ลู่สือเยี่ยน "ถ้าไม่อยากออกไปเที่ยว งั้นก็อยู่ในห้องนี่แหละ"พูดจบ เขาก็ลุกขึ้นและเดินไปที่ห้องของตัวเอง"ปัง!"หลินเซียงฟาดตะเกียบลงบนโต๊ะอย่างแรงโมโหจนไม่อยากอาหารแล้ว!ทำไมไม่เคยพูดเรื่องนี้กันดี ๆ ได้เลยนะ?เขาทำให้เธอโกรธจนแทบคลั่งอยู่แล้ว!เวลานี้เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น เธอสงบสติอารมณ์แล้วหยิบขึ้นมาดู เป็นสายจากซ่งซ่ง"เซียงเซียง เธออยู่ไหนจ๊ะ?"เสียงเนือย ๆ ของซ่งซ่งดังขึ้นหลินเซียงตอบกลับ "เมืองหลานเฉิง"ซ่งซ่ง "เมืองหลานเฉิงก็ดี วัดที่นั่นขึ้นชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์มากเลย เธอพอมีเวลาแวะไปขอพรเรื่องเงินหรือเปล่า? อย่าลืมขอเผื่อฉันด้วยนะ ฮ่า ฮ่า"ดวงตาของหลินเซียงเป็นประกาย "ได้ งั้นฉันขอกลับช้ากว่าเดิมหนึ่งวันนะ"ซ่งซ่ง "ฉันคิดถึงเธอแล้ว เสร็จธุระก็รีบกลับมาเถอะ""ได้"หลินเซียงตอบรับครั้งนี้พวกเธอวางสายอย่างรวดเร็วลู่สือเยี่ยนรีบเดินออกมาจากห้องทันที หลินเซียงลุกขึ้นและบอกเขาว่า "ฉันอยากไปวัด"ลู่สือเยี่ยนมองเธอ ดวงตาปรากฏแววซับซ้อน "ให้ผมไปส่งไหม?""เอาสิ"หลินเซียงพยักหน้าลู่สือเยี่ยนตอบรับเรียบ ๆ แล้วเดินนำหน้าออกไปดูเหมือนว่าวันนี้เขาจะไม
สีหน้าของลู่สือเยี่ยนเย็นชา สายตาจ้องมองไปข้างหน้าอย่างแน่วแน่ "เบรกแตก"หลินเซียงเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ รีบไขว่คว้าหาราวจับ"แล้ว… แล้วทำไงดีล่ะ?"ลู่สือเยี่ยนตอบ "เราอาจต้องตายด้วยกันจริง ๆ"หัวใจของหลินเซียงเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมา รีบพูดฉับพลัน "ถ้าอย่างนั้น เซี่ยหว่านจะเสียใจไหม?"ลู่สือเยี่ยนมองเธอ "เวลาแบบนี้ ทำไมยังคิดถึงคนอื่นอยู่?""มองถนนสิ!"หลินเซียงพยายามควบคุมสติอารมณ์ของตัวเอง ไม่ให้รบกวนการขับรถของลู่สือเยี่ยน"แล้วจะให้ฉันทำยังไง? คุณยังคิดเรื่องจะกลับไปรับผิดชอบเธออยู่เลย ซึ่งเธอก็น่าสงสารจริง ๆ เพื่อช่วยชีวิตคุณ เธอถึงกับเสียขาไปหนึ่งข้าง เธอเฝ้ารอคุณมานานขนาดนี้ แต่สุดท้ายคุณกลับมาตายกับฉัน"หลินเซียงคิดภาพนั้น แล้วก็รู้สึกว่าถ้าเป็นเซี่ยหว่านคงหัวใจสลายเป็นแน่ "แล้วคุณเองล่ะ?"ลู่สือเยี่ยนกลับถามแทรกด้วยเสียงทุ้มต่ำเธอเองเหรอ?เธอเป็นยังไง?เธอไม่ได้ขาขาดแขนหัก สิ่งที่เธอสูญเสียไปก็แค่ความรักที่ฝังรากลึกอยู่ในหัวใจเท่านั้นหลินเซียงอยากหัวเราะออกมาจริง ๆ "ฉันไม่อยากเป็นตัวเอกในละครที่ต้องสูญเสียความรักไป"ยิ่งคิดถึงภาพนั้น เธอก็รู้สึกขนลุกไปทั้งตั
