แชร์

บทที่ 14

ผู้แต่ง: คุณชายฝูซู
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-19 15:40:28
สองวันต่อมา

ฟ้ายังไม่สาง อวิ๋นหลีก็ถูกชิงอวี้กับชิงเหยาดึงขึ้นมา แล้วช่วยหวีผมแต่งหน้าแต่งตัวให้นาง

นางง่วงจนมึนศีรษะ นั่งหลับอยู่บนเก้าอี้แล้ว

เมื่อนางตื่นขึ้นมาก็พบว่าตนเองสวมชุดชาววังที่หรูหรางดงาม ก่อนจะตะลึงงันไปทันที!

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”

“แม่นาง นายท่านของเราส่งคนมารับแล้วเจ้าค่ะ!

บุรุษผู้นั้นกลับมาแล้ว?

กลับมาก็กลับมาสิ มีความจำเป็นอะไรต้องให้นางแต่งตัวเช่นนี้?

อวิ๋นหลีคุ้นชินกับการแต่งตัวสบาย ๆ เย็นสดชื่นมาโดยตลอด เครื่องประดับหนัก ๆ บนศีรษะ และชุดที่หรูหราซับซ้อนนี้ทำให้นางไม่สบายกายอย่างยิ่ง

สิ่งที่ไม่สอดคล้องที่สุดคือ ตอนนี้นางยังมีใบหน้าอัปลักษณ์นะ!

ต่อให้แต่งตัวดีอีกเพียงใด แค่เห็นใบหน้านี้

อ้วก~!

เพื่อดูแลดวงตาของตนเองและคนรอบข้าง นางจึงดึงผ้าไหมมาปิดใบหน้าของตนไว้ เผยให้เห็นเพียงดวงตาที่ชาญฉลาดและข่มขวัญ

คราวนี้รู้สึกดีขึ้นเยอะแล้ว!

อวี้เป่ากับนานเป่าก็ถูกจับเปลี่ยนชุดใหม่เช่นกัน ราวกับเทพบุตรเทพธิดาน้อยที่เดินออกมาจากในภาพวาด

เมื่อพวกเขามาถึงหน้าประตูก็เห็นว่ามีคนมากมายคุกเข่าอยู่ด้านนอก

“พวกข้าน้อยขอถวายพระพรพระชายารัชทายาท!”

ฉากใหญ่ขนาดนี้ทำให้อวิ๋นหลีตกใจจนสะดุ้ง และงุนงงยากจะเข้าใจอยู่บ้าง

“แคว้นเหลียงยังไม่ได้แต่งตั้งมกุฏราชกุมารไม่ใช่หรือ พระชายารัชทายาทมาจากไหน?”

สายตาของทุกคนมองเข้ามาพร้อมกัน นางถึงค่อยตระหนักได้โดยไม่รู้ตัว ยื่นมือมาชี้ที่ตัวเองอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“ข้า?”

หัวหน้าคนดูแลยิ้มพลางเดินเข้ามากล่าวว่า “ท่านล้อเล่นแล้ว ท่านก็คือพระชายารัชทายาทของแคว้นเยี่ยนอันยิ่งใหญ่ รีบขึ้นรถตามพวกเราไปพบองค์รัชทายาทเถิด!”

จนกระทั่งนั่งบนรถม้า อวิ๋นหลีจึงเหมือนตื่นจากฝัน มองชิงอวี้กับชิงเหยาที่อยู่ทางด้านข้าง

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

“รัชทายาทมาถึงแคว้นเหลียงล่วงหน้าอย่างลับ ๆ เพื่อรักษาโรคของฝ่าบาทน้อย ไม่ได้เดินทางพร้อมกับคณะทูต บัดนี้กองทหารเกียรติยศของแคว้นเยี่ยนมาถึงแล้ว ฝ่าบาทจึงรีบไปรวมตัวกับพวกเขา เมื่อมาถึงเซิ่งจิง ก็ส่งคนมารับพวกท่านแล้ว”

อวิ๋นหลียังคงฟังไม่ค่อยเข้าใจนัก หรือจะพูดว่านางยังไม่สามารถยอมรับการเปลี่ยนแปลงของเรื่องนี้ได้

“รัชทายาทที่เจ้าพูดถึง คงไม่ใช่ว่า..”

“ถูกต้องแล้วเพคะ คือเจ้านายของพวกเรา!”

“...”

ในสมองของอวิ๋นหลีหวนนึกถึงคำพูดที่ตนเองเคยกล่าวพอดี

...เขาเลือดเย็นไร้มโนธรรม กระหายเลือด แล้งน้ำใจ เคารพแต่ไม่ขออยู่ใกล้เสียดีกว่า

มิน่าล่ะตอนนั้นสีหน้าของเขาถึงได้ย่ำแย่เพียงนั้น ที่แท้เขาก็คือผู้สูงศักดิ์คนนั้น!

เรื่องตลกนี้ไม่ขำเลยสักนิดเดียว!

ทันใดนั้นเอง นางนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้อีก ก่อนจะจ้องไปยังเด็กน้อยคนหนึ่งในรถ

อวี้เป่าก้มหน้าอย่างร้อนตัวมานานแล้ว

จบสิ้นแล้ว ไม่ระวังทำให้ความลับเปิดเผยแล้ว!

อวิ๋นหลีสูดลมหายใจลึก พยายามบอกตนเองว่าอย่าโกรธ พยายามทำหน้ายิ้มแย้มขึ้นมา

เด็กน้อยป่วยเป็นโรคหัวใจ ร่างกายอ่อนแอ จะทำให้เขาตกใจกลัวไม่ได้เป็นอันขาด!

“เจ้า...ไม่มีอะไรจะพูดกับข้าเลยหรือ?”

อวี้เป่าร้องไห้ ‘โฮ’ เสียงดัง

อวิ๋นหลี “...”

นางยังอ่อนโยนไม่พออีกหรือ?

ปกติแล้วนานเป่าทำผิด นางถึงขนาดควงไม้กวาดขึ้นมา เด็กหญิงตัวน้อยแข็งแกร่งมาก ไม่หวาดกลัวเลยสักนิดเดียว!

อวี้เป่าร้องไห้พลางโผเข้ามาในอ้อมอกของนาง “อวี้เอ๋อร์ผิดไปแล้ว ไม่ควรโกหกท่านแม่! อวี้เอ๋อร์แค่กลัวว่าท่านแม่จะไม่ต้องการข้าแล้ว!”

