Home / รักโบราณ / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 945 ข้าอยากออกจากวัง

Share

บทที่ 945 ข้าอยากออกจากวัง

Author: ม่อเยี่ยน
ณ เมืองหลวง

อินชิงเสวียนพาหลี่ชีกับฉินเทียนกลับไปถึงวังหลวงแล้ว

ทันทีที่มาถึงห้องหนังสือ ก็เห็นเย่ไห่ถัง

“เสด็จพี่สะใภ้ ท่านกลับมาแล้วทำไมไม่บอกข้าบ้าง ข้าคิดถึงท่านจะแย่”

เย่ไห่ถังถือกระโปรงวิ่งเข้ามา ขอบตาแดงก่ำ สีหน้าน้อยอกน้อยใจ

เมื่อเห็นท่าทางน่าสงสารของเย่ไห่ถัง อินชิงเสวียนก็รู้สึกผิด

ในช่วงสองวันที่กลับมา นางก็ยุ่งอยู่ตลอด ถึงได้ลืมเรื่องยัยหนูคนนี้ไป

นางตบหลังเย่ไห่ถัง แล้วพูดอย่างอ่อนโยน “ข้ามีธุระต้องทำ ยังไม่มีเวลาว่างเลย เดิมทีคิดว่าพรุ่งนี้จะเอาของที่ซื้อจากชาวบ้านไปฝากเจ้า ไม่คิดว่าเจ้าจะมาก่อน”

เมื่อได้ยินว่าอินชิงเสวียนมีของจะให้ตัวเอง ดวงตาคู่โตที่มีน้ำตาคลอเบ้าของเย่ไห่ถังก็กะพริบปริบๆ ถามว่า “เสด็จพี่สะใภ้นำอะไรมาหรือ มีอะไรน่าสนใจไหม”

“แน่นอน ข้าจะพาเจ้าไปดูเดี๋ยวนี้แหละ”

เมื่ออินชิงเสวียนจับมือของเย่ไห่ถัง สาวน้อยก็ยิ้มออกมา

“ขอบคุณเสด็จพี่สะใภ้”

“เราคนครอบครัวเดียวกัน ไม่ต้องเกรงใจแล้ว”

อินชิงเสวียนน้ำเสียงอ่อนโยน ท่วงท่าสง่างาม ให้ความอารมณ์เหมือนมารดาแห่งแผ่นดินอยู่กลายๆ

เย่ไห่ถังลอบมองนางแวบหนึ่ง ไม่ได้เจอกันหลายเดือน ดูเหมือนเสด็จพี่สะใภ้จะสวยขึ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 946 เจ้าคู่ควร

    “ไร้สาระ เป็นถึงองค์หญิง วันๆ คิดแต่จะออกจากวัง ไม่เหมาะไม่ควร”เย่จิ่งอวี้นั่งบนเก้าอี้ คิ้วทั้งคู่ขมวดมุ่น เรียวตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจเกรงว่าเด็กสาวคนนี้คงจะมีความรัก ถึงคิดแต่จะวิ่งโร่ออกไปข้างนอกแบบนี้หากใครรู้ว่าองค์หญิงบ้าไปแล้วเช่นนี้ จะเป็นการไม่เหมาะไม่ควร ดูเหมือนว่าจะต้องหาสามีให้นางแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงเรื่องที่ไม่เหมาะสม“น้องต้องการไปเยี่ยมชมโรงเรียนสอนการต่อสู้ น้องเคยไปสำนักศึกษาหลวงกับเสด็จพี่สะใภ้แล้ว ยังไม่เคยเห็นที่อื่นเลย หากไม่ได้เห็นความสำเร็จของเสด็จพี่สะใภ้ด้วยตาตัวเอง คงจะน่าเสียดายแย่ เสด็จพี่เพคะ ท่านยอมรับปากข้าครั้งนี้ด้วยนะ!”เย่ไห่ถังก้าวไปข้างหน้า จับแขนเสื้อของเย่จิ่งอวี้ แล้วเขย่าไปมาอย่างออดอ้อน ในขณะที่ใบหน้าเล็กๆ ก็หันไปหาอินชิงเสวียน สายตาขอร้องอ้อนวอน เมื่อได้ยินว่านางอยากไปโรงเรียนสอนการต่อสู้ อินชิงเสวียนก็เดาได้แล้วว่าเย่ไห่ถังกำลังคิดอะไรอยู่ นางอาจจะตกหลุมรักพี่รองของนางจริงๆ แต่ไม่รู้ว่าอินปู้อวี่คิดเช่นเดียวกันหรือไม่อินชิงเสวียนรู้ว่าการแต่งงานในราชวงศ์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับภูมิหลังและรูปลักษณ์ของตระกูลเท่านั้น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 947 แก้ไขสถานะของอินชิงเสวียนให้ถูกต้อง

