เสียงเอะอะโวยวาย ทำให้บดินทร์ที่กำลังจะออกไปจัดการเรื่องงานแต่งงานที่วางไว้ ต้องเดินย้อนมาอีกทาง
จนได้เห็นคนทั้งสามกำลังฟัดกันนัวเนียอย่างกับว่าจะฆ่ากันให้ตายไปข้างหนึ่งอารมณ์ดีของยามเช้าเหือดหายไปหมด ทานทนไม่ไหว ตะเบ็งเสียงโพล่งออกไปอย่างเหลือทน"ทำอะไรกัน!"เสียงทรงอำนาจของผู้เป็นใหญ่ในบ้าน ทักขึ้นมา เล่นเอาทั้งบีบี และเตชินสะดุ้งโหยง เร่งผละตัวออกจากร่างนิรณา"พวกเราแค่แวะมาทักทายคุณแม่คนใหม่ คุณพ่อจะเดือดร้อนทำไมล่ะคะ?" เสียงแหว๋ว ๆ เค้นลอดไรฟัน แสร้งทำท่าทางเหมือนคนไร้พิษสงยิ่งทำให้บดินทร์เอือมระอา ไม่เข้าใจว่า ทำไมสามคนนี้ ถึงได้เอาแต่สร้างเรื่อง ทะเลาะกัน ทุกครั้งที่เจอหน้า"ขอเถอะนะ..ทั้งสามคนเลย ช่วยเลิกสร้างเรื่องให้ปวดหัวสักทีได้ไหม? ก็มีครอบครัวกันหมดแล้ว ทำไมต้องมายุ่งวุ่นวายกันอีก ต่างคน..ต่างอยู่ไปสิ ทำตัวเป็นเด็ก ๆ กันไปได้!""บีบีไม่ได้ทำนะคะ..นังนิมันหาเรื่องก่อนต่างหาก""นิไม่ได้หาเรื่องก่อนนะคะ พี่ดินดูหน้านิก่อนสิ ดูสิ บีบีมันตบนิเป็นสิบ ๆ รอบ พี่ดินจะให้อยู่เฉย ๆ เหรอคะ?" นิรณาว่า แล้วเอียงแก้มแดง ๆ ปรากฏรอยฝ่ามือให้สามีดู<"ต่อไปนี้ เราสองคนจะทำยังไงต่อดี" บีบีว่าแล้วกัดเล็บตัวเอง ท่าทางกลัดกลุ้ม คิดไม่ตกกับเรื่องราวน่าปวดหัวชีวิตต่อไปนี้จะเดินไปต่อยังไง ตลอดมาบดินทร์คอยส่งเสียเลี้ยงดู ไม่เคยขาดตกบกพร่องทว่าตั้งแต่มีนิรณาเข้ามาอยู่ในชีวิต นับแต่นั้นมา กว่าจะได้เห็นหน้าพ่อแต่ละรอบ แทบนับครั้งได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งเกลียดและโกรธ โกรธจนใบหน้างอง้ำลงเรื่อย ๆ"อย่าเครียดไปเลยน่า เดี๋ยวลูกเราก็พิการเอาหรอก" เตชินเตือนด้วยความห่วงใยเขาไม่อยากเห็นลูกของตัวเองออกมาไม่สมบูรณ์เพราะมีแม่เป็นประสาท อารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ แปรปรวนยิ่งกว่าพายุทอร์นาโด"จริงด้วยสิ..ท้องได้ก็แท้งได้!""บีจะทำอะไร?""เมื่อเช้าไม่ได้ยินเหรอไง! คุณพ่อบอกว่าบีกำลังจะมีน้อง นั้นก็หมายความว่านังนิมันท้อง""ท้อง!" เตชินถามอย่างตกใจ เพราะไม่ได้ฟังสามคนนั้นคุยกัน ด้วยมึนจากการที่โดนนิรณาทั้งตบทั้งถีบ"ใช่ มันท้อง แล้วเราสองคนก็กำลังจะตกกระป๋อง" บีบีแวดใส่สามีอย่างเหลืออดเหลือทน วัน ๆ ไม่ยอมทำงานทำการอะไร เกาะติดเป็นภาระ จนน่าเบื่อหน่าย"แล้วเราจะทำยังไงต่อดี...""ก็ทำให้มันไอ้มารหัวขนนั้น มันเกิดไม่ได้ซะสิ!"
