แชร์

บทที่ 775 บอกลา

ผู้เขียน: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-05-27 16:00:01
จังอวี้จิ่นยิ้มแล้วพูดว่า “การได้ฉลองปีใหม่ที่ริมทะเลก็ดีเช่นกันนะเพคะ แม้ว่าหม่อมฉันจะเกิดอยู่ในหมู่บ้านประมง แต่ก็เคยเห็นเพียงแค่แม่น้ำ ไม่เคยได้เห็นทะเลที่กว้างใหญ่เช่นนี้มาก่อนเลยเพคะ”

“ทะเลเป็นสถานที่ที่ทำให้ผู้คนรู้สึกโล่งใจ เพียงแต่น่าเสียดายที่ช่วงนี้ยังไม่สงบ ข้าจึงไม่มีทางพาพวกเจ้าไปเล่นที่ริมทะเล”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ อินชิงเสวียนรู้สึกเสียดายเล็กน้อย

เมื่อลองคิดดูอีกครั้ง ชาวตงหลิวพ่ายแพ้ติดต่อกันหลายครั้ง แม้ว่าจะหวนกลับคืนมาอีกก็ต้องใช้เวลาอีกสักพัก สองวันนี้น่าจะยังปลอดภัยอยู่

“วันนี้ตอนบ่าย พวกเจ้าทั้งสองตามฝูอี้อ๋องออกไปเล่นสิ!”

เมื่อสิ้นเสียงของอินชิงเสวียน เย่จิ่งหลานก็วิ่งออกมาจากห้อง

“อินชิงเสวียน ดูเหมือนว่าข้าจะมีกำลังภายในบ้างแล้ว”

อินชิงเสวียนไม่ค่อยอยากเชื่อ เพราะว่าเขาเพิ่งได้วิชากำลังภายในมาเมื่อวานนี้

“จริงหรือ?”

เย่จิ่งหลานพยักหน้าด้วยใบหน้าที่ตื่นเต้นดีใจ

“หรือว่าเจ้าจะลองให้ข้าฟาดฝ่ามือดูล่ะ?”

อินชิงเสวียนรีบปฏิเสธในทันที

“ข้าไม่มีวิชาการต่อสู้ เจ้าไปฝึกซ้อมกับหวังซุ่นเถอะ อ้อ จริงด้วย อาซือหลานตายแล้วนะ”

“เขา... ตายแล้วจริงหรือ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 776 ใต้ท้องทะเล

    ไม่รู้ว่าเมื่อใดที่พระจันทร์ขึ้นอย่างเงียบๆ แสงจันทร์ที่สว่างไสวสะท้อนกับผิวน้ำทะเล พื้นผิวสีฟ้าครามของน้ำทะเลดูเหมือนจะถูกเคลือบด้วยแสงสีเงินจางๆฟางรั่วนั่งอยู่บนหินโสโครกก้อนหนึ่ง เมื่อมองผิวน้ำทะเลซึ่งไม่มีที่สิ้นสุด ในใจก็คิดถึงท่านแม่และน้องชายทันใดนั้นดูเหมือนนางจะเห็นท่านแม่และน้องชายจับมือกัน และเดินขึ้นจากพื้นผิวทะเลมาหานาง“ลูกรัก รีบขึ้นมาหาแม่เร็วเข้า”ท่านแม่กวักมือเรียกนางด้วยใบหน้าที่รักและเมตตา น้องชายก็ตะโกนเรียกเสียงหวานว่า “ท่านพี่ พี่รีบมานี่สิ!”ฟางรั่วค่อยๆ ลุกขึ้นยืน ทันใดนั้นใบหน้าซีดขาวก็มีแดงเป็นเลือดฝาดขึ้นมาสองแถบนางพูดพึมพำเบาๆ ว่า “ท่านแม่ น้องเล็ก ข้าจะไปหาพวกท่านเดี๋ยวนี้”น้ำทะเลที่มีความอุ่นห่อหุ้มเท้าเปลือยเปล่าของฟางรั่ว ราวกับสองมือของท่านแม่ที่อบอุ่นเป็นอย่างมากนางพูดเสียงดังอีกครั้งว่า“ท่านแม่ น้องเล็ก ข้ามาแล้ว!”ทันใดนั้น ฟางรั่วก็รีบตะบึงอย่างบ้าระห่ำ น้ำทะเลเปียกโชนเอวของนางอย่างรวดเร็ว และไม่นานก็ถึงหน้าอกของนางความรู้สึกหายใจไม่ออกแผ่ซ่านเข้ามา ฟางรั่วปิดตาสองข้างอย่างเงียบสงบขณะนั้น แขนอันแข็งแกร่งคู่หนึ่งยื่น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-27
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 777 ข้าอยากติดตามท่าน