    “กระหม่อมมีฎีการายงานพ่ะย่ะค่ะ!”หานสือก้าวไปข้างหน้า พูดด้วยสีหน้ายินดี “คืนวานกระหม่อมได้รับข่าวว่า ราษฎรทุกเมืองและทุกมณฑลได้กลับไปทำการเกษตรที่บ้านเกิด มีการแจกจ่ายเมล็ดพันธุ์พืชไปยังหลายเมืองเพื่อทดลองปลูก ผลลัพธ์เป็นไปในทิศทางที่ดี นับเป็นข่าวที่ดีจริงๆ”เย่จิ่งอวี้พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม“นี่เป็นข่าวดีจริงๆ”ฉินไห่ฉิวกล่าวต่อไปว่า “คูน้ำส่วนใหญ่ถูกขุดขึ้นมาแล้ว ประกอบกับบ่อน้ำหลายพันแห่ง ปัญหาเรื่องน้ำดื่มของราษฎรได้รับการแก้ไขโดยพื้นฐานแล้ว ถึงจะมีภัยแล้งรุนแรงอีกครั้ง ก็จะไม่เกิดสถานการณ์อย่างเช่นก่อนหน้านี้อีกแล้ว ราษฎรต่างยกย่องฝ่าบาทว่าทรงประปรีชาสามารถ บางคนถึงกับตั้งรูปปั้นทองคำถวายฝ่าบาท และสักการะทุกวัน ซึ่งแสดงความชื่นชมยินดีของพวกเขา”“นั่นไม่จำเป็นแล้ว คนที่บริจาคเมล็ดพันธุ์คือกุ้ยเฟยของข้า ผู้เสนอการผันน้ำจากใต้สู่เหนือก็เป็นนาง เมื่อครึ่งปีที่แล้ว ข้าบอกว่านางคือหลิวเสวียน แต่คิดว่าทุกท่านคงรู้ตัวตนของนางแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าไม่จำเป็นต้องปิดบังอีกต่อไป”ดวงตาของเย่จิ่งอวี้คมกริบราวกับสายฟ้า กวาดมองใบหน้าของขุนนางทุกคน พูดเบาๆ “ตอนที่ข้าเป็นรัชทายาทได้แต่งงา

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 948 เขามีความสามารถนี้

    “ทำเสียงดังรบกวนเจ้าหรือเปล่า”เย่จิ่งอวี้นั่งลงข้างๆ กล่าวด้วยเสียงอ่อนโยน“เปล่า มีข่าวดีอะไรหรือ”อินชิงเสวียนเลิกคิ้วถาม“ข้าได้แก้ไขสถานะของเสวียนเอ๋อร์ให้ถูกต้องแล้ว เมื่อโหราจารย์หาฤกษ์งามยามดีได้แล้ว ข้าจะจัดพิธีสถาปนาฮองเฮาให้เสวียนเอ๋อร์อย่างยิ่งใหญ่”เย่จิ่งอวี้จับมือเล็กนุ่มนิ่มของอินชิงเสวียน สีหน้าแววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขอินชิงเสวียนมองไปยังเรียวตาหงส์ที่ลูกตาดำตัดกับตาขาวชัดเจนคู่นั้น แล้วพูดด้วยสายตาอ่อนโยน “ขอบคุณอาอวี้ ความจริงจะชื่ออะไรล้วนไม่สำคัญ จะเป็นฮองเฮาหรือไม่ข้าก็ไม่สนใจ ข้าแค่หวังว่าจะได้อยู่ครองคู่กับอาอวี้ไปตลอดชีวิต ไม่ทอดทิ้งกัน!”เย่จิ่งอวี้พูดอย่างอบอุ่น “ข้ารู้ ข้าแค่ทำสิ่งที่ข้าควรทำ”เขาหยิบหนังสือบนโต๊ะขึ้นมา แล้วพลิกดูหน้าสองหน้า“นี่คืออะไร”อินชิงเสวียนยักไหล่“เย่จิ่งหลานให้ข้าไว้ ภาพวาดบนนั้นคือสิ่งที่หวังซุ่นเห็นในถ้ำบนเกาะตงหลิว ก็ดูน่าสนใจดี”“โอ้? มีสิ่งที่น่าสนใจแบบนี้ด้วย?”เย่จิ่งอวี้หยิบขึ้นมาเปิดดูอย่างละเอียดอินชิงเสวียนเท้าคางแล้วพูดว่า “มีหลายสิ่งที่ดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับลัทธิเต๋า”“ลัทธิเต๋า? เสวียนเอ๋อร์คิด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 949 สงบเยือกเย็นอยู่เสมอ

