Share

บทที่ 10

last update Terakhir Diperbarui: 2025-03-26 19:00:02

หมอกหนาที่ยามค่ำคืนลอยตัวต่ำปกคลุมป่าที่เงียบสงัด ราวกับผ้าคลุมสีขาวที่ซ่อนอันตรายไว้เบื้องล่าง ต้นไม้สูงใหญ่ยื่นกิ่งก้านออกมาทับซ้อนกันจนแทบมองไม่เห็นท้องฟ้า มีเพียงแสงจันทร์ที่เล็ดลอดผ่านช่องว่างของใบไม้เท่านั้นที่ส่องสว่างลงมาเป็นลำแสงสลัวๆ เสียงลมพัดผ่านใบไม้ดังเป็นเสียงกระซิบที่เย็นเยือก ผสมกับกลิ่นดินเปียกและความชื้นที่ลอยอยู่ในอากาศ ค่ำคืนนี้ควรจะเงียบสงบ แต่สำหรับนาวินและธนิดา มันคือค่ำคืนแห่งการหนีตาย

ทั้งคู่ยืนอยู่ที่ลานจอดรถหน้าคฤหาสน์ รถยนต์สีดำที่ภูมิขับมาจอดรออยู่ไม่ไกล นาวินมองไปที่ภูมิด้วยสายตาที่เย็นชาและเต็มไปด้วยความสงสัย ขณะที่ธนิดายืนอยู่ข้างเขา มือของเธอกำปืนพกแน่น เธอเพิ่งบอกเขาว่าเธอได้ยินภูมิคุยโทรศัพท์ และโกดังยาที่ถูกระเบิดเมื่อครู่ยิ่งทำให้ความสงสัยของนาวินถึงจุดแตกหัก

“ขึ้นรถ” นาวินสั่งภูมิสั้นๆ “นายขับ”

ภูมิพยักหน้ารับและเดินไปที่รถ แต่ก่อนที่เขาจะได้เปิดประตู เสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นเบาๆ เขารีบหยิบมันออกจากกระเป๋าและกดปิดทันที แต่สายตาของนาวินจับจ้องไปที่การเคลื่อนไหวของเขา

“ใครโทรมา?”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • สัญญาใจใต้รัตติกาล   บทที่ 11

    กระท่อมร้างที่ซ่อนตัวอยู่ในป่ามืดนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นไม้เปียกและความชื้นที่ลอยอยู่ในอากาศ หลังคาที่ผุพังมีน้ำฝนหยดลงมาเป็นระยะๆ ตกลงกระทบพื้นดินที่แข็งกระด้าง เสียงหยดน้ำดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ผสมกับเสียงลมหวีดหวิวพัดผ่านช่องว่างของกำแพงไม้เก่าๆ ที่พังทลายบางส่วนแสงจันทร์ลอดผ่านรอยแตกของหลังคา สาดส่องลงมาเป็นลำแสงสีเงินอ่อนๆ ที่ตัดกับความมืดมิดของกระท่อม ทำให้ทุกอย่างดูเหมือนฉากในฝันร้ายที่ทั้งเงียบสงบและน่าสะพรึงกลัวในเวลาเดียวกันธนิดานั่งพิงกำแพงไม้ที่เย็นชืด ขาของเธอเกิดอาการชาจากการวิ่งหนีเมื่อครู่ เสื้อแจ็กเก็ตสีเทาของเธอเปียกชุ่มและเต็มไปด้วยโคลน ปืนพกในมือของเธอยังคงกำแน่น เธอหายใจถี่และมองไปที่นาวินที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เขาพิงกองไม้เก่าที่วางซ้อนกันอย่างไม่เป็นระเบียบ แขนซ้ายที่บาดเจ็บของเขาถูกพันผ้าใหม่จากชายเสื้อของเธอ เลือดหยุดไหลแล้ว แต่ใบหน้าของเขายังคงซีดจากความเจ็บปวดและความเหนื่อยล้า ดวงตาคู่คมของเขามองไปที่พื้นราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างทั้งคู่เงียบไปนานหลังจากได้ยินเสียงฝีเท้าที่ดังขึ้นจากด้านนอกเมื่อครู่ โชคดีที่มันจางหายไปในหมอก และไม่ม

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-27
  • สัญญาใจใต้รัตติกาล   บทที่ 12

