หน้าหลัก / รักโบราณ / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 878 หัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้

แชร์

บทที่ 878 หัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้

ผู้เขียน: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-06-20 16:00:01
อ๋องโมริตะไม่เห็นเย่จิ่งอวี้อยู่ในสายตา หากผู้ลงมือคือเจ้าสำนักเซี่ยว เขาอาจมีท่าทีระแวดระวังอยู่ ทว่าหนุ่มน้อยที่อยู่ตรงหน้านั้นอายุเพียงยี่สิบ อย่างมากก็เป็นเพียงศิษย์หัวกะทิเท่านั้น

เขายิ้มเยาะ ยกดาบใบกว้างขึ้นด้วยมือทั้งสองข้าง

พูดด้วยภาษาต้าโจวแปร่งๆ ว่า “เจ้าหนูอย่าหยิ่งผยองนัก รับท่านี้ของข้าดู”

“ตายซะ!”

คมกระบี่แผดเสียงมังกรคำราม เสียงกังวานนั้นคล้ายจะเป็นแก่นแท้ จู่ๆ อ๋องโมริตะก็ใจเต้นแรง

เจ้าเด็กเปรตนี่ มีความสามารถจริงๆ

ขณะที่ความคิดเปลี่ยนไป อาวุธของทั้งสองคนก็ปะทะกันแล้ว

ด้วยเสียงที่ดังกึกก้อง ดาบของอ๋องโมริตะก็ถูกตัดขาดครึ่ง เหลือเพียงด้ามจับเท่านั้น ก่อนที่เขาจะทันได้โต้ตอบ ก็รู้สึกเสียวคอวาบ

“ท่านอ๋องระวัง!”

ดาวกระจายถูกขว้างมาแต่ไกล แม่ทัพสองคนที่จงรักภักดีต่อตระกูลโมริตะก็มาถึงแล้ว

อ๋องโมริตะถอยกลับไปอย่างรวดเร็ว มีรอยเลือดซิบๆ ที่คอของเขา เจ็บปวดสะท้านทรวง

เขาถ่มน้ำลายพลางก่นด่าไม่หยุด “ตายซะ ตายซะ!”

คมกระบี่วาววับ ดาวกระจายทั้งสองก็ถูกสับขาดครึ่ง ชิ้นส่วนลอยลิ่วตรงไปยังแม่ทัพตงหลิวทั้งสองคน

ทั้งสองรีบหลบ ใจหายวาบ

ทำไมถึงรู้สึกว่าความแข็งแกร่งของจอมยุทธ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 879 ถึงเวลาแสดงฝีมือที่แท้จริงแล้ว

    สิ่งที่ทุกคนกำลังแข่งขันกันไม่ใช่พลังโจมตีของเครื่องดนตรีอีกต่อไป ตอนนี้ใครเสียงดังที่สุดก็มีสามารถข่มขู่ได้ภายใต้เสียงสูงต่ำของกลองไทโกะและขลุ่ยชาคุฮาจิ เสียงกู่พิณอันทุ้มลึกของอินชิงเสวียนก็ถูกกลบจนมิดทันทีแม้ว่าซื่อเมี่ยวอินจะพยายามบรรเลงอยู่เบื้องหลังจนสุดกำลัง แต่ก็ได้ผลเพียงเล็กน้อยเพลงที่วุ่นวายทั้งสองด้านเริ่มรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้อินชิงเสวียนรู้สึกกระสับกระส่าย มีเสียงดังหึ่งๆ ขึ้นในหูเย่จิ่งอวี้กำลังต่อสู้กับแม่ทัพตงหลิวสองคน ไม่มีเวลามาช่วยนางเจ้าสำนักเซี่ยวและผู้อาวุโสสวีก็ถูกรายล้อมไปด้วยคนระดับหัวกะทิของตงหลิว ชาวตงหลิวทำสงครามกับเป่ยไห่มาหลายปีแล้ว ย่อมไม่อาจมองข้ามยอดฝีมือเช่นพวกเขาได้ตอนนี้ถ้าต้องการทำลายสถานการณ์นี้ อินชิงเสวียนก็ทำได้เพียงพึ่งพาตัวเองเท่านั้นในเวลานี้ จู่ๆ นางก็รู้สึกกลุ้มใจเดิมทีคิดว่าศึกคราวนี้ไม่มีอะไรน่าห่วง แต่คิดไม่ถึงว่าจะมีผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องดนตรีในหมู่ชาวตงหลิว ถึงขั้นขนกลองไทโกะเข้ามาในสนามรบด้วยช่างมั่วซั่วสิ้นดีเมื่อคิดถึงคำว่า “มั่วซั่ว” ดวงตาของอินชิงเสวียนก็เป็นประกายขึ้นในเมื่อพวกเขากำลังเล่นกลสกปรก เช่นน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-20
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 880 เพิ่มเสียงตู้ลำโพงให้ดังอีกเท่าตัว