    นักพรตเต๋าหนุ่มมองดูเม็ดฝนบนมือ แล้วตกตะลึงงันนักพรตเต๋าที่อยู่ข้างๆ กระทุ้งศอกใส่เขา“ศิษย์น้องชิงฮุย เจ้าเป็นอะไรไปรึ”ชิงฮุยตื่นจากภวังค์ทันที“ไม่มีอะไรหรอก แค่รู้สึกว่าเพิ่งแดดออกอยู่หยกๆ แต่จู่ๆ ฝนก็ตก รู้สึกว่ากะทันหันไปหน่อย”คนที่นั่งฟังเทศน์อยู่ในศาลาก็มองดูท้องฟ้าเช่นกันฝนตกลงมากระทบหลังคาศาลา สาดใส่เสื้อผ้าของทุกคน ไม่รู้สึกเย็นเยือกแต่อย่างใด แต่กลับรู้สึกอบอุ่น ทำให้รู้สึกสบายตัวมากนักพรตเต๋าที่อยู่ข้างๆ ยิ้มแล้วพูดว่า “นี่เรียกว่าธรรมชาติมิอาจคาดเดาฟ้าฝน ชีวิตคนมิอาจคาดเดาความแปรผัน เมื่อไร้ซึ่งความกังวล จึงจะสงบเยือกเย็นอยู่เสมอ บริสุทธิ์สงบใจเอย!”ชิงฮุยโค้งคำนับแล้วกล่าวว่า “ศิษย์พี่กล่าวถูกแล้ว ชิงฮุยได้รับคำชี้แนะแล้ว”ที่นั่งถัดจากพวกเขาสองคนคือนักพรตเต๋าคิ้วขาว หลังจากได้ยินการสนทนาของพวกเขา นักพรตเต๋าก็พยักหน้าเห็นด้วย แล้วสั่งสอนทุกคนต่อไปราษฎรชาวเมืองหลวงไม่ทราบถึงประสิทธิผลของฝนนี้ บางคนที่ป่วยด้วยอาการปวดศีรษะ เมื่อบังเอิญโดนฝน ก็หายเป็นปกติทันที ยังคิดไปเองว่าตัวเองร่างกายแข็งแรง ไม่งั้นก็เป็นเพราะได้รับพรจากสวรรค์ ไม่ว่าอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าสิ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 950 เหล่านายหญิงออกจากวัง

