Share

บทที่ 18

Author: คุณชายฝูซู
last update Last Updated: 2024-11-19 15:40:28
เมื่อคำพูดนี้ออกมา ทุกคนต่างก็ตกตะลึง

องค์หญิงผู้แสนยิ่งใหญ่จะเป็นอนุภรรยาได้อย่างไร?

หากเรื่องแพร่ออกไป แคว้นเหลียงของพวกเขามิกลายเป็นที่ขบขันของผู้คนหรือ?

ฮ่องเต้แห่งแคว้นเหลียงก็มีสีหน้าโกรธเคืองเล็กน้อย เขาบอกแต่แรกแล้วว่าไม่อาจฝืนบังคับในทุกเรื่อง พวกเขากลับกล้าตัดสินใจโดยพลการ!

ทว่าคำพูดออกจากปากมาแล้ว ห้ามปรามไม่ทัน ทำได้เพียงดูต่อไปว่าเรื่องราวจะพัฒนาไปในทิศทางใด จากนั้นถึงค่อยจัดการไปตามสถานการณ์

ต่อจากนั้นก็เป็นการประลองกันระหว่างทั้งสองฝ่าย

“องค์หญิงสูงส่งเลิศล้ำ ข้าไม่อยากสร้างความเสื่อมเสียให้นาง ควรหาคนที่คู่ควรกับการฝากฝังทั้งชีวิตอย่างแท้จริงให้แก่นาง!”

“น้องหญิงเจ็ดสาบานมานานแล้วว่า หากไม่ใช่องค์รัชทายาท นางก็จะไม่แต่งงาน ยิ่งไปกว่านั้น นางรอท่านมาสี่ปีแล้ว...”

“ในเมื่อเสียเวลามาสี่ปีแล้ว เหตุใดต้องทำลายชั่วชีวิตของนางอีก! ข้าเคยสาบานแล้วว่าชาตินี้จะมีภรรยาครองคู่กันเพียงหนึ่งเดียว นอกจากพระชายาแล้วจะไม่แต่งงานกับสตรีอื่นเป็นอันขาด ชายชาตรีจะกลับคำสาบานได้อย่างไร?”

สีหน้าของเซียวเยี่ยนถิงเคร่งขรึมขึ้นมา

เขาไม่ไว้หน้ากันถึงเพียงนี้เลย!

แม้ว่าตอนนี้แคว้นเยี่ยนเป็นแคว้นที่แข็งแกร่งทรงอำนาจ ส่วนพวกเขาเป็นรอง แต่องค์หญิงผู้ยิ่งใหญ่ของแคว้นหนึ่งยอมเป็นอนุภรรยา เขายังไม่ยอมผ่อนปรน ไม่รู้ผิดชอบชั่วดีอยู่บ้างจริง ๆ!

เวลานี้เอง เซียวหนีฉางพลันคุกเข่าลง

เพียงแต่คนที่เธออ้อนวอนไม่ใช่หรงเหยี่ยน แต่เป็น...

“พี่หญิง ฉางเอ๋อร์ไม่มีเจตนาทำลายความรักความผูกพันระหว่างท่านกับท่านพี่หรง ขอเพียงท่านยอมให้ข้าอยู่ข้างกายเขา ต่อให้เป็นสาวใช้ ฉางเอ๋อร์เต็มใจ!”

อวิ๋นหลีเลิกคิ้ว เดิมทีคิดว่านางเป็นเพียงสาวน้อยใสซื่อไร้เดียงสาที่คลั่งรักไม่ลืมหูลืมตา

ตอนนี้ดูเหมือนว่าค่อนข้างมีเล่ห์เหลี่ยม คำพูดประโยคเดียวก็นำปลายหอกชี้มาที่ตัวนาง

หากนางไม่ตกลงก็จะยืนยันชื่อเสียงเลวร้ายว่า ‘ดุร้ายขี้อิจฉา’

แม้นางไม่ใส่ใจกับเรื่องนี้ แต่...นางเกลียดการมีคนเล่นไม่ซื่อต่อหน้านาง และยังพยายามใช้ประโยชน์จากนาง

“องค์หญิงรักมั่นไม่เสื่อมคลายถึงเพียงนี้ ฟ้าดินจะต้องซาบซึ้งใจ หัวใจของข้าก็ไม่ได้ทำจากหิน จะปล่อยให้น้องหญิงเป็นสาวใช้ฐานะต่ำต้อยได้อย่างไรเล่า?”

เซียวหนีฉางรู้สึกยินดีขึ้นมา นี่นางตกลงแล้วใช่หรือไม่?

ก็จริง ภายใต้สายตาจับจ้องของผู้คน คาดว่านางก็ไม่กล้าทำเด็ดขาดมากเกินไป อย่างน้อยก็ต้องยอมให้นางมีตำแหน่งพระชายารอง!

หรงเหยี่ยนเองก็นึกว่านางคิดตกลงเรื่องการแต่งงานนี้ คิดไม่ถึงว่าอวิ๋นหลีจะเปลี่ยนบทพูดว่า “ไม่อย่างนั้น ข้าจะขอหย่าเอง ขอหนังสือหย่าสักฉบับ ช่วยสามีกับน้องหญิงสมความปรารถนาแล้วกัน!”

“ไม่ได้!” ฮ่องเต้แห่งแคว้นเหลียงทนฟังต่อไปไม่ไหวอีกแล้วเช่นกัน ก่อนจะตบโต๊ะแรง ๆ “หนีฉาง ก่อความวุ่นวายก็ควรมีขอบเขต! ดูท่าข้าจะตามใจเจ้าจนเสียคนแล้วจริง ๆ ถึงทำให้เจ้าด้อยค่าตัวเองถึงเพียงนี้ ข้าผิดหวังในตัวเจ้าเหลือเกิน!”

ครั้งนี้พวกเขาต้องการร่วมมือกับแคว้นเยี่ยนด้วยความจริงใจ กลับอยากบีบบังคับให้สามีภรรยาแยกทางกัน

หากเรื่องนี้แพร่ออกไป แคว้นเหลียงจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด? อนาคตของทั้งสองแคว้นจะถูกทำลายเพราะนางหรือไม่?

สิ่งที่น่าชิงชังที่สุดคือ อันอ๋องจะก่อเรื่องกับนางด้วย!

เซียวเยี่ยนถิงคิดไม่ถึงเช่นกันว่าเรื่องราวจะวุ่นวายถึงขั้นนี้ เมื่อเห็นสายตาพาลโกรธของเสด็จพ่อ เขาก็คุกเข่าลงกับพื้นทันที

“ลูกเพียงต้องการช่วยน้องหญิงเจ็ดให้สมหวังในความรักลุ่มหลง ไม่ได้พิจารณาให้รอบคอบ! หากองค์รัชทายาทจะตำหนิก็กล่างโทษข้าเถิด อย่าพาลโกรธน้องหญิงเจ็ดเลย เพื่อท่านแล้วนางไม่ต้องการแม้กระทั่งชีวิต!”

