บทที่ 7
...
“ทำไมต้องอยากรู้อะไรที่ไม่เกี่ยวกับงานด้วยวะ”
“ก็กูตื่นเต้น ว่ากูกำลังจะมีน้องสะใภ้หรือเปล่านี่หว่า”
“ไม่ใช่แม่บ้าน”
“เห้ย! งั้นก็น้องสะใภ้!”
“นั่นก็ไม่ใช่”
“อ่าว! เหี้ยไรเนี่ย”
“จะบอกว่าไง ก็ไม่ได้เป็นอะไรที่สำคัญขนาดนั้น.. พอดีลูกหนี้กูไม่มีเงินใช้ แล้วเอาตัวลูกสาวมาใช้หนี้ .. เธอก็มีฐานะแบบนั้นแหละ”
“กูไม่โอเคนะราชันย์ ถ้ามึงจะทำกับผู้หญิงแบบนี้ มึงขืนใจเขาหรอ”
“กูไม่เคยขืนใจใคร มึงก็รู้”
“แล้วมึงจะทำไงต่อไป มึงก็รู้ว่าคนแบบพวกเราศัตรูเยอะขนาดไหน”
“แต่เธอไม่ใช่จุดอ่อนของกูไงมังกร เธอก็เป็นแค่นางบำเรอถึงเวลาก็หายไป ก็เท่านั้น กูไม่ได้คิดอะไรมากกว่านี้”
“พูดเรื่องอะไรกันอยู่หรอเฮีย”
ทั้งราชันย์และมังกรที่กำลังคุยกันโดยที่ไม่ได้ยินเสียงการเปิดประตูเข้ามาของพราวฟ้าและกอหญ้า ต่างก็ชะงักและกลืนน้ำลายลงคอทั้งคู่ที่รับรู้ว่าไม่ได้มีแค่เขาสองคน กอหญ้าที่ยืนเฉย ๆ อยู่ด้านหลังพราวฟ้าไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่เธอได้ยินเกือบทุกคำที่ทั้งคู่คุยกัน แม้จะได้ยินแค่ช่วงท้าย ๆ เพราะพราวฟ้าบอกว่าลืมกระเป๋าเงินไว้ขอขึ้นมาเอาก่อน
แม้จะรู้ว่าฐานะของตัวเองคืออะไรแต่เมื่อได้ยินกับปากของเขา มันทำให้หน้าอกข้างซ้ายของเธอกลับปวดหนึบขึ้นมาอย่างช่วยได้ราวกับว่ามันกำลังจะแตกออกมาเป็นเสี่ยง ๆ บรรยากาศแปลก ๆ นี้ยังคงดำเนินไปไม่มีท่าทีว่าจะมีใครพูดอะไรขึ้นมาเลยสักคน
พราวฟ้าเอื้อมมือไปกำมือกอหญ้าแล้วเธอก็ต้องหันไปมองเธอทันทีเพราะตอนนี้มือของกอหญ้าสั่นมากทำให้พราวฟ้าเข้าใจในทันทีว่าสำหรับกอหญ้าแล้วไม่ใช่แค่นายจ้างหรือเจ้าหนี้ พราวฟ้ามองเข้าไปในดวงตาของเธอที่ตอนนี้มันกำลังสั่นระริกราวกับว่ากำลังกักเก็บหยดน้ำตาเอาไว้กลัวว่ามันจะหล่นออกมาอย่างไรอย่างนั้น
พราวฟ้าละมือจากเธอก่อนจะเดินเข้าไปหยิบกระเป๋าเงินและมือถือออกมา คว้าข้อมือเล็ก ๆ ของกอหญ้าให้เดินตามมา ปิดประตูเสียงดังราวกับว่ามีไม่สบอารมณ์มาก ๆ ก่อนจะนึกขึ้นได้และเปิดประตูเข้าไปอีกครั้งก็ยังเห็นว่าทั้งคู่ยังอยู่ที่ท่าเดิม ไม่มีใครขยับหรือพูดอะไรเลย
“วันนี้พราวขอยืมตัวกอหญ้าวันหนึ่งนะ ส่วนข้าว ก็หากินกันเอง!”
พราวฟ้าพูดจบก็ปิดประตูอีกครั้ง เธอยืนมองกอหญ้าที่เมื่อพ้นสายตาของราชันย์แล้ว น้ำตาเม็ดโต ๆ ก็ร่วงลงมาทันที ราวกับว่ามันไม่สามารถกลั้นเอาไว้ได้แล้วอย่างไรอย่างนั้น พราวฟ้าไม่ถามอะไรให้เธอไม่สบายใจ ฝ่ามือของเธอยกขึ้นไปลูบเส้นผมของกอหญ้าเบา ๆ เป็นการให้กำลังใจ
“กอหญ้าขอโทษนะคะคุณพราวฟ้า”
“ขอโทษทำไม”
“ที่กอหญ้าเป็นต้นเหตุให้คุณพราวฟ้าต้องทะเลาะกับคุณมังกร”
“อย่าเรียกคุณเลย ไหน! ลองเรียกพี่พราวสิ”
“กอหญ้าไม่กล้าหรอกค่ะ”
“ไม่เอาน่า พี่ไม่อยากให้เราดูห่างเหินกัน พี่เห็นกอหญ้าครั้งแรกก็ถูกชะตาแล้ว อยากมีน้องสาวด้วย”
“ขอบคุณนะคะ”
“งั้นเดี๋ยววันนี้พี่พาไปเปิดหูเปิดตาดีกว่า”
“แต่กอหญ้าต้องไปกาสิโนตอนเย็นค่ะ”
“กาสิโน?”
“ค่ะ ไปทำงานที่นั่น”
“ราชันย์ใช้งานเธอขนาดนี้เลยหรอเนี่ย”
“ไม่ใช่นะคะ คือ..”
