แชร์

บทที่ 20

ผู้แต่ง: คุณชายฝูซู
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-19 15:40:28
เมื่อเซียวหนีฉางมาถึงก็สังเกตุเห็นบรรยากาศเย็นชามึนตึงระหว่างทั้งสองคน

ดูเหมือนว่าพวกเขาก็ไม่ได้รักกันมั่นคงเหมือนอย่างที่จินตนาการไว้เลย!

เช่นนั้นนางยังมีโอกาสอยู่แน่นอน!

ความไม่พอใจภายในใจของนางสลายไปมากกว่าครึ่งทันที ก่อนจะเดินเข้ามาแสดงการคารวะ

“วันนี้ที่ฉางเอ๋อร์มา ประการแรกคือเพื่อแสดงการขออภัย ประการที่สองคือเพื่อแสดงความขอบคุณ!”

“พี่หญิงมีน้ำใจเมตตากรุณา ให้ความช่วยเหลือ ฉางเอ๋อร์จึงไม่ได้เสียชีวิต ณ ที่นั้น พี่หญิงเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตของฉางเอ๋อร์!”

แม้ว่าใบหน้าของอวิ๋นหลียังมีรอยยิ้มอยู่ แต่รอยยิ้มกลับไม่ไปถึงดวงตา

นี่เป็นการแกล้งทำดีด้วยแต่มีเจตนาร้ายแอบแฝงสินะ!

ปากเล็ก ๆ นี้ช่างหวานยิ่งนัก หากไม่ใช่เพราะเคยเห็นวิธีการของนางมาก่อน เกรงว่าคงจะใจอ่อนแล้วจริง ๆ

“คำว่าพี่หญิงขององค์หญิงนี้ ข้ารับไม่ไหวจริง ๆ! หากมีสักวันที่ท่านแต่งงานกับองค์รัชทายาทจริง ๆ ก็แล้วไป มิฉะนั้นข้ารับไม่ไหวหรอก!”

เซียวหนีฉางตาขอบแดงก่ำ กัดริมฝีปากกล่าวว่า “พี่หญิงพูดเช่นนี้ก็คือไม่ยอมให้อภัยข้าแล้วสินะ?”

อวิ๋นหลีร้อง ‘จุ๊ ๆ’ ในใจ เริ่มแล้ว ๆ!

ท่าทางน่าสงสารเช่นนี้ ชายใดเล่าจะสามารถหนีรอดไปได้?

“องค์หญิงแค่ไล่ตามรักแท้ มีความผิดอันใดเล่า? ไฉนจึงต้องการให้ข้าให้อภัยด้วย?”

เซียวหนีฉางรู้ว่านางกำลังเยาะหยันตนอยู่ จึงโกรธจัดจนหอบหายใจแรง

ถึงอย่างไรก็เอ่ยขอโทษไปแล้ว จะรับหรือไม่ก็ไม่เกี่ยวกับนางแล้ว ไม่ถือว่าขัดพระประสงค์ของเสด็จพ่อ

วันนี้มาที่นี่ นางมีเป้าหมายที่สำคัญยิ่งกว่านั้น

“ท่านพี่หรง ข้าขอสนทนากับท่านเพียงลำพังได้หรือไม่?”

หรงเหยี่ยนทำสีหน้าเรียบเฉย น้ำเสียงเย็นชาเหินห่างอย่างยิ่ง “แม้ข้ากับองค์หญิงมีวาสนาพบกันหลายครั้ง แต่ไม่สนิทสนมกันเลย เรื่องนี้ไม่มีความจำเป็น! ในเมื่อวันนี้เจ้ามาขอโทษภรรยาข้า เช่นนั้นข้าก็ไม่อยู่รบกวนแล้ว!”

เมื่อเห็นเขาเตรียมตัวจะจากไป เซียวหนีฉางก็รีบร้อนไล่ตามไป

“ท่านพี่หรง ท่านยังตำหนิข้าเพราะเรื่องเมื่อสี่ปีก่อนใช่หรือไม่ ตอนนั้นที่วัดหงเย่ ข้า...”

“หุบปาก!” หรงเหยี่ยนหันตัวมาตัดบทนางด้วยความเกรี้ยวกราด

อวิ๋นหลีได้ยินคำว่า ‘วัดหงเย่’ ในใจก็เต้นตึกตัก

ปีนั้นเจ้าของร่างเดิมก็เกิดเรื่องขึ้นที่นั่น ดังนั้นเมื่อได้ยินสามคำนี้ นางจึงรู้สึกไวเป็นพิเศษ เอ่ยถามทันทีว่า “วัดหงเย่มีอะไรหรือ?”

หรงเหยี่ยนแปลกใจเล็กน้อย นางไม่สนใจเรื่องของเขามาโดยตลอด เหตุใดจู่ ๆ ถึงอยากรู้ขึ้นมา?

เหตุการณ์ในปีนั้นเป็นความอัปยศของเขา และก็เป็นความเสียใจชั่วชีวิต

เขาไม่อยากให้ผู้ใดล่วงรู้!

“ตามข้ามา!” เขาถลึงตาใส่เซียวหนีฉางอย่างดุดัน บ่งบอกให้นางตามเขาออกไป

เมื่อเห็นทั้งสองคนไปไกลแล้ว หัวใจของอวิ๋นหลีราวกับมีคลื่นปั่นป่วน

เหตุใดพอเอ่ยถึงวัดหงเย่ เขาถึงมีปฏิกิริยารุนแรงขนาดนั้น?

นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นเขาเสียการควบคุมถึงเพียงนี้

ดูท่ามีความเป็นไปได้สูงว่าระหว่างเขากับเซียวหนีฉางจะมีความลับอะไรบางอย่างที่ไม่อยากให้ผู้อื่นรู้

ด้านหลังภูเขาเทียม

เมื่อมองไปรอบด้านไม่มีผู้ใด หรงเหยี่ยนถึงค่อยเอ่ยอย่างเย็นชาในที่สุด “เรื่องในปีนั้น ทางที่ดีเจ้าเก็บมันไว้กับตัว ไม่อย่างนั้นข้าไม่ปล่อยเจ้าไปอย่างแน่นอน!”

