เนื่องจากเจ้าบ่าวเป็นกำพร้าไร้ซึ่งบิดามารดา พิธีไหว้ฟ้าดินจึงจัดอย่างเรียบง่าย ร่างอ้วนกลมของหลิวชิวเยว่ถูกแม่นมฉีกับหลิงเอ๋อประคองมาทำพิธี ทางฝ่ายเจ้าบ่าวไม่เคร่งครัดนัก ยอมให้คนช่วยประคองเจ้าสาวจนจบพิธี จากนั้นคนรับใช้ทั้งสองได้พาเจ้าสาวไปยังเรือนหอ
“คุณหนูหิวไหมเจ้าคะ”
แม่นมฉีเอ่ยถาม มองร่างของเจ้าสาวที่กำลังนั่งรออยู่บนเตียงวิวาห์ด้วยความตื้นตันใจ นางเลี้ยงดูหลิวชิวเยว่มาตั้งแต่แรกคลอด บัดนี้คุณหนูของนางออกเรือนแล้ว
“ฉัน... เอ่อ ข้าหิว ช่วยหาอะไรมาให้กินหน่อย”
หลิวชิวเยว่ต้องเปลี่ยนสรรพการพูดของตนให้เข้ากับคนยุคนี้ หลังจากตั้งสติได้ก็คิดทบทวนมาตลอดทางที่นั่งอยู่บนเกี้ยวเจ้าสาว จำต้องยอมรับสภาพว่าตนเองได้เกิดใหม่ในร่างคนในอดีต
หากจำไม่ผิดเจ้าของร่างนี้คือบรรพบุรุษของตระกูลหลิวนามว่า หลิวชิวเยว่ !
ในบันทึกของตระกูล ได้กล่าวถึงความสามารถมากมายของท่านบรรพบุรุษ หลิวชิวเยว่นั้นเกิดในวันเดือนเดียวกับท่านบรรพบุรุษจึงได้ชื่อนี้มา นางเป็นทายาทรุ่นปัจจุบันของตระกูลหลิว เจ้าของบริษัทผลิตและส่งออกสุรา เยว่จิ่ว
เหตุใดตัวนางถึงข้ามมิติมาสวมร่างของบรรพบุรุษผู้นี้กัน แม้ยากจะเชื่อจนต้องหยิกแขนตัวเองหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับความจริงว่าทุกสิ่งไม่ใช่ความฝัน
“อีกสักครู่ท่านแม่ทัพจะมา โปรดทำตามคำแนะนำที่ข้าได้เคยบอกไว้นะเจ้าคะ”
แม่นมฉีเอ่ยขึ้น หลังจากหลิวชิวเยว่กินอาหารที่หลิงเอ๋อนำมาให้จนอิ่มหนำแล้ว
“แม่นมเคยแนะนำอะไรข้าบ้าง ข้าลืมไปแล้ว”
หลิวชิวเยว่เอ่ยถาม นางเพิ่งเข้ามาอยู่ในร่างนี้จะไปจำเรื่องราวของเจ้าของร่างได้อย่างไร
“ก็เรื่อง...”
แม่นมฉีขยับเข้ามาแล้วกระซิบข้างหูเบาๆ คนได้ฟังหน้าแดงขึ้นมาทันที ดวงตาเบิกกว้างขึ้นเรื่อยๆ เมื่อได้ยินสิ่งที่แม่นมฉีสั่งสอน
“แม่นมท่านบอกสิ่งใดกับคุณหนูกันแน่ เหตุใดคุณหนูถึงได้หน้าแดงเหมือนลูกผิงกั๋วแบบนั้น”
หลิงเอ๋อเห็นแก้มของคุณหนูมีสีแดงระเรื่อขึ้นมาก็นึกสงสัย แม่นมฉีกำลังสั่งสอนเรื่องอันใด นางอยากรู้บ้าง
“เอาไว้ตอนเจ้าออกเรือน ข้าจะบอกสิ่งนี้กับเจ้า”
แม่นมฉีส่ายหน้ากับท่าทางของหลิงเอ๋อ พลางดึงผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวลงมาปิดไว้ดังเดิม กำชับหลิวชิวเยว่อีกครั้ง
“คุณหนูจำสิ่งที่ข้าได้บอกไว้นะเจ้าคะ ไม่ต้องเป็นกังวลนะเจ้าคะ”
เงาของใครบางคนกำลังเดินมายังห้องหอแห่งนี้ ถึงเวลาที่แม่นมฉีกับหลิงเอ๋อต้องออกไปแล้ว
“คารวะท่านแม่ทัพ ฝากดูแลคุณหนูของข้าด้วยนะเจ้าคะ”
แม่นมฉีฝากฝังคุณหนูของตนกับผู้เป็นเจ้าบ่าว แม่ทัพเสิ่นมู่ฉือเพียงพยักหน้ารับ ทั้งสองเดินออกไปพร้อมกับปิดประตูห้องให้ หลิงเอ๋อหันไปมองประตูห้องหอ แล้วเอ่ยออกมาว่า
“แม่นมฉี ท่านว่าคุณหนูจะรับมือท่านแม่ทัพ ไหวหรือไม่เจ้าคะ”
“หุบปาก ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าต้องเป็นกังวล ไปได้แล้ว”
แม่นมฉีไล่เจ้าตัวปากมากให้ไปห่างจากห้องหอ ในใจสวดภาวนาต่อเทพยดาขอให้คุณหนูของนางผ่านค่ำคืนนี้โดยราบรื่น
หลิวชิวเยว่นั่งตัวแข็ง มองเงาร่างสูงใหญ่ของแม่ทัพหนุ่มผู้เป็นเจ้าบ่าวของตน หัวใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ ร่างเดิมในชาติก่อน มีผู้ชายมากมายต่างเข้ามาเกี้ยวพา หลิวชิวเยว่อาศัยว่าตัวเองทั้งสวยรวยและเก่งกาจ จึงมีนิสัยค่อนข้างหยิ่งทระนงตน บุรุษคนใดล้วนไม่ต้องตา ใช้ชีวิตเป็นสาวโสดจนจบชีวิตลง โดยไม่เคยมีคนรักสักคน
ไม่คิดว่าเข้ามาอยู่ในร่างนี้ไม่ทันข้ามวัน ก็จะมีสามีเสียแล้วหรือนี่...
