พวกเขารู้ว่าฟู่เจิงอาจจะจงใจ ตั้งใจพาเวินเหลียงมาเจอเพื่อน ตั้งใจโชว์ความสนิทสนมกับเวินเหลียงต่อหน้าเพื่อน ๆตอนที่ฟู่เจิงพาฉู่ซืออี๋มาก่อนหน้านี้ยังไม่เคยทำแบบนี้เลย ส่วนมากที่เขาทำคือพูดคุยกับเหล่าเพื่อน ๆ และฉู่ซืออี๋ก็นั่งเงียบ ๆ อยู่ข้าง ๆ ใครก็มองความพิเศษที่ฟู่เจิงทำต่อเวินเหลียงออกที่นี่ก็มีคนที่พูดคุยเล่นสนุก ๆ เช่นกัน เปลี่ยนคู่ควงทุกวัน ล้วนไม่ซ้ำหน้า แต่คนเหล่านั้นล้วนเป็นนอกแวดวง เล่น ๆ สนุก ๆ ไปก็เท่านั้นแต่ทว่าคล้ายกับฐานะของเวินเหลียงนั้นจะเล่น ๆ สนุก ๆ ตามอำเภอใจไม่ได้ไม่อย่างนั้นคุณท่านฟู่คงไม่ยอมแน่แต่ว่าต่อไปฉู่ซืออี๋จะทำยังไงล่ะ?ลู่ฉางคงเลี่ยงไม่ได้ที่จะเป็นกังวลแทนฉู่ซืออี๋“ฉางคง” จู่ ๆ ฟู่เจิงก็ตะโกนเรียกลู่ฉางคงเสียงหนึ่ง “จะขอโทษอาเหลียงไม่ใช่เหรอ?”เวินหลียงพูดถึงเรื่องเก่า ๆ ขึ้นมาอีกครั้ง ก็พลอยทำฟู่เจิงนึกขึ้นได้ด้วย ตอนนั้นคนที่ยุแยงให้เวินเหลียงเรียกฉู่ซืออี๋ ก็คือลู่ฉางคงครั้นสัมผัสได้ถึงนัยน์ตาของฟู่เจิง ลู่ฉางคงก็เสียวสันหลังวาบ พลางยกเหล้ามา “อาเหลียง สองสามวันก่อนฉันหุนหันพลันแล่น พูดจารุนแรงเกินไป หยาบคายใส่เธอ ฉันขอโทษเธอด้วยนะ ขอ
ก่อนหน้านี้เวินเหลียงเรียกเขาว่าพี่รองต่อหน้าบรรดาเพื่อนเหล่านี้ของเขาจนชินปากไปแล้ว ไม่ได้เปลี่ยนกลับมาในทันทีครั้นได้ยินฟู่เจิงถามแบบนี้ เวินเหลียงก็หัวเราะฮ่า ๆ พลางถามขึ้นว่า “งั้นจะให้ฉันเรียกคุณว่าอะไรล่ะ?”“เธอว่าเรียกยังไงดีล่ะ?”“อาเจิง”ฟู่เจิงหัวเราะแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรมีช่วงเวลาหนึ่ง เขาคาดหวังว่าเวินเหลียงจะเรียกเขาว่าที่รักแต่เขาก็รู้ดีว่าคงไม่มีทางระหว่างพวกเขาไม่เคยมีการเรียกว่าที่รักกันมาก่อนสำหรับพวกเขาแล้วการเรียกแบบนี้ ประหลาดไร้ที่เปรียบเห็นการตอบโต้ระหว่างทั้งสองคน สีหน้าของลู่ฉางคงก็ยิ่งสับสนมากขึ้นเรื่อย ๆแม้เจียงมู่จะเดารายละเอียดว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ไม่ออก แต่ก็พอจะวิเคราะห์ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นเขารุดหน้าเข้ามาทำให้เรื่องมันจบลงด้วยดี “วันนี้ทำไมมาสายล่ะ? ถูกพวกอู๋เจิ้นเขาขวางเอาไว้เหรอ?”ฟู่เจิง “เปล่าหรอก ไปเลือกแหวนคู่กับอาเหลียงมาน่ะ ก็เลยมาสาย”“ไม่ควรซื้อคู่หนึ่งสิ ตั้งนานนมขนาดนี้แล้วยังไม่มีแหวนอีกเหรอ ไม่เข้าท่าเอาซะเลย” เจียงมู่เอ่ยในใจของหานเฟิงเกิดความประหลาดใจขึ้นมาฟังจากความหมายของเจียงมู่แล้ว ฟู่เจิงแต่งงานกับเวินเหลียง
