แชร์

บทที่ 26

ผู้แต่ง: คุณชายฝูซู
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-19 15:40:28
“พระชายาอ๋อง พระชายาเป็นอะไรไป?”

จู่ ๆ รั่วหรูซวงก็หมดสติไป จึงทำให้ฝูงชนพลันแตกตื่น

ซุบซิบก็ส่วนซุบซิบ แต่อย่าเอากันให้ถึงตายสิ!

สนมเสิ่นก็สีหน้าเปลี่ยนเช่นกัน นางเป็นผู้รับผิดชอบดูแลงานเลี้ยงแห่งวสันตกาลในวันนี้ หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจริง ๆ นางก็ยากยิ่งที่จะหนีความรับผิดชอบพ้น ยิ่งไม่มีทางให้คำอธิบายต่อเสียนกุ้ยเฟยได้เลย!

“รีบตามหมอหลวงเร็วเข้า!”

อวิ๋นหลีเปลี่ยนมารับบทเป็นกลุ่มคนที่มีน้ำใจ นางรีบเดินไปข้างหน้า “หมอที่เตรียมพร้อมให้การรักษาก็อยู่ตรงนี้แล้วไม่ใช่หรือไง?”

สายตาของทุก ๆ คนล้วนปรากฏแววที่แตกต่างไปจากเดิมหลายส่วน

การที่พระชายาอันอ๋องกลายเป็นแบบนี้ ยังไม่ใช่เพราะคำพูดสะเทือนใจจนขวัญหนีดีฝ่อเหล่านั้นของนางหรอกหรือ และแน่นอนว่ายังรวมถึงพวกนางที่คอยใส่ไฟอยู่ข้าง ๆ ด้วย

จะว่าไปแล้ว พวกนางก็ยังคงรู้สึกผิดอยู่บ้าง ด้วยเกรงว่าจะถูกสืบสาวเอาเรื่องไปพร้อมกันด้วย

ดังนั้นต่อให้เกิดเรื่องอันใดขึ้นมาจริง ๆ พวกนางก็จะยืนกรานเสียงแข็งว่าสตรีผู้นี้ต่างหากที่มีปัญหา

พออวิ๋นหลีได้ตรวจดูชีพจรก็เอ่ยขึ้นมาว่า “เสมหะและเลือดคั่งค้าง ไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไรหรอก กลับไปพักผ่อนสองสามวันก็ไ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 27

    ทะเลสาบแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์ก่อน จวบจนปัจจุบันนี้ก็นับเป็นเวลากว่าห้าร้อยปีแล้วโดยเฉพาะโถงทางเดินยาวเก้าคดที่ทอดสู่ใจกลางทะเลสาบอันคดเคี้ยวเลี้ยวลด เกิดจากความประณีตของช่างฝีมือจึงสรรค์สร้างออกมาได้อย่างไม่เหมือนใคร เมื่อคนเดินอยู่ด้านบนนั้นจะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ทั้งหมดของทะเลสาบ จึงขึ้นชื่อว่าเป็นจุดชมทัศนียภาพอันดับหนึ่งในพระราชวังท้องฟ้าปลอดโปร่ง บรรยากาศกำลังดี ผิวน้ำสะท้อนประกายแสงวิบวับสตรีกลุ่มหนึ่งปรากฏตัวที่ข้างทะเลสาบ ทุกคนมีรูปร่างหน้าตาสวยสดงดงาม ท่าทางเย้ายวนรัญจวนใจจนมวลผกาก็ยังละอายเนื่องด้วยโถงทางเดินยาวแออัดเกินไป บรรดานายท่านเดินด้านหน้า ส่วนเหล่าสาวใช้ต่างเดินตามอยู่ข้างหลังเมื่อเดินมาถึงครึ่งทางแล้ว จู่ ๆ เซียวหนีฉางพลันหกคะเมน ตามด้วยเสียงร้องตกใจ“องค์หญิง เป็นอันใดไปเพคะ?”“เหมือนว่าข้าจะข้อเท้าพลิกน่ะ เจ็บจังเลย!”นางเกาะเสาใหญ่ไว้ กัดริบฝีปากพลางแสดงสีหน้าเจ็บปวดรวดร้าว“ดูเหมือนอาการจะหนักเอาเรื่อง เช่นนั้นให้พวกหม่อมฉันพาองค์หญิงกลับไปก่อนดีหรือไม่เพคะ!”“ไม่เป็นไร ข้าไม่อยากทำให้ทุกคนเสียอารมณ์สุนทรีย์เพราะข้า”“นี่ไม่ใช่เรื่