คำพูดประโยคสุดท้ายมีความหมายแอบแฝงอย่างเห็นได้ชัด

เซียวหนีฉางน้ำตาคลอพลางกล่าวว่า “ทั้งหมดเป็นความผิดของข้า! เป็นข้าที่หลงใหลเพ้อฝัน หาเรื่องใส่ตน กล่าวโทษผู้ใดไม่ได้เลย ตอนนี้ข้าจะมอบคำอธิบายให้กับพวกท่าน!”

นางดึงปิ่นปักผมเล่มหนึ่งลงมาจากบนศีรษะฉับพลัน ก่อนจะแทงใส่หัวใจของตัวเองแรง ๆ

เลือดทะลักออกมาทันที ก่อนที่นางจะล้มลงกับพื้น

ฉากที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันทำให้ทุกคนตกตะลึงจนตาค้าง

“ระ...รีบเรียกหมอหลวง!”

ไม่รู้ว่าใครตะโกนขึ้นมา ฮ่องเต้แห่งแคว้นเหลียงก็สั่งการทันทีว่า “เรียกหมอหลวง!”

อวิ๋นหลีไม่ได้มองข้ามสายตาของเซียวเยี่ยนถิงเมื่อครู่นี้ นี่เป็นกับดักอย่างเห็นได้ชัด!

หากเซียวหนีฉางเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นมา ทุกคนจะคิดว่านางเป็นตัวการที่บีบให้องค์หญิงต้องตาย!

หมอหลวงย่อมสมรู้ร่วมคิดมาก่อนอย่างแน่นอน!

นางลุกขึ้นทันทีก่อนจะเดินมาอยู่ข้างกายเซียวหนีฉาง “เรียกหมอหลวงมาที่นี่ก็ต้องใช้เวลา ชีวิตคนสำคัญไม่อาจเสียเวลาได้ ข้าค่อนข้างเชี่ยวชาญวิชาแพทย์พอดี ไม่สู้ให้ข้าตรวจอาการให้องค์หญิงก่อนดีหรือไม่!”

“นี่จะทำได้อย่างไร น้องหญิงเจ็ดบาดเจ็บสาหัสปานนี้ จะรักษาสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร? หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา...”

“ข้ายินดีรับผิดชอบ!”

“แต่ว่า...”

“อันอ๋องถ่วงเวลาต่อไปอีก ก็เท่ากับไม่สนใจชีวิตขององค์หญิงแล้ว!”

เซียวเยี่ยนถิงโกรธจนกัดฟันกรอด คิดไม่ถึงว่าสตรีผู้นี้จะช่างเจรจาถึงเพียงนี้

หากเขาขัดขวางต่อไปอีกก็จะยืนยันคำพูดของนางไม่ใช่หรือ?

สุดท้ายเขาได้แต่หลีกทาง ในใจรอดูเรื่องน่าขบขันของนาง

เขาไม่เชื่อว่านางจะสามารถตรวจอาการอะไรได้ อย่างมากก็เคยอ่านตำราแพทย์สักสองเล่ม นางก็กล้าแกล้งทำตัวเป็นหมอแล้ว?

รออีกสักพักให้หมอหลวงมาถึง ดูว่านางจะมีจุดจบอย่างไร

อวิ๋นหลีตรวจดูอาการบาดเจ็บอย่างคร่าว ๆ เท่านั้น แล้วก็เข้าใจทันทีว่าเป็นเหมือนที่นางคาดการณ์ไว้จริง ๆ ด้วย

ตำแหน่งที่ปิ่นปักผมแทงเข้าไปไม่ใช่หัวใจเลย แม้เลือดจะไหลออกมาเยอะมาก แต่ก็เป็นเพียงการตบตาเท่านั้น

นางลอบหมุนกำไล กล่องเข็มเงินก็ปรากฏขึ้นในแขนเสื้อ

เมื่อหยิบเข็มเงินออกมา ปักลงไปตรงตำแหน่งยอดศีรษะและร่องใต้จมูกสองสามจุด

ทุกคนร้องอุทานออกมา “เลือดหยุดแล้วจริง ๆ!”

ก่อนที่หมอหลวงจะมาถึง นางไม่เพียงห้ามเลือด ถึงขนาดดึงปิ่นปักผมออกมา แล้วให้นางกินยาห้ามเลือดไปหนึ่งเม็ด

คนที่ดูอยู่รอบ ๆ ต่างก็ตกตะลึง ทุกคนไม่รู้ว่านางพกของมากมายขนาดนี้ติดตัวได้อย่างไร

ฝีมือการใช้เข็มและระดับความชำนาญนี้เหนือกว่าหมอหลวงเสียอีก

เวลานี้ชีพจรของเซียวหนีฉางมั่นคงแล้ว ต่อให้พวกเขาอยากจะใส่ความ ก็ใช้เล่ห์เหลี่ยมใด ๆ ไม่ได้แล้ว

“กราบทูลฝ่าบาท องค์หญิงไม่เป็นไรแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”

เซียวเยี่ยนถิงโกรธจนกำหมัดแน่น เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้?

ปล่อยให้นางรอดพ้นจากเภทภัยไปได้อีกครั้ง ช่างน่าเสียดายจริง ๆ!

“พระชายารัชทายาท ฉางเอ๋อร์กระทำแบบนี้ก็เพราะท่าน ท่านไม่มีอะไรจะพูดเลยหรือ?”

อวิ๋นหลีกำลังจะเอ่ยตอบโต ทันใดนั้นก็มีเสียงอ่อนละมุนดังขึ้นว่า “น้องหญิงเจ็ดเอาแต่ตามพัวพัน สุดท้ายก็ก่อให้เกิดเหตุร้ายครั้งใหญ่ หากไม่ใช่เพราะพระชายารัชทายาทไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องบาดหมางในอดีตและลงมือช่วยเหลือ นางคงสิ้นใจไปนานแล้ว พวกเราควรขอบคุณพระชายารัชทายาทถึงจะถูก!”

