"รสชาติรุนแรง บาดคอเหลือเกิน"
สุราในสมัยนี้ช่างรสชาติป่าเถื่อนสิ้นดี หลิวชิวเยว่ลิ้มรสสุรารสชาติดีมาตลอดชีวิต จึงรู้สึกทนไม่ไหว
"แม่นมฉี ในครัวมีน้ำตาลกรวดหรือไม่"
"มีเจ้าค่ะ"
"เช่นนั้นนำมาให้ข้าสักชั่ง แล้วนำไหเปล่ามาให้ข้าใบหนึ่งด้วย หลิงเอ๋อหลังเรือนต้นกุ้ยกำลังออกดอก เจ้าไปเก็บดอกกุ้ยให้ข้า ตอนเก็บเบามือสักหน่อยระวังกลีบจะช้ำ ข้าต้องการสักตะกร้า"
"เจ้าค่ะ"
ทั้งสองรับคำ แล้วแยกย้ายกันทำตามคำสั่ง ครู่ต่อมา แม่นมฉีก็กลับมาพร้อมน้ำตาลกรวด ส่วนหลิงเอ๋อเก็บดอกกุ้ยมาเต็มตะกร้า
"หลิงเอ๋อ เจ้านำไหมาวางตรงนี้ เอาน้ำตาลกรวดเรียงสลับชั้นกับดอกกุ้ยให้เต็มไห"
หลิวชิวเยว่สั่งการ เมื่อหลิงเอ๋อจัดเรียงน้ำตาลกรวดกับดอกกุ้ยเต็มไหแล้ว นางก็เทสุราเติมลงไป เรียกหาผ้าสะอาดมาปิดไหไว้ แล้วนำฝามาปิดอีกชั้น
"รออีกไม่กี่วัน เราจะได้ชิมสุราดอกกุ้ย"
การหมักสุราดอกกุ้ยสูตรเร่งด่วนนี้ ทำกินไม่ยาก ใช้เวลาไม่กี่วันก็ได้สุราดอกกุ้ยรสชาติหอมหวาน
"ดอกกุ้ยเอามาหมักสุราได้ด้วยหรือเจ้าคะ"
หลิงเอ๋อรู้สึกแปลกใจ แม่นมฉีเองก็ไม่เคยรู้วิธีการหมักสุราแบบนี้มาก่อน
"นอกจากดอกกุ้ยแล้ว ดอกไม้ชนิดอื่นก็นำมาหมักสุราได้เช่นกัน ผลไม้เช่นผลท้อ ผลบ้วย ก็ใช้หมักสุราได้รสชาติดี เอาไว้ข้าหาวัตถุดิบได้ จะทำให้พวกเจ้าลองชิม"
หลิวชิวเยว่คันมืออยากลองหมักสุราเล่น นางเชี่ยวชาญเรื่องการหมักสุรา สามารถคิดสูตรหมักสุราจากพืชผลได้หลากหลาย
หลังจากได้ชิมสุราของที่นี่แล้ว ในใจรู้สึกอยากหมักสุรารสชาติดี ให้ผู้คนได้ลิ้มลอง ชีวิตจะได้มีสีสันแตกต่างจากเดิม
ใต้หล้ามีคนเก่งกล้าสามารถมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเซียนกระบี่ เซียนดาบ หมอยาเซียน
คงจะดี หากนางจะเป็น เซียนสุราหญิงคนแรกของประวัติศาสตร์...
///
หลังจากจัดการหมักสุราดอกกุ้ยแล้ว หลิวชิวเยว่ก็ชวนแม่นมฉีกับหลิงเอ๋อดื่มต่อ สุรารสชาติบาดคอเกินไป นางจึงผสมกับน้ำผลไม้และน้ำเชื่อม ทำค็อกเทลผลไม้ให้ดื่มง่ายลื่นคอกว่าเดิม
สามนายบ่าวยกดื่มกันไปชนแก้วกันไป สุดท้ายก็เมาได้ที่ คนเมามักปากเปราะความในใจจึงหลุดปากออกมาง่ายดาย
"คุณหนู ไม่ต้องเสียใจไปหรอกนะเจ้าคะ การได้แต่งงานกับท่านแม่ทัพถือว่าเป็นเกียรติ แก่ตัวคุณหนูและตระกูลหลิว อย่าได้สนใจพวกชาวบ้านเหล่านั้นเลย พวกนั้นก็ปากหอยปากปูไปเรื่อย แค่ใช้ชีวิตให้มีความสุขก็พอแล้วเจ้าค่ะ"
แม่นมฉีเอ่ยปลอบโยน นางคิดเอาเองว่า หลิวชิวเยว่อาจจะรู้สึกเสียใจ ที่สามีไม่ยอมไปเยี่ยมบ้านด้วย ไม่พอยังถูกชาวบ้านนินทา
"ข้าเกลียดพวกปากเสียพวกนั้น กล่าวหานินทาคุณหนูมาหลายปีไม่เลิกรา น่าเอาเข็มเย็บปากให้หมด จะได้ไม่พ่นคำพูดเน่าๆ ออกมาอีก"
หลิงเอ๋อแค้นใจชาวบ้านชอบนินทาพวกนั้นนัก ตระกูลหลิวเป็นคหบดีมีฐานะก็จริง แต่เป็นเพียงพ่อค้าไม่ใช่ขุนนาง จึงไร้บารมีขาดคนเกรงกลัว คุณหนูวาสนาดีได้แต่งงานกับแม่ทัพเสิ่นมู่ฉือ แต่มิได้หลุดพ้นจากปากพวกขี้นินทาเหล่านั้น
"ข้าอ้วนแล้วหนักหัวใคร สามีข้าชอบตัดแขนเสื้อแล้วอย่างไร ใครสนกัน"
หลิวชิวเยว่พูดจบก็สาดเหล้าลงคอ ปากนางบอกว่าไม่สนใจ แต่ในใจก็อดคิดไม่ได้ว่า นางจะมีชีวิตในร่างหญิงอ้วนไปจนตายได้อย่างไร สามีของนางเป็นพวกชายรักชายจริงหรือ นางแค่เชื่อตามความทรงจำของร่างเก่า ที่บอกว่ามีคนนินทาเสิ่นมู่ฉือว่าอาจจะเป็นพวกชอบตัดแขนเสื้อ
แม่ทัพเสิ่น กล้าหาญชื่อเสียงเกรียงไกร รบร้อยครั้งไม่เคยพ่ายแพ้ คนเช่นนี้จะเป็นชายรักชายจริงหรือ
"หลายวันมานี้ ข้าไปคุยกับพวกบ่าวในจวน พวกเขาต่างชมชอบข้า แม้แต่พ่อบ้านหวังเอง ก็มักจะแอบมองแม่นมฉีบ่อยๆ"
