เวินเหลียงมองฟู่ซือฝานที่อยู่ข้าง ๆ พลางเงียบไปสองสามวินาที “ไม่กินได้ไหม?”ฟู่ซือฝานส่ายศีรษะน้อย ๆ พลางกะพริบตา “ฝานฝานหิวแล้ว”เวินเหลียงทำได้เพียงบีบพุงน้อย ๆ แสนเจ้าเนื้อของเธอ แล้วลุกขึ้นออกไปจากสระออนเซ็นเธอใช้ผ้าเช็ดตัวเช็ดน้ำที่ตัวคร่าว ๆ ก่อน จากนั้นก็สวมชุดคลุมอาบน้ำทับและผูกเชือกจนแน่น เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเปิดประตูออกไปฟู่เจิงนั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก กำลังมองโน้ตบุ๊กตรงหน้าอย่างใจจดใจจ่อ เขาไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้น ราวกับกำลังทำงานอยู่เวินเหลียงเห็นขนมว่างอยู่บนโซฟา จึงเดินมาหยิบพร้อมลวดถามไปว่า “ไอแพดอยู่ไหน?”ฟู่เจิงยังคงมองหน้าจอ ไม่สนใจเธอเวินเหลียงขมวดคิ้ว พลางเดินหน้าไปยื่นมือปัด ๆ ตรงหน้าฟู่เจิง “สนใจหน่อย ฟู่เจิง ไอแพดล่ะ? ฝานฝานอยากเล่น”ฟู่เจิงเงยหน้าขึ้นมา “ไอแพดอยู่ในกระเป๋าเอกสารบนราวแขวนเสื้อฉัน”เมื่อเวินเหลียงเดินไปล้วงไอแพดออกมาจากกระเป๋าเอกสาร เธอก็ได้ยินเสียงของฟู่เจิงแว่วดังขึ้นมาจากเบื้องหลัง “ขอโทษนะครับ หลานสาวผมซนนิดหน่อย...”เธอเลิกคิ้วขึ้น พร้อมถือไอแพดเดินกลับไป แล้วเปรยถามขึ้นว่า “ฟู่เจิง คุณรู้จักพูดขอโทษฉันด้วยเหรอ นี่ไม่เ
ฟู่ซือฝานนั่งลงข้างสระ เท้าน้อย ๆ แช่อยู่ในสระ พลางกอดไอแพดดูการ์ตูน พร้อมกับกินของว่างที่วางอยู่ข้างมือไปด้วย ครึ้มอกครึ้มใจสุด ๆทั้งสองคนแช่ออนเซ็นมาครึ่งบ่าย ฟู่ซือฝานไม่อยากแช่ต่อแล้ว จึงเอาผ้าขนหนูมาห่อตัวแล้วเดินกอดไอแพดออกไปเลยเวินเหลียงยืนสองจิตสองใจอยู่ข้างสระเพิ่งแช่ออนเซ็นเสร็จ สบายไปหมดทั้งเนื้อทั้งตัว แต่เธอยังไม่อยากใส่เสื้อผ้าทว่าขืนเธอสวมชุดคลุมอาบน้ำออกไป ไม่แน่ว่าฟู่เจิงไอ้โรคจิตนั่นจะคิดหาวิธีมารวบรัดเธออีกท้ายที่สุดเวินเหลียงก็ยังตัดสินใจสวมใส่เสื้อผ้า ผลลัพธ์คือหลังออกไปถึงพบว่าฟู่เจิงไม่ได้อยู่ในห้องรับแขก ราวกับจะออกจากห้องไปแล้วเยี่ยมเลยเวินเหลียงโยนชุดคลุมอาบน้ำลงไปในตะกร้าผ้าสกปรก แม่บ้านของที่นี่จะเก็บไปซักและฆ่าเชื้อเองส่วนชุดว่ายน้ำ เวินเหลียงมองอย่างรังเกียจทีหนึ่ง ก่อนจะโยนลงถังขยะไปเลยเมื่อถึงเวลากินข้าว ฟู่เจิงกลับมาจากข้างนอก พร้อมถืออาหารค่ำสำหรับสามคนกลับมาด้วยเขาเห็นเวินเหลียงเปลี่ยนกลับไปใส่เสื้อผ้าของตัวเองแล้ว แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรทั้งสามคนก็นับว่ายังกินมื้อค่ำอย่างสนิทสนมกลมเกลียวกันฟู่ซือฝานเริ่มมีอาการง่วงนอนแล้วนิดหน่อย ห
