แชร์

บทที่ 721 เพื่อนที่ดี

ผู้เขียน: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-05-14 18:51:12
เย่จิ่งหลานปิดปากเดินเข้าห้อง

อินชิงเสวียนใช้แรงเม้มริมฝีปากอย่างอดไม่ได้ คนบ้านเดียวกันคนนี้ไว้ใจได้จริงๆ และสิ่งที่นางติดค้างเย่จิ่งหลานไว้ มีมากจนแทบนับไม่ถ้วนแล้ว

บางทีเขาอาจพูดถูก ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ ไม่เพียงมีคะแนนสะสม แต่ยังมีโอกาสตอบแทนด้วย หากเขาต้องการที่จะใช้ประโยชน์จากตัวเอง อินชิงเสวียนจะยอมบุกน้ำลุยไฟ และไม่ปฏิเสธอย่างแน่นอน

นางหยิบปืนด้วยความคิดที่ซับซ้อน และเดินตรงไปที่ห้องโถง

เย่จิ่งหลานไม่ได้เดินไปไหนไกล เขายืนอยู่หลังประตูผ่านช่องว่างที่คับแคบ และมองดูอินชิงเสวียนด้วยรอยยิ้มจางๆ

หวังว่านางจะมีชีวิตอยู่เป็นอย่างดี ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ จึงจะทำสิ่งต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้น

เฝ้ามองจนกระทั่งเงาของอินชิงเสวียนหายไป เย่จิ่งหลานจึงกลับเข้าไปในมิติ

จากนั้นก็หยิบหนังสือที่เพิ่งแลกมาใหม่ กินมันฝรั่งทอด พร้อมอ่านหนังสืออย่างเพลิดเพลิน

อินชิงเสวียนเดินมาถึงหน้าประตูห้องโถง และกำลังจะเดินเข้าไป นางได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้นว่า “รายงานเจ้าสำนัก ศิษย์พี่ทั้งสองต่างกำลังบำเพ็ญเพียรอยู่ที่ภูเขาอวิ๋นฉี และยังไม่เคยห่างออกที่ไหนเลย เกรงว่าผู้ที่สังหารหมอเทวดาหนิง
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 722 ตายเสียเถอะ

    “ไม่เป็นไรเพคะ ตอนนี้เกินตีหนึ่งมาแล้ว เวลานี้น่าจะกำลังพอดี”อินชิงเสวียนถอยหลังไปหนึ่งก้าว ดวงตายังคงจับจ้องไปที่เย่จิ่งอวี้อย่างไม่วางตาเย่จิ่งอวี้ลุกขึ้นยืน และจับมือเล็กที่เย็นเล็กน้อยของอินชิงเสวียนเอาไว้“เสวียนเอ๋อร์ เจ้าเป็นอะไรงั้นหรือ?”อินชิงเสวียนกระแอมไอเสียงแห้งแล้วพูดว่า “ไม่มีอะไรเพคะ อาอวี้รู้สึกผิดปกติส่วนไหนในร่างกายหรือไม่เพคะ?”เย่จิ่งอวี้หลับตาเพื่อสัมผัสความรู้สึก พร้อมส่ายหน้าพูดว่า “เหตุใดเสวียนเอ๋อร์จึงถามเช่นนี้?”อินชิงเสวียนพูดด้วยสายตาที่อ่อนโยน “ข้าเป็นห่วงว่าท่านจะเหนื่อยมากเกินไป ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วเพคะ พวกเราออกไปกันเถอะ!”เย่จิ่งอวี้กางแขนออก และโอบอินชิงเสวียนไว้ในอ้อมอก พร้อมพูดอย่างอ่อนโยนว่า “ลำบากเสวียนเอ๋อร์แย่เลย”อินชิงเสวียนพูดตำหนิว่า “มีสิ่งใดต้องลำบากเพคะ นี่เป็นสิ่งที่ข้าสมควรต้องทำ”เมื่อคิดได้เช่นนั้น ทั้งสองก็ออกไปจากมิติหลังจากนั้นสิบห้านาที ร่างเงาสองร่างในชุดท่องราตรีก็ออกมาจากหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์อย่างรวดเร็วในอ้อมอกของเย่จิ่งอวี้ยังอุ้มไป๋เสวี่ยที่สวมเสื้อผ้าไว้ หัวสุนัขที่มีขนาดใหญ่สวมชุดที่มีหมวกคลุมเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-14
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 723 ห้ามคุกเข่านะ