รถฉุกเฉินมาถึงในเวลาไม่นาน แต่หลินเซียงไม่กล้าขยับตัวเลย กลัวว่าจะทำให้เขาบาดเจ็บซ้ำซ้อนเมื่อมองใบหน้าที่ซีดเซียวของเขา เนื่องมาจากการเสียเลือดมาก เธอไม่เคยรู้สึกใจเต้นแรงแบบนี้มาก่อน!ความกลัวโอบล้อมเธออย่างสมบูรณ์ เธอจับมือข้างที่ไร้ร่องรอยบาดเจ็บของเขาไว้แน่น"อาเยี่ยน คุณห้ามเป็นอะไรนะ ห้ามเป็นอะไรเด็ดขาด..."เธอสะอีกสะอื้นจนหน้ามืดตามัว "ถ้าคุณเป็นอะไรไป ฉันจะเกลียดคุณ ฉันจะเกลียดคุณไปจนตาย!"เธอโน้มตัวลง แนบใบหน้ากับมือของเขา สัมผัสความอบอุ่นที่ยังหลงเหลือในร่างของเขา "ลู่สือเยี่ยน... คุณห้ามเป็นอะไรเด็ดขาด เอาหัวใจฉันไปก็พอ อย่าเอาชีวิตฉันไปด้วย อย่าเชียวนะ..."รถพยาบาลมาถึง หลินเซียงก็ขึ้นรถตามไปที่โรงพยาบาลด้วยเมื่อมาถึงหน้าห้องฉุกเฉิน เธอตกอยู่ในอาการมึนงง จนกระทั่งประตูห้องฉุกเฉินเปิดออก พยาบาลคนหนึ่งก็เดินออกมา"เป็น... เป็นยังไงบ้างคะ?"หลินเซียงรีบเดินเข้าไปถามพยาบาล "หมายถึงใครคะที่เป็นอะไร?"หลินเซียง "ฉัน... ฉันเป็นญาติของผู้บาดเจ็บที่เพิ่งถูกส่งตัวเข้ามาค่ะ เขาเป็นยังไงบ้าง"พยาบาลได้ยินดังนั้น สายตาก็แสดงความเห็นใจมากขึ้นเล็กน้อย"อาการไม่ค่อยดีค่ะ ญา
ลู่สือเยี่ยนพูดต่อ "ถ้าคุณยังไม่ลุกอีก คราวนี้ผมได้เป็นอะไรจริง ๆ แน่"หลินเซียงรีบลุกขึ้น ตอนนี้เธอเพิ่งสังเกตว่าแขนซ้ายของเขาถูกพันไว้ด้วยผ้าพันแผล แล้วแขวนรั้งไว้ที่หน้าอก หน้าผากก็พันด้วยผ้า ดูแล้วพิลึกมากดู ๆ แล้วน่าจะเป็นแค่บาดแผลภายนอกหลินเซียงค่อยโล่งใจขึ้นมาหน่อย จึงหันไปมองเขา "คุณไม่เป็นอะไรมาก ทำไมไม่รีบบอกตั้งแต่แรก?"ลู่สือเยี่ยนกะพริบตาปริบเหมือนไม่รู้เรื่องราว "ผมตื่นเพราะเสียงร้องไห้เลย"ตอนแรกเขายังสลบอยู่ แต่ก็พอจะรู้สึกตัวอยู่บ้าง แล้วก็ได้ยินเสียงเธอที่ร้องไห้จนแทบขาดใจในตอนนั้น หัวใจของเขาสั่นสะเทือนอย่างแรงเขาไม่ได้รบกวนเธอ มองภาพเธอร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือดกับศพของคนแปลกหน้า ท่าทางตัวโยนเหมือนถ้าร้องหนักกว่านี้เครื่องในจะหลุดออกมาเขากลัวว่าเธอจะเป็นอะไรไป จึงฝืนลุกขึ้น แล้วเห็นว่าเธอกำลังจะล้มลงพอดี เลยรีบประคองเธอไว้หลินเซียง "..."เธอหันมองไปที่อื่นโดยตรง แล้วยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาขณะนั้นเอง พยาบาลก็เดินเข้ามา เห็นพวกเขายืนอยู่ก็สงสัย "พวกคุณทำอะไรกันคะ?"หลินเซียงรีบพูด "คือฉันเป็นญาติของเขาค่ะ เลยเข้ามาเยี่ยมเขา เขาไม่เป็นอะไรมากใช่ไหมคะ?"
