ยามดึกสงัด ผู้คนหลับใหลเงียบสงบ แม้แต่เงาของรถแท็กซี่สักคนก็ยังหายากนัก ยิ่งเมื่อนึกถึงสายโทรศัพท์ประหลาดที่ได้รับ หัวใจของหลินเซียงก็ยิ่งไม่เป็นสุขเธอคว้าสายกระเป๋าแน่นแล้วพูดว่า "เราจะหย่ากันอยู่แล้ว ฉันไปนอนค้างบ้านคุณคงไม่เหมาะสมหรอก""แล้วได้หย่ากันหรือยัง?" ลู่สือเยี่ยนมองเธอหลินเซียง "ยัง"ลู่สือเยี่ยน "แล้วจะลังเลทำไม กลัวว่าจะห้ามใจตัวเองไม่ได้ จ้องจะคิดไม่ซื่อกับผมงั้นเหรอ?"หลินเซียงมองเขาเหมือนมองคนวิกลจริต"ฮ่าฮ่าฮ่า คุณนี่หลงตัวเองจริง ๆ"พูดจบ เธอก็เดินตรงไปที่รถของเขาคิดไม่ซื่อกับเขาเหรอ?ไม่มีทางเป็นไปได้เด็ดขาดลู่สือเยี่ยนมองตามแผ่นหลังของเธอ มุมปากค่อย ๆ ยกขึ้นวิลล่าตระกูลลู่พ่อบ้านรู้ล่วงหน้าแล้วว่าเขาจะกลับมา สวนด้านนอกตัววิลล่าจึงเปิดไฟสว่างไสวหลินเซียงเดินเข้าไป เห็นพ่อบ้านแล้วก็นึกอะไรออก จึงถามด้วยความสงสัย "คุณเฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดทั้งคืนเลยหรือเปล่าคะ?"พ่อบ้านกำลังจะพยักหน้า แต่เหลือบไปเห็นสายตาของลู่สือเยี่ยนเข้า เขาก็รีบเปลี่ยนท่าทีพร้อมพูดว่า "ผมกำลังจะเลิกงานแล้วล่ะครับ แค่อยู่รอจนคุณชายสามกลับมา เลยยังไม่ออกไป"เขาหันไปหาลู่สือเยี่ยน
แต่เสื้อคลุมอาบน้ำตัวหลวมกลับห้อยลงมาด้านหน้า ขณะเดินก็ปลิวลู่ไปตามการเคลื่อนไหว เผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่ชัดเจนจากมุมมองของหลินเซียง เธอเห็นซิกแพ็กของเขาได้อย่างชัดเจนหัวใจเต้นรัวราวกลองอีกครั้งลู่สือเยี่ยนเดินมาถึงตรงหน้าเธอ โน้มตัวลงเล็กน้อย ใบหน้าหล่อเหลาคมคายมีรอยยิ้มเยาะบาง ๆ มองสบตาเธอ "ไม่อยากดูเหรอ?"ใบหน้าของหลินเซียงแดงก่ำทันใดนั้น ราวกับเธอคิดอะไรขึ้นได้ ความอับอายและการหลบสายตาที่ฉายบนใบหน้าหายไปหมดสิ้น"ฉันจะดูคุณไปทำไม เราสองคนยังไม่ได้หย่ากันซะหน่อย คุณเป็นสามีฉัน ฉันไม่ทำแค่ดูหรอก ยังจะจับด้วย!"ว่าแล้วเธอก็เอื้อมมือไปจับกล้ามหน้าท้องของเขาอืม... สัมผัสนุ่มหยุ่นมือดีจริง ๆลู่สือเยี่ยนชะงักไปครู่หนึ่ง มือเล็ก ๆ บนร่างกายเย็นเล็กน้อยแต่ก็อ่อนนุ่มมาก ทำให้กล้ามเนื้อของเขาเกร็งขึ้นโดยไม่รู้ตัวในดวงตาของหลินเซียงมีรอยยิ้มแห่งชัยชนะแวบผ่าน "เอาล่ะ ดึกมากแล้ว แยกย้ายไปนอนกันเถอะ"เธอทำทีจะชักมือกลับ แต่ข้อมือของเธอกลับถูกเขาคว้าหมับ ก่อนที่เขาจะโน้มตัวลงมาโดยตรง กดร่างเธอลงบนโซฟาหลินเซียงตกใจ "เฮ้ย คุณจะทำอะไรเนี่ย?!"ลู่สือเยี่ยน "คุณจับตัวผม"หลินเซียงกะ
