นิรณาเดินกระฟัดกระเฟียด สีหน้าบอกบุญ..ไม่รับออกมาจากห้องครัว ก่อนจะตามมาด้วยชายผู้มีศักดิ์เป็นลูกเขยวิ่งตามมาทางด้านหลัง
มันคนนั้นคว้าเอวผู้หญิงของเขาไปกอดไว้ แถมยังเอาหน้าไปชิดใกล้แก้มนุ่ม ทำให้ความรู้สึกแปลก ๆ แทรกเข้ามา เตชินเป็นอย่างที่ภรรยาพูดบดินทร์เห็นทุกอย่างผ่านกล้อง แต่กลับไม่ได้ยินเสียง อาจเพราะมันไกลเกินไปเขาลงมือเลื่อนวิดีโอกลับ โชคร้ายที่ในห้องครัวนั้นไม่มีกล้อง จึงไม่ได้รู้ ได้เห็นว่าสิบกว่านาทีที่หายเข้าไปด้านในทั้งคู่ทำอะไรอยู่ และเพราะความสงสัยคิดว่าทั้งคู่อาจนัดกัน พลันเลื่อนสายตามองสลับไปยังจอด้านข้างที่ติดกล้องของชั้นบนไว้ แล้วเลื่อนกลับเรื่อย ๆจนเห็นภรรยากำลังเดินงัวเงีย ออกจากห้องนอนของตัวเอง ยกมือสางผมนุ่มสลวย เดินมุ่งหน้าเหมือนต้องการจะไปทางห้องครัวจริง ๆ ไม่ใช่ทางอื่น บดินทร์พลันโล่งใจทว่าตอนที่คนภรรยากำลังจะเดินลงบันไดไป ภาพของเตชินดันพรวดพราดออกมาจากห้องนอนแขกยัดเสื้อลงกางเกงท่าทางดูร้อนรน เงยหน้ามองซ้ายขวา ท่าทางระแวดระวัง และเหมือนว่าเขาจะเห็นนิรณา สองเท้าจึงเร่งเดินตามเธอไปซึ่งมัน..จะไม่ทำให้บดินทร์โกรธเลยสักนิด หเมื่อคล้อยหลังลูกเขยตัวดีที่เดินคอตกออกไป บดินทร์ก็ค่อย ๆ เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ท่าทางเหนื่อยใจเรื่องราวของ..นิรณา เตชิน บีบีปกติก็น่าปวดหัวมากอยู่แล้ว ตอนนี้ไอ้ลูกเขยที่นรกส่งมา ดันไปสร้างวีรกรรม นอนกับสาวใช้ซ้ำร้ายยังไม่รู้ว่า..ป้องกันหรือเปล่า หากท้องขึ้นมาคงสร้างความลำบากไม่ใช่น้อย แต่ครั้นจะให้เขาแก้ปัญหาให้ก็ไม่ใช่เรื่องของตัวเองติดแค่กับบีบีเด็กคนนั้นสภาวะอารมณ์ไม่คงที่ ให้รู้เรื่องราวไม่ได้ เขาเลยจำต้องปิดบัง จนกว่าจะถึงวันที่เธอพร้อมใจนั้นยิ่งนึกโกรธเตชิน ทว่าจะให้กระทืบหรือใช้ความรุนแรง นั้นก็ไม่ใช่ทางออกที่แท้จริงดีไม่ดีต้องขึ้นโรงขึ้นศาลเหมือนคราวก่อน ยิ่งทำให้เสียชื่อเสียงที่บิดามารดาสร้างสมไว้หากตายไป บดินทร์..คงไม่มีหน้ากลับไปหาบรรพบุรุษ"ผมควรทำยังไงดีครับ? พี่บุษ" เสียงทุ้มสอบถามบุษบา นัยน์ตาจ้องมองรูปแต่งงานของตัวเองกับภรรยาเก่า หวนนึกถึงเรื่องราว ครั้งแรกที่เจอกัน"ต่อไปนี้ คุณบุษบา เธอจะมาเป็นพี่เลี้ยงของลูกนะ" มารดาที่กำลังป่วยรู้ตัวดีว่าคงอยู่ดูแลเขาได้อีกไหมนานตัดสินใจจ้างวานลูกสาวของชาติ เศรษฐีเพื่อนบ้านที่
