หลังจากแม่นมฉีกับหลิงเอ๋อจากไปแล้ว เสิ่นมู่ฉือก็เอ่ยขึ้นว่า
“ข้ามาขอบคุณ น้ำใจของฮูหยิน”
ท่าทางของเสิ่นมู่ฉือดูห่างเหิน น้ำเสียงแม้คำว่าขอบคุณไม่ได้ทำให้คนฟัง รู้สึกว่าเขาอยากขอบคุณนางจริงๆ คล้ายกับเขามาพูดเพื่อเอาใจนาง แลดูไร้ความจริงใจ
“ขอบคุณเรื่องอะไรเจ้าคะ”
“ขอบคุณที่เจ้าช่วยชาวบ้าน ”
สีหน้าของเสิ่นมู่ฉือคล้ายคนอมของขม แน่แล้วเขาถูกบังคับให้มาเอาใจนาง
“ชาวบ้านหมู่บ้านกุ้ยฮวาเป็นคนใต้อาณัติของท่าน ข้าย่อมช่วยเหลือ”
“พวกเขาเป็นครอบครัวของทหาร ที่เสียสละเพื่อแคว้นชิงเป่ย ทหารกล้าเหล่านั้นเป็นคนในกองทัพของข้า”
เสิ่นมู่ฉือไม่อาจทอดทิ้งพวกเขาได้ เขาแบกรับภาระนี้ไว้ใช้เงินส่วนตัวดูแลชาวบ้าน ครั้งนี้กุนซือจ้าวกับหมอจินกับทำการโดยไม่ปรึกษา ทั้งสองมารายงานเรื่องนี้หลังจากพาผู้เฒ่าหยางไปขอร้องหลิวชิวเยว่แล้ว
“ท่านแม่ทัพ ฮูหยินเป็นคนของท่าน ย่อมต้องร่วมหัวจมท้ายกับท่านด้วย ขอให้นางช่วยเหลือไม่ใช่สิ่งควรคิดมาก”
กุนซือจ้าวหยุนฟาง ส่งสายตาให้หมอจินซีถิงพูดต่อ
“ภรรยาย่อมอยู่ใต้อาณัติสามี ท่านเอาใจนางสักนิด นางย่อมยินดีช่วยเหลือท่านทุกสิ่ง”
“ข้าเอาใจผู้ใดไม่เป็น”
ใบหน้าของเสิ่นมู่ฉือแสดงความลำบากใจ เรื่องสู้รบเขาไม่เคยหวั่น แต่เรื่องเอาใจสตรีแม่ทัพหนุ่มกลับหนักใจยิ่ง
“ไม่ยากๆ คืนนี้ท่านไปนอนเป็นเพื่อนนางสักคืนก็พอ เอ่ยขอบคุณสักประโยค นางย่อมยินดี”
คำแนะนำของกุนซือจ้าว ทำให้เสิ่นมู่ฉือพาตัวเองมายังเรือนของภรรยาในค่ำคืนนี้
“ฮูหยิน คืนนี้ข้าจะนอนที่นี่”
เสิ่นมู่ฉือเอ่ยคำนี้ออกมาจนได้ หากมองข้ามรูปร่างเจ้าเนื้อของหลิวชิวเยว่ ใบหน้ากลมมนของภรรยาไม่ได้แลดูอัปลักษณ์แต่อย่างใด ดวงตาของนางกลมโต ปากคอคิ้วคางได้รูปคมชัด ดังนี้แล้วเขายังพอฝืนใจนอนมองนางทั้งคืนไหว
“ท่านพี่ ท่านอยากให้ข้าทำหน้าที่ภรรยาที่ดีหรือเจ้าคะ”
หลิวชิวเยว่แกล้งเอ่ยขึ้น จ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของสามี ยามนี้ใบหน้าหล่อเหลาของแม่ทัพหนุ่มมีความกระอักกระอ่วนชัดเจน นางเห็นท่าทีของเขาก็อยากจะมองบนใส่
คงคิดว่านางหูหนวกตาบอด ไม่รู้เห็นสิ่งที่เขากับหมอจินกระทำกัน วันนี้หมอจินกับกุนซือจ้าวมาขอความช่วยเหลือจากนาง นี่คงคิดตอบแทนนางด้วยการแวะมานอนด้วย
“หากเจ้าไม่พร้อม ข้าก็จะไม่ฝืนใจเจ้า”
“ไม่ฝืนใจข้า แต่หากฝืนใจท่านข้าก็ไม่ยินดี”
ในยุคสมัยของภพเดิม ชายรักชายเริ่มเปิดกว้าง บางคนยอมเปิดเผยตัวตนอยู่ไม่น้อย เขาแต่งนางเข้าจวนมามีจุดมุ่งหมายเพื่อใช้นางกลบข่าวลือ ก็อัปยศอยู่แล้ว ตอนนี้จะฝืนใจมานอนกับนางอีก เกินจะรับไหวแล้ว
“ท่านไม่ต้องการร่วมเตียงกับข้า ก็เอ่ยมาตามตรงเถิด ข้ารับได้”
หลิวชิวเยว่ไม่ยอมทำตัวเป็นคนปัญญาอ่อน แสร้งไม่รู้ไม่เห็นอีกต่อไป
“เจ้าพูดอะไรออกมา”
เสิ่นมู่ฉือคล้ายคนถูกไม้ฟาดศีรษะ เขามองหน้าภรรยาอย่างตกตะลึง
“ท่านพี่ เรามาคุยกันแบบเปิดอกเถอะเจ้าค่ะ ข้าไม่รู้ว่าท่านเลือกข้ามาเป็นฮูหยินเพราะเหตุใด แต่เมื่อข้ากับท่านแต่งงานกันแล้วก็จำต้องอยู่ร่วมกัน สมรสพระราชทานมิอาจหย่าร้างได้ เราก็หาทางอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขเถอะ”
กฏหมายของแคว้นชิงเป่ย สมรสพระราชทานจากฮ่องเต้ไม่อนุญาตให้หย่าร้าง แม่นมฉีบอกเรื่องนี้กับเจ้าของร่างเดิม ความทรงจำนั้นทำให้หลิวชิวเยว่ไม่อาจทำอะไรตามใจตนได้ นางเกิดใหม่ในร่างนี้รู้ประวัติความเป็นมาของบรรพบุรุษหญิงคนนี้ว่า บั้นปลายชีวิตของหลิวชิวเยว่คนนั้นต้องกล้ำกลืนมีชีวิตร่วมกับสามีผู้ชอบตัดแขนเสื้อจนแก่เฒ่า
มิสู้เปลี่ยนทางเดินให้ตนเองกับเขาเป็นเพื่อนกัน การอยู่ร่วมกันคงไม่หดหู่เกินไป
“ข้ารู้ว่าท่าน อาจจะไม่ชมชอบข้าสักเท่าใด หากฝืนใจอาจจะทำให้ไม่มีความสุขทั้งสองฝ่าย มิสู้เรามาตกลงกัน ว่าจะอยู่ร่วมกันแบบพี่น้องหรือแบบสหาย จะดีหรือไม่เจ้าคะ”
“ข้าเป็นลูกคนเดียวไม่เคยมีพี่น้อง”
ข้อเสนอของนางทำให้เสิ่นมู่ฉือคิ้วกระตุก แรกนั้นเขาคิดว่าภรรยาเจ้าเนื้อคนนี้ น่าจะหลงใหลในรูปโฉมของเขา หากเอาใจนางสักนิดก็คงจะว่านอนสอนง่าย แต่ยามนี้แม่ทัพหนุ่มรู้สึกว่า
นางช่างเอาใจยาก!