เสียง ‘ตุ้บ’ ดังขึ้นเสียงหนึ่ง ราวกับโทรศัพท์ร่วงหล่นลงบนพื้น เสียงคนจากปลายสายเลือนรางฟังไม่ชัด อยู่ไกลจากโทรศัพท์มาก ๆเวินเหลียงขมวดคิ้วพลางเอ่ย “เมิ่งเซ่อ นายอยู่ไหน?”เสียงกึกกักแว่วดังขึ้นมา ผ่านไปนานสองนานแล้วก็ไม่มีคนตอบกลับ“เมิ่งเซ่อ?”น้ำเสียงของเมิ่งเซ่อฟังดูเหมือนอกจะแตกให้ได้แล้ว ลุกลี้ลุกลนประหม่าเป็นอย่างมาก พูดจาสะเปะสะปะ “...พี่ครับ...พี่ครับ...ผม...ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ผม...”น้ำเสียงของเขาแผ่วเบาราวกับไร้เรี่ยวแรง กระทั่งสั่นเครืออยู่หน่อย ๆ พร้อมสะอึกสะอื้นในเงาเบื้องหลังยังแฝงมาด้วยเสียงร้องไห้ของหญิงสาวอยู่เลือนรางในใจของเวินเหลียงรู้อยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับเมิ่งเซ่อเธอเอ่ยขึ้นอย่างใจเย็นว่า “เมิ่งเซ่อ นายเป็นลูกผู้ชายอกสามศอก เวลาเจอเรื่องอะไรเข้าอย่าเพิ่งลุกลี้ลุกลน ใจเย็น ๆ ก่อนนะ”“ตอนนี้นายใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย ดูเครื่องหมายข้าง ๆ โทรศัพท์ภายในที่อยู่หัวเตียง ข้างบนมีเลขห้องอยู่ แล้วบอกฉันมา”ผ่านไปสองสามวินาที เมิ่งเซ่อก็ตอบมาว่า “0305”“โอเค ฉันจะไปเดี๋ยวนี้ นายใจเย็น ๆ ก่อนนะ คิดดี ๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”ห้องของพนักงานบริษัทที่มา
ฉะนั้นจึงไม่มีใครรู้เรื่องที่เมิ่งเซ่อไม่ได้กลับมาทั้งคืน?เวินเหลียงนั่งลงบนโซฟา ก่อนจะเงยหน้ามองเมิ่งเซ่อสีหน้าเขาเต็มไปด้วยความกังวล มือทั้งสองกำชายเสื้อไว้แน่น กระสับกระส่าย “พี่ครับ พี่จะเชื่อผมจริง ๆ ใช่ไหม...”“ไม่ต้องร้อนใจไป นายนั่งลงก่อน แล้วนึกย้อนให้ดีว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้าง” เวินเหลียงเอ่ยเมิ่งเซ่อนั่งลงตรงหน้าเวินเหลียง พลางขมวดคิ้ว พยายามหวนนึกไปถึงเรื่องเมื่อคืนสุดกำลัง “เมื่อคืนผมดื่มไปเยอะ กลับมาได้ยังไงผมยังไม่รู้เลย...ทุกคนต่างกำลังดื่มเหล้าคารวะกัน ผมเองก็ดื่มไปสองสามแก้ว ไม่คิดว่าจะเมาขนาดนั้น...”“ความทรงจำสุดท้ายของนายหยุดอยู่ตอนไหน?”เมิ่งเซ่อหลับตาลง ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว “ผมเองก็จำไม่ค่อยได้ เหมือนว่าเพื่อร่วมงานจะดื่มเหล้าคารวะให้ผม...”เวินเหลียงเอ่ยถามขึ้น “นายรู้ตั้งแต่ก่อนเกิดเรื่องแล้วหรือว่าเปล่าว่าเซี่ยมู่อยู่ห้อง 0305?”เมิ่งเซ่อรีบส่ายหน้าราวกับสั่นป๋องแป๋ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างร้อนใจว่า “ไม่รู้ครับ! พี่ครับ ผมไม่รู้เรื่องจริง ๆ นะครับ พี่ต้องเชื่อผมนะครับ วันนั้นเธอไปเจอนักเลงสองสามคนเข้า ผมเข้าไปช่วยเธอเอาไว้ เธอเป็นลมไป ผมเลยพาเธอไปส่งท
