายได้ก็ดี แต่ถ้าขายไม่ได้ก็อดเสียดายอยู่บ้าง แต่ถ้าหากขายไม่ได้จริง ๆ ก็เอากลับไปให้ลูก ๆ กิน เท่านี้ก็นับว่าไม่มีอะไรเสียหาย

“พี่ชาย ข้าขอถามหน่อยจะได้หรือไม่ ไม่ทราบว่าโรงเตี๊ยมของพวกท่านรับซื้อผลไม้ป่าหรือไม่ขอรับ” หยางเทียนถามเสี่ยวเอ้อร์ที่กำลังกวาดลานด้านหน้าอยู่

“รับสิ แต่ต้องเป็นผลไม้ที่หายากสักหน่อยนะ จำพวกซานจาหรือว่าพุทราพวกนั้นไม่รับหรอกนะ พวกเจ้ามีผลไม้อะไรมาขายล่ะ ให้ข้าดูหน่อยจะได้หรือไม่”

“เป็นผูเถาดำขอรับ”

“อะไรนะ! เจ้าพูดจริงหรือไม่ ? รีบเอาออกมาให้ข้าดูเร็วเข้า”

หยางเทียนหยิบองุ่นในตะกร้าสะพายหลังของหยางเทาออกมาหนึ่งพวง เพื่อให้เสี่ยวเอ้อร์ดู เสี่ยวเอ้อร์พอเห็นว่าเป็นผูเถาดำที่หายาก เขาจึงเด็ดชิมเสียหนึ่งลูก รสชาติหวานกรอบ อร่อยเป็นอย่างมาก เสี่ยวเอ้อร์รีบกระตือรือร้นพาสองพี่น้องไปพบกับหลงจู๊ทันที

“ไป พวกเจ้าทั้งสองคนตามข้ามา ข้าจะพาไปหาหลงจู๊ น่าจะอยู่ด้านหลังตรงลานรับซื้อของป่า พวกเจ้าเดินตามมา”

“ขอบคุณท่านมากขอรับ”

ทั้งสองคนเดินตามหลังเสี่ยวเอ้อร์ไปยังด้านหลังของโรงเตี๊ยม ก็พบว่าในลานกว้างมีคนนำของป่ามาขายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านตลอดจนนายพรานแห่งหมู่บ้านพรานป่า ก็นำสัตว์ที่ล่ามาได้มาขายให้กับโรงเตี๊ยมเยี่ยนไหลทั้งนั้น

“พวกเจ้ารอข้าที่นี่ก่อน ข้าขอไปบอกหลงจู๊สักครู่”

เสี่ยวเอ้อร์เดินเข้าไปหาหลงจู๊และกระซิบกระซาบกันอยู่สักครู่ เขาก็กลับมาหาสองพี่น้องโดยมีหลงจู๊เดินตามมาด้วย

“พวกเจ้ามีผูเถาดำมาขายเช่นนั้นหรือ” หลงจู๊

“ขอรับ”

“เอาล่ะ เข้าไปนั่งคุยกันในห้องรับรองเถอะ”

หลังจากที่หลงจู๊เดินนำสองพี่น้องเข้าไปในห้องรับรอง ครั้งนี้เสี่ยวเอ้อร์ไม่ได้ตามมาด้วย หลงจู๊นั่งลงและวาดมือชี้ไปที่เก้าอี้เพื่อบอกให้ทั้งสองคนนั่งลง หยางเทากับหยางเทียนยังคงประหม่า แต่ก็นั่งลงตามคำเชิญของหลงจู๊แต่โดยดี 

“เอาล่ะ เรามาคุยเรื่องราคาของผูเถาดำกันดีกว่า พวกเจ้าเก็บมาจากภูเขาอู๋หลงใช่หรือไม่”

“ทำไมหลงจู๊ถึงได้ทราบว่าเราเก็บมาจากภูเขาอู๋หลงเล่าขอรับ”

“เพราะผูเถาดำมีแค่ในภูเขาอู๋หลงน่ะสิ อีกทั้งมีรสชาติที่อร่อย ถึงที่อื่นจะมีผูเถาแต่มันเป็นสีเขียวน่ะ หรือว่าพวกเจ้าไม่รู้เรื่องนี้หรอกรึ”

“พวกข้าไม่รู้เรื่องนี้จริง ๆ เช่นที่หลงจู๊กล่าวมา บังเอิญพวกเราไปเข้าไปหาของป่าบังเอิญเจอมาเท่านั้นขอรับ” 

“เป็นความบังเอิญที่ดีอะไรเช่นนี้ แต่นับว่าพวกเจ้ามาได้เวลาพอดี ข้ากำลังปวดหัวเรื่องผลไม้ขึ้นโต๊ะงานเลี้ยงอยู่พอดี ส่วนราคาของผูเถานั้น ข้าให้ชั่งละ 300 อิแปะเป็นราคาสูงสุดของผูเถาดำแล้ว พวกเจ้าเห็นว่าเป็นอย่างไร”

หยางเทากับหยางเทียนมองหน้ากัน ทั้งสองคนแบกมาคนละตะกร้า ในตะกร้ามีร่วม 20 ชั่งเลยทีเดียว ไม่เท่ากับว่าพวกเขาพี่น้องแบกเงินคนละ 6 ตำลึง มาตลอดทางหรอกหรือ 

“พวกเราเชื่อว่าหลงจู๊ให้ราคายุติธรรมแล้วขอรับ” หยางเทียน

“เดี๋ยวข้าจะเรียกให้คนมาเอาไปชั่ง”

“ขอบคุณหลงจู๊มากขอรับ”

ระหว่างที่รอเสี่ยวเอ้อร์ชั่งน้ำหนักผูเถา ทั้งสองคนได้พูดคุยและตกลงกับหลงจู๊ว่าถ้ามีผูเถาอีกจะนำมาส่งให้ทันที และให้หลงจู๊รักษาความลับเรื่องรับซื้อผูเถามาจากพวกเขาสองพี่น้องด้วย เพราะตอนนี้ครอบครัวพวกเขายังไม่สามารถที่จะต่อสู้กับครอบครัวผู้ใหญ่บ้านได้  