    “ได้จริงๆ หรือ”เย่ไห่ถังต้องการออกจากวังโดยเร็วที่สุด แต่ก็กลัวว่าอินชิงเสวียนจะหิว จะถูกเสด็จพี่ตำหนิเอาได้“ไม่มีปัญหา ข้ายังไม่หิวเท่าไหร่”อินชิงเสวียนกำชับอะไรสองสามคำ แล้วพาเย่ไห่ถังออกจากวังเมื่อมาถึงประตูจิ้งอาน ก็เห็นหลี่เต๋อฝูเดินนำนายหญิงยี่สิบคนเข้าแถวเพื่อออกไปข้างนอก ทุกคนร้องไห้โศกเศร้าเหมือนไปงานไว้ทุกข์เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า หลี่เต๋อฝูก็หันกลับมาพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า “กระหม่อมถวายพระพรกุ้ยเฟย ถวายพระพรองค์หญิงพ่ะย่ะค่ะ”เย่ไห่ถังโบกมืออย่างอารมณ์ดี“ตามสบาย พวกนางจะออกจากวังแล้วหรือ”หลี่เต๋อฝูตอบว่า “ถูกต้อง ฝ่าบาทมีราชโองการลงมาแล้ว ให้กระหม่อมไปส่งเหล่านายหญิงออกจากวังวันนี้พ่ะย่ะค่ะ”เมื่อพูดตรงนี้ หลี่เต๋อฝูก็เหลือบมองอินชิงเสวียนฝ่าบาทสามารถทำเช่นนี้เพื่อกุ้ยเฟยได้ เรียกได้ว่าเสี่ยงต่อการไม่ยอมรับจากใต้หล้าจริงๆ หากพระสนมมีลูกชายหญิงหลายคนก็แล้วไปเถิด แต่ตอนนี้มีวังหลังมีองค์ชายน้อยเพียงคนเดียว เด็กน้อยเลี้ยงดูให้เติบใหญ่ได้ยาก หากเกิดอะไรขึ้น ฝ่าบาทมิต้องไร้ผู้สืบทอดบัลลังก์งั้นหรือถุยๆ!นี่เขากำลังคิดอะไรอยู่ โหราจารย์บอกว่าองค์ชายน้อยเป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 951 ผู้สละทางโลกอย่างแท้จริง

    อินชิงเสวียนตกใจเล็กน้อยนางเพิ่งคุยกับเย่จิ่งอวี้เรื่องของนักพรตเต๋าเสร็จ ก็ได้พบนักพรตเต๋าจำนวนมากมายพอดี คาดว่ามีประมาณสิบกว่าคนเมื่อมองดูเสื้อผ้าที่ซอมซ่อและเรียบง่ายของพวกเขา แต่ละคนมีรูปร่างผอมซูบ ดูเหมือนผ่านความยากลำบากมามาก แต่กลับมีชีวิตชีวา โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้นที่เผยให้เห็นความสดใสและเงียบสงบนี่เป็นครั้งแรกที่อินชิงเสวียนได้พบนักพรตเต๋าพเนจรแบบนี้ ซึ่งแตกต่างจากนักบวชเหล่านั้นในวัดยุคปัจจุบันคนเหล่านี้เป็นนักพรตเซียนเต๋าที่สง่างามทุกคน สีหน้าและแววตาจริงจัง ทำให้คนเกิดความเคารพและยำเกรงโดยไม่รู้สาเหตุพวกเขาเดินผ่านอินชิงเสวียนไปอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ได้หยุดลงและยังคงเดินต่อไปด้านหน้า สายตาแน่วแน่และนิ่งสงบจนกระทั่งถึงนักพรตเต๋าน้อยผู้นั้นที่หน้าตาสะอาดและหล่อเหลา เมื่อเดินผ่านอินชิงเสวียนไปก็หันกลับมาเหลือบมองนางเมื่อสบสายตากัน อินชิงเสวียนก็ใจสั่นเล็กน้อยดวงตาคู่นั้นพิเศษอย่างแท้จริง สดใสราวกับกระจก ไม่แปดเปื้อนโคลนตม ใสสะอาดจนทำให้คนรู้สึกต่ำต้อยนักพรตเต๋าน้อยผู้นี้สูงส่งงดงาม เขายิ้มให้อินชิงเสวียนอย่างเป็นมิตร และเดินตามรอยเท้าของท่านอาจารย์ไปอิ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 952 ดูเหมือนพวกเราทำให้พวกเขาตกใจจนวิ่งหนีไป

