ในสายตาของหมวดอากร นิรณาเป็นผู้หญิงที่เก่งมาก แต่ก็มีข้อเสียใหญ่ ๆ คือชอบหมกมุ่น ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ
เจ้านายสาวเลยกลายเป็นคนกัดไม่ปล่อย ถ้าเกิดว่าได้ทำงานชิ้นไหนแล้ว หรือสงสัยอะไร..ความสนใจทั้งหมดจะพุ่งไปรวมที่จุดเดียว ไม่ต่างจากตอนนี้สักเท่าไหร่..ที่เธอเอาแต่ขลุกตัวอ่านเอกสารสี่ร้อยกว่าหน้า จนเป็นเวลาติดต่อกันมาร่วมกว่าสิบชั่วโมงแล้ว ยังไม่มีท่าทีจะลุกออกจากห้อง "สารวัตรครับ มีคนต้องการเข้าพบ" "ใครคะ?" เธอเงยหน้าขึ้นมาจากกองงาน ดูอ่อนระโหย "เขาบอกว่าชื่อบดินทร์ เป็นแฟนของคุณ" "ให้เขาเข้ามาค่ะ" "สารวัตรมีแฟนใหม่..แล้วจริง ๆ เหรอ?" "ฉันไม่เคยบอกหมวดเหรอคะ..นึกว่าบอกแล้วซะอีก!" สารวัตรสาว ทำหน้าสงสัย แล้วนึกขึ้นได้ ตั้งแต่กลับมาทำงาน สิ่งเดียวที่ทำอยู่ตอนนี้คือ..การสืบหาเบาะแสใหม่ จนลืมพูดลืมคุยกับเพื่อนร่วมงานมาเป็นอาทิตย์ "งั้นผมให้เขาเข้ามานะครับ" "ค่ะ" หลังจากนั้น เพียงไม่นาน บดินทร์จึงเดินมาหา สีหน้าบอกบุญไม่รับ ทำเอานิรณาได้แต้ยิ้มจืด ต้อนรับคุณสามี "เลยเวลาเลิกงาน มาหกชั่วโมงแล้ว นิไม่คิดจะกลับเหรอครับ?" เสียงทุ้มบ่นออกมาแทบจะทันทีที่ได้เห็นหน้า ความเป็นจริงก็ไม่อยากจะมายุ่ง หรือก้าวก่ายชีวิตของเธอ หากแต่ไม่อยากจะเห็นใครบางคน นั่งอดหลับอดนอนเป็นยัยผีบ้าที่ขลุกตัว อยู่บนกองเอกสาร "มันเป็นงานด่วนค่ะ นิต้องสืบให้ได้ว่าพวกมันกบดานอยู่ที่ไหน?" นิรณาบอกจริงจัง และงานของเธอ รอไม่ได้ "พี่เข้าใจนะ แต่นิควรพักผ่อนบ้าง สมองจะได้โล่ง ๆ ไง" "รับทราบค่าา..ถ้าปิดคดีนี้ได้เมื่อไหร่ นิสัญญาว่าจะไม่โหมงานหนัก" "ไม่ครับ นิต้องไม่โหมงานหนัก ตั้งแต่ตอนนี้เลย" เขายื่นคำขาด ตอนนี้แทบทนมองสภาพของนิรณาไม่ได้ ไม่คิดว่าเธอจะกลายมาเป็นคนแบบนี้ "พี่ดิน เข้าใจหน่อยสิ!" "นิส่องกระจก ดูสภาพหนูตอนนี้ก่อนสิครับ ก่อนจะไปช่วยใคร..ช่วยดูแลตัวเองก่อนดีกว่า" นิรณาอึ้ง เข้าใจแล้วว่าตัวเองบ้างานหนักเกินไปจริง ๆ เมื่อเหลียวมองดูกระจกตามคำพูดของสามี เห็นว่าขอบตาเริ่มดำช้ำ นัยน์ตามีเส้นเลือดฝาดสีแดง แซมเป็นจุด ๆ สภาพเหมือนคนป่วยเกินเยียวยา จึงยอมโอนอ่อน เก็บกระเป๋า ตามเขาออกมาง่าย ๆ "พี่เข้าใจนะ ว่าหนูอยากทำอะไร แต่ช่วยสงสารตัวเองหน่อยได้ไหม ร่างกายหนูไม่ไหวแล้วนะ" บดินทร์เตือน เพราะตั้งแต่ที่นิรณากลับมาทำงาน เธอก็มักจะหอบเอกสารกลับไปที่บ้านทุกวัน กลางคืนก็ไม่ยอมหลับ ยอมนอน แถมยังเป็นเวลาเกือบหนึ่งอาทิตย์แล้วที่เขาเห็นนิรณาวุ่นวาย พอลืมตาตื่นมาเมื่อไหร่ ก็มักจะเจอเธอนั่งเคร่งเครียดกับเอกสารและรูปถ่ายมากมาย แถมพักหลังมานี้สาวตรงหน้า เหมือนจะพูดด้วย ไม่ค่อยรู้เรื่องและมีอาการมึน ๆ งง ๆ เขาจึงเริ่มเป็นห่วงมากขึ้น "นิควรพักจริง ๆ นั่นแหละ" นิรณาเออออ เพราะเมื่อกี้ตอนบดินทร์เดินเข้ามา เธอดันนึกชื่อเขาไม่ออก เลยเริ่มรู้ตัว "ดีแล้วครับ แล้วรู้หรือเปล่า เวลาเห็นหนูเป็นแบบนี้ทีไร พี่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ทุกที" "เนี่ย! เพราะพี่เป็นแบบนี้ไง" "ทำไม นิจะว่าพี่งี่เง่าเหรอ?" "เปล่าสักหน่อย นิก็แค่อยากให้พี่เลิกทำตัวแบบนี้" เธอกล่าวเสียงหงอย แล้วเสมองไปทางอื่น "พี่ก็เป็นอย่างนี้มาตั้งนานแล้ว ถ้าหนูจะไม่ให้พี่ห่วงพี่หวง..มันคงเป็นเรื่องยาก" บดินทร์บอกไป..ตามสิ่งที่ใจคิด "ขอร้องเถอะค่ะ..