Home / แฟนตาซี / สายน้ำในความทรงจำ / 1.ขุดพบพระธาตุเวียงไชย

Share

สายน้ำในความทรงจำ
สายน้ำในความทรงจำ
Author: อาภัสร์

1.ขุดพบพระธาตุเวียงไชย

last update Last Updated: 2024-12-04 00:22:49

ณ บ้านเวียงไชย อำเภอลอง  จังหวัดแพร่ อธิคมและภาณินี  วิริยนันท์  นักมานุษยวิทยา สามีภรรยาหนุ่มสาวเดินทางออกจากบ้านย่านคลองมอญ บางกอกน้อย ซึ่งเป็นมรดกตกทอดของฝ่ายหญิงไปยังดินแดนภาคเหนือของประเทศไทย เพื่อทำโครงงานวิจัยดุษฎีนิพนธ์ทางด้านสังคมและวัฒนธรรมของชุมชนโบราณ ถิ่นฐานต้นกำเนิดลำน้ำยม ทั้งคู่อาศัยอยู่ที่เรือนไม้สักของแม่อุ๊ยเป็ง และหนานอิน ใช้ชีวิตอย่างเดียวกับชาวบ้าน กลมกลืนไปตามสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติและสังคมของท้องถิ่น 

 ค่ำคืนหนึ่งในฤดูหนาว  ขณะนั่งผิงไฟรับไออุ่น  อธิคมถามหนานอิน ในสิ่งที่เขาสงสัย

“ผมแน่ใจว่าตาไม่ฝาดแน่ แสงนั่นมันคืออะไร”

“ก็มีประจำทุกปีครับ เฉพาะช่วงคืนแรม เดือนยี่เป็ง บางคนก็ว่ามีสายแร่ทองแดงอยู่ใต้ดิน เอารถไถเข้าไปขุด  พอคมไถแตะผิวดิน ฟ้าก็ผ่าเปรี้ยง! ลงมา ไม่ใครกล้าเข้าไปยุ่งกับมันแล้วล่ะครับ กลัวตายกัน” 

แม่อุ๊ยเป็งกำลังเติมเชื้อฟืนใส่กองไฟอยู่ใกล้ ๆ กัน ได้ยินว่าพูดกันเรื่องอะไรอยู่ ก็เกิดอาการนัยน์ตาเบิกกว้าง กล้ามเนื้อหดตัว เหลียวซ้ายแลขวา ท่าทางหวาดกลัว ร้องบอกกับภาณินี

“อาจารย์อย่าไปยุ่งกับมันนะ ที่นั่นมันมีคำสาป”

“ใครสาป แล้วทำไมต้องสาป อุ๊ยเป็งรู้หรือเปล่า”  ภาณินีเลียบ ๆ เคียงถาม อยากรู้มากขึ้นไปอีก

อุ๊ยเป็งสั่นหน้า “พูดไม่ได้ แม่อุ๊ยบอกไม่ได้ อาจารย์อย่าถามต่อนะ”

“อ้าว” ภาณินีอุทาน หัวเราะเบา ๆ “แล้วอุ้มจะรู้มั้ยล่ะ”

“เอาเถอะอุ้ม พี่ว่า หมดหน้าหนาว เราค่อยเข้าไปดูที่ตรงนั้นกันนะ ไปด้วยกันมั้ยครับหนานอิน” 

อุ๊ยเป็งจ้องหนานอินตาเขม็ง กลัวสามีจะตกปากรับคำ

“ผมมาคิด ๆ ดูนะอาจารย์ ไอ้พวกที่มีอันเป็นไปเพราะไปยุ่งกับที่ตรงนั้น แต่ละคน ถ้ามันไม่เป็นไอ้โจรก็เป็นพวกขี้โลภขี้เหล้า”

“เราสองคนไม่อยากได้อะไรจากที่ตรงนั้น เพียงแค่อยากรู้ว่า อะไรทำให้เกิดปรากฏการณ์ผิดธรรมชาตินี้ขึ้นมา”

“อืม” หนานอินสบตากับภรรยา “ไปด้วยก็ได้ แต่อาจารย์ต้องเข้าพิธีสาไหว้ผีปู่เจ้ากับผม”

“ครับ หนานอิน” อธิคมรับปาก ภาณินีเองก็พยักหน้ารับปากด้วย

แม่อุ๊ยเป็งมองสามีด้วยความผิดหวัง  เขาและอาจารย์สองคนนี้จะนำภัยร้ายคืบคลานทำลายชีวิตอันสุขสงบของครอบครัว  

 ÿ

พอเข้าฤดูร้อน ทั้งสามคนก็เดินทางเข้าไปดูพื้นที่ต้นน้ำ

เหนือหมู่บ้านด้วยตาตนเอง  หนานอินเตรียมผ้าทอด้ายดิบสีขาวไปผืนหนึ่ง พร้อมเครื่องบูชาเซ่นไหว้ผีปู่เจ้า  ชาวบ้านนับถือต่อ ๆ กันมาหลายร้อยปีว่า คือ วิญญาณของเจ้าผู้ครองเวียงไชย  อธิคมและภาณินีเดินตามหลังหนานอิน เลาะธารน้ำไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงกอไผ่รวกกอใหญ่ร่มรื่น ลานกว้างหญ้ารกปกคลุม คล้ายฝีมือมนุษย์สรรค์สร้างลานกว้างนี้เอาไว้ 

ผู้เฒ่าวัยหกสิบเศษ ผมสีดอกเลากระจายทั่วศีรษะ แต่ยังกระฉับกระเฉง  ปูผ้าขาวลงกับพื้น วางเครื่องบูชาเซ่นไหว้ จุดธูปเทียนปักลงดิน ก้มกราบขอขมาผีปู่เจ้า  ความกลัวที่มีอยู่ในจิตใจขจัดปัดเป่าออกไปส่วนหนึ่ง 

อธิคมและภาณินีร่วมอยู่ในพิธีนั้นตามที่หนานอินสั่งเอาไว้ หากแต่ทั้งคู่ พนมมือน้อมจิตรำลึกถึงพระสยามเทวาธิราชผู้พิทักษ์ปกป้องแผ่นดินไทย และบอกเจตนาของการมายังสถานที่นี้

อาจารย์หนุ่มก้มกราบ เงยหน้าขึ้นมา เห็นภาพเลือนรางปรากฏเบื้องหน้า เขาจ้องมองไม่วางตา จนกระทั่งแน่ใจภาพที่ตนเองเห็น

“ข้างใต้นี้มีองค์พระธาตุ” เขาบอกกับภรรยาและหนานอินด้วยความตื่นเต้น

“ผีปู่เจ้าเวียงไชยแน่ ๆ อาจารย์ ทำให้อาจารย์มองเห็นอย่างนั้น”

หนานอินแนะนำให้อธิคมทดลองขุดดินลงไปตรงจุดที่เห็น

องค์พระธาตุ  อธิคมเหวี่ยงด้ามจอบขุดดินตามที่หนานอินชี้จุด คมจอบฝังลึกลงไปในดินแค่ครึ่งหนึ่ง ปลายคมกระทบผืนดินดัง ชิ้ง! อธิคมค่อย ๆ งัดดิน  ยั้งข้อแขนไม่คมจอบขุดลึกลงไปอีก  แต่ลากผานจอบถากดินให้ขยายวงรอบกว้างออกไป เห็นแผ่นอิฐดินเผาเรียงซ้อน ริมฝีปากของอธิคมขยับ

”โอ...คุณพระช่วย !”

