หลินเซียงเดินเท้าเกือบชั่วโมงกว่าจะหาจุดเรียกแท็กซี่ได้ เมื่อบอกที่อยู่และขึ้นรถแล้ว เธอก็มองออกไปนอกหน้าต่างค่ำคืนมืดมิด ไม่มีแม้แต่เงาคนเดินอยู่บนถนนคนขับมองเธอ แล้วถามว่า "แม่หนู ดึกดื่นป่านนี้ทำไมมาเดินดุ่ม ๆ อยู่คนเดียวบนถนนล่ะ อันตรายนะ"หลินเซียงเพิ่งรู้สึกตัว มองคนขับ คนขับสวมหมวกและหน้ากากปิดบังใบหน้าส่วนใหญ่ เปิดเผยให้เห็นเพียงดวงตา ทำให้รู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูกหลินเซียง "ฉันแค่ทะเลาะกับสามีค่ะ คิดว่าเดี๋ยวเขาคงตามมา"คนขับ "ทะเลาะกับสามีก็ไม่เห็นต้องประชดด้วยการเดินออกมากลางดึกเลย ถ้าเจอคนไม่ดีเข้าจะเป็นอันตรายเอานะ"หลินเซียงยิ้ม "ขอบคุณคุณลุงที่หวังดีค่ะ ฉันจะระวังตัว"คนขับยิ้ม ไม่ได้พูดอะไรต่อแต่หลินเซียงก็ยังคงระมัดระวังอยู่ จนกระทั่งรถมาถึงหน้าหมู่บ้าน คนขับกลับถามว่า "แม่หนูอยู่ตึกไหน ลุงจะขับไปส่งถึงที่เลย จะได้ประหยัดเวลาเดิน"หลินเซียง "ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณมากนะคะ"แต่คนขับก็ยังยืนกรานคำเดิม "ไม่เป็นไร ลุงไปส่งหนูถึงที่ได้"แววตาของหลินเซียงฉายความระแวดระวังมากขึ้น ตอนนี้เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น เธอกดรับสายทันที "ฮัลโหล ใช่ ฉันถึงแล้
มือของเธอสั่นเทาไปหมด กดเบอร์โทรศัพท์แบบสุ่มในสมุดรายชื่อโดยตรงคราวนี้เธอถึงได้สังเกตว่ามันคือเบอร์ของลู่สือเยี่ยน!เธออยากกดวางสาย แต่ก็ยั้งมือไว้เหมือนมีเสียงสองเสียงในใจกำลังโต้เถียงกันเสียงหนึ่งบอกให้รีบวางสายและแจ้งตำรวจซะ แต่อีกเสียงบอกว่าไม่ต้องวางสาย บอกลู่สือเยี่ยนเถอะ แล้วขอความช่วยเหลือจากเขาพวกเขาอยู่ด้วยกันมาหนึ่งปีแล้ว ความรู้สึกผูกพันต่อกันย่อมต้องมีหลงเหลือ เสียงนั้นยังคงเกลี้ยกล่อมให้เธอคิดเดิมพัน ว่าในใจของลู่สือเยี่ยนใครสำคัญกว่ากัน ระหว่างเซี่ยหว่านกับเธอ“ตู้ด…”เสียงสัญญาณบ่งบอกสายไม่ว่างดังขึ้นหลินเซียงยกเลิกการกดปุ่มชั้น 18 ทันที แล้วกดชั้น 1 แทนเธออยู่ที่ตึกนี้ไม่ได้อีกแล้ว!ขณะเดียวกันที่โรงพยาบาลเซี่ยหว่านเข้ารับการผ่าตัดเสร็จแล้ว เมื่อเห็นลู่สือเยี่ยน ใบหน้าของเธอก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมาทันที“สือเยี่ยน ดีจังเลยที่มีคุณอยู่ด้วย ฉันไม่กลัวแล้วค่ะ” เซี่ยหว่านพูดด้วยเสียงอ่อนแอลู่สือเยี่ยนติดต่อพยาบาลส่วนตัวไว้แล้ว พยาบาลมาถึงพอดี เขาจึงพูดว่า “ต่อไปนี้พยาบาลจะคอยอยู่ดูแลคุณ ถ้าคุณต้องการ ผมจะช่วยติดต่อให้ที่บ้านของคุณรับทราบ”“ไม่ต้องค่ะ” เ
