หน้าหลัก / รักโบราณ / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 858 คนทรยศของเพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิง

แชร์

บทที่ 858 คนทรยศของเพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิง

ผู้เขียน: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-06-16 16:00:00
ยามราตรีมาเยือนอย่างรวดเร็ว

เหลาสุราได้กลายเป็นสถานที่รวมพลของจอมยุทธ์ผู้กล้าอีกครั้ง

วัตถุประสงค์ของการสนทนาในวันนี้กลายเป็นหัวข้อเรื่องพิณการเวก

เมื่อรู้ว่าพิณถูกทำลาย ทุกคนต่างพร่ำบ่นอยู่ในใจ

อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นซูถูเสียชีวิตไปก่อนหน้า ก็ไม่มีใครกล้าไปสอบถามที่หอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ด้วยฌานตบะของเจ้าสำนักเซี่ยว การจัดการกับพวกเขานั้นง่ายเหมือนกับการบีบมดให้ตาย

แต่ถึงไม่กล้าไป ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่กล้าพูด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากซดน้ำเมาไปสองสามถ้วย ทุกคนก็พูดคุยกันอย่างกระตือรือร้นมากขึ้น กระทั่งหลังคาของเหลาสุราก็แทบจะพลิกคว่ำ

ฉุยอวี้รู้สึกหงุดหงิดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อได้ยินเสียงเอะอะของคนเหล่านี้ ก็อดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นยืน ขณะที่กำลังจะแผลงฤทธิ์ ก็ได้ยินบริกรด่าว่า “คนชั้นต่ำอย่างเจ้า ไม่รู้หรือว่าใครเป็นเจ้าของเหลาสุราแห่งนี้ กล้าดีอย่างไรมาชักดาบค่าอาหารที่นี่”

มีเสียงดังปัง ชายหนุ่มร่างผอมคนหนึ่งถูกเตะออกไปหลายจั้ง และกลิ้งไปหยุดที่ปลายเท้าของฉุยอวี้

“ไอ้เด็กเปรตนี่ รีบจ่ายเงินมาเร็ว ไม่งั้นอุ้งมือทั้งสองข้างของเจ้าก็ไม่ต้องเอาแล้ว”

บริกรเดินบีบเข้าไปใกล้ สีหน้าข
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 859 ธิดาเทพ

    “เจ้าเป็นใคร เหตุใดถึงรู้จักเพียวเมี่ยวอิ๋นเฉิง”ฮั่วเทียนเฉิงมองไปที่คนในชุดดำคนผู้นั้นกำลังเผชิญหน้ากับฉุยอวี้ แต่ยังมีพลังเหลือเฟือ ตอบอย่างใจเย็น “เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องนี้ แม้ว่าเพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิงและตำหนักเทพหอทองคำจะเป็นปฏิปักษ์ต่อกันมานานหลายปี แต่ก็แค่ประลองยุทธ์กันเท่านั้น หวังว่าทั้งสองท่านจะปล่อยคนผู้นี้มาให้ข้า อย่าให้คนผู้เดียวมาทำลายไมตรีระหว่างสองสำนักเลย”สายตาของฮั่วเทียนเฉิงยังคงจับจ้องไปที่คนชุดดำ เห็นฝ่ามือของเขาตกลงมาอย่างแผ่วเบาสง่างาม แต่มีพลังรัศมีที่ลุกโชน ดวงตาก็ค่อยๆ เยียบเย็น“เพียวเมี่ยวสิบสามท่า ที่แท้เจ้ามาจากเพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิงจริงๆ เช่นนั้นก็ควรถูกฆ่า!”น้ำเสียงของฮั่วเทียนเฉิงเย็นชา เหาะขึ้นไปในอากาศ ก่อเกิดพลังงานสีม่วงในฝ่ามือ และรวบตัวคนชุดดำไว้ด้วยวิชาฝ่ามือทันที“ฉุยอวี้ เจ้าพาคนผู้นี้ออกไปก่อน ข้าจะสกัดไว้ข้างหลังเอง”ฉุยอวี้พยักหน้า ถ้าเฮิ่นเทียนเป็นคนทรยศของเพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิงจริงๆ เช่นนั้นก็เป็นประโยชน์กับนางมากนางแกล้งสับขาหลอก และเหาะถอยออกมา จากนั้นก็หิ้วร่างของเฮิ่นเทียนกลับไปที่สำนักเซียวเหยา อย่างรวดเร็วคนชุดดำยิ้มเยา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-16
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 860 คนภักดีโง่ๆ

