"ไม่น่าเชื่อว่าแกอยากจะขอโทษฉัน มีอะไรแอบแฝงหรือเปล่า?" นิรณาถามโต้ง ๆ จะมองยังไงก็ดูไม่น่าไว้ใจสักนิด
"ฉันขอโทษจริง ๆ นะ ทั้งหมดทุกเรื่องที่ทำไป ก็แค่อิจฉาแกเท่านั้น" คนตรงหน้าพยายามพูด โทนเสียง..เป็นมิตรแต่หากสนิทจริง ๆ ก็จะดูออกอยู่ดีว่าแกล้งทำแต่เพราะอยากรู้เจตนา จึงยินยอมตามน้ำ กล่าวถามออกไปเสียงเรียบ"ฉันดีกว่าแกตรงไหนงั้นเหรอ?""ใคร ๆ ก็รักแกนี่น่า ฉันน่ะ ฉันแค่อยากเป็นแกก็เท่านั้น ทุกคนจะได้ชอบฉัน" บีบีหลุดปากออกไป เขยิบตัวเข้าไปใกล้กับนิรณาอีกนิด"เลยเอาตัวเองไปนอนกับแฟนฉัน ไม่สิ! อดีตต่างหาก" พูดจบ คนซักไซ้จึงเงียบเสียงลง ก่อนจะลอบมองปฏิกิริยาท่าทางดูร้อนรนของบีบี ยิ่งไม่วางใจ พร้อมยกแขนขึ้นกอดอก นัยน์ตา ยังคงจับจ้อง หยั่งเชิงดูว่า..คนที่เคยเป็นเพื่อนจะทำยังไงต่อไป"เข้าใจถูกต้องแล้วล่ะ..เพราะฉันอยากเป็นแก ฉันเลยอยากได้เตชิน" บีบีร่ายออกมาเหมือนยียวนหาเรื่องกวนประสาท หากแต่ใครบ้างจะรู้..จริง ๆ เธอนั้นโคตรอิจฉา โลกของนิรณาเสียจริง"ฉันไม่เข้าใจสักนิดเดียว ทำไมถึงอยากเป็นฉันนักหนา""ใคร ๆ ก็รักแก ทุกคนที่อยู่รอบตัวฉัน..รักแต่แกคนเดี"ถามจริง! พี่จะปล่อยไว้แบบนี้ จริง ๆ เหรอ?" นราภพถามอย่างหัวร้อน เขาสู้ตามสืบชีวิตประจำวันของบันนิดามาเป็นเดือน ๆ แถมยัยคนนั้น ยังคิดจะทำร้ายพี่ของเขาอีก แต่นิรณากลับยังใจเย็น ทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน"ใครมันจะไปคิดว่าเพื่อนเก่าจะร้ายกาจขนาดนั้น เห้อ ถ้าแกไม่ส่งข้อมูลมาให้ฉันดู ปานนี้คงคิดว่ายัยนั้นอยากคืนดีด้วยจริง ๆ แน่""โดนกระทำขนาดนั้น ยังจะคิดพวกมันเป็นคนดีอยู่อีกเหรอ? สัญชาตญาณพี่เนี่ย! ไม่แม่น..เหมือนสมัยก่อนแล้วนะ!""แกจะไปรู้อะไร..สมัยก่อน ตอนยังอยู่มอปลายบีบีมันเป็นเพื่อนที่น่ารักอยู่นะ" นิรณากล่าวถึง ภาพจำของเพื่อนมีด้านดีอยู่ไม่ใช่น้อย ไม่เช่นนั้นคงไม่คบกันมาเป็นสิบ ๆ ปี จนบางครั้งเธอยังคาดไม่ถึงเลยว่าเพื่อนจะกลายมาเป็นคนแบบนี้"ผมจะบอกความลับให้พี่ฟัง""อะไร?" สารวัตรสาวเร่งเงยหน้าจากกองเอกสาร มองหน้าน้องชายด้วยความสงสัย อยากรู้ว่า..นราภพปิดบังอะไรไว้"ผมเคยคบกับบีบีช่วงหนึ่ง..ยัยนั้น มันประสาทกลับ นอกจากตัวเอง คงไม่เคยรักใครจริง ๆ หรอก""อ้าว ไหนตอนนั้น แกบอกว่าไม่ได้คบ""ถ้าบอกว่าเรากำลังคบกัน พี่จะให้คบไหมล่ะ?""ไม่!" นิรณาปฏิเสธเสี
