ผู้หญิงคนนี้รู้จักลู่สือเยี่ยนจริง!ฟางฮ่าวทำหน้ายิ้มแป้น ถามซ่งจั่ว “คุณซ่ง ช่วงนี้งานยุ่งไหมครับ ผมอยากเลี้ยงข้าวคุณสักมื้อ”ซ่งจั่ว “ไม่สะดวกครับ”เขาปฏิเสธฟางฮ่าวโดยตรง ไม่จำเป็นต้องให้เกียรติพ่อของฟางฮ่าวยังต้องเคารพลู่สือเยี่ยน แล้วฟางฮ่าวเป็นใครกันฟางฮ่าวหน้าซีดทันทีหลินเซียงมองซืออวี่ “ฉันไปก่อนนะคะ คุณเองก็รีบกลับด้วย”ซืออวี่พยักหน้า “ระวังตัวด้วยนะ”“ค่ะ”หลินเซียงตามซ่งจั่วออกจากงานเลี้ยง เมื่อออกไปแล้ว ด้านนอกความมืดปกคลุม รถหรูจอดอยู่ข้างทางกระจกรถเปิดออก เผยให้เห็นใบหน้าของชายหนุ่ม ขณะนั้นเขาก้มหน้าเล็กน้อย ดูเหมือนจะอารมณ์ดีหลินเซียงก้าวเข้าไปในรถ พูดกับเขา “ขอบคุณที่ช่วยนะคะ”ดวงตาสีดำยาวของลู่สือเยี่ยนมองเธอ ริมฝีปากบางเผยอ “จะขอบคุณผมด้วยอะไรดีล่ะ”หลินเซียงหยุด ก้มหน้าลงเล็กน้อยนิ้วมือที่สวยงามของเขาเล่นกับไฟแช็ก เขาอยากสูบบุหรี่ แต่ก็ไม่ทำหลินเซียงเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วหยิบบุหรี่จากกระเป๋าของเขา คาบไว้ที่ริมฝีปาก จุดไฟจากมือเขาเธอดูดบุหรี่เบา ๆ จนแก้มบุ๋มลงเล็กน้อย ควันจาง ๆ พลันลอยคลุ้งออกมา บรรยากาศรอบตัวหญิงสาวพลันดูยั่วยวนขึ้นมาทันทีเธอ
หลินเซียงชะงัก มองเขาอย่างลืมตัวในรถมีแสงสลัว ใบหน้าของเขาถูกเงาคลุมจนมองไม่เห็นสีหน้าชัดเจนเธออ้าปากเหมือนจะพูดอะไร แต่จู่ ๆ ก็รู้สึกสับสน"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน"เธอเป็นเด็กกำพร้า ไม่เคยเห็นพ่อแม่อยู่ด้วยกัน จึงไม่รู้ว่าสามีและพ่อที่ดีควรเป็นแบบไหนแต่ครอบครัวของลู่สือเยี่ยนสมบูรณ์พรั่งพร้อมทำไมเขาถึงไม่รู้?หลินเซียงอยากถามมาก แต่ด้วยความสัมพันธ์ของพวกเขาในตอนนี้ ดูเหมือนไม่มีความจำเป็นต้องถามเรื่องพวกนี้รู้ไปแล้วจะเปลี่ยนอะไรได้ล่ะ?ลู่สือเยี่ยนพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ "ถ้าไม่รู้ ก็อยู่กันไปแบบนี้แหละ จะเรียกร้องอะไรนักหนา"หลินเซียงไม่พูดอะไรบรรยากาศในรถค่อนข้างอึดอัดทันใดนั้น โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น เธอหยิบขึ้นมาดู เป็นซ่งซ่งที่โทรมา"ฮัลโหล ซ่งซ่ง"หลินเซียงคิดว่าเธอเก็บของเสร็จแล้ว กำลังจะเดินทางออกไปแต่เสียงของซ่งซ่งฟังดูวุ่นวาย "เซียงเซียง ไอ้ลู่สือเยี่ยนนั่นส่งคนมาจับตัวฉัน! ฉัน... กรี๊ดดด!"แต่เธอยังพูดไม่จบ ก็มีเสียงดังอึกทึกดังมาจากในโทรศัพท์ ตามด้วยเสียงกรีดร้องของซ่งซ่ง แล้วสายก็ตัดไป"ฮัลโหล? ฮัลโหล?!"สีหน้าของหลินเซียงเคร่งขรึม แต่โทรศัพท์