    เฟิงเอ้อร์เหนียงตกใจ“หรือว่าเลือกธิดาเทพคนใหม่แล้ว?”ฮั่วเทียนเฉิงกล่าวว่า “มิได้”ฉุยอวี้แค่นเสียงหึพูดว่า “คงพบคนที่คล้ายกับพี่หญิงใหญ่กระมัง...”เมื่อพูดถึงตรงนี้ นางก็นึกถึงอินชิงเสวียน จึงรีบหุบปากทันทีฮั่วเทียนเฉิงไม่ได้ปฏิเสธ แต่พูดเสียงเรียบ “นี่คือการตัดสินใจของเจ้าตำหนัก เจ้าและข้าไม่มีสิทธิ์ปริปาก”จากนั้นเขาก็กล่าวอย่างทอดถอนใจ “คิดไม่ถึงว่าจะมีคนหน้าตาคล้ายกันมากถึงเพียงนี้ หลายวันนี้ข้าได้พบกับแม่นางแซ่อินผู้หนึ่ง ดูคล้ายกับพี่หญิงใหญ่ของพวกเจ้ามาก”ฉุยอวี้และเฟิงเอ้อร์เหนียงต่างก็พูดพร้อมกันทันที “ไม่เหมือนเลยสักนิด”เฟิงเอ้อร์เหนียงไอแห้งๆ แล้วพูดว่า “แม่นางอินงดงามหยาดเยิ้มเกินไป ไม่เหมือนพี่หญิงใหญ่ที่สวยบริสุทธิ์ดุจเทพธิดาบนสรวงสวรรค์”ฮั่วเทียนเฉิงกล่าวว่า “ข้ากลับคิดว่านางดูคล้ายมาก แม่นางอินสวยแต่ไม่ธรรมดา มีเสน่ห์แต่ไม่เย้ายวน ท่วงท่าสง่างามดุจดอกกล้วยไม้ บุคลิกผ่าเผย สุขุมเยือกเย็น สตรีเช่นนี้หาชมได้ยากจริงๆ”ครั้งแรกที่ฮั่วเทียนเฉิงเห็นอินชิงเสวียนชัดเจน คือตอนที่นางหมดสติ ซึ่งทำให้เขาตกใจมาก แต่ก็แค่ตกใจเท่านั้นโลกใหญ่ไพศาล ไร้พิสดารไม่มี มนุษย์ใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-16
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 861 พบเฟิงเอ้อร์เหนียงอีกแล้ว

    วันถัดไปเสียงหัวเราะของเสี่ยวหนานเฟิงปลุกอินชิงเสวียนให้ตื่นเมื่อลุกขึ้นจากเตียง ก็เห็นสองพ่อลูกกระโดดเล่นบนเตียงทันทีเย่จิ่งอวี้ก็กระโดดขึ้นลงบนเตียงเหมือนเด็กตัวใหญ่ เสี่ยวหนานเฟิงถูกเขย่าจนล้มหงายหลัง อ้าปากหัวเราะไม่หยุดอินชิงเสวียนยกมุมปากยิ้มอย่างอดไม่ได้ ไม่คาดคิดว่าฮ่องเต้หนุ่มจะมีด้านที่เป็นเด็กเช่นนี้ ผู้ชายเป็นเด็กเสมอ คำพูดนี้ว่าไว้ไม่มีผิดเลย”นางแปรงผม สวมรองเท้า แล้วเดินลงพื้น“พวกเจ้าตื่นนานแล้วหรือ”เย่จิ่งอวี้หยุดทันที“พวกเราปลุกเสวียนเอ๋อร์หรือเปล่า”อินชิงเสวียนเหลือบมองนาฬิกาเรือนใหญ่ที่แขวนอยู่บนร้านค้าสะสมคะแนน ตอนนี้เป็นเวลาเก้าโมงแล้ว“เปล่า สายป่านนี้แล้ว ถ้าข้ายังไม่ตื่น คงกลายเป็นหมู”เย่จิ่งอวี้ก้มลงอุ้มเสี่ยวหนานเฟิงขึ้นมา ทันทีที่ดีดปลายเท้า คนก็มาอยู่ตรงหน้าอินชิงเสวียนแล้ว“ในโลกนี้มีหมูที่น่ารักเหมือนเสวียนเอ๋อร์ด้วยหรือ ถ้ามี ข้าอยากจะเลี้ยงไว้สักตัว”“เชอะ ไม่สนใจท่านแล้ว”อินชิงเสวียนร้องเชอะ แล้วนึกในใจ จากนั้นทั้งหมดก็ออกมาอยู่ในห้องบนโต๊ะมีกับข้าวสี่อย่างและโจ๊กสองชามตอนนี้ยังร้อนๆ อยู่ ดูเหมือนว่าเพิ่งถูกส่งมาไม่นานนี้เอง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-16
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 862 การตักเตือนจากฉุยอวี้