    ชาวตงหลิวก็มองหน้ากันเลิ่กลั่ก นี่มันอะไรกัน ไม่ใช่แค่เสียงดังกว่าพวกเขา แต่ยังกลบเสียงกลองของพวกเขาจนมิดเพื่อที่จะกลบเสียงของอินชิงเสวียน ทั้งหมดพยายามออกแรงเป่าอย่างเต็มที่ แต่ไม่ว่ากำลังภายในจะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็ไม่สามารถเอาชนะตู้ลำโพงได้ ซึ่งอินชิงเสวียนสามารถครอบงำผู้ฟังได้อย่างง่ายดายในไม่ช้านางก็ค้นพบสิ่งอื่น แม้ว่านางจะไม่ได้ใช้พิณการเวก แม้จะไม่ได้เล่นเพลงหมื่นกระบี่เศษดารา แต่เสียงดนตรีของนางยังคงมีความสามารถในการโจมตีถึงขั้นที่ว่ารู้สึกถึงลมปราณไร้รูปที่ลอยออกมาจากช่องเสียงของปี่ปากใหญ่ที่อยู่ด้านล่าง แผ่รังสีไปยังคนตงหลิวในสนามรบผ่านความคิดของนางคนตงหลิวหลายคนที่เล่นดนตรีเบื้องหน้าก็ค้นพบว่าปี่ปากใหญ่สามารถโจมตีได้ ต่างอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกใจแม่หนูนี่อายุยังน้อย แต่ไต่ขึ้นไปถึงระดับสูงในการใช้เครื่องดนตรีแล้ว หากนางมีความสามารถนี้จริงๆ ไม่ว่าพิณการเวกจะถูกทำลายหรือไม่ ก็ไม่มีอะไรต่างกันเกรงว่าถึงเด็ดดอกไม้ใบหญ้าก็สามารถเป่าเป็นเสียงเพลงได้ เมื่อเทียบกับตาเฒ่าเซี่ยวคนนั้น เด็กสาวผู้แสนงดงามที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ น่าจะเป็นยอดฝีมือที่แท้จริงเพื่อกลบเสียงของอินชิงเสวี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-21
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 881 แรงกระตุ้นในการสังหารศัตรู

    ทันใดนั้นอ๋องโมริตะก็แสดงสีหน้ายินดี เพิ่มกำลังภายในแล้วตะโกนว่า “ตั้งค่ายกล ฆ่าให้เรียบ!”ชาวตงหลิวต่างคุ้มกันซึ่งกันและกันทันที ทั้งหมดวิ่งไปหาอ๋องโมริตะเย่จิ่งอวี้เมื่อเห็นสองคนนั้นกำลังจะไป เขาก็ตะโกนลั่น รวบรวมพลังปราณไว้ในมือขวา ชักกระบี่ยาวออกมา และโจมตีที่ด้านหลังหัวใจของหนึ่งในนั้นคนผู้นั้นร้องครวญคราง กระอักเลือดและทรุดลงกับพื้น ส่วนอีกคนเมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดี ก็รีบคว้าชาวตงหลิวคนนั้นไว้เป็นเกราะกำบังตัว แล้วกลืนเข้าในฝูงชนเย่จิ่งอวี้ไม่ได้ไล่ตาม แต่มาอยู่ข้างๆ อินชิงเสวียน“เสวียนเอ๋อร์ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”“ข้าไม่เป็นไร พวกเขาจะทำอะไรกันน่ะ”อินชิงเสวียนทอดสายตามองออกไปเย่จิ่งอวี้มองตามสายตาของนาง เมื่อเห็นคนตงหลิวทั้งหมดมารวมตัวกันก็ขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้“ดูเหมือนกำลังจะตั้งค่ายกลเลย ท่านตากับผู้อาวุโสสวีนำเจ้าสำนักไปแล้ว คงไม่ยอมให้พวกเขาประสบความสำเร็จแน่”“อืม พวกเขาคิดจะตั้งค่ายกลในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ ย่อมไม่ธรรมดาแน่ เราต้องป้องกันไว้ก่อน”ในขณะที่พูด อินชิงเสวียนก็เห็นศิษย์ที่ได้รับบาดเจ็บหลายคนถูกหามกลับไป จึงรีบคว้าตะกร้าขวดน้ำพุวิญญาณที่บรรจุไว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-21
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 882 ค่ายกลจักรวาลแปดทิศ