เขาเป็นคนเสนอเรื่องหย่า แต่เขาก็เป็นคนผัดวันประกันพรุ่งอยู่เรื่อยเธอเคยสงสัยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ แต่ตอนนี้ไม่แล้วถ้าเขาไม่ยอมให้เธอสมหวัง ก็อย่าคิดจะกลับไปรับผิดชอบต่อเซี่ยหว่านเลยเว้นเสียแต่ว่าเขาจะให้เซี่ยหว่านเป็นเมียน้อยและเธอคิดว่าเขาคงไม่ทำแบบนั้นแน่เพราะในใจเขายังคงให้ความสำคัญกับเซี่ยหว่านอยู่มากทีเดียวหลินเซียงคิดเหน็บแนม น้ำตาคลอเบ้า รีบหลับตาลงเพื่อข่มกลั้นไม่ให้อารมณ์ปะทุออกมาเวลาผ่านไปนาน เสียงประตูปิดดังขึ้นเสี้ยววินาทีนั้น หัวใจของเธอราวกับถูกค้อนทุบอย่างแรง แตกละเอียดไม่เหลือชิ้นดี เจ็บปวดจนชาไปหมด!เธอขบฟันแน่น แต่สุดท้ายก็ควบคุมตัวเองไม่อยู่ จนน้ำตาไหลพรากภาพความอ่อนโยนของเขาในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาผุดขึ้นในหัว เหมือนกับเธอได้ย้อนกลับไปในอดีต สมัยที่พวกเขายังรักกันดีหลินเซียงลุกพรวด เปิดประตูแล้วเดินออกไปทันทีบ้านหลังนี้ใหญ่โตโอ่อ่า แต่เธอกลับรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก ทุกซอกทุกมุมล้วนเต็มไปด้วยกลิ่นอายของเขา เหมือนเป็นสิ่งที่คอยย้ำเตือนเธอตลอดเวลาว่า อาเยี่ยนที่เธอรักได้ออกไปหาผู้หญิงคนอื่นแล้วเมื่อเดินออกจากบ้าน ลมหนาวพัดมาปะทะจนร่างกายเธอ
หลินเซียงเดินเท้าเกือบชั่วโมงกว่าจะหาจุดเรียกแท็กซี่ได้ เมื่อบอกที่อยู่และขึ้นรถแล้ว เธอก็มองออกไปนอกหน้าต่างค่ำคืนมืดมิด ไม่มีแม้แต่เงาคนเดินอยู่บนถนนคนขับมองเธอ แล้วถามว่า "แม่หนู ดึกดื่นป่านนี้ทำไมมาเดินดุ่ม ๆ อยู่คนเดียวบนถนนล่ะ อันตรายนะ"หลินเซียงเพิ่งรู้สึกตัว มองคนขับ คนขับสวมหมวกและหน้ากากปิดบังใบหน้าส่วนใหญ่ เปิดเผยให้เห็นเพียงดวงตา ทำให้รู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูกหลินเซียง "ฉันแค่ทะเลาะกับสามีค่ะ คิดว่าเดี๋ยวเขาคงตามมา"คนขับ "ทะเลาะกับสามีก็ไม่เห็นต้องประชดด้วยการเดินออกมากลางดึกเลย ถ้าเจอคนไม่ดีเข้าจะเป็นอันตรายเอานะ"หลินเซียงยิ้ม "ขอบคุณคุณลุงที่หวังดีค่ะ ฉันจะระวังตัว"คนขับยิ้ม ไม่ได้พูดอะไรต่อแต่หลินเซียงก็ยังคงระมัดระวังอยู่ จนกระทั่งรถมาถึงหน้าหมู่บ้าน คนขับกลับถามว่า "แม่หนูอยู่ตึกไหน ลุงจะขับไปส่งถึงที่เลย จะได้ประหยัดเวลาเดิน"หลินเซียง "ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณมากนะคะ"แต่คนขับก็ยังยืนกรานคำเดิม "ไม่เป็นไร ลุงไปส่งหนูถึงที่ได้"แววตาของหลินเซียงฉายความระแวดระวังมากขึ้น ตอนนี้เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น เธอกดรับสายทันที "ฮัลโหล ใช่ ฉันถึงแล้
