หน้าหลัก / รักโบราณ / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 872 ข้าเป็นบรรพบุรุษของเจ้า

แชร์

บทที่ 872 ข้าเป็นบรรพบุรุษของเจ้า

ผู้เขียน: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-06-19 16:00:01
ณ เกาะตงหลิว

จักรพรรดิประทับอยู่ในพระราชวังอันโกโรโกโสของเขา ดวงตาไหววูบไม่แน่นิ่ง

ในคราวนี้ ตงหลิวเรียกได้ว่าหัวกะทิเข้ามาแล้วก็ออกไป ถ้าไม่สำเร็จก็สละชีพ

ที่เหลืออยู่ล้วนมีแค่คนแก่ ผู้อ่อนแอ ผู้หญิงและเด็ก รวมถึงทหารองครักษ์จำนวนไม่มากที่เฝ้าอารักขาพระราชวัง

ครั้นนึกถึงการดิ้นรนต่อสู้ตลอดหลายปี ความคิดของเขาก็ดำดิ่งลง

เมื่อมองดูพืชพรรณอันเยือกเย็นตรงหน้า ก็เกิดความรู้สึกคับแค้นใจ

ได้ยินมาว่าเดิมทีพวกเขาเหล่านี้มีพื้นเพมาจากจงหยวน แต่ด้วยข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลบางประการ ถึงได้ถูกเนรเทศมาที่นี่

ที่นี่มีพื้นที่ขนาดเล็กกว่าฝ่ามือ เรียกได้ว่าเป็นสถานที่เท่าแมวดินตายอย่างแท้จริง

ไม่สามารถเพาะปลูกพืชพรรณธัญญาหารได้ และไม่ค่อยมีผักให้กิน ถ้าอยากรอด ก็กินได้แต่ของที่มีกลิ่นเหม็นคาวในทะเลเท่านั้น

ทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องนี้ จักรพรรดิก็โมโหจนปวดบิดในช่องท้องอย่างอดไม่ได้

ตอนนี้พิณการเวกถูกทำลายไปแล้ว เป็นโอกาสอันหายากที่พันปีจะมีสักครั้ง ศึกคราวนี้มีแต่ต้องชนะเท่านั้น แพ้ไม่ได้เด็ดขาด

เมื่อคิดว่าอ๋องโมริตะและแม่ทัพทั้งหลายต่างก็ออกไปรบแล้ว จักรพรรดิก็รู้สึกโล่งใจ

ที่เขาสามารถอยู่ในตำแห
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 873 ห้องมืด

    “เจ้า...”จักรพรรดิยกมือกุมอก ก้าวถอยหลังไปเรื่อยๆโมริตะคาวาสึบาเมะมองเขาอย่างเย็นชา ทันใดนั้นดวงตาทั้งคู่ก็เปล่งประกายเป็นแสงสีทองสองดวงเมื่อเห็นดวงตาแปลกๆ คู่นั้น จักรพรรดิอดไม่ได้ที่จะตกใจ “นี่...นี่คือเนตรลวงตาของบรรพบุรุษ ไม่เคยมีใครเรียนรู้วิธีจนนำไปใช้ได้ ทำไมเจ้าถึงทำได้”โมริตะคาวาสึบาเมะพ่นลมด้วยความไม่พอใจ“ข้าบอกเจ้าแล้ว ข้าเป็นบรรพบุรุษของเจ้า แค่เสียดายที่พวกเจ้าคุณสมบัติมีขีดจำกัด ไม่มีใครสามารถสืบทอดข้าได้อย่างแท้จริง”จักรพรรดิก้าวถอยหลังไปอีกก้าวด้วยความตกใจ“เป็นไปได้อย่างไร”ถ้าบรรพบุรุษยังมีชีวิตอยู่ ก็คงมีอายุหลายร้อยปีแล้ว จะอายุน้อยแบบนี้ได้อย่างไรโมริตะคาวาสึบาเมะรับกุญแจอย่างไม่รีบร้อน เขาพูดช้าๆ “นี่คือวิธีแปรวิญญาณของเพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิง เจ้าไม่รู้ก็ไม่แปลก ข้าได้รับมันโดยบังเอิญ คิดไม่ถึงว่าสิ่งนี้จะช่วยให้ข้าหลุดพ้นจากกายเนื้อได้จริงๆ”จักรพรรดิมองดูโมริตะคาวาสึบาเมะด้วยความประหลาดใจ“ในโลกนี้มีวิทยายุทธ์ที่ขัดกฎสวรรค์เช่นนี้ด้วยรึ”โมริตะคาวาสึบาเมะพูดอย่างเหยียดหยาม “โลกทัศน์ของเจ้าคับแคบเกินไป ทุกสรรพสิ่งล้วนเป็นไปได้”จักรพรรดิถามอีกค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-19
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 874 สุนัขสวรรค์กลืนอาทิตย์