“เปรี้ยง!!! เปรี๊ยะ!!!!” ฟ้าผ่าต้นรัง กิ่งไม้ใหญ่น้อยลุกเป็นไฟ กลิ่นควันไหม้ตลบอบอวล พื้นดินสั่นสะเทือน

“กรี๊ดดดดด…!” ภาณินีโผกอดสามีด้วยความตกใจ หลับตาแล้วค่อย ๆ มองภาพตรงหน้าใหม่อีกครั้ง

หนานอินเองก็ตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น นัยน์ตาเบิกโพลง มือพนม ปากท่องมนต์บูชาผีปู่เจ้าตะกุกตะกัก

อธิคมตัดสินใจที่จะไม่ขุดต่อ เกลี่ยดินกลบปิดหลุม แล้วเอาหนามไผ่มาวางปกคลุม เขาขอให้หนานอินปิดความลับและช่วยรักษาสถานที่นี้จนกว่าเขาและภรรยาจะกลับมา  จากนั้นอธิคมและภาณินีก็เดินทางไปกรุงเทพมหานคร  

ÿ

หลังจากนั้น ถัดมาอีก 1 เดือน อธิคมและภาณินีเดินทางกลับมาพื้นที่วิจัยอีกครั้ง พร้อมกับคณะช่างสำรวจโบราณสถานของกรมศิลปากร  อุดม ชนสุจริต อธิบดีกรมศิลปากร เดินทางมาดูด้วยตนเอง

การขุดค้นโดยนักโบราณคดีขยายหลุมกว้างและลึกออกไปพบห้องบรรจุพระพุทธรูปทองคำใต้ฐานองค์พระธาตุและแผ่นหินทรายแกะสลัก หลักฐานประวัติศาสตร์ชิ้นนี้  จมดินอยู่ด้านตะวันตกขององค์พระธาตุ

 การค้นพบหลักฐานทางโบราณคดีชุดใหม่นี้ทำให้ อธิคมและภาณินีตัดสินใจอยู่เก็บงานวิจัยต่อไปอีก 2 ปี 

เมื่อครบกำหนด 2 ปีแล้ว  สองสามีภรรยากลับมาทำงานประจำการสถาบันศึกษาและวิจัยมานุษยวิทยาและสังคมวิทยา เพียงสองเดือนหลังจากนั้นภาณินีก็ตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรสาว ระหว่างนั้นหนานอินส่งข่าวมาบอกสองสามีภรรยาว่า ตั้งแต่อธิคมขุดพบพระธาตุหลวงเวียงไชย ที่นั่นก็มีแต่ความเจริญรุ่งเรือง  ดูท่าว่า คำสาปที่ร่ำลือกันมานานจะเป็นเรื่องไม่จริง หนานอินและอุ๊ยเป็งมีงานประจำเป็นมัคคุเทศก์และมีรายได้เสริมจากการขายละมุดในสวนให้นักท่องเที่ยว

ÿ

สิบเจ็ดปีต่อมา แก้วเก้า วิริยนันท์  บุตรสาวคนเดียวของอธิคมและภาณินี   วิริยนันท์ เติบโตขึ้นเป็นสาวน้อย ผิวขาวอมชมพูเนื้อเนียน นัยน์ตาโตสวยหวาน จมูกโด่ง แก้มแดงเป็นพวง ผมยาวดำขลับจรดบั้นเอว ถักเปียแล้วม้วนขดบนศีรษะ เธอนั่งมองไปสุดคุ้งโค้งน้ำที่ไหลผ่านหมู่บ้านหายลับไปในท่ามกลาง หมู่ขุนเขาด้านตะวันตก เธอกำลังเพลิดเพลินกับการปล่อยอารมณ์สุขสบายไปกับสายน้ำไหล

ช่วงพักกลางวัน บริเวณหลังโรงเรียนบ้านโมถ่าย อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี  หลังจากทานข้าวเสร็จแล้ว เด็กชาย หญิงสองหรือสามคนมักจะวิ่งปราดจากโรงอาหารมานั่งใต้ต้นไทรริมน้ำเป็นประจำ  และในวันหยุด สิ่งที่เป็นความสุขที่สุดของเธอก็คือการกระโดดลงน้ำตูม! ตูม! กับเพื่อนสนิท 2 คน

“ใหญ่  ดวงจำปา” ลูกชายคนโตของภารโรงและ “จำรัส”  หรือ “หรัด ส่องสุข” ลูกชายนายสถานีรถไฟเล็ก ๆ ในหมู่บ้าน วันที่เรียนจบมัธยมปลายทั้งสามคนมานั่งกอดเข่าเจ่าจุกมองสายน้ำอย่างเศร้าสร้อย “ใหญ่” ขว้างก้อนหินลงไปในแม่น้ำ แล้วก็มองดูมันจมลงไปก้อนแล้วก้อนเล่า

“เก้า” ใหญ่เรียกชื่อเพื่อนหญิง “พ่อกับแม่ของแกต้องไปจากที่นี่จริง ๆ เหรอ”

เด็กสาวถอนหายใจเฮือกหนึ่งก่อนตอบ “อืม...”

หรัดถอดชุดนักเรียนวางกอง เหลือกางเกงในสีหม่นมีรอยขาดเป็นรูโบ๋ที่ก้นข้างหนึ่ง เห็นเนื้อเนียนสีเข้ม

“ใหญ่ เก้า ก่อนที่พวกเราจะแยกจากกันไป มาเล่นน้ำด้วยกันเป็นครั้งสุดท้ายเถอะ”

“พวกแกไปกันหมด เหลือฉันที่ไปไหนไม่ได้ ฮึ” ใหญ่ขว้างก้อนหินเม็ดสุดท้ายใกล้มือที่สุดออกไป ลุกขึ้นถอดชุดนักเรียน “เก้าแกจะลงเล่นน้ำกับพวกเรามั้ย”

“ไม่ล่ะ ที่บ้านรอฉันอยู่ ฉันต้องไปแล้ว พวกแกเป็นคนที่นี่ ยังไงก็ต้องอยู่ที่นี่ใช่มั้ย สักวันฉันจะกลับมา ฉันสัญญา”

“ไม่แน่หรอก” หรัดกระโดดลงน้ำเสียงดัง ตูม!  โผล่หัวขึ้นมาจากน้ำ “ถ้าพ่อฉันย้ายไปอยู่สถานีอื่น   ฉันก็ต้องย้ายบ้านเหมือนกัน”

“อ้าว ไปกันหมดเลย” ใหญ่กอดอกแห้ง ๆ รูปร่างผอมเกร็ง มีเค้าว่าถ้าโตขึ้นเขาคงจะสูงใหญ่เหมือนลุงสมบูรณ์พ่อของเขา

“ฉันจะจำไว้ว่าส่วนหนึ่งของแม่น้ำตาปีที่ตรงนี้ ยังไงก็มีแกรออยู่ แล้วฉันจะเขียนจดหมายมาหาพวกแก”

“เก้า... แกเขียนเล่าเรื่องเพื่อนใหม่มาให้ฉันอ่านบ้างนะ สัญญาว่าแกจะไม่ลืมฉัน”

 ใหญ่ยื่นนิ้วก้อยออกมาข้างหน้า เก้ายื่นนิ้วก้อยเกี่ยวรัดกันเอาไว้ บอกกับใหญ่ว่า

“ฉันสัญญา หรัดด้วยนะ”

หรัดยื่นมือโผล่ขึ้นเหนือน้ำ ชูนิ้วก้อยข้างซ้ายเนื้อซีดเกี่ยวกับนิ้วก้อยของแก้วเก้า

“เก้า...” ใหญ่เรียกอีกที “แกแวะบ้านฉันก่อน ฉันมีของที่อยากให้” 

“ได้...” แก้วเก้าเดินตาม ร่างผอม ผิวเข้ม เขาพาไปบ้านภารโรงหลังโรงเรียนบอกให้เก้ารอหน้าบ้าน

