Share

บทที่ 9

Author: คุณชายฝูซู
last update Last Updated: 2024-11-19 15:40:28
คืนนั้น นักฆ่าสิบคนลอบเข้าหุบเขานักปราชญ์แห่งการแพทย์

ตอนที่หรงเหยี่ยนมาถึงเชิงเขา ก็เห็นเปลวไฟพวยพุ่งท้องฟ้า

ท่ามกลางเสียงดาบทวนกระบี่ง้าว มีเสียงร้องขอความช่วยเหลือปะปน

เกิดเรื่องแล้ว!

มีทางเดียวที่จะเข้าสู่หุบเขานักปราชญ์แห่งการแพทย์ จำเป็นต้องผ่านป่าผืนหนึ่ง

เมื่อถึงยามราตรี ในป่าก็จะเกิดหมอกพิษ เบาเกิดภาพหลอน หนักถูกพิษหมดสติ มีไว้เพื่อสกัดกั้นศัตรูที่คิดจะบุกเข้าไปโดยเฉพาะ

อยากเข้าทางประตูหลัก เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!

เขานึกถึงตอนเข้ามาสำรวจก่อนหน้านี้ พบทางลัดเส้นหนึ่งที่หลังเขา เพียงแต่มีอสรพิษเต็มไปหมด ปกติไม่มีใครกล้าเดินผ่าน

ช่วยคนสำคัญกว่า เขาไม่มีเวลาสนใจอะไรมาก!

เวลานี้ รถม้าคันหนึ่งกำลังแล่นอยู่บนเส้นทางที่คดเคี้ยวและมืด โดยมีเด็กสองคนนั่งอยู่ในรถ

“นานเป่า นี่พวกเราจะไปที่ใด?” อวี้เป่าดูไม่สบายใจอย่างเห็นได้ชัด

“ท่านแม่ทำเช่นนี้ ย่อมมีเหตุผลของนาง รอนางทำธุระเสร็จ ก็จะรีบมาหาพวกเราเอง”

เด็กหญิงตัวน้อยไม่กังวลเลยสักนิด นางเคยผ่านเรื่องเช่นนี้มาหลายครั้ง กลายเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้ว

อวี้เป่าเห็นสีหน้านางสบาย ๆ จึงวางใจลงชั่วคราว

หรงเหยี่ยนและคนอื่นเห็นรถม้าแล่นมา ปรากฏตัวเข้าขวางทันที

ทูตนักปราชญ์ที่ขับรถม้า รับผิดชอบคุ้มกันความปลอดภัยของเด็กน้อยทั้งสอง คิดว่าพวกเขาเป็นนักฆ่าที่มาจู่โจม ชักกระบี่พุ่งออกไปทันที

อาศัยจังหวะที่จุยอวิ๋นกับจู๋เยว่ต่อสู้กับพวกเขา หรงเหยี่ยนพุ่งพรวดมาที่หน้ารถม้า พลันยื่นมือไปเปิดม่านรถ

เวลานี้ เด็กน้อยสองคนที่อยู่ข้างในก็กำลังจ้องเขาเช่นกัน

“ท่าน…” อวี้เป่าทั้งประหลาดใจทั้งดีใจ

เพิ่งเรียกได้คำเดียว ก็ชะงักกะทันหัน

เพราะเขานึกถึงคำพูดของอวิ๋นหลี ถ้าหากตามหาครอบครัวของเขาพบ ก็จะส่งเขากลับไป

ดังนั้นต่อให้รู้จักคนตรงหน้า เขาก็ไม่กล้ายอมรับ

นานเป่ากลับกวาดมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความอยากรู้อยากเห็น ในแววตาเต็มไปด้วยความอัศจรรย์ใจ

เดิมทีคิดว่าท่านพ่อทั้งสี่คนของตนเป็นชายงามที่เลิศสุดในใต้ฟ้า

เห็นได้ชัดว่าชายหนุ่มตรงหน้า ได้เปลี่ยนมุมมองด้านการรับรู้เกี่ยวกับรูปลักษณ์ของนางใหม่

ภายใต้แสงจันทร์ ใบหน้าเขาละเอียดลออคล้ายหยก ชุดสีขาวพริ้วไหว ผมสีหมึกปลิวไปตามสายลม ราวกับเป็นเทพบนสวรรค์ชั้นเก้า

เด็กหญิงตัวน้อยมองตาค้าง

เมื่อได้ยินเสียงของอวี้เป่า จึงจะหวนคืนสติ

“เมื่อครู่เจ้าเรียกเขาอะไรนะ?”

อวี้เป่าผุดความคิดฉับพลัน ปล่อยโฮร้องไห้เสียงดัง “คน…ไม่ดี!”

“ความหมายของเจ้า เขาก็คือนายหน้าค้ามนุษย์ที่ลักพาตัวเจ้า?”

กว่าหรงเหยี่ยนจะหาลูกชายเจอไม่ใช่เรื่องง่าย เห็นเจ้าหนูน้อยไม่เป็นอะไร ในที่สุดก็โล่งอก

พลันเมื่อเห็นเด็กหญิงตัวน้อยที่อยู่ข้างกายเขาในครู่ต่อมา มีความตกใจเสี้ยวหนึ่งแลบผ่านแววตา

นางก็คือเด็กผู้หญิงที่พาอวี้เป่าไปในวันนั้นกระมัง!

ถึงว่าพวกเขาบอกหน้าตาของนางกับตนคล้ายกันหลายส่วน สิ่งสำคัญที่สุดคือ ในใจเขาเกิดความรู้สึกใกล้ชิดที่ยากจะอธิบายด้วยคำพูด

เด็กหญิงตัวน้อยเรียกเขาอะไรนะ? นายหน้าค้ามนุษย์?

สิ่งที่น่าเหลือเชื่อที่สุดคือ ลูกชายตัวดีของเขาก็พยักหน้าด้วย

“หรงอวี้ นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

เมื่อได้ยินท่านพ่อเรียกชื่อของตน อวี้เป่ายิ่งก้มหน้าต่ำแล้ว

เขารู้ อารมณ์ของท่านพ่อในตอนนี้ไม่ดีมากแน่ ๆ

แต่ช่วยไม่ได้ เพื่อไม่ไปจากท่านแม่ เขาต้องยืนหยัดให้ถึงที่สุด

นานเป่าคิดว่าเขากลัว จึงรีบป้องเขาไว้ข้างหลัง

“มีอะไรก็มาลงที่ข้า อวี้เป่าสุขภาพไม่ดี เจ้าอย่าทำให้เขาตกใจ!”

