หน้าหลัก / รักโบราณ / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 717 ไป๋เสวี่ยออกปฏิบัติการ

แชร์

บทที่ 717 ไป๋เสวี่ยออกปฏิบัติการ

ผู้เขียน: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-05-13 16:00:01
คนคนนั้นมองเย่จิ่งอวี้อย่างเงียบๆ ไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย ร่างกายแทบหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับต้นไม้

เย่จิ่งอวี้ก็ไม่ได้ขยับเช่นกัน เขาจ้องร่างที่มีเลือดไหลนองอยู่ตรงหน้า หัวใจของเขาเต้นอย่างไม่หยุดนิ่ง การหายใจก็ช้าลง

ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่ากลิ่นเลือดนั้นได้เหม็นมากนัก และยังมีรสชาติที่... หวานอร่อย!

เขายื่นมือออกไปอย่างอดไม่ได้ สัมผัสที่หยดเลือดและแตะที่ริมฝีปาก

วินาทีนั้น สีแดงรอบดวงตาของเขาก็แดงขึ้นอีกมากในทันที

เย่จิ่งอวี้อ้าปากเพื่อเตรียมลิ้มรสชาติของเลือด ทันใดนั้น ภาพของคนตรงหน้าก็เปลี่ยนเป็นรูปร่างของอินชิงเสวียน เย่จิ่งอวี้ตกใจในทันที และถอยหลังไปหลายก้าวอย่างอดไม่ได้

และเขาก็มีสติขึ้นมาในทันทีทันใด

เหตุใดเขาจึงอยากลิ้มรสชาติเลือดคน เหตุใดเขาจึงมีความคิดที่น่ากลัวเช่นนี้ได้?

หากเสวียนเอ๋อร์รู้เข้า ต้องรังเกียจเขาอย่างแน่นอน

เย่จิ่งอวี้รีบเช็ดเลือดที่มือจนสะอาด และใช้วิชาตัวเบาบินออกจากไปหุบเขาอย่างรวดเร็ว

เห็นได้ชัดว่าคนที่อยู่หลังต้นไม้ไม่คิดว่าเย่จิ่งอวี้จะจากไปอย่างกะทันหัน สายตาของเขาก็แสดงความโกรธเกรี้ยวออกมา

ไม่คิดว่าเจ้าเด็กนี่จะมีจิตใจที่แข็งแกร่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 718 พูดเข้าประเด็น

    หลังจากนั้นไม่ถึงสิบวินาที ไป๋เสวี่ยก็เห่าออกมาหนึ่งครั้ง และวิ่งไปด้านนอกประตูคนกลุ่มหนึ่งก็วิ่งตามไปไป๋เสวี่ยมาถึงโถงร่วมธรรมอย่างว่องไว จากนั้นเดินกลับออกมาตามเส้นทางอย่างช้าๆ พร้อมกับดมกลิ่นทุกคนเดินตามมันไปตลอดทาง เดินๆ หยุดๆ ทันใดนั้นไป๋เสวี่ยก็หยุดลงตรงทางแยกที่เซี่ยวอิ๋นหวนถูกพาตัวไปจากนั้นก็เงยหน้าเห่าครั้งหนึ่งเย่จิ่งอวี้ถามทันทีว่า “ไป๋เสวี่ย เจ้าพบอะไรแล้วใช่หรือไม่?”ไป๋เสวี่ยเห่าออกมาอีกสองครั้ง และเดินต่อไปด้านหน้า สุดท้ายก็หยุดลงที่หลังประตูของสำนักเซียวเหยา“หรือว่าท่านแม่ของข้าอยู่ที่นี่?”ลูกศิษย์ที่ลาดตระเวนของสำนักเซียวเหยาได้เห็นทุกคนแล้ว จึงพูดขึ้นทันทีว่า “พวกท่านมาจากสำนักใด มาที่นี่ด้วยเหตุผลใด?”เจ้าสำนักเซี่ยวหรี่ตามองด้วยความเยือกเย็น เดินไปด้านหน้าแล้วพูดว่า “ข้าคือเจ้าสำนักหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ให้เจ้าสำนักฉุยของพวกเจ้าออกมาคุยกันหน่อยสิ”อาซือหลานกำลังเดินไปเดินมาอยู่ในห้อง ตอนนี้ถูกนังผู้หญิงชั้นต่ำอย่างจูอวี้เหยียนทำเสียเรื่อง จึงจำเป็นต้องเดินหน้าต่อไปเขากำลังรอให้ถึงกลางดึก ส่งจดหมายหนึ่งฉบับให้เย่จิ่งอวี้ด้วยตัวเอง และล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-14
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 719 พวกเราชื่อว่าอินชิงเสวียน

