บทนำ
เมื่อหนึ่งคนที่มีรักแน่วแน่ ถึงแม้เธอจะทำผิดซ้ำซากแค่ไหน แต่ด้วยหัวใจที่มันรัก ก็มักจะให้อภัยเธอเสมอ...แต่เธอกลับไม่เคยที่จะสำนึกยังคงทำให้เขาเจ็บช้ำแบบเดิมซ้ำซาก และจากลากันไปอย่างไร้เยื่อใย ทิ้งไว้เพียงหัวใจดวงน้อยไว้ข้างหลัง โดยไม่หันมามองสักครั้ง และลาลับจากไปอย่างกับคนไร้หัวใจ
"คูมพ่อ คูมพ่อ...เมื่อไหร่คูมแม่จะมาหาน้องไอติมละคะ?" น้ำเสียงสดใสของเด็กหญิงหน้าตาน่ารัก อายุสามขวบเอ่ยถามคนเป็นพ่อด้วยภาษาของเด็กที่ยังพูดไม่ชัดถ้อยชัดคำ คำถามที่เหมือนเดิมตั้งแต่เด็กหญิงหัดพูด เธอจะถามคนเป็นพ่อเสมอหากนึกถึง 'เมื่อไหร่คุณแม่จะมาหาหนู' มันเป็นคำถามที่ทำหัวใจของคนเป็นพ่อนั้นเจ็บร้าวทุกคราที่ได้ยิน และทุกครั้งก็จ้องมองหน้าเด็กหญิงที่ไร้เดียงสานี้ด้วยแววตาเศร้าและสงสารลูกสาวจับใจ
"คุณแม่ไปทำงานอยู่ไกลมาก ๆ เลย"
"แล้วคูมแม่คิดถึงน้องไอติมบ้างไหมคะ?"
ความสงสัยที่ไร้เดียงสา เด็กหญิงเงยหน้ามองคนเป็นพ่ออย่างรอคำตอบ แววตาของเธอเปล่งประกายแห่งหวัง เห็นแบบนั้นทำให้ผู้ชายอกสามศอกน้ำตาซึม จะบอกลูกสาวที่ยังไม่เข้าใจโลกอย่างไร้เพื่อรักษาความรู้สึก ในเมื่อแม่ของเธอนั้นทิ้งเธอไว้ข้างหลังตั้งแต่ยังแบเบาะ ปล่อยให้คนเป็นพ่อเลี้ยงดูเพียงลำพังมานานแรมปี จนตอนนี้เธออายุใกล้เข้าวัยอนุบาล
"คิดถึงสิคะ คุณแม่ต้องคิดถึงหนูอยู่แล้ว" ใบหน้าของเด็กน้อยที่เปื้อนรอยยิ้มเมื่อได้ยินคำตอบทำให้คนเป็นพ่อนั้นน้ำตาเอ่อคลอในดวงตา ยิ่งมองหน้าลูกสาวก็ยิ่งสงสาร ตั้งแต่เกิดมาลืมตาดูโลกก็ไม่เคยได้สัมผัสกับความรักจากคนเป็นแม่สักครั้ง อ้อมกอดที่สามารถทำให้เธออบอุ่นในหัวใจ อ้อมกอดที่รักและห่วงใยเธอ เป็นพ่อเสมอที่พยายามมอบมัน เพื่อไม่ให้ลูกสาวที่ไร้เดียงสานั้นบกพร่อง
"อยากเจอคูมแม่จังเลยค่ะ" เด็กหญิงเปรยยิ้มเงยมองหน้าคนเป็นพ่อ...มือเล็ก ๆ โอบกอดเอวของคนเป็นพ่ออย่างต้องการความรักและการปลอบใจ
"สักวัน เมื่อถึงเวลา คุณแม่จะมาหาลูกสาวที่น่ารักนะคะคนเก่งของพ่อ"
สามี(1)ผมชื่อ ศรายุทธ เรียกสั้น ๆ ว่า 'เจ' ตอนนี้อายุ 31 ปี ผมมีธุรกิจเล็ก ๆ ที่ร่วมหุ้นกับเพื่อน เราสนิทกันจนรู้ใจ เพื่อนผมคนนี้เป็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่คอยฉุดผมขึ้นมาจากความระทมที่เคยเป็น จนผมมีวันนี้และใช้ชีวิตรอดพ้นมาได้ด้วยความพยายาม อดีตที่ทำร้ายผมจนแทบเสียคน จนผมนั้นแทบยืนไม่ไหว เมื่อผู้หญิงที่มีใจและรักมาก แม้เราสองคนจะมีโซ่ทองคล้องใจ แต่ก็ไม่สามารถที่จะรั้งเธอให้อยู่กับด้วยร่วมเรียงเคียงหมอนไปจนแก่เฒ่าได้แต่ด้วยสิ่งมีชีวิตตัวน้อยที่ผมทอดทิ้งเธอไม่ได้ จึงทำให้ผมนั้นฮึกเหิมและหยัดยืนใหม่ด้วยมีเธอนั้นเป็นกำลังใจ และให้มีชีวิตอยู่ต่อ"คูมพ่อขา ไอติมแต่งตัวเสร็จแล้วค่ะ อยากไปโรงเรียนแล้ว" เสียงใส ๆ ของเด็กหญิงตัวเล็กบอกกล่าวเมื่อเธอนั้นวิ่งแจ้นเข้ามาในห้องนอนที่มีคุณพ่อกำลังยืนแต่งตัวเพื่อเตรียมไปทำงาน และส่งเธอไปโรงเรียนอนุบาล"เสร็จแล้วเหรอคนสวยของพ่อ พร้อมหรือยังคะ" คนเป็นพ่อนั่งยอง ๆ ให้เสมอตัวลูกสาวตัวเล็กที่เข้าสู่วัยกำลังซนและช่างสงสัย การไปโรงเรียนที่เหมือนลูกสาวนั้นจะชอบใจ ยิ่งทำให้คนเป็นพ่อนั้นอุ่นใจที่เห็นรอยยิ้มของลูกสาว"พร้อมมาก ๆ เลยค่ะ ไปโรงเรียนกันเลย" เด็กหญิงต