เมื่อหรงเหยี่ยนเห็นท่าทางที่แสดงละครอย่างร้อนตัว และยังมีเด็กหญิงตัวน้อยที่พยายามปกป้องเขา สีหน้ายากจะคาดเดา

แม้ไม่รู้ว่าเหตุใดอวี้เอ๋อร์ต้องทำเช่นนี้ แต่เขาก็ไม่ได้เปิดโปงทันที

“ต่อให้ข้าลงมือกับเขา แล้วเจ้าจะทำอะไรได้?” หรงเหยี่ยนถามอย่างสนอกสนใจ รู้สึกชื่นชมในความกล้าของเด็กหญิงตัวน้อยมาก

“ข้า…ข้าก็…” พลันนานเป่าแตะเอว ตาค้างทันที

รีบออกมาเกินไป ลืมเอาถุงเงินมาด้วย

ไม่มีโอกาสใช้ ‘ยาวิเศษ’ เหล่านั้นแล้ว!

แม้ในใจกล้า ๆ กลัว ๆ กลับไม่ได้แสดงออกทางสีหน้า

“ถ้าหากกล้ารังแกพวกเรา ท่านแม่ไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่!”

หรงเหยี่ยนอดนึกถึงผู้หญิงในคืนนั้นไม่ได้

สามารถไปถึงเรือนอวิ๋นเมิ่งเซวียนได้อย่างง่ายดาย แสดงว่าพวกนางเป็นพวกเดียวกัน

หรือนางก็คือท่านแม่ที่เด็กหญิงตัวน้อยพูดถึง?

“เหตุใดจึงมีแค่พวกเจ้าสองคนอยู่ที่นี่ คนอื่นล่ะ?”

เขาไม่ได้ลืมว่าตนขึ้นเขาเพื่อช่วยคน!

เวลานี้ ทูตนักปราชญ์สองคนนั้นถูกสยบแล้ว และยังถูกสกัดจุดชีพจร

ร่างกายขยับไม่ได้ พวกเขาทำได้เพียงตะคอกด้วยความโกรธ “ห้ามทำร้ายคุณหนูน้อยกับคุณชายน้อย ไม่เช่นนั้น พวกเราเป็นผีก็ไม่ละเว้นพวกเจ้าแน่!”

หรงเหยี่ยนเข้าไปถาม “บนเขาเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

“ไม่เกี่ยวกับเจ้า!”

ปากแข็งจริง ๆ!

หรงเหยี่ยนหมดความอดทนแล้ว กล่าวอย่างเย็นชา “หากยังไม่พูดความจริง ข้าจะฆ่าพวกเขาเดี๋ยวนี้!”

เมื่อทั้งสองได้ยิน แสดงสีหน้าตื่นตระหนกอย่างที่คิด

พวกเขาไม่กลัวตาย แต่จะเกิดอะไรขึ้นกับนายน้อยไม่ได้เด็ดขาด

อีกทั้งเรื่องนั้น พูดก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร

อย่างไรเสีย ทันทีที่ฟ้าสว่าง โศกนาฏกรรมของหุบเขานักปราชญ์แห่งการแพทย์จะรู้กันทั่วใต้ฟ้า

“ตำหนักหมิงเย่…บุกขึ้นเขา พวกเรารับผิดชอบคุ้มกันนายน้อยทั้งสองลงเขา ส่วนเรื่องอื่น พวกเราไม่รู้อะไรเลย!”

พลันใจหรงเหยี่ยนตกวูบ มองไปทางจุยอวิ๋นกับจู๋เยว่

“พาพวกเขากลับไป เรื่องอื่นรอข้ากลับมาค่อยว่ากัน!”

“ขอรับ!”

อวิ๋นหลีมองเปลวไฟที่ลุกท่วม กับศพที่ล้มอยู่บนพื้นโดยรอบ

พวกเขาย่อมไม่ใช่คนของหุบเขานักปราชญ์แห่งการแพทย์ แต่เป็นพวกนักโทษที่กระทำความผิดร้ายแรง หลังจากถูกแขวนคอ ก็นำศพไปโยนทิ้งที่หลุมศพไร้ญาติ

นางสามารถนำศพเหล่านี้มาใช้งานพอดี พรุ่งนี้ตอนเซียวเยี่ยนถิงมาตรวจสอบ ก็จะไม่มีข้อสงสัย

อวี้เป่ากับนานเป่าน่าจะไปถึงสถานที่ปลอดภัยแล้ว นางจะรีบไปรวมตัวกับพวกเขา

นางปรบมือ ขณะเตรียมตัว ‘จากไปอย่างประสบความสำเร็จ’

จู่ ๆ ก็มีร่างเงาสวมชุดสีขาวปรากฏตัว พลันโอบเอวนางก็กระโดดลอยตัว

ไม่นาน ไฟที่ลุกโชนกับบ้านเรือนที่มีควันโขมงก็ถูกพวกเขาทิ้งไว้ข้างหลัง

เริ่มแรกอวิ๋นหลีคิดจะต่อต้าน แต่เมื่อนึกถึงตนยังอยู่กลางอากาศ ถ้าหากตกลงไปกระดูกแหลกเป็นชิ้น ๆ แน่ ได้แต่ล้มเลิกความคิดนี้

เมื่อสองเท้าร่อนลงพื้นอย่างมั่นคง นางจึงจะพบว่าตนได้มาอยู่ตรงลำธารที่เชิงเขาแล้ว

แสงจันทร์กระพือตามคลื่น เสียงสายน้ำไหลรินดังซ่า

อวิ๋นหลีกลับไม่มีเวลาชื่นชมทิวทัศน์อันงดงาม นางมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยสีหน้าหวาดระแวง

“เจ้าเป็นใคร เหตุใดจึงปรากฏตัวที่หุบเขานักปราชญ์แห่งการแพทย์?”

ทั้ง ๆ ที่นางได้ส่งคนออกไปหมดแล้ว หรือฉียวนไม่วางใจ ทิ้งนางไว้คนเดียวที่นั่น จึงส่งลูกน้องมารับ?