ช่วงเย็น บริษัทพันธมิตรของเมืองหลานเฉิงทราบข่าวเรื่องอุบัติเหตุของลู่สือเยี่ยน พวกเขาก็ต่างพากันมาเยี่ยมหลินเซียงเพียงแค่เฝ้าดูอยู่ข้าง ๆ โดยไม่พูดอะไรจนกระทั่งทุกคนจากไปหมดแล้ว เธอจึงปิดประตูแล้วถามว่า "ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าเบรกแตก มันเกิดจากฝีมือคนหรือเปล่า?"ลู่สือเยี่ยน "อาจเป็นอย่างนั้น"หลินเซียงขมวดคิ้ว "งั้นใครกันที่เป็นคนทำ แล้วทำไปเพื่ออะไร?"ลู่สือเยี่ยน "คนที่ทำอาจโดนขัดผลประโยชน์ มีเยอะแยะไป ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นคนจากเมืองอวิ๋นเฉิงที่ลงมือในต่างถิ่นก็ได้ ถ้าผมตายไปสักคน ตระกูลลู่ก็ไม่มีทายาทสืบทอดอีก"ปัจจุบันตระกูลลู่เหลือเพียงลู่สือเยี่ยนที่เป็นทายาทเพียงคนเดียวถ้าเขาตายไป ตระกูลลู่ก็จะไม่มีผู้สืบทอดมรดกหรือกิจการ ผู้มาทีหลังจะต้องหาหนทางฉีกทึ้งบริษัทในเครือลู่กรุ๊ปให้ได้ ผู้คนในเมืองอื่น ๆ ถึงจะได้รับการแบ่งสันปันส่วนตระกูลลู่เป็นตระกูลใหญ่ มีทั้งรากฐานและผู้สนับสนุน แม้ทำได้แค่จิบน้ำซุปสักหนึ่งคำ ก็ทำให้คนก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้นได้!สีหน้าของหลินเซียงเคร่งเครียดขึ้นเล็กน้อย เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงเดินไปอยู่ข้างเตียงผู้ป่วย แล้วพูดอย่างจริงจังว่า "ในเมื่อเป็
มุมปากของลู่สือเยี่ยนกระตุกเล็กน้อย พูดอย่างเย็นชาว่า "ซือเยี่ยน อย่าจ้องเธอนักเลย เธอขี้กลัว"ซือเยี่ยน "..."หลินเซียง "..."ในรถเริ่มมีบรรยากาศอึดอัดลอยมาเป็นระยะรถขับมาถึงที่หมายในไม่ช้าที่นี่เป็นโกดังร้างหลินเซียงลงจากรถแล้วหรี่ตามอง "เรามาที่นี่ทำไม?"ลู่สือเยี่ยนตอบ "มาหาคนที่อยู่ข้างใน"หลินเซียงมองไปยังประตูโกดังร้างที่ปิดสนิทแล้วเม้มริมฝีปากซือเยี่ยนเดินนำเข้าไปก่อน บอดี้การ์ดสองคนที่เฝ้าประตูต่างก็ร้องเรียกว่า “พี่เยี่ยน" พร้อมกันซือเยี่ยนโบกมือ บอดี้การ์ดทั้งสองจึงเปิดประตูให้ซือเยี่ยนหันไปมองลู่สือเยี่ยน "ประธานลู่ คนอยู่ข้างในแล้วครับ"ลู่สือเยี่ยนถาม "สารภาพหมดแล้วหรือยัง?"ซือเยี่ยน "เขาบอกว่าจะสารภาพต่อหน้าคุณเท่านั้น"ใบหน้าที่ดูหล่อเหลาและคมคายของลู่สือเยี่ยนปรากฏรอยยิ้มเย็นชา เดินตรงเข้าไปในโกดังหลินเซียงคิดอยู่ครู่หนึ่งก็เดินตามเข้าไปเรื่องนี้เธอเองก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย เพราะฉะนั้นเธอต้องรู้ให้ได้ว่าใครเป็นคนทำ เพื่อที่จะได้เตรียมใจไว้ภายในโกดังมีฝุ่นหนาเตอะฟุ้งกระจาย ชายคนหนึ่งถูกมัดมือแขวนอยู่กับไม้คานหลังคาซือเยี่ยนโบกมือ บอดี้การ์ดคน
