ตอนนี้ยังมีอะไรที่ปล่อยวางไม่ลงอีก?เพียงแต่ ถ้าเธอเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นมาจริง ๆ เขาจะเสียใจไหมนะ?ถ้าเสียใจจริง อย่างนั้นปีที่ผ่านมาคงไม่สูญเปล่าซะทีเดียวจริงไหม?หลินเซียงคิดไปเรื่อยเปื่อย ประตูลิฟต์ก็เปิดออก เธอวิ่งออกไปทันที พลางโทรแจ้งตำรวจไปด้วยเสียงฝีเท้าที่รีบร้อนวิ่งตามมาหลินเซียงกลัวจนหน้าซีด!ไม่คิดว่าชายคนนั้นจะตามมาเร็วขนาดนี้!“ฮัลโหลค่ะ? มีคนกำลังสะกดรอยตามฉัน ฉันอยู่ที่...” ทันทีที่อีกฝ่ายรับสาย หลินเซียงก็รีบพูดทันทีแต่ในวินาทีถัดมา ผมของเธอก็ถูกกระชาก!“กรี๊ดดด!”เธอกรีดร้อง โทรศัพท์ถูกแย่งไปแล้วโยนลงพื้นปูน แตกกระจายทันที!“ยังกล้าวิ่งอีกเหรอ!”เสียงแหบพร่าดังขึ้น เป็นเสียงเดียวกับที่เธอได้ยินทางโทรศัพท์ก่อนหน้านี้!หลินเซียงรู้สึกได้ถึงความเย็นยะเยือกที่โอบล้อมเธอ เธอต่อสู้ดิ้นรนอย่างหนักหน่วง“แกเป็นใคร? ตามฉันมาทำไม?”เธอถามเสียงดังเธอไม่ได้ไปทำร้ายใครสักหน่อย ไอ้หมอนี่เป็นใครกัน?“โสเภณีชั้นต่ำ จำฉันไม่ได้เหรอ ถ้าไม่ใช่เพราะแก ฉันจะตกต่ำมาถึงขั้นนี้ได้ยังไง!”เสียงแหบพร่าของผู้ชายดังขึ้น เต็มไปด้วยความเกลียดชัง เขากระชากผมของหลินเซียง มุ่ง
“คุณฉิน มาที่นี่ได้ยังไงคะ?”หลินเซียงถามด้วยความสงสัย แต่เสียงยังสั่นอยู่เพราะกลัวเกินไป...เมื่อกี้เกือบแล้ว เธอเกือบถูกลากเข้าไปในป่าแล้ว ถ้าเป็นอย่างนั้นเข้าจริง ๆ จะเกิดอะไรขึ้น เธอไม่กล้าคิดเลยฉินโหย่วหานกล่าวว่า “ผมผ่านมาพอดี ตอนแรกเดินคุยโทรศัพท์อยู่ข้างทาง ได้ยินเสียงอะไรแถวนี้ก็เลยเดินมาดูหน่อย ไม่คิดว่าจะเป็นคุณ”เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา “ผมจะแจ้งตำรวจให้”หลินเซียงพยักหน้า “ค่ะ”แต่พอเธอหันกลับไปอีกที ชายคนนั้นก็หายไปแล้ว!“คนไปไหนแล้ว?”หลินเซียงตกใจ หน้าซีดลงไปอีกฉินโหย่วหานหรี่ตาลง “หนีไม่รอดหรอก”หลังจากแจ้งตำรวจ ตำรวจก็มาถึงอย่างรวดเร็ว หลินเซียงเล่าเรื่องที่เธอประสบ แล้วก็ไปที่สถานีตำรวจเพื่อลงบันทึกประจำวัน จากนั้นตำรวจก็เริ่มตรวจสอบกล้องวงจรปิด และเก็บเศษหนังที่ติดอยู่ที่เล็บของหลินเซียงกว่าจะเสร็จกระบวนการทุกอย่างก็เกือบสว่างแล้วหลังจากออกจากสถานีตำรวจ หลินเซียงมองไปที่ฉินโหย่วหาน “คุณฉิน ขอบคุณมากจริง ๆ นะคะ”ฉินโหย่วหานยิ้ม ผมสั้นสีเงินถูกแสงไฟส่องจนดูเหมือนมีแสงบาง ๆ ปกคลุมอยู่ ยามยิ้มช่างหล่อเหลาและดูเจ้าเล่ห์ “ไม่เป็นไรเลย แค่ช่วยเหลือเพียงเล็ก
