หลังสบกับสายตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของเมิ่งเซ่อ เวินเหลียงก็พยักหน้าเบา ๆทั้งสองคนเดินเคียงคู่กันออกไป เดินไปทางสแควร์ที่อยู่ใกล้ ๆ อย่างช้า ๆ ราวกับเดินเล่นข้างถนนคนเดินสัญจรไปมากันอย่างรีบเร่ง มีแค่พวกเขาสองคนที่เดินไปเบื้องหน้าอย่างเชื่องช้า พูดคุยกันไปเรื่อยเปื่อย ทันใดนั้น ขณะที่แขนของเมิ่งเซ่อกำลังแกว่งอยู่ก็ไปแตะถูกมือของเวินเหลียงเข้าเวินเหลียงชักกลับโดยอัตโนมัติ แล้วเดินหน้าต่อไป ปากก็พลางเอ่ยขึ้นว่า “...ฉันเคยลองชิมของร้านเค้กที่อยู่ที่จินติงสองสามร้าน...”เมิ่งเซ่อก้มหน้า เขาไม่ได้สนใจเลยว่าเวินเหลียงกำลังพูดอะไรอยู่หูเขาแดงระเรื่อ เขาหลับตาลง รวบรวมความกล้าให้ตัวเองอยู่ในใจ ทันใดนั้นเขาก็จับมือน้อย ๆ แสนเรียวเล็กและนุ่มนิ่มของเวินเหลียงเอาไว้แน่นมือของเขาใหญ่กว่าเวินเหลียงเบอร์หนึ่ง กุมมือของเธอเอาไว้แน่นความรู้สึกการสัมผัสผิวหนังที่แผ่ขึ้นมา ทำเอาเวินเหลียงอึ้งไปครู่หนึ่ง คิดจะสะบัดออกตามสัญชาตญาณเพียงแต่เธออดกลั้นเอาไว้เวินเหลียงเม้มริมฝีปาก พลางก้มหน้า ไม่พูดอะไรทั้งสิ้นในวินาทีนี้เธอรู้สึกเพียงอิหลักอิเหลื่อ จิตใจพะว้าพะวงอยู่ไม่เป็นสุขในหัววาบ
สองวันผ่านไป เวินเหลียงได้รับรายงานการตรวจสอบเกี่ยวกับวัสดุที่ไม่ได้มาตรฐานที่เมิ่งจินถังใช้สองฉบับฉบับหนึ่งออกมาจากองค์กรตรวจสอบเอกชน ฉบับหนึ่งมาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำการตรวจสอบอีกครั้งในรายงานสองฉบับอธิบายแตกต่างกันเล็กน้อย ทว่าท้ายที่สุดแล้วก็ลงข้อสรุปเหมือนกัน...วัสดุมีปัญหาจริง ๆเวินเหลียงคาดเดาเมิ่งจินถังด้วยความอคติแบบสุดขีด เขาต้องรู้แน่ ๆ ว่าวัสดุมีปัญหา ทว่ากลับจงใจทำเป็นไม่รู้ กระทั่งให้เมิ่งเซ่อเอาไปตรวจสอบเพื่อมาพิสูจน์ว่าตนไม่รู้เรื่องจริง ๆ อย่างหน้าตาเฉยจากในข้อมูลที่อวิ๋นเฉียวให้มาก่อนหน้านี้นั้นเห็นได้ชัดเจนว่า เมิ่งจินถังพาทั้งครอบครัวอพยพไปอยู่ต่างประเทศด้วยเหตุผลว่าโยกย้ายงาน ในสองสามปีที่เพิ่งไปถึงต่างประเทศนั้นใช้ชีวิตอย่างอู้ฟู่ มันเกินกว่าที่เงินเดือนของเขาจะเอื้อมถึง แต่ดั้งแต่เดิมตระกูลเมิ่งก็ไม่ใช่ครอบครัวร่ำรวยอะไร แม้จะมีเงินออมแต่ก็ไม่เยอะหลังจากนั้นชีวิตของตระกูลเมิ่งก็ค่อย ๆ ตกต่ำลงเรื่อย ๆ กระทั่งก่อนกลับประเทศ เรียกได้ว่ากลับไปอยู่ในระดับเดิมอย่างตอนที่อยู่ในประเทศเลยด้วยซ้ำว่ากันตามเหตุผลแล้ว ปีนั้นตระกูลเมิ่งขายบ้านแล้วออกนอกประเท