    โกดังร้างที่ตั้งอยู่นอกเมืองนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดและควันปืนที่ลอยคละคลุ้งในอากาศ ผนังเหล็กที่เต็มไปด้วยสนิมและรอยกระสุนเก่าๆ ล้อมรอบสถานที่แห่งนี้ราวกับกำแพงของนรก ศพของลูกน้องเงาจันทราและเสือดาวกระจัดกระจายอยู่บนพื้นคอนกรีตที่เปื้อนเลือด บางศพมีบาดแผลถูกยิง บางศพถูกมีดแทงจนล้มตายในท่าที่น่าสยดสยอง กล่องไม้ที่เคยใช้เก็บยาเสพติดถูกระเบิดจนแตกกระจาย เศษไม้และฝุ่นลอยฟุ้งไปทั่ว แสงจากโคมไฟเก่าที่ห้อยลงมาจากเพดานกระพริบเป็นระยะๆ สร้างเงามืดที่เคลื่อนไหวไปมาบนพื้นราวกับวิญญาณของคนตายยังคงวนเวียนอยู่นาวินยืนอยู่กลางโกดัง มีดสั้นในมือขวาของเขาชุ่มไปด้วยเลือด แขนซ้ายที่บาดเจ็บของเขาห้อยลงอย่างไม่มีแรง เสื้อเชิ้ตสีดำของเขาขาดวิ่นและเปื้อนเลือดทั้งของตัวเองและศัตรู ดวงตาคู่คมของเขายังคงลุกโชนด้วยไฟแห่งความโกรธ แม้ว่าร่างกายของเขาจะเริ่มถึงขีดจำกัดธนิดายืนอยู่ไม่ไกลจากเขา ปืนพกในมือของเธอกำแน่น เธอหายใจถี่จากความตื่นเต้นและความกลัว เสื้อแจ็กเก็ตสีเทาของเธอเปื้อนฝุ่นและเลือดจากการต่อสู้เมื่อครู่ เธอเพิ่งยิงลูกน้องของเสือดาวไปสองคนเพื่อปกป้องนาวิน และตอนนี้หัวใจของเธอเต้นรัว

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-28
  • สัญญาใจใต้รัตติกาล   บทที่ 13

    แสงไฟจากโคมไฟตั้งโต๊ะสีเหลืองนวลส่องสว่างห้องพักในโรงแรมลับที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยแคบๆ ของเมือง บรรยากาศในห้องนี้เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ตัดกับความโหดร้ายของโลกภายนอก ผนังสีครีมที่เริ่มลอกบางจุดและม่านสีน้ำตาลเก่าที่ปิดหน้าต่างบานเดียวทำให้ห้องนี้ดูเหมือนที่หลบภัยชั่วคราวมากกว่าบ้าน กลิ่นยาและผ้าพันแผลลอยอยู่ในอากาศ ผสมกับกลิ่นฝุ่นจากพรมเก่าที่วางอยู่ใต้เตียงเดี่ยวขนาดเล็ก โต๊ะไม้ตัวเก่าที่มีรอยขีดข่วนวางอยู่มุมห้อง ข้างๆ กันมีเก้าอี้สองตัวที่ดูไม่เข้ากันนาวินนั่งอยู่บนเตียง ร่างของเขายังอ่อนแรงจากบาดแผลที่ได้รับจากการต่อสู้ในโกดังเมื่อคืน แขนขวาของเขาถูกพันผ้าพันแผลแน่น ขาข้างซ้ายที่ถูกยิงมีผ้าก๊อซพันทับ และใบหน้าของเขาซีดจากความเจ็บปวดและการเสียเลือด เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีเทาที่ลูกน้องคนหนึ่งของเขานำมาให้หลังจากที่หมอประจำตระกูลจัดการบาดแผลของเขาให้เรียบร้อยแล้ว ดวงตาคู่คมของเขามองไปที่กล่องเหล็กเล็กๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะ มันเป็นกล่องที่เขาเก็บเอกสารสำคัญเอาไว้ธนิดานั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างเตียง เธอสวมเสื้อแจ็กเก็ตสีเทาที่เปื้อนเปรอะไปด้วยคราบฝุ่นและเลือดแห้งจากเมื่อคืน

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-29
  • สัญญาใจใต้รัตติกาล   บทที่ 14

    ลมแรงจากทะเลพัดผ่านชายหาดยามค่ำที่เงียบสงัด เสียงคลื่นซัดเข้าฝั่งดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ผสมกับเสียงลมที่พัดผ่านต้นมะพร้าวที่เรียงรายอยู่ตามแนวชายฝั่ง ท้องฟ้าสีดำสนิทถูกแต้มด้วยดวงดาวระยิบระยับ แต่แสงจันทร์ที่สาดส่องลงมาบนผืนทรายสีขาวทำให้ทุกอย่างดูเหมือนฉากในฝันที่ทั้งงดงามและน่าสะพรึงกลัวในเวลาเดียวกัน กลิ่นเค็มของน้ำทะเลลอยอยู่ในอากาศ ผสมกับกลิ่นดินและความชื้นจากพายุที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อบ่ายนี้ ชายหาดแห่งนี้ควรจะเป็นสถานที่แห่งความสงบ แต่ในคืนนี้ มันกลายเป็นสนามรบสุดท้ายนาวินยืนอยู่บนผืนทราย ร่างกายของเขายังคงอ่อนแรงจากบาดแผลที่ได้รับเมื่อสองวันก่อน ปืนกลสั้นในมือขวาของเขาถูกกำเอาไว้แน่น ขาข้างซ้ายที่ถูกพันผ้าพันแผลทำให้เขายืนได้ไม่มั่นคงนัก แต่สายตาคู่คมของเขายังคงลุกโชนด้วยความมุ่งมั่นเขาสวมเสื้อเชิ้ตสีเทาที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ และมีมีดสั้นเหน็บอยู่ที่เอวเป็นอาวุธสำรอง ธนิดายืนเคียงข้างเขา ปืนพกในมือของเธอเล็งไปข้างหน้า เธอสวมเสื้อแจ็กเก็ตสีเทาที่ขาดวิ่น และผมสีน้ำตาลเข้มของเธอปลิวไสวไปตามสายลม หัวใจของเธอเต้นรัว แต่ความกลัวในใจถู