ฤดูหนาวหนาวจนคนไม่อยากออกจากบ้าน จึงรวมตัวเล่นไพ่นกกระจอกกับคนในหมู่บ้านอยู่ในบ้าน ตาละห้าบาท แพ้ชนะก็ไม่มากจนเกินไปตอนเด็ก ๆ เวินหลียงชอบย้ายม้านั่งเล็ก ๆ ไปนั่งดูคุณปู่เล่นไพ่นกกระจอกอยู่ข้างหลังคุณปู่ ดูเยอะเข้าก็เลยเล่นเป็น“ดูสองตาก็เข้าใจแล้ว”ผ่านไปไม่นาน เสียงริงโทนโทรศัพท์จองฟู่เจิงก็ดังขึ้นเขาล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเสื้อ มองหน้าจอทีหนึ่ง เป็นสายในเรื่องของธุรกิจเขาเตรียมท่าลุกขึ้นจะเดินไปข้างนอก ก่อนจะพูดกับเวินเหลียงว่า “ช่วยฉันเล่นสักสองตาสิ”หลังดูไปสองสามตา เวินเหลียงเองก็เข้าใจกฎของพวกเขาแล้ว เธอพยักหน้า “ได้”หลังนั่งลงในตำแหน่งของฟู่เจิง ทิ้งไพ่ออกไปสองสามตัว เวินเหลียงถึงเอ่ยถามขึ้นอย่างมานึกขึ้นได้ทีหลัง “พวกคุณเล่นกันตาละเท่าไรเหรอ?”หานเฟิงยกนิ้วโป้งขึ้นมาสองนิ้วเวินเหลียงเลิกคิ้วเจียงมู่อธิบาย “หนึ่งแสน”เวินเหลียงแอบตกตะลึง และยิ่งตั้งใจเล่นขึ้นมาปากบันไดทางเดิน ฟู่เจิงตัดสายโทรศัพท์ ครั้นหันหน้าไปก็เห็นลู่ฉางคงยืนอยู่ไม่ไกล“ทำไมถึงออกมาแล้วล่ะ?” ฟู่เจิงถาม“ออกมาสูดอากาศน่ะ” ลู่ฉางคงเดินรุดหน้ามาหยุดข้างฟู่เจิง “อาเจิง ฉันรู้ฉันอาจจะละลา
ฟู่เจิงมองลู่ฉางคง “ฉันแน่ใจ ฉันตัดสินใจไปแล้ว”ลู่ฉางคงเม้มปาก “แล้ว นายรักเธอไหม?”ฟู่เจิงฟังออก เธอที่ลู่ฉางคงหมายถึงคือเวินเหลียงนัยน์ตาของฟู่เจิงประกายเล็กน้อย “ฉันไม่รู้ว่านั่นคือรักหรือเปล่า แต่ฉันรู้ว่าฉันไม่อยากหย่ากับเธอ พอนึกถึงว่าเธออาจจะไปจากฉัน ในใจฉันมันก็รู้สึกราวกับว่างเปล่า”“อาจเป็นเพราะแค่นายชินกับชีวิตช่วงแต่งงาน รอหลังจากหย่าแล้วกลับไปโสด ผ่านไปพักหนึ่งก็ไม่เป็นอะไรแล้ว”ฟู่เจิงมองไปนอกหน้าต่าง เงียบไม่ตอบราวกับไม่ได้เก็บคำพูดของลู่ฉางคงมาใส่ใจลู่ฉางคงถอนหายใจ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะประหลาดใจหรือว่าเสียดายแทนฉู่ซืออี๋“ซืออี๋ตกลงจะเลิกกับนาย?”ฟู่เจิงขมวดคิ้ว แล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงชืด ๆ ว่า “เธอไม่มีทางเลือกอื่น”ลู่ฉางคงมองฟู่เจิง ไม่รู้ว่าควรพูดว่าเขาใจจืดใจดำดีหรือไม่เขากับซืออี๋รักกันมาหลายปีขนาดนั้น ทว่าไม่อาจเทียบเวินเหลียงที่แต่งงานกันมาได้เพียงสามปีแต่ไหนแต่ไรมามีเพียงคนใหม่ยิ้ม ใครเลยได้ยินเสียงร้องไห้ของคนเก่าลู่ฉางคงรู้ว่าตัวเองพูดมากไปก็เปล่าประโยชน์ จึงหมุนตัวเตรียมจะออกไปฟู่เจิงยืนอยู่ข้างหน้าต่างครู่หนึ่ง ถึงได้หมุนตัวกลับไปยังห้อ