พราวฟ้าหาได้สนใจคำพูดของกอหญ้า เธอหยิบมือถือขึ้นมาก่อนจะส่งข้อความหาใครสักคน สักพักก็มีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นมา เธออ่านมันก่อนจะหันจอมือถือมาให้กอหญ้าดู ก็เห็นว่าพราวฟ้าคุยกับราชันย์เรื่องงานวันนี้ของกอหญ้า ประมาณว่าให้วันนี้กอหญ้าพักงานได้ เมื่อพราวฟ้าเห็นว่ากอหญ้าเข้าใจแล้วก็ปิดจอแล้วหยิบมือถือลงกระเป๋าอย่างอารมณ์ดี
“ไปไหนกันดี”
“กอหญ้าแล้วแต่คุณพราวเลยค่ะ”
“คุณอีกแล้ว”
“เอ่อ .. พี่พราว”
“น่ารักมาก กอหญ้ามีที่ ที่อยากไปไหม”
“ไม่มีค่ะ”
“งั้นไปที่ ที่พี่อยากไปละกัน”
พราวฟ้าพูดจบก็ลากข้อมือน้อย ๆ ของกอหญ้าให้ตามออกมาอย่างว่าง่าย ด้านกอหญ้าเองก็ไม่รีรอเดินตามพราวฟ้าออกมาอย่างเงียบ ๆ ยังไม่ทันที่เรื่องฟุ้งซ่านจะกลับเข้ามาในหัว พราวฟ้าก็พาเธอยังห้างดังใจกลางเมือง กอหญ้ามองพราวฟ้าสลับกับสถานที่ด้านหน้าไปมาอย่างสงสัย
“วันนี้พี่จะพากอหญ้ามาช็อปปิ้ง”
“แต่หญ้าไม่ได้อยากได้อะไรนะคะ”
“แต่พี่อยากให้ เราไปกันเถอะ!”
พราวฟ้าจูงแขนเธอให้เดินตามไปต้อย ๆ อย่างที่ไม่สามารถจะปฏิเสธได้ กอหญ้าเองก็ไม่อยากให้พราวฟ้าต้องลำบากใจ เธอจึงเดินตามไปอย่างว่านอนสอนง่าย แต่คนที่ดูจะสนุกที่สุดคงจะไม่พ้นพราวฟ้า เพราะเธอเข้าร้านนั้นออกร้านนี้ และทุกร้านที่เข้าก็ไม่วายต้องหอบหิ้วถุงออกมาทุกร้าน คนละถุงสองถุง และแน่นอน ทุกอย่างรูดด้วยบัตรของมังกร ฮ่า ฮ่า
“กอหญ้าใส่ชุดนี้แล้วสวยมากเลย”
“แต่หญ้าว่า กระโปรงสั้นไปหน่อยนะคะ”
“ไม่สั้นหรอก ชุดนี้แหละ แล้วก็.. รองเท้าคู่นี้เข้ากันมาก”
“พี่ฟ้าจะให้หญ้าใส่ชุดนี้จริง ๆ หรอคะ”“ใช่แล้ว ไหน ๆ ก็มาทั้งที น้องสาวพี่ก็ต้องสวย ๆ ซิ”เมื่อกอหญ้าเห็นว่าไม่น่าจะขัดและห้ามสายตาแน่วแน่ของพราวฟ้าได้ เธอจึงเลยตามเลย สวมชุดที่ซื้อล่าสุดชุดนี้ จ่ายเงินแล้วเดินออกมาสวย ๆ จากร้านทันที ชุดกระโปรงสีฟ้าลุคคุณหนูใส ๆ กระโปรงฟู ๆ ให้ความรู้สึกเหมือนเจ้าหญิง เสื้อเกาะอกสีขาวถูกปิดทับด้วยเสื้อคลุมผืนบางสีฟ้าเข้ากันกับชุด รองเท้าสีฟ้าเข้าชุด พร้อมกับการแต่งหน้าทำผมอ่อน ๆ ยิ่งทำให้เธอดูสวยเป็นที่สะดุดตาของใครหลายคนที่เดินผ่าน“พี่ฟ้า มันเยอะเกินไปแล้วหรือเปล่าคะ เรากลับกันดีกว่าไหม”“กอหญ้า เราไม่ได้มาด้วยกันสองคนแบบนี้บ่อย ๆ นะเราต้องเที่ยวให้คุ้มสิ”“งั้นเราไปต่อร้านไหนดีคะ อิอิ”“ต้องแบบนี้ซิ ถึงจะเหมาะกับเป็นน้องสาวพี่ .. หิวหรือยัง”“นิดหน่อยค่ะ พี่ฟ้าหิวหรือยังคะ เราไปหาอะไรทานกันไหม”“ดีเหมือนกัน งั้นไปร้านนั้นดีกว่า ป่ะ!”ทั้งคู่พากันเดินเข้ามาในร้านปิ้งย่างชื่อดัง เลือกที่นั่งและรอสั่งอาหาร เมื่อทั้งคู่สั่งอาหารจนเต็มโต๊ะ ก็ได้เวลาลิ้มรสชาติอันโอชะอย่างเอร็ดอร่อย เขาว่ากันว่าผู้หญิงกับความสุขในการกินมันคือของคู่กัน และมันก็ถูกต้องเช่น
บทที่ 8...‘ความรู้สึกอึดอัดนี้มันคืออะไรเนี่ย แล้วทำไมคุณราชันย์ต้องมายืนทำหน้ายักษ์จ้องเขม็งแบบนี้ด้วย ไม่เห็นจะเข้าใจเลย’เธอลุกขึ้นเพื่อที่จะเดินไปห้องน้ำ เพราะเริ่มจะรับไม่ไหวกับบรรยากาศที่น่าอึดอัดนี้ ทันทีที่เธอลุกขึ้นนั้น สายตาดุ ๆ ก็หันขวับมาจ้องเธอทันที ทำให้กอหญ้าได้แต่ลุกขึ้นมายืนนิ่ง ๆ ไม่กล้าแม้แต่จะก้าวขาออกจากตรงนั้น“จะไปไหน”“ไปห้องน้ำค่ะ”“ไปสิ”ทันทีที่เธอได้ยินการอนุญาตจากบุคคลตรงหน้า เท้าน้อย ๆ ก็รีบก้าวฉับ ๆ ออกมาอย่างไม่คิดชีวิต