แชร์

บทที่ 768 ลูกคิดถึงเด็จพ่อ

ผู้แต่ง: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“เจ้าค่ะ ชิงเสวียนจะปล่อยเขาออกมาเดี๋ยวนี้”

เมื่อเห็นเจ้าสำนักเซี่ยวไปแล้ว อินชิงเสวียนก็หมดอารมณ์ที่จะกินต่อ

เพื่อไม่ให้เย่จิ่งอวี้หงุดหงิด อินชิงเสวียนจึงอุ้มเสี่ยวหนานเฟิงเข้าไปด้วย

ในมิตินั้นเงียบสงบ แม้ว่าจะไม่มีดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์บนท้องฟ้า แต่ก็สดใสราวกับตอนกลางวัน นอกจากนี้ยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้และผลไม้ที่ปลายจมูก ทำให้คนรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุข

ข้างบ่อน้ำพุวิญญาณ เย่จิ่งอวี้เปลือยกายท่อนบนนั่งขัดสมาธิ หงายฝ่ามือทั้งสองข้างวางบนเข่าทั้งคู่ เรียวตาหงส์คู่นั้นปิดลงเบาๆ ราวกับว่าเขากำลังทำสมาธิ

เมื่อมองดูรูปร่างสูงตระหง่านของเขา กับกล้ามเนื้อหน้าท้องที่ปรากฏเลือนราง อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะแอบชื่นชมเขา

ถ้าเย่จิ่งอวี้เกิดในยุคปัจจุบัน แม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นนักแสดงชื่อดัง แต่ก็ต้องเป็นเน็ตไอดอลที่มีแฟนคลับหลายล้านคนแน่นอน ถึงเขาจะไปเป็นนายแบบ แต่ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเดิมเลย!

ดวงตาของเสี่ยวหนานเฟิงเฉียบคมมาก เขามองเห็นพ่อของเขาแล้ว กางแขนเล็กๆ ออกทันที ตะโกนด้วยแจ๋วๆ “เด็จพ่อ คิดถึงเด็จพ่อ”

เมื่อได้ยินเสียงของลูกชาย เย่จิ่งอวี้ก็ลืมตาขึ้น พร้อมกับความประหลาดใจเล็กน้
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 769 ความรู้สึกของเย่จิ่งอวี้

    เย่จิ่งอวี้ถามอีกครั้ง “แล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่”อินชิงเสวียนถอนหายใจและพูดว่า “ตอนที่ข้าเห็นท่าน ท่านกำลังฉีกร่างคนตงหลิวด้วยมือ แต่เหมือนจะยังไม่สาแก่ใจ หันไปโจมตีศิษย์สำนักอื่นๆ เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดครั้งใหญ่ ข้าต้องพาอาอวี้เข้าไปในมิติก่อน”เย่จิ่งอวี้ตกตะลึงไปชั่วขณะหนึ่ง“ข้าจะโจมตีศิษย์สำนักอื่นจริงหรือ”อินชิงเสวียนถอนหายใจและพูดว่า “นี่เป็นเรื่องจริงแท้แน่นอน ในเวลานั้นเก่อหงยวนก็อยู่ที่นั่น”เย่จิ่งอวี้รู้ว่าอินชิงเสวียนไม่โกหกตัวเอง แต่เขาจำไม่ได้จริงๆ ว่าตัวเองได้กระทำสิ่งนั้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เขาได้นั่งสมาธิข้างน้ำพุวิญญาณ ภาพภูเขาซากศพฝนเลือดก็แวบขึ้นมาในจิตใจเป็นครั้งคราว ความปรารถนาในใจ ทำให้เย่จิ่งอวี้ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติโชคดีที่น้ำพุวิญญาณสามารถระงับความรู้สึกแปลกๆ ได้ จึงหายไปอย่างรวดเร็วนี่เป็นเหตุผลว่า ทำไมช่วงนี้เขาถึงนั่งสมาธิข้างบ่อน้ำพุวิญญาณประการแรกก็เพื่อพัฒนากำลังภายใน และที่สำคัญที่สุดคือการระงับความคิดชั่วร้ายในใจ“เช่นนี้ ก็เลยมีปัญหาบางอย่างกับร่างกายของข้า”อินชิงเสวียนกลัวว่าเขาจะคิดมากเกินไป อาจส่งผลกระทบต่อจิตใจ จึงย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 770 ครั้งนี้ต้องตัดหัวสุนัขของเขาให้ได้