พะพายเดินอารมณ์ดี มายังโซนที่พวกแม่บ้านนั่งทานข้าวกัน ดวงตามองนาฬิกาเรือนสวยที่เตชินยอมถอดออกจากข้อมือแล้วยื่นให้ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มาตลอดทาง"มา ๆ นังพาย มากินข้าว" เสียงป้าเรียกหา มือแกกำลังยกสำรับอาหารมาหลายอย่าง เตรียมตั้งวง"จ้ะป้า"รับคำเสร็จสิ้น เธอจึงเดินไปช่วย แล้วทรุดนั่ง มองพวกอาหารในถาด หน้าตาน่ากิน ด้วยใจจดใจจ่อแต่กลับต้องรอคนให้มาครบซะก่อน ไม่งั้นคงถูกนินทา หาว่าตายอดอยาก กินข้าวไม่รอผู้ใหญ่ คิดเพียงแค่นั้นก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ หากว่ามีเงินมากกว่านี้ คงไม่ต้อง..เป็นขี้ข้าใคร"แล้วแกหายไปไหนมาทั้งคืนล่ะ? ยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่กลับมาเชียว มีอะไรดี ๆ เกิดขึ้นงั้นเหรอ?""อ๋อ ฉันทำความสะอาดเพลินไปหน่อย แล้วก็ไปทำอีท่าไหนก็ไม่รู้ ประตูห้องมันดันเปิดไม่ออก""ทำไมแกถึงไม่โทรหาป้า?""ฉันไม่ได้เอาโทรศัพท์ไป""อ้าว! แล้วออกมาได้ยังไง?" ป้าซักถามด้วยความสงสัย เมื่อเห็นหลานสาวมีท่าทีแปลก ๆ"ฉันก็ไปทำอีท่าไหน ไม่รู้เหมือนกัน อยู่ดี ๆ ประตูมันดันเปิดออกมาได้คนเดียว""มึงแถขนาดนี้สีข้างไม่ถลอกเหรอ?" เสียงแป๋วประชดขึ้น แล้วว่าต่อ "ฮึ! อย่าคิดว่ากู
"ไม่น่าเชื่อว่าแกอยากจะขอโทษฉัน มีอะไรแอบแฝงหรือเปล่า?" นิรณาถามโต้ง ๆ จะมองยังไงก็ดูไม่น่าไว้ใจสักนิด"ฉันขอโทษจริง ๆ นะ ทั้งหมดทุกเรื่องที่ทำไป ก็แค่อิจฉาแกเท่านั้น" คนตรงหน้าพยายามพูด โทนเสียง..เป็นมิตรแต่หากสนิทจริง ๆ ก็จะดูออกอยู่ดีว่าแกล้งทำแต่เพราะอยากรู้เจตนา จึงยินยอมตามน้ำ กล่าวถามออกไปเสียงเรียบ"ฉันดีกว่าแกตรงไหนงั้นเหรอ?""ใคร ๆ ก็รักแกนี่น่า ฉันน่ะ ฉันแค่อยากเป็นแกก็เท่านั้น ทุกคนจะได้ชอบฉัน" บีบีหลุดปากออกไป เขยิบตัวเข้าไปใกล้กับนิรณาอีกนิด"เลยเอาตัวเองไปนอนกับแฟนฉัน ไม่สิ! อดีตต่างหาก" พูดจบ คนซักไซ้จึงเงียบเสียงลง ก่อนจะลอบมองปฏิกิริยาท่าทางดูร้อนรนของบีบี ยิ่งไม่วางใจ พร้อมยกแขนขึ้นกอดอก นัยน์ตา ยังคงจับจ้อง หยั่งเชิงดูว่า..คนที่เคยเป็นเพื่อนจะทำยังไงต่อไป"เข้าใจถูกต้องแล้วล่ะ..เพราะฉันอยากเป็นแก ฉันเลยอยากได้เตชิน" บีบีร่ายออกมาเหมือนยียวนหาเรื่องกวนประสาท หากแต่ใครบ้างจะรู้..จริง ๆ เธอนั้นโคตรอิจฉา โลกของนิรณาเสียจริง"ฉันไม่เข้าใจสักนิดเดียว ทำไมถึงอยากเป็นฉันนักหนา""ใคร ๆ ก็รักแก ทุกคนที่อยู่รอบตัวฉัน..รักแต่แกคนเดี
"ถามจริง! พี่จะปล่อยไว้แบบนี้ จริง ๆ เหรอ?" นราภพถามอย่างหัวร้อน เขาสู้ตามสืบชีวิตประจำวันของบันนิดามาเป็นเดือน ๆ แถมยัยคนนั้น ยังคิดจะทำร้ายพี่ของเขาอีก แต่นิรณากลับยังใจเย็น ทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน"ใครมันจะไปคิดว่าเพื่อนเก่าจะร้ายกาจขนาดนั้น เห้อ ถ้าแกไม่ส่งข้อมูลมาให้ฉันดู ปานนี้คงคิดว่ายัยนั้นอยากคืนดีด้วยจริง ๆ แน่""โดนกระทำขนาดนั้น ยังจะคิดพวกมันเป็นคนดีอยู่อีกเหรอ? สัญชาตญาณพี่เนี่ย! ไม่แม่น..เหมือนสมัยก่อนแล้วนะ!""แกจะไปรู้อะไร..