เวินเหลียงอึ้งไป ก่อนจะมองฟู่เจิงทีหนึ่งเมื่อครู่เธอยังคิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญ ที่แท้เขาก็จงใจงั้นเหรอ?“มีเรื่องแบบนี้ที่ไหนกัน” ฟู่เจิงปฏิเสธหานเฟิงไม่ฟัง ยื่นมือไปแผ่ไพ่ของฟู่เจิงฟู่เจิงเร็วกว่าก้าวหนึ่ง เขาดันไพ่เข้าไปในกองปฏิกิริยานี้ของเขา ใครมองไม่ออกบ้าง?หานเฟิงตะโกนโวยวาย “ไม่ได้สิ ตานี้ไม่นับ นี่พวกนายเล่นตุกติกกัน!”ฟู่เจิงหัวเราะ ไม่ได้สนใจเขา ก่อนจะมองไปที่เวินเหลียง “ดึกมากแล้ว กลับไปกันไหม?”“โอเคค่ะ”“ไม่เล่นอีกสักสองตาเหรอ?” หานเฟิงเอ่ย“วันหลังค่อยรวมตัวกันใหม่ พวกนายเล่นกันไปเถอะ วันนี้ฉันเลี้ยง”หลังฟู่เจิงทักทายกับคนอื่นเสร็จ ก็จูงมือเวินเหลียงออกไปทั้งสองคนกำลังรอลิฟต์กันอยู่ ในจังหวะนี้เอง ก็มีสองสามคนเข้ามาจากที่ไม่ไกลมาก คนที่เดินนำมาตัวไม่สูง และมีพุงพลุ้ย เมื่อเห็นฟู่เจิง ก็เดินเข้ามาพร้อมทั้งใบหน้าที่แฝงไปด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะตะโกนเรียกขึ้นว่า “ประธานฟู่”ฟู่เจิงเห็นผู้มาเยือน บนใบหน้าไร้ความรู้สึก “คุณฉู่”ฉู่เจี้ยนกั๋ว “ไม่นึกเลยว่าจะเจอประธานฟู่ที่นี่ บังเอิญจริง ๆ”หลังทั้งสองคนทักทายกันสองสามประโยค ฉู่เจี้ยนกั๋วก็หัวเราะพลางเอ่ยว่า “ซื
หากวันนี้คนที่อยู่ข้างฟู่เจิงเป็นผู้หญิงคนอื่น เขาก็จะไม่เป็นกังวล แต่ดันเป็นเวินเหลียงฐานะของเวินเหลียงพิเศษ ชาติกำเนิดของเธอทั่ว ๆ ไป ภูมิหลังธรรมดา สู้ลูกสาวตระกูลไฮโซคนอื่นไม่ได้ แต่ว่าเธอได้รับความชื่นชอบของคุณท่านฟู่เป็นอย่างมากส่วนฟู่เจิงเองก็ถูกคุณท่านฟู่เลี้ยงดูมาจนเติบใหญ่ รักและผูกพันธ์กับคุณท่านเป็นอย่างมากหากคุณท่านฟู่คลุมถุงชนฟู่เจิงกับเวินเหลียง ภายใต้ความกตัญญูของฟู่เจิง เขาไม่มีทางปฏิเสธอย่างแน่นอนซึ่งก็หมายความว่าเวินเหลียงเป็นภัยคุกคามใหญ่ต่อซืออี๋ผู้ช่วย “ประธานฉู่ครับ ให้สะกดรอยตามไหมครับ?”ฉู่เจี้ยนกั๋ว “ไม่ต้อง ในเมื่อประธานฟู่ไม่ได้มาร่วมงานเลี้ยงทางธุรกิจอะไร งั้นก็คงเป็นเรื่องส่วนตัว พวกเราอย่าไปรบกวนเขาเลย”เขารู้สึกอายุยืนเกินไปแล้วสินะถึงได้กล้าสะกดรอยตามฟู่เจิงผู้ช่วย “ครับ ประธานฉู่”กลับมาถึงบ้าน คนรับใช้ก็เอาน้ำมาให้แก้วหนึ่ง พร้อมทั้งเอ่ยขึ้นว่า “คุณท่านคะ คุณท่านรองมาได้สักพักหนึ่งแล้วค่ะ ตอนนี้กำลังรอคุณอยู่ในห้องทำงานค่ะ”คุณท่านรองที่เธอเอ่ยถึงคือพ่อของฉู่ซืออี๋ ฉู่เจี้ยนจวินครั้นฉู่เจี้ยนกั๋วได้ยินชื่อนี้ ก็ขมวดคิ้วมุ่นพร้อม “อืม
“ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ผมแค่อยากจะพูดว่า ซืออี๋ทำความดีความชอบให้กับบริษัทมากมาย พี่ใหญ่พี่เป็นลุงของซืออี๋ คงไม่ปฏิบัติต่อเธออย่างขาดความยุติธรรมหรอกใช่ไหม? ซืออี๋เป็นบุคคลที่ทำผลงานยิ่งใหญ่ให้บริษัท แต่ว่าตอนนี้เธอกลับไม่มีหุ้นในบริษัทเลยสักนิด แบบนี้เหมาะสมเหรอครับ?”ฉู่เจี้ยนกั๋วรู้ดี ที่ฉู่เจี้ยนจวินอ้างฉู่ซืออี๋ขึ้นมา จุดประสงค์ในท้ายที่สุดก็หนีไม่พ้นอยากได้หุ้นก็เท่านั้นเขาไม่ได้โต้แย้งกับฉู่เจี้ยนจวิน ทว่ากลับพูดว่า “พูดถึงซืออี๋ งั้นฉันขอถามหน่อย ตอนนี้ความสัมพันธ์ของเธอกับฟู่เจิงเป็นยังไงบ้าง?”