“เช่นนั้นเราก็เป็นสหายกัน ต่อหน้าผู้อื่นข้าจะเรียกท่านว่าท่านพี่ ท่านเรียกข้าว่าฮูหยิน เช่นนี้ดีหรือไม่”
หลิวชิวเยว่พูดเองเออเองเสร็จสรรพ เสิ่นมู่ฉือได้แต่นิ่งฟัง สุดท้ายเขาทำเพียงพยักหน้ารับ
“เอาล่ะ คืนนี้เรามากระชับมิตรภาพกัน”
หลิวชิวเยว่เปิดรอยยิ้มดวงตากลมโตของนางเปล่งประกายพราวระยับ เมื่อเห็นว่าเสิ่นมู่ฉือยอมรับแล้ว ก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาก อยากจะเลี้ยงฉลองมิตรภาพสักหน่อย นางจึงเปิดลิ้นชักใต้เตียง หยิบสุราที่ซ่อนไว้ออกมา
“นี่คือเหล้าชั้นยอดจากหอสุราชิงเหอ หลงจู๊ผู้ดูแลหอสุราให้ข้านำมามอบให้ท่าน ข้าเก็บไว้ในคลังส่วนหนึ่ง ไหนี้ข้าเก็บเอาไว้ดื่มเอง”
ในบรรดาสินเดิมที่ท่านพ่อแบ่งให้ มีหอสุราชิงเหอร้านขายสุราชื่อดังของเมืองหลวง หลิวชิวเยว่เรียนเป็นไวน์เมกเกอร์มาก่อน จึงลองใช้สุราโบราณมาหมักตามสูตรของตน ยามว่างก็มักหยิบมาจิบเล่น และพบว่าความหิวโหยของร่างกายนี้ดูเหมือนจะสงบลงเพียงแค่จิบสุราสักจอกสองจอก ระยะหลังนี้นางจึงกินอาหารเพียงสามมื้อเหมือนคนทั่วไป ไม่ได้รู้สึกหิวโหยทุกชั่วยามเหมือนในวันแรกๆ ที่ตื่นมาในร่างนี้
“มาๆ ไม่เมาไม่เลิกรา”
หลิวชิวเยว่รินสุราใส่จอกสองจอก ส่งให้เสิ่นมู่ฉือหนึ่งจอก ชวนให้เขาชนแก้ว ไม่พอยังจำคำพูดในหนังจอมยุทธที่เคยดูสมัยเด็กเอามาพูดกับเขา
“ได้ ไม่เมาไม่เลิกรา”
เสิ่นมู่ฉือยกจอกเหล้าชน เขายกจอกเทลงคอพลันรู้สึกถึงกลิ่นหอมกรุ่นของดอกไม้ลอยขึ้นมาในจมูก สุราเจือรสหวานเล็กน้อย รสชาติไม่คุ้นเคยนี้ทำให้เขารู้สึกแปลกใจ
“สุรานี้...”
“กลิ่นหอมใช่ไหมเจ้าคะ ข้าเก็บดอกกุ้ยข้างเรือนมาหมักไว้ เกสรดอกกุ้ยให้กลิ่นหอมอ่อนๆ แล้วก็ผสมน้ำตาลกรวดลงไปเล็กน้อย สุราจะออกรสหวานลื่นคอ น่าเสียดายข้าหาผลบ้วยสดไม่ได้ ไม่เช่นนั้นข้าจะลองดองสุราบ้วยให้ท่านลองชิม”
หลิวชิวเยว่อยู่ว่างๆ ไม่มีอะไรทำ เห็นต้นดอกกุ้ยข้างเรือนกำลังออกดอกเต็มต้น ร่วงหล่นไปน่าเสียดาย จึงเก็บมาหมักเหล้าขาวที่ได้มาจากหอสุราชิงเหอ หลังจากสำรวจสุราที่ขายอยู่พบว่าในสมัยนี้การหมักเหล้ารวมถึงกลั่นออกมาเป็นเหล้าขาว กลิ่นและรสชาติยังแรงและบาดคอ ผู้คนไม่มีความรู้เรื่องการหมักสุราไว้ดื่มให้ความสุนทรีย์ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการหมักไวน์และสุรา ลิ้มชิมสุราและไวน์รสเลิศมามากมาย จึงไม่อาจทนกล้ำกลืนสุรารสชาติป่าเถื่อนเช่นนี้ไหว จึงลองหมักสุราดอกกุ้ยง่ายๆ ไว้ดื่มเอง
“เจ้ารู้วิธีหมักสุรารสดี เช่นนี้ด้วยหรือ”
เสิ่นมู่ฉือหยิบไหสุรามารินใส่จอกยกขึ้นดื่มอีก กลิ่นหอมซาบซ่านในปาก ทำให้เขารู้สึกสดชื่น จนมีความคิดอยากนำสุราดอกกุ้ยไปให้ฮ่องเต้ลองชิม เข้าวังครั้งหน้าเขาจะนำสุราดอกกุ้ยสักไหไปถวาย
“ท่านคงไม่รู้ว่าบ้านข้ามีโรงกลั่นสุรา หอสุราชิงเหอเป็นกิจการหนึ่งของข้า ท่านพ่อยกให้ข้าเป็นสินเดิม”
“ข้าไม่เคยรู้ อืม เจ้าหมักสุราดอกกุ้ยไว้มากหรือไม่ หากข้าจะขอสักไห”
เสิ่นมู่ฉือลองเลียบเคียงถาม ขณะรินสุราใส่จอกให้หลิวชิวเยว่อย่างเอาใจ ใบหน้ากลมมนของนาง เริ่มแต้มสีเรื่อดวงตาเปล่งประกายแพราวพราว
“ข้าหมักไว้ดื่มเล่นแค่ไหนี้ไหเดียว หากท่านต้องการ พรุ่งนี้ให้คนไปเก็บดอกกุ้ยมาให้ข้าสิ เดี๋ยวข้าจะหมักให้ท่านอีกหลายๆ ไห”
หลิวชิวเยว่ไม่รู้สึกลำบากหากต้องหมักสุราเพิ่มอีก มองใบหน้าหล่อเหลาของสามีแล้วรู้สึกว่า เขาน่ารักขึ้นมากยอมพูดจากับนางอย่างสนิทสนม ในร่างเดิมนางเคยมีเพื่อนเป็นเกย์ชื่ออาเล็กซ์ คบหากันอย่างสบายใจไม่ต้องกังวลหวาดระแวงในเชิงชู้สาว หากจะคบหากับเสิ่นมู่ฉือแบบนั้น คงสบายใจกว่า
“ดีๆ เจ้ายังหมักสุราอะไรได้อีก”
เสิ่นมู่ฉือดื่มสุราดอกกุ้ยไปหลายจอกเริ่มติดใจ อยากรู้ว่าฮูหยินของตนมีสูตรหมักสุราอันใดอีก
“ผลไม้ ธัญพืช ดอกไม้ ล้วนนำมาหมักสุราได้ทั้งสิ้น”
หลิวชิวเยว่ยกจอกสุราเทลงคอ ดีกรีของสุราเริ่มสำแดงฤทธิ์ ยามเมามายปากของตนจะพูดออกมาไม่หยุด ยิ่งเป็นเรื่องที่ชื่นชอบสนใจ ยิ่งพูดได้ไม่หยุด
“ผลบ้วยให้รสชาติเปรี้ยว น้ำตาลกรวดให้รสหวาน เติมเกลือให้เค็มนิดๆ ใส่น้ำแข็งทุบลงไปดื่มยามอากาศร้อนชื่นใจไม่น้อย ลูกท้อก็รสชาติไม่แพ้กัน ส่วนดอกไม้ต้องเลือกที่กลิ่นหอมเด็ดออกจากต้นยามเช้า อย่าให้กลีบช้ำ ให้กลิ่นรสหอมละมุนชื่นใจ ยามอากาศหนาวหิมะตก ก็อุ่นเป็นเหล้าร้อน จิบแก้หนาวได้ดีนัก”
ปากพูดมือก็รินเหล้าใส่จอกของตนและสหายร่วมโต๊ะ สองคนยกขึ้นดื่มจอกแล้วจอกเล่า รสชาติหวานกลิ่นหอมละมุนทำให้เพลิดเพลิน ฤทธิ์ของมันนั้นทำให้ร่างอ้วนกลมเมามายไร้สติ พอจะลุกขึ้นก็ทรงตัวไม่อยู่
“นี่เจ้า!”