สมัยก่อน ตอนยังอยู่มอปลายบีบีมันเป็นเพื่อนที่น่ารักอยู่นะ" นิรณากล่าวถึง ภาพจำของเพื่อนมีด้านดีอยู่ไม่ใช่น้อย ไม่เช่นนั้นคงไม่คบกันมาเป็นสิบ ๆ ปี จนบางครั้งเธอยังคาดไม่ถึงเลยว่าเพื่อนจะกลายมาเป็นคนแบบนี้"ผมจะบอกความลับให้พี่ฟัง""อะไร?" สารวัตรสาวเร่งเงยหน้าจากกองเอกสาร มองหน้าน้องชายด้วยความสงสัย อยากรู้ว่า..นราภพปิดบังอะไรไว้"ผมเคยคบกับบีบีช่วงหนึ่ง..ยัยนั้น มันประสาทกลับ นอกจากตัวเอง คงไม่เคยรักใครจริง ๆ หรอก""อ้าว ไหนตอนนั้น แกบอกว่าไม่ได้คบ""ถ้าบอกว่าเรากำลังคบกัน พี่จะให้คบไหมล่ะ?""ไม่!" นิรณาปฏิเสธเสี
"บีบี! ถ้าจะโง่ ก็โง่ให้มันน้อย ๆ หน่อยเถอะ คิดยังไง ถึงจะหนีออกจากบ้านห๊ะ!" เตชินที่เพิ่งกลับมาเอ็ดใส่ภรรยาที่กำลังเก็บข้าวเก็บของ ยัดกระเป๋าเดินทาง ท่าทางกะฟัดกะเฟียด หัวเสียอยู่ใช่เล่น"บ้านที่พ่อ..ไม่แม้แต่จะหันมาสนใจใยดี บีไม่อยู่หรอก!""อยากโดนแย่งสมบัตินักใช่ไหม? ถึงได้ปล่อยให้นิรณาทำคะแนนอยู่ฝ่ายเดียว!" เสียงก้าวร้าว ตะคอกใส่หน้าภรรยา นึกอยากจะควักสมองบันนิดามาดู ทำไมถึงได้โง่งมขนาดนี้"ถ้าบีหายไป เดี๋ยวคุณพ่อก็ไปง้อเองแหละ ห่างกันสักพัก คงจะมีเวลาทบทวนความจำ ถึงยังไงคนอย่างเขา ถ้าขาดบีไป สุดท้ายก็คงทนไม่ได้อยู่ดี" บันนิดามั่นใจมากเพราะปกติบดินทร์จะเป็นฝ่ายไปตาม กลับมาตลอด สาเหตุหลัก ๆ คงเพราะทนความรู้สึกผิดที่อยู่ในใจไม่ไหวล่ะมั้ง"เอาอะไรมามั่นใจ ตอนนี้ไอ้ดินมันได้เมียใหม่ ลูกใหม่แล้ว คิดว่ามัน จะไปเอาคนอย่างบีกลับมา ให้ปวดหัวเหรอไง?""เตชิน!""ฟังให้ดี ๆ นะ บีน่ะ..ไม่มีสิทธิ์ในสมบัติของบดินทร์ ถ้าตัดขาดมันไป เราสองคนจะไม่เหลืออะไรเลย""แต่ว่า…""เราสองคนไม่มีงานทำนะ ส่วนบีไปอยู่ที่ไหน..ก็ไม่รอด แล้วเราจะเอาอะไรกิน?""บัตรไง..วงเงิน
บดินทร์เดินเตร่มาตามเส้นทางสวนสวย ๆ ดวงตามองแสงตะวันยามโพล้เพล้ หวังให้ความงดงามของธรรมชาติช่วยบรรเทาอาการเครียดที่มีตอนนี้เขารู้แล้วว่าบันนิดากลับไปใช้สารเสพติดอีกครั้ง หลังจากให้แม่บ้าน นำผมลูกสาวไปส่งตรวจความทรงจำแย่ ๆ เริ่มไหลย้อนกลับมา และนั้นคงเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของบีบีคนเป็นพ่ออย่างเขา ย่อมจำได้ดี บันนิดาในวัยเด็กนั้นน่ารักและร่าเริง แต่พอช่วงอายุได้ประมาณสิบหกปีเด็กคนนั้นก็เข้ามาถาม เรื่องที่ตัวเอง ไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของเขา ซึ่งบดินทร์ก็ยอมรับไปแต่ใครจะคิดว่า เบื้องหน้าสาวน้อยสดใสจะถูกความน้อยเนื้อต่ำใจกลืนกิน แถมเขายังไม่เคยมีเวลาให้กว่าจะรู้ตัวบีบี ดันถลำลึกเกินฉุดรั้ง เคราะห์ร้ายเธอยังไปหลงรักผู้ชายเลว ๆ และหนีไปอยู่ด้วยกัน เชื่อมาตลอดว่านั้นคือความรักที่แท้จริง สุดท้ายบดินทร์จึงส่งบีบีไปลองตรวจอาการทางจิต ปรากฏว่าเธอป่วยเป็นโรคเรียกร้องความสนใจ ทั้งบดินทร์และบุษบาเลยส่งบีบีไปรักษา พอออกมาได้ ทั้งสองคนก็พยายามช่วยกันกลบปมด้อยภายในใจของลูกสาว ทำให้บันนิดามีอาการดีขึ้นแต่ความสุขดันมีได้ไม่นาน หลังจากที่ทั้งคู่สูญเสียคนกลางไป ความสัมพันธ์ระหว