ในเวลาเดียวกัน ผลการตรวจสอบของซือเยี่ยนก็ถูกส่งมาเช่นกันลู่สือเยี่ยนเปิดโทรศัพท์ดู ก็พบว่าเป็นรูปภาพหลายรูป ในรูปเป็นภาพหลินเซียงและฉินโหย่วหานเดินเคียงบ่ากันอยู่ริมถนน นั่งด้วยกันในร้านอาหารเช้า และฉากที่กำลังเดินออกมาจากร้านอาหารเช้าบรรยากาศภายในรถลดต่ำลงอย่างฉับพลันสีหน้าของลู่สือเยี่ยนยิ่งเย็นชา ดวงตาอันมืดมนจ้องมองคนทั้งสองที่เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขากำลังคุยกันอย่างสนุกสนานดึกดื่นขนาดนี้ ไม่ยอมอยู่ที่วิลล่าตระกูลลู่เพื่อพักผ่อน กลับวิ่งโร่ออกมาทานอาหารเช้ากับฉินโหย่วหานแทนเนี่ยนะ?ยังไม่ทันหย่า ก็รีบร้อนหาคนใหม่ขนาดนี้เลยเหรอ?อีกด้านหนึ่งซือเยี่ยนมองดูรูปภาพอื่น ๆ นอกเหนือจากรูปภาพหลาย ๆ รูปนั้นมีทั้งภาพหลินเซียงที่ถูกสะกดรอยตาม หลินเซียงที่ถูกจิกกระชากผมลากเข้าไปในตรอกมืด และฉินโหย่วหานที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างฉับพลันแล้วช่วยเธอไว้รูปภาพเหล่านี้เขาไม่ได้ส่งให้ลู่สือเยี่ยนเขาคิดว่าไม่จำเป็นหลินเซียงไม่มีค่าคู่ควรพอกับลู่สือเยี่ยนพวกเขาไม่ใช่คนในระดับเดียวกันหย่ากันเร็ว ๆ เข้าไว้คงดีซะกว่าเซี่ยหว่านรอคอยลู่สือเยี่ยนมานานขนาดนี้ จะปล่อยให้เธอรออย่างไร้จุดห
หลินเซียงเหมือนได้ยินเรื่องตลก มองเขาด้วยความไม่เชื่อ "ลู่สือเยี่ยน รู้รึเปล่าว่าตัวเองพูดอะไรออกมา!"ถ้าเขาจะลงโทษ เธอก็ยังไม่รู้สึกว่าเขามีสิทธิ์นั้นตรงไหน!ลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธอด้วยดวงตามืดมน บรรยากาศรอบตัวรุนแรงและแฝงด้วยความกดดันบรรยากาศเงียบสงัดลงชั่วครู่ ลมเย็นพัดผ่าน ราวกับความหนาวเย็นที่ซึมลึกเข้าไปในกระดูกหลินเซียงมองไปยังใบหน้าหล่อเหลาที่แฝงไปด้วยความมืดมนของเขา แล้วพูดตามตรง "คุณออกมาหาฉันแบบนี้ เซี่ยหว่านรู้ไหม?"น้ำเสียงของเธอแฝงไปด้วยการเยาะหยันห้ามคนอื่นทำ แต่ตัวเองทำได้งั้นเหรอ?มีคนสองมาตรฐานแบบนี้ในโลกด้วยรึ?ลู่สือเยี่ยนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "เรื่องของผมกับเธอ คุณรู้มาตลอด คุณก็รู้ดีว่าทำไมผมถึงต้องหย่ากับคุณ แต่คุณกับฉินโหย่วหานเป็นอะไรกัน?"หลินเซียงโกรธขึ้นมาทันที "ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ!"ดวงตาใสแจ๋วของเธอปรากฏประกายแห่งความโกรธ "ลู่สือเยี่ยน ใกล้จะรุ่งสางแล้ว ไหน ๆ มาแล้วก็อย่าเพิ่งไป เดี๋ยวเราไปรอสำนักงานเขตเปิดทำการกันเลย วันนี้ไม่ว่ายังไงฉันต้องหย่าให้ได้!"ตอนที่เธอเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด ความคิดของเธอก็ยังเต็มไปด้วยเขา เธอรู้สึกว่าตัวเองหมดหนทางจ