    เมื่อศิษย์ทุกคนเห็นว่าเจ้าสำนักและผู้อาวุโสนำไปก่อนแล้ว ต่างก็ลุกขึ้นตาม และถือกระบี่ปรี่เข้าใส่พวกตงหลิวในเป่ยไห่มีหลากหลายสำนัก มีทั้งสำนักน้อยใหญ่ต่างๆ รวมถึงผู้จอมยุทธ์พเนจรก็มีไม่น้อย เจ้าสำนักเซี่ยวจึงไม่สามารถหยุดคนจำนวนมากได้ในเวลาเดียวกัน รูปแบบค่ายกลของคนตงหลิวก็เปลี่ยนไป คนที่อยู่ตรงกลางก็แยกออกมาอย่างรวดเร็ว ทุกๆ ยี่สิบสี่คนจะรวมกลุ่มเป็นขบวนเล็กๆ แยกเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสขยายออกไปแปดทิศ แต่ละจัตุรัสจะประกอบรูปร่างเป็นขีดยาวสามแถวที่มีความยาวต่างกัน บ้างก็เสมอเป็นแนวเดียวกัน บ้างก็ขาดช่อง และวงกลมด้านนอกสุดเป็นวงกลมขนาดใหญ่ ล้อมรอบรูปแปดเหลี่ยมด้านเท่าไว้ตรงกลางตำแหน่งที่ตรงกลางคดเคี้ยวยาวเหยียดเป็นกำแพงมนุษย์ลักษณะคล้ายงู ในขณะที่ค่ายกลจัตุรัสหมุนวน ค่ายกลงูยาวก็บิดหมุนเปลี่ยนตามไป ทำให้คาดเดากลไกไม่ได้ผู้อาวุโสสวีและคนอื่นๆ ที่เข้าร่วมต่อสู้กับคนตงหลิวแล้ว รู้สึกได้ว่าพวกตงหลิวเปลี่ยนตำแหน่งอยู่ตลอดเวลา แต่มองไม่เห็นว่าคนเหล่านี้ต้องการทำอะไร และไม่มีเวลาคิดให้ละเอียด ทำได้เพียงหวังว่าจะสังหารผีแคระตงหลิวเหล่านั้นให้มากที่สุด เพื่อช่วงชิงโอกาสให้กับลูกศิษย์ส่วน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-21
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 883 ยากจะทำลายด้วยอาวุธ

    “นี่คือ...ค่ายกลแปดทิศ?”เย่จิ่งอวี้ทอดสายตามองออกไป เมื่อเห็นรูปอักขระในสี่เหลี่ยมจัตุรัสเหล่านั้น เขาก็ขมวดคิ้วมุ่นในราชวงศ์มีตำราสะสมนับพัน เย่จิ่งอวี้จึงพอรู้เรื่องพวกนี้อยู่บ้าง แต่ก็แค่พอรู้เท่านั้นเฮ่ออวิ๋นทงพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม“ค่ายกลนี้สร้างขึ้นจากรูปยันต์แปดทิศ โดยสิ่งที่ให้ความสำคัญคือ ฟ้าลิขิต ดินอำนวย คนสามัคคี โดยอิงจากฤกษ์ยามที่ต่างกัน และจะเปลี่ยนตำแหน่งของทั้งแปดทิศ ทั้งยังแบ่งออกเป็นหยินหยางสองตำแหน่ง ที่มีความสามารถทั้งตั้งรับและโจมตีได้พร้อมกัน”เขาหยุดชั่วครู่และพูดด้วยอารมณ์ทอดถอนใจ “คิดไม่ถึงว่าคนตงหลิวจะเชี่ยวชาญเรื่องพวกนี้ด้วย ตอนนั้นใครกันนะที่เป็นคนเนรเทศพวกเขาไปที่เกาะตงหลิว เป็นปริศนาที่ไม่คลี่คลายจริงๆ”เจ้าสำนักเซี่ยวพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มลึก “จะสนใจไปไยว่าใครเป็นผู้เนรเทศ ในเมื่อถูกขับออกจากจงหยวน ก็พิสูจน์ได้ว่าคนเหล่านี้ไม่ใช่คนดี หากพวกเขายึดครองเป่ยไห่ ต้องเกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่แน่ๆ”เฮ่ออวิ๋นทงลูบเคราแล้วพูดว่า “เป็นเช่นนั้นจริงๆ”อินชิงเสวียนถามอย่างอดไม่ได้ “เช่นนั้นต้องทำอย่างไรถึงจะสามารถทำลายค่ายกลนี้ได้ เก่อหงยวนพวกนางเหมือนจะได้ร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-21
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 884 ตายตาไม่หลับจริงๆ