ได้โปรดอย่าทำตัวแบบนี้เลย แค่นี้นิก็หลงพี่จะแย่อยู่แล้ว" นิรณาพูดไม่เกินจริง บดินทร์ชอบทำตัว เป็นห่วงจนเกินเหตุ อยู่หลายรอบ แต่นั่นกลับทำให้ใจที่เคยแห้งผากเริ่มชุ่มชื่น ต่างจากคนเดิมที่ไม่เคยสนใจ และต่อให้เธอจะไปตายอยู่ที่ไหน เขาคนนั้นคงไม่มีทางรู้หรอก จนบางครั้ง ก็กลายเป็นว่า..เวลาทำงาน นิรณามักจะแยกเรื่องส่วนตัวออกไม่ได้ บางทีเวลาเผลอ หน้ากระดาษสีขาวก็มักจะแปรเปลี่ยน กลายเป็นผู้ชายตรงหน้าอยู่หลายรอบ ยามราตรีดึกสงัด ช่วงเวลาแห่งการพักผ่อน เสียงเรียกเข้าจากมือถือกลับแผดร้อง หาคนรับสายไม่ยอมหยุด เสียงนั้นดังรบกวนโสตประสาท มากจนทำให้บดินทร์สะดุ้งตื่น สะลึมสะลือเอื้อมมือไปคว้ามาวางไว้แนบหู "สารวัตรครับ ตอนนี้สายสืบของเราได้ข้อมูลมาแล้วอาทิตย์หน้า พวกมันจะจัดปาร์ตี้ที่ไนต์คลับ" เสียงปลายสายรัวเร็ว ๆ เล่นเอาคนรับงงตาแตก ลดโทรศัพท์ลงมาดู ปรากฏว่าเป็นของคนตัวเล็กที่กำลังนอนแผ่หลา ไม่รู้เรื่อง ชื่อบุคคลฉายชัดนามว่า..หมวดอากร ทำเอาคนตัวสูง ถึงกับเลิ่กลั่ก เผลอกดปุ่มวางสายแทบทันที กลัวนิรณาจะคิดว่าตัวเอง ละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวและความลับราชการ และตัดสินใจเขย่าตัวคนขี้เซา หวังปลุกให้ตื่น แต่ผู้หญิงตรงหน้ากลับนอนหลับ ราวกับว่า..ซ้อมตาย เพราะไม่ว่า..เขาจะเรียกชื่อ หรือเขย่าตัวแรงมากแค่ไหน เธอก็ไม่ท่าทีจะได้สติเลยสักนิด ซึ่งเมื่อเห็นว่าไม่ได้การ อีกทั้งเรื่องที่คนปลายสายบอกมาดูสำคัญไม่ใช่เล่น บดินทร์ตัดสินใจ กดเลื่อนเปิดหน้าจอโทรศัพท์ เลือกเข้าสู่..แอปพลิเคชันนาฬิกาปลุก นิ้วมือกดเร่งเสียงสุดลำโพง ถือมันไว้ใกล้ ๆ ตัวนิรณา แล้วกด กริ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงง เสียงนั้น ดังราวโลกระเบิด ดวงตาคู่สวยเบิกโพลงด้วยความตกใจ สะดุ้งตื่นตามความคาดหมาย "พี่ดิน! คนเพิ่งตื่น เรียกชื่อชายที่กำลังนั่งหน้าเจื่อน ด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเล็กน้อย ออกแรงยันกายลุกขึ้นนั่ง นึกฉงน เมื่อเหลือบดูเวลา ยังคงเป็นตีสอง สามสิบห้านาที ซึ่งไม่ใช่เวลาที่ควรจะตื่น ใบหน้างามยิ่งหงิกงอ รู้สึกไม่สบอารมณ์อย่างแรง เมื่อถูกขัดจังหวะความฝัน ทำเอาบดินทร์ต้องรีบยกมือถือ มาให้ดู "เมื่อกี้..พี่เห็นว่าหมวดอากรโทรมาน่ะครับ ท่าทางคงจะเป็นเรื่องสำคัญมาก ก็เลยคิดว่านิคงจะต้องรีบรับสายนี้" "ดึกดื่นป่านนี้ หมวดกร..จะโทรมาทำไมล่ะคะ?" เธอถามออกไป แต่เขาก็ส่ายหน้า เชิงว่าไม่รู้เรื่อง นิรณาเลยต้องรับโทรศัพท์กลับมาโทรออก "ว่าไงคะ?" คำแรกที่ทักทาย หลังจากต่อสายติด พร้อมยกมือขึ้นป้องปากหาวหวอด ๆ ด้วยความง่วง ระดับจักรวาล แถมมาพร้อมกับการทรงตัวที่โอนเอน เตรียมจะฟุบหลับได้ทุกเวลา หากได้ล้มตัว หัวถึงหมอน ผ่านไปไม่กี่วินาที สมองคนอยากนอนหลับ เริ่มไม่ทำงานแล้ว เธอเอาแต่สัปหงกลงเรื่อย จนใบหน้าแทบติดกับหน้าปูที่นอน บดินทร์ที่เห็นแบบนั้น จึงรวบเอวบาง จับเอาคนตัวเล็กกลับขึ้นมา นั่งพิงไว้กับแผงอกตัวเอง "สารวัตรได้ยินผมไหมครับ?" คำถามจากหมวดอากรไหลผ่านไปเรื่อย ๆ เหมือนดั่งคำที่ว่า เข้าหูซ้าย ทะลุหูขวา นิรณาก็ได้แต่ครางอือ ๆ ตอบรับไป ทว่าหนึ่งคำพูด เพียงแค่ประโยคเดียวที่ได้ฟังหลังจากนั้น กลับทำให้นัยน์ตาคู่สวยเปล่งประกายระยิบระยับ ตอบรับตกลง บอกว่าตนจะเป็นคนรับหน้าที่นั้นไว้เอง โดยหารู้ไม่ว่าตัวเองเผลอกดเปิดลำโพง นั่งฟังแผนการจากลูกน้อง หลงลืมไปว่า..