"หลินเซียง คนของผมจับตัวซ่งซ่งไปจริง แต่ยังไม่รู้ว่าไปที่ไหน ผมกำลังส่งคนไปตามหาอยู่"เขาอธิบายกับเธอ เพราะเป็นเรื่องจริงที่คนของเขาจับตัวซ่งซ่งไปในกลุ่มลูกน้องของเขามีคนทรยศทำไมต้องจับตัวซ่งซ่ง? ใครเป็นคนสั่ง? ตอนนี้ยังต้องตรวจสอบแต่ตอนนี้ต้องอธิบายให้เธอเข้าใจก่อน"เรื่องนี้ คุณต้องบอกผม ผมถึงจะรู้" ลู่สือเยี่ยนพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำขนตาของหลินเซียงสั่นไหว เธอกำมือแน่น ถามเสียงเบา "คนของคุณจับตัวซ่งซ่งไปแท้ ๆ คุณจะไม่รู้ได้ยังไง?"เธอรู้สึกว่าเขากำลังหลอกเธอเขารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าซ่งซ่งเป็นจุดอ่อนของเธอ แค่จับตัวซ่งซ่งไว้ เขาจะให้เธอทำอะไร เธอก็ต้องยอมทำตามสีหน้าของลู่สือเยี่ยนมืดลง เขาก้าวเข้าไปหาเธอ "งั้นก็แสดงว่าคุณไม่เชื่อใจผม?"หลินเซียงไม่พูดอะไร แต่ก็เท่ากับว่าเธอยอมรับลู่สือเยี่ยนรู้สึกหงุดหงิดมาก สีหน้าของเขายิ่งแย่ลง"หลินเซียง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผม"เขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำหลินเซียงพูดว่า "งั้นคุณรีบหาเธอให้เจอ อย่าให้เธอเป็นอะไรไปได้ไหม"เสียงของเธอสั่นเทา แทบไม่กล้าจินตนาการว่าถ้าซ่งซ่งเป็นอะไรไป ชีวิตเธอจะเป็นยังไงลู่สือเยี่ยนไม่พูดอะไร สีหน้
ซ่งซ่งที่เคยดิ้นรนขัดขืนเริ่มหมดแรงลงทีละน้อย หัวใจเธอเต็มไปด้วยความสิ้นหวังวินาทีต่อมา แขนของเธอก็ถูกกระชาก เธอถูกดึงเข้าไปในอ้อมกอดที่เย็นยะเยือก"มัดไว้แบบนี้แหละ ยังไงต่อให้แกะมัดให้คุณ คุณก็พ่นแต่คำหยาบคายออกมา"เสียงผู้ชายดังขึ้นอย่างเกียจคร้านฟู่จิ่นซิ่วอุ้มเธอไปขึ้นรถอีกคัน วางเธอลงบนเบาะ ค่อย ๆ แกะเชือกที่มัดข้อมือเธอออก พลางโทรหาลู่สือเยี่ยน"สือเยี่ยน ฉันเจอคนแล้วนะ อืม จับคนพวกนั้นได้แล้ว ฉันให้คนส่งไปให้นายแล้ว อย่าลืมสอบสวนให้ดีล่ะ""อืม"เสียงเย็นชาของลู่สือเยี่ยนดังมาจากในโทรศัพท์ซ่งซ่งรู้สึกมึนงง แต่ก็ยังมีสติอยู่บ้าง เมื่อได้ยินดังนั้นก็ชะงักไปลู่สือเยี่ยนไม่ได้ส่งคนมาจับเธอหรอกเหรอ?แล้วทำไมบอดี้การ์ดพวกนั้นถึงบอกว่าประธานลู่เป็นคนสั่ง?ฉีก...ทันใดนั้น เทปกาวที่ปิดปากเธอก็ถูกฉีกออก ความเจ็บปวดทำให้เธอรู้สึกตัวขึ้นมาทันที"โอ๊ย..."เธอสูดหายใจด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าซีดเผือดฟู่จิ่นซิ่วมองเธอพลางหัวเราะเบา ๆ "เจ็บขนาดนั้นเลยเหรอ?"ผ้าปิดตาของซ่งซ่งยังไม่ได้แกะออก เมื่อได้ยินดังนั้นก็พูดว่า "นายลองแปะปากตัวเองดูสิ จะได้รู้ว่าเจ็บไหม"ฟู่จิ่นซิ่ว "