อวิ๋นหลีถึงค่อยนึกถึงคำพูดที่ตนเองเคยกล่าวก่อนหน้านี้ หากตามหาคนในครอบครัวของอวี้เป่าเจอแล้วก็จะส่งเขากลับไป

เด็กน้อยถึงไม่กล้าบอกความจริงเพราะเหตุนี้?

นางทั้งโมโหทั้งขำในเวลาเดียวกัน ได้แต่เอ่ยปลอบโยนว่า “วางใจเถิด ข้าจะไม่ต้องการเจ้าได้อย่างไรเล่า?”

“จริงหรือขอรับ? แล้วท่านพ่อเล่า?”

เมื่อนึกถึงบุรุษผู้นั้น อวิ๋นหลีพลันรู้สึกปวดศีรษะเล็กน้อย

แต่ว่ามีคำพูดบางอย่างที่นางต้องกล่าวให้ชัดเจน

“นั่นไม่เหมือนกัน! ข้าเป็นมารดาของเจ้าได้ แต่ไม่มีความสัมพันธ์อันใดกับเขา!”

อวี้เป่าก้มหน้าลงด้วยความผิดหวังอยู่บ้าง แต่เขาอยากให้พวกเขาสามารถอยู่ด้วยกันทั้งครอบครัวมากจริง ๆ นะ!

เด็กหญิงตัวน้อยก็ตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้เช่นกัน!

นางคิดว่าภูมิหลังของท่านพ่อทั้งสี่คนนั้นของนางยิ่งใหญ่มากพอแล้วนะ คิดไม่ถึงว่าจะมีรัชทายาทมาอีกคน!

เช่นนั้นฐานะของนางในตอนนี้คือองค์หญิงน้อยใช่หรือไม่?

คิดดูแล้วยังคงรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย!

“ท่านแม่ ท่านอยากรักษาโรคหัวใจของอวี้เป่าให้หายมาตลอดไม่ใช่หรือเจ้าคะ? ตอนนี้หาบิดาของเขาเจอแล้ว นี่เป็นเรื่องดีนะเจ้าคะ!”

คำพูดนี้เตือนสติของอวิ๋นหลี ใช่แล้ว สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้คือโรคของอวี้เป่า!

ขอเพียงให้เขารีบหาสตรีสักคนแล้วให้กำเนิดบุตร อวี้เป่าก็มีทางช่วยแล้ว!

ตำหนักเฉิน

อาคารตกแต่งด้วยงานแกะสลักวาดลวดลายงามสง่า เป็นตำหนักประทับแปรพระราชฐานที่ฮ่องเต้แห่งแคว้นเหลียงตั้งใจมอบให้แก่รัชทายาทแคว้นเยี่ยนเพื่อพำนัก

เมื่ออวิ๋นหลีเข้าประตูมาก็ได้รับการคารวะจากผู้คนนับไม่ถ้วน เรียกนางว่าพระชายา ก่อนจะไปหาบุรุษผู้นั้นเพื่อพูดคุยให้ชัดเจนซึ่งหน้า

เวลานี้เอง หรงเหยี่ยนกำลังอยู่ตรงระเบียงทางเดิน

เขาสวมเสื้อตัวยาวผ้าแพรสีขาวลายเมฆ คลุมทับด้วยผ้าไหมสีขาวนวลแขนกว้าง เส้นผมดำขลับรวบขึ้นด้วยกวานหยก ยิ่งขับให้เรียวยาวดั่งหยก ดูสูงส่งจนไม่อาจเอื้อม

ขันทีสองคนกำลังถ่ายทอดพระราชโองการของฮ่องเต้แห่งแคว้นเหลียงด้วยสีหน้ากระตือรือร้น ถ้าเกิดไม่ชินกับการพำนักในตำหนักประทับแปรพระราชฐานหรือมีปัญหาใด ๆ ก็ให้คนมาทูลได้

สายตาของหรงเหยี่ยนทอดมองไปยังร่างนางกำนัลที่อยู่ไม่ไกล สีหน้าเย็นชาทำให้ผู้คนรู้สึกกดดันอย่างยิ่ง

สตรีเหล่านั้นหน้าตาเลิศล้ำ ผิวพรรณเนียนละเอียด ไม่เหมือนนางกำนัลเลยสักนิดเดียว

ขันทีทั้งสองคนเห็นเขาจ้องมองสตรีเหล่านั้น แล้วอดยิ้มอย่างรู้กันไม่ได้

“ฝ่าบาททรงให้อันอ๋องตั้งใจคัดเลือกสาวใช้ที่เฉลียวฉลาดคล่องแคล่วยี่สิบคน รับผิดชอบงานต่าง ๆ เช่นการยกน้ำชารินน้ำ กวาดลานพ่ะย่ะค่ะ”

ผู้ชายก็นะ จะมีสักกี่คนที่สามารถต้านทานเสน่ห์เย้ายวนของสาวงามได้?

สตรีเหล่านี้ล้วนเป็นคนที่คัดเลือกมาอย่างพิถีพิถัน รูปร่างหน้าดีเยี่ยม แม้กระทั่งพระเห็นแล้วก็ยังใจเต้น

“ไล่พวกนางออกไปทั้งหมด!”

“อะไรนะ?” ขันทีนึกว่าตัวเองฟังผิดไป

“คนที่ไม่เกี่ยวข้องเหล่านี้ข้าไม่ต้องการ!”

“เหลือไว้สักสองสามคนดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ? ไม่อย่างนั้นหากฝ่าบาททรงทราบจะคิดว่าพวกเราละเลยองค์รัชทายาท จะต้องลงโทษพวกกระหม่อมเป็นแน่!”

สิ่งสำคัญที่สุดคือ ในนั้นยังมีหลายคนเป็นสายลับที่อันอ๋องจัดเตรียมไว้ รับหน้าที่จับตาดูทุกการเคลื่อนไหวในตำหนักเฉิน

หากไล่ไป แล้วจะอธิบายกับอันอ๋องอย่างไร?

หรงเหยี่ยนแค่เห็นก็มองความคิดในใจของพวกเขาปรุโปร่งแล้ว

เขาปรายตามอง เห็นร่างคนที่ปรากฏตัวอยู่ไม่ไกล เสียงพลันเปลี่ยนเป็นเย็นชา “ข้ากับพระชายามีความรักความผูกพันกันลึกซึ้ง หากพระชายาเห็นนางกำนัลเหล่านี้เข้าจะไม่พอใจได้ เจ้าอยากให้ความรักระหว่างสามีภรรยาของพวกเราพังทลายหรือ?”