    ความคิดถึงเป็นสิ่งที่แปลกประหลาดอย่างมาก บางครั้งยิ่งถูกระงับมากเท่าไรก็ยิ่งควบคุมได้ยากขึ้นเท่านั้นเมื่อไม่เห็นอินชิงเสวียน อาซือหลานยังสามารถควบคุมได้ แต่ทุกครั้งที่เห็นใบหน้าที่งดงามจนน่าทึ่ง อาซือหลานก็มีความรู้สึกแทบบ้าคลั่งเขาแทบอยากกอดอินชิงเสวียนไว้ในอ้อมอก และข่มเหงนางสักครั้งเขารู้สึกว่าตัวเองถูกผู้หญิงคนนี้ร่ายมนตร์ใส่ หากไม่ได้ตัวนางมา เขาคงเป็นบ้าในไม่ช้าก็เร็วหลายเดือนก่อน เขายังวางแผนที่จะครอบครองเจียงวูและครอบครองต้าโจวไว้ในมือของเขา ทว่านับตั้งแต่มาถึงชายฝั่งทะเลเป่ยไห่ หลังจากที่จับพลัดจับผลูกลายมาเป็นเจ้าสำนักโดยบังเอิญ เป้าหมายของเขาก็ค่อยๆเปลี่ยนไปเมื่อเทียบกับหลายๆ สำนักแล้ว เพียงแค่ชาติวงศ์และประเทศเล็กๆ แห่งหนึ่ง ความจริงแล้วแทบไม่มีอะไรเลย มีเพียงการยืนอยู่ในจุดสูงสุดของยุทธจักร จึงจะเป็นเส้นทางไปถึงจุดสูงสุดที่แท้จริงหากสามารถทำให้ยอดฝีมือหลายคนเชื่อฟังคำสั่งได้ การทำลายประเทศใดประเทศหนึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากและผู้หญิงที่มีผลต่อความคิดของเขา อาซือหลานยิ่งต้องเอามาให้ได้เพียงแค่ได้ตัวนางมา สิ่งที่ตัวเองทำลงไปทั้งหมดจึงจะมีความหมายมากขึ้น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-14
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 720 ของขวัญของเย่จิ่งหลาน

    ระหว่างที่อาซือหลานอยู่ในกิจแห่งกาม เจ้าสำนักเซี่ยวและคนอื่นๆ ก็กลับมาถึงหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์แล้วท่านผู้เฒ่ากางชุดคลุมออก และนั่งลงบนตำแหน่งหัวโต๊ะ พร้อมถามเสียงเข้มว่า “พวกเจ้ามีความเห็นอย่างไร?”อินชิงเสวียนมองไปที่เย่จิ่งอวี้ในทันทีเย่จิ่งอวี้ใบหน้าตึงเครียด แต่ไม่คิดจะพูดอะไรออกมาอินชิงเสวียนช่วยอะไรไม่ได้ ทั้งสองคนอาจไม่สามารถคืนดีกันได้สักพักจึงทำได้เพียงกระแอมไอแล้วพูดว่า “ไป๋เสวี่ยรู้สึกไวต่อกลิ่น และเข้าใจในกลิ่นของมนุษย์อย่างถ่องแท้ ในเมื่อมันตามไปถึงสำนักเซียวเหยา ก็พิสูจน์ได้ว่าท่านแม่อาจจะเคยอยู่ที่นั่น และนางอาจจะยังอยู่ที่สำนักเซียวเหยาก็ได้ เพียงแต่อาจถูกย้ายไปอยู่ที่อื่น”เจ้าสำนักเซี่ยวพยักหน้า“ข้าก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน คืนนี้ข้าเตรียมจะไปค้นหาที่สำนักเซียวเหยาอีกครั้ง”เย่จิ่งอวี้พูดเสียงเรียบว่า “ไม่จำเป็นต้องรบกวนเจ้าสำนักเซี่ยว ข้าจะไปกับเสวียนเอ๋อร์”พูดจบก็หมุนตัวเดินออกไป“อาอวี้!”อินชิงเสวียนตะโกนเรียกเบาๆ เย่จิ่งอวี้ก็ไม่ได้หันหลังกลับมาเจ้าสำนักเซี่ยวไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยอะไร จึงโบกมือแล้วพูดว่า “ช่างเถอะ หวนเอ๋อร์หายตัวไป เข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-14
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 721 เพื่อนที่ดี

