Home / แฟนตาซี / สายน้ำในความทรงจำ / 9. คุณน้าผู้มากับพระจันทร์เดือนเสี้ยว

Share

9. คุณน้าผู้มากับพระจันทร์เดือนเสี้ยว

last update Last Updated: 2024-12-04 18:52:35

“เจ้าพ่อ! พี่เลอสรวงน่าสงสารนะครับ  เจ้าย่าเพียงแค่อยากชดเชยสิ่งที่เขาไม่มีเหมือนเรา”

 “นรินทร์ลูกรัก ฟังพ่อนะ ไม่มีประโยชน์ที่จะช่วยเหลือ  ไอ้ลูกต่างด้าวนั่น  อยู่กับปัจจุบันเถิด นรินทร์ ลูกเลิกพร่ำเพ้อ เอาใจเจ้าย่าได้แล้ว องค์อินทร์ไม่กลับมาก็ไม่เป็นไร บอกเขา พ่อไม่มีสมบัติสักชิ้นจะให้เขาหรอกนะ ถ้าเขาตัดสินใจจะอยู่ที่นั่น”

 “เจ้าพ่อ!”  เจ้าเทพนรินทร์ผงะ “ทำไมครับ ทำไมเจ้าพ่อทำเหมือนไม่รักพี่ชาย”

 “มันอวดดี อยากให้เรียนกฎหมายดันไปเรียนอะไรก็ไม่รู้ ไม่มีแก่นสารเอาเสียเลย”

 “พี่ชายเมเจอร์ลิทเทอเรเจอร์นะครับเจ้าพ่อ  ละครน่ะแค่ไมเนอร์เท่านั้น”

 “จะอะไรก็ช่าง พ่อกับแม่เป็นนักกฎหมาย ลูกก็ต้องเป็นนักกฎหมาย องค์อินทร์มันนอกคอก ไม่สนใจความต้องการของพ่อแม่ ตอนนี้พ่อแม่ก็ไม่ต้องการมันแล้ว นรินทร์เสร็จธุระแล้วรีบกลับมานะลูก คดีเข้ามาเยอะเลย พ่อทำหามรุ่งหามค่ำทุกคืนไม่ไหวแน่”

 “ครับเจ้าพ่อ ผมจะรีบกลับไปในวันสองวันนี่แหละครับ ฝากสวัสดีตอนเช้าคุณแม่ด้วยนะครับ”

ÿ

 อธิคม ภาณินี และแก้วเก้า ออกจากวัดคลองขนุน อำเภอเมืองนนทบุรีแล้วก็แวะทำธุระที่โรงพิมพ์หนังสือแถว ๆ ปิ่นเกล้า และรับประทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารก่อนจะกลับเข้าบ้านริมน้ำ คลองมอญ ก็เป็นเวลาเกือบสองทุ่ม

ย่านวลเปิดบ้านรอรับการกลับมาของลูกชายลูกสะใภ้และหลานสาว  จุ๊บแจงเด็กสาวมาจากบ้านศาลเจ้าโรงทอง อำเภอวิเศษไชยชาญ จังหวัดอ่างทอง มีศักดิ์เป็นหลานของอธิคม ช่วยหอบหิ้วเอาของเข้ามาในบ้านพะรุงพะรัง

“อะไรล่ะนั่น แม่จุ๊บแจง” ย่านวลถามเด็กสาว

“หนังสือ แล้วก็ในถุงนี้เป็นขนมทองม้วนอ่อน ป้าอุ้มให้เอามาให้ย่า”

 “ไหน ๆ ย่ากำลังอยากกินหวานอยู่เลย”

“ย่าเดี๋ยวหนูเอาไปเทใส่จานมาให้”

จุ๊บแจงวางหนังสือลงบนโต๊ะรับแขก  วางถุงขนมไว้ข้าง ๆ แล้วเข้าครัวไปหยิบจานขนาดเล็กมาใส่ขนม 

แก้วเก้าเดินนำหน้าพ่อแม่และลุงเข้ามาด้านใน 

“คุณย่าทานขนมหรือยังคะ เก้าเสียดายคุณย่าไม่ได้ไปกับเรา ที่วัดน่าอยู่มากเลยค่ะ”

“พูดอย่างกับจะไปอยู่ที่วัดจริง ๆ นะหลาน”

“เก้าหมายถึง สวนริมน้ำหน้าวัดต่างหากล่ะคะ ร่มรื่นน่าอยู่ มีแม่ค้าพายเรือขายก๋วยเตี๋ยวด้วยล่ะ”

“คลองมอญหน้าบ้านนี้ก็มีแม่ค้ามาพายเรือขายขนมจีน ก๋วยเตี๋ยวก็มี” ย่านวลอดไม่ได้ที่จะต่อล้อต่อเถียงกับแก้วเก้า

 “พี่กต...” ภาณินีเรียกพี่ชาย “ขึ้นมาข้างบนกับอุ้มเถอะ”

 “ขอตัวนะครับ ย่านวล อุ้มกับผมมีเรื่องคุยกันนิดหน่อย  คมไปคุยด้วยกันมั้ย” อลงกตยกมือไหว้ย่านวล แล้วขอตัวอย่างสุภาพ

 อธิคมส่ายหน้าปฏิเสธบอกว่า “คุยกันตามสบายเลยครับ”

 ภาณินีคว้าแขนพี่ชายขึ้นไปชั้นบน

 แก้วเก้าบ่นกับย่านวล “ดูสิคะ ลุงกตกับแม่ มีเรื่องซุบซิบกันสองคนอีกแล้ว”

ÿ

 “คุณแม่ครับ รับข้าวเย็นหรือยัง” อธิคมถามย่านวล

 “เรียบร้อยแล้ว   ไงล่ะ วันนี้ได้เจอหลวงพ่ออุดมมั้ย” 

 “เจอครับ ท่านถามถึงคุณแม่ด้วย”

 จุ๊บแจงถือจานขนมทองม้วนอ่อนมาวางตรงหน้าย่านวล แล้วเดินไปหยิบซองจดหมายบนโต๊ะข้างโทรทัศน์ “นี่จดหมายของน้องเก้าค่ะ” 

 แก้วเก้ายิ้มแก้มปริ ยื่นมือไปรับจดหมาย “ขอบคุณค่ะพี่จุ๊บแจง พี่จุ๊บแจงมายังไงคะเนี่ย”

 “พี่นั่งรถเมล์มาจากตลาดศาลเจ้า เมื่อเที่ยงนี้เอง”

 “มิน่าล่ะ ถึงว่าเข้าของบ้านเก้าเรียบร้อยขึ้นเยอะเลย”

 “คุณย่าขา พ่อคะ เก้าขอตัวขึ้นไปอ่านจดหมายก่อนนะคะ ต้องเป็นจดหมายของใหญ่แน่ ๆ เลย”                            

 “แล้วก็อาบน้ำนอนพักผ่อนเลยนะลูก เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว” อธิคมกำชับลูกสาวอีกที 

 “เก้าหยิบหนังสือสวดมนต์ของหลวงปู่ขึ้นไปด้วยลูก อย่าลืมสวดมนต์ก่อนนอนล่ะ”

 “ค่ะ พ่อ” หญิงสาวดีใจมาก ในที่สุดเพื่อนรักก็ส่งจดหมายมา เดินขึ้นบันไดบ้านไปด้วยหัวใจพองฟู

ÿ

 ภายในห้องพระ  ภาณินีหยิบเปิดกล่องบุผ้ากำมะหยี่สีน้ำเงินออกจากกล่องเหล็กสีดำ อลงกตยื่นมือไปรับกล่องนั้น พินิจดูสร้อยทับทิมสีแดงเลือดนกพิราบ

 “เจ้าขวัญหล้าไว้ใจเธอขนาดนี้เชียวเหรอ ถึงกับฝากของมีค่าของตระกูลเอาไว้ที่เธอ”

 “อุ้มคืนให้เจ้าองค์อินทร์แล้ว แต่ท่านบอกว่า เจ้าขวัญหล้าต้องการมอบให้ยายเก้าค่ะ อุ้มกลุ้มใจอยู่นี่ล่ะค่ะ ของมีค่าของคนอื่นมาอยู่ในมือเรา ลูกหลานเขาก็มี ถ้ารู้เข้า จะนึกว่าเราหลอกลวงต้มตุ๋นสมบัติของญาติเขา”