“แน่นอนว่าต้องดีอยู่แล้ว สองสามวันก่อนยังจัดงานเลี้ยงวันเกิดให้ซืออี๋อยู่เลย พี่ก็เห็นแล้วไม่ใช่เหรอ?” บนใบหน้าของฉู่เจี้ยนจวินเผยสีหน้าของความภาคภูมิใจออกมาในชีวิตนี้เขาคิดจะทำอะไรก็ล้มเหลวไม่เป็นท่าไปหมด ทว่ากลับมีลูกสาวดี ตอนนี้เดินออกไปทางไหน ใครไม่ประจบแจงเขาด้วยคำพูดดี ๆ บ้าง?“แน่ใจเหรอ?”“ผมจะโกหกพี่ไปทำไม?” ฉู่เจี้ยนจวินมองเขาอย่างเหยียดหยาม “ตอนนี้ซืออี๋เป็นคุณนายน้อยในอนาคตของตระกูลฟู่ นี่เป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน”“ฉันว่าไม่นะ”“พี่ใหญ่ นี่พี่หมา
“วันนี้ถ่ายละครเสร็จหรือยัง?”“เพิ่งถ่ายเสร็จ กลับโรงแรมแล้ว”“ซืออี๋ พ่อมีอะไรอยากจะถามลูกหน่อย ตอนนี้ฟู่เจิงปฏิบัติกับลูกยังไงบ้าง? ตอนนี้ความสัมพันธ์ของพวกลูกเป็นยังไงบ้าง? เขาพูดถึงเรื่องแต่งงานกับลูกบ้างหรือเปล่า?”ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่งเมื่อเห็นฉู่ซืออี๋ตอบสนองเช่นนี้ สีหน้าของฉู่เจี้ยนจวินก็เคร่งขรึมขึ้นมาดูท่าตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างซืออี๋กับฟู่เจิงจะอยู่ในช่วงวิกฤติจริง ๆบนใบหน้าของฉู่เจี้ยนกั๋วเต็มไปด้วยความกังวล ทว่าในใจกลับลอบถอนหายใจ ระหว่างซืออี๋กับฟู่เจิงเกิดปัญหาขึ้น ต่อไปฉู่เจี้ยนจวินคงไม่มีกะจิตกะใจมาขอแบ่งหุ้นกับเขาแล้วเขารู้ว่ายิ่งฉู่ซืออี๋กับฟู่เจิงสนิทสนมกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ฉู่เจี้ยนจวินก็ยิ่งพอใจ หากพวกเขาแต่งงานกันจริง ๆ สองพ่อลูกฉู่เจี้ยนจวินก็จะมีฟู่เจิงคอยหนุนหลัง ไม่แน่ว่าบริษัทจะตกไปอยู่ในกรรมสิทธิ์ของพวกเขาทว่าฉูเจี้ยนกั๋วไม่อยากเห็นเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น หุ้นเหล่านั้นเดิมทีก็ควรเป็นของเขาอยู่แล้ว“พ่อ ทำไมจู่ ๆ ถึงถามเรื่องนี้ขึ้นมาล่ะ?” ฉู่ซืออี๋เอ่ย“ลูกตอบพ่อมาตามความจริง ตกลงพวกลูกมันยังไงกันแน่? จะบอกลูกให้นะ วันนี้ลุงใหญ่ของลูกเจอฟู่เจ
อิเลียลุกขึ้นพรวด พลางมองเยี่ยนหวยอย่างเหลือเชื่อ“ถ้าเธอยังเห็นฉันเป็นพี่ชายของเธออยู่ ก็เชื่อฟังฉัน แล้วกลับไปเมืองฟิลาเดลเฟียพรุ่งนี้ซะ!” เยี่ยนหวยนั่งตัวตรงพลางเงยหน้ามองเธออยู่บนโซฟา“ฉันไม่กลับ!” อิเลียเดือดดาลจนแค่นเสียงฮึออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะกลับไปนั่งตรงมุมโซฟา “อยากกลับพี่ก็กลับไปเองซะเลยสิ!”