    เฟิงเอ้อร์เหนียงถอนหายใจแล้วพูดว่า “ตอนนี้เจ้าเป็นคนดังของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ต่อให้พี่หญิงมีความกล้าขนาดไหน พี่หญิงก็ไม่กล้าทำอะไรเจ้าหรอก”“ข้ากับเจ้าไม่สนิทกัน ไม่ต้องมาเรียกพี่หญิงน้องหญิง เป่าเล่อเอ่อร์ เราไปกันเถอะ”อินชิงเสวียน ไม่ต้องการพูดไร้สาระกับเฟิงเอ้อร์เหนียง จึงจูงมือเป่าเล่อเอ่อร์ออกไป แต่กลับเห็นฉุยอวี้เดินออกมาจากฝูงชน“อวิ๋นลี่ เจ้ากำลังดูอะไรอยู่”ในขณะที่พูด ฉุยอวี้ก็มองเห็นอินชิงเสวียนแล้วนางแปลกใจระคนยินดี รีบเดินไปหาอย่างรวดเร็วอินชิงเสวียนขมวดคิ้วเล็กน้อย อันที่จริงนางไม่ต้องการเกี่ยวข้องกับสำนักเซียวเหยา แต่จะทำเช่นไรได้เมื่อมีบุญคุณติดค้างอยู่ หยกเย็นชิ้นนั้นยังสวมอยู่บนคอของเย่จิ่งอวี้ จำต้องยอบกายคารวะ “น้อมคำนับเจ้าสำนักฉุย”ฉุยอวี้เอื้อมมือไปช่วยพยุงอินชิงเสวียนขึ้นมา แล้วมองนางขึ้นๆ ลงๆ อย่างตรวจสอบความเรียบร้อย “ช่วงนี้แม่นางอินสบายดีหรือ”อินชิงเสวียนยิ้มบางๆ “ขอบคุณเจ้าสำนักฉุยที่เป็นห่วง ทุกอย่างเรียบร้อยดี”ฉุยอวี้ถามอีกครั้ง “แล้วหยกเย็นชิ้นนั้น เจ้ายังใส่อยู่หรือไม่”“ของขวัญจากเจ้าสำนัก ชิงเสวียนจะกล้าวางทิ้งได้อย่างไร ข้าเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-17
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 863 หรือมีเจตนาแอบแฝงจริงๆ

