Home / รักโบราณ / หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน / ตอนที่ 4 วางแผนอนาคตกับยุคอดีต

Share

ตอนที่ 4 วางแผนอนาคตกับยุคอดีต

last update Last Updated: 2025-02-21 12:37:39

“อื้มมม” อี้หมิงกอดอกลูบคางตัวเองไปมาอย่างใช้ความคิด เธอจะไม่ยอมอยู่ในสภาพแบบนี้ไปตลอดหรอกนะ ดูสิสาวสมัยใหม่อย่างเธอรับไม่ได้อย่างแรงกับเสื้อผ้ามอมแมมที่สวมใส่อยู่ตอนนี้ ไหนจะบ้านนี้ ไม่สิ! เรียกบ้านไม่ได้ด้วยซ้ำมันแค่เพิงหลังคามุงหญ้าไว้ใช้หลบนอนแค่นั้นเอง ไม่ได้การหล่ะ ไหนๆ ก็ต้องอยู่ที่นี้ล่ะ เธอต้องคิดหาลู่ทางก่อนละกันค่อยหาวิธีกลับไปยุคที่เธอจากมา แล้วนึกในใจเอ่ยกับเจ้าของร่างที่เธออาศัยอยู่ และให้สัญญาว่าจะดูแลแม่นางเป็นอย่างดี ๆ เธอจะไม่อธิบายเหตุผลใดๆ กับคนที่นี่ พูดไปก็ยากจะไม่มีใครเชื่อเธอ

“เอ่อ เฟิน เฟิน งั้นเธอ เอ๊ย เจ้า พา ฉะ ข่ะ ข้า ไปดูรอบ ๆ หมู่บ้านได้หรือไม่ เผื่อข้าจะจำอะไรขึ้นมาได้บ้าง”

“ได้สิพี่หมิงอี้ เดี๋ยวข้าพาไปเอง รอบนี้พี่ไม่ต้องกลัวนะ ข้าจะไม่ปล่อยไอ้พวกอันธพาลนั่นมารังแกพี่ได้อีกแน่นอน เพราะข้ามีนี่!!”

เฟิน เฟิน ยกแท่งไม้ที่มีง่ามแยกออกสองง่ามขึ้นมา “อ่ออ ยุคนี้ก็มีหนังสติ๊กด้วยแฮะ”

“ข้านะกว่าจะหามาได้พี่รู้มั๊ยต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมมารยา และสมองอันชาญฉลาดของข้าเลยนะเนี่ย” สาวน้อยคุยโอ้อวด

“โอเค ๆ ป่ะไปกันเถอะ”

“ฮือ อะอะโอเค เจ้าพูดอะไรของเจ้ากันพี่หมิงอี้”

“ช่างเถอะ ๆ ไปกันเถอะ เดี๋ยวจะค่ำมืดซะก่อน” อี้หมิงดันหลังสาวน้อยให้เลิกสงสัยตน แล้วเดินตรงไปบอกผู้ที่เป็นมารดาตนในยุคนี้ก่อน

“เอ่อ ทะท่าน ข้าขอออกไปเดินเล่นกับเฟิน เฟิน ซักครู่นะเดี๋ยวข้ากลับมา”

“อย่าไปนะ หมิงอี้ แม่กลัว กลัวมันจะมาทำร้ายเจ้าอีก” อี้เฟินรั้งไม่อยากให้ลูกสาวนางออกไปด้านนอก กลัวโดนเจ้าพวกเด็กอันธพาลทำร้ายอีก

“ให้ข้าไปเถอะนะ เผื่อข้าจะจำแะไรขึ้นมาได้บ้างไง” อี้หมิงจับมือเหี่ยวย่นอย่างขอร้อง

“ท่านป้า ท่านไม่ต้องห่วงเลย เฟินเฟินมีนี่ รับรองใครหน้าไหนเข้ามาใกล้พี่หมิงอี้ไม่ได้แน่ๆ ”

สาวน้อยเฟิน เฟิน ยกมือขึ้นทำท่าก๋ากั่น จนอี้หมิงอดขำออกมากับท่าทางของสาวน้อยเสียไม่ได้

“เถอะนะท่าน ให้ข้าไปเถอะ ข้าอยู่แต่ในนี้หลายวันแล้ว เบื่อจะเเย่ ข้าสัญญาจะไม่เจ็บตัวกลับมาแน่นอน ข้าจะระวังนะนะ ทะท่านแม่” อี้หมิงเอ่ยเรียกแม่ตะกุกตะกัก ด้วยยังไม่ชิน

“อ่ะก็ได้ แต่พวกเจ้าระวังตัวกันด้วยนะ” อี้เฟินเอ่ยอย่างอ่อนใจ

“ไปกันพี่หมิงอี้” สาวน้อยเฟินเฟินเมื่อได้ยินคำอนุญาติจากปากท่านป้าที่ตนเรียก ก็รีบดึงมืออี้หมิงวิ่งออกไปจากบ้านทันที

ทัเงสองเดินมาตามทางที่เป็นพื้นหินเเผ่นใหญ่ที่นำมาต่อกันจนเป็นทาง เดินลัดเลาะตามคลองน้ำ ตามซอกบ้านดินโทรมๆ เหมือนบ้านที่ตนอยู่ เดินลัดเลาะไม่นานก็ปรากฎบ้านเรือนหลังใหญ่ ผู้คนเดินซื้อของไปมาอย่างคับคั่ง รถม้าเหมือนในละครที่หญิงสาวเคยดูผ่าน ๆ ในยุคปัจจุบันวิ่งผ่านหน้าไป สาวน้อย สาวใหญ่แต่งตัวสีสันฉูดฉาด ปักปิ่น ใส่ชุดจีนโบราณ เรียกว่าอะไรนะ

“ฮั่นฝู” อี้หมิงอุทานออกมา

“พี่ว่าอะไรนะ” เฟินเฟินที่ได้ยินไม่ถนัด หันมาถามอี้หมิง

“เปล่า ทำไมที่นี่คนเยอะจัง ต่างจากที่ของเราเป็นไหน ๆ ผู้คนก็แต่งตัวสวยงามดูดีทั้งผู้หญิง ผู้ชายเลย”

“ตรงนี้คือถนนใหญ่ของแคว้นต้าหลี่ เจ้าเห็นนั่นมั๊ย”

อี้หมิงมองตามนิ้วที่เฟินเฟินชี้

“คนนั้นคือ สาวงามล่มเมืองต้าหลี่ ชื่อ เจ้าหลี่เหมย ดูนางมาเดินเลือกของแต่ละทีสาวใช้ตามเป็นขบวน นางเป็นลูกขุนนางใหญ่ของแคว้น สวยใช่ม่ะ ข้าก็อิจฉาเหมือนกันอยากใส่ชุดแบบนางบ้าง” เฟินเฟินพูดเสียงละห้อย