เซียวหนีฉางตาแดงก่ำส่งเสียงร้องสะอึกสะอื้น “ท่านพี่หรง ข้าแค่อยากขอโทษท่านเท่านั้น ปีนั้นข้าผิดเอง ไม่ควรวางยาในน้ำชาของท่าน แต่ว่านอกจากทำเช่นนี้แล้ว ข้าไม่รู้จริง ๆ ว่ายังมีวิธีการอะไรที่จะอยู่ข้างกายท่านได้”

แต่นางคิดไม่ถึงว่า แม้ยาจะออกฤทธิ์ ทรมานเขาจนเจ็บปวดยากจะทนไหว เขาก็ไม่ยอมแตะต้องนางแม้แต่น้อย

เขารังเกียจนางถึงเพียงนี้เชียวหรือ?

“หุบปาก อย่าพูดอีกนะ!” ชายหนุ่มกำหมัดแน่นจนเส้นเลือดขึ้นที่หลังมือ ทั่วทั้งร่างแผ่ไอดุดันอำมหิตที่ทำให้ผู้คนอกสั่นขวัญแขวน

เมื่อเห็นท่าทางเช่นนี้ของเขา เซียวหนีฉางหวาดกลัวเล็กน้อย ทำได้เพียงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา

“เรื่องของท่านกับคุณหนูใหญ่ตระกูลลั่ว ข้าไม่ได้บอกผู้ใดทั้งนั้น แม้แต่เสด็จพี่ที่ลองหยั่งเชิงอยู่หลายครั้ง ข้าก็ไม่เคยปริปากบอกเขาเลยแม้แต่น้อย เพื่อท่านแล้ว ข้ารักษาความลับนี้ไว้อย่างเหนียวแน่นมาโดยตลอด”

“เจ้าคิดว่าพูดเช่นนี้ก็ล้างมลทินของเจ้าได้แล้วหรือ?” นัยน์ตาของชายหนุ่มเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย แทบอยากจะฉีกสตรีตรงหน้าเป็นชิ้น ๆ

นางไม่เพียงปิดบังเซียวเยี่ยนถิง แต่ยังหลอกลวงเขาด้วย!

ตอนนั้นฤทธิ์ยาในร่างของเขากำเริบถึงขีดสุดแล้ว เขาตบหน้าตัวเองแรง ๆ หลายฉาดเพื่อควบคุมตัวเองไว้ แม้ปากจะกระอักเลือดออกมา แต่ก็ไม่สามารถขับไล่ความร้อนแผดเผาราวกับเพลิงโหมกระหน่ำได้

ในตอนนั้นเอง เขาพลันเห็นร่างอ่อนช้อยบอบบางเดินเข้าไปในกุฏิที่อยู่ไม่ไกล

ภายใต้แรงผลักดันของตัณหา เขาไม่อาจควบคุมตนเองได้แล้ว ก่อนจะตามเข้าไปโดยไม่รู้ตัว

เขาจำได้ว่านางเอาแต่ร้องไห้ตะโกนวิงวอนขอให้เขาปล่อยนางไป แต่เขาไม่อาจหยุดได้เลย คิดแค่ว่าอยากครอบครองร่างกายอันหอมหวานเย้ายวนใจที่อยู่ใต้ร่างอย่างรุนแรงเท่านั้น

จนกระทั่งนางเหนื่อยจนสลบ ส่วนเขาก็หมดสติไปเช่นกัน

เมื่อฟื้นขึ้นมา เขาก็อยู่นอกวัดแล้ว เซียวหนีฉางเฝ้าอยู่ข้างกายเขา

เขาถามนางว่าสตรีผู้นั้นเป็นใคร?

ในเมื่อพรากความบริสุทธิ์ของอีกฝ่ายไปแล้ว เขาจำเป็นต้องรับผิดชอบ

เซียวหนีฉางกลับโกหกว่าตอนที่มาถึง มีแค่เขาคนเดียวที่อยู่ในกุฏิ

ตอนนั้นต่อให้เขาสงสัยก็ทำอะไรไม่ได้ แคว้นเยี่ยนเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เรื่องการกลับแคว้นกระชั้นชิดเข้ามาแล้ว ทำได้เพียงทิ้งจุยอวิ๋นกับจู๋เยว่ไว้เพื่อทำการตรวจสอบอย่างลับ ๆ

การตรวจสอบนี้กินเวลาไปหลายเดือน

แม้ว่าพวกเขาสงสัยลั่วอวิ๋นหลี แต่เวลานั้นนางกลายเป็นพระชายาอันอ๋องแล้ว ไม่อาจยืนยันได้ว่าเด็กในครรภ์เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาหรือไม่

จนกระทั่งวันหนึ่ง ในที่สุดพวกเขาก็สืบทราบถึงแผนการชั่วร้ายของเซียวเยี่ยนถิง ได้รู้ถึงความอัปยศอดสูที่ลั่วอวิ๋นหลีได้รับ

เมื่อหานางเจอ ทุกอย่างก็สายไปเสียแล้ว!

ในสุสานไร้ญาติ นางถูกทรมานจนเสียชีวิตแล้ว เหลือไว้เพียงเด็กที่เพิ่งลืมตาดูโลก

หรงเหยี่ยนมองสตรีตรงหน้า รอบตัวแผ่ไอเย็นเยียบราวกับธารน้ำแข็งขั้วโลก แววตาสั่นระริก

“เจ้าไม่เพียงหลอกข้า ยังติดค้างข้าหนึ่งชีวิตด้วย! ชาตินี้เจ้าไม่มีวันใช้คืนได้หมด!”