สามี (2)"เดี๋ยวตอนเย็นพ่อมารับนะคะ" คนเป็นพ่อเดินมาส่งลูกสาวตัวน้อยหน้าห้องเรียนอนุบาล ที่เด็กหญิงไอติมนั้นต้องเรียนประจำ ร่างกายสูงกำยำของคุณพ่อเจนั่งยอง ๆ ลงตรงหน้าลูกสาว มือหนาลูบหัวแผ่วเบาอย่างแสนรัก ก่อนจะจูบซับลงกลางหัวทุยของเด็กหญิงไอติมที่ไร้เดียงสา"ไอติมจะรอคุณพ่อนะคะ" เด็กหญิงส่งยิ้มอย่างน่ารักพร้อมบอกกล่าวคนเป็นพ่อ"ผมฝากไอติมด้วยนะครับครูไอซ์" คุณพ่อเจลุกยืนเต็มความสูง แล้วว่ากล่าวอย่างฝากฝังลูกสาว"ไม่มีปัญหาค่ะคุณพ่อ จะดูแลให้อย่างดีเลยค่ะ" คุณครูไอซ์คนสวยที่ยืนรอรับเหล่านักเรียน เปรยยิ้มอ่อนพร้อมกับกล่าวอย่างให้ความเชื่อมั่น ในการดูแลเด็กหญิงไอติม เพื่อไม่ให้ผู้ปกครองนั้นกังวล"น้องไอติมสวัสดีคุณพ่อค่ะ" คุณครูไอซ์ก้มมองเด็กหญิงตัวเล็ก พรางบอกอย่างพร่ำสอนด้วยความเป็นเด็กที่ยังไม่ประสา"สวัสดีค่ะ บ๊ายบาย" เด็กหญิงไอติมยิ้มสดใส โบกมือลาคุณพ่ออย่างน่ารักสายตาของคนเป็นพ่อมองตามลูกสาวที่เดินจับมือคุณครูประจำชั้น เข้าไปยังอาคารเรียน การเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวที่ต้องฝ่าฟันเลี้ยงเด็กเพียงลำพัง ไม่ได้ง่ายเลยกว่าจะผ่านพ้นมาได้ ยิ่งลูกสาวเติบโตขึ้น การเผชิญโลกใบใหม่ยิ่งทำให้เธอนั
สามี(3)เวลาเลิกโรงเรียนของเด็กหญิงไอติม วันนี้เด็กหญิงดูเงียบปากผิดปกติ การนั่งในรถของคุณพ่อที่ในทุกวัน เด็กหญิงไอติมจะต้องสรรหาสารพัดคำถาม มากมายต่อการเล่าเรื่องราวที่พบเจอ"ไอติม เป็นอะไรหรือเปล่าคะ" คุณพ่อเจที่นั่งสังเกตลูกสาวอยู่นานเอ่ยขึ้น มือก็บังคับพวงมาลัย สายตาก็มองลูกสาวเป็นระยะ ๆ"ไม่เป็นอะไรค่ะคุณพ่อ" เด็กหญิงหันไปฉีกยิ้มให้คนเป็นพ่อด้วยความพยายามปั้นแต่ง"วันนี้หนูดูเงียบ ๆ ""ไอติมง่วงค่ะ ฮ้าว~~ ..... "เด็กหญิงทำท่าทางหาวนอน พร้อมกับมือเล็ก ๆ ที่ปิดปากไว้อย่างน่าเอ็นดู"ถ้าอย่างนั้นหนูก็นอนนะ ถึงแล้วเดี๋ยวพ่อปลุก" คนเป็นพ่อเอ่ยบอกพร้อมกับเอื้อมมือลูบหัวลูกสาว"ค่ะ" เด็กตอบรับด้วยรอยยิ้ม และนอนนิ่งหลับตาลงทันใดการนอนหลับใหลที่ไม่ได้หลับจริง ๆ เพียงแค่เด็กหญิงนิ่งกลบเกลื่อนความรู้สึกที่เป็นเท่านั้น ปมด้อยที่เพื่อนล้อเรื่องแม่ของเธอกำลังซึมซับเข้าสู่ความรู้สึกของเธอทีละน้อยห้างสรรพสินค้าที่มีผู้คนมากมาย สายตาเด็กหญิงมองโดยรอบ องค์ประกอบของครอบครัวที่มีครบสมบูรณ์ด้วย พ่อ แม่ และลูก พอหันกลับมามองตัวเองคำที่เพื่อนก็สะกิดตามน้ำตาของเด็กหญิงให้พานไหล"ไอติมร้องไห้ทำไมลูก" คน
