หลินเซียงยิ้มเล็กน้อย "ก็ดีค่ะ"ซืออวี่ "งั้นก็ดีเลย เพื่อขยับขยายธุรกิจของเรา คืนนี้ฉันจะต้องไปร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ทางธุรกิจ มีคนใหญ่คนโตไปกันเยอะเลย เธอไปกับฉันนะ"หลินเซียงชะงัก "ฉันเหรอคะ?"ซืออวี่พยักหน้า "ใช่ เธอเคยทำโปรเจกต์ให้กับเฉิงต๋านี่ คนในวงการรู้จักเธอเยอะ ถือเป็นหน้าเป็นตาของสตูดิโอฉันเลยนะ พาเธอไปด้วย ต้องมีคนมาขอร่วมงานเยอะแน่เลย"หลินเซียงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพยักหน้า "ตกลงค่ะ"ซืออวี่ยิ้ม "งั้นเย็นนี้เดี๋ยวฉันไปรับนะ""ได้ค่ะ"สตูดิโอเพิ่งเริ่มต้นธุรกิจ การเข้าร่วมกิจกรรมแบบนี้บ่อย ๆ ถือเป็นประโยชน์มากหลินเซียงไม่อยากพลาดโอกาสนี้ช่วงเย็นหลินเซียงเก็บของเสร็จ รถของซืออวี่ก็จอดรออยู่หน้าตึก เธอเปิดประตูก้าวขึ้นรถ ซืออวี่ก็ยื่นถุงใบหนึ่งให้เธอ"เปลี่ยนมาใส่ชุดนี้สิ"หลินเซียงมองดูของในถุง แล้วพูดว่า "ไม่ต้องหรอกค่ะ งานเลี้ยงสังสรรค์ทางธุรกิจไม่จำเป็นต้องแต่งตัวหรูหราอะไรมาก เน้นสุภาพเรียบร้อยก็พอ"ซืออวี่มองเธอด้วยความประหลาดใจ "ดูเหมือนว่าฉันคิดถูกจริง ๆ ที่พาเธอไปด้วย"หลินเซียงยิ้ม "งานเลี้ยงแบบนี้ค่อนข้างจริงจัง ไม่ค่อยมีกิจกรรมบันเทิงเท่าไหร่
ซืออวี่หันไปมองฟางฮ่าว "นี่หมายความว่ายังไงคะ?"ฟางฮ่าวหัวเราะเยาะ พูดว่า "สั่งให้เธอมานั่งคุยกับผม ถ้าไม่ยอมคุย งั้นสตูดิโอพวกคุณก็พับโครงการไปได้เลย"ท่าทางของเขาก้าวร้าว ไม่สนใจซืออวี่และหลินเซียงเลยยิ่งไปกว่านั้น ยังจงใจหาเรื่องหลินเซียงอย่างชัดเจนสีหน้าของซืออวี่ไม่สู้ดีนักหลินเซียงเดินเข้าไปถาม "คุณผู้ชายคะ ฉันว่าฉันไม่รู้จักคุณนะ"ฟางฮ่าวพูดว่า "ไม่เป็นไร แค่ผมรู้จักคุณก็พอแล้ว มานี่เร็ว มานั่งตรงนี้"เขาตบต้นขาตัวเองคนรอบข้างหัวเราะเยาะทันทีพวกนั้นเป็นเพื่อนและบอดี้การ์ดของฟางฮ่าว พวกเขามองหลินเซียงด้วยสายตาไม่เป็นมิตรส่วนคนอื่นในงานเลี้ยงก็ไม่มีใครเข้ามาช่วย ดูเหมือนพวกเขาล้วนรู้จักฐานะของฟางฮ่าวดี จึงไม่อยากยุ่งเรื่องชาวบ้านสีหน้าของหลินเซียงเริ่มย่ำแย่ดูเหมือนคนคนนี้มีภูมิหลังไม่ธรรมดา หลินเซียงหลุบตาลง หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วกดโทรหาใครบางคนฟางฮ่าวทำหน้าดูถูก "อะไร? จะหาคนช่วยเหรอ? อยากจะรู้จริง ๆ ว่าพระเอกขี่ม้าขาวของคุณเป็นใคร ในเมืองอวิ๋นเฉิง ใครบ้างกล้าเข้ามายุ่งเรื่องของผม!""ลู่สือเยี่ยน" เสียงราบเรียบของหลินเซียงดังขึ้น "ฉันเจอปัญหานิดหน่อย