อวิ๋นหลีเพิ่งเข้ามาก็ได้ยินคำพูดเช่นนี้ นางก็เข้าใจทันทีว่าตนเองถูกใช้เป็นเครื่องมือเสียแล้ว

นางจงใจลากเสียงยาวกล่าวว่า “ใครบอกกัน ข้าว่าสาวงามเหล่านี้แต่ละคนมีความงามที่แตกต่างกัน รูปโฉมสะคราญ ยิ่งสามารถปรนนิบัติรับใช้องค์รัชทายาทได้ดีในบางเรื่อง ไม่สู้เก็บพวกนางไว้เถิด!”

บรรดาขันทีกล่าวด้วยรอยยิ้มทันที “คิดว่าท่านนี้ก็คือพระชายารัชทายาทเป็นแน่ ช่างมีวิจารณญาณจริง ๆ เรียกได้ว่าเป็นแบบอย่างของสตรีผู้มีคุณธรรม ไม่อย่างนั้นก็...”

“พวกเจ้าเข้าใจอะไร?” หรงเหยี่ยนพลันดึงใครบางคนเข้าในมาอ้อมแขน น้ำเสียงเอาอกเอาใจถึงที่สุด “พระชายาที่รักไม่ต้องหึง ข้าเคยสาบานแล้วว่าจะครองคู่กันไปชั่วชีวิตนี้ จะไม่ผิดคำสาบานที่ให้ไว้กับเจ้าหรอก!”

“หม่อมฉัน...”

อวิ๋นหลีอยากกล่าวอะไรบางอย่าง แต่เห็นเขาสอดมือเข้าไปล้วงในแขนเสื้อ เผยให้เห็นของมุมหนึ่งที่มีสีแดง

นางหน้าแดงก่ำทันที เหตุใดเขายังเก็บเอาไว้ คงไม่ได้พกติดตัวตลอดทั้งวันหรอกใช่ไหม!

ไอ้คนโรคจิต!

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 15

    เมื่อเห็นของสิ่งนั้น นางก็เหมือนโดนจับจุดอ่อน “ใช่ หม่อมฉันหึงแล้ว! หากพระองค์กล้ามองแม่นางน้อยพวกนั้น หม่อมฉันจะควักลูกตาของพวกนาง หากพระองค์กล้าแตะต้องพวกนางแม้ปลายนิ้ว หม่อมฉันก็จะตัดมือตัดเท้าของพวกนาง และเฉือนจมูกกับใบหู โยนเข้าห้องน้ำทิ้งไว้เป็นกองอาจม!” ดวงหน้านั้นเห็นได้ชัดว่ากำลังยิ้มแย้ม เหตุใดน้ำเสียงถึงกัดฟันกรอด?เมื่อคำพูดนี้ออกมา สตรีเหล่านั้นพลันตกใจจนตัวสั่น คุกเข่าลงกับพื้นทันทีแล้วขอบังคมทูลลาขันทีทั้งสองคนก็หลั่งเหงื่อเย็น ๆ ทั่วร่างเช่นกัน ก่อนจะพาคนถอยออกไปอย่างรวดเร็ว หลังจากที่คนไปแล้ว อวิ๋นหลีก็เปิดโหมดคิดบัญชีทันที“เจ้ามันคนหลอกลวง กล้าพูดจาเหลวไหลทำลายชื่อเสียงของข้า วันนี้หากเจ้าไม่มอบคำอธิบายมา ข้าจะสู้กับเจ้าแล้ว!” หรงเหยี่ยยนขมวดคิ้วเล็กน้อย “ข้าหลอกอะไรเจ้า?” “ฐานะของเจ้า แล้วก็ความสัมพันธ์กับอวี้เอ๋อร์!”“ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องฐานะ ข้าไม่ได้บอกเจ้าก่อนจริง ๆ อย่างมากนี่ก็ถือว่าเป็นการปกปิดเท่านั้น แต่ไม่ใช่การหลอกลวง! ส่วนอวี้เอ๋อร์...เจ้าคาดเดามั่วไปเองชัด ๆ คิดว่าข้าเป็นนายหน้าค้ามนุษย์ ข้าแค่ไม่ได้ปฏิเสธเท่านั้น!” เห็นได้ชัดว่าชายหนุ่

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 16

    นับตั้งแต่วันที่สนทนาลับกันในวัดหงเย่ เซียวหนีฉางก็ไม่สามารถกล่อมให้ตนเองจิตใจสงบได้อีกนางคุกเข่าอยู่บนเบาะรอง มองพระพุทธรูปด้านบน นางหลับตาสองข้าง สิ่งที่ผุดขึ้นมาในสมองล้วนเป็นดวงหน้าหล่อเหลางามล้ำดวงนั้นหัวใจของนางไม่อาจสงบลงได้อีกแล้ว!ต่อให้ไม่มีคำพูดนั้นของเสด็จพี่สี่ แต่ว่าทุกวันคืนตลอดสี่ปีมานี้ นางก็ไม่เคยปล่อยวางได้อย่างแท้จริงในที่สุด...นางถอดชุดแม่ชีออก เปลี่ยนเป็นชุดขององค์หญิงสตรีสวมกระโปรงยาวลากพื้น คลุมทับด้วยผ้าโปร่งบาง ๆ ผมดำดกหนา นัยน์ตากระจ่างในดุจน้ำในสาทรฤดูสาวใช้ที่อยู่ข้าง ๆ อดมองตาค้างไม่ได้ แล้วอุทานว่า “องค์หญิง พระองค์ทรงงดงามเหลือเกิน!” เซียวหนีฉางเพียงหลุบตาลงอย่างว้าเหว่ “สตรีตั้งใจแต่งหน้าเพื่อคนรัก ผ่านไปสี่ปีพอแต่งหน้าอีกครั้งก็ไม่เหมือนภาพเมื่อก่อนแล้ว!”ปีนั้นที่ได้พบเขา นางอายุแค่สิบหกเท่านั้น!แต่บัดนี้นางอายุมากกว่ายี่สิบแล้ว!สตรีทั่วไปในวัยนี้ออกเรือนไปนานแล้ว ช่วยเหลือสามีอบรมสั่งสอนบุตร แต่นางกลับเป็น ‘สาวเทื้อ’ ไปเสียแล้ว“องค์หญิงทรงตรัสอันใด ความงามของพระองค์ในตอนนี้เลิศล้ำยิ่งกว่าสี่ปีก่อน เป็นโฉมงามอันดับหนึ่งของแคว้นเหลี