รถแล่นไปบนถนนอย่างรวดเร็ว ท้องฟ้าเริ่มมืดลงทีละน้อยมือและเท้าของซ่งซ่งถูกจับมัดอีกครั้ง แล้วโยนไว้ที่เบาะหลังสีหน้าของฟู่จิ่นซิ่วไม่สู้ดีนัก อารมณ์ของเขาเรียกได้ว่าแย่ถึงขีดสุด!ทำไมเขาต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วย?ถ้าผู้หญิงคนนี้ตายในมือเขาจะทำยังไง?เขาไม่อยากติดคุกนะ!เมื่อถึงบ้านพักตากอากาศที่ใกล้ที่สุด ฟู่จิ่นซิ่วก็อุ้มซ่งซ่งเข้าไปทันที พ่อบ้านเห็นภาพนี้ก็ถึงกับอ้าปากค้าง"คะ คุณชาย เรา เราทำเรื่องผิดกฎหมายไม่ได้นะครับ ถะ ถ้าคุณผู้หญิงรู้เข้าจะต้องเป็นลมแน่ ๆ!" พ่อบ้านเดินตามฟู่จิ่นซิ่วไป พูดโน้มน้าวด้วยความหวังดีที่สำคัญ ภาพแบบนี้มันดูไม่งามเท่าไหร่ผู้หญิงคนนั้นถูกมัดมือมัดเท้า แก้มแดงก่ำ ดวงตาพร่ามัว พึมพำอะไรบางอย่าง แต่คนทั่วไปดูก็รู้ว่าเธอไม่เต็มใจพ่อบ้านเฝ้ามองฟู่จิ่นซิ่วเติบโตมาตั้งแต่เด็ก อดคิดไม่ได้ว่าคุณชายที่น่ารักในวัยเด็ก ทำไมโตมาแล้วถึงได้เอาแต่ใจขนาดนี้ แต่ก็ไม่เคยทำเรื่องผิดศีลธรรมแบบนี้ตอนนี้ก็ห้ามทำเด็ดขาด!ฟู่จิ่นซิ่วเดินขึ้นไปชั้นบน มองพ่อบ้านด้วยสายตาประหลาดใจ "คุณคิดว่าผมชอบผู้หญิงแนวนี้เหรอ?"พ่อบ้าน "หา?"ฟู่จิ่นซิ่วพูดว่า "ไปซื้อชุดผู้หญิง
ลู่สือเยี่ยนและหลินเซียงมาถึงภายในหนึ่งชั่วโมง หลินเซียงวิ่งขึ้นบันไดอย่างรวดเร็ว พอเห็นซ่งซ่งยังนั่งแช่น้ำเย็นอยู่ในอ่างน้ำ ใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง“ซ่งซ่ง?”หลินเซียงเอื้อมมือไปแตะที่ใบหน้าเธออย่างสั่นเทาซ่งซ่งลืมตาขึ้นมองเธอ แล้วส่งยิ้มที่ดูน่าเวทนายิ่งกว่าร้องไห้ให้เธอ “เซียงเซียง ฉันเกือบตายแล้ว ฉันจะต้องจัดการพวกสัตว์เดรัจฉานพวกนั้นให้สาสม!”หลินเซียงคว้าผ้าขนหนูข้าง ๆ มาหุ้มตัวเธอไว้ แล้วถามว่า “เดินไหวไหม?”ซ่งซ่งพยักหน้า “ฤทธิ์ยาเริ่มหมดแล้ว”ดวงตาที่งดงามของหลินเซียงฉายแววเย็นชา เธอประคองซ่งซ่งออกจากห้องน้ำ แม่บ้านเตรียมชุดผู้หญิงไว้บนตู้แล้ว หลินเซียงเดินไปหยิบมาให้เธอ “เปลี่ยนมาใส่ชุดนี้ก่อน แล้วเราไปแก้แค้นกัน”พอซ่งซ่งได้ยินแบบนั้น เธอก็รู้สึกมีพลังขึ้นมาทันที รีบเช็ดตัวให้แห้งและเปลี่ยนเสื้อผ้า“โอ้โห ใหญ่อะไรขนาดนี้!”ซ่งซ่งบ่นเมื่อมองเสื้อผ้าตัวหลวมโพรกบนตัวเธอ มันเป็นชุดกีฬาเรียบ ๆ แต่พอเธอสวมแล้วดูเหมือนเด็กใส่เสื้อผ้าผู้ใหญ่หลินเซียงมองแล้วพูดว่า “ใส่แบบนี้ไปก่อนเถอะ อย่างน้อยก็ดีกว่าใส่ชุดเปียก ๆ ออกไปนะ”ซ่งซ่งพับขากางเกงขึ้นหลายชั้น รว
บนรถลู่สือเยี่ยนหันไปมองหลินเซียง เห็นว่าอารมณ์ของเธอยังไม่ดี จึงถามตรง ๆ ว่า “ทำไม? ผมไม่ใช่คนที่สั่งให้จับ ยังไม่พอใจอีกเหรอ?”หลินเซียงเงยหน้าขึ้นมองเขา “คุณไม่คิดว่าซ่งซ่งพูดความจริงบ้างเหรอ?”ริมฝีปากบางของลู่สือเยี่ยนยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเยาะเย้ย “ในสายตาคุณ เธอพูดถูกทุกคำเลยใช่ไหม?”