เสิ่นมู่ฉือขยับเข้าไปรับร่างหนาหนักได้ทัน ก่อนที่นางจะหงายหลังหัวฟาดพื้น ทว่าร่างหนักกว่าสามร้อยจินไม่ต่างจากหินก้อนหนึ่ง ยากนักจะอุ้มพาขึ้นเตียงไหว กว่าจะพาร่างไร้สติของนางขึ้นมานอนบนเตียงได้ แม่ทัพหนุ่มต้องใช้พลังลมปราณทั้งหมดของตน
“นี่คนหรือแม่วัว หลังข้าแทบหัก”
เขาปาดเหงื่อ มองร่างอวบอ้วนบนเตียงอย่างเวทนา ใบหน้ากลมมนของนางคล้ายซาลาเปาแต้มชาด
“ดื่มสุราแล้วเป็นแบบนี้ ต่อไปข้าจะไม่ให้เจ้าดื่มอีกแล้ว”
เขาคงไม่กล้าให้นางดื่มสุราอีก นางเมาจนต้องให้เขาอุ้มนางไปนอน จะหาเรื่องให้ตัวเองลำบากไม่ได้แล้ว
คร่อก ฟี้ คร่อก ฟี้ ขะ คร่อก ฟี้ !
เสียงกรนมหาภัยดังขึ้น เสิ่นมู่ฉือแทบหลั่งน้ำตา ยกสุราขึ้นดื่มหวังให้ตัวเองเมาหลับไป แต่เขาลืมไปว่าตัวเองคอแข็งปานใด ยิ่งดื่มยิ่งโสตประสาทแจ่มชัด ได้ยินเสียงดังนั้นเข้ารูหูตัวเองไปตลอดคืน
คืนนี้ข้ารับปากว่าจะอยู่เป็นเพื่อนเจ้า ข้าก็ต้องอยู่ให้ถึงเช้า แต่เจ้าเลิกกรนเถอะ ข้าขอร้อง!
ตอนที่ 12. ช่วยเหลือชาวบ้าน/1รุ่งเช้าแม่ทัพเสิ่นเดินออกจากห้องมาด้วยท่าทางอ่อนเพลีย เขาพบแม่นมฉีกับหลิงเอ๋อรออยู่หน้าเรือน “คารวะท่านแม่ทัพ” แม่ทัพเสิ่นพยักหน้ารับแล้วเดินจากไป แม่นมฉีรีบเข้าไปดูคุณหนูของตน หลิงเอ๋อยกอ่างน้ำตามหลัง หวังจะเอ่ยสักประโยคให้คุณหนูเขินอาย พอเข้าไปก็พบว่าคุณหนูของตนยังไม่ตื่น เสียงกรนดังลั่นห้อง “แม่นมท่านจะปลุกคุณหนูหรือไม่เจ้าคะ” “ให้นางนอนอีกสักครู่เถอะ เมื่อคืนอาจจะนอนไม่พอ” แม่นมฉีไม่อาจตัดใจปลุกคนกำลังนอนสบายให้ตื่นได้ ท่านแม่ทัพท่าทางอ่อนเพลียเสียยิ่งกว่าคืนเข้าหอ ใต้ดวงตาดำคล้ำแบบนั้น น่าจะไม่ได้นอนทั้งคืน ช่วงข้าวใหม่ปลามัน ช่างน่าอิจฉาเสียจริง... “ข้าตื่นแล้ว” หลิวชิวเยว่ได้ยินเสียงของทั้งสองคนพูดคุยกัน จึงลืมตาตื่นขึ้นมา นางเป็นคนนอนหลับง่ายก็จริงแต่ก็ตื่นไว “ล้างหน้าก่อนนะเจ้าคะ คุณหนูต้องการอาบน้ำหรือไม่ ข้าจะให้คนเตรียมน้ำ” แม่นมฉีเอ่ยถาม หลิงเอ๋อส่งผ้าที่บิดจนหมาดให้หลิวชิวเยว่เช็ดหน้า ใบหน้าแต้มรอยยิ้มแววตาวิบวับ ขณะมองสำรวจไปทั่วร่างกลมๆ ของผู้เป็นนาย “ก็ดี ข้าอยากอาบน้ำให้สบายตัวสักหน่อย” แม่นมฉีรีบออกไปสั่งคนให้ขนน้ำร้อนมา
ตอนที่ 13. ช่วยเหลือชาวบ้าน/2 ห้าวันต่อมา ขบวนขนเสบียงประกอบไปด้วยวัวเทียมเกวียน ขนพวกข้าวสารอาหารแห้งและธัญพืชรวมห้าคัน รถม้าของจวนแม่ทัพอีกหนึ่งคันออกนำหน้าขบวน เสิ่นมู่ฉือสั่งให้จางหมิ่นกับหลี่ชวนดูแลขบวนเสบียง ให้ผู้เฒ่าหยางนั่งไปในเกวียนเสบียงด้วย ตัวเขากุนซือจ้าวกับหมอจินขี่ม้าไป ในรถม้าหลิวชิวเยว่กับหลิงเอ๋อและแม่นมฉีนั่งอยู่ด้านใน แม้ภายในรถม้าค่อนข้างกว้าง แต่ขนาดตัวของหลิวชิวเยว่นั้นก็กินพื้นไปที่ไปกว่าครึ่ง แม่นมฉีจัดเตรียมของกินไว้ให้คุณหนูของตนรับประทานระหว่างทาง ใส่กล่องอาหารไว้ถึงสามกล่องใหญ่ “คุณหนูเจ้าคะ เส้นทางไปถึงหมู่บ้านกุ้ยฮวาค่อนข้างไกล ข้าได้ยินท่านหมอจินบอกว่าใช้เวลาทั้งวัน” แม่นมฉีมักทำอาหารไปแบ่งปันให้คนสนิทของแม่ทัพเสิ่นอยู่เสมอ อาศัยตีสนิทแอบสอบถามข่าวคราวไปด้วย การเดินทางครั้งนี้ค่อนข้างลำบาก หมู่บ้านกุ้ยฮวาอยู่ห่างจากเมืองหลวง ออกจากเมืองไปต้องไปพักกลางทาง คุณหนูในห้องหออย่างหลิวชิวเยว่ไม่รู้จะทนลำบากไหวหรือไม่ “แม่นมท่านเคยออกจากเมืองหลวงหรือไม่” หลิวชิวเยว่ถามขึ้น “ไม่เคยเจ้าค่ะ ข้าเกิดในจวนตระ