หลังภูเขาเทียม อวิ๋นหลีกลั้นหายใจ ค่อย ๆ แอบปีนขึ้นมา

นางพยายามโน้มน้าวตนเองว่านางไม่ใช่คนที่ชอบเรื่องซุบซิบนินทา

เพียงแต่ว่าเรื่องมันเกี่ยวข้องกับวัดหงเย่ มีความเป็นไปได้สูงว่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องอัปยศที่เจ้าของร่างเดิมได้รับเมื่อสี่ปีก่อน นางถึงอยากร่วมฟังอย่างเงียบเชียบ

เพิ่งจะปีนขึ้นไปถึงยอดเขาก็เห็นเซียวหนีฉางร้องไห้จนเหมือนกับดอกสาลี่ต้องหยาดฝน

บทที่เกี่ยวข้อง

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 21

    “ท่านพี่หรง ข้าผิดไปแล้วจริง ๆ!”“ขอเพียงท่านยกโทษให้ข้า จะให้ข้าทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น!”“หากสามารถย้อนเวลากลับไป ข้าไม่มีทางใช้วิธีการที่ต่ำช้าเช่นนั้นเพื่อให้ได้ท่านมาโดยเด็ดขาด ให้โอกาสข้าได้ชดเชยสักครั้งจะได้หรือไม่?”อวิ๋นหลีตะลึงงัน ชักจะเด็ดสะระตี่ไปแล้วกระมัง นี่นางมาได้ยินข่าวเด็ดอะไรเข้ากันเนี่ย?ใช้วิธีการที่ต่ำช้าเพื่อให้ได้เขามาอย่างนั้นหรือ?หรือว่าระหว่างพวกเขาจะ…เนื่องจากตะลึงพรึงเพริดจนเกินเหตุ นางจึงก้าวเท้าพลาดพลั้ง ล้มหน้าคะมำลงไปจากด้านบนโดยพลันในชั่วขณะนั้น ทุกอย่างล้วนเงียบสงัดเมื่ออวิ๋นหลีเงยหน้าขึ้น ก็เห็นดวงตาสองคู่ที่กำลังจดจ้องมองมาที่นาง นางจึงได้แต่เผยรอยยิ้มประดักประเดิดออกมา“หากหม่อมฉันบอกว่าแค่บังเอิญผ่านมาเท่านั้น พวกพระองค์จะเชื่อหรือไม่?”หรงเหยี่ยนมาข้างหน้าเพื่อพยุงนางขึ้น ตบฝุ่นและปัดเศษใบไม้ที่ติดอยู่บนเสื้อผ้าของนางออกเล็กน้อย แล้วมองสำรวจดูด้วยว่านางได้รับบาดเจ็บหรือไม่เมื่อพบว่านางมิได้เป็นอันใด ถึงค่อยทำหน้าตึง “ใครให้เจ้ามา?”อวิ๋นหลีพลันดูแคลนในใจ ถูกคนรู้เรื่องไม่งามแล้ว จึงรู้สึกละอายขายหน้าจนกลายเป็นความโกรธเกรี้ยวกระมัง?

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 22

    “น้องหญิงเจ็ดยังโกรธข้าเรื่องในวันนั้นอยู่อีกหรือ? หลายวันมานี้ข้าเองก็ตำหนิตัวเองเป็นอย่างมากเช่นกัน พอพ้นช่วงกักบริเวณจึงรีบมาขอโทษเจ้าทันที!”ดังที่เขาว่ากัน เมื่ออีกฝ่ายสำนึกผิดแล้วก็ให้เลิกแล้วต่อกันไป!ครั้นนึกได้ว่าเขายังช่วยเหลือตนไว้อีกด้วย ถูกกักบริเวณยังไม่ว่า ซ้ำร้ายยังโดนหักเบี้ยหวัดอีกเทียบกันแล้วก็ไม่ได้ดีไปกว่าตนตรงไหนเลย สีหน้านางจึงค่อยผ่อนคลายลง หากแต่เจือด้วยรอยยิ้มเยาะหยันตัวเองจาง ๆ“ไม่โทษท่านหรอก เป็นข้าที่สำคัญผิดคิดเข้าข้างตัวเอง นึกว่าผ่านมาสี่ปีแล้วจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้บ้าง คาดคิดไม่ถึงว่ากลับเป็นการหาเรื่องใส่ตัว!”“น้องหญิงอย่ากล่าววาจาท้อแท้เช่นนี้สิ เจ้าไม่ผิด เป็นเขาต่างหากที่ใจจืดใจดำกับเจ้าเกินไป!”“มาพูดเรื่องพวกนี้เอาป่านนี้แล้วยังมีประโยชน์อะไร? สิ่งใดที่ไม่ใช่ของของข้า ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็มิมีทางได้มันมาหรอก!”เมื่อครู่นี้ตอนอยู่ที่ตำหนักเฉิน นางได้เห็นท่าทางของเขาต่อสตรีนางนั้นที่ดูอ่อนโยนเหลือคณานับกระทั่งในความฝันนางก็หวังว่าจะมีสักวันหนึ่งที่ท่านพี่หรงจะปฏิบัติเช่นนี้กับนางบ้าง ทว่าเขากลับถวายรักนี้ให้แก่สตรีอีกนางหนึ่งอย่างไม่เผื่

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 23

    เมื่อนึกได้ว่าตั้งแต่ย่ำรุ่ง ชิงอวี้กับชิงเหยาก็นำชุดนี้มาราวกับจะถวายของล้ำค่าให้อย่างไรอย่างนั้นโดยบอกว่าบรรยากาศอบอวลด้วยสีสันของวสันตฤดูพอดี และชุดกระโปรงชุดนี้กับโกสุมที่มีอยู่เต็มสวนช่างเสริมกันให้ดูเด่นชัดยิ่งขึ้น จึงเปลี่ยนมาให้นางสวมชุดนี้ทันทีเพลานี้นางคลางแคลงใจหนักหนาว่าสาวน้อยสองคนนี้คงจงใจเป็นแน่หากมิใช่เพราะต้องเร่งเดินทางแล้ว นางจะต้องกลับไปเปลี่ยนชุดแน่นอนกลับคาดคิดไม่ถึงว่าบุรุษจะกระเถิบใกล้เข้ามาแล้วอวิ๋นหลีทำได้เพียงเขยิบเข้าไปด้านในเล็กน้อย นางยิ่งขยับถอยไปมากเท่าไร เขาก็จะขยับใกล้เข้ามาหานางเป็นสองเท่า จนสุดท้ายร่างทั้งร่างของนางพลันแนบชิดติดกับผนังรถม้า“เจ้าอย่ามาทำเกินไปนะ!” ในที่สุดนางก็เหลืออดแล้วทว่าหรงเหยี่ยนกลับยื่นมือมาช่วยเอาปอยผมตรงหน้าผากทัดไปที่หลังหูให้นาง“ในวังไม่เหมือนข้างนอก จิตใจมนุษย์มีตื้นลึกหนาบาง พอเข้าวังไปแล้วจะต้องระแวดระวังในทุก ๆ ด้าน ชิงอวี้และชิงเหยาจะติดตามเจ้าอย่างไม่ห่างแม้แต่ก้าวเดียว พวกนางล้วนมีวรยุทธ์ หากมีเรื่องอันใด จะต้องปกป้องความปลอดภัยให้เจ้าได้แน่”อวิ๋นหลีชะงักไปเล็กน้อย เขาเพียงอยากจะพูดเรื่องนี้กับนางหร