“ฟู่เจิงไม่ใช่คนดี ต่อให้ระหว่างพวกเธอมีลูกด้วยกัน เขาก็ไม่มีทางคบกับเธอ”ก่อนหน้านี้ฟู่เจิงเคยมีเรื่องอื้อฉาวว่ามีชู้ ตอนนี้ก็มีอดีตภรรยาที่มีความสัมพันธ์คลุมเครือมาอีกคน ขอให้เป็นผู้ใหญ่ที่รักลูกสาว ก็จะไม่มีวันเลือกเขาทั้งนั้น“พี่รู้ได้ยังไงว่าเขาไม่ใช่คนดี? พี่รู้ได้ไงว่าเขาจะไม่คบกับฉัน? วันนี้ตอนเที่ยงเรายังไปกินข้าวด้วยกันอยู่เลย!”เมื่อเห็นอิเลียดื้อดึง ในใจของเยียนหวยก็รู้สึกไม่ได้ดั่งใจ เขาแสยะยิ้มออกมาทีหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “พวกเธอไม่ได้ไปกินข้าวด้วยกันตามลำพัง แต่ฟู่ซือฝานอยู่ข้าง ๆ ใช่ไหม?”ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ ฟู่เจิงจะมากินข้าวกับอิเลียตามลำพังได้ยังไง? นอกเสียจากเขาคิดจะเลิกกับเวินเหลียงจริง ๆ“...ใช่ ก็เขาเป็นลูกของพวกเรานี่” เมื่อเห็นว่าถูกเดาทางถูก อิเลียก็พูดอึ
แต่หลังจากเดินตามแผนแล้วถึงได้พบว่า นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เลยถ้าพ่อแม่คุณลุงคุณป้ารู้ว่าเธอมีลูกนอกสมรสข้างนอก ต้องเข้ามาแทรก และไม่แน่ว่าจะพาตัวเธอกับลูกกลับไป“อิเลีย ผมเข้าใจนะครับคุณในฐานะแม่แท้ ๆ คุณอยากรีบกระชับความสัมพันธ์กับฝานฝาน แต่ก็อย่าตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก โดยเฉพาะมักจะไปหาฝานฝานที่โรงเรียนอนุบาล แบบนี้จะส่งผลกระทบกับชีวิตของเธอได้นะครับ”“ฉันรู้แล้วค่ะ ต่อไปจะไม่ไปหาเขาที่โรงเรียนอนุบาลอีก ฉันเห็นว่าคุณกินน้อยมาก อาหารที่เหลือไม่ถูกปากหรือเปล่า?”ฟู่เจิง “...ก่อนมาผมกินมาบ้างแล้ว”หลังกินข้าวเที่ยงเสร็จ ฟู่ซือฝานรบเร้าขอกลับกับฟู่เจิงเธอล้วงกลยุทธ์ร้องไห้งอแงชักดิ้นชักงออยู่ที่พื้นของเด็กห้าขวบออกมาอย่างล้ำลึก ไม่มีเหตุผล ทว่าอิเลียฝืนเธอไม่ได้อิเลียทำได้เพียงกลับไปที่บ้านของเซี่ยเจิน“อิเลีย เธอกลับมาแล้วเหรอ?”เมื่อเห็นอลิซนั่งอยู่บนโซฟา อิเลียเดินมานั่งลง “เป็นยังไงบ้าง? ครั้งนี้เธอไปเมืองซีกับซีซาร์ ได้แสร้งทำเป็นเจอโดยบังเอิญ แล้วไปกินข้าวกับเขาอะไรหรือเปล่า?”อลิซเบะปาก “เปล่า”“ทำไมล่ะ? โอกาสดีขนาดนั้นทำไมเธอไม่คว้าเอาไว้?”“เขางานยุ่งมาก ฉันกล
อิเลียจัดผมด้วยท่าทางราวกับไม่มีเจตนาอื่น หน้าตาเผยความตื่นเต้นออกมาดูท่าเธอจะเลือกวิธีถูกจริง ๆในตอนนี้เธอเพิ่งเข้าใกล้ฟู่ซือฝานไม่เท่าไร ท่าทีของฟู่เจิงเขาก็ผ่อนคลายลงเยอะแล้วผ่านไปยี่สิบนาที ฟู่เจิงก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องรับรองนี่เป็นการเจอกันครั้งที่สองหลังจากวันนั้นเขานั่งลงข้าง ๆ ฟู่ซือฝาน พลางพยักหน้าให้อิเลียเบา ๆ “รบกวนแล้ว ไม่ถือสาที่ผมมาร่วมโต๊ะด้วยใช่ไหม?”