อำเภอลี่เหมิน / เมืองเสิ่นโจว
“หลีกทางหน่อย ๆ”
“เร็วเข้านั่นรถม้าส่งสมุนไพรของร้านยา “เป่าจิ้นถาน” นางกำลังจะรีบไปส่งยาให้ผู้ประสบภัยนอกเมือง รีบหลีกทางเร็ว ๆ”
ชาวบ้านในท้องตลาดเริ่มเก็บของที่วางเกะกะเพื่อเปิดเส้นทางให้รถม้าที่ขนส่งยาสมุนไพรจำนวนมาก โดยมีคุณหนูสกุลคหบดีใหญ่ “ถานซินเยว่” เป็นผู้นำทางกับองครักษ์อีกสองคน
“สกุลถานนี่ร่ำรวยแล้วยังใจบุญอีก”
“ถุย! ใจบุญบ้าบออันใด พวกเขาขายให้กับทางการมิใช่หรือ แม้แต่ข้าวสารกับอาหารพวกนี้ก็ขาย แล้วยังขายราคาเต็มด้วย”
“หุบปากเจ้าไปเลย! แม้ว่าสกุลถานจะขายของพวกนี้ให้ทางการ แต่ของที่ร้านยา “เป่าจิ้นถาน” ของคุณหนูสามมิได้คิดเงินเลยแม้แต่เหวินเดียว นางมิได้หน้าเลือดเหมือนกับอนุของคหบดีถานผู้นั้นหรอกนะ”
“ย่าส์!”
“คุณหนู ข้างหน้านี่แหละขอรับ”
“พวกเจ้าดูด้านหลัง ข้าจะเข้าไปหาหมอหลวงเวิน”
""ขอรับ""
“จื่อโม่” และ “จื่อลั่ว” ผู้ติดตามของถานซินเยว่รับคำสั่งและค่อย ๆ พารถม้าเดินเข้ามายังจวนของท่านหมอ ซึ่งตอนนี้ใช้เป็นสถานที่รักษาและปรุงยาเพื่อส่งไปให้ผู้ป่วยที่อยู่ด้านนอกจวน โดยมีคนของทางการเป็นผู้ดูแล
“ท่านหมอเวิน”
“คุณหนูถาน! คุณพระ ในที่สุดท่านก็มาแล้ว”
“ขออภัยที่ข้ามาช้า สมุนไพรบางตัวพึ่งจะมาส่ง ช้านิดหน่อยต้องขออภัยด้วยเจ้าค่ะ”
“ไม่เป็นไร ๆ ได้ท่านช่วยอยู่หลายครั้งข้าเกรงใจมากเหลือเกิน”
“เช่นนั้นข้าให้พวกเขาเอายาเข้ามาเลยนะ จื่อโม่!”
“ขอรับ ไป ขนเข้าไปได้เลย”
“คุณหนูถาน เชิญพักดื่มชาทางนี้เถิดขอรับ”
“เช่นนั้นก็ขอรบกวนท่านหมอแล้ว”
“ถานซินเยว่” เดินตามหมอ “เวินฉาง” เข้าไปด้านใน สายตากลมโต สดใสและยิ้มง่าย ทำให้ทุกคนที่นี่รู้จักและคุ้นเคยกับคุณหนูสามสกุลถานเป็นอย่างดี ระหว่างทางเดินเข้าไปนางก็แวะทักทายอีกหลาย ๆ คนที่ทั้งตะโกนทักทายและยกขนมมาให้นางกินกับน้ำชา
“ขอโทษด้วยที่ไม่มีชาดีรับรองท่าน เหลือเพียง...”