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 28

    ไม่สิ ใช้คำว่าอัปลักษณ์ก็ยังน้อยไป นี่มันน่าสยดสยองเสียยิ่งกว่าผีอีก!เซียวหนีฉางอึ้งอยู่นานแต่ก็ยังดึงสติกลับคืนมาไม่ได้ เดิมทีนางนึกว่าที่ท่านพี่หรงชอบสตรีผู้นี้ ต้องเป็นเพราะนางมีรูปโฉมที่งดงามกว่าใคร ๆคิดไม่ถึงว่าเมื่อได้เห็นใบหน้าของอีกฝ่ายจริง ๆ นางกลับรู้สึกเหมือนเป็นตัวตลกที่น่าขำที่สุดในโลกหรงเหยี่ยนไม่สนใจปฏิกิริยาตอบสนองของพวกนางสักนิด ในสายตาเขามีเพียงอวิ๋นหลี“บาดเจ็บตรงไหนหรือไม่?”อวิ๋นหลีลองขยับร่างกายดู ทันใดก็ขมวดคิ้วมุ่น เท้าของนาง…เมื่อครู่กระแทกเข้ากับราวกั้น จึงขาแพลง!หรงเหยี่ยนเห็นปฏิกิริยาตอบสนองของนาง สีหน้าพลันมืดมน “ฝีมือผู้ใด?”ทีแรกฝูงชนยังดำดิ่งจมอยู่ในรูปลักษณ์ของเขาอย่างถอนตัวไม่ขึ้นได้ยินมานานว่าองค์รัชทายาทแห่งแคว้นเยี่ยนเป็นบุรุษรูปงามไม่ธรรมดา กิริยาสง่าคล้ายองค์เทพเซียน คาดไม่ถึงว่าตัวจริงจะน่าตื่นตาตื่นใจเสียยิ่งกว่าที่พวกนางได้จินตนาการไว้!คิดไม่ถึงว่าท่านเทพก็โกรธเกรี้ยวเป็นด้วย บรรยากาศโดยรอบพลันเย็นยะเยือกจับใจในชั่วพริบตา ในใจพวกนางก็สั่นสะท้านอย่างรุนแรง“ท่านพี่หรง ข้า…” เซียวหนีฉางน้ำเสียงฟังดูกระวนกระวาย คล้ายเด็กน้อยที่เพ

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 29

    อวิ๋นหลีจ้องเขาอยู่นานสองนาน พยายามเสาะหาร่องรอยของความล้อเล่นจากสายตาของเขาแม้เพียงครึ่งส่วนเพียงแต่น่าเสียดายที่หาไม่เจอเลยสักนิดเดียวนางจึงได้แต่ขำ ‘พรวด’ ออกมาเอง “เอาเถอะ! นับว่าเจ้ามีฝีมือการแสดงที่ยอดเยี่ยม เอาแต่พอดีเถอะนะเจ้าน่ะ!”เป็นครั้งแรกที่หรงเหยี่ยนซาบซึ้งถึงความรู้สึกที่เรียกว่าจนปัญญานางก็ยังไม่เชื่อเขาตามคาด!ไม่เชื่อในความจริงใจของเขา หรือไม่เชื่อว่าเขาเป็นผู้มีคุณธรรม หรือว่าจะเป็นอย่างอื่นนอกเหนือไปจากนี้?ไม่ก็บางทีคงเป็นเพราะยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสมกระมัง!หลังจากมาถึงตำหนักเฉิน เดิมทีอวิ๋นหลีอยากให้ชิงอวี้กับชิงเหยาประคองนางลงจากรถม้าบุรุษกลับกล่าวว่า “ข้าจะส่งเจ้ากลับไปเอง เพราะพวกนางย่อมมีที่ที่จะต้องไป”เขาตวัดสายตาเย็นเยียบใส่พวกนาง สตรีทั้งสองจึงก้มหน้าต่ำลงไปอีกนายท่านสั่งไว้ว่าจะต้องคอยอยู่ดูแลความปลอดภัยให้พระชายาอย่างใกล้ชิดไม่ห่างแม้แต่ก้าวเดียว ทว่าพวกนางกลับทำไม่ได้ สมควรถูกลงโทษ!อวิ๋นหลีเข้าใจความหมายของเขาแล้ว จึงรีบช่วยพูดแก้ต่างแทน “เรื่องนี้จะโทษพวกนางไม่ได้ เวลานั้นที่โถงทางเดินยาวผู้คนเบียดเสียด จึงขยับเขยื้อนตัวไปไหนไม่ได้เลย