"บีบี! ถ้าจะโง่ ก็โง่ให้มันน้อย ๆ หน่อยเถอะ คิดยังไง ถึงจะหนีออกจากบ้านห๊ะ!" เตชินที่เพิ่งกลับมาเอ็ดใส่ภรรยาที่กำลังเก็บข้าวเก็บของ ยัดกระเป๋าเดินทาง ท่าทางกะฟัดกะเฟียด หัวเสียอยู่ใช่เล่น"บ้านที่พ่อ..ไม่แม้แต่จะหันมาสนใจใยดี บีไม่อยู่หรอก!""อยากโดนแย่งสมบัตินักใช่ไหม? ถึงได้ปล่อยให้นิรณาทำคะแนนอยู่ฝ่ายเดียว!" เสียงก้าวร้าว ตะคอกใส่หน้าภรรยา นึกอยากจะควักสมองบันนิดามาดู ทำไมถึงได้โง่งมขนาดนี้"ถ้าบีหายไป เดี๋ยวคุณพ่อก็ไปง้อเองแหละ ห่างกันสักพัก คงจะมีเวลาทบทวนความจำ ถึงยังไงคนอย่างเขา ถ้าขาดบีไป สุดท้ายก็คงทนไม่ได้อยู่ดี" บันนิดามั่นใจมากเพราะปกติบดินทร์จะเป็นฝ่ายไปตาม กลับมาตลอด สาเหตุหลัก ๆ คงเพราะทนความรู้สึกผิดที่อยู่ในใจไม่ไหวล่ะมั้ง"เอาอะไรมามั่นใจ ตอนนี้ไอ้ดินมันได้เมียใหม่ ลูกใหม่แล้ว คิดว่ามัน จะไปเอาคนอย่างบีกลับมา ให้ปวดหัวเหรอไง?""เตชิน!""ฟังให้ดี ๆ นะ บีน่ะ..ไม่มีสิทธิ์ในสมบัติของบดินทร์ ถ้าตัดขาดมันไป เราสองคนจะไม่เหลืออะไรเลย""แต่ว่า…""เราสองคนไม่มีงานทำนะ ส่วนบีไปอยู่ที่ไหน..ก็ไม่รอด แล้วเราจะเอาอะไรกิน?""บัตรไง..วงเงิน
บดินทร์เดินเตร่มาตามเส้นทางสวนสวย ๆ ดวงตามองแสงตะวันยามโพล้เพล้ หวังให้ความงดงามของธรรมชาติช่วยบรรเทาอาการเครียดที่มีตอนนี้เขารู้แล้วว่าบันนิดากลับไปใช้สารเสพติดอีกครั้ง หลังจากให้แม่บ้าน นำผมลูกสาวไปส่งตรวจความทรงจำแย่ ๆ เริ่มไหลย้อนกลับมา และนั้นคงเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของบีบีคนเป็นพ่ออย่างเขา ย่อมจำได้ดี บันนิดาในวัยเด็กนั้นน่ารักและร่าเริง แต่พอช่วงอายุได้ประมาณสิบหกปีเด็กคนนั้นก็เข้ามาถาม เรื่องที่ตัวเอง ไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของเขา ซึ่งบดินทร์ก็ยอมรับไปแต่ใครจะคิดว่า เบื้องหน้าสาวน้อยสดใสจะถูกความน้อยเนื้อต่ำใจกลืนกิน แถมเขายังไม่เคยมีเวลาให้กว่าจะรู้ตัวบีบี ดันถลำลึกเกินฉุดรั้ง เคราะห์ร้ายเธอยังไปหลงรักผู้ชายเลว ๆ และหนีไปอยู่ด้วยกัน เชื่อมาตลอดว่านั้นคือความรักที่แท้จริง สุดท้ายบดินทร์จึงส่งบีบีไปลองตรวจอาการทางจิต ปรากฏว่าเธอป่วยเป็นโรคเรียกร้องความสนใจ ทั้งบดินทร์และบุษบาเลยส่งบีบีไปรักษา พอออกมาได้ ทั้งสองคนก็พยายามช่วยกันกลบปมด้อยภายในใจของลูกสาว ทำให้บันนิดามีอาการดีขึ้นแต่ความสุขดันมีได้ไม่นาน หลังจากที่ทั้งคู่สูญเสียคนกลางไป ความสัมพันธ์ระหว
หลังจากเริ่มรับประทานอาหาร ทำให้ทั่วทั้งห้อง ตกอยู่ภายใต้ความเงียบ น่าอึดอัดใจ บดินทร์ที่ทานไปได้ สองสามคำ ค่อย ๆ ตัดสินเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ"พ่อจะให้เวลาหนูกับเตชินพิสูจน์ตัวเอง เลิกยุ่งกับยาเสพติด แล้วไปหางานทำให้ได้ภายในเดือนนี้""บีเลิกยุ่งกับยาพวกนั้น..นานแล้วค่ะ" บันนิดาปฏิเสธเสียงแข็ง คราวก่อนที่บดินทร์ส่งไปบำบัด เธอจำได้ดีว่ามันทรมานแค่ไหน และไม่อยากกลับไปเหยียบอีก..