ผู้หญิงคนนี้รู้จักลู่สือเยี่ยนจริง!ฟางฮ่าวทำหน้ายิ้มแป้น ถามซ่งจั่ว “คุณซ่ง ช่วงนี้งานยุ่งไหมครับ ผมอยากเลี้ยงข้าวคุณสักมื้อ”ซ่งจั่ว “ไม่สะดวกครับ”เขาปฏิเสธฟางฮ่าวโดยตรง ไม่จำเป็นต้องให้เกียรติพ่อของฟางฮ่าวยังต้องเคารพลู่สือเยี่ยน แล้วฟางฮ่าวเป็นใครกันฟางฮ่าวหน้าซีดทันทีหลินเซียงมองซืออวี่ “ฉันไปก่อนนะคะ คุณเองก็รีบกลับด้วย”ซืออวี่พยักหน้า “ระวังตัวด้วยนะ”“ค่ะ”หลินเซียงตามซ่งจั่วออกจากงานเลี้ยง เมื่อออกไปแล้ว ด้านนอกความมืดปกคลุม รถหรูจอดอยู่ข้างทางกระจกรถเปิดออก เผยให้เห็นใบหน้าของชายหนุ่ม ขณะนั้นเขาก้มหน้าเล็กน้อย ดูเหมือนจะอารมณ์ดีหลินเซียงก้าวเข้าไปในรถ พูดกับเขา “ขอบคุณที่ช่วยนะคะ”ดวงตาสีดำยาวของลู่สือเยี่ยนมองเธอ ริมฝีปากบางเผยอ “จะขอบคุณผมด้วยอะไรดีล่ะ”หลินเซียงหยุด ก้มหน้าลงเล็กน้อยนิ้วมือที่สวยงามของเขาเล่นกับไฟแช็ก เขาอยากสูบบุหรี่ แต่ก็ไม่ทำหลินเซียงเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วหยิบบุหรี่จากกระเป๋าของเขา คาบไว้ที่ริมฝีปาก จุดไฟจากมือเขาเธอดูดบุหรี่เบา ๆ จนแก้มบุ๋มลงเล็กน้อย ควันจาง ๆ พลันลอยคลุ้งออกมา บรรยากาศรอบตัวหญิงสาวพลันดูยั่วยวนขึ้นมาทันทีเธอ
หลินเซียงชะงัก มองเขาอย่างลืมตัวในรถมีแสงสลัว ใบหน้าของเขาถูกเงาคลุมจนมองไม่เห็นสีหน้าชัดเจนเธออ้าปากเหมือนจะพูดอะไร แต่จู่ ๆ ก็รู้สึกสับสน"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน"เธอเป็นเด็กกำพร้า ไม่เคยเห็นพ่อแม่อยู่ด้วยกัน จึงไม่รู้ว่าสามีและพ่อที่ดีควรเป็นแบบไหนแต่ครอบครัวของลู่สือเยี่ยนสมบูรณ์พรั่งพร้อมทำไมเขาถึงไม่รู้?หลินเซียงอยากถามมาก แต่ด้วยความสัมพันธ์ของพวกเขาในตอนนี้ ดูเหมือนไม่มีความจำเป็นต้องถามเรื่องพวกนี้รู้ไปแล้วจะเปลี่ยนอะไรได้ล่ะ?ลู่สือเยี่ยนพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ "ถ้าไม่รู้ ก็อยู่กันไปแบบนี้แหละ จะเรียกร้องอะไรนักหนา"หลินเซียงไม่พูดอะไรบรรยากาศในรถค่อนข้างอึดอัดทันใดนั้น โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น เธอหยิบขึ้นมาดู เป็นซ่งซ่งที่โทรมา"ฮัลโหล ซ่งซ่ง"หลินเซียงคิดว่าเธอเก็บของเสร็จแล้ว กำลังจะเดินทางออกไปแต่เสียงของซ่งซ่งฟังดูวุ่นวาย "เซียงเซียง ไอ้ลู่สือเยี่ยนนั่นส่งคนมาจับตัวฉัน! ฉัน... กรี๊ดดด!"แต่เธอยังพูดไม่จบ ก็มีเสียงดังอึกทึกดังมาจากในโทรศัพท์ ตามด้วยเสียงกรีดร้องของซ่งซ่ง แล้วสายก็ตัดไป"ฮัลโหล? ฮัลโหล?!"สีหน้าของหลินเซียงเคร่งขรึม แต่โทรศัพท์