    ดวงตาของเย่จิ่งอวี้แปรเปลี่ยนเป็นความเย็นชา“เขามีชีวิตมานานพอแล้ว ครั้งนี้ต้องตัดหัวสุนัขของเขาให้ได้ ดูว่าจะงอกขึ้นมาใหม่ได้อย่างไร”อินชิงเสวียนตอบอืม พูดว่า “คนเลวทรามเช่นเขา แม้ว่าจะถูกหั่นเป็นชิ้นๆ นับพันครั้งก็ไม่เกินไป หากไม่มีเขา ทหารจำนวนมากในด่านถงกู่ก็ไม่ต้องตายเปล่ามากมายเพียงนั้น”พรุ่งนี้นางสามารถใช้ทักษะช่วงชิงโชคลาภได้อีก แต่นางไม่รู้ว่าทักษะนี้สามารถซ้อนทับได้หรือไม่ หากทำได้ หากได้เจอชายชุดดำอีก นางจะใช้ทักษะนี้ทั้งหมดกับเขา แม้ว่าเขาจะเป็นเทพเซียนผู้ยิ่งใหญ่แค่ไหนก็ตาม ก็ไม่สามารถต้านทานอานุภาพของเทคโนโลยีชั้นสูงได้เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ อินชิงเสวียนก็กระตุกริมฝีปากขึ้นเสี่ยวหนานเฟิงปีนลงมาจากบ้านลมปราสาท วิ่งดุ๊กดิ๊กเข้ามาเหมือนนกเพนกวินตัวน้อย“สวยแม่ เล่น เล่น”เด็กเล่นอยู่คนเดียวออกจะน่าเบื่อไปหน่อย เสียดายก็แต่ไป๋เสวี่ยที่ไม่สามารถเข้ามาในมิติได้ ถ้าทำได้ นางก็จะพาเข้ามาเล่นกับเสี่ยวหนานเฟิงแล้วเมื่อคิดถึงไป๋เสวี่ย อินชิงเสวียนก็คิดถึงความสามารถที่ยอดเยี่ยมในการค้นหาคน“เราอาจใช้ไป๋เสวี่ยค้นหาชายชุดดำที่ไม่ทราบตัวตนคนนั้นได้”เย่จิ่งอวี้ไม่ได้คัดค้านเร

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 771 จับพลัดจับผลู

    อาซือหลานก็มองเห็นอินชิงเสวียนเช่นกันชุดกระโปรงพับกลีบสีชมพูเข้าคู่กับสาวน้อยที่มีความสวยบริสุทธิ์และอ่อนโยน สง่างามและมีเสน่ห์ ราวกับดอกลิลลี่ที่กำลังเบ่งบาน งดงามไม่ซ้ำใคร หยิ่งในศักดิ์ศรีจนยากจะเอื้อมถึงเขากระตุกมุมปากขึ้นมาอย่างไม่อาจห้ามใจได้ ในหัวใจก็ผุดความหวังลึกๆ ขึ้นมาเมื่อมองเย่จิ่งอวี้ที่อยู่ข้างกายของนาง รอยยิ้มของอาซือหลานก็หุบลง ดวงตาราวกับงูพิษที่แสดงความแค้นจนไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้เป็นเพียงแค่สุนัขฮ่องเต้ แทบไม่มีคู่ควรจะยืนข้างกายอินชิงเสวียนเลยด้วยซ้ำ เขาเหมาะสมที่จะเป็นคู่ครองของชิงเสวียนมากกว่าเสียอีก มีเพียงแค่เขาที่สามารถมอบความสุขอันยิ่งใหญ่ที่สุดให้แก่อินชิงเสวียนได้ในหัวสมองมีเค้าโครงภาพแบบนั้นแบบนี้ อาซือหลานรู้สึกถึงอาการร้อนวูบวาบในท้อง และนิ้วมือก็สั่นเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้เมื่อรู้สึกถึงดวงตาทั้งสองข้างที่จ้องมองมาที่ตัวเอง อินชิงเสวียนก็รู้สึกขนลุกทั่วทั้งตัวขึ้นมาในทันที สุนัขชั้นต่ำ วันนี้ก็คือวันตายของเจ้า!เจ้าสำนักเซี่ยวนั่งลงด้านข้างของเฮ่ออวิ๋นทง“เมื่อวานสำนักกระบี่สังหารเกิดการสูญเสียอะไรบ้าง?”เฮ่ออวิ๋นทงพูดด้วยจิตวิญญาณที