    เย่จิ่งหลานปิดปากเดินเข้าห้องอินชิงเสวียนใช้แรงเม้มริมฝีปากอย่างอดไม่ได้ คนบ้านเดียวกันคนนี้ไว้ใจได้จริงๆ และสิ่งที่นางติดค้างเย่จิ่งหลานไว้ มีมากจนแทบนับไม่ถ้วนแล้วบางทีเขาอาจพูดถูก ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ ไม่เพียงมีคะแนนสะสม แต่ยังมีโอกาสตอบแทนด้วย หากเขาต้องการที่จะใช้ประโยชน์จากตัวเอง อินชิงเสวียนจะยอมบุกน้ำลุยไฟ และไม่ปฏิเสธอย่างแน่นอนนางหยิบปืนด้วยความคิดที่ซับซ้อน และเดินตรงไปที่ห้องโถงเย่จิ่งหลานไม่ได้เดินไปไหนไกล เขายืนอยู่หลังประตูผ่านช่องว่างที่คับแคบ และมองดูอินชิงเสวียนด้วยรอยยิ้มจางๆหวังว่านางจะมีชีวิตอยู่เป็นอย่างดี ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ จึงจะทำสิ่งต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้นเฝ้ามองจนกระทั่งเงาของอินชิงเสวียนหายไป เย่จิ่งหลานจึงกลับเข้าไปในมิติจากนั้นก็หยิบหนังสือที่เพิ่งแลกมาใหม่ กินมันฝรั่งทอด พร้อมอ่านหนังสืออย่างเพลิดเพลินอินชิงเสวียนเดินมาถึงหน้าประตูห้องโถง และกำลังจะเดินเข้าไป นางได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้นว่า “รายงานเจ้าสำนัก ศิษย์พี่ทั้งสองต่างกำลังบำเพ็ญเพียรอยู่ที่ภูเขาอวิ๋นฉี และยังไม่เคยห่างออกที่ไหนเลย เกรงว่าผู้ที่สังหารหมอเทวดาหนิง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-14
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 722 ตายเสียเถอะ

    “ไม่เป็นไรเพคะ ตอนนี้เกินตีหนึ่งมาแล้ว เวลานี้น่าจะกำลังพอดี”อินชิงเสวียนถอยหลังไปหนึ่งก้าว ดวงตายังคงจับจ้องไปที่เย่จิ่งอวี้อย่างไม่วางตาเย่จิ่งอวี้ลุกขึ้นยืน และจับมือเล็กที่เย็นเล็กน้อยของอินชิงเสวียนเอาไว้“เสวียนเอ๋อร์ เจ้าเป็นอะไรงั้นหรือ?”อินชิงเสวียนกระแอมไอเสียงแห้งแล้วพูดว่า “ไม่มีอะไรเพคะ อาอวี้รู้สึกผิดปกติส่วนไหนในร่างกายหรือไม่เพคะ?”เย่จิ่งอวี้หลับตาเพื่อสัมผัสความรู้สึก พร้อมส่ายหน้าพูดว่า “เหตุใดเสวียนเอ๋อร์จึงถามเช่นนี้?”อินชิงเสวียนพูดด้วยสายตาที่อ่อนโยน “ข้าเป็นห่วงว่าท่านจะเหนื่อยมากเกินไป ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วเพคะ พวกเราออกไปกันเถอะ!”เย่จิ่งอวี้กางแขนออก และโอบอินชิงเสวียนไว้ในอ้อมอก พร้อมพูดอย่างอ่อนโยนว่า “ลำบากเสวียนเอ๋อร์แย่เลย”อินชิงเสวียนพูดตำหนิว่า “มีสิ่งใดต้องลำบากเพคะ นี่เป็นสิ่งที่ข้าสมควรต้องทำ”เมื่อคิดได้เช่นนั้น ทั้งสองก็ออกไปจากมิติหลังจากนั้นสิบห้านาที ร่างเงาสองร่างในชุดท่องราตรีก็ออกมาจากหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์อย่างรวดเร็วในอ้อมอกของเย่จิ่งอวี้ยังอุ้มไป๋เสวี่ยที่สวมเสื้อผ้าไว้ หัวสุนัขที่มีขนาดใหญ่สวมชุดที่มีหมวกคลุมเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-14
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 723 ห้ามคุกเข่านะ