ที่สำคัญที่บ้านนอกจากพวกเขาสองพี่น้องที่เป็นเสาหลักของครอบครัวแล้ว นอกจากนั้นล้วนเป็นคนชรา ภรรยาผู้อ่อนแอและเด็กเท่านั้น พอหลงจู๊ได้ฟังเหตุผลถึงกับตบโต๊ะด้วยความโมโห และรับปากว่าจะช่วยทั้งสองคนรักษาความลับเอาไว้ หลังจากที่ได้พูดคุยกันกับหลงจู๊ถึงได้ทราบว่าครอบครัวผู้ใหญ่บ้านน่าจะทำการค้าอยู่กับโรงเตี๊ยมฟาไฉที่เป็นคู่แข่งกับโรงเตี๊ยมเยี่ยนไหลแห่งนี้

หลังจากได้รับเงินค่าผูเถามา 12 ตำลึง หยางเทียนแบ่งให้พี่ชาย 6 ตำลึง หยางเทามองเงิน 6 ตำลึงในมือ นี่เป็นเงินที่มากที่สุดในชีวิตของเขาที่เคยมี ด้วยจำนวนเงิน 6 ตำลึงนี้ ปีนี้พวกเขาคงผ่านหน้าหนาวไปได้ด้วยดี

ทุกคนในบ้านจะมีเสื้อผ้าชุดใหม่ มีผ้าห่มที่ทั้งอุ่นและหนา มีทั้งอาหารที่พอเพียง เรื่องดี ๆ แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าไม่มีความกล้าหาญของหยางเสี้ยว หยางเทาดีใจจนน้ำตาคลอหน่วย

“พี่ใหญ่ กลับบ้านกันเถอะขอรับ มีเรื่องอะไรค่อยคุยกันหลังจากกลับถึงบ้าน”

“ดูสิ ข้ามัวแต่ดีใจ กลับบ้านกันเถอะ ข้าเองก็คงต้องเรียนรู้จากหลานชายเสียแล้ว ดีใจด้วยนะน้องรองที่เจ้ามีบุตรชายที่กล้าหาญ พวกเราเสียอีกเป็นผู้ใหญ่แล้วแท้ ๆ กลับมีความกล้าไม่เท่ากับเด็ก 8 ขวบเลย ช่างน่าละอายนัก”

“พี่ใหญ่อย่าได้โทษตัวเองเลย พวกเราเป็นเพียงชาวไร่ชาวนา อีกอย่างมันก็ช่วยไม่ได้ที่พวกเราจะไม่กล้าขึ้นเขาอู๋หลง ใครใช้ให้พวกผู้ใหญ่บ้านโกหกล่ะ ไม่ใช่เพราะว่าพวกเขาเป็นถึงผู้นำของหมู่บ้านหรือยังไง พวกเราถึงได้เชื่อคำพูดโกหกพวกนั้น”

ภายในป่าลึกที่เป็นส่วนหนึ่งของภูเขาอู๋หลง หยางเสี้ยวเดินนำหน้าหยางเชวียนเข้าไปในป่า ภูเขาอู๋หลงนับว่าอุดมสมบูรณ์มาก ดูจากขนาดของเห็ดป่าที่พวกเขาเก็บ เห็ดหอมมีขนาดใหญ่เท่ากับกำปั้นเด็กเลยทีเดียว นอกจากเห็ดหอมแล้วยังมีเห็ดป่าอีกหลายอย่าง นับว่าวันนี้พวกเขาเข้าป่ามาไม่เสียเที่ยว

“เห็ดนี่ดอกใหญ่มาก กลิ่นหอมมากด้วย มิน่าเล่ามันถึงได้ชื่อว่าเห็ดหอม” หยางเชวียน

“ใช่แล้ว เห็ดหอม อร่อยมาก เราสามารถเอาไปตากแห้งเก็บเอาไว้กินในหน้าหนาวได้ด้วย ข้าชอบน้ำแกงไก่ตุ๋นเห็ดหอมมากเลยล่ะ หากวันนี้กับดักของพวกเราได้ไก่ฟ้าสักตัวก็คงจะดีไม่น้อย” หยางเสี้ยว

“ไก่ฟ้า 3 ตัวเมื่อวาน บ้านเจ้าทำอาหารไปหมดแล้วรึ” หยางเชวียนถามออกมาด้วยความสงสัย

“ยังหรอก เพราะท่านแม่ข้าเห็นว่ามันเป็นตัวเมียกับตัวผู้พอดี ก็เลยเอามันไปเลี้ยงเอาไว้ในเล้าไก่น่ะสิ หากอยากกินน้ำแกงไก่เห็นทีก็คงต้องหวังพึ่งกับดักเสียแล้วล่ะ”

“ก็คงเป็นอย่างที่เจ้าว่ามา พวกเราไปกันเถอะ ยังต้องไปตรวจกับดักอีก ไม่รู้ว่าท่านพ่อกับอารองจะขายผูเถาดำได้หรือไม่”

“ย่อมได้อยู่แล้ว เชื่อข้าสิ แต่จะได้มากได้น้อยเท่าไหร่ก็แล้วแต่ราคาที่โรงเตี๊ยมรับซื้อแล้วล่ะ ไม่ต้องกังวลไปหรอก”

“อื้ม ข้าเชื่อเจ้านะอาเสี้ยว ไปกันเถอะ ไปตรวจกับดักกัน จะได้กลับบ้านไปรอพวกท่านพ่อ”

“ตกลง”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    ตอนที่ 1 นอนหลับอยู่ดี ๆ ตื่นมาอีกทีก็ ....