มีใครอีกคนอยู่ด้วย แถมยังไม่ทันได้สังเกต ใบหน้าเขาที่เริ่มจะเคร่งเครียดขึ้นมาเรื่อย ๆ และไม่มีทางจะยอมให้ ผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยา ไปทำเรื่องอันตรายขนาดนั้นแน่นอน แต่ครั้นจะพูดกับคนที่แม้กระทั่งดวงตายังลืมไม่ขึ้น ซ้ำยังง่วงหนัก แทบไม่รู้สติ สุดท้ายก็คงไม่มีอะไรดีขึ้น เลยกลายเป็นว่าบดินทร์คือคนที่รับรู้เรื่องทุกอย่างได้ครบถ้วน แทนสารวัตรหญิงผู้เก่งกาจ ที่บัดนี้เอาแต่นั่งเงียบ มีเสียงกรนเบา ๆ แว่วมาเป็นระยะ "สารวัตร ๆ สารวัตร!" เสียงเรียกลูกน้องดังรัว นิรณาพลันสะดุ้งเล็กน้อย ตอบ..อือ! กลับไป ปัดรำคาญ แล้วซบแผงอกแกร่งผล็อยหลับ ไปอีกครั้ง ปลายสายจึงวางไปในที่สุด บดินทร์ค่อย ๆ ประคองร่างเล็ก ออกจากตัวเอง ก่อนจะวางร่างบอบบางลงบนเตียงเบา ๆ แล้วล้มตัวลงนอนตาม แต่ก็ไม่วายจะลืมจะวาดวงแขนไปกระชับเอาตัวเธอมากอดไว้เช้าแสนสดใสเริ่มต้นขึ้น นิรณาตื่นมาด้วยความสดชื่น หลังจากพักผ่อนไม่เพียงพอ มาหลายวัน พร้อมกับเร่งรี่เข้าไปอาบน้ำ หวังจะทำธุระส่วนตัวให้เสร็จเร็ว ๆ จะได้ไปทำงานต่อ "พี่ได้ยินมาว่านิจะไปเต้นเปลื้องผ้าที่ไนน์คลับ" บดินทร์ทักทายคำแรกด้วยคำถาม ทันทีที่ได้เห็นเธอสาวเท้า เดินเช็ดผมเปียกชุ่มออกมาจากห้องน้ำ คนถูกถามได้แต่ยิ้มรับบางๆ จำได้ว่าตัวเอง ทำอะไรไปเมื่อตีสอง จากมือที่เช็ดผม พลันแปรเปลี่ยนเป็นเกาหัวหาคำแถ ทว่าสุดท้ายก็จนปัญญา ยอมพยักหน้าให้เล็กน้อยเชิงว่าเป็นความจริง "ไม่ทำ..ไม่ได้เหรอครับ?" บดินทร์ถาม ถึงแม้รู้ดีว่าไม่ควรเข้าไปก้าวก่ายชีวิตของเธอ แต่ใจมันคงทนไม่แน่ หากต้องเห็นผู้หญิงของตัวเองต้องไปเต้นโชว์เนื้อโชว์หนัง ให้ใครต่อใครก็ไม่รู้มองดู "มันเป็นงานค่ะ พี่ดินเข้าใจนิหน่อยสิ" คนตัวเล็กกล่าวออดอ้อน แล้วเข้าไปใกล้ตัวเขา พลางหย่อนก้นนั่งลงบนตักกว้าง สอดวงแขนไปคล้องคอสามี "งั้นก็อย่าทำเลยนะ เมียคนเดียวพี่เลี้ยงได้" "ไม่เอา ๆ ไม่พูดเรื่องงานแล้วดีกว่านะ ๆ นะ นะ" เธอไล่เสียงอ้อนขอ พร้อมจู่โจม จุ๊บแก้มเขาไปฟอดใหญ่ เพื่อเติมกำลังใจ "ก็ได้ แต่หนูต้องสัญญานะ ว่าจะกลับบ้านให้ตรงเวลา"
เมื่อได้บัตรผ่านมา อย่างไรก็ต้องใช้ให้คุ้ม นิรณาเลยไม่คิดจะทนรอ ให้ถึงอาทิตย์หน้าตามกำหนดของแผนการ ตั้งใจจะลอบเข้าไปสืบด้วยตัวเอง แต่สุดท้าย..กลับมีบดินทร์ติดสอยห้อยตาม มาจนได้ "ไม่ว่านิจะทำอะไร..พี่ดินห้ามขวางเด็ดขาด และอย่าให้พวกมันจับไต๋เราได้นะ เพราะนั้นหมายถึงชีวิต""เชื่อใจพี่เถอะครับ บดินทร์คนนี้จะไม่ทำให้สารวัตรที่แสนใจดีคนนี้ ต้องบาดเจ็บแน่นอน"นิรณายืนอึ้ง ผู้ชายตรงหน้าเคยรู้ตัวบ้างไหมว่าเป็นคนปากหวานมากแค่ไหน แถมยังชอบพูดให้ใจสั่นอยู่เรื่อย"ค่ะ" เธอตอบรับเพียงสั้น ๆ ทั้งที่ใจเต้นระรัวและจำใจเดินนำทาง พาเขามาด้วยจนได้ อันเนื่องมาจาก ตั๋วผ่านทางบดินทร์เป็นคนเก็บรักษาไว้ ไม่ยอมให้ถือเด็ดขาดจนกว่าจะมายืนอยู่หน้าประตูทางเข้า ซึ่งเมื่อการ์ดได้เห็นบัตรผ่านก็ไม่ซักไซ้อะไร ยอมปล่อยให้เข้ามาด้านในง่าย ๆ และสมคำร่ำลือ สถานที่แห่งนี้ เปิดโลกหนุ่มผู้ดีวัยกลางคน ชายที่ไม่เคยมาเหยียบย่ำ สถานที่อโคจร ให้ได้..มาพานพบ ประสบเรื่องราวแห่งโลกใต้ดินกลุ่มคนที่ดูเหมือนเป็นพนักงาน ต่างไม่ใส่อะไรทั้งนั้น ไม่ว่า..ชายหรือหญิง พวกเขาเปลือยเปล่าล่อนจ้อน มีเพียงหมายเลขห้อยไว