    “อย่าใช้ปืนโจมตี อันตรายเกินไป”อินชิงเสวียนก็เคยได้ยินมาว่าค่ายกลแปดทิศสามารถเปลี่ยนตำแหน่งได้ตามต้องการ ตอนนี้พอได้เห็นกับตาตัวเอง นางก็อดพรั่นพรึงเสียมิได้ส่วนเย่จิ่งหลานก็ออกมาแล้ว มีเหงื่อบางๆ เกาะพราวอยู่บนปลายจมูก“เจ้าสิ่งนี้ร้ายกาจขนาดนี้เชียวหรือ!”เย่จิ่งอวี้กล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ศาสตร์ลับแห่งเต๋าแปลกประหลาดยากจะคาดเดาได้ ดังนั้นเราควรระวังไว้ดีกว่า”ในขณะที่พูด เขาก็ซัดฝ่ามือใส่หลายครั้งแล้ว แต่ก็เหมือนกับการโจมตีใส่กำแพงทองแดงสิ่งที่เกิดขึ้นภายในนั้นเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทำให้เข้าใจกลไกได้ยากตอนที่จัดวางกำลังตั้งค่ายกลตั้งแต่แรก ผู้อาวุโสสวีก็สังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ ต้องการออกมา แต่ก็สายเกินไปแล้ว“หงยวน รีบให้ศิษย์สำนักทั้งหมดมารวมกัน อย่าเดินไปมั่วซั่ว ดูเหมือนว่าเราจะติดกับดักแล้ว”เจ้าสำนักดาบเดือดกำลังฆ่าอย่างเมามัน เขาหัวเราะเสียงดังและพูดว่า “แค่พวกไม่ได้เรื่อง อย่ายกย่องอำนาจเขา แล้วดูถูกความสามารถตัวเองสิ”วินาทีต่อมา เขาก็หัวเราะไม่ออก จู่ๆ ภาพตรงหน้าก็เปลี่ยนไป คนตงหลิวที่ล้อมเขาไว้ได้หายไปอย่างกะทันหันและสิ่งที่เข้ามาแทนที่คือกำแพงสูงที่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-22
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 885 อินชิงเสวียนต้องตาย