เป็นหนที่สอง ทว่าร่างกายกลับเสพติดของพวกนั้น จนไม่อาจทนต่อความต้องการไหว"หนูทำหรือไม่ทำ บีบีรู้อยู่แก่ใจตัวเอง พ่อจะไม่เข้ายุ่ง แต่ถ้าเดือนหน้า หนูกับเตชินยังมีสภาพแบบนี้อยู่ พ่อคงจะให้อยู่ที่นี่ไม่ได้""ผมเข้าไม่เข้าใจ พวกเราสองคนทำอะไรผิด ทำไมคุณพ่อ ถึงต้องไล่ผมกับบีออกไปด้วย" คนเป็นลูกเขยกล่าวเสียงสั่นเครือ แสร้งทำน้ำเสียงเศร้าซึมตามมาแต่นั้นกลับเป็น การเล่นละครที่น่าสะอิดสะเอียน ในสายตาบดินทร์ ทำเอากลืนอาหารลงคอด้วยความยากลำบากไม่คิดว่าการมาทานข้าวร่วมกับลูกสาวครั้งนี้ รสชาติกับข้าวราคาแพงจะฝืดคอได้มากขนาดนี้ พร้อมกันจึงยกน้ำเปล่าจิบนิด ๆ หวังให้ละเลียดลงกระเพาะไปให้จบ ๆ จ
บีบีและเตชินร่วมมือ ช่วยกันพาร่างไร้สติของบดินทร์ขึ้นมา จนถึงห้องนอน ยังเห็นว่าเขายังหลับสนิท คนเป็นสามีจึงเริ่มตั้งกล้องตรงปลายเตียง ก่อนจะเดินออกไปจากปิดประตูดัง..ปึงงง ไม่สนใจ หรือหึงหวงบันนิดา เลยแม้แต่น้อยฝ่ายภรรยาก็ได้แต่มองตามเตชินหน้าจ๋อย ไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำทุกอย่างได้เพื่อเงิน ถึงขนาดยอมให้เธอใช้ร่างกายร่วมหลับนอนกับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเอง สลับกับเลื่อนสายตามองดูบดินทร์ ใจนั้นไม่อยากทำกับเขาแบบนี้เลยทว่าต้องทำอย่างไรล่ะ..หากว่าถอยตอนนี้ผลเสียย่อมมากกว่า เธอลงมือทุกอย่างไปอย่างชัดเจน เขาเห็นทั้งหน้า และรู้ตัวว่าโดนวางยา ความรู้สึกหลังจากนี้ บดินทร์คงมองตัวเธอเปลี่ยนไปแน่นอนยังไงซะ ตอนนี้ก็ไม่อาจถอยได้ ต้องเดินตามแผนต่อไปจวบจนเวลาผ่านไป รู้สึกตัวอีกที บดินทร์กลับพบว่าตัวเองกำลังนอนเปลือยเปล่า อยู่ข้างบีบีที่ไม่ได้สวมใส่อะไร เวลานั้นความรู้สึกมากมายถาโถมเข้ามาใส่ ทั้งช็อก ทั้งโกรธ ทั้งโมโหและเศร้าใจ เร่งสะบัดศีรษะไปมาเพื่อเรียกสติให้คืนกลับ พร้อมยกมือขึ้นมาตบหน้าตัวเอง หวังจะเช็กดูให้แน่ใจว่าสิ่งที่พบเจอ ไม่ใช่ความฝันและนั้น! ไม่ใช่ความฝ
ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าจะถึงวันครบรอบแปดปี ที่คบกันมา นิรณาตัดสินใจ มุ่งหน้าตรงกลับบ้าน หอบหิ้วทั้งของฝากของขวัญมากมาย เดินขึ้นตึกสี่ชั้นด้วยความทุลักทุแล เพื่อจะแอบไปทำเซอร์ไพรส์ แฟนสุดที่รักถึงห้องนอนของเขาความจริงมันก็คือห้องของตัวเธอเองนั่นแหละ! เพียงแค่ไม่ค่อยได้อยู่ เนื่องด้วยหน้าที่การงาน ทำให้ต้องไปหลายที่ จึงไม่ได้อยู่เป็นหลักเป็นแหล่งเหมือนกับคู่รักคนอื่น บางครั้งก็ต้องหายไปหลายวันหรือหลายอาทิตย์ ทำให้แทบไม่ได้เจอกันระหว่างทางกลับ คนตัวเล็กก็เอาแต่เหม่อลอย คิดถึงใบหน้าหล่อเหลาของคนรัก อยากจะฝังจมูกลงไปหอมแก้มสักสามสี่ฟอดให้หายคิดถึง ในมือกำกุญแจรถบิ๊กไบค์รุ่นท็อปล่าสุด คันที่แฟนหนุ่มสุดรักสุดหวงอยากได้ไว้แน่น หวังจะให้เป็นของขวัญครบรอบที่ได้คบหา ตกลงปลงใจมาเป็นแฟนกัน ประตูถูกเปิดออกง่ายดาย ด้วยคีย์การ์ด กลิ่นหอมฟรุ้งของอโรม่าราคาแพงลอยมาเตะจมูก นิรณาสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด รับอากาศสดชื่นคล้ายกำลังอยู่ท่ามกลางทุ่งดอกไม้ด้วยความคิดถึง พลางกวาดสายตามองรอบห้องโทนสีขาวสะอาดที่ล้อมรอบไว้ด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์น ดูคลาสสิคเก็บสัมภาระเรียบร้อย คนสวยยก