"พี่ดิน แน่ใจเหรอ?" นิรณากระซิบถามเบา ๆ ระหว่างทางเดินมายังเวทีมวยใต้ดินที่อยู่อีกห้องหนึ่ง"ถามแบบนั้นออกมา เพื่ออะไรครับ ยังไงตอนนี้เราก็ให้ถอยไม่ได้อยู่ดี""ถ้านิไม่ใจร้อน บุ่มบ่าม เราสองคน คงจะไม่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้" ว่าแล้ว มือกดขอกำลังเสริม ให้มาล้อมไว้ แต่พวกเขา ไม่สามารถเข้ามาด้านในได้ ทางเดียวที่เหลือคือบดินทร์ต้องชนะ แต่เพราะกลัวเขาเจ็บ ใบหน้างามยิ่งเคร่งเครียดขึ้น จนคนข้างกายสังเกตุเห็น"โทษตัวเองไป ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก นิเชื่อใจพี่เถอะ" คนตัวสูงว่า มือหนาเอื้อมไปคว้าเอามือเล็กมากอบกุมไว้ หวังให้เธอคลายความกังวล ซึ่งนิรณาก็พยายามเชื่อใจเพราะยังไงซะ..ผู้ชายตรงหน้าก็ได้ชื่อว่าเป็นครูมวยใช่ บดินทร์คือหนึ่งในผู้ฝึกสอนนักมวยให้ค่ายชื่อดัง ซึ่งเป็นสมบัติที่ตามอบให้เขาเป็นคนสานต่อ และอย่างน้อย ๆ การต่อสู้ คงไม่จบง่ายดาย"นิมีวิธีแล้ว..พี่ดินยื้อเวลาสักพักนะ" ยัยคนเก่งว่าเร็ว ๆ แล้วผลุบหายตัวไปในฝูงชน ใช้เทคนิคการสะกดรอยตามกลุ่มคนหน้าสงสัยไป ทิ้งให้บดินทร์เดินตามชายคนนั้นไปหลังจากเดินตามกลุ่มคนน่าสงสัยไป ในที่สุดสารวัตรสาวก็มาหยุดข้างเวทีประมูลที่กำ
"รีบ ๆ ปล่อยมือโสโครกออกจากตัว ผู้ชายของกู" คำพูดนั้นไม่ได้มาเปล่า แต่มาพร้อมกับปลายกระบอกสีเงิน ที่สร้างสัมผัสเย็น ๆ ตรงบริเวณ..ท้ายทอย ทำให้มันผู้นั้น สะดุ้งเฮือกนังนี้มันมาตอนไหนทำไมถึงไม่รู้ตัวแต่เพราะลูกตะกั่วที่เตรียมพร้อมลั่นไกวิสามัญ สองมือจึงปล่อยร่างกายที่เคืองแค้น ลงไปกับพื้น ก่อนจะค่อย ๆ ชูมือทั้งสองข้างขึ้นมาแต่แล้วช่วงจังหวะนั้น นิรณาดันทำพลาด เพียงคลาดสายตา มองร่างบดินทร์ เลยถูกมันใช้มือเอื้อมมาจับปืน แล้วพลิกร่างกลับมา เผชิญหน้ากัน"เห้อออ เป็นคนธรรมดาอยู่ดี ๆ ไม่ชอบ! มึงอยากเป็นสินค้าอยู่แถบชายแดนสินะ ถึงได้กล้ามายุ่งกับกู""โห..สารภาพออกมาแบบนี้ ฉันก็ไม่ต้องหาหลักฐานให้เหนื่อยเลยสิคะ" เสียงหวานยียวน ไม่ได้กลัวเลยสักนิดปั๊ก! แขนเล็กอีกข้างที่ว่างเว้นสับลงระหว่างข้อพับแขนจนมันหักงอ อ่อนแรงลง ต่อด้วยกระบวนท่า การต่อสู้ระยะประชิด ที่อุตส่าห์ร่ำเรียนมา ซะจนเชี่ยวชาญถึงสามศาตร์ อันได้แก่ มวยไทย ยูยิตสูและเทควันโด ทำให้ร่างกายบอบบางดูไร้พิษสง นำศิลปะการต่อสู้ทุกศาสตร์ มาผสมผสาน จนได้อานุภาพร้ายแรง จับมันหักแขนมาไพล่หลังไว้จนได้"ป
บดินทร์ทำสำเร็จ เขาจับศัตรูคู่อาฆาต ทั้งสามคนแยกออกจากกัน โดยการส่งให้บีบีกับเตชิน ไปฮันนีมูนไกลถึงยุโรป แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร..พักหลังมานี้นิรณามักจะอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ จนตามความคิดคนข้างกายไม่ทัน พอนัยน์ตาคมเห็นคนสวยกลับเข้าห้องมาคนตัวสูงเร่งรีบไปแอบหลบอยู่ในมุมมืด ได้โอกาสจึงค่อย ๆ แอบย่องไปปิดตาเธอจากด้านหลังคล้ายจะหยอกเล่น แต่ดันลืมไปว่ายัยเด็กดื้อเป็นพวกขี้ระแวง เลยโดนศอกมน ๆ กระทุ้งใส่ไปหนึ่งที"โอ๊ยยยย" บดินทร์คร่ำครวญ ทรุดลงไปนั่งกับพื้นทั้งที่อุตส่าห์..จะสร้างความประทับใจ แต่กลับต้องมาเจ็บตัว และพอฝ่ายคนกระทำรู้ตัว จึงรีบไปประคองร่างสามี แทบทันที แต่ปากก็ไม่วายจะบ่นอุบอิบออกมา"พี่ดินนะ พี่ดิน จู่โจมกัน ไม่ให้สุ้มให้เสียง คราวหน้าคราวหลัง อย่าทำอีกนะคะ!""พี่ก็แค่อยากจะกอดนิบ้าง ทำไมช่วงนี้ หนูถึงหวงเนื้อห่วงตัวนักล่ะครับ?" เขาอธิบายเสียงอ่อน ทั้งเจ็บใจทั้งน้อยใจ อาจเพราะหลังจากพาเขาออกจากโรงพยาบาลแทนที่นิรณาจะสนใจกัน เธอกลับกลายเป็นคนบ้างานสุด ๆ ทุกวันมักจะตื่นตั้งแต่เช้าไปขลุกตัวอยู่แต่ในโรงพักจนบางครั้ง..เขาก็ได้แต่นึกสงสัยว่