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-30
  • สัญญาใจใต้รัตติกาล   บทที่ 15

    แสงแดดยามเช้าสาดส่องลงมาบนชายหาดที่เงียบสงบ ผ่านหน้าต่างไม้บานใหญ่ของบ้านพักริมทะเลหลังเล็กๆ คลื่นซัดเข้าฝั่งอย่างแผ่วเบา เสียงของมันดังเป็นจังหวะที่สงบและนุ่มนวล ต่างจากค่ำคืนแห่งสงครามเมื่อสองสัปดาห์ก่อนลมทะเลพัดพากลิ่นเค็มของน้ำและกลิ่นหญ้าสดจากสวนเล็กๆ หน้าบ้านเข้ามาในห้อง ผนังไม้สีน้ำตาลอ่อนของบ้านพักถูกตกแต่งอย่างเรียบง่าย มีโต๊ะไม้ตัวเล็กวางอยู่กลางห้อง ข้างๆ กันเป็นโซฟาผ้าสีครีมที่ดูนุ่มนวล ทุกอย่างในบ้านหลังนี้ให้ความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย สิ่งที่ทั้งนาวินและธนิดาไม่เคยสัมผัสมาเนิ่นนานนาวินนั่งอยู่บนโซฟา ขาข้างซ้ายของเขายังคงพันผ้าพันแผล แต่บาดแผลที่ไหล่และแขนของเขาเริ่มหายดี เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ปลดกระดุมสองเม็ดด้านบน และกางเกงขาสั้นสีน้ำเงินที่ดูสบายๆ ใบหน้าของเขาดูผ่อนคลายมากกว่าที่เคยเป็น ดวงตาคู่คมที่เคยเต็มไปด้วยความโกรธและความระแวงตอนนี้สงบนิ่ง เขาถือแก้วกาแฟในมือ และมองออกไปที่ทะเลที่ทอดยาวไปถึงขอบฟ้าด้วยสายตาที่ว่างเปล่าแต่เต็มไปด้วยความหวังธนิดานั่งอยู่ข้างเขา เธอสวมชุดเดรสสีขาวบางเบาที่ปลิวไหวไปตามลม ผมสีน้ำตาลเข้มของเธอถูกรวบไว้หลวมๆ แ

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-31
  • สัญญาใจใต้รัตติกาล   บทที่ 1

    ซู่ๆๆ!!!!ฝนตกหนักราวกับฟ้าจะถล่มลงมาในค่ำคืนนั้น เสียงเม็ดฝนตกกระทบหลังคาบ้านไม้เก่าของธนิดาดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ บ้านสองชั้นที่สร้างจากไม้สักเก่าแก่ตั้งตระหง่านท่ามกลางความมืดมิด ล้อมรอบด้วยต้นไม้ใหญ่ใบหนาที่ยื่นออกมาบดบังแสงจันทร์จนแทบมองไม่เห็นอะไรรอบตัว บรรยากาศเย็นชื้นและเงียบสงัด มีเพียงเสียงแมลงกลางคืนที่ดังแว่วมาจากป่าด้านหลังบ้าน และกลิ่นดินเปียกที่ลอยคละคลุ้งอยู่ในอากาศธนิดา วัย 25 ปี หญิงสาวร่างบางที่มีผมยาวสีน้ำตาลเข้ม ยืนอยู่ริมหน้าต่างชั้นสอง เธอสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวที่ขาดเล็กน้อยตรงชายเสื้อ และกางเกงยีนส์เก่าที่ดูไม่เข้ากับใบหน้าสวยหวานของเธอ ดวงตาคู่คมของเธอจ้องมองออกไปในความมืดที่ห่อหุ้มรอบบ้านราวกับพยายามมองหาความหวังบางอย่าง แต่สิ่งที่เธอเห็นมีเพียงเงาต้นไม้ที่โอนเอนไปตามแรงลม และสายฝนที่ตกลงมาอย่างไม่หยุดยั้ง“ฝนตกหนักแบบนี้ คงไม่น่ามีใครมาแล้วหรอกมั้ง...” เธอพึมพำกับตัวเองเบาๆ น้ำเสียงของเธอแฝงด้วยความเหนื่อยล้าและความกังวล เธอยกมือขึ้นลูบหน้าผากที่เริ่มเปียกชื้นจากไอฝนที่ลอยเข้ามาทางช่องหน้าต่างที่ปิดไม่สนิทตั้งแต่พ่อของเธอหายตัวไปเมื่อสามเดือนก่อน ชีวิตของ