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 30

    อวิ๋นหลีเกือบจะนึกว่าตนหูฝาดไปเองเป็นเขาที่พูดผิดไปหรือว่านางฟังผิดกันแน่?หากไม่มีอะไรที่ผิดพลาดเลย เช่นนั้นย่อมไม่ได้เด็ดขาด!“หญิงชายมิควรอยู่ใกล้ชิดกัน”ส่วนเขากลับคิดเตรียมคำพูดเอาไว้ก่อนนานแล้ว “ชิงอวี้กับชิงเหยาไปรับโทษแล้ว เกรงว่าพอกลับมาก็คงขยับไม่ได้ไปอีกหลายวัน และข้อเท้าของเจ้าก็มาแพลงเสียด้วย หากว่าข้าไม่อยู่ที่นี่ แล้วผู้ใดจะดูแลเจ้ากับลูกน้อยสองคนเล่า?”“เช่นนั้นก็ให้สาวใช้คนอื่น…”พูดมาได้ครึ่งเดียว อวิ๋นหลีก็นึกออกกะทันหันทั้งตำหนักเฉินนอกจากพวกนางแล้ว บริวารและคนรับใช้คนอื่น ๆ ล้วนเป็นบุรุษทั้งสิ้น!ตัวนางเองไม่เท่าไรหรอก ทว่าอวี้เป่ากับนานเป่าจำเป็นต้องได้รับการดูแลจริง ๆหลังจากกินมื้อค่ำยังต้องอุ่นนมให้พวกเขาอีก ซึ่งจำเป็นต้องมีคนคอยช่วยเรื่องนี้!หรือว่าตานี่จะคำนวณถึงจุดนี้ได้แล้ว เลยจงใจสั่งให้ชิงอวี้กับชิงเหยาไปรับโทษสินะ!หลังจากลองชั่งน้ำหนักวัดผลดีผลเสียดูแล้ว นางก็ได้แต่กล่าวว่า “เช่นนั้นก็…ขอรบกวนชั่วคราวแล้วกัน!”“ไม่รบกวนเลย เจ้าเป็นแม่ของเด็ก ๆ ส่วนข้าเป็นพ่อของพวกเขา! พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน!”เขาคว้าตัวนานเป่าขึ้นมาอุ้มไว้ แล้วเอาแก้

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 31

    อวิ๋นหลีรีบสวมชุดนอนด้วยความลนลาน ปนความเดือดดาลถึงที่สุด “เจ้ามิได้ไปแล้วหรือ เหตุใดจึงกลับมาอีก?”อวี้เป่ากับนานเป่าอยู่ที่ห้องถัดไป นางคิดว่าเขาจะต้องไปอยู่ที่นั่นเป็นแน่ จึงวางใจที่จะถอดชุดออกไหนเลยจะคิดว่าเขาจะจู่โจมอย่างคาดไม่ถึง?นั่นก็แล้วไปเถอะ ถึงอย่างไรเขาก็เคาะประตูเข้ามา ทว่าเหตุใดจึงเข้าออกตามอำเภอใจราวกับเป็นห้องตัวเองเช่นนี้?ชายผู้นั้นมองนางคราหนึ่ง ก่อนจะยื่นมือไปปลดเข็มขัด และถอดชุดคลุมออกอวิ๋นหลีมองอย่างโง่งม จับจ้องอีกฝ่ายถอดออกทีละชิ้น...จนกระทั่งยามที่เขาจัดการกับชุดตัวในตัวสุดท้าย นางก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไป “นี่เจ้าทำอันใดกัน?”“เข้านอน!”เพียงสองพยางค์แสนเรียบง่าย กลับทำให้อวิ๋นหลีตกตะลึงความหมายของเขาคือ...จะนอนที่นี่หรือ?จะเป็นไปได้อย่างไร!“ออกไป!”“กลางดึกย่อมมีน้ำค้าง ชายารักคงไม่อยากให้ข้าออกไปนอนข้างนอกกระมัง!”“เจ้า...ไปนอนห้องข้าง ๆ ก็ได้กระมัง!”หรงเหยี่ยนเดินมาข้างเตียง ก่อนจะมองดวงตาของนาง “คำพูดของอวี้เอ๋อร์เมื่อครู่ ข้าคิดว่าสมเหตุสมผลมากทีเดียว”“อะไร?” อวิ๋นหลีสับสน อวี้เป่าพูดสิ่งใดแล้วเกี่ยวข้องอันใดกับการที่เขาอยู่ที่นี่?“เ

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 32

    “ยัง...”เพิ่งพูดได้คำเดียว ก็ตกใจขึ้นมาโดยพลันผู้ใดพูดกัน?ในห้องมีเพียงพวกเขาสองคน เช่นนั้นก็มีเพียง...ยามนี้ บุรุษตรงหน้าลืมดวงตาสีดำขลับทั้งสองข้างขึ้นมาแล้วเมื่อดวงตาทั้งสองคู่สบเข้าด้วยกัน อวิ๋นหลีก็รู้สึกใจเต้นไม่เป็นส่ำเขาตื่นตั้งแต่เมื่อใด?“คิดอันใดอยู่ เหตุใดดึกถึงเพียงนี้แล้วยังไม่นอน?”อวิ๋นหลีรู้สึกเขินอายที่จะบอกว่าเป็นเพราะเขา จึงทำได้เพียงเบี่ยงประเด็น“นึกถึงเรื่องที่เกิดในวังเมื่อตอนกลางวัน เหตุใดองค์หญิงหนีฉางจึงลงมือกับข้าอย่างกะทันหัน? รอบทะเลสาบมีองครักษ์อยู่เต็มไปด้วย ต่อให้ข้าจะตกน้ำไปจริง ๆ พวกเขาก็ย่อมเร่งรุดมาช่วยเหลือทันที การจะใช้วิธีเช่นนี้เพื่อเอาชีวิตข้า นับว่าโง่เขลาเกินไปหน่อย”“การจะฆ่าคนในที่แจ้งมิใช่เรื่องฉลาด คิดดูแล้วคงมีจุดประสงค์อื่น”เขามองใบหน้าของนางอย่างลึกซึ้งผู้อื่นอาจเพียงแค่อยากตรวจสอบการปลอมตัวภายใต้ใบหน้านั้น ทว่าสิ่งที่เขาอยากมองทะลุจริง ๆ คือหัวใจของนาง!อวิ๋นหลีเข้าใจความหมายของเขาได้อย่างรวดเร็วก็จริง!หากอยากรู้ใบหน้าของศัตรู การถอดผ้าคลุมหน้าของนางในที่สาธารณะย่อมมิง่าย หนทางที่ดีที่สุดคือการจัดฉากว่าเกิดอุบ