    ฟางรั่วเดินมาถึงชายฝั่ง เสื้อผ้าแนบกับร่างกายเพราะเปียกน้ำเย่จิ่งอวี้หันหน้าไปอีกด้านทันที และพูดกับกวนเซี่ยวว่า “ไปกับข้าหน่อยสิ”กวนเซี่ยวเหลือบมองฟางรั่ว โน้มตัวตอบรับ และเดินตรงไปยังพื้นทรายพร้อมกับเย่จิ่งอวี้อินชิงเสวียนโยนเสื้อคลุมในมือให้กับฟางรั่ว“หากเจ้าแข็งตายอยู่ที่นี่ก็คงเปลืองโลงศพแย่เลย ช่วยประหยัดทรัพยากรของต้าโจวสักหน่อยดีกว่านะ!”ฟางรั่วรับเสื้อคลุมไปคลุมไว้บนไหล่ รู้สึกอบอุ่นขึ้นไม่น้อยนางเงยหน้าขึ้น สายตาจ้องไปยังอินชิงเสวียน“ท่านบอกว่าหากอุดมการณ์ไม่เหมือนกัน ก็อย่ามาคบกันเลย เช่นนั้นเหตุใดจึงมาช่วยข้า?”อินชิงเสวียนรวบกระโปรงและนั่งลงบนหินโสโครกพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “อาซือหลานตายไปแล้ว เจ้าเป็นเพียงแค่คนที่ทำตามคำสั่งผู้อื่น แม้ยังมีชีวิตอยู่ ก็ไม่สามารถสร้างเรื่องข่มขู่ข้าและอาอวี้ได้อีกแล้ว”อินชิงเสวียนพูดถึงเรื่องนี้ นางชะงักเล็กน้อย และหันหน้าไปมองฟางรั่วแสงจันทร์สะท้อนบนผิวสีขาวราวกับหยกของนาง แม้จะเยือกเย็นเล็กน้อย แต่ก็ยังสวยงามอย่างไม่อาจเทียบได้“ข้าช่วยเจ้า เพราะเจ้ายังคงมีสติปัญญาในการตัดสินใจ การสังหารชาวตงหลิวเหล่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-27
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 778 ครั้งนี้เจ้าวางใจได้แล้วนะ

    อินชิงเสวียนหน้าแดงเล็กน้อย และรีบปรามเขาไว้“อย่านะเพคะ เจ้าสำนักเฮ่อและคนอื่นๆ ยังคงแอบอยู่ ข้าไม่อยากให้พวกเขาเห็น”เย่จิ่งอวี้จึงนึกได้ว่า ด้านหลังยังมีผู้อาวุโสสองท่านเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ จึงกระแอมไอเสียงแห้งอย่างอดไม่ได้“สีพระจันทร์ในค่ำคืนนี้ไม่เลวเลยทีเดียว บทเพลงที่เจ้าร้องเมื่อครู่ก็ไพเราะอย่างมาก ชื่อเพลงคืออะไรงั้นหรือ?”อินชิงเสวียนขำพรวดออกมา นี่มันอะไรกันเนี่ย? แต่ปากก็ตอบอย่างจริงจังว่า “บทเพลงนี้มีชื่อว่าใต้ท้องทะเล ผู้ประพันธ์เพลงเขียนให้เพื่อนของเขา เพื่อหวังว่าเพื่อนคนนั้นจะรับรู้ถึงความเป็นห่วงของตัวเองผ่านเสียงเพลง และหวังว่าบทเพลงนี้จะมอบพลังในเขาผ่านความยากลำบากไปได้”“เช่นนั้นตอนจบเป็นอย่างไร?”เย่จิ่งอวี้ถามด้วยความประหลาดใจอินชิงเสวียนยิ้ม“ข้าเองก็ไม่รู้เพคะ บางทีเพื่อนของเขาอาจได้รับการรักษาจนหายดีแล้วก็ได้เพคะ”ตามข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต เพลงนี้แต่งขึ้นเพื่อผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ซึ่งตรงกับที่ผู้เขียนรู้สึกแบบเดียวกับที่เขา จึงสามารถเขียนเพลงเกี่ยวกับความสิ้นหวังและอาการหายใจลำบากที่รายล้อมไปด้วยความมืดมิด ซึ่งเหมาะกับความรู้สึกเมื่อครู่ของฟ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-28
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 779 ผู้หญิงที่เก่งเกินไปก็ไม่ดีเหมือนกัน

