รถยนต์คันหนึ่งแล่นอยู่บนถนน ภายในรถคือหลิวจิ้งหมิง เจ้าบริษัทผลิตสุราและส่งออกเยว่จิ่ว และ หลิวชิวเยว่ลูกสาวคนเดียวของเขา วันนี้เป็นวันครบรอบการก่อตั้งบริษัทผลิตสุราเยว่จิ่ว ลูกหลานทุกคนในตระกูลหลิวต้องไปสักการะศาลบรรพชน ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเฟินหยาง มณฑลซานซี
เมื่อห้าสิบปีที่แล้วหลิวชิงบิดาของหลิวจิ้งหมิง ได้ตั้งบริษัทผลิตสุราและส่งออกจำหน่ายทั้งภายในและนอกประเทศ กิจการสืบทอดมาจนถึงรุ่นของหลิวจิ้งหมิง
“เยว่เยว่ ไม่คิดจะมองใครสักคนหรือลูก”
หลิวจิ้งหมิงเปรยขึ้นระหว่างทางที่กำลังนั่งรถ เขามองลูกสาววัยยี่สิบห้าปีของตนเองด้วยสายตาห่วงใย ลูกสาวบ้านอื่นอายุเท่านี้มีหลานให้อุ้มสองสามคนแล้ว แต่ลูกสาวของเขายังไร้วี่แววชายข้างกาย
“หนูยังไม่รีบหรอกค่ะพ่อ ยังหาคนตรงสเปคไม่ได้”
หลิวชิวเยว่ตอบอย่างขอไปที หญิงสาวถือว่าตัวเองเก่งและยังหน้าตาดี มีฐานะมั่งคั่งเป็นทายาทคนเดียวของมหาเศรษฐี จึงหยิ่งทระนง ผู้ชายคนไหนก็ไม่เข้าตาสักคน
“เยว่เยว่ ลูกอายุยี่สิบห้าแล้วนะ ตอนแม่ของลูกอายุเท่านี้ก็มีหนูแล้ว พ่ออยากอุ้มหลานสักคน”
“พ่อคะ ถ้าพ่ออยากอุ้มหลานจริงๆ ไว้หนูปรึกษาหมอหาวิธีทางการแพทย์ เลือกสเปิร์มจากผู้ชายสักคนมาเป็นพ่อพันธุ์”
ความคิดของลูกสาว ทำเอาท่านประธานหลิวถึงกับถอนหายใจออกมา เขาส่งลูกสาวไปเรียนต่างแดนจนซึมซับแนวคิดของสตรีตะวันตกมาเต็มที่ การจับคลุมถุงชนแต่งงานคงไม่ใช่เรื่องง่าย
“เยว่เยว่ ผู้หญิงควรมีสามีไว้ดูแลปกป้องนะ ถ้าเกิดพ่อตายไปใครจะมาดูแลลูก”
“หนูดูแลตัวเองได้ค่ะ แค่มีเงินและมีสมอง ก็อยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งผู้ชายแล้ว”
“ ถึงยังไงลูกต้องแต่งงาน พ่อจะให้ลูกไปดูตัวกับคนที่พ่อหมายตาไว้ ”
“พ่อคะ หนูไม่...”
เอี๊ยด!
หลิวชิวเยว่ยังไม่ทันได้ปฏิเสธ คนขับรถก็เหยียบเบรกกระทันหัน สองพ่อลูกหันไปมองถนนก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นรถบรรทุกคันใหญ่จอดขวางทางอยู่
“นายท่านครับ ท่าทางไม่ดีแล้วครับ”
คนขับรถหันมาบอกเจ้านายแล้วถอยรถออกมา แต่ไม่ทันจะไปได้ไกลก็มีรถบรรทุกอีกคันจอดขวางปิดท้ายไว้ สองพ่อลูกมองหน้ากันรับรู้ถึงอันตราย พวกเขาทำธุรกิจใช่ว่าจะไม่เคยขัดแย้งกับใคร ครั้งนี้ไม่รู้ไปเหยียบตาปลาใครเข้า
“นายท่าน คุณหนู รีบลงจากรถก่อนครับ ไม่ไกลจากนี้มีหมู่บ้านอาจจะขอความช่วยเหลือได้”
“อาจง แกก็ระวังตัวด้วย”
หลิวจิ้งหมิงตบไหล่คนขับรถ แล้วจับแขนลูกสาวพาลงจากรถ วิ่งไปยังป่ารกข้างทางทันที
“พ่อคะ พวกมันเป็นใครกันคะ”
หลิวชิวเยว่หันมาถามบิดา ขณะซอยเท้าพากันหลบหนีการไล่ล่า เสียงปืนดังก้องขึ้นอยู่ด้านหลังอาจงคนขับรถไม่รู้จะเอาตัวรอดได้หรือไม่ ตอนนี้ไม่มีเวลาห่วงใครนอกจากความปลอดภัยของตัวเองกับบิดา
“พ่อก็ไม่รู้เหมือนกัน รีบวิ่งเถอะพวกมันใกล้เข้ามาแล้ว”
หลิวจิ้งหมิงจับมือลูกสาวไว้ พยายามเร่งฝีเท้าไปให้ไกลจากที่นั่นให้มากที่สุด ขณะเดียวกันก็รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาบริเวณอกข้างซ้าย บ่งบอกว่าโรคหัวใจของเขากำลังจะกำเริบ ได้แต่ฝืนทนพาตัวเองวิ่งไป
เปรี้ยง!
เสียงปืนและเสียงฝีเท้าไล่ตามมาไม่ห่าง กระสุนร้อนๆ ถูกยิงมายังด้านหลังของสองพ่อลูก นัดหนึ่งแล่นไปเจาะเข้าตรงแผ่นหลังของหลิวจิ้งหมิงทำให้เขาเสียหลักล้มลง ฉุดให้ลูกสาวพลอยล้มตาม
โอ๊ย!
เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้น
“พ่อคะ พ่อเป็นยังไงบ้าง”
หลิวชิวเยว่ประคองบิดาให้ลุกขึ้นนั่ง มือกดบาดแผลห้ามเลือดที่กำลังไหลออกมาไว้ หลิวจิ้งหมิงหอบหายใจแรงสีหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด
“รีบหนีไป ไม่ต้องห่วงพ่อ หนูต้องรอด”
“ไม่นะคะ เราต้องไปด้วยกัน”
หลิวชิวเยว่ส่ายหน้า พยายามลากร่างหนักอึ้งของบิดาพาไปด้วย แต่ก็ไปได้ไม่กี่ก้าว คนร้ายก็ตามมาทัน พวกมันมีด้วยกันสี่คน เข้ามาล้อมทั้งสองไว้
“เอาตัวพวกมันไปที่หน้าผา!”
หัวหน้ามือสังหารสั่งการ ใบหน้าของเขามีผ้าปกปิดไว้ เห็นเพียงดวงตาเท่านั้น เสียงที่ได้ยินคุ้นหูสองพ่อลูกมาก หลิวชิวเยว่กับหลิวจิ้งหมิงถูกพามายังหน้าผา หลิวจิ้งหมิงเลือดไหลท่วมหอบหายใจใกล้จะหมดแรง ในขณะที่หลิวชิวเยว่พยายามสงบใจไม่ดิ้นรนให้เปลืองแรง
“แกเป็นใคร ทำไมถึงทำร้ายพวกเรา”
หลิวชิวเยว่เอ่ยถาม ต้องการรู้ว่าคนที่ทำร้ายพวกเธอสองพ่อลูกเป็นใคร หากตายไปจะได้ทวงแค้นได้ถูกคน ตอนนี้สภาพของเธอกับพ่อไร้หนทางรอดแล้ว
“อยากรู้นักใช่ไหม ได้สิ... ฉันจะให้รู้ก่อนตาย”
ผ้าปิดหน้าถูกดึงออกเผยให้เห็นใบหน้าที่ซ่อนอยู่ หลิวชิวเยว่เบิกตากว้าง หลิวจิ้งหมิงเองแทบไม่เชื่อสายตา
“เป็นแก...”
หลิวชิวเยว่ครางในคอด้วยความผิดหวัง ไม่นึกว่าคนที่คิดฆ่าเธอกับพ่อจะเป็นคนคนนี้
“แกมันสารเลว ไอ้คนเนรคุณ!”
หลิวจิ้งหมิงด่าทอคนตรงหน้าด้วยความแค้นใจ เขาโง่เองที่เอางูพาตัวนี้มาไว้ใกล้ตัว จนมันมีโอกาสทำร้ายเขากับลูกในวันนี้
“คนสารเลว คนเนรคุณคนนี้ จะขอดูแลตระกูลหลิวและบริษัทเยว่จิ่วเอง หึ โยนมันลงไป!”
ชายสองคนลากตัวหลิวจิ้งหมิงไปยังขอบหน้าผา หลิวชิวเยว่พยายามดิ้นรนเพื่อช่วยบิดาสะบัดจนหลุด ยื่นมือไปจับไว้ได้ทันก่อนจะร่วงลงไป ร่างของหลิวจิ้งหมิง ห้อยอยู่ขอบหน้าผา
“เยว่เยว่ ปล่อยมือ”
คนเป็นพ่อร้องบอกลูกสาว เมื่อเห็นนรกรออยู่เบื้องล่าง ไม่ต้องการให้ลูกต้องหล่นร่วงลงไปพร้อมกัน แต่หลิวชิวเยว่ไม่ยอมปล่อย
“พ่อคะ จับไว้แน่นๆ นะคะ หนูจะช่วยพ่อ”
ด้านหลังกลุ่มคนร้ายมองดูฉากนี้ด้วยสายตาเย็นชา คนเป็นหัวหน้าหันไปสบตากับลูกสมุน ก่อนที่หนึ่งในสามคน จะขยับไปด้านหลังของหลิวชิวเยว่
เปรี้ยง !
เสียงปืนดังลั่นขึ้น หลิวชิวเยว่สะดุ้งเฮือก มือของเธอหลุดจากอุ้งมือของบิดา มีบางสิ่งกระชากร่างกายของเธอ พร้อมกับความมืดที่กำลังคลุมไปทั่วร่างกาย ความหวาดกลัววูบเข้ามาในหัว มีความรู้สึกว่าร่างกายของเธอกลายเป็นลูกข่างหมุนติ้ว ก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบลงไป
...
ตอนที่2. เจ้าสาวของท่านแม่ทัพเสิ่น/1 แคว้นชิงเป่ย คฤหาสน์ตระกูลหลิว “แต่งงาน! ... ข้าฟังไม่ผิดใช่ไหมท่านพ่อ” เสียงหวานใสของสตรีร่างอวบอ้วนผู้มีน้ำหนักตัวมากกว่าสองร้อยจินอุทานขึ้นมา ร่างเต็มไปด้วยไขมันสั่นระริกด้วยความตื่นเต้น จนบิดาต้องรีบเอ่ยย้ำให้บุตรีเจ้าเนื้อฟังอีกรอบ “ใช่เจ้าฟังไม่ผิดหรอก อีกหนึ่งเดือนข้างหน้านี้ เจ้าจะต้องออกเรือนไปเป็นฮูหยินของท่านแม่ทัพเสิ่นมู่ฉือ” หลิวกวานบอกบุตรสาว น้ำเสียงแสดงออกชัดเจนว่าดีใจยิ่งนัก เมื่อคนจากในวังหลวงได้นำพระราชโองการของฮ่องเต้แคว้นชิงเป่ยมาแจ้งให้ตนทราบว่า บุตรีได้รับคัดเลือกให้แต่งงานกับแม่ทัพเสิ่นมู่ฉือ“คนผู้นี้ มิใช่เป็นพวกชอบตัดแขนเสื้อหรือเจ้าคะท่านพ่อ”ผู้เป็นบุตรีเอ่ยท้วงขึ้น ความดีใจลดฮวบลงเมื่อรู้ชื่อเจ้าบ่าว แม่ทัพหนุ่มผู้นี้เก่งกาจอาจหาญยิ่งทว่า... เขากลับมีข่าวลือว่าชมชอบบุรุษด้วยกัน“เจ้าไปฟังคำพูดพร่อยๆ เช่นนี้ มาจากผู้ใด” หลิวกวานตำหนิบุตรสาว สายตามองไปรอบ ๆ ด้วยเกรงว่าจะมีผู้ใดมาได้ยินคำพูดของนางเข้า แม่ทัพหนุ่มผู้นี้ได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้แคว้นชิงเป่ย จึงได้พระราชทานสมรสให้เขา“ผู้คนมากมายล้วนเอ่ยถ
