แชร์

บทที่ 856 เจ้ามีพี่ชายจริงๆ

ผู้แต่ง: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
อินชิงเสวียนได้ยินเย่จิ่งอวี้บอกว่า ตอนที่อยู่ในเมืองเติงหลงน่าจะเป็นพวกเขาสองคนที่ช่วยอินสิงอวิ๋นไว้ จึงประกบมือคารวะพวกเขาทันที

“แม่นางเก่อ จื่ออวี๋”

ต่งจื่ออวี๋คารวะตอบอย่างยินดี ถามว่า “แม่นางอินไปชายทะเลหรือ”

อินชิงเสวียนตอบว่าใช่ และถามว่า “สองวันที่แล้วพวกเจ้าไปที่เมืองเติงหลงมาหรือไม่”

ต่งจื่ออวี๋พยักหน้าและกล่าวว่า “ใช่ ยังได้พบกับผีแคระตงหลิวด้วย”

“แล้วเจ้าช่วยคนขับรถม้าหรือเปล่า”

“เจ้ารู้ได้อย่างไร หรือว่าเจ้ารู้จักคนผู้นั้น?”

เก่อหงยวนมองไปที่อินชิงเสวียน พลางบีบผมเปียตัวเองอย่างไม่พอใจ

ทำไมชายหนุ่มรูปงามทุกคนในโลกถึงรู้จักอินชิงเสวียน?

อินชิงเสวียนยิ้มและพูดว่า “ขอบคุณเจ้าสองคนที่ช่วยเหลือ คนที่ขับรถม้าคือพี่ชายของข้าเอา”

“ฮะ เขาเป็นพี่ใหญ่ของเจ้าหรือ แซ่อินด้วย?”

เก่อหงยวนประหลาดใจ แล้วถามอีกว่า “แล้วพี่ใหญ่ของเจ้าแต่งงานแล้วหรือยัง”

อินชิงเสวียนยิ้มละไม “แต่งงานกันแล้ว คนในรถม้า คือพี่สะใภ้ของข้า!”

ทันใดนั้นเก่อหงยวนก็หรี่ตาลง บุรุษรูปงามในฝันก็พังทลายอีกครั้ง

ต่งจื่ออวี๋กลับไม่ได้สนใจอารมณ์ของนาง ถามอย่างระมัดระวัง “ได้ยินมาว่าพิณการเวกถูกทำลายแล้ว นี่เป็น
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 857 มีภรรยาเช่นนี้สามีจะปรารถนาสิ่งใดอีก

    หอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์เย่จิ่งอวี้กำลังถามอินสิงอวิ๋นเกี่ยวกับเรื่องในราชสำนักแม้ว่าเขาจะอยู่ในเป่ยไห่ แต่ใจยังคิดถึงเมืองหลวงอยู่เสมอโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการปฏิรูปกำลังใกล้เข้ามา กลัวว่าจะมีคนหย่อนยาน ทำให้ความพยายามอย่างหนักของสาวน้อยต้องสูญเปล่าแม้ว่าอินสิงอวิ๋นเคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่าทุกอย่างเป็นไปในทิศทางที่ดี เย่จิ่งอวี้ก็ยังคงต้องการถามอย่างละเอียดในขณะที่พูด ก็เห็นอินชิงเสวียนและเย่จิ่งหลานเดินเข้ามาจากประตู เย่จิ่งอวี้ลุกขึ้นยืนทันที“ไปที่ชายทะเลมาหรือ ขาของจิ่งหลาน...หายเร็วมากขนาดนี้เลยหรือ”“ขอบคุณพี่ใหญ่ที่เป็นห่วงขอรับ ตอนนี้ขาของข้าหายดีแล้ว”เย่จิ่งหลานกลับสู่ภาพลักษณ์ความเป็นเด็กอีกครั้งเย่จิ่งอวี้เดินออกจากศาลา วางมือบนไหล่ของเย่จิ่งหลานและตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วน“งั้นก็ดีแล้ว โบราณกล่าวไว้ว่าการบาดเจ็บเส้นเอ็นกระดูกต้องรักษาร้อยวัน ทางที่ดีพักผ่อนเยอะๆ ดีกว่า ถ้าคราวหน้าอยากออกไปข้างนอกก็ขี่ม้า เดินให้น้อยหน่อย”“ขอบคุณขอรับพี่ใหญ่ ข้ารู้แล้ว เช่นนั้นข้าจะกลับไปพักผ่อนก่อน”เย่จิ่งหลานกวักมือเรียกหวังซุ่น จากนั้นก็กลับไปที่ห้องของตัวเองส่วนอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 858 คนทรยศของเพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิง

    ยามราตรีมาเยือนอย่างรวดเร็วเหลาสุราได้กลายเป็นสถานที่รวมพลของจอมยุทธ์ผู้กล้าอีกครั้งวัตถุประสงค์ของการสนทนาในวันนี้กลายเป็นหัวข้อเรื่องพิณการเวกเมื่อรู้ว่าพิณถูกทำลาย ทุกคนต่างพร่ำบ่นอยู่ในใจอย่างไรก็ตามเมื่อเห็นซูถูเสียชีวิตไปก่อนหน้า ก็ไม่มีใครกล้าไปสอบถามที่หอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ด้วยฌานตบะของเจ้าสำนักเซี่ยว การจัดการกับพวกเขานั้นง่ายเหมือนกับการบีบมดให้ตายแต่ถึงไม่กล้าไป ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่กล้าพูด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากซดน้ำเมาไปสองสามถ้วย ทุกคนก็พูดคุยกันอย่างกระตือรือร้นมากขึ้น กระทั่งหลังคาของเหลาสุราก็แทบจะพลิกคว่ำฉุยอวี้รู้สึกหงุดหงิดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อได้ยินเสียงเอะอะของคนเหล่านี้ ก็อดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นยืน ขณะที่กำลังจะแผลงฤทธิ์ ก็ได้ยินบริกรด่าว่า “คนชั้นต่ำอย่างเจ้า ไม่รู้หรือว่าใครเป็นเจ้าของเหลาสุราแห่งนี้ กล้าดีอย่างไรมาชักดาบค่าอาหารที่นี่”มีเสียงดังปัง ชายหนุ่มร่างผอมคนหนึ่งถูกเตะออกไปหลายจั้ง และกลิ้งไปหยุดที่ปลายเท้าของฉุยอวี้“ไอ้เด็กเปรตนี่ รีบจ่ายเงินมาเร็ว ไม่งั้นอุ้งมือทั้งสองข้างของเจ้าก็ไม่ต้องเอาแล้ว”บริกรเดินบีบเข้าไปใกล้ สีหน้าข

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 859 ธิดาเทพ

    “เจ้าเป็นใคร เหตุใดถึงรู้จักเพียวเมี่ยวอิ๋นเฉิง”ฮั่วเทียนเฉิงมองไปที่คนในชุดดำคนผู้นั้นกำลังเผชิญหน้ากับฉุยอวี้ แต่ยังมีพลังเหลือเฟือ ตอบอย่างใจเย็น “เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องนี้ แม้ว่าเพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิงและตำหนักเทพหอทองคำจะเป็นปฏิปักษ์ต่อกันมานานหลายปี แต่ก็แค่ประลองยุทธ์กันเท่านั้น หวังว่าทั้งสองท่านจะปล่อยคนผู้นี้มาให้ข้า อย่าให้คนผู้เดียวมาทำลายไมตรีระหว่างสองสำนักเลย”สายตาของฮั่วเทียนเฉิงยังคงจับจ้องไปที่คนชุดดำ เห็นฝ่ามือของเขาตกลงมาอย่างแผ่วเบาสง่างาม แต่มีพลังรัศมีที่ลุกโชน ดวงตาก็ค่อยๆ เยียบเย็น“เพียวเมี่ยวสิบสามท่า ที่แท้เจ้ามาจากเพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิงจริงๆ เช่นนั้นก็ควรถูกฆ่า!”น้ำเสียงของฮั่วเทียนเฉิงเย็นชา เหาะขึ้นไปในอากาศ ก่อเกิดพลังงานสีม่วงในฝ่ามือ และรวบตัวคนชุดดำไว้ด้วยวิชาฝ่ามือทันที“ฉุยอวี้ เจ้าพาคนผู้นี้ออกไปก่อน ข้าจะสกัดไว้ข้างหลังเอง”ฉุยอวี้พยักหน้า ถ้าเฮิ่นเทียนเป็นคนทรยศของเพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิงจริงๆ เช่นนั้นก็เป็นประโยชน์กับนางมากนางแกล้งสับขาหลอก และเหาะถอยออกมา จากนั้นก็หิ้วร่างของเฮิ่นเทียนกลับไปที่สำนักเซียวเหยา อย่างรวดเร็วคนชุดดำยิ้มเยา