    เลือดพุ่งกระฉูดออกมา ใบหน้าของจักรพรรดิเปลี่ยนเป็นสีซีดในฉับพลัน โดยไม่อาจต้านทานได้เลย ได้แต่มองดูเลือดของตัวเองไหลทะลักออกจากร่างปานกระแสน้ำโมริตะคาวาสึบาเมะเก็บมีดออกอย่างคล่องแคล่วว่องไว หยิบกระปุกเล็กๆ ออกมาจากอกเสื้อ แล้วรองเอาเลือดอย่างสบายใจเฉิบ จากนั้นเทลงในร่องบนกำแพงหินหลังจากผ่านไปสามอึดใจ ก็มีเสียงก้อนหินกระทบดังขึ้นในถ้ำโมริตะคาวาสึบาเมะอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น กำลังจะมาแล้วในที่สุดห้องลับสุดท้ายก็กำลังจะเปิดออกหากได้ฝึกวิทยายุทธ์ขั้นสูงสุด เขาก็สามารถลบคำสบประมาท และบดขยี้ไอ้แก่พวกนั้นที่เคยเนรเทศเขามาที่นี่ ให้พวกนั้นตายด้วยน้ำมือของเขาเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ โมริตะคาวาสึบาเมะก็เงยหน้าขึ้น ส่งเสียงหัวเราะเสียดแก้วหูดังสะท้าน ในเวลานี้ มีก้อนหินก้อนหนึ่งตกลงมาจากเหนือศีรษะโมริตะคาวาสึบาเมะเบี่ยงตัวหลบ จากนั้นหินก้อนที่สองและสามก็ตามมา ทั่วทั้งถ้ำสั่นสะเทือนส่งเสียงดังกึกก้องเกิดอะไรขึ้นกันแน่หรือว่าเลือดยังไม่พอ?เขาเอื้อมมือออกไปหิ้วร่างของจักรพรรดิที่จวนเจียนจะตายขึ้นมา บดขยี้ร่างของเขากับหินอย่างแรงจนเป็นรอย ทันใดนั้นจักรพรรดิก็ส่งเสียงร้องโหยหวนราว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-19
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 875 ศิษย์พี่ศิษย์น้อง

    เจ้าสำนักเซี่ยวกับผู้คุมตราเซี่ยวก็เดินออกจากเรือนด้านหลัง สีหน้าของสองพ่อลูกดูเคร่งขรึมมากในความเห็นของพวกเขา สุนัขสวรรค์กลืนอาทิตย์ไม่ใช่นิมิตหมายที่ดีอีกทั้งชาวตงหลิวขึ้นฝั่งในเวลานี้ การต่อสู้ครั้งนี้อาจชนะได้ไม่ง่ายในขณะที่ต่างคนต่างกำลังครุ่นคิด ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเร่งรีบอยู่นอกประตูเย่จิ่งหลานวิ่งเข้ามาพร้อมกับหวังซุ่นจากด้านนอก ตะโกนอย่างหอบๆ “เจ้าพวกบากะมาแล้ว ถูกแหไฟฟ้าที่ชายทะเลช็อตตายไปไม่น้อย แต่ยังมีคนนับร้อยคนมุ่งหน้ามาแต่ไกล มืดฟ้ามัวดิน คราวนี้คงจะทุ่มกำลังเต็มที่แล้วล่ะ”อินชิงเสวียนถามอย่างรวดเร็ว “พวกเจ้าสองคนเป็นไรไหม”เย่จิ่งหลานพูดด้วยความหวาดผวา “ยังดี พอเห็นว่าผิดปกติ พวกเราก็วิ่งหนีออกมาแล้ว เจ้ารีบไปเก็บเรือเถอะ อย่าให้ไอ้พวกโง่เง่าพวกนั้นมาทำลายล่ะ”“ได้ เจ้าช่วยปกป้องจ้าวเอ๋อร์ อวิ๋นฉ่ายกับอวี้จิ่นด้วย พวกเราจะไปชายทะเลเดี๋ยวนี้”อินชิงเสวียนพูดจบ นางก็แลกความเร็วจากมิติและใช้ความเร็วนั้นพุ่งทะยานออกจากหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์เย่จิ่งอวี้ไล่ตามอินชิงเสวียนไปติดๆ เพียงครู่เดียวก็ไม่เห็นเงา เจ้าสำนักเซี่ยวไปทีหลังแต่ถึงก่อน เขาลอยลิ่วไปถึ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-19
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 876 เสวียนเอ๋อร์ลงมือเถอะ