เธอก้าวเท้าด้วยความเร็วเพื่อที่จะออกมาจากที่ตรงนั้นเดินตรงดิ่งมาที่ห้องน้ำหญิงที่อยู่ไม่ไกลมาก เมื่อเธอเข้ามาทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว มือน้อย ๆ ก็ควักมือถือออกมาเช็กนิดหน่อย ก็เห็นว่ามีข้อความจากปอร์เช่เธอเดินออกจากห้องน้ำโดยที่มือของเธอก็ยังง่วนอยู่กับการตอบข้อความของเพื่อนสนิท ทันทีที่เธอเดินพ้นประตูห้องน้ำออกมาเล็กน้อยก็ต้องชะงักเท้าเล็ก ๆ เพราะสายตาที่จ้องมือถือนั้นเห็นเท้าของผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนขวางทางอยู่เบื้องหน้า กลิ่นน้ำหอมผู้ชายอ่อน ๆ นี้ไม่ผิดแน่ เธอเงยหน้าออกจากจอมือถือเล็กน้อยก็ต้องหน้าซีดเป็นไก่ต้ม เมื่อคนที่ยืนอยู่ตรงห
กอหญ้าลืมตาค้าง เมื่อสายตาของเธอปะทะเข้ากับอกขาวของคนด้านข้าง ไม่ผิดแน่ ราชันย์ที่กำลังหลับอยู่ข้าง ๆ โดยที่เธอกำลังนอนทับแขนแกร่งของเขาอย่างไม่รู้ตัว แต่เวลาที่เขาหลับไม่มีพิษมีภัยแบบนี้ก็ดูน่าหลงใหลดีจริง ๆ เธอมองใบหน้าของเขาอย่างไม่ละสายตา“มองขนาดนี้อยากได้รางวัลสักหน่อยมั้ย”“คุณราชันย์”“ทำไม? สีหน้าเปลี่ยนไวจังนะ”เธอขยับตัว ดันตัวเองลุกขึ้นนั่งแทบจะทันที ราชันย์เองก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เขาลุกขึ้นมาสะบัดแขนข้างที่เธอหนุนเล็กน้อย ก่อนจะหันมามองหน้าเธอนิ่ง ๆ ซึ่งเธอเองก็ไม่รู้จะพูดว่าอะไร เขาส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นบิดร่างกาย“คุณราชันย์อยากทานอะไรเป็นอาหารเช้าคะ”“เธออยากทานอะไรก็ทำมาเลย อ่อ! ทำเผื่อมังกรกับพราวฟ้าด้วยละกัน”“พี่พราวยังไม่กลับหรอคะ”เธอไม่รอให้ราชันย์ที่กำลังอ้าปากจะตอบคำถามเธอ ได้ส่งเสียงตอบ เธอรีบวิ่งออกจากห้องนอนไปทันที ที่ได้ยินว่าพราวฟ้ายังอยู่ที่นี่ เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเธอถึงรู้สึกชอบพราวฟ้าเอามาก ๆ อาจเพราะเธอเป็นผู้หญิงที่ดีมากคนหนึ่งก็ว่าได้เมื่อเธอออกมาด้านนอกก็เห็นพราวฟ้ากำลังทำอาหารอยู่ในครัว และมีมังกรที่นั่งเท้าคางมองเธอทำอาหารอยู่ไม่ไกล
บทที่ 9...พราวฟ้าที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กอหญ้านั่งมองสาวตัวเล็ก ๆ ที่เล็กกว่าเธอมาก เธอดูเหมือนเด็กเล็ก ๆ ที่ไม่น่าจะต้องมาเจอชะตากรรมอะไรแบบนี้เลยสักนิด กอหญ้าลืมตาขึ้นมาเห็นพราวฟ้า ก็ยิ้มหวานให้ เธอลุกขึ้นมานั่งนิ่ง ๆ เห็นจานผลไม้มากมายวางอยู่บนโต๊ะ“ผลไม้ที่สวนหรอคะพี่พราว”“อันนี้ไม่ใช่จ๊ะ พี่ลงไปซื้อมาเมื่อกี้เอง ทานสิ”กอหญ้ามองนิ่ง ๆ ก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธ ก็มันรู้สึกไม่อยากกินจริง ๆ นี่นา พราวฟ้ามองกอหญ้านิ่ง ๆ ก่อนจะลุกเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบจานมะม่วงที่ถูกหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เอามาวางให้กอหญ้าและคอยแอบมองปฏิกิริยาของเธออย่างตั้งใจกอหญ้าเองนั้นเมื่อเห็นมะม่วงกลับรู้สึกอยากอาหารขึ้นมาซะอย่างนั้น เธอหยิบมะม่วงชิ้นโตออกมากัดรสชาติที่ได้ถึงจะไม่เปรี้ยวมากมายแต่ก็มีรสชาติเปรี้ยวแฝงอยู่ เธอทำหน้าเหยเกนิดหน่อย ก่อนจะกัดต่ออย่างอารมณ์ดี กอหญ้าดูทีวีไป พรางหยิบมะม่วงกินไปด้วย โดยที่พราวฟ้าเองก็นั่งอยู่ข้าง ๆ พราวฟ้าที่เห็นกอหญ้ามีอาการแบบนี้เธอจึงหยิบมะม่วงในจานขึ้นมากัดหนึ่งคำ ก็ต้องคายทิ้งเพราะมันเปรี้ยวมากถึงมากที่สุดทำไมกอหญ้าถึงทำหน้าว่าเปรี้ยวแค่เล็กน้อยเท่านั้น กอหญ้าหันมามองพราวฟ้าที