“ไม่ถือสา นั่งเถอะค่ะ”สีหน้าของอิเลียเย็นชา ราวกับยังอยู่ต่อหน้าคุณหญิงและฟู่ชิงเยว่ครั้งก่อน เธอไม่ได้โกรธที่ฟู่เจิงปฏิเสธเธออย่างไร้ความปรานี“งานผมยุ่งมาก ยากที่จะใส่ใจคุณกับฝานฝานได้มากขนาดนั้น”“ฝานฝานเป็นลูกของฉัน นี่เป็นสิ่งที่สมควรอยู่แล้ว ฉันไม่รู้ว่าคุณจะมา ก็เลยสั่งอาหารไปสุ่ม ๆ เดี๋ยวอาหารมาเสิร์ฟคุณก็ดูแล้วกันว่าอยากจะสั่งเพิ่มไหม”“ผมไม่เลือกกิน” ฟู่เจิงตอบจากนั้นพนักงานก็เริ่มมาเสิร์ฟอาหารฟู่เจิงมองเนื้อแพะที่มาเสิร์ฟเต็มโต๊ะ เขาเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก้มหน้าไปมองฟู่ซือฝานฟู่ซือฝานก้มศีรษะน้อย ๆ อย่างกระวนกระวายอิเลียหยิบตะเกียบขึ้นมา “ไม่ต้องเกรงใจ กินเลยค่ะ”ฟู่เจิงลังเลอยู่ครู่หนึ่
เจียงเฉิงเที่ยงวันศุกร์ อิเลียไปรับฟู่ซือฝานออกไปกินข้าวเที่ยงที่คฤหาสน์ย่านซิงเหอวานเธอฉีกยิ้มพลางพูดกับฟู่ซือฝานว่า “เมื่อวานแม่ว่าจะไปรับหนูที่โรงเรียนอนุบาล จู่ ๆ ก็นึกถึงคำพูดของหนูเมื่อครั้งก่อนได้ ก็เลยมาวันนี้ วันนี้ตอนบ่ายแม่จะพาหนูไปเล่นดี ๆ เป็นยังไงจ๊ะ?”ฟู่ซือฝานเอียงคอพลางครุ่นคิด “ตอนบ่ายหนูต้องทำการบ้าน แค่กินข้าวเที่ยงก็พอแล้วค่ะ”“ก็ได้ งั้นหนูคิดไว้หรือเปล่าว่าอยากกินอะไร?”“ไปร้านอาหารที่มีเมนูเนื้อแพะแนะนำแล้วกันค่ะ” ฟู่ซือฝานเอ่ยขึ้นด้วยทีท่าจริงจัง “วันนี้คุณลุงบอกว่าจะไปกินข้าวเที่ยงเป็นเพื่อนหนู ไม่รู้ว่าจะมาไหม”นัยน์ตาอิเลียวาบความปลื้มปีติออกมา “จริงเหรอ?”“เขาเคยบอกไว้แบบนี้ค่ะ คุณน้าคะ ที่คุณน้ารับหนูออกมา ไม่ใช่เป็นเพราะอยากกระชับความสัมพันธ์กับหนูสองต่อสองเหรอคะ? ทำไมถึงหวังให้คุณลุงมาด้วยล่ะคะ?”เจ้าตัวน้อยเอ่ยถามขึ้นด้วยใบหน้าจริงจัง“น้า...น้ามีเรื่องอยากพูดคุยกับพ่อของหนูน่ะ แล้วก็หวังว่าเราจะได้กินข้าวด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว” อิเลียรีบหาข้ออ้างทันทีเจ้าเด็กคนนี้ หูตาเฉียบแหลมจริง ๆ“อ้อ”“น้าจะหาร้านอาหารเนื้อแพะเดี๋ยวน
“เรียกฉันทำไม?” เยี่ยนหวยมองเธอด้วยสีหน้าไร้เดียงสา“ตอนนี้มันฤดูร้อน”ผ่านฤดูใบไม้ผลิมาแล้ว“ฉันแค่นึกถึงวันนั้นที่ไปติวให้เธอแล้วเจอแม่เธอเข้าโดยบังเอิญ เธอคิดไปถึงไหน?” เยี่ยนหวยเลิกคิ้วถังซือซือชะงักไปมีครั้งหนึ่งตอนที่เธอติวอยู่ในบ้าน แล้วบังเอิญเจอแม่ของเธอเข้าจริง ๆ แต่นั่นมันเรื่องตอนเทอมที่สองเยี่ยนหวยต้องจงใจพูดถึงวันนั้นตอนเทอมแรกแน่ ๆ ให้เธอเข้าใจผิดถ้าเธอชี้ไปเลยว่าเยี่ยนหวยจำผิด ก็จะเข้าแผนของเยี่ยนหวย เหมือนว่าเธอยังไม่เคยลืมเรื่องในอดีต คิดถึงเรื่องราวเหล่านั้นของเธอกับเยี่ยนหวยอยู่ตลอด“ตอนนี้ไม่ใช่ฤดูร้อนเหรอ? นายคิดไปถึงไหนอีก?” เธอปัดตกเรื่องนี้ไปอย่างมั่นใจทันทีหลังพูดจบ เธอก็หมุนตัวเดินไปด้านหน้าต่อ “ไม่พูดแล้ว รีบไปร้านถัดไปเถอะ”อยู่ข้างนอกจนถึงสี่ทุ่ม ทั้งสองคนถึงกลับไปยังโรงแรมด้วยกันถังซือซืออยากเรียกรถกลับไปเอง ไม่อยากให้เยี่ยนหวยไปส่งเธอเยี่ยนหวยจึงเอ่ยไปตามตรงว่า “ฉันพักอยู่ที่โรงแรมเดียวกันกับเธอ”ถังซือซือ “...”นี่ไม่ใช่ครั้งแรกแล้วคราวก่อนตอนที่เวินเหลียงถ่ายรูปเยี่ยนหวยรูปแรกที่เมืองฟิลาเดลเฟีย เวินเหลียงก็ถามว่าช่วงนี้เยี่ยนหวย