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-21
  • สัญญาใจใต้รัตติกาล   บทที่ 2

    ฝนยังคงตกลงมาอย่างหนัก ขณะที่รถยนต์สีดำคันใหญ่อย่างเบนท์ลีย์ รุ่นเบนเทก้า พาธนิดามุ่งหน้าสู่จุดหมายที่เธอไม่อาจคาดเดาได้ เสียงเครื่องยนต์ดังครืดคราดผสมกับเสียงหยดน้ำที่กระทบกระจกรถ ทำให้ภายในรถเต็มไปด้วยความเงียบที่น่าอึดอัดนาวินนั่งนิ่งอยู่ข้างเธอ สายตาของเขาจ้องมองออกไปนอกหน้าต่างราวกับไม่ได้สนใจอะไรในโลกนี้ ใบหน้าคมเข้มของเขาถูกแสงจากไฟถนนที่สาดส่องเข้ามาเป็นระยะๆ เน้นให้เห็นรอยแผลเป็นเล็กๆ ที่มุมคิ้วซ้าย ซึ่งธนิดาเพิ่งสังเกตเห็นเป็นครั้งแรกเธอขยับตัวเล็กน้อยบนเบาะหนังสีดำที่เย็นเฉียบ มือทั้งสองข้างของเธอถูกมัดไว้หลวมๆ ด้วยเชือกไนลอนสีดำ ซึ่งลูกน้องของนาวินผูกไว้ก่อนที่รถจะเคลื่อนตัวออกจากบ้านไม้เก่าของเธอ ความรู้สึกเจ็บที่ข้อมือจากการถูกกระชากยังคงอยู่ แต่เธอพยายามไม่แสดงออกมาให้เขาเห็น เธอหันไปมองนาวินอีกครั้ง พยายามหาคำตอบจากใบหน้าที่เย็นชาของเขา แต่สิ่งที่เธอได้กลับมามีเพียงความเงียบงันที่สร้างความรู้สึกหนักอึ้งขึ้นในใจของเธอ“นี่เราจะกำลังจะไปไหนกัน” เธอถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่พยายามให้หนักแน่น แต่ความสั่นเทาในน้ำเสียงของเธอก็ยังหลุดออกมาเล็กน้อยนาวินหันหน้ามามองเธอช้าๆ ดวงต

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-21
  • สัญญาใจใต้รัตติกาล   บทที่ 3

    แสงจากโคมระย้าคริสตัลขนาดใหญ่ที่ห้อยลงมาจากเพดานของห้องอาหารในคฤหาสน์เงาจันทราส่งแสงสลัวๆ ไปทั่วทั้งบริเวณ โต๊ะอาหารยาวที่ทำจากไม้โอ๊กสีเข้มถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบด้วยจานชามสีขาวสะอาดตาและช้อนส้อมเงินที่วางเรียงกันอย่างพิถีพิถัน บรรยากาศในห้องนี้ควรจะดูสงบและหรูหรา แต่ความเงียบที่หนักอึ้งและสายตาที่เย็นชาของนาวินที่จ้องมาจากปลายโต๊ะทำให้ทุกอย่างรู้สึกกดดันราวกับมีพายุซ่อนอยู่ในความสงบนั้นธนิดานั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของเขา ห่างออกไปเกือบสามเมตร เธอสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวเก่าที่มณีนำมาให้เปลี่ยนหลังจากชุดของเธอเปียกฝน มือของเธอวางนิ่งอยู่บนตัก แม้ว่าจะถูกปลดเชือกที่มัดข้อมือออกแล้ว แต่รอยแดงที่เกิดจากการรัดแน่นยังคงปรากฏชัดเจน เธอมองไปที่จานอาหารตรงหน้า สเต๊กเนื้อชิ้นหนาที่มีเลือดซึมออกมาเล็กน้อยและมันบดสีครีมที่ถูกจัดวางอย่างสวยงาม น่ากินอยู่ไม่น้อย แต่เธอไม่มีอารมณ์จะแตะมันเลยสักนิดรอบห้องอาหาร ลูกน้องของนาวินสามคนยืนนิ่งราวกับรูปปั้น แต่ละคนสวมเสื้อสูทสีดำและถือปืนกลสั้นที่แนบชิดกับลำตัว สายตาของพวกเขาจับจ้องไปที่ธนิดาและประตูทางเข้าหลักของห้องราวกับพร้อมที่จะลงมือทุกเมื่อ เสียงฝนที่