ไอ้สารเลว ไอ้สารเลว ไอ้สารเลว!หลินเซียงโกรธจนกระทืบเท้าเร่า ๆ!ทำไมบนโลกนี้ต้องมีคนชั่วช้าสารเลวแบบเขาด้วย?ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยรู้สึกเสียใจ แต่ตอนนี้เธอรู้สึกเสียใจขึ้นมาจริง ๆ เสียใจว่าทำไมตอนนั้นต้องเก็บเขากลับมาดูแลด้วย!หลินเซียงโกรธจนเกือบไม่มีสติ!ตอนนี้เป็นไงล่ะ เขาไม่ยอมหย่าแน่แล้ว จะทำยังไงดี?เธอขึ้นไปชั้นบนด้วยความโกรธ โกรธจนนอนไม่หลับ!ฟ้าค่อย ๆ สว่างขึ้นมองดูแสงอรุณที่โผล่ขึ้นมาจากขอบฟ้า หลินเซียงรู้สึกหนาวเหน็บไปทั้งหัวใจชาติที่แล้วเธอคงจะทำกรรมกับลู่สือเยี่ยนไว้ชาตินี้เลยกรรมสนองถูกเขาปฏิบัติแบบนี้เขารู้สึกผิดต่อเซี่ยหว่าน ไม่กล้าให้เซี่ยหว่านเสี่ยงอันตราย เลยไม่ยอมหย่ากับเธอ ทำให้เธอตกเป็นเป้าสายตาของคนอื่นแต่เขาไม่รู้สึกผิดต่อเธอเลยหรือไง?ถึงอย่างไรเธอก็เก็บกลับมาดูแลอยู่ช่วงหนึ่งเชียวนะ!ถ้าไม่มีเธอ เขาที่สูญเสียความทรงจำจนเหมือนกับกระดาษเปล่าคงจะตายไปนานแล้วหลินเซียงหัวเราะเยาะตัวเองคงเป็นกรรมของเธอจริง ๆ...เธอไปทำงานพร้อมกับรอยคล้ำใต้ตาทั้งสองข้าง ยื่นใบลาออกโดยตรงจากนั้นก็ไม่สนใจสีหน้าของผู้จัดการ กลับไปเก็บของเธออยู่ที่นี่ต่อไปไม่
"ลืมไปก่อนเถอะ เอาเรื่องย้ายบ้านก่อน" หลินเซียงคิดไม่ออก ก็เลยไม่คิดซ่งซ่งพยักหน้า "อย่างน้อยบ้านหลังใหญ่ที่เธอใฝ่ฝันมาตลอดก็เป็นจริงซะที ถือว่าเป็นเรื่องดีนะ"หลินเซียงยิ้มเธอสะพายกระเป๋าใบหนึ่ง ข้างในมีแต่ของใช้ส่วนตัว จากนั้นก็ไปที่หมู่บ้านเฟิงหลินหย่วนกับซ่งซ่งโดยตรงพอไปถึงประตู ก็ถูกยามกั้นไว้ ต้องลงทะเบียนก่อนถึงจะเข้าได้หลินเซียงรู้สึกสบายใจ อย่างน้อยผู้ชายคนนั้นก็ไม่มีทางเข้าถึงตัวเธอที่นี่ได้แล้วห้องที่ลู่สือเยี่ยนให้เธอคือชั้น 31 พอออกจากลิฟต์ ประตูห้องที่เห็นทั้งหรูหราและพิถีพิถันเป็นอย่างมากหลินเซียงใช้กุญแจไขประตู พอเห็นฉากข้างใน ดวงตาของเธอก็เปล่งประกายด้วยความประหลาดใจพวกเธอเพิ่งเข้าไปถึงประตู ขณะที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็โทรหาซ่งจั่วทันที"ผู้ช่วยซ่งครับ คุณหลินเซียงมาแล้ว"ซ่งจั่ว "ครับ ผมรู้แล้ว"หลังจากวางสายแล้ว เขาก็เล่าเรื่องนี้ให้ลู่สือเยี่ยนฟัง"อืม"สีหน้าของลู่สือเยี่ยนเฉยชา ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆซ่งจั่วถามอย่างลังเล "ท่านประธานครับ อายัดเช็คแล้ว แล้วต้องยึดบ้านคืนด้วยหรือเปล่าครับ?"ลู่สือเยี่ยนเงยหน้าขึ้น ดวงตาสีเข้มเย็นชามองเขาอย่าง
หลินเซียง “...”หมดอารมณ์ในทันทีเงินสามสิบล้านที่ได้มาง่าย ๆ หลุดลอยไปแล้ว จะลาออกก็ไม่มีแรงจูงใจอีกต่อไปน่าโมโหจริง ๆ!ซ่งซ่งเห็นสีหน้าของเธอแล้วก็ถามว่า “ไอ้สารเลวนั่นว่าไง?”หลินเซียง “เธอบอกว่าเขาเป็นไอ้สารเลว แล้วเขาจะพูดอะไรดี ๆ ได้ล่ะ?”ซ่งซ่ง “...”หลินเซียงถอนหายใจแล้วพูดว่า “วันนี้คงอยู่ฉลองไม่ได้แล้ว ฉันต้องกลับไปทำงาน”ซ่งซ่งกะพริบตาปริบ ๆ “เธอยังไม่ได้ลาออกอีกเหรอ?”หลินเซียงยิ้มฝืน “เงินสามสิบล้านหายวับไปแล้ว ฉันจะกล้าลาออกได้ยังไง?”