ชายคนนั้นได้ยินก็เบิกตาโพลงด้วยความตกใจสุดขีด "ฉัน... ฉันบอกไปหมดแล้วไง ทำไมยังตัดมือฉันอีกล่ะ!"ซือเยี่ยนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "บอกว่าจะปล่อย แต่ไม่ได้บอกซะหน่อยว่าไม่ให้แกทิ้งอะไรไว้ จัดการซะ!"หลินเซียงอยู่ในรถ กวาดตามองไปมาด้วยความกังวลจนกระทั่งเห็นร่างสูงสง่าของลู่สือเยี่ยนเดินออกมาจากโกดังร้าง เธอก็ผ่อนลมหายใจด้วยความโล่งอกลู่สือเยี่ยนก้าวขึ้นรถ เธอจึงถามว่า "ได้เรื่องเพิ่มไหม?"ลู่สือเยี่ยน "อืม"หลินเซียงรีบขยับเข้าไปหา "ใครเป็นคนตัดสายเบรกรถคุณคะ?"เดิมทีระหว่างคนทั้งสองมีระยะห่าง แต่จู่ ๆ เธอก็เข้ามาใกล้ ทำให้ระยะห่างแต่เดิมหายไปในทันที กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของเธอแผ่ซ่านไปทั่วลู่สือเยี่ยนลดสายตาลง สายตามืดมนของเขามองไปที่ใบหน้าของเธอ แล้วก็หวนระลึกถึงตอนที่เธอสะอื้นจนตัวโยนดวงตาแดงก่ำคู่นั้นเหมือนกระต่ายตื่นตูม ท่าทางเหมือนหัวใจจะแตกสลาย"ไม่กลัวแล้วเหรอ?"หลินเซียง "ต้องกลัวอยู่แล้วสิ แต่ฉันอยากรู้มากกว่าว่าใครคือคนที่อยู่เบื้องหลัง ฉันจะได้เตรียมใจไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ"ลู่สือเยี่ยน "เตรียมใจเรื่องอะไร?"หลินเซียงกลับมานั่งหลังตรง สายตาวูบไหว "ก็เตรียมใจจะหนีไง ฉันไม
เธอแค่ต้องการลงโทษลู่สือเยี่ยนให้รู้จักหลาบจำเท่านั้น!"เหลวไหล!"สีหน้าพ่อของเจียงอินอินไม่ดีนัก ชี้ไปที่เจียงอินอิน "ช่วงนี้แกเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน ห้ามออกไปไหนทั้งนั้น!"พูดจบก็รีบเดินไปที่ห้องทำงาน...พอกลับมาที่โรงแรมหลินเซียงเริ่มเก็บของจริง ๆ แล้วเธอไม่ได้มีข้าวของส่วนตัวอะไรมากมายนัก ของจำเป็นทั้งหมดเธอก็เพิ่งมาซื้อที่นี่ใหม่หมดเธอใช้กระเป๋าใบเล็กที่เพิ่งซื้อใส่ของทั้งหมด แล้วออกมาจากห้อง แต่เห็นประตูห้องเปิดออกเสียก่อน พร้อมกับชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่เดินเข้ามาซือเยี่ยนเดินตามมาด้วย สายตาเย็นชาคู่นั้นเหลือบมองเธอหลินเซียงก้าวถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัวเธอมีอะไรให้จ้องนักหนานะลู่สือเยี่ยนเห็นว่าเธอเก็บของเสร็จแล้ว ก็เดินเข้ามาหาแล้วพูดว่า "รอเดี๋ยว เดี๋ยวกลับพร้อมกัน"หลินเซียงกะพริบตา "กลับไปก็หย่า..."แต่ลู่สือเยี่ยนปิดปากเธอไว้ "รอผม"พูดจบก็เดินเข้าห้องทำงาน ชายวัยกลางคนคนนั้นเดินตามเข้าไปหลินเซียงขมวดคิ้ว ทำไมปล่อยให้เธอพูดให้จบก่อนล่ะซือเยี่ยนยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องทำงาน มองเธอด้วยสายตาเย็นชาอีกครั้งหลินเซียง "..."คราวนี้เธอจ้องกลับไป ถ้าเขายังจ้องเธอไม่