    Terakhir Diperbarui : 2025-03-21

Bab terbaru

  • สัญญาใจใต้รัตติกาล   บทที่ 15

    แสงแดดยามเช้าสาดส่องลงมาบนชายหาดที่เงียบสงบ ผ่านหน้าต่างไม้บานใหญ่ของบ้านพักริมทะเลหลังเล็กๆ คลื่นซัดเข้าฝั่งอย่างแผ่วเบา เสียงของมันดังเป็นจังหวะที่สงบและนุ่มนวล ต่างจากค่ำคืนแห่งสงครามเมื่อสองสัปดาห์ก่อนลมทะเลพัดพากลิ่นเค็มของน้ำและกลิ่นหญ้าสดจากสวนเล็กๆ หน้าบ้านเข้ามาในห้อง ผนังไม้สีน้ำตาลอ่อนของบ้านพักถูกตกแต่งอย่างเรียบง่าย มีโต๊ะไม้ตัวเล็กวางอยู่กลางห้อง ข้างๆ กันเป็นโซฟาผ้าสีครีมที่ดูนุ่มนวล ทุกอย่างในบ้านหลังนี้ให้ความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย สิ่งที่ทั้งนาวินและธนิดาไม่เคยสัมผัสมาเนิ่นนานนาวินนั่งอยู่บนโซฟา ขาข้างซ้ายของเขายังคงพันผ้าพันแผล แต่บาดแผลที่ไหล่และแขนของเขาเริ่มหายดี เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ปลดกระดุมสองเม็ดด้านบน และกางเกงขาสั้นสีน้ำเงินที่ดูสบายๆ ใบหน้าของเขาดูผ่อนคลายมากกว่าที่เคยเป็น ดวงตาคู่คมที่เคยเต็มไปด้วยความโกรธและความระแวงตอนนี้สงบนิ่ง เขาถือแก้วกาแฟในมือ และมองออกไปที่ทะเลที่ทอดยาวไปถึงขอบฟ้าด้วยสายตาที่ว่างเปล่าแต่เต็มไปด้วยความหวังธนิดานั่งอยู่ข้างเขา เธอสวมชุดเดรสสีขาวบางเบาที่ปลิวไหวไปตามลม ผมสีน้ำตาลเข้มของเธอถูกรวบไว้หลวมๆ แ

  • สัญญาใจใต้รัตติกาล   บทที่ 14

    ลมแรงจากทะเลพัดผ่านชายหาดยามค่ำที่เงียบสงัด เสียงคลื่นซัดเข้าฝั่งดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ผสมกับเสียงลมที่พัดผ่านต้นมะพร้าวที่เรียงรายอยู่ตามแนวชายฝั่ง ท้องฟ้าสีดำสนิทถูกแต้มด้วยดวงดาวระยิบระยับ แต่แสงจันทร์ที่สาดส่องลงมาบนผืนทรายสีขาวทำให้ทุกอย่างดูเหมือนฉากในฝันที่ทั้งงดงามและน่าสะพรึงกลัวในเวลาเดียวกัน กลิ่นเค็มของน้ำทะเลลอยอยู่ในอากาศ ผสมกับกลิ่นดินและความชื้นจากพายุที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อบ่ายนี้ ชายหาดแห่งนี้ควรจะเป็นสถานที่แห่งความสงบ แต่ในคืนนี้ มันกลายเป็นสนามรบสุดท้ายนาวินยืนอยู่บนผืนทราย ร่างกายของเขายังคงอ่อนแรงจากบาดแผลที่ได้รับเมื่อสองวันก่อน ปืนกลสั้นในมือขวาของเขาถูกกำเอาไว้แน่น ขาข้างซ้ายที่ถูกพันผ้าพันแผลทำให้เขายืนได้ไม่มั่นคงนัก แต่สายตาคู่คมของเขายังคงลุกโชนด้วยความมุ่งมั่นเขาสวมเสื้อเชิ้ตสีเทาที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ และมีมีดสั้นเหน็บอยู่ที่เอวเป็นอาวุธสำรอง ธนิดายืนเคียงข้างเขา ปืนพกในมือของเธอเล็งไปข้างหน้า เธอสวมเสื้อแจ็กเก็ตสีเทาที่ขาดวิ่น และผมสีน้ำตาลเข้มของเธอปลิวไสวไปตามสายลม หัวใจของเธอเต้นรัว แต่ความกลัวในใจถู