สามี (4)“ไอติมคะ...ตื่นไปโรงเรียนได้แล้ว เดี๋ยวสายน้า” เสียงปลุกของคุณพ่อเจที่พยายามเรียกลูกสาวที่ยังนอนจมเตียง เมื่อยามนี้เป็นเวลาที่เธอนั้นควรจะตื่นและเตรียมตัว“อื้อ” เสียงเค้นในลำคอเล็กแผ่วเบา ดวงตากลมยังคงหลับพริ้มไม่ยอมตื่น เธอรู้สึกตัวแล้วแต่เพียงแค่เรื่องราวที่ถูกเพื่อนล้อนั้นทำให้เธอไม่อยากจะไปโรงเรียน“ตื่นได้แล้วคนเก่ง” คุณพ่อเจที่นั่งลงข้าง ๆ เด็กหญิงตัวเล็ก ใช้ฝ่ามือลูบหัวลูกสาวที่นอนกอดตุ๊กตาหมีอย่างแผ่วเบา“น้องไอติม เหมือนจะไม่ฉบายเลยค่ะ” เด็กหญิงบอกกล่าวคนเป็นพ่อที่นั่งมองเธอด้วยสำเนียงที่ยังพูดไม่ชัดถ้อยคำ สิ่งที่บอกไปเธอไม่ได้รู้สึกจริง แต่เป็นสิ่งที่เธอกำลังแสดงละครเพราะไม่อยากพบเจอกับเพื่อนร่วมห้องที่พูดแทงใจของเธอ“เมื่อวานหนูยังดี ๆ อยู่เลย...ไหนมาให้พ่อดูสิคะ” คุณพ่อเจที่มองลูกสาวอย่างสังเกตการณ์ อุ้มร่างเล็ก ๆ ของเธอให้มานั่งบนตัก มือเล็ก ๆ ก็ยังไม่วายหยิบติดตุ๊กตาตัวโปรดมาด้วยใบหน้ากลมของเด็กหญิงไอติม ซบลงอกแกร่งของคุณพ่อเจอย่างออเซาะ เธอหลับตานิ่งแต่เมื่อคุณพ่อเจเอ่ยถามเธอก็จะสรรหาคำตอบให้ทันที“ลูกสาวของพ่อ ไม่สบายตรงไหนน้า มาให้พ่อวัดไข้หน่อยสิ หรือว่าต้
สามี(5)"พี่เจคะ...ฝ่ายบุคคลแจ้งว่ามีนักศึกษาที่มาขอสมัครฝึกงาน พี่เจจะสัมภาษณ์เองหรือว่าให้ฝ่ายบุคคลสัมภาษณ์คะ?" เลขาหน้าห้องเดินเข้ามาบอกจนผมต้องเงยหน้ามอง เพราะได้สั่งไว้ว่าหากมีนักศึกษามาขอฝึกงาน ส่วนมากผมจะสัมภาษณ์ด้วยตัวเอง"ผมสัมภาษณ์เองครับ...ขอเรซูเม่และเอกสารประกอบมาให้ผมด้วยนะ" ผมตอบกลับเลขาไป"ค่ะ...สัมภาษณ์เลยไหมคะ? แจงจะได้บอกน้องนักศึกษา" เลขาหน้าห้องถามต่อ"งั้นรอผมสักห้านาที แล้วเรียกเข้ามาพบผมที่ห้องนี้ได้เลยครับ" ผมบอกกล่าวอย่างสุภาพ ไม่ว่าจะพนักงานระดับไหน ทุกคนล้วนต้องการคนที่พูดดีด้วย และให้ความเป็นกันเอง และผมเชื่อว่าเมื่อไม่มีการเกร็งต่อตำแหน่งใด ๆ งานที่ได้เขาย่อมทำออกมาดี"ได้ค่ะ" ว่าจบรับคำเลขาหน้าของผมก็เดินย้ำเท้าออกไปผมก้มหน้าทำงานตรงหน้าต่ออย่างไม่รีรอ แม้จะเป็นเพียงนักศึกษาฝึกงาน ก็ต้องกรองคนเสียก่อน เพราะผมไม่ชอบคนที่ทำเพื่อหวังแค่ผ่าน แต่การทำงานแม้จะเพียงการเริ่มต้นหาประสบการณ์ก็ย่อมสร้างผลประโยชน์ให้แก่ตัวนักศึกษาและบริษัทของผมเช่นกันก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้นสามทีโดยที่ผมไม่ต้องร้องบอกว่าอนุญาตหรือไม่ เพราะรู้ดีแก่ใจว่าผมตั้งตารออยู่แล้
สามี(6)"คูมพ่อขา..." ลูกสาวตัวน้อยเรียกขานคนเป็นพ่อ ที่กำลังยืนแต่งตัวเพื่อเตรียมที่จะไปทำงาน และเธอก็ตั้งท่าจะติดตามไปเช่นกัน เพราะว่าวันนี้เป็นวันหยุดพิเศษที่ทางโรงเรียนประกาศ"ว่าไงครับ?" คนเป็นพ่อย้อนถาม"วันนี้คูมพ่อจะพาน้องไอติมไปกินของอร่อย ๆ ไหมคะ?" เด็กหญิงที่ยืนกอดตุ๊กตาตัวโปรด ยืนขนาบข้างเงยหน้าตั้งมองคุณพ่อที่ตัวสูงราวหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร"แล้วน้องไอติมอยากกินอะไรเอ่ย" คนเป็นพ่อนั่งยอง ๆ ลงตรงหน้าแล้วเอ่ยถามพรางมือหนาลูบหัวลูกสาวอย่างแสนรัก"อืม~~~....