    รองผู้อำนวยการเหลือบมองอินชิงเสวียน พูดและหัวเราะชอบใจว่า “คุณชายรองอินกำลังฝึกการต่อสู้ให้นักเรียนใหม่พร้อมกับคุณชายกวน ตอนนี้พวกเขาอยู่ด้านหลัง กระหม่อมจะพาเหนียงเหนียงและองค์หญิงเสด็จไปเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“ไม่ต้อง พวกข้าไปกันเองก็ได้”นับตั้งแต่อินชิงเสวียนไปจากเมืองหลวง เย่ไห่ถังก็ไม่ได้ออกจากวังอีกเลย ความคิดถึงทำให้นางลืมการวางตัว อย่างไรอินชิงเสวียนก็เป็นน้องสาวแท้ๆ ของอินปู้อวี่ ถูกนางหัวเราะเยาะก็คงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนางรีบเดินไปยังเรือนด้านหลัง และได้พบกับอินปู้อวี่ที่ยืนอยู่บนแท่นฝึกการต่อสู้เขาเปลือยกายท่อนบน กำลังนำนักเรียนใหม่ฝึกซ้อมหมัดมวย เส้นกล้ามเนื้อที่แผ่นหลังยาวต่อเนื่องไม่สะดุด ผิวสีน้ำตาลแก่เปล่งประกายเป็นแสงสีทองจางๆ ภายใต้แสงแดดเย่ไห่ถังเพียงเหลือบมองก็รู้สึกว้าวุ่นหัวใจ จึงกำผ้าเช็ดหน้าไว้แน่นโดยไม่รู้ตัวกวนเซี่ยวนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้านข้าง กำลังพักผ่อนอยู่ เขาสวมเสื้อคลุมสั้นสีเทาและเปิดหน้าอกอยู่ คิดว่าคงเหนื่อยจึงนั่งตากลมเมื่อเห็นอินชิงเสวียนและเย่ไห่ถัง กวนเซี่ยวก็ตกใจในทันที รีบหยิบเสื้อมาปิดไว้และกระโดดลงมาจากแท่นฝึกซ้อม น้อมตัวพูดว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 953 เขาพูดสิ่งใดผิดไปหรือ

    กวนเซี่ยวมองแววตาออก เมื่อเห็นอินชิงเสวียนเดินออกไป จึงเดินตามไปทันทีเดินมาเรื่อยๆ จนถึงหน้าห้องพักของพวกเขา อินชิงเสวียนจึงหยุดลงกวนเซี่ยวน้อมตัวพูดว่า “ท่านปู่บอกว่าเขามีอาการวิงเวียนศีรษะเล็กน้อย และปวดท้ายทอยมาก อาจเป็นเพราะเมื่อคืนนอนหลับไม่ดี หากว่าหวงกุ้ยเฟยยังมียาครั้งก่อนอยู่อีก กวนเซี่ยวอยากขอสักหน่อย เหนียงเหนียงได้โปรดประทานให้ด้วยพ่ะย่ะค่ะ”กวนเซี่ยวสะบัดชุดคลุมเตรียมจะคุกเข่าลง อินชิงเสวียนเอื้อมมือมาดึงเขาไว้“ข้ายังมียาอยู่ แต่ยาเหล่านั้นรักษาตามอาการ ไม่ใช่การรักษาที่ต้นเหตุ อีกสักครู่ข้าจะไปเยี่ยมที่จวน ดูว่าอัคราจารย์ยังมีอาการอื่นอีกหรือไม่”“อาการอื่น?”กวนเซี่ยวเงยศีรษะขึ้นด้วยความตื่นตกใจอินชิงเสวียนพูดปลอบใจว่า “เจ้าอย่าคิดฟุ้งซ่านไป อัคราจารย์เป็นผู้ฝึกการต่อสู้มายาวนาน ร่างกายของเขาไม่มีปัญหาอะไรหรอก บางทีเขาอาจโกรธข้าอยู่ ข้าควรจะไปแสดงความขอโทษด้วยตัวเอง”กวนเซี่ยวเข้าใจในสิ่งที่อินชิงเสวียนพูด ซึ่งก็คือเรื่องที่ฟางรั่วเข้ามาในโรงเรียนสอนการต่อสู้ ท่านผู้เฒ่าไม่พอใจต่อเรื่องนี้อย่างมาก“ความจริง เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของหวงกุ้ยเฟยเลย ท่า

Latest chapter

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1540 สองพระองค์ครองราชย์ จบบริบูรณ์