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 17

    ทุกคนตกตะลึงถึงขีดสุดแล้วที่บอกว่าโหดเหี้ยมชั่วร้ายเล่า?ข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหกทั้งนั้นจริง ๆ ด้วย!หารู้ไม่ว่า คนทั้งสองที่ดูเหมือนคู่รักจากสวรรค์ อวดความรักท่ามกลางสายตาของผู้คนนั้น เวลานี้กำลังแอบประชันกันอย่างลับ ๆภายใต้แขนเสื้อ อวิ๋นหลีจ่อเข็มพิษตรงเอวของเขา สายตาข่มขู่ว่าให้ปล่อยมือ!ชายหนุ่มหาได้แยแสไม่ เขาเพียงแต่โอบนางแน่นยิ่งขึ้นเขาไม่เชื่อว่านางยังจะลงมือต่อหน้าผู้คนมากมายถึงเพียงนี้ได้?เพื่อโรคของอวี้เอ๋อร์ และเพื่อที่จะสามารถเดินไปถึงขั้นนั้นกับนางในเร็ววัน หลายวันนี้เขาตั้งใจอ่านหนังสือบทละครหลายเล่ม ซึ่งในนั้นบอกว่าวิธีการที่เร็วที่สุดในการสร้างความสัมพันธ์ ก็คือการสัมผัสใกล้ชิดกันนางระวังตัวกับเขาในทุก ๆ ด้านมาโดยตลอด ปกติแล้วการจะเข้าใกล้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย โอกาสที่จะได้ทำตัวเปิดตัวโจ่งแจ้งเช่นนี้ เขาจะพลาดไม่ได้! เมื่อมองท่าทาง ‘รักกัน’ ของทั้งสองคน เซียวเยี่ยนถิงก็เกิดโทสะในใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกเขาเข้ามาทักทายพร้อมกับใบหน้ายิ้มแย้ม “เมื่อวานพบกันอย่างฉุกละหุก ไม่มีโอกาสทักทาย วันนี้ถือว่าได้พบพานสหายเก่าที่แท้จริง องค์รัชทายาทดูสง่างามยิ่งกว

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 18

    เมื่อคำพูดนี้ออกมา ทุกคนต่างก็ตกตะลึงองค์หญิงผู้แสนยิ่งใหญ่จะเป็นอนุภรรยาได้อย่างไร? หากเรื่องแพร่ออกไป แคว้นเหลียงของพวกเขามิกลายเป็นที่ขบขันของผู้คนหรือ?ฮ่องเต้แห่งแคว้นเหลียงก็มีสีหน้าโกรธเคืองเล็กน้อย เขาบอกแต่แรกแล้วว่าไม่อาจฝืนบังคับในทุกเรื่อง พวกเขากลับกล้าตัดสินใจโดยพลการ! ทว่าคำพูดออกจากปากมาแล้ว ห้ามปรามไม่ทัน ทำได้เพียงดูต่อไปว่าเรื่องราวจะพัฒนาไปในทิศทางใด จากนั้นถึงค่อยจัดการไปตามสถานการณ์ ต่อจากนั้นก็เป็นการประลองกันระหว่างทั้งสองฝ่าย “องค์หญิงสูงส่งเลิศล้ำ ข้าไม่อยากสร้างความเสื่อมเสียให้นาง ควรหาคนที่คู่ควรกับการฝากฝังทั้งชีวิตอย่างแท้จริงให้แก่นาง!”“น้องหญิงเจ็ดสาบานมานานแล้วว่า หากไม่ใช่องค์รัชทายาท นางก็จะไม่แต่งงาน ยิ่งไปกว่านั้น นางรอท่านมาสี่ปีแล้ว...” “ในเมื่อเสียเวลามาสี่ปีแล้ว เหตุใดต้องทำลายชั่วชีวิตของนางอีก! ข้าเคยสาบานแล้วว่าชาตินี้จะมีภรรยาครองคู่กันเพียงหนึ่งเดียว นอกจากพระชายาแล้วจะไม่แต่งงานกับสตรีอื่นเป็นอันขาด ชายชาตรีจะกลับคำสาบานได้อย่างไร?”สีหน้าของเซียวเยี่ยนถิงเคร่งขรึมขึ้นมาเขาไม่ไว้หน้ากันถึงเพียงนี้เลย!แม้ว่าตอนนี้แคว้นเ

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 19

    จวนอันอ๋องหลังจากที่คลอดบุตรจนกระทั่งตอนนี้ก็ผ่านมาได้สิบกว่าวันแล้ว ลั่วหรูซวงร่างกายยังคงอ่อนแอ ได้แต่นอนอยู่บนเตียงตลอดทั้งวันเมื่อแผลตกสะเก็ดแล้ว มันทั้งคันทั้งเจ็บ นอนไม่หลับทั้งคืน“ท่านอ๋องยังไม่กลับมาอีกหรือ?”“ยังเจ้าค่ะ!”ไม่ควรสิ เวลานี้ประตูวังลงกลอนแล้ว ฟ้าก็มืดแล้วด้วย!ลั่วหรูซวงกำลังรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง ตอนนี้เองก็มีข้ารับใช้คนหนึ่งพุ่งเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าตื่นตกใจ“ท่านอ๋องกลับมาแล้วเจ้าค่ะ!”“กลับมาแล้วก็กลับมาแล้วสิ ตื่นตูมเป็นกระต่ายเช่นนี้เพื่ออะไร?” เดิมทีนางไม่สบายใจเล็กน้อย เห็นพวกเขามุทะลุบุ่มบ่ามเช่นนี้ก็ไม่พอใจจนตำหนิออกมาทันที“ท่านอ๋องเขา...ถูกองรักษ์ในวังคุมตัวกลับมาเจ้าค่ะ!”“บังอาจ!” ลั่วหรูซวงเดือดดาล โกรธจนไอขึ้นมา บาดแผลบนท้องเหมือนจะปริอีกแล้ว เจ็บจนนางทำหน้าเหยเก ก่อนจะกัดฟันกล่าวว่า “ท่านอ๋องเป็นองค์ชายที่ฝ่าบาทให้ความสำคัญมากที่สุด เป็นที่รักอย่างยิ่ง เจ้ากลับกล้าพูดเหลวไหล!”“ข้าน้อยไม่ได้พูดเหลวไหล ได้ยินพวกเขากล่าวว่า...ท่านอ๋องกระทำตัวไม่เหมาะสม ล่วงเกินรัชทายาทแคว้นเยี่ยน ลงโทษตัดเบี้ยหวัดหนึ่งปี กักบริเวณสามวัน ด้านนอกประตูใ