"หลินเซียง คนของผมจับตัวซ่งซ่งไปจริง แต่ยังไม่รู้ว่าไปที่ไหน ผมกำลังส่งคนไปตามหาอยู่"เขาอธิบายกับเธอ เพราะเป็นเรื่องจริงที่คนของเขาจับตัวซ่งซ่งไปในกลุ่มลูกน้องของเขามีคนทรยศทำไมต้องจับตัวซ่งซ่ง? ใครเป็นคนสั่ง? ตอนนี้ยังต้องตรวจสอบแต่ตอนนี้ต้องอธิบายให้เธอเข้าใจก่อน"เรื่องนี้ คุณต้องบอกผม ผมถึงจะรู้" ลู่สือเยี่ยนพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำขนตาของหลินเซียงสั่นไหว เธอกำมือแน่น ถามเสียงเบา "คนของคุณจับตัวซ่งซ่งไปแท้ ๆ คุณจะไม่รู้ได้ยังไง?"เธอรู้สึกว่าเขากำลังหลอกเธอเขารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าซ่งซ่งเป็นจุดอ่อนของเธอ แค่จับตัวซ่งซ่งไว้ เขาจะให้เธอทำอะไร เธอก็ต้องยอมทำตามสีหน้าของลู่สือเยี่ยนมืดลง เขาก้าวเข้าไปหาเธอ "งั้นก็แสดงว่าคุณไม่เชื่อใจผม?"หลินเซียงไม่พูดอะไร แต่ก็เท่ากับว่าเธอยอมรับลู่สือเยี่ยนรู้สึกหงุดหงิดมาก สีหน้าของเขายิ่งแย่ลง"หลินเซียง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผม"เขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำหลินเซียงพูดว่า "งั้นคุณรีบหาเธอให้เจอ อย่าให้เธอเป็นอะไรไปได้ไหม"เสียงของเธอสั่นเทา แทบไม่กล้าจินตนาการว่าถ้าซ่งซ่งเป็นอะไรไป ชีวิตเธอจะเป็นยังไงลู่สือเยี่ยนไม่พูดอะไร สีหน้
ซ่งซ่งที่เคยดิ้นรนขัดขืนเริ่มหมดแรงลงทีละน้อย หัวใจเธอเต็มไปด้วยความสิ้นหวังวินาทีต่อมา แขนของเธอก็ถูกกระชาก เธอถูกดึงเข้าไปในอ้อมกอดที่เย็นยะเยือก"มัดไว้แบบนี้แหละ ยังไงต่อให้แกะมัดให้คุณ คุณก็พ่นแต่คำหยาบคายออกมา"เสียงผู้ชายดังขึ้นอย่างเกียจคร้านฟู่จิ่นซิ่วอุ้มเธอไปขึ้นรถอีกคัน วางเธอลงบนเบาะ ค่อย ๆ แกะเชือกที่มัดข้อมือเธอออก พลางโทรหาลู่สือเยี่ยน"สือเยี่ยน ฉันเจอคนแล้วนะ อืม จับคนพวกนั้นได้แล้ว ฉันให้คนส่งไปให้นายแล้ว อย่าลืมสอบสวนให้ดีล่ะ""อืม"เสียงเย็นชาของลู่สือเยี่ยนดังมาจากในโทรศัพท์ซ่งซ่งรู้สึกมึนงง แต่ก็ยังมีสติอยู่บ้าง เมื่อได้ยินดังนั้นก็ชะงักไปลู่สือเยี่ยนไม่ได้ส่งคนมาจับเธอหรอกเหรอ?แล้วทำไมบอดี้การ์ดพวกนั้นถึงบอกว่าประธานลู่เป็นคนสั่ง?ฉีก...ทันใดนั้น เทปกาวที่ปิดปากเธอก็ถูกฉีกออก ความเจ็บปวดทำให้เธอรู้สึกตัวขึ้นมาทันที"โอ๊ย..."เธอสูดหายใจด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าซีดเผือดฟู่จิ่นซิ่วมองเธอพลางหัวเราะเบา ๆ "เจ็บขนาดนั้นเลยเหรอ?"ผ้าปิดตาของซ่งซ่งยังไม่ได้แกะออก เมื่อได้ยินดังนั้นก็พูดว่า "นายลองแปะปากตัวเองดูสิ จะได้รู้ว่าเจ็บไหม"ฟู่จิ่นซิ่ว "
รถแล่นไปบนถนนอย่างรวดเร็ว ท้องฟ้าเริ่มมืดลงทีละน้อยมือและเท้าของซ่งซ่งถูกจับมัดอีกครั้ง แล้วโยนไว้ที่เบาะหลังสีหน้าของฟู่จิ่นซิ่วไม่สู้ดีนัก อารมณ์ของเขาเรียกได้ว่าแย่ถึงขีดสุด!ทำไมเขาต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วย?ถ้าผู้หญิงคนนี้ตายในมือเขาจะทำยังไง?เขาไม่อยากติดคุกนะ!