    “ถึงยามที่ต้องเด็ดขาดกลับไม่เด็ดขาด จะต้องวุ่นวายแน่ๆ เจ้ายังลังเลอะไรอยู่”ซึ่งคนที่แต่งกายด้วยชุดสีดำไม่ใช่ใครอื่นนอกจากฉุยอวี้ ฮั่วเทียนเฉิงต้องการตอบโต้ แต่ก็สายเกินไปแล้วเขาไม่คาดคิดว่าเฟิงเอ้อร์เหนียงผู้อ่อนโยนจะวางยาลงในเหล้าของเขา จนตกหลุมพรางฉุยอวี้ทันทีฉุยอวี้หยิบถุงผ้าสีดำออกมา แล้วครอบใส่ศีรษะของฮั่วเทียนเฉิงกระซิบ “ไปเร็ว”ทุกคนไปที่ชายฝั่งเป่ยไห่ ไม่มีใครสนใจเหลาสุราเล็กๆ แห่งนี้ ทั้งสองใช้ท่าร่างเคลื่อนที่ไปอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้ากลับไปที่สำนักเซียวเหยาศิษย์ทั้งหมดถูกส่งออกรับมือพวกตงหลิว นอกเหนือจากทั้งสามคนแล้ว คนเดียวที่เหลืออยู่ในสำนักเซียวเหยาคือฉางเฮิ่นเทียนที่ถูกจี้สกัดจุดมองดูฮั่วเทียนเฉิงที่ถูกโยนลงพื้น เฟิงเอ้อร์เหนียงขมวดคิ้วและถามว่า “ควรทำอย่างไรต่อไปดี เราจะจากไปแบบนี้หรือ เจ้าจะพาคนไปช่วยพี่หญิงใหญ่ที่ตำหนักเทพไม่ใช่หรือ จะปล่อยไปทั้งแบบนี้งั้นหรือ”ฉุยอวี้พูดด้วยสีหน้าสงบ “ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว ต้องส่งพวกเขาทั้งสองกลับไปที่ตำหนักเทพก่อน ถ้าฮั่วเทียนเฉิงฟื้นขึ้นมา ต้องออกจากภูเขามาตามหาเราอย่างแน่นอน สามารถยืดเวลาที่เขาจะตามหาตัวชิงเสวี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-20
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 877 มังกรคะนองน้ำโผล่ขึ้นจากทะเล

    อินชิงเสวียนพยักหน้า โบกมือเรียกพิณการเวกออกมา และนั่งขัดสมาธิบนก้อนหินขนาดใหญ่เย่จิ่งอวี้ก็ชักกระบี่ยาวออกมา เพื่อคุ้มกันอินชิงเสวียนตามการกรีดกรายปลายนิ้ว โน้ตเสียงแผ่วต่ำและไพเราะก็ดังออกมาจากพิณการเวกการต่อสู้ในสนามดุเดือดเลือดพล่าน ได้ยินเสียงอาวุธปะทะกันตลอดเวลา ทุกคนคิดแต่จะสังหารอีกฝ่าย ไม่มีใครได้ยินเสียงพิณนี่เป็นการต่อสู้ด้วยอาวุธครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ชาวตงหลิวตั้งใจสู้จนตัวตาย ท่าทางองอาจห้าวหาญโดยธรรมชาติเช่นเดียวกับบรรดาศิษย์ทุกคนในสำนัก ทุกครั้งที่รับศิษย์เข้าสำนัก ทุกคนจะได้รับแจ้งว่าจะมีการต่อสู้เช่นครั้งนี้ ทุกคนภาคภูมิใจที่ได้ต่อสู้กับตงหลิวและปกป้องบ้านเมือง เมื่อเผชิญหน้ากับคนตงหลิวมากมายเพียงนี้ พวกเขาไม่เกรงกลัวเลยสักนิด กลับยิ่งปลุกเร้าความรักแว่นแคว้นขึ้นด้วยซ้ำเมื่อมองดูใบหน้าที่เต็มไปด้วยความทรหดและไม่หวาดหวั่น อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเลือดร้อนเดือดพล่าน ความกล้าหาญทะลุปรอท ที่นี่คือต้าโจว ยังเป็นบ้านที่นางจะอยู่ในบั้นปลายชีวิต ย่อมไม่ยอมให้คนอื่นมาเหยียบย่ำเด็ดขาดทันใดนั้นเสียงพิณก็ดังขึ้น ปราณกระบี่ไร้รูปจำนวนนับไม่ถ้วนก็ลอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-20
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 878 หัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้