"นิ! แกก็ฟังพี่เต เขาหน่อยสิ เรื่องที่เกิดขึ้นน่ะ มันเป็นแค่อุบัติเหตุ เราสองคนก็แค่บังเอิญเจอกัน แล้วก็..." คำพูดเหมือนจะอธิบายให้ฟังว่าตัวเองไม่ได้ตั้งใจ แต่น้ำเสียงกับเต็มไปด้วยความเย้ยหยันเล่นเอาอารมณ์ที่คุกรุ่นมากอยู่แล้ว เริ่มปะทุขึ้นมาอีกรอบ ไม่อาจจะต้านทานโทสะที่ข่มไว้ได้ไหว หันหน้ากลับไปตวาดลั่นใส่หน้าเพื่อนสาวคนสนิท"เงียบทำไม มีอะไร มึงก็เล่ามาให้หมดสิ เล่ามาเลยนะ พวกมึงเจอกันยังไง เอากันท่าไหน มึงเล่าออกมา เล่าออกมาให้หมด เล่า!" น้ำเสียงเยือกเย็นตะคอกถามอย่างรุนแรง ทำเอาบีบีหายใจไม่ทั่วท้อง เงียบปากลงแทบทันที"บี๋" เตชินเรียกเสียงอ่อน พยายามจะเข้าไปใกล้นิรณาอีกครั้ง หวังใช้ไม้อ่อนเพื่อปลอบประโลม ทำท่าจะดึงตัวเธอมากอดไว้ แต่แล้วคนกำลังโมโหกลับหันหน้ามา มองเขาตาดุ นัยน์ตาฉายแววทั้งตำหนิ และผิดหวังในตัวของชายที่รัก"กูไม่ดีตรงไหนเหรอ..มึงถึงได้ทำแบบนี้ ห๊ะ! ตรงไหนที่กูสู้มันไม่ได้ หรือมันใสซื่อดูบริสุทธิ์ มึงถึงได้..เห้ออออ" นิรณาเอ่ยถามใจเจ็บปวด ความรู้สึกด้านในนั้นพังเละ ไม่เหลือชิ้นดี"เห็นมันซื่อ ๆ ใส ๆ อย่าหลงคิดว่าได้กินของดีซะล่ะ มึงมันก็เป็นแค่.
กระจกเงาบานเล็กตั้งอยู่ตรงบริเวณขอบโต๊ะทำงาน สะท้อนภาพนิรณาที่ดูแทบไม่ได้ ขอบตาดำคล้ำ ใบหน้าตอบซีดเซียวเพราะโหมงานหนัก ไม่ยอมพักผ่อนมาเป็นอาทิตย์ ทำให้ร่างกายผ่ายผอมซูบลงจนเห็นได้ชัดพิษรักจากการอกหักมากมายเหลือคณา มากเสียจนทำให้หญิงแกร่งดั่งเธอ ต้องใจสลาย ไม่เป็นอันทำอะไรแม้ว่าสำนวนคดีมากมาย ต่างวางรอให้สะสางจะกองอยู่เต็มโต๊ะ หญิงสาวยังคงนั่งควงปากกาเล่นไปมา เหลือบตามองดูแผ่นกระดาษสีขาว อยู่แบบนั้นอย่างเบื่อหน่าย"สารวัตรครับ!" เสียงเรียกจากหมวดอากร ลูกน้องคนสนิทดังขึ้น ร่างสูงโปร่งหอบแฟ้มเอกสารมาอีกเป็นตั้ง อย่างทุลักทุเล พร้อมส่งมอบมันให้แก่ผู้เป็นเจ้านาย ทำให้คนเหม่อได้สติ มองดูชายตรงหน้า แล้วฝืนยิ้ม ทักทายออกไปเสียงแผ่ว"อ้าว! หมวดกร ยังไม่กลับบ้านอีกเหรอคะ? ดึกแล้วนะ กลับไปพักผ่อนเถอะ""ยังครับ พอดีผมต้องเข้าเวรดึก แล้วสารวัตรยังไม่กลับอีกเหรอครับ ผมเห็นคุณนั่งทำงานที่นี่มาตั้งสองวันติดแล้วนะ""ไม่ค่ะ ฉันกลับไปอยู่คนเดียวก็ฟุ้งซ่านเปล่า ๆ ขออยู่ทำงานที่นี่ต่ออีกสักพักละกัน"เมื่อเจ้านายสาวบอกแบบนั้น ลูกน้องอย่างเขาก็คงจะพูดอะไรไม่ได้มาก จึงทำแค่เอ่