"เร็ว ๆ หน่อยสิเต เดี๋ยวคุณพ่อมาเจอ แผนเซอร์ไพรส์วันเกิดท่านคงพังหมด" บีบีบ่นอุบ มือเร่งกระชากร่างสามีที่กำลังอิดออด ให้ตามตัวเองเข้ามาในบ้านหลังโต"มันก็แค่วันเกิดไหม..บีจะรีบกลับมาทำไม เตยังเที่ยวไม่หนำใจเลย" คนตัวสูงเดินตาม ปากบ่นอย่างเซ็ง ๆ"เงินอ่ะ! อยากได้ไหม ถ้าอยากได้ก็เงียบปาก""มีแค่บัตรใบนั้น เราก็สบายไปทั้งชาติแล้ว จะกลับมาให้ยุ่งยาก น่ารำคาญทำไม? ""เศษเงินแค่นั้น บีไม่สนหรอก ขืนปล่อยให้คุณพ่ออยู่กับนังนิมันเรื่อย ๆ คงโดนปอกลอก ขโมยสมบัติไปหมด""ถ้าพ่อบีมันจะโง่ขนาดนั้น..ก็ปล่อยมันไปเถอะน่า""เต บีเคยสั่งไว้แล้วใช่ไหม ห้ามเรียกคุณพ่อว่ามัน""พ่อบีมันก็เป็นคน เตก็คือคน เลิกเทิดทูนมันสักที" เตชินว่าด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ตั้งแต่แต่งงานกันมา บีบีมักเอาตัวเขาไปเปรียบเทียบกับบดินทร์ บอกว่าพ่อดีอย่างงั้น ดีอย่างงี้ แล้วเอานิสัยคนคนนั้น มาเหยียบย่ำ ให้เขาตกต่ำกว่าเสมอ"ยังไงซะ! พ่อบีท่านก็มีดีกว่าเตเยอะ ทั้งฐานะ หน้าตาและเงินทอง ท่านสูงกว่าเตทุกอย่าง""หึ ถ้าคนอย่างไอ้บดินทร์มันสูงส่งนักหนา คงไม่มั่วไปเอากับพี่เลี้ยง..ตั้งแต่อายุสิบสาม จนเกิดเป็
เสียงเอะอะโวยวาย ทำให้บดินทร์ที่กำลังจะออกไปจัดการเรื่องงานแต่งงานที่วางไว้ ต้องเดินย้อนมาอีกทางจนได้เห็นคนทั้งสามกำลังฟัดกันนัวเนียอย่างกับว่าจะฆ่ากันให้ตายไปข้างหนึ่งอารมณ์ดีของยามเช้าเหือดหายไปหมด ทานทนไม่ไหว ตะเบ็งเสียงโพล่งออกไปอย่างเหลือทน"ทำอะไรกัน!"เสียงทรงอำนาจของผู้เป็นใหญ่ในบ้าน ทักขึ้นมา เล่นเอาทั้งบีบี และเตชินสะดุ้งโหยง เร่งผละตัวออกจากร่างนิรณา"พวกเราแค่แวะมาทักทายคุณแม่คนใหม่ คุณพ่อจะเดือดร้อนทำไมล่ะคะ?" เสียงแหว๋ว ๆ เค้นลอดไรฟัน แสร้งทำท่าทางเหมือนคนไร้พิษสงยิ่งทำให้บดินทร์เอือมระอา ไม่เข้าใจว่า ทำไมสามคนนี้ ถึงได้เอาแต่สร้างเรื่อง ทะเลาะกัน ทุกครั้งที่เจอหน้า"ขอเถอะนะ..ทั้งสามคนเลย ช่วยเลิกสร้างเรื่องให้ปวดหัวสักทีได้ไหม? ก็มีครอบครัวกันหมดแล้ว ทำไมต้องมายุ่งวุ่นวายกันอีก ต่างคน..ต่างอยู่ไปสิ ทำตัวเป็นเด็ก ๆ กันไปได้!""บีบีไม่ได้ทำนะคะ..นังนิมันหาเรื่องก่อนต่างหาก""นิไม่ได้หาเรื่องก่อนนะคะ พี่ดินดูหน้านิก่อนสิ ดูสิ บีบีมันตบนิเป็นสิบ ๆ รอบ พี่ดินจะให้อยู่เฉย ๆ เหรอคะ?" นิรณาว่า แล้วเอียงแก้มแดง ๆ ปรากฏรอยฝ่ามือให้สามีดู
"ต่อไปนี้ เราสองคนจะทำยังไงต่อดี" บีบีว่าแล้วกัดเล็บตัวเอง ท่าทางกลัดกลุ้ม คิดไม่ตกกับเรื่องราวน่าปวดหัวชีวิตต่อไปนี้จะเดินไปต่อยังไง ตลอดมาบดินทร์คอยส่งเสียเลี้ยงดู ไม่เคยขาดตกบกพร่องทว่าตั้งแต่มีนิรณาเข้ามาอยู่ในชีวิต นับแต่นั้นมา กว่าจะได้เห็นหน้าพ่อแต่ละรอบ แทบนับครั้งได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งเกลียดและโกรธ โกรธจนใบหน้างอง้ำลงเรื่อย ๆ"อย่าเครียดไปเลยน่า เดี๋ยวลูกเราก็พิการเอาหรอก" เตชินเตือนด้วยความห่วงใยเขาไม่อยากเห็นลูกของตัวเองออกมาไม่สมบูรณ์เพราะมีแม่เป็นประสาท อารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ แปรปรวนยิ่งกว่าพายุทอร์นาโด"จริงด้วยสิ..ท้องได้ก็แท้งได้!""บีจะทำอะไร?""เมื่อเช้าไม่ได้ยินเหรอไง! คุณพ่อบอกว่าบีกำลังจะมีน้อง นั้นก็หมายความว่านังนิมันท้อง""ท้อง!" เตชินถามอย่างตกใจ เพราะไม่ได้ฟังสามคนนั้นคุยกัน ด้วยมึนจากการที่โดนนิรณาทั้งตบทั้งถีบ"ใช่ มันท้อง แล้วเราสองคนก็กำลังจะตกกระป๋อง" บีบีแวดใส่สามีอย่างเหลืออดเหลือทน วัน ๆ ไม่ยอมทำงานทำการอะไร เกาะติดเป็นภาระ จนน่าเบื่อหน่าย"แล้วเราจะทำยังไงต่อดี...""ก็ทำให้มันไอ้มารหัวขนนั้น มันเกิดไม่ได้ซะสิ!"