    โลกคู่ขนานในอีกมิติหนึ่ง มังกรรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาด้วยความไม่สบายตัว เขาจำได้ว่าเมื่อตอนกลางวันไปไหว้อัฐิพ่อกับแม่ที่วัดกลับมาก็อาบน้ำนอนหลับไปด้วยความอ่อนเพลียการเดินทางโดยนั่งรถประจำทางกลับมาบ้านเกิดไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลย เหนื่อยมากจริง ๆ พอเขาลืมตาตื่นขึ้นมากลับพบว่าตัวเองอยู่ที่ไหนไม่รู้ แต่ที่แน่ ๆ ที่นี่มันไม่ใช่ห้องนอนของเขาที่บ้านเกิดหลังคามุงหญ้า ฝาผนังทำจากดินโคลนผสมฟาง ที่นี่ที่ไหน หรือเขาโดนจับตัวมาเรียกค่าไถ่ ถึงจะบอกว่าโดนจับตัวมาเขาก็ไม่มีเงินให้หรอกนะตอนนี้ ก็เหลือตัวคนเดียวแล้วเงินที่ไหนจะมี เรียนก็เพิ่งจบงานก็ยังไม่ได้ทำ จะมีก็แค่เงินประกันของพ่อแม่นิดหน่อยเท่านั้น ไม่รู้ว่าตัวเองไปทำอะไรให้ใครไม่พอใจหรือเกิดการเข้าใจผิดกันแน่ ถึงได้จับเขามาขังเอาไว้ที่นี่มังกรนอนคิดเรื่อยเปื่อยจนในที่สุดก็ตัดสินใจว่าตัวเองจะมัวมานอนคิดให้เปลืองสมองทำไม ลุกขึ้นไปดูเลยดีกว่าว่าที่นี่มันคือที่ไหนกันแน่ หวังว่าคนที่จับเขามาจะให้คำตอบเขาได้ เมื่อตัดสินใจได้แล้วมังกรลุกขึ้นจากเตียงแข็ง ๆ ที่นอนจนปวดหลังมาทั้งคืน ยังไม่ทันที่จะก้าวขาลงจากเตียงก็รู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมาและก็มีความทรงจำของเด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23
  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    ตอนที่ 2 เริ่มต้นชีวิตใหม่ ในชื่อหยางเสี้ยว

    สองพี่น้องเดินออกจากบ้านและไม่ลืมที่จะปิดประตูรั้วให้เรียบร้อย หยางเสียนเด็กน้อยวัย 6 ขวบเป็นเด็กร่าเริงและรู้ความ ถึงแม้ว่าครอบครัวจะยากจน อาหารการกินไม่พอ แต่เด็กน้อยเองไม่เคยงอแงเลยสักครั้ง กลับกัน ท่าทางของเจ้าหนูน้อยมีความเป็นผู้ใหญ่เกินวัยอยู่มาก อาจจะเป็นเพราะสภาพแวดล้อมและความเป็นอยู่สอนให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ก่อนวัยก็เป็นได้ทั้งสองคนเดินลัดเลาะตามเส้นทางเล็ก ๆ ที่ไม่ค่อยมีคนผ่านมาเท่าไหร่ เพราะลำธารสายนี้ไม่นับว่าใหญ่มาก ไม่เหมือนกับลำธารที่อยู่ทางฝั่งบ้านของท่านปู่ท่านย่า อีกทั้งบ้านของพวกเขาอยู่ถึงท้ายหมู่บ้านจึงทำให้ไม่ค่อยมีคนผ่านไป หยางเสี้ยวพาน้องชายเดินมุ่งหน้าไปทางลำธาร ระหว่างทางก็สอดส่ายสายตามองหาเผื่อว่าจะพบเจออะไรที่สามารถเอากลับไปกินได้ แต่เดินมาจนเกือบถึงลำธารแล้วก็ยังหาของที่กินได้ไม่พบเลยสักอย่าง ตอนนี้ได้แต่ภาวนาว่าเมื่อถึงลำธารแล้วยังจะพอมีอะไรให้กินได้บ้าง “พี่ใหญ่ ข้าคิดถึงท่านพ่อขอรับ หลายวันมานี่ท่านแม่เองก็มีสีหน้าทุกข์ใจ ยิ่งยามที่ท่านป่วยไข้นอนไม่ได้สติอยู่สองวัน ข้าเห็นท่านแม่แอบร้องไห้ในห้องครัวด้วยขอรับ”“เป็นพี่ใหญ่ที่ไม่ดีเอง พี่ใหญ่อ่อนแอ ทำให้เจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23
  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง     ตอนที่ 3 รอยยิ้มของน้องชาย

    เสิ่นซื่อที่กลับมาจากขุดผักป่ากับเพื่อนบ้าน เมื่อมาถึงกลับพบว่าลูกชายทั้งสองไม่อยู่ในบ้าน นางหาจนทั่วแล้วแต่หาลูกชายทั้งสองไม่พบ สวนหลังบ้านก็ไม่มี เมื่อไปดูในห้องเก็บฟืนถึงได้รู้ว่าตะกร้าสะพายหลังของลูกชายทั้งสองหายไป นี่ไม่เท่ากับว่าสองพี่น้องพากันขึ้นเขาไปหรือ ลูกชายของนางยังไม่ทันได้หายดีก็ขึ้นเขาไปอีกแล้ว ด้วยความร้อนใจเสิ่นซื่อรีบออกไปตามหาทันที แต่ยังไม่ทันที่นางจะได้ก้าวขาออกไปพ้นประตูบ้านก็พบว่าสองพี่น้องจูงมือกันกลับมา และได้ยินเสียงลูกชายคนเล็กหัวเราะคิกคักดังลอยมา เสิ่นซื่อถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งใจ “เสี้ยวเอ๋อร์เจ้าพาน้องไปที่ใดมา ไม่ใช่ว่าแม่บอกให้เจ้าพักผ่อนหรือ เจ้ายังไม่หายดีด้วยซ้ำ เสียนเอ๋อร์เหตุใดเจ้าไม่ห้ามปรามพี่ชาย ไม่ใช่แม่บอกให้เจ้าอยู่ดูแลพี่ชายหรือ”“ท่านแม่ ท่านแม่ขอรับ ข้าเป็นน้องชายเผื่อท่านแม่จะลืม ท่านพี่บอกว่าหายแล้ว อยากออกไปเดินเล่น พวกเราไม่ได้ไปไหนไกลเลยนะขอรับ ไปแค่ลำธารหลังบ้านเอง”“เจ้าลูกคนนี้นี่ ไม่ใช่ว่าเจ้ารบเร้าให้พี่ใหญ่ของเจ้าพาออกไปหรอกนะ”“ท่านแม่ขอรับ อย่าตำหนิน้องเลยขอรับ เป็นข้าเองที่ชวนน้องชายออกไป ข้าหายแล้วจริง ๆ ขอรับ ข้าน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23
  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    ตอนที่ 4 ขายปลา