    อ๋องโมริตะไม่เห็นเย่จิ่งอวี้อยู่ในสายตา หากผู้ลงมือคือเจ้าสำนักเซี่ยว เขาอาจมีท่าทีระแวดระวังอยู่ ทว่าหนุ่มน้อยที่อยู่ตรงหน้านั้นอายุเพียงยี่สิบ อย่างมากก็เป็นเพียงศิษย์หัวกะทิเท่านั้นเขายิ้มเยาะ ยกดาบใบกว้างขึ้นด้วยมือทั้งสองข้างพูดด้วยภาษาต้าโจวแปร่งๆ ว่า “เจ้าหนูอย่าหยิ่งผยองนัก รับท่านี้ของข้าดู”“ตายซะ!”คมกระบี่แผดเสียงมังกรคำราม เสียงกังวานนั้นคล้ายจะเป็นแก่นแท้ จู่ๆ อ๋องโมริตะก็ใจเต้นแรงเจ้าเด็กเปรตนี่ มีความสามารถจริงๆขณะที่ความคิดเปลี่ยนไป อาวุธของทั้งสองคนก็ปะทะกันแล้วด้วยเสียงที่ดังกึกก้อง ดาบของอ๋องโมริตะก็ถูกตัดขาดครึ่ง เหลือเพียงด้ามจับเท่านั้น ก่อนที่เขาจะทันได้โต้ตอบ ก็รู้สึกเสียวคอวาบ“ท่านอ๋องระวัง!”ดาวกระจายถูกขว้างมาแต่ไกล แม่ทัพสองคนที่จงรักภักดีต่อตระกูลโมริตะก็มาถึงแล้วอ๋องโมริตะถอยกลับไปอย่างรวดเร็ว มีรอยเลือดซิบๆ ที่คอของเขา เจ็บปวดสะท้านทรวงเขาถ่มน้ำลายพลางก่นด่าไม่หยุด “ตายซะ ตายซะ!”คมกระบี่วาววับ ดาวกระจายทั้งสองก็ถูกสับขาดครึ่ง ชิ้นส่วนลอยลิ่วตรงไปยังแม่ทัพตงหลิวทั้งสองคนทั้งสองรีบหลบ ใจหายวาบทำไมถึงรู้สึกว่าความแข็งแกร่งของจอมยุทธ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-20
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 879 ถึงเวลาแสดงฝีมือที่แท้จริงแล้ว