อี้หมิงก้มมองดูชุดที่ตนสวมกับมองสาวเจ้านาม หลี่เหมย ก็ส่ายหน้ากับตัวเอง ฉันจะไม่ยอมใส่ชุดมอมแมมนี้ไปตลอดหรอกนะ ฮึ่ยย! คิดคนเดียวในใจอย่างหมายมาด

“ท่านหญิง ข้าขอเบี้ยหน่อยเถิด ท่านหญิงคนงาม ข้าหิวเหลือเกิน” ชายแก่คนหนึ่งเดินมาคุกเข่าต่อหน้าหญิงงาม

“หลี่เหมยชะงักกับชายตรงหน้า นางกำลังจะต่อว่าพลันนึกได้ว่าอยู่ต่อหน้าชาวบ้านมากมาย”

“หลีกไปนะ เจ้าช่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง อย่าหาขัดความเพลิดเพลินของคุณหนูข้า ไป หลบไปให้พ้น” เสียงสาวใช้ข้างกายหลี่เหมยตวาดชายแก่ ทำให้เป็นที่สนใจของชาวเมืองที่กำลังจับจ่ายใช้สอยอยู่

หลี่เหมยเห็นดังนั้นจึงแสร้งหันไปหาสาวใช้ “ฟ่านอิง หยุดเถอะ” แล้วแบมือไปด้านหน้า โดยไม่เอ่ยอะไร

ด้านสาวใช้เมื่อเห็นสัญญาณมือจากนายสาวก็รู้ทันทีล้วงลงไปในถุงปักลายสวยอย่างเลี่ยงไม่ได้ หยิบเงินออกมา 1 ตำลึงเงิน

แล้ววางบนมือเรียว

“นี่ ข้าให้ ข้าไปได้รึยัง”

“แฮะ แฮะ ขอบพระคุณคุณหนู” ชายสูงวัยก้มลงคำนับบนพื้น พลันเกิดเสียงซุบซิบจากชาวเมืองที่เดินจับจ่ายซื้อของเซ็งแซ่ ชื่นชมในความงามและใจบุญของคุณหนูเหมยหลี่ หลายเสียงต่างบอกว่าไม่แปลกที่โดนวางเป็นตัวเต็งว่าที่พระชายาขององรัชทายาทผู้งดงามของแคว้นต้าหลี่

“โอ้โห พี่หมิงอี้ เห็นรึไม่ 1 ตำลึงเงินเลยนะ ตาแก่นั่นช่างโชคดีเสียจริงเชียว”

“ป่ะ เฟิน เฟิน ไปต่อกันเถอะ” อี้หมิงเอ่ยชวนสาวน้อย

“ได้ ๆ นั่น ๆ วังหลวง”

“โอ้โหว เฟิน เฟิน ใหญ่มากเลย สวยมากด้วย โอ๊ะนั่นทหาร ทหารจริง ๆ เฮ้ย!”

อี้หมิงอุทานด้วยความตกใจที่เกือบจะโดนม้าตาย ถ้าเฟินเฟิน ไม่ดึงออกมาซะก่อน จะรีบไปไหนกัน มองตามอาชาสีดำเมี่ยมที่มีชายแต่งกายแปลกตาควบเร็ววิ่งเข้าราชวังที่เฟิน เฟินชี้ให้ดูเมื่อครู่

“เกือบแล้วมั๊ยละพี่หมิงอี้ พู่วว”

~ผักสวย ผักสวย จากสวน ใหม่ๆ ทางนี้จ้า ทางนี้ แม่นาง คุณหนูๆ แวะดูก่อนจ๊ะ ผักสวย ๆ แฮะ ๆ มา ๆ ดูก่อน~

~เหล่าป่าย กำเท่าไหร่~ เสียงชายกำยำเอ่ยถาม

~ไม่แพง ๆ ทนายท่าน ๆ กำนี้ลดแล้ว 5 เหวิน (อิแปะ) ~ เจ้าของร้านยกนิ้ว 5 นิ้วบอก

~ทำไมแพงจังนะฮ่ะ เมื่อวานเมียข้ามาซื้อ 2 เหวินเองมิใช่รึ~

~แฮะผักปลูกยากนะท่าน น้ำท่าก็ไม่สมบูรณ์เหมือนแต่ก่อน ไหนจะโรคระบาด ไหนจะแมลงอีก ฝนก็ไม่ตก แค่นี้ถือว่าถูกแล้วนะท่านจ๊ะ แฮะๆ ไม่ซื้อไม่เป็นไรจ๊ะ~

~เอ้า! เอาก็เอา มากำนึง~

~ขอบคุณจ้า ไว้มาซื้ออีกนะ~

โหวววว อี้หมิงตาลุกวาว เอ่ยถามเฟิน เฟินอย่างตื่นเต้น

“เฟิน เฟิน 5 เหวินนี่แพงมั๊ย”

“แพงสิพี่หมิงอี้ นั่นเกือบเท่าราคาเนื้อเลยนะ”

“จริงอ่ะ”

“อื้อ” เฟินเฟินพยักหน้ารับ

“ดี ดี เลย!!”

~ซ่าาาา~

“อ๊ะ เฮ้ยอะไรว่ะ” อี้หมิงอุทานอย่างตกใจ

“หลบไปเจ้าพวกขอทานมอมแมม อย่ามาขวางหน้าร้านข้า ประเดี๋ยวลูกค้าข้าหนีหมด ไป ไป ชิ้ว ชิ้ว”

“เฮอะ!!” อี้หมิงเท้าสะเอวอย่างขบเขี้ยว ตอนนี้ตัวเธอเปียกไปทั้งตัว จากเจ้าพ่อค้าผักที่สาดน้ำมาใส่

~อ่ะ ยังไม่ไปอีก เฮ้ยพวกแกไปไล่สิว่ะ!~ ชายอ้วนตะโกนบอกลูกน้องที่กำลังขนผักขึ้นใส่ลังไม้

“เฮ้ยพี่ วิ่งเร็ว!!”

เฟิน เฟิน ดึงแขนร่างบางให้ออกวิ่ง ไม่งั้นมีหวังโดนตีอีกแน่แน่ ๆ อี้หมิงสับเท้าวิ่งตามแรงลากของเฟินทเฟินอย่างเสียไม่ได้

พร้อมเข็ญเขี้ยวลงบัญชีดำตาแก่อ้วนร้านผักไว้ในใจ อย่าให้ข้ารวยนะข้าจะเปิดร้านใหญ่ ๆ เอาให้เจ้าขายผักไม่ได้เลยคอยดู ไอ้เจ้าตาแก่อ้วนเอ๊ยย!!! อี้หมิงสบถคนเดียวในใจ

……………..