    เช้าวันต่อมาหยางเสี้ยวตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น ข้อดีของการทะลุมิติมาในโลกคู่ขนานแห่งนี้ก็คือ ที่นี่มีทั้งท่านแม่ที่หน้าตาเหมือนคุณแม่ในโลกเดิมทุกอย่าง รวมถึงลักษณะนิสัยด้วย ตอนนี้หยางเสี้ยวมีความมั่นใจว่าท่านพ่อเองก็คงจะมีหน้าตาเหมือนกับคุณพ่อของเขาด้วยเช่นกัน ที่สำคัญเขาไม่ได้เป็นลูกคนเดียวโดดเดี่ยวอีกแล้ว เขามีน้องชายที่น่ารักสดใส ถึงแม้ครอบครัวจะยากจนมากก็ตามที และความยากจนนี่ล่ะที่เป็นอุปสรรคสำคัญของหยางเสี้ยว แต่ถึงจะยากจนหยางเสี้ยวก็ไม่คิดเก็บเอามาใส่ใจ มีเพียงพยายามใช้ชีวิตและมีชีวิตอยู่ตราบใดที่เราพยายามพอ ความยากจนก็ไม่ใช่อุปสรรคสำคัญอีกต่อไป ไม่แน่ว่าการที่เขาทะลุมิติมาอาจจะเป็นบททดสอบในการใช้ชีวิต เหมือนกับการรับภารกิจตอนเล่นเกมออนไลน์ หากทำภารกิจสำเร็จย่อมมีรางวัลตามมา หยางเสี้ยวเชื่อเช่นนั้นหลังจากล้างหน้าล้างตาบ้วนปากเรียบร้อยแล้ว หยางเสี้ยวสะพายตะกร้าเดินมุ่งหน้าไปยังลำธารที่เขาขุดหลุมดักปลาเอาไว้ วันนี้หยางเสี้ยวตั้งใจจะขึ้นเขาเผื่อว่าจะได้อะไรติดไม้ติดมือกลับมาบ้าง ตอนนี้ตัวเขาเองมาอยู่ในร่างของเด็กอายุ 8 ขวบ จึงไม่สามารถทำอะไรได้มากมายนัก สำหรับการล่าสัตว์เขาทำได้เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23
  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง     ตอนที่ 5 สมาชิกใหม่

    หยางเสี้ยวที่เดินมุ่งหน้าไปตรวจดูกับดักที่เขาวางเอาไว้ด้วยความเร่งรีบ ถึงแม้ว่าวันนี้เขาจะไม่พบของกินอย่างอื่นอีกนอกจากผักป่ากับเห็ดหูหนูดำ แต่ในใจลึก ๆ เด็กน้อยหวังว่าจะมีไก่ฟ้าหรือกระต่ายป่ามาติดกับดักที่เขาวางเอาไว้บ้าง อย่างน้อย ๆ จะได้นำไปทำอาหารบำรุงร่างกาย เขาจำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายที่กินเนื้อคือเมื่อไหร่ ความปรารถนาของหยางเสี้ยวในตอนนี้คือ มีอาหารมากพอให้กินอิ่มในทุกวัน และมีอาหารมากพอเพื่อเก็บสะสมเอาไว้เป็นเสบียงในฤดูหนาว ที่สำคัญหลังคาบ้านคงต้องทำการซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน เพราะดูจากสภาพของบ้านในตอนนี้คงอยู่ไม่พ้นฤดูหนาวแน่ พอหิมะตกลงมาหลังคาบ้านคงถล่มลงมาแน่ ๆ แค่คิดก็กลัวแทบแย่แล้ว ไหนจะเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มที่ต้องเตรียม เหมือนกับว่าเขาได้ทะลุมิติมาเพื่อทำภารกิจเอาชีวิตรอดในโลกคู่ขนานยังไงยังงั้น“เฮ้อ ชาติที่แล้วว่ายากจนแล้ว ชาตินี้ยิ่งยากจนกว่า ไหน ๆ ก็มาแล้วก็คงต้องสู้กันสักตั้ง หวังว่าจะไม่ตายรอบสองหรอกนะ ทำไมไม่เหมือนที่เราคิดเอาไว้เลยล่ะ ไม่ใช่ชีวิตที่แล้วจน พอได้มีโอกาสได้เกิดใหม่จะต้องรวยหรือเปล่า ทำไมไม่เหมือนที่คิดเอาไว้เลยล่ะ ไม่เห็นเหมือนที่นิยายเขียนเอาไว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23
  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง     ตอนที่ 6 เรื่องราวในป่าใหญ่

    ชาวบ้านที่รวมกลุ่มกันเข้าป่าล่าสัตว์พวกเขาเข้าป่ามาหลายวันแล้วแต่เดิมสมควรจะกลับออกจากป่าได้แล้ว เพียงแต่ว่าการเข้าป่ามาครั้งนี้ยังล่าสัตว์ใหญ่อย่างหมูป่าไม่ได้เลยสักตัว หากยังไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือกลับไปไม่นับว่ามาเสียเที่ยวหรอกหรือ เพราะความเป็นอยู่ของครอบครัวล้วนยากจน การรวมกลุ่มเข้าป่าล่าสัตว์วันนี้ทุกคนพกความหวังมาเต็มเปี่ยม หากกลับไปมือเปล่าไม่เท่ากับว่าคว้าน้ำเหลวหรอกหรือเพราะเป็นแบบนี้คนทั้งกลุ่มได้ตัดสินใจเข้าไปในป่าลึกกว่าที่เคยมา การรวมกลุ่มกันออกมาล่าสัตว์ในครั้งนี้ กินเวลาไปหลายวันกว่าทุกครั้ง หากว่าอีกสองวันยังคงล่าอะไรไม่ได้เลย พวกเขาก็ตัดสินใจที่จะออกจากป่ากลับบ้านทันที “พี่ใหญ่ พวกเราออกจากบ้านมาหลายวันแล้วข้ารู้สึกใจคอไม่ดีเลย ไม่รู้ว่าจะมีเรื่องอันใดเกิดขึ้นหรือไม่ วันที่พวกเราเดินทางมาเสี้ยวเอ๋อร์มีไข้ ตัวร้อนมาก” หยางเทียน“น้องรองอย่าคิดมากเลย ไม่มีอะไรหรอก ทำใจให้สบายเถอะ ไม่แน่ว่าตอนนี้เสี้ยวเอ๋อร์อาจจะหายดีแล้วก็เป็นได้” หยางเทาได้แต่ปลอบน้องชาย“ถ้าหากว่าสองวันนี้ยังล่าอะไรไม่ได้อีก ข้าจะกลับบ้านแล้วล่ะ อีกอย่างข้าไม่อยากจะเข้าป่าไปลึกมากกว่านี้แล้วพี่ใหญ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23
  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    ตอนที่ 7 เข้าป่ากับหยางเชวียน