    เย่จิ่งอวี้ร้อนใจรีบตามหาหวนไท่เฟย จึงไม่ทันได้ระวังตัว เขาแค่รู้สึกจุกที่หัวใจ และระงับกลิ่นเลือดที่พลุ่งพล่านในลำคอเอาไว้เพียงพริบตาเดียวอีกฝ่ามือหนึ่งก็พุ่งเข้ามาอินชิงเสวียนกรีดร้องด้วยความตกใจ“จูอวี้เหยียน!”เมื่อเห็นผู้หญิงที่อยู่ด้านในห้อง อินชิงเสวียนก็ต้องตกใจอย่างอดไม่ได้นางอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?อีกทั้งยังสามารถฟื้นฟูวิทยายุทธ์ได้ด้วยงั้นหรือ?เย่จิ่งอวี้ยื่นมือไปโอบเอวบางของอินชิงเสวียนเอาไว้ รีบบินถอยหลังอยู่หลายก้าว และมองเห็นหน้าตาที่ชัดเจนของจูอวี้เหยียน“เจ้าก็กล้ามาถึงเป่ยไห่เลยงั้นหรือ?”จูอวี้เหยียนกระตุกยิ้มที่มุมปาก และพูดเยาะเย้ยว่า “เจ้ามาที่นี่ได้ เหตุใดข้าจะมาที่นี่ไม่ได้เล่า”นางก้าวขึ้นมาด้านหน้าอย่างไม่เกรงกลัว และพูดด้วยใบหน้าที่หยิ่งยโสว่า “ข้าไม่เพียงมาที่นี่เฉยๆ แต่ยังนำของขวัญชิ้นใหญ่มาให้เจ้าด้วย”เมื่อนางเบี่ยงตัว อินชิงเสวียนก็เห็นหวนไท่เฟยที่ผูกไว้กับเสาหินในทันทีเมื่อเห็นรอยเลือดเป็นริ้วๆ บนร่างกายของเซี่ยวอิ๋นหวน เย่จิ่งอวี้ก็โมโหเป็นอย่างมาก“ท่านแม่!”จูอวี้เหยียนมาขวางที่หน้าประตูอีกครั้ง และพูดอย่างเยือกเย็นว่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-14
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 724 ตายตาไม่หลับ

    อินชิงเสวียนหันหน้ามา และเห็นรูม่านตาเหล่านั้นของเย่จิ่งอวี้ถูกล้อมรอบด้วยแสงสีแดง“อาอวี้!”เมื่อสิ้นเสียงพูด ใต้เท้าของเย่จิ่งอวี้ก็ตวัดภาพติดตาออกมา อินชิงเสวียนเห็นเพียงเงาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เย่จิ่งอวี้ก็มาอยู่ตรงหน้าของจูอวี้เหยียนแล้วอินชิงเสวียนตกใจอย่างอดไม่ได้วิทยายุทธ์ของเย่จิ่งอวี้แข็งแกร่งมากจริงๆ แต่ไม่ได้แกร่งมากถึงขั้นนั้น นี่มันพลังวิชาอะไรกันแน่ หรือว่าเจ้าสำนักเซี่ยวถ่ายทอดวิชาให้เขาแล้ว?เมื่อคิดดูอีกครั้ง เย่จิ่งอวี้และเจ้าสำนักเซี่ยวแทบไม่พูดจาด้วยกันเลย จะถ่ายทอดวิชาได้อย่างไร?เวลาเพียงครู่เดียว ก็ได้ยินจูอวี้เหยียนส่งเสียงกรีดร้องออกมา จากนั้นก็กระอักเลือดออกมาเต็มปากอินชิงเสวียนวิ่งเข้าไปในห้องทันที และหยิบมีดสั้นตัดเชือกที่ผูกหวนไท่เฟยไว้เย่จิ่งอวี้ยังคงยืนอยู่ที่เดิม และมองจูอวี้เหยียนด้วยสายตาที่เยือกเย็นจูอวี้เหยียนยกมือสาดควันพิษ เย่จิ่งอวี้ไม่แม้แต่จะขยับ ดวงตายังคงจ้องเลือดที่ริมฝีปากของนางอยู่ตลอดจูอวี้เหยียนถูกมองจนรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาในทันที“เจ้า... เจ้าต้องการจะทำสิ่งใด?”ทันใดนั้น เย่จิ่งอวี้ก็ยกเท้าเหยียบที่หน้าอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-14
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 725 น่าสนุก