    สิ่งที่ทุกคนกำลังแข่งขันกันไม่ใช่พลังโจมตีของเครื่องดนตรีอีกต่อไป ตอนนี้ใครเสียงดังที่สุดก็มีสามารถข่มขู่ได้ภายใต้เสียงสูงต่ำของกลองไทโกะและขลุ่ยชาคุฮาจิ เสียงกู่พิณอันทุ้มลึกของอินชิงเสวียนก็ถูกกลบจนมิดทันทีแม้ว่าซื่อเมี่ยวอินจะพยายามบรรเลงอยู่เบื้องหลังจนสุดกำลัง แต่ก็ได้ผลเพียงเล็กน้อยเพลงที่วุ่นวายทั้งสองด้านเริ่มรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้อินชิงเสวียนรู้สึกกระสับกระส่าย มีเสียงดังหึ่งๆ ขึ้นในหูเย่จิ่งอวี้กำลังต่อสู้กับแม่ทัพตงหลิวสองคน ไม่มีเวลามาช่วยนางเจ้าสำนักเซี่ยวและผู้อาวุโสสวีก็ถูกรายล้อมไปด้วยคนระดับหัวกะทิของตงหลิว ชาวตงหลิวทำสงครามกับเป่ยไห่มาหลายปีแล้ว ย่อมไม่อาจมองข้ามยอดฝีมือเช่นพวกเขาได้ตอนนี้ถ้าต้องการทำลายสถานการณ์นี้ อินชิงเสวียนก็ทำได้เพียงพึ่งพาตัวเองเท่านั้นในเวลานี้ จู่ๆ นางก็รู้สึกกลุ้มใจเดิมทีคิดว่าศึกคราวนี้ไม่มีอะไรน่าห่วง แต่คิดไม่ถึงว่าจะมีผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องดนตรีในหมู่ชาวตงหลิว ถึงขั้นขนกลองไทโกะเข้ามาในสนามรบด้วยช่างมั่วซั่วสิ้นดีเมื่อคิดถึงคำว่า “มั่วซั่ว” ดวงตาของอินชิงเสวียนก็เป็นประกายขึ้นในเมื่อพวกเขากำลังเล่นกลสกปรก เช่นน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-20
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 880 เพิ่มเสียงตู้ลำโพงให้ดังอีกเท่าตัว

    ชาวตงหลิวก็มองหน้ากันเลิ่กลั่ก นี่มันอะไรกัน ไม่ใช่แค่เสียงดังกว่าพวกเขา แต่ยังกลบเสียงกลองของพวกเขาจนมิดเพื่อที่จะกลบเสียงของอินชิงเสวียน ทั้งหมดพยายามออกแรงเป่าอย่างเต็มที่ แต่ไม่ว่ากำลังภายในจะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็ไม่สามารถเอาชนะตู้ลำโพงได้ ซึ่งอินชิงเสวียนสามารถครอบงำผู้ฟังได้อย่างง่ายดายในไม่ช้านางก็ค้นพบสิ่งอื่น แม้ว่านางจะไม่ได้ใช้พิณการเวก แม้จะไม่ได้เล่นเพลงหมื่นกระบี่เศษดารา แต่เสียงดนตรีของนางยังคงมีความสามารถในการโจมตีถึงขั้นที่ว่ารู้สึกถึงลมปราณไร้รูปที่ลอยออกมาจากช่องเสียงของปี่ปากใหญ่ที่อยู่ด้านล่าง แผ่รังสีไปยังคนตงหลิวในสนามรบผ่านความคิดของนางคนตงหลิวหลายคนที่เล่นดนตรีเบื้องหน้าก็ค้นพบว่าปี่ปากใหญ่สามารถโจมตีได้ ต่างอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกใจแม่หนูนี่อายุยังน้อย แต่ไต่ขึ้นไปถึงระดับสูงในการใช้เครื่องดนตรีแล้ว หากนางมีความสามารถนี้จริงๆ ไม่ว่าพิณการเวกจะถูกทำลายหรือไม่ ก็ไม่มีอะไรต่างกันเกรงว่าถึงเด็ดดอกไม้ใบหญ้าก็สามารถเป่าเป็นเสียงเพลงได้ เมื่อเทียบกับตาเฒ่าเซี่ยวคนนั้น เด็กสาวผู้แสนงดงามที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ น่าจะเป็นยอดฝีมือที่แท้จริงเพื่อกลบเสียงของอินชิงเสวี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-21

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1540 สองพระองค์ครองราชย์ จบบริบูรณ์