บีบีและเตชินร่วมมือ ช่วยกันพาร่างไร้สติของบดินทร์ขึ้นมา จนถึงห้องนอน ยังเห็นว่าเขายังหลับสนิท คนเป็นสามีจึงเริ่มตั้งกล้องตรงปลายเตียง ก่อนจะเดินออกไปจากปิดประตูดัง..ปึงงง ไม่สนใจ หรือหึงหวงบันนิดา เลยแม้แต่น้อยฝ่ายภรรยาก็ได้แต่มองตามเตชินหน้าจ๋อย ไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำทุกอย่างได้เพื่อเงิน ถึงขนาดยอมให้เธอใช้ร่างกายร่วมหลับนอนกับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวเอง สลับกับเลื่อนสายตามองดูบดินทร์ ใจนั้นไม่อยากทำกับเขาแบบนี้เลยทว่าต้องทำอย่างไรล่ะ..หากว่าถอยตอนนี้ผลเสียย่อมมากกว่า เธอลงมือทุกอย่างไปอย่างชัดเจน เขาเห็นทั้งหน้า และรู้ตัวว่าโดนวางยา ความรู้สึกหลังจากนี้ บดินทร์คงมองตัวเธอเปลี่ยนไปแน่นอนยังไงซะ ตอนนี้ก็ไม่อาจถอยได้ ต้องเดินตามแผนต่อไปจวบจนเวลาผ่านไป รู้สึกตัวอีกที บดินทร์กลับพบว่าตัวเองกำลังนอนเปลือยเปล่า อยู่ข้างบีบีที่ไม่ได้สวมใส่อะไร เวลานั้นความรู้สึกมากมายถาโถมเข้ามาใส่ ทั้งช็อก ทั้งโกรธ ทั้งโมโหและเศร้าใจ เร่งสะบัดศีรษะไปมาเพื่อเรียกสติให้คืนกลับ พร้อมยกมือขึ้นมาตบหน้าตัวเอง หวังจะเช็กดูให้แน่ใจว่าสิ่งที่พบเจอ ไม่ใช่ความฝันและนั้น! ไม่ใช่ความฝ
หลังจากเริ่มรับประทานอาหาร ทำให้ทั่วทั้งห้อง ตกอยู่ภายใต้ความเงียบ น่าอึดอัดใจ บดินทร์ที่ทานไปได้ สองสามคำ ค่อย ๆ ตัดสินเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ"พ่อจะให้เวลาหนูกับเตชินพิสูจน์ตัวเอง เลิกยุ่งกับยาเสพติด แล้วไปหางานทำให้ได้ภายในเดือนนี้""บีเลิกยุ่งกับยาพวกนั้น..นานแล้วค่ะ" บันนิดาปฏิเสธเสียงแข็ง คราวก่อนที่บดินทร์ส่งไปบำบัด เธอจำได้ดีว่ามันทรมานแค่ไหน และไม่อยากกลับไปเหยียบอีก..เป็นหนที่สอง ทว่าร่างกายกลับเสพติดของพวกนั้น จนไม่อาจทนต่อความต้องการไหว"หนูทำหรือไม่ทำ บีบีรู้อยู่แก่ใจตัวเอง พ่อจะไม่เข้ายุ่ง แต่ถ้าเดือนหน้า หนูกับเตชินยังมีสภาพแบบนี้อยู่ พ่อคงจะให้อยู่ที่นี่ไม่ได้""ผมเข้าไม่เข้าใจ พวกเราสองคนทำอะไรผิด ทำไมคุณพ่อ ถึงต้องไล่ผมกับบีออกไปด้วย" คนเป็นลูกเขยกล่าวเสียงสั่นเครือ แสร้งทำน้ำเสียงเศร้าซึมตามมาแต่นั้นกลับเป็น การเล่นละครที่น่าสะอิดสะเอียน ในสายตาบดินทร์ ทำเอากลืนอาหารลงคอด้วยความยากลำบากไม่คิดว่าการมาทานข้าวร่วมกับลูกสาวครั้งนี้ รสชาติกับข้าวราคาแพงจะฝืดคอได้มากขนาดนี้ พร้อมกันจึงยกน้ำเปล่าจิบนิด ๆ หวังให้ละเลียดลงกระเพาะไปให้จบ ๆ จ