"พี่ดินขาา..นิขอล่ะ ช่วยเลิกทำหน้าเหมือนหมดอาลัยตายอยาก อย่างกับว่าโลกทั้งใบกำลังจะแตกสลายสักทีเถอะค่ะ เห็นแล้ว..นิเครี๊ยดเครียดแทน" นิรณากล่าวเสียงใส สองเท้าเยื้องย่างเข้าไปหาสามี อารมณ์ดีสุด ๆเมื่อรู้ว่าบดินทร์จองสถานที่แต่งงาน อยู่แถวทะเลสาบที่ชอบนักหนา จนลืมความหม่นหมองของตอนเช้า ไปหมดสิ้น"พี่ต้องทำยังไงเหรอครับ?""พี่ดินจะต้องทำอะไรคะ?""การที่ต้องเห็นลูกกับเมียทะเลาะตบตีกันทุกครั้งที่เจอหน้า นิไม่คิดว่าพี่จะลำบากใจบ้างเลยเหรอ?" เขาถามไถ่เสียงซึม ลำบากใจทุกครั้งที่ต้องเลือกเข้าข้างคนใดคนหนึ่ง"คิดสิคะ..นิก็เลยจะบอกพี่ว่า ต่อไปนี้ นิจะไม่ไปยุ่งกับสองคนนั้นแล้วค่ะ แต่ถ้าสองคนนั้น มายุ่งกับนิ นิก็ไม่ยอมเหมือนกัน เพราะงั้นพี่ดินต้องจัดการลูกสาวพี่ ให้นิน้าา""ย้ายบ้านไหมครับ ย้ายไปอยู่คอนโดกัน""สโลแกนของนิรณาคือ..ซักไซ้และไล่ล่า เฮ้ย! ไล่จับ ไม่มีคำว่าถอยหรือหนีในพจนานุกรมค่ะ""แล้วมันเกี่ยวกันตรงไหนล่ะ?""ไม่รู้ค่ะ นิพูดเอาเท่ไปงั้นแหละ แต่ถ้าพี่ดินจะให้นิถอย พี่ก็ต้องบอกเหตุผลมาก่อน ว่าทำไมนิต้องยอมปล่อยให้คนที่เคยทำร้ายจิตใจ เสวยสุข แล้วตัว
คู่สามีภรรยาเดินกะหนุงกะหนิง จับมือกัน มาหยุดยืนหน้าทะเลสาบผืนงาม ดวงอาทิตย์ยามเช้าสาดแสงสะท้อนวิบวับกับสายน้ำที่กำลังกระเพื่อมไหว ตามแรงลมนิรณาหรี่ตามองธรรมชาติเบื้องหน้า ที่นี่ค่อนข้างเงียบสงบ ยิ่งรู้สึกปลื้มใจ"ทำไมถึงชอบที่นี่นักล่ะครับ?" บดินทร์ถามด้วยความสงสัย นัยน์ตาคมจ้องมองคนข้างกายที่ดูปลื้มปริ่มเหลือเกินกับสถานที่ตรงหน้า จนต้องบุกป่าฝ่าดง เดินเข้ามาไกลถึงสองกิโลเมตร เล่นเอาเจ้าบ่าว คิดไม่ตก ควรจะชวนแขกมายังไงดี"นิชอบค่ะ เห็นในนิตยสารแล้วสวยดี" เสียงใสตอบตามความจริง แต่อีกอย่างคือไม่อยากชวนแขกมาให้วุ่นวาย เธอไม่ชอบงานเลี้ยงและไม่ปลื้มเวลามีใครมาจดจ้องซึ่งในใจจริง ๆ นิรณาก็แค่อยากจะใส่ชุดเจ้าสาว แล้วแต่งงานให้เสร็จสิ้น ตั้งแต่ตอนนี้เลยด้วยซ้ำทว่าบดินทร์นั้นอยากจะทำให้มันเป็นทางการเพราะคือวันสำคัญในชีวิต ทั้งคู่จึงเลือกไปกันคนครึ่งทางคือให้ฝ่ายหญิงเลือกสถานที่ ส่วนฝั่งผู้ชายจัดสรรแขกแต่พอได้เห็นโลเคชั่นหน้างานจริง ๆ บดินทร์เลยได้แต่ทำใจ งานแต่งงานครั้งนี้เขาคงเชิญได้แค่ญาติและเพื่อนสนิท เพราะถึงแม้สถานที่จะสวย แต่การเดินทางนั้นแสนลำบาก"เห็นห
บีบีอยากจะบ่นเตชินให้หูชา อุตส่าห์หอบสังขารไปตั้งไกล กลับพบว่าไอ้เจ้าของร้านสมุนไพรประหลาดนั้น ถูกผัวชาวบ้านบุกมาแทงตาย ตั้งแต่เมื่อสองปีก่อนเพราะไปแย่งเมียเขา สุดท้ายเลยต้องกลับบ้านมามือเปล่าแต่สมองยังคง ไม่วายจะคิดหา..