คนของตำหนักหมิงเย่สวมชุดดำกับหน้ากากตลอด

เมื่อเห็นใบหน้าที่งามสง่าแห่งยุค นางตะลึงไปชั่วพริบตา แต่ไม่นานความหวาดระแวงกับสติสัมปชัญญะก็อยู่เหนือกว่า

หรงเหยี่ยนไม่ได้ตอบคำถามของนาง เพียงแค่ขมวดคิ้วมองอย่างคาดคะเน

ตอนที่เขามาถึง หุบเขานักปราชญ์แห่งการแพทย์ได้กลายเป็นทะเลเพลิงไปแล้ว

ตามหาอยู่หนึ่งรอบ ในที่สุดก็พบคนรอดชีวิต จึงถือโอกาสช่วยออกมาด้วย

ใบหน้าของอวิ๋นหลีในเวลานี้ เต็มไปด้วยเขม่าควัน มองใบหน้าที่แท้จริงไม่ออก และยังดูค่อนข้างตลกด้วย

เขาถอนสายตากลับอย่างเรียบเฉย “เจ้าปฏิบัติต่อผู้มีพระคุณช่วยชีวิตเช่นนี้หรือ?”

Related chapters

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 10

    อวิ๋นหลี “...”เกาที่ไม่คัน ยุ่งเรื่องชาวบ้าน!ไม่ถูก!การปรากฏตัวของชายผู้นี้น่าสงสัย ไม่แน่อาจเป็นสายลับที่เซียวเยี่ยนถิงส่งมาไม่รู้เพราะเหตุใด นางมักจะเกิดความรู้สึกคุ้นเคยจากร่างกายของเขา แต่นางมั่นใจว่าไม่เคยเห็นใบหน้านี้สัมผัสถึงเจตนาฆ่าในสายตานาง หรงเหยี่ยนยิ่งอยากรู้ตัวตนของนางคืนนี้เกิดอะไรขึ้นที่หุบเขากันแน่?เหตุใดตำหนักหมิงเย่จึงจู่โจมอย่างหนักหน่วง?ทั้งหุบเขานักปราชญ์แห่งการแพทย์เหลือผู้รอดชีวิตแค่คนเดียว ดังนั้นต้องหาคำตอบของความลับทั้งหมดจากนางแล้ว“ท่านนักปราชญ์แห่งการแพทย์อยู่ที่ใด?”พลันอวิ๋นหลีสะดุ้ง มาหาข่าวอย่างที่คิดจริง ๆ ด้วยเช่นนั้นยิ่งเก็บไว้ไม่ได้แล้ว!พลันสายตาเฉียบคม ลงมืออย่างฉับไวเข็มเงินอาบยาพิษสามเล่มลอยออกไป โดนเข้าไปตายแน่นอนหรงเหยี่ยนมองดูเข็มเงินเหล่านั้นระเบิด กลายเป็นใยสีเงินโถมเข้าหาต่อหน้าต่อตาอีกครั้ง “เหอะ…คิดว่าข้าจะพลาดท่าให้ลูกไม้เดิม ๆ เป็นครั้งที่สองหรือ?”ใช้แค่ฝ่ามือเดียว ใยสีเงินนับไม่ถ้วนกลายเป็นผงธุลีเมื่อครู่แค่ต้องการหยั่งเชิง ตอนนี้ในใจมีคำตอบแล้วนางก็คือผู้หญิงที่บุกรุกเรือนอวิ๋นเมิ่งเซวียนในคืนนั้น!

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 11

    คิดไปคิดมา นางพลันเข้าใจแจ่มแจ้งแล้วนี่ท่านแม่กำลังเล่นเกมสวมบทบาทกับนางใช่หรือไม่?เช่นนั้นนางย่อมต้องให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี! “ท่านน้าลั่ว นานนานคิดถึงท่านมากเลยเจ้าค่ะ!”ชายหนุ่มหัวเราะหยันในใจ ความทรงจำช่วงวัยทารก บัดนี้ยังคงจำได้? คิดว่าเขาโง่งมจริง ๆ หรือ?เวลานี้อวี้เป่าก็จำอวิ๋นหลีได้เช่นกันเขาจำกำไลได้ไม่มาก แต่เขาจดจำเสียงของท่านแม่ได้ แม้เขาไม่รู้ว่าท่านแม่ต้องเปลี่ยนตัวเองให้มีรูปลักษณ์นี้ไปเพื่ออะไร แต่นางทำเช่นนี้ย่อมต้องมีเหตุผลของตนเอง ดังนั้น เขาจึงเลือกที่จะเงียบอวิ๋นหลีหาบุตรทั้งสองคนเจอแล้ว ย่อมอยากจะพาพวกเขาจากไปทันทีนางรู้ว่าบุรุษผู้นี้ไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปง่าย ๆ เพื่อความปลอดภัยของพวกเด็ก ๆ นางจึงยากที่จะปะทะกันตรง ๆ เช่นนั้นก็เข้าประเด็นไม่ต้องอ้อมค้อมเลยละกัน“บอกมา! เจ้าพยายามอย่างมากที่จะลักพาตัวเด็กทั้งสอง และล่อข้ามาที่นี่ มีจุดประสงค์อันใดกันแน่?”“ช่วยคน!”อวิ๋นหลีตะลึงงันไปทันใดนางนึกถึงความคิดชั่วช้าสามานไปหลายร้อยอย่าง เชื่อมั่นว่าเขาไม่ใช่คนดี ที่แท้...ทั้งหมดเป็นนางที่คิดมากไป?ดังนั้น เริ่มแรกเขามาเพื่อตามหาท่านนักปราช

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 12

    นางพุ่งเข้าไปหมายจะแย่งเสื้อชั้นในมา เขาพลันยกมือขึ้น นางจึงชนกับอ้อมอกของเขาทันที ทั้งสองคนอยู่ใกล้กันถึงเพียงนี้ ได้ยินแม้แต่เสียงหัวใจเต้นของเขาเมื่อเห็นดวงหน้าหล่อเหลาราวกับหยกดวงนั้น อวิ๋นหลีก็รู้สึกลนลาน เสียงคล้ายกับไม่มีความมั่นใจแล้ว “เจ้า...คืนให้ข้านะ!” อวิ๋นหลีตกตะลึงกับความไร้ยางอายของเขาแล้วนางยังไม่ทันได้คิดบัญชีก็ตกใจกับคำพูดถัดไปของเขาจนอึ้งอยู่กับที่ “เมื่อครู่นี้เจ้าคิดจะหลบหนีสินะ? ข้าแนะนำว่าทางที่ดีเจ้าล้มเลิกความคิดนี้เสีย! ข้าวางกับดักไว้ในรัศมีสิบลี้แล้ว ต่อให้ออกจากบ้าน ไม่นานก็จะถูกจับตัวกลับมาอยู่ดี!” นับว่าเขาช่างโหดเหี้ยม!อวิ๋นหลีไม่คิดจะเสแสร้งแล้วเช่นกัน ก่อนจะเผยความจริงออกมาตรง ๆ “ข้าไม่เคยรู้จักเจ้ามาก่อน เหตุใดต้องอยู่ร่วมเล่นละครกับเจ้าด้วย? เห็นใบหน้านี้ของข้าแล้ว เจ้าไม่กลัวฝันร้ายตอนกลางคืนหรือ?” หรงเหยี่ยนมองนางอยู่พักใหญ่แล้วค่อยกล่าวว่า “ข้าไม่รังเกียจเจ้า!” อวิ๋นหลี “...”แม้แต่ตัวนางเองเห็นใบหน้านี้แล้วก็ยังอยากอาเจียน เขาจะต้องมีรสนิยมแปลกมากเพียงใด?สวรรค์ประทานโฉมหน้าหล่อเหลาอย่างยิ่งยวดให้เขา แต่ลืมมอบรสนิยมกับสมองให