"ได้ค่ะ เป็นสองชิ้นนะคะ""เท่าไหร่คะ"เมื่อเธอได้ของที่ต้องการ จัดการจ่ายเงินเรียบร้อยก็เดินออกจากร้านขายยาทันที เธอเดินมาเรื่อยเรื่อยจนมาถึงสวนสาธารณะที่ไม่ห่างจากคอนโดมากนัก เธอนั่งลงบนเก้าอี้ มองดูผู้คนมากมายเดินไปมาอย่างเหม่อลอย มือเล็ก ๆ กำถุงยาในมือแน่น เธอกลับมาที่ห้องก็พบว่าราชันย์ยังไม่ได้กลับมา เธอเดินเข้าไปในห้องน้ำ หยิบถุงที่ตรวจครรภ์ออกมายืนมองอย่างคนเหม่อลอย ในใจคิดฟุ้งซ่านว่าถ้าหากผลที่ออกมาว่าเธอท้องเธอจะทำยังไง ในเมื่อราชันย์แสดงเจตจำนงชัดเจนว่าสถานะของพวกเราคืออะไร เธอยืนคิดด้วยความฟุ้งซ่านสักพัก ก็หยิบที่ตรวจครรภ์ทั้งสองอันออกมาเดิมทีเธอจะเอาไว้ตรวจตอนเช้า แต่ในใจกลับฟุ้งซ่านอย่างบอกไม่ถูก ทำให้เธอตัดสินใจที่จะตรวจตอนนี้ทั้งสองอันพร้อมกันทันที เธอจัดการธุระส่วนตัวเรียบร้อย ก่อนจะนั่งนิ่ง ๆ รอดูผลบนแผ่นที่เธอวางไว้อย่างใจจดใจจ่อ ขีดแรกที่ขึ้นมาทำเอาเธอหายใจไม่ทั่วท้อง แต่เธอกลับต้องลืมหายใจทันทีเมื่อมีขีดที่สองจาง ๆ โผล่มาให้เธอเห็นเธอหน้าชาราวกับว่ามีมือนับพันตบมาที่ใบหน้าของเธอแรง ๆ ที่เห็นขีดจาง ๆ นั่น เธอรีบหันไปดูอีกอันที่เธอวางทิ้งไว้ ก็พบว่าขึ้นสองขีดจาง ๆ
บทที่ 10..."ค่ะ ที่พี่กันต์ไม่เคยเห็นว่าแฟนของกอหญ้ามาส่งมารับ เพราะกอหญ้าไม่เคยบอกเขาว่ากอหญ้าทำงานที่นี่""ถ้าอย่างนั้น ทำไมเมื่อกี้กอหญ้าบอกว่าเป็นแฟนคุณต้องตกใจด้วยละครับ""เอ่อ.."ปอร์เช่หันมามองกอหญ้าที่ตอนนี้กำลังยืนจ้องหน้าเขาเขม็ง ยิ่งทำให้เขาไม่รู้จะพูดว่าอะไร ใจหนึ่งก็ดีใจมาก ๆ ที่กอหญ้าบอกว่าเป็นแฟน แต่อีกใจก็รู้สึกไม่ชอบมาพากลที่เห็นเธออยู่ที่นี่"เพราะเธอกำลังโกรธผมอยู่ พอได้ยินเธอบอกคนอื่นว่าเป็นแฟน เลยตกใจนิดหน่อยครับ""กอหญ้า .. เขาเป็นแฟนกอหญ้าจริง ๆ หรอ""ขอโทษนะคะพี่กันต์ แต่ปอร์เช่เป็นแฟนกอหญ้าจริง ๆ ค่ะ"กอหญ้าตอบเขาด้วยสีหน้าหนักแน่น เพื่อยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ปอร์เช่ขยับเข้าไปใกล้เอื้อมมือไปโอบไหล่เธอเบา ๆ กอหญ้ามีอาการตกใจเล็กน้อย แต่ก็แสร้งยิ้มให้พี่กันต์อย่างช่วยไม่ได้ เพราะกลัวว่าหากเธอหลุดอะไรแปลก ๆ ออกมาพี่กันต์จะต้องจับได้แน่นอน โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าทุกการกระทำของเธอนั้นอยู่ในสายตาของราชันย์ทั้งหมด ราชันย์ที่ยืนกระดกเหล้าอยู่บนชั้น VIP มองเธอด้วยสายตาว่างเปล่าเธอไม่คิดแม้แต่จะรักษาสัญญา ว่าระหว่างระยะสัญญาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้ชายคนอื่น แต่ก
แต่เมื่อเธอจะอธิบายเหตุผล เธอกลับต้องเงียบลงทันที หากเธอบอกว่าแค่เพื่อนที่บังเอิญมาเจอกัน ราชันย์จะเชื่อไหม แล้วถ้าบอกว่าเพราะเอาเพื่อนมาบังหน้า พี่กันต์จะเป็นยังไง คุณราชันย์จะทำร้ายเขาไหม เมื่อเธอคิดทุกอย่างตีกันปนเปเต็มหัว ทุกอย่างเลยทำได้แค่เงียบ เพราะเธอไม่รู้เลยว่าต้องพูดยังไงเพื่อให้ทุกคนไม่ต้องโดนผลกระทบนี้"ว่าไง คืออะไรกอหญ้า""คุณราชันย์ กอหญ้าเจ็บ""เธอไม่ยอมพูด แสดงว่าทุกอย่างคือเรื่องจริง?""คุณราชันย์ปล่อยกอหญ้าก่อนค่ะ""ดี ดีมากกอหญ้าเธอทำฉันโมโหมาก คิดถึงกันมากใช่ไหม งั้นฉันจะทำให้เธอไม่มีแรงลงไปหามันเลย!"