ÿ

ลุงสมบูรณ์กับป้าบัวมีลูก 5 คน แออัดอยู่ในบ้านหลังเล็ก ๆ ท้ายโรงเรียน  ป้าบัวเป็นแม่ครัวทำอาหารเลี้ยงเด็กนักเรียน แล้วก็เลี้ยงลูกไปด้วย ใหญ่ช่วยพ่อแม่เลี้ยงน้อง เวลาพักผ่อนของเขา  คือ เวลาที่น้อง ๆ นอนหลับกลางวัน เขาใช้เวลานั้นไปเล่นน้ำกับเก้าและหรัด

ใหญ่ออกมาจากบ้าน กำสายเชือกสีดำไว้ในมือข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งจูงมือเก้าเดินไปหยุดยืนริมตลิ่ง ดวงตากลมโตจ้องมองเพื่อนรักอย่างตั้งใจ

“แกชอบพระจันทร์เดือนเสี้ยว  กะลาตาเดียว ...  พ่อได้มาจากแถว ๆ สวนโมกข์ ฉันขอแบ่งมาทำจี้สร้อยคอให้แก” ใหญ่ส่งสายสร้อยให้เพื่อน

“สวยดีนี่ แต่ทำไมมันยาวจัง ฉันใส่แล้วมันไม่ห้อยมาติดพุงเหรอใหญ่”  เด็กสาวหยุดหัวเราะ เมื่อเห็นเขาทำหน้าตาจริงจัง

“ใครให้แกใส่ตอนนี้ล่ะ ฉันทำเผื่อตอนแกโตแล้วต่างหาก”

“อ้าว! เหรอ แล้วเกิดฉันอยากใส่ตั้งแต่ตอนนี้ล่ะ” แก้วเก้าส่งสร้อยคืนให้เขา

“อ่ะ แกแหละใส่ให้ฉัน”

“เอาจริงเหรอ” ใหญ่ถาม  อีกฝ่ายผงกศีรษะ 

“ขอบใจนะใหญ่ ฉันจะเก็บรักษาไว้อย่างดี แต่ฉันไม่มีอะไรให้แกเลย”

“ไม่เป็นไร เก้า ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับแก ฉันเก็บมันไว้ในนี้”

ใหญ่ตบหน้าอกตำแหน่งที่ตรงกับหัวใจตัวเอง “โชคดีนะเพื่อน”

“แกก็เหมือนกัน”  แก้วเก้าโบกมือลาเพื่อนทั้งสองคน

ÿ

รถบรรทุกสิบล้อแล่นผ่านหน้าโรงเรียน ข้างหน้ารถคันนั้น แก้วเก้านั่งแทรกกลางระหว่างพ่อและแม่   

“ลาก่อนลำธารที่เคยแหวกว่าย โรงเรียนและเพื่อนรักของฉัน” เด็กสาวเลื่อนตัวเองมาข้างหน้า ชะโงกดูภาพทิวทัศน์ ตั้งใจจดจำมันเอาไว้ “ฉันก็เก็บแกไว้ในนี้เหมือนกันนะ”

“เก้ายังไม่หายคิดถึงเพื่อนอีกเหรอ” พ่อถามพลางยกมือข้างหนึ่งลูบศีรษะลูกสาวเบา ๆ

“พ่อคะ... เก้าจะได้กลับมาที่นี่อีกมั้ย…” 

“วันหนึ่งเมื่อลูกโตขึ้นนะ เราก็กลับมาเที่ยวที่นี่ได้อีก”

“โอโห... ทำไมต้องรอจนเก้าโตด้วย พ่อกับแม่พาเก้ามาตอนปิดเทอมไม่ได้เหรอคะ”

“ที่นี่ไกลจากบ้านของเรามาก” เขาอยากให้ลูกสาวตัดใจจากที่นี่

“เราจะกลับไปอยู่บ้านเก่าของคุณตาคุณยายที่ท่านยกให้แม่ พอพวกท่านเสียชีวิตบ้านถูกทิ้งร้างอยู่  แม่เสียดายจ้ะ”

“เราอยู่ที่นี่มาเกือบ 20 ปี ดูสิจนกระทั่งลูกโตเป็นสาว” อธิคมมองดูแก้วเก้านั่งเอนตัวเบียดมาทางพ่อมากกว่าจะไปทางแม่  “เก้าเองก็ต้องรีบไปเตรียมตัวสอบแต่เนิ่น ๆ อยู่ที่นี่ พ่อแม่เผลอทีไร เก้าก็หายไปเล่นน้ำกับเพื่อนทุกที พ่อว่า ถ้าอยู่ต่อจะสอบไม่ได้ เอานะ”

“แหม...ก็เก้าไม่ได้รับอนุญาตให้ไปเที่ยวไกลกว่านั้น      นี่คะ แล้วเพื่อนที่ชอบเล่นน้ำเหมือนกับเก้า  ก็มีแค่ 2 คน นอกนั้น เขาก็นั่งรถไปเที่ยวในจังหวัด   อีกอย่างพ่อกับแม่สอนหนังสือ     ที่นี่ได้ ไม่เห็นต้องไปสอนที่กรุงเทพฯ เลย เก้าอยากอยู่สุราษฎร์   ฮือ...” แก้วเก้าแหงนหน้าดูพ่อและแม่ ทั้งสองคนส่งยิ้มให้แก่กัน

“ดูสิ โตแล้วนะเก้า” แม่ดุ แต่หน้าตาไม่ได้จริงจังอะไร แก้วเก้าจึงรบเร้าต่อไป

“โรงเรียนใหม่ของเก้ามีแม่น้ำอยู่ข้างหลังโรงเรียนมั้ยล่ะ”  ท่าทางปั้นปึ่งเอาเรื่อง

“ไม่มีหรอกลูก...  แต่หน้าบ้านของเรามีคลอง ชื่อคลองมอญ” พ่อเอ่ย ยิ้ม ๆ

“จริงเหรอคะ”  น้ำเสียง ท่าทางตื่นเต้นขึ้นมา

พ่อยิ้ม สบายใจ แม่มองคนขับรถบรรทุก แต่อ้อมแขนข้างหนึ่งมาทางด้านหลังของเก้าจากนั้น เก้าก็รู้สึกว่า ตัวของพ่อสะดุ้งโหยงขึ้นมา

 “แม่บอกเก้าเอาไว้เลย ห้ามลูกลงเล่นน้ำเด็ดขาด”

“เก้า” พ่อปรับท่าทีใหม่ พูดเอาจริงเอาจังขึ้นกว่าเดิม “สายน้ำแต่ละสายเหมือนเส้นใยยึดโยงแผ่นดิน ลูกรักและผูกพันสายน้ำที่นี่ เพราะมีเพื่อนที่รักและเข้าใจกันอยู่ตรงนี้ พ่ออยากให้ลูกจดจำความรู้สึกดี ๆ เอาไว้ เพราะเมื่อลูกโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ ไม่ว่าลูกจะอยู่ที่ไหนในโลก ความรู้สึกดี ๆ ที่เกิดขึ้นที่นี่จะอยู่กับลูกเสมอ แม้ว่าบางทีลูกจะอาจลืม ๆ มันไป เพราะมีเรื่องใหม่ ๆ เข้ามาในชีวิตมากมาย”

พ่อลูบศีรษะลูกสาวเบา ๆ อีกครั้ง เด็กสาวเอียงตัวซบอกของพ่อ

“เก้าไม่อยากโต เก้าอยากอายุเท่าเดิม อยากให้เรื่องที่ผ่านไปเมื่อวาน หรือวันก่อน ๆ ยังอยู่กับเก้าตลอดไป”

“ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ พ่อกับแม่ก็ต้องเหนื่อยกว่าเดิม เพราะเลี้ยงลูกเท่าไหร่ ลูกก็ไม่โตสักที”   

 แก้วเก้าเบียดชิดพ่อมากขึ้นไปอีก  แก้วเก้าสนิทสนมกับพ่อมากกว่าแม่  เธอหรี่ตาดูสีหน้าของแม่ไม่ได้บ่งบอกอารมณ์ขุ่นเคืองอะไร มีแค่น้ำเสียงดุ ๆ   เด็กสาวหลับตา ศีรษะโยกคลอนตามแรงเหวี่ยงของรถบรรทุก