หลิงเอ๋ออาศัยช่วงเวลาว่าง ไปคุยกับบ่าวในจวน นางเป็นดรุณีน้อยหน้าตาน่ารักพริ้มเพรา หนุ่มๆ ย่อมต้องตาได้ง่าย จวนแม่ทัพไรสตรีมานานปี เมื่อมีผู้หญิงเข้ามาจึงมักถูกสายตาจับจ้อง นางสังเกตพฤติกรรมของแต่ละคน ก็ไม่พบความผิดปกติ นางแกล้งเลียบๆ เคียงๆ ถามถึงท่านแม่ทัพ บ่าวในเรือนก็เหมือนจะถูกอุดปากไว้ ไม่ยอมปริปากถึงเจ้านายสักคำ
"เจ้าเอาอะไรมาพูด พ่อบ้านหวังหรือจะมองข้า เขาแค่มาจับผิดข้า ไม่ได้สนใจข้าหรอก ข้าอายุเท่านี้แล้ว มิใช่ดรุณีน้อย ผู้ใดจะคิดสนใจ"
แม่นมฉียกจอกเหล้าขึ้นดื่ม แก้มเจือสีชมพูระเรื่อขึ้นมา ไม่รู้จากฤทธิ์สุราหรือความเขินอาย
"แม่นมฉีของข้า ยังเปล่งปลั่งงดงามเพียงนี้ ชายไม่ตาบอดย่อมเห็นความงาม"
แม่นมฉีแม้จะอายุมากกว่าสามสิบปีแล้ว แต่ใบหน้ายังอ่อนเยาว์รูปร่างอรชรอ้อนแอ้น หากจับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าทรงผมใหม่ สวมชุดที่มีสีสันสดใสกว่าชุดสีหม่นที่เจ้าตัวชอบใส่ คงไม่ต่างจากพี่สาวคนโตของหลิงเอ๋อ
"ข้าว่าพ่อบ้านหวังสายตาดีมากนะเจ้าคะ"
หลิงเอ๋อเหล้าเข้าปากก็กล้าพูดหยอกแม่นมฉี ปกตินางจะกลัวแม่นมฉีดุ ยามนี้กล้าปีนเกลียวเล่นหัวคนสูงวัยกว่า
"หุบปาก เจ้าเองก็ระวังตัวบ้าง ไปพูดคุยเล่นกับบ่าวผู้ชายในจวน ถ้ามีใครคิดไม่ซื่อเจ้าจะลำบาก"
"ข้าเป็นถึงสาวใช้ต้นห้องฮูหยินแม่ทัพ ใครจะกล้าทำอะไรข้า"
หลิงเอ๋อไม่เดือดร้อนสักนิด นางเป็นคนสดใสร่าเริง มักชอบพูดคุยสนุกไม่คิดอะไรมาก บวกกับใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารัก ใครเห็นย่อมชุ่มชื่นหัวใจ
"พวกเจ้าคงเมาแล้ว ไปพักผ่อนเถอะ ข้าจะนอนแล้ว"
หลิวชิวเยว่ไล่สองคนให้ออกจากห้อง ตัวนางนั่งจิบเหล้าต่อครู่หนึ่ง เหล้าค้อกเทลรสหวานหอมหมดแล้ว นางจึงลุกออกไปเดินเล่นในสวนให้สร่างเมา
ยามดึกจวนแม่ทัพเงียบสงบ บ่าวไพร่หลบอยู่ในเรือนของตน หลิวชิวเยว่เดินเล่นไปรอบๆ ลมเย็นๆ ทำให้ฤทธิ์เหล้าสร่างลง นางเดินไปใช้ความคิดไป
นางข้ามภพมาอยู่ในยุคอดีต ห่างไกลจากยุคปัจจุบันนับพันๆ ปี ความทรงจำสุดท้าย นางกับบิดาถูกคนร้ายไล่ล่า และต้องตายไปอย่างอนาถ หากตายไปคือสิ้นชาติภพ ใยนางต้องกลับมาเกิดในร่างของบรรพบุรุษหญิงผู้นี้ด้วย
ยิ่งคิดไปก็ยิ่งไม่เข้าใจฟ้าดิน ให้นางมาอยู่ในร่างนี้เพื่ออะไร นางจะเปลี่ยนอนาคตของท่านบรรพบุรุษได้อย่างไร เมื่อบันทึกของตระกูลบอกว่า ท่านบรรพบุรุษเป็นผู้คิดค้นสูตรหมักเหล้า สืบทอดต่อมาจนถึงรุ่นของนาง ชีวิตของหลิวชิวเยว่ผู้นี้มีอะไรให้เปลี่ยนแปลงกันเล่า
หลิวชิวเยว่ถอนใจหลุดจากภวังค์ความคิด พลางแหงนมองท้องฟ้า คืนนี้จันทร์เต็มดวงทอแสงสว่างนวลตา นางมองไปรอบกายแล้วพบว่าตัวเองเดินเพลินจนเข้ามาสู่เขตเรือนหน้า อันเป็นที่พักของแม่ทัพเสิ่น
"โอ๊ย ! ท่านแม่ทัพปล่อยข้า ข้าเจ็บ..."
ทันใดนั้นเองเสียงนี้ก็ดังลอยตามลมมา หลิวชิวเยว่ชะงักนิ่ง รีบเงี่ยหูฟัง
"นั่นมันเสียงท่านหมอจิน"
หลิวชิวเยว่พาร่างอ้วนกลมของตัวเองเดินหาที่มาของเสียง จนมาถึงห้องๆ หนึ่ง ความอยากรู้อยากเห็น ทำให้นางพยายามย่องหารูส่อง จนพบว่าหน้าต่างหนึ่งปิดไม่สนิท จึงกลั้นใจเอาตาแนบรอยแยกแล้วส่องดู
ภาพที่เห็นคือภายในห้องนอน บนเตียงม่านมุ้งบางกำลังขยับไหว แสงจากเทียนสาดส่องมองเห็นเงาของชายสองคนหลังม่าน คนหนึ่งนั่งทับชายอีกคนบนเตียง ชายด้านบนใช้มือบีบลำคอคนข้างใต้ไว้ คนโดนบีบคอดิ้นรนไปมาส่งเสียงร้องไปด้วย
"ท่านแม่ทัพตั้งสติ ปล่อยมือก่อน อย่าฝืน"
"หมอจิน ข้าทนไม่ไหวแล้ว มันทรมานเหลือเกิน ให้ข้าทำเถอะ..."