บดินทร์เดินเตร่มาตามเส้นทางสวนสวย ๆ ดวงตามองแสงตะวันยามโพล้เพล้ หวังให้ความงดงามของธรรมชาติช่วยบรรเทาอาการเครียดที่มีตอนนี้เขารู้แล้วว่าบันนิดากลับไปใช้สารเสพติดอีกครั้ง หลังจากให้แม่บ้าน นำผมลูกสาวไปส่งตรวจความทรงจำแย่ ๆ เริ่มไหลย้อนกลับมา และนั้นคงเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของบีบีคนเป็นพ่ออย่างเขา ย่อมจำได้ดี บันนิดาในวัยเด็กนั้นน่ารักและร่าเริง แต่พอช่วงอายุได้ประมาณสิบหกปีเด็กคนนั้นก็เข้ามาถาม เรื่องที่ตัวเอง ไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของเขา ซึ่งบดินทร์ก็ยอมรับไปแต่ใครจะคิดว่า เบื้องหน้าสาวน้อยสดใสจะถูกความน้อยเนื้อต่ำใจกลืนกิน แถมเขายังไม่เคยมีเวลาให้กว่าจะรู้ตัวบีบี ดันถลำลึกเกินฉุดรั้ง เคราะห์ร้ายเธอยังไปหลงรักผู้ชายเลว ๆ และหนีไปอยู่ด้วยกัน เชื่อมาตลอดว่านั้นคือความรักที่แท้จริง สุดท้ายบดินทร์จึงส่งบีบีไปลองตรวจอาการทางจิต ปรากฏว่าเธอป่วยเป็นโรคเรียกร้องความสนใจ ทั้งบดินทร์และบุษบาเลยส่งบีบีไปรักษา พอออกมาได้ ทั้งสองคนก็พยายามช่วยกันกลบปมด้อยภายในใจของลูกสาว ทำให้บันนิดามีอาการดีขึ้นแต่ความสุขดันมีได้ไม่นาน หลังจากที่ทั้งคู่สูญเสียคนกลางไป ความสัมพันธ์ระหว
"บีบี! ถ้าจะโง่ ก็โง่ให้มันน้อย ๆ หน่อยเถอะ คิดยังไง ถึงจะหนีออกจากบ้านห๊ะ!" เตชินที่เพิ่งกลับมาเอ็ดใส่ภรรยาที่กำลังเก็บข้าวเก็บของ ยัดกระเป๋าเดินทาง ท่าทางกะฟัดกะเฟียด หัวเสียอยู่ใช่เล่น"บ้านที่พ่อ..ไม่แม้แต่จะหันมาสนใจใยดี บีไม่อยู่หรอก!""อยากโดนแย่งสมบัตินักใช่ไหม? ถึงได้ปล่อยให้นิรณาทำคะแนนอยู่ฝ่ายเดียว!" เสียงก้าวร้าว ตะคอกใส่หน้าภรรยา นึกอยากจะควักสมองบันนิดามาดู ทำไมถึงได้โง่งมขนาดนี้"ถ้าบีหายไป เดี๋ยวคุณพ่อก็ไปง้อเองแหละ ห่างกันสักพัก คงจะมีเวลาทบทวนความจำ ถึงยังไงคนอย่างเขา ถ้าขาดบีไป สุดท้ายก็คงทนไม่ได้อยู่ดี" บันนิดามั่นใจมากเพราะปกติบดินทร์จะเป็นฝ่ายไปตาม กลับมาตลอด สาเหตุหลัก ๆ คงเพราะทนความรู้สึกผิดที่อยู่ในใจไม่ไหวล่ะมั้ง"เอาอะไรมามั่นใจ ตอนนี้ไอ้ดินมันได้เมียใหม่ ลูกใหม่แล้ว คิดว่ามัน จะไปเอาคนอย่างบีกลับมา ให้ปวดหัวเหรอไง?""เตชิน!""ฟังให้ดี ๆ นะ บีน่ะ..ไม่มีสิทธิ์ในสมบัติของบดินทร์ ถ้าตัดขาดมันไป เราสองคนจะไม่เหลืออะไรเลย""แต่ว่า…""เราสองคนไม่มีงานทำนะ ส่วนบีไปอยู่ที่ไหน..ก็ไม่รอด แล้วเราจะเอาอะไรกิน?""บัตรไง..วงเงิน
"ถามจริง! พี่จะปล่อยไว้แบบนี้ จริง ๆ เหรอ?" นราภพถามอย่างหัวร้อน เขาสู้ตามสืบชีวิตประจำวันของบันนิดามาเป็นเดือน ๆ แถมยัยคนนั้น ยังคิดจะทำร้ายพี่ของเขาอีก แต่นิรณากลับยังใจเย็น ทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน"ใครมันจะไปคิดว่าเพื่อนเก่าจะร้ายกาจขนาดนั้น เห้อ ถ้าแกไม่ส่งข้อมูลมาให้ฉันดู ปานนี้คงคิดว่ายัยนั้นอยากคืนดีด้วยจริง ๆ แน่""โดนกระทำขนาดนั้น ยังจะคิดพวกมันเป็นคนดีอยู่อีกเหรอ? สัญชาตญาณพี่เนี่ย! ไม่แม่น..เหมือนสมัยก่อนแล้วนะ!""