ซ่งซ่งนอนไม่หลับ พลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง ทั้งตื่นเต้นและกังวลใจ เมื่อคิดว่าตัวเองกำลังจะออกจากเมืองอวิ๋น ออกไปจากฟู่จิ่นซิ่ว คนที่น่ารังเกียจนั่น เธอก็รู้สึกตื่นเต้นแทบแย่แทบนับเวลาถอยหลัง“ปัง ปัง ปัง!”แต่ในขณะนั้นเอง เสียงเคาะประตูดังสนั่นก็ดังขึ้นซ่งซ่งตกใจ รีบลุกขึ้นมองออกไปข้างนอก เด็กผู้หญิงก็ตกใจตื่นเช่นกัน “ใครน่ะ?”ในใจของซ่งซ่งมีความรู้สึกไม่ดีแวบเข้ามา หรือว่าเขาจะตามทันแล้ว?เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?เธอลุกจากเตียงพูดว่า “ฉันไปดูเอง พวกเธออย่าออกมาล่ะ”เด็กผู้หญิงกังวลใจ “ซ่งซ่ง จะไม่เป็นไรใช่ไหม?”ซ่งซ่งพยักหน้า “ไม่ต้องห่วง ไม่มีอะไรหรอก”เธอสวมเสื้อผ้าออกจากบ้าน “ใคร?”เธอถามอย่างระมัดระวัง“ซ่งซ่ง ฉันเอง รีบออกมาเร็ว!”เสียงของหลินเซียงดังขึ้นที่หน้าประตูซ่งซ่งชะงัก รีบไปเปิดประตู “ที่รัก กลับมาทำไม?”เธอไม่ได้กลับบ้านไปแล้วเหรอ?พอคำนวณเวลาแล้ว ตอนนี้ควรจะถึงเฟิงหลินหย่วนแล้วสิหลินเซียงจับข้อมือเธอ สีหน้ากระวนกระวาย “ฉันเห็นรถของฟู่จิ่นซิ่ว เขาหาเธอเจอแล้ว ไปกันเร็ว!”เมื่อได้ยินดังนั้น ซ่งซ่งก็ตกตะลึง “หาฉันเจอแล้ว? หาฉันเจอได้ยังไง?”การเคลื่อนไหวขอ
หลินเซียงใส่ขนมปังกรอบลงในถุง จัดเตรียมให้เรียบร้อย พลางพูดว่า “เวลาจำกัด ฉันเลยทำแค่อาหารที่เก็บรักษาง่ายและรสชาติใช้ได้ ให้เธอมีอะไรรองท้องระหว่างทาง”เมื่อได้ยินแบบนั้น ซ่งซ่งก็กะพริบตา แล้ววิ่งเข้ามากอดเธอ “ที่รัก ทำไมน่ารักแบบนี้นะ หรือพวกเราหนีไปด้วยกันเลยดีไหม!”หลินเซียงยิ้ม “พอแล้ว ไปล้างหน้าเร็ว ฉันจะไปส่งเธอที่ชานเมือง”รถบัสรอบแรกมาถึงพรุ่งนี้เช้า ซ่งซ่งต้องไปรอตั้งแต่คืนนี้แต่ซ่งซ่งส่ายหน้า “ไม่ต้อง ฉันติดต่อคนไว้แล้ว เธอพักผ่อนที่บ้านเถอะ ฉันไม่เป็นไร”หลินเซียงพูดว่า “ไม่ได้ ถ้าฉันไม่ไปส่งเธอด้วยตัวเอง ฉันไม่สบายใจ”ซ่งซ่งมองสีหน้าจริงจังของเธอ รู้ว่าเธอตัดสินใจแล้ว จึงกอดเธออีกครั้ง “ฮือ ฮือ ไม่อยากจากเธอเลย”หลินเซียงพาเธอไปที่ห้องน้ำ ดูแลเธอขณะล้างหน้าล้างตา ตรวจสอบสิ่งของที่จำเป็นอาหาร เครื่องดื่ม และของใช้ส่วนตัวง่าย ๆ ล้วนเป็นแบบใช้แล้วทิ้งอืม เกือบครบแล้วหลังจากจัดของเสร็จ ทั้งสองคนก็อยู่ด้วยกันอีกพักหนึ่ง ก่อนจะออกเดินทางตอนตีสองเมืองอวิ๋นในยามดึกเงียบสงบ ถนนแทบไม่มีรถสัญจร ผู้คนยิ่งไม่มีหลินเซียงขับรถไปทางชานเมือง ส่วนซ่งซ่งก็พูดถึงความหวังในอน
หลินเซียง “…”แม้ว่าครั้งที่แล้วจะสังเกตเห็นความผิดปกติของคนทั้งสอง แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่ซ่งซ่งพูดออกมาในตอนนี้ เธอก็พูดอะไรไม่ออกการที่เรื่องราวพัฒนามาถึงจุดนี้ จริง ๆ แล้วมีร่องรอยให้เห็นฟู่จิ่นซิ่วให้ความสนใจกับซ่งซ่งมากเกินไป และซ่งซ่งก็ไม่ได้ระวังตัวเพียงแต่…ตอนนี้เพิ่งจะคิดได้ จะสายเกินไปหรือเปล่า?