    อินสิงอวิ๋นพยักหน้าเมื่อรู้ว่าน้องใหญ่ตามหาฝ่าบาทพบแล้ว เขาจึงวางใจได้อย่างแท้จริง เพียงแต่นางไปทำอะไรที่เป่ยไห่? อินสิงอวิ๋นมีความตั้งใจอยากถาม เมื่อเห็นเย่จั้นขมวดคิ้วแน่น สายตามองไปยังที่ห่างไกล เขาก็กลืนคำพูดลงคอไปเขาคุกเข่าลงบนพื้นอีกครั้ง และโค้งศีรษะคำนับด้วยความเคารพ“ขอบพระทัยฝ่าบาทที่บอกความจริง กระหม่อมจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ หากพูดออกมาแม้เพียงครึ่งคำ กระหม่อมขอยอมรับความตาย”เย่จั้นได้สติกลับมาก็ยื่นมือมาพยุงเขาลุกขึ้นพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “เจ้ามีนิสัยหนักแน่น เมื่อเจอปัญหาก็ครุ่นคิดอย่างรอบคอบ ด้วยเหตุนี้ข้าจึงยอมบอกเรื่องเหล่านี้กับเจ้า อีกทั้งเจ้ายังเป็นคนที่สนิทสนมกับฝ่าบาทและกุ้ยเฟยที่สุด เจ้ามีสิทธิ์ที่จะรับรู้ที่อยู่ของพวกเขาเช่นกัน”อินสิงอวิ๋นพูดด้วยความขอบคุณ “ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงไว้ใจ”เย่จั้นยิ้มเล็กน้อย“เจ้าและข้าต่างก็เป็นขุนนางร่วมราชสำนัก ไม่จำเป็นต้องพูดจาอย่างเป็นทางการหรอกนะ ข้าจะเขียนจดหมายหนึ่งฉบับ เจ้าช่วยหาคนที่ไว้ใจได้ไปส่งยังหอเซียวเหยาแห่งเป่ยไห่ จำไว้ว่าอย่าได้ใช้คนของจุดพักม้าเชื้อพระวงศ์ เพื่อป้องกันไม่ให้ข่าวรั่ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-28
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 780 ฉุยอวี้มาเยี่ยมเยียน

    เมื่อเห็นสีหน้าของเจ้าสำนักเซี่ยว อินชิงเสวียนก็รู้ว่าการเดินทางครั้งนี้ไม่มีประโยชน์อะไรเลย“อาอวี้ ท่านกลับไปก่อนเถอะ”เย่จิ่งอวี้รู้ว่าอินชิงเสวียนอยากถามเรื่องเมื่อคืนนี้ จึงพยักหน้ารับ“ข้าจะรอเจ้า”อินชิงเสวียนตอบรับ และเดินมากลางห้องโถงเจ้าสำนักเซี่ยวนั่งลงบนเก้าอี้ ยกน้ำชาที่ชงด้วยน้ำพุวิญญาณขึ้นมาดื่ม และรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นไม่น้อย“ผู้เยาว์ขอพบผู้อาวุโสเซี่ยว ให้ผู้เฒ่าเช่นท่านออกไปลำบากตลอดค่ำคืนเพื่อพวกข้า ข้ารู้สึกไม่สบายใจอย่างแท้จริง”อายุของท่านผู้เฒ่าแก่ชรายิ่งกว่าคุณย่าในยุคปัจจุบันของอินชิงเสวียนเสียอีก เมื่อมองหนวดเคราที่เต็มไปด้วยหงอก แต่กลับยังต้องทำงานอย่างหนักเพื่อเรื่องนี้ อินชิงเสวียนไม่รู้ว่าควรแสดงความขอบคุณอย่างไรดีเมื่อได้ยินเสียงของอินชิงเสวียน สีหน้าของเจ้าสำนักเซี่ยวก็ผ่อนคลายลงทันที“ชีวิตของข้ามีไว้เพื่อความลำบาก เจ้าไม่จำเป็นต้องคิดมาก เพียงแต่น่าเสียดายที่คืนนี้ไม่ประสบผลสำเร็จ ข้านำสุนัขออกตามหาโดยรอบ แต่กลับไม่พบร่องรอยของคนคนนั้นเลย สถานการณ์ทางด้านพวกเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”เจ้าสำนักเซี่ยวถาม แต่ก็รู้สึกว่าไม่มีประโยชน์