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 13

    เพลิงขนาดใหญ่ลุกไหม้ตลอดทั้งคืน หุบเขานักปราชญ์แห่งการแพทย์ในเวลานี้เต็มไปด้วยซากปรักหักพัง ซากกระดูกที่ไหม้จนเป็นสีดำหลายสิบศพนอนอยู่บนพื้นเซียวเยี่ยนถิงเห็นเช่นนี้ก็รู้สึกสบายใจอย่างยิ่งนี่ก็คือจุดจบของการล่วงเกินเขา!อย่างไรก็ตาม เขายังคงไม่พอใจเล็กน้อยเขาแค่ให้สังหารคนเท่านั้น ใครบอกว่าต้องวางเพลิงด้วย?ศพมากมายขนาดนี้ ระบุไม่ได้เลยว่าศพไหนคือท่านนักปราชญ์แห่งการแพทย์ ไม่อาจหาตัวออกมาสับเป็นพันเป็นหมื่นชิ้น ยากจะระบายความแค้นในใจของเขา! อย่างไรก็ตาม การถูกเผาอยู่ในเปลวเพลิงรุนแรงก็นับว่าย่อยยับเป็นผุยผงแล้วกระมัง!เมื่อตำหนังหมิงเย่ทำงาน ยังไม่เคยทำผิดพลาดมาก่อน เขาก็สามารถนอนหลับได้อย่างสบายใจแล้วเพิ่งกลับถึงจวนอ๋องก็ได้รับพระราชโองการที่ส่งมาจากในวังว่าให้เขาเข้าวังทันทีห้องทรงอักษร“อะไรนะ รัชทายาทแคว้นเยี่ยนจะเสด็จมาถึงเซิ่งจิงในอีกสามวัน? เหตุใดถึงเร็วเพียงนี้?”พวกเขาได้รับข่าวการออกเดินทางของกองทหารเกียรติยศแคว้นเยี่ยน จึงเริ่มซ่อมแซมวังที่จะจัดให้รัชทายาทพำนัก เสด็จพ่อได้มอบหมายภารกิจสำคัญนี้ให้เขาเขาจดจ่ออยู่กับ ‘บุตรแห่งนิมิตรมงคล’ ในครรภ์ของรั่วหรูซวง

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 14

    สองวันต่อมาฟ้ายังไม่สาง อวิ๋นหลีก็ถูกชิงอวี้กับชิงเหยาดึงขึ้นมา แล้วช่วยหวีผมแต่งหน้าแต่งตัวให้นางนางง่วงจนมึนศีรษะ นั่งหลับอยู่บนเก้าอี้แล้วเมื่อนางตื่นขึ้นมาก็พบว่าตนเองสวมชุดชาววังที่หรูหรางดงาม ก่อนจะตะลึงงันไปทันที!“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”“แม่นาง นายท่านของเราส่งคนมารับแล้วเจ้าค่ะ!บุรุษผู้นั้นกลับมาแล้ว?กลับมาก็กลับมาสิ มีความจำเป็นอะไรต้องให้นางแต่งตัวเช่นนี้?อวิ๋นหลีคุ้นชินกับการแต่งตัวสบาย ๆ เย็นสดชื่นมาโดยตลอด เครื่องประดับหนัก ๆ บนศีรษะ และชุดที่หรูหราซับซ้อนนี้ทำให้นางไม่สบายกายอย่างยิ่งสิ่งที่ไม่สอดคล้องที่สุดคือ ตอนนี้นางยังมีใบหน้าอัปลักษณ์นะ! ต่อให้แต่งตัวดีอีกเพียงใด แค่เห็นใบหน้านี้อ้วก~!เพื่อดูแลดวงตาของตนเองและคนรอบข้าง นางจึงดึงผ้าไหมมาปิดใบหน้าของตนไว้ เผยให้เห็นเพียงดวงตาที่ชาญฉลาดและข่มขวัญ คราวนี้รู้สึกดีขึ้นเยอะแล้ว!อวี้เป่ากับนานเป่าก็ถูกจับเปลี่ยนชุดใหม่เช่นกัน ราวกับเทพบุตรเทพธิดาน้อยที่เดินออกมาจากในภาพวาดเมื่อพวกเขามาถึงหน้าประตูก็เห็นว่ามีคนมากมายคุกเข่าอยู่ด้านนอก“พวกข้าน้อยขอถวายพระพรพระชายารัชทายาท!”ฉากใหญ่ขนาดนี้ทำให้อวิ