ถังซือซือลุกขึ้นยืน เก็บพาเลทตาและแปรงแต่งหน้า “ได้ ฝากเธอมาจัดการตรงนี้หน่อยนะ”“ได้ พี่รีบไปเถอะค่ะ คุณโจวอยู่ห้องแต่งตัวหมายเลขสาม”“อืม”เมื่อถังซือซือจัดการกระเป๋าเครื่องสำอางของตัวเองเสร็จ ก็รีบเดินไปที่ห้องแต่งตัวหมายเลขสามทันทีเงื่อนไขของห้องแต่งตัวหมายเลขสามย่อมมีมากกว่าห้องแต่งตัวส่วนรวมอยู่แล้ว มีนักแสดงสองคนใช้ร่วมกัน คนหนึ่งคือโจวอวี่ที่ผู้ช่วยบอก ส่วนอีกคนเป็นไอดอลหน้าใหม่ประตูห้องแต่งตัวเปิดอยู่ ถังซือซือเคาะประตู แล้วเดินเข้าไปเลย เธอเดินไปทางโจวอวี่ที่นั่งอยู่หน้ากระจกผู้ช่วยของโจวอวี่รีบส่งกาแฟมาแก้วหนึ่ง “คุณถัง ลำบากคุณแล้วนะคะ จู่ ๆ พี่ซินดี้ก็ปวดท้องต้องไปโรงพยาบาลด่วน”“วางไว้บนโต๊ะก่อนแล้วกัน เขาจะซ้อมใหญ่เมื่อไร?” ถังซือซือวางกระเป๋าเครื่องสำอางบนโต๊ะเครื่องแป้งหน้ากระจก“อีกหนึ่งชั่วโมง ลายเซ็นที่คุณอยากได้” โจวอวี่ชี้ไปที่โปสต์การ์ดสองสามแผ่นที่อยู่บนโต๊ะเครื่องแป้ง “อย่าลืมล่ะ”“ได้เลย ขอบคุณค่ะ” ถังซือซือเปิดกระเป๋าเครื่องสำอาง เอาแปรงแต่งหน้าที่ใช้ประจำออกมาสองสามชุดไปด้วยพลางยิ้มและเอ่ยขึ้นว่า “วันนั้นต้องขอบคุณคุณมากจริง ๆ นะคะ โชคดีที่เดินผิ
นัยน์ตาของเยี่ยนหวยเปล่งประกาย สายตาตกไปบนตัวเธอ จ้องเขม็งไม่ยอมปล่อยถังซือซือชักสายตากลับ ก่อนจะเดินผ่านเยี่ยนหวยไปข้างต่อหน้าราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นขณะเดินเฉียดไป จู่ ๆ เยี่ยนหวยก็คว้าข้อมือของเธอเอาไว้ พร้อมจ้องเธอด้วยนัยน์ตาดำมืด “ซือซือ”เป็นไอ้โจวอวี่นี่อีกแล้วเมื่อเขาเห็นเธอพูดคุยหัวเราะเฮฮากันอย่างสนุกสนานกับโจวอวี่ ไม่ต้องพูดเลยว่าในใจของเขาเจ็บปวดแค่ไหน ราวกับถูกน้ำทะเลโหมสาดเข้ามาอุดจนตันไปหมด ทั้งขมขื่นและทั้งเจ็บปวดข้างกายเธอไม่มีที่ของเขาแล้วฝีเท้าของถังซือซือชะงักไปในทันใด พร้อมเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าราบเรียบ “มีอะไรจะพูดก็รอให้งานจบก่อนแล้วค่อยพูด ตอนนี้ฉันยังมีงานต้องทำ ยุ่งมาก”เยี่ยนหวยมองเธอ ผ่านไปนานสองนานถึงปล่อยแขนเธอ “เธอไปทำงานก่อนเถอะ”ทว่าเมื่อพิธีมอบรางวัลเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ เยี่ยนหวยก็ไปจับตัวเธอที่หลังเวทีอีกครั้ง แต่ถังซือซือหนีไปไม่เห็นหัวแล้วเขากำหมัดแน่น และกลับไปยังที่นั่งเงียบ ๆชายหนุ่มข้าง ๆ ชี้โจวอวี่ที่กำลังร้องเพลงอยู่บนเวที “เขาน่ะเหรอ?”สีหน้าของเยี่ยนหวยเคร่งขรึม พร้อมพยักหน้าเบา ๆชายหนุ่มมองประเมินโจวอวี่ พลางประเมินพร้อมลู