เวินเหลียงชะงักไปครู่หนึ่ง “จริงเหรอ?”เมิ่งเซ่อไม่ได้ดื่มไปเท่าไร แล้วจะเดินเข้าไปผิดห้องได้ยังไง?“อืม ถ้าเธอไม่เชื่อก็ลองถามคนอื่นดูสิ”“งั้นพวกพี่เลิกดื่มกันแล้วกลับกี่โมง?”“เอ่อ...ฉันเองก็จำไม่ค่อยได้แล้ว ดื่มเยอะเกินไป กลับมาได้ยังไงยังไม่แน่ใจเลย”“โอเค ต่อไปก็ดื่มให้มันน้อย ๆ หน่อย มันไม่ดีต่อสุขภาพ”“นี่มันไม่มีทางเลือกนี่? อันที่จริง ผู้ชายดื่มในงานเลี้ยงก็เป็นเรื่องปกติ มนุษยสัมพันธ์นี่นา เธอไม่จำเป็นต้องไปคิดเล็กคิดน้อยกับเขาเพราะเรื่องนี้หรอก” ฟู่เซิงเอ่ย“โอเค ฉันรู้แล้ว ขอบคุณพี่สามด้วยที่พี่คอยดูแลเขา พี่พูดมาขนาดนี้แล้ว ฉันจะยังไปคิดเล็กคิดน้อยกับเขาได้ยังไง? เอาละ ฉันไม่รบกวนพี่แล้ว บ๊ายบาย”“บาย”หลังวางสาย เวินเหลียงก็มองหน้าจอโทรศัพท์พลางคิดไปเรื่อยเปื่อยเมิ่งเซ่อบอกว่าเขาดื่มจนเมา ไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้นฟู่เซิงบอกว่าเมิ่งเซ่อดื่มไปไม่เยอะแถมกล้องวงจรปิดก็ดันมาขัดข้องอีกนี่มันจะว่าบังเอิญก็บังเอิญไม่บังเอิญก็ไม่บังเอิญไม่ว่าความจริงจะเป็นยังไง เธอก็จะเชื่อเพียงเมิ่งเซ่อ เพราะเธอยังต้องการเขาทว่าเดินตามรอยความผิดฟู่เจิงอีกแล้ว เธอต้องทำเป็นเมิ
...เวินเหลียงไปซื้ออาหารเช้าสองชุดที่ร้านอาหาร จากนั้นก็มาเคาะประตูห้องเมิ่งเซ่อเมิ่งเซ่อเปิดประตูออกอย่างอดรนทนไม่ไหว ทั้งดีใจและทั้งกลัว “พี่ ในที่สุดพี่ก็กลับมาแล้ว”เวินเหลียงเดินเข้าไป “ฉันเดาว่าตอนนี้นายคงไม่มีกะจิตกะใจจะไปร้านอาหาร เลยช่วยซื้ออาหารเช้ามาให้นายชุดหนึ่ง”เธอวางอาหารเช้าไว้บนโต๊ะ “ฉันไปห้องควบคุมกล้องวงจรปิดมาแล้ว เรื่องที่มันบังเอิญก็คือ เมื่อคืนกล้องวงจรปิดของตึกหลักดันขัดข้องพอดี”เมิ่งเซ่ออธิบายอย่างลุกลี้ลุกลน “พี่ครับ ผมไม่รู้เรื่องเลยจริง ๆ ผมมีความสามารถจะไปพังกล้องวงจรปิดเสียที่ไหน...”“ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนี้ นายอย่าคิดมากไป ฉันถามฟู่เซิงมาแล้ว เขาบอกว่านายดื่มจนเมาจริง ๆ...ช่างเถอะ นายกินข้าวก่อน กินข้าวเสร็จก็สงบสติอารมณ์ให้ดี ฉันเองก็จะพิจารณาให้ละเอียด”พิจารณาอะไรให้ละเอียด?ต้องพิจารณาให้ละเอียดว่าจะคบกับเขาต่อไปไหมแน่ ๆเมิ่งเซ่อเป็นกังวลขึ้นมา “พี่ครับ ขอโทษนะครับ ๆ พี่อย่าเลิกกับผมเลยนะโอเคไหม ผมไม่อยากเลิกกับพี่จริง ๆ!”เขาสะบัดฝ่ามือลงบนหน้าของตัวเองอย่างแรงสองที “เป็นความผิดผมเอง ต้องโทษผม! ทำไมผมต้องดื่มมากขนาดนั้นด้วย! ผมสมควร