ร่างเล็ก ๆ ของเธอถูกผลักด้วยความแรงไปยังโซฟาตัวใหญ่ เขาจ้องเธอด้วยดวงตาที่คมกริบราวกับอินทรีย์ที่เห็นเหยื่ออันโอชะ มือหนาปลดกระดุมเสื้อช้า ๆ เผยให้เห็นแผงอกเป็นลอนสวย สุขภาพดี เข็มขัดและกางเกงถูกปลดออกอย่างงรวดเร็วยังไม่ทันที่เธอจะตั้งตัว ทุกการกระทำของเขาทำให้เธอรู้สึกกลัว หากเขายังอารมณ์รุนแรงแบบนี้ หากเขาใช้ความรุนแรงแบบนี้ เธอจะทำยังไง เด็กในท้องจะเป็นยังไง จะปลอดภัยไหม เมื่อเธอยิ่งคิดวนไปวนมาน้ำตาเม็ดใส ๆ ก็กลิ้งหลุน ๆ ลงมาอาบแก้มร่างกายสั่นเทาด้วยความกลัวอย่าง
บทที่ 11...แสงตะวันสาดลอดผ้าม่านเข้ามากระทบกับใบหน้าของผู้ที่นอนหลับพริ้มอยู่บนเตียง เธอค่อย ๆ ขยับเปลือกตาที่หนักอึ้ง เมื่อลืมตาโฟกัสภาพเบื้องหน้าก็เห็นว่าที่นี่คือห้องนอนที่คอนโดไม่ผิดแน่ เธอขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ส่ายสายตามองหาราชันย์ ก็ไม่มีวี่แวว ความปวดเมื่อยจากสถานการณ์เมื่อคืนแล่นเข้ามา และคำพูดที่เธอได้ยินชัดเจนก่อนจะหลับไปก็ผุดขึ้นมาย้ำเธออีกครั้ง‘หายาคุมกินให้ดี ๆ เพราะถ้าเธอท้อง ฉันจะไม่รับผิดชอบ เพราะฉันก็ไม่รู้ว่าใช่ลูกของฉันหรือเปล่า’มือทั้งสองข้างของเธอกำแน่นจนรู้สึกได้ว่าเล็บของเธอจิกเข้าไปในเนื้อ แต่เธอไม่แม้แต่จะเอาออก ราวกับว่าเธอไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น ดวงตาเริ่มแสบร้อนเพราะน้ำตาเม็ดเล็กกำลังก่อตัวอยู่พร้อมที่จะหลั่งไหลออกมาได้ทุกเมื่อ และไม่นานนักน้ำใส ๆ ก็กลิ้งหลุนออกมาจากดวงตาของเธอจริง ๆติ๊ง!ปอร์เช่ ส่งรูปภาพแล้ว‘วันนี้มีมินิคอนเสิร์ตวงที่เธอชอบมาด้วยนะ เธออยากมาไหม’เธอหยิบมือถือมาเปิดอ่านข้อความของปอร์เช่ เห็นศิลปินวงที่เธอชื่นชอบ ทำให้เธอที่จิตใจห่อเหี่ยวก็พองโตขึ้นมาอีกครั้ง‘ซื้อบัตรรอได้เลย’เธอตอบไปแค่นั้น แต่แล้วก็ต้องชะงักเพราะเพิ่งคิดได้ว่า ถ้าราชัน
กอหญ้าคลานขึ้นมาบนเตียงที่มีราชันย์นอนหน้ามุ่ยคอหักดั่งปลาทูแม่กลอง ก่อนจะมุดเข้าไปในผ้านวมผืนหนา มือเล็กลูบไล้ขาแกร่งของราชันย์อย่างเบามือ รับรู้ได้ว่าราชันย์เองก็เกร็งขาเป็นระยะ แต่ยังทำท่าทีไม่สนใจเมียเหมือนเดิมมือเล็กของกอหญ้าเลื่อนไปปลดเข็มขัดของเขาออก ปลดกระดุมกางเกงช้า ๆ รูดซิปออกก่อนจะดึงกางเกงของผู้ชายใต้ร่างของเธอออกอย่างง่ายดาย เหลือเพียงกางเกงในสีขาวแบรนด์ดังที่บัดนี้ปิดเจ้าโลกไว้ไม่มิดด้วยซ้ำ ราชันย์น้อยที่หัวเห็ดขนาดใหญ่โผล่พ้นออกมาจากขอบกางเกงใน ผงกหัวราวกับกำลังเชิญชวนให้เธอมาทำมิดีมิร้าย แต่เจ้าตัวกลับยังทำหน้ามุ่ยไม่สนใจ เพียงแค่ปลายนิ้วชี้ของเธอกระตุกทั้งกางเกงนอกกางเกงในของราชันย์ก็ถูกถอดออกโยนไปกองที่พื้นโดยที่ได้รับการช่วยเหลืออย่างไม่ขัดแม้แต่น้อยของเขามือเล็กของเธอกำเข้ากับเจ้าโลกที่ขยายเต็มที่ หัวเห็ดบานยั่วเย้าเหล่าแมลงมีน้ำหวานผุดออกมาจากปลายหัวเห็ดให้นิ้วชี้ของกอหญ้าได้ไล้วน สร้างความเสียวซ่านกระตุกถี่ กอหญ้าใช้ลิ้นอุ่น ๆ ไล้เลียไปที่หัวเห็ดบานจนทั่วยิ่งเธอวนรอบหัวมากเท่าไหร่ น้ำหวานที่ไหลเยิ้มก็ยิ่งผลิตออกมามากเท่านั้น ไล้เลียรอบหัวจนพอใจลิ้นของเธอก็ค่อย