ถึงอย่างไรเตะถ่วงเวลาออกไป ก็คงไม่จบภายในสองสามปีนี้แน่การตอบกลับของเมิ่งเซ่อทำเอาเวินเหลียงคาดไม่ถึงเลยจริง ๆราวกับกลัวว่าเธอจะไม่เชื่อ เมิ่งเซ่อจึงส่งคลิปเสียงมาคลิปหนึ่ง ในคลิปเสียงอัดมาแค่ครึ่งหลัง ทว่าบทสนทนาของทั้งสองคนที่อยู่ในคลิปมีเจตนาเช่นนี้จริง ๆหรือว่าที่เขาไม่ได้ห้ามเมิ่งจินถัง ที่แท้ก็เพราะรู้อยู่แล้วว่าการไกล่เกลี่ยจะไม่สำเร็จเวินเหลียงตั้งใจฟังรอบหนึ่ง แล้วรีบแยกว่าเสียงไหนคือเสียงของผู้รับผิดชอบฝ่ายซัพพลายเออร์ เสียงไหนคือเสียงของคนบงการเพียงแต่เธอรู้สึกคุ้น ๆ เสียงของคนบงการอยู่นิดหน่อย ราวกับเคยได้ยินเสียงแบบนี้ที่ไหนมาก่อนแต่ดันนึกไม่ออกเวินเหลียงถามขึ้นว่า “แปลกจัง นายอยากสืบหาตัวตนของผู้ชายคนนั้นเหรอ?”เมิ่งเซ่อ “อันที่จริง ผมสงสัยว่าเจ้าของจะรู้จักกับผู้ชายคนนั้น และทั้งหมดนี้ก็คือผลลัพธ์ที่ผู้ชายคนนั้นหาเรื่องพวกเรา! พวกเราจะนั่งรอความตายไม่ได้ หลังจากถูกพวกเขาถ่วงเวลาไปสองสามปี ผมอยากดูซิว่าจะจับจุดอ่อนของพวกเขาได้ไหม”หรือว่าเมิ่งจินถังจะไม่รู้จริง ๆ ว่าวัสดุมีปัญหา แต่แค่ถูกหาเรื่อง?เวินเหลียง “ฉันไม่รู้จักนักสืบเอกชนอะไรหรอก เดี๋ยวฉันขอถาม
เมื่อเห็นข้อความนี้ ลู่เย่าก็เสียวสันหลังวาบขึ้นมาทันที มือสั่นเทา โทรศัพท์เกือบตกลงบนพื้นจู่ ๆ เส้นเลือดบนหน้าผากเขาก็กระตุกสองที เขาตอบกลับว่า “คุณเวิน คุณอย่าทำแบบนี้สิ คุณอย่าทำร้ายผมสิ!”อย่างไอ้จอมขี้หึงฟู่เจิงนั่น ถ้าทำให้เขาเห็นเข้า ไม่แน่ว่าได้มาฝึกต่อยมวยกับเขาอีกแน่คราวก่อนในร้านอาหารที่นอร์เวย์ เวินเหลียงแค่พูดว่าชอบนิสัยเขาไม่กี่ประโยค เมื่อถูกฟู่เจิงที่อยู่ห้องข้าง ๆ ได้ยินเข้า หลังกลับประเทศมาฟู่เจิงก็นัดเขาไปซ้อมต่อยมวยอยู่สองสามครั้ง เรียกให้ดูดีว่าไปเป็นคู่ซ้อม ทว่าอันที่จริงคือโดนซ้อมเขาบอกปัดไม่ได้จริง ๆ จึงเป็นคู่ซ้อมให้ฟู่เจิงอยู่สองครั้ง ฟู่เจิงก็ไม่เบามือเลยสักนิด หมัดหนึ่งหนักกว่าหมัดหนึ่ง ตอนนี้บนตัวเขายังมีรอยฟกช้ำดำเขียวอยู่เลย!ถ้าให้ไปซ้อมอีกที เขารับไม่ไหวแล้วจริง ๆเวินเหลียง “จะทำคุณนั่นแหละ! ไม่งั้นพวกคุณก็ดีแต่เห็นฉันเป็นคนโง่น่ะสิ!”ลู่เย่ามั่นใจว่า เวินเหลียงรู้เรื่องเข้าแล้วแน่ ๆ เขาแสร้งทำเป็นไม่รู้อะไร “ผมไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดถึงอะไร”เวินเหลียงส่งคลิปเสียงไปเลย “แสร้งอะไร? ถ้าไม่อยากให้คนอื่นรู้ ตัวเองก็อย่าทำสิ”ลู่เย่าที่ได้ฟังคล
ปลายสายเงียบอยู่นานสองนาน น้ำเสียงอ่อนแอไร้ซึ่งเรี่ยวแรงลง “เธอคิดกับฉันแบบนี้เหรอ?”เมื่อเขาเห็นว่าเป็นสายของเธอ ก็รีบรับสายด้วยใจที่เต็มไปด้วยความปลื้มปีติ ทว่าครั้นได้ยินคำถามประดังประเดใส่หน้าโครม ๆ ในใจก็เย็นยะเยียบลงมาทันที“หรือว่าไม่ใช่งั้นเหรอ?” น้ำเสียงของเวินเหลียงเย็นชา ถามกลับคำหนึ่งชะงักคำหนึ่ง“ฮึ” ฟู่เจิงแค่นเสียงฮึด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยียบ ในน้ำเสียงเผยให้เห็นความเย็นชาสายหนึ่ง “ทั้ง ๆ ที่พ่อของเมิ่งเซ่อรู้อยู่แล้วว่าวัสดุไม่ได้มาตรฐานก็ยังจะซื้อมา ถูกคนรายงานก็เป็นเรื่องปกติ ทำไมถึงมาโทษฉันได้ล่ะ?”