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 33

    อวิ๋นหลีรู้สึกซับซ้อนต่อให้เป็นเช่นนี้ นางก็ไม่อาจเห็นด้วยได้แม้จะมาที่โลกนี้ได้สี่ปีแล้ว นางก็ยังคงรักษาแนวคิดสมัยใหม่บางส่วนไว้ ทั้งทุกคนมีความเท่าเทียม และสันติภาพรวมถึงภราดรภาพหากมิใช่เพื่อแก้แค้น นางย่อมออกเดินทางไปทั่วยุทธภพ ฝึกฝนวิชาแพทย์รักษาผู้คน และอยู่ห่างจากการฆ่าฟันเป็นแน่นางกับพวกนาง แต่ไหนแต่ไรก็หาได้อยู่บนเส้นทางเดียวกัน“เช่นนั้นก็มาให้ข้าช่วยจ่ายยาให้พวกเจ้าได้เสมอ!”เด็กหญิงทั้งสองสบตากัน “เช่นนั้นรบกวนพระชายาด้วยเพคะ!”ตอนแรกพวกนางไม่เข้าใจ ว่าเหตุใดนายท่านจึงถูกตาต้องใจสตรีผู้นี้?แม้แต่คุณชายน้อย ก็ยังนับถือนางเป็นมารดา ถึงขั้นที่มองว่านางสำคัญกว่าฝ่าบาทเสียอีกยามนี้ในที่สุดก็เข้าใจว่า ตัวของอวิ๋นหลีมีแรงดึงดูดที่มองไม่เห็นอยู่อย่างแท้จริง ทำให้ผู้คนชอบนางโดยไม่รู้ตัวในช่วงเวลานี้ที่ได้อยู่ด้วยกัน พวกนางก็ยิ่งพบความเปล่งประกายในตัวนางมากขึ้นเรื่อย ๆ ช่างเป็นสตรีที่แปลกซึ่งหาได้ยากยิ่งจริง ๆอวิ๋นหลีไม่รู้เลยว่า ภาพลักษณ์ของตัวเองได้รับการยกระดับอยู่ในใจของพวกนางมากขึ้นแล้วนางหายาห้ามเลือดกับยาจินชวง ก่อนจะทำความสะอาดบาดแผล และเริ่มทายากล่าวได้

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 34

    “เป็นพระชายาขององค์รัชทายาท! นางพัฒนายาขี้ผึ้งวิเศษขึ้นมา เพียงวันเดียวก็ลดอาการบวมทั้งยังบรรเทาความเจ็บปวด ในสองวันแผลก็ตกสะเก็ด และสามวันต่อมาก็เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ!”อวิ๋นหลีเปิดประตูห้อง ก็เห็นเหล่าองครักษ์ลับซึ่งมารออยู่ด้านนอกนานแล้วพวกเขามองนางด้วยสายตาเป็นประกาย และใบหน้าเลื่อมใสนางมีสีหน้างุนงง เกิดเรื่องอันใดขึ้น?ไม่นานหรงเหยี่ยนก็รู้เรื่องนี้ จึงเรียกฝูหลิงจวินมาหารือกันคาดไม่ถึงว่ายามที่เห็นเขา กลับมีสภาพหนวดเครารุงรัง และใบหน้าโทรม“เหตุใดจึงมีสภาพเช่นนี้?”ฝูหลิงจวินเข้ามาทรุดตัวนั่งบนเก้าอี้ โดยที่มีความหดหู่อยู่เต็มใบหน้า“เทียบกับท่านนักปราชญ์แห่งการแพทย์ไม่ได้ก็แล้วไปเถอะ คาดไม่ถึงว่าแม้แต่ศิษย์ของเขาก็ยังอยู่ห่างจากข้าถึงหนึ่งแสนแปดพันลี้ ทายาทผู้สืบสายเลือดแพทย์ตระกูลเย่ผู้ทรงเกียรติ กลับต้องมาแพ้สตรีผู้หนึ่ง ช่างเป็นการสร้างความอับอายให้บรรพบุรุษเสียจริง!”เมื่อสองวันก่อน เขาจ่ายราคาสูงลิ่วเพื่อแลกเปลี่ยนกับยาขนาดเท่าเล็บมือขององครักษ์ลับหลังจากกลับมา ก็ขังตัวเองไว้ในห้องและเริ่มค้นคว้าแค่ทายาขี้ผึ้งเล็กน้อย ก็สามารถกำจัดเนื้อเน่าได้ เหตุใดสรรพค