ตอนที่ 14. หนีเสือปะหมี/1เช้าวันต่อมา หลิวชิวเยว่ตื่นขึ้นมาบนเตียง เมื่อหันไปมองที่เก้าอี้ไม่พบร่างของสามี เมื่อคืนนางนอนหลับไปด้วยความอ่อนเพลียจากการเดินทาง ส่วนเสิ่นมู่ฉือนั้นอาศัยเก้าอี้ในห้องเป็นที่นอน"คุณหนูตื่นแล้วหรือเจ้าคะ"แม่นมฉีเปิดประตูเข้ามาในห้อง หลิงเอ๋อยกอ่างล้างหน้าตามเข้ามาด้านหลัง"แม่นม ท่านเห็นท่านแม่ทัพบ้างหรือไม่"หลิวชิวเยว่ล้างหน้าเสร็จก็เอ่ยถามถึงสามี คนรับใช้ทั้งสอง ช่วยจัดแต่งทรงผมและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้นาง"ท่านแม่ทัพ กำลังปรึกษาหารือกับผู้เฒ่าหยางเจ้าค่ะ"เสิ่นมู่ฉือตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ เขาเรียกผู้เฒ่าหยางซึ่งเป็นหัวหน้าหมู่บ้านแห่งนี้มาปรึกษาหารือแม่นมหลิวอาศัยครัวของบ้านผู้เฒ่าหยางทำอาหารเช้าให้กับเจ้านายของตัวเอง รวมถึงจัดเตรียมให้ผู้ติดตามของเขาด้วย "เมื่อคืนข้าได้คุยกับแม่เฒ่าซ่ง ภรรยาของผู้เฒ่าหยาง นางเล่าว่าคนในหมู่บ้านหลายคนล้มป่วยเพราะขาดอาหาร โดยเฉพาะคนชราและเด็กๆ ท่านแม่ทัพได้ให้ท่านหมอจินดูแลพวกเขาเหล่านั้น ไม่คิดเลยว่าคนที่อยู่หมู่บ้านนอกเมืองจะลำบากเช่นนี้"หลิงเอ๋อเป็นเด็กสาวที่ชอบพูดคุย เมื่อคืนนางได้พูดคุยกับภรรยาของผู้เฒ่าหยาง รับรู้ว่าช
ตอนที่ 15. . หนีเสือปะหมี/2ด้านหลิวชิวเยว่นั้นใช้แรงที่มีวิ่งหนีเสือสุดกำลัง ร่างอ้วนกลมหนักร่วมสองร้อยจิน พาตัวเองวิ่งหนีไปข้างหน้า จนไม่ได้มองทางว่ายิ่งวิ่งก็ยิ่งเข้าไปในป่าลึก ตัวนางหลงทิศหลงทาง หาทางวิ่งออกจากป่าไม่ได้" ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยข้าที!"หลิวชิวเยว่แหกปากร้องขอความช่วยเหลือ แม้จะรู้ว่าในป่านี้ไม่มีผู้คน แต่นางทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้อีกแล้วโฮกกก !ด้านหลังเจ้าเสือตัวใหญ่ซอยเท้าวิ่งตามเข้ามาใกล้เรื่อยๆ มันส่งเสียงคำราม พร้อมตั้งท่าจะกระโจนเข้าใส่ร่างอ้วนกลมด้านหน้าโอ๊ย ! ตุ๊บ !คนเจ้าเนื้อวิ่งไม่ดูทาง สะดุดต้นหญ้าเถาวัลย์จนร่างอ้วนกลมล้มลง ทั้งเจ็บทั้งจุก พยายามจะลุกขึ้นแต่เจ้าเสือร้ายก็เข้ามาใกล้ตัวเสียแล้ว อีกไม่กี่ก้าวมันก็จะขย้ำหัวนาง"เจ้าเห็นข้าเป็นหมูรึไง ไล่กัดข้าไม่ยอมปล่อย ข้าโมโหแล้วนะ!"หลิวชิวเยว่มีนิสัยประหลาดอย่างหนึ่ง เมื่อกลัวสุดขีด ก็จะเปลี่ยนเป็นโมโห เมื่อโมโหนางก็ไม่กลัวสิ่งใดอีก ยามนี้นางจนตรอกแล้ว เจ้าเสือนี่คิดจะกินนาง ก็อย่าหวังว่าจะกินได้สบายปาก โฮกกก!เจ้าเสือคำรามเสียงดังคล้ายข่มขู่เหยื่อ ดวงตาสีอำพันมองจ้องร่างขาวอวบเขม็ง เตรียมจัดการลิ้มรส
ตอนที่ 16. ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้เอง/1ในตอนที่กิ่งไม้ปริออกจากลำต้น หลิวชิวเยว่ไม่ทันได้ตั้งตัว นางยื่นมือไปหมายจะคว้ามือของเสิ่นมู่ฉือ แต่ไม่ทันการเสียแล้วเขายื่นมือมาแตะได้เพียงปลายมือของนาง ก่อนที่ร่างอ้วนกลมจะร่วงลงมาพร้อมกับกิ่งไม้เหล่านั้น ข้าต้องตายแน่ๆ !หลิวชิวเยว่หลับตาแน่นรอรับความเจ็บปวดยามร่างกระแทกพื้น แต่นางกลับไม่รู้สึกเจ็บมากมายเท่าใดนัก มีเพียงความจุกเสียดเล็กน้อยเมื่อมีบางสิ่งรองรับร่างหนาหนักของนางเอาไว้ตุ๊บ !แอ๊ก !เสียงหล่นกระแทกดังขึ้นพร้อมกับเสียงร้อง ของเจ้าเสือตัวใหญ่ ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีของหลิวชิวเยว่หรือเป็นโชคร้ายของเจ้าเสือตัวนั้น ร่างของนางหล่นมาทับมันได้อย่างพอดิบพอดี ด้วยน้ำหนักและความสูงยามดิ่งลงมา ทำให้เจ้าเสือที่อยู่ด้านล่างสิ้นลมไปในทันที " โอ๊ย ท่านพี่ช่วยข้าด้วย"หลิวชิวเยว่จุกจนลุกไม่ขึ้น ได้แต่ส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ ทำให้เสิ่นมู่ฉือที่อยู่บนต้นไม้ได้สติ เขารีบกระโดดลงมาหานาง"ฮูหยิน นี่เจ้า... เจ้าเจ็บตรงไหนบ้าง"เสิ่นมู่ฉือรีบเข้าไปพยุงหลิวชิวเยว่ พานางขยับถอยออกมาจากซากร่างของเจ้าเสือที่สิ้นลมไปแล้ว ด้วยน้ำหนักสองร้อยจินบวกกับแรงกระแทกจ