ตอนนี้เวินเหลียงไม่หลงเหลือความเชื่อใจใด ๆ ให้กับฟู่เจิงเลยแม้แต่น้อยเวินเหลียงทำเหมือนว่าคำพูดของเขาคือลมตด!ต่อให้เมิ่งจินถังจงใจใช้วัสดุไม่ได้มาตรฐานแล้วยังไง เป้าหมายของเธอคือได้รับความเชื่อมั่นจากเมิ่งเซ่อต่างหากส่วนเมิ่งจินถัง รอให้เธอหาหลักฐานที่ชี้ว่าเขาเป็นโจรเรียกค่าไถ และเป็นต้นเหตุทำให้พ่อของเธอต้องตายได้ก่อน เธอจะทำให้เขาได้รับการลงโทษทางกฎหมายแน่นอนเวินเหลียงหัวเราะอย่างเย็นชาทีหนึ่ง “ดูท่าคุณจะรู้เรื่องนี้ดีจังเลยนะ? เพราะงั้นคุณเลยไปหาคนมาร่วมงานกับ
เวินเหลียงชะงักไป “คุณถามเรื่องนี้ทำไม?”ลู่เย่าถอนหายใจหนัก ๆ เฮือกหนึ่ง “สองสามวันก่อนหน้านี้ฟู่เจิงเลือดออกในกระเพาะอาหาร กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เดิมทีอาการไม่ค่อยสู้ดีอยู่แล้ว จู่ ๆ เขาก็เริ่มอดอาหาร ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้ ไม่ยอมกินอะไรเข้าไปเลยแม้แต่นิดเดียว! พยาบาลบอกว่าเมื่อวานหลังจากที่เขารับสายหนึ่งก็กลายเป็นแบบนี้ไปเลย!”ฟู่เจิงเลือดออกในกระเพาะอาหารนอนอยู่ที่โรงพยาบาล?เวินเหลียงอึ้งไปครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็นึกถึงสองวันก่อนตอนไปเยี่ยมหลานของป้าหวังที่โรงพยาบาล เหมือนเธอจะเห็นเงาเบื้องหลังของฟู่เจิง ตอนนั้นเธอยังคิดว่าตาฝาดไปเห็นเวินเหลียงอึ้งไป ลู่เย่าก็เอ่ยขึ้นอีกว่า “คุณต้องไปโน้มน้าวเขาที่โรงพยาบาลกับผมเดี๋ยวนี้!”เวินเหลียงได้สติกลับมา พร้อมถอยหลังก้าวหนึ่ง “ฉันไม่ไป เขาไม่ใช่เด็กแล้วซะหน่อย เอาร่างกายของตัวเองมาล้อเล่น คนที่ต้องได้รับความทุกข์ทรมานก็คือตัวเขาเอง เราหย่ากันแล้ว ต่อไปถ้าเขาเป็นแบบนี้อีก ฉันก็ต้องไปเยี่ยมเขาอีก ฉันไม่ต้องใช้ชีวิตแล้วเหรอ?”ขณะที่ทั้งสองคนยังไม่หย่ากัน เธอเองก็รู้ว่าฟู่เจิงต้องไปเข้าสังคมข้างนอกตลอดปี กระเพาะอาหารจึงไม่ค่อยด
อิเลียลุกขึ้นพรวด พลางมองเยี่ยนหวยอย่างเหลือเชื่อ“ถ้าเธอยังเห็นฉันเป็นพี่ชายของเธออยู่ ก็เชื่อฟังฉัน แล้วกลับไปเมืองฟิลาเดลเฟียพรุ่งนี้ซะ!” เยี่ยนหวยนั่งตัวตรงพลางเงยหน้ามองเธออยู่บนโซฟา“ฉันไม่กลับ!” อิเลียเดือดดาลจนแค่นเสียงฮึออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะกลับไปนั่งตรงมุมโซฟา “อยากกลับพี่ก็กลับไปเองซะเลยสิ!”“ฟู่เจิงไม่ใช่คนดี ต่อให้ระหว่างพวกเธอมีลูกด้วยกัน เขาก็ไม่มีทางคบกับเธอ”ก่อนหน้านี้ฟู่เจิงเคยมีเรื่องอื้อฉาวว่ามีชู้ ตอนนี้ก็มีอดีตภรรยาที่มีความสัมพันธ์คลุมเครือมาอีกคน ขอให้เป็นผู้ใหญ่ที่รักลูกสาว ก็จะไม่มีวันเลือกเขาทั้งนั้น“พี่รู้ได้ยังไงว่าเขาไม่ใช่คนดี? พี่รู้ได้ไงว่าเขาจะไม่คบกับฉัน? วันนี้ตอนเที่ยงเรายังไปกินข้าวด้วยกันอยู่เลย!”