    “ได้สิ ขอแค่เจ้าบอกมา ข้าก็ทำให้เจ้าได้”หลังจากที่อินชิงเสวียนพูดจบ นางก็อดไม่ได้ที่จะบ่น“ทำไมพวกเจ้าแซ่เย่ถึงชอบกินนัก มีแต่พวกตะกละ”เย่จิ่งหลานเบะปาก“จริงๆ แล้วข้าแซ่โค่วสือเย่ ยกไปเทียบกับพวกเขาไม่ได้”เขายืดเส้นยืดสายพูดว่า “วันนี้ทำได้พอสมควรแล้ว กลับกันเถอะ ส่วนที่เหลือให้ช่างฝีมือเหล่านั้นติดตั้งก็เสร็จแล้ว”พอดีกับที่เป่าเล่อเอ่อร์ก็เล่นสนุกจนพอใจแล้ว ทั้งหมดจึงกลับไปที่หอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ทันทีที่เข้าประตู เขาก็ได้ยินเสียงหัวเราะเบิกบานของเจ้าสำนักเซี่ยวฮวาเชียนยกชามอาหารมาถึงลานบ้านพอดี อินชิงเสวียนถามทันทีว่า “เจ้าสำนักเฮ่อมาที่นี่หรือ”ฮวาเชียนยิ้มและพูดว่า “เป็นท่านฮั่ว กำลังดื่มสุรากับท่านตาของเจ้าแหนะ”หัวใจของอินชิงเสวียนเต้นเล็กน้อยหรือว่าที่เขามาที่นี่ มีเจตนาแอบแฝงจริงๆ?“อาอวี้ล่ะ?”“ออกไปลาดตระเวนกับคุณชายอิน”ฮวาเชียนพูดจบก็เดินเข้าไปอินชิงเสวียนส่งเป่าเล่อเอ่อร์กลับไปที่ห้อง กำลังจะไปดูที่ห้องโถง ทันใดนั้นนางก็ได้ยินเสียงคนตะโกนที่ประตู “แม่นางอิน!”อินชิงเสวียนหันกลับมา ก็เห็นว่าเฮ่อฉางเฟิงเดินเข้ามาจากประตูพร้อมกับหยวนเป่าในมือของเส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-17
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 864 ไป๋เสวี่ยผิดปกติ

    “ไป๋เสวี่ย!”อินชิงเสวียนตกใจช่วงนี้ปล่อยเจ้าสุนัขให้วิ่งอย่างอิสรเสรี แม้ว่ามันจะเตร็ดเตร่ไปทั่ว แต่ก็ไม่เคยกัดใครก่อนเลย และนอกจากพวกเขาสามคนในครอบครัวแล้ว ไป๋เสวี่ยก็ไม่เข้าใกล้คนอื่น เมื่อเห็นจู่ๆ มันกระโจนเข้าใส่ จึงต้องร้องดุแขนขาบางๆ ของเฮ่อฉางเฟิงไม่ใหญ่พอที่จะให้ไป๋เสวี่ยขย้ำได้สักคำไป๋เสวี่ยมาถึงเบื้องหน้าของเฮ่อฉางเฟิงแล้ว แต่มันไม่ได้กัดคน หัวสุนัขอันใหญ่โตเอียงมอง ดวงตาสีน้ำตาลคู่โตจ้องมองไปที่เฮ่อฉางเฟิงเฮ่อฉางเฟิงก็ตกใจ รีบหลบไปข้างหลังทันที“นี่...สุนัขตัวโตจัง!”อินชิงเสวียนขมวดคิ้วตะโกนว่า “ไป๋เสวี่ย ไปเล่นที่อื่น อย่าทำให้แขกตกใจกลัว”ไป๋เสวี่ยไม่ขยับ ยังคงมองไปที่เฮ่อฉางเฟิง ดวงตาของเจ้าสุนัขคล้ายพิศวงงุนงง สูดดมรอบๆ ตัวของเฮ่อฉางเฟิงแผ่นหลังของเฮ่อฉางเฟิงตั้งตรงทันที ไม่กล้าขยับตัวแม้แต่น้อยเมื่อเห็นว่าไป๋เสวี่ยไม่มีเจตนาที่จะกัดเขา อินชิงเสวียนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ยังคงไม่วางใจ จ้องมองไป๋เสวี่ยอย่างใกล้ชิดไป๋เสวี่ยเดินไปรอบๆ และดมกลิ่นอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หันหน้าไปเห่าบอกความกับอินชิงเสวียนหลายครั้งเสียงเห่าไม่เหมือนจะกัดคน แต่เหมือนก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-17
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 865 เพลงลืมกลุ้ม