“ช่างเถอะ ๆ ขอแค่มีน้ำสะอาดดื่มก็เพียงพอแล้ว ที่นี่ยังลำบากอยู่ไม่ต้องมากพิธีเช่นนั้น จริงสิท่านหมอเวินทำไมทางการไม่ส่งหมอหลวงมาช่วยพวกท่านเพิ่มเล่า น้ำป่าระลอกสองที่มาเมื่อเจ็ดวันก่อนทำให้ที่นี่มีผู้ประสบภัยเพิ่ม หรือว่าเรื่องยังส่งไปไม่ถึง”
“หาใช่เช่นนั้นไม่ขอรับ ท่านอ๋องทรงทราบเรื่องเหตุการณ์ที่นี่แล้ว อีกอย่างหมอหลวงจากวังหลวงของเสิ่นโจวกำลังเดินทาง น่าจะอยู่ระหว่างการเดินทาง คงจะมาถึงภายในวันหรือสองวันนี้แหละขอรับ”
“เฮ้อ ผู้ใดจะคิดว่าอุทกภัยครั้งนี้จะหนักหนาแล้วมาถึงสองคราในเวลาอันสั้นกันเล่า จริงสิ! ข้ายังมีพวกผ้าห่มและถ่านแห้งเอาไว้ให้พวกท่านใช้ อีกเดี๋ยวจะตามขบวนยามา แต่คงจะช้านิดหน่อยเพราะของมันค่อนข้างหนัก”
“คุณหนูถานช่างมีน้ำใจยิ่งนัก ข้าน้อยต้องขอบคุณท่านแทนผู้ประสบภัยด้วย ที่จริงทุกคนต่างก็ลำบากด้วยกันทั้งนั้น แต่ก็มิอาจเอ่ยปากขอความช่วยเหลือ แม้ว่าทางการจะส่งของและเสบียงมาช่วยบรรเทาภัย แต่เพราะภัยพิบัติร้ายแรงเกินคาดการณ์ ดังนั้น…”
“ท่านหมออย่าได้เกรงใจ แค่อย่าบอกให้ผู้ใดรู้ว่ามาจากข้าก็พอ ท่านก็รู้ว่า...”
“เฮ้อ ข้าเข้าใจคุณหนูดี ไม่เข้าใจเลยว่าเหตุใดคหบดีถานจึงได้ปล่อยให้อนุหลี่ดูแลกิจการเช่นนี้ ทำให้ท่านลำบากทั้ง ๆ ที่ท่านช่วยพวกเราได้มากพอกับทางการเสิ่นโจว”
“เอาล่ะข้าไม่รบกวนท่านดีกว่า ยาที่ข้าส่งมาครั้งนี้มีสมุนไพรหายากหลายตัวท่านลองดูตามรายการนี้ หากว่ายังขาดอะไรก็รีบให้คนไปแจ้งที่เป่าจิ้นถาน ข้าจะรีบให้คนจัดหามาให้”
“ขอบคุณขอรับ คุณหนูถานจัดยามาให้ไม่มีครั้งใดที่จะขาดยาสำคัญ อีกทั้งราคาตามท้องตลาดก็ค่อนข้างแพง ข้าน้อยเกรงใจเหลือเกินแล้ว”
คำนับจากผู้ที่อาวุโสกว่าทำให้ซินเยว่ทำตัวไม่ถูก นางรีบคำนับตอบกลับให้ท่านหมอเวินทันที
“ท่านหมอทำเช่นนี้อีกแล้ว ท่านจะให้ข้าอายุสั้นหรืออย่างไร ทุกคนล้วนเป็นชาวบ้านของลี่เหมิน ช่วยอะไรได้ก็ต้องช่วย”
“ขอบคุณขอรับ ขอบคุณ”
“ซินเยว่ เจ้ามาแล้วหรือ”
“ท่านหมอจาง ท่านก็อยู่ด้วย”
“จางหลงจื่อ” หมอหลวงที่ถูกส่งมาช่วยหมอหลวงเวินฉางเดินมาทักทายนาง เขาเป็นหมอหลวงที่อายุยังน้อยและพึ่งเข้าไปทำงานในวังหลวงของเสิ่นโจว แต่ที่อำเภอลี่เหมินเกิดภัยจึงถูกส่งมาช่วยที่นี่
“เจ้าก็ยังสดใสเช่นเดิม ยิ้มเช่นนี้แสดงว่าคงได้สมุนไพรหายากมาฝากข้าสินะ”
“ท่านก็ลองเดาดูสิ”
“อืม…ปิงหลาง”
“โธ่นั้นมันสมุนไพรพื้น ๆ ที่ร้านข้ามีออกเยอะแยะ”