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 20

    เมื่อเซียวหนีฉางมาถึงก็สังเกตุเห็นบรรยากาศเย็นชามึนตึงระหว่างทั้งสองคนดูเหมือนว่าพวกเขาก็ไม่ได้รักกันมั่นคงเหมือนอย่างที่จินตนาการไว้เลย!เช่นนั้นนางยังมีโอกาสอยู่แน่นอน!ความไม่พอใจภายในใจของนางสลายไปมากกว่าครึ่งทันที ก่อนจะเดินเข้ามาแสดงการคารวะ “วันนี้ที่ฉางเอ๋อร์มา ประการแรกคือเพื่อแสดงการขออภัย ประการที่สองคือเพื่อแสดงความขอบคุณ!”“พี่หญิงมีน้ำใจเมตตากรุณา ให้ความช่วยเหลือ ฉางเอ๋อร์จึงไม่ได้เสียชีวิต ณ ที่นั้น พี่หญิงเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตของฉางเอ๋อร์!”แม้ว่าใบหน้าของอวิ๋นหลียังมีรอยยิ้มอยู่ แต่รอยยิ้มกลับไม่ไปถึงดวงตานี่เป็นการแกล้งทำดีด้วยแต่มีเจตนาร้ายแอบแฝงสินะ!ปากเล็ก ๆ นี้ช่างหวานยิ่งนัก หากไม่ใช่เพราะเคยเห็นวิธีการของนางมาก่อน เกรงว่าคงจะใจอ่อนแล้วจริง ๆ“คำว่าพี่หญิงขององค์หญิงนี้ ข้ารับไม่ไหวจริง ๆ! หากมีสักวันที่ท่านแต่งงานกับองค์รัชทายาทจริง ๆ ก็แล้วไป มิฉะนั้นข้ารับไม่ไหวหรอก!”เซียวหนีฉางตาขอบแดงก่ำ กัดริมฝีปากกล่าวว่า “พี่หญิงพูดเช่นนี้ก็คือไม่ยอมให้อภัยข้าแล้วสินะ?” อวิ๋นหลีร้อง ‘จุ๊ ๆ’ ในใจ เริ่มแล้ว ๆ!ท่าทางน่าสงสารเช่นนี้ ชายใดเล่าจะสามารถ

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 21

    “ท่านพี่หรง ข้าผิดไปแล้วจริง ๆ!”“ขอเพียงท่านยกโทษให้ข้า จะให้ข้าทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น!”“หากสามารถย้อนเวลากลับไป ข้าไม่มีทางใช้วิธีการที่ต่ำช้าเช่นนั้นเพื่อให้ได้ท่านมาโดยเด็ดขาด ให้โอกาสข้าได้ชดเชยสักครั้งจะได้หรือไม่?”อวิ๋นหลีตะลึงงัน ชักจะเด็ดสะระตี่ไปแล้วกระมัง นี่นางมาได้ยินข่าวเด็ดอะไรเข้ากันเนี่ย?ใช้วิธีการที่ต่ำช้าเพื่อให้ได้เขามาอย่างนั้นหรือ?หรือว่าระหว่างพวกเขาจะ…เนื่องจากตะลึงพรึงเพริดจนเกินเหตุ นางจึงก้าวเท้าพลาดพลั้ง ล้มหน้าคะมำลงไปจากด้านบนโดยพลันในชั่วขณะนั้น ทุกอย่างล้วนเงียบสงัดเมื่ออวิ๋นหลีเงยหน้าขึ้น ก็เห็นดวงตาสองคู่ที่กำลังจดจ้องมองมาที่นาง นางจึงได้แต่เผยรอยยิ้มประดักประเดิดออกมา“หากหม่อมฉันบอกว่าแค่บังเอิญผ่านมาเท่านั้น พวกพระองค์จะเชื่อหรือไม่?”หรงเหยี่ยนมาข้างหน้าเพื่อพยุงนางขึ้น ตบฝุ่นและปัดเศษใบไม้ที่ติดอยู่บนเสื้อผ้าของนางออกเล็กน้อย แล้วมองสำรวจดูด้วยว่านางได้รับบาดเจ็บหรือไม่เมื่อพบว่านางมิได้เป็นอันใด ถึงค่อยทำหน้าตึง “ใครให้เจ้ามา?”อวิ๋นหลีพลันดูแคลนในใจ ถูกคนรู้เรื่องไม่งามแล้ว จึงรู้สึกละอายขายหน้าจนกลายเป็นความโกรธเกรี้ยวกระมัง?

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 22

    “น้องหญิงเจ็ดยังโกรธข้าเรื่องในวันนั้นอยู่อีกหรือ? หลายวันมานี้ข้าเองก็ตำหนิตัวเองเป็นอย่างมากเช่นกัน พอพ้นช่วงกักบริเวณจึงรีบมาขอโทษเจ้าทันที!”ดังที่เขาว่ากัน เมื่ออีกฝ่ายสำนึกผิดแล้วก็ให้เลิกแล้วต่อกันไป!ครั้นนึกได้ว่าเขายังช่วยเหลือตนไว้อีกด้วย ถูกกักบริเวณยังไม่ว่า ซ้ำร้ายยังโดนหักเบี้ยหวัดอีกเทียบกันแล้วก็ไม่ได้ดีไปกว่าตนตรงไหนเลย สีหน้านางจึงค่อยผ่อนคลายลง หากแต่เจือด้วยรอยยิ้มเยาะหยันตัวเองจาง ๆ“ไม่โทษท่านหรอก เป็นข้าที่สำคัญผิดคิดเข้าข้างตัวเอง นึกว่าผ่านมาสี่ปีแล้วจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้บ้าง คาดคิดไม่ถึงว่ากลับเป็นการหาเรื่องใส่ตัว!”“น้องหญิงอย่ากล่าววาจาท้อแท้เช่นนี้สิ เจ้าไม่ผิด เป็นเขาต่างหากที่ใจจืดใจดำกับเจ้าเกินไป!”“มาพูดเรื่องพวกนี้เอาป่านนี้แล้วยังมีประโยชน์อะไร? สิ่งใดที่ไม่ใช่ของของข้า ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็มิมีทางได้มันมาหรอก!”เมื่อครู่นี้ตอนอยู่ที่ตำหนักเฉิน นางได้เห็นท่าทางของเขาต่อสตรีนางนั้นที่ดูอ่อนโยนเหลือคณานับกระทั่งในความฝันนางก็หวังว่าจะมีสักวันหนึ่งที่ท่านพี่หรงจะปฏิบัติเช่นนี้กับนางบ้าง ทว่าเขากลับถวายรักนี้ให้แก่สตรีอีกนางหนึ่งอย่างไม่เผื่