“ขยับมาทางแม่หน่อยสิเก้า นั่งอย่างนั้นพ่อก็เมื่อยแย่”  ลูกสาวเอนตัวซบพ่อ ไม่ยอมขยับตัว

“ลูกหลับแล้วเหรอคะพี่คม ทำไมหลับง่ายจัง” 

 ประโยคสุดท้ายของแม่ เร่งให้แก้วเก้าหลับเร็วขึ้น

“อืม... หลับแล้ว”

เสียงพ่อตอบแม่ และแก้วเก้าก็หลับลงไปแล้วจริง ๆ

ÿ

แก้วเก้ารู้สึกตัวแล้ว แต่ยังงัวเงียอยู่บนที่นอนนุ่ม ๆ สีขาว พอตาสว่างก็ร้องโวยวาย เอามือคลำที่คอว่างเปล่า

“สร้อยเก้าหาย สร้อยเก้าหาย ฮือ”

แม่เข้ามาในห้องเป็นคนแรก  “เก้า...เก้า...

ละเมอเหรอลูก!”

“เก้าตื่นแล้ว เก้าหาสร้อยไม่เจอ”

“แม่ถอดเก็บเอาไว้ให้เอง ตอนเช็ดตัวลูกไงจ๊ะ เรามาถึงบ้านใหม่แล้ว อืม...   ความจริงมันเป็นบ้านเก่า บ้านของคุณตาคุณยายน่ะจ้ะ”

“พ่อล่ะคะ พ่ออยู่ไหน”

“พ่อนอนหลับอยู่อีกห้องหนึ่ง ตอนนี้มันเที่ยงคืนนะเก้า เราเดินทางกันทั้งวัน ทุกคนต่างก็เหนื่อย ยกเว้นลูกที่หลับยาวจนถึงบ้าน”

“แม่เก็บสร้อยของเก้าไว้ที่ไหนคะ”

“แขวนไว้ที่ข้างฝานั่นไง ถ้าลูกชอบมันมาก ๆ ก็ต้องหาที่เก็บดี ๆ นะจ๊ะ แล้วแม่จะหากล่องมาให้”

“เก้าอยากใส่มันไว้ตลอดเวลา”

“ไม่ได้หรอกนะ เชือกมันยาวเกินไปใส่แล้วไม่สวยเลย     แม่ตัดให้เอามั้ย ทำให้พอดีกับคอลูก”

“เก้าขอสวมมันก่อนนะคะแม่” แก้วเก้าสวมสร้อยคอ ใช้นิ้วชี้กับนิ้วหัวแม่มือคลึงจี้รูปเดือนเสี้ยว

“จะไม่เล่าให้แม่ฟังเลยเหรอ ว่าเก้าได้สร้อยนั่นมายังไง”

แม่ลูบผมของแก้วเก้า แล้วบีบจมูก ดึงขึ้น จนรู้สึกเจ็บ

“ใหญ่ทำให้เก้าค่ะ”

“เดือนเสี้ยว มีความหมายอะไรกับลูกเป็นพิเศษหรือเปล่า”

แม่ยิ้มพลางเอนตัวลงนอนข้าง ๆ และกอดลูกสาวแนบกับอก

Related chapters

  • สายน้ำในความทรงจำ   2. คุณน้าคือใคร?

    “เก้าอยากเหนี่ยวแขนห้อยโหน แกว่งไปมาอย่างสนุกสนานบนนั้น แล้ว “ใหญ่” ก็ลื่นถลาลงตรงส่วนเว้า เหมือนเล่นสไลเดอร์ไงคะแม่ เก้าและใหญ่วิ่งวนรอบเดือนเสี้ยว เราฝันว่าเราเล่นด้วยกัน สนุกมาก ๆ เลยค่ะ”“ตอนแม่เด็ก ๆ อายุเท่า ๆ เก้า แม่ก็มีเพื่อนเล่นเหมือนกัน แต่ก็จำได้ลางเลือนเหลือเกิน ตอนเล็ก ๆ แม่ไม่ได้มีอิสระออกไปเที่ยวเล่นกับเพื่อน ๆ เหมือนเก้าหรอกนะ เพราะคุณตาคุณยายท่านเข้มงวดมาก” “แล้วคุณปู่ของเก้าล่ะคะ”“ปู่ของเก้า ท่านไม่อยู่แล้ว ท่านเสียไปตั้งแต่พ่อคมยังเด็กมาก เก้าต้องถามคุณย่าแล้วล่ะ ตอนนี้เรามาอยู่ใกล้ ๆ ย่านวล ลุงกต ป้าเนตร และก็อากรณ์แล้ว ต่อไปเก้าก็จะมีญาติผู้ใหญ่ไปมาหาสู่แล้วเก้าก็ต้องช่วยแม่ดูแลเอาใจใส่ท่านด้วย”“ลุงกตเย้ ! เก้าเจอลุงกตหนเดียวเอง ลุงกตใจดี เหมือนพ่อเก้าเลย แต่อากรณ์นี่สิ เก้าไม่เคยเห็นหน้าเลย แต่แม่คะ เก้าคิ

    Last Updated : 2024-12-04
  • สายน้ำในความทรงจำ   3. เจ้านางน้อยจำเป็น

    “พี่คม คุณแม่ มีอะไรกันเหรอคะ” ภาณินีพูดแล้วเหลียวหลังไปสั่งลูกสาว “เก้าไปรอแม่ที่รถเลยลูก”แก้วเก้า ปิดโทรทัศน์ ลุกขึ้น หมุนตัวหนึ่งรอบ คล้ายระบำปลายเท้า พนมมือไหว้ย่านวลและพ่อ ทำหน้าตาล้อเลียนแม่ แล้วหมุนตัวออกไปทางประตูด้านหน้าบ้าน “ค่ะแม่” อธิคมโบกมือลา “อุ้ม ดูแลตัวเองดี ๆ ล่ะ สักสี่โมงครึ่ง พี่คงพาคุณแม่ไปถึง”“ค่ะ อุ้มไปนะ” แก้วเก้านั่งไปในรถข้างหน้า คู่กับแม่ซึ่งเป็นคนขับ มือข้างหนึ่งแตะจี้รูปพระจันทร์เสี้ยว ทำจากกะลาตาเดียว“อ้าว เก้า แม่เก็บเอาไว้แล้ว นี่ลูกยังเอามาสวมคออีกเหรอ”“ค่ะ แม่ เก้าคิดถึงใหญ่”“ถอดออกเถอะ มันไม่เข้ากับเสื้อผ้าเลย” ภาณินีอดที่จะบ่นพึมพำออกมาไม่ได้ภาณินีขับรถพาเก้าไปถึงหอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แก้วเก้าเห็นเพื่อนของแม่ 2 คน มองมายิ้ม ๆ “นี่ป้าเบญจา น้าแดง เพื่อนร่วมงานของแม่จ้ะ”แก้วเก้ายกมือไหว้ แม่ยิ้มแย้มสดใส “ต๊าย! ลูกเธอ ถอดคุณคมมายังกับพิมพ์เดียวกันเลยนะ” ป้าเบญจาแตะลูกคางของแก้วเก้าเชยขึ้น เด็กสาวฉีกยิ้ม โดยอัตโนมัติ เพื่อนแม่ยังชมต่อ “มีลักยิ้มด้วย น่ารักจัง”น้าแดง เพ่งพินิจแก้วเก้า มองอย่างไม่วางตา “อยู่ปักษ์ใต้ตั้งหลายปี