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 860 คนภักดีโง่ๆ

    เฟิงเอ้อร์เหนียงตกใจ“หรือว่าเลือกธิดาเทพคนใหม่แล้ว?”ฮั่วเทียนเฉิงกล่าวว่า “มิได้”ฉุยอวี้แค่นเสียงหึพูดว่า “คงพบคนที่คล้ายกับพี่หญิงใหญ่กระมัง...”เมื่อพูดถึงตรงนี้ นางก็นึกถึงอินชิงเสวียน จึงรีบหุบปากทันทีฮั่วเทียนเฉิงไม่ได้ปฏิเสธ แต่พูดเสียงเรียบ “นี่คือการตัดสินใจของเจ้าตำหนัก เจ้าและข้าไม่มีสิทธิ์ปริปาก”จากนั้นเขาก็กล่าวอย่างทอดถอนใจ “คิดไม่ถึงว่าจะมีคนหน้าตาคล้ายกันมากถึงเพียงนี้ หลายวันนี้ข้าได้พบกับแม่นางแซ่อินผู้หนึ่ง ดูคล้ายกับพี่หญิงใหญ่ของพวกเจ้ามาก”ฉุยอวี้และเฟิงเอ้อร์เหนียงต่างก็พูดพร้อมกันทันที “ไม่เหมือนเลยสักนิด”เฟิงเอ้อร์เหนียงไอแห้งๆ แล้วพูดว่า “แม่นางอินงดงามหยาดเยิ้มเกินไป ไม่เหมือนพี่หญิงใหญ่ที่สวยบริสุทธิ์ดุจเทพธิดาบนสรวงสวรรค์”ฮั่วเทียนเฉิงกล่าวว่า “ข้ากลับคิดว่านางดูคล้ายมาก แม่นางอินสวยแต่ไม่ธรรมดา มีเสน่ห์แต่ไม่เย้ายวน ท่วงท่าสง่างามดุจดอกกล้วยไม้ บุคลิกผ่าเผย สุขุมเยือกเย็น สตรีเช่นนี้หาชมได้ยากจริงๆ”ครั้งแรกที่ฮั่วเทียนเฉิงเห็นอินชิงเสวียนชัดเจน คือตอนที่นางหมดสติ ซึ่งทำให้เขาตกใจมาก แต่ก็แค่ตกใจเท่านั้นโลกใหญ่ไพศาล ไร้พิสดารไม่มี มนุษย์ใ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 861 พบเฟิงเอ้อร์เหนียงอีกแล้ว

    วันถัดไปเสียงหัวเราะของเสี่ยวหนานเฟิงปลุกอินชิงเสวียนให้ตื่นเมื่อลุกขึ้นจากเตียง ก็เห็นสองพ่อลูกกระโดดเล่นบนเตียงทันทีเย่จิ่งอวี้ก็กระโดดขึ้นลงบนเตียงเหมือนเด็กตัวใหญ่ เสี่ยวหนานเฟิงถูกเขย่าจนล้มหงายหลัง อ้าปากหัวเราะไม่หยุดอินชิงเสวียนยกมุมปากยิ้มอย่างอดไม่ได้ ไม่คาดคิดว่าฮ่องเต้หนุ่มจะมีด้านที่เป็นเด็กเช่นนี้ ผู้ชายเป็นเด็กเสมอ คำพูดนี้ว่าไว้ไม่มีผิดเลย”นางแปรงผม สวมรองเท้า แล้วเดินลงพื้น“พวกเจ้าตื่นนานแล้วหรือ”เย่จิ่งอวี้หยุดทันที“พวกเราปลุกเสวียนเอ๋อร์หรือเปล่า”อินชิงเสวียนเหลือบมองนาฬิกาเรือนใหญ่ที่แขวนอยู่บนร้านค้าสะสมคะแนน ตอนนี้เป็นเวลาเก้าโมงแล้ว“เปล่า สายป่านนี้แล้ว ถ้าข้ายังไม่ตื่น คงกลายเป็นหมู”เย่จิ่งอวี้ก้มลงอุ้มเสี่ยวหนานเฟิงขึ้นมา ทันทีที่ดีดปลายเท้า คนก็มาอยู่ตรงหน้าอินชิงเสวียนแล้ว“ในโลกนี้มีหมูที่น่ารักเหมือนเสวียนเอ๋อร์ด้วยหรือ ถ้ามี ข้าอยากจะเลี้ยงไว้สักตัว”“เชอะ ไม่สนใจท่านแล้ว”อินชิงเสวียนร้องเชอะ แล้วนึกในใจ จากนั้นทั้งหมดก็ออกมาอยู่ในห้องบนโต๊ะมีกับข้าวสี่อย่างและโจ๊กสองชามตอนนี้ยังร้อนๆ อยู่ ดูเหมือนว่าเพิ่งถูกส่งมาไม่นานนี้เอง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 862 การตักเตือนจากฉุยอวี้

