Chapter: ตอนที่ 2 ร่างใหม่ โลกเก่าหลินซือหยูรู้สึกถึงอาการปวดตุบ ๆ ที่ขมับขณะลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆ แสงแดดอ่อน ๆ ลอดผ่านช่องหน้าต่างไม้เก่า ๆ สาดลงมาบนใบหน้าของเธอ อากาศรอบตัวเต็มไปด้วยกลิ่นสมุนไพรปนดินและกลิ่นไม้ไหม้จาง ๆ ที่ทำให้เธอสะดุ้งตื่น เธอขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ร่างกายหนักอึ้งราวกับแบกก้อนหิน เธอมองลงไปที่มือของตัวเอง และสิ่งที่เห็นทำให้หัวใจของเธอหยุดเต้นไปชั่วขณะ“นี่มัน... มือของใครเนี่ย!?” เธออุทานออกมาเสียงดัง และนั่นก็ทำให้เธอได้ยินเสียงพูดที่หลุดออกมาจากปากของเธอว่ามันไม่ใช่เสียงของตัวเอง เพราะน้ำเสียงนี้มันค่อนข้างบาง อ่อนหวาน และมีสำเนียงแปลก ๆ ที่เธอไม่เคยได้ยินจากตัวเองมาก่อนมือคู่นี้ที่เธอเห็นมันเรียวเล็ก ผิวก็ขาวเนียนเกินกว่ามือของเธอที่เคยหยาบกร้านจากการจดเลคเชอร์และพิมพ์งาน เธอพลิกฝ่ามือดู มีรอยแผลบาง ๆ ที่ข้อมือซ้าย ซึ่งเธอแน่ใจว่าเธอไม่เคยมีรอยนี้ในชีวิตจริง เธอลองกดที่แผลนั้นดูเบา ๆ ก็เกิดความรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาในทันที“นี่ไม่ใช่ฝันแน่ ๆ” เธอพึมพำขณะที่สมองเริ่มตื่นตัวเต็มที่เธอหันมองไปรอบห้อง ห้องนอนที่เธอนอนอยู่นั้นเป็นห้องไม้เก่า ๆ เหมือนกับที่เธอเคยเห็นในละครย้อนยุค เตียงที่เธอนั่งอยู่ปูด้วย
Last Updated: 2025-03-21
Chapter: ตอนที่ 1 จี้หยกแห่งโชคชะตาหลินซือหยู...เสียงกระซิบแผ่วเบาเรียกหลินซือหยูให้ตื่นขึ้นจากภวังค์ เธอรู้สึกถึงความหนักอึ้งในทรวงอกราวกับมีก้อนหินก้อนใหญ่กดทับอยู่ เสียงลมหวีดหวิวที่ข้างหูค่อย ๆ จางลง เหลือเพียงความเงียบที่ปกคลุมความรู้สึกของเธอเอาไว้ เธอพยายามลืมตา แต่เปลือกตาของเธอดูเหมือนจะไม่ยอมทำตามคำสั่งนั้น มันเปิดยากราวกับถูกเย็บติดกันเอาไว้ความทรงจำสุดท้ายในหัวของเธอคือมีเสียงร้องเรียกชื่อเธอในขณะที่เธอกำลังเดินตามหลี่เสี่ยวไป เธอจึงหันกลับไปมอง ก่อนจะพบว่ามีแสงสีเขียวสว่างวาบขึ้นจากตู้จัดแสดงที่มีจี้หยกสีเขียววางอยู่ในนั้น เธอจึงรีบวิ่งกลับไปดูนั่นเป็นภาพสุดท้ายที่เธอได้เห็น...‘แสงสีเขียวจากจี้หยกในพิพิธภัณฑ์ กระจกของตู้จัดแสดงต่าง ๆ แตกกระจายเต็มพื้น วัตถุโบราณล้มระเนระนาดไปหมด’แล้วทุกอย่างก็มืดสนิท...แม้จะพบความยากลำบากในการลืมตาตื่น แต่ก็ไร้ซึ่งความตื่นตระหนก เธอฝืนสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด อากาศเย็นชื้นปนกลิ่นฝนซึมเข้าไปในจมูก เธอขยับนิ้วช้า ๆ สัมผัสได้ถึงความเย็นเยียบจากบางสิ่งในมือฉันยังไม่ตาย... ใช่ไหม...เธอพึมพำในใจ เสียงในหัวของเธอสั่นเทาตามความรู้สึกหนาวเย็นในเวลานี้ เธอฝืนลืมตาขึ้นอีกครั้ง