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 772 เขาเป็นหลานชายของข้า

    กวนเซี่ยวตกใจเล็กน้อย ไม่รู้ว่าควรตอบอย่างไรในเวลาสั้นๆ อีกทั้งเขายังไม่เชื่อคำพูดของผู้หญิงคนนี้หญิงสาวเห็นว่าเขาไม่พูดจา จึงค่อยๆ พูดโน้มน้าว “เจ้าคงจะเป็นลูกศิษย์ของสำนักใดสำนักหนึ่งสินะ ในเมื่อเป็นชาวยุทธภพ ก็ไม่มีผู้ใดที่ไม่ปรารถนาในอำนาจ ขอเพียงมีอำนาจคับฟ้า ผู้หญิงทุกคนต่างแย่งกรูกันเข้าไป ผู้ที่เคยเหยียบย่ำเจ้าไว้ใต้ฝ่าเท้าในอดีต จะเงยหน้าขึ้นและมองดูเจ้าซึ่งอยู่เหนือกว่า เจ้ามีความเห็นอย่างไรบ้าง?”แม้ว่าผู้นี้จะเป็นคนที่สุนัขชั้นต่ำส่งมาก็ไม่เป็นไร ขอเพียงสามารถช่วยนางปลดจากโซ่เหล็กได้ นางก็จะได้เห็นเดือนเห็นตะวันอีกครั้งเมื่อนึกถึงฟางรั่ว กวนเซี่ยวก็รู้สึกใจเต้นเล็กน้อยแต่กลับถามออกมาอย่างอดไม่ได้“ผู้ใดจับท่านมาขังไว้ที่นี่ และผู้ที่สวมรอยเป็นท่านคือผู้ใดกัน?”หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงเคียดแค้นว่า “มันคือสัตว์เดรัจฉานที่แฝงตัวเข้ามาในสำนักเซียวเหยา เขามีนิสัยดุร้ายและเจ้าเล่ห์ มีไฝน้ำตาอยู่ที่มุมตาของเขา สิ่งที่ข้ารู้เกี่ยวกับเขาก็มีเพียงเท่านี้”เมื่อได้ยินคำว่าไฝน้ำตา กวนเซี่ยวก็หายใจถี่ขึ้น“เขามีอายุราวยี่สิบกว่าปี หน้าตาหล่อเหลา ไฝน้ำตาอยู่ที่มุมตาซ้ายใ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 773 อาซือหลานสิ้นใจ

    อินชิงเสวียนจึงทำการแลกทักษะห้าสิบห้าสิบ ไม่ว่าอย่างไรวันนี้จะต้องฆ่าตัวหายนะนี่ให้ตายเมื่อเห็นอินชิงเสวียนโจมตีตัวเอง อาซือหลานก็ดีใจมากในการรับรู้ของเขา อินชิงเสวียนเป็นผู้ที่อ่อนแอที่สุดท่ามกลางคนเหล่านี้อย่างไม่ต้องสงสัย ตราบใดที่สามารถจัดการนางได้ ก็จะสามารถใช้นางกดดันเจ้าสำนักเซี่ยว เพื่อหนีไปจากที่นี่จากนั้นก็รีบรวบรวมกำลังภายในไว้ที่ฝ่ามือขวา และพูดเสียงเหยาะแหยะว่า “หากชิงเสวียนยอมฝังร่างไปพร้อมกับข้า ข้าจะยอมตายเพื่อเจ้าในทันที”เมื่อสิ้นเสียงลง ก็รู้สึกว่ากำลังที่ทรงพลังยิ่งใหญ่โจมตีมาจากฝ่ามือของอินชิงเสวียน อาซือหลานรู้สึกเจ็บหน่วงที่หน้าอก แม้ว่าเขาจะพยายามที่จะอดกลั้นเอาไว้ แต่เลือดสดก็ยังไหลออกมาจากมุมปากสีหน้าก็ซีดขาวในทันทีเหตุใดแม้แต่อินชิงเสวียนก็มีศักยภาพมากพอที่จะต่อสู้กับเขาได้ พวกเขาแอบทำกลอุบายอะไรใส่ตัวเองกันแน่? อินชิงเสวียนก็กระอักเลือดออกมาเต็มปากเช่นกัน ความสามารถทักษะห้าสิบห้าสิบของนางทักษะนี้ เมื่อเจอศัตรูที่มีความแข็งแกร่ง ตัวเองก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น แต่ก็มีข้อเสียเช่นกัน หากศัตรูได้รับความบาดเจ็บอย่างไร นางก็จะได้รับเช่นกันแต่

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 774 ท่วงทีที่สง่างามของผู้แข็งแกร่ง

    เจ้าสำนักเซี่ยวหันกลับไปพร้อมฝ่ามือภายใต้ความโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ พลังอานุภาพจึงน่าสะพรึงกลัวอย่างมากเมื่อสองฝ่ามือปะทะกัน ลมแรงก็ถูกกระตุ้นขึ้นมาในทันทีอินชิงเสวียนตามมาด้านหลัง และจำได้ว่าเขาคือผู้ที่ลักพาตัวของตัวเองมา“ผู้อาวุโสเซี่ยว เขานี่แหละ!”นางตะโกนเสียงดัง แลกทักษะห้าสิบห้าสิบอีกครั้ง และฟาดไปยังด้านหลังของชายชุดดำชายชุดดำถูกกำลังภายในอันมหาศาลของเจ้าสำนักเซี่ยวปะทะจนถอยหลังไปหลายก้าว และหลบจากการโจมตีของอินชิงเสวียนได้อย่างหวุดหวิด“เจ้าคือใครกันแน่? เหตุใดต้องทำร้ายอวี้เอ๋อร์เช่นนี้ด้วย?”เจ้าสำนักเซี่ยววางเย่จิ่งอวี้ลง และคุ้มกันเขาไว้ด้านหลังของตัวเอง ดวงตาคู่หนึ่งจ้องไปที่ชายชุดดำอินชิงเสวียนฉวยโอกาสนี้มาอยู่ข้างกายเย่จิ่งอวี้“อาอวี้ ท่านรีบตื่นขึ้นมาสิ!”เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นข้างหู สายตาของเย่จิ่งอวี้ค่อยๆ ฟื้นสู่ความปกติเขาจับมือที่เย็นเล็กน้อยของอินชิงเสวียน และพูดปลอบใจว่า “เสวียนเอ๋อร์ไม่ต้องกลัว ข้าไม่เป็นไร”เมื่อเห็นว่าเขายังจำตัวเองได้ อินชิงเสวียนก็ถอนหายใจออกมาเบาๆระหว่างที่ทั้งสองพูดคุยกันนั้น เจ้าสำนักเซี่ยวปะทะฝ่ามือกับเข