ซ่งซ่ง “โธ่ น่าสงสารจัง”“... ”เมื่อกลับมาที่ดีเคกรุ๊ป พอไปถึงเคาน์เตอร์ก็มีคนเรียกเธอพอดี“คุณหลินเซียง มีของมาส่งค่ะ”หลินเซียงแปลกใจ ของมาส่ง? ใครส่งอะไรมาให้เธอ?เธอเดินไปรับมาด้วยความสงสัย พอพลิกดูก็เห็นว่าเป็นกล่องที่ห่ออย่างดี เขย่าดูแล้วข้างในเบามาก ไม่มีเสียงอะไรที่น่าสงสัยเธอแกะกล่องไปพลางเดินไปที่ลิฟต์ไปพลาง ลิฟต์มาถึงพอดี เธอไม่เงยหน้ามอง เดินเข้าไปเลยสายตาคู่หนึ่งมองมาที่เธอ เธอเงยหน้าขึ้นโดยไม่รู้ตัว แล้วก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาและเฉียบคมของลู่สือเยี่ยนเดินผ่านเธอไปอย่างเย็นชา“เดี๋ยว!”สีหน้าของหลินเซียงหม่น
หลินเซียงถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ตอนนี้พวกคุณอยู่ไหน?”เซี่ยหว่านตกใจอย่างเห็นได้ชัด ไม่คิดว่าจะถูกถามแบบนี้ แต่ก็ยังคงพูดว่า “วิลล่าหมายเลขเก้า ห้อง 8088”หลินเซียงวางสายทันทีเหอะ...ยุ่งอะไร?ยุ่งอยู่กับการจีบสาวล่ะสิไม่ว่า?หลินเซียงหรี่ตาลง ยังไม่หย่ากันเลย ลู่สือเยี่ยนจะเกินไปหน่อยไหม?ในเมื่อเขาไม่ยอมหย่า ก็อย่าโทษเธอที่ไม่เกรงใจ!กระทั่งพลบค่ำ ทั้งเมืองก็ค่อย ๆ ถูกไฟนีออนปกคลุมหลินเซียงมาถึงวิลล่าหมายเลขเก้าแต่ถูกสกัดกั้นไว้ พนักงานบริการยิ้มอย่างสุภาพ “ขอโทษนะคะ คุณผู้หญิงได้นัดหมายไว้ล่วงหน้าหรือเปล่าคะ?”หลินเซียง “ฉันมาหาลู่สือเยี่ยน”พนักงานบริการยิ้มอย่างสุภาพ “คุณผู้หญิง ถ้าไม่มีนัดไว้ล่วงหน้าจะไม่สามารถเข้าไปได้ค่ะ”หลินเซียง “ฉันมาหาคนก็ไม่ได้เหรอ?”พนักงานบริการ “เว้นแต่จะมีคนพาคุณเข้าไป ไม่อย่างนั้นก็เข้าไปไม่ได้ถ้าไม่มีนัดหมายล่วงหน้าค่ะ”หลินเซียงเปิดกระเป๋า หยิบใบทะเบียนสมรสออกมาโดยตรง เปิดออกแล้วยื่นให้พนักงานบริการดู “แบบนี้ยังต้องนัดล่วงหน้าหรือเปล่า?”พนักงานบริการตกใจ รีบดูรูปในสมุดทะเบียนสมรส แล้วก็ดูตราประทับอีกครั้ง กลัวว่าจะเป็นของปลอมในใ
ซ่งซ่งนอนไม่หลับ พลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง ทั้งตื่นเต้นและกังวลใจ เมื่อคิดว่าตัวเองกำลังจะออกจากเมืองอวิ๋น ออกไปจากฟู่จิ่นซิ่ว คนที่น่ารังเกียจนั่น เธอก็รู้สึกตื่นเต้นแทบแย่แทบนับเวลาถอยหลัง“ปัง ปัง ปัง!”แต่ในขณะนั้นเอง เสียงเคาะประตูดังสนั่นก็ดังขึ้นซ่งซ่งตกใจ รีบลุกขึ้นมองออกไปข้างนอก เด็กผู้หญิงก็ตกใจตื่นเช่นกัน “ใครน่ะ?”ในใจของซ่งซ่งมีความรู้สึกไม่ดีแวบเข้ามา หรือว่าเขาจะตามทันแล้ว?เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?เธอลุกจากเตียงพูดว่า “ฉันไปดูเอง พวกเธออย่าออกมาล่ะ”เด็กผู้หญิงกังวลใจ “ซ่งซ่ง จะไม่เป็นไรใช่ไหม?”ซ่งซ่งพยักหน้า “ไม่ต้องห่วง ไม่มีอะไรหรอก”เธอสวมเสื้อผ้าออกจากบ้าน “ใคร?”