    เย่จิ่งอวี้ร้อนใจรีบตามหาหวนไท่เฟย จึงไม่ทันได้ระวังตัว เขาแค่รู้สึกจุกที่หัวใจ และระงับกลิ่นเลือดที่พลุ่งพล่านในลำคอเอาไว้เพียงพริบตาเดียวอีกฝ่ามือหนึ่งก็พุ่งเข้ามาอินชิงเสวียนกรีดร้องด้วยความตกใจ“จูอวี้เหยียน!”เมื่อเห็นผู้หญิงที่อยู่ด้านในห้อง อินชิงเสวียนก็ต้องตกใจอย่างอดไม่ได้นางอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?อีกทั้งยังสามารถฟื้นฟูวิทยายุทธ์ได้ด้วยงั้นหรือ?เย่จิ่งอวี้ยื่นมือไปโอบเอวบางของอินชิงเสวียนเอาไว้ รีบบินถอยหลังอยู่หลายก้าว และมองเห็นหน้าตาที่ชัดเจนของจูอวี้เหยียน“เจ้าก็กล้ามาถึงเป่ยไห่เลยงั้นหรือ?”จูอวี้เหยียนกระตุกยิ้มที่มุมปาก และพูดเยาะเย้ยว่า “เจ้ามาที่นี่ได้ เหตุใดข้าจะมาที่นี่ไม่ได้เล่า”นางก้าวขึ้นมาด้านหน้าอย่างไม่เกรงกลัว และพูดด้วยใบหน้าที่หยิ่งยโสว่า “ข้าไม่เพียงมาที่นี่เฉยๆ แต่ยังนำของขวัญชิ้นใหญ่มาให้เจ้าด้วย”เมื่อนางเบี่ยงตัว อินชิงเสวียนก็เห็นหวนไท่เฟยที่ผูกไว้กับเสาหินในทันทีเมื่อเห็นรอยเลือดเป็นริ้วๆ บนร่างกายของเซี่ยวอิ๋นหวน เย่จิ่งอวี้ก็โมโหเป็นอย่างมาก“ท่านแม่!”จูอวี้เหยียนมาขวางที่หน้าประตูอีกครั้ง และพูดอย่างเยือกเย็นว่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-14
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 724 ตายตาไม่หลับ

    อินชิงเสวียนหันหน้ามา และเห็นรูม่านตาเหล่านั้นของเย่จิ่งอวี้ถูกล้อมรอบด้วยแสงสีแดง“อาอวี้!”เมื่อสิ้นเสียงพูด ใต้เท้าของเย่จิ่งอวี้ก็ตวัดภาพติดตาออกมา อินชิงเสวียนเห็นเพียงเงาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เย่จิ่งอวี้ก็มาอยู่ตรงหน้าของจูอวี้เหยียนแล้วอินชิงเสวียนตกใจอย่างอดไม่ได้วิทยายุทธ์ของเย่จิ่งอวี้แข็งแกร่งมากจริงๆ แต่ไม่ได้แกร่งมากถึงขั้นนั้น นี่มันพลังวิชาอะไรกันแน่ หรือว่าเจ้าสำนักเซี่ยวถ่ายทอดวิชาให้เขาแล้ว?เมื่อคิดดูอีกครั้ง เย่จิ่งอวี้และเจ้าสำนักเซี่ยวแทบไม่พูดจาด้วยกันเลย จะถ่ายทอดวิชาได้อย่างไร?เวลาเพียงครู่เดียว ก็ได้ยินจูอวี้เหยียนส่งเสียงกรีดร้องออกมา จากนั้นก็กระอักเลือดออกมาเต็มปากอินชิงเสวียนวิ่งเข้าไปในห้องทันที และหยิบมีดสั้นตัดเชือกที่ผูกหวนไท่เฟยไว้เย่จิ่งอวี้ยังคงยืนอยู่ที่เดิม และมองจูอวี้เหยียนด้วยสายตาที่เยือกเย็นจูอวี้เหยียนยกมือสาดควันพิษ เย่จิ่งอวี้ไม่แม้แต่จะขยับ ดวงตายังคงจ้องเลือดที่ริมฝีปากของนางอยู่ตลอดจูอวี้เหยียนถูกมองจนรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาในทันที“เจ้า... เจ้าต้องการจะทำสิ่งใด?”ทันใดนั้น เย่จิ่งอวี้ก็ยกเท้าเหยียบที่หน้าอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-14
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 725 น่าสนุก