ตอนที่ 17.ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้เอง/2เสิ่นมู่ฉือไม่ฟังคำทัดทาน เขาฝ่าฝนออกจากถ้ำไป ทิ้งให้หลิวชิวเยว่เฝ้ากองไฟเพียงลำพัง "ข้าแค่ท้องร้องนิดเดียว ไม่ได้หิวมากสักหน่อย"หลิวชิวเยว่พึมพำออกมา ขณะล้วงเข้าไปในอกเสื้อ หยิบขวดสุราทำจากทองเหลืองใบเล็กออกมา นางได้เจ้าขวดนี้มาจากหอสุราชิงเหอ ใช้ใส่เหล้าไว้จิบแก้หิว หลังจากค้นพบว่าหากนางจิบสุราอึกเล็กสักอึก ความหิวที่เกิดทุกชั่วยามจะบรรเทาลง กระเพาะของนางจะไม่ปวดบิดทรมานเพราะต้องการอาหาร นางจึงลดปริมาณการกินเหลือสามมื้อได้เหมือนคนปกติ แม่นมฉีเล่าว่า หลิวชิวเยว่มีอาการหิวโหยแบบนี้มาตั้งแต่เกิด ตอนเป็นทารกก็ดื่มนมจากแม่นมถึงสามคนจึงจะอิ่ม พอกินข้าวได้ก็จะหิวทุกหนึ่งชั่วยามยกเว้นตอนนอนหลับ บิดาของนางหาหมอมารักษาก็ค้นไม่พบสาเหตุ หมอหลายคนต่างลงความเห็นว่า กระเพาะของนางย่อยเร็วจึงหิวโหยตลอดเวลาไม่รู้จักอิ่ม "ทำไมไม่กลับมาสักที"นั่งรอจนเติมฟืนไปหลายรอบ เสิ่นมู่ฉือก็ยังไม่กลับมา หลิวชิวเยว่รู้สึกเป็นห่วง จึงลุกขึ้นออกหมายจะออกจะไปดู แล้วก็เห็นเงาร่างเงาหนึ่งผ่านเข้ามา จึงร้องทักด้วยความดีใจ "ท่านพี่ ท่านกลับมาแล้ว เอ๊ะ !"เมื่อร่างนั้นโดนแสงไฟ ดวงต
ตอนที่ 18. ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้เอง/3ในตอนเช้า กุนซือจ้าวหยุนฟาง หมอจินซีถิง และจางหมิ่กับหลี่ซวน คนสนิททั้งสี่ของเสิ่นมู่ฉือได้พาคนออกตามหาผู้เป็นนาย หลังจากรอมาทั้งคืนแล้วท่านแม่ทัพไม่ได้พาฮูหนินกลับมา ครั้นจะออกตามหาก็เกิดพายุฝนลมแรง จึงต้องรอจนถึงยามเช้าแม่เฒ่าซ่งภรรยาของผู้เฒ่าหยางรู้สึกเสียใจมาก นางนอนไม่หลับทั้งคืน ได้แต่ปรับทุกข์กับแม่หนุ่มฉีและหลิงเอ๋อ ทั้งสองไม่ได้กล่าวโทษแม่เฒ่า ด้วยรู้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัย อีกทั้งเมื่อคืนฝนตกหนัก จนทำให้น้ำไหลเข้ามาท่วมหมู่บ้าน ชาวบ้านต่างช่วยกันขนเสบียงหนีน้ำ จึงมีความวุ่นวายจนไม่อาจตามไปค้นหาเจ้านายทั้งสองได้ในคืนนั้น ต้องรอตอนเช้าคนของแม่ทัพจึงพากันขึ้นเขาไปพร้อมผู้เฒ่าหยาง "ฝนตกหนักแบบนี้ เราอาจจะแกะรอยลำบากหน่อย"ผู้เฒ่าหยางเดินนำทางขึ้นเขามาพักใหญ่ ก็ไม่พบกับร่องรอยของแม่ทัพเสิ่นและฮูหยิน เมื่อคืนฝนตกหนักกลบร่องรอยของทั้งสองไปหมด " ข้าว่าพวกเรา แยกย้ายกันค้นหาเถอะ จางหมิ่น หลี่ซวน พวกเจ้าทั้งสอง แยกกันไปค้นหาคนละฝั่ง ข้ากับหมอจินจะไปทางนี้เอง ผู้เฒ่าหยางท่านเฝ้าทางเข้าไว้หากท่านแม่ทัพออกมาจะได้พบตัว"กุนซือจ้าวจัดการวางแผนการค้นหา โ
ตอนที่ 19. คนผู้นี้ช่างแปลกประหลาด/1 หลิวชิวเย่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา ก็พบว่าตัวนางนอนอยู่บนเตียงทำมาจากศิลา ขยับตัวลุกขึ้นนั่งแล้วมองไปรอบๆ พบว่า ห้องที่นางอยู่นั้นมีลักษณะคล้ายโถงถ้ำ ด้านบนมีหินงอกหินย้อยลงมาตามผนัง "ข้าอยู่ที่ไหนเนี่ย โอ้ย ทำไมรู้สึกร้าวระบมไปทั้งตัวแบบนี้"ร่างเจ้าเนื้อของนาง มีอาการปวดระบมทันทีที่ขยับตัว คงจะเกิดจากนางใช้ร่างกายนี้ วิ่งหนีเจ้าเสือและยังตกลงไปทับมันจนตาย แม้ร่างจะอุดมด้วยไขมัน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่เจ็บปวด หลิวชิวเยว่นึกทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ก่อนนางจะหมดสติไปได้ถูกเจ้าหมีดำตัวใหญ่อุ้มพาวิ่งออกมาจากถ้ำ เสิ่นมู่ฉือไล่ติดตามมา เมื่อมาถึงหน้าผาหมีดำก็กระโดดลงมาพร้อมกับพาตัวนางลงมาด้วย แสงสีทองที่ก้นหน้าผาสาดแสงจ้าจนทำให้นางหมดสติลงไป"มันเกิดเรื่องบ้าบออะไรอีกเนี่ย แล้วทำไมข้าถึงมาอยู่ที่นี่"หลิวชิวเยว่ลงจากเตียง มองไปรอบๆ ก่อนจะเห็นทางออก จึงเดินออกไปจากห้องนั้น นางมองไปภายนอกพบว่าเป็นโถงถ้ำกว้างกว่าโถงถ้ำที่นางนอนอยู่ เมื่อกวาดสายตาไปรอบๆ จึงคิดว่าน่าจะเป็นที่อยู่อาศัยของใครสักคน และคนๆ นั้นอาจจะช่วยชีวิตนางเอาไว้ แต่นางก็ไม่พบร่างของผู้ใดจึง