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 775 บอกลา

    จังอวี้จิ่นยิ้มแล้วพูดว่า “การได้ฉลองปีใหม่ที่ริมทะเลก็ดีเช่นกันนะเพคะ แม้ว่าหม่อมฉันจะเกิดอยู่ในหมู่บ้านประมง แต่ก็เคยเห็นเพียงแค่แม่น้ำ ไม่เคยได้เห็นทะเลที่กว้างใหญ่เช่นนี้มาก่อนเลยเพคะ”“ทะเลเป็นสถานที่ที่ทำให้ผู้คนรู้สึกโล่งใจ เพียงแต่น่าเสียดายที่ช่วงนี้ยังไม่สงบ ข้าจึงไม่มีทางพาพวกเจ้าไปเล่นที่ริมทะเล”เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ อินชิงเสวียนรู้สึกเสียดายเล็กน้อยเมื่อลองคิดดูอีกครั้ง ชาวตงหลิวพ่ายแพ้ติดต่อกันหลายครั้ง แม้ว่าจะหวนกลับคืนมาอีกก็ต้องใช้เวลาอีกสักพัก สองวันนี้น่าจะยังปลอดภัยอยู่“วันนี้ตอนบ่าย พวกเจ้าทั้งสองตามฝูอี้อ๋องออกไปเล่นสิ!”เมื่อสิ้นเสียงของอินชิงเสวียน เย่จิ่งหลานก็วิ่งออกมาจากห้อง“อินชิงเสวียน ดูเหมือนว่าข้าจะมีกำลังภายในบ้างแล้ว”อินชิงเสวียนไม่ค่อยอยากเชื่อ เพราะว่าเขาเพิ่งได้วิชากำลังภายในมาเมื่อวานนี้“จริงหรือ?”เย่จิ่งหลานพยักหน้าด้วยใบหน้าที่ตื่นเต้นดีใจ“หรือว่าเจ้าจะลองให้ข้าฟาดฝ่ามือดูล่ะ?”อินชิงเสวียนรีบปฏิเสธในทันที“ข้าไม่มีวิชาการต่อสู้ เจ้าไปฝึกซ้อมกับหวังซุ่นเถอะ อ้อ จริงด้วย อาซือหลานตายแล้วนะ”“เขา... ตายแล้วจริงหรือ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 776 ใต้ท้องทะเล

    ไม่รู้ว่าเมื่อใดที่พระจันทร์ขึ้นอย่างเงียบๆ แสงจันทร์ที่สว่างไสวสะท้อนกับผิวน้ำทะเล พื้นผิวสีฟ้าครามของน้ำทะเลดูเหมือนจะถูกเคลือบด้วยแสงสีเงินจางๆฟางรั่วนั่งอยู่บนหินโสโครกก้อนหนึ่ง เมื่อมองผิวน้ำทะเลซึ่งไม่มีที่สิ้นสุด ในใจก็คิดถึงท่านแม่และน้องชายทันใดนั้นดูเหมือนนางจะเห็นท่านแม่และน้องชายจับมือกัน และเดินขึ้นจากพื้นผิวทะเลมาหานาง“ลูกรัก รีบขึ้นมาหาแม่เร็วเข้า”ท่านแม่กวักมือเรียกนางด้วยใบหน้าที่รักและเมตตา น้องชายก็ตะโกนเรียกเสียงหวานว่า “ท่านพี่ พี่รีบมานี่สิ!”ฟางรั่วค่อยๆ ลุกขึ้นยืน ทันใดนั้นใบหน้าซีดขาวก็มีแดงเป็นเลือดฝาดขึ้นมาสองแถบนางพูดพึมพำเบาๆ ว่า “ท่านแม่ น้องเล็ก ข้าจะไปหาพวกท่านเดี๋ยวนี้”น้ำทะเลที่มีความอุ่นห่อหุ้มเท้าเปลือยเปล่าของฟางรั่ว ราวกับสองมือของท่านแม่ที่อบอุ่นเป็นอย่างมากนางพูดเสียงดังอีกครั้งว่า“ท่านแม่ น้องเล็ก ข้ามาแล้ว!”ทันใดนั้น ฟางรั่วก็รีบตะบึงอย่างบ้าระห่ำ น้ำทะเลเปียกโชนเอวของนางอย่างรวดเร็ว และไม่นานก็ถึงหน้าอกของนางความรู้สึกหายใจไม่ออกแผ่ซ่านเข้ามา ฟางรั่วปิดตาสองข้างอย่างเงียบสงบขณะนั้น แขนอันแข็งแกร่งคู่หนึ่งยื่น