    “หงยวน!”ผู้อาวุโสสวีร้องลั่นด้วยความตกใจ กวัดแกว่งกระบี่ฆ่าคนตงหลิว และใช้วิชาตัวเบาเหาะเข้าไปหาเก่อหงยวนทันทีที่เท้าแตะพื้น ทิวทัศน์ตรงหน้าก็เปลี่ยนไป กลายเป็นป่าใหญ่ที่บดบังท้องฟ้าและดวงอาทิตย์เช่นเดียวกันที่แปลกยิ่งกว่านั้นคือ เขาเห็นๆ อยู่ว่าหยุดลงต่อหน้าเก่อหงยวน แต่กลับไม่เห็นเงาของนาง“หงยวน หงยวน เจ้าอยู่ไหน”“อาจารย์อาสวี ข้าอยู่นี่เจ้าค่ะ!”เก่อหงยวนก็มองไม่เห็นผู้อาวุโสสวีเช่นกัน อาวุธที่อยู่ด้านข้างก็แทงเข้าใส่อีก จึงต้องลุกขึ้นป้องกันตัวเมื่อได้ยินเสียงอาวุธปะทะกัน ผู้อาวุโสสวีก็วิตกกังวลไม่น้อย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ในเวลานี้ เขารู้สึกเสียใจมาก เขาไม่ควรหุนหันพลันแล่นขนาดนี้ ตอนนี้ติดกับดักสู่ความตายแล้วจริงๆเจ้าสำนักคนอื่นหลายคนก็ติดอยู่ในค่ายกล และต่างได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่ว่าพวกเขาจะมีวรยุทธ์สูงส่งเพียงใด แต่ก็ไม่สามารถต้านทานคนตงหลิวที่ปรากฏตัวอย่างลึกลับซับซ้อน และการลอบโจมตีเช่นนี้ได้ไม่ต้องพูดถึงว่าภาพตรงหน้าเป็นสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ซึ่งทางจิตใจ ก็ทำให้เกิดความรู้สึกหวาดกลัวได้ที่ตาปลาทางด้านขวาของปลาหยินหยาง คาวาสึบาเมะโมริตะขี่อยู่บนคอของคนตงหลิว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-22
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 886 ไม่สามารถเข้าสู่มิติได้

    “เสวียนเอ๋อร์!”ดวงตาของเย่จิ่งอวี้แทบจะหลุดออกจากเบ้า ตะโกนด้วยความโกรธ ตามด้วยเสียงอันดุดันจากกระบี่ยาวปราณกระบี่ขนาดมหึมาเจาะทะลุผีแคระตงหลิวโดยตรง แต่กลับเหมือนแทงถูกสำลี ไม่อาจทำลายได้เลยเย่จิ่งอวี้ตกใจและโกรธจัด ปลายกระบี่ที่อยู่ในมือกวัดแกว่งรวดเร็ว และภายในพริบตา ก็แทงกระบี่เข้าไปอีกหลายครั้ง เจ้าสำนักเซี่ยวและคนอื่นๆ ต่างก็ตกตะลึงเช่นกัน เพิ่มกำลังภายในจนถึงขีดสุด ทุ่มกำลังโจมตีตำแหน่งสายฟ้าเย่จิ่งหลานที่อยู่ข้างหลังก็สบถลั่น “โคตรแม่มเอ๊ย ปล่อยอินชิงเสวียนคืนมานะ”เขาบรรจุกระสุนอย่างคล่องแคล่ว ยกมือขึ้นยิงหลายนัด แต่ก็เหมือนก้อนหินจมลงทะเล ไม่เกิดคลื่นใดๆ ด้วยซ้ำในเวลานี้ อินชิงเสวียน ได้เข้าสู่ค่ายกลแล้ว และทิวทัศน์ตรงหน้าก็เปลี่ยนไปเช่นกันจู่ๆ ชาวตงหลิวที่อยู่ข้างหน้าก็ได้หายตัวไป ถูกแทนที่ด้วยสุสานกระบี่ที่เป็นสนิมอินชิงเสวียนเคยได้ยินเกี่ยวกับความลึกลับของค่ายกลแปดทิศ จึงไม่แปลกใจมากนัก หากนางเดาไม่ผิด ในเสี้ยววินาทีต่อมากระบี่เหล่านี้อาจโจมตีนางและเป็นจริงเช่นนั้น กระบี่เริ่มสั่นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดเสียงโลหะปะปนกันไปอินชิงเสวียนเปิดมิติทันที หมายจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-22

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1540 สองพระองค์ครองราชย์ จบบริบูรณ์