บทล่าสุด

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 50

    เขาคงไม่ได้มีอะไรเชื่อมโยงกับนานเป่าจริง ๆ กระมัง?ความคิดนี้เพิ่งผุดขึ้นในสมอง ก็ถูกอวิ๋นหลีปฏิเสธทันทีเป็นไปไม่ได้!ตามความทรงจำของเจ้าของร่าง ตอนนั้นเซียวเยี่ยนถิงกับรั่วหรูซวงวางแผนปรักปรำนาง ได้จัดเตรียมขอทานคนหนึ่งให้นางความปรารถนาแรกของเจ้าของร่าง ก็คือตามหาคนที่พรากความบริสุทธิ์ของนางแล้วแก้แค้นต่อมา นางส่งคนไปตามหาเบาะแสของขอทานคนนั้นรู้มาว่าเขาตายตั้งแต่เมื่อสี่ปีก่อนแล้ว!ก่อนตายหนึ่งวัน เขาเคยไปอวดสหายคนหนึ่งของเขาอย่างภาคภูมิใจว่า ตนโชคดีจริง ๆ!มีเงินให้รับ และยังได้นอนกับผู้หญิง สวรรค์ช่างดีกับเขาจริง ๆตอนนั้นสหายของเขาคิดว่าเขาคุยโม้ด้วยซ้ำ ถามเขาว่ามีเรื่องดี ๆ เช่นนี้ที่ใดกัน ขอทานจึงเล่าให้เขาฟัง และยังบอกให้เขาต้องเก็บเป็นความลับ ไม่เช่นนั้นจะนำภัยมาสู่ตัววันต่อมา ขอทานก็ไปที่วัดหงเย่หลังจากนั้น…ก็ไม่มีหลังจากนั้นแล้วเพราะเขาไม่ได้กลับมาอีกเลยสหายของขอทานก็ถูกเซียวเยี่ยนถิงตามล่าเช่นกัน เขาหลบซ่อนตัวโดยตลอด แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถหนีพ้นความตายตอนที่อวิ๋นหลีตามหาเขาจนพบ ก็เหลือแค่ลมหายใจที่รวยรินแล้ว แต่ก็ยังใช้แรงฮึดสุดท้ายเล่าแผนการที่วัดหงเ

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 49

    เมื่อเห็นอวิ๋นหลีกลับมา เหล่าองครักษ์ตื่นเต้นมาก“พระชายา เจอยาถอนพิษหรือไม่?”อวิ๋นหลีไม่กล้าสบตาพวกเขาด้วยซ้ำ “ขอโทษ”จู๋เยว่ร้อนใจทันที“ท่านรู้หรือไม่ เมื่อครู่นายท่านกระอักเลือดไปสองรอบแล้ว! ท่านกลับทำตัวลึกลับไม่รู้ไปอยู่ที่ใด ถ้าหากรักษาไม่ได้ก็บอกแต่แรก เหตุใดต้องมาเสียเวลาอยู่ที่นี่ด้วย?”“ใจเย็น ๆ ห้ามเสียมารยาทกับพระชายารัชทายาท!”“นายท่านใกล้จะไม่ไหวแล้ว เจ้าจะให้ข้าใจเย็นอย่างไร?”จุยอวิ๋นก็กังวลมากเช่นกัน แต่เขารู้ นี่ไม่ใช่ความผิดของอวิ๋นหลีนายท่านยอมเอาชีวิตไปปกป้องนาง มากพอที่จะรู้ถึงความสำคัญของนางที่อยู่ในใจเขาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเขาล้วนสมควรรักษาการให้เกียรตินาง“พระชายารัชทายาท ไม่มีวิธีแล้วจริง ๆ หรือ?”“ยาถอนพิษหาไม่เจอแล้ว แผนในตอนนี้ มีเพียงให้ข้าลองพยายามดูสักตั้งว่า สามารถขับพิษออกจากร่างกายเขาหรือไม่ แล้วค่อย…”กล่าวยังไม่ทันจบ ก็ถูกขัดอีกครั้ง“เมื่อครู่ก็เพราะพวกเราเชื่อท่าน จึงได้ยืนโง่ ๆ อยู่ตรงนี้ตั้งนาน ข้าว่าไม่สู้รีบพานายท่านกลับไปหาฝูหลิงจวิน ไม่แน่ว่าถอนพิษได้ตั้งนานแล้ว”“จู๋เยว่…”“ข้าพูดอะไรผิดหรือ? เพื่อที่จะช่วยนาง ชีวิตนา