“เช่นนั้นก็…ปาโต้ว”
“ไม่ใช่ ๆ เป็น “ชิงเฮา” ต่างหาก”
“จริงหรือ! ได้มาจริงหรือ เจ้ามิได้หลอกข้านะ”
“ข้าจะไปหลอกท่านได้เช่นไร สหายของอาจารย์พึ่งกลับมาจากป่าลึกแดนประจิม พวกท่านก็รู้ว่าป่าแถบนั้นมีต้นชิงเฮามาก ข้าก็เลยขอแบ่งมาให้ท่าน เผื่อว่าจะใช้ประโยชน์ได้”
“ยอดไปเลย”
เมื่อคุยกันได้ไม่นาน องครักษ์ทั้งสองของซินเยว่ก็เดินมาพร้อมกับรายงานว่า ขนส่งสมุนไพรเข้าไปเก็บเรียบร้อยแล้ว
“คุณหนู ส่งของเรียบร้อยแล้วขอรับ”
“ขอบใจพวกเจ้ามาก เช่นนั้นหมอเวิน หมอจางข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะ เอาไว้พบกันใหม่”
“เดี๋ยวสิ นี่เจ้าจะกลับเลยหรือ”
“ใช่แล้ว ข้าต้องกลับไปช่วยอาจารย์เก็บร้าน ท่านก็รู้ว่าอาจารย์ข้าขี้บ่นขนาดไหน อีกอย่าง…”
ท่านหมอทั้งสองรู้ดีว่ากฎของจวนคหบดีนั้นเคร่งมากเพียงใด ถานซินเยว่แม้จะเป็นบุตรภรรยาเอก แต่นับจากที่มารดาของนางป่วยตายไปตั้งแต่นางอายุเพียงสิบปี นางก็สนใจที่จะร่ำเรียนวิชาแพทย์ บิดาจึงนำมาฝากให้อาจารย์ “หวังเย่เหอ” เป็นผู้สอนเรื่องการใช้สมุนไพรและปรุงยา และเปิดร้านในเมืองลี่เหมินด้วย
“เช่นนั้นเอาไว้พบกันใหม่นะเจ้าคะ”
“ขอบคุณมากขอรับ แล้วพบกันใหม่”
“ข้าเดินไปส่งเจ้าเองนะ”
“ไม่เป็นไรม้าข้าอยู่แค่นี้เอง พวกท่านรีบไปทำงานเถอะ”
“เช่นนั้น…”
“ข้าไปล่ะ”
ซินเยว่ยิ้มให้พวกเขาและเดินกลับมาที่ม้าของตัวเอง เมื่อเดินมาถึงและยังไม่ทันได้ขึ้นก็เห็นขบวนขนส่งของรถม้า และอาชาสีขาวที่วิ่งเร็วกว่าทุกตัว ม้าของนางเกิดตกใจและหันไป ซินเยว่ที่ไม่ทันระวังจึงถูกม้าดึงจนล้ม
""คุณหนู""
“กรี๊ด!!”
อาชาสีขาวกับผู้ที่ขี่มันอยู่รีบลดความเร็วและหันมาทันที เมื่อเห็นว่าสตรีผู้หนึ่งถูกม้าลากเพราะเชือกของมันคงไปคล้องเข้ากับกำไลข้อมือของนางเขาจึงใช้บางอย่างดีดไปจนกำไลหยกของนางแตกออกมา
ตัวนางหลุดจากสายบังคับม้าทันที ชาวบ้านและท่านหมอต่างวิ่งเข้ามาดูเหตุการณ์ ท่านหมอเวินและหมอจางรีบวิ่งเข้ามา แต่บุรุษที่พึ่งลงจากอาชาในชุดสีขาวสะอาด สวมกวานสีเงิน ชุดเสื้อผ้าบ่งบอกได้ว่าเป็นคุณชายมีฐานะรีบเข้ามาประคองนางทันที
“แม่นาง! เจ้าบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่”
ถานซินเยว่แม้จะบาดเจ็บ แต่นางเอาแต่จับข้อมือตัวเองและหันไปมองจนทั่ว เขาเองก็ไม่เข้าใจว่านางมองหาสิ่งใดทั้ง ๆ ที่นางบาดเจ็บและดูเหมือนขาจะพลิกจนผิดรูป
""คุณหนู!!""