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 24

    ความกระตือรือร้นอันเปี่ยมล้นเช่นนี้ ทำเอานางรู้สึกไม่ดีเป็นอย่างมาก จึงชักมือตัวเองกลับออกมาอย่างไม่ทิ้งร่องรอยเซียวหนีฉางเผยสีหน้าน้อยเนื้อต่ำใจ “พี่อวิ๋น นี่พี่หญิงยังโกรธข้าอยู่ใช่หรือไม่? หลังจากกลับมาไม่กี่วันนี้ ข้าก็ได้ทบทวนตัวเองอย่างลึกซึ้งถึงแก่นแท้แล้ว พี่เป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตข้าไว้ บุญคุณช่วยชีวิตสมควรตอบแทนกลับคืนให้เป็นเท่าตัว ในภายภาคหน้าข้าจะตอบแทนพี่หญิงแน่นอน!”ภายในฝูงชน มีคนเริ่มกล่าวคำวิพากษ์วิจารณ์เสียงเบา“องค์หญิงยอมลดตัวถึงขั้นนี้แล้ว นางก็ยังไม่ไว้หน้าอีก เกินไปแล้วจริง ๆ!”“แม้ว่าวันนั้นนางจะเป็นผู้ที่เข้ามาช่วยเหลือไว้ก็จริง ทว่าการที่องค์หญิงเลือกตัดสินใจทำเรื่องวู่วามภายใต้ความสิ้นหวังก็เพราะนางเป็นคนบีบบังคับไม่ใช่หรือไง?”“ใครใช้ให้นางเป็นชายาขององค์รัชทายาทเล่า ยั่วโมโหไม่ไหวหรอก!”ท่ามกลางคำพูดเสียดสีทิ่มแทง จู่ ๆ พลันสอดแทรกด้วยเสียงหนึ่งที่เอื้อนเอ่ยวาจาเคร่งขรึมเปี่ยมด้วยเหตุผล “ชายาขององค์รัชทายาทเป็นแขกกิตติมศักดิ์ของแคว้นต้าเหลียงเรา และเป็นบุคคลสำคัญสำหรับงานเลี้ยงแห่งวสันตกาลในวันนี้ พวกเราสมควรที่จะต้อนรับด้วยมารยาทอันดีงาม!”เมื

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 25

    รั่วหรูซวงตะลึงพรึงเพริด “หมายความว่าอย่างไร?”“บอกตามความจริงอย่างไม่ปิดบัง ตัวข้านี้ในเวลาปกตินอกจากศึกษาตำราการแพทย์แล้ว ก็พอจะมีความรู้ด้านไสยเวทมนต์ดำอยู่บ้าง”“เมื่อครู่ได้เปิดเนตรสวรรค์ จึงเห็นว่าบนตัวของพระชายาอันอ๋องถูกปกคลุมและตลบอบอวลไปด้วยมวลสารดำมืด ดังนั้นจึงตัดสินได้ว่าอาการป่วยของเจ้าหาใช่เกิดจากโรคทั่วไปไม่ หากแต่เป็นการถูกวิญญาณอาฆาตคอยติดตามต่างหาก”“เจ้ามีภาวะพลังหยางพร่อง แต่มีพลังหยินที่มากเกินไป ด้วยเหตุนี้ร่างกายเจ้าถึงได้อ่อนแอเยี่ยงนี้!”ทั้งที่เป็นเวลากลางวันแสก ๆ ทุกคนกลับรู้สึกเย็นสันหลังวาบเสิ่นเฟยเคารพบูชาผีสางเทวดาอย่างแรงกล้ามาโดยตลอด พลันปั้นสีหน้าจริงจัง “พระชายา เรื่องเช่นนี้ล้อเล่นไม่ได้นะ!”อวิ๋นหลีเพียงแค่ผลิยิ้มพลางโบกมือไปมา “เชื่อไม่เชื่อก็สุดแล้วแต่ศรัทธา! พวกท่านคิดเสียว่าข้าไม่ได้พูดก็แล้วกัน!”คำพูดได้เอื้อนเอ่ยออกมาจากปากแล้ว จะให้ทำเป็นไม่ได้ยินได้อย่างไรกัน?เมื่อเห็นแววตานั้นที่ดูผิดแผกแตกต่างไปของกลุ่มคน รั่วหรูซวงพลันสุดจะทานทน พระชายาพูดมาให้ชัดเจนเลยดีกว่า!”“พระชายาอ๋องอยากจะฟังจริงหรือ?”“ใช่!”บนโลกมีผีสางนางไม้เสียที

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 26

    “พระชายาอ๋อง พระชายาเป็นอะไรไป?”จู่ ๆ รั่วหรูซวงก็หมดสติไป จึงทำให้ฝูงชนพลันแตกตื่นซุบซิบก็ส่วนซุบซิบ แต่อย่าเอากันให้ถึงตายสิ!สนมเสิ่นก็สีหน้าเปลี่ยนเช่นกัน นางเป็นผู้รับผิดชอบดูแลงานเลี้ยงแห่งวสันตกาลในวันนี้ หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจริง ๆ นางก็ยากยิ่งที่จะหนีความรับผิดชอบพ้น ยิ่งไม่มีทางให้คำอธิบายต่อเสียนกุ้ยเฟยได้เลย!“รีบตามหมอหลวงเร็วเข้า!”อวิ๋นหลีเปลี่ยนมารับบทเป็นกลุ่มคนที่มีน้ำใจ นางรีบเดินไปข้างหน้า “หมอที่เตรียมพร้อมให้การรักษาก็อยู่ตรงนี้แล้วไม่ใช่หรือไง?”สายตาของทุก ๆ คนล้วนปรากฏแววที่แตกต่างไปจากเดิมหลายส่วนการที่พระชายาอันอ๋องกลายเป็นแบบนี้ ยังไม่ใช่เพราะคำพูดสะเทือนใจจนขวัญหนีดีฝ่อเหล่านั้นของนางหรอกหรือ และแน่นอนว่ายังรวมถึงพวกนางที่คอยใส่ไฟอยู่ข้าง ๆ ด้วยจะว่าไปแล้ว พวกนางก็ยังคงรู้สึกผิดอยู่บ้าง ด้วยเกรงว่าจะถูกสืบสาวเอาเรื่องไปพร้อมกันด้วยดังนั้นต่อให้เกิดเรื่องอันใดขึ้นมาจริง ๆ พวกนางก็จะยืนกรานเสียงแข็งว่าสตรีผู้นี้ต่างหากที่มีปัญหาพออวิ๋นหลีได้ตรวจดูชีพจรก็เอ่ยขึ้นมาว่า “เสมหะและเลือดคั่งค้าง ไม่ได้หนักหนาสาหัสอะไรหรอก กลับไปพักผ่อนสองสามวันก็ไ