    ปีที่สามของการครองราชย์ในราชวงศ์ต้าโจวฮองเฮาให้กำเนิดพระธิดา ได้รับพระราชทานนามว่าองค์หญิงเจ๋อเทียน นามว่าเจิน มีชื่อเล่นว่าฝูเอ๋อร์ในเดือนเก้าของปีเดียวกัน เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนปกครองร่วมกัน แบ่งกันปกครองบ้านเมืองและการดำรงชีวิตของผู้คน ราษฎรเคารพทั้งสองในฐานะพระองค์ฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา ประวัติศาสตร์ได้บันทึกช่วงเวลานี้ไว้ด้วยถ้อยคำที่งดงามที่สุด และเรียกช่วงเวลานี้อย่างเคารพว่า ยุคที่สององค์ปกครอง!ห้าปีต่อมา เครื่องกำเนิดพลังงานลมเครื่องแรกปรากฏขึ้นด้วยฝีมือความสามารถของชาวต้าโจว ซึ่งก้าวล้ำหน้าสมัยโบราณที่ล้าหลังไปอย่างมากด้วยก้าวที่ยิ่งใหญ่นักเรียนจากทั่วแคว้นได้แสดงความสามารถ พัฒนาสิ่งที่ล้ำหน้าต่างๆ ผ่านความรู้ทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมีใหม่ล่าสุด บุปผานับร้อยบานสะพรั่งพร้อมกัน ก่อให้เกิดยุครุ่งเรืองของราชวงศ์ต้าโจวตอนนี้อาหารไม่ขาดแคลน ราษฎรไม่ต้องทนทุกข์กับความหิวโหยอีกต่อไป ยิ่งไม่มีการอพยพย้ายถิ่นฐาน โครงการคลองส่งน้ำก็สำเร็จลุล่วง ด้วยการคมนาคมสะดวกระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ก็สามารถแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการได้ในที่สุด อ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นยังสามารถเปลี่ยนเส้นท

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1539 เสวียนเอ๋อร์ขอบคุณเจ้านะ

    ตำหนักจินอู๋อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ แต่ไม่กล้าโคจรกำลังภายในต้านทานไว้ เพราะกลัวว่าจะทำร้ายลูกของนางเมื่อเห็นนางกัดริมฝีปากล่างแน่น มีเหงื่อไหลอาบหน้า หัวใจของเย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกเหมือนถูกมีดคมๆ นับพันทิ่มแทง รู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง“ต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาได้ ต้องปล่อยให้นางเจ็บปวดทนทุกข์เช่นนี้หรือ”หมอตำแยกล่าวอย่างกล้าหาญว่า “สตรีคลอดบุตรก็เป็นเช่นนี้เพคะ อดทนไว้ แล้วจะดีเอง”เย่จิ่งอวี้พูดด้วยความโกรธ “ฮองเฮาของข้าจะเทียบได้กับสตรีทั่วไปได้อย่างไร รีบหาทางบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาเดี๋ยวนี้”“ข้าไม่เป็นไร อาอวี้ออกไปก่อนเถอะ!”เสียงของอินชิงเสวียนนั้นอ่อนแรง แม้จะเป็นสามีภรรยากัน แต่ถูกเห็นเข้าในสถานการณ์เช่นนี้ก็น่าอายอยู่เหมือนกันเย่จิ่งอวี้เดินก้าวเดียวก็ไปถึงเตียง จับมือของนางแน่นๆ แล้วพูดอย่างกระวนกระวายใจ “ข้าไม่วางใจ มีวิธีถ่ายทอดความเจ็บปวดให้ข้าได้ไหม เจ้าอยู่กับลั่วสุ่ยชิงมานานแล้ว ไม่ได้เรียนวิชาอาคมอะไรจากนางบ้างหรือ”อินชิงเสวียนเจ็บปวดเจียนตายอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำนี้ก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1538 ไท่เฟยไท่ผินออกจากวัง

    อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดและกล่าวว่า “ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ วันนี้เป็นวันแต่งงานของไห่ถัง ในฐานะพี่ชาย ควรเป็นประธานงานแต่งของนางด้วยตนเอง หากไม่มีคนในราชวงศ์ไป ไห่ถังจะผิดหวังได้”แม้น้องสาวจะเป็นญาติ แต่ก็ไม่ชิดเชื้อเท่ากับภรรยา ลูกคนแรกเกิดในตำหนักเย็น ซึ่งทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกผิดไปครึ่งชีวิตแล้ว ยากนี้เด็กคนนี้คือสมบัติล้ำค่าที่แท้จริงระหว่างพวกเขา ในฐานะพ่อของลูก เขาจะจากไปได้อย่างไรเมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางซีด มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายขึ้นเต็มขมับของนาง เย่จิ่งอวี้ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อปลอบนาง “ไม่เป็นไร มีแม่ทัพอินและจอมพลกวนอยู่ด้วย ไห่ถังก็ไม่นับว่าเสียเกียรติอะไรนัก”อินชิงเสวียนคว้าแขนของเขา“จะได้อย่างไร หากไม่มีใครจากในวังไป มันจะกลายเป็นปมในใจของไห่ถังอย่างแน่นอน นี่คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนาง”ไม่ว่าอย่างไรเย่จิ่งอวี้ก็ไม่ยอมไป แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้น้องสาวเสียหน้าได้ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มีความคิดอยู่ในใจ“เจวี๋ยอิ่ง ไปเชิญไท่เฟยไท่ผินทุกท่าน ให้พวกนางออกจากวัง ร่วมงานเสกสมรสขององค์หญิงเดี๋ยวนี้”ทุกคนตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่จิ่งอวี้จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1537 ฮองเฮาทรงมีพระประสูติการ