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 15

    เมื่อเห็นของสิ่งนั้น นางก็เหมือนโดนจับจุดอ่อน “ใช่ หม่อมฉันหึงแล้ว! หากพระองค์กล้ามองแม่นางน้อยพวกนั้น หม่อมฉันจะควักลูกตาของพวกนาง หากพระองค์กล้าแตะต้องพวกนางแม้ปลายนิ้ว หม่อมฉันก็จะตัดมือตัดเท้าของพวกนาง และเฉือนจมูกกับใบหู โยนเข้าห้องน้ำทิ้งไว้เป็นกองอาจม!” ดวงหน้านั้นเห็นได้ชัดว่ากำลังยิ้มแย้ม เหตุใดน้ำเสียงถึงกัดฟันกรอด?เมื่อคำพูดนี้ออกมา สตรีเหล่านั้นพลันตกใจจนตัวสั่น คุกเข่าลงกับพื้นทันทีแล้วขอบังคมทูลลาขันทีทั้งสองคนก็หลั่งเหงื่อเย็น ๆ ทั่วร่างเช่นกัน ก่อนจะพาคนถอยออกไปอย่างรวดเร็ว หลังจากที่คนไปแล้ว อวิ๋นหลีก็เปิดโหมดคิดบัญชีทันที“เจ้ามันคนหลอกลวง กล้าพูดจาเหลวไหลทำลายชื่อเสียงของข้า วันนี้หากเจ้าไม่มอบคำอธิบายมา ข้าจะสู้กับเจ้าแล้ว!” หรงเหยี่ยยนขมวดคิ้วเล็กน้อย “ข้าหลอกอะไรเจ้า?” “ฐานะของเจ้า แล้วก็ความสัมพันธ์กับอวี้เอ๋อร์!”“ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องฐานะ ข้าไม่ได้บอกเจ้าก่อนจริง ๆ อย่างมากนี่ก็ถือว่าเป็นการปกปิดเท่านั้น แต่ไม่ใช่การหลอกลวง! ส่วนอวี้เอ๋อร์...เจ้าคาดเดามั่วไปเองชัด ๆ คิดว่าข้าเป็นนายหน้าค้ามนุษย์ ข้าแค่ไม่ได้ปฏิเสธเท่านั้น!” เห็นได้ชัดว่าชายหนุ่

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 16

    นับตั้งแต่วันที่สนทนาลับกันในวัดหงเย่ เซียวหนีฉางก็ไม่สามารถกล่อมให้ตนเองจิตใจสงบได้อีกนางคุกเข่าอยู่บนเบาะรอง มองพระพุทธรูปด้านบน นางหลับตาสองข้าง สิ่งที่ผุดขึ้นมาในสมองล้วนเป็นดวงหน้าหล่อเหลางามล้ำดวงนั้นหัวใจของนางไม่อาจสงบลงได้อีกแล้ว!ต่อให้ไม่มีคำพูดนั้นของเสด็จพี่สี่ แต่ว่าทุกวันคืนตลอดสี่ปีมานี้ นางก็ไม่เคยปล่อยวางได้อย่างแท้จริงในที่สุด...นางถอดชุดแม่ชีออก เปลี่ยนเป็นชุดขององค์หญิงสตรีสวมกระโปรงยาวลากพื้น คลุมทับด้วยผ้าโปร่งบาง ๆ ผมดำดกหนา นัยน์ตากระจ่างในดุจน้ำในสาทรฤดูสาวใช้ที่อยู่ข้าง ๆ อดมองตาค้างไม่ได้ แล้วอุทานว่า “องค์หญิง พระองค์ทรงงดงามเหลือเกิน!” เซียวหนีฉางเพียงหลุบตาลงอย่างว้าเหว่ “สตรีตั้งใจแต่งหน้าเพื่อคนรัก ผ่านไปสี่ปีพอแต่งหน้าอีกครั้งก็ไม่เหมือนภาพเมื่อก่อนแล้ว!”ปีนั้นที่ได้พบเขา นางอายุแค่สิบหกเท่านั้น!แต่บัดนี้นางอายุมากกว่ายี่สิบแล้ว!สตรีทั่วไปในวัยนี้ออกเรือนไปนานแล้ว ช่วยเหลือสามีอบรมสั่งสอนบุตร แต่นางกลับเป็น ‘สาวเทื้อ’ ไปเสียแล้ว“องค์หญิงทรงตรัสอันใด ความงามของพระองค์ในตอนนี้เลิศล้ำยิ่งกว่าสี่ปีก่อน เป็นโฉมงามอันดับหนึ่งของแคว้นเหลี

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 17

    ทุกคนตกตะลึงถึงขีดสุดแล้วที่บอกว่าโหดเหี้ยมชั่วร้ายเล่า?ข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหกทั้งนั้นจริง ๆ ด้วย!หารู้ไม่ว่า คนทั้งสองที่ดูเหมือนคู่รักจากสวรรค์ อวดความรักท่ามกลางสายตาของผู้คนนั้น เวลานี้กำลังแอบประชันกันอย่างลับ ๆภายใต้แขนเสื้อ อวิ๋นหลีจ่อเข็มพิษตรงเอวของเขา สายตาข่มขู่ว่าให้ปล่อยมือ!ชายหนุ่มหาได้แยแสไม่ เขาเพียงแต่โอบนางแน่นยิ่งขึ้นเขาไม่เชื่อว่านางยังจะลงมือต่อหน้าผู้คนมากมายถึงเพียงนี้ได้?เพื่อโรคของอวี้เอ๋อร์ และเพื่อที่จะสามารถเดินไปถึงขั้นนั้นกับนางในเร็ววัน หลายวันนี้เขาตั้งใจอ่านหนังสือบทละครหลายเล่ม ซึ่งในนั้นบอกว่าวิธีการที่เร็วที่สุดในการสร้างความสัมพันธ์ ก็คือการสัมผัสใกล้ชิดกันนางระวังตัวกับเขาในทุก ๆ ด้านมาโดยตลอด ปกติแล้วการจะเข้าใกล้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย โอกาสที่จะได้ทำตัวเปิดตัวโจ่งแจ้งเช่นนี้ เขาจะพลาดไม่ได้! เมื่อมองท่าทาง ‘รักกัน’ ของทั้งสองคน เซียวเยี่ยนถิงก็เกิดโทสะในใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกเขาเข้ามาทักทายพร้อมกับใบหน้ายิ้มแย้ม “เมื่อวานพบกันอย่างฉุกละหุก ไม่มีโอกาสทักทาย วันนี้ถือว่าได้พบพานสหายเก่าที่แท้จริง องค์รัชทายาทดูสง่างามยิ่งกว