กินอะไรดีน้า~~" เด็กหญิงทำมือแตะปาก เงยหน้าเชิดอย่างคนใช้ความคิดคนเป็นพ่อที่มองการกระทำสดใสของลูกสาวด้วยรอยยิ้ม เขาจะมีความสุขทุกครั้งที่เธอนั้นไร้น้ำตา เธอจะมีใบหน้าสดใสและไร้เดียงสา"คิดช้า...หมดเวลานะ""ไม่ค่ะไม่.....น้องไอติมคิดออกแล้ว ปิ๊ง!""ไหนว่ามาสิครับ.....ลูกสาวคนสวยอยากกินอะไรน้า"คนเป็นพ่ออมยิ้มกับท่าทีน่าเอ็นดู มือหนาใหญ่จับหัวเด็กหญิงโยกไปโยกมาเบา ๆ"ว๊าย! คูมพ่อ เดี๋ยวผมไม่สวย เบา ๆ สิคะ" เด็กหญิงทักท้วงเมื่อพี่เลี้ยงถักเปียสองข้างให้อย่างสวยงาม เมื่อเธอนั้นต้องไปทำงานกับผู้เป็นพ่อ"แค่นี้เอง....ลูกสาวขอ
สามี(7)"ไอติม อย่าวิ่งลูก รอพ่อก่อนเดี๋ยวล้ม" เด็กหญิงไอติม เมื่อถึงที่หมายเธอรีบหยิบกระเป๋าเป้และลงจากรถทันที โดยไม่รอผู้เป็นพ่อที่กำลังเก็บของสำคัญ"น้องไอติมจะไปรอกับพี่แจงนะคะ" เด็กหญิงตะโกนบอกผู้เป็นพ่อเมื่อสถานที่คุ้นชินเธอไม่ได้นึกกลัวใครผู้เป็นพ่อรีบเดินตามลูกสาว มองตามร่างเล็กที่วิ่งขวักไขว่ ค่อย ๆ ก้าวขาขึ้นบันไดมือข้างที่ว่างเว้นก็จับราวบันไดด้วยความระมัดระวัง"ไอติมเดินดี ๆ ระวังพลัดตกบันไดนะคะ" ผู้เป็นพ่อร้องบอกตามหลัง สายตาก็ยังจ้องมองไปยังลูกสาวที่ยืนรอตรงชั้นสองพรางส่งยิ้มแก่ผู้เป็นพ่อ(สวัสดีค่ะพี่เจ)(สวัสดีครับพี่)เสียงทักทายของเหล่าพนักงานเมื่อเดินผ่านก็ทักทายและยกมือไหว้อย่างเคารพ...ผู้เป็นนายจ้างที่ไม่เคยถือตัว ส่งยิ้มรับพร้อมกับจับมือลูกสาวเดินเคียงข้าง"น้องไอติม สวัสดีพี่ ๆ หรือยัง" ผู้เป็นพ่อบอกกล่าวลูกสาวตัวน้อย"สวัสดีค่ะพี่....เอ่อ....พี่อะไรคะคูมพ่อ จำไม่ได้" เด็กหญิงที่ไม่ค่อยได้มานาน เรียกขานคนเป็นพ่ออย่างขอความเห็น"โหยน้องไอติมพี่ฟ้าเสียใจแย่....จำกันไม่ได้" พนักงานสาวพูดขึ้นอย่างท่าทีน้อยใจกลั่นแกล้ง เมื่อเด็กหญิงนั้นทำท่าฉงนนึกไม่ออก"อ่า พี่ฟ้าค
สามี(8)"ไอติม! ทำไมงอแงแบบนี้ล่ะ" คนเป็นพ่อเริ่มเอ็ดเบา ๆ เมื่อลูกสาวนั้นร้องจะเอา ๆ ไม่ยอมหยุด"ก็ไอติมอยากมีแม่" เด็กหญิงโต้แย้งพร้อมกับเงยหน้ามองหญิงสาวที่อยู่ข้าง ๆ เธอพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า ดวงตาที่แนนมองเห็นทำให้เธอสัมผัสบางอย่างได้ว่า เด็กน้อยคนนี้ดูมีปมอะไรบางอย่างแอบซ่อนอยู่เด็กหญิงไอติมละสายตาจากแนน ก่อนจะหันทำหน้าบึ้ง ปากยู่ย่นชนจมูกใส่ผู้เป็นพ่อ"ไอติมเริ่มไม่น่ารักแล้วนะ" ผู้เป็นพ่อต่อว่า เมื่อลูกสาวชักสีหน้าเอาแต่ใจ"เอ่อ...พี่เจแนนว่า แนนขอไป..." ศึกสงครามระหว่างพ่อผู้หล่อเหลากับลูกสาวแสนพูดเก่ง ทำให้แนนที่มองเห็นนั้นอยากจะปลีกตัวออกมา เพราะว่าเรื่องราวของพ่อลูกเริ่มจะเป็นส่วนตัวลึกลงไป เกินกว่าเธอจะรับรู้"ไม่ให้พี่แนนไป!""ไอติม!""คุณพ่อ!""ทำไมถึงดื้อ!""เอ่อพี่เจคะเดี๋ยวแนนคุยกับน้องให้เองค่ะ" แนนที่เห็นศึกเริ่มบานปลาย จึงเสนอเพื่อต้องการคลายศึกพ่อกับลูก"....อืม" คุณพ่อเจที่นึกอายเมื่อลูกสาวกล่าวอ้างหญิงอื่นยัดเยียดความเป็นแม่ เเม้จะเข้าใจดีในความรู้สึกของลูก แต่กล่าวโต้ง ๆ แบบนี้เขาก็หวั่นในความรู้สึกของคนที่ถูกยัดเยียด เพราะเธอยังสาวสะพรั่งและคงมีคนรู้ใจแล้ว"น้