    Last Updated : 2024-12-04
  • สายน้ำในความทรงจำ   4. เพื่อนใหม่ของพ่อและแม่

    “แม่คะ” แก้วเก้ากระตุกแขนแม่เบา ๆ “เจ้าองค์อินทร์กับเจ้าเทพนรินทร์เป็นอะไรกันคะ”“เจ้าองค์อินทร์ท่านเป็นพี่ อายุมากกว่าเจ้าเทพนรินทร์ ผู้เป็นน้องราวสี่หรือห้าปีเนี่ยล่ะ ท่านทั้งสองเป็นบุตรของเจ้าแมนสรวงกับคุณวิชุดา คุณวิชุดานั้นเป็นหญิงสาวสามัญชน ท่านพบรักกับเจ้าแมนสรวงสมัยเรียนกฎหมายที่อ๊อกฟอร์ดด้วยกัน”แก้วเก้ารู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า ถ้าเป็นอย่างนั้นตาผู้กำกับจอมเฮี้ยบนั่นจะกลัวเจ้าเทพนรินทร์เหรอภาณินีดูนาฬิกาข้อมือ เห็นว่าถึงเวลาแล้ว จึงจูงมือลูกสาวพาเดินสาวเท้าก้าวยาว ๆ ไปจนถึงหน้าห้องแต่งตัว ใช้มือข้างหนึ่งผลักประตูเข้าไป แล้วทักเอมอรที่นั่งพักอยู่ข้างใน“ขอโทษนะคะ มาช้าไปหน่อย”“ไม่เป็นไรค่ะ ใช้เวลานิดหน่อย คราวนี้ไม่นานเหมือนเมื่อกลางวันหรอกนะหนูแก้วเก้า” แก้วเก้านั่งนิ่งเป็นหุ่นอีกครั้ง คุณเอมอรจัดแต่งผมให้ แล้วตบแป้งและเติมสีลิปสติก“แต่งหน้าเสร็จแล้ว ก็ไปให้คุณแม่แต่งตัวนะคะ”คุณเอมอร ก้าวออกไปที่ประตู ชะเง้อแล เรียกห

    Last Updated : 2024-12-04
  • สายน้ำในความทรงจำ   5. ละครซ่อนกล

    แก้วเก้าตัวเล็กที่สุดถูกจัดให้เดินนำหัวขบวน เสียงพิธีกรพูดออกไมโครโฟนเป็นทางการ เหล่านักแสดงนั่งพับเพียบลงกับพื้นเวที นักแสดงทุกคนได้รับขันเงิน ในนั้นมีเงินอยู่ 6 บาท ผ้าเช็ดหน้าสีขาว 1 ผืน เทียนขี้ผึ้งขาว 3 เล่ม ดอกไม้คนละ 1 ช่อ มีดอกหญ้าแพรก ดอกเข็ม และดอกมะเขือ ธูป บุหรี่ ไม้ขีดไฟ และหมากพลู 3 คำ พี่ฉัตรพรบอกให้แก้วเก้าพนมมือถือขัน ฉากกั้นหน้าเวทีที่เป็นผ้าม่านสีแดงถูกเปิดออกแก้วเก้ามองไปรอบเวที มีโต๊ะหมู่ใหญ่ หัวโขนฤาษี พ่อแก่เรียงเป็นแถว ชั้นบนสุดเป็นพระพิฆเนศวร พระนารายณ์ พระอิศวร พระพรหม พระอินทร์ พระพิราบยักษ์ และคนธรรพ์ แม่บอกว่าเป็นครูบาอาจารย์นาฏศิลป์ ที่นักเรียนคณะศิลปกรรมทุกคนจะต้องเคารพและมีพิธีไหว้ครูปีละ 1 ครั้งพราหมณ์ผู้ทำพิธีคลานเข่าเข้าไปนั่งตรงพื้นที่ว่าง กลางพิธี วงดนตรีปี่พาทย์เริ่มบรรเลง“พี่ฉัตรพร คนนั้นน่ะใครกันคะ” แก้วเก้าบุ้ยใบ้ไปทางชายชรานุ่งขาวห่มขาว“ครูช่างจ้ะ พวกเราต้องเข้าไปกราบท่านด้วยเครื่องกำนลนี้ แต่ว่าต้องตามหลังคณะของท่านอธิการบดี เรารอดูจังหวะ

    Last Updated : 2024-12-04
  • สายน้ำในความทรงจำ   6. ผู้ถูกเลือก

    วันถัดมา อธิคมและภาณินี ตื่นขึ้นมาแต่เช้า “ตั้งใจจะมานอนกับพ่อแม่แต่กลับหลับสนิทไม่อือ ไม่อาเลย” อธิคมเอ่ยกับภรรยาภาณินีพลิกตัว และยันกายลุกขึ้นนั่ง“พี่คม“ ภาณินีแตะหน้าผากลูกสาวอีกครั้ง อย่างห่วงใย“ไปคุยกันที่ระเบียงเถอะค่ะ อุ้มไม่อยากให้ลูกได้ยิน”อธิคมเดินตามภรรยาออกไปด้านนอก รับลมอ่อน ๆ ยามเช้า พระอาทิตย์ลอยระไล่ขอบฟ้าสูงขึ้น เรือยาวในคลองมอญส่งเสียงคำรามผ่านไปลำแล้วลำเล่า ภาณินีลูบแขนทั้งสองข้าง กอดอก แล้วเริ่มเล่าเรื่องให้สามีฟัง"เจ้าขวัญหล้าให้เจ้าองค์อินทร์เอาสายสร้อยทับทิมมาให้เก้าสวม”"อืม แล้วยังไง”“เธอตั้งใจจะมอบให้ผู้แสดงเป็นเจ้านางน้อย แต่พอถึงเวลาจะแสดง นักแสดงบทนี้ก็มีอันเป็นไป อุ้มได้ยินพวกกองละคร แอบคุยกันว่า รายล่าสุด ท้องร่วงจนต้องไปนอนให้น้ำเกลือ”“แต่เก้าไม่เป็นอะไร น

    Last Updated : 2024-12-04
  • สายน้ำในความทรงจำ   7. เจ้าย่าแย่แล้ว

    “ลูกสาวของอุ้มคุยกับใครไม่รู้ค่ะ เราไม่เห็นเขา” ภาณินีกล่าวกับหลวงพ่อเบา ๆหลวงพ่อรับฟังนิ่ง ๆ “หลานน้อยมองเห็นเขาหรือเปล่า”“เห็นค่ะ เราเจอกันแล้วสองครั้ง”หลวงพ่อพยักหน้ารับรู้ตามนั้นÿแก้วเก้ากับเจ้าองค์อินทร์เอาถาดรองน้ำทองเหลืองไปเทรดน้ำใต้โคนไม้ใหญ่ ทั้งคู่เดินกลับเข้ามาพร้อม ๆ กัน ได้ยินเสียงหลวงพ่ออุดมพูดถึงตอนสำคัญพอดี“พ้นสงกรานต์ไปแล้ว อาตมาจะออกธุดงค์ขึ้นเหนือ ไปธรรมจาริก เป้าหมาย คือ พระธาตุหลวงเวียงไชย ให้แก้วเก้าเดินทางไปกับแม่ชีสิ โยมก็ไปด้วย”ภาณินีหันไปหาอธิคม กวักมือเรียกแล้วกระซิบข้อความของหลวงพ่อ“ยายเก้าจะต้องสอบวัดความรู้ อีกสามเดือนข้างหน้าครับ ช่วงนี้ต้องไปกวดวิชาเพิ่มเติม ถ้าลูกสอบเสร็จไปแล้วก็น่าจะไปร่วมงานได้ครับ”“อืม... แล้วอาตมาจะโทรไปบอก หรือโยมจะโทรมาถามเองก็ตามใจ”ÿเจ้าขวัญหล้า หยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดซับน้ำตา หลวงพ่อเห็นเข้าก็ทักขึ้นว่า “โยมมีเรื่องอะไรทุกข์หนักหนาล่ะนั่น”หลวงพ่อยิ้มนิด ๆ แววตาอ่อนโยน“ดิฉันไปอยู่ต่างประเทศหลายสิ