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1468 อย่าได้คืบจะเอาศอก

    “สามวันติดแล้ว ที่ข้าสัมผัสลมปราณของชิงฮุยไม่ได้ หรือว่าเขาจะ...”ที่ด้านบนยอดเขา อินชิงเสวียนหยิบโต๊ะพกพาขนาดเล็กและเบาะที่นั่งสองที่นั่งออกมา ซึ่งบนโต๊ะเต็มไปด้วยน้ำผลไม้และอาหารอร่อยแม้จะบอกว่าออกมาตามหาคน แต่ในเมื่อมีปัจจัยที่อุดมสมบูรณ์เช่นนี้ ทำไมต้องไปทนทุกข์ทรมานโดยไม่จำเป็นล่ะนางหยิบนมพุทราจีนหนึ่งแก้วขึ้นมา แล้วยื่นให้ลั่วสุ่ยชิง“ว่ากันว่าถ้ากินพุทราจีนประจำ จะไม่แก่เร็ว มาลองกัน”ลั่วสุ่ยชิงหยิบขวดโยเกิร์ตขึ้นมาจิบ มันมีรสหวานอมเปรี้ยวและรสชาติค่อนข้างดี ในช่วงไม่กี่วันที่ออกมาข้างนอกกับอินชิงเสวียน สรรหาของมาให้นางกินจนเคยปากหมดแล้ว“เจ้าเป็นผู้หญิงที่แปลกจริงๆ จนป่านนี้แล้ว ยังมีรสนิยมสูงแบบนี้ได้อีก”อินชิงเสวียนเม้มปากเป็นรอยยิ้ม“คนก็เหมือนเหล็ก อาหารก็เหมือนเหล็ก ถ้าไม่กินข้าวสักมื้อจะหิวโหย เมื่อมีปัจจัยที่เพียบพร้อมเช่นนี้แล้ว ย่อมไม่ควรทำให้ตัวเองลำบาก”“ในมิติของเจ้า มีทุกอย่างจริงๆ หรือ”ลั่วสุ่ยชิงรู้แล้วว่าอินชิงเสวียนมีมิติมาด้วย จึงอดไม่ได้ที่จะสนใจใคร่รู้อยู่บ้าง“ประมาณนั้น แต่น่าเสียดายที่คนนอกเข้ามาในมิติของข้าไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะได้ให้เจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1467 ฉันอยากกลับไป

    อินชิงเสวียนดึงมือออก“คุณจำคนผิดแล้ว ฉันไม่ใช่เพื่อนบ้านเดียวกันของคุณ แต่เป็นลูกสาวของแม่ทัพแห่งต้าโจว อินชิงเสวียน!”“คุณ คือเจ้าของร่างเดิมของอินชิงเสวียน?”เย่จิ่งหลานมองเธอขึ้นๆ ลงๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ รูปร่างเหมือนกันทุกประการ แต่หากสังเกตให้ดี จะเห็นได้ว่าเพื่อนบ้านเดียวกันของเขามีพลังความมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้ ส่วนผู้หญิงตรงหน้าเขาดูอ่อนโยนและอ่อนแอกว่ามากในเวลาเดียวกัน เขาก็รู้ด้วยว่าทำไมเขาถึงดูคุ้นตากับเด็กน้อยคนนี้ ตอนที่ตัวเองเพิ่งข้ามภพไปยังต้าโจว เขาก็มีรูปร่างหน้าตาลักษณะเหมือนแบบนี้เลยความทรงจำก็เหมือนกับคลื่นทะเล เป็นคลื่นที่ซัดมาระลอกแล้วระลอกเล่า ในที่สุดเย่จิ่งหลานก็ค่อยๆ จำทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในต้าโจวได้ทุกคนช่วยกันต่อต้านชิงฮุยในหุบเขาเชื่อมเมฆา แต่แล้วเขาก็กลับมาในเวลานี้ และกลับมาโดยที่ร่างกายสมบูรณ์ครบถ้วนเมื่อนึกถึงความชั่วร้ายและความเจ้าเล่ห์เพทุบายของชิงฮุย เย่จิ่งหลานก็รู้สึกสับสนอย่างอธิบายไม่ถูก“หรือว่าผมข้ามภพมาได้เพราะป้ายตราคำสั่งนี้ ผมต้องรีบกลับไปโดยเร็วที่สุด”เมื่อเห็นท่าทางกังวลอย่างกะทันหันของเย่จิ่งหลาน อินชิงเสวียนก็ตระหนัก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1466 ความปรารถนาในใจสำเร็จแล้ว