ฟังจากเสียง ชายสองคนนั้นคือแม่ทัพเสิ่น และหมอจินนั่นเอง คนที่แอบมองอยู่ถึงกับตาเบิกกว้างอ้าปากค้าง ชายคนที่อยู่ด้านบนก็คือแม่ทัพเสิ่น ส่วนชายที่ถูกจับกดเอาไว้ด้านล่าง ก็คือหมอจินซีถิง
หลิวชิวเยว่ผละออกจากรูที่ส่อง ตื่นตะลึงกับสิ่งที่ได้เห็น เขาว่าร้อยคำพูดไม่สู้ได้เห็นด้วยตาตัวเอง ครั้งนี้นางเห็นสามีของตนกับท่านหมอ กำลังโรมรันกันอยู่บนเตียง จากเงาชายทั้งสองเสื้อผ้าหลุดลุ่ย จะให้คิดเป็นอื่นได้อย่างไร
หลิวชิวเยว่ พาร่างอ้วนกลมของตัวเองเดินออกมาจากตรงนั้นด้วยท่าทางอ่อนระโหยโรยแรง ในใจก็นึกเสียดายความหล่อของสามี แม่ทัพเสิ่นมู่ฉือเป็นผู้ชายที่มีใบหน้าหล่อเหลารูปร่างกำยำล่ำสัน ส่วนท่านหมอจินนั้น ก็หล่อสำอางแบบสุภาพบุรุษ น่าเสียดายทั้งสองไม่ได้ใช้ความเป็นชายให้เกิดประโยชน์กับสตรี
"สวรรค์ตาบอด หรือข้าไร้วาสนา มีสามีทั้งทีดันเป็นชายรักชาย"
หลิวชิวเยว่ก่นด่าชะตากรรมของตัวเอง พาร่างมาทิ้งตัวลงบนเตียงด้วยความโมโห
โครม !
ร่างอ้วนทั้งหนักทั้งใหญ่ ขาเตียงข้างหนึ่งรับภาระอันหนักอึ้งต่อไปไม่ไหว หักโครมลงมา พื้นเตียงจึงเอียงไปฝั่งหนึ่ง
"แม้แต่เตียงยังเอียง ไม่เข้าข้างข้าเลย เจ็บใจโว้ย!"
///
ตอนที่ 9. ความช่วยเหลือจากฮูหยินแม่ทัพ/1เสิ่นมู่ฉือพร้อมกับผู้ติดตามทั้งสี่กลับมาถึงจวนในช่วงเย็น เขาพบกับรถม้าของหลิวชิวเยว่ที่เพิ่งกลับมาถึงเช่นกัน “ท่านพี่ ข้ากลับมาแล้ว” หลิวชิวเยว่เปิดม่านหน้าต่างรถม้า ส่งเสียงทักทายสามี เสิ่นมู่ฉือจึงเดินมาหาภรรยา “ฮูหยิน เจ้ามาถึงแล้วหรือ” เสิ่นมู่ฉือยืนรออยู่ข้างรถม้า ร่างอ้วนกลมของหลิวชิวเยว่ขยับลงมาจากรถม้า ยื่นมือหมายจะส่งให้สามีช่วยพยุง แต่เขากลับยืนนิ่ง แม่นมฉีรีบเข้าไปช่วยคุณหนูของตน เมื่อลงมาถึงพื้นแม่ทัพหนุ่มเพียงแค่มองดูนางด้วยใบหน้าเรียบเฉย เขามาทักทายนางตามมารยาทเท่านั้นหรือ หลิวชิวเยว่รู้สึกเหมือนโดนรังเกียจ แม้แต่มือของนางเขายังไม่อยากแตะต้อง พลันภาพเงาร่างของสองชายในค่ำคืนเดือนเพ็ญวาบเข้ามาในหัว ริมฝีปากของหลิวชิวเยว่เบ้ออกอย่างลืมตัว ก่อนจะคลายออก จำต้องข่มใจซ่อนความรู้สึกไว้“ท่านพี่ วันนี้ข้า...” ยังไม่ทันจะได้พูดคุยด้วย ชาวบ้านสูงวัยผู้หนึ่งก็ปรากฎตัวขึ้น ชายผู้นั้นเห็นแม่ทัพหนุ่มจึงรีบตรงเข้ามาทำความเคารพ “ท่านแม่ทัพ” “ผู้เฒ่าหยาง มีเรื่องอันใดที่หมู่บ้านหรือไม่” เสิ่นมู่ฉือเอ่ยถาม เขามองหยางเฉาผู้ใหญ่บ้านตำบลกุ
ตอนที่ 10.ความช่วยเหลือจากฮูหยินแม่ทัพ/2 หลิงเอ๋อกำลังยกชามอาหารที่หลิวชิวเยว่รับประทานเสร็จไปเก็บ ระหว่างกลับมานางพบกับท่านหมอจินซีถิงกับผู้เฒ่าหยางและกุนซือจ้าวหยุนฟาง ทั้งสามกำลังเดินตรงมายังเรือนพักของหลิวชิวเยว่ “ท่านกุนซือ ท่านหมอ ท่านลุง พวกท่านจะไปที่ใดกัน” หลิงเอ๋อเอ่ยถาม ทั้งที่รู้ดีว่าทั้งสามมุ่งหน้ามายังเรือนบุปผาย่อมต้องมาหาคุณหนูของนาง “พวกเราขอเข้าพบฮูหยินท่านแม่ทัพ รบกวนแม่นางหลิงเอ๋อช่วยเรียนฮูหยินด้วย” หมอจินซีถิงเอ่ยขึ้น เขาอาศัยว่าเคยช่วยเหลือหลิวชิวเยว่มาก่อนจึงเป็นคนเอ่ยปากเอง “ท่านหมอจะมาตรวจอาการของฮูหยินหรือเจ้าคะ แล้วท่านกุนซือกับท่านลุง...” หลิงเอ๋อมองทั้งสองคน ก่อนหน้านางเห็นผู้เฒ่าหยางกับท่านหมอแล้ว แต่ท่านกุนซือนี่สิมีธุระอันใดกับคุณหนูของนาง “พวกเรามีเรื่องสำคัญ จะมาขอความช่วยเหลือจากฮูหยิน รบกวนแม่นางหลิงเอ๋อสักนิด” กุนซือจ้าวหยุนฟางโปรยรอยยิ้มทรงเสน่ห์ ใบหน้าหล่อเหลานั้นชวนให้เคลิบเคลิ้ม แก้มของหลิงเอ๋อพลันเห่อร้อนขึ้นมา หลบสายตาแพรวพราวรีบเดินเข้าไปรายงานผู้เป็นนายทันที “ท่านกุนซือ โปรดระวังกิริยาด้วย” หมอจินซีถิงปรามคนชอบโปรยเสน่ห์ ในบ