ชิ้นผ้าสองชิ้นเรียบ ๆ แขวนด้วยสายนั่น อยู่บนระเบียงกลางแจ้งดูสะดุดตาเป็นอย่างมากเวินเหลียงโกรธจนเลือดขึ้นหน้า ในความเขินอายและอิหลักอิเหลื่อ แฝงไปด้วยความเดือดดาลสองสามส่วน “ฟู่เจิง! คุณ...”“ฉันทำไม?” ฟู่เจิงมองตามสายตาของเธอไป นัยน์ตาประกายความหยอกล้อออกมาสายหนึ่ง แกล้งถามทั้งที่รู้อยู่แล้วเวินเหลียงขบกรามแน่น จ้องเขาเขม็งทีหนึ่ง ไม่อยากอาละวาดต่อหน้าฟู่ซือฝาน และไม่อยากทะเลาะกับเขาเพราะเรื่องนี้ เธอลุกไปที่ระเบียงแล้วเก็บชุดว่ายน้ำมาเลยเธอพับชุดว่ายน้ำอย่างรวดเร็ว กำลังจะยัดเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ทว่ามือใหญ่ของฟู่เจิงกลับคว้าข้อมือของเธอเอาไว้ แล้วชิงชุดว่ายน้ำในมือเธอมา “เธอทำอะไรน่ะ?”“คุณว่าฉันทำอะไรล่ะ?” เวินเหลียงสลัดข้อมือออก ก่อนจะยื่นมือไปชิงชุดว่ายน้ำฟู่เจิงยกแขนยาว ๆ ขึ้น เวินเหลียงเอื้อมสองสามครั้งแล้วก็ยังเอื้อมไม่ถึง เธอเดือดจนไม่ไหว เท้าสะเอวมองเขา “เอาชุดมาให้ฉันนะ!”“นี่มันของของฉัน ทำไมต้องให้เธอด้วย” ฟู่เจิงเอ่ยขึ้นอย่างมีเหตุผลเวินเหลียงมองเขาอย่างเหลือจะเชื่อ ไม่กล้าเชื่อเลยว่าเขาจะหน้าหนาไร้ยางอายขนาดนี้ “ของของคุณอะไรกัน? นั่นมันของของฉัน...”“เธอโ
ฟู่ซือฝานรีบวิ่งเหยาะเข้ามาหา เดินออกมาจากในห้องไปพลางถามขึ้นว่า “คุณลุงไปด้วยไหมคะ?”“เขาไม่ไป”“ไป”ทั้งสองคนเปล่งเสียงออกมาพร้อมกันฟู่ซือฝานถลึงตาโต นัยน์ตากลอกไปมา สายตามองสลับไปมาระหว่างเวินเหลียงกับฟู่เจิงสองที “งั้นตกลงคุณลุงจะไปหรือไม่ไปคะ?”เวินเหลียงกัดฟันมองฟู่เจิง ถลึงตาใส่เขาไปด้วยพลางตอบไปด้วย “ไม่ไป”มีพลังทำนองว่ามีเขาไม่มีฉัน มีฉันไม่มีเขาคุกรุ่นออกมาหน่อย ๆฟู่ซือฝานมองไปที่ฟู่เจิง พร้อมเอียงศีรษะน้อย ๆฟู่เจิงยิ้มอย่างจนใจ “ฝานฝาน ลุงไม่ไปดีกว่า เธอไปเที่ยวเล่นกับคุณป้าเถอะ”“โอเคค่ะ”เวินเหลียงเล่นเป็นเพื่อนฟู่ซือฝานอยู่ตลอดทั้งเช้า ตอนกินข้าวเที่ยงที่ร้านอาหาร ฟู่ซือฝานถามเธอว่า “คุณป้าคะ ตอนบ่ายเราจะกลับไปแล้ว คุณป้าจะกลับไปพร้อมเราไหมคะ?”เวินเหลียงชะงักไปครู่หนึ่งอันที่จริงเธอกำลังคิดจะให้ถังซือซือมารับเธอตอนบ่ายอยู่พอดีไหน ๆ ก็นัดกับเมิ่งเซ่อไว้แล้วว่าค่อยเจอกันในอีกสามวัน เธอเองก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องกลับไปพร้อมรถบัสเพียงแต่เธอไม่อยากอยู่กับเด็กประถมคนหนึ่งสุด ๆเวินเหลียงชำเลืองมองฟู่เจิงที่อยู่ข้าง ๆฟู่เจิงเองก็กำลังมองเธออยู่เช่นกัน นัย
อิเลียลุกขึ้นพรวด พลางมองเยี่ยนหวยอย่างเหลือเชื่อ“ถ้าเธอยังเห็นฉันเป็นพี่ชายของเธออยู่ ก็เชื่อฟังฉัน แล้วกลับไปเมืองฟิลาเดลเฟียพรุ่งนี้ซะ!” เยี่ยนหวยนั่งตัวตรงพลางเงยหน้ามองเธออยู่บนโซฟา“ฉันไม่กลับ!” อิเลียเดือดดาลจนแค่นเสียงฮึออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะกลับไปนั่งตรงมุมโซฟา “อยากกลับพี่ก็กลับไปเองซะเลยสิ!”