ตอนที่98.ชีวิตของข้าและสามีแพนด้าผู้คลั่งรัก/3(จบ)"นี่คือยาที่ข้าปรุงมาจากเห็ดเซียน ข้าใช้มันกับอาจารย์หญิงของเจ้าไปหนึ่งเม็ด อีกเม็ดเก็บไว้ให้เจ้าใช้ หลังจากเจ้ากินยาเม็ดนี้แล้ว เจ้าจะปลอดภัยไม่ถูกการตั้งครรภ์คุกคามร่างกาย รีบกินเสียสิ""เจ้าค่ะท่านอาจารย์ ข้าจะกินเดี๋ยวนี้"หลิวชิวเยว่รีบรับยามากินทันที พอกินลงไปแล้ว นางรู้สึกดีขึ้นมาก ไม่มีอาการใดๆ ที่น่ากังวลเลย "ฮูหยิน เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง""ข้ารู้สึกสดชื่นเจ้าค่ะท่านพี่ ดูเหมือนข้าจะไม่หิวข้าวแล้ว"ได้ยินเช่นนี้เสิ่นมู่ฉือก็ผ่อนคลายความตึงเครียดลง แต่ยังรู้สึกเป็นห่วงว่ายาจะมีผลกระทบกับภรรยาหรือไม่"ท่านอาจารย์ ยานี้จะมีผลกระทบต่อภรรยาข้าหรือไม่""ยานี้มีส่วนผสมล้ำค่าอย่างเห็ดเซียน ยอมมีสรรพคุณล้ำเลิศ ไม่มีผลกระทบแน่นอน อีกทั้งยังช่วยทำให้เด็กในครรภ์ของนาง มีความพิเศษกว่าเด็กทั่วไป""พิเศษอย่างไรเจ้าคะ"หลิวชิวเยว่เอ่ยถามอย่างตื่นเต้น บุตรของนางมีความพิเศษนั่นย่อมเป็นเรื่องดี"เรื่องนี้ข้าให้คำตอบไม่ได้ ต้องรอดูตอนเขาคลอดออกมาก่อน เจ้าวางใจเถอะข้าบอกว่าดี ก็ย่อมดี"หลิวเฝิ่นตัดบทด้วยคำนี้ ก่อนจะเอ่ยถึงศิษย์คนโตที่เพิ่งออกเรือนไ
ตอนที่ 97. ชีวิตของข้าและสามีแพนด้าผู้คลั่งรัก/2"วาสนาคนเราไม่เท่ากัน ท่านกุนซือทำใจเสียเถอะ"หมอจินซีถิงรินสุราให้กุนซือจ้าวปลอบใจ ตัวเขามิได้คิดอิจฉาหลี่ซวน ด้วยเป็นสหายกันมานาน อีกทั้งยังบังเอิญล่วงรู้ความลับว่า แม่นางเสี่ยวฮวามีอีกร่างเป็นหมีดำ จึงนึกชื่นชมหลี่ซวนที่มีความรักที่แท้จริง มิได้มองสตรีที่รูปโฉม "หากท่านกุนซืออยากแต่งภรรยา ยังมีสตรีตระกูลดีในเมืองหลวงอีกมากมาย แค่เอ่ยปากแม่สื่อคงมาเยือนจนท่านเวียนหัวเป็นแน่"จางหมิ่นเอ่ยขึ้น พลางยกจอกสุราเทเข้าปาก เขาเห็นกุนซือจ้าวอิจฉาหลี่ซวนแล้ว ก็อยากจะเพิ่มเชื้อไฟในดวงตาอีกฝ่ายอีกสักนิด หากกุนซือจ้าวรู้ว่า หลี่ซวนกำลังจะมีลูก คงตาร้อนผ่าวแน่ แต่เขามิใช่คนปากสว่าง นำเรื่องของผู้อื่นมานินทาต่อ จึงต้องสงบใจไว้"วันข้างหน้าพวกเจ้าจะได้พบคนที่เหมาะสมกับพวกเจ้า"เสิ่นมู่ฉือเดินผ่านมาได้ยิน จึงเข้ามาพูดคุยกับคนสนิททั้งสาม"ท่านแม่ทัพ"ทั้งสามลุกขึ้นทำความเคารพ เสิ่นมู่ฉือโบกมือให้นั่งลง"ไม่เป็นไร พวกเจ้าตามสบายเถอะ ข้าแค่ออกมาหาของกินให้ฮูหยิน ช่วงนี้นางหิวทุกชั่วยาม หมอจินพรุ่งนี้เจ้าช่วยตรวจอาการให้นางได้หรือไม่"เสิ่นมู่ฉือออกมาหาขอ
ตอนที่ 96. ชีวิตของข้าและสามีแพนด้าผู้คลั่งรัก/1หลิวชิวเยว่อยู่ที่เผ่าเยว่เซียนราวสิบวัน ก็ได้เวลากลับเสียที ทางด้านศิษย์พี่หมีกับหลี่ซวนเดินทางกลับหลังจากงานเลี้ยงเลิกราแล้ว เฟิ่งอี้หลันกับหลงเฟยมาส่งลูกสาวตรงประตูทางเข้าออก ผ่านไปยังดินแดนเผ่าจินสวง "เยว่เอ๋อร์ เจ้าแวะมาเยี่ยมแม่กับพ่อบ้างนะลูก"เฟิ่งอี้หลันยังอาลัยอาวรณ์บุตรี นางอยากให้หลิวชิวเยว่กับเสิ่นมู่ฉืออยู่ที่เมืองหลวงเผ่าเยว่เซียนกับนาง แต่เสิ่นมู่ฉือเป็นแม่ทัพใหญ่แห่งชิงเป่ย มิอาจละทิ้งหน้าที่ได้ หลิวชิวเยว่เองไม่คุ้นชินกับชีวิตของเผ่าสัตว์ นางจึงขอกลับบ้านพร้อมสามี"เยว่เอ๋อร์เจ้าใช้กำไลศิลาสวรรค์ ติดต่อพูดคุยกับพ่อแม่ได้ตลอดเวลานะลูก พ่อจะคอยมองดูเจ้าอยู่ทางนี้"หลงเฟยบอกกับลูกสาว เขาได้สร้างกำไลศิลาสวรรค์อีกชิ้น เพื่อใช้ติดต่อกับนาง"ท่านพ่อ ท่านแม่ดูแลสุขภาพด้วยนะเจ้าคะ ข้าจะหมั่นมาเยี่ยมพวกท่านบ่อยๆ หากท่านคิดถึงข้า ก็แวะมาหาข้าได้นะเจ้าคะ ข้าอยากให้ท่านทั้งสอง มาเยี่ยมข้าที่จวนแม่ทัพบ้าง"หลิวชิวเยว่อยากให้บิดามารดา ออกมาท่องเที่ยวเปิดหูเปิดตานอกดินแดนเยว่เซียนบ้าง แต่ติดตรงทั้งสองมีภารกิจในฐานะผู้นำเผ่า จนปลีกเวล