แผนการกำจัดนิรณา ทว่ามันกลับตื้อตัน จนนึกอะไรไม่ค่อยจะออกเลยตัดสินใจเดินเร็ว ๆ หนีสามีไปคนละทาง หวังจะกลับไปนอนพักเอาแรงเผื่อว่าความคิดจะได้โลดแล่นด้านเตชินที่ถูกทิ้งก็ไม่ได้สนใจหรือใส่ใจบันนิดาสักนิด แถมยังเริ่มเบื่อหน้าภรรยาเต็มทน ได้แต่นึกสงสัย ทำไมบีบีถึงไม่น่ารักเหมือนตอนแอบคบกันนิสัยหวานแหววพวกนั้นมันหายไปไหนหมด ทำไมถึงกลายเป็นคนเอาแต่ใจขนาดนี้ แล้วทางเลือกที่ยอมแต่งงานกับบีบีมันถูกหรือเปล่านะ ถ้าหากยังคบกับนิรณาอยู่ คงไม่ทำให้รู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อยมากถึงขนาดนี้ คงไม่ใช่แค่ไอ้เบ้ที่คอยเดินตาม เกาะชายกระโปรงผู้หญิงไปเป็นวัน ๆยิ่งคิดแล้วยิ่งเสียดาย ถึงแม้แฟนเก่าจะบ้างาน แต่คนคนนั้นก็เสมอต้นเสมอปลายมาตลอดเวลาที่คบกันช่วงเวลาแปดปีที่เป็นแฟน นิรณาไม่เคยรักน้อยลงเลยและไม่เคยนอกใจเขาทั้งที่ตัวเลือกเธอนั้นมีมากมายผู้หญิงที่แสนดีกลับเล
"โอ๊ยย..เมื่อยขามากเลยค่ะ" นิรณาบ่นอู้อี้ เรียกได้ว่าวันนี้เธอเดินเท้าไกล ไปกลับทะเลสาบถึงรถ ตั้งสี่กิโลเมตร ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าขานั้นจะล้ามากแค่ไหน พลางเริ่มรู้สึกว่าตัวเองตัดสินใจถูกแล้วที่ยอมกลับมาแต่งงานที่โรงแรมไม่ไปทรมานสังขารให้ร่างกายต้องเหนื่อยอ่อน..บุกดงพงป่าแบบนั้นอีกแน่ แถมวันแต่งงานยังต้องมีพิธีการแสนมากมาย ตามมาอีกเป็นขบวน แค่คิดก็ยุ่งยากน่าดู ทว่าก็ได้แต่ต้องทำจิตใจให้ร่ม ๆ ด้วยเป็นวันดีในชีวิตซ้ำยังไม่อยากให้มันออกมาน่าเบื่อ แล้วชูโทรศัพท์ให้สามีดู..หน้าจอปรากฏชัดเป็นโปรแกรมการเตรียมตัวเจ้าสาว ให้เพียบพร้อมสำหรับงานวิวาห์..ในภาพฝัน"พรุ่งนี้นิสัญญาว่าจะเลิกงานให้ตรงเวลาค่ะ หลังจากนั้นเราสองคนไปที่นี่กันนะคะ? " นิรณากล่าว น้ำเสียงตื่นเต้น"ได้หมดล่ะครับ นิอยากทำอะไร พี่ก็พร้อมสนับสนุน" บดินทร์รับตอบ ข้อเสนอง่ายดาย เมื่อรู้ว่าภรรยาต้องการ มีหรือจะไปขัดใจให้บาดหมางกัน ยอมตามใจนั้น..ง่ายที่สุดแล้ว"เป็นสามีดีเด่นขนาดนี้ พี่ดินอยากจะได้รางวัลไหมคะ?""แล้วหนูจะให้อะไรพี่เหรอครับ?""พี่ดิน รู้จักวิธีเอา….ใจ คนท้องหรือเปล่าคะ?""อย่าเว้นวรรคไ
เช้าตรู่ของวันใหม่ นิรณาหลับไปประมาณห้าหกชั่วโมง สะดุ้งตื่นขึ้นมาช่วงเวลาตีสี่ตีห้า เธอมักจะชอบลุกเข้าห้องน้ำ สองเท้าจึงเยื้องย่าง ไปจัดการอาบน้ำแต่งตัว ก่อนจะมุ่งหน้าเดินออกจากห้องไป หวังจะ..ทำข้าวต้มหมูสับ เอาใจคุณสามีสลับกับฝั่งเตชิน ที่นอนกกแม่บ้านสาว ในห้องนอนแขก สะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ จนทำอะไรไม่ถูก เหลือบมองนาฬิกา ปานนี้บีบี ไม่ถล่มบ้านตามหาเขาแล้วหรือไงสองเท้าจึงเร่งรีบก้าวลงจากเตียงไปคว้าเอาเสื้อผ้ามาแต่งตัว กะว่าจะค่อยๆ แอบหลบออกจากห้องไม่ให้คนอื่นเห็น แต่แล้วหลังจากออกมา กลับเห็นร่างกายที่คุ้นเคยมุ่งหน้าไปอีกทาง สองขาดันก้าวตามเธอไปแอบมองอยู่นาน เห็นนิรณากำลังสาละวนอยู่กับการตระเตรียมข้าวของทำอาหาร เลยอดใจไม่ได้ที่จะเอ่ยทักทาย"สวัสดีครับ..คุณแม่" เสียงยียวนกวนประสาท นิรณาจำได้ดีทีเดียว คงไม่ใช่ใครอื่นใด นอกจากเตชิน พลันนั้นดวงหน้าสวยเงยมองขึ้นมา นัยน์ตาแววไม่สบอารมณ์อย่างแรง"มาทำอะไรที่นี่?""บ้านของภรรยา ผมก็ต้องมาอยู่กับเธอสิครับ""เฮอะ! จะไปไหนก็ไปเถอะ เห็นหน้าแล้ว รู้สึกเหมือนจะซวยไปทั้งวัน"เตชินคิดตาม กำลังสงสัยว่าตนเป