“ฟู่เจิงไม่ใช่คนดี ต่อให้ระหว่างพวกเธอมีลูกด้วยกัน เขาก็ไม่มีทางคบกับเธอ”ก่อนหน้านี้ฟู่เจิงเคยมีเรื่องอื้อฉาวว่ามีชู้ ตอนนี้ก็มีอดีตภรรยาที่มีความสัมพันธ์คลุมเครือมาอีกคน ขอให้เป็นผู้ใหญ่ที่รักลูกสาว ก็จะไม่มีวันเลือกเขาทั้งนั้น“พี่รู้ได้ยังไงว่าเขาไม่ใช่คนดี? พี่รู้ได้ไงว่าเขาจะไม่คบกับฉัน? วันนี้ตอนเที่ยงเรายังไปกินข้าวด้วยกันอยู่เลย!”เมื่อเห็นอิเลียดื้อดึง ในใจของเยียนหวยก็รู้สึกไม่ได้ดั่งใจ เขาแสยะยิ้มออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “พวกเธอไม่ได้ไปกินข้าวด้วยกันตามลำพัง แต่ฟู่ซือฝานอยู่ข้าง ๆ ใช่ไหม?”ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ ฟู่เจิงจะมากินข้าวกับอิเลียตามลำพังได้ยังไง? นอกเสียจากเขาคิดจะเลิกกับเวินเหลียงจริง ๆ“...ใช่ ก็เขาเป็นลูกของพวกเรานี่” เมื่อเห็นว่าถูกเดาทางถูก อิเลียก็พูดอึ
แต่หลังจากเดินตามแผนแล้วถึงได้พบว่า นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยถ้าพ่อแม่คุณลุงคุณป้ารู้ว่าเธอมีลูกนอกสมรสข้างนอก ต้องเข้ามาแทรก และไม่แน่ว่าจะพาตัวเธอกับลูกกลับไป“อิเลีย ผมเข้าใจนะครับคุณในฐานะแม่แท้ ๆ คุณอยากรีบกระชับความสัมพันธ์กับฝานฝาน แต่ก็อย่าตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก โดยเฉพาะมักจะไปหาฝานฝานที่โรงเรียนอนุบาล แบบนี้จะส่งผลกระทบกับชีวิตของเธอได้นะครับ”“ฉันรู้แล้วค่ะ ต่อไปจะไม่ไปหาเขาที่โรงเรียนอนุบาลอีก ฉันเห็นว่าคุณกินน้อยมาก อาหารที่เหลือไม่ถูกปากหรือเปล่า?”ฟู่เจิง “...ก่อนมาผมกินมาบ้างแล้ว”หลังกินข้าวเที่ยงเสร็จ ฟู่ซือฝานรบเร้าขอกลับกับฟู่เจิงเธอล้วงกลยุทธ์ร้องไห้งอแงชักดิ้นชักงออยู่ที่พื้นของเด็กห้าขวบออกมาอย่างล้ำลึก ไม่มีเหตุผล ทว่าอิเลียฝืนเธอไม่ได้อิเลียทำได้เพียงกลับไปที่บ้านของเซี่ยเจิน“อิเลีย เธอกลับมาแล้วเหรอ?”เมื่อเห็นอลิซนั่งอยู่บนโซฟา อิเลียเดินมานั่งลง “เป็นยังไงบ้าง? ครั้งนี้เธอไปเมืองซีกับซีซาร์ ได้แสร้งทำเป็นเจอโดยบังเอิญ แล้วไปกินข้าวกับเขาอะไรหรือเปล่า?”อลิซเบะปาก “เปล่า”“ทำไมล่ะ? โอกาสดีขนาดนั้นทำไมเธอไม่คว้าเอาไว้?”“เขางานยุ่งมาก ฉันกล
อิเลียจัดผมด้วยท่าทางราวกับไม่มีเจตนาอื่น หน้าตาเผยความตื่นเต้นออกมาดูท่าเธอจะเลือกวิธีถูกจริง ๆในตอนนี้เธอเพิ่งเข้าใกล้ฟู่ซือฝานไม่เท่าไร ท่าทีของฟู่เจิงเขาก็ผ่อนคลายลงเยอะแล้วผ่านไปยี่สิบนาที ฟู่เจิงก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องรับรองนี่เป็นการเจอกันครั้งที่สองหลังจากวันนั้นเขานั่งลงข้าง ๆ ฟู่ซือฝาน พลางพยักหน้าให้อิเลียเบา ๆ “รบกวนแล้ว ไม่ถือสาที่ผมมาร่วมโต๊ะด้วยใช่ไหม?”