Latest chapter

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 50

    เขาคงไม่ได้มีอะไรเชื่อมโยงกับนานเป่าจริง ๆ กระมัง?ความคิดนี้เพิ่งผุดขึ้นในสมอง ก็ถูกอวิ๋นหลีปฏิเสธทันทีเป็นไปไม่ได้!ตามความทรงจำของเจ้าของร่าง ตอนนั้นเซียวเยี่ยนถิงกับรั่วหรูซวงวางแผนปรักปรำนาง ได้จัดเตรียมขอทานคนหนึ่งให้นางความปรารถนาแรกของเจ้าของร่าง ก็คือตามหาคนที่พรากความบริสุทธิ์ของนางแล้วแก้แค้นต่อมา นางส่งคนไปตามหาเบาะแสของขอทานคนนั้นรู้มาว่าเขาตายตั้งแต่เมื่อสี่ปีก่อนแล้ว!ก่อนตายหนึ่งวัน เขาเคยไปอวดสหายคนหนึ่งของเขาอย่างภาคภูมิใจว่า ตนโชคดีจริง ๆ!มีเงินให้รับ และยังได้นอนกับผู้หญิง สวรรค์ช่างดีกับเขาจริง ๆตอนนั้นสหายของเขาคิดว่าเขาคุยโม้ด้วยซ้ำ ถามเขาว่ามีเรื่องดี ๆ เช่นนี้ที่ใดกัน ขอทานจึงเล่าให้เขาฟัง และยังบอกให้เขาต้องเก็บเป็นความลับ ไม่เช่นนั้นจะนำภัยมาสู่ตัววันต่อมา ขอทานก็ไปที่วัดหงเย่หลังจากนั้น…ก็ไม่มีหลังจากนั้นแล้วเพราะเขาไม่ได้กลับมาอีกเลยสหายของขอทานก็ถูกเซียวเยี่ยนถิงตามล่าเช่นกัน เขาหลบซ่อนตัวโดยตลอด แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถหนีพ้นความตายตอนที่อวิ๋นหลีตามหาเขาจนพบ ก็เหลือแค่ลมหายใจที่รวยรินแล้ว แต่ก็ยังใช้แรงฮึดสุดท้ายเล่าแผนการที่วัดหงเ

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 49

    เมื่อเห็นอวิ๋นหลีกลับมา เหล่าองครักษ์ตื่นเต้นมาก“พระชายา เจอยาถอนพิษหรือไม่?”อวิ๋นหลีไม่กล้าสบตาพวกเขาด้วยซ้ำ “ขอโทษ”จู๋เยว่ร้อนใจทันที“ท่านรู้หรือไม่ เมื่อครู่นายท่านกระอักเลือดไปสองรอบแล้ว! ท่านกลับทำตัวลึกลับไม่รู้ไปอยู่ที่ใด ถ้าหากรักษาไม่ได้ก็บอกแต่แรก เหตุใดต้องมาเสียเวลาอยู่ที่นี่ด้วย?”“ใจเย็น ๆ ห้ามเสียมารยาทกับพระชายารัชทายาท!”“นายท่านใกล้จะไม่ไหวแล้ว เจ้าจะให้ข้าใจเย็นอย่างไร?”จุยอวิ๋นก็กังวลมากเช่นกัน แต่เขารู้ นี่ไม่ใช่ความผิดของอวิ๋นหลีนายท่านยอมเอาชีวิตไปปกป้องนาง มากพอที่จะรู้ถึงความสำคัญของนางที่อยู่ในใจเขาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเขาล้วนสมควรรักษาการให้เกียรตินาง“พระชายารัชทายาท ไม่มีวิธีแล้วจริง ๆ หรือ?”“ยาถอนพิษหาไม่เจอแล้ว แผนในตอนนี้ มีเพียงให้ข้าลองพยายามดูสักตั้งว่า สามารถขับพิษออกจากร่างกายเขาหรือไม่ แล้วค่อย…”กล่าวยังไม่ทันจบ ก็ถูกขัดอีกครั้ง“เมื่อครู่ก็เพราะพวกเราเชื่อท่าน จึงได้ยืนโง่ ๆ อยู่ตรงนี้ตั้งนาน ข้าว่าไม่สู้รีบพานายท่านกลับไปหาฝูหลิงจวิน ไม่แน่ว่าถอนพิษได้ตั้งนานแล้ว”“จู๋เยว่…”“ข้าพูดอะไรผิดหรือ? เพื่อที่จะช่วยนาง ชีวิตนา

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 48

    “พูดเหลวไหล! ข้าให้เจ้าลงมือกับข้าตั้งแต่เมื่อไร?”“เสี่ยวหลีเอ๋อร์ เจ้าน่าจะรู้ คนที่ข้าไม่อยากทำร้ายที่สุดบนโลกใบนี้ก็คือเจ้า!” บนใบหน้าฮวาเย่ยังคงมีรอยยิ้ม แต่ดวงตาดอกท้อที่มีเสน่ห์นั่น กลับเผยให้เห็นเจตนาฆ่าที่กระหายเลือดเรื่องนี้ อวิ๋นหลีย่อมรู้ดีตั้งแต่เมื่อสองปีก่อนที่นางแก้พิษศพที่เขาคิดค้นขึ้นได้ ทั้งสองก็เกิดปฏิสัมพันธ์ที่ตัดไม่ขาดความสุขสูงสุดของเขาก็คือ การทำยาพิษให้นางมาแก้พิษ คอยเพลิดเพลินกับความรู้สึกที่ถูกคนเห็นกระบวนท่าก็แก้ตามกระบวนท่าระหว่างพวกเขามีความชอบที่คล้ายกัน จากศัตรูกลายเป็นสหายถ้าหากวางยาพิษจนนางตายจริง ๆ เกรงว่าเขาจะเศร้าใจที่สุด ต้องสูญเสียความหมายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตไปเช่นนั้น คนที่เขาจะฆ่าก็ต้องเป็น…“ข้าเตือนเจ้าตั้งแต่แรกแล้ว เขาเป็นแค่คนที่ไม่มีความสำคัญ หลังจากทุกอย่างจบลง ก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก เหตุใดต้องลงมือกับคนที่ไม่รู้อะไรด้วย?”ฮวาเย่ยิ้มอย่างเย็นเยือก “เสี่ยวหลีเอ๋อร์ตำหนิข้าเพราะเขาหรือ? ด้วยเรื่องนี้ เขาก็สมควรตายที่สุด!”“ข้าแค่กำลังพูดข้อเท็จจริงกับเจ้า ไม่ได้มีเจตนาอื่น”“อธิบายก็คือกลบเกลื่อน กลบเกลื่อนก็คือคว