    เย่จิ่งอวี้หิ้วร่างของจูอวี้เหยียนขึ้นมา และพูดอย่างเย็นชาว่า “ผู้หญิงที่ชั่วร้ายเช่นนี้ สมควรให้นำศพของนางไปทิ้งร้างในป่าช้าอย่างไม่ไยดี และปล่อยให้สัตว์ป่ารุมกัดกิน”อินชิงเสวียนไม่ได้พูดอะไร ในใจนึกถึงแสดงสีแดงแปลกประหลาดในแววตาของเย่จิ่งอวี้อยู่ตลอดเวลาเย่จิ่งอวี้ลากร่างของจูอวี้เหยียนมาด้านนอกเรือน อินชิงเสวียนเรียกไป๋เสวี่ยหนึ่งครั้ง และรีบพยุงหวนไท่เฟยที่สลบไสลไม่ได้สติเดินตามมาอย่างว่องไวเย่จิ่งอวี้เดินออกมายังทางเดินหินเขียว ใบหน้าที่หล่อเหลาเปื้อนหยดเลือดจำนวนมาก เขาใช้มือเพียงข้างเดียวหิ้วร่างของจูอวี้เหยียนที่ดวงตาที่โปนออกมาและยังมีเลือดไหลไม่หยุด ตาคมคู่หนึ่งเย็นชาดั่งน้ำแข็ง และเต็มไปด้วยความเกลียดชังรอยเลือดยาวพาดผ่านทางเดินหินสีเขียว และกลิ่นคาวเลือดก็ถาโถมเข้าจมูกเมื่อมองเย่จิ่งอวี้ที่ราวกับอสูรแห่งยมโลก ลูกศิษย์หลายคนของสำนักเซียวเหยาต่างก็ตกใจจนต้องถอยไปหนึ่งก้าวในทันทีอาซือหลานซ่อนตัวอยู่ในความมืดและเฝ้าดูอย่างเย็นชารวมทั้งวิธีการลงมือของเย่จิ่งอวี้ และรูม่านตาที่มีสีแดง เขาเห็นมองเห็นอย่างชัดเจนนี่คือวรยุทธ์ของสำนักใดกัน?หรือเป็นวิชาการต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-14

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1540 สองพระองค์ครองราชย์ จบบริบูรณ์