หลินเซียงพูดความกังวลของตัวเองออกมาซ่งซ่งเข้ามาใกล้ และกระซิบว่า “ที่รัก ฉันวางแผนไว้แล้ว ฉันจะไม่นั่งเครื่องบินหรือรถไฟ แต่จะนั่งรถบัสไป เป็นรถบัสแบบที่วิ่งตามท้องถนนในชนบท ตราบใดที่ฉันออกจากเมืองอวิ๋นไปได้อย่างปลอดภัย ถึงเขาจะอยากหาฉันก็หาไม่เจอ”หลินเซียงขมวดคิ้ว “แต่แบบนั้นไม่ปลอดภัยนะ”ซ่งซ่ง “ตอนนี้ฉันยังต้องสนใจเรื่องความปลอดภัยอยู่อีกเหรอ? ถ้ายังอยู่ในเมืองอวิ๋น ฉันก็ไม่ปลอดภัยอยู่ดี ฉันเลยต้องคิดแล้วตัดสินใจไปแบบกะทันหัน เขาคงเดาไม่ได้ว่าฉันจะไปเมื่อไหร่”หลินเซียงยังคงรู้สึกไม่ดี เปลี่ยนมาถามว่า “แล้วงานของเธอล่ะ?”ซ่งซ่งพูดว่า “ฉันขอลาออกแล้ว และวันนี้ก็เริ่มส่งใบสมัครงาน สร้างภาพลวงตาว่าฉันแค่อยากเปลี่ยนงานเฉยๆ”เธอวางแผนทุกอย่างไว้แล้ว หลินเซียงไม่รู้จะพูดอะ
บรรยากาศในลิฟต์ค่อนข้างแปลกประหลาดมีความเย็นชาปะปนกับความผ่อนคลาย บรรยากาศที่กดดันแผ่ซ่านไปทั่ว แต่เมื่อปะทะกับฉินโหย่วหานและหลินเซียง มันก็หายไปความรู้สึกแปลกประหลาดที่อธิบายไม่ได้ ทำให้รู้สึกอึดอัดลิฟต์เคลื่อนขึ้นไปอย่างราบรื่น ไม่นานประตูลิฟต์ก็เปิดออก ลู่สือเยี่ยนก้าวออกไปด้วยสีหน้าเย็นชาเป็นอย่างมากฉินโหย่วหานมองตามแผ่นหลังของเขา เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ เขาไม่ทำอะไรเลย นี่ไม่เหมือนนิสัยปกติของเขาหรือว่าเขาจะยอมปล่อยหลินเซียงแล้วจริง ๆ?ประตูลิฟต์ปิดลง สายตาของฉินโหย่วหานจับจ้องไปที่ใบหน้าของหลินเซียง แต่เห็นเธอมองประตูลิฟต์อย่างเหม่อลอยไม่ใช่สิ่งที่เธอมองน่าจะเป็นลู่สือเยี่ยนเพียงแต่ตอนนี้ประตูลิฟต์ปิดลง บดบังสายตาของเธอไว้ในดวงตาของฉินโหย่วหานมีความเย็นชาเพิ่มขึ้น เขาถามว่า “คิดอะไรอยู่?”ขนตาของหลินเซียงสั่นเล็กน้อย “ฉันแค่คิดว่า ในเรื่องนี้ เขากำลังรับบทบาทเป็นอะไร”ฉินโหย่วหานกล่าวว่า “ไม่ว่าเขาจะแสดงบทบาทไหน ก็ไม่เกี่ยวกับพวกเราแล้ว”หลินเซียงเหม่อลอยไปครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “คุณพูดถูก”เธอและลู่สือเยี่ยนหย่ากันแล้วดังนั้นจึงไม่มีความเกี่
ฉินโหย่วหานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “บอกเรื่องที่คุณรู้ทั้งหมดให้ผมฟังหน่อย”หลินเซียงพยักหน้า เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เขาฟังอย่างละเอียดครู่หนึ่ง ฉินโหย่วหานก็หัวเราะเบา ๆหลินเซียงมองเขา “เป็นอะไรไป?”ฉินโหย่วหานพูดว่า “หลินเซียง ผมขอเดาแบบบ้า ๆ เลยนะ”“พูดมาก่อนค่ะ” หลินเซียงมองเขาอย่างจริงจัง ในดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัยฉินโหย่วหานจอดรถข้างทาง เอามือวางบนพวงมาลัย บนใบหน้าหล่อเหลาและอ่อนโยนปรากฏรอยยิ้มขบขัน “คุณว่ามีความเป็นไปได้ไหม ที่มีคนปลอมตัวเป็นจ้าวข่ายไปทำเรื่องพวกนั้น แล้วโยนความผิดให้เขา?”เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาของหลินเซียงก็เบิกกว้างขึ้นเรื่อย ๆ มือของเธอกำขนมปังกรอบแน่นความเป็นไปได้นี้ เธอไม่เคยคิดถึงมาก่อน!เมื่อคิดดูให้ดี ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอหรือรูปถ่ายที่ลู่สือเยี่ยนให้เธอดู ‘จ้าวข่าย’ คนนั้นสวมหมวกและหน้ากากตลอดเวลา มองจากรูปร่างก็คิดว่าเป็นจ้าวข่ายได้ไม่ยากแต่ถ้าไม่ใช่ล่ะ?ถ้าเป็นแค่คนที่มีรูปร่างคล้ายกับจ้าวข่ายมาก ๆ ล่ะ?เมื่อนึกถึงห้องใต้ดินที่มืดมิด จ้าวข่ายที่ล้มลุกคลุกคลานอยู่บนพื้น พยายามอธิบายด้วยความเจ็บปวดเขาพูดมาตลอดว่าเขาไม่ได้ขโมย เ