    เย่จิ่งอวี้หิ้วร่างของจูอวี้เหยียนขึ้นมา และพูดอย่างเย็นชาว่า “ผู้หญิงที่ชั่วร้ายเช่นนี้ สมควรให้นำศพของนางไปทิ้งร้างในป่าช้าอย่างไม่ไยดี และปล่อยให้สัตว์ป่ารุมกัดกิน”อินชิงเสวียนไม่ได้พูดอะไร ในใจนึกถึงแสดงสีแดงแปลกประหลาดในแววตาของเย่จิ่งอวี้อยู่ตลอดเวลาเย่จิ่งอวี้ลากร่างของจูอวี้เหยียนมาด้านนอกเรือน อินชิงเสวียนเรียกไป๋เสวี่ยหนึ่งครั้ง และรีบพยุงหวนไท่เฟยที่สลบไสลไม่ได้สติเดินตามมาอย่างว่องไวเย่จิ่งอวี้เดินออกมายังทางเดินหินเขียว ใบหน้าที่หล่อเหลาเปื้อนหยดเลือดจำนวนมาก เขาใช้มือเพียงข้างเดียวหิ้วร่างของจูอวี้เหยียนที่ดวงตาที่โปนออกมาและยังมีเลือดไหลไม่หยุด ตาคมคู่หนึ่งเย็นชาดั่งน้ำแข็ง และเต็มไปด้วยความเกลียดชังรอยเลือดยาวพาดผ่านทางเดินหินสีเขียว และกลิ่นคาวเลือดก็ถาโถมเข้าจมูกเมื่อมองเย่จิ่งอวี้ที่ราวกับอสูรแห่งยมโลก ลูกศิษย์หลายคนของสำนักเซียวเหยาต่างก็ตกใจจนต้องถอยไปหนึ่งก้าวในทันทีอาซือหลานซ่อนตัวอยู่ในความมืดและเฝ้าดูอย่างเย็นชารวมทั้งวิธีการลงมือของเย่จิ่งอวี้ และรูม่านตาที่มีสีแดง เขาเห็นมองเห็นอย่างชัดเจนนี่คือวรยุทธ์ของสำนักใดกัน?หรือเป็นวิชาการต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-14
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 726 เมล็ดพันธุ์ที่ปลูกมาหลายปี

    เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเขาอย่างเย็นชา“นางจับตัวท่านแม่ของข้า ไม่สมควรถูกฆ่างั้นหรือ?”อาซือหลานถามด้วยความตกใจ “เรื่องนี้... เป็นความจริงหรือ?”“เหตุใดเจ้าสำนักฉุยต้องทำท่าทีเสแสร้งด้วยเล่า เรื่องราวเกิดขึ้นในสำนักเซียวเหยา ข้าไม่เชื่อว่าท่านไม่รู้เรื่อง”ปลายดาบของเย่จิ่งอวี้ขยับไปด้านหน้าอีกหนึ่งคืบ และห่างจากปลายจมูกของอาซือหลานไม่ถึงสามคืบอาซือหลานถอนหายใจพูดว่า “ข้าไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ ข้ารู้ว่าชื่อเสียงของสำนักเซียวเหยาไม่ดีมากนัก ความจริงข้ารู้ว่าไม่สมควรโต้แย้ง แต่ข้ากล้าสาบานต่อฟ้าดินว่า ข้าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จริงๆ”เขาชะงักไปเล็กน้อยแล้วพูดต่อว่า “วันนั้นหญิงสาวสกุลจูมาที่นี่พร้อมกับของแทนใจท่านอาจารย์ของนาง และข้อร้องให้ข้าช่วยฟื้นฟูวรยุทธ์ของนาง ข้าช่วยนางก็เป็นเพราะชำระบุญคุณที่เคยติดค้างกับท่านอาจารย์ของนาง”อาซือหลานมีสีหน้าจริงใจ ถึงขนาดชูมือขึ้นสาบานต่อฟ้าดินเย่จิ่งอวี้ไม่มีทางเชื่ออย่างแน่นอน เพราะเขาพบคนที่สำนักเซียวเหยา ฉุยอวี้มีฐานะเป็นเจ้าสำนัก เขาจะไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้อย่างไร เพียงแต่ตอนนี้หวนไท่เฟยยังคงหมดสติอยู่ จึงไม่มีประโยชน์อะไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-14
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 727 น้ำพุวิญญาณแสดงอิทธิฤทธิ์