    ปีที่สามของการครองราชย์ในราชวงศ์ต้าโจวฮองเฮาให้กำเนิดพระธิดา ได้รับพระราชทานนามว่าองค์หญิงเจ๋อเทียน นามว่าเจิน มีชื่อเล่นว่าฝูเอ๋อร์ในเดือนเก้าของปีเดียวกัน เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนปกครองร่วมกัน แบ่งกันปกครองบ้านเมืองและการดำรงชีวิตของผู้คน ราษฎรเคารพทั้งสองในฐานะพระองค์ฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา ประวัติศาสตร์ได้บันทึกช่วงเวลานี้ไว้ด้วยถ้อยคำที่งดงามที่สุด และเรียกช่วงเวลานี้อย่างเคารพว่า ยุคที่สององค์ปกครอง!ห้าปีต่อมา เครื่องกำเนิดพลังงานลมเครื่องแรกปรากฏขึ้นด้วยฝีมือความสามารถของชาวต้าโจว ซึ่งก้าวล้ำหน้าสมัยโบราณที่ล้าหลังไปอย่างมากด้วยก้าวที่ยิ่งใหญ่นักเรียนจากทั่วแคว้นได้แสดงความสามารถ พัฒนาสิ่งที่ล้ำหน้าต่างๆ ผ่านความรู้ทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมีใหม่ล่าสุด บุปผานับร้อยบานสะพรั่งพร้อมกัน ก่อให้เกิดยุครุ่งเรืองของราชวงศ์ต้าโจวตอนนี้อาหารไม่ขาดแคลน ราษฎรไม่ต้องทนทุกข์กับความหิวโหยอีกต่อไป ยิ่งไม่มีการอพยพย้ายถิ่นฐาน โครงการคลองส่งน้ำก็สำเร็จลุล่วง ด้วยการคมนาคมสะดวกระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ก็สามารถแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการได้ในที่สุด อ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นยังสามารถเปลี่ยนเส้นท

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1539 เสวียนเอ๋อร์ขอบคุณเจ้านะ

    ตำหนักจินอู๋อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ แต่ไม่กล้าโคจรกำลังภายในต้านทานไว้ เพราะกลัวว่าจะทำร้ายลูกของนางเมื่อเห็นนางกัดริมฝีปากล่างแน่น มีเหงื่อไหลอาบหน้า หัวใจของเย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกเหมือนถูกมีดคมๆ นับพันทิ่มแทง รู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง“ต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาได้ ต้องปล่อยให้นางเจ็บปวดทนทุกข์เช่นนี้หรือ”หมอตำแยกล่าวอย่างกล้าหาญว่า “สตรีคลอดบุตรก็เป็นเช่นนี้เพคะ อดทนไว้ แล้วจะดีเอง”เย่จิ่งอวี้พูดด้วยความโกรธ “ฮองเฮาของข้าจะเทียบได้กับสตรีทั่วไปได้อย่างไร รีบหาทางบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาเดี๋ยวนี้”“ข้าไม่เป็นไร อาอวี้ออกไปก่อนเถอะ!”เสียงของอินชิงเสวียนนั้นอ่อนแรง แม้จะเป็นสามีภรรยากัน แต่ถูกเห็นเข้าในสถานการณ์เช่นนี้ก็น่าอายอยู่เหมือนกันเย่จิ่งอวี้เดินก้าวเดียวก็ไปถึงเตียง จับมือของนางแน่นๆ แล้วพูดอย่างกระวนกระวายใจ “ข้าไม่วางใจ มีวิธีถ่ายทอดความเจ็บปวดให้ข้าได้ไหม เจ้าอยู่กับลั่วสุ่ยชิงมานานแล้ว ไม่ได้เรียนวิชาอาคมอะไรจากนางบ้างหรือ”อินชิงเสวียนเจ็บปวดเจียนตายอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำนี้ก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1538 ไท่เฟยไท่ผินออกจากวัง

    อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดและกล่าวว่า “ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ วันนี้เป็นวันแต่งงานของไห่ถัง ในฐานะพี่ชาย ควรเป็นประธานงานแต่งของนางด้วยตนเอง หากไม่มีคนในราชวงศ์ไป ไห่ถังจะผิดหวังได้”แม้น้องสาวจะเป็นญาติ แต่ก็ไม่ชิดเชื้อเท่ากับภรรยา ลูกคนแรกเกิดในตำหนักเย็น ซึ่งทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกผิดไปครึ่งชีวิตแล้ว ยากนี้เด็กคนนี้คือสมบัติล้ำค่าที่แท้จริงระหว่างพวกเขา ในฐานะพ่อของลูก เขาจะจากไปได้อย่างไรเมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางซีด มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายขึ้นเต็มขมับของนาง เย่จิ่งอวี้ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อปลอบนาง “ไม่เป็นไร มีแม่ทัพอินและจอมพลกวนอยู่ด้วย ไห่ถังก็ไม่นับว่าเสียเกียรติอะไรนัก”อินชิงเสวียนคว้าแขนของเขา“จะได้อย่างไร หากไม่มีใครจากในวังไป มันจะกลายเป็นปมในใจของไห่ถังอย่างแน่นอน นี่คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนาง”ไม่ว่าอย่างไรเย่จิ่งอวี้ก็ไม่ยอมไป แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้น้องสาวเสียหน้าได้ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มีความคิดอยู่ในใจ“เจวี๋ยอิ่ง ไปเชิญไท่เฟยไท่ผินทุกท่าน ให้พวกนางออกจากวัง ร่วมงานเสกสมรสขององค์หญิงเดี๋ยวนี้”ทุกคนตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่จิ่งอวี้จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1537 ฮองเฮาทรงมีพระประสูติการ