"ต่อไปนี้ เราสองคนจะทำยังไงต่อดี" บีบีว่าแล้วกัดเล็บตัวเอง ท่าทางกลัดกลุ้ม คิดไม่ตกกับเรื่องราวน่าปวดหัวชีวิตต่อไปนี้จะเดินไปต่อยังไง ตลอดมาบดินทร์คอยส่งเสียเลี้ยงดู ไม่เคยขาดตกบกพร่องทว่าตั้งแต่มีนิรณาเข้ามาอยู่ในชีวิต นับแต่นั้นมา กว่าจะได้เห็นหน้าพ่อแต่ละรอบ แทบนับครั้งได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งเกลียดและโกรธ โกรธจนใบหน้างอง้ำลงเรื่อย ๆ"อย่าเครียดไปเลยน่า เดี๋ยวลูกเราก็พิการเอาหรอก" เตชินเตือนด้วยความห่วงใยเขาไม่อยากเห็นลูกของตัวเองออกมาไม่สมบูรณ์เพราะมีแม่เป็นประสาท อารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ แปรปรวนยิ่งกว่าพายุทอร์นาโด"จริงด้วยสิ..ท้องได้ก็แท้งได้!""บีจะทำอะไร?""เมื่อเช้าไม่ได้ยินเหรอไง! คุณพ่อบอกว่าบีกำลังจะมีน้อง นั้นก็หมายความว่านังนิมันท้อง""ท้อง!" เตชินถามอย่างตกใจ เพราะไม่ได้ฟังสามคนนั้นคุยกัน ด้วยมึนจากการที่โดนนิรณาทั้งตบทั้งถีบ"ใช่ มันท้อง แล้วเราสองคนก็กำลังจะตกกระป๋อง" บีบีแวดใส่สามีอย่างเหลืออดเหลือทน วัน ๆ ไม่ยอมทำงานทำการอะไร เกาะติดเป็นภาระ จนน่าเบื่อหน่าย"แล้วเราจะทำยังไงต่อดี...""ก็ทำให้มันไอ้มารหัวขนนั้น มันเกิดไม่ได้ซะสิ!"
เสียงเอะอะโวยวาย ทำให้บดินทร์ที่กำลังจะออกไปจัดการเรื่องงานแต่งงานที่วางไว้ ต้องเดินย้อนมาอีกทางจนได้เห็นคนทั้งสามกำลังฟัดกันนัวเนียอย่างกับว่าจะฆ่ากันให้ตายไปข้างหนึ่งอารมณ์ดีของยามเช้าเหือดหายไปหมด ทานทนไม่ไหว ตะเบ็งเสียงโพล่งออกไปอย่างเหลือทน"ทำอะไรกัน!"เสียงทรงอำนาจของผู้เป็นใหญ่ในบ้าน ทักขึ้นมา เล่นเอาทั้งบีบี และเตชินสะดุ้งโหยง เร่งผละตัวออกจากร่างนิรณา"พวกเราแค่แวะมาทักทายคุณแม่คนใหม่ คุณพ่อจะเดือดร้อนทำไมล่ะคะ?" เสียงแหว๋ว ๆ เค้นลอดไรฟัน แสร้งทำท่าทางเหมือนคนไร้พิษสงยิ่งทำให้บดินทร์เอือมระอา ไม่เข้าใจว่า ทำไมสามคนนี้ ถึงได้เอาแต่สร้างเรื่อง ทะเลาะกัน ทุกครั้งที่เจอหน้า"ขอเถอะนะ..ทั้งสามคนเลย ช่วยเลิกสร้างเรื่องให้ปวดหัวสักทีได้ไหม? ก็มีครอบครัวกันหมดแล้ว ทำไมต้องมายุ่งวุ่นวายกันอีก ต่างคน..ต่างอยู่ไปสิ ทำตัวเป็นเด็ก ๆ กันไปได้!""บีบีไม่ได้ทำนะคะ..นังนิมันหาเรื่องก่อนต่างหาก""นิไม่ได้หาเรื่องก่อนนะคะ พี่ดินดูหน้านิก่อนสิ ดูสิ บีบีมันตบนิเป็นสิบ ๆ รอบ พี่ดินจะให้อยู่เฉย ๆ เหรอคะ?" นิรณาว่า แล้วเอียงแก้มแดง ๆ ปรากฏรอยฝ่ามือให้สามีดู
"เร็ว ๆ หน่อยสิเต เดี๋ยวคุณพ่อมาเจอ แผนเซอร์ไพรส์วันเกิดท่านคงพังหมด" บีบีบ่นอุบ มือเร่งกระชากร่างสามีที่กำลังอิดออด ให้ตามตัวเองเข้ามาในบ้านหลังโต"มันก็แค่วันเกิดไหม..บีจะรีบกลับมาทำไม เตยังเที่ยวไม่หนำใจเลย" คนตัวสูงเดินตาม ปากบ่นอย่างเซ็ง ๆ"เงินอ่ะ! อยากได้ไหม ถ้าอยากได้ก็เงียบปาก""มีแค่บัตรใบนั้น เราก็สบายไปทั้งชาติแล้ว จะกลับมาให้ยุ่งยาก น่ารำคาญทำไม? ""เศษเงินแค่นั้น บีไม่สนหรอก ขืนปล่อยให้คุณพ่ออยู่กับนังนิมันเรื่อย ๆ คงโดนปอกลอก ขโมยสมบัติไปหมด""ถ้าพ่อบีมันจะโง่ขนาดนั้น..ก็ปล่อยมันไปเถอะน่า""เต บีเคยสั่งไว้แล้วใช่ไหม ห้ามเรียกคุณพ่อว่ามัน""พ่อบีมันก็เป็นคน เตก็คือคน เลิกเทิดทูนมันสักที" เตชินว่าด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ตั้งแต่แต่งงานกันมา บีบีมักเอาตัวเขาไปเปรียบเทียบกับบดินทร์ บอกว่าพ่อดีอย่างงั้น ดีอย่างงี้ แล้วเอานิสัยคนคนนั้น มาเหยียบย่ำ ให้เขาตกต่ำกว่าเสมอ"ยังไงซะ! พ่อบีท่านก็มีดีกว่าเตเยอะ ทั้งฐานะ หน้าตาและเงินทอง ท่านสูงกว่าเตทุกอย่าง""หึ ถ้าคนอย่างไอ้บดินทร์มันสูงส่งนักหนา คงไม่มั่วไปเอากับพี่เลี้ยง..ตั้งแต่อายุสิบสาม จนเกิดเป็