“ข้าแซ่เสิ่น มีนามว่ามู่ฉือ บัดนี้เป็นสามีของเจ้า”
เสิ่นมู่ฉือเอ่ยขึ้น เขาหยิบคันชั่งแล้วเดินมาหยุดตรงหน้าเจ้าสาว เปิดผ้าคลุมออกช้าๆ เทียนแดงมงคลในห้องหอสาดกระทบ ใบหน้ากลมของหลิวชิวเยว่ปรากฎต่อหน้าผู้เป็นเจ้าบ่าว แม่ทัพเสิ่นมองเจ้าสาวของตนด้วยสายตาเรียบนิ่ง หยิบผ้าคลุมมาสอดไว้ในอกเสื้อแล้ววางคันชั่งลง จับกาสุรารินเหล้ามงคลสองถ้วย ส่งให้หลิวชิวเยว่หนึ่งถ้วยและถือไว้หนึ่งถ้วย
“ดื่มสุรามงคลกันเถิด”
หลิวชิวเยว่รับถ้วยสุรามาถือไว้ ขณะมองใบหน้าหล่อเหลาของแม่ทัพหนุ่ม รูปลักษณ์ของเขาทำให้คนเห็นถึงกับตาพร่า หากเทียบกับหนุ่มๆ ไอดอลในยุคของตน ชายหนุ่มตรงหน้ารูปงามกินขาด
บุรุษผู้นี้หรือจะมาเป็นสามีของนาง หลิวชิวเยว่รู้สึกจั๊กจี้หัวใจขึ้นมา...
“ดื่มสุรามงคลนี้แล้ว ก็เท่ากับว่าเราทั้งสองเป็นสามีภรรยา ต่อไปข้าจะดูแลเจ้าเป็นอย่างดี”
น้ำเสียงของเขาช่างทุ้มนุ่มหูเหลือเกิน ใบหน้าหล่อเหลาเคร่งขรึม ให้อารมณ์ของคุณชายจอมเย่อหยิ่ง หัวใจของคนมองเต้นระรัว มองใบหน้าของเจ้าบ่าวด้วยแววตาเคลิบเคลิ้ม ในสมองแอบจินตนาการถึงสิ่งที่แม่นมฉีได้สั่งสอนไว้
“ค่ำคืนนี้ คุณหนูต้องตามใจเจ้าบ่าวให้มาก เขาจะทำสิ่งใดก็ให้คล้อยตาม อย่าขัดขืนนะเจ้าคะ”
คำพูดของแม่นมฉีแวบเข้ามาในหัว หลิวชิวเยว่อดยิ้มเขินไม่ได้ หล่อๆ แบบนี้ ใครขัดขืนก็โง่แล้ว รีบรับถ้วยสุรามายกขึ้นดื่ม
ทว่า... สุรามงคลไหลผ่านคอไม่ทันจะถึงกระเพาะ เจ้าบ่าวก็ดึงถ้วยในมือเจ้าสาวออกแล้ววางลงบนโต๊ะ โน้มใบหน้าก้มลงมาหา ทำเอาใบหน้ากลมราวจันทร์เต็มดวงปรากฎสีเรื่อบนพวงแก้ม หัวใจเต้นรัวแรงราวกับตีกลอง
หลิวชิวเยว่หลับตาพริ้มเผยอปาก รอรับจุมพิตแสนหวานจากเจ้าบ่าว เสียงทุ้มดังขึ้นข้างใบหูว่า
“วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว คืนนี้เจ้าพักผ่อนเถอะ”
อ๊ะ อ้าว...
เจ้าสาวหมาดๆ ถึงกับลืมตาโพลง นิ่งอึ้งตะลึงงัน มองใบหน้าหล่อเหลาเขาแต้มรอยยิ้มจางๆ ที่มุมปากเล็กน้อย ก่อนจะพาร่างสง่างามไปเอนกายยังเตียงอีกมุมของห้อง
เพล๊ง !!!
เกิดเสียงแตกดังลั่นขึ้นในหู ใบหน้ากลมราวดวงจันทร์มีความรู้สึกร้าวไปทั้งหน้า หากก้มไปมองบนพื้นคงจะพบเศษหน้าร่วงเป็นชิ้นเล็กๆ พร้อมจินตนาการอันแสนบรรเจิดได้ถูกทำลายลงไป
บทเรียนก่อนวิวาห์ ที่แม่นมฉีอุตส่าห์สอนสั่ง กลายเป็นหมันไปเสียแล้ว !
เทียนแดงมงคลสาดแสงกระทบร่างหนุ่มสาวปรากฎเงาบนผนังห้อง ร่างหนึ่งเป็นบุรุษมองเงาก็รู้ว่ารูปงามเพียงใด แต่อีกร่างกลับอ้วนกลม ไม่ต่างจากหมีแพนด้าสวมชุดเจ้าสาว
หลิวชิวเยว่หันไปมองภาพเงาสะท้อนนั้น ถึงกับสะดุ้งกับสารรูปของตัวเอง พลันอารมณ์พุ่งพล่านก็ค่อยสงบลง
ตัวนางมาเกิดใหม่อยู่ในร่างหญิงอ้วน แม้ไม่ได้อัปลักษณ์ แต่ก็ใช่ว่าจะน่าพิสมัย แววตาของเจ้าบ่าวบ่งบอกทุกอย่างแล้ว ว่า เหตุใดเขาจึงไม่แตะต้องเจ้าสาวของเขา ความหยิ่งทระนงในตัวตนเดิมทำให้หลิวชิวเยว่ไม่ยอมแพ้
ช่างสิ ไม่ปรารถนาข้าก็ช่างท่าน ผู้ใดสนใจกันเล่า!