    Last Updated : 2024-12-04
  • สายน้ำในความทรงจำ   8. ปริศนาที่รอคำตอบ

    “อ้าว พี่คม หลวงพ่อล่ะคะ” ทักสามีเมื่อเห็นเขาเปิดประตูออกมาเพียงคนเดียวอธิคมมองหาลูกสาว “ลูกล่ะอุ้ม”เจ้าองค์อินทร์ตอบแทนภาณินี“น้องเก้าเดินเล่นอยู่ที่ลานวัดทางนั้น ผมไปตามให้ครับ”อธิคมชั่งใจอยู่ รู้สึกไม่ค่อยชอบใจเจ้าองค์อินทร์ที่ทำตัวจาบจ้วงกับลูกสาวของเขาเมื่อวันก่อน แต่ภาณินีกลับตัดสินใจรวดเร็วกว่า“พี่ไปตามลูกเองดีกว่าค่ะ” ภาณินีขยับตัว“ให้องค์อินทร์ไปเถอะค่ะ เรารบกวนอาจารย์หลายเรื่องแล้ว เดินไปตามน้องสิลูก” เจ้าขวัญหล้าสั่งหลานชายคนโต“งั้นก็รบกวนด้วยนะคะเจ้า” ภาณินีเกรงใจเจ้าขวัญหล้า ยอมทำตามใจเธอ“ไม่เป็นไรครับ ยินดี” เจ้าองค์อินทร์ลุกขึ้นเจ้าขวัญหล้ายิ้มละไม หลานชายคนโตนิสัยอารีอารอบชอบช่วยเหลือคนอื่น...เป็นสิ่งที่เธอภูมิใจในตัวเขาÿลมเย็น ๆ พัดผ่านผิวน้ำในลำคลองหน้าวัด แก้วเก้ากลับรู้สึกสดชื่น สูดกลิ่นไอระเหยความชื้นเย็น กลิ่นใบไม้และต้นกล้าจากท้องนาท้องทุ่งรอบ ๆ วัด

    Last Updated : 2024-12-04
  • สายน้ำในความทรงจำ   9. คุณน้าผู้มากับพระจันทร์เดือนเสี้ยว

    “เจ้าพ่อ! พี่เลอสรวงน่าสงสารนะครับ เจ้าย่าเพียงแค่อยากชดเชยสิ่งที่เขาไม่มีเหมือนเรา” “นรินทร์ลูกรัก ฟังพ่อนะ ไม่มีประโยชน์ที่จะช่วยเหลือ ไอ้ลูกต่างด้าวนั่น อยู่กับปัจจุบันเถิด นรินทร์ ลูกเลิกพร่ำเพ้อ เอาใจเจ้าย่าได้แล้ว องค์อินทร์ไม่กลับมาก็ไม่เป็นไร บอกเขา พ่อไม่มีสมบัติสักชิ้นจะให้เขาหรอกนะ ถ้าเขาตัดสินใจจะอยู่ที่นั่น” “เจ้าพ่อ!” เจ้าเทพนรินทร์ผงะ “ทำไมครับ ทำไมเจ้าพ่อทำเหมือนไม่รักพี่ชาย” “มันอวดดี อยากให้เรียนกฎหมายดันไปเรียนอะไรก็ไม่รู้ ไม่มีแก่นสารเอาเสียเลย” “พี่ชายเมเจอร์ลิทเทอเรเจอร์นะครับเจ้าพ่อ ละครน่ะแค่ไมเนอร์เท่านั้น” “จะอะไรก็ช่าง พ่อกับแม่เป็นนักกฎหมาย ลูกก็ต้องเป็นนักกฎหมาย องค์อินทร์มันนอกคอก ไม่สนใจความต้องการของพ่อแม่ ตอนนี้พ่อแม่ก็ไม่ต้องการมันแล้ว นรินทร์เสร็จธุระแล้วรีบกลับมานะลูก คดีเข้ามาเยอะเลย พ่อทำหามรุ่งหามค่ำทุกคืนไม่ไหวแน่” “ครับเจ้าพ่อ ผมจะรีบกลับไปในวันสองวันนี่แหละครับ ฝากสวัสดีตอนเช้าคุณแม่ด้วยนะครับ”ÿ อธิคม ภาณินี และแก้วเก้า ออกจากวัดคลองขนุน อำเภอเมืองนนทบุรีแล้วก็แวะทำธุระที่โรงพิมพ์หนังสือแถว ๆ ปิ่นเกล้า และรับประทานอาหารเย็นที่ร้าน

    Last Updated : 2024-12-04

Latest chapter

  • สายน้ำในความทรงจำ   45. คืนของหมั้น

    “ครับ” เจ้าองค์อินทร์ชักจะเริ่มเกร็งขึ้น แข็งใจถามกลับไปว่า “เอ้อ เพราะเจ้าย่าให้สร้อยนั่นกับน้องเก้า แล้วทำให้ผมกับเธอกลายเป็นคู่หมั้นกันหรือเปล่าครับ”ภาณินีพยักหน้า “ใช่ค่ะ ... เราเห็นว่าการหมั้นครั้งนั้นเจ้าย่าของเจ้าทึกทักเอาฝ่ายเดียว เราไม่รู้ไม่เห็นด้วย รวมทั้งตัวเจ้าก็ไม่รู้ตัวเสียด้วยซ้ำ อย่างนี้เรายิ่งยอมรับไม่ได้”เจ้าองค์อินทร์ใจแป้วลงไปเป็นกอง ถึงจะเพิ่งรู้เรื่องการหมั้นและรู้จักความหมายของสร้อยมณีแก้วเก้า แต่เขาก็ยินดีที่จะรับเงื่อนไขตามนั้นโดยไม่มีข้อแม้เลย เสียงภาณินียังคงเจื้อยแจ้วต่อไป“เรารู้จักกับเจ้ามาตั้งหลายเดือนแล้วนะคะ ถึงวันนี้พี่ว่า ครอบครัวของเราก็สนิทสนมคุ้นเคยกันมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่พี่กับพี่คมยังไม่ทราบเลยว่า เจ้ามีคนรักหรือยัง เรายังไม่เคยได้ยินเจ้าพูดถึงเพื่อนผู้หญิง นอกจากคุณปูเป้ที่เคยเห็นตัวคนนั้น คุณปูเป้เป็นคนรักของเจ้าหรือของเจ้าเทพนรินทร์กันแน่คะ”เจ้าองค์อินทร์รู้สึกขัน เมื่อเจอคำถามนี้ “อาจารย์ … ” เขาเรียกภาณินี หัวเราะในลำคอ หึ หึ “ผมน่

  • สายน้ำในความทรงจำ   46. ปาฏิหาริย์แห่งสร้อย

    เจ้าขวัญหล้าทั้งยิ้ม และขำไปด้วย “ย่านวลนี่ก็ ... พูดจาเสียจนฉันใจหายหมดเลย”ขณะพูดแก้วเก้าเห็นเจ้าองค์อินทร์แต่งตัวหล่อเฟี้ยวเข้ามาในห้อง พร้อม ๆ กับเจ้าขวัญสรวง แก้วเก้ายกคางเกยตักย่านวล มองเขาตาแป๋ว... คิดในใจว่า คุณเจ้าหล่อจัง พอเห็นสายตาของเขาตวัดมองมา แก้วเก้ากลับเขิน หลบสายตาของเขา เอาหน้าซบกับตักย่านวล มือสองข้างกอดหน้าแข้งย่า ทำมือขยุกขยิกย่านวลเขย่าขา ก้มลงมองว่าหลานสาวทำอะไรกับขาของแก“เก้า...เงยหน้าขึ้นมาสิลูก”“อะไรคะย่า เก้าหิวข้าวแล้วไปกันเถอะ ตกลงกันเสียทีสิคะว่าย่านวลกับเจ้าย่าใครจะเป็นเจ้ามือเลี้ยงข้าวมือนี้”“อะไรกัน มาถึงบ้านย่า ย่าก็ต้องเลี้ยงน่ะสิ นี่เราสองบ้านมารวมญาติกันนะ จริงมั้ย อาจารย์อุ้ม อาจารย์อลงกต”“ครับเจ้า” อลงกตทราบเรื่องทั้งหมดจากน้องสาวแล้ว “ผมกราบขอโทษ ที่จำเรื่องตอนเด็ก ๆ ไม่ค่อยได้เพราะไปเรียนอยู่ต่างประเทศตั้งแต่จบ ม.ปลาย”“ท่านนายพลฯ กับคุณหญิงมีลูกน่ารักทั้งคู่ ดูสิโตจนป่านนี้ ก