    ไม่ว่าซูเยี่ยจะจำอดีตกับเขาหรือไม่ก็ตาม มันก็ไม่สำคัญสำหรับเย่จิ่งหลานอีกต่อไปแล้วสวรรค์ทำให้เขาได้เจอผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง อาจเป็นเพราะต้องการให้เขาได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของซูเยี่ย ผู้หญิงประเภทนี้ จริงๆ แล้วมันไม่จำเป็นต้องให้เขาเสียเวลาด้วยซ้ำเขาเพิ่งอายุได้ยี่สิบแปดปี อนาคตยังอีกยาวไกล ซูเยี่ยเป็นเพียบใบไหม้ที่ร่วงไปจากชีวิตของเขา ไม่มีความสำคัญอะไรเลยเย่จิ่งหลานกระตุกมุมปากขึ้นยิ้ม ค่อยๆ รู้สึกปลอดโปร่งใจเขาเดินออกจากสวนสาธารณะอย่างช้าๆ และทันใดนั้นก็มีอีกคำถามหนึ่งผุดขึ้นมาใบหน้านี้ไม่ใช่หน้าตาเดิมของเขา ใครเป็นคนทำศัลยกรรมให้เขา?พลังในร่างกาย มาจากไหนกันแน่แล้วผู้หญิงที่อยู่ในหัวของเขา เป็นใครกันแน่หรือว่าเขาฝึกฝนจนสำเร็จเคล็ดวิชาลับบางอย่าง และผู้หญิงคนนั้นคือแก่นวิญญาณของเขา?เย่จิ่งหลานดึงขอบเอวกางเกงของเขาโดยไม่รู้ตัว ไอ้นั่นยังคงอยู่ตรงนั้น ไม่อย่างนั้นเขาคงคิดว่าตัวเองฝึกฝนวิชาจนกลายเป็นตงฟางปุ๊ป้ายในเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักรแล้วแต่การมีสิ่งเหล่านี้จะมีประโยชน์อะไร เอามาใช้กินใช้ดื่มไม่ได้ ตอนนี้ท้องของเขาร้องโครกคราก แต่ไม่มีเงินอยู่ในกระเป๋าเลยขณะที่

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1465 คนแพศยามักจะสำออยแบบนี้แหละ

    ชายคนนั้นหยิบกระดาษทิชชู่ออกจากกระเป๋า เช็ดนิ้วด้วยความรังเกียจ แล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองซูเยี่ยนั่งบนพื้นร้องไห้เสียงดัง ความฝันที่จะแต่งเข้าไปอยู่ในครอบครัวที่ร่ำรวย ได้พังทลายอีกครั้งมือที่มีเห็นข้อต่อเด่นชัดยื่นออกไปต่อหน้าซูเยี่ยซูเยี่ยเงยหน้าขึ้น แล้วก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาราวกับดาราทันทีสิ่งที่ทำให้เธอตื่นเต้นยิ่งกว่านั้นคือ ชายคนนั้นสวมเสื้อผ้าแบรนด์ดัง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขามีฐานะที่ดีหากสามารถเกาะเกี่ยวลูกเศรษฐีที่ทั้งหล่อทั้งรวยแบบนี้ได้ ถูกตบหน้าแค่ครั้งเดียวจะเป็นไรไป บางทีนี่อาจเป็นความยากลำบากทั้งหมดที่สวรรค์ส่งมาให้ ที่มาอยู่ที่นี่ ก็เพื่อให้ได้เจอกับคนที่ดีกว่าเธอสูดจมูก จับมือนั้นไว้ เพิ่งยืนขึ้นมาได้ครึ่งตัว มือก็คลายออกซูเยี่ยเสียการทรงตัว และล้มลงกับพื้นอีกครั้งเธอมองเย่จิ่งหลานด้วยความประหลาดใจ ไม่เข้าใจว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่เย่จิ่งหลานยกมุมปากขึ้น คุกเข่าลงต่อหน้าเธอ ถามด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “รู้สึกยังไงที่ถูกทิ้ง?”“อะไรนะ...คุณหมายความว่ายังไง?”ซูเยี่ยถามด้วยเสียงต่ำ ดวงตาสีแดงทั้งคู่ ทำให้เขาดูมีเสน่ห์มากกว่าเมื่อก่อนนี่ไม่ใช่ฉากที่ป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1464 แพศยาอย่างเธอ