เมื่อถึงบ้านพักตากอากาศที่ใกล้ที่สุด ฟู่จิ่นซิ่วก็อุ้มซ่งซ่งเข้าไปทันที พ่อบ้านเห็นภาพนี้ก็ถึงกับอ้าปากค้าง"คะ คุณชาย เรา เราทำเรื่องผิดกฎหมายไม่ได้นะครับ ถะ ถ้าคุณผู้หญิงรู้เข้าจะต้องเป็นลมแน่ ๆ!" พ่อบ้านเดินตามฟู่จิ่นซิ่วไป พูดโน้มน้าวด้วยความหวังดีที่สำคัญ ภาพแบบนี้มันดูไม่งามเท่าไหร่ผู้หญิงคนนั้นถูกมัดมือมัดเท้า แก้มแดงก่ำ ดวงตาพร่ามัว พึมพำอะไรบางอย่าง แต่คนทั่วไปดูก็รู้ว่าเธอไม่เต็มใจพ่อบ้านเฝ้ามองฟู่จิ่นซิ่วเติบโตมาตั้งแต่เด็ก อดคิดไม่ได้ว่าคุณชายที่น่ารักในวัยเด็ก ทำไมโตมาแล้วถึงได้เอาแต่ใจขนาดนี้ แต่ก็ไม่เคยทำเรื่องผิดศีลธรรมแบบนี้ตอนนี้ก็ห้ามทำเด็ดขาด!ฟู่จิ่นซิ่วเดินขึ้นไปชั้นบน มองพ่อบ้านด้วยสายตาประหลาดใจ "คุณคิดว่าผมชอบผู้หญิงแนวนี้เหรอ?"พ่อบ้าน "หา?"ฟู่จิ่นซิ่วพูดว่า "ไปซื้อชุดผู้หญิง
ลู่สือเยี่ยนและหลินเซียงมาถึงภายในหนึ่งชั่วโมง หลินเซียงวิ่งขึ้นบันไดอย่างรวดเร็ว พอเห็นซ่งซ่งยังนั่งแช่น้ำเย็นอยู่ในอ่างน้ำ ใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง“ซ่งซ่ง?”หลินเซียงเอื้อมมือไปแตะที่ใบหน้าเธออย่างสั่นเทาซ่งซ่งลืมตาขึ้นมองเธอ แล้วส่งยิ้มที่ดูน่าเวทนายิ่งกว่าร้องไห้ให้เธอ “เซียงเซียง ฉันเกือบตายแล้ว ฉันจะต้องจัดการพวกสัตว์เดรัจฉานพวกนั้นให้สาสม!”หลินเซียงคว้าผ้าขนหนูข้าง ๆ มาหุ้มตัวเธอไว้ แล้วถามว่า “เดินไหวไหม?”ซ่งซ่งพยักหน้า “ฤทธิ์ยาเริ่มหมดแล้ว”ดวงตาที่งดงามของหลินเซียงฉายแววเย็นชา เธอประคองซ่งซ่งออกจากห้องน้ำ แม่บ้านเตรียมชุดผู้หญิงไว้บนตู้แล้ว หลินเซียงเดินไปหยิบมาให้เธอ “เปลี่ยนมาใส่ชุดนี้ก่อน แล้วเราไปแก้แค้นกัน”พอซ่งซ่งได้ยินแบบนั้น เธอก็รู้สึกมีพลังขึ้นมาทันที รีบเช็ดตัวให้แห้งและเปลี่ยนเสื้อผ้า“โอ้โห ใหญ่อะไรขนาดนี้!”ซ่งซ่งบ่นเมื่อมองเสื้อผ้าตัวหลวมโพรกบนตัวเธอ มันเป็นชุดกีฬาเรียบ ๆ แต่พอเธอสวมแล้วดูเหมือนเด็กใส่เสื้อผ้าผู้ใหญ่หลินเซียงมองแล้วพูดว่า “ใส่แบบนี้ไปก่อนเถอะ อย่างน้อยก็ดีกว่าใส่ชุดเปียก ๆ ออกไปนะ”ซ่งซ่งพับขากางเกงขึ้นหลายชั้น รว
ซ่งซ่ง “สบายใจได้เลย ไอ้บ้านั่นแกล้งฉันไม่ลงหรอก พอฉันเบื่อก็จะถีบหัวส่งเอง”หลินเซียงรู้สึกไม่ค่อยดีกลัวที่สุดคือซ่งซ่งจะเล่นจนพลาด ทำให้ฟู่จิ่นซิ่วน้อยใจ เขาอาจจะเลวร้ายกว่าลู่สือเยี่ยนเสียอีกหลินเซียงบอกความกังวลของเธอ “ยังไงก็ระวังตัวด้วยนะ”ซ่งซ่ง “ได้ ๆ รู้แล้ว”หลินเซียง “งั้นฉันไม่รบกวนเวลาทำงานแล้ว ไปก่อนนะ บาย”“จุ๊บ จุ๊บ”…หลินเซียงกลับไปที่สตูดิโอโดยตรงสภาพจิตใจของเธอเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงสวี่ซิงเย่เป็นคนแรกที่สังเกตเห็น จึงถามด้วยรอยยิ้มว่า “เรื่องอะไรทำให้คุณมีความสุขขนาดนี้ครับ?”