สององครักษ์วิ่งเข้ามา และเมื่อบุรุษหนุ่มหันไป หมอหลวงและทุกคนที่เหลือกำลังจะคำนับ เขายกมือขึ้นห้ามในทันที
“ข้าไม่เป็นไร แต่ว่า.… ไปไหนแล้วล่ะ หายไปไหน”
“แม่นางน้อย เจ้า... มองหาสิ่งใดงั้นหรือ”
“กำไลหยกขาวของข้า กำไลของท่านแม่ล่ะ อยู่ที่ใดท่านเห็นบ้างหรือไม่”
“กำไลหยกขาวงั้นหรือ”ไม่นานทหารองครักษ์ที่สวมเกราะสีเงิน ก็รีบวิ่งนำสิ่งที่ถานซินเยว่ตามหามาให้“ท่าน…เอ่อ นี่พ่ะ…ขอรับ”บุรุษหนุ่มหันมามองกำไลหยกขาวในมือที่แตกเป็นสองชิ้น ซินเยว่ยังไม่สามารถลุกขึ้นได้ หมอหลวงจางรีบวิ่งเข้ามาในทันทีเมื่อรู้ว่าซินเยว่ได้รับบาดเจ็บเพราะม้านางตกใจ“ซินเยว่! เจ้าเป็นอะไร…เอ่อ ถวาย…”“แม่นางข้าต้องขออภัยที่ทำให้เจ้าตกใจจนได้รับบาดเจ็บ ขาเจ้าคงแพลงและลุกไม่ได้ ขออภัยด้วย หมอจาง! รีบไปเตรียมตัวข้าจะรักษานาง”“ท่าน!”ไม่ทันที่นางจะได้เอ่ยถามนามของเขา บุรุษหนุ่มผู้นั้นก็รวบตัวนางขึ้นมาอุ้มท่ามกลางความตื่นตกใจของคณะหมอหลวงและทหารที่ติดตามมานับสามสิบคน ทุกคนไม่กล้าเอ่ยอะไรทั้งสิ้นจนเขาพานางเข้ามาในห้องรักษา“โอ๊ย!”“เจ็บหรือ”เขาเอ่ยถามเมื่อพานางมาวางที่เตียง ไม่คิดว่าตัวของสตรีจะเบาเช่นนี้ เพราะดูจากอายุของนางน่าจะอ่อนกว่าเขาไม่เกินห้าปี แต่สีหน้าที่ยังนิ่งระคนตกใจและเศร้านี้ทำให้เขานึกสนใจ“คือว่ากำไลหยกนี่…”“ท่านหาเจอแล้วหรือ ข้า…. มัน… แตกแล้วหรือ”“ขอโทษด้วย ข้าเข้าใจว่ามันคล้องกับสายบังเหียนม้าก็เลยตัดสินใจทำให้มันหลุดออกมา ไม่คิดว่ามันจะสำคัญ”“ช่างเถอะ
“ท่านอ๋องเสด็จมาครานี้….”“อ้อไม่ต้องมากพิธี บอกให้ทุกคนว่าไม่ต้องทำสิ่งใดเป็นพิเศษ เพียงรีบมาช่วยพวกท่าน ตอนนี้ในวังยังไม่มีเหตุการณ์อะไรน่าเป็นห่วง อีกอย่างข้าพึ่งเดินทางกลับมาจากหลิงโจวก็เดินทางมากับหลันอ๋องเลย”“เอ่อ เช่นนั้นหลันอ๋องเล่าพ่ะย่ะค่ะ”“เขากลับไปหลันโจวแล้ว เห็นว่ายังมีเรื่องที่จะต้องจัดการอยู่ หมอเวินหากมีสิ่งใดที่ต้องการเร่งด่วนก็รีบแจ้งมาได้เลย ข้าจะให้คนจัดหาให้ ขอโทษด้วยที่มาช้าไปสักหน่อยแต่ดู ๆ แล้วพวกท่านมิได้ลำบากมาก”“พ่ะย่ะค่ะ ที่นี่มีคุณหนูถานที่คอยช่วยเตรียมของที่ขาดให้ แต่ว่านางก็แอบช่วยโดยมิอาจออกนามได้”“เป็นเพราะเหตุใดกัน ดูเหมือนว่าคุณหนูผู้นี้จะมีเรื่องราวที่แอบซ่อนอยู่มากจริง