หลังจากเริ่มรับประทานอาหาร ทำให้ทั่วทั้งห้อง ตกอยู่ภายใต้ความเงียบ น่าอึดอัดใจ บดินทร์ที่ทานไปได้ สองสามคำ ค่อย ๆ ตัดสินเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ"พ่อจะให้เวลาหนูกับเตชินพิสูจน์ตัวเอง เลิกยุ่งกับยาเสพติด แล้วไปหางานทำให้ได้ภายในเดือนนี้""บีเลิกยุ่งกับยาพวกนั้น..นานแล้วค่ะ" บันนิดาปฏิเสธเสียงแข็ง คราวก่อนที่บดินทร์ส่งไปบำบัด เธอจำได้ดีว่ามันทรมานแค่ไหน และไม่อยากกลับไปเหยียบอีก..เป็นหนที่สอง ทว่าร่างกายกลับเสพติดของพวกนั้น จนไม่อาจทนต่อความต้องการไหว"หนูทำหรือไม่ทำ บีบีรู้อยู่แก่ใจตัวเอง พ่อจะไม่เข้ายุ่ง แต่ถ้าเดือนหน้า หนูกับเตชินยังมีสภาพแบบนี้อยู่ พ่อคงจะให้อยู่ที่นี่ไม่ได้""ผมเข้าไม่เข้าใจ พวกเราสองคนทำอะไรผิด ทำไมคุณพ่อ ถึงต้องไล่ผมกับบีออกไปด้วย" คนเป็นลูกเขยกล่าวเสียงสั่นเครือ แสร้งทำน้ำเสียงเศร้าซึมตามมาแต่นั้นกลับเป็น การเล่นละครที่น่าสะอิดสะเอียน ในสายตาบดินทร์ ทำเอากลืนอาหารลงคอด้วยความยากลำบากไม่คิดว่าการมาทานข้าวร่วมกับลูกสาวครั้งนี้ รสชาติกับข้าวราคาแพงจะฝืดคอได้มากขนาดนี้ พร้อมกันจึงยกน้ำเปล่าจิบนิด ๆ หวังให้ละเลียดลงกระเพาะไปให้จบ ๆ จ
บีบีและเตชินร่วมมือ ช่วยกันพาร่างไร้สติของบดินทร์ขึ้นมา จนถึงห้องนอน ยังเห็นว่าเขายังหลับสนิท คนเป็นสามีจึงเริ่มตั้งกล้องตรงปลายเตียง ก่อนจะเดินออกไปจากปิดประตูดัง..ปึงงง ไม่สนใจ หรือหึงหวงบันนิดา เลยแม้แต่น้อยฝ่ายภรรยาก็ได้แต่มองตามเตชินหน้าจ๋อย ไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำทุกอย่างได้เพื่อเงิน ถึงขนาดยอมให้เธอใช้ร่างกายร่วมหลับนอนกับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเอง สลับกับเลื่อนสายตามองดูบดินทร์ ใจนั้นไม่อยากทำกับเขาแบบนี้เลยทว่าต้องทำอย่างไรล่ะ..หากว่าถอยตอนนี้ผลเสียย่อมมากกว่า เธอลงมือทุกอย่างไปอย่างชัดเจน เขาเห็นทั้งหน้า และรู้ตัวว่าโดนวางยา ความรู้สึกหลังจากนี้ บดินทร์คงมองตัวเธอเปลี่ยนไปแน่นอนยังไงซะ ตอนนี้ก็ไม่อาจถอยได้ ต้องเดินตามแผนต่อไปจวบจนเวลาผ่านไป รู้สึกตัวอีกที บดินทร์กลับพบว่าตัวเองกำลังนอนเปลือยเปล่า อยู่ข้างบีบีที่ไม่ได้สวมใส่อะไร เวลานั้นความรู้สึกมากมายถาโถมเข้ามาใส่ ทั้งช็อก ทั้งโกรธ ทั้งโมโหและเศร้าใจ เร่งสะบัดศีรษะไปมาเพื่อเรียกสติให้คืนกลับ พร้อมยกมือขึ้นมาตบหน้าตัวเอง หวังจะเช็กดูให้แน่ใจว่าสิ่งที่พบเจอ ไม่ใช่ความฝันและนั้น! ไม่ใช่ความฝ