หลินเซียงเงียบไปครู่หนึ่ง ใช่แล้ว พอเกิดเรื่องขึ้นซ่งซ่งก็คิดถึงเธอเป็นคนแรกลู่สือเยี่ยนหยิบบุหรี่จากกระเป๋าออกมาจุด หรี่ตาเฉียบคมลงเล็กน้อยแล้วพูดว่า “เรื่องหย่าเลิกคิดไปได้เลย ซือเยี่ยนคอยปกป้องคุณอยู่เบื้องหลัง จากนี้ผมจะจัดหาบอดี้การ์ดให้คุณอีกหลายคน”หลินเซียง “คงจะใช้เงินเยอะน่าดู?”ลู่สือเยี่ยนมองเธอ “ผมมีเงิน”หลินเซียงหัวเราะเบา ๆ ได้กลิ่นบุหรี่ก็รู้สึกเอียน จึงคว้าบุหรี่จากมือเขา เปิดกระจกรถแล้วโยนทิ้งออกไปปลายนิ้วเรียวบางว่างเปล่าลู่สือเยี่ยนมองเธออย่างประหลาดใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอแย่งบุหรี่เขาสายตาของเขาลึกซึ้งและแฝงไปด้วยความร้อนแรงที่กดดันหลินเซียงรู้สึกเสียใจที่แย่งบุหรี่เขาเธอพูดว่า “พวกเขาขับรถไปไกลแล้ว เราควรขับตาม”ลู่สือเยี่ยนมองเธออยู่นาน จึงหันกลับมามองถนน แล้
“ว้าย…”ซ่งซ่งเห็นภาพในห้องใต้ดิน ถึงกับอุทานเสียงดัง ใบหน้าซีดเผือดฟู่จิ่นซิ่วมองอยู่ข้าง ๆ พลางพูดจาเยาะเย้ย “อะไรกัน? กล้าได้แค่นี้เองเหรอ?”ด้านหลังลู่สือเยี่ยนปิดตาหลินเซียงทันที อกของเขาแนบชิดกับแผ่นหลังของเธอ เสียงทุ้มต่ำ “อย่ามอง”แต่หลินเซียงดึงมือเขาออก มองสามคนนั้นอย่างสงบ แล้วหันไปมองซ่งซ่ง “เป็นยังไงบ้าง?”ซ่งซ่ง “ฉัน… ฉันโอเค ยังมีแรงเดินได้…”หลินเซียง “…”เธอประคองเพื่อนเอาไว้ “งั้นออกไปก่อนเถอะ มีพวกเขาอยู่ที่นี่ พวกนั้นไม่รอดแน่”ซ่งซ่ง “อื้อ… อื้อ…”พูดไปก็ตัวสั่นไปหลินเซียงพยุงซ่งซ่งออกไป ลู่สือเยี่ยนมองตามหลังเธอฟู่จิ่นซิ่วพูดว่า “ไม่นึกว่าเธอจะใจกล้าขนาดนี้”ลู่สือเยี่ยนพูดว่า “ถ้าเธอเป็นคนขี้กลัว ฉันคงไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้หรอก”ผู้หญิงขวัญอ่อนขี้กลัว จะเก็บผู้ชายเข้าบ้านได้ยังไง?ฟู่จิ่นซิ่วรู้ว่าเขาหมายถึงอะไร จึงหัวเราะเบา ๆ “พูดถึงเรื่องนี้แล้ว เธอก็มีพระคุณต่อนายเหมือนกันนะ นายไม่คิดจะใช้ชีวิตกับเธออย่างมีความสุขบ้างเหรอ?”ลู่สือเยี่ยนตอบกลับ “ฉันกำลังคิดอยู่”แต่ทิศทางของความพยายามดูเหมือนจะผิดพลาดไปหลินเซียงไม่ชอบรูปแบบการใช้ชีวิตร่วม
ซ่งซ่งนอนไม่หลับ พลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง ทั้งตื่นเต้นและกังวลใจ เมื่อคิดว่าตัวเองกำลังจะออกจากเมืองอวิ๋น ออกไปจากฟู่จิ่นซิ่ว คนที่น่ารังเกียจนั่น เธอก็รู้สึกตื่นเต้นแทบแย่แทบนับเวลาถอยหลัง“ปัง ปัง ปัง!”แต่ในขณะนั้นเอง เสียงเคาะประตูดังสนั่นก็ดังขึ้นซ่งซ่งตกใจ รีบลุกขึ้นมองออกไปข้างนอก เด็กผู้หญิงก็ตกใจตื่นเช่นกัน “ใครน่ะ?”ในใจของซ่งซ่งมีความรู้สึกไม่ดีแวบเข้ามา หรือว่าเขาจะตามทันแล้ว?เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?เธอลุกจากเตียงพูดว่า “ฉันไปดูเอง พวกเธออย่าออกมาล่ะ”เด็กผู้หญิงกังวลใจ “ซ่งซ่ง จะไม่เป็นไรใช่ไหม?”