ตอนที่ 3.เจ้าสาวของท่านแม่ทัพเสิ่น/2เสียงร้องดังขึ้นด้วยความตกใจทำให้ผู้คนที่พากันมารอดูขบวนงานแต่ง พากันขยับเข้ามาใกล้ หลิงเอ๋อเปิดม่านกั้นเกี้ยวเจ้าสาวเข้าไปดูคุณหนูของตน ร่างอ้วนท้วนเอียงซบขอบด้านข้างของเกี้ยวนิ่งสงบในท่านั้น นางรีบเข้าไปจับแขนบีบนวดพร้อมเรียกชื่อคุณหนูด้วยความตกใจ “คุณหนูเจ้าคะ เป็นอะไรไปเจ้าคะ!” “ให้ข้าดูนางก่อน เจ้ารีบไปบอกนายท่านให้ตามท่านหมอ” แม่นมฉีรีบเข้าไปดูอาการของคนในเกี้ยว ความวุ่นวายนี้ทำให้ขบวนงานแต่งยังไม่สามารถเคลื่อนออกจากหน้าจวนบ้านเจ้าสาวได้ ผู้คนที่มุงอยู่โดยรอบต่างเริ่มซุบซิบถึงเจ้าสาว “คุณหนูหลิวมีวาสนา หรือแม่ทัพเสิ่นตาบอดกันแน่ ถึงเลือกสตรีเช่นนางมาเป็นฮูหยิน” หญิงคนหนึ่งมีไฝเม็ดเล็กใต้ริมฝีปากล่างด้านซ้ายเอ่ยขึ้น ทำให้คนที่มุงดูขยับมาลอบฟังใกล้ๆ เรื่องนินทานั้นผู้คนล้วนสนใจ “ในปีนั้นภรรยาคหบดีหลิวให้กำเนิดบุตร ท้องฟ้าเกิดอาเพศสุนัขเทพกลืนจันทร์ ดวงจันทร์ถูกเงามืดดับแสง คุณหนูหลิวคลอดออกมาในเวลานั้นพร้อมกลืนกินชีวิตมารดา อีกทั้งยังร้องไห้เจ็ดวันเจ็ดคืนมิยอมหยุด ซินแสมีชื่อท่านหนึ่งได้ให้คำแนะนำท่านหลิวว่า ให้ยกบุตรีเป็นบุตรบุญธรรมของเ
ตอนที่ 4. หรือสามีข้าเป็นชายผู้ชอบตัดแขนเสื้อ/1เนื่องจากเจ้าบ่าวเป็นกำพร้าไร้ซึ่งบิดามารดา พิธีไหว้ฟ้าดินจึงจัดอย่างเรียบง่าย ร่างอ้วนกลมของหลิวชิวเยว่ถูกแม่นมฉีกับหลิงเอ๋อประคองมาทำพิธี ทางฝ่ายเจ้าบ่าวไม่เคร่งครัดนัก ยอมให้คนช่วยประคองเจ้าสาวจนจบพิธี จากนั้นคนรับใช้ทั้งสองได้พาเจ้าสาวไปยังเรือนหอ “คุณหนูหิวไหมเจ้าคะ” แม่นมฉีเอ่ยถาม มองร่างของเจ้าสาวที่กำลังนั่งรออยู่บนเตียงวิวาห์ด้วยความตื้นตันใจ นางเลี้ยงดูหลิวชิวเยว่มาตั้งแต่แรกคลอด บัดนี้คุณหนูของนางออกเรือนแล้ว “ฉัน... เอ่อ ข้าหิว ช่วยหาอะไรมาให้กินหน่อย” หลิวชิวเยว่ต้องเปลี่ยนสรรพการพูดของตนให้เข้ากับคนยุคนี้ หลังจากตั้งสติได้ก็คิดทบทวนมาตลอดทางที่นั่งอยู่บนเกี้ยวเจ้าสาว จำต้องยอมรับสภาพว่าตนเองได้เกิดใหม่ในร่างคนในอดีตหากจำไม่ผิดเจ้าของร่างนี้คือบรรพบุรุษของตระกูลหลิวนามว่า หลิวชิวเยว่ !ในบันทึกของตระกูล ได้กล่าวถึงความสามารถมากมายของท่านบรรพบุรุษ หลิวชิวเยว่นั้นเกิดในวันเดือนเดียวกับท่านบรรพบุรุษจึงได้ชื่อนี้มา นางเป็นทายาทรุ่นปัจจุบันของตระกูลหลิว เจ้าของบริษัทผลิตและส่งออกสุรา เยว่จิ่ว เหตุใดตัวนางถึงข้ามมิติมาสวมร