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-28
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 781 สัญลักษณ์โบราณที่แปลกประหลาด

    ทันทีที่ฉุยอวี้ดีดนิ้วมือ เลือดหนึ่งหยดก็กระเด็นออกมาจากปลายนิ้ว และหยดลงตรงกลางรอยปานรูปผีเสื้อหยดเลือดแทรกซึมเข้าสู่ร่างกาย รอยปานสีแดงที่อยู่บนไหล่ของอินชิงเสวียน เกิดการเปลี่ยนแปลงที่น่าแปลกประหลาดในทันทีสายเลือดที่มีลักษณะคล้ายสัญลักษณ์โบราณหลายเส้นปรากฏออกมาจากรอยปานสีแดงอย่างรวดเร็ว แล้วหายไปในพริบตาและทุกสิ่งเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายในพริบตาเดียวอินชิงเสวียนรู้ถึงเพียงความเย็นเล็กน้อยบนหัวไหล่ และคิดว่าเป็นลมเย็นที่พัดเข้ามาตอนที่เปิดประตู นางรีบหยิบกระโปรงพับกลีบมาคลุมร่างกายไว้ เมื่อหันกลับมาก็พบว่าผู้ที่มาเยือนคือฉุยอวี้“เจ้าสำนักฉุยมาที่นี่ได้อย่างไร?”อินชิงเสวียนสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย ใบหน้าเล็กที่งดงามแสดงความไม่พอใจออกมาแม้ว่าฉุยอวี้ก็เป็นผู้หญิงอย่างแท้จริง แต่การเข้ามาโดยไม่เคาะประตู นับว่าเสียมารยาทไปหน่อยสายตาของฉุยอวี้กลับมองไปทั่วใบหน้าของอินชิงเสวียนอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางนัยน์ตาเกิดความรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยทว่าเพียงพริบตาเดียวก็กลับมาเป็นปกติเช่นเคยนางประสานมือคำนับและพูดว่า “ขออภัยที่บังอาจมารบกวน ข้าต้องขอโทษด้วยจริงๆ ข้ามาที่นี่ก็เพ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-29
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 782 ต้องต่อสู้เพื่อสิ่งที่ตัวเองต้องการ