    ปีที่สามของการครองราชย์ในราชวงศ์ต้าโจวฮองเฮาให้กำเนิดพระธิดา ได้รับพระราชทานนามว่าองค์หญิงเจ๋อเทียน นามว่าเจิน มีชื่อเล่นว่าฝูเอ๋อร์ในเดือนเก้าของปีเดียวกัน เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนปกครองร่วมกัน แบ่งกันปกครองบ้านเมืองและการดำรงชีวิตของผู้คน ราษฎรเคารพทั้งสองในฐานะพระองค์ฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา ประวัติศาสตร์ได้บันทึกช่วงเวลานี้ไว้ด้วยถ้อยคำที่งดงามที่สุด และเรียกช่วงเวลานี้อย่างเคารพว่า ยุคที่สององค์ปกครอง!ห้าปีต่อมา เครื่องกำเนิดพลังงานลมเครื่องแรกปรากฏขึ้นด้วยฝีมือความสามารถของชาวต้าโจว ซึ่งก้าวล้ำหน้าสมัยโบราณที่ล้าหลังไปอย่างมากด้วยก้าวที่ยิ่งใหญ่นักเรียนจากทั่วแคว้นได้แสดงความสามารถ พัฒนาสิ่งที่ล้ำหน้าต่างๆ ผ่านความรู้ทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมีใหม่ล่าสุด บุปผานับร้อยบานสะพรั่งพร้อมกัน ก่อให้เกิดยุครุ่งเรืองของราชวงศ์ต้าโจวตอนนี้อาหารไม่ขาดแคลน ราษฎรไม่ต้องทนทุกข์กับความหิวโหยอีกต่อไป ยิ่งไม่มีการอพยพย้ายถิ่นฐาน โครงการคลองส่งน้ำก็สำเร็จลุล่วง ด้วยการคมนาคมสะดวกระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ก็สามารถแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการได้ในที่สุด อ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นยังสามารถเปลี่ยนเส้นท

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1539 เสวียนเอ๋อร์ขอบคุณเจ้านะ

    ตำหนักจินอู๋อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ แต่ไม่กล้าโคจรกำลังภายในต้านทานไว้ เพราะกลัวว่าจะทำร้ายลูกของนางเมื่อเห็นนางกัดริมฝีปากล่างแน่น มีเหงื่อไหลอาบหน้า หัวใจของเย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกเหมือนถูกมีดคมๆ นับพันทิ่มแทง รู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง“ต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาได้ ต้องปล่อยให้นางเจ็บปวดทนทุกข์เช่นนี้หรือ”หมอตำแยกล่าวอย่างกล้าหาญว่า “สตรีคลอดบุตรก็เป็นเช่นนี้เพคะ อดทนไว้ แล้วจะดีเอง”เย่จิ่งอวี้พูดด้วยความโกรธ “ฮองเฮาของข้าจะเทียบได้กับสตรีทั่วไปได้อย่างไร รีบหาทางบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาเดี๋ยวนี้”“ข้าไม่เป็นไร อาอวี้ออกไปก่อนเถอะ!”เสียงของอินชิงเสวียนนั้นอ่อนแรง แม้จะเป็นสามีภรรยากัน แต่ถูกเห็นเข้าในสถานการณ์เช่นนี้ก็น่าอายอยู่เหมือนกันเย่จิ่งอวี้เดินก้าวเดียวก็ไปถึงเตียง จับมือของนางแน่นๆ แล้วพูดอย่างกระวนกระวายใจ “ข้าไม่วางใจ มีวิธีถ่ายทอดความเจ็บปวดให้ข้าได้ไหม เจ้าอยู่กับลั่วสุ่ยชิงมานานแล้ว ไม่ได้เรียนวิชาอาคมอะไรจากนางบ้างหรือ”อินชิงเสวียนเจ็บปวดเจียนตายอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำนี้ก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1538 ไท่เฟยไท่ผินออกจากวัง

    อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดและกล่าวว่า “ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ วันนี้เป็นวันแต่งงานของไห่ถัง ในฐานะพี่ชาย ควรเป็นประธานงานแต่งของนางด้วยตนเอง หากไม่มีคนในราชวงศ์ไป ไห่ถังจะผิดหวังได้”แม้น้องสาวจะเป็นญาติ แต่ก็ไม่ชิดเชื้อเท่ากับภรรยา ลูกคนแรกเกิดในตำหนักเย็น ซึ่งทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกผิดไปครึ่งชีวิตแล้ว ยากนี้เด็กคนนี้คือสมบัติล้ำค่าที่แท้จริงระหว่างพวกเขา ในฐานะพ่อของลูก เขาจะจากไปได้อย่างไรเมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางซีด มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายขึ้นเต็มขมับของนาง เย่จิ่งอวี้ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อปลอบนาง “ไม่เป็นไร มีแม่ทัพอินและจอมพลกวนอยู่ด้วย ไห่ถังก็ไม่นับว่าเสียเกียรติอะไรนัก”อินชิงเสวียนคว้าแขนของเขา“จะได้อย่างไร หากไม่มีใครจากในวังไป มันจะกลายเป็นปมในใจของไห่ถังอย่างแน่นอน นี่คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนาง”ไม่ว่าอย่างไรเย่จิ่งอวี้ก็ไม่ยอมไป แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้น้องสาวเสียหน้าได้ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มีความคิดอยู่ในใจ“เจวี๋ยอิ่ง ไปเชิญไท่เฟยไท่ผินทุกท่าน ให้พวกนางออกจากวัง ร่วมงานเสกสมรสขององค์หญิงเดี๋ยวนี้”ทุกคนตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่จิ่งอวี้จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1537 ฮองเฮาทรงมีพระประสูติการ