    ณ หอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์เจ้าสำนักเซี่ยวและผู้คุมตราเซี่ยวถูกยกเข้ามาในเรือน เย่จิ่งหลานใช้เครื่องมือเพื่อตรวจร่างกายทั้งสองคน คนหนึ่งมีอาการบาดเจ็บภายในและอีกคนหนึ่งมีอาการบาดเจ็บที่ผิวหนังภายนอก ทักษะทางการแพทย์ของเขามีประโยชน์เพียงเล็กน้อยอินชิงเสวียนกลับรู้สึกโล่งใจ การไม่ต้องผ่าตัดถือจะจัดการได้ง่ายขึ้นจึงรีบนำน้ำพุวิญญาณสองขวดออกมาจากมิติ และป้อนให้ดื่มคนละขวด จากนั้นก็นำน้ำพุวิญญาณออกมาอีกสองถัง และให้ลูกศิษย์ชายหญิงนำทั้งสองไปแช่น้ำเซี่ยวอิ๋นหวนได้สติและฟื้นขึ้นมาอย่างว่องไว เมื่อรู้ว่าตัวเองกลับมายังหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์แล้ว นางก็รีบคว้ามือของอินชิงเสวียน“อวี้เอ๋อร์เล่า?”อินชิงเสวียนยิ้มอย่างอ่อนโยนแล้วพูดว่า “ท่านแม่วางใจได้เจ้าค่ะ อาอวี้ออกไปทำธุระ อีกสักครู่ก็จะกลับมา”เมื่อพูดจบ เสียงของเย่จิ่งอวี้ก็ดังขึ้นจากด้านนอก“ท่านแม่ของข้าเป็นอย่างไรบ้าง?”อินชิงเสวียนได้ยินเสียงของเขาก็รีบพูดว่า “ท่านแม่ฟื้นแล้วเพคะ กำลังแช่น้ำอยู่ อาอวี้ไม่ต้องเป็นกังวล”เย่จิ่งอวี้สบายใจขึ้นเล็กน้อย เขารู้สรรพคุณของน้ำพุวิญญาณเป็นอย่างดี มีเสวียนเอ๋อร์อยู่ ท่านแม่ของ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-15
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 728 งานแต่งที่มาถึง

    เซี่ยวอิ๋นหวนตอบรับ สายตามองลูกชายและลูกสะใภ้ที่อยู่ตรงหน้าด้วยความพึงพอใจอย่างมากโดยเฉพาะอินชิงเสวียน นางเกิดมามีหน้าตางดงาม และรู้เหตุรู้ผลเป็นอย่างมาก อาอวี้สามารถพบผู้หญิงแบบนี้ นางก็รู้สึกสบายใจแต่เมื่อนึกได้ว่าเรื่องที่เป่ยไห่ยังไม่ได้แก้ไข เซี่ยวอิ๋นหวนก็ขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างอดไม่ได้หากว่าตัวเองสามารถควบคุมพิณการเวกได้ อินชิงเสวียนและอาอวี้ก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่แล้วพวกเขาควรใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในวัง ตอนนี้กลับต้องมาที่นี่เพื่อเข้าร่วมสงคราม นับเป็นภัยพิบัติที่คาดไม่ถึงเลยจริงๆ“พวกเจ้าออกมานานขนาดนี้ ทางด้านราชสำนักจะไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”เย่จิ่งอวี้พูดปลอบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “ท่านแม่ไม่ต้องเป็นกังวลนะเจ้าคะ เสด็จอาสิบสามรักษาการณ์อยู่ในราชสำนัก จะต้องเรียบร้อยดีทุกอย่างเจ้าค่ะ”เซี่ยวอิ๋นหวนพยักหน้ารับ “ไม่ว่าเป็นด้านวรยุทธ์หรือการวางแผน ท่านอ๋องสิบสามสามารถเอาชนะได้อย่างแน่นอน”ในใจกลับเป็นห่วงว่า เมื่อคนได้รับอำนาจเป็นเวลานานเกินไป จะเกิดความคิดอื่นขึ้นมาหรือไม่แต่ทว่า ทุกสิ่งย่อมมีข้อยกเว้นไม่ใช่ทุกคนบนโลกที่จะชื่นชมอำนาจบารมี เย่จั้นในตอนนี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-15
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 729 ฝ่าบาทคือจิ้งอ๋องใช่หรือไม่