ตอนนี้ยังมีอะไรที่ปล่อยวางไม่ลงอีก?เพียงแต่ ถ้าเธอเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นมาจริง ๆ เขาจะเสียใจไหมนะ?ถ้าเสียใจจริง อย่างนั้นปีที่ผ่านมาคงไม่สูญเปล่าซะทีเดียวจริงไหม?หลินเซียงคิดไปเรื่อยเปื่อย ประตูลิฟต์ก็เปิดออก เธอวิ่งออกไปทันที พลางโทรแจ้งตำรวจไปด้วยเสียงฝีเท้าที่รีบร้อนวิ่งตามมาหลินเซียงกลัวจนหน้าซีด!ไม่คิดว่าชายคนนั้นจะตามมาเร็วขนาดนี้!“ฮัลโหลค่ะ? มีคนกำลังสะกดรอยตามฉัน ฉันอยู่ที่...” ทันทีที่อีกฝ่ายรับสาย หลินเซียงก็รีบพูดทันทีแต่ในวินาทีถัดมา ผมของเธอก็ถูกกระชาก!“กรี๊ดดด!”เธอกรีดร้อง โทรศัพท์ถูกแย่งไปแล้วโยนลงพื้นปูน แตกกระจายทันที!“ยังกล้าวิ่งอีกเหรอ!”เสียงแหบพร่าดังขึ้น เป็นเสียงเดียวกับที่เธอได้ยินทางโทรศัพท์ก่อนหน้านี้!หลินเซียงรู้สึกได้ถึงความเย็นยะเยือกที่โอบล้อมเธอ เธอต่อสู้ดิ้นรนอย่างหนักหน่วง“แกเป็นใคร? ตามฉันมาทำไม?”เธอถามเสียงดังเธอไม่ได้ไปทำร้ายใครสักหน่อย ไอ้หมอนี่เป็นใครกัน?“โสเภณีชั้นต่ำ จำฉันไม่ได้เหรอ ถ้าไม่ใช่เพราะแก ฉันจะตกต่ำมาถึงขั้นนี้ได้ยังไง!”เสียงแหบพร่าของผู้ชายดังขึ้น เต็มไปด้วยความเกลียดชัง เขากระชากผมของหลินเซียง มุ่ง
“คุณฉิน มาที่นี่ได้ยังไงคะ?”หลินเซียงถามด้วยความสงสัย แต่เสียงยังสั่นอยู่เพราะกลัวเกินไป...เมื่อกี้เกือบแล้ว เธอเกือบถูกลากเข้าไปในป่าแล้ว ถ้าเป็นอย่างนั้นเข้าจริง ๆ จะเกิดอะไรขึ้น เธอไม่กล้าคิดเลยฉินโหย่วหานกล่าวว่า “ผมผ่านมาพอดี ตอนแรกเดินคุยโทรศัพท์อยู่ข้างทาง ได้ยินเสียงอะไรแถวนี้ก็เลยเดินมาดูหน่อย ไม่คิดว่าจะเป็นคุณ”เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา “ผมจะแจ้งตำรวจให้”หลินเซียงพยักหน้า “ค่ะ”แต่พอเธอหันกลับไปอีกที ชายคนนั้นก็หายไปแล้ว!“คนไปไหนแล้ว?”หลินเซียงตกใจ หน้าซีดลงไปอีกฉินโหย่วหานหรี่ตาลง “หนีไม่รอดหรอก”หลังจากแจ้งตำรวจ ตำรวจก็มาถึงอย่างรวดเร็ว หลินเซียงเล่าเรื่องที่เธอประสบ แล้วก็ไปที่สถานีตำรวจเพื่อลงบันทึกประจำวัน จากนั้นตำรวจก็เริ่มตรวจสอบกล้องวงจรปิด และเก็บเศษหนังที่ติดอยู่ที่เล็บของหลินเซียงกว่าจะเสร็จกระบวนการทุกอย่างก็เกือบสว่างแล้วหลังจากออกจากสถานีตำรวจ หลินเซียงมองไปที่ฉินโหย่วหาน “คุณฉิน ขอบคุณมากจริง ๆ นะคะ”ฉินโหย่วหานยิ้ม ผมสั้นสีเงินถูกแสงไฟส่องจนดูเหมือนมีแสงบาง ๆ ปกคลุมอยู่ ยามยิ้มช่างหล่อเหลาและดูเจ้าเล่ห์ “ไม่เป็นไรเลย แค่ช่วยเหลือเพียงเล็ก