 “แต่เจ้าองค์อินทร์ก็เป็นพยานให้อุ้มได้ ว่าเป็นความประสงค์ของเจ้าขวัญหล้าเอง”

 “พี่เองก็มีเรื่องไม่สบายใจอย่างหนึ่ง เป็นเรื่องภายในครอบครัวแมนรัตน์ ที่อุ้มต้องรู้เอาไว้”

“อะไรเหรอคะพี่กต”

“หมอเนตรบอกพี่ว่า เจ้าขวัญสรวงกับเจ้าแมนสรวง สองพี่น้องนั้น มีเรื่องที่ไม่ลงรอยกัน กินใจกันมาตั้งแต่เด็ก เจ้าแมนสรวงเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูล เป็นผู้สืบสายสกุล ณ แมนรัตน์ เขาต้องการได้สมบัติทุกชิ้นที่เป็นของตระกูลไปครอบครองทั้งหมด ดูเหมือนเจ้าขวัญหล้าจะรู้สึกตัวแล้วว่า ลูกชายของเธอต้องการได้มากกว่าที่เคยได้ เธอจึงจ้างทนายความชาวอังกฤษด้วยเงินรายเดือนก้อนโต ให้เป็นผู้ดูแลทรัพย์สินของตระกูล”

“แลกกับความซื่อสัตย์ที่หาไม่ได้จากลูกชายของเธอเองเหรอคะ พี่กต”

“ใช่แล้ว อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับมิสเตอร์สมิธและเลอสรวงก็ยังเป็นที่เคลือบแคลงสงสัยมาโดยตลอด ด้วยเหตุนี้เจ้าขวัญสรวงกับเจ้าแมนสรวงก็ยิ่งเข้าหน้ากันไม่ติด”

“เจ้าองค์อินทร์กับเจ้าเทพนรินทร์รู้เรื่องนี้มากน้อยเพียงไหน เขารู้เห็นกับพ่อของเขาหรือเปล่าคะพี่กต” ภาณินีถามพี่ชาย

“พี่ก็ดูชายหนุ่มสองคนนี้ เป็นคนดีทั้งคู่ แต่คนน้องเป็น  ที่รักของพ่อแม่มากกว่า เจ้าองค์อินทร์เป็นตัวของตัวเอง พ่อไม่ค่อยรักเท่าไหร่ แต่คุณวิชุดานี่สิรักลูกคนโตมาก คงสงสารที่พ่อทุ่มเทให้น้องชายมากกว่า”

“อุ้มพอจะนึกออกแล้ว เจ้าองค์อินทร์เป็นคนถือสร้อยทับทิมนี้มาให้อุ้มกับมือ แสดงว่าที่จริงแล้วเจ้าขวัญหล้าไว้ใจหลานชายคนนี้มากกว่า”

“อย่างที่อุ้มกังวลใจก็ใช่นะ ถ้าเจ้าเทพนรินทร์รู้ว่าของชิ้นนี้อยู่กับอุ้ม เจ้าแมนสรวงก็ย่อมรู้  อุ้มและครอบครัวอาจจะถูกมองไม่ดีได้”

“แล้วพี่กตจะให้อุ้มทำยังไงคะ”

“สมบัติชิ้นนี้เป็นของร้อน อุ้มต้องซ่อนเอาไว้นะ”

“ค่ะ พี่กต อุ้มน่ะไม่อยากได้ไว้เลย แต่ทำไมของนี้ต้องมาอยู่ในมืออุ้ม เฮ้อ!” ภาณินีถอนหายใจยาว นึกหาที่ซ่อนที่ดีที่สุด

“เพราะอุ้มไม่มีความโลภยังไงล่ะ” ภาณินีขำพี่ชาย             

“อุ้มจะไปอยากได้ของ ๆ คนอื่นทำไมคะ ตลก! แล้วนี่คุณเลอสรวงอาการดีขึ้น พี่เนตรยังต้องดูแลต่อไปมั้ยคะ”

 “ไม่รู้เหมือนกัน มันก็น่าแปลก ตอนเช้าอาการยังทรุดหนักอยู่เลย พอตกบ่ายอาการกลับดีขึ้นอย่างเหลือเชื่อ น่าเห็นใจเขานะ ดีนักหนาแล้วที่เรื่องแบบนี้มันยังไม่เกิดขึ้นกับคนที่เรารัก”

อลงกตจ้องนัยน์ตาน้องสาวแล้วพูดต่อ น้ำเสียงอ่อนโยน “เรามีกันสองคนพี่น้อง ถ้าเกิดอุ้มเป็นอะไรอย่างคุณเลอสรวง พี่คงทุกข์ใจไม่น้อยไปกว่าพวกเขา พอคิดได้อย่างนี้ ก็เกิดแรงมานะที่อยากจะช่วย ความหวัง ทำให้ความเชื่อและศรัทธาแข็งแกร่งขึ้น  พวกแมนรัตน์เองก็เชื่อใจพี่และอุ้มมาก“

“หลวงพ่อเตือนว่า อย่าประมาท อย่าเชื่อใครง่าย ๆ  อุ้มเชื่อพี่กตมาตลอด จะประมาทหรือเปล่าคะ”                            

“ยายน้องประสาท...พี่ไม่เคยโกหก อุ้มก็รู้... เอาล่ะ พี่จะกลับบ้านซะที ดึกจนป่านนี้พี่ก็ยังอยู่บ้านเธออยู่เลย”

“นอนที่นี่ก็ได้ค่ะ อุ้มจัดที่นอนให้นะ”

“รบกวนเปล่า ๆ  พรุ่งนี้มีงานที่มหาวิทยาลัยอีก”

ภาณินีเก็บกล่องเครื่องประดับล้ำค่าไว้ในตู้ไม้เก่า ๆ 

ÿ

อลงกตเปิดประตูห้องพระ ก้าวเดินออกไปก่อน เห็นไฟฟ้าในห้องหลานสาวเปิดสว่างอยู่ ก็เดินเลยไปหา เคาะสองครั้ง แล้วผลักบานประตูเข้าไป

ในห้องนอนว่างเปล่า คงมีแต่ซองจดหมายที่ยังไม่ได้แกะออกอ่านวางอยู่บนที่นอน  ลมจากแอร์คอนดิชั่นเป่าเย็นสบาย   ประตูอีกด้านหนึ่งกั้นทางเข้าออกระหว่างห้องนอนกับระเบียง แง้มอยู่ เขาสงสัยว่า หลานสาวไปทำอะไรที่ด้านนอก

“พี่กต” ภาณินีก้าวเข้ามาร้องเรียกพี่ชาย ชายหนุ่มยกมือขึ้นตะปบปิดปากน้องสาว ทำมือชี้ออกไปด้านนอก น้องสาวพยักหน้าเข้าใจเรื่องราว พี่ชายเอามือลง แล้วจูงมือน้องสาวไปที่ประตูด้านนั้น

แก้วเก้าเดินเลาะรอบ ๆ ระเบียงเอียงหน้าขึ้นสูง พูดคุยอยู่กับใครสักคน  อลงกตและภาณินี เห็นไม่ถนัดนัก

ภาณินีลากข้อมือพี่ชายออกจากห้องนอนลูกสาว

“ใครกันคะ พี่กตเห็นมั้ย”

“ไม่เห็น แต่ยายเก้ารู้ตัวแน่ ๆ ว่าคุยอยู่กับใคร”

“พระจันทร์เดือนเสี้ยว” ภาณินีมองไปบนท้องฟ้า

“เก้าชอบพระจันทร์เดือนเสี้ยวค่ะ”

“แต่หลานคงไม่ได้คุยอยู่กับพระจันทร์แน่ ๆ ใช่มั้ยอุ้ม...”