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 27

    ทะเลสาบแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์ก่อน จวบจนปัจจุบันนี้ก็นับเป็นเวลากว่าห้าร้อยปีแล้วโดยเฉพาะโถงทางเดินยาวเก้าคดที่ทอดสู่ใจกลางทะเลสาบอันคดเคี้ยวเลี้ยวลด เกิดจากความประณีตของช่างฝีมือจึงสรรค์สร้างออกมาได้อย่างไม่เหมือนใคร เมื่อคนเดินอยู่ด้านบนนั้นจะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ทั้งหมดของทะเลสาบ จึงขึ้นชื่อว่าเป็นจุดชมทัศนียภาพอันดับหนึ่งในพระราชวังท้องฟ้าปลอดโปร่ง บรรยากาศกำลังดี ผิวน้ำสะท้อนประกายแสงวิบวับสตรีกลุ่มหนึ่งปรากฏตัวที่ข้างทะเลสาบ ทุกคนมีรูปร่างหน้าตาสวยสดงดงาม ท่าทางเย้ายวนรัญจวนใจจนมวลผกาก็ยังละอายเนื่องด้วยโถงทางเดินยาวแออัดเกินไป บรรดานายท่านเดินด้านหน้า ส่วนเหล่าสาวใช้ต่างเดินตามอยู่ข้างหลังเมื่อเดินมาถึงครึ่งทางแล้ว จู่ ๆ เซียวหนีฉางพลันหกคะเมน ตามด้วยเสียงร้องตกใจ“องค์หญิง เป็นอันใดไปเพคะ?”“เหมือนว่าข้าจะข้อเท้าพลิกน่ะ เจ็บจังเลย!”นางเกาะเสาใหญ่ไว้ กัดริบฝีปากพลางแสดงสีหน้าเจ็บปวดรวดร้าว“ดูเหมือนอาการจะหนักเอาเรื่อง เช่นนั้นให้พวกหม่อมฉันพาองค์หญิงกลับไปก่อนดีหรือไม่เพคะ!”“ไม่เป็นไร ข้าไม่อยากทำให้ทุกคนเสียอารมณ์สุนทรีย์เพราะข้า”“นี่ไม่ใช่เรื่

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 28

    ไม่สิ ใช้คำว่าอัปลักษณ์ก็ยังน้อยไป นี่มันน่าสยดสยองเสียยิ่งกว่าผีอีก!เซียวหนีฉางอึ้งอยู่นานแต่ก็ยังดึงสติกลับคืนมาไม่ได้ เดิมทีนางนึกว่าที่ท่านพี่หรงชอบสตรีผู้นี้ ต้องเป็นเพราะนางมีรูปโฉมที่งดงามกว่าใคร ๆคิดไม่ถึงว่าเมื่อได้เห็นใบหน้าของอีกฝ่ายจริง ๆ นางกลับรู้สึกเหมือนเป็นตัวตลกที่น่าขำที่สุดในโลกหรงเหยี่ยนไม่สนใจปฏิกิริยาตอบสนองของพวกนางสักนิด ในสายตาเขามีเพียงอวิ๋นหลี“บาดเจ็บตรงไหนหรือไม่?”อวิ๋นหลีลองขยับร่างกายดู ทันใดก็ขมวดคิ้วมุ่น เท้าของนาง…เมื่อครู่กระแทกเข้ากับราวกั้น จึงขาแพลง!หรงเหยี่ยนเห็นปฏิกิริยาตอบสนองของนาง สีหน้าพลันมืดมน “ฝีมือผู้ใด?”ทีแรกฝูงชนยังดำดิ่งจมอยู่ในรูปลักษณ์ของเขาอย่างถอนตัวไม่ขึ้นได้ยินมานานว่าองค์รัชทายาทแห่งแคว้นเยี่ยนเป็นบุรุษรูปงามไม่ธรรมดา กิริยาสง่าคล้ายองค์เทพเซียน คาดไม่ถึงว่าตัวจริงจะน่าตื่นตาตื่นใจเสียยิ่งกว่าที่พวกนางได้จินตนาการไว้!คิดไม่ถึงว่าท่านเทพก็โกรธเกรี้ยวเป็นด้วย บรรยากาศโดยรอบพลันเย็นยะเยือกจับใจในชั่วพริบตา ในใจพวกนางก็สั่นสะท้านอย่างรุนแรง“ท่านพี่หรง ข้า…” เซียวหนีฉางน้ำเสียงฟังดูกระวนกระวาย คล้ายเด็กน้อยที่เพ