“ตกใจมากใช่ไหม?” ซ่งจั่วมองสีหน้าตกตะลึงของเขาแล้วยิ้มขมขื่น“แหงล่ะ พวกเราทุกคนคิดว่าเซี่ยหว่านเป็นคนช่วยท่านประธานลู่จริง ๆ ถือว่าเธอเป็นผู้มีบุญคุณอย่างมาก แต่ต่อมาพวกเราก็รู้ความจริง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตัวเอง เธอทำได้ทุกวิถีทาง”ซ่งจั่วเก็บแท็บเล็ต “ซือเยี่ยน สิ่งที่นายยึดมั่นมานานผิดทั้งหมด”“ทำไมเป็นแบบนี้?” ซือเยี่ยนพึมพำกับตัวเอง “ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้?”ลู่สือเยี่ยนมองเขาอย่างเย็นชา “อยู่กับฉันมานานขนาดนี้ หัวคิดไม่มีความก้าวหน้าเลยสักนิด”ซือเยี่ยนตัวสั่น มองลู่สือเยี่ยนด้วยสายตาอ้อนวอน “ท่านประธานลู่ครับ ผมรู้ตัวแล้วว่าผิด ผมสำนึกผิดจริง ๆ ได้โปรดให้โอกาสผมอีกครั้ง…”เสียงของเขาเริ่มสั่นเครือ ตัวสั่นสะท้านอย่างรุนแรงเพราะเขารู้ว่าลู่สือเยี่ยนจะไม่ให้โอกาสเขาอีกลู่สือเยี่ยนมองเขาอย่างเย็นชา แล้วพูดกับซ่งจั่วว่า “ตัดเอ็นข้อมือข้อเท้าเขาซะ แล้วเอาไปทิ้งที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำ”“ครับ”ซ่งจั่วรู้สึกสงสาร แต่นี่เป็นคำสั่งของลู่สือเยี่ยนลู่สือเยี่ยนหันหลังเดินจากไปซือเยี่ยนมองตามลู่สือเยี่ยนที่จากไปด้วยสีหน้าสิ้นหวัง ในดวงตาเต็มไปด้วยความเสียใจ!…หลินเซียงออกมา
สวีซินหรานหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรออก ในระหว่างนั้น สายตาของเธอมองไปยังหลินเซียงที่อยู่ไม่ไกลนัก ในดวงตาปรากฏความเคียดแค้น“ฮัลโหล คุณเซี่ย ช่วยฉันหน่อยได้ไหม? ฉันอยากฆ่าหลินเซียง นังสารเลวนั่น!”…ซืออวี่สังเกตเห็นความผิดปกติของหลินเซียงเธอเย็นชามาก ไม่สนใจอะไรเลย แต่ก็ยังคงทำงานที่ได้รับมอบหมายได้เป็นอย่างดีซืออวี่บอกข่าวนี้กับลู่สือเยี่ยนในขณะนั้น ลู่สือเยี่ยนกำลังดูสิ่งที่ซ่งจั่วได้มาจากการสืบสวน คิ้วขมวดแน่นฉินโหย่วหานจับเซี่ยหว่านขังไว้ในตู้คอนเทนเนอร์ ถือเป็นการแก้แค้นแทนหลินเซียง แต่สิ่งนี้เกี่ยวข้องอะไรกับการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเธอกัน?ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงต่ำ “จับตาดูซือเยี่ยนไว้ เขาดูไม่ปกติ”ซ่งจั่วชะงัก “คงไม่ใช่มั้งครับ เขาคอยปกป้องคุณหลินมาตลอดไม่ใช่เหรอ?”ลู่สือเยี่ยนพูดอย่างเย็นชา “บอกให้ไปก็ไป ทำไมต้องพูดมาก?”ซ่งจั่ว “ครับ”การตรวจสอบพฤติกรรมของซือเยี่ยนเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา แต่เมื่อเขาเห็นสิ่งที่ได้จากการตรวจสอบ เขาก็ตกใจมากช่วงเย็น ซ่งจั่วก็นำหลักฐานที่ได้มาส่งให้ลู่สือเยี่ยนเขามองลู่สือเยี่ยนอย่างหวาดหวั่น มือที่กำแน่นมีเหงื่อออกลู่สือเยี่ย