บีบีและเตชินร่วมมือ ช่วยกันพาร่างไร้สติของบดินทร์ขึ้นมา จนถึงห้องนอน ยังเห็นว่าเขายังหลับสนิท คนเป็นสามีจึงเริ่มตั้งกล้องตรงปลายเตียง ก่อนจะเดินออกไปจากปิดประตูดัง..ปึงงง ไม่สนใจ หรือหึงหวงบันนิดา เลยแม้แต่น้อยฝ่ายภรรยาก็ได้แต่มองตามเตชินหน้าจ๋อย ไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำทุกอย่างได้เพื่อเงิน ถึงขนาดยอมให้เธอใช้ร่างกายร่วมหลับนอนกับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเอง สลับกับเลื่อนสายตามองดูบดินทร์ ใจนั้นไม่อยากทำกับเขาแบบนี้เลยทว่าต้องทำอย่างไรล่ะ..หากว่าถอยตอนนี้ผลเสียย่อมมากกว่า เธอลงมือทุกอย่างไปอย่างชัดเจน เขาเห็นทั้งหน้า และรู้ตัวว่าโดนวางยา ความรู้สึกหลังจากนี้ บดินทร์คงมองตัวเธอเปลี่ยนไปแน่นอนยังไงซะ ตอนนี้ก็ไม่อาจถอยได้ ต้องเดินตามแผนต่อไปจวบจนเวลาผ่านไป รู้สึกตัวอีกที บดินทร์กลับพบว่าตัวเองกำลังนอนเปลือยเปล่า อยู่ข้างบีบีที่ไม่ได้สวมใส่อะไร เวลานั้นความรู้สึกมากมายถาโถมเข้ามาใส่ ทั้งช็อก ทั้งโกรธ ทั้งโมโหและเศร้าใจ เร่งสะบัดศีรษะไปมาเพื่อเรียกสติให้คืนกลับ พร้อมยกมือขึ้นมาตบหน้าตัวเอง หวังจะเช็กดูให้แน่ใจว่าสิ่งที่พบเจอ ไม่ใช่ความฝันและนั้น! ไม่ใช่ความฝ
หลังจากเริ่มรับประทานอาหาร ทำให้ทั่วทั้งห้อง ตกอยู่ภายใต้ความเงียบ น่าอึดอัดใจ บดินทร์ที่ทานไปได้ สองสามคำ ค่อย ๆ ตัดสินเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ"พ่อจะให้เวลาหนูกับเตชินพิสูจน์ตัวเอง เลิกยุ่งกับยาเสพติด แล้วไปหางานทำให้ได้ภายในเดือนนี้""บีเลิกยุ่งกับยาพวกนั้น..นานแล้วค่ะ" บันนิดาปฏิเสธเสียงแข็ง คราวก่อนที่บดินทร์ส่งไปบำบัด เธอจำได้ดีว่ามันทรมานแค่ไหน และไม่อยากกลับไปเหยียบอีก..เป็นหนที่สอง ทว่าร่างกายกลับเสพติดของพวกนั้น จนไม่อาจทนต่อความต้องการไหว"หนูทำหรือไม่ทำ บีบีรู้อยู่แก่ใจตัวเอง พ่อจะไม่เข้ายุ่ง แต่ถ้าเดือนหน้า หนูกับเตชินยังมีสภาพแบบนี้อยู่ พ่อคงจะให้อยู่ที่นี่ไม่ได้""ผมเข้าไม่เข้าใจ พวกเราสองคนทำอะไรผิด ทำไมคุณพ่อ ถึงต้องไล่ผมกับบีออกไปด้วย" คนเป็นลูกเขยกล่าวเสียงสั่นเครือ แสร้งทำน้ำเสียงเศร้าซึมตามมาแต่นั้นกลับเป็น การเล่นละครที่น่าสะอิดสะเอียน ในสายตาบดินทร์ ทำเอากลืนอาหารลงคอด้วยความยากลำบากไม่คิดว่าการมาทานข้าวร่วมกับลูกสาวครั้งนี้ รสชาติกับข้าวราคาแพงจะฝืดคอได้มากขนาดนี้ พร้อมกันจึงยกน้ำเปล่าจิบนิด ๆ หวังให้ละเลียดลงกระเพาะไปให้จบ ๆ จ