หลินเซียงประหลาดใจ “เห็นได้ชัดขนาดนั้นเลยเหรอ?”สวี่ซิงเย่พยักหน้า “ชัดแจ๋วเลย ก่อนหน้านี้คุณทำงานไม่เคยยิ้ม วันนี้ยิ้มตลอดเวลา”หลินเซียงลูบหน้า แล้วพูดว่า “อืม ปิดการขายได้น่ะ เซ็นสัญญาเสร็จเรียบร้อย ใกล้จะรวยแล้ว ก็เลยมีความสุข”สวี่ซิงเย่ “งั้นก็ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ”“ขอบคุณ”หลินเซียงยิ้มเล็กน้อย แล้วหันไปเปิดคอมพิวเตอร์เธอมองไปรอบ ๆ ออฟฟิศ พบว่าวันนี้ซืออวี่ไม่ได้มา แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจ แล้วเริ่มทำงานทันทีที่โรงพยาบาลลู่สือเยี่ยนโยนใบหย่าลงตรงหน้าคุณย่าลู่ ดึ
หลินเซียงรู้สึกสงสัยเล็กน้อย “ทำไมจดล็อบบี้ไม่ได้เหรอคะ?”เจ้าหน้าที่กล่าวว่า “คุณผู้หญิง วันนี้ที่ล็อบบี้คนเยอะ เชิญทั้งสองท่านไปชั้นบนดีกว่า”หลินเซียงเหลือบมองไปที่เคาน์เตอร์รับเรื่องหย่า เห็นว่าคนแน่นจริง ๆอย่างนี้นี่เอง สมัยนี้การแต่งงานส่วนใหญ่คงไปกันไม่รอดสินะ?เธอไม่คิดอะไรมาก รีบตามเจ้าหน้าที่ขึ้นไปชั้นบนในห้องทำงานของนายทะเบียน ทั้งสองคนกรอกเอกสารเพิ่มเติม แล้วก็เข้าสู่เรื่องการแบ่งทรัพย์สินลู่สือเยี่ยนหยิบสัญญาฉบับหนึ่งให้เธอ “นี่คือค่าชดเชยให้คุณ”หลินเซียงรับมาดู พอเห็นชื่อบางชื่อ ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างบ้านที่เฟิงหลินหย่วน เขากลับยกให้เธอบ้านหลังนั้นเธอขายไปแล้วไม่ใช่เหรอ?เขาซื้อคืนมาเมื่อไหร่?หรือว่าเป็นอีกหลังหนึ่ง?นั่นเป็นบ้านหลังใหญ่หลังแรกที่เขาให้เธอ มีความทรงจำดี ๆ เธอยังคงชอบมันอยู่เธอมองลงไปด้านล่าง ยังมีค่าชดเชยการหย่าอีกห้าสิบล้านเยี่ยมไปเลย เธอกลายเป็นมหาเศรษฐีแล้วลู่สือเยี่ยนจ้องมองเธออย่างลึกซึ้ง “มีอะไรสงสัยไหม?”หลินเซียงส่ายหัว “ไม่มีค่ะ”จากนั้นก็ถึงขั้นตอนการเซ็นชื่อไม่นาน นายทะเบียนก็มอบใบหย่าให้ทั้งสองคนแต่ลู่สือเยี่ยนไม
หลินเซียงกลับไปที่สตูดิโอสวี่ซิงเย่เห็นสีหน้าที่ผิดปกติของเธอ จึงถามว่า “หลินเซียง คุณไม่สบายหรือเปล่าครับ?”หลินเซียงส่ายหัว “เปล่า อาจจะแค่พักผ่อนไม่เพียงพอ”สวี่ซิงเย่กังวลเล็กน้อย “ยังมีอะไรที่ยังทำไม่เสร็จอยู่ไหมครับ? ให้ผมช่วยก็ได้ ผมจะช่วยคุณเอง”หลินเซียง “ไม่มีแล้ว ขอบคุณมาก”สวี่ซิงเย่ยังอยากจะพูดอะไรอีก ซืออวี่ก็เดินเข้ามา “เสี่ยวสวี่ ออกไปข้างนอกกับฉันหน่อย!”สวี่ซิงเย่พยักหน้า “ได้ครับ”ช่วงนี้ ซืออวี่มักจะพาสวี่ซิงเย่ออกไปข้างนอก เขามีความสามารถ แถมยังดื่มเหล้าเก่ง ถนัดการเข้าร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ทางธุรกิจมากมาย ด้วยความสามารถของเขาทำให้ดึงดูดทรัพยากรได้มาก ตอนนี้เริ่มทำแบบร่างโครงการด้วยตัวเองแล้วหลินเซียงมองตามพวกเขาออกไป ในใจเกิดความสงสัยเล็กน้อยช่วงนี้งานเลี้ยงเยอะเกินไปหรือเปล่า?