มือของเธอสั่นเทาไปหมด กดเบอร์โทรศัพท์แบบสุ่มในสมุดรายชื่อโดยตรงคราวนี้เธอถึงได้สังเกตว่ามันคือเบอร์ของลู่สือเยี่ยน!เธออยากกดวางสาย แต่ก็ยั้งมือไว้เหมือนมีเสียงสองเสียงในใจกำลังโต้เถียงกันเสียงหนึ่งบอกให้รีบวางสายและแจ้งตำรวจซะ แต่อีกเสียงบอกว่าไม่ต้องวางสาย บอกลู่สือเยี่ยนเถอะ แล้วขอความช่วยเหลือจากเขาพวกเขาอยู่ด้วยกันมาหนึ่งปีแล้ว ความรู้สึกผูกพันต่อกันย่อมต้องมีหลงเหลือ เสียงนั้นยังคงเกลี้ยกล่อมให้เธอคิดเดิมพัน ว่าในใจของลู่สือเยี่ยนใครสำคัญกว่ากัน ระหว่างเซี่ยหว่านกับเธอ“ตู้ด…”เสียงสัญญาณบ่งบอกสายไม่ว่างดังขึ้นหลินเซียงยกเลิกการกดปุ่มชั้น 18 ทันที แล้วกดชั้น 1 แทนเธออยู่ที่ตึกนี้ไม่ได้อีกแล้ว!ขณะเดียวกันที่โรงพยาบาลเซี่ยหว่านเข้ารับการผ่าตัดเสร็จแล้ว เมื่อเห็นลู่สือเยี่ยน ใบหน้าของเธอก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมาทันที“สือเยี่ยน ดีจังเลยที่มีคุณอยู่ด้วย ฉันไม่กลัวแล้วค่ะ” เซี่ยหว่านพูดด้วยเสียงอ่อนแอลู่สือเยี่ยนติดต่อพยาบาลส่วนตัวไว้แล้ว พยาบาลมาถึงพอดี เขาจึงพูดว่า “ต่อไปนี้พยาบาลจะคอยอยู่ดูแลคุณ ถ้าคุณต้องการ ผมจะช่วยติดต่อให้ที่บ้านของคุณรับทราบ”“ไม่ต้องค่ะ” เ
ตอนนี้ยังมีอะไรที่ปล่อยวางไม่ลงอีก?เพียงแต่ ถ้าเธอเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นมาจริง ๆ เขาจะเสียใจไหมนะ?ถ้าเสียใจจริง อย่างนั้นปีที่ผ่านมาคงไม่สูญเปล่าซะทีเดียวจริงไหม?หลินเซียงคิดไปเรื่อยเปื่อย ประตูลิฟต์ก็เปิดออก เธอวิ่งออกไปทันที พลางโทรแจ้งตำรวจไปด้วยเสียงฝีเท้าที่รีบร้อนวิ่งตามมาหลินเซียงกลัวจนหน้าซีด!ไม่คิดว่าชายคนนั้นจะตามมาเร็วขนาดนี้!“ฮัลโหลค่ะ? มีคนกำลังสะกดรอยตามฉัน ฉันอยู่ที่...” ทันทีที่อีกฝ่ายรับสาย หลินเซียงก็รีบพูดทันทีแต่ในวินาทีถัดมา ผมของเธอก็ถูกกระชาก!“กรี๊ดดด!”เธอกรีดร้อง โทรศัพท์ถูกแย่งไปแล้วโยนลงพื้นปูน แตกกระจายทันที!“ยังกล้าวิ่งอีกเหรอ!”เสียงแหบพร่าดังขึ้น เป็นเสียงเดียวกับที่เธอได้ยินทางโทรศัพท์ก่อนหน้านี้!หลินเซียงรู้สึกได้ถึงความเย็นยะเยือกที่โอบล้อมเธอ เธอต่อสู้ดิ้นรนอย่างหนักหน่วง“แกเป็นใคร? ตามฉันมาทำไม?”เธอถามเสียงดังเธอไม่ได้ไปทำร้ายใครสักหน่อย ไอ้หมอนี่เป็นใครกัน?“โสเภณีชั้นต่ำ จำฉันไม่ได้เหรอ ถ้าไม่ใช่เพราะแก ฉันจะตกต่ำมาถึงขั้นนี้ได้ยังไง!”เสียงแหบพร่าของผู้ชายดังขึ้น เต็มไปด้วยความเกลียดชัง เขากระชากผมของหลินเซียง มุ่ง