    เย่ไห่ถังยังคงมีความสุข แต่จู่ๆ เสียงของหลี่เต๋อฝูก็ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเปิดประตู เห็นเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้ยืนอยู่ที่กลางเรือน น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตา“ไห่ถังคารวะเสด็จพี่ เสด็จพี่สะใภ้เพคะ!”เย่ไห่ถังกำลังจะคุกเข่าลง แต่เย่จิ่งอวี้ก็ปราดเข้าประคองนางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในฐานะสตรีที่ออกเรือนแล้ว ทุกสิ่งต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม จะทำตัวเหลวไหลซุกซนเหมือนอยู่ในวังไม่ได้ หากใช้ชีวิตนอกวังจนเบื่อแล้ว ก็สามารถกลับมาได้ตลอดเวลา วังหลวงจะเป็นบ้านของเจ้าตลอดไป”อินชิงเสวียนก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ถ้าพี่รองของข้ารังแกเจ้า เจ้าก็บอกข้าได้เลย ข้าจะทวงความยุติธรรมให้กับเจ้าแน่นอน”ถ้าคนที่เย่ไห่ถังแต่งงานด้วยไม่ใช่อินปู้อวี่ เย่จิ่งอวี้คงพูดคำนี้ไปนานแล้วเย่ไห่ถังสูดจมูก“ขอบพระทัยเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้เพคะ ตอนแรกข้าค่อนข้างมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่อยากจากไปเลย”เมื่อเห็นว่าจมูกของเย่ไห่ถังแดง กำลังจะร้องไห้อีก เย่จิ่งอวี้จึงตีหน้าขรึมพูดทันที “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าจะให้คนไปแจ้งอินปู้อวี่ ว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่มีแล้ว หลี่เต๋อฝู!”หลี่เต๋อฝูก็เป็นคนเจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1536 องค์หญิงกำลังจะเสกสมรส

    ในวันที่หนึ่งเดือนสี่ ลำดับการสอบการต่อสู้ชี้ให้เห็นว่า เฉินเซียงเยว่ที่อินชิงเสวียนสนใจ สอบได้ลำดับหนึ่ง คนผู้นี้หน้าตาดูดุร้ายและน่าเกลียด แต่กลับมีจิตใจอ่อนโยนดังเช่นสตรี ไม่เพียงแต่วรยุทธ์ดีเลิศเท่านั้น แต่ยังเก่งในเรื่องการจัดขบวนทัพด้วย เป็นยอดแม่ทัพที่หาได้ยากนางได้ลำดับหนึ่งก็คือจอหงวนด้านวิชาการต่อสู้ ไม่มีใครไม่ยอมรับเลย แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็ดูฮึกเหิมมีพลังมากกว่าผู้ชายทุกคนในตอนนั้นเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งแซ่หลิวมีชื่อว่าเยว่ ก็ได้รับเลือกให้ติดอยู่ในสามอันดับแรก รั้งอยู่ในเมืองหลวงฝ่าบาทขานรายชื่อสตรีมามากขนาดนี้ เหล่าขุนนางข้าราชบริพารก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ต่างรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องตามระเบียบประเพณี แต่ก็กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์เป็นการส่วนตัวเท่านั้น ต้าโจวในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ที่ฝ่าบาทยินดีฟังพวกเขา ก็ถือเป็นการให้เกียรติพวกเขาแล้ว หากฝ่าบาทไม่อยากฟัง ถึงพูดมากไปก็ไร้ผลแต่ไม่มีใครกล้าพูดว่าเย่จิ่งอวี้เป็นทรราช ฝ่าบาททรงงานปกครองบ้านเมืองอย่างหนัก แม้ว่าพระองค์จะทรงปฏิรูปครั้งใหญ่ แต่ก็ทำเพื่อประชาชนในราชวงศ์ต้าโจวเท่านั้น ขณะนี้แผ่นดินสงบสุข มีธัญพืชอุดมสมบูรณ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1535 เหลวไหลจริงๆ