เมื่อเห็นอิเลียดื้อดึง ในใจของเยียนหวยก็รู้สึกไม่ได้ดั่งใจ เขาแสยะยิ้มออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “พวกเธอไม่ได้ไปกินข้าวด้วยกันตามลำพัง แต่ฟู่ซือฝานอยู่ข้าง ๆ ใช่ไหม?”ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ ฟู่เจิงจะมากินข้าวกับอิเลียตามลำพังได้ยังไง? นอกเสียจากเขาคิดจะเลิกกับเวินเหลียงจริง ๆ“...ใช่ ก็เขาเป็นลูกของพวกเรานี่” เมื่อเห็นว่าถูกเดาทางถูก อิเลียก็พูดอึ
แต่หลังจากเดินตามแผนแล้วถึงได้พบว่า นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยถ้าพ่อแม่คุณลุงคุณป้ารู้ว่าเธอมีลูกนอกสมรสข้างนอก ต้องเข้ามาแทรก และไม่แน่ว่าจะพาตัวเธอกับลูกกลับไป“อิเลีย ผมเข้าใจนะครับคุณในฐานะแม่แท้ ๆ คุณอยากรีบกระชับความสัมพันธ์กับฝานฝาน แต่ก็อย่าตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก โดยเฉพาะมักจะไปหาฝานฝานที่โรงเรียนอนุบาล แบบนี้จะส่งผลกระทบกับชีวิตของเธอได้นะครับ”“ฉันรู้แล้วค่ะ ต่อไปจะไม่ไปหาเขาที่โรงเรียนอนุบาลอีก ฉันเห็นว่าคุณกินน้อยมาก อาหารที่เหลือไม่ถูกปากหรือเปล่า?”ฟู่เจิง “...ก่อนมาผมกินมาบ้างแล้ว”หลังกินข้าวเที่ยงเสร็จ ฟู่ซือฝานรบเร้าขอกลับกับฟู่เจิงเธอล้วงกลยุทธ์ร้องไห้งอแงชักดิ้นชักงออยู่ที่พื้นของเด็กห้าขวบออกมาอย่างล้ำลึก ไม่มีเหตุผล ทว่าอิเลียฝืนเธอไม่ได้อิเลียทำได้เพียงกลับไปที่บ้านของเซี่ยเจิน“อิเลีย เธอกลับมาแล้วเหรอ?”เมื่อเห็นอลิซนั่งอยู่บนโซฟา อิเลียเดินมานั่งลง “เป็นยังไงบ้าง? ครั้งนี้เธอไปเมืองซีกับซีซาร์ ได้แสร้งทำเป็นเจอโดยบังเอิญ แล้วไปกินข้าวกับเขาอะไรหรือเปล่า?”อลิซเบะปาก “เปล่า”“ทำไมล่ะ? โอกาสดีขนาดนั้นทำไมเธอไม่คว้าเอาไว้?”“เขางานยุ่งมาก ฉันกล
อิเลียจัดผมด้วยท่าทางราวกับไม่มีเจตนาอื่น หน้าตาเผยความตื่นเต้นออกมาดูท่าเธอจะเลือกวิธีถูกจริง ๆในตอนนี้เธอเพิ่งเข้าใกล้ฟู่ซือฝานไม่เท่าไร ท่าทีของฟู่เจิงเขาก็ผ่อนคลายลงเยอะแล้วผ่านไปยี่สิบนาที ฟู่เจิงก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องรับรองนี่เป็นการเจอกันครั้งที่สองหลังจากวันนั้นเขานั่งลงข้าง ๆ ฟู่ซือฝาน พลางพยักหน้าให้อิเลียเบา ๆ “รบกวนแล้ว ไม่ถือสาที่ผมมาร่วมโต๊ะด้วยใช่ไหม?”