ซ่งซ่งพยักหน้า “ไม่ต้องห่วง ไม่มีอะไรหรอก”เธอสวมเสื้อผ้าออกจากบ้าน “ใคร?”เธอถามอย่างระมัดระวัง“ซ่งซ่ง ฉันเอง รีบออกมาเร็ว!”เสียงของหลินเซียงดังขึ้นที่หน้าประตูซ่งซ่งชะงัก รีบไปเปิดประตู “ที่รัก กลับมาทำไม?”เธอไม่ได้กลับบ้านไปแล้วเหรอ?พอคำนวณเวลาแล้ว ตอนนี้ควรจะถึงเฟิงหลินหย่วนแล้วสิหลินเซียงจับข้อมือเธอ สีหน้ากระวนกระวาย “ฉันเห็นรถของฟู่จิ่นซิ่ว เขาหาเธอเจอแล้ว ไปกันเร็ว!”เมื่อได้ยินดังนั้น ซ่งซ่งก็ตกตะลึง “หาฉันเจอแล้ว? หาฉันเจอได้ยังไง?”การเคลื่อนไหวขอ
หลินเซียงใส่ขนมปังกรอบลงในถุง จัดเตรียมให้เรียบร้อย พลางพูดว่า “เวลาจำกัด ฉันเลยทำแค่อาหารที่เก็บรักษาง่ายและรสชาติใช้ได้ ให้เธอมีอะไรรองท้องระหว่างทาง”เมื่อได้ยินแบบนั้น ซ่งซ่งก็กะพริบตา แล้ววิ่งเข้ามากอดเธอ “ที่รัก ทำไมน่ารักแบบนี้นะ หรือพวกเราหนีไปด้วยกันเลยดีไหม!”หลินเซียงยิ้ม “พอแล้ว ไปล้างหน้าเร็ว ฉันจะไปส่งเธอที่ชานเมือง”รถบัสรอบแรกมาถึงพรุ่งนี้เช้า ซ่งซ่งต้องไปรอตั้งแต่คืนนี้แต่ซ่งซ่งส่ายหน้า “ไม่ต้อง ฉันติดต่อคนไว้แล้ว เธอพักผ่อนที่บ้านเถอะ ฉันไม่เป็นไร”หลินเซียงพูดว่า “ไม่ได้ ถ้าฉันไม่ไปส่งเธอด้วยตัวเอง ฉันไม่สบายใจ”ซ่งซ่งมองสีหน้าจริงจังของเธอ รู้ว่าเธอตัดสินใจแล้ว จึงกอดเธออีกครั้ง “ฮือ ฮือ ไม่อยากจากเธอเลย”หลินเซียงพาเธอไปที่ห้องน้ำ ดูแลเธอขณะล้างหน้าล้างตา ตรวจสอบสิ่งของที่จำเป็นอาหาร เครื่องดื่ม และของใช้ส่วนตัวง่าย ๆ ล้วนเป็นแบบใช้แล้วทิ้งอืม เกือบครบแล้วหลังจากจัดของเสร็จ ทั้งสองคนก็อยู่ด้วยกันอีกพักหนึ่ง ก่อนจะออกเดินทางตอนตีสองเมืองอวิ๋นในยามดึกเงียบสงบ ถนนแทบไม่มีรถสัญจร ผู้คนยิ่งไม่มีหลินเซียงขับรถไปทางชานเมือง ส่วนซ่งซ่งก็พูดถึงความหวังในอน
หลินเซียง “…”แม้ว่าครั้งที่แล้วจะสังเกตเห็นความผิดปกติของคนทั้งสอง แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่ซ่งซ่งพูดออกมาในตอนนี้ เธอก็พูดอะไรไม่ออกการที่เรื่องราวพัฒนามาถึงจุดนี้ จริง ๆ แล้วมีร่องรอยให้เห็นฟู่จิ่นซิ่วให้ความสนใจกับซ่งซ่งมากเกินไป และซ่งซ่งก็ไม่ได้ระวังตัวเพียงแต่…ตอนนี้เพิ่งจะคิดได้ จะสายเกินไปหรือเปล่า?หลินเซียงพูดความกังวลของตัวเองออกมาซ่งซ่งเข้ามาใกล้ และกระซิบว่า “ที่รัก ฉันวางแผนไว้แล้ว ฉันจะไม่นั่งเครื่องบินหรือรถไฟ แต่จะนั่งรถบัสไป เป็นรถบัสแบบที่วิ่งตามท้องถนนในชนบท ตราบใดที่ฉันออกจากเมืองอวิ๋นไปได้อย่างปลอดภัย ถึงเขาจะอยากหาฉันก็หาไม่เจอ”หลินเซียงขมวดคิ้ว “แต่แบบนั้นไม่ปลอดภัยนะ”ซ่งซ่ง “ตอนนี้ฉันยังต้องสนใจเรื่องความปลอดภัยอยู่อีกเหรอ? ถ้ายังอยู่ในเมืองอวิ๋น ฉันก็ไม่ปลอดภัยอยู่ดี ฉันเลยต้องคิดแล้วตัดสินใจไปแบบกะทันหัน เขาคงเดาไม่ได้ว่าฉันจะไปเมื่อไหร่”หลินเซียงยังคงรู้สึกไม่ดี เปลี่ยนมาถามว่า “แล้วงานของเธอล่ะ?”ซ่งซ่งพูดว่า “ฉันขอลาออกแล้ว และวันนี้ก็เริ่มส่งใบสมัครงาน สร้างภาพลวงตาว่าฉันแค่อยากเปลี่ยนงานเฉยๆ”เธอวางแผนทุกอย่างไว้แล้ว หลินเซียงไม่รู้จะพูดอะ