แกจะไปรู้อะไร..สมัยก่อน ตอนยังอยู่มอปลายบีบีมันเป็นเพื่อนที่น่ารักอยู่นะ" นิรณากล่าวถึง ภาพจำของเพื่อนมีด้านดีอยู่ไม่ใช่น้อย ไม่เช่นนั้นคงไม่คบกันมาเป็นสิบ ๆ ปี จนบางครั้งเธอยังคาดไม่ถึงเลยว่าเพื่อนจะกลายมาเป็นคนแบบนี้"ผมจะบอกความลับให้พี่ฟัง""อะไร?" สารวัตรสาวเร่งเงยหน้าจากกองเอกสาร มองหน้าน้องชายด้วยความสงสัย อยากรู้ว่า..นราภพปิดบังอะไรไว้"ผมเคยคบกับบีบีช่วงหนึ่ง..ยัยนั้น มันประสาทกลับ นอกจากตัวเอง คงไม่เคยรักใครจริง ๆ หรอก""อ้าว ไหนตอนนั้น แกบอกว่าไม่ได้คบ""ถ้าบอกว่าเรากำลังคบกัน พี่จะให้คบไหมล่ะ?""ไม่!" นิรณาปฏิเสธเสี
"ไม่น่าเชื่อว่าแกอยากจะขอโทษฉัน มีอะไรแอบแฝงหรือเปล่า?" นิรณาถามโต้ง ๆ จะมองยังไงก็ดูไม่น่าไว้ใจสักนิด"ฉันขอโทษจริง ๆ นะ ทั้งหมดทุกเรื่องที่ทำไป ก็แค่อิจฉาแกเท่านั้น" คนตรงหน้าพยายามพูด โทนเสียง..เป็นมิตรแต่หากสนิทจริง ๆ ก็จะดูออกอยู่ดีว่าแกล้งทำแต่เพราะอยากรู้เจตนา จึงยินยอมตามน้ำ กล่าวถามออกไปเสียงเรียบ"ฉันดีกว่าแกตรงไหนงั้นเหรอ?""ใคร ๆ ก็รักแกนี่น่า ฉันน่ะ ฉันแค่อยากเป็นแกก็เท่านั้น ทุกคนจะได้ชอบฉัน" บีบีหลุดปากออกไป เขยิบตัวเข้าไปใกล้กับนิรณาอีกนิด"เลยเอาตัวเองไปนอนกับแฟนฉัน ไม่สิ! อดีตต่างหาก" พูดจบ คนซักไซ้จึงเงียบเสียงลง ก่อนจะลอบมองปฏิกิริยาท่าทางดูร้อนรนของบีบี ยิ่งไม่วางใจ พร้อมยกแขนขึ้นกอดอก นัยน์ตา ยังคงจับจ้อง หยั่งเชิงดูว่า..คนที่เคยเป็นเพื่อนจะทำยังไงต่อไป"เข้าใจถูกต้องแล้วล่ะ..เพราะฉันอยากเป็นแก ฉันเลยอยากได้เตชิน" บีบีร่ายออกมาเหมือนยียวนหาเรื่องกวนประสาท หากแต่ใครบ้างจะรู้..จริง ๆ เธอนั้นโคตรอิจฉา โลกของนิรณาเสียจริง"ฉันไม่เข้าใจสักนิดเดียว ทำไมถึงอยากเป็นฉันนักหนา""ใคร ๆ ก็รักแก ทุกคนที่อยู่รอบตัวฉัน..รักแต่แกคนเดี
พะพายเดินอารมณ์ดี มายังโซนที่พวกแม่บ้านนั่งทานข้าวกัน ดวงตามองนาฬิกาเรือนสวยที่เตชินยอมถอดออกจากข้อมือแล้วยื่นให้ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มาตลอดทาง"มา ๆ นังพาย มากินข้าว" เสียงป้าเรียกหา มือแกกำลังยกสำรับอาหารมาหลายอย่าง เตรียมตั้งวง"จ้ะป้า"รับคำเสร็จสิ้น เธอจึงเดินไปช่วย แล้วทรุดนั่ง มองพวกอาหารในถาด หน้าตาน่ากิน ด้วยใจจดใจจ่อแต่กลับต้องรอคนให้มาครบซะก่อน ไม่งั้นคงถูกนินทา หาว่าตายอดอยาก กินข้าวไม่รอผู้ใหญ่ คิดเพียงแค่นั้นก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ หากว่ามีเงินมากกว่านี้ คงไม่ต้อง..เป็นขี้ข้าใคร"แล้วแกหายไปไหนมาทั้งคืนล่ะ? ยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่กลับมาเชียว มีอะไรดี ๆ เกิดขึ้นงั้นเหรอ?""อ๋อ ฉันทำความสะอาดเพลินไปหน่อย แล้วก็ไปทำอีท่าไหนก็ไม่รู้ ประตูห้องมันดันเปิดไม่ออก""ทำไมแกถึงไม่โทรหาป้า?""ฉันไม่ได้เอาโทรศัพท์ไป""อ้าว! แล้วออกมาได้ยังไง?" ป้าซักถามด้วยความสงสัย เมื่อเห็นหลานสาวมีท่าทีแปลก ๆ"ฉันก็ไปทำอีท่าไหน ไม่รู้เหมือนกัน อยู่ดี ๆ ประตูมันดันเปิดออกมาได้คนเดียว""มึงแถขนาดนี้สีข้างไม่ถลอกเหรอ?" เสียงแป๋วประชดขึ้น แล้วว่าต่อ "ฮึ! อย่าคิดว่ากู