บดินทร์เดินเตร่มาตามเส้นทางสวนสวย ๆ ดวงตามองแสงตะวันยามโพล้เพล้ หวังให้ความงดงามของธรรมชาติช่วยบรรเทาอาการเครียดที่มีตอนนี้เขารู้แล้วว่าบันนิดากลับไปใช้สารเสพติดอีกครั้ง หลังจากให้แม่บ้าน นำผมลูกสาวไปส่งตรวจความทรงจำแย่ ๆ เริ่มไหลย้อนกลับมา และนั้นคงเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของบีบีคนเป็นพ่ออย่างเขา ย่อมจำได้ดี บันนิดาในวัยเด็กนั้นน่ารักและร่าเริง แต่พอช่วงอายุได้ประมาณสิบหกปีเด็กคนนั้นก็เข้ามาถาม เรื่องที่ตัวเอง ไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของเขา ซึ่งบดินทร์ก็ยอมรับไปแต่ใครจะคิดว่า เบื้องหน้าสาวน้อยสดใสจะถูกความน้อยเนื้อต่ำใจกลืนกิน แถมเขายังไม่เคยมีเวลาให้กว่าจะรู้ตัวบีบี ดันถลำลึกเกินฉุดรั้ง เคราะห์ร้ายเธอยังไปหลงรักผู้ชายเลว ๆ และหนีไปอยู่ด้วยกัน เชื่อมาตลอดว่านั้นคือความรักที่แท้จริง สุดท้ายบดินทร์จึงส่งบีบีไปลองตรวจอาการทางจิต ปรากฏว่าเธอป่วยเป็นโรคเรียกร้องความสนใจ ทั้งบดินทร์และบุษบาเลยส่งบีบีไปรักษา พอออกมาได้ ทั้งสองคนก็พยายามช่วยกันกลบปมด้อยภายในใจของลูกสาว ทำให้บันนิดามีอาการดีขึ้นแต่ความสุขดันมีได้ไม่นาน หลังจากที่ทั้งคู่สูญเสียคนกลางไป ความสัมพันธ์ระหว
"บีบี! ถ้าจะโง่ ก็โง่ให้มันน้อย ๆ หน่อยเถอะ คิดยังไง ถึงจะหนีออกจากบ้านห๊ะ!" เตชินที่เพิ่งกลับมาเอ็ดใส่ภรรยาที่กำลังเก็บข้าวเก็บของ ยัดกระเป๋าเดินทาง ท่าทางกะฟัดกะเฟียด หัวเสียอยู่ใช่เล่น"บ้านที่พ่อ..ไม่แม้แต่จะหันมาสนใจใยดี บีไม่อยู่หรอก!""อยากโดนแย่งสมบัตินักใช่ไหม? ถึงได้ปล่อยให้นิรณาทำคะแนนอยู่ฝ่ายเดียว!" เสียงก้าวร้าว ตะคอกใส่หน้าภรรยา นึกอยากจะควักสมองบันนิดามาดู ทำไมถึงได้โง่งมขนาดนี้"ถ้าบีหายไป เดี๋ยวคุณพ่อก็ไปง้อเองแหละ ห่างกันสักพัก คงจะมีเวลาทบทวนความจำ ถึงยังไงคนอย่างเขา ถ้าขาดบีไป สุดท้ายก็คงทนไม่ได้อยู่ดี" บันนิดามั่นใจมากเพราะปกติบดินทร์จะเป็นฝ่ายไปตาม กลับมาตลอด สาเหตุหลัก ๆ คงเพราะทนความรู้สึกผิดที่อยู่ในใจไม่ไหวล่ะมั้ง"เอาอะไรมามั่นใจ ตอนนี้ไอ้ดินมันได้เมียใหม่ ลูกใหม่แล้ว คิดว่ามัน จะไปเอาคนอย่างบีกลับมา ให้ปวดหัวเหรอไง?""เตชิน!""ฟังให้ดี ๆ นะ บีน่ะ..ไม่มีสิทธิ์ในสมบัติของบดินทร์ ถ้าตัดขาดมันไป เราสองคนจะไม่เหลืออะไรเลย""แต่ว่า…""เราสองคนไม่มีงานทำนะ ส่วนบีไปอยู่ที่ไหน..ก็ไม่รอด แล้วเราจะเอาอะไรกิน?""บัตรไง..วงเงิน
"ถามจริง! พี่จะปล่อยไว้แบบนี้ จริง ๆ เหรอ?" นราภพถามอย่างหัวร้อน เขาสู้ตามสืบชีวิตประจำวันของบันนิดามาเป็นเดือน ๆ แถมยัยคนนั้น ยังคิดจะทำร้ายพี่ของเขาอีก แต่นิรณากลับยังใจเย็น ทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน"ใครมันจะไปคิดว่าเพื่อนเก่าจะร้ายกาจขนาดนั้น เห้อ ถ้าแกไม่ส่งข้อมูลมาให้ฉันดู ปานนี้คงคิดว่ายัยนั้นอยากคืนดีด้วยจริง ๆ แน่""โดนกระทำขนาดนั้น ยังจะคิดพวกมันเป็นคนดีอยู่อีกเหรอ? สัญชาตญาณพี่เนี่ย! ไม่แม่น..เหมือนสมัยก่อนแล้วนะ!""