"พี่ดิน! พี่ดินคะ" นิรณาว่าแล้วเขยิบตัวไต่ขึ้นเตียงไปทีละนิด จนกระทั่งมาอยู่ใกล้ ๆ ตัวสามี เธอจึงเอานิ้วไปจิ้มแก้มบดินทร์ เรียกขานชื่ออีกรอบชายตรงหน้าก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา พร้อมกันจึงเหลือบมองนาฬิกาปลายเตียง เข็มสั้นยังชี้อยู่ที่เลขห้า"ตอนนี้ยังเช้าอยู่เลย พี่ขอนอนต่ออีกหน่อยนะครับ""ได้ค่ะ แต่ว่าบ้านเรามีกล้องวงจรปิดไหมคะ?""แล้วหนูอยากดูกล้องไปทำไมกันครับ?" บดินทร์ถาม นึกสงสัย นิรณาจะสำรวจบ้านตัวเองผ่านกล้องวงจรหรือยังไง"ก็นิอุตส่าห์ตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ จะลงไปทำอาหารให้พี่ดินได้ลิ้มลองฝีมือของศรีภรรยาคนนี้ แต่เตชินน่ะสิคะ ไม่รู้ว่าโผล่ออกมาจากไหน อยู่ดี ๆ เขาก็พรวดพราด มาขอคืนดี แบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน" เสียงหวานโพล่งออกไป นิรณาไม่ใช่ผู้หญิงที่จะอมพะนำเรื่องราว จนมันบานปลายซ้ำยังมีคติประจำใจคือ..พูดก่อนได้เปรียบ คนสวยเลยรีบฟ้องสามีแทบทันที เมื่อเห็นว่าบดินทร์มีเวลารับฟัง"ทำไมเตชินถึงยังมาวุ่นวายกับหนูอีกล่ะ?" เขาถามด้วยความอ่อนใจ ปัญหาระหว่างสามคนนี้ น่าปวดหัวเหลือเกิน"เพราะเตชินเป็นคนเจ้าชู้ค่ะ พี่ดินต้องจัดการนะ ไม่งั้นคนที่น้ำตาเช็ดหัวเข่าจะเป็
นิรณาเดินกระฟัดกระเฟียด สีหน้าบอกบุญ..ไม่รับออกมาจากห้องครัว ก่อนจะตามมาด้วยชายผู้มีศักดิ์เป็นลูกเขยวิ่งตามมาทางด้านหลังมันคนนั้นคว้าเอวผู้หญิงของเขาไปกอดไว้ แถมยังเอาหน้าไปชิดใกล้แก้มนุ่ม ทำให้ความรู้สึกแปลก ๆ แทรกเข้ามา เตชินเป็นอย่างที่ภรรยาพูดบดินทร์เห็นทุกอย่างผ่านกล้อง แต่กลับไม่ได้ยินเสียง อาจเพราะมันไกลเกินไปเขาลงมือเลื่อนวิดีโอกลับ โชคร้ายที่ในห้องครัวนั้นไม่มีกล้อง จึงไม่ได้รู้ ได้เห็นว่าสิบกว่านาทีที่หายเข้าไปด้านในทั้งคู่ทำอะไรอยู่ และเพราะความสงสัยคิดว่าทั้งคู่อาจนัดกัน พลันเลื่อนสายตามองสลับไปยังจอด้านข้างที่ติดกล้องของชั้นบนไว้ แล้วเลื่อนกลับเรื่อย ๆจนเห็นภรรยากำลังเดินงัวเงีย ออกจากห้องนอนของตัวเอง ยกมือสางผมนุ่มสลวย เดินมุ่งหน้าเหมือนต้องการจะไปทางห้องครัวจริง ๆ ไม่ใช่ทางอื่น บดินทร์พลันโล่งใจทว่าตอนที่คนภรรยากำลังจะเดินลงบันไดไป ภาพของเตชินดันพรวดพราดออกมาจากห้องนอนแขกยัดเสื้อลงกางเกงท่าทางดูร้อนรน เงยหน้ามองซ้ายขวา ท่าทางระแวดระวัง และเหมือนว่าเขาจะเห็นนิรณา สองเท้าจึงเร่งเดินตามเธอไปซึ่งมัน..จะไม่ทำให้บดินทร์โกรธเลยสักนิด ห