คนที่กล่าวคือซวนอ๋องเซียวมู่ป๋าย

คิ้วเรียวจรดไรผม นัยน์ตากระจ่างใสดุจดวงดารา องคาพยพทั้งห้าบนใบหน้าราวกับประติมากรรมแกะสลัก ดูเหมือนสุภาพชนที่สง่าผ่าเผย

สิ่งสำคัญที่สุดคือ ปัจจุบันเขาเป็นเพียงคนเดียวในราชสำนักที่ทำให้เซียวเยี่ยนถิงเกรงกลัว

เซียวเยี่ยนถิงกัดฟันด้วยความแค้นใจ ปกติซวนอ๋องทำตัวถ่อมตนไม่ให้เป็นจุดสนใจ คิดไม่ถึงว่าจะออกหน้าช่วยคน ทำลายเรื่องดี ๆ ของเขา

เวลานี้เอง ทูตจากแคว้นเยี่ยนทนดูต่อไปไม่ไหวแล้วเช่นกัน

“ขอถามฝ่าบาท นี่ก็คือวิธีการต้อนรับแขกของแคว้นเหลียงของพวกท่านหรือ?”

“บีบบังคับให้แต่งงานต่อหน้าผู้คนก็แย่พอแล้ว หลังจากถูกปฏิเสธยังจะฆ่าตัวตายอีก คิดจะทำร้ายองค์รัชทายาทกับพระชายาให้ตกอยู่ในสถานการณ์ไม่เป็นธรรมหรือ?”

“พระชายาของพวกเราช่วยชีวิตขององค์หญิงไว้ ยังต้องถูกคนตำหนิซักถามอีก นี่มันหลักการอะไรกัน?”

ฮ่องเต้แห่งแคว้นเหลียงรู้ตัวว่าเป็นฝ่ายผิด จึงได้แต่กล่าวว่า “ข้าดูแลสั่งสอนไม่ดี! พระชายารัชทายาทมีบุญคุณช่วยชีวิตธิดาของข้า ไว้นางหายดีแล้ว ข้าจะให้นางไปขอขมา!”

“เสด็จพ่อ...”

เซียวเยี่ยนถิงย่อมไม่ยินยอม เรื่องราวบานปลายถึงขั้นนี้แล้ว หากไม่มีผลลัพธ์อีก แผนการก็สูญเปล่าไม่ใช่หรือ?

ฮ่องเต้แห่งแคว้นเหลียงตวาดอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “พอได้แล้ว วันนี้เจ้ายังก่อปัญหาไม่มากพออีกหรือ? อันอ๋องทำตัวดื้อรั้น ไม่เหมาะสม ลงโทษตัดเบี้ยหวัดหนึ่งปี กักบริเวณสามวันทบทวนความผิดให้ดี!”

Related chapters

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 19

    จวนอันอ๋องหลังจากที่คลอดบุตรจนกระทั่งตอนนี้ก็ผ่านมาได้สิบกว่าวันแล้ว ลั่วหรูซวงร่างกายยังคงอ่อนแอ ได้แต่นอนอยู่บนเตียงตลอดทั้งวันเมื่อแผลตกสะเก็ดแล้ว มันทั้งคันทั้งเจ็บ นอนไม่หลับทั้งคืน“ท่านอ๋องยังไม่กลับมาอีกหรือ?”“ยังเจ้าค่ะ!”ไม่ควรสิ เวลานี้ประตูวังลงกลอนแล้ว ฟ้าก็มืดแล้วด้วย!ลั่วหรูซวงกำลังรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง ตอนนี้เองก็มีข้ารับใช้คนหนึ่งพุ่งเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าตื่นตกใจ“ท่านอ๋องกลับมาแล้วเจ้าค่ะ!”“กลับมาแล้วก็กลับมาแล้วสิ ตื่นตูมเป็นกระต่ายเช่นนี้เพื่ออะไร?” เดิมทีนางไม่สบายใจเล็กน้อย เห็นพวกเขามุทะลุบุ่มบ่ามเช่นนี้ก็ไม่พอใจจนตำหนิออกมาทันที“ท่านอ๋องเขา...ถูกองรักษ์ในวังคุมตัวกลับมาเจ้าค่ะ!”“บังอาจ!” ลั่วหรูซวงเดือดดาล โกรธจนไอขึ้นมา บาดแผลบนท้องเหมือนจะปริอีกแล้ว เจ็บจนนางทำหน้าเหยเก ก่อนจะกัดฟันกล่าวว่า “ท่านอ๋องเป็นองค์ชายที่ฝ่าบาทให้ความสำคัญมากที่สุด เป็นที่รักอย่างยิ่ง เจ้ากลับกล้าพูดเหลวไหล!”“ข้าน้อยไม่ได้พูดเหลวไหล ได้ยินพวกเขากล่าวว่า...ท่านอ๋องกระทำตัวไม่เหมาะสม ล่วงเกินรัชทายาทแคว้นเยี่ยน ลงโทษตัดเบี้ยหวัดหนึ่งปี กักบริเวณสามวัน ด้านนอกประตูใ

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 20

    เมื่อเซียวหนีฉางมาถึงก็สังเกตุเห็นบรรยากาศเย็นชามึนตึงระหว่างทั้งสองคนดูเหมือนว่าพวกเขาก็ไม่ได้รักกันมั่นคงเหมือนอย่างที่จินตนาการไว้เลย!เช่นนั้นนางยังมีโอกาสอยู่แน่นอน!ความไม่พอใจภายในใจของนางสลายไปมากกว่าครึ่งทันที ก่อนจะเดินเข้ามาแสดงการคารวะ “วันนี้ที่ฉางเอ๋อร์มา ประการแรกคือเพื่อแสดงการขออภัย ประการที่สองคือเพื่อแสดงความขอบคุณ!”“พี่หญิงมีน้ำใจเมตตากรุณา ให้ความช่วยเหลือ ฉางเอ๋อร์จึงไม่ได้เสียชีวิต ณ ที่นั้น พี่หญิงเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตของฉางเอ๋อร์!”แม้ว่าใบหน้าของอวิ๋นหลียังมีรอยยิ้มอยู่ แต่รอยยิ้มกลับไม่ไปถึงดวงตานี่เป็นการแกล้งทำดีด้วยแต่มีเจตนาร้ายแอบแฝงสินะ!ปากเล็ก ๆ นี้ช่างหวานยิ่งนัก หากไม่ใช่เพราะเคยเห็นวิธีการของนางมาก่อน เกรงว่าคงจะใจอ่อนแล้วจริง ๆ“คำว่าพี่หญิงขององค์หญิงนี้ ข้ารับไม่ไหวจริง ๆ! หากมีสักวันที่ท่านแต่งงานกับองค์รัชทายาทจริง ๆ ก็แล้วไป มิฉะนั้นข้ารับไม่ไหวหรอก!”เซียวหนีฉางตาขอบแดงก่ำ กัดริมฝีปากกล่าวว่า “พี่หญิงพูดเช่นนี้ก็คือไม่ยอมให้อภัยข้าแล้วสินะ?” อวิ๋นหลีร้อง ‘จุ๊ ๆ’ ในใจ เริ่มแล้ว ๆ!ท่าทางน่าสงสารเช่นนี้ ชายใดเล่าจะสามารถ