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
ອິດ ພັນນະວົງ
จะเอาชื่อไหนก็เอาชักชื่อชินางเอกนะ,ตกลงอี้หมิง หรือ หมิงอี้กันแน่
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 5 เตรียมต้นกล้า

    หลังจากที่พวกอู๋ไป๋กลับไป พวกนางทั้งสามคนก็ลงมือช่วนกันแยกผักต่าง ๆ ออกมา โดยแยกตามประเภทที่มี วันนี้อี้เฟินได้ มี ผักบุ้ง ที่รวมๆ แล้วถือว่าได้เยอะทีเดียว แถมส่วนที่นางนำกลับมาช่างถูกใจอี้หมิงเสียนี้ เป็นตอผักบุ้งที่เหลือส่วนรากไว้ เจ้าของคงจะตัดส่วนด้านบนขายไปแล้วกระมัง อีกกองที่แยกเป็นพริกที่เน่าเละ บางเม็ดก็ช้ำจากการทับกันมา อี้หมิงมองแล้วก็ยิ้มอีก กำลังแก่ได้ที่พอดีเชียวอีกกองที่แยกไว้เป็มมะเขือเทศที่แตก บางลูกก็เน่า แต่ไม่เป็นไรแบบนี้แหละดี วันนี้ได้มาแค่นี้ก็ถือว่าบรรลุเป้าหมายไปอีกขั้นแล้วล่ะ อี้หมิงกอดอกยิ้มพอใจกับผลงานที่อี้เฟินนำมา ส่วนกองที่เหลือจะเป็นใบผักกาดที่เหี่ยวเน่าแล้วซะส่วนใหญ่ หลังจากทั้งสามคัดผักเสร็จแล้ว อี้เฟินก็เอ่ยขึ้นว่าวันนี้มีคนให้ถั่วเขียวนางมา ประเดี๋ยวนางจะต้มน้ำตาลอร่อย ๆ ให้อี้กมิงกับเฟิน เฟินได้ทาน อี้หมิงได้ยินเช่นนั้นก็หูผึ่ง” ไม่ท่านแม่ เราจะไม่กินวันนี้ ถั่วเขียวท่านได้มามากแค่ไหนกัน “” นี่ไง! “อี้เฟินยกออกมาให้หญิงสาวดูอี้หมิงเห็นก็ตบมือดีใจใหญ่ ” ไม่ ๆ เราจะไม่กินวันนี้ “อี้หมิงพูดยิ้ม ๆ ” ท่านพอมีตะกร้าไม้ไผ่ ที่สานหรือตะกร้าที่เป็นช

    Last Updated : 2025-02-21
  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 6 เตรียมดินและเมล็ดพันธุ์

    อี้หมิงได้นำเอาเม็ดถั่วเขียวออกมาจากถุงผ้า นางนำไปแช่น้ำปล่อยทิ้งข้ามคืนไว้ แล้ววันพรุ่งจึงจะจำนำออกมาเพาะ เมื่อจัดการทำถั่วเขียวเสร็จ สาวน้อยและมารดาได้นำเอาพริกที่มีทั้งเม็ดที่เน่าเสีย และช้ำ ซึ่งเป็นเม็ดที่แก่แล้วภายในอัดแน่นไปด้วยเมล็ดพริกเต็มเม็ด มาค่อย ๆ ใช้มีดกรีดทีละเม็ด แล้วใส่ในกระด้ง นางตั้งใจจะนำเมล็ดพริกแก่เหล่านี้ออกมาผึ่งตากแดดทำให้แห้ง แล้วจะนำไปเพาะต่อไปนั่นเอง ซึ่งวันนี้เธอกับเฟิน เฟิน หลังจากถอนหญ้าที่รกปกคลุมพื้นที่ว่างขนาดเล็กหลังเรือนเล็กเสร็จ ทั้งสองก็ลงมือพรวนดิน โดยอี้หมิงบอกกับเฟิน เฟิน ว่า มันคือขั้นตอนของการเตรียมดิน โดยขุดดินที่อยู่ด้านล่างขึ้นมาพรวนตากแดดไว้ก่อน เป็นการพลิกให้หน้าดินที่อยู่ด้านบนลงไปอยู่ด้านล่าง แล้วใช้ไม้เเหลมเสียบๆ จนพรุนลงไปเป็นการเพิ่มพื้นที่ช่วยทำให้ดินไม่จับกันเป็นก้อนใหญ่ ดินจะได้โปร่ง จะได้มีช่องว่างให้น้ำและอากาศแทรกเข้าไปพอเหมาะ ทำให้ดินมีความเป็นกรดและด่างที่พอดี เป็นการช่วยให้รากของต้นพืชที่จะปลูกชอนชัยหาอาหารได้ดี และที่สำคัญเป็นการฆ่าเชื้อโรคให้กับดินไปในตัวอีกด้วย พืชที่ปลูกจะได้โตเร็ว ๆ “โอ้โห!!! พี่หมิงอี้ พี่ไปเอามาจาก

    Last Updated : 2025-02-21
  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 7 ขบวนเสด็จ

    หลังตื่นนอน หญิงสาวได้ช่วยอี้เฟินเก็บกวาด ทำอาหารและทานข้าวมื้อเช้าเสร็จ ก็เดินออกมาส่งนางที่ปากทางหมู่บ้านคนอพยพ เพื่อไปทำงานในตลาดที่อยู่อีกฝากของหมู่บ้านไม่ใช่ว่าอี้หมิงไม่อยากช่วยแบ่งเบาภาระของนาง แต่นางขอไว้ด้วยความกลัวว่าจะโดนเจ้าพวกอันธพาลรังแกเหมือนรอบที่แล้ว ที่ลูกนางโดนตีเกือบตาย โดยที่จริงแล้วลูกของนางได้ตายไปแล้ว และอี้หมิงที่ตายในวันเดียวกันในโลกอนาคตจึง ได้มาเกิดแทนในร่างของเธอ โดยที่อี้เฟินนางเองก็ยังไม่รู้ว่าลูกนางได้ตายไปเสียแล้ว” พี่หมิงอี้”” อ้าว เฟิน เฟิน ไปไหนมา”ข้าไปในตลาดมา วันนี้ในตลาดเขาลือกันว่าฮ่องเต้จะเสด็จไปล่าสัตว์ในป่า ข้าเลยจะมาชวนพี่ไปดูขบวนเสด็จด้วยกัน” ขบวนเสด็จหรอ”” อื้อ หึ “เฟิน เฟิน พยักหน้างึก ๆ” ไปสิ “อี้หมิงรู้สึกตื่นเต้น ดีเหมือนกันอยากเห็นด้วยตัวเองซักครั้ง จะว่าไปการที่ได้มาอยู่ตรงนี้ก็ตื่นเต้นดีเหมือนกันแฮะ!! พบเจอผู้คนที่แปลกตา การแต่งตัวที่ผิดแผกไปจากที่เธอเคยเจอ คำพูด การใช้ชีวิต ตอนนี้ถือว่าเธออยู่อย่างธรรมชาติสุด ๆ ไม่มีทีวีให้ดู ไม่มีห้างให้เดินเที่ยว ไม่มีโทรศัพท์ให้ไถเล่นโซเชียล แต่ก็ลำบากชะมัด!! อี้หมิงบ่นในใจ แล้วมิวายก้มล