    ปีที่สามของการครองราชย์ในราชวงศ์ต้าโจวฮองเฮาให้กำเนิดพระธิดา ได้รับพระราชทานนามว่าองค์หญิงเจ๋อเทียน นามว่าเจิน มีชื่อเล่นว่าฝูเอ๋อร์ในเดือนเก้าของปีเดียวกัน เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนปกครองร่วมกัน แบ่งกันปกครองบ้านเมืองและการดำรงชีวิตของผู้คน ราษฎรเคารพทั้งสองในฐานะพระองค์ฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา ประวัติศาสตร์ได้บันทึกช่วงเวลานี้ไว้ด้วยถ้อยคำที่งดงามที่สุด และเรียกช่วงเวลานี้อย่างเคารพว่า ยุคที่สององค์ปกครอง!ห้าปีต่อมา เครื่องกำเนิดพลังงานลมเครื่องแรกปรากฏขึ้นด้วยฝีมือความสามารถของชาวต้าโจว ซึ่งก้าวล้ำหน้าสมัยโบราณที่ล้าหลังไปอย่างมากด้วยก้าวที่ยิ่งใหญ่นักเรียนจากทั่วแคว้นได้แสดงความสามารถ พัฒนาสิ่งที่ล้ำหน้าต่างๆ ผ่านความรู้ทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมีใหม่ล่าสุด บุปผานับร้อยบานสะพรั่งพร้อมกัน ก่อให้เกิดยุครุ่งเรืองของราชวงศ์ต้าโจวตอนนี้อาหารไม่ขาดแคลน ราษฎรไม่ต้องทนทุกข์กับความหิวโหยอีกต่อไป ยิ่งไม่มีการอพยพย้ายถิ่นฐาน โครงการคลองส่งน้ำก็สำเร็จลุล่วง ด้วยการคมนาคมสะดวกระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ก็สามารถแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการได้ในที่สุด อ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นยังสามารถเปลี่ยนเส้นท

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1539 เสวียนเอ๋อร์ขอบคุณเจ้านะ

    ตำหนักจินอู๋อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ แต่ไม่กล้าโคจรกำลังภายในต้านทานไว้ เพราะกลัวว่าจะทำร้ายลูกของนางเมื่อเห็นนางกัดริมฝีปากล่างแน่น มีเหงื่อไหลอาบหน้า หัวใจของเย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกเหมือนถูกมีดคมๆ นับพันทิ่มแทง รู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง“ต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาได้ ต้องปล่อยให้นางเจ็บปวดทนทุกข์เช่นนี้หรือ”หมอตำแยกล่าวอย่างกล้าหาญว่า “สตรีคลอดบุตรก็เป็นเช่นนี้เพคะ อดทนไว้ แล้วจะดีเอง”เย่จิ่งอวี้พูดด้วยความโกรธ “ฮองเฮาของข้าจะเทียบได้กับสตรีทั่วไปได้อย่างไร รีบหาทางบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาเดี๋ยวนี้”“ข้าไม่เป็นไร อาอวี้ออกไปก่อนเถอะ!”เสียงของอินชิงเสวียนนั้นอ่อนแรง แม้จะเป็นสามีภรรยากัน แต่ถูกเห็นเข้าในสถานการณ์เช่นนี้ก็น่าอายอยู่เหมือนกันเย่จิ่งอวี้เดินก้าวเดียวก็ไปถึงเตียง จับมือของนางแน่นๆ แล้วพูดอย่างกระวนกระวายใจ “ข้าไม่วางใจ มีวิธีถ่ายทอดความเจ็บปวดให้ข้าได้ไหม เจ้าอยู่กับลั่วสุ่ยชิงมานานแล้ว ไม่ได้เรียนวิชาอาคมอะไรจากนางบ้างหรือ”อินชิงเสวียนเจ็บปวดเจียนตายอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำนี้ก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1538 ไท่เฟยไท่ผินออกจากวัง

    อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดและกล่าวว่า “ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ วันนี้เป็นวันแต่งงานของไห่ถัง ในฐานะพี่ชาย ควรเป็นประธานงานแต่งของนางด้วยตนเอง หากไม่มีคนในราชวงศ์ไป ไห่ถังจะผิดหวังได้”แม้น้องสาวจะเป็นญาติ แต่ก็ไม่ชิดเชื้อเท่ากับภรรยา ลูกคนแรกเกิดในตำหนักเย็น ซึ่งทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกผิดไปครึ่งชีวิตแล้ว ยากนี้เด็กคนนี้คือสมบัติล้ำค่าที่แท้จริงระหว่างพวกเขา ในฐานะพ่อของลูก เขาจะจากไปได้อย่างไรเมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางซีด มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายขึ้นเต็มขมับของนาง เย่จิ่งอวี้ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อปลอบนาง “ไม่เป็นไร มีแม่ทัพอินและจอมพลกวนอยู่ด้วย ไห่ถังก็ไม่นับว่าเสียเกียรติอะไรนัก”อินชิงเสวียนคว้าแขนของเขา“จะได้อย่างไร หากไม่มีใครจากในวังไป มันจะกลายเป็นปมในใจของไห่ถังอย่างแน่นอน นี่คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนาง”ไม่ว่าอย่างไรเย่จิ่งอวี้ก็ไม่ยอมไป แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้น้องสาวเสียหน้าได้ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มีความคิดอยู่ในใจ“เจวี๋ยอิ่ง ไปเชิญไท่เฟยไท่ผินทุกท่าน ให้พวกนางออกจากวัง ร่วมงานเสกสมรสขององค์หญิงเดี๋ยวนี้”ทุกคนตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่จิ่งอวี้จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1537 ฮองเฮาทรงมีพระประสูติการ