“คุณฉิน มาที่นี่ได้ยังไงคะ?”หลินเซียงถามด้วยความสงสัย แต่เสียงยังสั่นอยู่เพราะกลัวเกินไป...เมื่อกี้เกือบแล้ว เธอเกือบถูกลากเข้าไปในป่าแล้ว ถ้าเป็นอย่างนั้นเข้าจริง ๆ จะเกิดอะไรขึ้น เธอไม่กล้าคิดเลยฉินโหย่วหานกล่าวว่า “ผมผ่านมาพอดี ตอนแรกเดินคุยโทรศัพท์อยู่ข้างทาง ได้ยินเสียงอะไรแถวนี้ก็เลยเดินมาดูหน่อย ไม่คิดว่าจะเป็นคุณ”เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา “ผมจะแจ้งตำรวจให้”หลินเซียงพยักหน้า “ค่ะ”แต่พอเธอหันกลับไปอีกที ชายคนนั้นก็หายไปแล้ว!“คนไปไหนแล้ว?”หลินเซียงตกใจ หน้าซีดลงไปอีกฉินโหย่วหานหรี่ตาลง “หนีไม่รอดหรอก”หลังจากแจ้งตำรวจ ตำรวจก็มาถึงอย่างรวดเร็ว หลินเซียงเล่าเรื่องที่เธอประสบ แล้วก็ไปที่สถานีตำรวจเพื่อลงบันทึกประจำวัน จากนั้นตำรวจก็เริ่มตรวจสอบกล้องวงจรปิด และเก็บเศษหนังที่ติดอยู่ที่เล็บของหลินเซียงกว่าจะเสร็จกระบวนการทุกอย่างก็เกือบสว่างแล้วหลังจากออกจากสถานีตำรวจ หลินเซียงมองไปที่ฉินโหย่วหาน “คุณฉิน ขอบคุณมากจริง ๆ นะคะ”ฉินโหย่วหานยิ้ม ผมสั้นสีเงินถูกแสงไฟส่องจนดูเหมือนมีแสงบาง ๆ ปกคลุมอยู่ ยามยิ้มช่างหล่อเหลาและดูเจ้าเล่ห์ “ไม่เป็นไรเลย แค่ช่วยเหลือเพียงเล็ก
ในเวลาเดียวกัน ผลการตรวจสอบของซือเยี่ยนก็ถูกส่งมาเช่นกันลู่สือเยี่ยนเปิดโทรศัพท์ดู ก็พบว่าเป็นรูปภาพหลายรูป ในรูปเป็นภาพหลินเซียงและฉินโหย่วหานเดินเคียงบ่ากันอยู่ริมถนน นั่งด้วยกันในร้านอาหารเช้า และฉากที่กำลังเดินออกมาจากร้านอาหารเช้าบรรยากาศภายในรถลดต่ำลงอย่างฉับพลันสีหน้าของลู่สือเยี่ยนยิ่งเย็นชา ดวงตาอันมืดมนจ้องมองคนทั้งสองที่เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขากำลังคุยกันอย่างสนุกสนานดึกดื่นขนาดนี้ ไม่ยอมอยู่ที่วิลล่าตระกูลลู่เพื่อพักผ่อน กลับวิ่งโร่ออกมาทานอาหารเช้ากับฉินโหย่วหานแทนเนี่ยนะ?ยังไม่ทันหย่า ก็รีบร้อนหาคนใหม่ขนาดนี้เลยเหรอ?อีกด้านหนึ่งซือเยี่ยนมองดูรูปภาพอื่น ๆ นอกเหนือจากรูปภาพหลาย ๆ รูปนั้นมีทั้งภาพหลินเซียงที่ถูกสะกดรอยตาม หลินเซียงที่ถูกจิกกระชากผมลากเข้าไปในตรอกมืด และฉินโหย่วหานที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างฉับพลันแล้วช่วยเธอไว้รูปภาพเหล่านี้เขาไม่ได้ส่งให้ลู่สือเยี่ยนเขาคิดว่าไม่จำเป็นหลินเซียงไม่มีค่าคู่ควรพอกับลู่สือเยี่ยนพวกเขาไม่ใช่คนในระดับเดียวกันหย่ากันเร็ว ๆ เข้าไว้คงดีซะกว่าเซี่ยหว่านรอคอยลู่สือเยี่ยนมานานขนาดนี้ จะปล่อยให้เธอรออย่างไร้จุดห