    อินชิงเสวียนใช้ทักษะการช่วงชิงโชคลาภกับฮั่วเทียนเฉิงทันที เพียงครู่หนึ่ง ดูเหมือนในหัวจะมีอะไรเพิ่มขึ้นฮั่วเทียนเฉิงขมวดคิ้ว ร่างกายอ่อนแออย่างอธิบายไม่ถูก แต่ยังไม่ทันได้ไตร่ตรอง เขาก็ประกบมือคำนับลาเขาเดินกลับโรงเตี๊ยมอย่างรวดเร็ว กลับเข้าไปในห้องและใช้ประสาทสัมผัสเต็มที่ ทันใดนั้นก็พบว่าตัวเองถูกตัดกำลังภายในให้อ่อนแอลงอย่างอธิบายไม่ได้ทำไมเป็นเช่นนี้หรือว่าเจ้าสำนักเซี่ยววางยาพิษในอาหารและสุรา?ฮั่วเทียนเฉิงรีบนั่งขัดสมาธิ โคจรกำลังภายในตรวจสอบเส้นลมปราณของตัวเอง หลังจากโคจรกำลังภายในหนึ่งรอบ เขาก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นเส้นลมปราณของเขาราบรื่น ไม่มีสัญญาณของพิษ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อจริงๆ หรือว่าตัวเองคุ้นเคยกับการใช้ชีวิตในตำหนักเทพ จนไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้อีก?ฮั่วเทียนเฉิงจิบน้ำ พยายามขจัดสุราในเลือด แต่กลับสำลัก ฮั่วเทียนเฉิงไอแค่กๆ แล้ววางแก้วน้ำกลับคืนที่เดิมวันนี้เขาไปที่หอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ เพราะอยากตรวจสอบว่าในนั้นมียอดฝีมือมากน้อยเพียงใด ซึ่งเขาสรุปได้ว่าพลังวิญญาณนั้นเกี่ยวข้องกับน้ำของอินชิงเสวียน และเขาต้องพานางกลับไปที่ตำหนักเทพเพีย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-17
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 866 สุภาพบุรุษไม่พรากของชอบของผู้ใด

    เฮ่อฉางเฟิงนอนสบายใจเฉิบบนเตียง ยกมือข้างหนึ่งขึ้นเท้าคาง พูดด้วยดวงตาที่หรี่เล็กน้อย “นี่ยังต้องเลือกอีกรึ แน่นอนว่าข้าต้องการทั้งหมด”ดวงตาของหยวนเป่าเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ“คุณชายคงไม่ชิงตัวแม่นางอินกลับไปที่อิ๋นเฉิง ไปเป็นฮูหยินของเจ้าเมืองน้อยกระมัง!”เฮ่อฉางเฟิงกลอกตามองเขาแล้วพูดว่า “สุภาพบุรุษไม่พรากของชอบของผู้ใด แม่นางอินแต่งงานแล้ว ข้าจะเป็นคนถ่อยไร้เมตตาธรรมได้อย่างไร แต่ว่า ถ้าเจ้าเด็กแซ่เย่ปฏิบัติต่อนางไม่ดี ข้าจะไม่นิ่งดูดายเป็นแน่”หยวนเป่าพูดด้วยรอยยิ้มร่า “ข้าดูแล้วสองคนผัวเมียคู่นี้มีความสัมพันธ์ที่ดี คุณชายเลิกคิดดีกว่า แม่นางเก่อหงยวนที่เรารู้จักก่อนหน้านั้น ก็ดูไม่เลวเลยนะขอรับ”“ช่างเถอะ”เฮ่อฉางเฟิงหลับตาอย่างหมดความสนใจหลังจากนั้นไม่นาน เขาก็พูดอย่างใจเย็น “คืนนี้ เราจะลอบสำรวจสำนักเซียวเหยายามวิกาล”เพียงชั่วพริบตาท้องฟ้าก็มืดมิด เย่จิ่งอวี้และอินสิงอวิ๋นก็กลับมาที่หอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์เช่นกันการลาดตระเวนทั้งวันทำให้อินสิงอวิ๋นเลื่อมใสเขาอย่างลึกซึ้งเขาคิดเสมอว่าฮ่องเต้เป็นคนที่มีชีวิตอยู่ดีกินดี แต่เย่จิ่งอวี้กลับเป็นเหมือนคนทั่วไป ตรวจตราไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-06-17

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1540 สองพระองค์ครองราชย์ จบบริบูรณ์