เธอถามอย่างระมัดระวัง“ซ่งซ่ง ฉันเอง รีบออกมาเร็ว!”เสียงของหลินเซียงดังขึ้นที่หน้าประตูซ่งซ่งชะงัก รีบไปเปิดประตู “ที่รัก กลับมาทำไม?”เธอไม่ได้กลับบ้านไปแล้วเหรอ?พอคำนวณเวลาแล้ว ตอนนี้ควรจะถึงเฟิงหลินหย่วนแล้วสิหลินเซียงจับข้อมือเธอ สีหน้ากระวนกระวาย “ฉันเห็นรถของฟู่จิ่นซิ่ว เขาหาเธอเจอแล้ว ไปกันเร็ว!”เมื่อได้ยินดังนั้น ซ่งซ่งก็ตกตะลึง “หาฉันเจอแล้ว? หาฉันเจอได้ยังไง?”การเคลื่อนไหวขอ
หลินเซียงใส่ขนมปังกรอบลงในถุง จัดเตรียมให้เรียบร้อย พลางพูดว่า “เวลาจำกัด ฉันเลยทำแค่อาหารที่เก็บรักษาง่ายและรสชาติใช้ได้ ให้เธอมีอะไรรองท้องระหว่างทาง”เมื่อได้ยินแบบนั้น ซ่งซ่งก็กะพริบตา แล้ววิ่งเข้ามากอดเธอ “ที่รัก ทำไมน่ารักแบบนี้นะ หรือพวกเราหนีไปด้วยกันเลยดีไหม!”หลินเซียงยิ้ม “พอแล้ว ไปล้างหน้าเร็ว ฉันจะไปส่งเธอที่ชานเมือง”รถบัสรอบแรกมาถึงพรุ่งนี้เช้า ซ่งซ่งต้องไปรอตั้งแต่คืนนี้แต่ซ่งซ่งส่ายหน้า “ไม่ต้อง ฉันติดต่อคนไว้แล้ว เธอพักผ่อนที่บ้านเถอะ ฉันไม่เป็นไร”หลินเซียงพูดว่า “ไม่ได้ ถ้าฉันไม่ไปส่งเธอด้วยตัวเอง ฉันไม่สบายใจ”ซ่งซ่งมองสีหน้าจริงจังของเธอ รู้ว่าเธอตัดสินใจแล้ว จึงกอดเธออีกครั้ง “ฮือ ฮือ ไม่อยากจากเธอเลย”หลินเซียงพาเธอไปที่ห้องน้ำ ดูแลเธอขณะล้างหน้าล้างตา ตรวจสอบสิ่งของที่จำเป็นอาหาร เครื่องดื่ม และของใช้ส่วนตัวง่าย ๆ ล้วนเป็นแบบใช้แล้วทิ้งอืม เกือบครบแล้วหลังจากจัดของเสร็จ ทั้งสองคนก็อยู่ด้วยกันอีกพักหนึ่ง ก่อนจะออกเดินทางตอนตีสองเมืองอวิ๋นในยามดึกเงียบสงบ ถนนแทบไม่มีรถสัญจร ผู้คนยิ่งไม่มีหลินเซียงขับรถไปทางชานเมือง ส่วนซ่งซ่งก็พูดถึงความหวังในอน
หลินเซียง “…”แม้ว่าครั้งที่แล้วจะสังเกตเห็นความผิดปกติของคนทั้งสอง แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่ซ่งซ่งพูดออกมาในตอนนี้ เธอก็พูดอะไรไม่ออกการที่เรื่องราวพัฒนามาถึงจุดนี้ จริง ๆ แล้วมีร่องรอยให้เห็นฟู่จิ่นซิ่วให้ความสนใจกับซ่งซ่งมากเกินไป และซ่งซ่งก็ไม่ได้ระวังตัวเพียงแต่…ตอนนี้เพิ่งจะคิดได้ จะสายเกินไปหรือเปล่า?หลินเซียงพูดความกังวลของตัวเองออกมาซ่งซ่งเข้ามาใกล้ และกระซิบว่า “ที่รัก ฉันวางแผนไว้แล้ว ฉันจะไม่นั่งเครื่องบินหรือรถไฟ แต่จะนั่งรถบัสไป เป็นรถบัสแบบที่วิ่งตามท้องถนนในชนบท ตราบใดที่ฉันออกจากเมืองอวิ๋นไปได้อย่างปลอดภัย ถึงเขาจะอยากหาฉันก็หาไม่เจอ”หลินเซียงขมวดคิ้ว “แต่แบบนั้นไม่ปลอดภัยนะ”ซ่งซ่ง “ตอนนี้ฉันยังต้องสนใจเรื่องความปลอดภัยอยู่อีกเหรอ? ถ้ายังอยู่ในเมืองอวิ๋น ฉันก็ไม่ปลอดภัยอยู่ดี ฉันเลยต้องคิดแล้วตัดสินใจไปแบบกะทันหัน เขาคงเดาไม่ได้ว่าฉันจะไปเมื่อไหร่”หลินเซียงยังคงรู้สึกไม่ดี เปลี่ยนมาถามว่า “แล้วงานของเธอล่ะ?”ซ่งซ่งพูดว่า “ฉันขอลาออกแล้ว และวันนี้ก็เริ่มส่งใบสมัครงาน สร้างภาพลวงตาว่าฉันแค่อยากเปลี่ยนงานเฉยๆ”เธอวางแผนทุกอย่างไว้แล้ว หลินเซียงไม่รู้จะพูดอะ