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 48

    “พูดเหลวไหล! ข้าให้เจ้าลงมือกับข้าตั้งแต่เมื่อไร?”“เสี่ยวหลีเอ๋อร์ เจ้าน่าจะรู้ คนที่ข้าไม่อยากทำร้ายที่สุดบนโลกใบนี้ก็คือเจ้า!” บนใบหน้าฮวาเย่ยังคงมีรอยยิ้ม แต่ดวงตาดอกท้อที่มีเสน่ห์นั่น กลับเผยให้เห็นเจตนาฆ่าที่กระหายเลือดเรื่องนี้ อวิ๋นหลีย่อมรู้ดีตั้งแต่เมื่อสองปีก่อนที่นางแก้พิษศพที่เขาคิดค้นขึ้นได้ ทั้งสองก็เกิดปฏิสัมพันธ์ที่ตัดไม่ขาดความสุขสูงสุดของเขาก็คือ การทำยาพิษให้นางมาแก้พิษ คอยเพลิดเพลินกับความรู้สึกที่ถูกคนเห็นกระบวนท่าก็แก้ตามกระบวนท่าระหว่างพวกเขามีความชอบที่คล้ายกัน จากศัตรูกลายเป็นสหายถ้าหากวางยาพิษจนนางตายจริง ๆ เกรงว่าเขาจะเศร้าใจที่สุด ต้องสูญเสียความหมายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตไปเช่นนั้น คนที่เขาจะฆ่าก็ต้องเป็น…“ข้าเตือนเจ้าตั้งแต่แรกแล้ว เขาเป็นแค่คนที่ไม่มีความสำคัญ หลังจากทุกอย่างจบลง ก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก เหตุใดต้องลงมือกับคนที่ไม่รู้อะไรด้วย?”ฮวาเย่ยิ้มอย่างเย็นเยือก “เสี่ยวหลีเอ๋อร์ตำหนิข้าเพราะเขาหรือ? ด้วยเรื่องนี้ เขาก็สมควรตายที่สุด!”“ข้าแค่กำลังพูดข้อเท็จจริงกับเจ้า ไม่ได้มีเจตนาอื่น”“อธิบายก็คือกลบเกลื่อน กลบเกลื่อนก็คือคว

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 47

    “อะไรนะ?” เหล่าองครักษ์ลับตกใจมากชีวิตของนายท่านเกี่ยวพันถึงความมั่นคงของแคว้นเยี่ยน จะเป็นอะไรไม่ได้เด็ดขาด ไม่เช่นนั้นต่อให้พวกเขาตายหมื่นครั้งก็ยากจะไถ่โทษตอนนี้ พวกเขาทำได้เพียงฝากความหวังไว้ที่อวิ๋นหลี“พระชายา นายท่านได้รับบาดเจ็บเพราะช่วยท่าน ท่านต้องหาวิธีช่วยเขานะ”“ข้าต้องช่วยเขาอยู่แล้ว พวกเจ้ายกเขาขึ้นรถม้าก่อน”เป็นครั้งแรกที่อวิ๋นหลีรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองรุ่มร้อนเช่นนี้ เมื่อตรวจชีพจร ยุ่งเหยิงมากเหมือนกับว่าทำมาจากพิษที่รุนแรงพันหมื่นชนิด อยากถอนพิษก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มลงมือจากที่ใดเห็นสีหน้าที่ซีดเซียวของเขา นางรู้สึกเหมือนตัวเองถูกมือใหญ่ที่มองไม่เห็นบีบคอ ทรมานจนแทบหายใจไม่ออกในเมื่ออีกฝ่ายใช้พิษเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าต้องการฆ่าให้ตายในทันที ช่างอำมหิตจริง ๆนางใช้เข็มเงินแต้มเลือดพิษ แล้วส่งเข้าไปทำการวิเคราะห์ที่ห้องทดลองหวังว่าจะสามารถวิเคราะห์ชนิดของพิษออกมา และหาวิธีคิดค้นยาถอนพิษโดยเร็วเวลานี้เอง งูเล็กสีแดงตัวหนึ่งแผดเสียง ‘ซือ ๆ’ เลื้อยเข้ามาจากทางหน้าต่างอวิ๋นหลีจำได้ในปราดเดียว…ชื่อหลิน!ในเมื่อมันอยู่ที่นี่ เช่นนั้นเจ้านายของมัน…ตั้งแต่

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 46

    นางไม่เคยเปิดใจกับเขาอย่างแท้จริงบางทีนี่อาจเป็นเหตุผลที่นางไม่ยอมบอกตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง!ข้างหน้าเป็นป่าองครักษ์ลับในชุดดำและปิดใบหน้าซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้ มองดูรถม้าใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ“ผู้บัญชาการ จะทำเช่นนี้จริง ๆ หรือ?”“อีกเดี๋ยวทำตามคำสั่งของข้า”ทุกคนอัดอั้นในใจ เหตุการณ์อะไรพวกเขาไม่เคยพบเคยเห็น วันนี้กลับต้องมาปลอมตัวเป็นโจรดักปล้นกลางทาง ช่างเป็นประวัติการณ์ครั้งหนึ่งจริง ๆทั้งหมดนี้เพียงเพื่อให้ความร่วมมือกับการแสดงละคร ‘วีรบุรุษช่วยหญิงงาม’ ของนายท่านที่มีจินตนาการสุดล้ำของพวกเขา เพื่อพิชิตใจของผู้หญิงคนนั้นในเร็ววันแต่เมื่อนึกถึงฝีมือการแพทย์ของอวิ๋นหลี ความหดหู่ในใจหายไปทันทีต่อให้ทำเพื่อยาแปลก ๆ ที่นางคิดค้น พวกเขาก็ต้องรั้งนายหญิงท่านนี้ไว้ให้ได้!ทันใดนั้น ลูกธนูที่เย็นเฉียบแหวกอากาศยามราตรี เจาะทะลุตัวรถม้าในพริบตาคนชุดดำนับสิบร่อนลงมาจากท้องฟ้าคนขับรถม้าถูกพวกเขาฆ่าตายแล้ว บนหน้าอกยังมีลูกธนูปักอยู่หนึ่งดอก และยังเบิกตากว้าง เห็นได้ชัดว่าตายตาไม่หลับเวลานี้ กลุ่มองครักษ์ลับที่อยู่บนต้นไม้มองตาค้าง“ผู้…ผู้บัญชาการ นายท่านได้ส่งคนอื่นมาด้วยหรื