เขามองซ่งจั่วอย่างเย็นชา “เธอเป็นอะไรไป?”ซ่งจั่วทำหน้างง “ผม ผมไม่รู้ครับ”ตอนเจอหลินเซียงที่โรงพยาบาลก่อนหน้านี้ เธอยังไม่เป็นแบบนี้ แต่หลินเซียงตอนนี้ เรียกได้ว่าเย็นชาและไม่เป็นมิตรอย่างมากช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นกับเธอ?ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงเย็น “ไปสืบมาให้ชัดเจน”“ครับ” ซ่งจั่วพยักหน้าลู่สือเยี่ยนไม่ออกไป แต่ไปที่ชั้นใต้ดิน ราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้จึงพูดว่า “เรียกซือเยี่ยนมาพบฉัน”“ครับ”ดีเค กรุ๊ปทันทีที่ลู่สือเยี่ยนเข้าไปในห้องส่วนตัวของประธาน ซือเยี่ยนก็เคาะประตูห้อง“เข้ามา”ซือเยี่ยนเปิดประตูเข้าไป สีหน้าค่อนข้างเกร็ง “ท่านประธานลู่”ลู่สือเยี่ยนนั่งลงบนเก้าอี้ ถามด้วยเสียงเย็นชา “นายติดตามหลินเซียงมาตลอด เห็นความผิดปกติของเธอบ้างไหม?”ดวงตาของซือเยี่ยนกะพริบเล็กน้อย เมื่อคืนเขาไม่ได้ติดตามหลินเซียงตลอดเวลา แต่เรื่องก่อนหน้านี้ก็ยังพอจะตอบคำถามได้“ฉินโหย่วหานไปรับคุณหลิน แล้วทั้งสองคนไปที่ชายหาด ที่เดียวกับที่ที่คุณหลินถูกจับตัวไปครั้งก่อน” ซือเยี่ยนเริ่มเล่าเมื่อได้ยินดังนั้น ลู่สือเยี่ยนก็หรี่ตาลงเล็กน้อย “พวกเขาไปที่นั่นทำไม?”ซือเยี่ยน “ผม ผมไม่ทราบครับ ผมอย
สีหน้าของหลินเซียงชะงักไปเล็กน้อย นิ้วที่กำโทรศัพท์แน่นขึ้น เสียงพูดแห้งผาก “ฉันเหมือนจะไม่เคยพูดว่าเขารักฉันนี่คะ”เซี่ยซือซือถอนหายใจ “หลินเซียง พวกเราแพ้แล้ว”หลินเซียงหลับตาลง “ขอโทษนะคะ คุณเซี่ย แผนการฉันดันไปดึงคุณลงมาซวยด้วย ถ้ามันสร้างความเสียหายอะไรให้คุณ คุณบอกฉันได้เลย”เซี่ยซือซือหัวเราะขมขื่น “ไม่ ไม่มีอะไรเสียหาย ฉันเต็มใจร่วมมือกับคุณเอง ไม่ว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง ฉันก็ต้องรับผิดชอบ”หลินเซียงพูดอะไรไม่ออก เพราะพวกเขาไม่เคยคิดว่าเรื่องราวจะดำเนินไปในทิศทางนี้ไม่เคยคิดเลยว่าลู่สือเยี่ยนจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเซี่ยหว่านทำไมกัน?คำถามนี้ เธอคิดไม่ตกมาตลอดทำไมเขาต้องช่วยเซี่ยหว่าน?ในใจของหลินเซียง ตอนนี้มีความรู้สึกอยากจะไปหาลู่สือเยี่ยน ถามเขาว่านี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่เสียงของเซี่ยซือซือดังขึ้น “หลินเซียง ฉันขอจัดการเรื่องของตัวเองก่อน มีความคืบหน้าอะไร เราค่อยติดต่อกันใหม่”“ค่ะ”หลังจากวางสายหลินเซียงยังคงอยู่ในสภาพเหม่อลอยไม่รู้ทำไม เสียงของเซี่ยซือซือถึงดังก้องอยู่ในหูเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าลู่สือเยี่ยนรักเธอจริงเหรอ?เคยรักจริง ๆ บ้างหรือเปล่า?