    เสียงเรียกว่าท่านพี่นั้นทำให้เย่จิ่งอวี้ใจอ่อนลงมากโข ความโกรธทั้งหมดพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันทีไม่เช่นนั้นจะทำอะไรได้อีก ภรรยาที่เลือกมาเอง มีแต่ต้องตามใจเองเท่านั้น“เจ้าคนโกหกตัวน้อย กลับไปสามีจะคิดบัญชีเจ้าหนักๆ ถอนกำลังภายในของเจ้าออก สามีจะทำแทนเจ้าเอง ประเดี๋ยวจะทำร้ายลูกในท้องเอา”เสียงของเย่จิ่งอวี้เชื่อมโยงเป็นเส้น ไหลผ่านกระทบโสตประสาทของอินชิงเสวียนคำต่อคำอย่างแจ่มชัดนางยกมุมปากขึ้น เผยเป็นรอยยิ้มภาคภูมิใจเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่จิ่งอวี้ นางจึงเปิดโสตประสาท เหตุผลที่ขอให้เย่จิ่งอวี้ช่วย ก็เพราะว่ากำลังภายในในร่างกายของนางซับซ้อนเกินไป ยากต่อการควบคุม ในงานที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาดเย่จิ่งอวี้ไม่เหมือนกัน เขาบำเพ็ญตบะกำลังภายในของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังประสานพลังแห่งฟ้าดิน แม้ว่าอินชิงเสวียนจะมีพลังลมปราณของหลายสำนัก แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับกำลังภายในอันบริสุทธิ์และทรงพลังของฮ่องเต้ได้ในชั่วพริบตา กำลังภายในดุจธารานิ่งลึกหลั่งไหลเข้ามาจากด้านนอกประตู เหมือนโลกลึกล้ำ โอบกอดและยืดหยุ่น บรรยากาศที่มืดมนในห้องโถงคล้ายจะถูก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1534 ท่านพี่ช่วยข้าได้ไหม

    “ฟางรั่วเข้าวัง?”เย่จิ่งอวี้หยุดฝีเท้าหลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมถามองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูวังแล้ว แม่นางฟางรั่วเข้ามาเมื่อสามชั่วยามที่แล้ว”เจวี๋ยอิ่งคุกเข่าลงและพูดว่า “กระหม่อมเห็นฟางรั่วเข้าไปในตำหนักจินอู๋ แต่ไม่เห็นนางและฮองเฮาออกมา”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาคล้ายจะสดใสและมืดมน กำลังตกอยู่ในอาการครุ่นคิดด้วยวรยุทธ์ของฟางรั่ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำอันตรายต่ออินชิงเสวียน นางยังมีใบมีดแห่งมิติอยู่ในมือ แม้ว่าเหล่าเทพเซียนจะลงมาเอง แต่นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้จากมุมมองนี้ ควรไม่ใช่การหายตัวไปง่ายๆ นางเรียกฟางรั่วมา ต้องมีเหตุผลอื่นเป็นแน่เจวี๋ยอิ่งโค้งคำนับและถามว่า “ต้องการให้กระหม่อมปิดล้อมพระนคร สืบหาที่อยู่ของฮองเฮาอย่างถี่ถ้วนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเจวี๋ยอิ่ง“ไม่ต้อง หลี่เต๋อฝู ไปเชิญกวนเซี่ยวเข้ามาด้วย”ครู่ต่อมา กวนเซี่ยวก็วิ่งเหยาะๆ มาถึงประตูตำหนัก ยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงกับพื้น“กวนเซี่ยวถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาททรง...”เย่จิ่งอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รำคาญ โบกมือห้าม“ตามสบาย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมฟางรั่วถึงมาที่วัง”กวนเซี่ยว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

DMCA.com Protection Status