เมื่อคล้อยหลังลูกเขยตัวดีที่เดินคอตกออกไป บดินทร์ก็ค่อย ๆ เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ท่าทางเหนื่อยใจเรื่องราวของ..นิรณา เตชิน บีบีปกติก็น่าปวดหัวมากอยู่แล้ว ตอนนี้ไอ้ลูกเขยที่นรกส่งมา ดันไปสร้างวีรกรรม นอนกับสาวใช้ซ้ำร้ายยังไม่รู้ว่า..ป้องกันหรือเปล่า หากท้องขึ้นมาคงสร้างความลำบากไม่ใช่น้อย แต่ครั้นจะให้เขาแก้ปัญหาให้ก็ไม่ใช่เรื่องของตัวเองติดแค่กับบีบีเด็กคนนั้นสภาวะอารมณ์ไม่คงที่ ให้รู้เรื่องราวไม่ได้ เขาเลยจำต้องปิดบัง จนกว่าจะถึงวันที่เธอพร้อมใจนั้นยิ่งนึกโกรธเตชิน ทว่าจะให้กระทืบหรือใช้ความรุนแรง นั้นก็ไม่ใช่ทางออกที่แท้จริงดีไม่ดีต้องขึ้นโรงขึ้นศาลเหมือนคราวก่อน ยิ่งทำให้เสียชื่อเสียงที่บิดามารดาสร้างสมไว้หากตายไป บดินทร์..คงไม่มีหน้ากลับไปหาบรรพบุรุษ"ผมควรทำยังไงดีครับ? พี่บุษ" เสียงทุ้มสอบถามบุษบา นัยน์ตาจ้องมองรูปแต่งงานของตัวเองกับภรรยาเก่า หวนนึกถึงเรื่องราว ครั้งแรกที่เจอกัน"ต่อไปนี้ คุณบุษบา เธอจะมาเป็นพี่เลี้ยงของลูกนะ" มารดาที่กำลังป่วยรู้ตัวดีว่าคงอยู่ดูแลเขาได้อีกไหมนานตัดสินใจจ้างวานลูกสาวของชาติ เศรษฐีเพื่อนบ้านที่
นิรณาเดินกระฟัดกระเฟียด สีหน้าบอกบุญ..ไม่รับออกมาจากห้องครัว ก่อนจะตามมาด้วยชายผู้มีศักดิ์เป็นลูกเขยวิ่งตามมาทางด้านหลังมันคนนั้นคว้าเอวผู้หญิงของเขาไปกอดไว้ แถมยังเอาหน้าไปชิดใกล้แก้มนุ่ม ทำให้ความรู้สึกแปลก ๆ แทรกเข้ามา เตชินเป็นอย่างที่ภรรยาพูดบดินทร์เห็นทุกอย่างผ่านกล้อง แต่กลับไม่ได้ยินเสียง อาจเพราะมันไกลเกินไปเขาลงมือเลื่อนวิดีโอกลับ โชคร้ายที่ในห้องครัวนั้นไม่มีกล้อง จึงไม่ได้รู้ ได้เห็นว่าสิบกว่านาทีที่หายเข้าไปด้านในทั้งคู่ทำอะไรอยู่ และเพราะความสงสัยคิดว่าทั้งคู่อาจนัดกัน พลันเลื่อนสายตามองสลับไปยังจอด้านข้างที่ติดกล้องของชั้นบนไว้ แล้วเลื่อนกลับเรื่อย ๆจนเห็นภรรยากำลังเดินงัวเงีย ออกจากห้องนอนของตัวเอง ยกมือสางผมนุ่มสลวย เดินมุ่งหน้าเหมือนต้องการจะไปทางห้องครัวจริง ๆ ไม่ใช่ทางอื่น บดินทร์พลันโล่งใจทว่าตอนที่คนภรรยากำลังจะเดินลงบันไดไป ภาพของเตชินดันพรวดพราดออกมาจากห้องนอนแขกยัดเสื้อลงกางเกงท่าทางดูร้อนรน เงยหน้ามองซ้ายขวา ท่าทางระแวดระวัง และเหมือนว่าเขาจะเห็นนิรณา สองเท้าจึงเร่งเดินตามเธอไปซึ่งมัน..จะไม่ทำให้บดินทร์โกรธเลยสักนิด ห