ก่อนหน้านี้ไม่เห็นจะเป็นแบบนี้เลยสวี่ซินหรานพูดขึ้นมาทันที “หึ ก่อนหน้านี้บอสมักจะพาเธอออกไป ให้ความสำคัญกับเธอมาก ตอนนี้เป็นไงล่ะ ดูเหมือนความสามารถของสวี่ซิงเย่จะโดดเด่นกว่าเธอนะ”หลินเซียง “งั้นเธอมีดีอะไรบ้างล่ะ?”สวี่ซินหรานอึ้ง ไม่คิดว่าเธอจะโต้กลับหลินเซียงมองเธออย่
คุณย่าลู่ขู่จะตาย! สีหน้าของลู่สือเยี่ยนเปลี่ยนไปทันทีเซี่ยหว่านรีบเข้าไป พร้อมกับร้องไห้พูดว่า “คุณย่าลู่ค่ะ อย่าพูดอย่างนั้นเลย ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าสุขภาพของคุณแล้วค่ะ เราไปตรวจกันก่อนดีไหมคะ?”คุณย่าลู่มองเธอด้วยความปลื้มปิติ “หว่านหว่าน เธอนี่เป็นเด็กดีจริง ๆ ตระกูลลู่เป็นหนี้เธอมากเกินไปแล้ว ถ้าฉันไม่ทำอะไรสักอย่าง สู้ตายไปยังไม่เจ็บช้ำเท่า”เซี่ยหว่านร้องไห้จนพูดไม่ออก!สถานการณ์ตึงเครียดขึ้นมาทันทีลู่สือเยี่ยนไม่ยอม คุณย่าลู่ก็ยิ่งหน้าซีดลงเรื่อย ๆ เธอจับจ้องราวกับจะคาดคั้นรอการตัดสินใจของเขาหลินเซียงเดินเข้าไป มองลู่สือเยี่ยนแล้วพูดว่า “เราไปหย่ากันก่อนเถอะ สุขภาพของย่าสำคัญกว่า”คุณย่าลู่มองลู่สือเยี่ยนด้วยความกระวนกระวายลู่สือเยี่ยนหันไปมองหลินเซียงอย่างรวดเร็ว กระตุกมุมปาก “ผลลัพธ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้ คุณคงพอใจแล้วใช่ไหม?”หลินเซียงเม้มริมฝีปาก พูดว่า “แต่สุขภาพของย่าสำคัญกว่า”ลู่สือเยี่ยนพยักหน้า “ได้ หย่าก็หย่า”คุณย่าลู่ก็โล่งใจขึ้นมาทันที นอนลงบนเตียงแล้วหลับไปหมอและพยาบาลพาคุณย่าลู่ไปห้องตรวจเซี่ยหว่านเช็ดน้ำตาบนใบหน้า มองลู่สือเยี่ยนแล้วพูดว่า “สือเยี่
คุณย่าลู่ “จะมีใครทำร้ายเธอได้ยังไง? นั่นเป็นแค่การคาดเดาของเธอเท่านั้น”“เหอะ!”ลู่สือเยี่ยนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดต่อ “คุณย่าครับ คนคนหนึ่งที่เพิ่งฟื้นขึ้นมาแต่ความจำเสื่อม จะไปอยู่บนถนนได้ยังไง? คนดูแลที่บ้านเราล่ะ? หายหัวไปไหนหมด?”คุณย่าลู่เงียบไปลู่สือเยี่ยนพูดต่อ “ตอนนั้นเธอเป็นคนที่ช่วยผม พาผมกลับบ้าน ถ้าไม่ใช่เธอ วันนี้ย่าก็คงไม่ได้เจอหน้าผมแล้ว”คุณย่าลู่มองหลินเซียง แล้วพูดขึ้นมาทันทีว่า “ความจริงเป็นแค่เรื่องบังเอิญหรือเปล่า ตอนนี้ยังสรุปไม่ได้ ถ้าเกิดเธอรู้ตัวตนของหลานตั้งแต่แรกล่ะ?”“ฉันไม่รู้ค่ะ”หลินเซียงรู้สึกว่าเธอควรจะพูดอะไรสักอย่างเธอมองคุณย่าลู่อย่างสงบ “คุณย่าคะ ฉันไม่รู้ว่าทำไมคุณย่าถึงได้เกลียดฉันขนาดนี้ แต่เมื่อก่อนย่าไม่ใช่แบบนี้ แถมยังชอบฉันมาก ถึงกับบอกเขาว่า ถ้าเขาทำร้ายฉัน คุณย่าจะช่วยฉันตีเขา ฉันยังจำคำพูดพวกนั้นได้อยู่เลย”เธอหายใจออกเบา ๆ แล้วพูดต่อ “แต่แน่นอนค่ะ คุณย่าจำไม่ได้ งั้นก็ไม่สำคัญแล้ว ฉันไม่รู้จักตัวตนของเขาตั้งแต่แรก จนกระทั่งเขาได้ความทรงจำกลับมา แล้วมาเปิดตัวในที่ที่ฉันทำงานอยู่ ฉันถึงได้รู้จักตัวตนของเขา”คุณย่าลู่เงียบไป ใบหน้