บรรยากาศในลิฟต์ค่อนข้างแปลกประหลาดมีความเย็นชาปะปนกับความผ่อนคลาย บรรยากาศที่กดดันแผ่ซ่านไปทั่ว แต่เมื่อปะทะกับฉินโหย่วหานและหลินเซียง มันก็หายไปความรู้สึกแปลกประหลาดที่อธิบายไม่ได้ ทำให้รู้สึกอึดอัดลิฟต์เคลื่อนขึ้นไปอย่างราบรื่น ไม่นานประตูลิฟต์ก็เปิดออก ลู่สือเยี่ยนก้าวออกไปด้วยสีหน้าเย็นชาเป็นอย่างมากฉินโหย่วหานมองตามแผ่นหลังของเขา เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ เขาไม่ทำอะไรเลย นี่ไม่เหมือนนิสัยปกติของเขาหรือว่าเขาจะยอมปล่อยหลินเซียงแล้วจริง ๆ?ประตูลิฟต์ปิดลง สายตาของฉินโหย่วหานจับจ้องไปที่ใบหน้าของหลินเซียง แต่เห็นเธอมองประตูลิฟต์อย่างเหม่อลอยไม่ใช่สิ่งที่เธอมองน่าจะเป็นลู่สือเยี่ยนเพียงแต่ตอนนี้ประตูลิฟต์ปิดลง บดบังสายตาของเธอไว้ในดวงตาของฉินโหย่วหานมีความเย็นชาเพิ่มขึ้น เขาถามว่า “คิดอะไรอยู่?”ขนตาของหลินเซียงสั่นเล็กน้อย “ฉันแค่คิดว่า ในเรื่องนี้ เขากำลังรับบทบาทเป็นอะไร”ฉินโหย่วหานกล่าวว่า “ไม่ว่าเขาจะแสดงบทบาทไหน ก็ไม่เกี่ยวกับพวกเราแล้ว”หลินเซียงเหม่อลอยไปครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “คุณพูดถูก”เธอและลู่สือเยี่ยนหย่ากันแล้วดังนั้นจึงไม่มีความเกี่
ฉินโหย่วหานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “บอกเรื่องที่คุณรู้ทั้งหมดให้ผมฟังหน่อย”หลินเซียงพยักหน้า เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เขาฟังอย่างละเอียดครู่หนึ่ง ฉินโหย่วหานก็หัวเราะเบา ๆหลินเซียงมองเขา “เป็นอะไรไป?”ฉินโหย่วหานพูดว่า “หลินเซียง ผมขอเดาแบบบ้า ๆ เลยนะ”“พูดมาก่อนค่ะ” หลินเซียงมองเขาอย่างจริงจัง ในดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัยฉินโหย่วหานจอดรถข้างทาง เอามือวางบนพวงมาลัย บนใบหน้าหล่อเหลาและอ่อนโยนปรากฏรอยยิ้มขบขัน “คุณว่ามีความเป็นไปได้ไหม ที่มีคนปลอมตัวเป็นจ้าวข่ายไปทำเรื่องพวกนั้น แล้วโยนความผิดให้เขา?”เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาของหลินเซียงก็เบิกกว้างขึ้นเรื่อย ๆ มือของเธอกำขนมปังกรอบแน่นความเป็นไปได้นี้ เธอไม่เคยคิดถึงมาก่อน!เมื่อคิดดูให้ดี ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอหรือรูปถ่ายที่ลู่สือเยี่ยนให้เธอดู ‘จ้าวข่าย’ คนนั้นสวมหมวกและหน้ากากตลอดเวลา มองจากรูปร่างก็คิดว่าเป็นจ้าวข่ายได้ไม่ยากแต่ถ้าไม่ใช่ล่ะ?ถ้าเป็นแค่คนที่มีรูปร่างคล้ายกับจ้าวข่ายมาก ๆ ล่ะ?เมื่อนึกถึงห้องใต้ดินที่มืดมิด จ้าวข่ายที่ล้มลุกคลุกคลานอยู่บนพื้น พยายามอธิบายด้วยความเจ็บปวดเขาพูดมาตลอดว่าเขาไม่ได้ขโมย เ