    Last Updated : 2025-02-21
  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 8 ทำเลที่ตั้ง

    หลังขบวนเสด็จผ่านไปแล้ว อี้หมิงก็ชวนเฟิน ๆ กลับไปยังเรือนพักหลังเล็กของต้น ภารกิจแรกของสองสาวกำลังจะเริ่มต้นขึ้นในไม่ช้า“เฟิน เฟิน พร้อมมั๊ย!”“ข้าพร้อมแล้วพี่”“สาธุ เทียนตี้ เทียนกง ขอให้ถั่วงอกของลูกออกมาอวบขาว ๆ นะเจ้าคะสาธุ” อี้หมิงยกชามถั่วเขียวที่แช่น้ำข้ามคืนไว้ ยกไหว้วานสิ่งศักสิทธิ์เพื่อเอาฤกษ์เอาชัย“นั่นพี่ทำอะไรรึ” เฟิน เฟิน ที่เห็นอี้หมิงยกชามที่แช่ถั่วงอกขึ้นเหนือผัวแล้วทำปากขมุกขมิบบ่นพึมพำไปมาจึงอยากใครรู้“อ่อ! ขอพรเอาฤกษ์เอาชัยนะ ช่างเถอะๆ มาๆ เฟิน เฟิน มาลงมือปลูกถั่วงอกของเรากัน”เมื่อวัตถุดิบพร้อม อี้หมิงก็ลงมือปลูกถั่วงอก โดยนางเริ่มโดยการนำกระบุงไม้สานที่ขอยืมเฟิน เฟิน ไว้ และเสื้อเก่า ๆ ที่มีเนื้อผ้าค่อนข้างโปร่งนิ่ม 1 ผืน ไปแช่น้ำให้ชุ่มจนน้ำไหลหยดออกจากผ้าเป็นทาง มือบางบิดผ้าให้มาดเล็กน้อย จากนั้นปูใส่ลงไปในกระบุง หย่อนมือกอบเอาเมล็ดถั่วเขียวที่แช่น้ำทิ้งไว้ข้ามคืนขึ้นมาจากถังไม้ แล้วย้ายมาวางใส่ในกระบุงแทน ค่อยๆ โรยเมล็ดถั่วเขียวให้กระจายกันไม่ซ้อนทับกันหรือกองกันอยู่มุมใดมุมหนึ่งของกระบุง นิ้วเรียวยื่นตามไปค่อย ๆ แผ่ส่วนที่กองกันมากเกินไปให้แผ่กระจายออก พ

    Last Updated : 2025-02-22
  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 9 First impression ฉบับคนจน (1)

    “อ้าว มากันแล้วรึ วันนี้ไปตะเวนเที่ยวไหนกันมาล่ะ!” อี้เฟินที่กำลังทำอาหารเอี้ยวหน้ามามองสองสาว“ไม่ไปโดนต่อยตีที่ไหนมาใช่หรือไม่!”“ไม่จ๊ะ ปลอดภัยไร้รอยข่วน! ป้าอี้เฟิน วันนี้ข้ากับพี่อี้หมิงไปหาทำเลขายของในตลาดมา ได้มาแล้วด้วยนะ”“จริงรึ แล้วหมิงอี้จะขายอะไรล่ะลูก” อี้เฟินที่กำลังลงมือต้มน้ำซุปอยู่หันมาถามลูกสาว“ถั่วงอก นี่ไง ๆ ท่านดูสิ อีก 3 วันก็ขายได้แล้ว”“ฮือ! นั่นเจ้าทำอันใด พิลึกคนจริง นั่นอะไรรึ”อี้เฟินเมื่อเห็นสิ่งที่ลูกสาวชี้เชิญให้ดูก็ขมวดคิ้วแปลกใจ อะไรกันละนั่น“เอาหน่าท่าน เดี๋ยวก็รู้ระหว่างนี้ ทุก 2 ชั่วยาม ต้องคอยรดน้ำบ่อย ๆ อีก 3 วันก็ขายได้แล้วละ แล้วเดี๋ยวข้าก็จะมีเงินมาซื้อของอร่อย ๆ ให้ท่านยังไงล่ะ” อี้หมิงยิ้มอวดซี่ฟันสวยเต็มวงหน้าให้กับอี้เฟิน“อ่ะ ๆ แล้วแต่เจ้าแล้วกัน เฟิน เฟิน วันนี้กินข้าวกับข้าสิ ได้ผักกับเนื้อมาอีกแล้วล่ะ”“พี่ไป๋อู๋ละสิให้ท่านมา”เฟิน เฟินถามยิ้ม ๆ“นี่พี่หมิงอี้ เฟิน เฟิน ว่าถ้าพี่ไม่มีใคร พี่ไป๋อู๋ก็ไม่เลวนะ ขยันทำมาหากิน แต่อ้วนน่าเกียจไปหน่อยแค่นั้นเอง”อ้าว! เจ้าเด็กนี่ บูลลี่แล้ว นึกขำในใจ“ไม่ล่ะ ข้ายังไม่สนใจเรื่องนี้ ขอข้ารวยก่

    Last Updated : 2025-02-22
  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 10 First impression ฉบับคนจน (2)

    "หมิงอี้ หมิงอี้ ลูก สายแล้ว ตื่นเถิด" อี้เฟินหลังจากที่ทำอาหาร เก็บกวาดบ้านเสร็จ ก็เดินไปเก็บกระด้งไม้ไผ่ที่ตากเม็ดพริก และมะเขือเทศเข้ามาด้านในบ้าน หลังจากตากผึ่งแดดไว้ข้ามวันก็แห้งได้ที่ทีเดียว เมื่อเสร็จงานทุกอย่างแล้วยังไม่เห็นหมิงอี้ตื่น จึงได้เดินเข้ามาตาม "อื้อออ เมื่อยชะมัด" อี้หมิงบิดตัวไปมา แล้วพูดเสียงอู้อี้ ตั่งเตียงแข็ง ๆ นี้ทำปวดไปทั่วทั้งตัวเลยจริง ๆ "สายแล้วลูก ป่ะไปล้างหน้าล้างตา ประเดี๋ยวออกไปวัดกับข้า" หลังจากที่นอนครุ่นคิดทั้งคืน ในฐานะที่นางเป็นแม่ นางก็ควรที่จะช่วยลูกสาวอย่างสุดความสามารถ ตั้งแต่อพยพมาหมิงอี้ไม่ค่อยจะร้องขอสิ่งใดจากนางมากนัก ตั้งแต่นางเติบโตมาก็พบเจอฐานะที่ยากจนแล้ว ซ้ำร้ายมีเพียงนางที่เป็นแม่ดูแลมาเพียงคนเดียว พ่อของนางรึ พลันคิดแล้วน้ำตารื้นเอ่อออกมาจากนัยน์ตา ช่างเถอะ! เรื่องมันผ่านมาแล้ว จะกลับไปสู่สูงสุดเช่นเดิมกลับมองไม่เห็นทางเลยจริง ๆครานี้เมื่อลูกสาวนางร้องขอเพียงเสื้อผ้าดี ๆ ซักชุด นางจึงต้องไปพบคนผู้หนึ่งที่คิดว่าพอจะช่วยนางได้ "วัดหรอ" "ใช่ๆ ลุกไปล้างหน้าล้างตาเจ้าให้สดชื่นก่อนนะ " ใช้มือลูบศีรษะทุยอย่างเอ็นดู ลูกสาวนางต่อให้จ