แกจะไปรู้อะไร..สมัยก่อน ตอนยังอยู่มอปลายบีบีมันเป็นเพื่อนที่น่ารักอยู่นะ" นิรณากล่าวถึง ภาพจำของเพื่อนมีด้านดีอยู่ไม่ใช่น้อย ไม่เช่นนั้นคงไม่คบกันมาเป็นสิบ ๆ ปี จนบางครั้งเธอยังคาดไม่ถึงเลยว่าเพื่อนจะกลายมาเป็นคนแบบนี้"ผมจะบอกความลับให้พี่ฟัง""อะไร?" สารวัตรสาวเร่งเงยหน้าจากกองเอกสาร มองหน้าน้องชายด้วยความสงสัย อยากรู้ว่า..นราภพปิดบังอะไรไว้"ผมเคยคบกับบีบีช่วงหนึ่ง..ยัยนั้น มันประสาทกลับ นอกจากตัวเอง คงไม่เคยรักใครจริง ๆ หรอก""อ้าว ไหนตอนนั้น แกบอกว่าไม่ได้คบ""ถ้าบอกว่าเรากำลังคบกัน พี่จะให้คบไหมล่ะ?""ไม่!" นิรณาปฏิเสธเสี
"ไม่น่าเชื่อว่าแกอยากจะขอโทษฉัน มีอะไรแอบแฝงหรือเปล่า?" นิรณาถามโต้ง ๆ จะมองยังไงก็ดูไม่น่าไว้ใจสักนิด"ฉันขอโทษจริง ๆ นะ ทั้งหมดทุกเรื่องที่ทำไป ก็แค่อิจฉาแกเท่านั้น" คนตรงหน้าพยายามพูด โทนเสียง..เป็นมิตรแต่หากสนิทจริง ๆ ก็จะดูออกอยู่ดีว่าแกล้งทำแต่เพราะอยากรู้เจตนา จึงยินยอมตามน้ำ กล่าวถามออกไปเสียงเรียบ"ฉันดีกว่าแกตรงไหนงั้นเหรอ?""ใคร ๆ ก็รักแกนี่น่า ฉันน่ะ ฉันแค่อยากเป็นแกก็เท่านั้น ทุกคนจะได้ชอบฉัน" บีบีหลุดปากออกไป เขยิบตัวเข้าไปใกล้กับนิรณาอีกนิด"เลยเอาตัวเองไปนอนกับแฟนฉัน ไม่สิ! อดีตต่างหาก" พูดจบ คนซักไซ้จึงเงียบเสียงลง ก่อนจะลอบมองปฏิกิริยาท่าทางดูร้อนรนของบีบี ยิ่งไม่วางใจ พร้อมยกแขนขึ้นกอดอก นัยน์ตา ยังคงจับจ้อง หยั่งเชิงดูว่า..คนที่เคยเป็นเพื่อนจะทำยังไงต่อไป"เข้าใจถูกต้องแล้วล่ะ..เพราะฉันอยากเป็นแก ฉันเลยอยากได้เตชิน" บีบีร่ายออกมาเหมือนยียวนหาเรื่องกวนประสาท หากแต่ใครบ้างจะรู้..จริง ๆ เธอนั้นโคตรอิจฉา โลกของนิรณาเสียจริง"ฉันไม่เข้าใจสักนิดเดียว ทำไมถึงอยากเป็นฉันนักหนา""ใคร ๆ ก็รักแก ทุกคนที่อยู่รอบตัวฉัน..รักแต่แกคนเดี
พะพายเดินอารมณ์ดี มายังโซนที่พวกแม่บ้านนั่งทานข้าวกัน ดวงตามองนาฬิกาเรือนสวยที่เตชินยอมถอดออกจากข้อมือแล้วยื่นให้ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มาตลอดทาง"มา ๆ นังพาย มากินข้าว" เสียงป้าเรียกหา มือแกกำลังยกสำรับอาหารมาหลายอย่าง เตรียมตั้งวง"จ้ะป้า"รับคำเสร็จสิ้น เธอจึงเดินไปช่วย แล้วทรุดนั่ง มองพวกอาหารในถาด หน้าตาน่ากิน ด้วยใจจดใจจ่อแต่กลับต้องรอคนให้มาครบซะก่อน ไม่งั้นคงถูกนินทา หาว่าตายอดอยาก กินข้าวไม่รอผู้ใหญ่ คิดเพียงแค่นั้นก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ หากว่ามีเงินมากกว่านี้ คงไม่ต้อง..เป็นขี้ข้าใคร"แล้วแกหายไปไหนมาทั้งคืนล่ะ? ยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่กลับมาเชียว มีอะไรดี ๆ เกิดขึ้นงั้นเหรอ?""อ๋อ ฉันทำความสะอาดเพลินไปหน่อย แล้วก็ไปทำอีท่าไหนก็ไม่รู้ ประตูห้องมันดันเปิดไม่ออก""ทำไมแกถึงไม่โทรหาป้า?""ฉันไม่ได้เอาโทรศัพท์ไป""อ้าว! แล้วออกมาได้ยังไง?" ป้าซักถามด้วยความสงสัย เมื่อเห็นหลานสาวมีท่าทีแปลก ๆ"ฉันก็ไปทำอีท่าไหน ไม่รู้เหมือนกัน อยู่ดี ๆ ประตูมันดันเปิดออกมาได้คนเดียว""มึงแถขนาดนี้สีข้างไม่ถลอกเหรอ?" เสียงแป๋วประชดขึ้น แล้วว่าต่อ "ฮึ! อย่าคิดว่ากู