    ปีที่สามของการครองราชย์ในราชวงศ์ต้าโจวฮองเฮาให้กำเนิดพระธิดา ได้รับพระราชทานนามว่าองค์หญิงเจ๋อเทียน นามว่าเจิน มีชื่อเล่นว่าฝูเอ๋อร์ในเดือนเก้าของปีเดียวกัน เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนปกครองร่วมกัน แบ่งกันปกครองบ้านเมืองและการดำรงชีวิตของผู้คน ราษฎรเคารพทั้งสองในฐานะพระองค์ฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา ประวัติศาสตร์ได้บันทึกช่วงเวลานี้ไว้ด้วยถ้อยคำที่งดงามที่สุด และเรียกช่วงเวลานี้อย่างเคารพว่า ยุคที่สององค์ปกครอง!ห้าปีต่อมา เครื่องกำเนิดพลังงานลมเครื่องแรกปรากฏขึ้นด้วยฝีมือความสามารถของชาวต้าโจว ซึ่งก้าวล้ำหน้าสมัยโบราณที่ล้าหลังไปอย่างมากด้วยก้าวที่ยิ่งใหญ่นักเรียนจากทั่วแคว้นได้แสดงความสามารถ พัฒนาสิ่งที่ล้ำหน้าต่างๆ ผ่านความรู้ทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมีใหม่ล่าสุด บุปผานับร้อยบานสะพรั่งพร้อมกัน ก่อให้เกิดยุครุ่งเรืองของราชวงศ์ต้าโจวตอนนี้อาหารไม่ขาดแคลน ราษฎรไม่ต้องทนทุกข์กับความหิวโหยอีกต่อไป ยิ่งไม่มีการอพยพย้ายถิ่นฐาน โครงการคลองส่งน้ำก็สำเร็จลุล่วง ด้วยการคมนาคมสะดวกระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ก็สามารถแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการได้ในที่สุด อ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นยังสามารถเปลี่ยนเส้นท

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1539 เสวียนเอ๋อร์ขอบคุณเจ้านะ

    ตำหนักจินอู๋อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ แต่ไม่กล้าโคจรกำลังภายในต้านทานไว้ เพราะกลัวว่าจะทำร้ายลูกของนางเมื่อเห็นนางกัดริมฝีปากล่างแน่น มีเหงื่อไหลอาบหน้า หัวใจของเย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกเหมือนถูกมีดคมๆ นับพันทิ่มแทง รู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง“ต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาได้ ต้องปล่อยให้นางเจ็บปวดทนทุกข์เช่นนี้หรือ”หมอตำแยกล่าวอย่างกล้าหาญว่า “สตรีคลอดบุตรก็เป็นเช่นนี้เพคะ อดทนไว้ แล้วจะดีเอง”เย่จิ่งอวี้พูดด้วยความโกรธ “ฮองเฮาของข้าจะเทียบได้กับสตรีทั่วไปได้อย่างไร รีบหาทางบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาเดี๋ยวนี้”“ข้าไม่เป็นไร อาอวี้ออกไปก่อนเถอะ!”เสียงของอินชิงเสวียนนั้นอ่อนแรง แม้จะเป็นสามีภรรยากัน แต่ถูกเห็นเข้าในสถานการณ์เช่นนี้ก็น่าอายอยู่เหมือนกันเย่จิ่งอวี้เดินก้าวเดียวก็ไปถึงเตียง จับมือของนางแน่นๆ แล้วพูดอย่างกระวนกระวายใจ “ข้าไม่วางใจ มีวิธีถ่ายทอดความเจ็บปวดให้ข้าได้ไหม เจ้าอยู่กับลั่วสุ่ยชิงมานานแล้ว ไม่ได้เรียนวิชาอาคมอะไรจากนางบ้างหรือ”อินชิงเสวียนเจ็บปวดเจียนตายอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำนี้ก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1538 ไท่เฟยไท่ผินออกจากวัง

    อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดและกล่าวว่า “ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ วันนี้เป็นวันแต่งงานของไห่ถัง ในฐานะพี่ชาย ควรเป็นประธานงานแต่งของนางด้วยตนเอง หากไม่มีคนในราชวงศ์ไป ไห่ถังจะผิดหวังได้”แม้น้องสาวจะเป็นญาติ แต่ก็ไม่ชิดเชื้อเท่ากับภรรยา ลูกคนแรกเกิดในตำหนักเย็น ซึ่งทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกผิดไปครึ่งชีวิตแล้ว ยากนี้เด็กคนนี้คือสมบัติล้ำค่าที่แท้จริงระหว่างพวกเขา ในฐานะพ่อของลูก เขาจะจากไปได้อย่างไรเมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางซีด มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายขึ้นเต็มขมับของนาง เย่จิ่งอวี้ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อปลอบนาง “ไม่เป็นไร มีแม่ทัพอินและจอมพลกวนอยู่ด้วย ไห่ถังก็ไม่นับว่าเสียเกียรติอะไรนัก”อินชิงเสวียนคว้าแขนของเขา“จะได้อย่างไร หากไม่มีใครจากในวังไป มันจะกลายเป็นปมในใจของไห่ถังอย่างแน่นอน นี่คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนาง”ไม่ว่าอย่างไรเย่จิ่งอวี้ก็ไม่ยอมไป แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้น้องสาวเสียหน้าได้ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มีความคิดอยู่ในใจ“เจวี๋ยอิ่ง ไปเชิญไท่เฟยไท่ผินทุกท่าน ให้พวกนางออกจากวัง ร่วมงานเสกสมรสขององค์หญิงเดี๋ยวนี้”ทุกคนตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่จิ่งอวี้จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1537 ฮองเฮาทรงมีพระประสูติการ