    Last Updated : 2025-02-22
  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 11 First impression ฉบับคนจน (3)

    ด้านอี้หมิง เมื่อไม่รู้จะทำอะไร ก็เดินสำรวจไปรอบ รอบ ๆ จนมาได้ยินเสียงคุยกัน น้ำเสียงเคร่งเครียด พลันเท้าหยุดชะงัก! ค่อย ๆ ย่องไปฟังอย่างอัตโนมัติ"ท่านอาสาม ท่านคิดเช่นนั้นรึ"'เอ๊ะ!! ทำไมคุ้น ๆ ชายชุดดำคนนั่นจัง อี้หมิงคิดในใจ มือเรียวยังเกาะที่แผ่นหิน เงี่ยหูฟังแต่ก็ได้ยินไม่ค่อยถนัดนัก อี้หมิงกำลังมองชายชุดดำสามคนที่ควบม้าผ่านเธอมาระหว่างทาง และชายอีกคนที่สวมใส่ชุดสีขาว ท่าทางดูสงบ แต่สง่า ผ่าเผยกำยำ กำลังพูดคุยกันน่าเคร่งเครียด"อะไรทำให้ท่านคิดเช่นนั้นกัน""ถึงแม้น้องรองจะเป็นเงียบๆ ดูไม่มีพิษไม่มีภัย แต่เจ้าก็อย่าชะล่าใจไปล่ะ ข้าขอเตือนเจ้าไว้ก่อน อย่าหาว่าข้าไม่เตือนแล้วกัน""หลายวันมานี้มีคนกลุ่มหนึ่งสวมรอยเป็นกองกำลังของข้า ออกปล้นตามเขตชายแดนที่ปล้นไปส่วนใหญ่ล้วนเป็นเสบียงข้าว และอาหาร" ชายที่ดูจะอายุน้อยสุดแต่ท่าทางมีอำนาจเอ่ยขึ้น"แถมแต่งตัวคล้ายทหารของหวางจื่อไม่ผิดเพี้ยน ข้าตามมาหลายคราแล้ว แต่พวกมันปลิดชีพฆ่าตัวเองหมด ตามสืบไม่ได้เลย" ชายร่างสูงใหญ่กำยำอีกคนเอ่ยด้วยน้ำเสียงกังวล"ฮือ หวางจื่อๆ ๆ ชื่อคุ้น ๆ คืออะไรน๊า จิ๊!" อี้หมิงคุ้น ๆ กับคำว่า หว่างจื่อ แต่นางนึกจำคว

    Last Updated : 2025-02-22
  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 12 First impression ฉบับคนจน (จบ)

    "ฮึ กวางน้อยที่ไหน""หึ! ช่างเถอะ แค่เด็กเร่ร่อนหนะ!" หวางจื่อชินเอ่ย เขามองเห็นนางตั้งแต่แรกแล้วหล่ะ"ฟรู่~~" อี้หมิงเป่าปากออกมา ใจเต้นตึกๆ"เจ้าแอบดูผู้ใดกัน ฮึ"เปล่า ๆ ท่านเสร็จแล้วรึ เป็นอี้หมิงเอ่ยเบี่ยงเบนความสนใจของมารดา"เสร็จแล้วล่ะ เหลือแต่พาเจ้าไปพบนางนั่นแหละ ป่ะ" สองแม่ลูกเดินจับจูงกันเข้าไปในห้อง ๆ ที่มีหญิงนางหนึ่งนั่งรออยู่หนิงเยว่เมื่อมองเห็นสองแม่ลูกจับจูงกันมา ก็นึกเวทนาในใจ"มา ๆ หลานข้า โตเป็นสาวแล้วสิ" ลุกเดินไปหาสาวน้อย ที่ถึงแม้อยู่ในชุดมอมแมมแต่ความงามของใบหน้ายังปรากฎให้เห็นอยู่ ถ้าแต่งตัวดีขึ้นมาหน่อยคงจะงามมิน้อยอี้หมิง มองมารดาเป็นการถามกลาย ๆ ว่าหญิงตรงหน้าคือใคร"อ่อ นางคือน้าเจ้าหนะ" อี้เฟินไม่ได้บอกลงรายละเอียดให้หญิงสาวรู้ที่มาที่ไป"สวัสดีค่ะ" อี้หมิงยกมือไหว้อัตโนมัติ"ฮื้อ" หนิงเยว่เห็นท่าทางหลานสาวก็ฉงน มองอี้เฟินด้วยสีหน้างง งวย"อะอ่อ! นางพึ่งโดนอันธพาลในเมืองทำร้ายมาหนะ พึ่งฟื้นขึ้นมาเลยเลอะเลือนไปบ้าง" อี้เฟินรีบคว้ามือของหมิงอี้ลง"โถ่วเอ๊ยเด็กน้อย ชะตาเจ้าช่างอาภัพจริงๆ คนพวกนั้นก็กะไรต้องตีกันถึงขนาดนี้เลยหรอ" หนิงเยว่ลูบตัวอี้หมิงไปมาอ

    Last Updated : 2025-02-22

Latest chapter

  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 71 กิจการรุงเรือง [2]