    เฟิงเอ้อร์เหนียงถอนหายใจแล้วพูดว่า “ตอนนี้เจ้าเป็นคนดังของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ต่อให้พี่หญิงมีความกล้าขนาดไหน พี่หญิงก็ไม่กล้าทำอะไรเจ้าหรอก”“ข้ากับเจ้าไม่สนิทกัน ไม่ต้องมาเรียกพี่หญิงน้องหญิง เป่าเล่อเอ่อร์ เราไปกันเถอะ”อินชิงเสวียน ไม่ต้องการพูดไร้สาระกับเฟิงเอ้อร์เหนียง จึงจูงมือเป่าเล่อเอ่อร์ออกไป แต่กลับเห็นฉุยอวี้เดินออกมาจากฝูงชน“อวิ๋นลี่ เจ้ากำลังดูอะไรอยู่”ในขณะที่พูด ฉุยอวี้ก็มองเห็นอินชิงเสวียนแล้วนางแปลกใจระคนยินดี รีบเดินไปหาอย่างรวดเร็วอินชิงเสวียนขมวดคิ้วเล็กน้อย อันที่จริงนางไม่ต้องการเกี่ยวข้องกับสำนักเซียวเหยา แต่จะทำเช่นไรได้เมื่อมีบุญคุณติดค้างอยู่ หยกเย็นชิ้นนั้นยังสวมอยู่บนคอของเย่จิ่งอวี้ จำต้องยอบกายคารวะ “น้อมคำนับเจ้าสำนักฉุย”ฉุยอวี้เอื้อมมือไปช่วยพยุงอินชิงเสวียนขึ้นมา แล้วมองนางขึ้นๆ ลงๆ อย่างตรวจสอบความเรียบร้อย “ช่วงนี้แม่นางอินสบายดีหรือ”อินชิงเสวียนยิ้มบางๆ “ขอบคุณเจ้าสำนักฉุยที่เป็นห่วง ทุกอย่างเรียบร้อยดี”ฉุยอวี้ถามอีกครั้ง “แล้วหยกเย็นชิ้นนั้น เจ้ายังใส่อยู่หรือไม่”“ของขวัญจากเจ้าสำนัก ชิงเสวียนจะกล้าวางทิ้งได้อย่างไร ข้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 863 หรือมีเจตนาแอบแฝงจริงๆ

    “ได้สิ ขอแค่เจ้าบอกมา ข้าก็ทำให้เจ้าได้”หลังจากที่อินชิงเสวียนพูดจบ นางก็อดไม่ได้ที่จะบ่น“ทำไมพวกเจ้าแซ่เย่ถึงชอบกินนัก มีแต่พวกตะกละ”เย่จิ่งหลานเบะปาก“จริงๆ แล้วข้าแซ่โค่วสือเย่ ยกไปเทียบกับพวกเขาไม่ได้”เขายืดเส้นยืดสายพูดว่า “วันนี้ทำได้พอสมควรแล้ว กลับกันเถอะ ส่วนที่เหลือให้ช่างฝีมือเหล่านั้นติดตั้งก็เสร็จแล้ว”พอดีกับที่เป่าเล่อเอ่อร์ก็เล่นสนุกจนพอใจแล้ว ทั้งหมดจึงกลับไปที่หอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ทันทีที่เข้าประตู เขาก็ได้ยินเสียงหัวเราะเบิกบานของเจ้าสำนักเซี่ยวฮวาเชียนยกชามอาหารมาถึงลานบ้านพอดี อินชิงเสวียนถามทันทีว่า “เจ้าสำนักเฮ่อมาที่นี่หรือ”ฮวาเชียนยิ้มและพูดว่า “เป็นท่านฮั่ว กำลังดื่มสุรากับท่านตาของเจ้าแหนะ”หัวใจของอินชิงเสวียนเต้นเล็กน้อยหรือว่าที่เขามาที่นี่ มีเจตนาแอบแฝงจริงๆ?“อาอวี้ล่ะ?”“ออกไปลาดตระเวนกับคุณชายอิน”ฮวาเชียนพูดจบก็เดินเข้าไปอินชิงเสวียนส่งเป่าเล่อเอ่อร์กลับไปที่ห้อง กำลังจะไปดูที่ห้องโถง ทันใดนั้นนางก็ได้ยินเสียงคนตะโกนที่ประตู “แม่นางอิน!”อินชิงเสวียนหันกลับมา ก็เห็นว่าเฮ่อฉางเฟิงเดินเข้ามาจากประตูพร้อมกับหยวนเป่าในมือของเส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 864 ไป๋เสวี่ยผิดปกติ

    “ไป๋เสวี่ย!”อินชิงเสวียนตกใจช่วงนี้ปล่อยเจ้าสุนัขให้วิ่งอย่างอิสรเสรี แม้ว่ามันจะเตร็ดเตร่ไปทั่ว แต่ก็ไม่เคยกัดใครก่อนเลย และนอกจากพวกเขาสามคนในครอบครัวแล้ว ไป๋เสวี่ยก็ไม่เข้าใกล้คนอื่น เมื่อเห็นจู่ๆ มันกระโจนเข้าใส่ จึงต้องร้องดุแขนขาบางๆ ของเฮ่อฉางเฟิงไม่ใหญ่พอที่จะให้ไป๋เสวี่ยขย้ำได้สักคำไป๋เสวี่ยมาถึงเบื้องหน้าของเฮ่อฉางเฟิงแล้ว แต่มันไม่ได้กัดคน หัวสุนัขอันใหญ่โตเอียงมอง ดวงตาสีน้ำตาลคู่โตจ้องมองไปที่เฮ่อฉางเฟิงเฮ่อฉางเฟิงก็ตกใจ รีบหลบไปข้างหลังทันที“นี่...สุนัขตัวโตจัง!”อินชิงเสวียนขมวดคิ้วตะโกนว่า “ไป๋เสวี่ย ไปเล่นที่อื่น อย่าทำให้แขกตกใจกลัว”ไป๋เสวี่ยไม่ขยับ ยังคงมองไปที่เฮ่อฉางเฟิง ดวงตาของเจ้าสุนัขคล้ายพิศวงงุนงง สูดดมรอบๆ ตัวของเฮ่อฉางเฟิงแผ่นหลังของเฮ่อฉางเฟิงตั้งตรงทันที ไม่กล้าขยับตัวแม้แต่น้อยเมื่อเห็นว่าไป๋เสวี่ยไม่มีเจตนาที่จะกัดเขา อินชิงเสวียนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ยังคงไม่วางใจ จ้องมองไป๋เสวี่ยอย่างใกล้ชิดไป๋เสวี่ยเดินไปรอบๆ และดมกลิ่นอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หันหน้าไปเห่าบอกความกับอินชิงเสวียนหลายครั้งเสียงเห่าไม่เหมือนจะกัดคน แต่เหมือนก