    อินชิงเสวียนตอบรับ อุ้มเสี่ยวหนานเฟิงในอ้อมแขนอยู่ครู่หนึ่งเป็นเรื่องปกติที่ฮวาเชียนไม่ชอบฉุยอวี้ นางเป็นคนของสำนักที่มีชื่อเสียงอย่างหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ความเย่อหยิงฝังอยู่ในกระดูกอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ทว่า อินชิงเสวียนก็มีวิจารณญาณเป็นของตัวเองนางสามารถรู้สึกได้ว่า ฉุยอวี้ไม่มีเจตนาร้ายต่อนางถึงขนาดมีบางสิ่งที่อินชิงเสวียนไม่สามารถพูดออกมาได้ชัดเจน แต่มันไม่ใช่ความคิดที่ไม่ดีอย่างแน่นอนนับตั้งแต่ดื่มน้ำพุวิญญาณ ความสามารถในการรับรู้ของนางก็ดีเยี่ยมกว่าคนทั่วไปมาก โดยเฉพาะเจตนาร้ายเพียงแต่เจ้าของร่างเดิมไม่เคยออกจากเมืองหลวงมาก่อน นางไม่รู้จักกับฉุยอวี้ หากต้องการอธิบายจริงๆ เช่นนั้นก็คงพูดได้เพียงว่า บนโลกมนุษย์มีสิ่งที่เรียกว่าเจอกันครั้งแรกก็รู้สึกเหมือนเป็นเพื่อนกันมานานอยู่จริงๆแต่กลับไม่ค่อยเชื่อใจมากนัก คนที่สามารถหาวิธีครอบงำผู้คนได้อย่างฉุยอวี้ จะต้องมีความฉลาดเฉียบแหลมอย่างลึกซึ้ง เหตุใดจึงทำดีกับนางโดยไม่มีเหตุผลเช่นนี้ได้? หรือว่ามีเงื่อนงำแอบแฝงอยู่? หรือว่าฉุยอวี้มีความสัมพันธ์บางอย่างกับเจ้าของร่างเดิม? ระหว่างที่อินชิงเสวียนใจลอย นิ้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-29
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 783 สาวน้อย อย่าได้ปีนเกลียวข้านะ

    ณ หอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์หลังจากที่กวนเซี่ยวไปแล้ว อินชิงเสวียนจึงนึกขึ้นได้ว่ามีดที่ฉุยอวี้มอบให้กวนเซี่ยวยังอยู่ในมือของตัวเอง“กวนเซี่ยว”อินชิงเสวียนมาตะโกนเรียกที่หน้าประตูกวนเซี่ยวผลักประตูออกมา บนโต๊ะมีถุงผ้าที่มัดไว้หนึ่งชิ้นอินชิงเสวียนยื่นดาบสันโค้งที่มีสีดำขลับให้เขา“นี่คือของที่เจ้าสำนักฉุยแห่งสำนักเซียวเหยามอบให้เจ้า บอกว่าตอบแทนที่เจ้าช่วยชีวิตเอาไว้”กวนเซี่ยวจำมีดเล่มนี้ได้ และรู้ว่าของชิ้นนี้ตัดเหล็กได้ราวกับผ่าดินเหนียว ไม่ใช่สิ่งของธรรมดาจึงอดนึกถึงเรื่องในวันนั้นไม่ได้เขาพาฉุยอวี้ออกมาจากคุกมืด เมื่อเห็นว่านางชำนาญลู่ทางสำนักเซียวเหยาเป็นอย่างดี จึงเชื่อใจนางขึ้นมากเมื่อรู้ว่าอาซือหลานไปที่โถงร่วมธรรม ฉุยอวี้ก็รีบเปลี่ยนเป็นชุดคลุมสีดำ และให้กวนเซี่ยวพาตัวเองไประหว่างทาง ฉุยอวี้หวังให้เขาเข้าร่วมสำนักเซียวเหยา นางยินยอมสืบทอดวิชาขั้นสุดยอดของสำนักเซียวเหยาให้แก่เขา เพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณกวนเซี่ยวปฏิเสธเขาไม่ใช่คนในยุทธภพ แต่ไม่ต้องการวุ่นวายกับเรื่องในยุทธภพมากเกินไป การที่ตัวเองได้ช่วยเหลือฉุยอวี้ ก็เป็นเพียงเรื่องบังเอิญเท่านั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-29

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1540 สองพระองค์ครองราชย์ จบบริบูรณ์