    วันนี้เพราะมีหยางเชวียนมาด้วยทำให้หยางเสี้ยวกำลังตัดสินใจว่าจะไปที่ภูเขาอู๋หลงดีหรือไม่ เพราะการที่เขาเข้าป่าลึกไปทุกวันนั้นเขาไม่ได้บอกให้ใครรู้ ทุกคนเข้าใจว่าเขาไปขุดผักป่าและวางกับดักที่ภูเขาซิ่วสือที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของภูเขาอู๋หลง แต่หลังจากคิดไตร่ตรองรอบคอบแล้ว หยางเสี้ยวคิดว่าตัวเองสมควรจะพูดจาตกลงกับพี่ชายลูกพี่ลูกน้องของตัวเองให้เข้าใจ ตอนนี้ท่านลุงยังไม่กลับบ้าน ลำพังอาศัยแค่ท่านปู่คนเดียวคงจะไม่ได้ ป้าสะใภ้เจ็บป่วยอ่อนแอ ท่านย่าเองร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงเช่นเดียวกัน หยางเสี้ยวคิดว่าที่ทุกคนร่างกายไม่แข็งแรงมักเจ็บป่วยอยู่เสมอนั้นอาจจะเป็นเพราะขาดสารอาหาร เมื่อความเป็นอยู่ไม่ดีอาหารมีไม่เพียงพอ เนื้อสัตว์คือสิ่งที่หายาก อาหารแต่ละมื้อไม่ผักป่าผัดกับน้ำเติมเกลือนิดหน่อยก็เป็นโจ๊กที่หาเม็ดข้าวไม่เจอ น้ำมันสำหรับทำอาหารนั้นเป็นสิ่งที่หายากสำหรับชาวบ้านยากจน ส่วนเกลือก็ราคาแพง แต่ที่แพงกว่าเกลือก็น้ำตาล ไม่ว่าจะอะไรล้วนแล้วแต่ต้องใช้เงินทั้งนั้น“อาเสี้ยว มีอะไรหรือเปล่า ข้าเห็นเจ้าทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่นานสองนาน แล้วนี่เราจะไปขุดผักป่าที่ไหนหรือ ทำไมเจ้าพาข้าเดินมาทางนี้ล่ะ เราไม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23
  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง     ตอนที่ 8 รู้ความจริง

    หยางเสี้ยวยังคงเดินหน้าเข้าไปในภูเขาอู๋หลงต่อไปเรื่อย ๆ หยางเชวียนเองก็ไม่ได้มีความหวาดกลัวเท่ากับตอนแรกที่ยังไม่ได้เข้ามา ตอนนี้ในตะกร้าของเขามีผักป่าอยู่มากมาย หยางเสี้ยวบอกกับเขาว่าอย่าเก็บผักป่าไปมากนัก ให้เหลือพื้นที่ในตะกร้าเอาไว้ใส่ผลไม้ด้วย หากว่าไม่พบผลไม้อย่างอื่นค่อยเก็บผักป่าใส่ให้เต็ม“อาเสี้ยว ถ้าพวกเราเดินเข้าไปอีกจะกลับออกจากป่าไม่ทันนะ มันจะมืดเสียก่อน วันนี้พอแค่นี้ดีหรือไม่”“เอาแบบนั้นก็ได้ แต่ว่าพรุ่งนี้ข้าอยากไปดูแถวป่าไผ่ก่อน ไม่รู้ว่าจะมีเห็ดเยื่อไผ่ให้เก็บหรือไม่”“เห็ดเยื่อไผ่คืออะไร ทำไมข้าไม่เคยได้ยินหรือได้เห็นเห็ดเยื่อไผ่ที่เจ้าว่ามานี้เลย” “ข้าว่าท่านน่ะอาจจะเคยเห็นแต่ไม่รู้จักก็เป็นได้”ในตอนที่ทั้งสองคนคุยกันเดินกลับออกจากป่าเพื่อจะไปตรวจดูกับดักที่หยางเสี้ยววางเอาไว้นั้น หยางเสี้ยวได้ยินเสียงคนคุยกันมาจากอีกด้านของป่า เด็กชายส่งสัญญาณให้หยางเชวียนเงียบ จากนั้นจึงพากันไปหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ เสียงที่ทั้งสองคนได้ยินนั้นคือเสียงของลูกชายผู้ใหญ่บ้านเป็นไปตามที่หยางเสี้ยวได้คาดการณ์เอาไว้ไม่มีผิด ปล่อยข่าวลือที่ทำให้ชาวบ้านหวาดกลัว เพื่อที่ตัวเองจะได้เก็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-23

บทล่าสุด

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง     ตอนที่ 11 ขายผูเถา

    เช้าวันต่อมาหยางเทียนแบกตะกร้าที่ใส่ผูเถาเอาไว้ออกจากบ้านไปตั้งแต่ยามเหม่า พร้อมด้วยหยางเทาผู้เป็นพี่ชาย เป้าหมายคือโรงเตี๊ยมเยี่ยนไหล เช้านี้ทั้งสองคนจะนำเอาผูเถาที่ลูกชายเก็บกลับมาจากภูเขาอู๋หลงเข้าไปขาย ทั้งสองคนไม่รู้ว่าจะขายได้หรือไม่ แต่หยางเสี้ยวบอกเอาไว้ว่าต้องขายได้แน่ ๆ เพียงแต่จะได้มากได้น้อยนั้นขึ้นอยู่กับราคารับซื้อของโรงเตี๊ยม“น้องรอง ตั้งแต่เสี้ยวเอ๋อร์หายป่วยท่านพ่อบอกว่าหลานเปลี่ยนไปมากหรือ” หยางเทาถามน้องชายถึงความเปลี่ยนแปลงของหลาน“ใช่ขอรับพี่ใหญ่ เสี้ยวเอ๋อร์เปลี่ยนไปมากจริง ๆ ข้าไม่รู้ว่าตอนที่ลูกล้มป่วยเขาไปเจอเรื่องอันใดมา แต่ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน เขาก็ยังคงเป็นลูกชายของข้าเสมอ”“เจ้าเองอย่าได้คิดมากเลย การที่อาเสี้ยวเปลี่ยนไปในทางที่ดีแบบนี้ก็ดีแล้ว อายุแค่ 8 ขวบปีแต่จิตใจเข้มแข็งกล้าหาญกว่าข้าที่เป็นท่านลุงอีก อาเชวียนเล่าว่าอาเสี้ยวสอนวางกับดักด้วย เสียดายที่พวกเราไม่มีเงินส่งเสียให้ลูกได้เรียนหนังสือ ด้วยความฉลาดของพวกเขาข้าคิดว่าต้องสอบได้เป็นซิ่วไฉแน่”“ไม่แน่ว่าในอนาคตชีวิตของพวกเราอาจจะดีขึ้นก็ได้ ข้าเองรู้สึกละอายใจมาก ข้ารู้สึกว่าข้าเป็นบิดาที่ไ