ตอนที่ 5. หรือสามีข้าเป็นชายผู้ชอบตัดแขนเสื้อ/2หลิวชิวเยว่เลิกผ้าห่มทิ้งตัวลงนอนคลุมผ้าไว้ หันหลังให้คนที่นอนฝั่งตรงข้าม กิริยานั้นทำให้เจ้าบ่าวหมาดๆ ลอบถอนหายใจ เมื่อเดือนก่อน ฮ่องเต้ได้ยินข่าวลือไม่ดีไม่งามเกี่ยวกับเขา เพื่อปกป้องเกียรติของแม่ทัพคนสนิท จึงประทานสมรสพระราชทาน เสิ่นมู่ฉือไม่อาจขัดพระประสงค์ได้ จำต้องเลือกสตรีนางหนึ่งมาเป็นภรรยา เขาตั้งข้อแม้ว่าภรรยาที่ตนเลือกนั้นต้องไม่เป็นสตรีจากตระกูลขุนนาง ฮ่องเต้ยินยอมด้วยรู้ว่าเขาเป็นคนตงฉินไม่ชอบเล่นพรรคเล่นพวก และไม่ต้องการเกี่ยวพันกับตระกูลขุนนางใหญ่ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดี ไม่สร้างความหวาดระแวงให้กับฮ่องเต้ แม่สื่อนำรายชื่อหญิงสาวจากตระกูลต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับขุนนางส่งเข้าไปในจวนแม่ทัพใหญ่ ชะตาลิขิตให้เขาเลือกบุตรีของคหบดีหลิวมาเป็นเจ้าสาว ขะ คร่อก ฟี้ ขะ คร่อก ฟี้ ! เสียงบางอย่างดังขึ้น ดึงให้เสิ่นมู่ฉือหลุดจากภวังค์ หันไปมองร่างกลมบนเตียงวิวาห์ ต้นเสียงดังมาจากร่างของฮูหยินของเขา คราแรกเสียงนั้นดังเป็นจังหวะเนิบช้า ก่อนจะทวีความดังขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับจังหวะลมหายใจที่ดังต่อเนื่อง จนเสียงสะท้อนไปทั่วห้อง ใบหน้าของเสิ
ตอนที่ 6. หรือสามีข้าเป็นชายผู้ชอบตัดแขนเสื้อ/3หลิวชิวเยว่ไหววูบในใจ นึกถึงการกระทำเมื่อคำคืนที่ผ่านมาของเขาหรือว่าสามีของข้าจะเป็น... พวกชอบตัดแขนเสื้อ ! นึกทบทวนดูก็เริ่มมีความรู้สึกโน้มเอียงว่า ข่าวลือนั้นอาจจะมีมูลความจริง เมื่อคืนที่ผ่านมาเสิ่นมู่ฉือไม่แม้แต่แตะต้องเจ้าสาวของตัวเองแม้แต่ปลายก้อย ในจวนบ่าวรับใช้คนสนิทข้างกายล้วนมีแต่บุรุษ หลิวชิวเยว่มองบ่าวรับใช้ทีละคนอย่างสำรวจ เมื่อมองจนครบทุกคนก็ลอบถอนหายใจ บุรุษในจวนนี้ล้วนหน้าตาดียิ่ง! “ท่านพ่อบ้าน ข้าคิดว่าควรจะหาบ่าวผู้หญิงมาทำงานรับใช้เพิ่มอีกสักสามสี่คน งานบางอย่างบุรุษอาจจะทำไม่ได้” หลิวชิวเยว่ลองเกริ่นขึ้นมา สีหน้าของพ่อบ้านหวังเมื่อได้ยินแสดงอาการอึดอัดใจออกมา กล่าวขึ้นว่า “เรียนฮูหยิน งานในจวนไม่ได้มีมากมายจนล้นมือ บ่าวรับใช้ในจวนล้วนมากพอต่องานแล้ว” “เมื่อเช้าพวกเราไม่มีคนช่วยยกถังน้ำเข้าไปในเรือน บ่าวรับใช้ล้วนแต่เป็นบุรุษ ไม่อาจให้เข้าไปในเรือนได้” แม่นมฉีเอ่ยขึ้น พวกนางอยู่ที่จวนคหบดีหลิว หน้าที่ขนน้ำล้วนมีบ่าวรับใช้ผู้หญิงเป็นคนทำหน้าที่นี้ “วันหลังหากแม่นมต้องการคนช่วยขนน้ำ รบกวนบอกข้าก่อน ข้าจะให้
ตอนที่7. การหมักสุราเป็นเรื่องง่าย พิชิตใจแม่ทัพยากกว่า แสงแรกของรุ่งอรุณสาดส่องเข้ามาภายในห้อง ใต้ผ้าห่มร่างกลมของหลิวชิวเยว่นอนหลับอยู่ แม่นมฉีเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับหลิงเอ๋อที่ยกอ่างน้ำร้อนมาวางไว้บนโต๊ะ วันนี้คุณหนูต้องกลับไปเยี่ยมบ้าน พวกนางจึงเข้ามาปลุกคุณหนูให้ตื่นมาเตรียมตัว ทั้งสองมองไปยังเตียงนอนพบเพียงร่างกลมนอนอยู่เพียงลำพัง แม่ทัพเสิ่นจัดให้หลิวชิวเยว่พักอยู่เรือนบุปผาทางด้านหลังของจวน หลายคืนที่ผ่านมาคุณหนูของพวกนางต้องนอนเพียงคนเดียว ไร้เงาของผู้เป็นสามี“คุณหนูเจ้าคะ ตื่นเถอะเจ้าค่ะ” เสียงเรียกทำให้คนที่กำลังนอนหลับงัวเงียตื่นขึ้นมา ร่างอ้วนขยับลืมตาขึ้นแล้วก็หลับตาลงหันหลังให้ไม่อยากตื่น แม่นมฉีจึงเขย่าปลุกอีกหน “วันนี้ต้องกลับไปเยี่ยมท่านพ่อท่านแม่นะเจ้าคะ” เมื่อได้ยินแบบนี้หลิวชิวเยว่ก็พลิกตัวลืมตาขึ้นมอง ยอมลุกไปล้างหน้าแต่งตัว “หลิงเอ๋อ เจ้าไปเรียนท่านพี่ด้วยว่า วันนี้พวกเราจะไปเยี่ยมท่านพ่อท่านแม่” หลิวชิวเยว่สั่งการสาวใช้ หลิงเอ๋อรับคำแล้วเดินออกไปยังเรือนด้านหน้า ใช้เวลาไปครู่หนึ่งก็กลับมารายงานผู้เป็นนายว่า “ท่านแม่ทัพให้มาเรียนคุณหนูว่า