บรรยากาศในลิฟต์ค่อนข้างแปลกประหลาดมีความเย็นชาปะปนกับความผ่อนคลาย บรรยากาศที่กดดันแผ่ซ่านไปทั่ว แต่เมื่อปะทะกับฉินโหย่วหานและหลินเซียง มันก็หายไปความรู้สึกแปลกประหลาดที่อธิบายไม่ได้ ทำให้รู้สึกอึดอัดลิฟต์เคลื่อนขึ้นไปอย่างราบรื่น ไม่นานประตูลิฟต์ก็เปิดออก ลู่สือเยี่ยนก้าวออกไปด้วยสีหน้าเย็นชาเป็นอย่างมากฉินโหย่วหานมองตามแผ่นหลังของเขา เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ เขาไม่ทำอะไรเลย นี่ไม่เหมือนนิสัยปกติของเขาหรือว่าเขาจะยอมปล่อยหลินเซียงแล้วจริง ๆ?ประตูลิฟต์ปิดลง สายตาของฉินโหย่วหานจับจ้องไปที่ใบหน้าของหลินเซียง แต่เห็นเธอมองประตูลิฟต์อย่างเหม่อลอยไม่ใช่สิ่งที่เธอมองน่าจะเป็นลู่สือเยี่ยนเพียงแต่ตอนนี้ประตูลิฟต์ปิดลง บดบังสายตาของเธอไว้ในดวงตาของฉินโหย่วหานมีความเย็นชาเพิ่มขึ้น เขาถามว่า “คิดอะไรอยู่?”ขนตาของหลินเซียงสั่นเล็กน้อย “ฉันแค่คิดว่า ในเรื่องนี้ เขากำลังรับบทบาทเป็นอะไร”ฉินโหย่วหานกล่าวว่า “ไม่ว่าเขาจะแสดงบทบาทไหน ก็ไม่เกี่ยวกับพวกเราแล้ว”หลินเซียงเหม่อลอยไปครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “คุณพูดถูก”เธอและลู่สือเยี่ยนหย่ากันแล้วดังนั้นจึงไม่มีความเกี่
ฉินโหย่วหานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “บอกเรื่องที่คุณรู้ทั้งหมดให้ผมฟังหน่อย”หลินเซียงพยักหน้า เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เขาฟังอย่างละเอียดครู่หนึ่ง ฉินโหย่วหานก็หัวเราะเบา ๆหลินเซียงมองเขา “เป็นอะไรไป?”ฉินโหย่วหานพูดว่า “หลินเซียง ผมขอเดาแบบบ้า ๆ เลยนะ”“พูดมาก่อนค่ะ” หลินเซียงมองเขาอย่างจริงจัง ในดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัยฉินโหย่วหานจอดรถข้างทาง เอามือวางบนพวงมาลัย บนใบหน้าหล่อเหลาและอ่อนโยนปรากฏรอยยิ้มขบขัน “คุณว่ามีความเป็นไปได้ไหม ที่มีคนปลอมตัวเป็นจ้าวข่ายไปทำเรื่องพวกนั้น แล้วโยนความผิดให้เขา?”เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาของหลินเซียงก็เบิกกว้างขึ้นเรื่อย ๆ มือของเธอกำขนมปังกรอบแน่นความเป็นไปได้นี้ เธอไม่เคยคิดถึงมาก่อน!เมื่อคิดดูให้ดี ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอหรือรูปถ่ายที่ลู่สือเยี่ยนให้เธอดู ‘จ้าวข่าย’ คนนั้นสวมหมวกและหน้ากากตลอดเวลา มองจากรูปร่างก็คิดว่าเป็นจ้าวข่ายได้ไม่ยากแต่ถ้าไม่ใช่ล่ะ?ถ้าเป็นแค่คนที่มีรูปร่างคล้ายกับจ้าวข่ายมาก ๆ ล่ะ?เมื่อนึกถึงห้องใต้ดินที่มืดมิด จ้าวข่ายที่ล้มลุกคลุกคลานอยู่บนพื้น พยายามอธิบายด้วยความเจ็บปวดเขาพูดมาตลอดว่าเขาไม่ได้ขโมย เ