บทล่าสุด

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 50

    เขาคงไม่ได้มีอะไรเชื่อมโยงกับนานเป่าจริง ๆ กระมัง?ความคิดนี้เพิ่งผุดขึ้นในสมอง ก็ถูกอวิ๋นหลีปฏิเสธทันทีเป็นไปไม่ได้!ตามความทรงจำของเจ้าของร่าง ตอนนั้นเซียวเยี่ยนถิงกับรั่วหรูซวงวางแผนปรักปรำนาง ได้จัดเตรียมขอทานคนหนึ่งให้นางความปรารถนาแรกของเจ้าของร่าง ก็คือตามหาคนที่พรากความบริสุทธิ์ของนางแล้วแก้แค้นต่อมา นางส่งคนไปตามหาเบาะแสของขอทานคนนั้นรู้มาว่าเขาตายตั้งแต่เมื่อสี่ปีก่อนแล้ว!ก่อนตายหนึ่งวัน เขาเคยไปอวดสหายคนหนึ่งของเขาอย่างภาคภูมิใจว่า ตนโชคดีจริง ๆ!มีเงินให้รับ และยังได้นอนกับผู้หญิง สวรรค์ช่างดีกับเขาจริง ๆตอนนั้นสหายของเขาคิดว่าเขาคุยโม้ด้วยซ้ำ ถามเขาว่ามีเรื่องดี ๆ เช่นนี้ที่ใดกัน ขอทานจึงเล่าให้เขาฟัง และยังบอกให้เขาต้องเก็บเป็นความลับ ไม่เช่นนั้นจะนำภัยมาสู่ตัววันต่อมา ขอทานก็ไปที่วัดหงเย่หลังจากนั้น…ก็ไม่มีหลังจากนั้นแล้วเพราะเขาไม่ได้กลับมาอีกเลยสหายของขอทานก็ถูกเซียวเยี่ยนถิงตามล่าเช่นกัน เขาหลบซ่อนตัวโดยตลอด แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถหนีพ้นความตายตอนที่อวิ๋นหลีตามหาเขาจนพบ ก็เหลือแค่ลมหายใจที่รวยรินแล้ว แต่ก็ยังใช้แรงฮึดสุดท้ายเล่าแผนการที่วัดหงเ

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 49

    เมื่อเห็นอวิ๋นหลีกลับมา เหล่าองครักษ์ตื่นเต้นมาก“พระชายา เจอยาถอนพิษหรือไม่?”อวิ๋นหลีไม่กล้าสบตาพวกเขาด้วยซ้ำ “ขอโทษ”จู๋เยว่ร้อนใจทันที“ท่านรู้หรือไม่ เมื่อครู่นายท่านกระอักเลือดไปสองรอบแล้ว! ท่านกลับทำตัวลึกลับไม่รู้ไปอยู่ที่ใด ถ้าหากรักษาไม่ได้ก็บอกแต่แรก เหตุใดต้องมาเสียเวลาอยู่ที่นี่ด้วย?”“ใจเย็น ๆ ห้ามเสียมารยาทกับพระชายารัชทายาท!”“นายท่านใกล้จะไม่ไหวแล้ว เจ้าจะให้ข้าใจเย็นอย่างไร?”จุยอวิ๋นก็กังวลมากเช่นกัน แต่เขารู้ นี่ไม่ใช่ความผิดของอวิ๋นหลีนายท่านยอมเอาชีวิตไปปกป้องนาง มากพอที่จะรู้ถึงความสำคัญของนางที่อยู่ในใจเขาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเขาล้วนสมควรรักษาการให้เกียรตินาง“พระชายารัชทายาท ไม่มีวิธีแล้วจริง ๆ หรือ?”“ยาถอนพิษหาไม่เจอแล้ว แผนในตอนนี้ มีเพียงให้ข้าลองพยายามดูสักตั้งว่า สามารถขับพิษออกจากร่างกายเขาหรือไม่ แล้วค่อย…”กล่าวยังไม่ทันจบ ก็ถูกขัดอีกครั้ง“เมื่อครู่ก็เพราะพวกเราเชื่อท่าน จึงได้ยืนโง่ ๆ อยู่ตรงนี้ตั้งนาน ข้าว่าไม่สู้รีบพานายท่านกลับไปหาฝูหลิงจวิน ไม่แน่ว่าถอนพิษได้ตั้งนานแล้ว”“จู๋เยว่…”“ข้าพูดอะไรผิดหรือ? เพื่อที่จะช่วยนาง ชีวิตนา

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 48

    “พูดเหลวไหล! ข้าให้เจ้าลงมือกับข้าตั้งแต่เมื่อไร?”“เสี่ยวหลีเอ๋อร์ เจ้าน่าจะรู้ คนที่ข้าไม่อยากทำร้ายที่สุดบนโลกใบนี้ก็คือเจ้า!” บนใบหน้าฮวาเย่ยังคงมีรอยยิ้ม แต่ดวงตาดอกท้อที่มีเสน่ห์นั่น กลับเผยให้เห็นเจตนาฆ่าที่กระหายเลือดเรื่องนี้ อวิ๋นหลีย่อมรู้ดีตั้งแต่เมื่อสองปีก่อนที่นางแก้พิษศพที่เขาคิดค้นขึ้นได้ ทั้งสองก็เกิดปฏิสัมพันธ์ที่ตัดไม่ขาดความสุขสูงสุดของเขาก็คือ การทำยาพิษให้นางมาแก้พิษ คอยเพลิดเพลินกับความรู้สึกที่ถูกคนเห็นกระบวนท่าก็แก้ตามกระบวนท่าระหว่างพวกเขามีความชอบที่คล้ายกัน จากศัตรูกลายเป็นสหายถ้าหากวางยาพิษจนนางตายจริง ๆ เกรงว่าเขาจะเศร้าใจที่สุด ต้องสูญเสียความหมายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตไปเช่นนั้น คนที่เขาจะฆ่าก็ต้องเป็น…“ข้าเตือนเจ้าตั้งแต่แรกแล้ว เขาเป็นแค่คนที่ไม่มีความสำคัญ หลังจากทุกอย่างจบลง ก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก เหตุใดต้องลงมือกับคนที่ไม่รู้อะไรด้วย?”ฮวาเย่ยิ้มอย่างเย็นเยือก “เสี่ยวหลีเอ๋อร์ตำหนิข้าเพราะเขาหรือ? ด้วยเรื่องนี้ เขาก็สมควรตายที่สุด!”“ข้าแค่กำลังพูดข้อเท็จจริงกับเจ้า ไม่ได้มีเจตนาอื่น”“อธิบายก็คือกลบเกลื่อน กลบเกลื่อนก็คือคว