ตอนที่ 8.การหมักสุราเป็นเรื่องง่าย พิชิตใจแม่ทัพยากกว่า/2"รสชาติรุนแรง บาดคอเหลือเกิน"สุราในสมัยนี้ช่างรสชาติป่าเถื่อนสิ้นดี หลิวชิวเยว่ลิ้มรสสุรารสชาติดีมาตลอดชีวิต จึงรู้สึกทนไม่ไหว "แม่นมฉี ในครัวมีน้ำตาลกรวดหรือไม่""มีเจ้าค่ะ""เช่นนั้นนำมาให้ข้าสักชั่ง แล้วนำไหเปล่ามาให้ข้าใบหนึ่งด้วย หลิงเอ๋อหลังเรือนต้นกุ้ยกำลังออกดอก เจ้าไปเก็บดอกกุ้ยให้ข้า ตอนเก็บเบามือสักหน่อยระวังกลีบจะช้ำ ข้าต้องการสักตะกร้า""เจ้าค่ะ"ทั้งสองรับคำ แล้วแยกย้ายกันทำตามคำสั่ง ครู่ต่อมา แม่นมฉีก็กลับมาพร้อมน้ำตาลกรวด ส่วนหลิงเอ๋อเก็บดอกกุ้ยมาเต็มตะกร้า "หลิงเอ๋อ เจ้านำไหมาวางตรงนี้ เอาน้ำตาลกรวดเรียงสลับชั้นกับดอกกุ้ยให้เต็มไห"หลิวชิวเยว่สั่งการ เมื่อหลิงเอ๋อจัดเรียงน้ำตาลกรวดกับดอกกุ้ยเต็มไหแล้ว นางก็เทสุราเติมลงไป เรียกหาผ้าสะอาดมาปิดไหไว้ แล้วนำฝามาปิดอีกชั้น "รออีกไม่กี่วัน เราจะได้ชิมสุราดอกกุ้ย"การหมักสุราดอกกุ้ยสูตรเร่งด่วนนี้ ทำกินไม่ยาก ใช้เวลาไม่กี่วันก็ได้สุราดอกกุ้ยรสชาติหอมหวาน "ดอกกุ้ยเอามาหมักสุราได้ด้วยหรือเจ้าคะ"หลิงเอ๋อรู้สึกแปลกใจ แม่นมฉีเองก็ไม่เคยรู้วิธีการหมักสุราแบบนี้มาก่อน
ตอนที่ 9. ความช่วยเหลือจากฮูหยินแม่ทัพ/1เสิ่นมู่ฉือพร้อมกับผู้ติดตามทั้งสี่กลับมาถึงจวนในช่วงเย็น เขาพบกับรถม้าของหลิวชิวเยว่ที่เพิ่งกลับมาถึงเช่นกัน “ท่านพี่ ข้ากลับมาแล้ว” หลิวชิวเยว่เปิดม่านหน้าต่างรถม้า ส่งเสียงทักทายสามี เสิ่นมู่ฉือจึงเดินมาหาภรรยา “ฮูหยิน เจ้ามาถึงแล้วหรือ” เสิ่นมู่ฉือยืนรออยู่ข้างรถม้า ร่างอ้วนกลมของหลิวชิวเยว่ขยับลงมาจากรถม้า ยื่นมือหมายจะส่งให้สามีช่วยพยุง แต่เขากลับยืนนิ่ง แม่นมฉีรีบเข้าไปช่วยคุณหนูของตน เมื่อลงมาถึงพื้นแม่ทัพหนุ่มเพียงแค่มองดูนางด้วยใบหน้าเรียบเฉย เขามาทักทายนางตามมารยาทเท่านั้นหรือ หลิวชิวเยว่รู้สึกเหมือนโดนรังเกียจ แม้แต่มือของนางเขายังไม่อยากแตะต้อง พลันภาพเงาร่างของสองชายในค่ำคืนเดือนเพ็ญวาบเข้ามาในหัว ริมฝีปากของหลิวชิวเยว่เบ้ออกอย่างลืมตัว ก่อนจะคลายออก จำต้องข่มใจซ่อนความรู้สึกไว้“ท่านพี่ วันนี้ข้า...” ยังไม่ทันจะได้พูดคุยด้วย ชาวบ้านสูงวัยผู้หนึ่งก็ปรากฎตัวขึ้น ชายผู้นั้นเห็นแม่ทัพหนุ่มจึงรีบตรงเข้ามาทำความเคารพ “ท่านแม่ทัพ” “ผู้เฒ่าหยาง มีเรื่องอันใดที่หมู่บ้านหรือไม่” เสิ่นมู่ฉือเอ่ยถาม เขามองหยางเฉาผู้ใหญ่บ้านตำบลกุ
ตอนที่98.ชีวิตของข้าและสามีแพนด้าผู้คลั่งรัก/3(จบ)"นี่คือยาที่ข้าปรุงมาจากเห็ดเซียน ข้าใช้มันกับอาจารย์หญิงของเจ้าไปหนึ่งเม็ด อีกเม็ดเก็บไว้ให้เจ้าใช้ หลังจากเจ้ากินยาเม็ดนี้แล้ว เจ้าจะปลอดภัยไม่ถูกการตั้งครรภ์คุกคามร่างกาย รีบกินเสียสิ""เจ้าค่ะท่านอาจารย์ ข้าจะกินเดี๋ยวนี้"หลิวชิวเยว่รีบรับยามากินทันที พอกินลงไปแล้ว นางรู้สึกดีขึ้นมาก ไม่มีอาการใดๆ ที่น่ากังวลเลย "ฮูหยิน เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง""ข้ารู้สึกสดชื่นเจ้าค่ะท่านพี่ ดูเหมือนข้าจะไม่หิวข้าวแล้ว"ได้ยินเช่นนี้เสิ่นมู่ฉือก็ผ่อนคลายความตึงเครียดลง แต่ยังรู้สึกเป็นห่วงว่ายาจะมีผลกระทบกับภรรยาหรือไม่"ท่านอาจารย์ ยานี้จะมีผลกระทบต่อภรรยาข้าหรือไม่""ยานี้มีส่วนผสมล้ำค่าอย่างเห็ดเซียน ยอมมีสรรพคุณล้ำเลิศ ไม่มีผลกระทบแน่นอน อีกทั้งยังช่วยทำให้เด็กในครรภ์ของนาง มีความพิเศษกว่าเด็กทั่วไป""พิเศษอย่างไรเจ้าคะ"หลิวชิวเยว่เอ่ยถามอย่างตื่นเต้น บุตรของนางมีความพิเศษนั่นย่อมเป็นเรื่องดี"เรื่องนี้ข้าให้คำตอบไม่ได้ ต้องรอดูตอนเขาคลอดออกมาก่อน เจ้าวางใจเถอะข้าบอกว่าดี ก็ย่อมดี"หลิวเฝิ่นตัดบทด้วยคำนี้ ก่อนจะเอ่ยถึงศิษย์คนโตที่เพิ่งออกเรือนไ