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 21

    “ท่านพี่หรง ข้าผิดไปแล้วจริง ๆ!”“ขอเพียงท่านยกโทษให้ข้า จะให้ข้าทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น!”“หากสามารถย้อนเวลากลับไป ข้าไม่มีทางใช้วิธีการที่ต่ำช้าเช่นนั้นเพื่อให้ได้ท่านมาโดยเด็ดขาด ให้โอกาสข้าได้ชดเชยสักครั้งจะได้หรือไม่?”อวิ๋นหลีตะลึงงัน ชักจะเด็ดสะระตี่ไปแล้วกระมัง นี่นางมาได้ยินข่าวเด็ดอะไรเข้ากันเนี่ย?ใช้วิธีการที่ต่ำช้าเพื่อให้ได้เขามาอย่างนั้นหรือ?หรือว่าระหว่างพวกเขาจะ…เนื่องจากตะลึงพรึงเพริดจนเกินเหตุ นางจึงก้าวเท้าพลาดพลั้ง ล้มหน้าคะมำลงไปจากด้านบนโดยพลันในชั่วขณะนั้น ทุกอย่างล้วนเงียบสงัดเมื่ออวิ๋นหลีเงยหน้าขึ้น ก็เห็นดวงตาสองคู่ที่กำลังจดจ้องมองมาที่นาง นางจึงได้แต่เผยรอยยิ้มประดักประเดิดออกมา“หากหม่อมฉันบอกว่าแค่บังเอิญผ่านมาเท่านั้น พวกพระองค์จะเชื่อหรือไม่?”หรงเหยี่ยนมาข้างหน้าเพื่อพยุงนางขึ้น ตบฝุ่นและปัดเศษใบไม้ที่ติดอยู่บนเสื้อผ้าของนางออกเล็กน้อย แล้วมองสำรวจดูด้วยว่านางได้รับบาดเจ็บหรือไม่เมื่อพบว่านางมิได้เป็นอันใด ถึงค่อยทำหน้าตึง “ใครให้เจ้ามา?”อวิ๋นหลีพลันดูแคลนในใจ ถูกคนรู้เรื่องไม่งามแล้ว จึงรู้สึกละอายขายหน้าจนกลายเป็นความโกรธเกรี้ยวกระมัง?

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 22

    “น้องหญิงเจ็ดยังโกรธข้าเรื่องในวันนั้นอยู่อีกหรือ? หลายวันมานี้ข้าเองก็ตำหนิตัวเองเป็นอย่างมากเช่นกัน พอพ้นช่วงกักบริเวณจึงรีบมาขอโทษเจ้าทันที!”ดังที่เขาว่ากัน เมื่ออีกฝ่ายสำนึกผิดแล้วก็ให้เลิกแล้วต่อกันไป!ครั้นนึกได้ว่าเขายังช่วยเหลือตนไว้อีกด้วย ถูกกักบริเวณยังไม่ว่า ซ้ำร้ายยังโดนหักเบี้ยหวัดอีกเทียบกันแล้วก็ไม่ได้ดีไปกว่าตนตรงไหนเลย สีหน้านางจึงค่อยผ่อนคลายลง หากแต่เจือด้วยรอยยิ้มเยาะหยันตัวเองจาง ๆ“ไม่โทษท่านหรอก เป็นข้าที่สำคัญผิดคิดเข้าข้างตัวเอง นึกว่าผ่านมาสี่ปีแล้วจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้บ้าง คาดคิดไม่ถึงว่ากลับเป็นการหาเรื่องใส่ตัว!”“น้องหญิงอย่ากล่าววาจาท้อแท้เช่นนี้สิ เจ้าไม่ผิด เป็นเขาต่างหากที่ใจจืดใจดำกับเจ้าเกินไป!”“มาพูดเรื่องพวกนี้เอาป่านนี้แล้วยังมีประโยชน์อะไร? สิ่งใดที่ไม่ใช่ของของข้า ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็มิมีทางได้มันมาหรอก!”เมื่อครู่นี้ตอนอยู่ที่ตำหนักเฉิน นางได้เห็นท่าทางของเขาต่อสตรีนางนั้นที่ดูอ่อนโยนเหลือคณานับกระทั่งในความฝันนางก็หวังว่าจะมีสักวันหนึ่งที่ท่านพี่หรงจะปฏิบัติเช่นนี้กับนางบ้าง ทว่าเขากลับถวายรักนี้ให้แก่สตรีอีกนางหนึ่งอย่างไม่เผื่

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 23

    เมื่อนึกได้ว่าตั้งแต่ย่ำรุ่ง ชิงอวี้กับชิงเหยาก็นำชุดนี้มาราวกับจะถวายของล้ำค่าให้อย่างไรอย่างนั้นโดยบอกว่าบรรยากาศอบอวลด้วยสีสันของวสันตฤดูพอดี และชุดกระโปรงชุดนี้กับโกสุมที่มีอยู่เต็มสวนช่างเสริมกันให้ดูเด่นชัดยิ่งขึ้น จึงเปลี่ยนมาให้นางสวมชุดนี้ทันทีเพลานี้นางคลางแคลงใจหนักหนาว่าสาวน้อยสองคนนี้คงจงใจเป็นแน่หากมิใช่เพราะต้องเร่งเดินทางแล้ว นางจะต้องกลับไปเปลี่ยนชุดแน่นอนกลับคาดคิดไม่ถึงว่าบุรุษจะกระเถิบใกล้เข้ามาแล้วอวิ๋นหลีทำได้เพียงเขยิบเข้าไปด้านในเล็กน้อย นางยิ่งขยับถอยไปมากเท่าไร เขาก็จะขยับใกล้เข้ามาหานางเป็นสองเท่า จนสุดท้ายร่างทั้งร่างของนางพลันแนบชิดติดกับผนังรถม้า“เจ้าอย่ามาทำเกินไปนะ!” ในที่สุดนางก็เหลืออดแล้วทว่าหรงเหยี่ยนกลับยื่นมือมาช่วยเอาปอยผมตรงหน้าผากทัดไปที่หลังหูให้นาง“ในวังไม่เหมือนข้างนอก จิตใจมนุษย์มีตื้นลึกหนาบาง พอเข้าวังไปแล้วจะต้องระแวดระวังในทุก ๆ ด้าน ชิงอวี้และชิงเหยาจะติดตามเจ้าอย่างไม่ห่างแม้แต่ก้าวเดียว พวกนางล้วนมีวรยุทธ์ หากมีเรื่องอันใด จะต้องปกป้องความปลอดภัยให้เจ้าได้แน่”อวิ๋นหลีชะงักไปเล็กน้อย เขาเพียงอยากจะพูดเรื่องนี้กับนางหร