///
ตอนที่ 5. หรือสามีข้าเป็นชายผู้ชอบตัดแขนเสื้อ/2หลิวชิวเยว่เลิกผ้าห่มทิ้งตัวลงนอนคลุมผ้าไว้ หันหลังให้คนที่นอนฝั่งตรงข้าม กิริยานั้นทำให้เจ้าบ่าวหมาดๆ ลอบถอนหายใจ เมื่อเดือนก่อน ฮ่องเต้ได้ยินข่าวลือไม่ดีไม่งามเกี่ยวกับเขา เพื่อปกป้องเกียรติของแม่ทัพคนสนิท จึงประทานสมรสพระราชทาน เสิ่นมู่ฉือไม่อาจขัดพระประสงค์ได้ จำต้องเลือกสตรีนางหนึ่งมาเป็นภรรยา เขาตั้งข้อแม้ว่าภรรยาที่ตนเลือกนั้นต้องไม่เป็นสตรีจากตระกูลขุนนาง ฮ่องเต้ยินยอมด้วยรู้ว่าเขาเป็นคนตงฉินไม่ชอบเล่นพรรคเล่นพวก และไม่ต้องการเกี่ยวพันกับตระกูลขุนนางใหญ่ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดี ไม่สร้างความหวาดระแวงให้กับฮ่องเต้ แม่สื่อนำรายชื่อหญิงสาวจากตระกูลต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับขุนนางส่งเข้าไปในจวนแม่ทัพใหญ่ ชะตาลิขิตให้เขาเลือกบุตรีของคหบดีหลิวมาเป็นเจ้าสาว ขะ คร่อก ฟี้ ขะ คร่อก ฟี้ ! เสียงบางอย่างดังขึ้น ดึงให้เสิ่นมู่ฉือหลุดจากภวังค์ หันไปมองร่างกลมบนเตียงวิวาห์ ต้นเสียงดังมาจากร่างของฮูหยินของเขา คราแรกเสียงนั้นดังเป็นจังหวะเนิบช้า ก่อนจะทวีความดังขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับจังหวะลมหายใจที่ดังต่อเนื่อง จนเสียงสะท้อนไปทั่วห้อง ใบหน้าของเสิ
ตอนที่ 6. หรือสามีข้าเป็นชายผู้ชอบตัดแขนเสื้อ/3หลิวชิวเยว่ไหววูบในใจ นึกถึงการกระทำเมื่อคำคืนที่ผ่านมาของเขาหรือว่าสามีของข้าจะเป็น... พวกชอบตัดแขนเสื้อ ! นึกทบทวนดูก็เริ่มมีความรู้สึกโน้มเอียงว่า ข่าวลือนั้นอาจจะมีมูลความจริง เมื่อคืนที่ผ่านมาเสิ่นมู่ฉือไม่แม้แต่แตะต้องเจ้าสาวของตัวเองแม้แต่ปลายก้อย ในจวนบ่าวรับใช้คนสนิทข้างกายล้วนมีแต่บุรุษ หลิวชิวเยว่มองบ่าวรับใช้ทีละคนอย่างสำรวจ เมื่อมองจนครบทุกคนก็ลอบถอนหายใจ บุรุษในจวนนี้ล้วนหน้าตาดียิ่ง! “ท่านพ่อบ้าน ข้าคิดว่าควรจะหาบ่าวผู้หญิงมาทำงานรับใช้เพิ่มอีกสักสามสี่คน งานบางอย่างบุรุษอาจจะทำไม่ได้” หลิวชิวเยว่ลองเกริ่นขึ้นมา สีหน้าของพ่อบ้านหวังเมื่อได้ยินแสดงอาการอึดอัดใจออกมา กล่าวขึ้นว่า “เรียนฮูหยิน งานในจวนไม่ได้มีมากมายจนล้นมือ บ่าวรับใช้ในจวนล้วนมากพอต่องานแล้ว” “เมื่อเช้าพวกเราไม่มีคนช่วยยกถังน้ำเข้าไปในเรือน บ่าวรับใช้ล้วนแต่เป็นบุรุษ ไม่อาจให้เข้าไปในเรือนได้” แม่นมฉีเอ่ยขึ้น พวกนางอยู่ที่จวนคหบดีหลิว หน้าที่ขนน้ำล้วนมีบ่าวรับใช้ผู้หญิงเป็นคนทำหน้าที่นี้ “วันหลังหากแม่นมต้องการคนช่วยขนน้ำ รบกวนบอกข้าก่อน ข้าจะให้
ตอนที่7. การหมักสุราเป็นเรื่องง่าย พิชิตใจแม่ทัพยากกว่า แสงแรกของรุ่งอรุณสาดส่องเข้ามาภายในห้อง ใต้ผ้าห่มร่างกลมของหลิวชิวเยว่นอนหลับอยู่ แม่นมฉีเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับหลิงเอ๋อที่ยกอ่างน้ำร้อนมาวางไว้บนโต๊ะ วันนี้คุณหนูต้องกลับไปเยี่ยมบ้าน พวกนางจึงเข้ามาปลุกคุณหนูให้ตื่นมาเตรียมตัว ทั้งสองมองไปยังเตียงนอนพบเพียงร่างกลมนอนอยู่เพียงลำพัง แม่ทัพเสิ่นจัดให้หลิวชิวเยว่พักอยู่เรือนบุปผาทางด้านหลังของจวน หลายคืนที่ผ่านมาคุณหนูของพวกนางต้องนอนเพียงคนเดียว ไร้เงาของผู้เป็นสามี“คุณหนูเจ้าคะ ตื่นเถอะเจ้าค่ะ” เสียงเรียกทำให้คนที่กำลังนอนหลับงัวเงียตื่นขึ้นมา ร่างอ้วนขยับลืมตาขึ้นแล้วก็หลับตาลงหันหลังให้ไม่อยากตื่น แม่นมฉีจึงเขย่าปลุกอีกหน “วันนี้ต้องกลับไปเยี่ยมท่านพ่อท่านแม่นะเจ้าคะ” เมื่อได้ยินแบบนี้หลิวชิวเยว่ก็พลิกตัวลืมตาขึ้นมอง ยอมลุกไปล้างหน้าแต่งตัว “หลิงเอ๋อ เจ้าไปเรียนท่านพี่ด้วยว่า วันนี้พวกเราจะไปเยี่ยมท่านพ่อท่านแม่” หลิวชิวเยว่สั่งการสาวใช้ หลิงเอ๋อรับคำแล้วเดินออกไปยังเรือนด้านหน้า ใช้เวลาไปครู่หนึ่งก็กลับมารายงานผู้เป็นนายว่า “ท่านแม่ทัพให้มาเรียนคุณหนูว่า