ตอนที่ 97. ชีวิตของข้าและสามีแพนด้าผู้คลั่งรัก/2"วาสนาคนเราไม่เท่ากัน ท่านกุนซือทำใจเสียเถอะ"หมอจินซีถิงรินสุราให้กุนซือจ้าวปลอบใจ ตัวเขามิได้คิดอิจฉาหลี่ซวน ด้วยเป็นสหายกันมานาน อีกทั้งยังบังเอิญล่วงรู้ความลับว่า แม่นางเสี่ยวฮวามีอีกร่างเป็นหมีดำ จึงนึกชื่นชมหลี่ซวนที่มีความรักที่แท้จริง มิได้มองสตรีที่รูปโฉม "หากท่านกุนซืออยากแต่งภรรยา ยังมีสตรีตระกูลดีในเมืองหลวงอีกมากมาย แค่เอ่ยปากแม่สื่อคงมาเยือนจนท่านเวียนหัวเป็นแน่"จางหมิ่นเอ่ยขึ้น พลางยกจอกสุราเทเข้าปาก เขาเห็นกุนซือจ้าวอิจฉาหลี่ซวนแล้ว ก็อยากจะเพิ่มเชื้อไฟในดวงตาอีกฝ่ายอีกสักนิด หากกุนซือจ้าวรู้ว่า หลี่ซวนกำลังจะมีลูก คงตาร้อนผ่าวแน่ แต่เขามิใช่คนปากสว่าง นำเรื่องของผู้อื่นมานินทาต่อ จึงต้องสงบใจไว้"วันข้างหน้าพวกเจ้าจะได้พบคนที่เหมาะสมกับพวกเจ้า"เสิ่นมู่ฉือเดินผ่านมาได้ยิน จึงเข้ามาพูดคุยกับคนสนิททั้งสาม"ท่านแม่ทัพ"ทั้งสามลุกขึ้นทำความเคารพ เสิ่นมู่ฉือโบกมือให้นั่งลง"ไม่เป็นไร พวกเจ้าตามสบายเถอะ ข้าแค่ออกมาหาของกินให้ฮูหยิน ช่วงนี้นางหิวทุกชั่วยาม หมอจินพรุ่งนี้เจ้าช่วยตรวจอาการให้นางได้หรือไม่"เสิ่นมู่ฉือออกมาหาขอ
ตอนที่ 96. ชีวิตของข้าและสามีแพนด้าผู้คลั่งรัก/1หลิวชิวเยว่อยู่ที่เผ่าเยว่เซียนราวสิบวัน ก็ได้เวลากลับเสียที ทางด้านศิษย์พี่หมีกับหลี่ซวนเดินทางกลับหลังจากงานเลี้ยงเลิกราแล้ว เฟิ่งอี้หลันกับหลงเฟยมาส่งลูกสาวตรงประตูทางเข้าออก ผ่านไปยังดินแดนเผ่าจินสวง "เยว่เอ๋อร์ เจ้าแวะมาเยี่ยมแม่กับพ่อบ้างนะลูก"เฟิ่งอี้หลันยังอาลัยอาวรณ์บุตรี นางอยากให้หลิวชิวเยว่กับเสิ่นมู่ฉืออยู่ที่เมืองหลวงเผ่าเยว่เซียนกับนาง แต่เสิ่นมู่ฉือเป็นแม่ทัพใหญ่แห่งชิงเป่ย มิอาจละทิ้งหน้าที่ได้ หลิวชิวเยว่เองไม่คุ้นชินกับชีวิตของเผ่าสัตว์ นางจึงขอกลับบ้านพร้อมสามี"เยว่เอ๋อร์เจ้าใช้กำไลศิลาสวรรค์ ติดต่อพูดคุยกับพ่อแม่ได้ตลอดเวลานะลูก พ่อจะคอยมองดูเจ้าอยู่ทางนี้"หลงเฟยบอกกับลูกสาว เขาได้สร้างกำไลศิลาสวรรค์อีกชิ้น เพื่อใช้ติดต่อกับนาง"ท่านพ่อ ท่านแม่ดูแลสุขภาพด้วยนะเจ้าคะ ข้าจะหมั่นมาเยี่ยมพวกท่านบ่อยๆ หากท่านคิดถึงข้า ก็แวะมาหาข้าได้นะเจ้าคะ ข้าอยากให้ท่านทั้งสอง มาเยี่ยมข้าที่จวนแม่ทัพบ้าง"หลิวชิวเยว่อยากให้บิดามารดา ออกมาท่องเที่ยวเปิดหูเปิดตานอกดินแดนเยว่เซียนบ้าง แต่ติดตรงทั้งสองมีภารกิจในฐานะผู้นำเผ่า จนปลีกเวล
ตอนที่ 95.ถอนคำสาป ครอบครัวพร้อมหน้า/2ก่อนจะปรากฏขึ้นบนพื้นดิน อีกฝั่งของอุโมงค์ หลิวชิวเยว่หลับตาแน่น ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองรอบๆ ก่อนจะอุทานออกมา"เอ๊ะ ! ที่นี่คุ้นตาข้าเหลือเกิน" ร่างของนางยืนอยู่ที่ริมขอบเหว ที่ซึ่งก่อนหน้านี้เคยถูกคนร้ายไล่ล่าจนตกเหวไป ก่อนจะฟื้นขึ้นมาในร่างอ้วนกลมของหลิวชิวเยว่ บุตรีคหบดีหลิวกวาน"นี่คือดินแดนที่เจ้าเคยอยู่ใช่หรือไม่"หลงเฟยเอ่ยถาม เขายกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นหลิวชิวเยว่เบิกตากว้าง แล้วพยักหน้ารับ"ครั้งนั้นข้ากับเฟิ่งอี้หลัน ให้กำเนิดบุตรีฝาแฝด เพื่อปกป้องพวกนาง