ๆ”“คือว่า…”หมอหลวงเวินหันไปมองพักตร์ท่านอ๋อง แต่ก็มิได้พูดอะไรมากนักเพราะเกรงว่าจะเป็นเรื่องไม่ควร ท่านอ๋องเองก็มิได้ซักถามต่อ เขาปล่อยหมอเวินกลับออกไปทำงานและหันไปมององครักษ์ข้างกาย ผู้ที่พึ่งไปรับเขามาจากเมืองหลิงโจว“จิ่นหาว”“พ่ะย่ะค่ะ”“ส่งคนตรวจสอบสกุลถานให้ข้าที แล้วก็… ทางที่ดีให้น้องเก้าสืบหาเรื่องของสกุลถานที่ติดอยู่นอกเมืองด้วย ข้าอยากจะรู้ว่าตระกูลคหบดีถานผู้นี้มีค
เมื่อพูดจบรอยยิ้มของซินเยว่ก็เริ่มค่อย ๆ หุบลงพร้อมกับก้มหน้าลง เมื่อครู่นี้นางพึ่งจะเผลอบอกว่า “ชอบ” ออกไป แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้รู้สึกอะไรกับคำนั้น“หมอเฉินหน้านิ่งงั้นหรือ เหลวไหล ฝนจะตกแล้วเจ้าเข้ามาดื่มชาก่อนเถอะ”“มะ ไม่ดีกว่าเจ้าค่ะ ข้ายังต้องรีบกลับไปช่วยตาแก่ ไม่ใช่อาจารย์เก็บร้านอีก เอาไว้วันหลังค่อยมาดื่มชากับท่าน ข้ากลับก่อนละหมอเฉินหน้านิ่ง!”“เจ้า…เฮ้อ…ทำไมไม่เรียบร้อยเลยนะ”เฟิ่งเซียวหันไปมองตามดรุณีน้อยที่วิ่งไปขึ้นม้าของตัวเองและควบออกไป ขบวนรถม้าตามหลังนางไปอีกครั้ง“ถานซินเยว่… ช่างสดใสราวกับบุปผาในฤดูใบไม้ผลิ”เมื่อหันไปมองไม้สำหรับช่วยพยุงเขาก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ บาดแผลเมื่อหลายวันก่อนดูเหมือนว่าจะยังมิได้หายไป แต่เหมือนว่านางจะบาดเจ็บเพิ่มขึ้น เพราะวันนี้เขาได้กลิ่นยาทาแผลสดและดูเหมือนว่านางจะพันแผลที่ขามาด้วย“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ จิ่นหาว”“ขอรับคุณชาย”“เรื่องที่ให้เจ้าไปสืบได้ความว่าอย่างไรบ้าง”“หากเป็นเรื่องของสกุลถาน ข้าน้อยส่งไปให้คุณชายที่ห้องเมื่อสองวันก่อนแล้วนะขอรับ”“งั้นหรือ เช่นนั้นบ่ายนี้หากมีเรื่องด่วนอะไรก็ให้คนไปแจ้งข้าที่ห้องก็แล้วกัน”“ข
เมื่อพูดจบรอยยิ้มของซินเยว่ก็เริ่มค่อย ๆ หุบลงพร้อมกับก้มหน้าลง เมื่อครู่นี้นางพึ่งจะเผลอบอกว่า “ชอบ” ออกไป แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้รู้สึกอะไรกับคำนั้น“หมอเฉินหน้านิ่งงั้นหรือ เหลวไหล ฝนจะตกแล้วเจ้าเข้ามาดื่มชาก่อนเถอะ”“มะ ไม่ดีกว่าเจ้าค่ะ ข้ายังต้องรีบกลับไปช่วยตาแก่ ไม่ใช่อาจารย์เก็บร้านอีก เอาไว้วันหลังค่อยมาดื่มชากับท่าน ข้ากลับก่อนละหมอเฉินหน้านิ่ง!”