ในเวลาเดียวกัน ผลการตรวจสอบของซือเยี่ยนก็ถูกส่งมาเช่นกันลู่สือเยี่ยนเปิดโทรศัพท์ดู ก็พบว่าเป็นรูปภาพหลายรูป ในรูปเป็นภาพหลินเซียงและฉินโหย่วหานเดินเคียงบ่ากันอยู่ริมถนน นั่งด้วยกันในร้านอาหารเช้า และฉากที่กำลังเดินออกมาจากร้านอาหารเช้าบรรยากาศภายในรถลดต่ำลงอย่างฉับพลันสีหน้าของลู่สือเยี่ยนยิ่งเย็นชา ดวงตาอันมืดมนจ้องมองคนทั้งสองที่เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขากำลังคุยกันอย่างสนุกสนานดึกดื่นขนาดนี้ ไม่ยอมอยู่ที่วิลล่าตระกูลลู่เพื่อพักผ่อน กลับวิ่งโร่ออกมาทานอาหารเช้ากับฉินโหย่วหานแทนเนี่ยนะ?ยังไม่ทันหย่า ก็รีบร้อนหาคนใหม่ขนาดนี้เลยเหรอ?อีกด้านหนึ่งซือเยี่ยนมองดูรูปภาพอื่น ๆ นอกเหนือจากรูปภาพหลาย ๆ รูปนั้นมีทั้งภาพหลินเซียงที่ถูกสะกดรอยตาม หลินเซียงที่ถูกจิกกระชากผมลากเข้าไปในตรอกมืด และฉินโหย่วหานที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างฉับพลันแล้วช่วยเธอไว้รูปภาพเหล่านี้เขาไม่ได้ส่งให้ลู่สือเยี่ยนเขาคิดว่าไม่จำเป็นหลินเซียงไม่มีค่าคู่ควรพอกับลู่สือเยี่ยนพวกเขาไม่ใช่คนในระดับเดียวกันหย่ากันเร็ว ๆ เข้าไว้คงดีซะกว่าเซี่ยหว่านรอคอยลู่สือเยี่ยนมานานขนาดนี้ จะปล่อยให้เธอรออย่างไร้จุดห
หลินเซียงเหมือนได้ยินเรื่องตลก มองเขาด้วยความไม่เชื่อ "ลู่สือเยี่ยน รู้รึเปล่าว่าตัวเองพูดอะไรออกมา!"ถ้าเขาจะลงโทษ เธอก็ยังไม่รู้สึกว่าเขามีสิทธิ์นั้นตรงไหน!ลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธอด้วยดวงตามืดมน บรรยากาศรอบตัวรุนแรงและแฝงด้วยความกดดันบรรยากาศเงียบสงัดลงชั่วครู่ ลมเย็นพัดผ่าน ราวกับความหนาวเย็นที่ซึมลึกเข้าไปในกระดูกหลินเซียงมองไปยังใบหน้าหล่อเหลาที่แฝงไปด้วยความมืดมนของเขา แล้วพูดตามตรง "คุณออกมาหาฉันแบบนี้ เซี่ยหว่านรู้ไหม?"น้ำเสียงของเธอแฝงไปด้วยการเยาะหยันห้ามคนอื่นทำ แต่ตัวเองทำได้งั้นเหรอ?มีคนสองมาตรฐานแบบนี้ในโลกด้วยรึ?ลู่สือเยี่ยนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "เรื่องของผมกับเธอ คุณรู้มาตลอด คุณก็รู้ดีว่าทำไมผมถึงต้องหย่ากับคุณ แต่คุณกับฉินโหย่วหานเป็นอะไรกัน?"หลินเซียงโกรธขึ้นมาทันที "ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ!"ดวงตาใสแจ๋วของเธอปรากฏประกายแห่งความโกรธ "ลู่สือเยี่ยน ใกล้จะรุ่งสางแล้ว ไหน ๆ มาแล้วก็อย่าเพิ่งไป เดี๋ยวเราไปรอสำนักงานเขตเปิดทำการกันเลย วันนี้ไม่ว่ายังไงฉันต้องหย่าให้ได้!"ตอนที่เธอเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด ความคิดของเธอก็ยังเต็มไปด้วยเขา เธอรู้สึกว่าตัวเองหมดหนทางจ