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    ตอนที่ 10 ครอบครัวพร้อมหน้า

    เสิ่นซื่อได้ยินเสียงลูกชายคนเล็กร้องเอะอะเรียกนางกับบุตรชายคนโตเสียงดัง ในที่สุดสามีของนางก็กลับมาได้เสียที ความกังวลใจที่มีตลอดหลายวันมานี้ ก็สามารถวางลงได้แล้ว หยางเสี้ยวเองก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ ท่านพ่อที่ไม่เคยได้พบหน้ากันผู้นี้ จะมีหน้าตาเหมือนพ่ออาทิตย์ของเขาหรือไม่สองแม่ลูกรีบเดินออกไปยังลานหน้าบ้านด้วยความเร่งรีบ เสิ่นซื่อมีรอยยิ้มอยู่เต็มหน้า เมื่อเห็นว่าผู้เป็นสามีกลับมาด้วยความปลอดภัย ไม่ได้เกิดเรื่องอะไรร้ายแรงขึ้นกับเขาอย่างที่นางเป็นกังวล เพราะครั้งนี้หยางเทียนเข้าป่าไปหลายวันกว่าทุกครั้ง เสิ่นซื่ออดกลัวไม่ได้ว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นในป่า"ท่านพี่ ท่านกลับมาแล้ว""อื้ม ข้ากลับมาแล้ว ครั้งนี้ไปเสียหลายวันพวกเจ้าแม่ลูกคงเป็นห่วงแย่"หยางเสี้ยวที่เดินตามหลังผู้เป็นแม่ออกมา เมื่อเห็นหน้าคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นบิดาในภพภูมินี้ของตน ก็อดที่จะหลั่งน้ำตาออกมาไม่ได้ หยางเทียน บิดาในชาตินี้ของเขามีหน้าตาเหมือนพ่ออาทิตย์อย่างไม่ผิดเพี้ยน ราวกับว่าเป็นคนคนเดียวกันเสียอย่างนั้น หากเขาไม่ได้มาเกิดใหม่ในร่างของหยางเสี้ยว ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าของเขาตอนนี้ก็คือพ่ออาทิตย์ของเขาอย่างไม่ต้

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง     ตอนที่ 9 การกลับมาของท่านพ่อ

    เสิ่นซื่อมองแผ่นหลังของลูกหลานเดินออกจากบ้านไปพร้อมตะกร้าใบเล็กที่ใส่กระต่ายเอาไว้ กระต่ายตัวอ้วนน้ำหนักน่าจะประมาณสี่หรือห้าชั่ง หยางเชวียนแบกตะกร้าที่เต็มไปด้วยของป่า นอกจากนี้ยังมีไก่ฟ้ากับกระต่ายป่าอย่างละตัว ทั้งสองคนใช้เวลาไม่นานก็เดินมาถึงบ้านลุงฟู่กุ้ย หยางเสี้ยวต้องการขายกระต่ายตัวนี้ก่อน ค่อยไปบ้านท่านปู่พร้อมกับหยางเชวียน “อาเสี้ยว เจ้าว่าท่านปู่กับท่านย่าจะกล้ากินผูเถานี่หรือไม่ แล้วเราสองคนจะโดนท่านปู่ตำหนิหรือไม่ที่เข้าป่าไปลึก” หยางเชวียนเริ่มวิตกกังวล“ท่านไม่ต้องกลัวไป ประเดี๋ยวข้าจะอธิบายให้ท่านปู่ฟังเอง ข้าเชื่อว่าท่านปู่มีเหตุผลพอที่จะไม่ดุด่าพวกเรา อาจจะมีตักเตือนนิดหน่อย”“ข้ากลัวว่าจะโดนไม้เรียวนี่สิ”“ท่านคิดมากไปแล้ว”เด็กชายทั้งสองยืนคุยกันอยู่หน้าบ้านของท่านลุงฟู่กุ้ยจนทำให้ท่านป้าหนิงเปิดประตูออกมาเรียกให้ทั้งสองเข้าไปในบ้าน“เจ้าสองคนพี่น้อง มายืนทำอันใดอยู่ตรงนี้ หรือว่ามีของมาขายให้ลุงฟู่กุ้ยของพวกเจ้ากันล่ะ เข้ามาก่อนสิ”“ขอบคุณท่านป้ามากขอรับ ข้าเอากระต่ายมาขายน่ะขอรับ” “โอ้ กระต่ายเหรอ เจ้ารอสักประเดี๋ยวป้าจะไปเรียกลุงของเจ้ามา”“ขอบคุณท่านป้าขอรับ”