  • สัญญาใจใต้รัตติกาล   บทที่ 13

    แสงไฟจากโคมไฟตั้งโต๊ะสีเหลืองนวลส่องสว่างห้องพักในโรงแรมลับที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยแคบๆ ของเมือง บรรยากาศในห้องนี้เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ตัดกับความโหดร้ายของโลกภายนอก ผนังสีครีมที่เริ่มลอกบางจุดและม่านสีน้ำตาลเก่าที่ปิดหน้าต่างบานเดียวทำให้ห้องนี้ดูเหมือนที่หลบภัยชั่วคราวมากกว่าบ้าน กลิ่นยาและผ้าพันแผลลอยอยู่ในอากาศ ผสมกับกลิ่นฝุ่นจากพรมเก่าที่วางอยู่ใต้เตียงเดี่ยวขนาดเล็ก โต๊ะไม้ตัวเก่าที่มีรอยขีดข่วนวางอยู่มุมห้อง ข้างๆ กันมีเก้าอี้สองตัวที่ดูไม่เข้ากันนาวินนั่งอยู่บนเตียง ร่างของเขายังอ่อนแรงจากบาดแผลที่ได้รับจากการต่อสู้ในโกดังเมื่อคืน แขนขวาของเขาถูกพันผ้าพันแผลแน่น ขาข้างซ้ายที่ถูกยิงมีผ้าก๊อซพันทับ และใบหน้าของเขาซีดจากความเจ็บปวดและการเสียเลือด เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีเทาที่ลูกน้องคนหนึ่งของเขานำมาให้หลังจากที่หมอประจำตระกูลจัดการบาดแผลของเขาให้เรียบร้อยแล้ว ดวงตาคู่คมของเขามองไปที่กล่องเหล็กเล็กๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะ มันเป็นกล่องที่เขาเก็บเอกสารสำคัญเอาไว้ธนิดานั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างเตียง เธอสวมเสื้อแจ็กเก็ตสีเทาที่เปื้อนเปรอะไปด้วยคราบฝุ่นและเลือดแห้งจากเมื่อคืน

  • สัญญาใจใต้รัตติกาล   บทที่ 12

    โกดังร้างที่ตั้งอยู่นอกเมืองนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดและควันปืนที่ลอยคละคลุ้งในอากาศ ผนังเหล็กที่เต็มไปด้วยสนิมและรอยกระสุนเก่าๆ ล้อมรอบสถานที่แห่งนี้ราวกับกำแพงของนรก ศพของลูกน้องเงาจันทราและเสือดาวกระจัดกระจายอยู่บนพื้นคอนกรีตที่เปื้อนเลือด บางศพมีบาดแผลถูกยิง บางศพถูกมีดแทงจนล้มตายในท่าที่น่าสยดสยอง กล่องไม้ที่เคยใช้เก็บยาเสพติดถูกระเบิดจนแตกกระจาย เศษไม้และฝุ่นลอยฟุ้งไปทั่ว แสงจากโคมไฟเก่าที่ห้อยลงมาจากเพดานกระพริบเป็นระยะๆ สร้างเงามืดที่เคลื่อนไหวไปมาบนพื้นราวกับวิญญาณของคนตายยังคงวนเวียนอยู่นาวินยืนอยู่กลางโกดัง มีดสั้นในมือขวาของเขาชุ่มไปด้วยเลือด แขนซ้ายที่บาดเจ็บของเขาห้อยลงอย่างไม่มีแรง เสื้อเชิ้ตสีดำของเขาขาดวิ่นและเปื้อนเลือดทั้งของตัวเองและศัตรู ดวงตาคู่คมของเขายังคงลุกโชนด้วยไฟแห่งความโกรธ แม้ว่าร่างกายของเขาจะเริ่มถึงขีดจำกัดธนิดายืนอยู่ไม่ไกลจากเขา ปืนพกในมือของเธอกำแน่น เธอหายใจถี่จากความตื่นเต้นและความกลัว เสื้อแจ็กเก็ตสีเทาของเธอเปื้อนฝุ่นและเลือดจากการต่อสู้เมื่อครู่ เธอเพิ่งยิงลูกน้องของเสือดาวไปสองคนเพื่อปกป้องนาวิน และตอนนี้หัวใจของเธอเต้นรัว

  • สัญญาใจใต้รัตติกาล   บทที่ 11

    กระท่อมร้างที่ซ่อนตัวอยู่ในป่ามืดนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นไม้เปียกและความชื้นที่ลอยอยู่ในอากาศ หลังคาที่ผุพังมีน้ำฝนหยดลงมาเป็นระยะๆ ตกลงกระทบพื้นดินที่แข็งกระด้าง เสียงหยดน้ำดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ผสมกับเสียงลมหวีดหวิวพัดผ่านช่องว่างของกำแพงไม้เก่าๆ ที่พังทลายบางส่วนแสงจันทร์ลอดผ่านรอยแตกของหลังคา สาดส่องลงมาเป็นลำแสงสีเงินอ่อนๆ ที่ตัดกับความมืดมิดของกระท่อม ทำให้ทุกอย่างดูเหมือนฉากในฝันร้ายที่ทั้งเงียบสงบและน่าสะพรึงกลัวในเวลาเดียวกันธนิดานั่งพิงกำแพงไม้ที่เย็นชืด ขาของเธอเกิดอาการชาจากการวิ่งหนีเมื่อครู่ เสื้อแจ็กเก็ตสีเทาของเธอเปียกชุ่มและเต็มไปด้วยโคลน ปืนพกในมือของเธอยังคงกำแน่น เธอหายใจถี่และมองไปที่นาวินที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เขาพิงกองไม้เก่าที่วางซ้อนกันอย่างไม่เป็นระเบียบ แขนซ้ายที่บาดเจ็บของเขาถูกพันผ้าใหม่จากชายเสื้อของเธอ เลือดหยุดไหลแล้ว แต่ใบหน้าของเขายังคงซีดจากความเจ็บปวดและความเหนื่อยล้า ดวงตาคู่คมของเขามองไปที่พื้นราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างทั้งคู่เงียบไปนานหลังจากได้ยินเสียงฝีเท้าที่ดังขึ้นจากด้านนอกเมื่อครู่ โชคดีที่มันจางหายไปในหมอก และไม่ม