นิรณามองสามีด้วยแววตาอ่อนล้า หัวใจหนักอึ้งด้วยความเวทนา บดินทร์กลายเป็นเจ้าชายนิทรามานานกว่าห้าเดือนแล้ว ร่างกายที่เคยแข็งแรงบัดนี้นอนนิ่งไร้การตอบสนอง ไม่มีวี่แววว่าจะฟื้นคืนสติ"ขอโทษนะคะ ขอโทษสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้านิไม่ก้าวมาในชีวิตของพี่ เรื่องราวก็คงไม่เป็นแบบนี้" เสียงแผ่วเบาแฝงความเศร้าหมอง คำพูดเดิมที่เธอพร่ำบอกเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดเวลาที่เขาหลับใหล เธอเอาแต่โทษตัวเอง วันแล้ววันเล่าที่จมดิ่งอยู่กับความรู้สึกผิด ไม่อาจปลดเปลื้องความทุกข์ในใจได้แต่เพราะเด็กชายที่อยู่ในท้อง คนเป็นแม่จำต้องพยายามไม่ให้ตัวเองเครียดมากนัก หาสิ่งต่าง ๆ ทำวนเวียนไป เพื่อไม่ให้มีเวลาครุ่นคิดจนเกินไป แต่สุดท้าย ไม่ว่าจะพยายามสักเพียงใด ก็ไม่อาจลบเลือนความคิดถึงที่มีต่อสามีได้แม้แต่น้อยทุกลมหายใจเข้าออกยังคงเป็น...บดินทร์หากการอ้อนวอนต่อฟากฟ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใด ๆ จะช่วยได้ นิรณาอยากจะร้องขอสักครั้ง..ขอให้คืนคนรักของเธอกลับมาขอเพียงให้ลูกน้อยที่ใกล้จะลืมตาขึ้นมาเผชิญโลกกว้าง ได้มีพ่อที่เป็นปกติเหมือนเช่นคนอื่นได้โปรดแต่คำอธิษฐานดูจะไม่มีวันได้รับคำตอบ เวลาผ่านล่วงเข้าสู่เดือนที่เจ็ดของการหล
จนเวลาล่วงเลยผ่านมาอีกสามวัน นิรณายังคงวนเวียนอยู่แถวบริเวณนี้ เพื่อติดตามการค้นหาบีบีและเตชินใช้เส้นสายที่มีให้ติดประกาศจับ แต่ยังไม่พบเจอว่าคนทั้งคู่ไปหลบเลี่ยงอยู่ในรูไหน ทุกอย่างเลยมืดแปดด้าน"พี่! พี่..เจอแล้วพี่" นราภพวิ่งเข้ามาในห้องพัก ก่อนจะหยุดยืนหอบต่อหน้านิรณา แล้วยื่นมือถือมาให้ดู"สายของผมถ่ายรูปคล้ายกับไอ้เตชินได้แถวท่าเรือร้างทางใต้ เมื่อประมาณครึ่งชั่วโมงก่อน ผมเลยให้มันไล่ตามไปแต่ก็คลาดกันจนได้" เสียงสั่นด้วยความเหนื่อยอธิบายเร็ว ๆฝั่งนิรณาเพียงแค่กวาดสายตามองรูปก็จำได้แทบทันที ว่าชายในภาพคือเตชิน แม้ว่าสภาพจะเละเทะ เนื้อตัวเสื้อผ้าสกปรกเปรอะเปื้อนไปดินโคลนทว่าสำหรับบุคคลที่เคยอยู่ร่วมกันมาหลายปีย่อมจำได้ แม้แต่ปลายเส้นผม เธอก็จำได้..จำได้ว่าเขาคือ เตชิน!"รีบเตรียมรถ พี่จะรออยู่ด้านหน้า" เสียงจริงจังหันไปสั่งน้องชาย ก่อนจะเดินไปหยิบอาวุธ และเช็กดูกระสุนในที่สุดสองพี่น้อง..ก็เดินทางมาถึงท่าเรืออันเงียบสงบ จนน่าประหลาดใจ เวลานั้นสัญชาติ..บอกให้นิรณาระวังตัว เธอเร่งหันไปส่งสัญญาณให้น้องชายตามมา ก่อนจะลัดเลาะไปตามตู้คอนเทนเนอร์ที่เรียงราย ดั่งเขาวงกตจนมาถึงอีกฝั่ง