    เย่ไห่ถังยังคงมีความสุข แต่จู่ๆ เสียงของหลี่เต๋อฝูก็ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเปิดประตู เห็นเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้ยืนอยู่ที่กลางเรือน น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตา“ไห่ถังคารวะเสด็จพี่ เสด็จพี่สะใภ้เพคะ!”เย่ไห่ถังกำลังจะคุกเข่าลง แต่เย่จิ่งอวี้ก็ปราดเข้าประคองนางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในฐานะสตรีที่ออกเรือนแล้ว ทุกสิ่งต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม จะทำตัวเหลวไหลซุกซนเหมือนอยู่ในวังไม่ได้ หากใช้ชีวิตนอกวังจนเบื่อแล้ว ก็สามารถกลับมาได้ตลอดเวลา วังหลวงจะเป็นบ้านของเจ้าตลอดไป”อินชิงเสวียนก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ถ้าพี่รองของข้ารังแกเจ้า เจ้าก็บอกข้าได้เลย ข้าจะทวงความยุติธรรมให้กับเจ้าแน่นอน”ถ้าคนที่เย่ไห่ถังแต่งงานด้วยไม่ใช่อินปู้อวี่ เย่จิ่งอวี้คงพูดคำนี้ไปนานแล้วเย่ไห่ถังสูดจมูก“ขอบพระทัยเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้เพคะ ตอนแรกข้าค่อนข้างมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่อยากจากไปเลย”เมื่อเห็นว่าจมูกของเย่ไห่ถังแดง กำลังจะร้องไห้อีก เย่จิ่งอวี้จึงตีหน้าขรึมพูดทันที “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าจะให้คนไปแจ้งอินปู้อวี่ ว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่มีแล้ว หลี่เต๋อฝู!”หลี่เต๋อฝูก็เป็นคนเจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1536 องค์หญิงกำลังจะเสกสมรส

    ในวันที่หนึ่งเดือนสี่ ลำดับการสอบการต่อสู้ชี้ให้เห็นว่า เฉินเซียงเยว่ที่อินชิงเสวียนสนใจ สอบได้ลำดับหนึ่ง คนผู้นี้หน้าตาดูดุร้ายและน่าเกลียด แต่กลับมีจิตใจอ่อนโยนดังเช่นสตรี ไม่เพียงแต่วรยุทธ์ดีเลิศเท่านั้น แต่ยังเก่งในเรื่องการจัดขบวนทัพด้วย เป็นยอดแม่ทัพที่หาได้ยากนางได้ลำดับหนึ่งก็คือจอหงวนด้านวิชาการต่อสู้ ไม่มีใครไม่ยอมรับเลย แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็ดูฮึกเหิมมีพลังมากกว่าผู้ชายทุกคนในตอนนั้นเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งแซ่หลิวมีชื่อว่าเยว่ ก็ได้รับเลือกให้ติดอยู่ในสามอันดับแรก รั้งอยู่ในเมืองหลวงฝ่าบาทขานรายชื่อสตรีมามากขนาดนี้ เหล่าขุนนางข้าราชบริพารก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ต่างรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องตามระเบียบประเพณี แต่ก็กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์เป็นการส่วนตัวเท่านั้น ต้าโจวในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ที่ฝ่าบาทยินดีฟังพวกเขา ก็ถือเป็นการให้เกียรติพวกเขาแล้ว หากฝ่าบาทไม่อยากฟัง ถึงพูดมากไปก็ไร้ผลแต่ไม่มีใครกล้าพูดว่าเย่จิ่งอวี้เป็นทรราช ฝ่าบาททรงงานปกครองบ้านเมืองอย่างหนัก แม้ว่าพระองค์จะทรงปฏิรูปครั้งใหญ่ แต่ก็ทำเพื่อประชาชนในราชวงศ์ต้าโจวเท่านั้น ขณะนี้แผ่นดินสงบสุข มีธัญพืชอุดมสมบูรณ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1535 เหลวไหลจริงๆ