ตอนที่ 95.ถอนคำสาป ครอบครัวพร้อมหน้า/2ก่อนจะปรากฏขึ้นบนพื้นดิน อีกฝั่งของอุโมงค์ หลิวชิวเยว่หลับตาแน่น ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองรอบๆ ก่อนจะอุทานออกมา"เอ๊ะ ! ที่นี่คุ้นตาข้าเหลือเกิน" ร่างของนางยืนอยู่ที่ริมขอบเหว ที่ซึ่งก่อนหน้านี้เคยถูกคนร้ายไล่ล่าจนตกเหวไป ก่อนจะฟื้นขึ้นมาในร่างอ้วนกลมของหลิวชิวเยว่ บุตรีคหบดีหลิวกวาน"นี่คือดินแดนที่เจ้าเคยอยู่ใช่หรือไม่"หลงเฟยเอ่ยถาม เขายกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นหลิวชิวเยว่เบิกตากว้าง แล้วพยักหน้ารับ"ครั้งนั้นข้ากับเฟิ่งอี้หลัน ให้กำเนิดบุตรีฝาแฝด เพื่อปกป้องพวกนาง ข้าได้นำบุตรีคนแรกไปฝากหลิวกวานให้เลี้ยงดู ส่วนบุตรีอีกคนข้าได้นำนางมายังดินแดนแห่งนี้ จากนั้นก็ส่งนางให้ครอบครัวตระกูลหลิวเลี้ยงดู โดยผนึกความทรงจำให้พวกเขาเชื่อว่า นางคือคนในตระกูลของพวกเขา ตั้งชื่อให้ว่าหลิวชิวเยว่ เช่นเดียวกับคนแรก"หลงเฟยแตะมือบนกำไลศิลาสวรรค์ ฉายภาพให้หลิวชิวเยว่ดู เด็กน้อยฝาแฝดสองคนถูกแยกออกจากกัน คนหนึ่งถูกฝากให้หลิวกวานเลี้ยงดู อีกคนถูกหลงเฟยนำมาให้ครอบครัวหลิวจิ้งหมิงเลี้ยงดู "ขะ ข้าไม่ใช่คนของที่นี่ ไม่ใช่ลูกของคุณพ่อ"หลิวชิวเยว่รู้สึกมึนงงราวกลับโลกพลิกคว่ำ นางไม
ตอนที่ 94. ถอนคำสาป ครอบครัวพร้อมหน้า/1ทั้งสองผ่านเข้ามายังดินแดนเผ่าหลงเทียน ราชครูมองไปรอบๆ เห็นหลิวชิวเยว่บินอยู่บนท้องฟ้าข้างกายมีภูติจิ๋วรูปหยดน้ำอยู่ด้วย "เจ้ารู้หรือไม่ว่า แม้แต่ราชาเผ่าหลงเทียนก็ตายด้วยน้ำมือข้ามาแล้ว บิดาเจ้าพ่ายแพ้ต่อข้าจนถูกสาปให้กลายเป็นมังกรเพลิง"ราชครูเอ่ยถึงชัยชนะที่เคยมีเหนือชาวเผ่าหลงเทียนอย่างภาคภูมิใจ เขาเคยสังหารราชาเผ่าหลงเทียน หลังจากที่อีกฝ่ายสังหารบุตรชายและสะใภ้ของตน ครั้งนั้นราชครูได้สาปหลงเฟย ให้กลายเป็นมังกรเพลิงทำลายผู้คนในเผ่าหลงเทียนจนหมดทั้งเผ่า "ราชครู เจ้าช่างภูมิใจในความชั่วของตัวเองเหลือเกินนะ ข้าในฐานะที่มีสายเลือดของเผ่าหลงเทียนครึ่งหนึ่ง ครั้งนี้จะขอเอาชีวิตเจ้าล้างแค้นให้ผู้คนเผ่าหลงเทียน""เหอะ เจ้าฝันไปหรือเปล่า นังเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ข้าจะสั่งสอนเจ้าให้รู้สำนึก"ราชครูเบ้ปากเอ่ยดูแคลน ก่อนจะโบกคฑาในมือเรียกลูกไฟจากบนฟ้าให้ตกใส่หลิวชิวเยว่ตูม ตูม ตูม !ลูกไฟตกจากฟ้าราวกับห่าฝน"เล่นแบบนี้เลยเหรอ เจ้าราชครูบ้า!"หลิวชิวเยว่ขยับปีกบินหลบไปมา ลูกไฟร่วงกระทบพื้นระเบิดเปลวไฟออกมา เผาไหม้ไปทั่วจนเปลวเพลิงแดงฉาน "เสี่ยวเที
ตอนที่ 93.จัดการคนชั่ว/3"ฉางตี้ เจ้ายอมแพ้เสียเถอะ มิเช่นนั้นข้าจะสังหารเจ้าเสีย"เฟิ่งอี้หลันใช้คฑาสายฟ้าของตนฟาดลำแสงสีฟ้าเข้าใส่อีกฝ่าย แต่ราชครูไม่ยอมแพ้ใช้คฑาศิลาโลหิตฟาดลำแสงสีแดงตอบโต้ ลำแสงสีฟ้าและสีแดงปะทะกันจนเกิดเสียงเปรี้ยงปร้าง ราวกับฟ้าผ่า ประกายไฟแตกกระจายลงมายังพื้นเบื้องล่าง"เฟิ่งอี้หลัน เจ้ามีฝีมือเพียงแค่นี้คิดจะฆ่าข้าได้หรือ หึ ข้าจะทำให้เจ้าตายด้วยน้ำมือของคนที่เจ้ารัก"พูดจบราชครูก็โบกคฑาศิลาโลหิต บังเกิดเป็นอุโมงค์สีดำขนาดใหญ่เปิดกว้างขึ้นด้านบน จากนั้นก็มีร่างของสัตว์ตัวใหญ่สีดำตัวหนึ่ง ลอยออกมาจากอุโมงค์นั้นเบื้องหน้าเฟิ่งอี้หลัน"ระวัง นั่นคือมังกรเพลิง หากถูกพ่นไฟใส่จะลุกไหม้และกลายเป็นหิน"หลิวชิวเยว่รีบตะโกนบอก แล้วบินขึ้นไปอยู่เคียงข้างเฟิ่งอี้หลัน"ท่านแม่ ข้าคือหลิวชิวเยว่บุตรีของท่านกับท่านพ่อหลงเฟย ข้าจะช่วยท่านกับท่านพ่อเอง"นางบอกความจริงให้เฟิ่งอี้หลันรับรู้ ก่อนจะหันไปมองราชครูที่กำลังตกตะลึง"นี่เจ้าคือลูกของเฟิ่งอี้หลันกับหลงเฟย หึ ดี ถ้าเช่นนั้นพวกเจ้าสองแม่ลูก ก็จงถูกบิดาและสามีฆ่าตายเถอะ มังกรเพลิงจัดการมัน!"ราชครูโบกคฑาบังคับให้มังกรเพลิง