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1467 ฉันอยากกลับไป

    อินชิงเสวียนดึงมือออก“คุณจำคนผิดแล้ว ฉันไม่ใช่เพื่อนบ้านเดียวกันของคุณ แต่เป็นลูกสาวของแม่ทัพแห่งต้าโจว อินชิงเสวียน!”“คุณ คือเจ้าของร่างเดิมของอินชิงเสวียน?”เย่จิ่งหลานมองเธอขึ้นๆ ลงๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ รูปร่างเหมือนกันทุกประการ แต่หากสังเกตให้ดี จะเห็นได้ว่าเพื่อนบ้านเดียวกันของเขามีพลังความมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้ ส่วนผู้หญิงตรงหน้าเขาดูอ่อนโยนและอ่อนแอกว่ามากในเวลาเดียวกัน เขาก็รู้ด้วยว่าทำไมเขาถึงดูคุ้นตากับเด็กน้อยคนนี้ ตอนที่ตัวเองเพิ่งข้ามภพไปยังต้าโจว เขาก็มีรูปร่างหน้าตาลักษณะเหมือนแบบนี้เลยความทรงจำก็เหมือนกับคลื่นทะเล เป็นคลื่นที่ซัดมาระลอกแล้วระลอกเล่า ในที่สุดเย่จิ่งหลานก็ค่อยๆ จำทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในต้าโจวได้ทุกคนช่วยกันต่อต้านชิงฮุยในหุบเขาเชื่อมเมฆา แต่แล้วเขาก็กลับมาในเวลานี้ และกลับมาโดยที่ร่างกายสมบูรณ์ครบถ้วนเมื่อนึกถึงความชั่วร้ายและความเจ้าเล่ห์เพทุบายของชิงฮุย เย่จิ่งหลานก็รู้สึกสับสนอย่างอธิบายไม่ถูก“หรือว่าผมข้ามภพมาได้เพราะป้ายตราคำสั่งนี้ ผมต้องรีบกลับไปโดยเร็วที่สุด”เมื่อเห็นท่าทางกังวลอย่างกะทันหันของเย่จิ่งหลาน อินชิงเสวียนก็ตระหนัก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1466 ความปรารถนาในใจสำเร็จแล้ว

    ไม่ว่าซูเยี่ยจะจำอดีตกับเขาหรือไม่ก็ตาม มันก็ไม่สำคัญสำหรับเย่จิ่งหลานอีกต่อไปแล้วสวรรค์ทำให้เขาได้เจอผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง อาจเป็นเพราะต้องการให้เขาได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของซูเยี่ย ผู้หญิงประเภทนี้ จริงๆ แล้วมันไม่จำเป็นต้องให้เขาเสียเวลาด้วยซ้ำเขาเพิ่งอายุได้ยี่สิบแปดปี อนาคตยังอีกยาวไกล ซูเยี่ยเป็นเพียบใบไหม้ที่ร่วงไปจากชีวิตของเขา ไม่มีความสำคัญอะไรเลยเย่จิ่งหลานกระตุกมุมปากขึ้นยิ้ม ค่อยๆ รู้สึกปลอดโปร่งใจเขาเดินออกจากสวนสาธารณะอย่างช้าๆ และทันใดนั้นก็มีอีกคำถามหนึ่งผุดขึ้นมาใบหน้านี้ไม่ใช่หน้าตาเดิมของเขา ใครเป็นคนทำศัลยกรรมให้เขา?พลังในร่างกาย มาจากไหนกันแน่แล้วผู้หญิงที่อยู่ในหัวของเขา เป็นใครกันแน่หรือว่าเขาฝึกฝนจนสำเร็จเคล็ดวิชาลับบางอย่าง และผู้หญิงคนนั้นคือแก่นวิญญาณของเขา?เย่จิ่งหลานดึงขอบเอวกางเกงของเขาโดยไม่รู้ตัว ไอ้นั่นยังคงอยู่ตรงนั้น ไม่อย่างนั้นเขาคงคิดว่าตัวเองฝึกฝนวิชาจนกลายเป็นตงฟางปุ๊ป้ายในเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักรแล้วแต่การมีสิ่งเหล่านี้จะมีประโยชน์อะไร เอามาใช้กินใช้ดื่มไม่ได้ ตอนนี้ท้องของเขาร้องโครกคราก แต่ไม่มีเงินอยู่ในกระเป๋าเลยขณะที่