สามี - (พิเศษ) ส่งท้าย(("อ้วก แอะ โอก"))"แม่แนน...แม่แนนเป็นอะไรคะ" เสียงแหลมใสของเด็กหญิงไอติม วิ่งตามแม่แนนเข้ามายังห้องน้ำ เธอตกใจกับการผลีผลามวิ่งแจ้นมือปิดปากของผู้เป็นแม่(("อ้วก อ้วก")) แม้จะได้ยินเสียงของลูกสาวร้องไห้ อยากจะกอดปลอบแทบขาดใจแต่ก็ไม่สามารถทำได้ เมื่ออาการที่เป็นยังไม่บรรเทา"ฮือ แม่แนน...งือ แม่แนนไม่ฉบาย" เด็กหญิงร้องไห้โฮเมื่อเห็นอาการของผู้เป็นแม่...เธอสงสารเมื่อแม่นั้นเอาแต่อาเจียนตัวโยน"แม่ไม่เป็นไรลูก...อ้วก โอก" เธอยังคงอาเจียนต่อ แม้จะพยายามอดทนกลั้นใจพูดกับลูกสาว"น้องไอติมจะไปตามคูมพ่อ" เด็กหญิงพูดจบทั้งน้ำตา ก็ก้าวขาสั้น ๆ ของเธอวิ่งไปด้วยความเร็ว((คูมพ่อขา อึก ฮือ...คูมพ่อ!...คูมพ่อได้ยินน้องไอติมไหม...คูมพ่ออยู่ไหนคะ ฮือ)) เด็กหญิงเดินน้ำตานองหน้า จับราวบันไดก้าวขาสั้น ๆ อย่างระมัดระวังทั้งที่ในใจนั้นห่วงใหญ่ผู้เป็นแม่เหลือแสน น้ำเสียงแหลมเล็กตะโกนเรียกผู้เป็นพ่อเน้นเสียงสูง เมื่อเรียกยังไงพ่อก็ไม่ขานรับเสียที ห่วงแม่แนนจะแย่"ไอติมเป็นอะไรลูก!" ผู้เป็นพ่อที่ยืนคุยโทรศัพท์ต้องรีบวางสาย ปรี่เข้าหาลูกสาวที่กำลังเดินร้องไห้มาหา"ฮึก อึก คูมพ่อแม่แนน
สามี - พิเศษ 10สองปีผ่านไป....เด็กหญิงไอติมผู้แสบสันเลื่อนชั้นขึ้นอนุบาลสาม และยังมีเพื่อนร่วมชั้นที่สนิทใจกันเล่นด้วยกันเพียงคนเดียวนั่นคือเจท เด็กชายผมสีทองที่คอยปกป้องและอยู่เคียงข้างมาเสมอตั้งแต่ที่ได้พบเจอกัน"เจท!" เด็กหญิงไอติมเรียกขานเพื่อนชายคนสนิท ที่นั่งเล่นตรงม้าหินอ่อนหลังจากที่ทานมื้อกลางวันเสร็จสิ้น"ไอติม" เด็กชายมองหน้าเพื่อนหญิงแล้วยิ้ม มือที่หมุนลูกคิวบิกเล่นต้องหยุดชะงักเมื่อเพื่อนหญิงนั้นเรียกหา"ไอติมมีขนม...เจทมากินด้วยกัน" เด็กหญิงใบหน้ากลมมนพูดบอกและปีนป่ายขึ้นม้าหินอ่อนนั่งเคียงข้างกับเด็กชายเจท"ไอติมไปซื้อมาเหรอ?" เด็กชายหันไปย้อนถาม"ใช่...ไอติมเดินไปซื้อที่โรงอาหาร วันนี้คูมพ่อให้เงินมาเหรียญทองกับใบสีเขียว แต่ไอติมเอาไปฝากออมทรัพย์กับครูไอซ์เหลือใบสีเขียว ไอติมก็เลยไปซื้อขนมแล้วก็ซื้อมาเผื่อเจทด้วย...กินสิ" เด็กหญิงเล่ายาวเป็นฉาก ๆ แม้เพื่อนจะไม่ได้เอ่ยถามก็ตามทีวันเวลาแม้จะยังผ่านเลยไปนานเป็นปีการพูดจาของเด็กหญิงไอติมก็ยังไม่ค่อยชัดถ้อยคำสักเท่าไหร่ แต่บางคำเธอก็พูดชัดเจนแล้ว ยังมีหลงเหลือแค่บางคำที่ยังไม่ชัดและหลัก ๆ คงเป็นคำว่า คุณพ่อ ที่เธอมักจะเอ่