    ปีที่สามของการครองราชย์ในราชวงศ์ต้าโจวฮองเฮาให้กำเนิดพระธิดา ได้รับพระราชทานนามว่าองค์หญิงเจ๋อเทียน นามว่าเจิน มีชื่อเล่นว่าฝูเอ๋อร์ในเดือนเก้าของปีเดียวกัน เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนปกครองร่วมกัน แบ่งกันปกครองบ้านเมืองและการดำรงชีวิตของผู้คน ราษฎรเคารพทั้งสองในฐานะพระองค์ฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา ประวัติศาสตร์ได้บันทึกช่วงเวลานี้ไว้ด้วยถ้อยคำที่งดงามที่สุด และเรียกช่วงเวลานี้อย่างเคารพว่า ยุคที่สององค์ปกครอง!ห้าปีต่อมา เครื่องกำเนิดพลังงานลมเครื่องแรกปรากฏขึ้นด้วยฝีมือความสามารถของชาวต้าโจว ซึ่งก้าวล้ำหน้าสมัยโบราณที่ล้าหลังไปอย่างมากด้วยก้าวที่ยิ่งใหญ่นักเรียนจากทั่วแคว้นได้แสดงความสามารถ พัฒนาสิ่งที่ล้ำหน้าต่างๆ ผ่านความรู้ทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมีใหม่ล่าสุด บุปผานับร้อยบานสะพรั่งพร้อมกัน ก่อให้เกิดยุครุ่งเรืองของราชวงศ์ต้าโจวตอนนี้อาหารไม่ขาดแคลน ราษฎรไม่ต้องทนทุกข์กับความหิวโหยอีกต่อไป ยิ่งไม่มีการอพยพย้ายถิ่นฐาน โครงการคลองส่งน้ำก็สำเร็จลุล่วง ด้วยการคมนาคมสะดวกระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ก็สามารถแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการได้ในที่สุด อ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นยังสามารถเปลี่ยนเส้นท

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1539 เสวียนเอ๋อร์ขอบคุณเจ้านะ

    ตำหนักจินอู๋อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ แต่ไม่กล้าโคจรกำลังภายในต้านทานไว้ เพราะกลัวว่าจะทำร้ายลูกของนางเมื่อเห็นนางกัดริมฝีปากล่างแน่น มีเหงื่อไหลอาบหน้า หัวใจของเย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกเหมือนถูกมีดคมๆ นับพันทิ่มแทง รู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง“ต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาได้ ต้องปล่อยให้นางเจ็บปวดทนทุกข์เช่นนี้หรือ”หมอตำแยกล่าวอย่างกล้าหาญว่า “สตรีคลอดบุตรก็เป็นเช่นนี้เพคะ อดทนไว้ แล้วจะดีเอง”เย่จิ่งอวี้พูดด้วยความโกรธ “ฮองเฮาของข้าจะเทียบได้กับสตรีทั่วไปได้อย่างไร รีบหาทางบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาเดี๋ยวนี้”“ข้าไม่เป็นไร อาอวี้ออกไปก่อนเถอะ!”เสียงของอินชิงเสวียนนั้นอ่อนแรง แม้จะเป็นสามีภรรยากัน แต่ถูกเห็นเข้าในสถานการณ์เช่นนี้ก็น่าอายอยู่เหมือนกันเย่จิ่งอวี้เดินก้าวเดียวก็ไปถึงเตียง จับมือของนางแน่นๆ แล้วพูดอย่างกระวนกระวายใจ “ข้าไม่วางใจ มีวิธีถ่ายทอดความเจ็บปวดให้ข้าได้ไหม เจ้าอยู่กับลั่วสุ่ยชิงมานานแล้ว ไม่ได้เรียนวิชาอาคมอะไรจากนางบ้างหรือ”อินชิงเสวียนเจ็บปวดเจียนตายอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำนี้ก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1538 ไท่เฟยไท่ผินออกจากวัง

    อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดและกล่าวว่า “ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ วันนี้เป็นวันแต่งงานของไห่ถัง ในฐานะพี่ชาย ควรเป็นประธานงานแต่งของนางด้วยตนเอง หากไม่มีคนในราชวงศ์ไป ไห่ถังจะผิดหวังได้”แม้น้องสาวจะเป็นญาติ แต่ก็ไม่ชิดเชื้อเท่ากับภรรยา ลูกคนแรกเกิดในตำหนักเย็น ซึ่งทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกผิดไปครึ่งชีวิตแล้ว ยากนี้เด็กคนนี้คือสมบัติล้ำค่าที่แท้จริงระหว่างพวกเขา ในฐานะพ่อของลูก เขาจะจากไปได้อย่างไรเมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางซีด มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายขึ้นเต็มขมับของนาง เย่จิ่งอวี้ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อปลอบนาง “ไม่เป็นไร มีแม่ทัพอินและจอมพลกวนอยู่ด้วย ไห่ถังก็ไม่นับว่าเสียเกียรติอะไรนัก”อินชิงเสวียนคว้าแขนของเขา“จะได้อย่างไร หากไม่มีใครจากในวังไป มันจะกลายเป็นปมในใจของไห่ถังอย่างแน่นอน นี่คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนาง”ไม่ว่าอย่างไรเย่จิ่งอวี้ก็ไม่ยอมไป แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้น้องสาวเสียหน้าได้ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มีความคิดอยู่ในใจ“เจวี๋ยอิ่ง ไปเชิญไท่เฟยไท่ผินทุกท่าน ให้พวกนางออกจากวัง ร่วมงานเสกสมรสขององค์หญิงเดี๋ยวนี้”ทุกคนตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่จิ่งอวี้จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1537 ฮองเฮาทรงมีพระประสูติการ