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1465 คนแพศยามักจะสำออยแบบนี้แหละ

    ชายคนนั้นหยิบกระดาษทิชชู่ออกจากกระเป๋า เช็ดนิ้วด้วยความรังเกียจ แล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองซูเยี่ยนั่งบนพื้นร้องไห้เสียงดัง ความฝันที่จะแต่งเข้าไปอยู่ในครอบครัวที่ร่ำรวย ได้พังทลายอีกครั้งมือที่มีเห็นข้อต่อเด่นชัดยื่นออกไปต่อหน้าซูเยี่ยซูเยี่ยเงยหน้าขึ้น แล้วก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาราวกับดาราทันทีสิ่งที่ทำให้เธอตื่นเต้นยิ่งกว่านั้นคือ ชายคนนั้นสวมเสื้อผ้าแบรนด์ดัง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขามีฐานะที่ดีหากสามารถเกาะเกี่ยวลูกเศรษฐีที่ทั้งหล่อทั้งรวยแบบนี้ได้ ถูกตบหน้าแค่ครั้งเดียวจะเป็นไรไป บางทีนี่อาจเป็นความยากลำบากทั้งหมดที่สวรรค์ส่งมาให้ ที่มาอยู่ที่นี่ ก็เพื่อให้ได้เจอกับคนที่ดีกว่าเธอสูดจมูก จับมือนั้นไว้ เพิ่งยืนขึ้นมาได้ครึ่งตัว มือก็คลายออกซูเยี่ยเสียการทรงตัว และล้มลงกับพื้นอีกครั้งเธอมองเย่จิ่งหลานด้วยความประหลาดใจ ไม่เข้าใจว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่เย่จิ่งหลานยกมุมปากขึ้น คุกเข่าลงต่อหน้าเธอ ถามด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “รู้สึกยังไงที่ถูกทิ้ง?”“อะไรนะ...คุณหมายความว่ายังไง?”ซูเยี่ยถามด้วยเสียงต่ำ ดวงตาสีแดงทั้งคู่ ทำให้เขาดูมีเสน่ห์มากกว่าเมื่อก่อนนี่ไม่ใช่ฉากที่ป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1464 แพศยาอย่างเธอ

    เย่จิ่งหลานโบกมือ ประตูก็เปิดออกแสงจากด้านนอกประตูส่องเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัย ทุกคนก็เห็นหลี่ไห่ตงนอนอยู่บนพื้นทันที และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอยภัยนอนระเกะระกะอยู่ข้างๆชายหนุ่มรูปหล่อคนนี้เดินออกไปโดยไม่มีร่องรอยเลือด หรือฝุ่นผงบนร่างกายเลยทุกคนก้าวถอยหลัง มองดูเย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าหวาดกลัวเย่จิ่งหลานเดินขึ้นไปที่ลิฟต์โดยไม่หรี่ตามองในช่วงที่เขาถูกบีบให้ออกจากโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ แต่ละนาทีแต่ละวินาที เขามักจะจินตนาการถึงการทุบตีหลี่ไห่ตงอย่างรุนแรง ได้ระบายความโกรธ วันนี้ ในที่สุดเขาก็ทำได้แล้ว สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เย่จิ่งหลานไม่อยากคิดอะไรมากเขารีบออกจากโรงพยาบาล มาที่สวนสาธารณะเล็กๆ ใกล้ ๆ มีชายชราคนหนึ่งที่อาบแดดอยู่ เย่จิ่งหลานเหลือบมองเขา และนั่งอีกด้านหนึ่งทั้งสองคนไม่ได้คุยกัน แค่พบกันโดยบังเอิญ ต่างไม่รู้จักกัน และไม่จำเป็นต้องพูดคุยกันเขาค่อยๆ ผ่อนคลายร่างกาย เอนหลังพิงเก้าอี้ หรี่ตาเหมือนที่ชายชราทำ ความอบอุ่นของดวงอาทิตย์ที่ส่องบนร่างกายของเขาช่างทำให้รู้สึกผ่อนคลายจริงๆหลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เย่จิ่งหลานก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาพลังลมป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1463 ฉันชื่อเย่จิ่งหลาน