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 47

    “อะไรนะ?” เหล่าองครักษ์ลับตกใจมากชีวิตของนายท่านเกี่ยวพันถึงความมั่นคงของแคว้นเยี่ยน จะเป็นอะไรไม่ได้เด็ดขาด ไม่เช่นนั้นต่อให้พวกเขาตายหมื่นครั้งก็ยากจะไถ่โทษตอนนี้ พวกเขาทำได้เพียงฝากความหวังไว้ที่อวิ๋นหลี“พระชายา นายท่านได้รับบาดเจ็บเพราะช่วยท่าน ท่านต้องหาวิธีช่วยเขานะ”“ข้าต้องช่วยเขาอยู่แล้ว พวกเจ้ายกเขาขึ้นรถม้าก่อน”เป็นครั้งแรกที่อวิ๋นหลีรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองรุ่มร้อนเช่นนี้ เมื่อตรวจชีพจร ยุ่งเหยิงมากเหมือนกับว่าทำมาจากพิษที่รุนแรงพันหมื่นชนิด อยากถอนพิษก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มลงมือจากที่ใดเห็นสีหน้าที่ซีดเซียวของเขา นางรู้สึกเหมือนตัวเองถูกมือใหญ่ที่มองไม่เห็นบีบคอ ทรมานจนแทบหายใจไม่ออกในเมื่ออีกฝ่ายใช้พิษเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าต้องการฆ่าให้ตายในทันที ช่างอำมหิตจริง ๆนางใช้เข็มเงินแต้มเลือดพิษ แล้วส่งเข้าไปทำการวิเคราะห์ที่ห้องทดลองหวังว่าจะสามารถวิเคราะห์ชนิดของพิษออกมา และหาวิธีคิดค้นยาถอนพิษโดยเร็วเวลานี้เอง งูเล็กสีแดงตัวหนึ่งแผดเสียง ‘ซือ ๆ’ เลื้อยเข้ามาจากทางหน้าต่างอวิ๋นหลีจำได้ในปราดเดียว…ชื่อหลิน!ในเมื่อมันอยู่ที่นี่ เช่นนั้นเจ้านายของมัน…ตั้งแต่

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 46

    นางไม่เคยเปิดใจกับเขาอย่างแท้จริงบางทีนี่อาจเป็นเหตุผลที่นางไม่ยอมบอกตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง!ข้างหน้าเป็นป่าองครักษ์ลับในชุดดำและปิดใบหน้าซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้ มองดูรถม้าใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ“ผู้บัญชาการ จะทำเช่นนี้จริง ๆ หรือ?”“อีกเดี๋ยวทำตามคำสั่งของข้า”ทุกคนอัดอั้นในใจ เหตุการณ์อะไรพวกเขาไม่เคยพบเคยเห็น วันนี้กลับต้องมาปลอมตัวเป็นโจรดักปล้นกลางทาง ช่างเป็นประวัติการณ์ครั้งหนึ่งจริง ๆทั้งหมดนี้เพียงเพื่อให้ความร่วมมือกับการแสดงละคร ‘วีรบุรุษช่วยหญิงงาม’ ของนายท่านที่มีจินตนาการสุดล้ำของพวกเขา เพื่อพิชิตใจของผู้หญิงคนนั้นในเร็ววันแต่เมื่อนึกถึงฝีมือการแพทย์ของอวิ๋นหลี ความหดหู่ในใจหายไปทันทีต่อให้ทำเพื่อยาแปลก ๆ ที่นางคิดค้น พวกเขาก็ต้องรั้งนายหญิงท่านนี้ไว้ให้ได้!ทันใดนั้น ลูกธนูที่เย็นเฉียบแหวกอากาศยามราตรี เจาะทะลุตัวรถม้าในพริบตาคนชุดดำนับสิบร่อนลงมาจากท้องฟ้าคนขับรถม้าถูกพวกเขาฆ่าตายแล้ว บนหน้าอกยังมีลูกธนูปักอยู่หนึ่งดอก และยังเบิกตากว้าง เห็นได้ชัดว่าตายตาไม่หลับเวลานี้ กลุ่มองครักษ์ลับที่อยู่บนต้นไม้มองตาค้าง“ผู้…ผู้บัญชาการ นายท่านได้ส่งคนอื่นมาด้วยหรื

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 45

    ในที่สุดฝาก็ถูกยกขึ้นต่อจากนั้น สีหน้าทุกคนเปลี่ยนฉับพลันในกล่องนั่น…มันว่างเปล่า!พลันหลี่กงกงตบหน้าผาก “โอ๊ย บ่าวเกือบลืมไปแล้ว! ฝ่าบาททรงโปรดปรานขนมแผ่นเมฆสู่ตี้มาก และเสวยสองสามชิ้นทุกวัน ทรงเสวยหมดตั้งแต่หลายวันก่อนแล้ว”ในที่สุดหัวใจที่กระวนกระวายของเซียวเยี่ยนถิงก็สงบลง ดูเหมือนสวรรค์ยังเข้าข้างเขาอวิ๋นหลีก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่า เซียวเยี่ยนถิงจะดวงดีเช่นนี้ ปล่อยให้เขาหนีรอดไปได้อีกครั้งน่าเจ็บใจจริง ๆ!เวลานี้เอง จู่ ๆ หรงเหยี่ยนก็เอ่ยปาก “ฝ่าบาท กระหม่อมมีคำพูดหนึ่ง ไม่รู้ว่าควรพูดหรือไม่ควรพูด?”“ล้วนเป็นคนกันเอง เจ้ากับพระชายารัชทายาทเป็นคนช่วยชีวิตเราไว้ มีอะไรก็พูดมาได้เลย”“โจรชั่วบังอาจเช่นนี้ กล้าวางยาพิษกระทั่งฮ่องเต้ จะเห็นได้ว่ายากจะหยั่งรู้เจตนา ปัจจุบันเป็นช่วงสำคัญของการร่วมมือระหว่างสองแคว้น สถานการณ์สงครามชายแดนคับขัน ถ้าหากเกิดเรื่องกับฝ่าบาทในเวลานี้ จะมีผลอย่างไรตามมา?”สีหน้าฮ่องเต้ต้าเหลียงเปลี่ยนฉับพลัน จู่ ๆ ก็ออกคำสั่ง “ทหาร คุมตัวอันอ๋องเข้าคุกหลวง!”เซียวเยี่ยนถิงงงงวยแล้วขนมหมดแล้วไม่ใช่หรือ?ไม่มีหลักฐาน เหตุใดยังจับเขาอีก?เมื่อเห็น