  • สายน้ำในความทรงจำ   44. กลับคืนสู่เจ้าของที่แท้จริง

    “ผมเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์เลยครับคุณแม่ กริชอันนั้น แรงจริง ๆ ผมงี้ตัวสั่น รู้สึกถึงพลังที่มารวมอยู่กับจิตของผมแล้วพุ่งออกไปเมื่อผมสั่งด้วยจิตของผมเองให้หมามันหยุดเห่า เออ มันหยุดจริง ๆ แถมกลัวจนหางจุกตูดเลย”“เหรอครับ ... ” อธิคมเหลียวไปข้างหลัง คุยกับแม่ “เอาอย่างไรดีครับ แม่เป็นห่วงกรณ์จะกลับไปดูมั้ย หรือว่าจะเดินหน้าไปกรุงเทพกับผมต่อ”ย่านวลเอนหลัง มองออกไปข้างนอกรถ อลงกตผ่อนความเร็วลง รอว่าย่านวลจะตัดสินใจอย่างไร “แม่ไปดูหลานที่กรุงเทพก่อน ไอ้กรณ์มันทำตัวมันเอง อายุก็ไม่ใช่น้อย ๆ เข้าสี่สิบแล้ว เดี๋ยวลูกเมียมันก็ดูแลกันเอง” “เอางั้นนะ เฉียบกับชาวบ้านช่วยกันจับตัวเอาไว้ได้แล้ว เอาไปให้หลวงลุงปลดดูอาการอยู่ คงทำน้ำมนต์รดให้นั่นแหละ เอะอะอะไรก็หาหลวงลุงรดน้ำมนต์กันท่าเดียว” “ก็ชาวบ้านเขาเชื่อถือศรัทธา ถ้าไม่มีน้ำมนต์ดี ชาวบ้านก็ไม่เข้าวัดหรอก สิ้นหลวงพี่ปลดแล้วจะหาใครมาดึงคนเข้าวัดล่ะ พระเณรแต่ละคน พ่อแม่พามาบวชอาศัยข้าวสุกวัดกันเสียส่วนใหญ่ ดูแต่ไอ้จ้อยหลานยายแป๊วสิ นี่ก็ถูกบังคับให้บวชเรียนเป็นเณรแล้ว เมื่อห้าวันเจ็ดวันมานี่เอง”“เหรอครับ จ้อยบวชเป็นเณรก็ดี พระเกจิอาจารย์หลายท่านก

  • สายน้ำในความทรงจำ   43. เจ้าองค์อินทร์

    “แม่ก็ไม่เป็นไรหรอก เป็นห่วงลูกมากกว่า ลูกมัวแต่ถามถึงพ่อกับแม่ ตัวลูกเองล่ะที่เป็นหนัก ดีนะที่ได้เจ้าองค์อินทร์มาช่วย” แม่พยายามบอกให้รู้ ว่าเจ้าองค์อินทร์นั่งอยู่ด้วย“เจ้าองค์อินทร์!” แก้วเก้าหันกลับมามองคนที่คิดว่าเป็นพ่ออย่างเต็มตา พลางยกมือขยี้ตา“เดี๋ยวก็หน้าย่นหรอกแก้วเก้า ขยี้ตาแรง ๆ อย่างนั้น” เจ้าองค์อินทร์หยอกล้อ ยิ้มปนหัวเราะแก้วเก้าได้ยินเสียงชัด ๆ “มะ มะไม่ใช่พ่อหรอกเหรอคะ” รู้สึกตัวว่าทำเรื่องขายหน้า “คุณเจ้าอ่ะ”เจ้าองค์อินทร์ส่ายหน้า ทำหน้าล้อเลียน ความสุขแล่นฉิวไปทั่วทั้งร่างแก้วเก้ารู้สึกอื้ออึงไปทั้งศีรษะ เมื่อกี๊ที่เธอกอดไม่ใช่พ่อ แต่เป็นเขา คนที่เธอนั่งรอ อยู่ในความฝันเนิ่นนาน แสนทรมาน ภาณินีปล่อยให้ทั้งคู่ใช้เวลาด้วยกันอีกครั้ง“แม่ลงไปโทรศัพท์บอกพ่อของลูกก่อนนะ เก้า...คุยกับเจ้าองค์อินทร์ดี ๆ ล่ะ”แก้วเก้าได้ยินเสียงแม่ แต่จับใจความอะไรไมได้ เพราะจิตใจของเธอ จดจ่ออยู่กับชายหนุ่มตรงหน้าÿอลงกตขั

  • สายน้ำในความทรงจำ   42. ช่วยแก้วเก้าด้วย

    เจ้าองค์อินทร์นั่งซึมเหม่อนึกถึงแก้วเก้าที่เคลื่อนไหวอย่างร่าเริง ช่างพูด ช่างคุย และต่อว่าเขาเสมอ ๆ พอได้เห็นเธอนอนนิ่งและเงียบไปอย่างนี้ ความหวาดกลัวว่าจะสูญเสียเธอไป ทำให้เขารู้สึกหนาวสะท้านเข้าไปในทรวงอก “บางทีเจ้าองค์อินทร์อาจจะช่วยเก้าได้” ภาณินีบอก“ขอบคุณครับ ขอบคุณที่กรุณาไว้ใจผม” อธิคมสบสายตากับภรรยา แล้วก้าวออกไปÿเจ้าองค์อินทร์นั่งบนขอบเตียง จับมือของเธอมากุม คลึงนิ้วเรียวยาวเบา ๆ “แก้วเก้าหนีไปเที่ยวอยู่ที่ไหนคนเดียว มารับผมไปด้วยสิ ... เที่ยวคนเดียวสนุกเหรอ…” วางมือของแก้วเก้าลงข้าง ๆ ลำตัว ก้มลงจุมพิตที่หน้าผาก “น้องเก้า” น้ำตาของชายหนุ่ม หยดลงบนพวงแก้มขาวซีด “เพราะผม...ผมเองที่พาเลอสรวงมาทำร้ายน้องเก้า ครั้งแล้ว ครั้งเล่า น้องเก้า ผมขอโทษ”“ตื่นขึ้นมาสิครับ ผมรอให้น้องเก้าต่อว่า หรือทำโทษยังไงก็ได้ แต่ขอให้น้องเก้ากลับมาเป็นสาวน้อยที่น่ารักและสนุกสนานคนเดิม” เขาลูบไล้เช็ดน้ำตาออกจากพวงแก้มนั้น ยั้งมือนิดหนึ่ง น้ำตาของแก้วเก้าหรือน้ำตาของเขากันแน่นะ ทำไมเหมือนกับซึมออกมาจากดวงตาทั้งสองข้างของเธอ ÿ ตั้งแต่ถูกพลังจิตของเจ้าขวัญฟ้าดึงออกมา แล้วถูกปล่อยก