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 24

    ความกระตือรือร้นอันเปี่ยมล้นเช่นนี้ ทำเอานางรู้สึกไม่ดีเป็นอย่างมาก จึงชักมือตัวเองกลับออกมาอย่างไม่ทิ้งร่องรอยเซียวหนีฉางเผยสีหน้าน้อยเนื้อต่ำใจ “พี่อวิ๋น นี่พี่หญิงยังโกรธข้าอยู่ใช่หรือไม่? หลังจากกลับมาไม่กี่วันนี้ ข้าก็ได้ทบทวนตัวเองอย่างลึกซึ้งถึงแก่นแท้แล้ว พี่เป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตข้าไว้ บุญคุณช่วยชีวิตสมควรตอบแทนกลับคืนให้เป็นเท่าตัว ในภายภาคหน้าข้าจะตอบแทนพี่หญิงแน่นอน!”ภายในฝูงชน มีคนเริ่มกล่าวคำวิพากษ์วิจารณ์เสียงเบา“องค์หญิงยอมลดตัวถึงขั้นนี้แล้ว นางก็ยังไม่ไว้หน้าอีก เกินไปแล้วจริง ๆ!”“แม้ว่าวันนั้นนางจะเป็นผู้ที่เข้ามาช่วยเหลือไว้ก็จริง ทว่าการที่องค์หญิงเลือกตัดสินใจทำเรื่องวู่วามภายใต้ความสิ้นหวังก็เพราะนางเป็นคนบีบบังคับไม่ใช่หรือไง?”“ใครใช้ให้นางเป็นชายาขององค์รัชทายาทเล่า ยั่วโมโหไม่ไหวหรอก!”ท่ามกลางคำพูดเสียดสีทิ่มแทง จู่ ๆ พลันสอดแทรกด้วยเสียงหนึ่งที่เอื้อนเอ่ยวาจาเคร่งขรึมเปี่ยมด้วยเหตุผล “ชายาขององค์รัชทายาทเป็นแขกกิตติมศักดิ์ของแคว้นต้าเหลียงเรา และเป็นบุคคลสำคัญสำหรับงานเลี้ยงแห่งวสันตกาลในวันนี้ พวกเราสมควรที่จะต้อนรับด้วยมารยาทอันดีงาม!”เมื

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 25

    รั่วหรูซวงตะลึงพรึงเพริด “หมายความว่าอย่างไร?”“บอกตามความจริงอย่างไม่ปิดบัง ตัวข้านี้ในเวลาปกตินอกจากศึกษาตำราการแพทย์แล้ว ก็พอจะมีความรู้ด้านไสยเวทมนต์ดำอยู่บ้าง”“เมื่อครู่ได้เปิดเนตรสวรรค์ จึงเห็นว่าบนตัวของพระชายาอันอ๋องถูกปกคลุมและตลบอบอวลไปด้วยมวลสารดำมืด ดังนั้นจึงตัดสินได้ว่าอาการป่วยของเจ้าหาใช่เกิดจากโรคทั่วไปไม่ หากแต่เป็นการถูกวิญญาณอาฆาตคอยติดตามต่างหาก”“เจ้ามีภาวะพลังหยางพร่อง แต่มีพลังหยินที่มากเกินไป ด้วยเหตุนี้ร่างกายเจ้าถึงได้อ่อนแอเยี่ยงนี้!”ทั้งที่เป็นเวลากลางวันแสก ๆ ทุกคนกลับรู้สึกเย็นสันหลังวาบเสิ่นเฟยเคารพบูชาผีสางเทวดาอย่างแรงกล้ามาโดยตลอด พลันปั้นสีหน้าจริงจัง “พระชายา เรื่องเช่นนี้ล้อเล่นไม่ได้นะ!”อวิ๋นหลีเพียงแค่ผลิยิ้มพลางโบกมือไปมา “เชื่อไม่เชื่อก็สุดแล้วแต่ศรัทธา! พวกท่านคิดเสียว่าข้าไม่ได้พูดก็แล้วกัน!”คำพูดได้เอื้อนเอ่ยออกมาจากปากแล้ว จะให้ทำเป็นไม่ได้ยินได้อย่างไรกัน?เมื่อเห็นแววตานั้นที่ดูผิดแผกแตกต่างไปของกลุ่มคน รั่วหรูซวงพลันสุดจะทานทน พระชายาพูดมาให้ชัดเจนเลยดีกว่า!”“พระชายาอ๋องอยากจะฟังจริงหรือ?”“ใช่!”บนโลกมีผีสางนางไม้เสียที

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 26

    “พระชายาอ๋อง พระชายาเป็นอะไรไป?”จู่ ๆ รั่วหรูซวงก็หมดสติไป จึงทำให้ฝูงชนพลันแตกตื่นซุบซิบก็ส่วนซุบซิบ แต่อย่าเอากันให้ถึงตายสิ!สนมเสิ่นก็สีหน้าเปลี่ยนเช่นกัน นางเป็นผู้รับผิดชอบดูแลงานเลี้ยงแห่งวสันตกาลในวันนี้ หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจริง ๆ นางก็ยากยิ่งที่จะหนีความรับผิดชอบพ้น ยิ่งไม่มีทางให้คำอธิบายต่อเสียนกุ้ยเฟยได้เลย!“รีบตามหมอหลวงเร็วเข้า!”อวิ๋นหลีเปลี่ยนมารับบทเป็นกลุ่มคนที่มีน้ำใจ นางรีบเดินไปข้างหน้า “หมอที่เตรียมพร้อมให้การรักษาก็อยู่ตรงนี้แล้วไม่ใช่หรือไง?”สายตาของทุก ๆ คนล้วนปรากฏแววที่แตกต่างไปจากเดิมหลายส่วนการที่พระชายาอันอ๋องกลายเป็นแบบนี้ ยังไม่ใช่เพราะคำพูดสะเทือนใจจนขวัญหนีดีฝ่อเหล่านั้นของนางหรอกหรือ และแน่นอนว่ายังรวมถึงพวกนางที่คอยใส่ไฟอยู่ข้าง ๆ ด้วยจะว่าไปแล้ว พวกนางก็ยังคงรู้สึกผิดอยู่บ้าง ด้วยเกรงว่าจะถูกสืบสาวเอาเรื่องไปพร้อมกันด้วยดังนั้นต่อให้เกิดเรื่องอันใดขึ้นมาจริง ๆ พวกนางก็จะยืนกรานเสียงแข็งว่าสตรีผู้นี้ต่างหากที่มีปัญหาพออวิ๋นหลีได้ตรวจดูชีพจรก็เอ่ยขึ้นมาว่า “เสมหะและเลือดคั่งค้าง ไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไรหรอก กลับไปพักผ่อนสองสามวันก็ไ