“เราจะทำยังไงดี อุ้มไม่อยากปล่อยให้ลูกเป็นอย่างนี้”

“เดี๋ยว ... นั่นไง ! ยายเก้ากลับเข้าห้องแล้ว ทำยกมือโบกบ๊ายบายอีกแน่ะ อย่าคิดมากยายเก้าไม่ได้เพี้ยนไปหรอก”

“หลวงพ่อบอกให้พาเก้าไปเดินร่วมกับธรรมจาริกด้วยค่ะ”

“ดีแล้ว หลานจะได้ฝึกความอดทนนะ   ที่เห็นแกเป็นแบบนี้ เพราะแกไม่มีเพื่อนมากกว่า เพื่อนบ้านก็ยังไม่รู้จักใคร  เตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย อยู่กับกองหนังสือเป็นวัน ๆ  แกคงเบื่อน่ะ แต่ไม่บ่นให้พ่อแม่ฟัง”

“วันนี้ได้รับจดหมายจากสุราษฎร์ธานี น่าจะเป็นของใหญ่ อาการคงจะดีขึ้นแหละค่ะ”

ÿ

ภาณินีเดินไปส่งพี่ชายถึงประตูรั้วบ้าน อลงกตเดินจ้ำอ้าว ขายาว ๆ ของเขาช่วยทำให้เดินถึงปากซอยวัดชิโนรสเร็วขึ้น เขาเรียกแท็กซี่ไปบ้านบางขุนนนท์  ภาณินีเดินกลับเข้ามาด้านใน ล็อคประตูบ้านแน่นหนาดีแล้ว ก็เตรียมตัวจะขึ้นข้างบน ไปอาบน้ำและนอน  ย่านวลกลับดึงรั้งเอาไว้ด้วยประโยคสนทนายืดยาว

“แม่ชวนตาคมไปวิเศษไชยชาญ แม่อุ้มช่วยแม่ขอร้องหน่อยเถอะ ใจแข็งเหลือเกิน”

“อุ้มไม่ต้องกล่อมพี่เลยนะจ๊ะ แม่น่ะสิ พี่ไม่อยากได้บ้านนั้น บอกให้ยกให้กรณ์ไปเลยก็ไม่เชื่อ”

“คุณแม่คะที่บ้านนั้น นอกจากคุณแม่กับจุ๊บแจงแล้วมีใครอยู่ด้วยหรือเปล่า”

“ไม่มีหรอก เจ้ากรณ์กับลูกเมีย เขาปลูกบ้านใหม่อยู่อีกที่หนึ่ง ริมถนนตัดใหม่ที่เลี้ยวเข้าผักไห่น่ะ เสาร์อาทิตย์ถึงจะมาเยี่ยมแม่สักที”

“ถ้ายกบ้านนั้นให้พี่คม แล้วกรณ์ เขาไม่ว่าเอาเหรอคะ”

“จะว่าก็ว่าไปสิ แม่อุ้มอย่ากังวลไปเลย ฟังตาคมมาก ๆ ก็จะระแวงไปหมด ตากรณ์บอกว่าไม่อยากได้บ้านเก่าของพ่อของแม่ ขี้เกียจซ่อม สู้ปลูกบ้านใหม่ไม่ได้”

“เหรอคะ”

“ถ้าไปจริง ๆ แม่อุ้มอยากได้อะไรก็บอกแม่มาเลย ที่นา สัก 100 ไร่ แม่จะโอนให้วันพรุ่งนี้เลย”

“โอนให้อุ้มหมดแล้วคุณแม่จะมีเงินค่าเช่านามาจากไหนล่ะคะ ไม่กลัวอุ้มฮุบเอาหมดเหรอ” ลูกสะใภ้หัวเราะเบา ๆ หยอกเย้าแม่สามี

“เอาไปให้หมดเลยลูก”

“พอเถอะครับ คุณแม่  อุ้มก็ด้วย ผมขึ้นไปอาบน้ำแล้วจะนอนเลยนะ คุณแม่ยังไม่ง่วงเหรอ ละครจบแล้ว”

“คุณแม่รออีกหลายวันหน่อยได้มั้ยคะ อุ้มจะให้พี่คมขับรถไปส่งถึงบ้านเลย ไม่ได้ออกต่างจังหวัดเกือบเดือนแล้วมั้งคะ ตั้งแต่ย้ายมาจากสุราษฎร์”

“ไปจริงเหรออุ้ม” สามีถามภรรยาให้แน่ใจ

“จริงสิคะ พาลูกไปด้วย เก้าบ่นกับอุ้มว่าคิดถึงคุณปู่  เราพาลูกไปกราบอัฐิคุณปู่ก็แล้วกันนะคะ พี่คม และก็ถ้ามีเวลาพาลูกไปหาหลวงพี่ของคุณแม่ด้วย แกจะได้เลิกงอนอุ้มซะทีนะคะ”

ภาณินีเดินตามหลังสามีขึ้นบันได มีเรื่องที่ต้องการคุยกับเขา แต่ก็ไม่อยากเร่งรัดให้แม่สามีสงสัยอะไร

อธิคมยิ้ม “ดูแม่สิ ยิ้มแฉ่งเชียว หายงอนแล้วเหรอครับ”

“แม่ได้ลูกสะใภ้แสนดีนี่นา จะไม่ให้ยิ้มมีสุขได้อย่างไร”

ย่านวลกวักมือเรียกหลานสาว

“จุ๊บแจงมาดึงย่าขึ้นที ย่าจะไปนอนแล้วเหมือนกัน ปิดไฟฟ้าทุกดวงในบ้านข้างล่างนี่ด้วยนะ”

ÿ

แก้วเก้าเอนตัวนอน พลิกซ้ายทีขวาที หยิบจดหมายจากใหญ่มาอ่าน เขาเขียนมายาวถึงสองหน้ากระดาษ ลายมือตัวบรรจงสวยงาม เก้ารู้ว่าใหญ่ตั้งใจเขียนเพียงใด

“เก้าเพื่อนรัก”  ใหญ่ เริ่มต้นหัวจดหมาย 

“ฉันได้รับจดหมายจากแก ก็รีบหลบมุมหาที่เขียนเลย

พอแกย้ายไปแล้ว หรัดกับครอบครัวก็ย้ายไป พ่อของ หรัดไปเป็นนายสถานีที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม อยู่ที่ท่าข้าม ฉันไปส่งด้วย หรัดฝากความคิดถึงมาถึงแกด้วยนะ แล้วหรัดมันก็มีอีเมล์ฝากให้ฉันเขียนมาบอกแก”

แก้วเก้าหยิบสมุดโน้ตมาเขียนอีเมล์ของจำรัส แล้วยกแผ่นกระดาษขึ้นในระดับสายตา อ่านต่อไปเรื่อย ๆ 

“ฉันได้โควต้าสอบเข้า ม.สงขลานครินทร์ แต่แถวนั้นไม่

ค่อยปลอดภัย พ่อกับแม่ก็เลยไม่ให้ไปสอบแต่แกไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะขึ้นกรุงเทพไปสอบที่สนามกลาง พ่อของหรัดช่วยเหลือเรื่องการเดินทางและที่พักระหว่างอยู่ที่กรุงเทพ  ฉันกับหรัดจะไปพักที่บ้านพักของการรถไฟแถวบางกอกน้อย เป็นบ้านของเพื่อน พ่อหรัด ถ้าพอมีเวลาพวกเราคงจะได้พบกันที่กรุงเทพอีกครั้ง” 

“ฉันตั้งใจจะสอบเข้าคณะวิทยาศาสตร์ ความจริงก็อยากจะลองสอบเข้าแพทย์ศาสตร์ ฉันไม่กล้าหวังสูงหรอก แต่วิชาวิทยาศาสตร์นี่ฉันชอบมากที่สุด  เชื่อมั่นว่าพอมีความรู้จะสู้กับเด็กเก่งโรงเรียนดี ๆ ในเมืองกรุงได้ส่วนหรัดบอกว่า เห็นว่าจะเรียนคณะรัฐศาสตร์ มันอยากเป็นปลัดอำเภอ”

“แล้วแกล่ะเก้า จะเลือกคณะอะไรที่ไหน ยังเหมือนเดิมกับที่เคยบอกฉันหรือเปล่า แต่ไม่ว่าแกจะเรียนอะไร ฉันก็ขอให้แกประสบความสำเร็จ  สร้อยที่ฉันทำให้แก ยังอยู่ดีหรือเปล่า ฉันอยากให้แกสวมใส่มัน กะลาตาเดียว พ่อว่าขลัง ป้องกันคุณไสย ช่วยให้แคล้วคลาดอันตรายได้ ความเชื่อแบบนี้ ออกจะขัดกับวิทยาศาสตร์  แต่ฉันก็บอกไม่ถูกว่ากะลาตาเดียวมันขลังจริงหรือเปล่า นอกจากอยากให้แกเป็นหนูทดลองให้ฉัน  รักและคิดถึง   จริง ๆ เก้า”