ข้าได้นำบุตรีคนแรกไปฝากหลิวกวานให้เลี้ยงดู ส่วนบุตรีอีกคนข้าได้นำนางมายังดินแดนแห่งนี้ จากนั้นก็ส่งนางให้ครอบครัวตระกูลหลิวเลี้ยงดู โดยผนึกความทรงจำให้พวกเขาเชื่อว่า นางคือคนในตระกูลของพวกเขา ตั้งชื่อให้ว่าหลิวชิวเยว่ เช่นเดียวกับคนแรก"หลงเฟยแตะมือบนกำไลศิลาสวรรค์ ฉายภาพให้หลิวชิวเยว่ดู เด็กน้อยฝาแฝดสองคนถูกแยกออกจากกัน คนหนึ่งถูกฝากให้หลิวกวานเลี้ยงดู อีกคนถูกหลงเฟยนำมาให้ครอบครัวหลิวจิ้งหมิงเลี้ยงดู "ขะ ข้าไม่ใช่คนของที่นี่ ไม่ใช่ลูกของคุณพ่อ"หลิวชิวเยว่รู้สึกมึนงงราวกลับโลกพลิกคว่ำ นางไม
ตอนที่ 94. ถอนคำสาป ครอบครัวพร้อมหน้า/1ทั้งสองผ่านเข้ามายังดินแดนเผ่าหลงเทียน ราชครูมองไปรอบๆ เห็นหลิวชิวเยว่บินอยู่บนท้องฟ้าข้างกายมีภูติจิ๋วรูปหยดน้ำอยู่ด้วย "เจ้ารู้หรือไม่ว่า แม้แต่ราชาเผ่าหลงเทียนก็ตายด้วยน้ำมือข้ามาแล้ว บิดาเจ้าพ่ายแพ้ต่อข้าจนถูกสาปให้กลายเป็นมังกรเพลิง"ราชครูเอ่ยถึงชัยชนะที่เคยมีเหนือชาวเผ่าหลงเทียนอย่างภาคภูมิใจ เขาเคยสังหารราชาเผ่าหลงเทียน หลังจากที่อีกฝ่ายสังหารบุตรชายและสะใภ้ของตน ครั้งนั้นราชครูได้สาปหลงเฟย ให้กลายเป็นมังกรเพลิงทำลายผู้คนในเผ่าหลงเทียนจนหมดทั้งเผ่า "ราชครู เจ้าช่างภูมิใจในความชั่วของตัวเองเหลือเกินนะ ข้าในฐานะที่มีสายเลือดของเผ่าหลงเทียนครึ่งหนึ่ง ครั้งนี้จะขอเอาชีวิตเจ้าล้างแค้นให้ผู้คนเผ่าหลงเทียน""เหอะ เจ้าฝันไปหรือเปล่า นังเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ข้าจะสั่งสอนเจ้าให้รู้สำนึก"ราชครูเบ้ปากเอ่ยดูแคลน ก่อนจะโบกคฑาในมือเรียกลูกไฟจากบนฟ้าให้ตกใส่หลิวชิวเยว่ตูม ตูม ตูม !ลูกไฟตกจากฟ้าราวกับห่าฝน"เล่นแบบนี้เลยเหรอ เจ้าราชครูบ้า!"หลิวชิวเยว่ขยับปีกบินหลบไปมา ลูกไฟร่วงกระทบพื้นระเบิดเปลวไฟออกมา เผาไหม้ไปทั่วจนเปลวเพลิงแดงฉาน "เสี่ยวเที
ตอนที่ 93.จัดการคนชั่ว/3"ฉางตี้ เจ้ายอมแพ้เสียเถอะ มิเช่นนั้นข้าจะสังหารเจ้าเสีย"เฟิ่งอี้หลันใช้คฑาสายฟ้าของตนฟาดลำแสงสีฟ้าเข้าใส่อีกฝ่าย แต่ราชครูไม่ยอมแพ้ใช้คฑาศิลาโลหิตฟาดลำแสงสีแดงตอบโต้ ลำแสงสีฟ้าและสีแดงปะทะกันจนเกิดเสียงเปรี้ยงปร้าง ราวกับฟ้าผ่า ประกายไฟแตกกระจายลงมายังพื้นเบื้องล่าง"เฟิ่งอี้หลัน เจ้ามีฝีมือเพียงแค่นี้คิดจะฆ่าข้าได้หรือ หึ ข้าจะทำให้เจ้าตายด้วยน้ำมือของคนที่เจ้ารัก"พูดจบราชครูก็โบกคฑาศิลาโลหิต บังเกิดเป็นอุโมงค์สีดำขนาดใหญ่เปิดกว้างขึ้นด้านบน จากนั้นก็มีร่างของสัตว์ตัวใหญ่สีดำตัวหนึ่ง ลอยออกมาจากอุโมงค์นั้นเบื้องหน้าเฟิ่งอี้หลัน"ระวัง นั่นคือมังกรเพลิง หากถูกพ่นไฟใส่จะลุกไหม้และกลายเป็นหิน"หลิวชิวเยว่รีบตะโกนบอก แล้วบินขึ้นไปอยู่เคียงข้างเฟิ่งอี้หลัน"ท่านแม่ ข้าคือหลิวชิวเยว่บุตรีของท่านกับท่านพ่อหลงเฟย ข้าจะช่วยท่านกับท่านพ่อเอง"นางบอกความจริงให้เฟิ่งอี้หลันรับรู้ ก่อนจะหันไปมองราชครูที่กำลังตกตะลึง"นี่เจ้าคือลูกของเฟิ่งอี้หลันกับหลงเฟย หึ ดี ถ้าเช่นนั้นพวกเจ้าสองแม่ลูก ก็จงถูกบิดาและสามีฆ่าตายเถอะ มังกรเพลิงจัดการมัน!"ราชครูโบกคฑาบังคับให้มังกรเพลิง