Latest chapter

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 50

    เขาคงไม่ได้มีอะไรเชื่อมโยงกับนานเป่าจริง ๆ กระมัง?ความคิดนี้เพิ่งผุดขึ้นในสมอง ก็ถูกอวิ๋นหลีปฏิเสธทันทีเป็นไปไม่ได้!ตามความทรงจำของเจ้าของร่าง ตอนนั้นเซียวเยี่ยนถิงกับรั่วหรูซวงวางแผนปรักปรำนาง ได้จัดเตรียมขอทานคนหนึ่งให้นางความปรารถนาแรกของเจ้าของร่าง ก็คือตามหาคนที่พรากความบริสุทธิ์ของนางแล้วแก้แค้นต่อมา นางส่งคนไปตามหาเบาะแสของขอทานคนนั้นรู้มาว่าเขาตายตั้งแต่เมื่อสี่ปีก่อนแล้ว!ก่อนตายหนึ่งวัน เขาเคยไปอวดสหายคนหนึ่งของเขาอย่างภาคภูมิใจว่า ตนโชคดีจริง ๆ!มีเงินให้รับ และยังได้นอนกับผู้หญิง สวรรค์ช่างดีกับเขาจริง ๆตอนนั้นสหายของเขาคิดว่าเขาคุยโม้ด้วยซ้ำ ถามเขาว่ามีเรื่องดี ๆ เช่นนี้ที่ใดกัน ขอทานจึงเล่าให้เขาฟัง และยังบอกให้เขาต้องเก็บเป็นความลับ ไม่เช่นนั้นจะนำภัยมาสู่ตัววันต่อมา ขอทานก็ไปที่วัดหงเย่หลังจากนั้น…ก็ไม่มีหลังจากนั้นแล้วเพราะเขาไม่ได้กลับมาอีกเลยสหายของขอทานก็ถูกเซียวเยี่ยนถิงตามล่าเช่นกัน เขาหลบซ่อนตัวโดยตลอด แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถหนีพ้นความตายตอนที่อวิ๋นหลีตามหาเขาจนพบ ก็เหลือแค่ลมหายใจที่รวยรินแล้ว แต่ก็ยังใช้แรงฮึดสุดท้ายเล่าแผนการที่วัดหงเ

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 49

    เมื่อเห็นอวิ๋นหลีกลับมา เหล่าองครักษ์ตื่นเต้นมาก“พระชายา เจอยาถอนพิษหรือไม่?”อวิ๋นหลีไม่กล้าสบตาพวกเขาด้วยซ้ำ “ขอโทษ”จู๋เยว่ร้อนใจทันที“ท่านรู้หรือไม่ เมื่อครู่นายท่านกระอักเลือดไปสองรอบแล้ว! ท่านกลับทำตัวลึกลับไม่รู้ไปอยู่ที่ใด ถ้าหากรักษาไม่ได้ก็บอกแต่แรก เหตุใดต้องมาเสียเวลาอยู่ที่นี่ด้วย?”“ใจเย็น ๆ ห้ามเสียมารยาทกับพระชายารัชทายาท!”“นายท่านใกล้จะไม่ไหวแล้ว เจ้าจะให้ข้าใจเย็นอย่างไร?”จุยอวิ๋นก็กังวลมากเช่นกัน แต่เขารู้ นี่ไม่ใช่ความผิดของอวิ๋นหลีนายท่านยอมเอาชีวิตไปปกป้องนาง มากพอที่จะรู้ถึงความสำคัญของนางที่อยู่ในใจเขาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเขาล้วนสมควรรักษาการให้เกียรตินาง“พระชายารัชทายาท ไม่มีวิธีแล้วจริง ๆ หรือ?”“ยาถอนพิษหาไม่เจอแล้ว แผนในตอนนี้ มีเพียงให้ข้าลองพยายามดูสักตั้งว่า สามารถขับพิษออกจากร่างกายเขาหรือไม่ แล้วค่อย…”กล่าวยังไม่ทันจบ ก็ถูกขัดอีกครั้ง“เมื่อครู่ก็เพราะพวกเราเชื่อท่าน จึงได้ยืนโง่ ๆ อยู่ตรงนี้ตั้งนาน ข้าว่าไม่สู้รีบพานายท่านกลับไปหาฝูหลิงจวิน ไม่แน่ว่าถอนพิษได้ตั้งนานแล้ว”“จู๋เยว่…”“ข้าพูดอะไรผิดหรือ? เพื่อที่จะช่วยนาง ชีวิตนา

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 48

    “พูดเหลวไหล! ข้าให้เจ้าลงมือกับข้าตั้งแต่เมื่อไร?”“เสี่ยวหลีเอ๋อร์ เจ้าน่าจะรู้ คนที่ข้าไม่อยากทำร้ายที่สุดบนโลกใบนี้ก็คือเจ้า!” บนใบหน้าฮวาเย่ยังคงมีรอยยิ้ม แต่ดวงตาดอกท้อที่มีเสน่ห์นั่น กลับเผยให้เห็นเจตนาฆ่าที่กระหายเลือดเรื่องนี้ อวิ๋นหลีย่อมรู้ดีตั้งแต่เมื่อสองปีก่อนที่นางแก้พิษศพที่เขาคิดค้นขึ้นได้ ทั้งสองก็เกิดปฏิสัมพันธ์ที่ตัดไม่ขาดความสุขสูงสุดของเขาก็คือ การทำยาพิษให้นางมาแก้พิษ คอยเพลิดเพลินกับความรู้สึกที่ถูกคนเห็นกระบวนท่าก็แก้ตามกระบวนท่าระหว่างพวกเขามีความชอบที่คล้ายกัน จากศัตรูกลายเป็นสหายถ้าหากวางยาพิษจนนางตายจริง ๆ เกรงว่าเขาจะเศร้าใจที่สุด ต้องสูญเสียความหมายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตไปเช่นนั้น คนที่เขาจะฆ่าก็ต้องเป็น…“ข้าเตือนเจ้าตั้งแต่แรกแล้ว เขาเป็นแค่คนที่ไม่มีความสำคัญ หลังจากทุกอย่างจบลง ก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก เหตุใดต้องลงมือกับคนที่ไม่รู้อะไรด้วย?”ฮวาเย่ยิ้มอย่างเย็นเยือก “เสี่ยวหลีเอ๋อร์ตำหนิข้าเพราะเขาหรือ? ด้วยเรื่องนี้ เขาก็สมควรตายที่สุด!”“ข้าแค่กำลังพูดข้อเท็จจริงกับเจ้า ไม่ได้มีเจตนาอื่น”“อธิบายก็คือกลบเกลื่อน กลบเกลื่อนก็คือคว