บดินทร์ทำสำเร็จ เขาจับศัตรูคู่อาฆาต ทั้งสามคนแยกออกจากกัน โดยการส่งให้บีบีกับเตชิน ไปฮันนีมูนไกลถึงยุโรป แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร..พักหลังมานี้นิรณามักจะอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ จนตามความคิดคนข้างกายไม่ทัน พอนัยน์ตาคมเห็นคนสวยกลับเข้าห้องมาคนตัวสูงเร่งรีบไปแอบหลบอยู่ในมุมมืด ได้โอกาสจึงค่อย ๆ แอบย่องไปปิดตาเธอจากด้านหลังคล้ายจะหยอกเล่น แต่ดันลืมไปว่ายัยเด็กดื้อเป็นพวกขี้ระแวง เลยโดนศอกมน ๆ กระทุ้งใส่ไปหนึ่งที"โอ๊ยยยย" บดินทร์คร่ำครวญ ทรุดลงไปนั่งกับพื้นทั้งที่อุตส่าห์..จะสร้างความประทับใจ แต่กลับต้องมาเจ็บตัว และพอฝ่ายคนกระทำรู้ตัว จึงรีบไปประคองร่างสามี แทบทันที แต่ปากก็ไม่วายจะบ่นอุบอิบออกมา"พี่ดินนะ พี่ดิน จู่โจมกัน ไม่ให้สุ้มให้เสียง คราวหน้าคราวหลัง อย่าทำอีกนะคะ!""พี่ก็แค่อยากจะกอดนิบ้าง ทำไมช่วงนี้ หนูถึงหวงเนื้อห่วงตัวนักล่ะครับ?" เขาอธิบายเสียงอ่อน ทั้งเจ็บใจทั้งน้อยใจ อาจเพราะหลังจากพาเขาออกจากโรงพยาบาลแทนที่นิรณาจะสนใจกัน เธอกลับกลายเป็นคนบ้างานสุด ๆ ทุกวันมักจะตื่นตั้งแต่เช้าไปขลุกตัวอยู่แต่ในโรงพักจนบางครั้ง..เขาก็ได้แต่นึกสงสัยว่
"รีบ ๆ ปล่อยมือโสโครกออกจากตัว ผู้ชายของกู" คำพูดนั้นไม่ได้มาเปล่า แต่มาพร้อมกับปลายกระบอกสีเงิน ที่สร้างสัมผัสเย็น ๆ ตรงบริเวณ..ท้ายทอย ทำให้มันผู้นั้น สะดุ้งเฮือกนังนี้มันมาตอนไหนทำไมถึงไม่รู้ตัวแต่เพราะลูกตะกั่วที่เตรียมพร้อมลั่นไกวิสามัญ สองมือจึงปล่อยร่างกายที่เคืองแค้น ลงไปกับพื้น ก่อนจะค่อย ๆ ชูมือทั้งสองข้างขึ้นมาแต่แล้วช่วงจังหวะนั้น นิรณาดันทำพลาด เพียงคลาดสายตา มองร่างบดินทร์ เลยถูกมันใช้มือเอื้อมมาจับปืน แล้วพลิกร่างกลับมา เผชิญหน้ากัน"เห้อออ เป็นคนธรรมดาอยู่ดี ๆ ไม่ชอบ! มึงอยากเป็นสินค้าอยู่แถบชายแดนสินะ ถึงได้กล้ามายุ่งกับกู""โห..สารภาพออกมาแบบนี้ ฉันก็ไม่ต้องหาหลักฐานให้เหนื่อยเลยสิคะ" เสียงหวานยียวน ไม่ได้กลัวเลยสักนิดปั๊ก! แขนเล็กอีกข้างที่ว่างเว้นสับลงระหว่างข้อพับแขนจนมันหักงอ อ่อนแรงลง ต่อด้วยกระบวนท่า การต่อสู้ระยะประชิด ที่อุตส่าห์ร่ำเรียนมา ซะจนเชี่ยวชาญถึงสามศาตร์ อันได้แก่ มวยไทย ยูยิตสูและเทควันโด ทำให้ร่างกายบอบบางดูไร้พิษสง นำศิลปะการต่อสู้ทุกศาสตร์ มาผสมผสาน จนได้อานุภาพร้ายแรง จับมันหักแขนมาไพล่หลังไว้จนได้"ป
"พี่ดิน แน่ใจเหรอ?" นิรณากระซิบถามเบา ๆ ระหว่างทางเดินมายังเวทีมวยใต้ดินที่อยู่อีกห้องหนึ่ง"ถามแบบนั้นออกมา เพื่ออะไรครับ ยังไงตอนนี้เราก็ให้ถอยไม่ได้อยู่ดี""ถ้านิไม่ใจร้อน บุ่มบ่าม เราสองคน คงจะไม่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้" ว่าแล้ว มือกดขอกำลังเสริม ให้มาล้อมไว้ แต่พวกเขา ไม่สามารถเข้ามาด้านในได้ ทางเดียวที่เหลือคือบดินทร์ต้องชนะ แต่เพราะกลัวเขาเจ็บ ใบหน้างามยิ่งเคร่งเครียดขึ้น จนคนข้างกายสังเกตุเห็น"โทษตัวเองไป ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก นิเชื่อใจพี่เถอะ" คนตัวสูงว่า มือหนาเอื้อมไปคว้าเอามือเล็กมากอบกุมไว้ หวังให้เธอคลายความกังวล ซึ่งนิรณาก็พยายามเชื่อใจเพราะยังไงซะ..ผู้ชายตรงหน้าก็ได้ชื่อว่าเป็นครูมวยใช่ บดินทร์คือหนึ่งในผู้ฝึกสอนนักมวยให้ค่ายชื่อดัง ซึ่งเป็นสมบัติที่ตามอบให้เขาเป็นคนสานต่อ และอย่างน้อย ๆ การต่อสู้ คงไม่จบง่ายดาย"นิมีวิธีแล้ว..พี่ดินยื้อเวลาสักพักนะ" ยัยคนเก่งว่าเร็ว ๆ แล้วผลุบหายตัวไปในฝูงชน ใช้เทคนิคการสะกดรอยตามกลุ่มคนหน้าสงสัยไป ทิ้งให้บดินทร์เดินตามชายคนนั้นไปหลังจากเดินตามกลุ่มคนน่าสงสัยไป ในที่สุดสารวัตรสาวก็มาหยุดข้างเวทีประมูลที่กำ