    ความเจ็บปวดจากไฟฟ้า ทำให้เย่จิ่งหลานกลับมามีสติอีกครั้งหลี่ไห่ตงซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เขาไออย่างบ้าคลั่ง และมองไปที่เย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าแห่งความเกลียดชัง“ทุบตีมัน ทุบตีมันให้ตาย ตีมันตายแล้วฉันจะรับผิดชอบเอง”เมื่อเห็นว่าเย่จิ่งหลานไม่ขัดขืน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น กระแสไฟฟ้าสีฟ้าพุ่งใส่ร่างของเย่จิ่งหลาน ทำให้ห้องรังสีวินิจฉัยที่มืดมิดสว่างไสวขึ้นมาเย่จิ่งหลานหลับตา ใช้ประสาทสัมผัสตรวจสอบอย่างระมัดระวัง และยกมุมริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเอง แต่สัมผัสได้ ความรุนแรงเท่านี้ไม่สามารถเอาชีวิตเขาได้เลย รู้สึกเหมือนกับถูกแมลงต่อยสองครั้ง ถ้าเขาจะโดนฟ้าผ่า ก็ถือว่าเป็นการได้สัมผัสประสบการณ์ล่วงหน้าเป็นเวลาสิบวินาทีเต็มๆ เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาเรียวแคบของเขาเหมือนถูกรายล้อมไปด้วยงูทองคำพ่นไฟ ดุดันน่าเกรงขาม แม้ในความมืดมิดเช่นนี้ ก็สามารถมองเห็นใบหน้าอันน่าเกลียดของทุกคนได้ชัดเจนเขาอาจจะฆ่าคนไม่ได้ แต่สามารถทุบตีพวกเขาได้ และตราบใดที่พวกเขายังหายใจอยู่ ก็ไม่ถือว่าตายเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็ค่อ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1462 ปีศาจในชุดดำ

    “แกเป็นใคร ทำไมถึงมาทำร้ายฉัน”หลี่ไห่ตงเมื่อถูกทุ่มลงพื้นก็กรีดร้องอย่างน่าเวทนา ชายหนุ่มรูปงามตรงหน้านี้ เป็นราวกับเจ้าแห่งความตายในนรก ทำให้เขารู้สึกหวาดผวาอย่างสุดซึ้งจนแทบจะรู้สึกได้ถึงความกลัวที่มาจากจิตวิญญาณเขาไม่สงสัยเลยว่าชายคนนี้จะกล้าฆ่าเขาจริงๆหรือไม่“ฉันไม่รู้จักแกเลย แกจำคนผิดหรือเปล่า หรือคนในครอบครัวของแกอยู่ในโรงพยาบาลที่นี่ ถ้าขาดเงิน ฉันช่วยแกแก้ปัญหาได้”หลี่ไห่ตงรู้สึกว่าตัวเองยังพอมีหวัง จึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสร้างความประทับใจให้กับชายผมดำยุ่งเหยิงตรงหน้าเย่จิ่งหลานมองไปที่หลี่ไห่ตงอย่างเย็นชา ความทรงจำในอดีตก็หลั่งไหลกลับมาเพื่อให้ได้ทำงานในโรงพยาบาลต่อ ถึงจะนอนดึกกว่าหมา ตื่นเช้ากว่าไก่ ทำงานหนักเยี่ยงทาส ทำงานหนักมาสามปีก็ตาม แต่เพราะบังเอิญไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น จึงถูกส่งไปยังโรงพยาบาลเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งแต่เช้าจรดค่ำก็ไม่เจอใคร การทำงานหนักและค่าตอบแทนทั้งหมดของเขาถูกทำลายลงเพราะไอ้สารเลวยิ่งกว่าหมาคนนี้ เขากลับอยากมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ ในโลกนี้ จะมีเรื่องดีๆ แบบนั้นได้อย่างไรโลกไม่ยุติธรรม เช่นนั้นก็ให้เขาได้ผดุงความยุติธรรม จัดการสัตว์ร้าย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1461 เศษสวะ

    ไอ้ชาติชั่วนี่ ใช้อุบายเก่าๆ ของเขาอีกแล้วเย่จิ่งหลานเหลือบมองแพทย์หญิง แม้ว่าเธอจะสวมหน้ากากปลอดเชื้อสีเขียว แต่ยังคงมองเห็นความไม่เต็มใจและความลังเลในดวงตาที่เหนื่อยล้าของเธอทั้งสองเดินสวนทางกัน แพทย์หญิงก็เดินเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัยข้างๆ เย่จิ่งหลานอุ้มเด็กเดินเข้าไปในห้องผ่าตัด แต่ยังคงมองย้อนกลับไปที่แพทย์หญิงคนนั้น จากนั้นก็ได้ยินเสียงคลิก ซึ่งเป็นเสียงล็อคประตู“เด็กคนนี้ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกหน้าอก ขาทั้งสองข้างก็ถูกทับ”เย่จิ่งหลานอธิบายอาการของเด็กสั้นๆ จากนั้นรีบเดินไปที่ห้องรังสีวินิจฉัย ดึงที่จับประตูบานใหญ่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ดึงให้เปิดออกเมื่อนึกถึงไอ้คนชาติชั่วคนนั้นที่โรงพยาบาลเดิมใช้เส้นสายสารพัด ทำเหมือนกับว่าตัวเองเป็นแค่หมา สุดท้ายยังถูกเขาส่งไปยังโรงพยาบาลชุมชนที่อยู่ห่างไกลที่ไม่มีโอกาสก้าวหน้า เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธเขาออกแรง รู้สึกว่ามีแรงแปลกๆ ออกมาจากจุดตันเถียน ไปถึงท่อนแขนของเขาในทันที จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกึก ประตูที่ถูกล็อคก็หักแกเป็นสองท่อนหลี่ไห่ตงกำลังจะกอดแพทย์หญิงคนนั้นทำเรื่องงามไส้ มีสายตามองจากข้างนอกเข้าไป อีกทั้งเรือนผมยาวส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1460 ความคิดชั่วร้าย