ตอนที่ 8.การหมักสุราเป็นเรื่องง่าย พิชิตใจแม่ทัพยากกว่า/2"รสชาติรุนแรง บาดคอเหลือเกิน"สุราในสมัยนี้ช่างรสชาติป่าเถื่อนสิ้นดี หลิวชิวเยว่ลิ้มรสสุรารสชาติดีมาตลอดชีวิต จึงรู้สึกทนไม่ไหว "แม่นมฉี ในครัวมีน้ำตาลกรวดหรือไม่""มีเจ้าค่ะ""เช่นนั้นนำมาให้ข้าสักชั่ง แล้วนำไหเปล่ามาให้ข้าใบหนึ่งด้วย หลิงเอ๋อหลังเรือนต้นกุ้ยกำลังออกดอก เจ้าไปเก็บดอกกุ้ยให้ข้า ตอนเก็บเบามือสักหน่อยระวังกลีบจะช้ำ ข้าต้องการสักตะกร้า""เจ้าค่ะ"ทั้งสองรับคำ แล้วแยกย้ายกันทำตามคำสั่ง ครู่ต่อมา แม่นมฉีก็กลับมาพร้อมน้ำตาลกรวด ส่วนหลิงเอ๋อเก็บดอกกุ้ยมาเต็มตะกร้า "หลิงเอ๋อ เจ้านำไหมาวางตรงนี้ เอาน้ำตาลกรวดเรียงสลับชั้นกับดอกกุ้ยให้เต็มไห"หลิวชิวเยว่สั่งการ เมื่อหลิงเอ๋อจัดเรียงน้ำตาลกรวดกับดอกกุ้ยเต็มไหแล้ว นางก็เทสุราเติมลงไป เรียกหาผ้าสะอาดมาปิดไหไว้ แล้วนำฝามาปิดอีกชั้น "รออีกไม่กี่วัน เราจะได้ชิมสุราดอกกุ้ย"การหมักสุราดอกกุ้ยสูตรเร่งด่วนนี้ ทำกินไม่ยาก ใช้เวลาไม่กี่วันก็ได้สุราดอกกุ้ยรสชาติหอมหวาน "ดอกกุ้ยเอามาหมักสุราได้ด้วยหรือเจ้าคะ"หลิงเอ๋อรู้สึกแปลกใจ แม่นมฉีเองก็ไม่เคยรู้วิธีการหมักสุราแบบนี้มาก่อน
ตอนที่ 9. ความช่วยเหลือจากฮูหยินแม่ทัพ/1เสิ่นมู่ฉือพร้อมกับผู้ติดตามทั้งสี่กลับมาถึงจวนในช่วงเย็น เขาพบกับรถม้าของหลิวชิวเยว่ที่เพิ่งกลับมาถึงเช่นกัน “ท่านพี่ ข้ากลับมาแล้ว” หลิวชิวเยว่เปิดม่านหน้าต่างรถม้า ส่งเสียงทักทายสามี เสิ่นมู่ฉือจึงเดินมาหาภรรยา “ฮูหยิน เจ้ามาถึงแล้วหรือ” เสิ่นมู่ฉือยืนรออยู่ข้างรถม้า ร่างอ้วนกลมของหลิวชิวเยว่ขยับลงมาจากรถม้า ยื่นมือหมายจะส่งให้สามีช่วยพยุง แต่เขากลับยืนนิ่ง แม่นมฉีรีบเข้าไปช่วยคุณหนูของตน เมื่อลงมาถึงพื้นแม่ทัพหนุ่มเพียงแค่มองดูนางด้วยใบหน้าเรียบเฉย เขามาทักทายนางตามมารยาทเท่านั้นหรือ หลิวชิวเยว่รู้สึกเหมือนโดนรังเกียจ แม้แต่มือของนางเขายังไม่อยากแตะต้อง พลันภาพเงาร่างของสองชายในค่ำคืนเดือนเพ็ญวาบเข้ามาในหัว ริมฝีปากของหลิวชิวเยว่เบ้ออกอย่างลืมตัว ก่อนจะคลายออก จำต้องข่มใจซ่อนความรู้สึกไว้“ท่านพี่ วันนี้ข้า...” ยังไม่ทันจะได้พูดคุยด้วย ชาวบ้านสูงวัยผู้หนึ่งก็ปรากฎตัวขึ้น ชายผู้นั้นเห็นแม่ทัพหนุ่มจึงรีบตรงเข้ามาทำความเคารพ “ท่านแม่ทัพ” “ผู้เฒ่าหยาง มีเรื่องอันใดที่หมู่บ้านหรือไม่” เสิ่นมู่ฉือเอ่ยถาม เขามองหยางเฉาผู้ใหญ่บ้านตำบลกุ
ตอนที่ 10.ความช่วยเหลือจากฮูหยินแม่ทัพ/2 หลิงเอ๋อกำลังยกชามอาหารที่หลิวชิวเยว่รับประทานเสร็จไปเก็บ ระหว่างกลับมานางพบกับท่านหมอจินซีถิงกับผู้เฒ่าหยางและกุนซือจ้าวหยุนฟาง ทั้งสามกำลังเดินตรงมายังเรือนพักของหลิวชิวเยว่ “ท่านกุนซือ ท่านหมอ ท่านลุง พวกท่านจะไปที่ใดกัน” หลิงเอ๋อเอ่ยถาม ทั้งที่รู้ดีว่าทั้งสามมุ่งหน้ามายังเรือนบุปผาย่อมต้องมาหาคุณหนูของนาง “พวกเราขอเข้าพบฮูหยินท่านแม่ทัพ รบกวนแม่นางหลิงเอ๋อช่วยเรียนฮูหยินด้วย” หมอจินซีถิงเอ่ยขึ้น เขาอาศัยว่าเคยช่วยเหลือหลิวชิวเยว่มาก่อนจึงเป็นคนเอ่ยปากเอง “ท่านหมอจะมาตรวจอาการของฮูหยินหรือเจ้าคะ แล้วท่านกุนซือกับท่านลุง...” หลิงเอ๋อมองทั้งสองคน ก่อนหน้านางเห็นผู้เฒ่าหยางกับท่านหมอแล้ว แต่ท่านกุนซือนี่สิมีธุระอันใดกับคุณหนูของนาง “พวกเรามีเรื่องสำคัญ จะมาขอความช่วยเหลือจากฮูหยิน รบกวนแม่นางหลิงเอ๋อสักนิด” กุนซือจ้าวหยุนฟางโปรยรอยยิ้มทรงเสน่ห์ ใบหน้าหล่อเหลานั้นชวนให้เคลิบเคลิ้ม แก้มของหลิงเอ๋อพลันเห่อร้อนขึ้นมา หลบสายตาแพรวพราวรีบเดินเข้าไปรายงานผู้เป็นนายทันที “ท่านกุนซือ โปรดระวังกิริยาด้วย” หมอจินซีถิงปรามคนชอบโปรยเสน่ห์ ในบ