“ค่ะเฮีย หญ้าได้ยินแล้ว เฮียดีใจเสียงดังไปแล้วค่ะ”“คุณแม่ฝากครรภ์เลยไหมคะ”“ฝากเลยค่ะ”“ได้เลยค่ะ”คนที่ดูจะตื่นเต้นสุดเหมือนจะเป็นผู้ชายข้าง ๆ มากกว่าเธอเสียอีก กอหญ้าที่เห็นราชันย์ดีใจมากก็ทำให้เธอยิ้มออกมาอย่างดีใจ เธอเองก็ไม่เคยคิดมาก่อน ว่าเด็กผู้หญิงที่ครอบครัวล้มละลาย จะได้มีครอบครัวที่มีความสุขขนาดนี้ ผู้ชายที่ครั้งหนึ่งเธอเคยคิดแต่จะรีบให้หมดเวลาสัญญา ผู้ชายที่ครั้งหนึ่งเธอตกหลุมรักเขาโดยที่รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่แม้แต่จะชายตามอง ผู้ชายที่เธอไม่คิดว่าวันหนึ่งจะมายืนเคียงข้างเธอเป็นครอบครัวของเธอจริง ๆ“เฮีย”“ว่าไงจ๊ะเมียจ๋า”“หญ้ารักเฮียนะ”“เฮียก็รักหญ้า รักมาก ๆ รักที่สุดเลย”“แต่หญ้าเหม็นหน้าเฮียมากนะ”“…”“หญ้าว่าจนกว่าจะคลอด อยากให้เฮียอยู่ห่าง ๆ หญ้าหน่อยจะได้ไหมคะ”“แต่เฮียอะ..อยากอยู่กับหญ้าตลอดเวลาเลยจริง ๆ นะ”“อะแห่ม! เดี๋ยวเรื่องนั้นยังไงค่อยกลับไปตกลงกันเนอะ แต่ตอนนี้เรามาทำประวัติฝากครรภ์กันก่อนดีกว่าน๊า”ถึงแม้คุณหมอจะพูดแบบนั้น แต่แก้มหมอกลับยิ้มไม่หุบเมื่อเห็นความมุ้งมิ้งของสองสามีภรรยานี้ ยิ่งทำให้หมอยิ้มแก้มแทบปริ กอหญ้าเองก็ลืมตัวว่ายังอยู่ที่โรงพยาบาล ทำ
กอหญ้าไม่ได้พูดเล่น แต่เธอรู้สึกว่าราชันย์นั้นมีกลิ่นตัวที่ผิดจากปกติ เป็นกลิ่นที่เตะจมูกแบบแปลกกว่าที่ผ่านมา ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ยังคงใช้แชมพูกลิ่นเดิม ครีมอาบน้ำกลิ่นเดิม และน้ำหอมก็ยังคงกลิ่นเดิม แต่สองสามวันมานี้เวลาเจอราชันย์กลับมีกลิ่นที่แปลกไป แต่เธอไม่กล้าพอที่จะบอกกับเขา กลัวว่าผู้เป็นสามีของตนจะน้อยใจแต่พอยิ่งเห็นเขา อาการเหม็นกลิ่นตัวเขาก็ยิ่งจุกในอกมากขึ้นจนบางครั้ง ก็อยากที่จะเดินหนีเขาให้พ้น ๆ ต่างกันกับราชันย์ที่มีความต้องการที่อยากจะคลอเคลียนัวเนียกับผู้เป็นภรรยาตลอดเวลา อยากอยู่ใกล้อยากเห็นหน้าตลอดเวลา อยากจะไปไหนมาไหนทำอะไรด้วย เขารู้สึกว่ากลิ่นกายของกอหญ้าหอมเป็นพิเศษ และเป็นสิ่งเดียวที่เขาไม่รู้สึกคลื่นไส้เวลาพบเจอและเพียงแค่เขาออดอ้อนเมียได้ไม่นานนัก ความมวนท้องก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับความรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจุกที่คอ ยังไม่ทันที่จะได้เดินออกจากหน้าห้องน้ำ ราชันย์ก็หันหลังตรงดิ่งเจ้าไปกอดคอชักโครกสุดที่รักเช่นเดิม กอหญ้าเองถึงแม้จะเห็นความทรมานของราชันย์ก็เถอะ แต่พอเธอจะก้าวขาเข้าไปลูบหลังก็ต้องชะงัก เพราะเมื่อเห็นหน้าราชันย์เธอเองกลับรู้สึกคลื่นไส้มาเสียอย่างนั้น
พิเศษ ตอนที่ 3...“หม่ำ หม่ำ”เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กน้อยวัยหนึ่งขวบเศษ ที่กำลังนั่งเก้าอี้รอกินข้าวอย่างใจจดใจจ่อ โดยที่เก้าอี้ข้างกันนั้นยังมีเด็กชายพี่น้องฝาแฝดที่ทำหน้านิ่งมองหน้าอลิซที มองหน้าผู้เป็นพ่อที และเด็กน้อยก็รอเพียงไม่นานผู้เป็นแม่อย่างกอหญ้าก็เดินมาพร้อมกับอาหารสีสันสดใสน่ารับประทานนำมาวางไว้ที่เก้าอี้ ส่งผลให้เด็กน้อยอารมณ์ดีอย่างอลิซปรบมือดีใจยกใหญ่“หม่ำ หม่ำ”“โอเค ข้าวมาแล้วลูกสาวป๊าจะได้กินข้าวแล้ว”“อาร์เดนหิวข้าวมั้ยลูก”“…”ไม่มีเสียงตอบรับจากลูกชายของเธอมีเพียงตาตาที่ดุราวกับเสือร้ายที่จดจ้องมองไปที่จานข้าวอย่างไม่ละสายตา ดูท่าทางแล้วเขาจะได้ลูกชายที่ค่อนข้างเงียบมากมาคนหนึ่งแน่นอน กอหญ้าไม่ลีลาให้ลูกต้องรอนาน เธอส่งสัญญาณให้ราชันย์เริ่มป้อนข้าวลูกได้ ถึงแม้อาร์เดนจะมีท่าทีไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่ แต่พอเธอป้อนข้าวให้ก็ไม่มีท่าทีว่าจะไม่ทาน ผ่านไปเพียงไม่นานข้าวผัดสีสันสดใสก็หมดเกลี้ยงจานทั้งคู่ สร้างความพึงพอใจให้กับผู้เป็นแม่เป็นอย่างมาก“หม่ำ”และยังคงเป็นเช่นนี้ อาร์เดนจะส่งเสียงร้องขอก็ต่อเมื่อเห็นจานผลไม้เท่านั้น ครั้งนี้ก็เช่นกัน ลูกชายของเขาแลดูจะชอบผลไม