Last Updated: 2025-03-21
Chapter: บทนำ : รอยร้าวแห่งกาลเวลาซู่ๆๆสายฝนโปรยลงมาอย่างไม่ขาดสายตั้งแต่ช่วงเช้ามืด มันช่างน่าแปลก ปกติแล้วช่วงฤดูร้อนแบบนี้มักไม่ค่อยมีฝนตกลงมาสักเท่าไหร่ แต่ปีนี้สภาพอากาศดูแปรปรวนกว่าที่ผ่าน ๆ มา ท้องฟ้าทั้งผืนเป็นสีเทาหม่นขมุกขมัวเหนือเมืองหลวงในวันนี้ดูราวกับเป็นผ้าม่านที่กำลังปิดบังบางสิ่งเอาไว้เป็นวันที่ไม่สดใสเอาเสียเลย...หลินซือหยูคิดพลางยืนนิ่งอยู่หน้าตึกสูงของมหาวิทยาลัย เธอเปียกฝนเล็กน้อย มือกำโทรศัพท์แน่นจนข้อนิ้วซีด เพราะเธอเพิ่งได้รับข้อความจากอาจารย์ที่ปรึกษามาหมาด ๆถ้าคุณยังส่งงานวิจัยไม่ทันภายในสิ้นเดือนนี้ ผมจะตัดคุณออกจากรายชื่อนักศึกษา ผมยืดเวลามาให้คุณมากเกินไปแล้วคำขู่ที่แสนเย็นชานั้นทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงด้วยความกลัว เธอสูดหายใจเข้าลึกเพื่อเรียกสติ อากาศชื้น ๆ จากฝนไหลซึมเข้าเต็มปอด แต่ไม่ช่วยให้เธอรู้สึกดีขึ้นเลยสักนิด ยิ่งเจอสภาพอากาศแบบนี้ยิ่งทำให้เธอรู้สึกดิ่งไปกันใหญ่“ทำไมชีวิตฉันถึงได้ยุ่งเหยิงขนาดนี้เนี่ย!!” ซือหยูพึมพำกับตัวเอง น้ำตาคลอหน่วยที่ดวงตาทั้งสองข้างเธอในวัยยี่สิบห้าปีไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองมีค่าเลยสักครั้ง ครอบครัวก็แตกแยก เพื่อนก็มีน้อย แถมการเรียนก็ดันกลายเป็นโซ่ตรวน
Last Updated: 2025-03-21
Chapter: บทที่ 12โกดังร้างที่ตั้งอยู่นอกเมืองนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดและควันปืนที่ลอยคละคลุ้งในอากาศ ผนังเหล็กที่เต็มไปด้วยสนิมและรอยกระสุนเก่าๆ ล้อมรอบสถานที่แห่งนี้ราวกับกำแพงของนรก ศพของลูกน้องเงาจันทราและเสือดาวกระจัดกระจายอยู่บนพื้นคอนกรีตที่เปื้อนเลือด บางศพมีบาดแผลถูกยิง บางศพถูกมีดแทงจนล้มตายในท่าที่น่าสยดสยอง กล่องไม้ที่เคยใช้เก็บยาเสพติดถูกระเบิดจนแตกกระจาย เศษไม้และฝุ่นลอยฟุ้งไปทั่ว แสงจากโคมไฟเก่าที่ห้อยลงมาจากเพดานกระพริบเป็นระยะๆ สร้างเงามืดที่เคลื่อนไหวไปมาบนพื้นราวกับวิญญาณของคนตายยังคงวนเวียนอยู่นาวินยืนอยู่กลางโกดัง มีดสั้นในมือขวาของเขาชุ่มไปด้วยเลือด แขนซ้ายที่บาดเจ็บของเขาห้อยลงอย่างไม่มีแรง เสื้อเชิ้ตสีดำของเขาขาดวิ่นและเปื้อนเลือดทั้งของตัวเองและศัตรู ดวงตาคู่คมของเขายังคงลุกโชนด้วยไฟแห่งความโกรธ แม้ว่าร่างกายของเขาจะเริ่มถึงขีดจำกัดธนิดายืนอยู่ไม่ไกลจากเขา ปืนพกในมือของเธอกำแน่น เธอหายใจถี่จากความตื่นเต้นและความกลัว เสื้อแจ็กเก็ตสีเทาของเธอเปื้อนฝุ่นและเลือดจากการต่อสู้เมื่อครู่ เธอเพิ่งยิงลูกน้องของเสือดาวไปสองคนเพื่อปกป้องนาวิน และตอนนี้หัวใจของเธอเต้นรัว
Last Updated: 2025-03-28
Chapter: บทที่ 11กระท่อมร้างที่ซ่อนตัวอยู่ในป่ามืดนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นไม้เปียกและความชื้นที่ลอยอยู่ในอากาศ หลังคาที่ผุพังมีน้ำฝนหยดลงมาเป็นระยะๆ ตกลงกระทบพื้นดินที่แข็งกระด้าง เสียงหยดน้ำดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ผสมกับเสียงลมหวีดหวิวพัดผ่านช่องว่างของกำแพงไม้เก่าๆ ที่พังทลายบางส่วนแสงจันทร์ลอดผ่านรอยแตกของหลังคา สาดส่องลงมาเป็นลำแสงสีเงินอ่อนๆ ที่ตัดกับความมืดมิดของกระท่อม ทำให้ทุกอย่างดูเหมือนฉากในฝันร้ายที่ทั้งเงียบสงบและน่าสะพรึงกลัวในเวลาเดียวกันธนิดานั่งพิงกำแพงไม้ที่เย็นชืด ขาของเธอเกิดอาการชาจากการวิ่งหนีเมื่อครู่ เสื้อแจ็กเก็ตสีเทาของเธอเปียกชุ่มและเต็มไปด้วยโคลน ปืนพกในมือของเธอยังคงกำแน่น เธอหายใจถี่และมองไปที่นาวินที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เขาพิงกองไม้เก่าที่วางซ้อนกันอย่างไม่เป็นระเบียบ แขนซ้ายที่บาดเจ็บของเขาถูกพันผ้าใหม่จากชายเสื้อของเธอ เลือดหยุดไหลแล้ว แต่ใบหน้าของเขายังคงซีดจากความเจ็บปวดและความเหนื่อยล้า ดวงตาคู่คมของเขามองไปที่พื้นราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างทั้งคู่เงียบไปนานหลังจากได้ยินเสียงฝีเท้าที่ดังขึ้นจากด้านนอกเมื่อครู่ โชคดีที่มันจางหายไปในหมอก และไม่ม
Last Updated: 2025-03-27