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 47

    “อะไรนะ?” เหล่าองครักษ์ลับตกใจมากชีวิตของนายท่านเกี่ยวพันถึงความมั่นคงของแคว้นเยี่ยน จะเป็นอะไรไม่ได้เด็ดขาด ไม่เช่นนั้นต่อให้พวกเขาตายหมื่นครั้งก็ยากจะไถ่โทษตอนนี้ พวกเขาทำได้เพียงฝากความหวังไว้ที่อวิ๋นหลี“พระชายา นายท่านได้รับบาดเจ็บเพราะช่วยท่าน ท่านต้องหาวิธีช่วยเขานะ”“ข้าต้องช่วยเขาอยู่แล้ว พวกเจ้ายกเขาขึ้นรถม้าก่อน”เป็นครั้งแรกที่อวิ๋นหลีรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองรุ่มร้อนเช่นนี้ เมื่อตรวจชีพจร ยุ่งเหยิงมากเหมือนกับว่าทำมาจากพิษที่รุนแรงพันหมื่นชนิด อยากถอนพิษก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มลงมือจากที่ใดเห็นสีหน้าที่ซีดเซียวของเขา นางรู้สึกเหมือนตัวเองถูกมือใหญ่ที่มองไม่เห็นบีบคอ ทรมานจนแทบหายใจไม่ออกในเมื่ออีกฝ่ายใช้พิษเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าต้องการฆ่าให้ตายในทันที ช่างอำมหิตจริง ๆนางใช้เข็มเงินแต้มเลือดพิษ แล้วส่งเข้าไปทำการวิเคราะห์ที่ห้องทดลองหวังว่าจะสามารถวิเคราะห์ชนิดของพิษออกมา และหาวิธีคิดค้นยาถอนพิษโดยเร็วเวลานี้เอง งูเล็กสีแดงตัวหนึ่งแผดเสียง ‘ซือ ๆ’ เลื้อยเข้ามาจากทางหน้าต่างอวิ๋นหลีจำได้ในปราดเดียว…ชื่อหลิน!ในเมื่อมันอยู่ที่นี่ เช่นนั้นเจ้านายของมัน…ตั้งแต่

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 46

    นางไม่เคยเปิดใจกับเขาอย่างแท้จริงบางทีนี่อาจเป็นเหตุผลที่นางไม่ยอมบอกตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง!ข้างหน้าเป็นป่าองครักษ์ลับในชุดดำและปิดใบหน้าซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้ มองดูรถม้าใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ“ผู้บัญชาการ จะทำเช่นนี้จริง ๆ หรือ?”“อีกเดี๋ยวทำตามคำสั่งของข้า”ทุกคนอัดอั้นในใจ เหตุการณ์อะไรพวกเขาไม่เคยพบเคยเห็น วันนี้กลับต้องมาปลอมตัวเป็นโจรดักปล้นกลางทาง ช่างเป็นประวัติการณ์ครั้งหนึ่งจริง ๆทั้งหมดนี้เพียงเพื่อให้ความร่วมมือกับการแสดงละคร ‘วีรบุรุษช่วยหญิงงาม’ ของนายท่านที่มีจินตนาการสุดล้ำของพวกเขา เพื่อพิชิตใจของผู้หญิงคนนั้นในเร็ววันแต่เมื่อนึกถึงฝีมือการแพทย์ของอวิ๋นหลี ความหดหู่ในใจหายไปทันทีต่อให้ทำเพื่อยาแปลก ๆ ที่นางคิดค้น พวกเขาก็ต้องรั้งนายหญิงท่านนี้ไว้ให้ได้!ทันใดนั้น ลูกธนูที่เย็นเฉียบแหวกอากาศยามราตรี เจาะทะลุตัวรถม้าในพริบตาคนชุดดำนับสิบร่อนลงมาจากท้องฟ้าคนขับรถม้าถูกพวกเขาฆ่าตายแล้ว บนหน้าอกยังมีลูกธนูปักอยู่หนึ่งดอก และยังเบิกตากว้าง เห็นได้ชัดว่าตายตาไม่หลับเวลานี้ กลุ่มองครักษ์ลับที่อยู่บนต้นไม้มองตาค้าง“ผู้…ผู้บัญชาการ นายท่านได้ส่งคนอื่นมาด้วยหรื

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 45

    ในที่สุดฝาก็ถูกยกขึ้นต่อจากนั้น สีหน้าทุกคนเปลี่ยนฉับพลันในกล่องนั่น…มันว่างเปล่า!พลันหลี่กงกงตบหน้าผาก “โอ๊ย บ่าวเกือบลืมไปแล้ว! ฝ่าบาททรงโปรดปรานขนมแผ่นเมฆสู่ตี้มาก และเสวยสองสามชิ้นทุกวัน ทรงเสวยหมดตั้งแต่หลายวันก่อนแล้ว”ในที่สุดหัวใจที่กระวนกระวายของเซียวเยี่ยนถิงก็สงบลง ดูเหมือนสวรรค์ยังเข้าข้างเขาอวิ๋นหลีก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่า เซียวเยี่ยนถิงจะดวงดีเช่นนี้ ปล่อยให้เขาหนีรอดไปได้อีกครั้งน่าเจ็บใจจริง ๆ!เวลานี้เอง จู่ ๆ หรงเหยี่ยนก็เอ่ยปาก “ฝ่าบาท กระหม่อมมีคำพูดหนึ่ง ไม่รู้ว่าควรพูดหรือไม่ควรพูด?”“ล้วนเป็นคนกันเอง เจ้ากับพระชายารัชทายาทเป็นคนช่วยชีวิตเราไว้ มีอะไรก็พูดมาได้เลย”“โจรชั่วบังอาจเช่นนี้ กล้าวางยาพิษกระทั่งฮ่องเต้ จะเห็นได้ว่ายากจะหยั่งรู้เจตนา ปัจจุบันเป็นช่วงสำคัญของการร่วมมือระหว่างสองแคว้น สถานการณ์สงครามชายแดนคับขัน ถ้าหากเกิดเรื่องกับฝ่าบาทในเวลานี้ จะมีผลอย่างไรตามมา?”สีหน้าฮ่องเต้ต้าเหลียงเปลี่ยนฉับพลัน จู่ ๆ ก็ออกคำสั่ง “ทหาร คุมตัวอันอ๋องเข้าคุกหลวง!”เซียวเยี่ยนถิงงงงวยแล้วขนมหมดแล้วไม่ใช่หรือ?ไม่มีหลักฐาน เหตุใดยังจับเขาอีก?เมื่อเห็น