“เจ้า…เฮ้อ…ทำไมไม่เรียบร้อยเลยนะ”เฟิ่งเซียวหันไปมองตามดรุณีน้อยที่วิ่งไปขึ้นม้าของตัวเองและควบออกไป ขบวนรถม้าตามหลังนางไปอีกครั้ง“ถานซินเยว่… ช่างสดใสราวกับบุปผาในฤดูใบไม้ผลิ”เมื่อหันไปมองไม้สำหรับช่วยพยุงเขาก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ บาดแผลเมื่อหลายวันก่อนดูเหมือนว่าจะยังมิได้หายไป แต่เหมือนว่านางจะบาดเจ็บเพิ่มขึ้น เพราะวันนี้เขาได้กลิ่นยาทาแผลสดและดูเหมือนว่านางจะพันแผลที่ขามาด้วย“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ จิ่นหาว”“ขอรับคุณชาย”“เรื่องที่ให้เจ้าไปสืบได้ความว่าอย่างไรบ้าง”“หากเป็นเรื่องของสกุลถาน ข้าน้อยส่งไปให้คุณชายที่ห้องเมื่อสองวันก่อนแล้วนะขอรับ”“งั้นหรือ เช่นนั้นบ่ายนี้หากมีเรื่องด่วนอะไรก็ให้คนไปแจ้งข้าที่ห้องก็แล้วกัน”“ข
“ท่านอ๋องเสด็จมาครานี้….”“อ้อไม่ต้องมากพิธี บอกให้ทุกคนว่าไม่ต้องทำสิ่งใดเป็นพิเศษ เพียงรีบมาช่วยพวกท่าน ตอนนี้ในวังยังไม่มีเหตุการณ์อะไรน่าเป็นห่วง อีกอย่างข้าพึ่งเดินทางกลับมาจากหลิงโจวก็เดินทางมากับหลันอ๋องเลย”“เอ่อ เช่นนั้นหลันอ๋องเล่าพ่ะย่ะค่ะ”“เขากลับไปหลันโจวแล้ว เห็นว่ายังมีเรื่องที่จะต้องจัดการอยู่ หมอเวินหากมีสิ่งใดที่ต้องการเร่งด่วนก็รีบแจ้งมาได้เลย ข้าจะให้คนจัดหาให้ ขอโทษด้วยที่มาช้าไปสักหน่อยแต่ดู ๆ แล้วพวกท่านมิได้ลำบากมาก”“พ่ะย่ะค่ะ ที่นี่มีคุณหนูถานที่คอยช่วยเตรียมของที่ขาดให้ แต่ว่านางก็แอบช่วยโดยมิอาจออกนามได้”“เป็นเพราะเหตุใดกัน ดูเหมือนว่าคุณหนูผู้นี้จะมีเรื่องราวที่แอบซ่อนอยู่มากจริง ๆ”“คือว่า…”หมอหลวงเวินหันไปมองพักตร์ท่านอ๋อง แต่ก็มิได้พูดอะไรมากนักเพราะเกรงว่าจะเป็นเรื่องไม่ควร ท่านอ๋องเองก็มิได้ซักถามต่อ เขาปล่อยหมอเวินกลับออกไปทำงานและหันไปมององครักษ์ข้างกาย ผู้ที่พึ่งไปรับเขามาจากเมืองหลิงโจว“จิ่นหาว”“พ่ะย่ะค่ะ”“ส่งคนตรวจสอบสกุลถานให้ข้าที แล้วก็… ทางที่ดีให้น้องเก้าสืบหาเรื่องของสกุลถานที่ติดอยู่นอกเมืองด้วย ข้าอยากจะรู้ว่าตระกูลคหบดีถานผู้นี้มีค