  • สัญญาใจใต้รัตติกาล   บทที่ 10

    หมอกหนาที่ยามค่ำคืนลอยตัวต่ำปกคลุมป่าที่เงียบสงัด ราวกับผ้าคลุมสีขาวที่ซ่อนอันตรายไว้เบื้องล่าง ต้นไม้สูงใหญ่ยื่นกิ่งก้านออกมาทับซ้อนกันจนแทบมองไม่เห็นท้องฟ้า มีเพียงแสงจันทร์ที่เล็ดลอดผ่านช่องว่างของใบไม้เท่านั้นที่ส่องสว่างลงมาเป็นลำแสงสลัวๆ เสียงลมพัดผ่านใบไม้ดังเป็นเสียงกระซิบที่เย็นเยือก ผสมกับกลิ่นดินเปียกและความชื้นที่ลอยอยู่ในอากาศ ค่ำคืนนี้ควรจะเงียบสงบ แต่สำหรับนาวินและธนิดา มันคือค่ำคืนแห่งการหนีตายทั้งคู่ยืนอยู่ที่ลานจอดรถหน้าคฤหาสน์ รถยนต์สีดำที่ภูมิขับมาจอดรออยู่ไม่ไกล นาวินมองไปที่ภูมิด้วยสายตาที่เย็นชาและเต็มไปด้วยความสงสัย ขณะที่ธนิดายืนอยู่ข้างเขา มือของเธอกำปืนพกแน่น เธอเพิ่งบอกเขาว่าเธอได้ยินภูมิคุยโทรศัพท์ และโกดังยาที่ถูกระเบิดเมื่อครู่ยิ่งทำให้ความสงสัยของนาวินถึงจุดแตกหัก“ขึ้นรถ” นาวินสั่งภูมิสั้นๆ “นายขับ”ภูมิพยักหน้ารับและเดินไปที่รถ แต่ก่อนที่เขาจะได้เปิดประตู เสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นเบาๆ เขารีบหยิบมันออกจากกระเป๋าและกดปิดทันที แต่สายตาของนาวินจับจ้องไปที่การเคลื่อนไหวของเขา“ใครโทรมา?”

  • สัญญาใจใต้รัตติกาล   บทที่ 9

    แสงไฟจากโคมระย้าสีทองแดงในห้องประชุมลับของคฤหาสน์ส่องสว่างลงมาบนโต๊ะไม้ยาวที่ตั้งอยู่กลางห้อง บรรยากาศในห้องนี้หนักอึ้งและเต็มไปด้วยความตึงเครียด ผนังที่บุด้วยไม้สีเข้มและตู้เหล็กที่ล็อกแน่นหนาทำให้ห้องนี้ดูเหมือนป้อมปราการมากกว่าห้องประชุม กลิ่นบุหรี่จางๆ ลอยอยู่ในอากาศ ผสมกับกลิ่นเหงื่อและความกังวลจากคนที่อยู่ในห้อง นาวินนั่งอยู่ที่หัวโต๊ะ สวมเสื้อเชิ้ตสีดำที่ม้วนแขนขึ้นถึงข้อศอก แผลที่แขนซ้ายของเขาถูกพันผ้าไว้อย่างเรียบร้อยจากฝีมือของธนิดาเมื่อคืนนี้ ดวงตาคู่คมของเขาจ้องมองไปยังลูกน้องสี่คนที่นั่งอยู่รอบโต๊ะด้วยสายตาที่เย็นชาและพิจารณาธนิดายืนอยู่มุมหนึ่งของห้อง เธอสวมเสื้อแจ็กเก็ตสีเทาที่เปื้อนโคลนจากเหตุการณ์เมื่อคืน ปืนพกที่เหน็บไว้ที่เอวของเธอทำให้เธอรู้สึกถึงน้ำหนักของสถานการณ์ที่เธอกำลังเผชิญอยู่ เธอถูกนาวินเรียกตัวมาร่วมประชุมนี้หลังจากที่พวกเขากลับมาถึงคฤหาสน์ตอนเช้ามืด โดยมีภูมิพาเธอกับนาวินกลับมาด้วยรถของเขาเธอยังจำท่าทางแปลกๆ ของภูมิได้ดี การที่เขามองไปรอบๆ ด้วยความตื่นตระหนกเกินเหตุ และน้ำเสียงที่สั่นเล็กน้อยเมื่อเขาคุยกับนาวิน เธอพยายามขจัดความสงสัยนั