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 44

    สายตาฮ่องเต้กวาดผ่านร่างกายเขาอย่างเย็นชา โดยไม่ได้พูดอะไรมากตอนนี้ไม่ใช่เวลามาซักไซ้ความผิดของเขา เพราะเขายังมีเรื่องที่สำคัญกว่าต้องจัดการนึกถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของอวิ๋นหลี ในใจเขาหวาดกลัวสุดขีด น้ำเสียงเย็นชาฉับพลัน “พวกเจ้าเข้ามาให้หมด”ในห้องพระบรรทม หมอหลวงทุกคนคุกเข่าอยู่บนพื้นสายตาฮ่องเต้ต้าเหลียงกวาดผ่านพวกเขา อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจแรง ๆทั้งสำนักหมอหลวงรวมกัน กลับสู้ผู้หญิงคนหนึ่งไม่ได้ ช่างเป็นที่น่าหัวเราะเยาะจริง ๆตอนมองไปทางอวิ๋นหลี สายตาเขาอ่อนโยนลงหลายส่วนทันที “เจ้าบอกพวกเขาดู ตกลงข้าเป็นโรคอะไรกันแน่?”เซียวเยี่ยนถิงก็อยากรู้เช่นกัน ตกลงนางใช้วิธีอย่างไรช่วยฮ่องเต้กันแน่ ถึงสามารถทำให้เขา ‘ฟื้นคืนจากความตาย’?กลับไม่คาดคิด คำพูดต่อจากนี้ของอวิ๋นหลีทำให้เขาสะดุ้ง“ฝ่าบาทไม่ได้ป่วย แต่ถูกพิษ!”หมอหลวงจางที่ปรึกษาสำนักหมอหลวงคัดค้านคนแรก “เป็นไปไม่ได้! กระหม่อมรักษาโรคมาสามสิบปี และเคยศึกษาพิษมากมายเช่นกัน พิษทั่วไป ทันทีที่เข้าสู่ร่างกาย แค่ตรวจชีพจรก็สามารถรู้ได้ในทันที แต่ชีพจรของฝ่าบาทไม่มีสัญญาณของการถูกพิษใด ๆ”“พิษชนิดนี้พบเห็นยากมาก มันจะไม่เข้าสู่กร

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 43

    หลังจากนั้นสองวัน มีข่าวร้ายถูกส่งมาจากในวังฮ่องเต้เศร้าเสียใจต่อการสิ้นพระชนม์ของพระนัดดาน้อย อาการป่วยแย่ลงอย่างรวดเร็ว ใกล้จะไม่ไหวแล้วเหล่าหมอหลวงหมดปัญญา เซียวมู่ป๋ายไม่สนใจคำคัดค้านของทุกคน เชิญอวิ๋นหลีเข้าวังตรวจอาการฮ่องเต้ตำหนักเฉินหลังจากเซียวมู่ป๋ายบอกเจตนาที่ตัวเองมา กลับถูกหรงเหยี่ยนปฏิเสธ“สหายหรง เสด็จพ่อป่วยหนัก ทั้งสำนักหมอหลวงหมดปัญญารักษา ฝีมือการแพทย์ของพระชายารัชทายาทสูงส่ง ให้นางลองดู บางทีเสด็จพ่ออาจจะยังมีโอกาสรอด”“เรื่องอะไรก็คุยกันได้ ยกเว้นเรื่องนี้ไม่ได้!”หรงเหยี่ยนจะปล่อยให้ผู้หญิงของตัวเองตกอยู่ในอันตรายได้อย่างไร?ช่วยได้ย่อมดีที่สุด แต่ถ้าหากเกิดข้อผิดพลาดอะไร เป็นไปได้ว่าจะตกเป็นเป้าของทุกคนในข้อหา ‘ปลงพระชนม์ชีพ’คิดไม่ถึงว่าอวิ๋นหลีกลับตอบตกลงทันที“เข้าวังเมื่อไร?”“ยิ่งเร็วยิ่งดี!”“เช่นนั้นยังจะรออะไรอีก? ออกเดินทางเลย!”หรงเหยี่ยนย่อมไม่ปล่อยให้นางทำอะไรส่งเดช “เจ้ารู้หรือไม่ว่ารักษาฝ่าบาทไม่หาย จะมีผลลัพธ์อย่างไร?”อวิ๋นหลีกลับกล่าว “เจ้าเชื่อข้าหรือไม่?”หรงเหยี่ยนมองนางด้วยสีหน้าซับซ้อนแวบหนึ่ง ในที่สุดก็ถอนใจ “ไปเถอะ ข้าไป

  • หงส์หวนทวงแค้น   บทที่ 42

    “หลายวันนี้ ทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับจวนอันอ๋อง เจ้าล้วนให้ความสนใจมาก เมื่อครู่ในงานเลี้ยงพระราชวัง ข้าเห็นกับตาว่าเจ้า…”พูดยังไม่ทันจบ จู่ ๆ มือน้อยข้างหนึ่งก็ปิดปากของเขาเขาพูดมากเกินไปแล้ว!เดิมทีนางไม่อยากให้เขารู้เรื่องเหล่านี้ ยิ่งไม่อยากให้เขาเข้ามาพัวพันกับแผนการเหล่านี้ความแค้นของนาง นางสะสางเองได้!ไม่อยากให้ใครก็ตามเข้ามายุ่ง!หรงเหยี่ยนเอามือของนางลง มองนางอย่างลึกซึ้ง “ถ้าหากข้าบอกเจ้าว่า ศัตรูของพวกเราคือคนเดียวกันล่ะ?”อวิ๋นหลีเบิกตากว้างฉับพลันจู่ ๆ ก็นึกถึงวันที่เข้าเมืองหลวง นางถามเขาว่าไปทำอะไรที่เซิ่งจิงเขาพูดแค่สองคำ…ล้างแค้นแต่เมื่อนางถามว่าศัตรูของเขาเป็นใคร เขากลับเลียนแบบสำเนียงของนาง พูดเหมือนกับที่นางพูดเดิมทีคิดว่าเขาจงใจหยอกล้อ จึงไม่ได้เก็บเอาไปใส่ใจถ้าหากเป็นจริงทุกสิ่ง ไม่เท่ากับว่าศัตรูของเขาก็คือ…ใต้ฟ้ามีเรื่องที่บังเอิญเช่นนี้จริงหรือ?อวิ๋นหลีอดไม่ได้ที่จะถาม “เจ้ามีความแค้นอะไรกับเขา?”“ความแค้นที่ฆ่าภรรยา ไม่สามารถอยู่ร่วมใต้ฟ้าเดียวกัน!”ที่แท้แม่ของอวี้เป่าถูกเซียวเยี่ยนถิงฆ่าตายคำนวณตามเวลา สี่ปีก่อนเขายังอยู่แคว้นเหล

DMCA.com Protection Status