บทล่าสุด

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 50

    เขาคงไม่ได้มีอะไรเชื่อมโยงกับนานเป่าจริง ๆ กระมัง?ความคิดนี้เพิ่งผุดขึ้นในสมอง ก็ถูกอวิ๋นหลีปฏิเสธทันทีเป็นไปไม่ได้!ตามความทรงจำของเจ้าของร่าง ตอนนั้นเซียวเยี่ยนถิงกับรั่วหรูซวงวางแผนปรักปรำนาง ได้จัดเตรียมขอทานคนหนึ่งให้นางความปรารถนาแรกของเจ้าของร่าง ก็คือตามหาคนที่พรากความบริสุทธิ์ของนางแล้วแก้แค้นต่อมา นางส่งคนไปตามหาเบาะแสของขอทานคนนั้นรู้มาว่าเขาตายตั้งแต่เมื่อสี่ปีก่อนแล้ว!ก่อนตายหนึ่งวัน เขาเคยไปอวดสหายคนหนึ่งของเขาอย่างภาคภูมิใจว่า ตนโชคดีจริง ๆ!มีเงินให้รับ และยังได้นอนกับผู้หญิง สวรรค์ช่างดีกับเขาจริง ๆตอนนั้นสหายของเขาคิดว่าเขาคุยโม้ด้วยซ้ำ ถามเขาว่ามีเรื่องดี ๆ เช่นนี้ที่ใดกัน ขอทานจึงเล่าให้เขาฟัง และยังบอกให้เขาต้องเก็บเป็นความลับ ไม่เช่นนั้นจะนำภัยมาสู่ตัววันต่อมา ขอทานก็ไปที่วัดหงเย่หลังจากนั้น…ก็ไม่มีหลังจากนั้นแล้วเพราะเขาไม่ได้กลับมาอีกเลยสหายของขอทานก็ถูกเซียวเยี่ยนถิงตามล่าเช่นกัน เขาหลบซ่อนตัวโดยตลอด แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถหนีพ้นความตายตอนที่อวิ๋นหลีตามหาเขาจนพบ ก็เหลือแค่ลมหายใจที่รวยรินแล้ว แต่ก็ยังใช้แรงฮึดสุดท้ายเล่าแผนการที่วัดหงเ

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 49

    เมื่อเห็นอวิ๋นหลีกลับมา เหล่าองครักษ์ตื่นเต้นมาก“พระชายา เจอยาถอนพิษหรือไม่?”อวิ๋นหลีไม่กล้าสบตาพวกเขาด้วยซ้ำ “ขอโทษ”จู๋เยว่ร้อนใจทันที“ท่านรู้หรือไม่ เมื่อครู่นายท่านกระอักเลือดไปสองรอบแล้ว! ท่านกลับทำตัวลึกลับไม่รู้ไปอยู่ที่ใด ถ้าหากรักษาไม่ได้ก็บอกแต่แรก เหตุใดต้องมาเสียเวลาอยู่ที่นี่ด้วย?”“ใจเย็น ๆ ห้ามเสียมารยาทกับพระชายารัชทายาท!”“นายท่านใกล้จะไม่ไหวแล้ว เจ้าจะให้ข้าใจเย็นอย่างไร?”จุยอวิ๋นก็กังวลมากเช่นกัน แต่เขารู้ นี่ไม่ใช่ความผิดของอวิ๋นหลีนายท่านยอมเอาชีวิตไปปกป้องนาง มากพอที่จะรู้ถึงความสำคัญของนางที่อยู่ในใจเขาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเขาล้วนสมควรรักษาการให้เกียรตินาง“พระชายารัชทายาท ไม่มีวิธีแล้วจริง ๆ หรือ?”“ยาถอนพิษหาไม่เจอแล้ว แผนในตอนนี้ มีเพียงให้ข้าลองพยายามดูสักตั้งว่า สามารถขับพิษออกจากร่างกายเขาหรือไม่ แล้วค่อย…”กล่าวยังไม่ทันจบ ก็ถูกขัดอีกครั้ง“เมื่อครู่ก็เพราะพวกเราเชื่อท่าน จึงได้ยืนโง่ ๆ อยู่ตรงนี้ตั้งนาน ข้าว่าไม่สู้รีบพานายท่านกลับไปหาฝูหลิงจวิน ไม่แน่ว่าถอนพิษได้ตั้งนานแล้ว”“จู๋เยว่…”“ข้าพูดอะไรผิดหรือ? เพื่อที่จะช่วยนาง ชีวิตนา

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 48

    “พูดเหลวไหล! ข้าให้เจ้าลงมือกับข้าตั้งแต่เมื่อไร?”“เสี่ยวหลีเอ๋อร์ เจ้าน่าจะรู้ คนที่ข้าไม่อยากทำร้ายที่สุดบนโลกใบนี้ก็คือเจ้า!” บนใบหน้าฮวาเย่ยังคงมีรอยยิ้ม แต่ดวงตาดอกท้อที่มีเสน่ห์นั่น กลับเผยให้เห็นเจตนาฆ่าที่กระหายเลือดเรื่องนี้ อวิ๋นหลีย่อมรู้ดีตั้งแต่เมื่อสองปีก่อนที่นางแก้พิษศพที่เขาคิดค้นขึ้นได้ ทั้งสองก็เกิดปฏิสัมพันธ์ที่ตัดไม่ขาดความสุขสูงสุดของเขาก็คือ การทำยาพิษให้นางมาแก้พิษ คอยเพลิดเพลินกับความรู้สึกที่ถูกคนเห็นกระบวนท่าก็แก้ตามกระบวนท่าระหว่างพวกเขามีความชอบที่คล้ายกัน จากศัตรูกลายเป็นสหายถ้าหากวางยาพิษจนนางตายจริง ๆ เกรงว่าเขาจะเศร้าใจที่สุด ต้องสูญเสียความหมายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตไปเช่นนั้น คนที่เขาจะฆ่าก็ต้องเป็น…“ข้าเตือนเจ้าตั้งแต่แรกแล้ว เขาเป็นแค่คนที่ไม่มีความสำคัญ หลังจากทุกอย่างจบลง ก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก เหตุใดต้องลงมือกับคนที่ไม่รู้อะไรด้วย?”ฮวาเย่ยิ้มอย่างเย็นเยือก “เสี่ยวหลีเอ๋อร์ตำหนิข้าเพราะเขาหรือ? ด้วยเรื่องนี้ เขาก็สมควรตายที่สุด!”“ข้าแค่กำลังพูดข้อเท็จจริงกับเจ้า ไม่ได้มีเจตนาอื่น”“อธิบายก็คือกลบเกลื่อน กลบเกลื่อนก็คือคว