“กำไลหยกขาวงั้นหรือ”ไม่นานทหารองครักษ์ที่สวมเกราะสีเงิน ก็รีบวิ่งนำสิ่งที่ถานซินเยว่ตามหามาให้“ท่าน…เอ่อ นี่พ่ะ…ขอรับ”บุรุษหนุ่มหันมามองกำไลหยกขาวในมือที่แตกเป็นสองชิ้น ซินเยว่ยังไม่สามารถลุกขึ้นได้ หมอหลวงจางรีบวิ่งเข้ามาในทันทีเมื่อรู้ว่าซินเยว่ได้รับบาดเจ็บเพราะม้านางตกใจ“ซินเยว่! เจ้าเป็นอะไร…เอ่อ ถวาย…”“แม่นางข้าต้องขออภัยที่ทำให้เจ้าตกใจจนได้รับบาดเจ็บ ขาเจ้าคงแพลงและลุกไม่ได้ ขออภัยด้วย หมอจาง! รีบไปเตรียมตัวข้าจะรักษานาง”“ท่าน!”ไม่ทันที่นางจะได้เอ่ยถามนามของเขา บุรุษหนุ่มผู้นั้นก็รวบตัวนางขึ้นมาอุ้มท่ามกลางความตื่นตกใจของคณะหมอหลวงและทหารที่ติดตามมานับสามสิบคน ทุกคนไม่กล้าเอ่ยอะไรทั้งสิ้นจนเขาพานางเข้ามาในห้องรักษา“โอ๊ย!”“เจ็บหรือ”เขาเอ่ยถามเมื่อพานางมาวางที่เตียง ไม่คิดว่าตัวของสตรีจะเบาเช่นนี้ เพราะดูจากอายุของนางน่าจะอ่อนกว่าเขาไม่เกินห้าปี แต่สีหน้าที่ยังนิ่งระคนตกใจและเศร้านี้ทำให้เขานึกสนใจ“คือว่ากำไลหยกนี่…”“ท่านหาเจอแล้วหรือ ข้า…. มัน… แตกแล้วหรือ”“ขอโทษด้วย ข้าเข้าใจว่ามันคล้องกับสายบังเหียนม้าก็เลยตัดสินใจทำให้มันหลุดออกมา ไม่คิดว่ามันจะสำคัญ”“ช่างเถอะ
อำเภอลี่เหมิน / เมืองเสิ่นโจว“หลีกทางหน่อย ๆ”“เร็วเข้านั่นรถม้าส่งสมุนไพรของร้านยา “เป่าจิ้นถาน” นางกำลังจะรีบไปส่งยาให้ผู้ประสบภัยนอกเมือง รีบหลีกทางเร็ว ๆ”ชาวบ้านในท้องตลาดเริ่มเก็บของที่วางเกะกะเพื่อเปิดเส้นทางให้รถม้าที่ขนส่งยาสมุนไพรจำนวนมาก โดยมีคุณหนูสกุลคหบดีใหญ่ “ถานซินเยว่” เป็นผู้นำทางกับองครักษ์อีกสองคน“สกุลถานนี่ร่ำรวยแล้วยังใจบุญอีก”“ถุย! ใจบุญบ้าบออันใด พวกเขาขายให้กับทางการมิใช่หรือ แม้แต่ข้าวสารกับอาหารพวกนี้ก็ขาย แล้วยังขายราคาเต็มด้วย”“หุบปากเจ้าไปเลย! แม้ว่าสกุลถานจะขายของพวกนี้ให้ทางการ แต่ของที่ร้านยา “เป่าจิ้นถาน” ของคุณหนูสามมิได้คิดเงินเลยแม้แต่เหวินเดียว นางมิได้หน้าเลือดเหมือนกับอนุของคหบดีถานผู้นั้นหรอกนะ”“ย่าส์!”“คุณหนู ข้างหน้านี่แหละขอรับ”“พวกเจ้าดูด้านหลัง ข้าจะเข้าไปหาหมอหลวงเวิน”""ขอรับ""“จื่อโม่” และ “จื่อลั่ว” ผู้ติดตามของถานซินเยว่รับคำสั่งและค่อย ๆ พารถม้าเดินเข้ามายังจวนของท่านหมอ ซึ่งตอนนี้ใช้เป็นสถานที่รักษาและปรุงยาเพื่อส่งไปให้ผู้ป่วยที่อยู่ด้านนอกจวน โดยมีคนของทางการเป็นผู้ดูแล“ท่านหมอเวิน”“คุณหนูถาน! คุณพระ ในที่สุดท่านก็มาแล้ว