  • สัญญาใจใต้รัตติกาล   บทที่ 8

    สายฝนที่ตกลงมาอย่างหนักเมื่อครู่เริ่มซาลง เหลือเพียงละอองฝนบางๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศและหยดลงจากรอยรั่วบนหลังคาโกดังร้าง เสียงน้ำหยดกระทบพื้นคอนกรีตดังเป็นจังหวะเบาๆ ผสมกับเสียงลมที่พัดผ่านช่องว่างของกำแพงไม้เก่าๆ ที่ผุพัง แสงจันทร์สีเงินลอดผ่านรอยแตกของหลังคาและหน้าต่างที่แตกออก สาดส่องลงมาบนพื้นโกดังเป็นลำแสงสลัวๆ ทำให้ภายในโกดังดูเหมือนฉากในฝันที่ทั้งเงียบสงบและน่าขนลุกในเวลาเดียวกันธนิดานั่งพิงกองกล่องไม้ที่เต็มไปด้วยฝุ่น เธอหายใจถี่จากความเหนื่อยล้าที่สะสมมาจากการโจมตีเมื่อครู่ เสื้อแจ็กเก็ตสีเทาของเธอเปียกชุ่มและมีรอยขาดที่ไหล่จากการคลานออกจากรถที่คว่ำ ปืนพกในมือของเธอวางนิ่งอยู่บนตัก เธอมองไปที่มันด้วยสายตาที่ว่างเปล่า ยังไม่เชื่อตัวเองเลยว่าเธอเพิ่งผ่านการไล่ล่าที่เกือบฆ่าเธอมาได้นาวินนั่งอยู่ไม่ไกลจากเธอ เขาพิงกำแพงโกดังด้วยท่าทีที่ดูเหนื่อยล้า ปืนกลสั้นของเขาวางอยู่ข้างตัว เขายกมือขึ้นเช็ดหน้าผากที่เปื้อนเลือดจากรอยขีดข่วน แต่ทันใดนั้น เขาก็สะดุ้งเล็กน้อยและกุมแขนซ้ายของตัวเองแน่น ธนิดาสังเกตเห็นสีหน้าที่บิดเบี้ยวของเขา และเมื่อแสงจันทร์ส่องลงมาที่แขนของเขา เธอ

  • สัญญาใจใต้รัตติกาล   บทที่ 7

    ฝนตกหนักราวกับฟ้าจะถล่มลงมาในค่ำคืนนั้น เสียงหยดน้ำกระทบหลังคารถยนต์สีดำคันใหญ่ดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ขณะที่มันเคลื่อนตัวผ่านถนนเปลี่ยวยามค่ำที่ทอดยาวไปท่ามกลางความมืดมิด ถนนสายนี้ตัดผ่านป่าที่ยังคงเขียวขจีแม้ในฤดูฝน ต้นไม้สูงใหญ่ยื่นกิ่งก้านออกมาบดบังแสงจากดวงจันทร์จนแทบมองไม่เห็นอะไรนอกจากเส้นทางที่ถูกสาดส่องด้วยไฟหน้ารถ ละอองฝนที่พัดมากระทบกระจกหน้าทำให้ทัศนวิสัยเลวร้ายลงทุกขณะ แต่คนขับรถลูกน้องของนาวินที่ชื่อว่า เอก ยังคงเหยียบคันเร่งต่อไปด้วยความนิ่งเงียบธนิดานั่งอยู่ที่เบาะหลังข้างนาวิน เธอสวมเสื้อแจ็กเก็ตสีเทาที่เขาให้ยืมมาเพื่อกันฝน ผมสีน้ำตาลเข้มของเธอเปียกชื้นเล็กน้อยจากตอนที่เธอขึ้นรถ ปืนพกที่เขาให้เธอเมื่อวานถูกเหน็บไว้ที่เอวใต้เสื้อของเธอ มือของเธอวางนิ่งบนตัก แต่หัวใจของเธอเต้นรัวตั้งแต่เขาบอกเธอว่าเขาจะพาเธอไปตรวจโกดังแห่งหนึ่งที่อยู่นอกเมือง เธอไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไรจากเธอในภารกิจนี้ แต่หลังจากเหตุการณ์การฆ่ามณีต่อหน้าต่อตาในห้องใต้ดินเมื่อวาน เธอรู้สึกว่าเขากำลังทดสอบเธอในแบบที่เธอไม่อาจคาดเดาได้นาวินนั่งนิ่งอยู่ข้างเธอ เขาสวมเสื้อโค

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status