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 47

    “อะไรนะ?” เหล่าองครักษ์ลับตกใจมากชีวิตของนายท่านเกี่ยวพันถึงความมั่นคงของแคว้นเยี่ยน จะเป็นอะไรไม่ได้เด็ดขาด ไม่เช่นนั้นต่อให้พวกเขาตายหมื่นครั้งก็ยากจะไถ่โทษตอนนี้ พวกเขาทำได้เพียงฝากความหวังไว้ที่อวิ๋นหลี“พระชายา นายท่านได้รับบาดเจ็บเพราะช่วยท่าน ท่านต้องหาวิธีช่วยเขานะ”“ข้าต้องช่วยเขาอยู่แล้ว พวกเจ้ายกเขาขึ้นรถม้าก่อน”เป็นครั้งแรกที่อวิ๋นหลีรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองรุ่มร้อนเช่นนี้ เมื่อตรวจชีพจร ยุ่งเหยิงมากเหมือนกับว่าทำมาจากพิษที่รุนแรงพันหมื่นชนิด อยากถอนพิษก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มลงมือจากที่ใดเห็นสีหน้าที่ซีดเซียวของเขา นางรู้สึกเหมือนตัวเองถูกมือใหญ่ที่มองไม่เห็นบีบคอ ทรมานจนแทบหายใจไม่ออกในเมื่ออีกฝ่ายใช้พิษเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าต้องการฆ่าให้ตายในทันที ช่างอำมหิตจริง ๆนางใช้เข็มเงินแต้มเลือดพิษ แล้วส่งเข้าไปทำการวิเคราะห์ที่ห้องทดลองหวังว่าจะสามารถวิเคราะห์ชนิดของพิษออกมา และหาวิธีคิดค้นยาถอนพิษโดยเร็วเวลานี้เอง งูเล็กสีแดงตัวหนึ่งแผดเสียง ‘ซือ ๆ’ เลื้อยเข้ามาจากทางหน้าต่างอวิ๋นหลีจำได้ในปราดเดียว…ชื่อหลิน!ในเมื่อมันอยู่ที่นี่ เช่นนั้นเจ้านายของมัน…ตั้งแต่

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 46

    นางไม่เคยเปิดใจกับเขาอย่างแท้จริงบางทีนี่อาจเป็นเหตุผลที่นางไม่ยอมบอกตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง!ข้างหน้าเป็นป่าองครักษ์ลับในชุดดำและปิดใบหน้าซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้ มองดูรถม้าใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ“ผู้บัญชาการ จะทำเช่นนี้จริง ๆ หรือ?”“อีกเดี๋ยวทำตามคำสั่งของข้า”ทุกคนอัดอั้นในใจ เหตุการณ์อะไรพวกเขาไม่เคยพบเคยเห็น วันนี้กลับต้องมาปลอมตัวเป็นโจรดักปล้นกลางทาง ช่างเป็นประวัติการณ์ครั้งหนึ่งจริง ๆทั้งหมดนี้เพียงเพื่อให้ความร่วมมือกับการแสดงละคร ‘วีรบุรุษช่วยหญิงงาม’ ของนายท่านที่มีจินตนาการสุดล้ำของพวกเขา เพื่อพิชิตใจของผู้หญิงคนนั้นในเร็ววันแต่เมื่อนึกถึงฝีมือการแพทย์ของอวิ๋นหลี ความหดหู่ในใจหายไปทันทีต่อให้ทำเพื่อยาแปลก ๆ ที่นางคิดค้น พวกเขาก็ต้องรั้งนายหญิงท่านนี้ไว้ให้ได้!ทันใดนั้น ลูกธนูที่เย็นเฉียบแหวกอากาศยามราตรี เจาะทะลุตัวรถม้าในพริบตาคนชุดดำนับสิบร่อนลงมาจากท้องฟ้าคนขับรถม้าถูกพวกเขาฆ่าตายแล้ว บนหน้าอกยังมีลูกธนูปักอยู่หนึ่งดอก และยังเบิกตากว้าง เห็นได้ชัดว่าตายตาไม่หลับเวลานี้ กลุ่มองครักษ์ลับที่อยู่บนต้นไม้มองตาค้าง“ผู้…ผู้บัญชาการ นายท่านได้ส่งคนอื่นมาด้วยหรื

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 45

    ในที่สุดฝาก็ถูกยกขึ้นต่อจากนั้น สีหน้าทุกคนเปลี่ยนฉับพลันในกล่องนั่น…มันว่างเปล่า!พลันหลี่กงกงตบหน้าผาก “โอ๊ย บ่าวเกือบลืมไปแล้ว! ฝ่าบาททรงโปรดปรานขนมแผ่นเมฆสู่ตี้มาก และเสวยสองสามชิ้นทุกวัน ทรงเสวยหมดตั้งแต่หลายวันก่อนแล้ว”ในที่สุดหัวใจที่กระวนกระวายของเซียวเยี่ยนถิงก็สงบลง ดูเหมือนสวรรค์ยังเข้าข้างเขาอวิ๋นหลีก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่า เซียวเยี่ยนถิงจะดวงดีเช่นนี้ ปล่อยให้เขาหนีรอดไปได้อีกครั้งน่าเจ็บใจจริง ๆ!เวลานี้เอง จู่ ๆ หรงเหยี่ยนก็เอ่ยปาก “ฝ่าบาท กระหม่อมมีคำพูดหนึ่ง ไม่รู้ว่าควรพูดหรือไม่ควรพูด?”“ล้วนเป็นคนกันเอง เจ้ากับพระชายารัชทายาทเป็นคนช่วยชีวิตเราไว้ มีอะไรก็พูดมาได้เลย”“โจรชั่วบังอาจเช่นนี้ กล้าวางยาพิษกระทั่งฮ่องเต้ จะเห็นได้ว่ายากจะหยั่งรู้เจตนา ปัจจุบันเป็นช่วงสำคัญของการร่วมมือระหว่างสองแคว้น สถานการณ์สงครามชายแดนคับขัน ถ้าหากเกิดเรื่องกับฝ่าบาทในเวลานี้ จะมีผลอย่างไรตามมา?”สีหน้าฮ่องเต้ต้าเหลียงเปลี่ยนฉับพลัน จู่ ๆ ก็ออกคำสั่ง “ทหาร คุมตัวอันอ๋องเข้าคุกหลวง!”เซียวเยี่ยนถิงงงงวยแล้วขนมหมดแล้วไม่ใช่หรือ?ไม่มีหลักฐาน เหตุใดยังจับเขาอีก?เมื่อเห็น