    "สมุนไพรที่เจ้าต้องการ เจ้าต้องการมากเพียงใด เรือนข้าเป็นตระกูลพ่อค้าเก่าแก่มีสมุนไพรเก็บอยู่มากมาย ไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่นัก หากมิรังเกียจข้าอยากบริจาคให้ ถือว่าช่วยชาวเมืองหลี่แล้วกัน"อี้หมิงเผยรอยกว้างสวยเต็มวงหน้าทันที เดินอ้อมโต๊ะออกมา มือคว้าจับที่แขนแกร่ง แหงนเงยใบหน้าพูดกับบุรุษรูปงามหากแต่ใบหน้าช่างไร้อารมณ์และเย็นชายิ่งนักในสายตาของเธออย่างดีใจ ผู้ใดกันจะปล่อยให้โอกาสเช่นนี้หลุดลอยไป มีผู้เสนอวัตถุดิบให้แถมไม่คิดเงิน เธอคงมิใช่คนสมองหมูถึงเพียงนั้นที่จะปล่อยให้โอกาสทองนี้หลุดไปโดยง่ายเป็นแน่"ขอบคุณท่านมาก ข้ายินดีรับโอกาสอันสุดแสนพิเศษนี้ไว้ แต่ร้านเราไม่เอาเปรียบท่านแน่นอนในเมื่อท่านยินดีบริจาคสมุนไพรให้กับเรา ไว้ข้าขอเลี้ยงอาหารซักมื้อตอบแทนท่านและสหายแล้วกัน""เช่นนั้นเจ้าเขียนเทียบสมุนไพรที่จะใช้มาเถิด เดี๋ยวให้จางหยางจัดการมาส่งที่เรือนให้ในวันพรุ่ง""อี้หมิง เจ้าเขียนเทียบมาเลยข้าจะคัดของดี ๆ มาให้นะ"จางหยางที่เพลิดเพลินกับการมองร่างอ้อนแอ่นตรงหน้าพูดเจื้อยแจ้วจัดการงานต่าง ๆ ก็ถึงคราวได้เอ่ยออกมาอย่างกระตือรือร้น"ขอบคุณท่านมากจางหยาง มู่เฉินด้วย ข้าฝากด้วยนะ"รอยย

  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 70 กิจการรุ่งเรือง [1]

    ผ่านไปเพียงชั่วยามเหล่าบรรดาลูกค้าที่มาให้ร้านเทียนฝูได้รับใช้ก็ทยอยเดินกลับ จนลูกค้าคนสุดท้ายก้าวย่างออกไป"เฮ้อ ปิดจ๊อบสักที อื้อ"ร่างบางชูแขนขึ้นเหนือศีรษะ ยืดตัวบิดขี้เกียจไปมา ก่อนจะเอนศีรษะซบลงที่บ่าเฉิงอี้อย่างลืมตัว'ฟู่'ลมหายใจหนัก ๆ ถูกผ่อนออกมา ก่อนจะปิดเปลือกตาลงนิ่ง ๆ หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการจับพู่กันไปมาทั้งวัน แม้ชายที่นั่งข้างเคียง จะอาสาช่วยเขียนอยู่บ้างแต่ก็ยังคงเมื่อยอยู่ไม่น้อย'อึก'เฉิงอี้กลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ รู้สึกราวเวลารอบข้างหยุดหมุน คิ้วคมขมวดเล็กน้อย เกร็งตัวขึ้นทันทียามที่ศีรษะทุยเอนซบลงมา สตรีนางนี้หาได้รู้ที่ต่ำที่สูงไม่ นางช่างไม่รู้รึไรการกระทำตอนนี้ของนางต้องโทษถึงประหารเชียว ตาคมเหลือบมองใบหน้าขาวผ่อง ไล้ลงมาที่จมูกเล็กโด่งเป็นสัน ปากบางชมพูจิ้มลิ้มราวดอกเหมยบาน เฉิงอี้เจ้าคงสติฟั่นเฟืองเสียแล้วกระมังถึงได้เผลอมองว่านางช่างน่ารักยิ่งนักยามเมื่อหลับตาพริ้ม พอได้สติจากภวังค์จึงค่อย ๆ ยื่นนิ้วออกไปค่อย ๆ จิ้มออกแรงเขี่ยศีรษะเล็ก ๆ ให้พ้นจากบ่าแกร่งของตน ก่อนจะขยับตัวเล็กน้อยลุกขึ้นเดินตรงไปหาจางหยาง และมู่เฉินด้วยสีหน้าเย็นชาดังเดิม หากแต่เพียงผู้ใด

  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 69 ร้านเทียนฝู : ขายน้ำหมักวันแรก [3]

    ร่างของชายอวบอ้วนพุงย้วย ที่กำลังพยายามก้มลงไปในโอ่งดิน ช่างดูทุละทุเลยิ่งนักในสายตาทุกคน มือด้านซ้ายใช้ค้ำดันโอ่ง ส่วนด้านขวาล้วงเข้าลงไปด้านในโอ่ง และด้วยส่วนสูงที่ต่างจากโอ่งไม่มากนัก ทำให้ใบหน้าของเขาแนบลงไปกับปากโอ่ง มือคว้ากำเข้าที่ลำต้นของผักบุ้งอวบคราแรกออกแรงดึงเบา ๆ ตามความคิดที่ว่ามันถูกปักไว้เพื่อพรางตาผู้คน 'เอ๋ หึ ปักมาแน่นกันเชียวนะ คิดว่าเท่านี้ข้าจะเชื่อรึ'ครานี้ก้มลงและกำลำต้นผักบุ้งแน่นกว่าเดิม ก่อนจะออกแรงดึงอย่างแรง ~ฮ่า ๆ มาดูกันคนเจ้าเล่ห์อย่างพวกเจ้าคิดจะมาหลอกลวงข้ารึ~"ฮึบ! ฮึบ"ออกแรงดึงสองครั้งต้นผักบุ้งก็ยังไม่ติดมือขึ้นมา ครานี้กำแน่นกว่าเดิม ใบหน้าเกร็งยู่ เม้มปากแน่น ย่อตัวออกแรงแล้วดึงขึ้นเต็มแรง"เฮ้ยย!"ต้นผักบุ้งขาดออกตามแรงดึง ร่างอวบอ้วนเซหงายหลัง ดวงตาเบิกโพล่งมู่เฉินที่เห็นร่างอ้วนท่วมเซหงายหลังมาทางตนจึงใจดี ยกเท้าขึ้นค้ำยันหลังไว้ ก่อนจะออกแรงถีบออกไป ร่างชายอ้วนจากตกใจคราแรกที่จะหงายหลังยังไม่ทันหาย กลับต้องตกใจอีกรอบเมื่อครานี้เซถลากลับมาด้านหน้า"เฮ้ยๆ"มือปล่อยผักบุ้งทิ้ง มือสองข้างรีบคว้าจับปากโอ่งเพื่อยั้งตัวไว้ "แฮ่ก ๆ เกือบไปแล้ว

  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 68 ร้านเทียนฝู : ขายน้ำหมักวันแรก [2]