เก้าขำความคิดของใหญ่ เธอดึงลิ้นชัก หยิบสร้อยคอออกจากกล่องที่แม่ให้มา แล้วสวมไว้  

“ฉันใส่มันแล้ว จะยอมเป็นหนูให้แกทดลองความขลังของกะลาตาเดียวนะใหญ่”

แก้วเก้าอ่านจดหมายต่อจนจบ พับเก็บเอาคืนในซองเรียบร้อย แล้วสอดลงช่องลิ้นชัก แล้วดับไฟ ก่อนจะนอนลงไปอีกครั้ง  ลุกขึ้นนั่งพับเพียบสวดมนต์ไหว้พระตามที่พ่อสั่งเอาไว้

“ฮ้าวววว “ แก้วเก้าปิดปากหาวยาว ๆ ซุกหนังสือสวดมนต์ไว้ใต้หมอน  “เก้าง่วงแล้ว พรุ่งนี้เก้าจะอ่านให้จบเลยนะคะหลวงพ่อ คืนนี้เก้าไม่ไหวจริง ๆ ค่ะ ขอโทษนะคะ เก้าขอสวดสั้น ๆ แค่นี้”  ว่าแล้วก็ก้มกราบลงกับหมอน 3 ที  

ÿ

ในห้องนอนของสามีภรรยา อธิคมและภาณินี ทั้ง ๆ ที่ง่วงนอนและอ่อนเพลีย แต่ก็ยังฝืนยังพูดคุยกัน “พี่ว่า เรื่องมันชักจะพัวพันตัวเรามากเข้าไปทุกทีนะอุ้ม”

“เราต้องบอกลูกค่ะ พี่คม"

“ตอนเราคุยกันอยู่ที่วัด ยายเก้าไปอยู่เสียที่ไหน”

“เห็นว่าไปหาแม่ชีวิชชุพร หมอที่ช่วยปฐมพยาบาลเจ้าขวัญหล้าค่ะ ถูกชะตากันได้ยังไงไม่รู้”  

“เหรอ” อธิคมปิดปากหาวยาว ๆ “พี่ง่วงแล้วจ้ะ พรุ่งนี้เราจะคุยกับลูกกันนะจ๊ะ”

ภาณินีหลับตา “อุ้มคิดถึงคุณพ่อคุณแม่จังค่ะ”

ข้างนอกหน้าต่าง ยอดไม้สูง ๆ ริมคลองมอญ โบกสะบัดไปมาตามแรงลมอ่อน ๆ  แต่โมบายดินเผารูปนกและดวงดาวที่แขวนบนเพดานระเบียงห้องนอนของแก้วเก้ากลับนิ่งสงบ 

ÿ

หนึ่งเดือนต่อมา ที่ห้องรับรองแขก ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  เจ้าองค์อินทร์ ณ แมนรัตน์ กำลังรอการมาของเจ้าแมนสรวง  ณ แมนรัตน์  และมิสเตอร์เอดการ์ด ทอมมัส ทนายความของเจ้าขวัญหล้า

เจ้าองค์อินทร์ยืนรออลงกตอยู่หน้าห้องรับรอง เมื่ออลงกตออกมาแล้ว ทั้งคู่ก็ก้าวเดินไปด้วยกัน 

“มาถึงกันหรือยังครับ” อลงกตถามชายหนุ่ม

“นรินทร์โทรมาบอกว่า กำลังรอกระเป๋าเดินทางอยู่ครับ อาจารย์” 

“อ้อ ครับ เดี๋ยวก็เจอกันแล้ว”   อลงกตชะเง้อคอ มองผ่านกลุ่มคนเข้าไปตามช่องทางเดิน 

เจ้าเทพนรินทร์เดินนำหน้าชายวัยสี่สิบเศษ หน้าตายังคงความหล่อเหลา ผมสีดอกเลาแซมประปราย รองทรงสูง ท่าทางผึ่งผาย   ชายหนุ่มชาวอังกฤษวัยสามสิบเศษซึ่งไล่เลี่ยกับอลงกต   ผมสีทอง หวีเรียบร้อย สวมเสื้อยืดแขนยาว คอโปโล กางเกงสแล็ค เขาลากกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่สีกรมท่าออกมาด้วย  

“ดอกเตอร์ครับ นี่คุณพ่อของผม เจ้าแมนสรวง ณ แมนรัตน์” เจ้าเทพนรินทร์กล่าวแนะนำบิดาของเขา

Related chapters

  • สายน้ำในความทรงจำ   10. ลูกไม้ที่ปลิวไปไกลต้น

    "สวัสดีครับ” อลงกตยื่นมือออกไปจับมือทักทาย“ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก” เจ้าแมนสรวงยื่นมือมาจับเขย่าเบา ๆ “ว่าไงองค์อินทร์”“สวัสดีครับ เจ้าพ่อ” เจ้าองค์อินทร์ยกมือไหว้ “สวัสดีทอมมัส นี่อาจารย์อลงกต สามีของหมอเนตรดาวครับ คุณแม่ไม่ได้มาด้วยเหรอครับ” เจ้าองค์อินทร์ถามบิดาของเขา“ถ้ามาก็ต้องเห็นสิ” เขาตอบลูกชายคนโต แต่เมินมองออกไปทางด้านหลัง “รีบพาพ่อเข้าที่พักเลย” เขาเอ่ยกับลูกชายคนเล็ก น้ำเสียงอ่อนโยนกว่าคำพูดประโยคแรกเจ้าองค์อินทร์เข้าใจบิดาดี เขายิ้ม แล้วยักคิ้วข้างหนึ่งกับน้องชาย สองมือล้วงกระเป๋า ทำเดินตัวเอียง กระซิบบอกน้องชาย “พ่อของนาย แน่มาก”เจ้าเทพนรินทร์อมยิ้ม เอาหัวไหล่กระแทกอกพี่ชาย แล้วเข็นกระเป๋าเดินทางของเจ้าพ่อ พลางชี้มือบอกทางไปยังห้องรับรองÿอลงกตพอจะรู้เรื่องความบาดหมางระหว่างพ่อลูกคู่นี้มาบ้าง เขาจึงรู้สึกเห็นใจชายหนุ่มเดินช้า ๆ เข้าไปโอบไหล่ “สักวันเจ้าแมนสรวงจะเห็นว่า ลูกชายของเขาคนนี้ คือ ณ แมนรัตน์ ที่กล้าแกร่งคนหนึ่ง”“ขอบคุณครับ ผมตัดสินใจทำในสิ่งที่ท่านไม่เห็นด้วย แต่ถ้าผมเชื่อมั่นว่าจะทำให้ชีวิตของผมมันดี มันมีความสุข ผมก็จะทำ ผมผิดหรือครับที่ไม