ฝั่งนิรณาในที่สุด..ก็สามารถตามตัวเจอ จากข้อความที่นราภพ สู้อุตส่าห์ไปตามสืบ จนพบว่าคนพวกนั้น ไปปรากฎตัว อยู่แถวท่าเรือ อันเป็นสถานที่..ที่พวกอาชญากรทั้งหลายมักจะใช้หลบหนีออกนอกประเทศยิ่งทำให้กลัวใจ..กลัวว่ามันจะทำการหลบหนีได้สำเร็จ สองเท้าก้าวฉับ ๆ คว้าเอากุญแจรถ เตรียมมุ่งหน้าไปตามหาพวกมัน หวังจะจับให้ได้ด้วยมือตัวเองจวบจนเวลาเข้าสู่ยามโพล้เพล้ใกล้ค่ำ นิรณาที่ขับรถวนรอบเกาะและท่าเรือที่คาดว่าพวกมันจะไปกลับไม่เจอเลยสักนิด จนรู้สึกท้อใจ ตัดสินใจแวะปั๊มทางข้าง ลงไปล้างหน้า ล้างตา ให้รู้สึกสดใส จะได้มีแรงฮึดต่อดวงตากลับเหลือบเห็นใครบางคนในชุดเสื้อยืดสีขาวกางเกงยีนส์สีดำ สวมแมส สวมหมวก ปิดบังใบหน้า แต่ออร่าความหล่อยังพุ่งกระจาย ยืนเคียงข้างกับหญิงสาวตัวเล็ก ๆ ในชุดเดรสสีชมพู สวมปีกกว้างกำลังยืนลังเล..อยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ ทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆทว่าหากเป็นคนนอกมองมา คงคิดว่าเป็นคู่รักดารา แอบมาเที่ยวสวีทหวาน ไม่อยากให้ใครเห็นหน้าแต่นั้นไม่ใช่กลับนิรณา เธอมองแค่ปราดเดียวก็จำได้ทันทีว่า..สองคนนั้นแหละ! คือคู่ผัวเมียที่ตัวเองมาตามจับแต่ขณะที่ค่อย ๆ ย่องเข้าไป มือกำลัง เตรียมปืนจะยกขึ้นเล็งขู
สามอาทิตย์..ก่อนหน้านั้น"หมอขอแสดงความเสียใจด้วยครับ ทางเราสามารถยื้อชีวิตคุณบดินทร์ได้แล้ว แต่เขาถูกสารเสพติดประเภทหลอนประสาท ทำลายสมองมากเกินไป ฝั่งการรับรู้เลยไม่ทำงาน" แพทย์วัยกลางคนอธิบายเสียงเศร้า อับจนปัญญาที่จะช่วยเหลือได้นอกจากรอเวลา ให้ร่างกายคนไข้ ฟื้นตัวเอง ซึ่งแทบจะไม่มีปาฏิหาริย์ เพราะสมอง ส่วนการรับรู้โดนฤทธิ์ของยานรกที่เกินขนาดเล่นงานให้"หมายความว่าพี่ดินจะต้องนอนเป็นผักอยู่แบบนี้เหรอคะ?" สิ้นคำถาม แพทย์เจ้าของไข้พยักหน้ารับ ก่อนจะขอตัวไปตรวจอาการคนอื่นต่อนิรณาเลยได้แต่มองตามหมอจนลับสายตา ความรู้สึกผิดถาโถมเข้ามาใส่ตัว เธอไม่น่าใช้บดินทร์เพื่อเป็น..เครื่องมือแก้แค้น ไม่น่าทำแบบนั้นเลยสักนิดมันความคิด..ที่ผิดพลาด ตั้งแต่เริ่ม ถ้าวันนั้นตัดสินใจ ไม่เข้าหา ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า เขาก็คงไม่ต้องมานอนหลับไม่รู้สติอยู่แบบนี้พอยิ่งคิดถึงความหลัง นิรณายิ่งโทษตัวเอง ได้แต่ถามว่าทำไม ๆ ทำไมบดินทร์ต้องเป็นคนรับกรรมที่ตัวที่เขาไม่ได้สร้าง ทำไม ไม่เป็นเธอที่ต้องนอนอยู่ตรงนี้ทำไมทุกอย่างมันเลวร้าย แย่ลงไปหมด ทั้งที่เขาไม่ได้ทำผิดอะไร ทั้งที่เขาทำดีทุกอย่างแต่สุดท้าย คนใจดีคนนั
"อโหสิกรรมให้กันเถอะนะ แล้วชาติฉันท์ใด อย่าได้มาเจอะมาเจอกันอีกเลย" สิ้นเสียงพูด นิรณายกมือไหว้ พร้อมปักธูปลงลงบนกระถาง ใบหน้าราบเรียบ ไร้ซึ่งชีวิตชีวา"ป้าเสียใจด้วยนะคะ..คุณนิ" หญิงวัยกลางเดินมาหาคนเป็นเจ้าภาพงานขาวดำครั้งนี้ แล้วยื่นมือไปรับธูป นำไปเคารพคนจากไป สีหน้าที่เศร้าสร้อย"หนูเสียใจด้วยนะคะ" หญิงสาวอีกคนที่ตามเข้ามาเอ่ยด้วยเสียงซึมเล็กน้อย นิรณาก็ไม่ได้พูดอะไร และยังคงตีสีหน้าเฉยเมย พร้อมยื่นธูปให้คนคนนั้นไป ดั่งหุ่นยนต์นัยน์ตาสีหวานว่างเปล่า ไร้ซึ่งความรู้สึก ตอนนี้ชีวิตเคว้งคว้าง มองไปทางไหนก็มีแต่ความว่างเปล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเลยเถิด จนทำให้เธออยากจะเป็นบ้าอีกด้านหนึ่ง พวกคุณหญิงต่างพากัน หันหน้ามาซุบซิบ"เห้ออ..