“ตกใจมากใช่ไหม?” ซ่งจั่วมองสีหน้าตกตะลึงของเขาแล้วยิ้มขมขื่น“แหงล่ะ พวกเราทุกคนคิดว่าเซี่ยหว่านเป็นคนช่วยท่านประธานลู่จริง ๆ ถือว่าเธอเป็นผู้มีบุญคุณอย่างมาก แต่ต่อมาพวกเราก็รู้ความจริง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของตัวเอง เธอทำได้ทุกวิถีทาง”ซ่งจั่วเก็บแท็บเล็ต “ซือเยี่ยน สิ่งที่นายยึดมั่นมานานผิดทั้งหมด”“ทำไมเป็นแบบนี้?” ซือเยี่ยนพึมพำกับตัวเอง “ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้?”ลู่สือเยี่ยนมองเขาอย่างเย็นชา “อยู่กับฉันมานานขนาดนี้ หัวคิดไม่มีความก้าวหน้าเลยสักนิด”ซือเยี่ยนตัวสั่น มองลู่สือเยี่ยนด้วยสายตาอ้อนวอน “ท่านประธานลู่ครับ ผมรู้ตัวแล้วว่าผิด ผมสำนึกผิดจริง ๆ ได้โปรดให้โอกาสผมอีกครั้ง…”เสียงของเขาเริ่มสั่นเครือ ตัวสั่นสะท้านอย่างรุนแรงเพราะเขารู้ว่าลู่สือเยี่ยนจะไม่ให้โอกาสเขาอีกลู่สือเยี่ยนมองเขาอย่างเย็นชา แล้วพูดกับซ่งจั่วว่า “ตัดเอ็นข้อมือข้อเท้าเขาซะ แล้วเอาไปทิ้งที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำ”“ครับ”ซ่งจั่วรู้สึกสงสาร แต่นี่เป็นคำสั่งของลู่สือเยี่ยนลู่สือเยี่ยนหันหลังเดินจากไปซือเยี่ยนมองตามลู่สือเยี่ยนที่จากไปด้วยสีหน้าสิ้นหวัง ในดวงตาเต็มไปด้วยความเสียใจ!…หลินเซียงออกมา
สวีซินหรานหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรออก ในระหว่างนั้น สายตาของเธอมองไปยังหลินเซียงที่อยู่ไม่ไกลนัก ในดวงตาปรากฏความเคียดแค้น“ฮัลโหล คุณเซี่ย ช่วยฉันหน่อยได้ไหม? ฉันอยากฆ่าหลินเซียง นังสารเลวนั่น!”…ซืออวี่สังเกตเห็นความผิดปกติของหลินเซียงเธอเย็นชามาก ไม่สนใจอะไรเลย แต่ก็ยังคงทำงานที่ได้รับมอบหมายได้เป็นอย่างดีซืออวี่บอกข่าวนี้กับลู่สือเยี่ยนในขณะนั้น ลู่สือเยี่ยนกำลังดูสิ่งที่ซ่งจั่วได้มาจากการสืบสวน คิ้วขมวดแน่นฉินโหย่วหานจับเซี่ยหว่านขังไว้ในตู้คอนเทนเนอร์ ถือเป็นการแก้แค้นแทนหลินเซียง แต่สิ่งนี้เกี่ยวข้องอะไรกับการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเธอกัน?ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงต่ำ “จับตาดูซือเยี่ยนไว้ เขาดูไม่ปกติ”ซ่งจั่วชะงัก “คงไม่ใช่มั้งครับ เขาคอยปกป้องคุณหลินมาตลอดไม่ใช่เหรอ?”ลู่สือเยี่ยนพูดอย่างเย็นชา “บอกให้ไปก็ไป ทำไมต้องพูดมาก?”ซ่งจั่ว “ครับ”การตรวจสอบพฤติกรรมของซือเยี่ยนเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา แต่เมื่อเขาเห็นสิ่งที่ได้จากการตรวจสอบ เขาก็ตกใจมากช่วงเย็น ซ่งจั่วก็นำหลักฐานที่ได้มาส่งให้ลู่สือเยี่ยนเขามองลู่สือเยี่ยนอย่างหวาดหวั่น มือที่กำแน่นมีเหงื่อออกลู่สือเยี่ย