    เสียงเรียกว่าท่านพี่นั้นทำให้เย่จิ่งอวี้ใจอ่อนลงมากโข ความโกรธทั้งหมดพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันทีไม่เช่นนั้นจะทำอะไรได้อีก ภรรยาที่เลือกมาเอง มีแต่ต้องตามใจเองเท่านั้น“เจ้าคนโกหกตัวน้อย กลับไปสามีจะคิดบัญชีเจ้าหนักๆ ถอนกำลังภายในของเจ้าออก สามีจะทำแทนเจ้าเอง ประเดี๋ยวจะทำร้ายลูกในท้องเอา”เสียงของเย่จิ่งอวี้เชื่อมโยงเป็นเส้น ไหลผ่านกระทบโสตประสาทของอินชิงเสวียนคำต่อคำอย่างแจ่มชัดนางยกมุมปากขึ้น เผยเป็นรอยยิ้มภาคภูมิใจเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่จิ่งอวี้ นางจึงเปิดโสตประสาท เหตุผลที่ขอให้เย่จิ่งอวี้ช่วย ก็เพราะว่ากำลังภายในในร่างกายของนางซับซ้อนเกินไป ยากต่อการควบคุม ในงานที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาดเย่จิ่งอวี้ไม่เหมือนกัน เขาบำเพ็ญตบะกำลังภายในของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังประสานพลังแห่งฟ้าดิน แม้ว่าอินชิงเสวียนจะมีพลังลมปราณของหลายสำนัก แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับกำลังภายในอันบริสุทธิ์และทรงพลังของฮ่องเต้ได้ในชั่วพริบตา กำลังภายในดุจธารานิ่งลึกหลั่งไหลเข้ามาจากด้านนอกประตู เหมือนโลกลึกล้ำ โอบกอดและยืดหยุ่น บรรยากาศที่มืดมนในห้องโถงคล้ายจะถูก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1534 ท่านพี่ช่วยข้าได้ไหม

    “ฟางรั่วเข้าวัง?”เย่จิ่งอวี้หยุดฝีเท้าหลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมถามองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูวังแล้ว แม่นางฟางรั่วเข้ามาเมื่อสามชั่วยามที่แล้ว”เจวี๋ยอิ่งคุกเข่าลงและพูดว่า “กระหม่อมเห็นฟางรั่วเข้าไปในตำหนักจินอู๋ แต่ไม่เห็นนางและฮองเฮาออกมา”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาคล้ายจะสดใสและมืดมน กำลังตกอยู่ในอาการครุ่นคิดด้วยวรยุทธ์ของฟางรั่ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำอันตรายต่ออินชิงเสวียน นางยังมีใบมีดแห่งมิติอยู่ในมือ แม้ว่าเหล่าเทพเซียนจะลงมาเอง แต่นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้จากมุมมองนี้ ควรไม่ใช่การหายตัวไปง่ายๆ นางเรียกฟางรั่วมา ต้องมีเหตุผลอื่นเป็นแน่เจวี๋ยอิ่งโค้งคำนับและถามว่า “ต้องการให้กระหม่อมปิดล้อมพระนคร สืบหาที่อยู่ของฮองเฮาอย่างถี่ถ้วนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเจวี๋ยอิ่ง“ไม่ต้อง หลี่เต๋อฝู ไปเชิญกวนเซี่ยวเข้ามาด้วย”ครู่ต่อมา กวนเซี่ยวก็วิ่งเหยาะๆ มาถึงประตูตำหนัก ยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงกับพื้น“กวนเซี่ยวถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาททรง...”เย่จิ่งอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รำคาญ โบกมือห้าม“ตามสบาย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมฟางรั่วถึงมาที่วัง”กวนเซี่ยว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

DMCA.com Protection Status