สงสารคุณนิเนอะ ท้องตั้งหลายเดือนขนาดนั้น ยังต้องมาคอยจัดการงานตัวคนเดียวอีก""ฉันได้ข่าวมาว่าเขาไม่มีญาติเหลือเลยสักคน""แบบนั้นก็น่าสงสารแย่เลย" หญิงอีกคนพูด รู้สึกเห็นใจ ทั้งนิรณาและคนเสียชีวิต"นั้นสินะ! ยังหนุ่มยังแน่นอยู่แท้ ๆ ทำไมถึงมาด่วนจากไปเร็วก็ไม่รู้""เมื่อเช้าฉัน..ก็ลองถามหาสาเหตุนะ แต่ว่าคุณนิไม่ยอมพูดอะไรเลย" อีกคนกล่าวสมทบ"เธอก็คงช็อกมากแ
นิรณากลับมาถึงบ้านด้วยความเหนื่อยอ่อน ไม่ว่าจะทำยังไง..คนเห็นแก่ตัวก็ไม่หมดไปสักทีทำเอางานในมือเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ต่างจากคนปฏิบัติงานที่มีเพียงเพียงน้อยนิด ไม่สัมพันธ์กันแต่แล้วเมื่อเปิดประตูห้องนอนออก บดินทร์กลับไม่อยู่พอลองโทรหา ก็ไม่ติด ทำให้คนเป็นภรรยาเริ่มกังวลใจตั้งแต่คบกันมาเวลาเขาจะไปไหน มักจะส่งข้อความบอกตลอด แต่วันนี้กลับไม่มีปฏิบัติการตามหาสามีจึงเริ่มต้นขึ้น เธอออกสำรวจไปทั่วบ้าน จนถึงโรงรถพบว่ายังมีรถบดินทร์จอดอยู่ ไม่ได้ไปไหน"สวัสดีค่ะ คุณนิ" แม่บ้านคนหนึ่งเดินปะหน้ากับนิรณาพอดี ยกมือขึ้นไหว้ทักทาย เธอจึงส่งมอบรอยยิ้มกลับไป"ฉันมาตามหาพี่ดินค่ะ พี่พอจะรู้ว่าเขา อยู่ที่ไหนหรือเปล่าคะ?" เสียงหวานถามออกไปอย่างเป็นมิตร"คิดว่าน่าจะบ้านคุณบีบีนะคะ เห็นพวกแม่บ้านฝั่งนั้น วุ่นวายออกไปซื้ออาหารตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้ว""พวกเขามีนัดทานข้าวกันตอนเย็นเหรอคะ?" นิรณาถามอย่างงุนงง บดินทร์ก็นะ ไม่ยอมบอกอะไรเธอสักอย่าง"ค่ะ ฉันเห็นว่าคุณดิน ไปบ้านหลังนั้น ตั้งแต่ห้าโมงเย็นแล้วนะคะ" แม่บ้านรายงานทุกอย่างตามความจริง"ขอบคุณที่บอกค่ะ""แล้วคุณนิจะไปบ้านคุณบีบีไหมคะ?""เกรงว่าถ้าไปแล้วระเบิ
บีบีและเตชินร่วมมือ ช่วยกันพาร่างไร้สติของบดินทร์ขึ้นมา จนถึงห้องนอน ยังเห็นว่าเขายังหลับสนิท คนเป็นสามีจึงเริ่มตั้งกล้องตรงปลายเตียง ก่อนจะเดินออกไปจากปิดประตูดัง..ปึงงง ไม่สนใจ หรือหึงหวงบันนิดา เลยแม้แต่น้อยฝ่ายภรรยาก็ได้แต่มองตามเตชินหน้าจ๋อย ไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำทุกอย่างได้เพื่อเงิน ถึงขนาดยอมให้เธอใช้ร่างกายร่วมหลับนอนกับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเอง สลับกับเลื่อนสายตามองดูบดินทร์ ใจนั้นไม่อยากทำกับเขาแบบนี้เลยทว่าต้องทำอย่างไรล่ะ..หากว่าถอยตอนนี้ผลเสียย่อมมากกว่า เธอลงมือทุกอย่างไปอย่างชัดเจน เขาเห็นทั้งหน้า และรู้ตัวว่าโดนวางยา ความรู้สึกหลังจากนี้ บดินทร์คงมองตัวเธอเปลี่ยนไปแน่นอนยังไงซะ ตอนนี้ก็ไม่อาจถอยได้ ต้องเดินตามแผนต่อไปจวบจนเวลาผ่านไป รู้สึกตัวอีกที บดินทร์กลับพบว่าตัวเองกำลังนอนเปลือยเปล่า อยู่ข้างบีบีที่ไม่ได้สวมใส่อะไร เวลานั้นความรู้สึกมากมายถาโถมเข้ามาใส่ ทั้งช็อก ทั้งโกรธ ทั้งโมโหและเศร้าใจ เร่งสะบัดศีรษะไปมาเพื่อเรียกสติให้คืนกลับ พร้อมยกมือขึ้นมาตบหน้าตัวเอง หวังจะเช็กดูให้แน่ใจว่าสิ่งที่พบเจอ ไม่ใช่ความฝันและนั้น! ไม่ใช่ความฝ