เมืองซีในฐานะเมืองใหญ่ของเจียงหนาน ประเภทของกินเล่นมีมากมาย ของกินเอกลักษณ์ที่ขึ้นชื่อไปทั่วประเทศอาทิ เต้าหู้เหม็น ไส้กรอกยักษ์ เส้นหมีเฝิ่น กุ้งเผ็ดเป็นต้นถังซือซือเคยมาเมืองซีตอนมาทำงานต่างถิ่นก่อนหน้านี้ เวลาค่อนข้างกระชั้นชิด จึงทำได้เพียงเดินช็อปปิงที่อื่น แต่เพิ่งเคยมาถนนคนเดินที่นี่เป็นครั้งแรกเธอซื้อไส้กรอกยักษ์สองชิ้นก่อน และแบ่งให้เยี่ยนหวยหนึ่งชิ้นกินไปได้เพียงครึ่งเดียว ถังซือซือก็หยุดอยู่ตรงหน้าร้านขายขนมฉือปา เธอกลืนน้ำลายแล้วถามขึ้นว่า “รู้ไหมคะว่าตรงไหนมีถังขยะบ้าง?”“ที่เหลือเธอไม่กินแล้วเหรอ?”“อืม”“ไม่อร่อย?”“ไม่ใช่ อร่อยมาก แต่ว่ายังมีของอร่อยอื่น ๆ อีกเยอะแยะ ฉันอยากเก็บท้องเอาไว้”เยี่ยนหวย “...”“เอามาให้ฉันก็ได้” เยี่ยนหวยรับไส้กรอกครึ่งชิ้นที่เหลืออยู่มาจากในมือของเธอ ก่อนจะเติมเข้าไปในท้องอย่างไม่มีภาระใด ๆถังซือซือซื้อขนมฉือปาแล้วเธอทำตัวอย่างกับโจร แต่ละร้านไม่ยอมปล่อยไปเลย ทว่าก็ชิมเพียงสองสามคำ ทั้งหมดที่เหลือก็โยนให้เยี่ยนหวยอย่างสบายใจเยี่ยนหวยเพลิดเพลินกับพฤติกรรมพรรค์นี้ ในใจเข้าใจได้ในทันที ราวกับกลับไปเมื่อเจ็ดปีก่อนหลังเรียนอย
“มันเรื่องอะไรกันแน่?”ก่อนหน้านี้ที่เยี่ยนหวยอยู่ที่เจียงเฉิง กลับไม่ได้สังเกตเท่าไรว่าอิเลียกำลังทำอะไรอยู่ เธอออกไปข้างนอกทุกวัน เยี่ยนหวยคิดเพียงแค่ว่าเธอกำลังไปเที่ยวเล่นถังซือซือไม่ใช่คนที่จะกุเรื่องมั่วซั่ว เธอพูดแบบนี้ ต้องรู้อะไรบางอย่างแน่ ๆ“พูดไปแล้วก็ยาว ตอนแรกฟู่ชิงเยว่อาของฟู่เจิงรับเลี้ยงเด็กกำพร้าอยู่ที่เมืองนอก ตอนนี้อายุห้าขวบแล้ว ปีที่แล้วอาเหลียงแท้ง แล้วฟู่ชิงเยว่ติดธุระพอดี เลยส่งเด็กคนนั้นกลับประเทศมาให้ฟู่เจิงดูแลช่วงหนึ่ง ฟู่เจิงเลยให้เด็กคนนั้นอยู่ในประเทศไปเลยเพื่อง้ออาเหลียง ปกติจะมาอยู่เป็นเพื่อนอาเหลียง และเด็กคนนั้นเองก็เข้าไปอยู่ในทะเบียนบ้านของฟู่เจิง แต่ว่า...”เยี่ยนหวยเดาเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไปออกแล้ว จึงรับช่วงเอ่ยขึ้นต่อว่า “แต่ว่าจู่ ๆ ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวบอกว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นลูกของฟู่เจิงกับอิเลีย?”“ใช่ รายละเอียดฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน เหมือนว่าจะเกี่ยวข้องกับอาของฟู่เจิงนิดหน่อย เธอรู้ตัวตนของเด็กผู้หญิงคนนั้นมาตั้งแต่แรก และไม่ชอบอาเหลียงมาโดยตลอด ยังไงตอนนี้อาเหลียงก็อยู่กับฉัน เขากับฟู่เจิงทะเลาะกันอีกแล้ว”เยี่ยนหวยเอ่ยควา