“ไม่ถือสา นั่งเถอะค่ะ”สีหน้าของอิเลียเย็นชา ราวกับยังอยู่ต่อหน้าคุณหญิงและฟู่ชิงเยว่ครั้งก่อน เธอไม่ได้โกรธที่ฟู่เจิงปฏิเสธเธออย่างไร้ความปรานี“งานผมยุ่งมาก ยากที่จะใส่ใจคุณกับฝานฝานได้มากขนาดนั้น”“ฝานฝานเป็นลูกของฉัน นี่เป็นสิ่งที่สมควรอยู่แล้ว ฉันไม่รู้ว่าคุณจะมา ก็เลยสั่งอาหารไปสุ่ม ๆ เดี๋ยวอาหารมาเสิร์ฟคุณก็ดูแล้วกันว่าอยากจะสั่งเพิ่มไหม”“ผมไม่เลือกกิน” ฟู่เจิงตอบจากนั้นพนักงานก็เริ่มมาเสิร์ฟอาหารฟู่เจิงมองเนื้อแพะที่มาเสิร์ฟเต็มโต๊ะ เขาเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก้มหน้าไปมองฟู่ซือฝานฟู่ซือฝานก้มศีรษะน้อย ๆ อย่างกระวนกระวายอิเลียหยิบตะเกียบขึ้นมา “ไม่ต้องเกรงใจ กินเลยค่ะ”ฟู่เจิงลังเลอยู่ครู่หนึ่
เจียงเฉิงเที่ยงวันศุกร์ อิเลียไปรับฟู่ซือฝานออกไปกินข้าวเที่ยงที่คฤหาสน์ย่านซิงเหอวานเธอฉีกยิ้มพลางพูดกับฟู่ซือฝานว่า “เมื่อวานแม่ว่าจะไปรับหนูที่โรงเรียนอนุบาล จู่ ๆ ก็นึกถึงคำพูดของหนูเมื่อครั้งก่อนได้ ก็เลยมาวันนี้ วันนี้ตอนบ่ายแม่จะพาหนูไปเล่นดี ๆ เป็นยังไงจ๊ะ?”ฟู่ซือฝานเอียงคอพลางครุ่นคิด “ตอนบ่ายหนูต้องทำการบ้าน แค่กินข้าวเที่ยงก็พอแล้วค่ะ”“ก็ได้ งั้นหนูคิดไว้หรือเปล่าว่าอยากกินอะไร?”“ไปร้านอาหารที่มีเมนูเนื้อแพะแนะนำแล้วกันค่ะ” ฟู่ซือฝานเอ่ยขึ้นด้วยทีท่าจริงจัง “วันนี้คุณลุงบอกว่าจะไปกินข้าวเที่ยงเป็นเพื่อนหนู ไม่รู้ว่าจะมาไหม”นัยน์ตาอิเลียวาบความปลื้มปีติออกมา “จริงเหรอ?”“เขาเคยบอกไว้แบบนี้ค่ะ คุณน้าคะ ที่คุณน้ารับหนูออกมา ไม่ใช่เป็นเพราะอยากกระชับความสัมพันธ์กับหนูสองต่อสองเหรอคะ? ทำไมถึงหวังให้คุณลุงมาด้วยล่ะคะ?”เจ้าตัวน้อยเอ่ยถามขึ้นด้วยใบหน้าจริงจัง“น้า...น้ามีเรื่องอยากพูดคุยกับพ่อของหนูน่ะ แล้วก็หวังว่าเราจะได้กินข้าวด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว” อิเลียรีบหาข้ออ้างทันทีเจ้าเด็กคนนี้ หูตาเฉียบแหลมจริง ๆ“อ้อ”“น้าจะหาร้านอาหารเนื้อแพะเดี๋ยวน
“เรียกฉันทำไม?” เยี่ยนหวยมองเธอด้วยสีหน้าไร้เดียงสา“ตอนนี้มันฤดูร้อน”ผ่านฤดูใบไม้ผลิมาแล้ว“ฉันแค่นึกถึงวันนั้นที่ไปติวให้เธอแล้วเจอแม่เธอเข้าโดยบังเอิญ เธอคิดไปถึงไหน?” เยี่ยนหวยเลิกคิ้วถังซือซือชะงักไปมีครั้งหนึ่งตอนที่เธอติวอยู่ในบ้าน แล้วบังเอิญเจอแม่ของเธอเข้าจริง ๆ แต่นั่นมันเรื่องตอนเทอมที่สองเยี่ยนหวยต้องจงใจพูดถึงวันนั้นตอนเทอมแรกแน่ ๆ ให้เธอเข้าใจผิดถ้าเธอชี้ไปเลยว่าเยี่ยนหวยจำผิด ก็จะเข้าแผนของเยี่ยนหวย เหมือนว่าเธอยังไม่เคยลืมเรื่องในอดีต คิดถึงเรื่องราวเหล่านั้นของเธอกับเยี่ยนหวยอยู่ตลอด“ตอนนี้ไม่ใช่ฤดูร้อนเหรอ? นายคิดไปถึงไหนอีก?” เธอปัดตกเรื่องนี้ไปอย่างมั่นใจทันทีหลังพูดจบ เธอก็หมุนตัวเดินไปด้านหน้าต่อ “ไม่พูดแล้ว รีบไปร้านถัดไปเถอะ”อยู่ข้างนอกจนถึงสี่ทุ่ม ทั้งสองคนถึงกลับไปยังโรงแรมด้วยกันถังซือซืออยากเรียกรถกลับไปเอง ไม่อยากให้เยี่ยนหวยไปส่งเธอเยี่ยนหวยจึงเอ่ยไปตามตรงว่า “ฉันพักอยู่ที่โรงแรมเดียวกันกับเธอ”ถังซือซือ “...”นี่ไม่ใช่ครั้งแรกแล้วคราวก่อนตอนที่เวินเหลียงถ่ายรูปเยี่ยนหวยรูปแรกที่เมืองฟิลาเดลเฟีย เวินเหลียงก็ถามว่าช่วงนี้เยี่ยนหวย