    เย่ไห่ถังยังคงมีความสุข แต่จู่ๆ เสียงของหลี่เต๋อฝูก็ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเปิดประตู เห็นเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้ยืนอยู่ที่กลางเรือน น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตา“ไห่ถังคารวะเสด็จพี่ เสด็จพี่สะใภ้เพคะ!”เย่ไห่ถังกำลังจะคุกเข่าลง แต่เย่จิ่งอวี้ก็ปราดเข้าประคองนางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในฐานะสตรีที่ออกเรือนแล้ว ทุกสิ่งต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม จะทำตัวเหลวไหลซุกซนเหมือนอยู่ในวังไม่ได้ หากใช้ชีวิตนอกวังจนเบื่อแล้ว ก็สามารถกลับมาได้ตลอดเวลา วังหลวงจะเป็นบ้านของเจ้าตลอดไป”อินชิงเสวียนก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ถ้าพี่รองของข้ารังแกเจ้า เจ้าก็บอกข้าได้เลย ข้าจะทวงความยุติธรรมให้กับเจ้าแน่นอน”ถ้าคนที่เย่ไห่ถังแต่งงานด้วยไม่ใช่อินปู้อวี่ เย่จิ่งอวี้คงพูดคำนี้ไปนานแล้วเย่ไห่ถังสูดจมูก“ขอบพระทัยเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้เพคะ ตอนแรกข้าค่อนข้างมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่อยากจากไปเลย”เมื่อเห็นว่าจมูกของเย่ไห่ถังแดง กำลังจะร้องไห้อีก เย่จิ่งอวี้จึงตีหน้าขรึมพูดทันที “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าจะให้คนไปแจ้งอินปู้อวี่ ว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่มีแล้ว หลี่เต๋อฝู!”หลี่เต๋อฝูก็เป็นคนเจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1536 องค์หญิงกำลังจะเสกสมรส

    ในวันที่หนึ่งเดือนสี่ ลำดับการสอบการต่อสู้ชี้ให้เห็นว่า เฉินเซียงเยว่ที่อินชิงเสวียนสนใจ สอบได้ลำดับหนึ่ง คนผู้นี้หน้าตาดูดุร้ายและน่าเกลียด แต่กลับมีจิตใจอ่อนโยนดังเช่นสตรี ไม่เพียงแต่วรยุทธ์ดีเลิศเท่านั้น แต่ยังเก่งในเรื่องการจัดขบวนทัพด้วย เป็นยอดแม่ทัพที่หาได้ยากนางได้ลำดับหนึ่งก็คือจอหงวนด้านวิชาการต่อสู้ ไม่มีใครไม่ยอมรับเลย แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็ดูฮึกเหิมมีพลังมากกว่าผู้ชายทุกคนในตอนนั้นเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งแซ่หลิวมีชื่อว่าเยว่ ก็ได้รับเลือกให้ติดอยู่ในสามอันดับแรก รั้งอยู่ในเมืองหลวงฝ่าบาทขานรายชื่อสตรีมามากขนาดนี้ เหล่าขุนนางข้าราชบริพารก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ต่างรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องตามระเบียบประเพณี แต่ก็กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์เป็นการส่วนตัวเท่านั้น ต้าโจวในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ที่ฝ่าบาทยินดีฟังพวกเขา ก็ถือเป็นการให้เกียรติพวกเขาแล้ว หากฝ่าบาทไม่อยากฟัง ถึงพูดมากไปก็ไร้ผลแต่ไม่มีใครกล้าพูดว่าเย่จิ่งอวี้เป็นทรราช ฝ่าบาททรงงานปกครองบ้านเมืองอย่างหนัก แม้ว่าพระองค์จะทรงปฏิรูปครั้งใหญ่ แต่ก็ทำเพื่อประชาชนในราชวงศ์ต้าโจวเท่านั้น ขณะนี้แผ่นดินสงบสุข มีธัญพืชอุดมสมบูรณ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1535 เหลวไหลจริงๆ