    เป่าเล่อเอ่อร์รู้สึกเขินอยู่ครู่หนึ่ง ใบหน้าแดงระเรื่อ นางก้มศีรษะลง และจ้องมองที่ด้านหลังเท้าซูหมิงหลานเหลือบมองเหล่าลูกชายและลูกสาวคนเล็ก มุมปากก็เผยรอยยิ้มแห่งความรักใคร่ออกมาหลังงานแต่งของสิงอวิ๋น ปู้อวี่และจื่อลั่วก็คงอีกไม่นานนักตอนนี้ถือว่าตระกูลอินได้ปัดเป่าความขมขื่นและต้อนรับความหอมหวานเข้ามา อีกไม่นานก็จะมีลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมืองทุกสิ่งเป็นเพราะคุณงามความดีของเสวียนเอ๋อร์ หากนางไม่พยายามคิดหาทางตอนอยู่ในวัง ตระกูลอินก็คงไม่สามารถกลับจากเมืองซุ่ยหานได้รวดเร็วเช่นนี้ ความจริงควรได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันในงานมงคล ฝ่าบาทกลับส่งนางไปจัดการปัญหาเรื่องน้ำที่ต่างเมือง ไม่รู้ว่าจะกลับมาได้เมื่อใดเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ซูหมิงหลานก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ อย่างอดไม่ได้อินจื่อลั่วจึงถามขึ้นว่า “ท่านแม่คิดถึงท่านพี่อีกแล้วใช่หรือไม่?”ซูหมิงหลานพยักหน้า“การเดินทางครั้งนี้ยาวไกลยิ่งนัก ไม่รู้ว่าท่านพี่ของเจ้าปลอดภัยดีหรือไม่ ตอนนี้ก็ไปได้เดือนกว่าแล้ว แต่ยังไม่มีจดหมายส่งมา แม่เป็นกังวลมากจริงๆ”อินจ้งพูดด้วยความอ่อนโยนว่า “มีองครักษ์ของราชวงศ์ไปด้วย จะต้องคุ้มครองความป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-05-15

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1540 สองพระองค์ครองราชย์ จบบริบูรณ์

    ปีที่สามของการครองราชย์ในราชวงศ์ต้าโจวฮองเฮาให้กำเนิดพระธิดา ได้รับพระราชทานนามว่าองค์หญิงเจ๋อเทียน นามว่าเจิน มีชื่อเล่นว่าฝูเอ๋อร์ในเดือนเก้าของปีเดียวกัน เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนปกครองร่วมกัน แบ่งกันปกครองบ้านเมืองและการดำรงชีวิตของผู้คน ราษฎรเคารพทั้งสองในฐานะพระองค์ฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา ประวัติศาสตร์ได้บันทึกช่วงเวลานี้ไว้ด้วยถ้อยคำที่งดงามที่สุด และเรียกช่วงเวลานี้อย่างเคารพว่า ยุคที่สององค์ปกครอง!ห้าปีต่อมา เครื่องกำเนิดพลังงานลมเครื่องแรกปรากฏขึ้นด้วยฝีมือความสามารถของชาวต้าโจว ซึ่งก้าวล้ำหน้าสมัยโบราณที่ล้าหลังไปอย่างมากด้วยก้าวที่ยิ่งใหญ่นักเรียนจากทั่วแคว้นได้แสดงความสามารถ พัฒนาสิ่งที่ล้ำหน้าต่างๆ ผ่านความรู้ทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมีใหม่ล่าสุด บุปผานับร้อยบานสะพรั่งพร้อมกัน ก่อให้เกิดยุครุ่งเรืองของราชวงศ์ต้าโจวตอนนี้อาหารไม่ขาดแคลน ราษฎรไม่ต้องทนทุกข์กับความหิวโหยอีกต่อไป ยิ่งไม่มีการอพยพย้ายถิ่นฐาน โครงการคลองส่งน้ำก็สำเร็จลุล่วง ด้วยการคมนาคมสะดวกระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ก็สามารถแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการได้ในที่สุด อ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นยังสามารถเปลี่ยนเส้นท