    ทันใดนั้นก็มีเสียงเบรกดังมาจากด้านหน้าผู้หญิงคนหนึ่งขี่สกู๊ตเตอร์ชนจนล้มกระแทกพื้น เด็กที่อยู่ข้างหลังก็กระเด็นห่างออกไปหลายเมตรเช่นกันหน้าที่ของแพทย์ทำให้เย่จิ่งหลานเหาะไปข้างหน้า กระโดดไปหลายสิบเมตรในก้าวเดียว และลงจอดต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นรถที่ผ่านไปมาต่างก็อึ้งกันไปหมด นี่กำลังถ่ายหนัง หรือเรื่องจริง?คนนี้ไม่มีสายสลิงผูกอยู่บนตัวนั้นา แล้วทำไมเขาถึงเหาะได้ไกลขนาดนี้ในคราวเดียวล่ะ?เย่จิ่งหลานเองก็สะดุ้งนี้...มันเป็นไปได้อย่างไรเป็นวรยุทธ์งั้นหรือเขาไม่มีเวลาคิด ก้มลงห้ามเลือดของผู้หญิงคนนั้นทันที กลิ่นเลือดปะทะเข้าจมูกของเขา หัวใจพลันสั่นขึ้นมาเล็กน้อยดูเหมือนมีบางอย่างตื่นขึ้นมา ไฝแดงระหว่างคิ้วก็สว่างวาบขึ้นเล็กน้อยมือของเขานิ่งค้าง จากนั้นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หลายคนก็วิ่งเข้ามา“คุณคนนี้ คุณเป็นหมอเหรอ”เย่จิ่งหลานพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว“ฉันเป็นศัลยแพทย์”คนที่ดูเหมือนพยาบาลกล่าวว่า “คนไข้ได้รับบาดเจ็บสาหัส คุณช่วยตามพวกเราไปที่รถพยาบาล ช่วยรักษาฉุกเฉินได้ไหม”เย่จิ่งหลานสูดหายใจเข้าลึกๆ“ได้”เขาก้าวเข้าไปในรถพยาบาล ผู้หญิงและเด็กถูกพาไปที่เตียงในรถพยาบาล

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1459 เรื่องด่วน

    “ไม่ ข้าไม่เคยสงสัยเจ้าเลย ข้าแค่คิดว่า เจ้าและชิงฮุยอาจไม่ได้เป็นแค่ราชาแคว้นกับขุนนางธรรมดาแบบนั้น”อินชิงเสวียนหยุดชั่วคราวและพูดว่า “แม้ว่าข้าจะไม่เข้าใจหลักการวิทยายุทธ์ของแคว้นเฟยเหยา แต่รู้ว่าวิทยายุทธ์แบบเดียวกันนั้นมักจะมีรากเหง้าเดียวกันที่สามารถใช้ค้นหาร่องรอยได้ หากเจ้าใช้ความพยายาม ก็ไม่น่าจะยากที่จะพบตัวชิงฮุย แต่ว่า ที่ข้ามาที่นี่ก็ไม่มามาถามเรื่องเขาทั้งหมด”“โอ้?”ลั่วสุ่ยชิงเงยหน้าขึ้น มองไปยังอินชิงเสวียน“ข้าอยากรู้ หากแก่นวิญญาณของเจ้าและแก่นวิญญาณของชิงฮุยมาพบกันในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน จะเกิดผลที่ตามมาอย่างไร”“ไม่แน่ใจ”ลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างตรงไปตรงมา“ข้ามีลางสังหรณ์ว่าชิงฮุยอาจทำลายแก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลาน ยึดร่างกายของเขา ดังนั้นจึงซ่อนแก่นวิญญาณของตัวเองไว้ในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน โดยใช้วิธีเข้าฝัน...”ลั่วสุ่ยชิงคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดต่อว่า “ตามหลักการปกติทั่วไป แก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานอาจได้รับผลกระทบ ซึ่งอาจทำให้สมองสดใสน้อยลง แต่ไม่ต้องการให้เขาหายตัวไปโดยสิ้นเชิง เมื่อข้าลองใช้วิธีการเข้าฝันอีกครั้ง แต่ข้าไม่สามารถสัมผัสถึงลมปราณของเ

DMCA.com Protection Status