ไอ้สารเลว ไอ้สารเลว ไอ้สารเลว!หลินเซียงโกรธจนกระทืบเท้าเร่า ๆ!ทำไมบนโลกนี้ต้องมีคนชั่วช้าสารเลวแบบเขาด้วย?ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยรู้สึกเสียใจ แต่ตอนนี้เธอรู้สึกเสียใจขึ้นมาจริง ๆ เสียใจว่าทำไมตอนนั้นต้องเก็บเขากลับมาดูแลด้วย!หลินเซียงโกรธจนเกือบไม่มีสติ!ตอนนี้เป็นไงล่ะ เขาไม่ยอมหย่าแน่แล้ว จะทำยังไงดี?เธอขึ้นไปชั้นบนด้วยความโกรธ โกรธจนนอนไม่หลับ!ฟ้าค่อย ๆ สว่างขึ้นมองดูแสงอรุณที่โผล่ขึ้นมาจากขอบฟ้า หลินเซียงรู้สึกหนาวเหน็บไปทั้งหัวใจชาติที่แล้วเธอคงจะทำกรรมกับลู่สือเยี่ยนไว้ชาตินี้เลยกรรมสนองถูกเขาปฏิบัติแบบนี้เขารู้สึกผิดต่อเซี่ยหว่าน ไม่กล้าให้เซี่ยหว่านเสี่ยงอันตราย เลยไม่ยอมหย่ากับเธอ ทำให้เธอตกเป็นเป้าสายตาของคนอื่นแต่เขาไม่รู้สึกผิดต่อเธอเลยหรือไง?ถึงอย่างไรเธอก็เก็บกลับมาดูแลอยู่ช่วงหนึ่งเชียวนะ!ถ้าไม่มีเธอ เขาที่สูญเสียความทรงจำจนเหมือนกับกระดาษเปล่าคงจะตายไปนานแล้วหลินเซียงหัวเราะเยาะตัวเองคงเป็นกรรมของเธอจริง ๆ...เธอไปทำงานพร้อมกับรอยคล้ำใต้ตาทั้งสองข้าง ยื่นใบลาออกโดยตรงจากนั้นก็ไม่สนใจสีหน้าของผู้จัดการ กลับไปเก็บของเธออยู่ที่นี่ต่อไปไม่
"ลืมไปก่อนเถอะ เอาเรื่องย้ายบ้านก่อน" หลินเซียงคิดไม่ออก ก็เลยไม่คิดซ่งซ่งพยักหน้า "อย่างน้อยบ้านหลังใหญ่ที่เธอใฝ่ฝันมาตลอดก็เป็นจริงซะที ถือว่าเป็นเรื่องดีนะ"หลินเซียงยิ้มเธอสะพายกระเป๋าใบหนึ่ง ข้างในมีแต่ของใช้ส่วนตัว จากนั้นก็ไปที่หมู่บ้านเฟิงหลินหย่วนกับซ่งซ่งโดยตรงพอไปถึงประตู ก็ถูกยามกั้นไว้ ต้องลงทะเบียนก่อนถึงจะเข้าได้หลินเซียงรู้สึกสบายใจ อย่างน้อยผู้ชายคนนั้นก็ไม่มีทางเข้าถึงตัวเธอที่นี่ได้แล้วห้องที่ลู่สือเยี่ยนให้เธอคือชั้น 31 พอออกจากลิฟต์ ประตูห้องที่เห็นทั้งหรูหราและพิถีพิถันเป็นอย่างมากหลินเซียงใช้กุญแจไขประตู พอเห็นฉากข้างใน ดวงตาของเธอก็เปล่งประกายด้วยความประหลาดใจพวกเธอเพิ่งเข้าไปถึงประตู ขณะที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็โทรหาซ่งจั่วทันที"ผู้ช่วยซ่งครับ คุณหลินเซียงมาแล้ว"ซ่งจั่ว "ครับ ผมรู้แล้ว"หลังจากวางสายแล้ว เขาก็เล่าเรื่องนี้ให้ลู่สือเยี่ยนฟัง"อืม"สีหน้าของลู่สือเยี่ยนเฉยชา ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆซ่งจั่วถามอย่างลังเล "ท่านประธานครับ อายัดเช็คแล้ว แล้วต้องยึดบ้านคืนด้วยหรือเปล่าครับ?"ลู่สือเยี่ยนเงยหน้าขึ้น ดวงตาสีเข้มเย็นชามองเขาอย่าง