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 45

    ในที่สุดฝาก็ถูกยกขึ้นต่อจากนั้น สีหน้าทุกคนเปลี่ยนฉับพลันในกล่องนั่น…มันว่างเปล่า!พลันหลี่กงกงตบหน้าผาก “โอ๊ย บ่าวเกือบลืมไปแล้ว! ฝ่าบาททรงโปรดปรานขนมแผ่นเมฆสู่ตี้มาก และเสวยสองสามชิ้นทุกวัน ทรงเสวยหมดตั้งแต่หลายวันก่อนแล้ว”ในที่สุดหัวใจที่กระวนกระวายของเซียวเยี่ยนถิงก็สงบลง ดูเหมือนสวรรค์ยังเข้าข้างเขาอวิ๋นหลีก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่า เซียวเยี่ยนถิงจะดวงดีเช่นนี้ ปล่อยให้เขาหนีรอดไปได้อีกครั้งน่าเจ็บใจจริง ๆ!เวลานี้เอง จู่ ๆ หรงเหยี่ยนก็เอ่ยปาก “ฝ่าบาท กระหม่อมมีคำพูดหนึ่ง ไม่รู้ว่าควรพูดหรือไม่ควรพูด?”“ล้วนเป็นคนกันเอง เจ้ากับพระชายารัชทายาทเป็นคนช่วยชีวิตเราไว้ มีอะไรก็พูดมาได้เลย”“โจรชั่วบังอาจเช่นนี้ กล้าวางยาพิษกระทั่งฮ่องเต้ จะเห็นได้ว่ายากจะหยั่งรู้เจตนา ปัจจุบันเป็นช่วงสำคัญของการร่วมมือระหว่างสองแคว้น สถานการณ์สงครามชายแดนคับขัน ถ้าหากเกิดเรื่องกับฝ่าบาทในเวลานี้ จะมีผลอย่างไรตามมา?”สีหน้าฮ่องเต้ต้าเหลียงเปลี่ยนฉับพลัน จู่ ๆ ก็ออกคำสั่ง “ทหาร คุมตัวอันอ๋องเข้าคุกหลวง!”เซียวเยี่ยนถิงงงงวยแล้วขนมหมดแล้วไม่ใช่หรือ?ไม่มีหลักฐาน เหตุใดยังจับเขาอีก?เมื่อเห็น

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 44

    สายตาฮ่องเต้กวาดผ่านร่างกายเขาอย่างเย็นชา โดยไม่ได้พูดอะไรมากตอนนี้ไม่ใช่เวลามาซักไซ้ความผิดของเขา เพราะเขายังมีเรื่องที่สำคัญกว่าต้องจัดการนึกถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของอวิ๋นหลี ในใจเขาหวาดกลัวสุดขีด น้ำเสียงเย็นชาฉับพลัน “พวกเจ้าเข้ามาให้หมด”ในห้องพระบรรทม หมอหลวงทุกคนคุกเข่าอยู่บนพื้นสายตาฮ่องเต้ต้าเหลียงกวาดผ่านพวกเขา อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจแรง ๆทั้งสำนักหมอหลวงรวมกัน กลับสู้ผู้หญิงคนหนึ่งไม่ได้ ช่างเป็นที่น่าหัวเราะเยาะจริง ๆตอนมองไปทางอวิ๋นหลี สายตาเขาอ่อนโยนลงหลายส่วนทันที “เจ้าบอกพวกเขาดู ตกลงข้าเป็นโรคอะไรกันแน่?”เซียวเยี่ยนถิงก็อยากรู้เช่นกัน ตกลงนางใช้วิธีอย่างไรช่วยฮ่องเต้กันแน่ ถึงสามารถทำให้เขา ‘ฟื้นคืนจากความตาย’?กลับไม่คาดคิด คำพูดต่อจากนี้ของอวิ๋นหลีทำให้เขาสะดุ้ง“ฝ่าบาทไม่ได้ป่วย แต่ถูกพิษ!”หมอหลวงจางที่ปรึกษาสำนักหมอหลวงคัดค้านคนแรก “เป็นไปไม่ได้! กระหม่อมรักษาโรคมาสามสิบปี และเคยศึกษาพิษมากมายเช่นกัน พิษทั่วไป ทันทีที่เข้าสู่ร่างกาย แค่ตรวจชีพจรก็สามารถรู้ได้ในทันที แต่ชีพจรของฝ่าบาทไม่มีสัญญาณของการถูกพิษใด ๆ”“พิษชนิดนี้พบเห็นยากมาก มันจะไม่เข้าสู่กร