ตอนที่ 92. ตอน จัดการคนชั่ว/2"เชิญทุกท่านดื่มอวยพรให้ผู้นำเผ่าเยว่เซียนของพวกเรา"หญิงรับใช้ยกถาดใส่จอกสุราแจกจ่ายให้หัวหน้าเผ่าทั้งห้า เมื่อพวกเขารับจอกสุรามาถือไว้ ก็เอ่ยอวยพรขึ้นพร้อมกัน"พวกเราขออวยพรให้ท่านผู้นำ จงเป็นผู้นำของพวกเราตราบนานเท่านาน"ทุกคนเอ่ยจบก็ยกสุราขึ้นดื่ม เมื่อสุราไหลผ่านเข้าไปในคอทันใดนั้นเอง!คนทั้งห้าก็ทรุดลงกับพื้น นอนสิ้นเรี่ยวแรงทันที "นี่เจ้าให้พวกข้าดื่มอะไร"หูซินซินหัวหน้าเผ่าจิ้งจอกเอ่ยถามเสียงแผ่ว นางเป็นสตรีเพียงคนเดียวในกลุ่มผู้นำเผ่าทั้งห้า อีกสี่คนมีสภาพไม่ต่างกัน ผู้นำเผ่าอาชานอนแผ่หรากับพื้น ผู้นำเผ่ากระทิงพยายามฝืนลุกขึ้นยืน แต่ก็หงายท้องล้มลงไปจนหัวแตกเลือดอาบ ผู้นำเผ่าอินทรีย์และเผ่าวานรขยับตัวไม่ได้นอนหายใจรวยรินบนพื้น "หึ พวกเจ้าถูกพิษสกัดลมปราณของข้าแล้ว พิษชนิดนี้จะทำให้พวกเจ้าสิ้นเรี่ยวแรง หากไม่ได้ยาถอนพิษก็จะอ่อนแรงจนค่อยๆ ตายไปภายในเจ็ดวัน"ราชครูฉางตี้แสยะยิ้ม มองผู้นำทั้งห้าเผ่าอย่างคนเหนือกว่า แผนการของหม่าจิ้นครั้งนี้ ทำให้เขาไม่ต้องเปลืองแรงเกลี้ยกล่อมพวกผู้นำทั้งห้า เขารังเกียจพวกชั้นต่ำเหล่านี้มาตลอด ผู้นำเผ่าเยว่เซียนก
ตอนที่ 91. ตอน จัดการคนชั่ว/1จวนราชครูเผ่าเยว่เซียน...ฉางตี้ราชครูแห่งเผ่าเยว่เซียนเมื่อรู้ว่า ผู้นำเผ่าเยว่เซียนได้หายตัวไปพร้อมกับแม่นมฉินและหมอหลวง ก็สั่งการให้ทหารค้นหาคนทั้งสามทั่วเมืองหลวง "พวกเราส่งคนไปค้นหาจนทั่วแล้วขอรับ แต่ไม่พบตัว ตอนนี้กำลังระดมพลค้นหาไปยังเมืองต่างๆ ทั้งห้าเมือง"นายกองหม่าจิ้นเผ่าอาชา ได้รับคำสั่งจากราชครูให้นำกำลังค้นหาผู้นำเผ่าอย่างลับๆ แต่เขาไม่พบเจอนางจึงต้องขยายการค้นหาเป็นวงกว้างขึ้น"แม่นมฉินกับหมอหลวงเป็นแค่ตาแก่ยายแก่ ใช้ความสามารถอันใดพาผู้นำเผ่าหลบหนีไปได้ ต้องมีคนอื่นให้ความช่วยเหลืออยู่แน่"ราชครูฉางตี้รู้สึกโมโหนัก ที่ตนเองดูแคลนตาแก่ยายแก่ทั้งสอง ว่าไม่มีปัญญาทำสิ่งใดได้ ตอนนี้รู้ตัวเมื่อสายไปเสียแล้ว "ท่านราชครูอย่าวิตกไปขอรับ ผู้นำเผ่าถูกพิษบุปผานิทรา มีเพียงท่านราชครูที่มียาแก้พิษ ต่อให้หลบหนีไปได้ ครบหนึ่งเดือนพิษกำเริบก็ต้องตายอยู่ดี"หม่าจิ้นเคยเห็นคนถูกพิษบุปผานิทรา หากไม่ได้กินยาถอนพิษภายในหนึ่งเดือน ร่างกายก็จะเน่าเปื่อยสลายไป ผู้นำเผ่าถูกยาพิษชนิดนี้เล่นงานมีหรือจะรอดชีวิตไปได้ง่ายๆ"ถึงอย่างไร ข้าก็ไม่ไว้วางใจ วันพรุ่งนี้ผู้
ตอนที่ 90.ช่วยเหลือผู้นำเผ่าเยว่เซียน/2"ท่านอาจารย์ ข้าได้นำสุราสลายหมื่นพิษมาแล้วเจ้าค่ะ""ดีมาก เอาล่ะแม่นมฉิน ฉางสุ่ย พวกเจ้าประคองผู้นำเผ่าขึ้นมา แล้วค่อยๆ หยอดสุราสลายหมื่นพิษให้นางดื่มทีละน้อยจนหมดถ้วย"หลิวเฝิ่นบอกทั้งสอง ฉางสุ่ยกับแม่นมฉินประคองร่างของผู้นำเผ่าให้ลุกขึ้นนั่ง ฉางสุ่ยเป็นคนใช้ช้อนตักสุราสลายหมื่นพิษป้อนให้ผู้นำเผ่า จนหมดถ้วย หลิวชิวเยว่กับหลิวเฝิ่นยืนเอาใจช่วยอยู่ข้างๆ จนสุราถูกป้อนจนหมดก็โล่งใจ"เอาล่ะ รอสักครู่ให้สุราสลายหมื่นพิษออกฤทธิ์ ก็จะสามารถสลายพิษในร่างของผู้นำเผ่าได้ ข้าจะออกไปปรุงยาบำรุงมาให้"หลิวเฝิ่นบอก ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ฉางสุ่ยเดินตามสามีออกไปด้วย ในห้องเหลือเพียงแม่นมฉินกับหลิวชิวเยว่ที่เฝ้าดูอาการของผู้นำเผ่า"หลิวชิวเยว่ ข้าขอบคุณเจ้ามากที่ช่วยพาผู้นำเผ่าออกมา"แม่นมฉินประคองร่างผู้นำเผ่าให้นอนลง ขณะเอ่ยขอบคุณหลิวชิวเยว่ "แม่นมฉินไม่ต้องเกรงใจ มารดาของข้าก็เป็นคนเผ่าเยว่เซียนเช่นกัน ข้าย่อมสมควรช่วยเหลือ"หลิวชิวเยว่มองดูผู้นำเผ่า พลังชีวิตในร่างของอีกฝ่ายเริ่มเพิ่มมากขึ้น นางเชื่อมั่นในสรรพคุณของสุราสลายหมื่นพิษของท่านอาจารย์ ว่าจะสามา