“ยังเลย”“ทำไมเธอดูตื่นเต้นขนาดนี้”“ทำอย่างกับนายไม่ตื่นเต้น”“ก็ไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่นะ”เพียงไม่นานประตูห้องคลอดก็ถูกเปิดออกโดยมีกลุ่มคุณหมอเดินออกมาสามสี่คน ทั้งคู่รีบวิ่งเข้าไปหาคุณหมอทันที“คุณหมอคะ คนไข้ที่เพิ่งเข้าไปเป็นยังไงบ้างคะ คลอดหรือยังคะ”“คุณแม่ยังไม่คลอดนะคะ ปากมดลูกยังไม่เปิด”“เธอเป็นยังไงบ้างคะ”“ตอนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วค่ะ แต่เบื้องต้นอายุครรภ์ยังไม่ถึงกำหนด คลอดออกมาเด็ก ๆ อาจจะต้องเข้าตู้อบก่อนนะคะ”“ขอบคุณมากค่ะ”เวลาผ่านไปเกือบสามชั่วโมงก็ไม่มีท่าทีว่าเธอจะคลอด ทั้งธันวาและเว่ยเอินเองก็สลับกันลุกนั่ง วนอยู่หน้าห้องคลอด และไม่มีท่าทีจะคลอดง่าย ๆ ยิ่งทำให้เว่ยอินและธันวารู้สึกกังวลเพิ่มขึ้น“ไอ้ธัน”“มาสักที”“กอหญ้าเป็นไงบ้าง นานแล้วนะยังไม่คลอดอีกหรอ”“ยังเลย”“คุณเป็นใครคะ”“อ่อ..คนนี้เว่ยเอินที่เคยเล่าให้ฟัง..ส่วนนี่ราชันย์”“สวัสดีครับ”ยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะได้ทำความรู้จักกัน ก็มีกลุ่มคุณหมอสามสี่คนรีบวิ่งมาที่หน้าห้องคลอด ทำให้ราชันย์เองก็ตกใจไปด้วยเขาคว้าข้อมือของหมอผู้ชายคนหนึ่งเอาไว้“เกิดอะไรขึ้นครับ”“คุณแม่มีภาวะครรภ์เป็นพิษครับ หมอขอตัวก่อนนะคร
เขาอุ้มกอหญ้าและเดินช้าๆ ให้เข้าไปนั่งรอในรถ ทางด้านเว่ยเอินเองเธอก็รีบวิ่งมาหอบหิ้วข้าวของอย่างพะรุงพะรังเข้าไปยัดไว้ในรถเช่นเดียวกัน ก่อนที่เธอกระโดดขึ้นรถด้วยความเร็วแสง เคาะเบาะรถเบา ๆ ให้ธันวานั้นขับรถออกไปอย่างรวดเร็วปลายทางคือโรงพยาบาล ถึงแม้โรงพยาบาลจะอยู่ไม่ไกลมากนักแต่ช่วงเวลานี้ รถบนท้องถนนย่อมมีมากกว่าปกติเพราะเป็นช่วงเวลาทำงานพอดีนั่นจึงทำให้รถของเขาที่กำลังจะมุ่งหน้าสู่โรงพยาบาลนั้นเกิดการล่าช้าอย่างช่วยไม่ได้ ธันวาที่พยายามเหยียบคันเร่งรถอย่างเต็มที่เพื่อให้ไปถึงโรงพยาบาลอย่างเร็วที่สุด ก็ต้องฟันฝ่ากับอุปสรรคบนท้องถนน คนข้างๆ เขาเองก็ต้องฝ่าอุปสรรคความเจ็บปวดที่รู้สึกได้เลยว่ามดลูกกำลังบีบตัวลง และเวลาต่อมาก็ยิ่งทำให้เธอตกใจเข้าไปอีก เมื่อเธอรู้สึกว่าเบาะที่เธอนั่งนั้นตอนนี้เปียกชุ่มไปด้วยน้ำที่เธอเองก็ไม่รู้ว่ามาจากไหน จะบอกว่าเธอฉี่แตกก็ไม่น่าจะใช่ เธอไม่รู้สึกเลยว่ามันไหลออกมาตอนไหน เมื่อรู้ตัวอีกทีมันก็เปียกชุ่มไปหมดแล้ว"น้ำเปียกเบาะหมดแล้ว""ห๊ะ! เดี๋ยวนะอย่าเพิ่งคลอดนะ บนรถอันตราย""คุณธันวาขับเร็วกว่านี้ได้ไหม เห็นไหมพี่หญ้าหน้าซีดหมดแล้ว""ฉันก็กำลังรีบอยู่"ใ
พิเศษ ตอนที่ 2 | เจ้าแฝดของป๊ามาเฟีย...