Chapter: บทที่ 10หมอกหนาที่ยามค่ำคืนลอยตัวต่ำปกคลุมป่าที่เงียบสงัด ราวกับผ้าคลุมสีขาวที่ซ่อนอันตรายไว้เบื้องล่าง ต้นไม้สูงใหญ่ยื่นกิ่งก้านออกมาทับซ้อนกันจนแทบมองไม่เห็นท้องฟ้า มีเพียงแสงจันทร์ที่เล็ดลอดผ่านช่องว่างของใบไม้เท่านั้นที่ส่องสว่างลงมาเป็นลำแสงสลัวๆ เสียงลมพัดผ่านใบไม้ดังเป็นเสียงกระซิบที่เย็นเยือก ผสมกับกลิ่นดินเปียกและความชื้นที่ลอยอยู่ในอากาศ ค่ำคืนนี้ควรจะเงียบสงบ แต่สำหรับนาวินและธนิดา มันคือค่ำคืนแห่งการหนีตายทั้งคู่ยืนอยู่ที่ลานจอดรถหน้าคฤหาสน์ รถยนต์สีดำที่ภูมิขับมาจอดรออยู่ไม่ไกล นาวินมองไปที่ภูมิด้วยสายตาที่เย็นชาและเต็มไปด้วยความสงสัย ขณะที่ธนิดายืนอยู่ข้างเขา มือของเธอกำปืนพกแน่น เธอเพิ่งบอกเขาว่าเธอได้ยินภูมิคุยโทรศัพท์ และโกดังยาที่ถูกระเบิดเมื่อครู่ยิ่งทำให้ความสงสัยของนาวินถึงจุดแตกหัก“ขึ้นรถ” นาวินสั่งภูมิสั้นๆ “นายขับ”ภูมิพยักหน้ารับและเดินไปที่รถ แต่ก่อนที่เขาจะได้เปิดประตู เสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นเบาๆ เขารีบหยิบมันออกจากกระเป๋าและกดปิดทันที แต่สายตาของนาวินจับจ้องไปที่การเคลื่อนไหวของเขา“ใครโทรมา?”
Last Updated: 2025-03-26
Chapter: บทที่ 9แสงไฟจากโคมระย้าสีทองแดงในห้องประชุมลับของคฤหาสน์ส่องสว่างลงมาบนโต๊ะไม้ยาวที่ตั้งอยู่กลางห้อง บรรยากาศในห้องนี้หนักอึ้งและเต็มไปด้วยความตึงเครียด ผนังที่บุด้วยไม้สีเข้มและตู้เหล็กที่ล็อกแน่นหนาทำให้ห้องนี้ดูเหมือนป้อมปราการมากกว่าห้องประชุม กลิ่นบุหรี่จางๆ ลอยอยู่ในอากาศ ผสมกับกลิ่นเหงื่อและความกังวลจากคนที่อยู่ในห้อง นาวินนั่งอยู่ที่หัวโต๊ะ สวมเสื้อเชิ้ตสีดำที่ม้วนแขนขึ้นถึงข้อศอก แผลที่แขนซ้ายของเขาถูกพันผ้าไว้อย่างเรียบร้อยจากฝีมือของธนิดาเมื่อคืนนี้ ดวงตาคู่คมของเขาจ้องมองไปยังลูกน้องสี่คนที่นั่งอยู่รอบโต๊ะด้วยสายตาที่เย็นชาและพิจารณาธนิดายืนอยู่มุมหนึ่งของห้อง เธอสวมเสื้อแจ็กเก็ตสีเทาที่เปื้อนโคลนจากเหตุการณ์เมื่อคืน ปืนพกที่เหน็บไว้ที่เอวของเธอทำให้เธอรู้สึกถึงน้ำหนักของสถานการณ์ที่เธอกำลังเผชิญอยู่ เธอถูกนาวินเรียกตัวมาร่วมประชุมนี้หลังจากที่พวกเขากลับมาถึงคฤหาสน์ตอนเช้ามืด โดยมีภูมิพาเธอกับนาวินกลับมาด้วยรถของเขาเธอยังจำท่าทางแปลกๆ ของภูมิได้ดี การที่เขามองไปรอบๆ ด้วยความตื่นตระหนกเกินเหตุ และน้ำเสียงที่สั่นเล็กน้อยเมื่อเขาคุยกับนาวิน เธอพยายามขจัดความสงสัยนั
Last Updated: 2025-03-25