    Last Updated : 2024-12-04
  • สายน้ำในความทรงจำ   11. แขกคนสำคัญของคุ้มแมนรัตน์

    เจ้าขวัญหล้ามองตามปลายนิ้วชี้ประดับแหวนเพชรเม็ดโตของเพื่อน“อ๋อ...นั่นหลานชายคนโตของฉัน องค์อินทร์มานี่สิลูก” เจ้าขวัญหล้ากวักมือเรียก“ครับ เจ้าย่า”“นี่ ๆ มากราบท้าวศรีบุญจันทร์ เพื่อนของย่า สายวงศ์ของเขากับเรากินดองกันมาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตาทวดของย่าแล้ว พอดีรุ่นของย่า ฝ่ายนั้นก็มีศรีบุญจันทร์ ฝ่ายเราก็มีย่า เราทั้งคู่ก็เลยผูกเสี่ยวเป็นเพื่อนรักกันแทน”“กราบเจ้าย่าศรีบุญจันทร์ครับ” องค์อินทร์ลงไปคุกเข่ากราบบนตักหญิงชราท้าวศรีบุญจันทร์ยิ้มปลื้มใจ ยกผ้าทอขลิบทองขึ้นเช็ดมือตนเองก่อนจะประคองใบหน้าของชายหนุ่มแล้วกล่าวว่า “รอยรูปอินทร์หยาดฟ้า มาอ่าองค์ในหล้า แหล่งให้คนชม แลฤา พระองค์กลมกล้องแกล้ง เอวอ่อนอรอันแถ้ง ถ้วนแห่งเจ้ากูงาม บารนี”“เหอะ ๆ ๆ “ เจ้าขวัญหล้าหัวเราะเพื่อนรัก “แม่ท้าวศรีบุญจันทร์ ถึงกับเพ้อท่องโคลงสอง ยอยศพระลอออกมาเชียว เจ้าองค์อินทร์เขินจนหน้าแดง “ผมถูกเจ้าย่าศรีบุญจันทร์เกี้ยวหรอกเหรอนี่ โธ่!!” “ใช่ ๆ ย่าเกี้ยวเจ้า แต่เกี้ยวให้หลานสาวของย่าต่างหาก”“เอ้อ...อ้า ครับ” เจ้าองค์อินทร์รู้สึกตกใจไม่น้อย มองหน้าเจ้าย่าขวัญหล้าของเขา พยายามส่งสายตาบอก “ไม่ได้

    Last Updated : 2024-12-05
  • สายน้ำในความทรงจำ   12. พระลอตามนางกินรี

    เจ้าองค์อินทร์มองบนเวทีอีกครั้ง นางกินรีก็รำจบพอดี“พอทราบข่าวจากเจ้าขวัญหล้า เราก็เตรียมงานแสดงชุดนี้มาเป็นของขวัญ ยายเก้าไปเติบโตอยู่ปักษ์ใต้ ถูกคัดตัวไปรำบ่อย ๆ ไม่ต้องทำอะไรมากจับแต่งชุด ก็รำได้เลยค่ะ” ภาณินีตอบอย่างภาคภูมิใจในตัวลูกสา“เธอเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์ทางการแสดงนะครับ” เจ้าองค์อินทร์เอ่ยปากชมอย่างจริงใจภาณินีสบตากับอลงกต แล้วยิ้มหวานกับเจ้าองค์อินทร์ “ยินดีกับอาจารย์องค์อินทร์ ณ แมนรัตน์ ด้วยนะคะ”“เอ๋…” เจ้าองค์อินทร์มองอลงกต เห็นสายตาของชายสูงวัยกว่า ก็พอจะเข้าใจ “ตกลงทางมหาวิทยาลัย...”“ครับ อีกสองสัปดาห์อาจารย์ลงไปรายงานตัวได้เลย”“เปิดเทอมเมื่อไหร่ครับ” เจ้าองค์อินทร์รู้สึกกังวล เขาสัญญาว่าจะบวชให้เจ้าย่าสักครั้ง“อ๋อ...กลับจากงานธรรมจาริก ก็พอดีเปิดเทอมค่ะ แต่ว่าเรื่องการประชุมแผนการเรียนการสอนของสาขาศิลปกรรมและการแสดงนี่ เจ้าคงจะต้องคุยกับท่านคณบดีก่อนนะคะ” ภาณินีหมายถึงอลงกต ซึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ“ผมจะเสนอแผนการสอนล่วงหน้าได้ก่อนมั้ยครับ หากว่าทางคณะเห็นควรจะปรับอย่างไร ก็ถือไปตามนั้น”“ได้ครับ ฝากผมไปก็ได้ เวลาประชุมก็มาคุยกันเรื่อง การจัดเวลาสอนเด็ก ๆ ถ้าเจ้ารับได

    Last Updated : 2024-12-05
  • สายน้ำในความทรงจำ   13.งานเลี้ยงที่ต้องเลิกรา

    “ขวัญสรวง ลูกช่วยไปดูองค์อินทร์ก่อนนะ ส่วนทอมมัสคุณเจอเรื่องร้ายมามากแล้ว เชิญไปพักผ่อนเถิดค่ะ”ÿทันทีที่ประตูห้องนอนปิดลง เจ้าเทพนรินทร์ก็แผดเสียงใส่เจ้าย่าของเขาอย่างลืมตัว“ผมไม่เชื่อว่าพ่อจะทำอย่างนั้นหรอก!”เจ้าขวัญหล้ายกฝ่ามือขึ้นตบหน้าหลานชายคนเล็กอย่างแรง“นรินทร์! หลานไม่เคยหยาบคายกับย่าอย่างนี้มาก่อนเลยนะ””เจ้าย่าก็ไม่เคยตบหน้าผมเหมือนกัน ไม่รู้กันหรือไง พี่ชายแก้แค้น เอาคืนที่เจ้าพ่อไม่รักเขา พี่ชายเป็นลูกอกตัญญูนะ”“หลานต่างหาก ที่ตาบอดสนิท ถ้าองค์อินทร์ไม่เข้าไปช่วยทอมมัส ทอมมัสคงถูกพ่อของหลานฆ่าไปแล้ว และพ่อของหลานก็จะกลายเป็นฆาตรกรสองศพทันที”“อะ...อะไรนะครับ เจ้าย่า” เจ้าเทพนรินทร์ชะงักกึก หน้าซีดเผือด “สองศพ...ใคร...ใครกัน” “อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับลุงสมิธและเลอสรวง มีพ่อของหลานอยู่เบื้องหลัง” เจ้าเทพนรินทร์เหมือนโดนทุบศีรษะอย่างแรง “เจ้าย่าเอาหลักฐานอะไรมาปรักปรำเจ้าพ่ออีกล่ะครับ” “ตำรวจจับตัวคนร้ายได้แล้ว เขาซัดทอดมาถึงพ่อของหลาน และพ่อของหลานเองก็ได้พูดความจริงออกมาแล้ว”“เจ้าพ่อ! เจ้าพ่อทำอย่างนั้นทำไมกัน”“พ่อของหลานเจต

    Last Updated : 2024-12-12
  • สายน้ำในความทรงจำ   14.เจ้าน้อยของเลอสรวง

    หมอเนตรดาวนึกย้อนหลังไปว่าช่วงเวลานั้นครอบครัวพวกเธอกำลังทำอะไรกันอยู่ พอนึกขึ้นมาได้ก็ร้องขึ้น “อ๋อ!” ขึ้นมานายตำรวจมองหมอเนตรดาวอย่างสนใจ “มีอะไรครับ” “ช่วงนั้น พวกเรา ... เอ้อ... ญาติ ๆ ดิฉันที่มาจากกรุงเทพนี่แหละค่ะ เข้าไปในงาน ยังเจอกับเจ้าแมนสรวงอยู่เลย ดิฉันเอง ที่เห็นว่าข้อศอกของเจ้าแมนสรวงมีบาดแผลเลือดไหลซึม” “แล้วยังไงต่อครับ” “เจ้าขวัญหล้าก็เลยให้ลูกชายกลับไปทำแผลค่ะ” “แล้วเจ้าองค์อินทร์กับคุณเอดการ์ดนั่นอยู่ในงานหรือเปล่าครับ” “ดิฉันไม่เห็นทอมมัสเลยค่ะ เจ้าองค์อินทร์ดิฉันไม่ทันสังเกตว่าเขาหายไปตอนไหนจนกระทั่งโชว์สุดท้าย เขาเข้ามาในงานพร้อม ๆ กัน”“งั้นก็แสดงว่า เจ้าองค์อินทร์ออกไปตามหาคุณเอดการ์ด ทอมมัส ตามคำให้การของเจ้าขวัญหล้า” นายตำรวจ บอกกับหมอเนตรดาวอย่างสุภาพ “ขอเชิญบันทึกถ้อยคำไว้เป็นพยานนะครับ คุณเป็นอะไรกับคนที่นี่ครับ” “ดิฉันเป็นหมอพิเศษมาดูแลอาการทางระบบประสาทของคุณเลอสรวงค่ะ” “เจ้าแมนสรวงเป็นยังไงบ้างคะ หมายถึงสุขภาพของเขา” ภาณินีถาม “ที่นี่ตอนกลางคืนอา

    Last Updated : 2024-12-12
  • สายน้ำในความทรงจำ   15. ปมแค้นของแมนสรวง

    ใกล้เข้าไปยิ่งเห็นคุ้มชัดขึ้น เจ้าเทพนรินทร์เลี้ยวรถเข้าที่จอด ท้าวศรีโสภางค์ลงรถมายืนรออยู่ก่อนแล้ว “ผู้หญิงบอบบางอย่างเจ้า ขับโฟร์วีล ดูไม่เข้ากันเลยนะครับ” เจ้าเทพนรินทร์กล่าวยิ้ม ๆ“น้องคุมงานไร่ยาสูบและไร่ชา เจ้าพี่ก็คงคิดไม่ถึงเหมือนกัน”“เจ้าย่าศรีบุญจันทร์เล่าว่า น้องเรียนจบเลขานุการมาไม่ใช่เหรอ”“ค่ะ แต่น้องก็ใช้วิชาเลขานุการกับงานที่นี่ได้ เจ้าพ่อของน้องเป็นผู้จัดการใหญ่ ส่วนเจ้าพี่ของน้องอีก 2 คน ก็ดูแลควบคุมการผลิต และการตลาด น้องเป็นเลขาของเจ้าพ่อยังไงล่ะคะ เชิญเจ้าพี่เข้าไปในคุ้ม น้องจะเรียนเจ้าย่ากับเจ้าพ่อ เจ้าพี่รับชาหอมหมื่นลี้ร้อน ๆ กับอาหารว่างรอไปก่อนนะคะ”“ครับ ขอบคุณ” ระหว่างรอเจ้าของบ้าน เจ้าเทพนรินทร์เดินไปรอบ ๆ ห้องรับแขก ตู้ไม้โบราณเก็บหนังสือเก่า ๆ น่าสนใจสำหรับเขา หนังสือเล่มหนึ่งถูกห่อหุ้มด้วยพลาสติกใส หน้าปกและเนื้อกระดาษอยู่ในสภาพสมบูรณ์ เว้นแต่ว่ามันมีสีเหลืองและกรอบแห้งแทบจะหลุดออกมาเป็นชิ้นเล็ก ๆ “สนใจหนังสือเล่มไหนอยู่ล่ะ หลานนรินทร์” ท้าวศรีบุญจันทร์ยืนเยื้องอยู่ด้านหลังท้าวศรีบุญจันทร์ในชุดผ้าทอยาวกรอมเท้า เสื้อคอปาด คลุมไหล่ ห่มด้วยผ้

    Last Updated : 2024-12-12
  • สายน้ำในความทรงจำ   16. คุณพระช่วย

    “มันแปลกตรงที่ ผมไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มาก่อน พวกเขาเปลี่ยนความคิดบางอย่างของผม”วันถัดมา เป็นวันที่เจ้าขวัญหล้าได้อาราธนานิมนต์ หลวงพ่ออุดมไปฉันภัตตาหารเพลที่คอนโดมีเนียมย่านสุขุมวิทเพื่อขอให้เทศน์โปรดเลอสรวงเจ้าองค์อินทร์ขับรถยนต์เล็กซัสสีดำ ป้ายแดง ไปรับภาณินีกับแก้วเก้าที่บ้าน ”วิริยนันท์” อธิคมเดินตามหลังออกมาส่งภรรยาและลูกสาว“สวัสดีครับ อาจารย์” เจ้าองค์อินทร์ก้าวลงจากรถ กล่าวทักทายเจ้าของบ้านอธิคมยังอยู่ในชุดนอน มือถือถ้วยกาแฟ ควันฉุย “สวัสดีครับ เจ้า...ช่วยดูแลหน่อยนะ”"เสร็จธุระแล้ว จะรีบพามาส่งเลยครับ” “โอ้ย! ไม่ต้องรีบหรอกคุณ” อธิคมโบกมือให้ภรรยาและลูกสาว “พ่อไปกับเราเถอะค่ะ... นะคะ” แก้วเก้าอ้อนพ่ออีกครั้ง “เมื่อคืน พ่อดื่มเป็นเพื่อนลุงกตหนักไปหน่อย ยังปวดหัวอยู่เลย ไปไม่ไหวจริง ๆ” “พ่อดื่มเหล้าเหรอคะ” แก้วเก้าขึ้นเสียงสูง “ไม่ได้ดื่มเหล้าหรอกน่า น้ำผลไม้” “น้ำผลไม้แล้วทำไมถึงเมาล่ะคะ ไม่ยอมนะเก้าไม่ให้ พ่อดื่ม” ภาณินีดึงมือลูกสาวขึ้นรถ “ไปกันเถอะลูก ต้องไปรับหลวงพ่ออีก พ่อของลูกดื่มไวน์เท่านั้นแหละ เมื่อคืนเราเลี้ยงวันเกิดป้าเนตรกัน”“พ่อนะ เก้าเผลอไม่ได้เ

    Last Updated : 2024-12-21
  • สายน้ำในความทรงจำ   17. ขวัญเอยขวัญมา

    “เอาน้ำมนต์ให้เขาดื่ม แล้วค่อย ๆ ปรับท่านั่งให้เขา ให้เอนนอนลงไปเลยก็ได้นะ” หลวงพ่อสั่งเจ้าองค์อินทร์ ที่เพิ่งก้าวเข้ามา พร้อมกับเจ้าขวัญสรวง “เจ้าขวัญหล้าล่ะ หายไปไหน”“เจ้าแม่ขอไปนอนพักรอในห้องค่ะ” เจ้าขวัญสรวงตอบ“ตักน้ำมนต์นี่เอาไปให้โยมแม่ดื่มด้วยเดี๋ยวนี้เลย” หลวงพ่อสั่งเจ้าขวัญสรวงเจ้าองค์อินทร์ตักน้ำมนต์ใส่แก้วส่งให้เจ้าขวัญสรวง “เจ้าป้าเอาไปให้เจ้าย่าดื่มนะครับ ของเลอสรวง ผมจะจัดการให้” ว่าแล้วเขาก็ประคองร่างน้องชาย และช่วยง้างปากออกพอที่จะดื่มน้ำจากขันได้ÿเจ้าขวัญสรวงออกมาจากห้องนอนของเจ้าขวัญหล้า พร้อมกับแก้วน้ำว่างเปล่า“ดื่มมั้ย” หลวงพ่อถาม“ดะ... ดื่มค่ะ” เจ้าขวัญสรวงตอบ“ดื่มแล้วเป็นอย่างไรบ้าง”“เจ้าแม่เป็นปกติดีค่ะ”หลวงพ่อขมวดคิ้ว ยังไม่คลายความสงสัย แต่แล้วก็พิจารณาเห็นวาระกรรมของสัตว์โลก “ดูแลโยมแม่ให้ดี มีเวลาเหลืออยู่แค่ปลายปีนี้”“หลวงพ่อพูดเหมือนกับเจ้าแม่เลยค่ะ ท่านบอกว่ารู้วันตายล่วงหน้าแล้ว อยากจะทำทุกอย่างให้เรียบร้อยและไปอย่างหมดกังวล”“เจริญพร ขอให้ได้สมปรารถนานะโยม”เลอสรวงลืมตาขึ้นอีกครั้ง สมองของเขารับรู้ภาพความเคลื่อนไหว และความรู้สึกชื้นเย็นที่เ

    Last Updated : 2024-12-21

Latest chapter

  • สายน้ำในความทรงจำ   59. สายน้ำกับความรัก

    เจ้าขวัญสรวง ดอกเตอร์อลงกต หมอเนตรดาว ภาณินี อธิคม เจ้าเทพนรินทร์และท้าวศรีโสภางค์ มาแสดงความยินดีกับเธอ เพื่อนทั้งชายและหญิงห้อมล้อมของถ่ายรูป สลับสับเปลี่ยนกันไปมาแก้วเก้าส่งปริญญาบัตรให้อธิคมและภาณินีชื่นชม ทั้งคู่เปิดออกอ่าน แล้วส่งต่อให้เจ้าองค์อินทร์ เขารับมาถือไว้กับตัว ภาณินีหรี่ตามองว่าที่ลูกเขย“เห็นมั้ยว่าพี่ส่งอะไรให้เจ้า”“ครับ” เจ้าองค์อินทร์ ถูกลูกศิษย์ภาคการละครดึงตัวไปถ่ายรูป พร้อม ๆ กับแก้วเก้า “อะไรนะครับอาจารย์”“หืม... จนป่านนี้ยังเรียกว่าพี่กับอาจารย์กันอยู่อีก” หมอเนตรดาวหัวเราะ ชวนทุกคนเข้าไปที่ห้องทำงานของอลงกตบนอาคารคณะศิลปกรรมอลงกตก็ถูกเชิญถ่ายรูปกับนิสิตเหมือนกัน จนทุกคนพอใจแล้ว อลงกตจับมือหลานสาวกลับมาที่ห้องทำงานของเขา เจ้าองค์อินทร์เดินตามมาด้วยกันเจ้าขวัญสรวงชราลงไปมาก แต่ก็คงความสดใส และมีความสุข เธอลุกขึ้นยืน เมื่อเห็นหลานชายเดินเข้ามา เจ้าองค์อินทร์กับแก้วเก้าต่างโผเข้าไปประคองและกอดด้วยความรักและคิดถึง&ldqu