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 44

    สายตาฮ่องเต้กวาดผ่านร่างกายเขาอย่างเย็นชา โดยไม่ได้พูดอะไรมากตอนนี้ไม่ใช่เวลามาซักไซ้ความผิดของเขา เพราะเขายังมีเรื่องที่สำคัญกว่าต้องจัดการนึกถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของอวิ๋นหลี ในใจเขาหวาดกลัวสุดขีด น้ำเสียงเย็นชาฉับพลัน “พวกเจ้าเข้ามาให้หมด”ในห้องพระบรรทม หมอหลวงทุกคนคุกเข่าอยู่บนพื้นสายตาฮ่องเต้ต้าเหลียงกวาดผ่านพวกเขา อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจแรง ๆทั้งสำนักหมอหลวงรวมกัน กลับสู้ผู้หญิงคนหนึ่งไม่ได้ ช่างเป็นที่น่าหัวเราะเยาะจริง ๆตอนมองไปทางอวิ๋นหลี สายตาเขาอ่อนโยนลงหลายส่วนทันที “เจ้าบอกพวกเขาดู ตกลงข้าเป็นโรคอะไรกันแน่?”เซียวเยี่ยนถิงก็อยากรู้เช่นกัน ตกลงนางใช้วิธีอย่างไรช่วยฮ่องเต้กันแน่ ถึงสามารถทำให้เขา ‘ฟื้นคืนจากความตาย’?กลับไม่คาดคิด คำพูดต่อจากนี้ของอวิ๋นหลีทำให้เขาสะดุ้ง“ฝ่าบาทไม่ได้ป่วย แต่ถูกพิษ!”หมอหลวงจางที่ปรึกษาสำนักหมอหลวงคัดค้านคนแรก “เป็นไปไม่ได้! กระหม่อมรักษาโรคมาสามสิบปี และเคยศึกษาพิษมากมายเช่นกัน พิษทั่วไป ทันทีที่เข้าสู่ร่างกาย แค่ตรวจชีพจรก็สามารถรู้ได้ในทันที แต่ชีพจรของฝ่าบาทไม่มีสัญญาณของการถูกพิษใด ๆ”“พิษชนิดนี้พบเห็นยากมาก มันจะไม่เข้าสู่กร

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 43

    หลังจากนั้นสองวัน มีข่าวร้ายถูกส่งมาจากในวังฮ่องเต้เศร้าเสียใจต่อการสิ้นพระชนม์ของพระนัดดาน้อย อาการป่วยแย่ลงอย่างรวดเร็ว ใกล้จะไม่ไหวแล้วเหล่าหมอหลวงหมดปัญญา เซียวมู่ป๋ายไม่สนใจคำคัดค้านของทุกคน เชิญอวิ๋นหลีเข้าวังตรวจอาการฮ่องเต้ตำหนักเฉินหลังจากเซียวมู่ป๋ายบอกเจตนาที่ตัวเองมา กลับถูกหรงเหยี่ยนปฏิเสธ“สหายหรง เสด็จพ่อป่วยหนัก ทั้งสำนักหมอหลวงหมดปัญญารักษา ฝีมือการแพทย์ของพระชายารัชทายาทสูงส่ง ให้นางลองดู บางทีเสด็จพ่ออาจจะยังมีโอกาสรอด”“เรื่องอะไรก็คุยกันได้ ยกเว้นเรื่องนี้ไม่ได้!”หรงเหยี่ยนจะปล่อยให้ผู้หญิงของตัวเองตกอยู่ในอันตรายได้อย่างไร?ช่วยได้ย่อมดีที่สุด แต่ถ้าหากเกิดข้อผิดพลาดอะไร เป็นไปได้ว่าจะตกเป็นเป้าของทุกคนในข้อหา ‘ปลงพระชนม์ชีพ’คิดไม่ถึงว่าอวิ๋นหลีกลับตอบตกลงทันที“เข้าวังเมื่อไร?”“ยิ่งเร็วยิ่งดี!”“เช่นนั้นยังจะรออะไรอีก? ออกเดินทางเลย!”หรงเหยี่ยนย่อมไม่ปล่อยให้นางทำอะไรส่งเดช “เจ้ารู้หรือไม่ว่ารักษาฝ่าบาทไม่หาย จะมีผลลัพธ์อย่างไร?”อวิ๋นหลีกลับกล่าว “เจ้าเชื่อข้าหรือไม่?”หรงเหยี่ยนมองนางด้วยสีหน้าซับซ้อนแวบหนึ่ง ในที่สุดก็ถอนใจ “ไปเถอะ ข้าไป

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 42

    “หลายวันนี้ ทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับจวนอันอ๋อง เจ้าล้วนให้ความสนใจมาก เมื่อครู่ในงานเลี้ยงพระราชวัง ข้าเห็นกับตาว่าเจ้า…”พูดยังไม่ทันจบ จู่ ๆ มือน้อยข้างหนึ่งก็ปิดปากของเขาเขาพูดมากเกินไปแล้ว!เดิมทีนางไม่อยากให้เขารู้เรื่องเหล่านี้ ยิ่งไม่อยากให้เขาเข้ามาพัวพันกับแผนการเหล่านี้ความแค้นของนาง นางสะสางเองได้!ไม่อยากให้ใครก็ตามเข้ามายุ่ง!หรงเหยี่ยนเอามือของนางลง มองนางอย่างลึกซึ้ง “ถ้าหากข้าบอกเจ้าว่า ศัตรูของพวกเราคือคนเดียวกันล่ะ?”อวิ๋นหลีเบิกตากว้างฉับพลันจู่ ๆ ก็นึกถึงวันที่เข้าเมืองหลวง นางถามเขาว่าไปทำอะไรที่เซิ่งจิงเขาพูดแค่สองคำ…ล้างแค้นแต่เมื่อนางถามว่าศัตรูของเขาเป็นใคร เขากลับเลียนแบบสำเนียงของนาง พูดเหมือนกับที่นางพูดเดิมทีคิดว่าเขาจงใจหยอกล้อ จึงไม่ได้เก็บเอาไปใส่ใจถ้าหากเป็นจริงทุกสิ่ง ไม่เท่ากับว่าศัตรูของเขาก็คือ…ใต้ฟ้ามีเรื่องที่บังเอิญเช่นนี้จริงหรือ?อวิ๋นหลีอดไม่ได้ที่จะถาม “เจ้ามีความแค้นอะไรกับเขา?”“ความแค้นที่ฆ่าภรรยา ไม่สามารถอยู่ร่วมใต้ฟ้าเดียวกัน!”ที่แท้แม่ของอวี้เป่าถูกเซียวเยี่ยนถิงฆ่าตายคำนวณตามเวลา สี่ปีก่อนเขายังอยู่แคว้นเหล

DMCA.com Protection Status