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 44

    สายตาฮ่องเต้กวาดผ่านร่างกายเขาอย่างเย็นชา โดยไม่ได้พูดอะไรมากตอนนี้ไม่ใช่เวลามาซักไซ้ความผิดของเขา เพราะเขายังมีเรื่องที่สำคัญกว่าต้องจัดการนึกถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของอวิ๋นหลี ในใจเขาหวาดกลัวสุดขีด น้ำเสียงเย็นชาฉับพลัน “พวกเจ้าเข้ามาให้หมด”ในห้องพระบรรทม หมอหลวงทุกคนคุกเข่าอยู่บนพื้นสายตาฮ่องเต้ต้าเหลียงกวาดผ่านพวกเขา อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจแรง ๆทั้งสำนักหมอหลวงรวมกัน กลับสู้ผู้หญิงคนหนึ่งไม่ได้ ช่างเป็นที่น่าหัวเราะเยาะจริง ๆตอนมองไปทางอวิ๋นหลี สายตาเขาอ่อนโยนลงหลายส่วนทันที “เจ้าบอกพวกเขาดู ตกลงข้าเป็นโรคอะไรกันแน่?”เซียวเยี่ยนถิงก็อยากรู้เช่นกัน ตกลงนางใช้วิธีอย่างไรช่วยฮ่องเต้กันแน่ ถึงสามารถทำให้เขา ‘ฟื้นคืนจากความตาย’?กลับไม่คาดคิด คำพูดต่อจากนี้ของอวิ๋นหลีทำให้เขาสะดุ้ง“ฝ่าบาทไม่ได้ป่วย แต่ถูกพิษ!”หมอหลวงจางที่ปรึกษาสำนักหมอหลวงคัดค้านคนแรก “เป็นไปไม่ได้! กระหม่อมรักษาโรคมาสามสิบปี และเคยศึกษาพิษมากมายเช่นกัน พิษทั่วไป ทันทีที่เข้าสู่ร่างกาย แค่ตรวจชีพจรก็สามารถรู้ได้ในทันที แต่ชีพจรของฝ่าบาทไม่มีสัญญาณของการถูกพิษใด ๆ”“พิษชนิดนี้พบเห็นยากมาก มันจะไม่เข้าสู่กร

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 43

    หลังจากนั้นสองวัน มีข่าวร้ายถูกส่งมาจากในวังฮ่องเต้เศร้าเสียใจต่อการสิ้นพระชนม์ของพระนัดดาน้อย อาการป่วยแย่ลงอย่างรวดเร็ว ใกล้จะไม่ไหวแล้วเหล่าหมอหลวงหมดปัญญา เซียวมู่ป๋ายไม่สนใจคำคัดค้านของทุกคน เชิญอวิ๋นหลีเข้าวังตรวจอาการฮ่องเต้ตำหนักเฉินหลังจากเซียวมู่ป๋ายบอกเจตนาที่ตัวเองมา กลับถูกหรงเหยี่ยนปฏิเสธ“สหายหรง เสด็จพ่อป่วยหนัก ทั้งสำนักหมอหลวงหมดปัญญารักษา ฝีมือการแพทย์ของพระชายารัชทายาทสูงส่ง ให้นางลองดู บางทีเสด็จพ่ออาจจะยังมีโอกาสรอด”“เรื่องอะไรก็คุยกันได้ ยกเว้นเรื่องนี้ไม่ได้!”หรงเหยี่ยนจะปล่อยให้ผู้หญิงของตัวเองตกอยู่ในอันตรายได้อย่างไร?ช่วยได้ย่อมดีที่สุด แต่ถ้าหากเกิดข้อผิดพลาดอะไร เป็นไปได้ว่าจะตกเป็นเป้าของทุกคนในข้อหา ‘ปลงพระชนม์ชีพ’คิดไม่ถึงว่าอวิ๋นหลีกลับตอบตกลงทันที“เข้าวังเมื่อไร?”“ยิ่งเร็วยิ่งดี!”“เช่นนั้นยังจะรออะไรอีก? ออกเดินทางเลย!”หรงเหยี่ยนย่อมไม่ปล่อยให้นางทำอะไรส่งเดช “เจ้ารู้หรือไม่ว่ารักษาฝ่าบาทไม่หาย จะมีผลลัพธ์อย่างไร?”อวิ๋นหลีกลับกล่าว “เจ้าเชื่อข้าหรือไม่?”หรงเหยี่ยนมองนางด้วยสีหน้าซับซ้อนแวบหนึ่ง ในที่สุดก็ถอนใจ “ไปเถอะ ข้าไป

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 42

    “หลายวันนี้ ทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับจวนอันอ๋อง เจ้าล้วนให้ความสนใจมาก เมื่อครู่ในงานเลี้ยงพระราชวัง ข้าเห็นกับตาว่าเจ้า…”พูดยังไม่ทันจบ จู่ ๆ มือน้อยข้างหนึ่งก็ปิดปากของเขาเขาพูดมากเกินไปแล้ว!เดิมทีนางไม่อยากให้เขารู้เรื่องเหล่านี้ ยิ่งไม่อยากให้เขาเข้ามาพัวพันกับแผนการเหล่านี้ความแค้นของนาง นางสะสางเองได้!ไม่อยากให้ใครก็ตามเข้ามายุ่ง!หรงเหยี่ยนเอามือของนางลง มองนางอย่างลึกซึ้ง “ถ้าหากข้าบอกเจ้าว่า ศัตรูของพวกเราคือคนเดียวกันล่ะ?”อวิ๋นหลีเบิกตากว้างฉับพลันจู่ ๆ ก็นึกถึงวันที่เข้าเมืองหลวง นางถามเขาว่าไปทำอะไรที่เซิ่งจิงเขาพูดแค่สองคำ…ล้างแค้นแต่เมื่อนางถามว่าศัตรูของเขาเป็นใคร เขากลับเลียนแบบสำเนียงของนาง พูดเหมือนกับที่นางพูดเดิมทีคิดว่าเขาจงใจหยอกล้อ จึงไม่ได้เก็บเอาไปใส่ใจถ้าหากเป็นจริงทุกสิ่ง ไม่เท่ากับว่าศัตรูของเขาก็คือ…ใต้ฟ้ามีเรื่องที่บังเอิญเช่นนี้จริงหรือ?อวิ๋นหลีอดไม่ได้ที่จะถาม “เจ้ามีความแค้นอะไรกับเขา?”“ความแค้นที่ฆ่าภรรยา ไม่สามารถอยู่ร่วมใต้ฟ้าเดียวกัน!”ที่แท้แม่ของอวี้เป่าถูกเซียวเยี่ยนถิงฆ่าตายคำนวณตามเวลา สี่ปีก่อนเขายังอยู่แคว้นเหล

DMCA.com Protection Status