    เย่จิ่งหลานโบกมือ ประตูก็เปิดออกแสงจากด้านนอกประตูส่องเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัย ทุกคนก็เห็นหลี่ไห่ตงนอนอยู่บนพื้นทันที และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอยภัยนอนระเกะระกะอยู่ข้างๆชายหนุ่มรูปหล่อคนนี้เดินออกไปโดยไม่มีร่องรอยเลือด หรือฝุ่นผงบนร่างกายเลยทุกคนก้าวถอยหลัง มองดูเย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าหวาดกลัวเย่จิ่งหลานเดินขึ้นไปที่ลิฟต์โดยไม่หรี่ตามองในช่วงที่เขาถูกบีบให้ออกจากโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ แต่ละนาทีแต่ละวินาที เขามักจะจินตนาการถึงการทุบตีหลี่ไห่ตงอย่างรุนแรง ได้ระบายความโกรธ วันนี้ ในที่สุดเขาก็ทำได้แล้ว สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เย่จิ่งหลานไม่อยากคิดอะไรมากเขารีบออกจากโรงพยาบาล มาที่สวนสาธารณะเล็กๆ ใกล้ ๆ มีชายชราคนหนึ่งที่อาบแดดอยู่ เย่จิ่งหลานเหลือบมองเขา และนั่งอีกด้านหนึ่งทั้งสองคนไม่ได้คุยกัน แค่พบกันโดยบังเอิญ ต่างไม่รู้จักกัน และไม่จำเป็นต้องพูดคุยกันเขาค่อยๆ ผ่อนคลายร่างกาย เอนหลังพิงเก้าอี้ หรี่ตาเหมือนที่ชายชราทำ ความอบอุ่นของดวงอาทิตย์ที่ส่องบนร่างกายของเขาช่างทำให้รู้สึกผ่อนคลายจริงๆหลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เย่จิ่งหลานก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาพลังลมป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1463 ฉันชื่อเย่จิ่งหลาน

    ความเจ็บปวดจากไฟฟ้า ทำให้เย่จิ่งหลานกลับมามีสติอีกครั้งหลี่ไห่ตงซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เขาไออย่างบ้าคลั่ง และมองไปที่เย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าแห่งความเกลียดชัง“ทุบตีมัน ทุบตีมันให้ตาย ตีมันตายแล้วฉันจะรับผิดชอบเอง”เมื่อเห็นว่าเย่จิ่งหลานไม่ขัดขืน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น กระแสไฟฟ้าสีฟ้าพุ่งใส่ร่างของเย่จิ่งหลาน ทำให้ห้องรังสีวินิจฉัยที่มืดมิดสว่างไสวขึ้นมาเย่จิ่งหลานหลับตา ใช้ประสาทสัมผัสตรวจสอบอย่างระมัดระวัง และยกมุมริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเอง แต่สัมผัสได้ ความรุนแรงเท่านี้ไม่สามารถเอาชีวิตเขาได้เลย รู้สึกเหมือนกับถูกแมลงต่อยสองครั้ง ถ้าเขาจะโดนฟ้าผ่า ก็ถือว่าเป็นการได้สัมผัสประสบการณ์ล่วงหน้าเป็นเวลาสิบวินาทีเต็มๆ เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาเรียวแคบของเขาเหมือนถูกรายล้อมไปด้วยงูทองคำพ่นไฟ ดุดันน่าเกรงขาม แม้ในความมืดมิดเช่นนี้ ก็สามารถมองเห็นใบหน้าอันน่าเกลียดของทุกคนได้ชัดเจนเขาอาจจะฆ่าคนไม่ได้ แต่สามารถทุบตีพวกเขาได้ และตราบใดที่พวกเขายังหายใจอยู่ ก็ไม่ถือว่าตายเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็ค่อ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1462 ปีศาจในชุดดำ

    “แกเป็นใคร ทำไมถึงมาทำร้ายฉัน”หลี่ไห่ตงเมื่อถูกทุ่มลงพื้นก็กรีดร้องอย่างน่าเวทนา ชายหนุ่มรูปงามตรงหน้านี้ เป็นราวกับเจ้าแห่งความตายในนรก ทำให้เขารู้สึกหวาดผวาอย่างสุดซึ้งจนแทบจะรู้สึกได้ถึงความกลัวที่มาจากจิตวิญญาณเขาไม่สงสัยเลยว่าชายคนนี้จะกล้าฆ่าเขาจริงๆหรือไม่“ฉันไม่รู้จักแกเลย แกจำคนผิดหรือเปล่า หรือคนในครอบครัวของแกอยู่ในโรงพยาบาลที่นี่ ถ้าขาดเงิน ฉันช่วยแกแก้ปัญหาได้”หลี่ไห่ตงรู้สึกว่าตัวเองยังพอมีหวัง จึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสร้างความประทับใจให้กับชายผมดำยุ่งเหยิงตรงหน้าเย่จิ่งหลานมองไปที่หลี่ไห่ตงอย่างเย็นชา ความทรงจำในอดีตก็หลั่งไหลกลับมาเพื่อให้ได้ทำงานในโรงพยาบาลต่อ ถึงจะนอนดึกกว่าหมา ตื่นเช้ากว่าไก่ ทำงานหนักเยี่ยงทาส ทำงานหนักมาสามปีก็ตาม แต่เพราะบังเอิญไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น จึงถูกส่งไปยังโรงพยาบาลเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งแต่เช้าจรดค่ำก็ไม่เจอใคร การทำงานหนักและค่าตอบแทนทั้งหมดของเขาถูกทำลายลงเพราะไอ้สารเลวยิ่งกว่าหมาคนนี้ เขากลับอยากมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ ในโลกนี้ จะมีเรื่องดีๆ แบบนั้นได้อย่างไรโลกไม่ยุติธรรม เช่นนั้นก็ให้เขาได้ผดุงความยุติธรรม จัดการสัตว์ร้าย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1461 เศษสวะ