    เย่ไห่ถังยังคงมีความสุข แต่จู่ๆ เสียงของหลี่เต๋อฝูก็ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเปิดประตู เห็นเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้ยืนอยู่ที่กลางเรือน น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตา“ไห่ถังคารวะเสด็จพี่ เสด็จพี่สะใภ้เพคะ!”เย่ไห่ถังกำลังจะคุกเข่าลง แต่เย่จิ่งอวี้ก็ปราดเข้าประคองนางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในฐานะสตรีที่ออกเรือนแล้ว ทุกสิ่งต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม จะทำตัวเหลวไหลซุกซนเหมือนอยู่ในวังไม่ได้ หากใช้ชีวิตนอกวังจนเบื่อแล้ว ก็สามารถกลับมาได้ตลอดเวลา วังหลวงจะเป็นบ้านของเจ้าตลอดไป”อินชิงเสวียนก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ถ้าพี่รองของข้ารังแกเจ้า เจ้าก็บอกข้าได้เลย ข้าจะทวงความยุติธรรมให้กับเจ้าแน่นอน”ถ้าคนที่เย่ไห่ถังแต่งงานด้วยไม่ใช่อินปู้อวี่ เย่จิ่งอวี้คงพูดคำนี้ไปนานแล้วเย่ไห่ถังสูดจมูก“ขอบพระทัยเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้เพคะ ตอนแรกข้าค่อนข้างมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่อยากจากไปเลย”เมื่อเห็นว่าจมูกของเย่ไห่ถังแดง กำลังจะร้องไห้อีก เย่จิ่งอวี้จึงตีหน้าขรึมพูดทันที “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าจะให้คนไปแจ้งอินปู้อวี่ ว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่มีแล้ว หลี่เต๋อฝู!”หลี่เต๋อฝูก็เป็นคนเจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1536 องค์หญิงกำลังจะเสกสมรส

    ในวันที่หนึ่งเดือนสี่ ลำดับการสอบการต่อสู้ชี้ให้เห็นว่า เฉินเซียงเยว่ที่อินชิงเสวียนสนใจ สอบได้ลำดับหนึ่ง คนผู้นี้หน้าตาดูดุร้ายและน่าเกลียด แต่กลับมีจิตใจอ่อนโยนดังเช่นสตรี ไม่เพียงแต่วรยุทธ์ดีเลิศเท่านั้น แต่ยังเก่งในเรื่องการจัดขบวนทัพด้วย เป็นยอดแม่ทัพที่หาได้ยากนางได้ลำดับหนึ่งก็คือจอหงวนด้านวิชาการต่อสู้ ไม่มีใครไม่ยอมรับเลย แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็ดูฮึกเหิมมีพลังมากกว่าผู้ชายทุกคนในตอนนั้นเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งแซ่หลิวมีชื่อว่าเยว่ ก็ได้รับเลือกให้ติดอยู่ในสามอันดับแรก รั้งอยู่ในเมืองหลวงฝ่าบาทขานรายชื่อสตรีมามากขนาดนี้ เหล่าขุนนางข้าราชบริพารก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ต่างรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องตามระเบียบประเพณี แต่ก็กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์เป็นการส่วนตัวเท่านั้น ต้าโจวในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ที่ฝ่าบาทยินดีฟังพวกเขา ก็ถือเป็นการให้เกียรติพวกเขาแล้ว หากฝ่าบาทไม่อยากฟัง ถึงพูดมากไปก็ไร้ผลแต่ไม่มีใครกล้าพูดว่าเย่จิ่งอวี้เป็นทรราช ฝ่าบาททรงงานปกครองบ้านเมืองอย่างหนัก แม้ว่าพระองค์จะทรงปฏิรูปครั้งใหญ่ แต่ก็ทำเพื่อประชาชนในราชวงศ์ต้าโจวเท่านั้น ขณะนี้แผ่นดินสงบสุข มีธัญพืชอุดมสมบูรณ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1535 เหลวไหลจริงๆ