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง     ตอนที่ 8 รู้ความจริง

    หยางเสี้ยวยังคงเดินหน้าเข้าไปในภูเขาอู๋หลงต่อไปเรื่อย ๆ หยางเชวียนเองก็ไม่ได้มีความหวาดกลัวเท่ากับตอนแรกที่ยังไม่ได้เข้ามา ตอนนี้ในตะกร้าของเขามีผักป่าอยู่มากมาย หยางเสี้ยวบอกกับเขาว่าอย่าเก็บผักป่าไปมากนัก ให้เหลือพื้นที่ในตะกร้าเอาไว้ใส่ผลไม้ด้วย หากว่าไม่พบผลไม้อย่างอื่นค่อยเก็บผักป่าใส่ให้เต็ม“อาเสี้ยว ถ้าพวกเราเดินเข้าไปอีกจะกลับออกจากป่าไม่ทันนะ มันจะมืดเสียก่อน วันนี้พอแค่นี้ดีหรือไม่”“เอาแบบนั้นก็ได้ แต่ว่าพรุ่งนี้ข้าอยากไปดูแถวป่าไผ่ก่อน ไม่รู้ว่าจะมีเห็ดเยื่อไผ่ให้เก็บหรือไม่”“เห็ดเยื่อไผ่คืออะไร ทำไมข้าไม่เคยได้ยินหรือได้เห็นเห็ดเยื่อไผ่ที่เจ้าว่ามานี้เลย” “ข้าว่าท่านน่ะอาจจะเคยเห็นแต่ไม่รู้จักก็เป็นได้”ในตอนที่ทั้งสองคนคุยกันเดินกลับออกจากป่าเพื่อจะไปตรวจดูกับดักที่หยางเสี้ยววางเอาไว้นั้น หยางเสี้ยวได้ยินเสียงคนคุยกันมาจากอีกด้านของป่า เด็กชายส่งสัญญาณให้หยางเชวียนเงียบ จากนั้นจึงพากันไปหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ เสียงที่ทั้งสองคนได้ยินนั้นคือเสียงของลูกชายผู้ใหญ่บ้านเป็นไปตามที่หยางเสี้ยวได้คาดการณ์เอาไว้ไม่มีผิด ปล่อยข่าวลือที่ทำให้ชาวบ้านหวาดกลัว เพื่อที่ตัวเองจะได้เก็

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    ตอนที่ 7 เข้าป่ากับหยางเชวียน

    วันนี้เพราะมีหยางเชวียนมาด้วยทำให้หยางเสี้ยวกำลังตัดสินใจว่าจะไปที่ภูเขาอู๋หลงดีหรือไม่ เพราะการที่เขาเข้าป่าลึกไปทุกวันนั้นเขาไม่ได้บอกให้ใครรู้ ทุกคนเข้าใจว่าเขาไปขุดผักป่าและวางกับดักที่ภูเขาซิ่วสือที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของภูเขาอู๋หลง แต่หลังจากคิดไตร่ตรองรอบคอบแล้ว หยางเสี้ยวคิดว่าตัวเองสมควรจะพูดจาตกลงกับพี่ชายลูกพี่ลูกน้องของตัวเองให้เข้าใจ ตอนนี้ท่านลุงยังไม่กลับบ้าน ลำพังอาศัยแค่ท่านปู่คนเดียวคงจะไม่ได้ ป้าสะใภ้เจ็บป่วยอ่อนแอ ท่านย่าเองร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงเช่นเดียวกัน หยางเสี้ยวคิดว่าที่ทุกคนร่างกายไม่แข็งแรงมักเจ็บป่วยอยู่เสมอนั้นอาจจะเป็นเพราะขาดสารอาหาร เมื่อความเป็นอยู่ไม่ดีอาหารมีไม่เพียงพอ เนื้อสัตว์คือสิ่งที่หายาก อาหารแต่ละมื้อไม่ผักป่าผัดกับน้ำเติมเกลือนิดหน่อยก็เป็นโจ๊กที่หาเม็ดข้าวไม่เจอ น้ำมันสำหรับทำอาหารนั้นเป็นสิ่งที่หายากสำหรับชาวบ้านยากจน ส่วนเกลือก็ราคาแพง แต่ที่แพงกว่าเกลือก็น้ำตาล ไม่ว่าจะอะไรล้วนแล้วแต่ต้องใช้เงินทั้งนั้น“อาเสี้ยว มีอะไรหรือเปล่า ข้าเห็นเจ้าทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่นานสองนาน แล้วนี่เราจะไปขุดผักป่าที่ไหนหรือ ทำไมเจ้าพาข้าเดินมาทางนี้ล่ะ เราไม

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง     ตอนที่ 6 เรื่องราวในป่าใหญ่

    ชาวบ้านที่รวมกลุ่มกันเข้าป่าล่าสัตว์พวกเขาเข้าป่ามาหลายวันแล้วแต่เดิมสมควรจะกลับออกจากป่าได้แล้ว เพียงแต่ว่าการเข้าป่ามาครั้งนี้ยังล่าสัตว์ใหญ่อย่างหมูป่าไม่ได้เลยสักตัว หากยังไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือกลับไปไม่นับว่ามาเสียเที่ยวหรอกหรือ เพราะความเป็นอยู่ของครอบครัวล้วนยากจน การรวมกลุ่มเข้าป่าล่าสัตว์วันนี้ทุกคนพกความหวังมาเต็มเปี่ยม หากกลับไปมือเปล่าไม่เท่ากับว่าคว้าน้ำเหลวหรอกหรือเพราะเป็นแบบนี้คนทั้งกลุ่มได้ตัดสินใจเข้าไปในป่าลึกกว่าที่เคยมา การรวมกลุ่มกันออกมาล่าสัตว์ในครั้งนี้ กินเวลาไปหลายวันกว่าทุกครั้ง หากว่าอีกสองวันยังคงล่าอะไรไม่ได้เลย พวกเขาก็ตัดสินใจที่จะออกจากป่ากลับบ้านทันที “พี่ใหญ่ พวกเราออกจากบ้านมาหลายวันแล้วข้ารู้สึกใจคอไม่ดีเลย ไม่รู้ว่าจะมีเรื่องอันใดเกิดขึ้นหรือไม่ วันที่พวกเราเดินทางมาเสี้ยวเอ๋อร์มีไข้ ตัวร้อนมาก” หยางเทียน“น้องรองอย่าคิดมากเลย ไม่มีอะไรหรอก ทำใจให้สบายเถอะ ไม่แน่ว่าตอนนี้เสี้ยวเอ๋อร์อาจจะหายดีแล้วก็เป็นได้” หยางเทาได้แต่ปลอบน้องชาย“ถ้าหากว่าสองวันนี้ยังล่าอะไรไม่ได้อีก ข้าจะกลับบ้านแล้วล่ะ อีกอย่างข้าไม่อยากจะเข้าป่าไปลึกมากกว่านี้แล้วพี่ใหญ