หลินเซียงมองคุณย่าลู่ด้วยความประหลาดใจไม่เคยคิดมาก่อนว่าคุณย่าที่เคยใจดีกับเธอ ในระดับที่เรียกว่าเอาใจใส่ กลับคิดร้ายกับเธอแบบนี้ แล้วยังมองเธอด้วยสายตาเย็นชาหลินเซียงรู้สึกเจ็บปวดในใจที่แท้ไม่ใช่แค่ตอนที่ลู่สือเยี่ยนทำร้ายเธอเท่านั้นถึงจะรู้สึกเจ็บปวดการถูกคนที่เคยสนิทสนมทำร้าย ใจก็เจ็บปวดเช่นกันเธอเม้มริมฝีปาก แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาลู่สือเยี่ยน“ฮัลโหล?”ไม่นานปลายสายก็รับ ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มดังขึ้นหลินเซียงบอกว่า “คุณย่ามีเรื่องจะพูดกับพวกเรา ตอนนี้คุณช่วยมาโรงพยาบาลหน่อย”ลู่สือเยี่ยนถามว่า “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”หลินเซียง “มาถึงเดี๋ยวก็รู้เอง”พูดจบก็วางสายไปเรื่องหย่าควรจะพูดต่อหน้าทั้งสองคนจะดีกว่าบอกกับเธอแค่คนเดียวมีประโยชน์อะไร?เธออยากหย่า แต่ลู่สือเยี่ยนไม่ยอม คุณย่าลู่ก็ไม่เชื่อเธอทำผิดอะไร?ถึงได้ถูกปฏิบัติแบบนี้?หลินเซียงนั่งลงบนโซฟา ก้มหน้าลง ไม่มองคุณย่าลู่อีกนิสัยของเธอค่อนข้างแปลกถ้าคนคนนั้นทำร้ายเธอ ก็ยากที่จะเข้าไปอยู่ในใจเธอได้อีกคุณย่าลู่ไม่ค่อยชอบท่าทางของหลินเซียง จึงจับมือเซี่ยหว่านแล้วคุยต่อ เพราะชอบท่าทางอ่อนโยนขอ
หลังจากออกจากโรงพยาบาล ลู่สือเยี่ยนมองเธอ “อย่าคิดมาก คุณย่าแค่ลืมความทรงจำไปสองปีเท่านั้นเอง”หลินเซียงมองเขา แล้วถามว่า “แล้วถ้าคุณย่ายืนกรานจะให้คุณแต่งงานกับเซี่ยหว่านล่ะ?”ลู่สือเยี่ยนมองเธออย่างลึกซึ้ง “หลินเซียง เธอควรเลิกคิดเรื่องนี้นะ เพราะผมไม่หย่ากับคุณแน่”หลินเซียงอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ แล้วพูดว่า “จริง ๆ แล้ว เราหย่ากันก็ไม่เลวนะ ฉัน…”“หยุด!”ลู่สือเยี่ยนมองเธอด้วยความหงุดหงิด “ฟังที่ผมพูดไม่รู้เรื่องเหรอ? ถ้าพูดถึงเรื่องหย่าอีก ผมจับคุณขังไว้แน่!”ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ รอบตัวเต็มไปด้วยออร่าเย็นชาหลินเซียงหยุดชะงัก ไม่พูดต่อเพราะเขาทำได้จริงเมื่อหันหลังเดินไป ใบหน้าเล็ก ๆ นั้นเย็นชายิ่งกว่าเก่าลู่สือเยี่ยนมองตามหลังเธอไป ริมฝีปากบางเม้มเป็นเส้นตรงเขาเปิดประตูแล้วก้าวขึ้นรถ สีหน้ามืดครึ้มอย่างที่สุดในขณะนั้น เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์เขาดังขึ้น เขาหยิบขึ้นมาดู เป็นสายจากซืออวี่“พูดมา!”ซืออวี่ตกใจกับน้ำเสียงเย็นชาของเขา ก่อนจะกลืนน้ำลายอึกใหญ่ “พี่ใหญ่ ฉันสืบได้เรื่องบ้างแล้ว แต่คนคนนั้นฉลาดเป็นกรด ปกปิดตัวตนได้ดีมาก รู้แค่ว่าเป็นผู้ชาย”ลู่สือเยี