ตอนที่11. เรามาเป็นเพื่อนกันเถอะหลังจากแม่นมฉีกับหลิงเอ๋อจากไปแล้ว เสิ่นมู่ฉือก็เอ่ยขึ้นว่า “ข้ามาขอบคุณ น้ำใจของฮูหยิน” ท่าทางของเสิ่นมู่ฉือดูห่างเหิน น้ำเสียงแม้คำว่าขอบคุณไม่ได้ทำให้คนฟัง รู้สึกว่าเขาอยากขอบคุณนางจริงๆ คล้ายกับเขามาพูดเพื่อเอาใจนาง แลดูไร้ความจริงใจ “ขอบคุณเรื่องอะไรเจ้าคะ” “ขอบคุณที่เจ้าช่วยชาวบ้าน ” สีหน้าของเสิ่นมู่ฉือคล้ายคนอมของขม แน่แล้วเขาถูกบังคับให้มาเอาใจนาง “ชาวบ้านหมู่บ้านกุ้ยฮวาเป็นคนใต้อาณัติของท่าน ข้าย่อมช่วยเหลือ” “พวกเขาเป็นครอบครัวของทหาร ที่เสียสละเพื่อแคว้นชิงเป่ย ทหารกล้าเหล่านั้นเป็นคนในกองทัพของข้า” เสิ่นมู่ฉือไม่อาจทอดทิ้งพวกเขาได้ เขาแบกรับภาระนี้ไว้ใช้เงินส่วนตัวดูแลชาวบ้าน ครั้งนี้กุนซือจ้าวกับหมอจินกับทำการโดยไม่ปรึกษา ทั้งสองมารายงานเรื่องนี้หลังจากพาผู้เฒ่าหยางไปขอร้องหลิวชิวเยว่แล้ว “ท่านแม่ทัพ ฮูหยินเป็นคนของท่าน ย่อมต้องร่วมหัวจมท้ายกับท่านด้วย ขอให้นางช่วยเหลือไม่ใช่สิ่งควรคิดมาก” กุนซือจ้าวหยุนฟาง ส่งสายตาให้หมอจินซีถิงพ
ตอนที่ 12. ช่วยเหลือชาวบ้าน/1รุ่งเช้าแม่ทัพเสิ่นเดินออกจากห้องมาด้วยท่าทางอ่อนเพลีย เขาพบแม่นมฉีกับหลิงเอ๋อรออยู่หน้าเรือน “คารวะท่านแม่ทัพ” แม่ทัพเสิ่นพยักหน้ารับแล้วเดินจากไป แม่นมฉีรีบเข้าไปดูคุณหนูของตน หลิงเอ๋อยกอ่างน้ำตามหลัง หวังจะเอ่ยสักประโยคให้คุณหนูเขินอาย พอเข้าไปก็พบว่าคุณหนูของตนยังไม่ตื่น เสียงกรนดังลั่นห้อง “แม่นมท่านจะปลุกคุณหนูหรือไม่เจ้าคะ” “ให้นางนอนอีกสักครู่เถอะ เมื่อคืนอาจจะนอนไม่พอ” แม่นมฉีไม่อาจตัดใจปลุกคนกำลังนอนสบายให้ตื่นได้ ท่านแม่ทัพท่าทางอ่อนเพลียเสียยิ่งกว่าคืนเข้าหอ ใต้ดวงตาดำคล้ำแบบนั้น น่าจะไม่ได้นอนทั้งคืน ช่วงข้าวใหม่ปลามัน ช่างน่าอิจฉาเสียจริง... “ข้าตื่นแล้ว” หลิวชิวเยว่ได้ยินเสียงของทั้งสองคนพูดคุยกัน จึงลืมตาตื่นขึ้นมา นางเป็นคนนอนหลับง่ายก็จริงแต่ก็ตื่นไว “ล้างหน้าก่อนนะเจ้าคะ คุณหนูต้องการอาบน้ำหรือไม่ ข้าจะให้คนเตรียมน้ำ” แม่นมฉีเอ่ยถาม หลิงเอ๋อส่งผ้าที่บิดจนหมาดให้หลิวชิวเยว่เช็ดหน้า ใบหน้าแต้มรอยยิ้มแววตาวิบวับ ขณะมองสำรวจไปทั่วร่างกลมๆ ของผู้เป็นนาย “ก็ดี ข้าอยากอาบน้ำให้สบายตัวสักหน่อย” แม่นมฉีรีบออกไปสั่งคนให้ขนน้ำร้อนมา
ตอนที่98.ชีวิตของข้าและสามีแพนด้าผู้คลั่งรัก/3(จบ)"นี่คือยาที่ข้าปรุงมาจากเห็ดเซียน ข้าใช้มันกับอาจารย์หญิงของเจ้าไปหนึ่งเม็ด อีกเม็ดเก็บไว้ให้เจ้าใช้ หลังจากเจ้ากินยาเม็ดนี้แล้ว เจ้าจะปลอดภัยไม่ถูกการตั้งครรภ์คุกคามร่างกาย รีบกินเสียสิ""เจ้าค่ะท่านอาจารย์ ข้าจะกินเดี๋ยวนี้"หลิวชิวเยว่รีบรับยามากินทันที พอกินลงไปแล้ว นางรู้สึกดีขึ้นมาก ไม่มีอาการใดๆ ที่น่ากังวลเลย "ฮูหยิน เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง""ข้ารู้สึกสดชื่นเจ้าค่ะท่านพี่ ดูเหมือนข้าจะไม่หิวข้าวแล้ว"ได้ยินเช่นนี้เสิ่นมู่ฉือก็ผ่อนคลายความตึงเครียดลง แต่ยังรู้สึกเป็นห่วงว่ายาจะมีผลกระทบกับภรรยาหรือไม่"ท่านอาจารย์ ยานี้จะมีผลกระทบต่อภรรยาข้าหรือไม่""ยานี้มีส่วนผสมล้ำค่าอย่างเห็ดเซียน ยอมมีสรรพคุณล้ำเลิศ ไม่มีผลกระทบแน่นอน อีกทั้งยังช่วยทำให้เด็กในครรภ์ของนาง มีความพิเศษกว่าเด็กทั่วไป""พิเศษอย่างไรเจ้าคะ"หลิวชิวเยว่เอ่ยถามอย่างตื่นเต้น บุตรของนางมีความพิเศษนั่นย่อมเป็นเรื่องดี"เรื่องนี้ข้าให้คำตอบไม่ได้ ต้องรอดูตอนเขาคลอดออกมาก่อน เจ้าวางใจเถอะข้าบอกว่าดี ก็ย่อมดี"หลิวเฝิ่นตัดบทด้วยคำนี้ ก่อนจะเอ่ยถึงศิษย์คนโตที่เพิ่งออกเรือนไ
ตอนที่ 97. ชีวิตของข้าและสามีแพนด้าผู้คลั่งรัก/2"วาสนาคนเราไม่เท่ากัน ท่านกุนซือทำใจเสียเถอะ"หมอจินซีถิงรินสุราให้กุนซือจ้าวปลอบใจ ตัวเขามิได้คิดอิจฉาหลี่ซวน ด้วยเป็นสหายกันมานาน อีกทั้งยังบังเอิญล่วงรู้ความลับว่า แม่นางเสี่ยวฮวามีอีกร่างเป็นหมีดำ จึงนึกชื่นชมหลี่ซวนที่มีความรักที่แท้จริง มิได้มองสตรีที่รูปโฉม "หากท่านกุนซืออยากแต่งภรรยา ยังมีสตรีตระกูลดีในเมืองหลวงอีกมากมาย แค่เอ่ยปากแม่สื่อคงมาเยือนจนท่านเวียนหัวเป็นแน่"จางหมิ่นเอ่ยขึ้น พลางยกจอกสุราเทเข้าปาก เขาเห็นกุนซือจ้าวอิจฉาหลี่ซวนแล้ว ก็อยากจะเพิ่มเชื้อไฟในดวงตาอีกฝ่ายอีกสักนิด หากกุนซือจ้าวรู้ว่า หลี่ซวนกำลังจะมีลูก คงตาร้อนผ่าวแน่ แต่เขามิใช่คนปากสว่าง นำเรื่องของผู้อื่นมานินทาต่อ จึงต้องสงบใจไว้"วันข้างหน้าพวกเจ้าจะได้พบคนที่เหมาะสมกับพวกเจ้า"เสิ่นมู่ฉือเดินผ่านมาได้ยิน จึงเข้ามาพูดคุยกับคนสนิททั้งสาม"ท่านแม่ทัพ"ทั้งสามลุกขึ้นทำความเคารพ เสิ่นมู่ฉือโบกมือให้นั่งลง"ไม่เป็นไร พวกเจ้าตามสบายเถอะ ข้าแค่ออกมาหาของกินให้ฮูหยิน ช่วงนี้นางหิวทุกชั่วยาม หมอจินพรุ่งนี้เจ้าช่วยตรวจอาการให้นางได้หรือไม่"เสิ่นมู่ฉือออกมาหาขอ
ตอนที่ 96. ชีวิตของข้าและสามีแพนด้าผู้คลั่งรัก/1หลิวชิวเยว่อยู่ที่เผ่าเยว่เซียนราวสิบวัน ก็ได้เวลากลับเสียที ทางด้านศิษย์พี่หมีกับหลี่ซวนเดินทางกลับหลังจากงานเลี้ยงเลิกราแล้ว เฟิ่งอี้หลันกับหลงเฟยมาส่งลูกสาวตรงประตูทางเข้าออก ผ่านไปยังดินแดนเผ่าจินสวง "เยว่เอ๋อร์ เจ้าแวะมาเยี่ยมแม่กับพ่อบ้างนะลูก"เฟิ่งอี้หลันยังอาลัยอาวรณ์บุตรี นางอยากให้หลิวชิวเยว่กับเสิ่นมู่ฉืออยู่ที่เมืองหลวงเผ่าเยว่เซียนกับนาง แต่เสิ่นมู่ฉือเป็นแม่ทัพใหญ่แห่งชิงเป่ย มิอาจละทิ้งหน้าที่ได้ หลิวชิวเยว่เองไม่คุ้นชินกับชีวิตของเผ่าสัตว์ นางจึงขอกลับบ้านพร้อมสามี"เยว่เอ๋อร์เจ้าใช้กำไลศิลาสวรรค์ ติดต่อพูดคุยกับพ่อแม่ได้ตลอดเวลานะลูก พ่อจะคอยมองดูเจ้าอยู่ทางนี้"หลงเฟยบอกกับลูกสาว เขาได้สร้างกำไลศิลาสวรรค์อีกชิ้น เพื่อใช้ติดต่อกับนาง"ท่านพ่อ ท่านแม่ดูแลสุขภาพด้วยนะเจ้าคะ ข้าจะหมั่นมาเยี่ยมพวกท่านบ่อยๆ หากท่านคิดถึงข้า ก็แวะมาหาข้าได้นะเจ้าคะ ข้าอยากให้ท่านทั้งสอง มาเยี่ยมข้าที่จวนแม่ทัพบ้าง"หลิวชิวเยว่อยากให้บิดามารดา ออกมาท่องเที่ยวเปิดหูเปิดตานอกดินแดนเยว่เซียนบ้าง แต่ติดตรงทั้งสองมีภารกิจในฐานะผู้นำเผ่า จนปลีกเวล