  • สายน้ำในความทรงจำ   41. บ้านวิริยนันท์เกิดเรื่องแล้ว

    แก้วเก้าเดินลงไปจนถึงชายตลิ่ง เพื่อนสองคนของเธอไม่มีใครสนใจมองเธอเลย ไม่ว่าจะส่งเสียงเรียกดังขนาดไหน “ใหญ่ ใหญ่ ฮือ ฮือ ช่วยฉันด้วย ฉันอยากกลับบ้าน”เธอกลับขึ้นมายืนบนฝั่งอีกครั้ง แล้วเดินไปเรื่อย ๆ มองเหลียวหลังกลับไปดูเพื่อนเป็นระยะไม่มีใครสนใจว่าเธออยู่ตรงนั้น“ฉันทำไม่ดีกับแกใช่มั้ยใหญ่... แกก็เลยเอาคืน... ฉันรักแกนะ... แต่ไม่รู้สิ... เวลาแกมองฉัน ฉันมักจะนึกถึงใครอีกคนทุกที ฉันนึกถึงเขาเสมอเลย แต่พอเห็นว่าเป็นสายตาของแก ฉันก็รู้สึกไม่ชอบ ฉันอยากให้แกมองฉันอย่างเดิม มองธรรมดา ๆ ยิ้มธรรมดา ๆ ไม่ต้องทำแบบคุณเจ้าได้มั้ย ให้เขามองฉันอย่างนั้น คนเดียวก็พอ... คุณเจ้า! เจ้าองค์อินทร์อยู่ไหน.... มาช่วยเก้าที... เก้าอยากกลับบ้าน... ฮือ... ฮือ... ฮือ...” แก้วเก้าสะอึกสะอื้น เริ่มสิ้นหวังที่จะกลับถึงบ้านขึ้นเรื่อย ๆ แต่แล้วสายน้ำตาปี ก็เปลี่ยนไป...เธอกลับมานั่งอยู่ริมคลองในสวนร่มรื่น มีเรือแจวมาขายก๋วยเตี๋ยว ดอกลีลาวดีทัดหูอยู่ทั้งสองข้าง ส่งกลิ่นหอม “เก้าชอบที่นี่ เก้าอยากมีบ้านอยู่ที่นี่ แต่ย่านวลบอกว่า มันเป็นวัด เก้าจะไปอยากอยู่วัดได้ยังไง นั่นสิเนอะ.... แล้วทำไมเก้าจะอ

  • สายน้ำในความทรงจำ   40. เจ้าขวัญฟ้าแผลงฤทธิ์

    อธิคมยกมือปิดปากหาว ปิดไฟ แสงไฟดับวูบลง เขาเอนตัวลงบนที่นอนของลูกสาว นึกในใจว่าวันนี้ ตั้งแต่เลอสรวงตกน้ำ เพิ่งจะได้พักผ่อน ... ตอนนี้ความกังวลเรื่องชายคนนั้น ผ่อนคลายลงแล้ว โมบายดินเผาข้างนอก ส่งเสียงดังกรุ๋งกริ๋งยามต้องลม อธิคมฟังเพลิน ๆ เริ่มเคลิ้ม เขาดึงผ้าห่มที่ปลายเท้าขึ้นคลุมตัว ขณะที่ข้างนอกนั้นหมอกควันลอยล่องขึ้นจากท้องน้ำ ม้วนตัวขึ้นเป็นลำแสงยาว ๆ พุ่งขึ้นมาบนระเบียงบ้าน “แก้วเก้าเนาวรัตน์ขัติยนารีศรีเวียงเชียงรุ้ง” เสียงทุ้มนุ่ม ดังก้องขึ้น แต่ไม่อาจผ่านเข้าไปถึงข้างใน ลมพัด วี้ด วื้อ เหมือนจะมีลมฝน แต่เสียงกรุ๋งกริ๋งกลับเงียบหาย... อธิคมลืมตาขึ้นในความมืด ดึงผ้าห่มที่คลุมหน้าออก พลิกตัวตะแคงข้าง ยอดไม้ชายน้ำคลองมอญโบกโยกไปมา บ้านทั้งหลังคล้ายกำลังจะพังครืน อธิคมรู้สึกอย่างเดี

  • สายน้ำในความทรงจำ   39. ประวัติศาสตร์อยู่ที่ใครเขียน

    “ตามจารีตประเพณีเจ้านางหญิงจะถูกเก็บตัวให้ทำงานบ้านงานเรือนอยู่ในคุ้มหลวง วันบุญวันพระจึงจะได้ออกไปไหว้บูชาพระธาตุหลวง เจ้าแก้วเก้าเนาวรัตน์ตอนที่ยังพระเยาว์เคยตามเจ้าขวัญฟ้าราชบุตรไปเที่ยวป่าเที่ยวเขานอกเมือง และมักจะลงสรงน้ำกาหลง เล่นสนุกสนาน เจ้าแก้วเก้าเนาวรัตน์จึงทรงยึดถือเอาเจ้าขวัญฟ้าราชบุตร ลูกผู้พี่ เป็นชายในอุดมคติมาตั้งแต่เด็ก จนโตเป็นสาว เหตุที่เจ้าศรีธรรมกับเจ้าศรีภูมิสองพี่น้องขัดใจกัน และยิ่งขัดแย้งหนัก ก็เพราะเจ้าศรีธรรมถูกนางคำหล้า สนมคนหนึ่งเพ็ดทูลใส่ร้ายเจ้าแก้วเก้าเนาวรัตน์ว่าประสงค์จะให้เจ้าขวัญฟ้าราชบุตรทำการรัฐประหารและขึ้นครองเชียงรุ้ง เจ้าหลวงเชื่อถือนางคำหล้า จึงส่งสารบอกเจ้าศรีเวียงไชย ให้ส่งราชบุตร คือเจ้าศรีเวียงไชยะบุรีมารับตัวเจ้าแก้วเก้าเนาวรัตน์ เจ้าแก้วเก้าเนาวรัตน์ทรงหนีไปกับเจ้าขวัญฟ้าราชบุตรข้ามแม่น้ำกาหลงหนีตายไปถึงเชียงม่อน แสดงว่า ทรงรักใคร่ในตัวพระเชษฐาจนยอมสละทุกอย่างได้ ฉันไม่คิดว่าท่านจะมีใจให้เจ้าลอราชบุตรหรอกนะ แต่ก็ไม่มีหลักฐานยืนยัน” &

  • สายน้ำในความทรงจำ   38. สายสาแหรกวงศ์ตระกูล

    อธิคมรับโทรศัพท์จากภรรยา ซึ่งเดาว่าโทรมาตามให้ไปทานอาหาร เจ้าขวัญสรวงบอกว่าจะอยู่เฝ้าลูกชาย แต่เจ้าขวัญหล้าเอ่ยปรามขึ้นเสียก่อน “อย่าเลย ไม่ต้องเฝ้าหรอก ขวัญสรวงลูกตรากตรำมามากเกินไปแล้ว พรุ่งนี้ค่อยมาอีกทีนะ เชื่อแม่” “ครับ ผมอยู่ใกล้ ๆ จะมาดูให้แต่เช้าเลย ตอนนี้เราไปทานอาหารเย็นกันดีกว่า พวกนั้นรออยู่นานแล้ว” “อืม...เจ้าป้าคะ” แก้วเก้านึกวิธีเอาใจเจ้าขวัญสรวง “ที่ร้านนั่นน่ะ ใหญ่เพื่อนเก้า คนที่โดดน้ำลงไปช่วยคุณเลอสรวง รออยู่นะคะ พรุ่งนี้ใหญ่จะกลับปักษ์ใต้แล้ว” “จริงสินะ ป้าลืมไป เราต้องไปขอบใจเขาที่ช่วยเลอสรวง” เจ้าขวัญสรวงยิ้มออก เธอก้มลงไปหอมแก้มลูกชาย เดินไปที่เตียงหลานชาย หอมแก้มอีกคน 

DMCA.com Protection Status