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 47

    “อะไรนะ?” เหล่าองครักษ์ลับตกใจมากชีวิตของนายท่านเกี่ยวพันถึงความมั่นคงของแคว้นเยี่ยน จะเป็นอะไรไม่ได้เด็ดขาด ไม่เช่นนั้นต่อให้พวกเขาตายหมื่นครั้งก็ยากจะไถ่โทษตอนนี้ พวกเขาทำได้เพียงฝากความหวังไว้ที่อวิ๋นหลี“พระชายา นายท่านได้รับบาดเจ็บเพราะช่วยท่าน ท่านต้องหาวิธีช่วยเขานะ”“ข้าต้องช่วยเขาอยู่แล้ว พวกเจ้ายกเขาขึ้นรถม้าก่อน”เป็นครั้งแรกที่อวิ๋นหลีรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองรุ่มร้อนเช่นนี้ เมื่อตรวจชีพจร ยุ่งเหยิงมากเหมือนกับว่าทำมาจากพิษที่รุนแรงพันหมื่นชนิด อยากถอนพิษก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มลงมือจากที่ใดเห็นสีหน้าที่ซีดเซียวของเขา นางรู้สึกเหมือนตัวเองถูกมือใหญ่ที่มองไม่เห็นบีบคอ ทรมานจนแทบหายใจไม่ออกในเมื่ออีกฝ่ายใช้พิษเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าต้องการฆ่าให้ตายในทันที ช่างอำมหิตจริง ๆนางใช้เข็มเงินแต้มเลือดพิษ แล้วส่งเข้าไปทำการวิเคราะห์ที่ห้องทดลองหวังว่าจะสามารถวิเคราะห์ชนิดของพิษออกมา และหาวิธีคิดค้นยาถอนพิษโดยเร็วเวลานี้เอง งูเล็กสีแดงตัวหนึ่งแผดเสียง ‘ซือ ๆ’ เลื้อยเข้ามาจากทางหน้าต่างอวิ๋นหลีจำได้ในปราดเดียว…ชื่อหลิน!ในเมื่อมันอยู่ที่นี่ เช่นนั้นเจ้านายของมัน…ตั้งแต่

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 46

    นางไม่เคยเปิดใจกับเขาอย่างแท้จริงบางทีนี่อาจเป็นเหตุผลที่นางไม่ยอมบอกตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง!ข้างหน้าเป็นป่าองครักษ์ลับในชุดดำและปิดใบหน้าซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้ มองดูรถม้าใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ“ผู้บัญชาการ จะทำเช่นนี้จริง ๆ หรือ?”“อีกเดี๋ยวทำตามคำสั่งของข้า”ทุกคนอัดอั้นในใจ เหตุการณ์อะไรพวกเขาไม่เคยพบเคยเห็น วันนี้กลับต้องมาปลอมตัวเป็นโจรดักปล้นกลางทาง ช่างเป็นประวัติการณ์ครั้งหนึ่งจริง ๆทั้งหมดนี้เพียงเพื่อให้ความร่วมมือกับการแสดงละคร ‘วีรบุรุษช่วยหญิงงาม’ ของนายท่านที่มีจินตนาการสุดล้ำของพวกเขา เพื่อพิชิตใจของผู้หญิงคนนั้นในเร็ววันแต่เมื่อนึกถึงฝีมือการแพทย์ของอวิ๋นหลี ความหดหู่ในใจหายไปทันทีต่อให้ทำเพื่อยาแปลก ๆ ที่นางคิดค้น พวกเขาก็ต้องรั้งนายหญิงท่านนี้ไว้ให้ได้!ทันใดนั้น ลูกธนูที่เย็นเฉียบแหวกอากาศยามราตรี เจาะทะลุตัวรถม้าในพริบตาคนชุดดำนับสิบร่อนลงมาจากท้องฟ้าคนขับรถม้าถูกพวกเขาฆ่าตายแล้ว บนหน้าอกยังมีลูกธนูปักอยู่หนึ่งดอก และยังเบิกตากว้าง เห็นได้ชัดว่าตายตาไม่หลับเวลานี้ กลุ่มองครักษ์ลับที่อยู่บนต้นไม้มองตาค้าง“ผู้…ผู้บัญชาการ นายท่านได้ส่งคนอื่นมาด้วยหรื

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 45

    ในที่สุดฝาก็ถูกยกขึ้นต่อจากนั้น สีหน้าทุกคนเปลี่ยนฉับพลันในกล่องนั่น…มันว่างเปล่า!พลันหลี่กงกงตบหน้าผาก “โอ๊ย บ่าวเกือบลืมไปแล้ว! ฝ่าบาททรงโปรดปรานขนมแผ่นเมฆสู่ตี้มาก และเสวยสองสามชิ้นทุกวัน ทรงเสวยหมดตั้งแต่หลายวันก่อนแล้ว”ในที่สุดหัวใจที่กระวนกระวายของเซียวเยี่ยนถิงก็สงบลง ดูเหมือนสวรรค์ยังเข้าข้างเขาอวิ๋นหลีก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่า เซียวเยี่ยนถิงจะดวงดีเช่นนี้ ปล่อยให้เขาหนีรอดไปได้อีกครั้งน่าเจ็บใจจริง ๆ!เวลานี้เอง จู่ ๆ หรงเหยี่ยนก็เอ่ยปาก “ฝ่าบาท กระหม่อมมีคำพูดหนึ่ง ไม่รู้ว่าควรพูดหรือไม่ควรพูด?”“ล้วนเป็นคนกันเอง เจ้ากับพระชายารัชทายาทเป็นคนช่วยชีวิตเราไว้ มีอะไรก็พูดมาได้เลย”“โจรชั่วบังอาจเช่นนี้ กล้าวางยาพิษกระทั่งฮ่องเต้ จะเห็นได้ว่ายากจะหยั่งรู้เจตนา ปัจจุบันเป็นช่วงสำคัญของการร่วมมือระหว่างสองแคว้น สถานการณ์สงครามชายแดนคับขัน ถ้าหากเกิดเรื่องกับฝ่าบาทในเวลานี้ จะมีผลอย่างไรตามมา?”สีหน้าฮ่องเต้ต้าเหลียงเปลี่ยนฉับพลัน จู่ ๆ ก็ออกคำสั่ง “ทหาร คุมตัวอันอ๋องเข้าคุกหลวง!”เซียวเยี่ยนถิงงงงวยแล้วขนมหมดแล้วไม่ใช่หรือ?ไม่มีหลักฐาน เหตุใดยังจับเขาอีก?เมื่อเห็น