เมืองซีในฐานะเมืองใหญ่ของเจียงหนาน ประเภทของกินเล่นมีมากมาย ของกินเอกลักษณ์ที่ขึ้นชื่อไปทั่วประเทศอาทิ เต้าหู้เหม็น ไส้กรอกยักษ์ เส้นหมีเฝิ่น กุ้งเผ็ดเป็นต้นถังซือซือเคยมาเมืองซีตอนมาทำงานต่างถิ่นก่อนหน้านี้ เวลาค่อนข้างกระชั้นชิด จึงทำได้เพียงเดินช็อปปิงที่อื่น แต่เพิ่งเคยมาถนนคนเดินที่นี่เป็นครั้งแรกเธอซื้อไส้กรอกยักษ์สองชิ้นก่อน และแบ่งให้เยี่ยนหวยหนึ่งชิ้นกินไปได้เพียงครึ่งเดียว ถังซือซือก็หยุดอยู่ตรงหน้าร้านขายขนมฉือปา เธอกลืนน้ำลายแล้วถามขึ้นว่า “รู้ไหมคะว่าตรงไหนมีถังขยะบ้าง?”“ที่เหลือเธอไม่กินแล้วเหรอ?”“อืม”“ไม่อร่อย?”“ไม่ใช่ อร่อยมาก แต่ว่ายังมีของอร่อยอื่น ๆ อีกเยอะแยะ ฉันอยากเก็บท้องเอาไว้”เยี่ยนหวย “...”“เอามาให้ฉันก็ได้” เยี่ยนหวยรับไส้กรอกครึ่งชิ้นที่เหลืออยู่มาจากในมือของเธอ ก่อนจะเติมเข้าไปในท้องอย่างไม่มีภาระใด ๆถังซือซือซื้อขนมฉือปาแล้วเธอทำตัวอย่างกับโจร แต่ละร้านไม่ยอมปล่อยไปเลย ทว่าก็ชิมเพียงสองสามคำ ทั้งหมดที่เหลือก็โยนให้เยี่ยนหวยอย่างสบายใจเยี่ยนหวยเพลิดเพลินกับพฤติกรรมพรรค์นี้ ในใจเข้าใจได้ในทันที ราวกับกลับไปเมื่อเจ็ดปีก่อนหลังเรียนอย
“มันเรื่องอะไรกันแน่?”ก่อนหน้านี้ที่เยี่ยนหวยอยู่ที่เจียงเฉิง กลับไม่ได้สังเกตเท่าไรว่าอิเลียกำลังทำอะไรอยู่ เธอออกไปข้างนอกทุกวัน เยี่ยนหวยคิดเพียงแค่ว่าเธอกำลังไปเที่ยวเล่นถังซือซือไม่ใช่คนที่จะกุเรื่องมั่วซั่ว เธอพูดแบบนี้ ต้องรู้อะไรบางอย่างแน่ ๆ“พูดไปแล้วก็ยาว ตอนแรกฟู่ชิงเยว่อาของฟู่เจิงรับเลี้ยงเด็กกำพร้าอยู่ที่เมืองนอก ตอนนี้อายุห้าขวบแล้ว ปีที่แล้วอาเหลียงแท้ง แล้วฟู่ชิงเยว่ติดธุระพอดี เลยส่งเด็กคนนั้นกลับประเทศมาให้ฟู่เจิงดูแลช่วงหนึ่ง ฟู่เจิงเลยให้เด็กคนนั้นอยู่ในประเทศไปเลยเพื่อง้ออาเหลียง ปกติจะมาอยู่เป็นเพื่อนอาเหลียง และเด็กคนนั้นเองก็เข้าไปอยู่ในทะเบียนบ้านของฟู่เจิง แต่ว่า...”เยี่ยนหวยเดาเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไปออกแล้ว จึงรับช่วงเอ่ยขึ้นต่อว่า “แต่ว่าจู่ ๆ ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวบอกว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกของฟู่เจิงกับอิเลีย?”“ใช่ รายละเอียดฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน เหมือนว่าจะเกี่ยวข้องกับอาของฟู่เจิงนิดหน่อย เธอรู้ตัวตนของเด็กผู้หญิงคนนั้นมาตั้งแต่แรก และไม่ชอบอาเหลียงมาโดยตลอด ยังไงตอนนี้อาเหลียงก็อยู่กับฉัน เขากับฟู่เจิงทะเลาะกันอีกแล้ว”เยี่ยนหวยเอ่ยควา