ตอนที่11. เรามาเป็นเพื่อนกันเถอะหลังจากแม่นมฉีกับหลิงเอ๋อจากไปแล้ว เสิ่นมู่ฉือก็เอ่ยขึ้นว่า “ข้ามาขอบคุณ น้ำใจของฮูหยิน” ท่าทางของเสิ่นมู่ฉือดูห่างเหิน น้ำเสียงแม้คำว่าขอบคุณไม่ได้ทำให้คนฟัง รู้สึกว่าเขาอยากขอบคุณนางจริงๆ คล้ายกับเขามาพูดเพื่อเอาใจนาง แลดูไร้ความจริงใจ “ขอบคุณเรื่องอะไรเจ้าคะ” “ขอบคุณที่เจ้าช่วยชาวบ้าน ” สีหน้าของเสิ่นมู่ฉือคล้ายคนอมของขม แน่แล้วเขาถูกบังคับให้มาเอาใจนาง “ชาวบ้านหมู่บ้านกุ้ยฮวาเป็นคนใต้อาณัติของท่าน ข้าย่อมช่วยเหลือ” “พวกเขาเป็นครอบครัวของทหาร ที่เสียสละเพื่อแคว้นชิงเป่ย ทหารกล้าเหล่านั้นเป็นคนในกองทัพของข้า” เสิ่นมู่ฉือไม่อาจทอดทิ้งพวกเขาได้ เขาแบกรับภาระนี้ไว้ใช้เงินส่วนตัวดูแลชาวบ้าน ครั้งนี้กุนซือจ้าวกับหมอจินกับทำการโดยไม่ปรึกษา ทั้งสองมารายงานเรื่องนี้หลังจากพาผู้เฒ่าหยางไปขอร้องหลิวชิวเยว่แล้ว “ท่านแม่ทัพ ฮูหยินเป็นคนของท่าน ย่อมต้องร่วมหัวจมท้ายกับท่านด้วย ขอให้นางช่วยเหลือไม่ใช่สิ่งควรคิดมาก” กุนซือจ้าวหยุนฟาง ส่งสายตาให้หมอจินซีถิงพ
ตอนที่ 12. ช่วยเหลือชาวบ้าน/1รุ่งเช้าแม่ทัพเสิ่นเดินออกจากห้องมาด้วยท่าทางอ่อนเพลีย เขาพบแม่นมฉีกับหลิงเอ๋อรออยู่หน้าเรือน “คารวะท่านแม่ทัพ” แม่ทัพเสิ่นพยักหน้ารับแล้วเดินจากไป แม่นมฉีรีบเข้าไปดูคุณหนูของตน หลิงเอ๋อยกอ่างน้ำตามหลัง หวังจะเอ่ยสักประโยคให้คุณหนูเขินอาย พอเข้าไปก็พบว่าคุณหนูของตนยังไม่ตื่น เสียงกรนดังลั่นห้อง “แม่นมท่านจะปลุกคุณหนูหรือไม่เจ้าคะ” “ให้นางนอนอีกสักครู่เถอะ เมื่อคืนอาจจะนอนไม่พอ” แม่นมฉีไม่อาจตัดใจปลุกคนกำลังนอนสบายให้ตื่นได้ ท่านแม่ทัพท่าทางอ่อนเพลียเสียยิ่งกว่าคืนเข้าหอ ใต้ดวงตาดำคล้ำแบบนั้น น่าจะไม่ได้นอนทั้งคืน ช่วงข้าวใหม่ปลามัน ช่างน่าอิจฉาเสียจริง... “ข้าตื่นแล้ว” หลิวชิวเยว่ได้ยินเสียงของทั้งสองคนพูดคุยกัน จึงลืมตาตื่นขึ้นมา นางเป็นคนนอนหลับง่ายก็จริงแต่ก็ตื่นไว “ล้างหน้าก่อนนะเจ้าคะ คุณหนูต้องการอาบน้ำหรือไม่ ข้าจะให้คนเตรียมน้ำ” แม่นมฉีเอ่ยถาม หลิงเอ๋อส่งผ้าที่บิดจนหมาดให้หลิวชิวเยว่เช็ดหน้า ใบหน้าแต้มรอยยิ้มแววตาวิบวับ ขณะมองสำรวจไปทั่วร่างกลมๆ ของผู้เป็นนาย “ก็ดี ข้าอยากอาบน้ำให้สบายตัวสักหน่อย” แม่นมฉีรีบออกไปสั่งคนให้ขนน้ำร้อนมา
ตอนที่ 13. ช่วยเหลือชาวบ้าน/2 ห้าวันต่อมา ขบวนขนเสบียงประกอบไปด้วยวัวเทียมเกวียน ขนพวกข้าวสารอาหารแห้งและธัญพืชรวมห้าคัน รถม้าของจวนแม่ทัพอีกหนึ่งคันออกนำหน้าขบวน เสิ่นมู่ฉือสั่งให้จางหมิ่นกับหลี่ชวนดูแลขบวนเสบียง ให้ผู้เฒ่าหยางนั่งไปในเกวียนเสบียงด้วย ตัวเขากุนซือจ้าวกับหมอจินขี่ม้าไป ในรถม้าหลิวชิวเยว่กับหลิงเอ๋อและแม่นมฉีนั่งอยู่ด้านใน แม้ภายในรถม้าค่อนข้างกว้าง แต่ขนาดตัวของหลิวชิวเยว่นั้นก็กินพื้นไปที่ไปกว่าครึ่ง แม่นมฉีจัดเตรียมของกินไว้ให้คุณหนูของตนรับประทานระหว่างทาง ใส่กล่องอาหารไว้ถึงสามกล่องใหญ่ “คุณหนูเจ้าคะ เส้นทางไปถึงหมู่บ้านกุ้ยฮวาค่อนข้างไกล ข้าได้ยินท่านหมอจินบอกว่าใช้เวลาทั้งวัน” แม่นมฉีมักทำอาหารไปแบ่งปันให้คนสนิทของแม่ทัพเสิ่นอยู่เสมอ อาศัยตีสนิทแอบสอบถามข่าวคราวไปด้วย การเดินทางครั้งนี้ค่อนข้างลำบาก หมู่บ้านกุ้ยฮวาอยู่ห่างจากเมืองหลวง ออกจากเมืองไปต้องไปพักกลางทาง คุณหนูในห้องหออย่างหลิวชิวเยว่ไม่รู้จะทนลำบากไหวหรือไม่ “แม่นมท่านเคยออกจากเมืองหลวงหรือไม่” หลิวชิวเยว่ถามขึ้น “ไม่เคยเจ้าค่ะ ข้าเกิดในจวนตระ