    ไอ้ชาติชั่วนี่ ใช้อุบายเก่าๆ ของเขาอีกแล้วเย่จิ่งหลานเหลือบมองแพทย์หญิง แม้ว่าเธอจะสวมหน้ากากปลอดเชื้อสีเขียว แต่ยังคงมองเห็นความไม่เต็มใจและความลังเลในดวงตาที่เหนื่อยล้าของเธอทั้งสองเดินสวนทางกัน แพทย์หญิงก็เดินเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัยข้างๆ เย่จิ่งหลานอุ้มเด็กเดินเข้าไปในห้องผ่าตัด แต่ยังคงมองย้อนกลับไปที่แพทย์หญิงคนนั้น จากนั้นก็ได้ยินเสียงคลิก ซึ่งเป็นเสียงล็อคประตู“เด็กคนนี้ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกหน้าอก ขาทั้งสองข้างก็ถูกทับ”เย่จิ่งหลานอธิบายอาการของเด็กสั้นๆ จากนั้นรีบเดินไปที่ห้องรังสีวินิจฉัย ดึงที่จับประตูบานใหญ่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ดึงให้เปิดออกเมื่อนึกถึงไอ้คนชาติชั่วคนนั้นที่โรงพยาบาลเดิมใช้เส้นสายสารพัด ทำเหมือนกับว่าตัวเองเป็นแค่หมา สุดท้ายยังถูกเขาส่งไปยังโรงพยาบาลชุมชนที่อยู่ห่างไกลที่ไม่มีโอกาสก้าวหน้า เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธเขาออกแรง รู้สึกว่ามีแรงแปลกๆ ออกมาจากจุดตันเถียน ไปถึงท่อนแขนของเขาในทันที จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกึก ประตูที่ถูกล็อคก็หักแกเป็นสองท่อนหลี่ไห่ตงกำลังจะกอดแพทย์หญิงคนนั้นทำเรื่องงามไส้ มีสายตามองจากข้างนอกเข้าไป อีกทั้งเรือนผมยาวส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1460 ความคิดชั่วร้าย

    ทันใดนั้นก็มีเสียงเบรกดังมาจากด้านหน้าผู้หญิงคนหนึ่งขี่สกู๊ตเตอร์ชนจนล้มกระแทกพื้น เด็กที่อยู่ข้างหลังก็กระเด็นห่างออกไปหลายเมตรเช่นกันหน้าที่ของแพทย์ทำให้เย่จิ่งหลานเหาะไปข้างหน้า กระโดดไปหลายสิบเมตรในก้าวเดียว และลงจอดต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นรถที่ผ่านไปมาต่างก็อึ้งกันไปหมด นี่กำลังถ่ายหนัง หรือเรื่องจริง?คนนี้ไม่มีสายสลิงผูกอยู่บนตัวนั้นา แล้วทำไมเขาถึงเหาะได้ไกลขนาดนี้ในคราวเดียวล่ะ?เย่จิ่งหลานเองก็สะดุ้งนี้...มันเป็นไปได้อย่างไรเป็นวรยุทธ์งั้นหรือเขาไม่มีเวลาคิด ก้มลงห้ามเลือดของผู้หญิงคนนั้นทันที กลิ่นเลือดปะทะเข้าจมูกของเขา หัวใจพลันสั่นขึ้นมาเล็กน้อยดูเหมือนมีบางอย่างตื่นขึ้นมา ไฝแดงระหว่างคิ้วก็สว่างวาบขึ้นเล็กน้อยมือของเขานิ่งค้าง จากนั้นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หลายคนก็วิ่งเข้ามา“คุณคนนี้ คุณเป็นหมอเหรอ”เย่จิ่งหลานพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว“ฉันเป็นศัลยแพทย์”คนที่ดูเหมือนพยาบาลกล่าวว่า “คนไข้ได้รับบาดเจ็บสาหัส คุณช่วยตามพวกเราไปที่รถพยาบาล ช่วยรักษาฉุกเฉินได้ไหม”เย่จิ่งหลานสูดหายใจเข้าลึกๆ“ได้”เขาก้าวเข้าไปในรถพยาบาล ผู้หญิงและเด็กถูกพาไปที่เตียงในรถพยาบาล

DMCA.com Protection Status