    เสียงเรียกว่าท่านพี่นั้นทำให้เย่จิ่งอวี้ใจอ่อนลงมากโข ความโกรธทั้งหมดพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันทีไม่เช่นนั้นจะทำอะไรได้อีก ภรรยาที่เลือกมาเอง มีแต่ต้องตามใจเองเท่านั้น“เจ้าคนโกหกตัวน้อย กลับไปสามีจะคิดบัญชีเจ้าหนักๆ ถอนกำลังภายในของเจ้าออก สามีจะทำแทนเจ้าเอง ประเดี๋ยวจะทำร้ายลูกในท้องเอา”เสียงของเย่จิ่งอวี้เชื่อมโยงเป็นเส้น ไหลผ่านกระทบโสตประสาทของอินชิงเสวียนคำต่อคำอย่างแจ่มชัดนางยกมุมปากขึ้น เผยเป็นรอยยิ้มภาคภูมิใจเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่จิ่งอวี้ นางจึงเปิดโสตประสาท เหตุผลที่ขอให้เย่จิ่งอวี้ช่วย ก็เพราะว่ากำลังภายในในร่างกายของนางซับซ้อนเกินไป ยากต่อการควบคุม ในงานที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาดเย่จิ่งอวี้ไม่เหมือนกัน เขาบำเพ็ญตบะกำลังภายในของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังประสานพลังแห่งฟ้าดิน แม้ว่าอินชิงเสวียนจะมีพลังลมปราณของหลายสำนัก แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับกำลังภายในอันบริสุทธิ์และทรงพลังของฮ่องเต้ได้ในชั่วพริบตา กำลังภายในดุจธารานิ่งลึกหลั่งไหลเข้ามาจากด้านนอกประตู เหมือนโลกลึกล้ำ โอบกอดและยืดหยุ่น บรรยากาศที่มืดมนในห้องโถงคล้ายจะถูก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1534 ท่านพี่ช่วยข้าได้ไหม

    “ฟางรั่วเข้าวัง?”เย่จิ่งอวี้หยุดฝีเท้าหลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมถามองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูวังแล้ว แม่นางฟางรั่วเข้ามาเมื่อสามชั่วยามที่แล้ว”เจวี๋ยอิ่งคุกเข่าลงและพูดว่า “กระหม่อมเห็นฟางรั่วเข้าไปในตำหนักจินอู๋ แต่ไม่เห็นนางและฮองเฮาออกมา”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาคล้ายจะสดใสและมืดมน กำลังตกอยู่ในอาการครุ่นคิดด้วยวรยุทธ์ของฟางรั่ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำอันตรายต่ออินชิงเสวียน นางยังมีใบมีดแห่งมิติอยู่ในมือ แม้ว่าเหล่าเทพเซียนจะลงมาเอง แต่นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้จากมุมมองนี้ ควรไม่ใช่การหายตัวไปง่ายๆ นางเรียกฟางรั่วมา ต้องมีเหตุผลอื่นเป็นแน่เจวี๋ยอิ่งโค้งคำนับและถามว่า “ต้องการให้กระหม่อมปิดล้อมพระนคร สืบหาที่อยู่ของฮองเฮาอย่างถี่ถ้วนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเจวี๋ยอิ่ง“ไม่ต้อง หลี่เต๋อฝู ไปเชิญกวนเซี่ยวเข้ามาด้วย”ครู่ต่อมา กวนเซี่ยวก็วิ่งเหยาะๆ มาถึงประตูตำหนัก ยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงกับพื้น“กวนเซี่ยวถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาททรง...”เย่จิ่งอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รำคาญ โบกมือห้าม“ตามสบาย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมฟางรั่วถึงมาที่วัง”กวนเซี่ยว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status