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 43

    หลังจากนั้นสองวัน มีข่าวร้ายถูกส่งมาจากในวังฮ่องเต้เศร้าเสียใจต่อการสิ้นพระชนม์ของพระนัดดาน้อย อาการป่วยแย่ลงอย่างรวดเร็ว ใกล้จะไม่ไหวแล้วเหล่าหมอหลวงหมดปัญญา เซียวมู่ป๋ายไม่สนใจคำคัดค้านของทุกคน เชิญอวิ๋นหลีเข้าวังตรวจอาการฮ่องเต้ตำหนักเฉินหลังจากเซียวมู่ป๋ายบอกเจตนาที่ตัวเองมา กลับถูกหรงเหยี่ยนปฏิเสธ“สหายหรง เสด็จพ่อป่วยหนัก ทั้งสำนักหมอหลวงหมดปัญญารักษา ฝีมือการแพทย์ของพระชายารัชทายาทสูงส่ง ให้นางลองดู บางทีเสด็จพ่ออาจจะยังมีโอกาสรอด”“เรื่องอะไรก็คุยกันได้ ยกเว้นเรื่องนี้ไม่ได้!”หรงเหยี่ยนจะปล่อยให้ผู้หญิงของตัวเองตกอยู่ในอันตรายได้อย่างไร?ช่วยได้ย่อมดีที่สุด แต่ถ้าหากเกิดข้อผิดพลาดอะไร เป็นไปได้ว่าจะตกเป็นเป้าของทุกคนในข้อหา ‘ปลงพระชนม์ชีพ’คิดไม่ถึงว่าอวิ๋นหลีกลับตอบตกลงทันที“เข้าวังเมื่อไร?”“ยิ่งเร็วยิ่งดี!”“เช่นนั้นยังจะรออะไรอีก? ออกเดินทางเลย!”หรงเหยี่ยนย่อมไม่ปล่อยให้นางทำอะไรส่งเดช “เจ้ารู้หรือไม่ว่ารักษาฝ่าบาทไม่หาย จะมีผลลัพธ์อย่างไร?”อวิ๋นหลีกลับกล่าว “เจ้าเชื่อข้าหรือไม่?”หรงเหยี่ยนมองนางด้วยสีหน้าซับซ้อนแวบหนึ่ง ในที่สุดก็ถอนใจ “ไปเถอะ ข้าไป

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 42

    “หลายวันนี้ ทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับจวนอันอ๋อง เจ้าล้วนให้ความสนใจมาก เมื่อครู่ในงานเลี้ยงพระราชวัง ข้าเห็นกับตาว่าเจ้า…”พูดยังไม่ทันจบ จู่ ๆ มือน้อยข้างหนึ่งก็ปิดปากของเขาเขาพูดมากเกินไปแล้ว!เดิมทีนางไม่อยากให้เขารู้เรื่องเหล่านี้ ยิ่งไม่อยากให้เขาเข้ามาพัวพันกับแผนการเหล่านี้ความแค้นของนาง นางสะสางเองได้!ไม่อยากให้ใครก็ตามเข้ามายุ่ง!หรงเหยี่ยนเอามือของนางลง มองนางอย่างลึกซึ้ง “ถ้าหากข้าบอกเจ้าว่า ศัตรูของพวกเราคือคนเดียวกันล่ะ?”อวิ๋นหลีเบิกตากว้างฉับพลันจู่ ๆ ก็นึกถึงวันที่เข้าเมืองหลวง นางถามเขาว่าไปทำอะไรที่เซิ่งจิงเขาพูดแค่สองคำ…ล้างแค้นแต่เมื่อนางถามว่าศัตรูของเขาเป็นใคร เขากลับเลียนแบบสำเนียงของนาง พูดเหมือนกับที่นางพูดเดิมทีคิดว่าเขาจงใจหยอกล้อ จึงไม่ได้เก็บเอาไปใส่ใจถ้าหากเป็นจริงทุกสิ่ง ไม่เท่ากับว่าศัตรูของเขาก็คือ…ใต้ฟ้ามีเรื่องที่บังเอิญเช่นนี้จริงหรือ?อวิ๋นหลีอดไม่ได้ที่จะถาม “เจ้ามีความแค้นอะไรกับเขา?”“ความแค้นที่ฆ่าภรรยา ไม่สามารถอยู่ร่วมใต้ฟ้าเดียวกัน!”ที่แท้แม่ของอวี้เป่าถูกเซียวเยี่ยนถิงฆ่าตายคำนวณตามเวลา สี่ปีก่อนเขายังอยู่แคว้นเหล

DMCA.com Protection Status