“เยี่ยนหวย!!”ประตูลิฟต์เปิดออก ทั้งสองคนเข้าไปกันตามลำดับ แล้วลงไปยังลานจอดรถใต้ดินตรงมุมเลี้ยว ในหัวของผู้หญิงสวมหน้ากากอนามัยวาบภาพที่เห็นเมื่อครู่ขึ้นมา หมัดที่ห้อยอยู่กำขึ้นแน่น เธอก้มหน้าทั้งดวงตาที่ประกายความอำมหิตออกมาหากเวินเหลียงอยู่ตรงนี้ คงจะจำได้แน่ ๆ ว่าผู้หญิงที่สวมหน้ากากอนามัยคนนี้ก็คืออลิซที่เธอมาเจียงเฉิง ก็เพราะเยี่ยนหวย เยี่ยนหวยมาเมืองซีเมื่อสองวันก่อน เธอเองก็ตามมาเช่นกันอิเลียถามเลขาของเยี่ยนหวย เมื่อรู้โรงแรมของเขาก็บอกกับอลิซทีแรกอลิซคิดว่าเยี่ยนหวยมาทำธุระที่เมืองซี จากนั้นก็ค่อย ๆ พบว่ามันไม่ชอบมาพากลเยี่ยนหวยไม่ยุ่งเลยสักนิดแถมยังมีเวลาไปสอบถามร้านอาหารท้องถิ่น ถนนคนเดิน จุดชมวิวของเมืองซีเป็นต้น อีกต่างหาก ไม่เหมือนมาทำงานต่างถิ่น แต่เหมือนมาเที่ยวเสียมากกว่าจนกระทั่งวันนี้ เมื่อได้เห็นภาพนั้น อลิซถึงเข้าใจทุกอย่างที่แท้คนที่ซีซาร์ชอบไม่ใช่เฟย์ แต่เป็นถังซือซือเพื่อนของเฟย์!ที่แท้เขาไม่ได้มาทำงานต่างถิ่นที่เมืองซี แต่มาเพื่อตามจีบถังซือซือ!ที่เขาสอบถามร้านอาหารและจุดชมวิวของเมืองซี ก็เพื่อพาถังซือซือไปวันนี้!ในใจอลิซอิจฉาเป็นอย่างม
เมื่อเยี่ยนหวยได้ยินดังนั้น ก็รู้ในทันทีว่าเวินเหลียงไม่ได้รักษาคำมั่นสัญญาแต่เขาก็เตรียมตัวไว้นานแล้ว วันนั้นหลังจากกลับไปก็ให้คนไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด แล้วตัดคลิปมาใส่ไว้ในโทรศัพท์เมื่อได้ยินถังซือซือถามขึ้น เขาก็รีบส่งให้เธอทันที “ก็แค่คนที่ไม่สลักสำคัญอะไรคนหนึ่ง ฉันปฏิเสธเขาไปแล้ว”ถังซือซือดูคลิปรอบหนึ่ง ก่อนจะเบะปาก “อยู่ต่างประเทศคุณเยี่ยนมีสาวมาชอบเพียบเลยนะคะ”“แต่ฉันสนใจอยากจะครอบครองแค่เธอ”“จะยอมให้ฉันครอบครองไหม คุณถัง?”เยี่ยนหวยนั่งเอี้ยวตัว แขนข้างหนึ่งพาดอยู่บนพนักพิงเก้าอี้ เขาโน้มตัวเข้ามา ตัวท่อนบนใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ กลิ่นหอมฉุยจาง ๆ และกลิ่นอายของชายหนุ่มที่มาพร้อมกับการบุกรุกโอบล้อมเธอเอาไว้เขาดันแว่นตากรอบทอง สีหน้าอบอุ่น ฉีกยิ้มทว่าก็ราวกับไม่ยิ้ม มุมปากกระตุกรอยยิ้มเล็กน้อย ค่อนข้างมีความรู้สึกประเภทหน้าเนื้อใจเสือถังซือซือเหม่อไปครู่หนึ่ง“คุณถัง?”ใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้าขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ไออุ่นร้อนปะทะเข้ามาที่หน้า ในที่สุดถังซือซือก็ได้สติกลับมา เธอเอนหลังพลางตบหน้าอก “นายทำฉันตกใจหมด...ไป ไปเดินหาของกินเล่นกันเถอะ”เธอลุกขึ้นและเดินออกไปอย่าง