ตอนที่ 14. หนีเสือปะหมี/1เช้าวันต่อมา หลิวชิวเยว่ตื่นขึ้นมาบนเตียง เมื่อหันไปมองที่เก้าอี้ไม่พบร่างของสามี เมื่อคืนนางนอนหลับไปด้วยความอ่อนเพลียจากการเดินทาง ส่วนเสิ่นมู่ฉือนั้นอาศัยเก้าอี้ในห้องเป็นที่นอน"คุณหนูตื่นแล้วหรือเจ้าคะ"แม่นมฉีเปิดประตูเข้ามาในห้อง หลิงเอ๋อยกอ่างล้างหน้าตามเข้ามาด้านหลัง"แม่นม ท่านเห็นท่านแม่ทัพบ้างหรือไม่"หลิวชิวเยว่ล้างหน้าเสร็จก็เอ่ยถามถึงสามี คนรับใช้ทั้งสอง ช่วยจัดแต่งทรงผมและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้นาง"ท่านแม่ทัพ กำลังปรึกษาหารือกับผู้เฒ่าหยางเจ้าค่ะ"เสิ่นมู่ฉือตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ เขาเรียกผู้เฒ่าหยางซึ่งเป็นหัวหน้าหมู่บ้านแห่งนี้มาปรึกษาหารือแม่นมหลิวอาศัยครัวของบ้านผู้เฒ่าหยางทำอาหารเช้าให้กับเจ้านายของตัวเอง รวมถึงจัดเตรียมให้ผู้ติดตามของเขาด้วย "เมื่อคืนข้าได้คุยกับแม่เฒ่าซ่ง ภรรยาของผู้เฒ่าหยาง นางเล่าว่าคนในหมู่บ้านหลายคนล้มป่วยเพราะขาดอาหาร โดยเฉพาะคนชราและเด็กๆ ท่านแม่ทัพได้ให้ท่านหมอจินดูแลพวกเขาเหล่านั้น ไม่คิดเลยว่าคนที่อยู่หมู่บ้านนอกเมืองจะลำบากเช่นนี้"หลิงเอ๋อเป็นเด็กสาวที่ชอบพูดคุย เมื่อคืนนางได้พูดคุยกับภรรยาของผู้เฒ่าหยาง รับรู้ว่าช
ตอนที่ 15. . หนีเสือปะหมี/2ด้านหลิวชิวเยว่นั้นใช้แรงที่มีวิ่งหนีเสือสุดกำลัง ร่างอ้วนกลมหนักร่วมสองร้อยจิน พาตัวเองวิ่งหนีไปข้างหน้า จนไม่ได้มองทางว่ายิ่งวิ่งก็ยิ่งเข้าไปในป่าลึก ตัวนางหลงทิศหลงทาง หาทางวิ่งออกจากป่าไม่ได้" ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยข้าที!"หลิวชิวเยว่แหกปากร้องขอความช่วยเหลือ แม้จะรู้ว่าในป่านี้ไม่มีผู้คน แต่นางทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้วโฮกกก !ด้านหลังเจ้าเสือตัวใหญ่ซอยเท้าวิ่งตามเข้ามาใกล้เรื่อยๆ มันส่งเสียงคำราม พร้อมตั้งท่าจะกระโจนเข้าใส่ร่างอ้วนกลมด้านหน้าโอ๊ย ! ตุ๊บ !คนเจ้าเนื้อวิ่งไม่ดูทาง สะดุดต้นหญ้าเถาวัลย์จนร่างอ้วนกลมล้มลง ทั้งเจ็บทั้งจุก พยายามจะลุกขึ้นแต่เจ้าเสือร้ายก็เข้ามาใกล้ตัวเสียแล้ว อีกไม่กี่ก้าวมันก็จะขย้ำหัวนาง"เจ้าเห็นข้าเป็นหมูรึไง ไล่กัดข้าไม่ยอมปล่อย ข้าโมโหแล้วนะ!"หลิวชิวเยว่มีนิสัยประหลาดอย่างหนึ่ง เมื่อกลัวสุดขีด ก็จะเปลี่ยนเป็นโมโห เมื่อโมโหนางก็ไม่กลัวสิ่งใดอีก ยามนี้นางจนตรอกแล้ว เจ้าเสือนี่คิดจะกินนาง ก็อย่าหวังว่าจะกินได้สบายปาก โฮกกก!เจ้าเสือคำรามเสียงดังคล้ายข่มขู่เหยื่อ ดวงตาสีอำพันมองจ้องร่างขาวอวบเขม็ง เตรียมจัดการลิ้มรส
ตอนที่ 16. ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้เอง/1ในตอนที่กิ่งไม้ปริออกจากลำต้น หลิวชิวเยว่ไม่ทันได้ตั้งตัว นางยื่นมือไปหมายจะคว้ามือของเสิ่นมู่ฉือ แต่ไม่ทันการเสียแล้วเขายื่นมือมาแตะได้เพียงปลายมือของนาง ก่อนที่ร่างอ้วนกลมจะร่วงลงมาพร้อมกับกิ่งไม้เหล่านั้น ข้าต้องตายแน่ๆ !หลิวชิวเยว่หลับตาแน่นรอรับความเจ็บปวดยามร่างกระแทกพื้น แต่นางกลับไม่รู้สึกเจ็บมากมายเท่าใดนัก มีเพียงความจุกเสียดเล็กน้อยเมื่อมีบางสิ่งรองรับร่างหนาหนักของนางเอาไว้ตุ๊บ !แอ๊ก !เสียงหล่นกระแทกดังขึ้นพร้อมกับเสียงร้อง ของเจ้าเสือตัวใหญ่ ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีของหลิวชิวเยว่หรือเป็นโชคร้ายของเจ้าเสือตัวนั้น ร่างของนางหล่นมาทับมันได้อย่างพอดิบพอดี ด้วยน้ำหนักและความสูงยามดิ่งลงมา ทำให้เจ้าเสือที่อยู่ด้านล่างสิ้นลมไปในทันที " โอ๊ย ท่านพี่ช่วยข้าด้วย"หลิวชิวเยว่จุกจนลุกไม่ขึ้น ได้แต่ส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ ทำให้เสิ่นมู่ฉือที่อยู่บนต้นไม้ได้สติ เขารีบกระโดดลงมาหานาง"ฮูหยิน นี่เจ้า... เจ้าเจ็บตรงไหนบ้าง"เสิ่นมู่ฉือรีบเข้าไปพยุงหลิวชิวเยว่ พานางขยับถอยออกมาจากซากร่างของเจ้าเสือที่สิ้นลมไปแล้ว ด้วยน้ำหนักสองร้อยจินบวกกับแรงกระแทกจ