“เยี่ยนหวย!!”ประตูลิฟต์เปิดออก ทั้งสองคนเข้าไปกันตามลำดับ แล้วลงไปยังลานจอดรถใต้ดินตรงมุมเลี้ยว ในหัวของผู้หญิงสวมหน้ากากอนามัยวาบภาพที่เห็นเมื่อครู่ขึ้นมา หมัดที่ห้อยอยู่กำขึ้นแน่น เธอก้มหน้าทั้งดวงตาที่ประกายความอำมหิตออกมาหากเวินเหลียงอยู่ตรงนี้ คงจะจำได้แน่ ๆ ว่าผู้หญิงที่สวมหน้ากากอนามัยคนนี้ก็คืออลิซที่เธอมาเจียงเฉิง ก็เพราะเยี่ยนหวย เยี่ยนหวยมาเมืองซีเมื่อสองวันก่อน เธอเองก็ตามมาเช่นกันอิเลียถามเลขาของเยี่ยนหวย เมื่อรู้โรงแรมของเขาก็บอกกับอลิซทีแรกอลิซคิดว่าเยี่ยนหวยมาทำธุระที่เมืองซี จากนั้นก็ค่อย ๆ พบว่ามันไม่ชอบมาพากลเยี่ยนหวยไม่ยุ่งเลยสักนิดแถมยังมีเวลาไปสอบถามร้านอาหารท้องถิ่น ถนนคนเดิน จุดชมวิวของเมืองซีเป็นต้น อีกต่างหาก ไม่เหมือนมาทำงานต่างถิ่น แต่เหมือนมาเที่ยวเสียมากกว่าจนกระทั่งวันนี้ เมื่อได้เห็นภาพนั้น อลิซถึงเข้าใจทุกอย่างที่แท้คนที่ซีซาร์ชอบไม่ใช่เฟย์ แต่เป็นถังซือซือเพื่อนของเฟย์!ที่แท้เขาไม่ได้มาทำงานต่างถิ่นที่เมืองซี แต่มาเพื่อตามจีบถังซือซือ!ที่เขาสอบถามร้านอาหารและจุดชมวิวของเมืองซี ก็เพื่อพาถังซือซือไปวันนี้!ในใจอลิซอิจฉาเป็นอย่างม
เมื่อเยี่ยนหวยได้ยินดังนั้น ก็รู้ในทันทีว่าเวินเหลียงไม่ได้รักษาคำมั่นสัญญาแต่เขาก็เตรียมตัวไว้นานแล้ว วันนั้นหลังจากกลับไปก็ให้คนไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด แล้วตัดคลิปมาใส่ไว้ในโทรศัพท์เมื่อได้ยินถังซือซือถามขึ้น เขาก็รีบส่งให้เธอทันที “ก็แค่คนที่ไม่สลักสำคัญอะไรคนหนึ่ง ฉันปฏิเสธเขาไปแล้ว”ถังซือซือดูคลิปรอบหนึ่ง ก่อนจะเบะปาก “อยู่ต่างประเทศคุณเยี่ยนมีสาวมาชอบเพียบเลยนะคะ”“แต่ฉันสนใจอยากจะครอบครองแค่เธอ”“จะยอมให้ฉันครอบครองไหม คุณถัง?”เยี่ยนหวยนั่งเอี้ยวตัว แขนข้างหนึ่งพาดอยู่บนพนักพิงเก้าอี้ เขาโน้มตัวเข้ามา ตัวท่อนบนใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ กลิ่นหอมฉุยจาง ๆ และกลิ่นอายของชายหนุ่มที่มาพร้อมกับการบุกรุกโอบล้อมเธอเอาไว้เขาดันแว่นตากรอบทอง สีหน้าอบอุ่น ฉีกยิ้มทว่าก็ราวกับไม่ยิ้ม มุมปากกระตุกรอยยิ้มเล็กน้อย ค่อนข้างมีความรู้สึกประเภทหน้าเนื้อใจเสือถังซือซือเหม่อไปครู่หนึ่ง“คุณถัง?”ใบหน้าหล่อเหลาตรงหน้าขยายใหญ่ขึ้นอีกครั้ง ไออุ่นร้อนปะทะเข้ามาที่หน้า ในที่สุดถังซือซือก็ได้สติกลับมา เธอเอนหลังพลางตบหน้าอก “นายทำฉันตกใจหมด...ไป ไปเดินหาของกินเล่นกันเถอะ”เธอลุกขึ้นและเดินออกไปอย่าง