สามี - พิเศษ 9"ตื่นแล้วได้แล้วครับแนน...เขาบอกว่าโดนน้ำแล้วจะสดชื่น นี่พี่ให้แนนทั้งคืนเลยนะทำไมนอนไม่ยอมตื่นอีกล่ะ" ชายหนุ่มที่ตื่นนอนในยามเช้าก่อนใครทั้งแฟนสาวและลูกสาวก็ยังนอนจมเตียงอยู่ หลังจากที่จัดการชำระร่างกายจนแล้วเสร็จ เขาเดินมานั่งบนพื้นเตียงนอนเคียงข้างหญิงสาวที่ยังคงหลับใหล อีกฟากฝั่งเตียงก็เป็นลูกสาวตัวน้อยนอนกอดตุ๊กตาหมีตัวโปรดหลับตาสนิทอ้าปากหว๋อ"อื้อ...แนนง่วง" หญิงสาวตอบอย่างงัวเงียและพลิกตัวหนี เมื่อมือหนาของชายหนุ่มนั้นลูกหัวของเธอ"เช้าแล้วนะ ไม่สิสายแล้วไม่หิวเหรอ" เขายังคงถามต่อพร้อมขยับตัวเข้าหา เอนร่างหนานอนเคียงแล้วดึงร่างเสลานั้นเข้ามากอด"ยังไม่หิว...นอนง่วงพี่เจอย่ากวน" หญิงสาวต่อว่าเมื่อเริ่มหงุดหงิดกับการที่ถูกก่อกวนเวลานอน ก็ชายหนุ่มเล่นบรรเลงเพลงรักกับเธอตั้งสามรอบกว่าจะได้นอนเล่นเอาเกือบฟ้าสราง ที่ริมหาดยังไม่พอ แถมมาต่อที่ห้องน้ำอีกสองรอบ ร่างกายบอบบางก็เพลียแรงแทบยืนไม่ไหว สุดท้ายต้องเป็นเขาที่ชำระร่างกายให้ และอุ้มเธอมาส่งที่เตียงนอนในถัดมา เล่นเธอซะขาอ่อนขาล้ายังมีหน้ามาปลุก"ขี้เซาทั้งแม่ทั้งลูกเลย" ชายหนุ่มยังคงพูดต่อชิดหูไม่ขยับปล่อยกอดตามที่
สามี - พิเศษ 8"มานั่งทำอะไรตรงนี้คะ?" หญิงสาวที่พาเด็กหญิงตัวน้อยเข้านอนจนเธอหลับใหลสนิท แต่ไม่เห็นชายวันสามสิบเอ็ดจึงเดินตามหา จนมาพบเขาที่นั่งเล่นตรงโขดหินสูงริมชายชายหาดที่มีม้านั่งตัวยาวสีขาว"เห็นว่าแนนพาไอติมเข้านอนพี่เลยออกมาสูดอากาศเล่น...ทะเลกลางคืนนี่สงบและสวยดีเนอะ" ชายหนุ่มเงยหน้ามองและจับมือหญิงสาวนั่งลงเคียงข้าง"อารมณ์ไหนคะเนี้ย...แนนว่าอากาศเย็นแล้ว เข้าไปนั่งในบ้านดีกว่านะเดี๋ยวจะไม่สบายเอา""อย่าเพิ่งเข้าไปเลยนะ...นั่งเป็นเพื่อนพี่อีกสักพัก" ชายหนุ่มขอร้องด้วยน้ำเสียงละมุน"ก็ได้ค่ะ..." หญิงสาวส่งยิ้มหวานหันหน้ามองชายหนุ่มด้วยแววตาหวานหยด ก่อนที่ร่างหนาจะเอนลงนอนหนุนตักของหญิงสาว จับมือเรียวสวยแนบกับแก้ม แล้วหลับตาพริ้มรับรสความรู้สึกที่มีต่อหญิงตรงหน้า"เป็นอะไรไปคะ" หญิงสาวเอื้อนเอ่ยพลางใช้มือลูบแก้มเขาเบา ๆ ก้มมองหน้าชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มกับท่าทีของเขาที่เป็น"พี่รักแนนนะ...พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันทำไมถึงได้ถูกใจแนนทั้งที่พี่ปิดกั้นตัวเองมาตลอด ไม่มองผู้หญิงคนไหน? แต่พอเห็นแนนเข้ากับลูกพี่ได้ดี มันทำให้พี่รู้เลยว่าแนนจะเข้ามาอยู่ในพื้นที่หัวใจของพี่...พี่รักไอติมมากเธอ