ตอนที่98.ชีวิตของข้าและสามีแพนด้าผู้คลั่งรัก/3(จบ)"นี่คือยาที่ข้าปรุงมาจากเห็ดเซียน ข้าใช้มันกับอาจารย์หญิงของเจ้าไปหนึ่งเม็ด อีกเม็ดเก็บไว้ให้เจ้าใช้ หลังจากเจ้ากินยาเม็ดนี้แล้ว เจ้าจะปลอดภัยไม่ถูกการตั้งครรภ์คุกคามร่างกาย รีบกินเสียสิ""เจ้าค่ะท่านอาจารย์ ข้าจะกินเดี๋ยวนี้"หลิวชิวเยว่รีบรับยามากินทันที พอกินลงไปแล้ว นางรู้สึกดีขึ้นมาก ไม่มีอาการใดๆ ที่น่ากังวลเลย "ฮูหยิน เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง""ข้ารู้สึกสดชื่นเจ้าค่ะท่านพี่ ดูเหมือนข้าจะไม่หิวข้าวแล้ว"ได้ยินเช่นนี้เสิ่นมู่ฉือก็ผ่อนคลายความตึงเครียดลง แต่ยังรู้สึกเป็นห่วงว่ายาจะมีผลกระทบกับภรรยาหรือไม่"ท่านอาจารย์ ยานี้จะมีผลกระทบต่อภรรยาข้าหรือไม่""ยานี้มีส่วนผสมล้ำค่าอย่างเห็ดเซียน ยอมมีสรรพคุณล้ำเลิศ ไม่มีผลกระทบแน่นอน อีกทั้งยังช่วยทำให้เด็กในครรภ์ของนาง มีความพิเศษกว่าเด็กทั่วไป""พิเศษอย่างไรเจ้าคะ"หลิวชิวเยว่เอ่ยถามอย่างตื่นเต้น บุตรของนางมีความพิเศษนั่นย่อมเป็นเรื่องดี"เรื่องนี้ข้าให้คำตอบไม่ได้ ต้องรอดูตอนเขาคลอดออกมาก่อน เจ้าวางใจเถอะข้าบอกว่าดี ก็ย่อมดี"หลิวเฝิ่นตัดบทด้วยคำนี้ ก่อนจะเอ่ยถึงศิษย์คนโตที่เพิ่งออกเรือนไ
ตอนที่ 97. ชีวิตของข้าและสามีแพนด้าผู้คลั่งรัก/2"วาสนาคนเราไม่เท่ากัน ท่านกุนซือทำใจเสียเถอะ"หมอจินซีถิงรินสุราให้กุนซือจ้าวปลอบใจ ตัวเขามิได้คิดอิจฉาหลี่ซวน ด้วยเป็นสหายกันมานาน อีกทั้งยังบังเอิญล่วงรู้ความลับว่า แม่นางเสี่ยวฮวามีอีกร่างเป็นหมีดำ จึงนึกชื่นชมหลี่ซวนที่มีความรักที่แท้จริง มิได้มองสตรีที่รูปโฉม "หากท่านกุนซืออยากแต่งภรรยา ยังมีสตรีตระกูลดีในเมืองหลวงอีกมากมาย แค่เอ่ยปากแม่สื่อคงมาเยือนจนท่านเวียนหัวเป็นแน่"จางหมิ่นเอ่ยขึ้น พลางยกจอกสุราเทเข้าปาก เขาเห็นกุนซือจ้าวอิจฉาหลี่ซวนแล้ว ก็อยากจะเพิ่มเชื้อไฟในดวงตาอีกฝ่ายอีกสักนิด หากกุนซือจ้าวรู้ว่า หลี่ซวนกำลังจะมีลูก คงตาร้อนผ่าวแน่ แต่เขามิใช่คนปากสว่าง นำเรื่องของผู้อื่นมานินทาต่อ จึงต้องสงบใจไว้"วันข้างหน้าพวกเจ้าจะได้พบคนที่เหมาะสมกับพวกเจ้า"เสิ่นมู่ฉือเดินผ่านมาได้ยิน จึงเข้ามาพูดคุยกับคนสนิททั้งสาม"ท่านแม่ทัพ"ทั้งสามลุกขึ้นทำความเคารพ เสิ่นมู่ฉือโบกมือให้นั่งลง"ไม่เป็นไร พวกเจ้าตามสบายเถอะ ข้าแค่ออกมาหาของกินให้ฮูหยิน ช่วงนี้นางหิวทุกชั่วยาม หมอจินพรุ่งนี้เจ้าช่วยตรวจอาการให้นางได้หรือไม่"เสิ่นมู่ฉือออกมาหาขอ
ตอนที่ 96. ชีวิตของข้าและสามีแพนด้าผู้คลั่งรัก/1หลิวชิวเยว่อยู่ที่เผ่าเยว่เซียนราวสิบวัน ก็ได้เวลากลับเสียที ทางด้านศิษย์พี่หมีกับหลี่ซวนเดินทางกลับหลังจากงานเลี้ยงเลิกราแล้ว เฟิ่งอี้หลันกับหลงเฟยมาส่งลูกสาวตรงประตูทางเข้าออก ผ่านไปยังดินแดนเผ่าจินสวง "เยว่เอ๋อร์ เจ้าแวะมาเยี่ยมแม่กับพ่อบ้างนะลูก"เฟิ่งอี้หลันยังอาลัยอาวรณ์บุตรี นางอยากให้หลิวชิวเยว่กับเสิ่นมู่ฉืออยู่ที่เมืองหลวงเผ่าเยว่เซียนกับนาง แต่เสิ่นมู่ฉือเป็นแม่ทัพใหญ่แห่งชิงเป่ย มิอาจละทิ้งหน้าที่ได้ หลิวชิวเยว่เองไม่คุ้นชินกับชีวิตของเผ่าสัตว์ นางจึงขอกลับบ้านพร้อมสามี"เยว่เอ๋อร์เจ้าใช้กำไลศิลาสวรรค์ ติดต่อพูดคุยกับพ่อแม่ได้ตลอดเวลานะลูก พ่อจะคอยมองดูเจ้าอยู่ทางนี้"หลงเฟยบอกกับลูกสาว เขาได้สร้างกำไลศิลาสวรรค์อีกชิ้น เพื่อใช้ติดต่อกับนาง"ท่านพ่อ ท่านแม่ดูแลสุขภาพด้วยนะเจ้าคะ ข้าจะหมั่นมาเยี่ยมพวกท่านบ่อยๆ หากท่านคิดถึงข้า ก็แวะมาหาข้าได้นะเจ้าคะ ข้าอยากให้ท่านทั้งสอง มาเยี่ยมข้าที่จวนแม่ทัพบ้าง"หลิวชิวเยว่อยากให้บิดามารดา ออกมาท่องเที่ยวเปิดหูเปิดตานอกดินแดนเยว่เซียนบ้าง แต่ติดตรงทั้งสองมีภารกิจในฐานะผู้นำเผ่า จนปลีกเวล