    เสียงเรียกว่าท่านพี่นั้นทำให้เย่จิ่งอวี้ใจอ่อนลงมากโข ความโกรธทั้งหมดพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันทีไม่เช่นนั้นจะทำอะไรได้อีก ภรรยาที่เลือกมาเอง มีแต่ต้องตามใจเองเท่านั้น“เจ้าคนโกหกตัวน้อย กลับไปสามีจะคิดบัญชีเจ้าหนักๆ ถอนกำลังภายในของเจ้าออก สามีจะทำแทนเจ้าเอง ประเดี๋ยวจะทำร้ายลูกในท้องเอา”เสียงของเย่จิ่งอวี้เชื่อมโยงเป็นเส้น ไหลผ่านกระทบโสตประสาทของอินชิงเสวียนคำต่อคำอย่างแจ่มชัดนางยกมุมปากขึ้น เผยเป็นรอยยิ้มภาคภูมิใจเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่จิ่งอวี้ นางจึงเปิดโสตประสาท เหตุผลที่ขอให้เย่จิ่งอวี้ช่วย ก็เพราะว่ากำลังภายในในร่างกายของนางซับซ้อนเกินไป ยากต่อการควบคุม ในงานที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาดเย่จิ่งอวี้ไม่เหมือนกัน เขาบำเพ็ญตบะกำลังภายในของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังประสานพลังแห่งฟ้าดิน แม้ว่าอินชิงเสวียนจะมีพลังลมปราณของหลายสำนัก แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับกำลังภายในอันบริสุทธิ์และทรงพลังของฮ่องเต้ได้ในชั่วพริบตา กำลังภายในดุจธารานิ่งลึกหลั่งไหลเข้ามาจากด้านนอกประตู เหมือนโลกลึกล้ำ โอบกอดและยืดหยุ่น บรรยากาศที่มืดมนในห้องโถงคล้ายจะถูก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1534 ท่านพี่ช่วยข้าได้ไหม

    “ฟางรั่วเข้าวัง?”เย่จิ่งอวี้หยุดฝีเท้าหลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมถามองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูวังแล้ว แม่นางฟางรั่วเข้ามาเมื่อสามชั่วยามที่แล้ว”เจวี๋ยอิ่งคุกเข่าลงและพูดว่า “กระหม่อมเห็นฟางรั่วเข้าไปในตำหนักจินอู๋ แต่ไม่เห็นนางและฮองเฮาออกมา”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาคล้ายจะสดใสและมืดมน กำลังตกอยู่ในอาการครุ่นคิดด้วยวรยุทธ์ของฟางรั่ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำอันตรายต่ออินชิงเสวียน นางยังมีใบมีดแห่งมิติอยู่ในมือ แม้ว่าเหล่าเทพเซียนจะลงมาเอง แต่นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้จากมุมมองนี้ ควรไม่ใช่การหายตัวไปง่ายๆ นางเรียกฟางรั่วมา ต้องมีเหตุผลอื่นเป็นแน่เจวี๋ยอิ่งโค้งคำนับและถามว่า “ต้องการให้กระหม่อมปิดล้อมพระนคร สืบหาที่อยู่ของฮองเฮาอย่างถี่ถ้วนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเจวี๋ยอิ่ง“ไม่ต้อง หลี่เต๋อฝู ไปเชิญกวนเซี่ยวเข้ามาด้วย”ครู่ต่อมา กวนเซี่ยวก็วิ่งเหยาะๆ มาถึงประตูตำหนัก ยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงกับพื้น“กวนเซี่ยวถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาททรง...”เย่จิ่งอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รำคาญ โบกมือห้าม“ตามสบาย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมฟางรั่วถึงมาที่วัง”กวนเซี่ยว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

DMCA.com Protection Status