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง     ตอนที่ 5 สมาชิกใหม่

    หยางเสี้ยวที่เดินมุ่งหน้าไปตรวจดูกับดักที่เขาวางเอาไว้ด้วยความเร่งรีบ ถึงแม้ว่าวันนี้เขาจะไม่พบของกินอย่างอื่นอีกนอกจากผักป่ากับเห็ดหูหนูดำ แต่ในใจลึก ๆ เด็กน้อยหวังว่าจะมีไก่ฟ้าหรือกระต่ายป่ามาติดกับดักที่เขาวางเอาไว้บ้าง อย่างน้อย ๆ จะได้นำไปทำอาหารบำรุงร่างกาย เขาจำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายที่กินเนื้อคือเมื่อไหร่ ความปรารถนาของหยางเสี้ยวในตอนนี้คือ มีอาหารมากพอให้กินอิ่มในทุกวัน และมีอาหารมากพอเพื่อเก็บสะสมเอาไว้เป็นเสบียงในฤดูหนาว ที่สำคัญหลังคาบ้านคงต้องทำการซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน เพราะดูจากสภาพของบ้านในตอนนี้คงอยู่ไม่พ้นฤดูหนาวแน่ พอหิมะตกลงมาหลังคาบ้านคงถล่มลงมาแน่ ๆ แค่คิดก็กลัวแทบแย่แล้ว ไหนจะเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มที่ต้องเตรียม เหมือนกับว่าเขาได้ทะลุมิติมาเพื่อทำภารกิจเอาชีวิตรอดในโลกคู่ขนานยังไงยังงั้น“เฮ้อ ชาติที่แล้วว่ายากจนแล้ว ชาตินี้ยิ่งยากจนกว่า ไหน ๆ ก็มาแล้วก็คงต้องสู้กันสักตั้ง หวังว่าจะไม่ตายรอบสองหรอกนะ ทำไมไม่เหมือนที่เราคิดเอาไว้เลยล่ะ ไม่ใช่ชีวิตที่แล้วจน พอได้มีโอกาสได้เกิดใหม่จะต้องรวยหรือเปล่า ทำไมไม่เหมือนที่คิดเอาไว้เลยล่ะ ไม่เห็นเหมือนที่นิยายเขียนเอาไว

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง    ตอนที่ 4 ขายปลา

    เช้าวันต่อมาหยางเสี้ยวตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น ข้อดีของการทะลุมิติมาในโลกคู่ขนานแห่งนี้ก็คือ ที่นี่มีทั้งท่านแม่ที่หน้าตาเหมือนคุณแม่ในโลกเดิมทุกอย่าง รวมถึงลักษณะนิสัยด้วย ตอนนี้หยางเสี้ยวมีความมั่นใจว่าท่านพ่อเองก็คงจะมีหน้าตาเหมือนกับคุณพ่อของเขาด้วยเช่นกัน ที่สำคัญเขาไม่ได้เป็นลูกคนเดียวโดดเดี่ยวอีกแล้ว เขามีน้องชายที่น่ารักสดใส ถึงแม้ครอบครัวจะยากจนมากก็ตามที และความยากจนนี่ล่ะที่เป็นอุปสรรคสำคัญของหยางเสี้ยว แต่ถึงจะยากจนหยางเสี้ยวก็ไม่คิดเก็บเอามาใส่ใจ มีเพียงพยายามใช้ชีวิตและมีชีวิตอยู่ตราบใดที่เราพยายามพอ ความยากจนก็ไม่ใช่อุปสรรคสำคัญอีกต่อไป ไม่แน่ว่าการที่เขาทะลุมิติมาอาจจะเป็นบททดสอบในการใช้ชีวิต เหมือนกับการรับภารกิจตอนเล่นเกมออนไลน์ หากทำภารกิจสำเร็จย่อมมีรางวัลตามมา หยางเสี้ยวเชื่อเช่นนั้นหลังจากล้างหน้าล้างตาบ้วนปากเรียบร้อยแล้ว หยางเสี้ยวสะพายตะกร้าเดินมุ่งหน้าไปยังลำธารที่เขาขุดหลุมดักปลาเอาไว้ วันนี้หยางเสี้ยวตั้งใจจะขึ้นเขาเผื่อว่าจะได้อะไรติดไม้ติดมือกลับมาบ้าง ตอนนี้ตัวเขาเองมาอยู่ในร่างของเด็กอายุ 8 ขวบ จึงไม่สามารถทำอะไรได้มากมายนัก สำหรับการล่าสัตว์เขาทำได้เ

  • หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง     ตอนที่ 3 รอยยิ้มของน้องชาย

    เสิ่นซื่อที่กลับมาจากขุดผักป่ากับเพื่อนบ้าน เมื่อมาถึงกลับพบว่าลูกชายทั้งสองไม่อยู่ในบ้าน นางหาจนทั่วแล้วแต่หาลูกชายทั้งสองไม่พบ สวนหลังบ้านก็ไม่มี เมื่อไปดูในห้องเก็บฟืนถึงได้รู้ว่าตะกร้าสะพายหลังของลูกชายทั้งสองหายไป นี่ไม่เท่ากับว่าสองพี่น้องพากันขึ้นเขาไปหรือ ลูกชายของนางยังไม่ทันได้หายดีก็ขึ้นเขาไปอีกแล้ว ด้วยความร้อนใจเสิ่นซื่อรีบออกไปตามหาทันที แต่ยังไม่ทันที่นางจะได้ก้าวขาออกไปพ้นประตูบ้านก็พบว่าสองพี่น้องจูงมือกันกลับมา และได้ยินเสียงลูกชายคนเล็กหัวเราะคิกคักดังลอยมา เสิ่นซื่อถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งใจ “เสี้ยวเอ๋อร์เจ้าพาน้องไปที่ใดมา ไม่ใช่ว่าแม่บอกให้เจ้าพักผ่อนหรือ เจ้ายังไม่หายดีด้วยซ้ำ เสียนเอ๋อร์เหตุใดเจ้าไม่ห้ามปรามพี่ชาย ไม่ใช่แม่บอกให้เจ้าอยู่ดูแลพี่ชายหรือ”“ท่านแม่ ท่านแม่ขอรับ ข้าเป็นน้องชายเผื่อท่านแม่จะลืม ท่านพี่บอกว่าหายแล้ว อยากออกไปเดินเล่น พวกเราไม่ได้ไปไหนไกลเลยนะขอรับ ไปแค่ลำธารหลังบ้านเอง”“เจ้าลูกคนนี้นี่ ไม่ใช่ว่าเจ้ารบเร้าให้พี่ใหญ่ของเจ้าพาออกไปหรอกนะ”“ท่านแม่ขอรับ อย่าตำหนิน้องเลยขอรับ เป็นข้าเองที่ชวนน้องชายออกไป ข้าหายแล้วจริง ๆ ขอรับ ข้าน

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status