    เย่ไห่ถังยังคงมีความสุข แต่จู่ๆ เสียงของหลี่เต๋อฝูก็ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเปิดประตู เห็นเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้ยืนอยู่ที่กลางเรือน น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตา“ไห่ถังคารวะเสด็จพี่ เสด็จพี่สะใภ้เพคะ!”เย่ไห่ถังกำลังจะคุกเข่าลง แต่เย่จิ่งอวี้ก็ปราดเข้าประคองนางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในฐานะสตรีที่ออกเรือนแล้ว ทุกสิ่งต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม จะทำตัวเหลวไหลซุกซนเหมือนอยู่ในวังไม่ได้ หากใช้ชีวิตนอกวังจนเบื่อแล้ว ก็สามารถกลับมาได้ตลอดเวลา วังหลวงจะเป็นบ้านของเจ้าตลอดไป”อินชิงเสวียนก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ถ้าพี่รองของข้ารังแกเจ้า เจ้าก็บอกข้าได้เลย ข้าจะทวงความยุติธรรมให้กับเจ้าแน่นอน”ถ้าคนที่เย่ไห่ถังแต่งงานด้วยไม่ใช่อินปู้อวี่ เย่จิ่งอวี้คงพูดคำนี้ไปนานแล้วเย่ไห่ถังสูดจมูก“ขอบพระทัยเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้เพคะ ตอนแรกข้าค่อนข้างมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่อยากจากไปเลย”เมื่อเห็นว่าจมูกของเย่ไห่ถังแดง กำลังจะร้องไห้อีก เย่จิ่งอวี้จึงตีหน้าขรึมพูดทันที “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าจะให้คนไปแจ้งอินปู้อวี่ ว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่มีแล้ว หลี่เต๋อฝู!”หลี่เต๋อฝูก็เป็นคนเจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1536 องค์หญิงกำลังจะเสกสมรส

    ในวันที่หนึ่งเดือนสี่ ลำดับการสอบการต่อสู้ชี้ให้เห็นว่า เฉินเซียงเยว่ที่อินชิงเสวียนสนใจ สอบได้ลำดับหนึ่ง คนผู้นี้หน้าตาดูดุร้ายและน่าเกลียด แต่กลับมีจิตใจอ่อนโยนดังเช่นสตรี ไม่เพียงแต่วรยุทธ์ดีเลิศเท่านั้น แต่ยังเก่งในเรื่องการจัดขบวนทัพด้วย เป็นยอดแม่ทัพที่หาได้ยากนางได้ลำดับหนึ่งก็คือจอหงวนด้านวิชาการต่อสู้ ไม่มีใครไม่ยอมรับเลย แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็ดูฮึกเหิมมีพลังมากกว่าผู้ชายทุกคนในตอนนั้นเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งแซ่หลิวมีชื่อว่าเยว่ ก็ได้รับเลือกให้ติดอยู่ในสามอันดับแรก รั้งอยู่ในเมืองหลวงฝ่าบาทขานรายชื่อสตรีมามากขนาดนี้ เหล่าขุนนางข้าราชบริพารก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ต่างรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องตามระเบียบประเพณี แต่ก็กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์เป็นการส่วนตัวเท่านั้น ต้าโจวในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ที่ฝ่าบาทยินดีฟังพวกเขา ก็ถือเป็นการให้เกียรติพวกเขาแล้ว หากฝ่าบาทไม่อยากฟัง ถึงพูดมากไปก็ไร้ผลแต่ไม่มีใครกล้าพูดว่าเย่จิ่งอวี้เป็นทรราช ฝ่าบาททรงงานปกครองบ้านเมืองอย่างหนัก แม้ว่าพระองค์จะทรงปฏิรูปครั้งใหญ่ แต่ก็ทำเพื่อประชาชนในราชวงศ์ต้าโจวเท่านั้น ขณะนี้แผ่นดินสงบสุข มีธัญพืชอุดมสมบูรณ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1535 เหลวไหลจริงๆ