    เย่ไห่ถังยังคงมีความสุข แต่จู่ๆ เสียงของหลี่เต๋อฝูก็ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเปิดประตู เห็นเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้ยืนอยู่ที่กลางเรือน น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตา“ไห่ถังคารวะเสด็จพี่ เสด็จพี่สะใภ้เพคะ!”เย่ไห่ถังกำลังจะคุกเข่าลง แต่เย่จิ่งอวี้ก็ปราดเข้าประคองนางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในฐานะสตรีที่ออกเรือนแล้ว ทุกสิ่งต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม จะทำตัวเหลวไหลซุกซนเหมือนอยู่ในวังไม่ได้ หากใช้ชีวิตนอกวังจนเบื่อแล้ว ก็สามารถกลับมาได้ตลอดเวลา วังหลวงจะเป็นบ้านของเจ้าตลอดไป”อินชิงเสวียนก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ถ้าพี่รองของข้ารังแกเจ้า เจ้าก็บอกข้าได้เลย ข้าจะทวงความยุติธรรมให้กับเจ้าแน่นอน”ถ้าคนที่เย่ไห่ถังแต่งงานด้วยไม่ใช่อินปู้อวี่ เย่จิ่งอวี้คงพูดคำนี้ไปนานแล้วเย่ไห่ถังสูดจมูก“ขอบพระทัยเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้เพคะ ตอนแรกข้าค่อนข้างมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่อยากจากไปเลย”เมื่อเห็นว่าจมูกของเย่ไห่ถังแดง กำลังจะร้องไห้อีก เย่จิ่งอวี้จึงตีหน้าขรึมพูดทันที “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าจะให้คนไปแจ้งอินปู้อวี่ ว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่มีแล้ว หลี่เต๋อฝู!”หลี่เต๋อฝูก็เป็นคนเจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1536 องค์หญิงกำลังจะเสกสมรส

    ในวันที่หนึ่งเดือนสี่ ลำดับการสอบการต่อสู้ชี้ให้เห็นว่า เฉินเซียงเยว่ที่อินชิงเสวียนสนใจ สอบได้ลำดับหนึ่ง คนผู้นี้หน้าตาดูดุร้ายและน่าเกลียด แต่กลับมีจิตใจอ่อนโยนดังเช่นสตรี ไม่เพียงแต่วรยุทธ์ดีเลิศเท่านั้น แต่ยังเก่งในเรื่องการจัดขบวนทัพด้วย เป็นยอดแม่ทัพที่หาได้ยากนางได้ลำดับหนึ่งก็คือจอหงวนด้านวิชาการต่อสู้ ไม่มีใครไม่ยอมรับเลย แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็ดูฮึกเหิมมีพลังมากกว่าผู้ชายทุกคนในตอนนั้นเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งแซ่หลิวมีชื่อว่าเยว่ ก็ได้รับเลือกให้ติดอยู่ในสามอันดับแรก รั้งอยู่ในเมืองหลวงฝ่าบาทขานรายชื่อสตรีมามากขนาดนี้ เหล่าขุนนางข้าราชบริพารก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ต่างรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องตามระเบียบประเพณี แต่ก็กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์เป็นการส่วนตัวเท่านั้น ต้าโจวในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ที่ฝ่าบาทยินดีฟังพวกเขา ก็ถือเป็นการให้เกียรติพวกเขาแล้ว หากฝ่าบาทไม่อยากฟัง ถึงพูดมากไปก็ไร้ผลแต่ไม่มีใครกล้าพูดว่าเย่จิ่งอวี้เป็นทรราช ฝ่าบาททรงงานปกครองบ้านเมืองอย่างหนัก แม้ว่าพระองค์จะทรงปฏิรูปครั้งใหญ่ แต่ก็ทำเพื่อประชาชนในราชวงศ์ต้าโจวเท่านั้น ขณะนี้แผ่นดินสงบสุข มีธัญพืชอุดมสมบูรณ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1535 เหลวไหลจริงๆ