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 44

    สายตาฮ่องเต้กวาดผ่านร่างกายเขาอย่างเย็นชา โดยไม่ได้พูดอะไรมากตอนนี้ไม่ใช่เวลามาซักไซ้ความผิดของเขา เพราะเขายังมีเรื่องที่สำคัญกว่าต้องจัดการนึกถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของอวิ๋นหลี ในใจเขาหวาดกลัวสุดขีด น้ำเสียงเย็นชาฉับพลัน “พวกเจ้าเข้ามาให้หมด”ในห้องพระบรรทม หมอหลวงทุกคนคุกเข่าอยู่บนพื้นสายตาฮ่องเต้ต้าเหลียงกวาดผ่านพวกเขา อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจแรง ๆทั้งสำนักหมอหลวงรวมกัน กลับสู้ผู้หญิงคนหนึ่งไม่ได้ ช่างเป็นที่น่าหัวเราะเยาะจริง ๆตอนมองไปทางอวิ๋นหลี สายตาเขาอ่อนโยนลงหลายส่วนทันที “เจ้าบอกพวกเขาดู ตกลงข้าเป็นโรคอะไรกันแน่?”เซียวเยี่ยนถิงก็อยากรู้เช่นกัน ตกลงนางใช้วิธีอย่างไรช่วยฮ่องเต้กันแน่ ถึงสามารถทำให้เขา ‘ฟื้นคืนจากความตาย’?กลับไม่คาดคิด คำพูดต่อจากนี้ของอวิ๋นหลีทำให้เขาสะดุ้ง“ฝ่าบาทไม่ได้ป่วย แต่ถูกพิษ!”หมอหลวงจางที่ปรึกษาสำนักหมอหลวงคัดค้านคนแรก “เป็นไปไม่ได้! กระหม่อมรักษาโรคมาสามสิบปี และเคยศึกษาพิษมากมายเช่นกัน พิษทั่วไป ทันทีที่เข้าสู่ร่างกาย แค่ตรวจชีพจรก็สามารถรู้ได้ในทันที แต่ชีพจรของฝ่าบาทไม่มีสัญญาณของการถูกพิษใด ๆ”“พิษชนิดนี้พบเห็นยากมาก มันจะไม่เข้าสู่กร

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 43

    หลังจากนั้นสองวัน มีข่าวร้ายถูกส่งมาจากในวังฮ่องเต้เศร้าเสียใจต่อการสิ้นพระชนม์ของพระนัดดาน้อย อาการป่วยแย่ลงอย่างรวดเร็ว ใกล้จะไม่ไหวแล้วเหล่าหมอหลวงหมดปัญญา เซียวมู่ป๋ายไม่สนใจคำคัดค้านของทุกคน เชิญอวิ๋นหลีเข้าวังตรวจอาการฮ่องเต้ตำหนักเฉินหลังจากเซียวมู่ป๋ายบอกเจตนาที่ตัวเองมา กลับถูกหรงเหยี่ยนปฏิเสธ“สหายหรง เสด็จพ่อป่วยหนัก ทั้งสำนักหมอหลวงหมดปัญญารักษา ฝีมือการแพทย์ของพระชายารัชทายาทสูงส่ง ให้นางลองดู บางทีเสด็จพ่ออาจจะยังมีโอกาสรอด”“เรื่องอะไรก็คุยกันได้ ยกเว้นเรื่องนี้ไม่ได้!”หรงเหยี่ยนจะปล่อยให้ผู้หญิงของตัวเองตกอยู่ในอันตรายได้อย่างไร?ช่วยได้ย่อมดีที่สุด แต่ถ้าหากเกิดข้อผิดพลาดอะไร เป็นไปได้ว่าจะตกเป็นเป้าของทุกคนในข้อหา ‘ปลงพระชนม์ชีพ’คิดไม่ถึงว่าอวิ๋นหลีกลับตอบตกลงทันที“เข้าวังเมื่อไร?”“ยิ่งเร็วยิ่งดี!”“เช่นนั้นยังจะรออะไรอีก? ออกเดินทางเลย!”หรงเหยี่ยนย่อมไม่ปล่อยให้นางทำอะไรส่งเดช “เจ้ารู้หรือไม่ว่ารักษาฝ่าบาทไม่หาย จะมีผลลัพธ์อย่างไร?”อวิ๋นหลีกลับกล่าว “เจ้าเชื่อข้าหรือไม่?”หรงเหยี่ยนมองนางด้วยสีหน้าซับซ้อนแวบหนึ่ง ในที่สุดก็ถอนใจ “ไปเถอะ ข้าไป

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 42

    “หลายวันนี้ ทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับจวนอันอ๋อง เจ้าล้วนให้ความสนใจมาก เมื่อครู่ในงานเลี้ยงพระราชวัง ข้าเห็นกับตาว่าเจ้า…”พูดยังไม่ทันจบ จู่ ๆ มือน้อยข้างหนึ่งก็ปิดปากของเขาเขาพูดมากเกินไปแล้ว!เดิมทีนางไม่อยากให้เขารู้เรื่องเหล่านี้ ยิ่งไม่อยากให้เขาเข้ามาพัวพันกับแผนการเหล่านี้ความแค้นของนาง นางสะสางเองได้!ไม่อยากให้ใครก็ตามเข้ามายุ่ง!หรงเหยี่ยนเอามือของนางลง มองนางอย่างลึกซึ้ง “ถ้าหากข้าบอกเจ้าว่า ศัตรูของพวกเราคือคนเดียวกันล่ะ?”อวิ๋นหลีเบิกตากว้างฉับพลันจู่ ๆ ก็นึกถึงวันที่เข้าเมืองหลวง นางถามเขาว่าไปทำอะไรที่เซิ่งจิงเขาพูดแค่สองคำ…ล้างแค้นแต่เมื่อนางถามว่าศัตรูของเขาเป็นใคร เขากลับเลียนแบบสำเนียงของนาง พูดเหมือนกับที่นางพูดเดิมทีคิดว่าเขาจงใจหยอกล้อ จึงไม่ได้เก็บเอาไปใส่ใจถ้าหากเป็นจริงทุกสิ่ง ไม่เท่ากับว่าศัตรูของเขาก็คือ…ใต้ฟ้ามีเรื่องที่บังเอิญเช่นนี้จริงหรือ?อวิ๋นหลีอดไม่ได้ที่จะถาม “เจ้ามีความแค้นอะไรกับเขา?”“ความแค้นที่ฆ่าภรรยา ไม่สามารถอยู่ร่วมใต้ฟ้าเดียวกัน!”ที่แท้แม่ของอวี้เป่าถูกเซียวเยี่ยนถิงฆ่าตายคำนวณตามเวลา สี่ปีก่อนเขายังอยู่แคว้นเหล

DMCA.com Protection Status