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1539 เสวียนเอ๋อร์ขอบคุณเจ้านะ

    ตำหนักจินอู๋อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ แต่ไม่กล้าโคจรกำลังภายในต้านทานไว้ เพราะกลัวว่าจะทำร้ายลูกของนางเมื่อเห็นนางกัดริมฝีปากล่างแน่น มีเหงื่อไหลอาบหน้า หัวใจของเย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกเหมือนถูกมีดคมๆ นับพันทิ่มแทง รู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง“ต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาได้ ต้องปล่อยให้นางเจ็บปวดทนทุกข์เช่นนี้หรือ”หมอตำแยกล่าวอย่างกล้าหาญว่า “สตรีคลอดบุตรก็เป็นเช่นนี้เพคะ อดทนไว้ แล้วจะดีเอง”เย่จิ่งอวี้พูดด้วยความโกรธ “ฮองเฮาของข้าจะเทียบได้กับสตรีทั่วไปได้อย่างไร รีบหาทางบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาเดี๋ยวนี้”“ข้าไม่เป็นไร อาอวี้ออกไปก่อนเถอะ!”เสียงของอินชิงเสวียนนั้นอ่อนแรง แม้จะเป็นสามีภรรยากัน แต่ถูกเห็นเข้าในสถานการณ์เช่นนี้ก็น่าอายอยู่เหมือนกันเย่จิ่งอวี้เดินก้าวเดียวก็ไปถึงเตียง จับมือของนางแน่นๆ แล้วพูดอย่างกระวนกระวายใจ “ข้าไม่วางใจ มีวิธีถ่ายทอดความเจ็บปวดให้ข้าได้ไหม เจ้าอยู่กับลั่วสุ่ยชิงมานานแล้ว ไม่ได้เรียนวิชาอาคมอะไรจากนางบ้างหรือ”อินชิงเสวียนเจ็บปวดเจียนตายอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำนี้ก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1538 ไท่เฟยไท่ผินออกจากวัง

    อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดและกล่าวว่า “ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ วันนี้เป็นวันแต่งงานของไห่ถัง ในฐานะพี่ชาย ควรเป็นประธานงานแต่งของนางด้วยตนเอง หากไม่มีคนในราชวงศ์ไป ไห่ถังจะผิดหวังได้”แม้น้องสาวจะเป็นญาติ แต่ก็ไม่ชิดเชื้อเท่ากับภรรยา ลูกคนแรกเกิดในตำหนักเย็น ซึ่งทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกผิดไปครึ่งชีวิตแล้ว ยากนี้เด็กคนนี้คือสมบัติล้ำค่าที่แท้จริงระหว่างพวกเขา ในฐานะพ่อของลูก เขาจะจากไปได้อย่างไรเมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางซีด มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายขึ้นเต็มขมับของนาง เย่จิ่งอวี้ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อปลอบนาง “ไม่เป็นไร มีแม่ทัพอินและจอมพลกวนอยู่ด้วย ไห่ถังก็ไม่นับว่าเสียเกียรติอะไรนัก”อินชิงเสวียนคว้าแขนของเขา“จะได้อย่างไร หากไม่มีใครจากในวังไป มันจะกลายเป็นปมในใจของไห่ถังอย่างแน่นอน นี่คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนาง”ไม่ว่าอย่างไรเย่จิ่งอวี้ก็ไม่ยอมไป แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้น้องสาวเสียหน้าได้ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มีความคิดอยู่ในใจ“เจวี๋ยอิ่ง ไปเชิญไท่เฟยไท่ผินทุกท่าน ให้พวกนางออกจากวัง ร่วมงานเสกสมรสขององค์หญิงเดี๋ยวนี้”ทุกคนตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่จิ่งอวี้จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1537 ฮองเฮาทรงมีพระประสูติการ