“ตกใจมากใช่ไหม?” ซ่งจั่วมองสีหน้าตกตะลึงของเขาแล้วยิ้มขมขื่น“แหงล่ะ พวกเราทุกคนคิดว่าเซี่ยหว่านเป็นคนช่วยท่านประธานลู่จริง ๆ ถือว่าเธอเป็นผู้มีบุญคุณอย่างมาก แต่ต่อมาพวกเราก็รู้ความจริง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตัวเอง เธอทำได้ทุกวิถีทาง”ซ่งจั่วเก็บแท็บเล็ต “ซือเยี่ยน สิ่งที่นายยึดมั่นมานานผิดทั้งหมด”“ทำไมเป็นแบบนี้?” ซือเยี่ยนพึมพำกับตัวเอง “ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้?”ลู่สือเยี่ยนมองเขาอย่างเย็นชา “อยู่กับฉันมานานขนาดนี้ หัวคิดไม่มีความก้าวหน้าเลยสักนิด”ซือเยี่ยนตัวสั่น มองลู่สือเยี่ยนด้วยสายตาอ้อนวอน “ท่านประธานลู่ครับ ผมรู้ตัวแล้วว่าผิด ผมสำนึกผิดจริง ๆ ได้โปรดให้โอกาสผมอีกครั้ง…”เสียงของเขาเริ่มสั่นเครือ ตัวสั่นสะท้านอย่างรุนแรงเพราะเขารู้ว่าลู่สือเยี่ยนจะไม่ให้โอกาสเขาอีกลู่สือเยี่ยนมองเขาอย่างเย็นชา แล้วพูดกับซ่งจั่วว่า “ตัดเอ็นข้อมือข้อเท้าเขาซะ แล้วเอาไปทิ้งที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำ”“ครับ”ซ่งจั่วรู้สึกสงสาร แต่นี่เป็นคำสั่งของลู่สือเยี่ยนลู่สือเยี่ยนหันหลังเดินจากไปซือเยี่ยนมองตามลู่สือเยี่ยนที่จากไปด้วยสีหน้าสิ้นหวัง ในดวงตาเต็มไปด้วยความเสียใจ!…หลินเซียงออกมา
สวีซินหรานหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรออก ในระหว่างนั้น สายตาของเธอมองไปยังหลินเซียงที่อยู่ไม่ไกลนัก ในดวงตาปรากฏความเคียดแค้น“ฮัลโหล คุณเซี่ย ช่วยฉันหน่อยได้ไหม? ฉันอยากฆ่าหลินเซียง นังสารเลวนั่น!”…ซืออวี่สังเกตเห็นความผิดปกติของหลินเซียงเธอเย็นชามาก ไม่สนใจอะไรเลย แต่ก็ยังคงทำงานที่ได้รับมอบหมายได้เป็นอย่างดีซืออวี่บอกข่าวนี้กับลู่สือเยี่ยนในขณะนั้น ลู่สือเยี่ยนกำลังดูสิ่งที่ซ่งจั่วได้มาจากการสืบสวน คิ้วขมวดแน่นฉินโหย่วหานจับเซี่ยหว่านขังไว้ในตู้คอนเทนเนอร์ ถือเป็นการแก้แค้นแทนหลินเซียง แต่สิ่งนี้เกี่ยวข้องอะไรกับการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเธอกัน?ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงต่ำ “จับตาดูซือเยี่ยนไว้ เขาดูไม่ปกติ”ซ่งจั่วชะงัก “คงไม่ใช่มั้งครับ เขาคอยปกป้องคุณหลินมาตลอดไม่ใช่เหรอ?”ลู่สือเยี่ยนพูดอย่างเย็นชา “บอกให้ไปก็ไป ทำไมต้องพูดมาก?”ซ่งจั่ว “ครับ”การตรวจสอบพฤติกรรมของซือเยี่ยนเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา แต่เมื่อเขาเห็นสิ่งที่ได้จากการตรวจสอบ เขาก็ตกใจมากช่วงเย็น ซ่งจั่วก็นำหลักฐานที่ได้มาส่งให้ลู่สือเยี่ยนเขามองลู่สือเยี่ยนอย่างหวาดหวั่น มือที่กำแน่นมีเหงื่อออกลู่สือเยี่ย