สามี - พิเศษ 7...วันไปทะเล..."ว๊าว ทะเล๊ ทะเล ล่าลั่นลาลั่นลา เย้ ๆ..." น้ำเสียงดีใจของเด็กหญิงไอติมพูดอยู่ในรถที่กำลังขับเคลื่อนไปตามถนน ด้านข้างที่มองเห็นพื้นน้ำสีฟ้าสวยกระทบกับแสงแดดจนระยิบระยับ ร่างกายเล็กที่จัดเต็มด้วยเครื่องแต่งกายน่ารัก เพราะแม่แนนเป็นคนสรรหาใส่ให้เธอ ชุดเดรสกระโปรงสีฟ้าเป็นชั้นกับทรงผมที่ถักเปียสองข้างติดกิ๊บสีฟ้าลายเจ้าหญิงที่เธอชอบ หมวกใบเล็กน่ารักมีหูเหมือนหมีถูกสวมบนหัวเล็ก ทำให้ลับขลับเข้ากับใบหน้ากลมของเด็กหญิงจนน่ารักและสดใส"ดีใจจังเลยนะคะ" เสียงหวาน ๆ ของแนนเอ่ยแซวเมื่อเด็กหญิงนั้นแสดงความดีใจจนออกนอกหน้า"แม่แนนขา...พอไปถึงทะเลเราใส่ชุดว่ายน้ำไปเล่นน้ำกันนะคะ""ไม่ได้!!" เสียงเข้มของพ่อเจดังแทรกระหว่างบทสนทนาของลูกสาวที่พูดชวนแม่แนนของเธอ"คูมพ่อ!! ทำไมต้องเสียงดังน้องไอติมตกใจหมด" เด็กหญิงที่สะดุ้งเฮือกตกใจ จากที่ยิ้มร่าต้องหุบยิ้มทันทีพลางหันไปต่อว่าผู้เป็นพ่อที่พูดกระแทกเสียงดังใส่"นั่นสิคะพี่เจ...ชอบเสียงดังลูกตกใจหมด" หญิงสาวที่ตกใจไม่แพ้เด็กหญิงหันไปต่อว่าเสริมทัพ"ไอติมพ่อขอโทษ...แต่ว่าพ่อไม่ให้แม่แนนใส่ชุดว่ายน้ำนะ" คนเป็นพ่อพูดเสียงด้วยน้
สามี - พิเศษ 6"ตื่นมาทำไมแต่เช้าขนาดนี้" ผู้เป็นพ่อเดินมาเปิดประตูห้องน้ำ ไม่วายบ่นอุบให้ลูกสาวที่ขัดตลอด ขัดดียิ่งกว่าสองขานั่งขัดสมาธิเสียอีก"ก็น้องไอติมปวดฉี่...งื้อคูมพ่อ ถอดกางเกงไม่ได้" เด็กหญิงที่ปวดฉี่หนัก ยืนกระทืบเท้าไปมา พร้อมมือเล็กๆ พยายามถอดกางเกงไปด้วย ความร้อนรนมันจึงทำให้การถอดกางเกงดูยุ่งยาก"มาๆ พ่อช่วย"จ๊าก~~~ แปะ แปะยังไม่ทันที่ผู้เป็นพ่อจะได้ช่วยเหลือถอดกางเกงจนสุดขา เพียงเด็กหญิงยกขาขึ้นข้างเดียว ของเหลวที่ทำให้เด็กหญิงเป็นทุกข์ก็ไหลลงมา อาบตามลำขาบ้างเพราะอดกลั้นไว้ไม่ไหว"ไอติม!" เสียงผู้เป็นพ่อร้องขึ้นตกใจ เมื่อลูกสาวฉี่ราดใส่กางเกงแถมเลอะพื้นหน้าห้องน้ำอีกต่างหาก"งื้อ...คูมพ่อดุ ก็น้องไอติมทนไม่ไหว คูมพ่อเข้าห้องน้ำนาน" เด็กหญิงยืนฉี่ต่อหน้าผู้เป็นพ่อและบอกถึงเหตุผล"พี่เจก็ชอบดุลูก" เสียงหวานของหญิงสาวเอ่ยตามหลัง พร้อมร่างกายที่สวมทับเสื้อผ้าตัวเดิมเรียบร้อย แม้จะมีรอยเปียกชื้นอยู่ประปรายเล็กน้อย"เอ๋??" เด็กหญิงไอติมเอียงคอมองหน้าผู้ใหญ่ทั้งสองอย่างสงสัย กรอกสายตามองหน้าสลับกันไปมา จนทั้งพ่อเจและแม่แนนนั้นเกิดหน้าแดง "ทำไมคูมพ่อกับแม่แนนฉี่พร้อมกัน นั
สามี - พิเศษ 5"พี่เจไม่เล่นนะคะ" หญิงสาวทักท้วงเมื่อถูกวางให้ยืนมั่นในห้องน้ำ ที่ชายหนุ่มอุ้มเธอมา ก่อนจะยกตัวเธอนั่งบนแท่นปูนหนาของอ่างล้างหน้า"พี่ก็ไม่ได้จะเล่นนะ...ไหนมาให้พี่ดูหน่อย" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับนั่งยอง ๆ ลงตรงหน้า ยกขาข้างหนึ่งของเธอพาดบ่า"อ๊ะ! พี่เจไม่เอาค่ะ...แนนอาย" หญิงสาวใช้มือปิดส่วนลับที่สวยงาม เมื่อมันเผยต่อสายตาชายตรงหน้า"อายทำไมพี่เห็นมาทั้งคืน" ชายหนุ่มหยัดตัวลุกยืนแทรกกลางตรงหว่างขาหญิงสาว โอบกอดรอบเอวคอดดึงเข้าหาตัว จ้องมองหน้าสวยที่เขินอายด้วยรอยยิ้มเพี๊ยะ!!"พี่เจ!...นี่คือตัวจริงพี่เหรอ" หญิงสาวฟาดฝ่ามือลงอกแกร่ง แต่ไม่ได้แรงจนต้องโอดโอย ทำให้ชายหนุ่มที่มองการกระทำนั้นยิ้มกริ่มชอบใจต่อความเขินอายที่น่ารัก"พี่น่ารักใช่ไหม...