ตอนที่ 92. ตอน จัดการคนชั่ว/2"เชิญทุกท่านดื่มอวยพรให้ผู้นำเผ่าเยว่เซียนของพวกเรา"หญิงรับใช้ยกถาดใส่จอกสุราแจกจ่ายให้หัวหน้าเผ่าทั้งห้า เมื่อพวกเขารับจอกสุรามาถือไว้ ก็เอ่ยอวยพรขึ้นพร้อมกัน"พวกเราขออวยพรให้ท่านผู้นำ จงเป็นผู้นำของพวกเราตราบนานเท่านาน"ทุกคนเอ่ยจบก็ยกสุราขึ้นดื่ม เมื่อสุราไหลผ่านเข้าไปในคอทันใดนั้นเอง!คนทั้งห้าก็ทรุดลงกับพื้น นอนสิ้นเรี่ยวแรงทันที "นี่เจ้าให้พวกข้าดื่มอะไร"หูซินซินหัวหน้าเผ่าจิ้งจอกเอ่ยถามเสียงแผ่ว นางเป็นสตรีเพียงคนเดียวในกลุ่มผู้นำเผ่าทั้งห้า อีกสี่คนมีสภาพไม่ต่างกัน ผู้นำเผ่าอาชานอนแผ่หรากับพื้น ผู้นำเผ่ากระทิงพยายามฝืนลุกขึ้นยืน แต่ก็หงายท้องล้มลงไปจนหัวแตกเลือดอาบ ผู้นำเผ่าอินทรีย์และเผ่าวานรขยับตัวไม่ได้นอนหายใจรวยรินบนพื้น "หึ พวกเจ้าถูกพิษสกัดลมปราณของข้าแล้ว พิษชนิดนี้จะทำให้พวกเจ้าสิ้นเรี่ยวแรง หากไม่ได้ยาถอนพิษก็จะอ่อนแรงจนค่อยๆ ตายไปภายในเจ็ดวัน"ราชครูฉางตี้แสยะยิ้ม มองผู้นำทั้งห้าเผ่าอย่างคนเหนือกว่า แผนการของหม่าจิ้นครั้งนี้ ทำให้เขาไม่ต้องเปลืองแรงเกลี้ยกล่อมพวกผู้นำทั้งห้า เขารังเกียจพวกชั้นต่ำเหล่านี้มาตลอด ผู้นำเผ่าเยว่เซียนก
ตอนที่ 91. ตอน จัดการคนชั่ว/1จวนราชครูเผ่าเยว่เซียน...ฉางตี้ราชครูแห่งเผ่าเยว่เซียนเมื่อรู้ว่า ผู้นำเผ่าเยว่เซียนได้หายตัวไปพร้อมกับแม่นมฉินและหมอหลวง ก็สั่งการให้ทหารค้นหาคนทั้งสามทั่วเมืองหลวง "พวกเราส่งคนไปค้นหาจนทั่วแล้วขอรับ แต่ไม่พบตัว ตอนนี้กำลังระดมพลค้นหาไปยังเมืองต่างๆ ทั้งห้าเมือง"นายกองหม่าจิ้นเผ่าอาชา ได้รับคำสั่งจากราชครูให้นำกำลังค้นหาผู้นำเผ่าอย่างลับๆ แต่เขาไม่พบเจอนางจึงต้องขยายการค้นหาเป็นวงกว้างขึ้น"แม่นมฉินกับหมอหลวงเป็นแค่ตาแก่ยายแก่ ใช้ความสามารถอันใดพาผู้นำเผ่าหลบหนีไปได้ ต้องมีคนอื่นให้ความช่วยเหลืออยู่แน่"ราชครูฉางตี้รู้สึกโมโหนัก ที่ตนเองดูแคลนตาแก่ยายแก่ทั้งสอง ว่าไม่มีปัญญาทำสิ่งใดได้ ตอนนี้รู้ตัวเมื่อสายไปเสียแล้ว "ท่านราชครูอย่าวิตกไปขอรับ ผู้นำเผ่าถูกพิษบุปผานิทรา มีเพียงท่านราชครูที่มียาแก้พิษ ต่อให้หลบหนีไปได้ ครบหนึ่งเดือนพิษกำเริบก็ต้องตายอยู่ดี"หม่าจิ้นเคยเห็นคนถูกพิษบุปผานิทรา หากไม่ได้กินยาถอนพิษภายในหนึ่งเดือน ร่างกายก็จะเน่าเปื่อยสลายไป ผู้นำเผ่าถูกยาพิษชนิดนี้เล่นงานมีหรือจะรอดชีวิตไปได้ง่ายๆ"ถึงอย่างไร ข้าก็ไม่ไว้วางใจ วันพรุ่งนี้ผู้
ตอนที่ 90.ช่วยเหลือผู้นำเผ่าเยว่เซียน/2"ท่านอาจารย์ ข้าได้นำสุราสลายหมื่นพิษมาแล้วเจ้าค่ะ""ดีมาก เอาล่ะแม่นมฉิน ฉางสุ่ย พวกเจ้าประคองผู้นำเผ่าขึ้นมา แล้วค่อยๆ หยอดสุราสลายหมื่นพิษให้นางดื่มทีละน้อยจนหมดถ้วย"หลิวเฝิ่นบอกทั้งสอง ฉางสุ่ยกับแม่นมฉินประคองร่างของผู้นำเผ่าให้ลุกขึ้นนั่ง ฉางสุ่ยเป็นคนใช้ช้อนตักสุราสลายหมื่นพิษป้อนให้ผู้นำเผ่า จนหมดถ้วย หลิวชิวเยว่กับหลิวเฝิ่นยืนเอาใจช่วยอยู่ข้างๆ จนสุราถูกป้อนจนหมดก็โล่งใจ"เอาล่ะ รอสักครู่ให้สุราสลายหมื่นพิษออกฤทธิ์ ก็จะสามารถสลายพิษในร่างของผู้นำเผ่าได้ ข้าจะออกไปปรุงยาบำรุงมาให้"หลิวเฝิ่นบอก ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ฉางสุ่ยเดินตามสามีออกไปด้วย ในห้องเหลือเพียงแม่นมฉินกับหลิวชิวเยว่ที่เฝ้าดูอาการของผู้นำเผ่า"หลิวชิวเยว่ ข้าขอบคุณเจ้ามากที่ช่วยพาผู้นำเผ่าออกมา"แม่นมฉินประคองร่างผู้นำเผ่าให้นอนลง ขณะเอ่ยขอบคุณหลิวชิวเยว่ "แม่นมฉินไม่ต้องเกรงใจ มารดาของข้าก็เป็นคนเผ่าเยว่เซียนเช่นกัน ข้าย่อมสมควรช่วยเหลือ"หลิวชิวเยว่มองดูผู้นำเผ่า พลังชีวิตในร่างของอีกฝ่ายเริ่มเพิ่มมากขึ้น นางเชื่อมั่นในสรรพคุณของสุราสลายหมื่นพิษของท่านอาจารย์ ว่าจะสามา