เขามองซ่งจั่วอย่างเย็นชา “เธอเป็นอะไรไป?”ซ่งจั่วทำหน้างง “ผม ผมไม่รู้ครับ”ตอนเจอหลินเซียงที่โรงพยาบาลก่อนหน้านี้ เธอยังไม่เป็นแบบนี้ แต่หลินเซียงตอนนี้ เรียกได้ว่าเย็นชาและไม่เป็นมิตรอย่างมากช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นกับเธอ?ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงเย็น “ไปสืบมาให้ชัดเจน”“ครับ” ซ่งจั่วพยักหน้าลู่สือเยี่ยนไม่ออกไป แต่ไปที่ชั้นใต้ดิน ราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้จึงพูดว่า “เรียกซือเยี่ยนมาพบฉัน”“ครับ”ดีเค กรุ๊ปทันทีที่ลู่สือเยี่ยนเข้าไปในห้องส่วนตัวของประธาน ซือเยี่ยนก็เคาะประตูห้อง“เข้ามา”ซือเยี่ยนเปิดประตูเข้าไป สีหน้าค่อนข้างเกร็ง “ท่านประธานลู่”ลู่สือเยี่ยนนั่งลงบนเก้าอี้ ถามด้วยเสียงเย็นชา “นายติดตามหลินเซียงมาตลอด เห็นความผิดปกติของเธอบ้างไหม?”ดวงตาของซือเยี่ยนกะพริบเล็กน้อย เมื่อคืนเขาไม่ได้ติดตามหลินเซียงตลอดเวลา แต่เรื่องก่อนหน้านี้ก็ยังพอจะตอบคำถามได้“ฉินโหย่วหานไปรับคุณหลิน แล้วทั้งสองคนไปที่ชายหาด ที่เดียวกับที่ที่คุณหลินถูกจับตัวไปครั้งก่อน” ซือเยี่ยนเริ่มเล่าเมื่อได้ยินดังนั้น ลู่สือเยี่ยนก็หรี่ตาลงเล็กน้อย “พวกเขาไปที่นั่นทำไม?”ซือเยี่ยน “ผม ผมไม่ทราบครับ ผมอย
สีหน้าของหลินเซียงชะงักไปเล็กน้อย นิ้วที่กำโทรศัพท์แน่นขึ้น เสียงพูดแห้งผาก “ฉันเหมือนจะไม่เคยพูดว่าเขารักฉันนี่คะ”เซี่ยซือซือถอนหายใจ “หลินเซียง พวกเราแพ้แล้ว”หลินเซียงหลับตาลง “ขอโทษนะคะ คุณเซี่ย แผนการฉันดันไปดึงคุณลงมาซวยด้วย ถ้ามันสร้างความเสียหายอะไรให้คุณ คุณบอกฉันได้เลย”เซี่ยซือซือหัวเราะขมขื่น “ไม่ ไม่มีอะไรเสียหาย ฉันเต็มใจร่วมมือกับคุณเอง ไม่ว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง ฉันก็ต้องรับผิดชอบ”หลินเซียงพูดอะไรไม่ออก เพราะพวกเขาไม่เคยคิดว่าเรื่องราวจะดำเนินไปในทิศทางนี้ไม่เคยคิดเลยว่าลู่สือเยี่ยนจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเซี่ยหว่านทำไมกัน?คำถามนี้ เธอคิดไม่ตกมาตลอดทำไมเขาต้องช่วยเซี่ยหว่าน?ในใจของหลินเซียง ตอนนี้มีความรู้สึกอยากจะไปหาลู่สือเยี่ยน ถามเขาว่านี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่เสียงของเซี่ยซือซือดังขึ้น “หลินเซียง ฉันขอจัดการเรื่องของตัวเองก่อน มีความคืบหน้าอะไร เราค่อยติดต่อกันใหม่”“ค่ะ”หลังจากวางสายหลินเซียงยังคงอยู่ในสภาพเหม่อลอยไม่รู้ทำไม เสียงของเซี่ยซือซือถึงดังก้องอยู่ในหูเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าลู่สือเยี่ยนรักเธอจริงเหรอ?เคยรักจริง ๆ บ้างหรือเปล่า?