Chapter: บทที่ 8สายฝนที่ตกลงมาอย่างหนักเมื่อครู่เริ่มซาลง เหลือเพียงละอองฝนบางๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศและหยดลงจากรอยรั่วบนหลังคาโกดังร้าง เสียงน้ำหยดกระทบพื้นคอนกรีตดังเป็นจังหวะเบาๆ ผสมกับเสียงลมที่พัดผ่านช่องว่างของกำแพงไม้เก่าๆ ที่ผุพัง แสงจันทร์สีเงินลอดผ่านรอยแตกของหลังคาและหน้าต่างที่แตกออก สาดส่องลงมาบนพื้นโกดังเป็นลำแสงสลัวๆ ทำให้ภายในโกดังดูเหมือนฉากในฝันที่ทั้งเงียบสงบและน่าขนลุกในเวลาเดียวกันธนิดานั่งพิงกองกล่องไม้ที่เต็มไปด้วยฝุ่น เธอหายใจถี่จากความเหนื่อยล้าที่สะสมมาจากการโจมตีเมื่อครู่ เสื้อแจ็กเก็ตสีเทาของเธอเปียกชุ่มและมีรอยขาดที่ไหล่จากการคลานออกจากรถที่คว่ำ ปืนพกในมือของเธอวางนิ่งอยู่บนตัก เธอมองไปที่มันด้วยสายตาที่ว่างเปล่า ยังไม่เชื่อตัวเองเลยว่าเธอเพิ่งผ่านการไล่ล่าที่เกือบฆ่าเธอมาได้นาวินนั่งอยู่ไม่ไกลจากเธอ เขาพิงกำแพงโกดังด้วยท่าทีที่ดูเหนื่อยล้า ปืนกลสั้นของเขาวางอยู่ข้างตัว เขายกมือขึ้นเช็ดหน้าผากที่เปื้อนเลือดจากรอยขีดข่วน แต่ทันใดนั้น เขาก็สะดุ้งเล็กน้อยและกุมแขนซ้ายของตัวเองแน่น ธนิดาสังเกตเห็นสีหน้าที่บิดเบี้ยวของเขา และเมื่อแสงจันทร์ส่องลงมาที่แขนของเขา เธอ
Last Updated: 2025-03-24
Chapter: บทที่ 7ฝนตกหนักราวกับฟ้าจะถล่มลงมาในค่ำคืนนั้น เสียงหยดน้ำกระทบหลังคารถยนต์สีดำคันใหญ่ดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ขณะที่มันเคลื่อนตัวผ่านถนนเปลี่ยวยามค่ำที่ทอดยาวไปท่ามกลางความมืดมิด ถนนสายนี้ตัดผ่านป่าที่ยังคงเขียวขจีแม้ในฤดูฝน ต้นไม้สูงใหญ่ยื่นกิ่งก้านออกมาบดบังแสงจากดวงจันทร์จนแทบมองไม่เห็นอะไรนอกจากเส้นทางที่ถูกสาดส่องด้วยไฟหน้ารถ ละอองฝนที่พัดมากระทบกระจกหน้าทำให้ทัศนวิสัยเลวร้ายลงทุกขณะ แต่คนขับรถลูกน้องของนาวินที่ชื่อว่า เอก ยังคงเหยียบคันเร่งต่อไปด้วยความนิ่งเงียบธนิดานั่งอยู่ที่เบาะหลังข้างนาวิน เธอสวมเสื้อแจ็กเก็ตสีเทาที่เขาให้ยืมมาเพื่อกันฝน ผมสีน้ำตาลเข้มของเธอเปียกชื้นเล็กน้อยจากตอนที่เธอขึ้นรถ ปืนพกที่เขาให้เธอเมื่อวานถูกเหน็บไว้ที่เอวใต้เสื้อของเธอ มือของเธอวางนิ่งบนตัก แต่หัวใจของเธอเต้นรัวตั้งแต่เขาบอกเธอว่าเขาจะพาเธอไปตรวจโกดังแห่งหนึ่งที่อยู่นอกเมือง เธอไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไรจากเธอในภารกิจนี้ แต่หลังจากเหตุการณ์การฆ่ามณีต่อหน้าต่อตาในห้องใต้ดินเมื่อวาน เธอรู้สึกว่าเขากำลังทดสอบเธอในแบบที่เธอไม่อาจคาดเดาได้นาวินนั่งนิ่งอยู่ข้างเธอ เขาสวมเสื้อโค
Last Updated: 2025-03-23