ในฤดูหนาวของช่วงปลายปี อากาศยามเช้าที่สดชื่นเป็นพิเศษ หลังจากที่เมื่อคืนได้ผ่านพายุหิมะที่ถล่มจนแทบมองไม่เห็นพื้น ต้อนรับยามเช้าที่สดใสด้วยดอกกุหลาบ และดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ที่หญิงสาวได้ลงมือลงแรงปลูกเองกับมือ กำลังบานสะพรั่งต้อนรับแสงตะวัน แม้กลีบดอก กลีบใบบางส่วนจะยังคงถูกปกคลุมด้วยเกล็ดหิมะบางจุดอยู่บ้างก็ตาม แต่ก็มิสามารถปกปิดความงามของดอกไม้ไว้ได้ลมจากทะเลสาบที่ขยันจะพัดโชยตลอดเวลา กลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของทะเลลอยเข้ามาแตะจมูก สร้างความสดชื่นให้กับผู้คนที่อยู่ละแวกนั้น ในห้องนอนของหญิงสาวที่อายุครรภ์ใกล้ครบกำหนดคลอดเข้ามาทุกที กำลังนั่งพับเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้เตรียมคลอด พร้อมกับทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่างมองดอกไม้ที่อยู่ด้านนอกอย่างสบายอารมณ์ ความสวยงามของธรรมชาติที่เธอบรรจงสร้างขึ้น ถือเป็นความสบายใจของเธอเป็นอย่างมาก ทางด้านของธันวาเองก็ยังคงรายงานสถานการณ์ให้กับราชันย์ทราบอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ราวกับว่าราชันย์เองยืนอยู่ในเหตุการณ์นั้น ๆ ด้วยอย่างไรอย่างนั้น ทางด้านของเด็กสาวอารมณ์ดีอย่างเว่ยเอินก็นั่งนับนอนนับวันรอแล้วรอเล่า ตั
“...”“คุณราชันย์ขา เรามาต่อกันดีกว่าค่ะ อย่าแกล้งมาหยาแบบนี้สิคะ”“ใส่เสื้อผ้าแล้วออกไป”“คะ?”“ฉันบอกว่าให้ใส่เสื้อผ้าแล้วออกไป”“คุณจะมาทำแบบนี้กับมาหยาไม่ได้นะคะ!!”กริ๊ก!ราชันย์ที่ได้ยินเสียงประตูหน้าห้องด้านนอกถูกเปิดออก และคนที่จะมาคงไม่พ้นผู้หญิงที่ทำให้เขาหงุดหงิดจนถึงตอนนี้ เขามองสภาพห้องนอนที่บัดนี้มีเสื้อผ้ากระจัดกระจายไปทั่วห้อง“ใส่เสื้อผ้าซะ”ราชันย์ไม่ได้พูดอะไรมากมาย แต่น้ำเสียงแสดงออกได้ถึงความหงุดหงิด มาหยาที่ยังมึนงงกับการกระทำของเขาและถูกราชันย์ทิ้งกลางอากาศก็ยิ่งทำให้หงุดหงิด แต่ก็ยอมไปเก็บเสื้อผ้าขึ้นมาสวมอย่างลวก ๆ“พี่พราว”“…..”“พี่พราวหรือเปล่าคะ”“…..”เธอได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเรียกชื่อใครสักคนที่ไม่เคยได้ยิน เธอหันมาค้อนตามองราชันย์อย่างขอความเห็นว่าเธอควรทำอะไร แต่ราชันย์เองก็ไม่ได้สะทกสะท้านหรือมีท่าทีจะสนใจทั้งตัวเธอหรือเสียงด้านนอก เธอจึงสวมเสื้อผ้าที่เก็บมาสวมอย่างลวก ๆ กระฟัดกระเฟียดออกจากห้องไปอย่างไม่สบอารมณ์“แกเป็นใคร เข้ามาในห้องราชันย์ได้ยังไง”“คุณต่างหาก เป็นใครคะ”“แกก็ถามแปลก ฉันเดินออกมาจากห้องนอนราชันย์ ก็ต้องเป็นแฟนราชันย์อยู่แ
เธองัดมารยาหญิงที่มีออกมาสุดฤทธิ์เพื่อที่จะปลุกอารมณ์ของผู้ชายเบื้องหน้า เขาเองก็ไม่ให้เธอต้องรอนาน ราชันย์เดินตรงมาหาเธอที่นอนแผ่หลารออยู่บนเตียงอย่างไม่รีบร้อนร่างกายที่กำยำของเขาค่อย ๆ โน้มลงไปคร่อมเธอเอาไว้ ผ้าเช็ดตัวผืนน้อยที่จะหลุดแหล่มิหลุดแหล่ ถูกนิ้วมือของเธอกระตุกเพียงแค่ครั้งเดียว ก็หลุดออกตามแรงกระชากของเธอมาโดยง่าย เผยให้เห็นจ้าวโลกที่ลุกขึ้นมาชี้หน้าเธออย่างเดือดดาล พร้อมที่จะกระโจนลงถ้ำอย่างไม่ต้องร้องขอเขายังไม่ทันได้ขยับตัวไปไหน นั่นยิ่งปลุกให้อารมณ์สวาทที่กำลังมาของเธอยิ่งพลุ่งพล่านเข้าไปอีก มาหยาไม่รอให้ราชันย์ได้คิดนาน เธอตวัดเรียวแขนโอบกอดรอบคอของเขา ก่อนจะดันให้ร่างที่เปลือยเปล่าของราชันย์นั้นล้มลงไปนอนแผ่หลาโชว์จ้าวโลกที่เตียงคิงไซต์แทนเธอใช้ความรวดเร็วเข้าประชิดเขาด้วยความช่ำชอง เผลอแค่พริบตาเดียว เธอนั้นก็ได้พาร่างเล็กขึ้นไปนั่งคร่อมทับบดขยี้บนแก่นกายของราชันย์เรียบร้อยแล้ว ชุดเดรสรัดติ้วสีดำที่เธอสวมมา จากที่ว่าสั้นเสมอหูอยู่แล้ว บัดนี้มันถูกเรียวขาที่อ้าออกคร่อมราชันย์ไว้รั้งร่นไปกองอยู่ที่สะโพกของเธออย่างช่วยไม่ได้ เผยให้เห็นชั้นในลายลูกไม้ตัวจิ๋วสีดำที่