ตอนที่ 95.ถอนคำสาป ครอบครัวพร้อมหน้า/2ก่อนจะปรากฏขึ้นบนพื้นดิน อีกฝั่งของอุโมงค์ หลิวชิวเยว่หลับตาแน่น ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองรอบๆ ก่อนจะอุทานออกมา"เอ๊ะ ! ที่นี่คุ้นตาข้าเหลือเกิน" ร่างของนางยืนอยู่ที่ริมขอบเหว ที่ซึ่งก่อนหน้านี้เคยถูกคนร้ายไล่ล่าจนตกเหวไป ก่อนจะฟื้นขึ้นมาในร่างอ้วนกลมของหลิวชิวเยว่ บุตรีคหบดีหลิวกวาน"นี่คือดินแดนที่เจ้าเคยอยู่ใช่หรือไม่"หลงเฟยเอ่ยถาม เขายกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นหลิวชิวเยว่เบิกตากว้าง แล้วพยักหน้ารับ"ครั้งนั้นข้ากับเฟิ่งอี้หลัน ให้กำเนิดบุตรีฝาแฝด เพื่อปกป้องพวกนาง ข้าได้นำบุตรีคนแรกไปฝากหลิวกวานให้เลี้ยงดู ส่วนบุตรีอีกคนข้าได้นำนางมายังดินแดนแห่งนี้ จากนั้นก็ส่งนางให้ครอบครัวตระกูลหลิวเลี้ยงดู โดยผนึกความทรงจำให้พวกเขาเชื่อว่า นางคือคนในตระกูลของพวกเขา ตั้งชื่อให้ว่าหลิวชิวเยว่ เช่นเดียวกับคนแรก"หลงเฟยแตะมือบนกำไลศิลาสวรรค์ ฉายภาพให้หลิวชิวเยว่ดู เด็กน้อยฝาแฝดสองคนถูกแยกออกจากกัน คนหนึ่งถูกฝากให้หลิวกวานเลี้ยงดู อีกคนถูกหลงเฟยนำมาให้ครอบครัวหลิวจิ้งหมิงเลี้ยงดู "ขะ ข้าไม่ใช่คนของที่นี่ ไม่ใช่ลูกของคุณพ่อ"หลิวชิวเยว่รู้สึกมึนงงราวกลับโลกพลิกคว่ำ นางไม
ตอนที่ 94. ถอนคำสาป ครอบครัวพร้อมหน้า/1ทั้งสองผ่านเข้ามายังดินแดนเผ่าหลงเทียน ราชครูมองไปรอบๆ เห็นหลิวชิวเยว่บินอยู่บนท้องฟ้าข้างกายมีภูติจิ๋วรูปหยดน้ำอยู่ด้วย "เจ้ารู้หรือไม่ว่า แม้แต่ราชาเผ่าหลงเทียนก็ตายด้วยน้ำมือข้ามาแล้ว บิดาเจ้าพ่ายแพ้ต่อข้าจนถูกสาปให้กลายเป็นมังกรเพลิง"ราชครูเอ่ยถึงชัยชนะที่เคยมีเหนือชาวเผ่าหลงเทียนอย่างภาคภูมิใจ เขาเคยสังหารราชาเผ่าหลงเทียน หลังจากที่อีกฝ่ายสังหารบุตรชายและสะใภ้ของตน ครั้งนั้นราชครูได้สาปหลงเฟย ให้กลายเป็นมังกรเพลิงทำลายผู้คนในเผ่าหลงเทียนจนหมดทั้งเผ่า "ราชครู เจ้าช่างภูมิใจในความชั่วของตัวเองเหลือเกินนะ ข้าในฐานะที่มีสายเลือดของเผ่าหลงเทียนครึ่งหนึ่ง ครั้งนี้จะขอเอาชีวิตเจ้าล้างแค้นให้ผู้คนเผ่าหลงเทียน""เหอะ เจ้าฝันไปหรือเปล่า นังเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ข้าจะสั่งสอนเจ้าให้รู้สำนึก"ราชครูเบ้ปากเอ่ยดูแคลน ก่อนจะโบกคฑาในมือเรียกลูกไฟจากบนฟ้าให้ตกใส่หลิวชิวเยว่ตูม ตูม ตูม !ลูกไฟตกจากฟ้าราวกับห่าฝน"เล่นแบบนี้เลยเหรอ เจ้าราชครูบ้า!"หลิวชิวเยว่ขยับปีกบินหลบไปมา ลูกไฟร่วงกระทบพื้นระเบิดเปลวไฟออกมา เผาไหม้ไปทั่วจนเปลวเพลิงแดงฉาน "เสี่ยวเที
ตอนที่ 93.จัดการคนชั่ว/3"ฉางตี้ เจ้ายอมแพ้เสียเถอะ มิเช่นนั้นข้าจะสังหารเจ้าเสีย"เฟิ่งอี้หลันใช้คฑาสายฟ้าของตนฟาดลำแสงสีฟ้าเข้าใส่อีกฝ่าย แต่ราชครูไม่ยอมแพ้ใช้คฑาศิลาโลหิตฟาดลำแสงสีแดงตอบโต้ ลำแสงสีฟ้าและสีแดงปะทะกันจนเกิดเสียงเปรี้ยงปร้าง ราวกับฟ้าผ่า ประกายไฟแตกกระจายลงมายังพื้นเบื้องล่าง"เฟิ่งอี้หลัน เจ้ามีฝีมือเพียงแค่นี้คิดจะฆ่าข้าได้หรือ หึ ข้าจะทำให้เจ้าตายด้วยน้ำมือของคนที่เจ้ารัก"พูดจบราชครูก็โบกคฑาศิลาโลหิต บังเกิดเป็นอุโมงค์สีดำขนาดใหญ่เปิดกว้างขึ้นด้านบน จากนั้นก็มีร่างของสัตว์ตัวใหญ่สีดำตัวหนึ่ง ลอยออกมาจากอุโมงค์นั้นเบื้องหน้าเฟิ่งอี้หลัน"ระวัง นั่นคือมังกรเพลิง หากถูกพ่นไฟใส่จะลุกไหม้และกลายเป็นหิน"หลิวชิวเยว่รีบตะโกนบอก แล้วบินขึ้นไปอยู่เคียงข้างเฟิ่งอี้หลัน"ท่านแม่ ข้าคือหลิวชิวเยว่บุตรีของท่านกับท่านพ่อหลงเฟย ข้าจะช่วยท่านกับท่านพ่อเอง"นางบอกความจริงให้เฟิ่งอี้หลันรับรู้ ก่อนจะหันไปมองราชครูที่กำลังตกตะลึง"นี่เจ้าคือลูกของเฟิ่งอี้หลันกับหลงเฟย หึ ดี ถ้าเช่นนั้นพวกเจ้าสองแม่ลูก ก็จงถูกบิดาและสามีฆ่าตายเถอะ มังกรเพลิงจัดการมัน!"ราชครูโบกคฑาบังคับให้มังกรเพลิง