“ไม่ถือสา นั่งเถอะค่ะ”สีหน้าของอิเลียเย็นชา ราวกับยังอยู่ต่อหน้าคุณหญิงและฟู่ชิงเยว่ครั้งก่อน เธอไม่ได้โกรธที่ฟู่เจิงปฏิเสธเธออย่างไร้ความปรานี“งานผมยุ่งมาก ยากที่จะใส่ใจคุณกับฝานฝานได้มากขนาดนั้น”“ฝานฝานเป็นลูกของฉัน นี่เป็นสิ่งที่สมควรอยู่แล้ว ฉันไม่รู้ว่าคุณจะมา ก็เลยสั่งอาหารไปสุ่ม ๆ เดี๋ยวอาหารมาเสิร์ฟคุณก็ดูแล้วกันว่าอยากจะสั่งเพิ่มไหม”“ผมไม่เลือกกิน” ฟู่เจิงตอบจากนั้นพนักงานก็เริ่มมาเสิร์ฟอาหารฟู่เจิงมองเนื้อแพะที่มาเสิร์ฟเต็มโต๊ะ เขาเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก้มหน้าไปมองฟู่ซือฝานฟู่ซือฝานก้มศีรษะน้อย ๆ อย่างกระวนกระวายอิเลียหยิบตะเกียบขึ้นมา “ไม่ต้องเกรงใจ กินเลยค่ะ”ฟู่เจิงลังเลอยู่ครู่หนึ่
เจียงเฉิงเที่ยงวันศุกร์ อิเลียไปรับฟู่ซือฝานออกไปกินข้าวเที่ยงที่คฤหาสน์ย่านซิงเหอวานเธอฉีกยิ้มพลางพูดกับฟู่ซือฝานว่า “เมื่อวานแม่ว่าจะไปรับหนูที่โรงเรียนอนุบาล จู่ ๆ ก็นึกถึงคำพูดของหนูเมื่อครั้งก่อนได้ ก็เลยมาวันนี้ วันนี้ตอนบ่ายแม่จะพาหนูไปเล่นดี ๆ เป็นยังไงจ๊ะ?”ฟู่ซือฝานเอียงคอพลางครุ่นคิด “ตอนบ่ายหนูต้องทำการบ้าน แค่กินข้าวเที่ยงก็พอแล้วค่ะ”“ก็ได้ งั้นหนูคิดไว้หรือเปล่าว่าอยากกินอะไร?”“ไปร้านอาหารที่มีเมนูเนื้อแพะแนะนำแล้วกันค่ะ” ฟู่ซือฝานเอ่ยขึ้นด้วยทีท่าจริงจัง “วันนี้คุณลุงบอกว่าจะไปกินข้าวเที่ยงเป็นเพื่อนหนู ไม่รู้ว่าจะมาไหม”นัยน์ตาอิเลียวาบความปลื้มปีติออกมา “จริงเหรอ?”“เขาเคยบอกไว้แบบนี้ค่ะ คุณน้าคะ ที่คุณน้ารับหนูออกมา ไม่ใช่เป็นเพราะอยากกระชับความสัมพันธ์กับหนูสองต่อสองเหรอคะ? ทำไมถึงหวังให้คุณลุงมาด้วยล่ะคะ?”เจ้าตัวน้อยเอ่ยถามขึ้นด้วยใบหน้าจริงจัง“น้า...น้ามีเรื่องอยากพูดคุยกับพ่อของหนูน่ะ แล้วก็หวังว่าเราจะได้กินข้าวด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว” อิเลียรีบหาข้ออ้างทันทีเจ้าเด็กคนนี้ หูตาเฉียบแหลมจริง ๆ“อ้อ”“น้าจะหาร้านอาหารเนื้อแพะเดี๋ยวน
“เรียกฉันทำไม?” เยี่ยนหวยมองเธอด้วยสีหน้าไร้เดียงสา“ตอนนี้มันฤดูร้อน”ผ่านฤดูใบไม้ผลิมาแล้ว“ฉันแค่นึกถึงวันนั้นที่ไปติวให้เธอแล้วเจอแม่เธอเข้าโดยบังเอิญ เธอคิดไปถึงไหน?” เยี่ยนหวยเลิกคิ้วถังซือซือชะงักไปมีครั้งหนึ่งตอนที่เธอติวอยู่ในบ้าน แล้วบังเอิญเจอแม่ของเธอเข้าจริง ๆ แต่นั่นมันเรื่องตอนเทอมที่สองเยี่ยนหวยต้องจงใจพูดถึงวันนั้นตอนเทอมแรกแน่ ๆ ให้เธอเข้าใจผิดถ้าเธอชี้ไปเลยว่าเยี่ยนหวยจำผิด ก็จะเข้าแผนของเยี่ยนหวย เหมือนว่าเธอยังไม่เคยลืมเรื่องในอดีต คิดถึงเรื่องราวเหล่านั้นของเธอกับเยี่ยนหวยอยู่ตลอด“ตอนนี้ไม่ใช่ฤดูร้อนเหรอ? นายคิดไปถึงไหนอีก?” เธอปัดตกเรื่องนี้ไปอย่างมั่นใจทันทีหลังพูดจบ เธอก็หมุนตัวเดินไปด้านหน้าต่อ “ไม่พูดแล้ว รีบไปร้านถัดไปเถอะ”อยู่ข้างนอกจนถึงสี่ทุ่ม ทั้งสองคนถึงกลับไปยังโรงแรมด้วยกันถังซือซืออยากเรียกรถกลับไปเอง ไม่อยากให้เยี่ยนหวยไปส่งเธอเยี่ยนหวยจึงเอ่ยไปตามตรงว่า “ฉันพักอยู่ที่โรงแรมเดียวกันกับเธอ”ถังซือซือ “...”นี่ไม่ใช่ครั้งแรกแล้วคราวก่อนตอนที่เวินเหลียงถ่ายรูปเยี่ยนหวยรูปแรกที่เมืองฟิลาเดลเฟีย เวินเหลียงก็ถามว่าช่วงนี้เยี่ยนหวย