วันรุ่งขึ้น ทั้งสองคนไปที่โรงพยาบาลคุณย่าลู่ทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว อวิ๋นหลานนั่งคุยกับเธออยู่“คุณย่าครับ”ลู่สือเยี่ยนเดินเข้าไปเรียกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนคุณย่าลู่เห็นเขา ใบหน้าที่แก่ชราพลันมีรอยยิ้ม“สือเยี่ยน เธอมาแล้ว” คุณย่าลู่จับมือเขาไว้ มองใบหน้าหล่อเหลาของเขาแล้วพูดขึ้นมาทันทีว่า “สือเยี่ยน ทำไมดูเปลี่ยนไปจังเลย? ดูเหมือนจะโตขึ้นมากเลยนะ”ริมฝีปากบางของลู่สือเยี่ยนโค้งเป็นรอยยิ้ม “โตขึ้นแล้วไม่ดีเหรอครับ?”คุณย่าลู่พยักหน้า “ดี แน่นอนว่าดี แต่ฉันยังชอบเธอตอนเด็ก ๆ ที่ไร้เดียงสามากกว่า เอาแต่วิ่งตามหลังพี่ชายตลอดเวลา แล้วยังทำหน้าบึ้งใส่เขา มีแต่พี่ชายที่ตามใจ ถ้าเป็นคนอื่นคงตีเธอไปแล้ว”รอยยิ้มที่มุมปากของลู่สือเยี่ยนแข็งทื่อไปชั่วขณะคุณย่าลู่สังเกตเห็นหลินเซียงในตอนนี้ จึงถามว่า “แล้วเธอล่ะ มายังไง?”ลู่สือเยี่ยนบอกว่า “ย่าครับ เธอเป็นภรรยาผม หลินเซียง”หลินเซียงมองคุณย่าลู่ “คุณย่า”คิ้วของคุณย่าลู่ขมวดเข้าหากันทันที เธอปล่อยมือลู่สือเยี่ยน “ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าจะแต่งงานกับหว่านหว่านไม่ใช่เหรอ? ฉันเห็นว่าเด็กคนนั้นก็ใช้ได้นะ ทำไมถึงแต่งงานกับคนอื่นล่ะ?”ท่าทีนั้
ใบหน้าของลู่สือเยี่ยนแสดงออกถึงความซับซ้อนเล็กน้อย เขาพูดอย่างสงบว่า “เรื่องนี้ยังบอกไม่ได้ ต้องรอผลตรวจของแพทย์”หลินเซียงพยักหน้า ตอนนี้คงทำได้แค่นี้ลู่เจิ้งหรงมองหลินเซียงด้วยสายตาไม่เป็นมิตร แล้วพูดกับลู่สือเยี่ยนว่า “อาการของย่าแกดูเหมือนจะดีขึ้น ความคิดของผู้ใหญ่ แกคงรู้ดี น่าจะอยากเห็นแกแต่งงานกับหว่านหว่าน ตอนนั้นแกเป็นคนพาหว่านหว่านไปหาท่านเอง ตอนนี้ถ้าท่านขอร้อง แกก็ปฏิเสธไม่ได้”อวิ๋นหลานกล่าวว่า “เจิ้งหรง แต่สือเยี่ยนกับหลินเซียงรักกันดี ทำแบบนี้ไม่ค่อยดีหรอกมั้ง?”“เหอะ!” ลู่เจิ้งหรงหัวเราะเยาะ “รักกันดี? หลินเซียงไม่ใช่เหรอที่อยากหย่ามาตลอด? ใช้โอกาสนี้หย่ากันไปซะสิ ไม่ต้องมีใครขัดขวางใคร!”อวิ๋นหลานมองหลินเซียงด้วยความกังวล กลัวว่าเธอจะเสียใจแต่หลินเซียงเหมือนไม่ได้ยิน ยืนอยู่มุมห้อง ก้มหน้าลง ปากสวยเม้มเป็นเส้นตรงลู่สือเยี่ยนไม่ได้สนใจคำพูดของลู่เจิ้งหรงเลยเขาตามหาลู่จิ้นหนานจนแทบคลั่ง ยังมีเวลาสนใจเรื่องของเขากับหลินเซียงอีกเหรอ?ดูเหมือนว่าเขาควรหาอะไรให้อีกฝ่ายทำบ้าง!ประมาณสองชั่วโมงผ่านไปผลการตรวจของคุณย่าลู่ออกมาแล้วแพทย์ถือรายงานผลการตรวจแล้วพูด