  • สายน้ำในความทรงจำ   58. คู่หมั้นหายไป

    “นายปริญญายังมีไพ่ใบสุดท้ายอยู่กับตัวคือคุณวิชุดา หลวงพ่อยังไม่ปลอดภัยอยู่ดี”“คุณวิชุดาเป็นแม่ของพระองค์อินทร์ จะว่าไปเราก็เกี่ยวดองกับเธออยู่นะ”ภาณินีค้อนสามี“อุ้มกลัวผู้หญิงคนนี้นะคะ พูดถึงเรื่องหมั้นของลูกกับเจ้าองค์อินทร์ ของหมั้นไปอยู่กับหลวงพ่อเสียแล้ว หลวงพ่อบอกพี่คมหรือเปล่าว่าท่านเอาสร้อยไปทำไมคะ”“อืม ไม่ได้บอกอะไรเลย” อธิคมพับหนังสือพิมพ์สอดเก็บเข้าซอง“ท่านต้องมีเหตุผล แต่บอกเราไม่ได้”แก้วเก้าเลื่อนศีรษะที่หนุนหัวไหล่มารดาอยู่ เอาปากเข้าไปใกล้ ๆ กระซิบข้างหูของมารดาเบา ๆภาณินีพูดพึมพำตามที่ได้ยิน แก้วเก้ายกมือปิดปากมารดา เกรงว่ามารดาจะหลุดปากพูดให้ใครได้ยิน อธิคมเห็นภรรยาเบิกตาโพลง“เก้าบอกอะไรแม่ เก้ารู้ใช่มั้ยลูก..!”แก้วเก้าผงกศีรษะสองที แล้วหลับตาลงไปด้วยความอ่อนเพลีย ภาณินีกระซิบบอกต่อสามี“มณีแก้วเก้า คือ แก้วจุฬามณีบนพระนลาฎพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองเชียงรุ้งค่ะ”&ld

  • สายน้ำในความทรงจำ   57. สิ้นเจ้าแมนสรวง

    ปัง ! ปัง! ปัง!“ทางนั้น... เสียงมาจากทางนั้น…!” พระเทพนรินทร์ชี้มือไปข้างหน้า“ฟังดูดี ๆ เสียงปืนดังมาจากปืนคนละกระบอก แล้วก็เหมือนยิงขึ้นฟ้า มันลงมือขุดกันไปแล้วละมัง”เจ้าแมนสรวงผงกศีรษะ เขามองพระหนุ่มทั้ง 3 รูป“พวกเราไม่มีอาวุธเลย แล้วจะต่อสู้อย่างไร”“โยมน้า ไม่เคยได้ยินคำว่า ธรรมะชนะอธรรมเหรอครับ” พระเลอสรวงกล่าว ริมฝีปากเหยียดยิ้ม“น้าเคยได้ยิน เดินตามรอยเท้านั่นไป มันแบกลากอะไรเดินไปด้วย ดูสิ รอบ ๆ รถของมัน รอยเท้าของคนไม่เกิน 10 คนได้”“9 คนครับ หายไปคนหนึ่ง เพราะถูกตำรวจจับเมื่อเช้า” คำปันเดินตามมาส่ง จนพ้นแนวต้นไม้ หนา ๆ เห็นทางไปพระธาตุหลวงเวียงไชย “ตำรวจยึดปืนมันได้ มันยิงหลวงพ่ออุดมแล้ว แต่ปืนไม่ลั่น ผมคิดว่า พวกท่านก็ต้องปลอดภัยเหมือนกัน เพราะท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่ออุดม”“ไม่หรอกนะ คำปัน แต่ละคนก็มีกรรมเป็นของ ๆ ตน เอาล่ะ ส่งแค่นี้ โยมเข้าไปรออยู่ในรถ เราจะเข

  • สายน้ำในความทรงจำ   56. แก้วจุฬามณี

    บานประตูห้องด้านขวา ขยับเปิดออก พระองค์อินทร์ยกขาก้าวให้พ้นขอบประตูซึ่งยกขึ้นมาสูงระดับครึ่งหน้าแข้งของเขา แก้วเก้าเห็นเป็นพระองค์อินทร์ก็ก้มหน้าลงมองพื้นกระดาน“โยม... นี่ กุญแจห้องนั้น” “คะ” แก้วเก้ารู้สึกกลัวขึ้นมา “ทำไมเก้าต้องไปอยู่ที่นั่นคนเดียวด้วย”พระองค์อินทร์ยิ้มปลอบใจ“หลวงพี่ล่ะคะ หลวงพี่อยู่ที่ไหน”“อาตมาอยู่ที่นี่”“ห้ามสีกาเข้ามาข้างใน แล้วทำไมเก้าเข้ามาได้ล่ะคะ”“ห้องนี้ต่างหากที่โยมเข้ามาไม่ได้” หลวงปู่สิงห์ เจ้าอาวาสยืนประสานมือไขว้ สำรวมกายอยู่ด้านหลังของแก้วเก้า“ส่วนห้องนั้น เป็นที่ประทับของเจ้านางในคุ้มหลวง ยามที่ท่านมาปฏิบัติธรรม เป็นสมบัติตกทอดของเชียงรุ้ง อาตมาให้ยกมาจากห้องใต้ดิน ใต้ฐานองค์พระธาตุหลวงเวียงไชย”หลวงปู่สิงห์เดินไปเปิดห้องด้านซ้ายเอง ท่านมองแก้วเก้า แล้วเรียกให้เธอเข้าไปแก้วเก้าลุกขึ้น หลวงปู่สิงห์ถอยห

  • สายน้ำในความทรงจำ   55. นักล่าสมบัติ

    “ค่ะ” หมอเนตรดาว ฉวยกระเป๋าถือ พยักหน้าเรียกภาณินีให้ไปด้วยกันอธิคมยิ้มให้กำลังใจภรรยา “ไปก่อนเถอะจ้ะ เดี๋ยวพี่ตามไป ตอนเช้าจะได้พบลูกแล้วนะ”ภาณินียกมือโบกลา แล้วเดินตามพี่สะใภ้ไปขึ้นรถตู้อลงกต อธิคม และชัยยศ นั่งคุยกันต่อ พวกเขาชวนกันไป สำรวจตลาดบ้านแม่ปิน ใกล้ ๆ โมเต็ลที่คนพวกนั้นพักÿชายหนุ่มทั้ง 3 คน ออกไปเดินคุยกันข้างนอกบริเวณที่พัก “ผมกับภรรยาเคยมาทำงานวิจัยที่นี่เมื่อหลายสิบปีก่อน งานวิจัยของเรา อาจชักนำให้คนพวกนี้อยากมาขุดหาของโบราณของเก่า”อธิคมเริ่มเล่าเรื่องหลวงพ่ออุดม เถ้าแก่ซ้ง แซ่สุน อดีตเจ้าของโรงสี ปากน้ำโพธิ์ ให้ชัยยศฟังคร่าว ๆ เป็นข้อมูลว่าเรื่องนี้มีที่มาที่ไปและอาจเกี่ยวข้องกับคน 10 คนนั้น“พี่กต คุณชัยยศครับ เราต้องเข้าไปที่นั่นก่อนพวกมัน ถ้าไปทีหลัง อาจเตือนชาวบ้านไม่ทัน” อธิคมแสดงอาการวิตกกังวลมากขึ้น“ค่ำแล้ว ไปไม่ได้หรอก นอกจากจะไปเช้า แต่ถ้าเราเข้าไปข้างใน ก็จะไม่ได้เจอกับหลานตอนเช้า นอกจากแบ่งกัน แล้วใครจะอย