เมืองซีในฐานะเมืองใหญ่ของเจียงหนาน ประเภทของกินเล่นมีมากมาย ของกินเอกลักษณ์ที่ขึ้นชื่อไปทั่วประเทศอาทิ เต้าหู้เหม็น ไส้กรอกยักษ์ เส้นหมีเฝิ่น กุ้งเผ็ดเป็นต้นถังซือซือเคยมาเมืองซีตอนมาทำงานต่างถิ่นก่อนหน้านี้ เวลาค่อนข้างกระชั้นชิด จึงทำได้เพียงเดินช็อปปิงที่อื่น แต่เพิ่งเคยมาถนนคนเดินที่นี่เป็นครั้งแรกเธอซื้อไส้กรอกยักษ์สองชิ้นก่อน และแบ่งให้เยี่ยนหวยหนึ่งชิ้นกินไปได้เพียงครึ่งเดียว ถังซือซือก็หยุดอยู่ตรงหน้าร้านขายขนมฉือปา เธอกลืนน้ำลายแล้วถามขึ้นว่า “รู้ไหมคะว่าตรงไหนมีถังขยะบ้าง?”“ที่เหลือเธอไม่กินแล้วเหรอ?”“อืม”“ไม่อร่อย?”“ไม่ใช่ อร่อยมาก แต่ว่ายังมีของอร่อยอื่น ๆ อีกเยอะแยะ ฉันอยากเก็บท้องเอาไว้”เยี่ยนหวย “...”“เอามาให้ฉันก็ได้” เยี่ยนหวยรับไส้กรอกครึ่งชิ้นที่เหลืออยู่มาจากในมือของเธอ ก่อนจะเติมเข้าไปในท้องอย่างไม่มีภาระใด ๆถังซือซือซื้อขนมฉือปาแล้วเธอทำตัวอย่างกับโจร แต่ละร้านไม่ยอมปล่อยไปเลย ทว่าก็ชิมเพียงสองสามคำ ทั้งหมดที่เหลือก็โยนให้เยี่ยนหวยอย่างสบายใจเยี่ยนหวยเพลิดเพลินกับพฤติกรรมพรรค์นี้ ในใจเข้าใจได้ในทันที ราวกับกลับไปเมื่อเจ็ดปีก่อนหลังเรียนอย
“มันเรื่องอะไรกันแน่?”ก่อนหน้านี้ที่เยี่ยนหวยอยู่ที่เจียงเฉิง กลับไม่ได้สังเกตเท่าไรว่าอิเลียกำลังทำอะไรอยู่ เธอออกไปข้างนอกทุกวัน เยี่ยนหวยคิดเพียงแค่ว่าเธอกำลังไปเที่ยวเล่นถังซือซือไม่ใช่คนที่จะกุเรื่องมั่วซั่ว เธอพูดแบบนี้ ต้องรู้อะไรบางอย่างแน่ ๆ“พูดไปแล้วก็ยาว ตอนแรกฟู่ชิงเยว่อาของฟู่เจิงรับเลี้ยงเด็กกำพร้าอยู่ที่เมืองนอก ตอนนี้อายุห้าขวบแล้ว ปีที่แล้วอาเหลียงแท้ง แล้วฟู่ชิงเยว่ติดธุระพอดี เลยส่งเด็กคนนั้นกลับประเทศมาให้ฟู่เจิงดูแลช่วงหนึ่ง ฟู่เจิงเลยให้เด็กคนนั้นอยู่ในประเทศไปเลยเพื่อง้ออาเหลียง ปกติจะมาอยู่เป็นเพื่อนอาเหลียง และเด็กคนนั้นเองก็เข้าไปอยู่ในทะเบียนบ้านของฟู่เจิง แต่ว่า...”เยี่ยนหวยเดาเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไปออกแล้ว จึงรับช่วงเอ่ยขึ้นต่อว่า “แต่ว่าจู่ ๆ ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวบอกว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกของฟู่เจิงกับอิเลีย?”“ใช่ รายละเอียดฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน เหมือนว่าจะเกี่ยวข้องกับอาของฟู่เจิงนิดหน่อย เธอรู้ตัวตนของเด็กผู้หญิงคนนั้นมาตั้งแต่แรก และไม่ชอบอาเหลียงมาโดยตลอด ยังไงตอนนี้อาเหลียงก็อยู่กับฉัน เขากับฟู่เจิงทะเลาะกันอีกแล้ว”เยี่ยนหวยเอ่ยควา