เมื่อคล้อยหลังลูกเขยตัวดีที่เดินคอตกออกไป บดินทร์ก็ค่อย ๆ เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ท่าทางเหนื่อยใจเรื่องราวของ..นิรณา เตชิน บีบีปกติก็น่าปวดหัวมากอยู่แล้ว ตอนนี้ไอ้ลูกเขยที่นรกส่งมา ดันไปสร้างวีรกรรม นอนกับสาวใช้ซ้ำร้ายยังไม่รู้ว่า..ป้องกันหรือเปล่า หากท้องขึ้นมาคงสร้างความลำบากไม่ใช่น้อย แต่ครั้นจะให้เขาแก้ปัญหาให้ก็ไม่ใช่เรื่องของตัวเองติดแค่กับบีบีเด็กคนนั้นสภาวะอารมณ์ไม่คงที่ ให้รู้เรื่องราวไม่ได้ เขาเลยจำต้องปิดบัง จนกว่าจะถึงวันที่เธอพร้อมใจนั้นยิ่งนึกโกรธเตชิน ทว่าจะให้กระทืบหรือใช้ความรุนแรง นั้นก็ไม่ใช่ทางออกที่แท้จริงดีไม่ดีต้องขึ้นโรงขึ้นศาลเหมือนคราวก่อน ยิ่งทำให้เสียชื่อเสียงที่บิดามารดาสร้างสมไว้หากตายไป บดินทร์..คงไม่มีหน้ากลับไปหาบรรพบุรุษ"ผมควรทำยังไงดีครับ? พี่บุษ" เสียงทุ้มสอบถามบุษบา นัยน์ตาจ้องมองรูปแต่งงานของตัวเองกับภรรยาเก่า หวนนึกถึงเรื่องราว ครั้งแรกที่เจอกัน"ต่อไปนี้ คุณบุษบา เธอจะมาเป็นพี่เลี้ยงของลูกนะ" มารดาที่กำลังป่วยรู้ตัวดีว่าคงอยู่ดูแลเขาได้อีกไหมนานตัดสินใจจ้างวานลูกสาวของชาติ เศรษฐีเพื่อนบ้านที่
นิรณาเดินกระฟัดกระเฟียด สีหน้าบอกบุญ..ไม่รับออกมาจากห้องครัว ก่อนจะตามมาด้วยชายผู้มีศักดิ์เป็นลูกเขยวิ่งตามมาทางด้านหลังมันคนนั้นคว้าเอวผู้หญิงของเขาไปกอดไว้ แถมยังเอาหน้าไปชิดใกล้แก้มนุ่ม ทำให้ความรู้สึกแปลก ๆ แทรกเข้ามา เตชินเป็นอย่างที่ภรรยาพูดบดินทร์เห็นทุกอย่างผ่านกล้อง แต่กลับไม่ได้ยินเสียง อาจเพราะมันไกลเกินไปเขาลงมือเลื่อนวิดีโอกลับ โชคร้ายที่ในห้องครัวนั้นไม่มีกล้อง จึงไม่ได้รู้ ได้เห็นว่าสิบกว่านาทีที่หายเข้าไปด้านในทั้งคู่ทำอะไรอยู่ และเพราะความสงสัยคิดว่าทั้งคู่อาจนัดกัน พลันเลื่อนสายตามองสลับไปยังจอด้านข้างที่ติดกล้องของชั้นบนไว้ แล้วเลื่อนกลับเรื่อย ๆจนเห็นภรรยากำลังเดินงัวเงีย ออกจากห้องนอนของตัวเอง ยกมือสางผมนุ่มสลวย เดินมุ่งหน้าเหมือนต้องการจะไปทางห้องครัวจริง ๆ ไม่ใช่ทางอื่น บดินทร์พลันโล่งใจทว่าตอนที่คนภรรยากำลังจะเดินลงบันไดไป ภาพของเตชินดันพรวดพราดออกมาจากห้องนอนแขกยัดเสื้อลงกางเกงท่าทางดูร้อนรน เงยหน้ามองซ้ายขวา ท่าทางระแวดระวัง และเหมือนว่าเขาจะเห็นนิรณา สองเท้าจึงเร่งเดินตามเธอไปซึ่งมัน..จะไม่ทำให้บดินทร์โกรธเลยสักนิด ห