หลังจากเริ่มรับประทานอาหาร ทำให้ทั่วทั้งห้อง ตกอยู่ภายใต้ความเงียบ น่าอึดอัดใจ บดินทร์ที่ทานไปได้ สองสามคำ ค่อย ๆ ตัดสินเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ"พ่อจะให้เวลาหนูกับเตชินพิสูจน์ตัวเอง เลิกยุ่งกับยาเสพติด แล้วไปหางานทำให้ได้ภายในเดือนนี้""บีเลิกยุ่งกับยาพวกนั้น..นานแล้วค่ะ" บันนิดาปฏิเสธเสียงแข็ง คราวก่อนที่บดินทร์ส่งไปบำบัด เธอจำได้ดีว่ามันทรมานแค่ไหน และไม่อยากกลับไปเหยียบอีก..เป็นหนที่สอง ทว่าร่างกายกลับเสพติดของพวกนั้น จนไม่อาจทนต่อความต้องการไหว"หนูทำหรือไม่ทำ บีบีรู้อยู่แก่ใจตัวเอง พ่อจะไม่เข้ายุ่ง แต่ถ้าเดือนหน้า หนูกับเตชินยังมีสภาพแบบนี้อยู่ พ่อคงจะให้อยู่ที่นี่ไม่ได้""ผมเข้าไม่เข้าใจ พวกเราสองคนทำอะไรผิด ทำไมคุณพ่อ ถึงต้องไล่ผมกับบีออกไปด้วย" คนเป็นลูกเขยกล่าวเสียงสั่นเครือ แสร้งทำน้ำเสียงเศร้าซึมตามมาแต่นั้นกลับเป็น การเล่นละครที่น่าสะอิดสะเอียน ในสายตาบดินทร์ ทำเอากลืนอาหารลงคอด้วยความยากลำบากไม่คิดว่าการมาทานข้าวร่วมกับลูกสาวครั้งนี้ รสชาติกับข้าวราคาแพงจะฝืดคอได้มากขนาดนี้ พร้อมกันจึงยกน้ำเปล่าจิบนิด ๆ หวังให้ละเลียดลงกระเพาะไปให้จบ ๆ จ
บดินทร์เดินเตร่มาตามเส้นทางสวนสวย ๆ ดวงตามองแสงตะวันยามโพล้เพล้ หวังให้ความงดงามของธรรมชาติช่วยบรรเทาอาการเครียดที่มีตอนนี้เขารู้แล้วว่าบันนิดากลับไปใช้สารเสพติดอีกครั้ง หลังจากให้แม่บ้าน นำผมลูกสาวไปส่งตรวจความทรงจำแย่ ๆ เริ่มไหลย้อนกลับมา และนั้นคงเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของบีบีคนเป็นพ่ออย่างเขา ย่อมจำได้ดี บันนิดาในวัยเด็กนั้นน่ารักและร่าเริง แต่พอช่วงอายุได้ประมาณสิบหกปีเด็กคนนั้นก็เข้ามาถาม เรื่องที่ตัวเอง ไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของเขา ซึ่งบดินทร์ก็ยอมรับไปแต่ใครจะคิดว่า เบื้องหน้าสาวน้อยสดใสจะถูกความน้อยเนื้อต่ำใจกลืนกิน แถมเขายังไม่เคยมีเวลาให้กว่าจะรู้ตัวบีบี ดันถลำลึกเกินฉุดรั้ง เคราะห์ร้ายเธอยังไปหลงรักผู้ชายเลว ๆ และหนีไปอยู่ด้วยกัน เชื่อมาตลอดว่านั้นคือความรักที่แท้จริง สุดท้ายบดินทร์จึงส่งบีบีไปลองตรวจอาการทางจิต ปรากฏว่าเธอป่วยเป็นโรคเรียกร้องความสนใจ ทั้งบดินทร์และบุษบาเลยส่งบีบีไปรักษา พอออกมาได้ ทั้งสองคนก็พยายามช่วยกันกลบปมด้อยภายในใจของลูกสาว ทำให้บันนิดามีอาการดีขึ้นแต่ความสุขดันมีได้ไม่นาน หลังจากที่ทั้งคู่สูญเสียคนกลางไป ความสัมพันธ์ระหว