ตอนที่ 95.ถอนคำสาป ครอบครัวพร้อมหน้า/2ก่อนจะปรากฏขึ้นบนพื้นดิน อีกฝั่งของอุโมงค์ หลิวชิวเยว่หลับตาแน่น ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองรอบๆ ก่อนจะอุทานออกมา"เอ๊ะ ! ที่นี่คุ้นตาข้าเหลือเกิน" ร่างของนางยืนอยู่ที่ริมขอบเหว ที่ซึ่งก่อนหน้านี้เคยถูกคนร้ายไล่ล่าจนตกเหวไป ก่อนจะฟื้นขึ้นมาในร่างอ้วนกลมของหลิวชิวเยว่ บุตรีคหบดีหลิวกวาน"นี่คือดินแดนที่เจ้าเคยอยู่ใช่หรือไม่"หลงเฟยเอ่ยถาม เขายกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นหลิวชิวเยว่เบิกตากว้าง แล้วพยักหน้ารับ"ครั้งนั้นข้ากับเฟิ่งอี้หลัน ให้กำเนิดบุตรีฝาแฝด เพื่อปกป้องพวกนาง ข้าได้นำบุตรีคนแรกไปฝากหลิวกวานให้เลี้ยงดู ส่วนบุตรีอีกคนข้าได้นำนางมายังดินแดนแห่งนี้ จากนั้นก็ส่งนางให้ครอบครัวตระกูลหลิวเลี้ยงดู โดยผนึกความทรงจำให้พวกเขาเชื่อว่า นางคือคนในตระกูลของพวกเขา ตั้งชื่อให้ว่าหลิวชิวเยว่ เช่นเดียวกับคนแรก"หลงเฟยแตะมือบนกำไลศิลาสวรรค์ ฉายภาพให้หลิวชิวเยว่ดู เด็กน้อยฝาแฝดสองคนถูกแยกออกจากกัน คนหนึ่งถูกฝากให้หลิวกวานเลี้ยงดู อีกคนถูกหลงเฟยนำมาให้ครอบครัวหลิวจิ้งหมิงเลี้ยงดู "ขะ ข้าไม่ใช่คนของที่นี่ ไม่ใช่ลูกของคุณพ่อ"หลิวชิวเยว่รู้สึกมึนงงราวกลับโลกพลิกคว่ำ นางไม
ตอนที่ 94. ถอนคำสาป ครอบครัวพร้อมหน้า/1ทั้งสองผ่านเข้ามายังดินแดนเผ่าหลงเทียน ราชครูมองไปรอบๆ เห็นหลิวชิวเยว่บินอยู่บนท้องฟ้าข้างกายมีภูติจิ๋วรูปหยดน้ำอยู่ด้วย "เจ้ารู้หรือไม่ว่า แม้แต่ราชาเผ่าหลงเทียนก็ตายด้วยน้ำมือข้ามาแล้ว บิดาเจ้าพ่ายแพ้ต่อข้าจนถูกสาปให้กลายเป็นมังกรเพลิง"ราชครูเอ่ยถึงชัยชนะที่เคยมีเหนือชาวเผ่าหลงเทียนอย่างภาคภูมิใจ เขาเคยสังหารราชาเผ่าหลงเทียน หลังจากที่อีกฝ่ายสังหารบุตรชายและสะใภ้ของตน ครั้งนั้นราชครูได้สาปหลงเฟย ให้กลายเป็นมังกรเพลิงทำลายผู้คนในเผ่าหลงเทียนจนหมดทั้งเผ่า "ราชครู เจ้าช่างภูมิใจในความชั่วของตัวเองเหลือเกินนะ ข้าในฐานะที่มีสายเลือดของเผ่าหลงเทียนครึ่งหนึ่ง ครั้งนี้จะขอเอาชีวิตเจ้าล้างแค้นให้ผู้คนเผ่าหลงเทียน""เหอะ เจ้าฝันไปหรือเปล่า นังเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ข้าจะสั่งสอนเจ้าให้รู้สำนึก"ราชครูเบ้ปากเอ่ยดูแคลน ก่อนจะโบกคฑาในมือเรียกลูกไฟจากบนฟ้าให้ตกใส่หลิวชิวเยว่ตูม ตูม ตูม !ลูกไฟตกจากฟ้าราวกับห่าฝน"เล่นแบบนี้เลยเหรอ เจ้าราชครูบ้า!"หลิวชิวเยว่ขยับปีกบินหลบไปมา ลูกไฟร่วงกระทบพื้นระเบิดเปลวไฟออกมา เผาไหม้ไปทั่วจนเปลวเพลิงแดงฉาน "เสี่ยวเที
ตอนที่ 93.จัดการคนชั่ว/3"ฉางตี้ เจ้ายอมแพ้เสียเถอะ มิเช่นนั้นข้าจะสังหารเจ้าเสีย"เฟิ่งอี้หลันใช้คฑาสายฟ้าของตนฟาดลำแสงสีฟ้าเข้าใส่อีกฝ่าย แต่ราชครูไม่ยอมแพ้ใช้คฑาศิลาโลหิตฟาดลำแสงสีแดงตอบโต้ ลำแสงสีฟ้าและสีแดงปะทะกันจนเกิดเสียงเปรี้ยงปร้าง ราวกับฟ้าผ่า ประกายไฟแตกกระจายลงมายังพื้นเบื้องล่าง"เฟิ่งอี้หลัน เจ้ามีฝีมือเพียงแค่นี้คิดจะฆ่าข้าได้หรือ หึ ข้าจะทำให้เจ้าตายด้วยน้ำมือของคนที่เจ้ารัก"พูดจบราชครูก็โบกคฑาศิลาโลหิต บังเกิดเป็นอุโมงค์สีดำขนาดใหญ่เปิดกว้างขึ้นด้านบน จากนั้นก็มีร่างของสัตว์ตัวใหญ่สีดำตัวหนึ่ง ลอยออกมาจากอุโมงค์นั้นเบื้องหน้าเฟิ่งอี้หลัน"ระวัง นั่นคือมังกรเพลิง หากถูกพ่นไฟใส่จะลุกไหม้และกลายเป็นหิน"หลิวชิวเยว่รีบตะโกนบอก แล้วบินขึ้นไปอยู่เคียงข้างเฟิ่งอี้หลัน"ท่านแม่ ข้าคือหลิวชิวเยว่บุตรีของท่านกับท่านพ่อหลงเฟย ข้าจะช่วยท่านกับท่านพ่อเอง"นางบอกความจริงให้เฟิ่งอี้หลันรับรู้ ก่อนจะหันไปมองราชครูที่กำลังตกตะลึง"นี่เจ้าคือลูกของเฟิ่งอี้หลันกับหลงเฟย หึ ดี ถ้าเช่นนั้นพวกเจ้าสองแม่ลูก ก็จงถูกบิดาและสามีฆ่าตายเถอะ มังกรเพลิงจัดการมัน!"ราชครูโบกคฑาบังคับให้มังกรเพลิง