  • สายน้ำในความทรงจำ   54. เพื่อนเก่าปมแค้น

    “ฟังปะป๊านะ ปูเป้ ตั้งสติให้ดี ๆ เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดเป็นครั้งแรกกับครอบครัวของเรา อากงก็เคยถูกตำรวจจับตัวออกจากบ้าน ทิ้งกิจการทั้งหมดอาม่าเป็นคนดูแลจนตกทอดมาอถึงปะป๊า คราวนี้ก็เหมือนกันถึงปะป๊าจะไม่อยู่ ปูเป้ต้องดูแลกิจการต่อไปและต้องเป็นผู้ใหญ่นะ ไม่งั้นจะบริหารกิจการและสั่งใช้คนในบ้านไม่ได้”“แล้วปะป๊าทำผิดจริง ๆ หรือเปล่า บอกหนูมาตรง ๆ สิคะ”“ป๊า เฮ้ย! อย่ารู้เลย”ปรินดาคิดหาทางช่วยเหลือบิดา “นรินทร์กับคุณป้าวิชุดาต้องช่วยปะป๊าได้ ”“ไม่ได้นะ” เสียงตวาด ทำเอาปรินดาตกใจ“ทำไมปะป๊าต้องทำเสียงดังอย่างนั้นด้วย ปูเป้เป็นห่วงปะป๊านะ” ปรินดาหน้าแดง รู้สึกโกรธและงอนบิดาระคนกัน “ลุงสมิธ เป็นลุงของนรินทร์กับอินดี้ แล้วปะป๊าไปเกี่ยวข้องกับเขายังไง ถึงกลายเป็นผู้ต้องสงสัยฆ่าเขาล่ะคะ”“มันเข้าใจผิดกันไปเอง” ปริญญาควักบุหรี่มาจุดแล้วสูบอัดควันเข้าปอดแรง ๆ แต่ลูกสาวปรี่เข้ามาคว้าแล้วขว้างทิ้ง “หมอสั่งห้ามแล้ว ปะป๊าย

  • สายน้ำในความทรงจำ   53. ธรรมจาริก

    “พ่อ พ่อ...ขอโทษนะองค์อินทร์” เจ้าเทพนรินทร์รู้สึกเต็มตื้นอยู่ในหัวใจ เจ้าองค์อินทร์สมควรจะได้รับการโอบกอดที่อบอุ่นจากเจ้าแมนสรวงมากกว่าเขาซึ่งเป็นเพียงลูกเลี้ยง“พี่ชายเป็นตัวจริงมาตลอด เป็นลูกของเจ้าพ่อกับคุณแม่วิชุดาจริงแท้ ผมหวังว่า สิ่งที่ผมทำลงไปจะทำให้ความผิดในใจของผมเกี่ยวกับเรื่องนี้ลดทอนลงได้บ้าง” เจ้าเทพนรินทร์เอ่ย“นรินทร์ ลูกไม่ผิด ไม่ใช่ความผิดของลูกเลย เป็นพ่อเอง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับลูก พ่อขอบใจที่แม้เมื่อรู้ความจริง ลูกยังไม่ทอดทิ้งพ่อ แต่พ่ออยากจะขอร้อง”“เจ้าพ่อจะขอร้องอะไรครับ” เจ้าเทพนรินทร์ถามอย่างอ่อนโยน“ลูกควรกลับไปดูแลแม่บ้าง” สายตาอ้อนวอนของเจ้าแมนสรวง“ครับ” เจ้าเทพนรินทร์รับปาก “ถ้าแม่ยังต้องการผมนะครับ”“ศรีโสภางค์ประสบอุบัติเหตุเมื่อวาน นรินทร์ทราบเรื่องนี้หรือยัง” พระองค์อินทร์ถาม“ผมทราบแล้วครับ เจ้าป้าขวัญสรวงบอกว่า ตอนนี้เธอกลับไปพักรักษาตัวอยู่ที่คุ้มมิ่งเมืองแล้ว&rdq

  • สายน้ำในความทรงจำ   52. หลานหลวงตา

    “เจ้าครับ ผมจะลองให้ญาติ ๆ ช่วยสืบว่าพวกมันเข้าไปทำอะไรที่เวียงไชย”“ทำเงียบ ๆ อย่าให้เอิกเกริก ผมเพียงรู้สึกสังหรณ์ใจว่าคนพวกนั้นกำลังจะทำเรื่องไม่ดี” พระองค์อินทร์สอดแผ่นกระดาษเข้าช่องเก็บของด้านหน้ารถ แล้วเอนหลังพิงพนักเต็มตัว เขาปิดเปลือกตาแล้วสูดลมหายใจยาว เปรยกับคำปันว่า “ถึงกรุงเทพพอจะมีเวลานิดหน่อยให้ทุกคนได้อาบน้ำเปลี่ยนเครื่องแต่งตัว แล้วไปร่วมงานบวชของเลอสรวงที่วัดคลองขนุน พอเสร็จพิธีแล้ว คำปันพาพวกท่านกลับคอนโดเลยนะ”ÿหลังคาโบสถ์วัดคลองขนุน โผล่พ้นทิวสวนผลไม้อยู่ข้างหน้า แสงอาทิตย์สาดสีเงินส่องช่อระกาและหางหงส์ ภายในโบสถ์นั้นพระองค์อินทร์กราบถวายตัวกับหลวงพ่ออุดมตามคำสั่งของหลวงปู่บุญมาผู้เป็นพระอุปัชฌาย์แก้วเก้านั่งพับเพียบเอี้ยมเฟี้ยมอยู่ห่าง ๆ เธอลอบมองเลอสรวงซึ่งโกนศีรษะและสวมชุดขาวเตรียมจะเข้าอุปสมบทในเช้าวันนี้ ตั้งใจจะมอบสร้อยมณีนพรัตน์ให้เขา “แก้วเก้า ผมต้องขอโทษคุณอีกครั้ง มีอะ

  • สายน้ำในความทรงจำ   51. กลุ่มคนน่าสงสัย

    “ไม่มีทางกลับคำพวกคนจีนได้หรอกนะ พวกนั้นน่ะมืออาชีพ และก็เจ้าเล่ห์มาก”“เหรอครับ” เจ้าเทพนรินทร์ถามกลับ “พวกนั้นเทือกเถาเหล่ากอเดียวกันกับนายปริญญา คุณจึงรู้นิสัยเป็นอย่างดีสินะครับ”“นรินทร์!” วิชุดาถลึงตา ริมฝีปากบาง เหยียดเป็นเส้นตรง กำมือทั้งสองแน่น ตัวสั่นด้วยความโกรธ “ใช่! ฉันรู้จักเขาดี แล้วแกก็ควรจะทำตัวเสียใหม่นะ ให้รู้ซะบ้าง ใครคือคนที่แกควรจะนับถือเป็นพ่อ”“ผมรู้ตัวอยู่เสมอ ... แล้วผมก็เคารพนับถือเจ้าพ่อของผมมาตั้งแต่จำความได้ ไม่มีใครแทนที่เขาได้” ริมฝีปากหยักสวยได้รูปยิ้มนิด ๆ น้ำเสียงเรียบ ถ้อยคำเชือดเฉือน เสมือนเยาะหยัน ทำเอาอีกฝ่ายอารมณ์โกรธเดือดปุด ๆ“แกจะเป็นศัตรูกับพ่อและแม่ของแกเหรอนรินทร์”“เอ...ไม่นี่ครับ ผมเป็นทนายความสู้คดีให้เจ้าพ่อ แล้วผมจะเป็นศัตรูกับท่านทำไม คุณเข้าใจผิดแล้ว ถ้าไม่มีอะไร ขอตัวนะครับ ผมกับท่านผู้พิพากษาต้องหารือกันต่อ” เจ้าเทพนรินทร์หันหลังกลับ โบกมือทักทายกับบุรุษที่กำลังเดินผ่านระหว่างทางเดิน ในระ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status