    "เชิญนั่งเจ้าค่ะ ท่านป้า" อี้หมิงเผยมือเชื้อเชิญลูกค้าให้นั่งลงเพื่อที่จะได้สอบถาม ถึงผืนนา และเมื่อสนใจ ก็จะได้ทำสัญญาให้แล้วเสร็จ"ท่านป้า ท่านป้าเพียงแค่สนใจน้ำหมักของข้า รึวันนี้จะให้ร้านเทียนฝูของเรารับใช้เจ้าคะ""ช่วยด้วยเถิดนังหนู นาข้าวข้าใกล้ตายเต็มทีแล้ว เท่าไหร่ก็เต็มใจจ่าย ใบข้าวล้วนเหลือง แห้งเหี่ยวลงทุกวันจริงเชียว"หญิงตรงหน้าเอื้อมมือมาจับมือของนางอย่างขอร้อง ก่อนเอ่ยด้วยสีหน้าอมทุกข์ ดวงตามีกระแสความท้อแท้พาดผ่าน น้ำเสียงเจือสะท้อนความหนักใจออกมาเฉิงอี้เห็น และได้รับฟังความทุกข์ของชาวบ้านก็เกิดสะท้อนในอก ด้วยหลากหลายอารมณ์รู้สึก ถึงแม้นว่าจะสามารถคลี่คลายสถาการณ์ราคาข้าวได้แล้ว แต่ยังมีโรคระบาดที่ยังไม่มีทีท่าจะทุเลาลงเลยสักนิด หวังก็แต่หญิงประหลาดที่เคียงข้างตนยามนี้จะสามารถแก้ปัญหาได้ดังเช่นนางเอ่ย ก่อนจะถอนสายตากลับมามองหญิงชาวบ้านตรงหน้าอย่างสนใจ"ช่วยได้แน่นอนท่านป้า ว่าแต่ท่านป้าจะให้ข้าช่วย ขอถามผืนนาท่านที่ต้องการให้ช่วย มีอยู่เท่าใดกัน""เอ่อ ไม่เยอะหรอก"ลูกค้านางทำสีหน้ากระอักกระอ่วนใจ"เท่าไหร่เจ้าคะ""เอ่อ 10 หมู่ถ้วน เจ้าพอจะช่วยข้าได้รึไม่"10 หมู่ โฮ

  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 67 ร้านเทียนฝู : ขายน้ำหมักวันแรก [2]

    อี้หมิง ใช้สองมือน้อย ๆ ออกแรงผลัก แต่ต่อให้ดันอย่างไรชายหน้านิ่งก็หาได้ขยับเขยื้อนไม่ นี่มันคนรึหินผากันนะ "นี่ เจ้า!""เงียบ จะขายรึไม่ ข้ากำลังช่วยเจ้าอยู่"เฉิงอี้ที่เริ่มหงุดหงิดหันไปใช้สายตาคมดุจพญาเหยี่ยวที่และใบหน้างดงามหล่อเหล่าที่เรียบนิ่งขู่ร่างบางที่ขยับขยุกขยิกไปมาทำให้แขนนางถูไถไปมากับแขนแกร่งของตนอย่างไม่ตั้งใจ อี้หมิงชะงักเล็กน้อย ฮึ! ดีเช่นกันให้เจ้าคนหล่อหน้านิ่งนี่ช่วยขายก็ดี ข้าจะได้ไม่เปลืองแรง ลองดูสักตั้งก็ได้ "นี่ ๆ เจ้า ไปนั่งข้างนางได้เยี่ยงไร ออกมาเลย ๆ"อู๋ไป๋เอ่ยรัวออกมาอย่างร้อนรน เมื่อเห็นชายหนุ่มที่ดูจากอาภรณ์ที่สวมใส่ก็รู้ว่ามาจากตระกูลที่ร่ำรวย เข้าใกล้หญิงที่ตนหมายปอง"อู๋ไป๋ ๆ ไม่เป็นไร ๆ คุณชายท่านนี้มาช่วยข้าขายก็ดี เราจะได้ขายหมดเร็ว ๆ ไง นะ ไม่มีสิ่งใดต้องกังวลไปหรอก แค่ขายของเท่านั่น "อี้หมิงพูดกับอู๋ไป๋ก่อนหันมามองเจ้าคนหน้านิ่งที่บัดนี้หันมามองที่เธอเช่นกัน จะว่าไปหนุ่มยุคนี้นี่ช่างหน้าตาดีเสียจริง ใบหน้าเช่นนี้นี่ยุคปัจจุบันน่าจะเป็นดาราดังได้สบายเลยหล่ะ รึไอดอลก็ได้เลยนะเนี่ย"ฮ่า ฮ่า ฮึบ ฮ่า"หมิงอี้หลุดขำออกมาเสียมิได้ เจ้าตัวพยายามกล

  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 66 ร้านเทียนฝู : ขายน้ำหมักวันแรก [1]

    บัดนี้เข้ายามเฉินแล้ว (07.30 น.) แต่กลับยังไร้เงาผู้คน อี้หมิงแอบใจเสียมิน้อย ไม่ต่างจากเฟิน เฟิน และอู๋ไป๋ ที่บัดนี้ต่างกระวนกระวายไม่แพ้กันแต่ก็ยังมิได้มีผู้ใดเอื้อนเอ่ยประโยคใด ๆ ออกมา ของที่อยู่บนรถเข็นในที่สุดก็ทยอยถูกยกลงจนหมด ป้ายชื่อร้านที่หยิบติดมือมาด้วยถูกอู๋ไป๋นำไปปักไว้ด้านหน้า ส่วนโอ่งทั้ง 4 ใบ เหล่าคนงานและบุรุษทั้งสามที่ขอมาด้วยต่างช่วยกันเข็นย้ายวางเรียงอย่างเป็นระเบียน โต๊ะไม้ถูกยกออกมาเพื่อวางแท่นหมึกและกระดาษ ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแต่ก็ยังไร้เงาผู้คนจนทำให้เจ้าของร้านสาวอดใจเสียมิได้ส่วนอี้เฟิน กับเฟิน เฟิน ทั้งสองกำลังช่วยกันติดเตาเพื่อทำซุปถั่วงอก และผัดยอดอ่อนผักบุ้ง เพื่อแจกให้ผู้คนที่มาซื้อน้ำหมักได้ลิ้มลองรสชาติของผักร้านเทียนฝู นับว่าเป็นกลยุทธ์การขายที่แปลกอีกอย่างหนึ่งของร้านลูกสาวนาง ที่ใช้ได้ผลมาแล้ว"อ้าวเฮ้ย! นั่นผู้ใดกันมาทำสิ่งใดที่แปลงนาของข้า"เสียงชายเจ้าของแปลงนาตะโกนถามไถ่ใคร่สงสัยมาแต่ไกล ก่อนที่เจ้าตัวจะแบกจอบเดินมาถึง"อ้าว ท่านลุง ข้าเอง! วันนี้พวกข้ามาตั้งร้านขายน้ำหมักหนะ""อ้าวเรอะ!"ชายเจ้าของแปลงนาไล่สายตามองดูข้าวของที่ตั้งเรียงรายใต

  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 65 จัดเตรียมของออกบูธขายสินค้า [2]