“เยี่ยนหวย!!”ประตูลิฟต์เปิดออก ทั้งสองคนเข้าไปกันตามลำดับ แล้วลงไปยังลานจอดรถใต้ดินตรงมุมเลี้ยว ในหัวของผู้หญิงสวมหน้ากากอนามัยวาบภาพที่เห็นเมื่อครู่ขึ้นมา หมัดที่ห้อยอยู่กำขึ้นแน่น เธอก้มหน้าทั้งดวงตาที่ประกายความอำมหิตออกมาหากเวินเหลียงอยู่ตรงนี้ คงจะจำได้แน่ ๆ ว่าผู้หญิงที่สวมหน้ากากอนามัยคนนี้ก็คืออลิซที่เธอมาเจียงเฉิง ก็เพราะเยี่ยนหวย เยี่ยนหวยมาเมืองซีเมื่อสองวันก่อน เธอเองก็ตามมาเช่นกันอิเลียถามเลขาของเยี่ยนหวย เมื่อรู้โรงแรมของเขาก็บอกกับอลิซทีแรกอลิซคิดว่าเยี่ยนหวยมาทำธุระที่เมืองซี จากนั้นก็ค่อย ๆ พบว่ามันไม่ชอบมาพากลเยี่ยนหวยไม่ยุ่งเลยสักนิดแถมยังมีเวลาไปสอบถามร้านอาหารท้องถิ่น ถนนคนเดิน จุดชมวิวของเมืองซีเป็นต้น อีกต่างหาก ไม่เหมือนมาทำงานต่างถิ่น แต่เหมือนมาเที่ยวเสียมากกว่าจนกระทั่งวันนี้ เมื่อได้เห็นภาพนั้น อลิซถึงเข้าใจทุกอย่างที่แท้คนที่ซีซาร์ชอบไม่ใช่เฟย์ แต่เป็นถังซือซือเพื่อนของเฟย์!ที่แท้เขาไม่ได้มาทำงานต่างถิ่นที่เมืองซี แต่มาเพื่อตามจีบถังซือซือ!ที่เขาสอบถามร้านอาหารและจุดชมวิวของเมืองซี ก็เพื่อพาถังซือซือไปวันนี้!ในใจอลิซอิจฉาเป็นอย่างม
เมื่อเยี่ยนหวยได้ยินดังนั้น ก็รู้ในทันทีว่าเวินเหลียงไม่ได้รักษาคำมั่นสัญญาแต่เขาก็เตรียมตัวไว้นานแล้ว วันนั้นหลังจากกลับไปก็ให้คนไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด แล้วตัดคลิปมาใส่ไว้ในโทรศัพท์เมื่อได้ยินถังซือซือถามขึ้น เขาก็รีบส่งให้เธอทันที “ก็แค่คนที่ไม่สลักสำคัญอะไรคนหนึ่ง ฉันปฏิเสธเขาไปแล้ว”ถังซือซือดูคลิปรอบหนึ่ง ก่อนจะเบะปาก “อยู่ต่างประเทศคุณเยี่ยนมีสาวมาชอบเพียบเลยนะคะ”“แต่ฉันสนใจอยากจะครอบครองแค่เธอ”“จะยอมให้ฉันครอบครองไหม คุณถัง?”เยี่ยนหวยนั่งเอี้ยวตัว แขนข้างหนึ่งพาดอยู่บนพนักพิงเก้าอี้ เขาโน้มตัวเข้ามา ตัวท่อนบนใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ กลิ่นหอมฉุยจาง ๆ และกลิ่นอายของชายหนุ่มที่มาพร้อมกับการบุกรุกโอบล้อมเธอเอาไว้เขาดันแว่นตากรอบทอง สีหน้าอบอุ่น ฉีกยิ้มทว่าก็ราวกับไม่ยิ้ม มุมปากกระตุกรอยยิ้มเล็กน้อย ค่อนข้างมีความรู้สึกประเภทหน้าเนื้อใจเสือถังซือซือเหม่อไปครู่หนึ่ง“คุณถัง?”ใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้าขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ไออุ่นร้อนปะทะเข้ามาที่หน้า ในที่สุดถังซือซือก็ได้สติกลับมา เธอเอนหลังพลางตบหน้าอก “นายทำฉันตกใจหมด...ไป ไปเดินหาของกินเล่นกันเถอะ”เธอลุกขึ้นและเดินออกไปอย่าง