    เสียงเรียกว่าท่านพี่นั้นทำให้เย่จิ่งอวี้ใจอ่อนลงมากโข ความโกรธทั้งหมดพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันทีไม่เช่นนั้นจะทำอะไรได้อีก ภรรยาที่เลือกมาเอง มีแต่ต้องตามใจเองเท่านั้น“เจ้าคนโกหกตัวน้อย กลับไปสามีจะคิดบัญชีเจ้าหนักๆ ถอนกำลังภายในของเจ้าออก สามีจะทำแทนเจ้าเอง ประเดี๋ยวจะทำร้ายลูกในท้องเอา”เสียงของเย่จิ่งอวี้เชื่อมโยงเป็นเส้น ไหลผ่านกระทบโสตประสาทของอินชิงเสวียนคำต่อคำอย่างแจ่มชัดนางยกมุมปากขึ้น เผยเป็นรอยยิ้มภาคภูมิใจเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่จิ่งอวี้ นางจึงเปิดโสตประสาท เหตุผลที่ขอให้เย่จิ่งอวี้ช่วย ก็เพราะว่ากำลังภายในในร่างกายของนางซับซ้อนเกินไป ยากต่อการควบคุม ในงานที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาดเย่จิ่งอวี้ไม่เหมือนกัน เขาบำเพ็ญตบะกำลังภายในของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังประสานพลังแห่งฟ้าดิน แม้ว่าอินชิงเสวียนจะมีพลังลมปราณของหลายสำนัก แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับกำลังภายในอันบริสุทธิ์และทรงพลังของฮ่องเต้ได้ในชั่วพริบตา กำลังภายในดุจธารานิ่งลึกหลั่งไหลเข้ามาจากด้านนอกประตู เหมือนโลกลึกล้ำ โอบกอดและยืดหยุ่น บรรยากาศที่มืดมนในห้องโถงคล้ายจะถูก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1534 ท่านพี่ช่วยข้าได้ไหม

    “ฟางรั่วเข้าวัง?”เย่จิ่งอวี้หยุดฝีเท้าหลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมถามองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูวังแล้ว แม่นางฟางรั่วเข้ามาเมื่อสามชั่วยามที่แล้ว”เจวี๋ยอิ่งคุกเข่าลงและพูดว่า “กระหม่อมเห็นฟางรั่วเข้าไปในตำหนักจินอู๋ แต่ไม่เห็นนางและฮองเฮาออกมา”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาคล้ายจะสดใสและมืดมน กำลังตกอยู่ในอาการครุ่นคิดด้วยวรยุทธ์ของฟางรั่ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำอันตรายต่ออินชิงเสวียน นางยังมีใบมีดแห่งมิติอยู่ในมือ แม้ว่าเหล่าเทพเซียนจะลงมาเอง แต่นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้จากมุมมองนี้ ควรไม่ใช่การหายตัวไปง่ายๆ นางเรียกฟางรั่วมา ต้องมีเหตุผลอื่นเป็นแน่เจวี๋ยอิ่งโค้งคำนับและถามว่า “ต้องการให้กระหม่อมปิดล้อมพระนคร สืบหาที่อยู่ของฮองเฮาอย่างถี่ถ้วนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเจวี๋ยอิ่ง“ไม่ต้อง หลี่เต๋อฝู ไปเชิญกวนเซี่ยวเข้ามาด้วย”ครู่ต่อมา กวนเซี่ยวก็วิ่งเหยาะๆ มาถึงประตูตำหนัก ยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงกับพื้น“กวนเซี่ยวถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาททรง...”เย่จิ่งอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รำคาญ โบกมือห้าม“ตามสบาย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมฟางรั่วถึงมาที่วัง”กวนเซี่ยว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status