    "หมิงอี้ พวกข้ามาแล้วล่ะ"อี้หมิงเงยหน้ามองเสียงทุ่มห้าว อ่า! เป็นมู่เฉินกับสหายของเขานั่นเอง มองเลยไหล่หนาบึกบึนของมู่เฉินและจางหยางไปก็พบเข้ากับใบหน้าที่ไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นักของชายอีกคน"อ้าว มาพอดีเลย ท่านแม่ เฟิน เฟิน อู๋ไป๋ นี่สหายข้า มู่เฉิน นี่จางหยาง แล้วนี่.."อี้หมิงเว้นจังหวะพูด ด้วยไม่แน่ใจว่าหากเอ่ยออกไปชายหนุ่มจะแย้งกลับมารึไม่ จากหลายคราที่เจอกันนับว่าห่างไกลคำว่าสหายอยู่มากโข"อ๋อ นี่เฉิงอี้"เป็นมู่เฉินที่เอ่ยความกระจ่าง"อ๋อ แล้วกินข้าวกินปลากันมารึยังล่ะ ถ้ายังพอดีเลย มากินด้วยกันสิ หากไม่รังเกียจ ข้าเตรียมอาหารเสร็จพอดี ร้อน ๆ เลยนะ"อี้เฟิน กล่าวต้อนรับสหายของบุตรสาวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แม้นในใจจะคุ้น ๆ กับใบหน้าของชายหนุ่มนามเฉิงอี้อยู่มิน้อย ใบหน้าเช่นนี้คับคล้ายคับคราว่าเคยพบเจอที่ใดมาก่อน ก่อนจะปัดความคิดทิ้งไปหันมาสนใจบุตรสาวและสหายของนางแทน ที่บัดนี้กำลังช่วยกันยกโอ่งผักขึ้นใส่รถที่เตรียมไว้ "ฮ่า เสร็จเสียที เล่นเอาเหงื่อตกเช่นกันนะเนี่ย!"อู๋ไป๋ยกมือขึ้นซับเหงื่อที่ผุดออกมาที่หน้าผากกว้าง ในขณะที่ทุกคนสภาพเช่นเดิม ไม่มีแม้แต่เหงื่อเลยซักนิด คนพวกนี้ไร้เหงื่

  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 64 จัดเตรียมของออกบูธขายสินค้า [1]

    "ฮ่า ฮ่า เฉิงอี้ ๆ ฮ่า ฮ่า ยอมแล้ว ๆ ข้า ฮ่า ๆ จะไม่ทำอีกแล้ว ฮ่า ฮ่า หยุด ที ฉะ ฮ่า ฮ่า"ร่างสูงใหญ่ขององครักษ์หนุ่มบัดนี้ ถูกมัดยืนติดเสาหลักไม้กลางตำหนักใหญ่ใบหน้าเบ้บิด ส่งเสียงหัวเราะห่าวอกมาไม่ขาด จนใบหน้าคมคายที่ยามปกติจะนึ่งขรึมแทบตลอดเวลาบัดนี้กลับแดงก่ำ น้ำหูน้ำตาไหลยามเมื่อเจ้าตัวส่งเสียงหัวเราะขำขันออกมาอย่างเสียมิได้ยามเมื่อขนนกยาวใหญ่ปัดป่ายไปมาตามจุดต่าง ๆ ของร่างกายแกร่ง ไม่ว่าจะเป็น รักแร้ ใบหู ใบหน้าบทลงโทษจากเฉิงอี้หาใช่การต่อยตี รึลงดาบ ใช้โซ่แส้ไม่ หากแต่เป็นการจับมัดแล้วใช้ขนนกปัดป่ายไปมาถึงจะสาสมกับองครักษ์หนุ่มของตน หากใช้วิธีทางทหารละก็จางหยางที่เปรียบดังเช่นก้อนหินผา เกรงว่าจะไม่สะทกสะเทือนซักเพียงใดนัก"อึก!"มู่เฉินที่นั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้น กลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ เมื่อเห็นการลงโทษจากองค์ชายของตน หากแม้นเป็นการลงโทษทางทหารพวกตนหาได้หวั่นใจไม่ แต่ใช้วิธีนี้บอกตรง ๆ ว่าตนขยาดยิ่งนัก"ต่อไปพวกเจ้าจะสนใจหญิงงามมากกว่าข้าอีกรึไม่"เฉิงอี้เอ่ยถามอย่างเอาแต่ใจ ทั้งสามเติบใหญ่มาด้วยกัน เขาล้วนได้รับความสนใจและปกป้องจากองครักษ์หนุ่มมาตลอด แม้นสถานะแตกต่างแต่เฉิงอี

  • หมิงอี้ เศรษฐีนีชาวสวน   ตอนที่ 63 กระดาษและแท่นหมึก [2]

    "เจ้าจะเอาหนังสือไปทำสิ่งใดกัน"อี้หมิงเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงห้าวที่ถามขึ้นอย่างมีความหวัง"ข้าจะเอาไปจดทำบัญชีวันพรุ่งนี้หนะ วันพรุ่งร้านของข้าจะไปเปิดรับกำจัดโรคระบาดในแปลงนา เลยจำเป็นต้องทำบัญชี""ข้าไม่เข้าใจ เหตุใดถึงต้องทำบัญชีเล่า จัดการการเงินของร้านรึ"เป็นจางหยางที่กอดอกฟังเงียบ ๆ เอ่ยถามขึ้นมาอย่างใคร่สงสัย"อ่อ นั่นส่วนนึง ข้าจะเปิดให้ลงบัญชีมัดจำไว้ได้ก่อนครึ่งนึงหนะสำหรับชาวบ้านคนไหนที่ยังไม่มั่นใจในร้านของข้า ""อ๋อ เป็นเช่นนี้ น่าสนใจจริงเชียว งั้นพวกข้าขอไปดูเจ้าขายได้รึไม่ การค้าขายเช่นนี้ข้ายังมิเคยเห็นผู้ใดทำมาก่อน ช่างน่าสนใจเสียจริง"มู่เฉินเอ่ยออกมาอย่างตื่นเต้น ก่อนจะหันไปหาเฉิงอี้ผู้เป็นนายด้วยสีหน้าอ้อนวอนไม่เว้นแม้แต่องครักษ์หนุ่มที่มองมาเช่นกัน"แล้วแต่พวกเจ้าสิ แต่ข้ามิไป"พูดจบก็หมุนตัวเดินออกไปจากที่อี้หมิงยืนอยู่ ท่าทางของชายหนุ่มสร้างความฉงนให้กับทั้งสามคนที่ยังยืนอยู่ไม่น้อย แต่เพียงชั่วครู่ ชายทั้งสองที่ยังยืนอยู่กับเธอก็เอ่ยเสนอความช่วยเหลือออกมา"หากเจ้ามิรังเกียจ ข้ายังพอมีแท่นหมึกและกระดาษเหลืออยู่บ้าง หวังว่าจะช่วยเจ้าได้อยู่มิน้อย""ดีเลย

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status