    เสียงเรียกว่าท่านพี่นั้นทำให้เย่จิ่งอวี้ใจอ่อนลงมากโข ความโกรธทั้งหมดพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันทีไม่เช่นนั้นจะทำอะไรได้อีก ภรรยาที่เลือกมาเอง มีแต่ต้องตามใจเองเท่านั้น“เจ้าคนโกหกตัวน้อย กลับไปสามีจะคิดบัญชีเจ้าหนักๆ ถอนกำลังภายในของเจ้าออก สามีจะทำแทนเจ้าเอง ประเดี๋ยวจะทำร้ายลูกในท้องเอา”เสียงของเย่จิ่งอวี้เชื่อมโยงเป็นเส้น ไหลผ่านกระทบโสตประสาทของอินชิงเสวียนคำต่อคำอย่างแจ่มชัดนางยกมุมปากขึ้น เผยเป็นรอยยิ้มภาคภูมิใจเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่จิ่งอวี้ นางจึงเปิดโสตประสาท เหตุผลที่ขอให้เย่จิ่งอวี้ช่วย ก็เพราะว่ากำลังภายในในร่างกายของนางซับซ้อนเกินไป ยากต่อการควบคุม ในงานที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาดเย่จิ่งอวี้ไม่เหมือนกัน เขาบำเพ็ญตบะกำลังภายในของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังประสานพลังแห่งฟ้าดิน แม้ว่าอินชิงเสวียนจะมีพลังลมปราณของหลายสำนัก แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับกำลังภายในอันบริสุทธิ์และทรงพลังของฮ่องเต้ได้ในชั่วพริบตา กำลังภายในดุจธารานิ่งลึกหลั่งไหลเข้ามาจากด้านนอกประตู เหมือนโลกลึกล้ำ โอบกอดและยืดหยุ่น บรรยากาศที่มืดมนในห้องโถงคล้ายจะถูก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1534 ท่านพี่ช่วยข้าได้ไหม

    “ฟางรั่วเข้าวัง?”เย่จิ่งอวี้หยุดฝีเท้าหลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมถามองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูวังแล้ว แม่นางฟางรั่วเข้ามาเมื่อสามชั่วยามที่แล้ว”เจวี๋ยอิ่งคุกเข่าลงและพูดว่า “กระหม่อมเห็นฟางรั่วเข้าไปในตำหนักจินอู๋ แต่ไม่เห็นนางและฮองเฮาออกมา”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาคล้ายจะสดใสและมืดมน กำลังตกอยู่ในอาการครุ่นคิดด้วยวรยุทธ์ของฟางรั่ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำอันตรายต่ออินชิงเสวียน นางยังมีใบมีดแห่งมิติอยู่ในมือ แม้ว่าเหล่าเทพเซียนจะลงมาเอง แต่นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้จากมุมมองนี้ ควรไม่ใช่การหายตัวไปง่ายๆ นางเรียกฟางรั่วมา ต้องมีเหตุผลอื่นเป็นแน่เจวี๋ยอิ่งโค้งคำนับและถามว่า “ต้องการให้กระหม่อมปิดล้อมพระนคร สืบหาที่อยู่ของฮองเฮาอย่างถี่ถ้วนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเจวี๋ยอิ่ง“ไม่ต้อง หลี่เต๋อฝู ไปเชิญกวนเซี่ยวเข้ามาด้วย”ครู่ต่อมา กวนเซี่ยวก็วิ่งเหยาะๆ มาถึงประตูตำหนัก ยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงกับพื้น“กวนเซี่ยวถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาททรง...”เย่จิ่งอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รำคาญ โบกมือห้าม“ตามสบาย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมฟางรั่วถึงมาที่วัง”กวนเซี่ยว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

DMCA.com Protection Status