เมื่อได้บัตรผ่านมา อย่างไรก็ต้องใช้ให้คุ้ม นิรณาเลยไม่คิดจะทนรอ ให้ถึงอาทิตย์หน้าตามกำหนดของแผนการ ตั้งใจจะลอบเข้าไปสืบด้วยตัวเอง แต่สุดท้าย..กลับมีบดินทร์ติดสอยห้อยตาม มาจนได้ "ไม่ว่านิจะทำอะไร..พี่ดินห้ามขวางเด็ดขาด และอย่าให้พวกมันจับไต๋เราได้นะ เพราะนั้นหมายถึงชีวิต""เชื่อใจพี่เถอะครับ บดินทร์คนนี้จะไม่ทำให้สารวัตรที่แสนใจดีคนนี้ ต้องบาดเจ็บแน่นอน"นิรณายืนอึ้ง ผู้ชายตรงหน้าเคยรู้ตัวบ้างไหมว่าเป็นคนปากหวานมากแค่ไหน แถมยังชอบพูดให้ใจสั่นอยู่เรื่อย"ค่ะ" เธอตอบรับเพียงสั้น ๆ ทั้งที่ใจเต้นระรัวและจำใจเดินนำทาง พาเขามาด้วยจนได้ อันเนื่องมาจาก ตั๋วผ่านทางบดินทร์เป็นคนเก็บรักษาไว้ ไม่ยอมให้ถือเด็ดขาดจนกว่าจะมายืนอยู่หน้าประตูทางเข้า ซึ่งเมื่อการ์ดได้เห็นบัตรผ่านก็ไม่ซักไซ้อะไร ยอมปล่อยให้เข้ามาด้านในง่าย ๆ และสมคำร่ำลือ สถานที่แห่งนี้ เปิดโลกหนุ่มผู้ดีวัยกลางคน ชายที่ไม่เคยมาเหยียบย่ำ สถานที่อโคจร ให้ได้..มาพานพบ ประสบเรื่องราวแห่งโลกใต้ดินกลุ่มคนที่ดูเหมือนเป็นพนักงาน ต่างไม่ใส่อะไรทั้งนั้น ไม่ว่า..ชายหรือหญิง พวกเขาเปลือยเปล่าล่อนจ้อน มีเพียงหมายเลขห้อยไว
เช้าแสนสดใสเริ่มต้นขึ้น นิรณาตื่นมาด้วยความสดชื่น หลังจากพักผ่อนไม่เพียงพอ มาหลายวัน พร้อมกับเร่งรี่เข้าไปอาบน้ำ หวังจะทำธุระส่วนตัวให้เสร็จเร็ว ๆ จะได้ไปทำงานต่อ "พี่ได้ยินมาว่านิจะไปเต้นเปลื้องผ้าที่ไนน์คลับ" บดินทร์ทักทายคำแรกด้วยคำถาม ทันทีที่ได้เห็นเธอสาวเท้า เดินเช็ดผมเปียกชุ่มออกมาจากห้องน้ำ คนถูกถามได้แต่ยิ้มรับบางๆ จำได้ว่าตัวเอง ทำอะไรไปเมื่อตีสอง จากมือที่เช็ดผม พลันแปรเปลี่ยนเป็นเกาหัวหาคำแถ ทว่าสุดท้ายก็จนปัญญา ยอมพยักหน้าให้เล็กน้อยเชิงว่าเป็นความจริง "ไม่ทำ..ไม่ได้เหรอครับ?" บดินทร์ถาม ถึงแม้รู้ดีว่าไม่ควรเข้าไปก้าวก่ายชีวิตของเธอ แต่ใจมันคงทนไม่แน่ หากต้องเห็นผู้หญิงของตัวเองต้องไปเต้นโชว์เนื้อโชว์หนัง ให้ใครต่อใครก็ไม่รู้มองดู "มันเป็นงานค่ะ พี่ดินเข้าใจนิหน่อยสิ" คนตัวเล็กกล่าวออดอ้อน แล้วเข้าไปใกล้ตัวเขา พลางหย่อนก้นนั่งลงบนตักกว้าง สอดวงแขนไปคล้องคอสามี "งั้นก็อย่าทำเลยนะ เมียคนเดียวพี่เลี้ยงได้" "ไม่เอา ๆ ไม่พูดเรื่องงานแล้วดีกว่านะ ๆ นะ นะ" เธอไล่เสียงอ้อนขอ พร้อมจู่โจม จุ๊บแก้มเขาไปฟอดใหญ่ เพื่อเติมกำลังใจ "ก็ได้ แต่หนูต้องสัญญานะ ว่าจะกลับบ้านให้ตรงเวลา"
ในสายตาของหมวดอากร นิรณาเป็นผู้หญิงที่เก่งมาก แต่ก็มีข้อเสียใหญ่ ๆ คือชอบหมกมุ่น ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ เจ้านายสาวเลยกลายเป็นคนกัดไม่ปล่อย ถ้าเกิดว่าได้ทำงานชิ้นไหนแล้ว หรือสงสัยอะไร..ความสนใจทั้งหมดจะพุ่งไปรวมที่จุดเดียว ไม่ต่างจากตอนนี้สักเท่าไหร่..ที่เธอเอาแต่ขลุกตัวอ่านเอกสารสี่ร้อยกว่าหน้า จนเป็นเวลาติดต่อกันมาร่วมกว่าสิบชั่วโมงแล้ว ยังไม่มีท่าทีจะลุกออกจากห้อง "สารวัตรครับ มีคนต้องการเข้าพบ" "ใครคะ?" เธอเงยหน้าขึ้นมาจากกองงาน ดูอ่อนระโหย "เขาบอกว่าชื่อบดินทร์ เป็นแฟนของคุณ" "ให้เขาเข้ามาค่ะ" "สารวัตรมีแฟนใหม่..แล้วจริง ๆ เหรอ?" "ฉันไม่เคยบอกหมวดเหรอคะ..นึกว่าบอกแล้วซะอีก!" สารวัตรสาว ทำหน้าสงสัย แล้วนึกขึ้นได้ ตั้งแต่กลับมาทำงาน สิ่งเดียวที่ทำอยู่ตอนนี้คือ..การสืบหาเบาะแสใหม่ จนลืมพูดลืมคุยกับเพื่อนร่วมงานมาเป็นอาทิตย์ "งั้นผมให้เขาเข้ามานะครับ" "ค่ะ" หลังจากนั้น เพียงไม่นาน บดินทร์จึงเดินมาหา สีหน้าบอกบุญไม่รับ ทำเอานิรณาได้แต้ยิ้มจืด ต้อนรับคุณสามี "เลยเวลาเลิกงาน มาหกชั่วโมงแล้ว นิไม่คิดจะกลับเหรอครับ?" เสียงทุ้มบ่นออกมาแทบจะทันทีที่ได้เห็นหน้า ความเป็นจริงก็ไม่อ