เขามองซ่งจั่วอย่างเย็นชา “เธอเป็นอะไรไป?”ซ่งจั่วทำหน้างง “ผม ผมไม่รู้ครับ”ตอนเจอหลินเซียงที่โรงพยาบาลก่อนหน้านี้ เธอยังไม่เป็นแบบนี้ แต่หลินเซียงตอนนี้ เรียกได้ว่าเย็นชาและไม่เป็นมิตรอย่างมากช่วงนี้เกิดอะไรขึ้นกับเธอ?ลู่สือเยี่ยนพูดเสียงเย็น “ไปสืบมาให้ชัดเจน”“ครับ” ซ่งจั่วพยักหน้าลู่สือเยี่ยนไม่ออกไป แต่ไปที่ชั้นใต้ดิน ราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้จึงพูดว่า “เรียกซือเยี่ยนมาพบฉัน”“ครับ”ดีเค กรุ๊ปทันทีที่ลู่สือเยี่ยนเข้าไปในห้องส่วนตัวของประธาน ซือเยี่ยนก็เคาะประตูห้อง“เข้ามา”ซือเยี่ยนเปิดประตูเข้าไป สีหน้าค่อนข้างเกร็ง “ท่านประธานลู่”ลู่สือเยี่ยนนั่งลงบนเก้าอี้ ถามด้วยเสียงเย็นชา “นายติดตามหลินเซียงมาตลอด เห็นความผิดปกติของเธอบ้างไหม?”ดวงตาของซือเยี่ยนกะพริบเล็กน้อย เมื่อคืนเขาไม่ได้ติดตามหลินเซียงตลอดเวลา แต่เรื่องก่อนหน้านี้ก็ยังพอจะตอบคำถามได้“ฉินโหย่วหานไปรับคุณหลิน แล้วทั้งสองคนไปที่ชายหาด ที่เดียวกับที่ที่คุณหลินถูกจับตัวไปครั้งก่อน” ซือเยี่ยนเริ่มเล่าเมื่อได้ยินดังนั้น ลู่สือเยี่ยนก็หรี่ตาลงเล็กน้อย “พวกเขาไปที่นั่นทำไม?”ซือเยี่ยน “ผม ผมไม่ทราบครับ ผมอย
สีหน้าของหลินเซียงชะงักไปเล็กน้อย นิ้วที่กำโทรศัพท์แน่นขึ้น เสียงพูดแห้งผาก “ฉันเหมือนจะไม่เคยพูดว่าเขารักฉันนี่คะ”เซี่ยซือซือถอนหายใจ “หลินเซียง พวกเราแพ้แล้ว”หลินเซียงหลับตาลง “ขอโทษนะคะ คุณเซี่ย แผนการฉันดันไปดึงคุณลงมาซวยด้วย ถ้ามันสร้างความเสียหายอะไรให้คุณ คุณบอกฉันได้เลย”เซี่ยซือซือหัวเราะขมขื่น “ไม่ ไม่มีอะไรเสียหาย ฉันเต็มใจร่วมมือกับคุณเอง ไม่ว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง ฉันก็ต้องรับผิดชอบ”หลินเซียงพูดอะไรไม่ออก เพราะพวกเขาไม่เคยคิดว่าเรื่องราวจะดำเนินไปในทิศทางนี้ไม่เคยคิดเลยว่าลู่สือเยี่ยนจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเซี่ยหว่านทำไมกัน?คำถามนี้ เธอคิดไม่ตกมาตลอดทำไมเขาต้องช่วยเซี่ยหว่าน?ในใจของหลินเซียง ตอนนี้มีความรู้สึกอยากจะไปหาลู่สือเยี่ยน ถามเขาว่านี่มันหมายความว่ายังไงกันแน่เสียงของเซี่ยซือซือดังขึ้น “หลินเซียง ฉันขอจัดการเรื่องของตัวเองก่อน มีความคืบหน้าอะไร เราค่อยติดต่อกันใหม่”“ค่ะ”หลังจากวางสายหลินเซียงยังคงอยู่ในสภาพเหม่อลอยไม่รู้ทำไม เสียงของเซี่ยซือซือถึงดังก้องอยู่ในหูเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าลู่สือเยี่ยนรักเธอจริงเหรอ?เคยรักจริง ๆ บ้างหรือเปล่า?