หื้ม" ชายหนุ่มพูดออกเซาะและใช้ปลายจมูกถูไถกับจมูกเล็กนั้นอย่างหยอกเย้า“ใครบอกคะ? เอาตาส่วนไหนมองถึงบอกว่าพี่เจน่ารัก” หญิงสาวสวนกลับทันควันยกยิ้มร้ายอย่างไม่ยอมปรน“โห...พูดแบบนี้สงสัยอยากนอนติดเตียง” ชายหนุ่มที่ถูกหยาม พูดขึ้นเสียงเข้ม จ้องมองหน้าหญิงสาวด้วยแววตาแข็งกร้าว ก่อนจะยกยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจดุจคนเจ้าเล่ห์“ดะ เดี๋ยว จะท
สามี - พิเศษ 4ปัง ปัง(คูมพ่อขา! คูมพ่อ ฮือ ฮือ...คูมพ่อ)เสียงเคาะประตูห้องนอนที่ล็อกจากด้านใน เสียงแหลมใสของลูกสาวเรียกสั่นเครือ แต่คนที่นอนในห้องยังไม่รู้สึกตัวเพราะบทรักที่ยาวนานนั้นทำร่างกายเพลีย(คูมพ่อ ช่วยน้องไอติมด้วย)เสียงแหลมตะโกนดังอีกครั้ง และร้องขอการช่วยเหลือ ทำเอาผู้เป็นพ่อนั้นต้องลืมตาตื่นแล้วลุกจากที่นอน ปล่อยให้หญิงสาวนอนหลับพักผ่อนเต็มที่เพราะค่ำคืนที่ผ่านมาใช้ร่างกายเธอหนัก กว่าจะได้นอนก็ตีสามเข้าไปแล้ว"ตื่นมาทำไมคะยังไม่เช้าเลยนะ แล้วร้องไห้ทำไมคะ" ผู้เป็นพ่อเปิดประตูพร้อมอุ้มลูกสาวที่น้ำตานองหน้าขึ้นแนบอก"คูมพ่อขา อึก อึก มะ แม่แนนหายตัวไป น้องไอติมตื่นมาไม่เจอ น้องไอติมเสียใจ ฮึก" เด็กหญิงกอดคอผู้เป็นพ่อร้องไห้ พูดพร่ำออกมาทั้งน้ำตาน้ำเสียงสะอื้นสั่นเครือ"โอ๋ ๆ ไม่ร้องนะคะ...แม่แนนนอนอยู่ตรงนั้น" ผู้เป็นพ่อพูดปลอบพร้อมชี้นิ้วไปยังคนที่นอนหลับสนิท"ทำไมแม่แนนมานอนกับคูมพ่อ...คูมพ่อขโมยแม่แนนของน้องไอติม ฮือ~~~" เด็กหญิงปล่อยโฮร้องไห้พร้อมกับต่อว่าผู้เป็นพ่อ"เอ่อ กะ ก็เมื่อคืนแม่แนนไม่สบาย พ่อกลัวน้องไอติมติดไข้เลยต้องพาแม่แนนมาที่นี่ไงคะ...หยุดร้องนะ ตอนนี
สามี - พิเศษ 3ฝ่ามือหนาลากไล้ไปตามเนื้อผิวและสัดส่วนเว้าโค้งอย่างแผ่วเบา ทำเอาหญิงสาวนั้นหายใจติดขัดไม่เป็นจังหวะกับการสัมผัสนี้ สองขาเรียวถูกดันแยกออกห่าง ร่างกายหนาทาบทับแทรกกลางตรงหว่างขา มือหนาค่อย ๆ ปลดเปลื้องเสื้อผ้าจนหลุดร่วงไม่มีเหลือ หญิงสาวที่นอนราบเปลือยเปล่า ส่วนเว้าโค้งและหน้าท้องแบนราบกระทบกับแสงไฟสลัว ยิ่งทำให้ความเป็นชายนั้นกระสันซ่านเสียวพองตัวอย่างไม่อาจทานทนได้ไหว"พี่เจแนนอาย" หญิงสาวใช้มือปิดคลุมส่วนสงวนและเนินอก เอื้อนเอ่ยด้วยความอายเมื่อสายตาของชายหนุ่มนั้นกำลังโลมเลียเธอ"ไม่จำเป็นต้องอายเพราะเเนนสวยมาก" กายชายที่ไร้เสื้อปิดคลุมค่อย ๆ ทาบทับแนบเนื้อสาวอย่างละมุน กดตรึงข้อมือเล็กกับพื้นที่นอนนุ่ม ก่อนจะใช้ปากครอบครองยอดออกที่อวบอิ่ม ดูดดึงอย่างคลอเคลียจนร่างกายสาวขนลุกชันกับการสัมผัสที่แปลกใหม่ ที่เธอนั้นยังไม่เคยลิ้มลอง"พี่เจ...มัน อื้อ" หญิงสาวที่ถูกปลายลิ้นหนาตวัดยอดปทุมถันที่ชูชัน การสัมผัสที่ลึกซึ้งแบบนี้มันทำให้เธอนั้นปั่นป่วนตรงกายสาวแรกแย้ม"พี่สัญญาจะเบามือ" ชายหนุ่มพูดปลอบโน้มใบหน้าเข้าใกล้และจ้องมองเข้าไปในดวงตาสวยที่มีความหวาดระแวง"อื้อ" เมื่อปลาย