ตอนที่ 92. ตอน จัดการคนชั่ว/2"เชิญทุกท่านดื่มอวยพรให้ผู้นำเผ่าเยว่เซียนของพวกเรา"หญิงรับใช้ยกถาดใส่จอกสุราแจกจ่ายให้หัวหน้าเผ่าทั้งห้า เมื่อพวกเขารับจอกสุรามาถือไว้ ก็เอ่ยอวยพรขึ้นพร้อมกัน"พวกเราขออวยพรให้ท่านผู้นำ จงเป็นผู้นำของพวกเราตราบนานเท่านาน"ทุกคนเอ่ยจบก็ยกสุราขึ้นดื่ม เมื่อสุราไหลผ่านเข้าไปในคอทันใดนั้นเอง!คนทั้งห้าก็ทรุดลงกับพื้น นอนสิ้นเรี่ยวแรงทันที "นี่เจ้าให้พวกข้าดื่มอะไร"หูซินซินหัวหน้าเผ่าจิ้งจอกเอ่ยถามเสียงแผ่ว นางเป็นสตรีเพียงคนเดียวในกลุ่มผู้นำเผ่าทั้งห้า อีกสี่คนมีสภาพไม่ต่างกัน ผู้นำเผ่าอาชานอนแผ่หรากับพื้น ผู้นำเผ่ากระทิงพยายามฝืนลุกขึ้นยืน แต่ก็หงายท้องล้มลงไปจนหัวแตกเลือดอาบ ผู้นำเผ่าอินทรีย์และเผ่าวานรขยับตัวไม่ได้นอนหายใจรวยรินบนพื้น "หึ พวกเจ้าถูกพิษสกัดลมปราณของข้าแล้ว พิษชนิดนี้จะทำให้พวกเจ้าสิ้นเรี่ยวแรง หากไม่ได้ยาถอนพิษก็จะอ่อนแรงจนค่อยๆ ตายไปภายในเจ็ดวัน"ราชครูฉางตี้แสยะยิ้ม มองผู้นำทั้งห้าเผ่าอย่างคนเหนือกว่า แผนการของหม่าจิ้นครั้งนี้ ทำให้เขาไม่ต้องเปลืองแรงเกลี้ยกล่อมพวกผู้นำทั้งห้า เขารังเกียจพวกชั้นต่ำเหล่านี้มาตลอด ผู้นำเผ่าเยว่เซียนก
ตอนที่ 91. ตอน จัดการคนชั่ว/1จวนราชครูเผ่าเยว่เซียน...ฉางตี้ราชครูแห่งเผ่าเยว่เซียนเมื่อรู้ว่า ผู้นำเผ่าเยว่เซียนได้หายตัวไปพร้อมกับแม่นมฉินและหมอหลวง ก็สั่งการให้ทหารค้นหาคนทั้งสามทั่วเมืองหลวง "พวกเราส่งคนไปค้นหาจนทั่วแล้วขอรับ แต่ไม่พบตัว ตอนนี้กำลังระดมพลค้นหาไปยังเมืองต่างๆ ทั้งห้าเมือง"นายกองหม่าจิ้นเผ่าอาชา ได้รับคำสั่งจากราชครูให้นำกำลังค้นหาผู้นำเผ่าอย่างลับๆ แต่เขาไม่พบเจอนางจึงต้องขยายการค้นหาเป็นวงกว้างขึ้น"แม่นมฉินกับหมอหลวงเป็นแค่ตาแก่ยายแก่ ใช้ความสามารถอันใดพาผู้นำเผ่าหลบหนีไปได้ ต้องมีคนอื่นให้ความช่วยเหลืออยู่แน่"ราชครูฉางตี้รู้สึกโมโหนัก ที่ตนเองดูแคลนตาแก่ยายแก่ทั้งสอง ว่าไม่มีปัญญาทำสิ่งใดได้ ตอนนี้รู้ตัวเมื่อสายไปเสียแล้ว "ท่านราชครูอย่าวิตกไปขอรับ ผู้นำเผ่าถูกพิษบุปผานิทรา มีเพียงท่านราชครูที่มียาแก้พิษ ต่อให้หลบหนีไปได้ ครบหนึ่งเดือนพิษกำเริบก็ต้องตายอยู่ดี"หม่าจิ้นเคยเห็นคนถูกพิษบุปผานิทรา หากไม่ได้กินยาถอนพิษภายในหนึ่งเดือน ร่างกายก็จะเน่าเปื่อยสลายไป ผู้นำเผ่าถูกยาพิษชนิดนี้เล่นงานมีหรือจะรอดชีวิตไปได้ง่ายๆ"ถึงอย่างไร ข้าก็ไม่ไว้วางใจ วันพรุ่งนี้ผู้
ตอนที่ 90.ช่วยเหลือผู้นำเผ่าเยว่เซียน/2"ท่านอาจารย์ ข้าได้นำสุราสลายหมื่นพิษมาแล้วเจ้าค่ะ""ดีมาก เอาล่ะแม่นมฉิน ฉางสุ่ย พวกเจ้าประคองผู้นำเผ่าขึ้นมา แล้วค่อยๆ หยอดสุราสลายหมื่นพิษให้นางดื่มทีละน้อยจนหมดถ้วย"หลิวเฝิ่นบอกทั้งสอง ฉางสุ่ยกับแม่นมฉินประคองร่างของผู้นำเผ่าให้ลุกขึ้นนั่ง ฉางสุ่ยเป็นคนใช้ช้อนตักสุราสลายหมื่นพิษป้อนให้ผู้นำเผ่า จนหมดถ้วย หลิวชิวเยว่กับหลิวเฝิ่นยืนเอาใจช่วยอยู่ข้างๆ จนสุราถูกป้อนจนหมดก็โล่งใจ"เอาล่ะ รอสักครู่ให้สุราสลายหมื่นพิษออกฤทธิ์ ก็จะสามารถสลายพิษในร่างของผู้นำเผ่าได้ ข้าจะออกไปปรุงยาบำรุงมาให้"หลิวเฝิ่นบอก ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ฉางสุ่ยเดินตามสามีออกไปด้วย ในห้องเหลือเพียงแม่นมฉินกับหลิวชิวเยว่ที่เฝ้าดูอาการของผู้นำเผ่า"หลิวชิวเยว่ ข้าขอบคุณเจ้ามากที่ช่วยพาผู้นำเผ่าออกมา"แม่นมฉินประคองร่างผู้นำเผ่าให้นอนลง ขณะเอ่ยขอบคุณหลิวชิวเยว่ "แม่นมฉินไม่ต้องเกรงใจ มารดาของข้าก็เป็นคนเผ่าเยว่เซียนเช่นกัน ข้าย่อมสมควรช่วยเหลือ"หลิวชิวเยว่มองดูผู้นำเผ่า พลังชีวิตในร่างของอีกฝ่ายเริ่มเพิ่มมากขึ้น นางเชื่อมั่นในสรรพคุณของสุราสลายหมื่นพิษของท่านอาจารย์ ว่าจะสามา