ตอนที่ 92. ตอน จัดการคนชั่ว/2"เชิญทุกท่านดื่มอวยพรให้ผู้นำเผ่าเยว่เซียนของพวกเรา"หญิงรับใช้ยกถาดใส่จอกสุราแจกจ่ายให้หัวหน้าเผ่าทั้งห้า เมื่อพวกเขารับจอกสุรามาถือไว้ ก็เอ่ยอวยพรขึ้นพร้อมกัน"พวกเราขออวยพรให้ท่านผู้นำ จงเป็นผู้นำของพวกเราตราบนานเท่านาน"ทุกคนเอ่ยจบก็ยกสุราขึ้นดื่ม เมื่อสุราไหลผ่านเข้าไปในคอทันใดนั้นเอง!คนทั้งห้าก็ทรุดลงกับพื้น นอนสิ้นเรี่ยวแรงทันที "นี่เจ้าให้พวกข้าดื่มอะไร"หูซินซินหัวหน้าเผ่าจิ้งจอกเอ่ยถามเสียงแผ่ว นางเป็นสตรีเพียงคนเดียวในกลุ่มผู้นำเผ่าทั้งห้า อีกสี่คนมีสภาพไม่ต่างกัน ผู้นำเผ่าอาชานอนแผ่หรากับพื้น ผู้นำเผ่ากระทิงพยายามฝืนลุกขึ้นยืน แต่ก็หงายท้องล้มลงไปจนหัวแตกเลือดอาบ ผู้นำเผ่าอินทรีย์และเผ่าวานรขยับตัวไม่ได้นอนหายใจรวยรินบนพื้น "หึ พวกเจ้าถูกพิษสกัดลมปราณของข้าแล้ว พิษชนิดนี้จะทำให้พวกเจ้าสิ้นเรี่ยวแรง หากไม่ได้ยาถอนพิษก็จะอ่อนแรงจนค่อยๆ ตายไปภายในเจ็ดวัน"ราชครูฉางตี้แสยะยิ้ม มองผู้นำทั้งห้าเผ่าอย่างคนเหนือกว่า แผนการของหม่าจิ้นครั้งนี้ ทำให้เขาไม่ต้องเปลืองแรงเกลี้ยกล่อมพวกผู้นำทั้งห้า เขารังเกียจพวกชั้นต่ำเหล่านี้มาตลอด ผู้นำเผ่าเยว่เซียนก
ตอนที่ 91. ตอน จัดการคนชั่ว/1จวนราชครูเผ่าเยว่เซียน...ฉางตี้ราชครูแห่งเผ่าเยว่เซียนเมื่อรู้ว่า ผู้นำเผ่าเยว่เซียนได้หายตัวไปพร้อมกับแม่นมฉินและหมอหลวง ก็สั่งการให้ทหารค้นหาคนทั้งสามทั่วเมืองหลวง "พวกเราส่งคนไปค้นหาจนทั่วแล้วขอรับ แต่ไม่พบตัว ตอนนี้กำลังระดมพลค้นหาไปยังเมืองต่างๆ ทั้งห้าเมือง"นายกองหม่าจิ้นเผ่าอาชา ได้รับคำสั่งจากราชครูให้นำกำลังค้นหาผู้นำเผ่าอย่างลับๆ แต่เขาไม่พบเจอนางจึงต้องขยายการค้นหาเป็นวงกว้างขึ้น"แม่นมฉินกับหมอหลวงเป็นแค่ตาแก่ยายแก่ ใช้ความสามารถอันใดพาผู้นำเผ่าหลบหนีไปได้ ต้องมีคนอื่นให้ความช่วยเหลืออยู่แน่"ราชครูฉางตี้รู้สึกโมโหนัก ที่ตนเองดูแคลนตาแก่ยายแก่ทั้งสอง ว่าไม่มีปัญญาทำสิ่งใดได้ ตอนนี้รู้ตัวเมื่อสายไปเสียแล้ว "ท่านราชครูอย่าวิตกไปขอรับ ผู้นำเผ่าถูกพิษบุปผานิทรา มีเพียงท่านราชครูที่มียาแก้พิษ ต่อให้หลบหนีไปได้ ครบหนึ่งเดือนพิษกำเริบก็ต้องตายอยู่ดี"หม่าจิ้นเคยเห็นคนถูกพิษบุปผานิทรา หากไม่ได้กินยาถอนพิษภายในหนึ่งเดือน ร่างกายก็จะเน่าเปื่อยสลายไป ผู้นำเผ่าถูกยาพิษชนิดนี้เล่นงานมีหรือจะรอดชีวิตไปได้ง่ายๆ"ถึงอย่างไร ข้าก็ไม่ไว้วางใจ วันพรุ่งนี้ผู้
ตอนที่ 90.ช่วยเหลือผู้นำเผ่าเยว่เซียน/2"ท่านอาจารย์ ข้าได้นำสุราสลายหมื่นพิษมาแล้วเจ้าค่ะ""ดีมาก เอาล่ะแม่นมฉิน ฉางสุ่ย พวกเจ้าประคองผู้นำเผ่าขึ้นมา แล้วค่อยๆ หยอดสุราสลายหมื่นพิษให้นางดื่มทีละน้อยจนหมดถ้วย"หลิวเฝิ่นบอกทั้งสอง ฉางสุ่ยกับแม่นมฉินประคองร่างของผู้นำเผ่าให้ลุกขึ้นนั่ง ฉางสุ่ยเป็นคนใช้ช้อนตักสุราสลายหมื่นพิษป้อนให้ผู้นำเผ่า จนหมดถ้วย หลิวชิวเยว่กับหลิวเฝิ่นยืนเอาใจช่วยอยู่ข้างๆ จนสุราถูกป้อนจนหมดก็โล่งใจ"เอาล่ะ รอสักครู่ให้สุราสลายหมื่นพิษออกฤทธิ์ ก็จะสามารถสลายพิษในร่างของผู้นำเผ่าได้ ข้าจะออกไปปรุงยาบำรุงมาให้"หลิวเฝิ่นบอก ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ฉางสุ่ยเดินตามสามีออกไปด้วย ในห้องเหลือเพียงแม่นมฉินกับหลิวชิวเยว่ที่เฝ้าดูอาการของผู้นำเผ่า"หลิวชิวเยว่ ข้าขอบคุณเจ้ามากที่ช่วยพาผู้นำเผ่าออกมา"แม่นมฉินประคองร่างผู้นำเผ่าให้นอนลง ขณะเอ่ยขอบคุณหลิวชิวเยว่ "แม่นมฉินไม่ต้องเกรงใจ มารดาของข้าก็เป็นคนเผ่าเยว่เซียนเช่นกัน ข้าย่อมสมควรช่วยเหลือ"หลิวชิวเยว่มองดูผู้นำเผ่า พลังชีวิตในร่างของอีกฝ่ายเริ่มเพิ่มมากขึ้น นางเชื่อมั่นในสรรพคุณของสุราสลายหมื่นพิษของท่านอาจารย์ ว่าจะสามา