    เย่ไห่ถังยังคงมีความสุข แต่จู่ๆ เสียงของหลี่เต๋อฝูก็ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเปิดประตู เห็นเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้ยืนอยู่ที่กลางเรือน น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตา“ไห่ถังคารวะเสด็จพี่ เสด็จพี่สะใภ้เพคะ!”เย่ไห่ถังกำลังจะคุกเข่าลง แต่เย่จิ่งอวี้ก็ปราดเข้าประคองนางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในฐานะสตรีที่ออกเรือนแล้ว ทุกสิ่งต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม จะทำตัวเหลวไหลซุกซนเหมือนอยู่ในวังไม่ได้ หากใช้ชีวิตนอกวังจนเบื่อแล้ว ก็สามารถกลับมาได้ตลอดเวลา วังหลวงจะเป็นบ้านของเจ้าตลอดไป”อินชิงเสวียนก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ถ้าพี่รองของข้ารังแกเจ้า เจ้าก็บอกข้าได้เลย ข้าจะทวงความยุติธรรมให้กับเจ้าแน่นอน”ถ้าคนที่เย่ไห่ถังแต่งงานด้วยไม่ใช่อินปู้อวี่ เย่จิ่งอวี้คงพูดคำนี้ไปนานแล้วเย่ไห่ถังสูดจมูก“ขอบพระทัยเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้เพคะ ตอนแรกข้าค่อนข้างมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่อยากจากไปเลย”เมื่อเห็นว่าจมูกของเย่ไห่ถังแดง กำลังจะร้องไห้อีก เย่จิ่งอวี้จึงตีหน้าขรึมพูดทันที “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าจะให้คนไปแจ้งอินปู้อวี่ ว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่มีแล้ว หลี่เต๋อฝู!”หลี่เต๋อฝูก็เป็นคนเจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1536 องค์หญิงกำลังจะเสกสมรส

    ในวันที่หนึ่งเดือนสี่ ลำดับการสอบการต่อสู้ชี้ให้เห็นว่า เฉินเซียงเยว่ที่อินชิงเสวียนสนใจ สอบได้ลำดับหนึ่ง คนผู้นี้หน้าตาดูดุร้ายและน่าเกลียด แต่กลับมีจิตใจอ่อนโยนดังเช่นสตรี ไม่เพียงแต่วรยุทธ์ดีเลิศเท่านั้น แต่ยังเก่งในเรื่องการจัดขบวนทัพด้วย เป็นยอดแม่ทัพที่หาได้ยากนางได้ลำดับหนึ่งก็คือจอหงวนด้านวิชาการต่อสู้ ไม่มีใครไม่ยอมรับเลย แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็ดูฮึกเหิมมีพลังมากกว่าผู้ชายทุกคนในตอนนั้นเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งแซ่หลิวมีชื่อว่าเยว่ ก็ได้รับเลือกให้ติดอยู่ในสามอันดับแรก รั้งอยู่ในเมืองหลวงฝ่าบาทขานรายชื่อสตรีมามากขนาดนี้ เหล่าขุนนางข้าราชบริพารก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ต่างรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องตามระเบียบประเพณี แต่ก็กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์เป็นการส่วนตัวเท่านั้น ต้าโจวในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ที่ฝ่าบาทยินดีฟังพวกเขา ก็ถือเป็นการให้เกียรติพวกเขาแล้ว หากฝ่าบาทไม่อยากฟัง ถึงพูดมากไปก็ไร้ผลแต่ไม่มีใครกล้าพูดว่าเย่จิ่งอวี้เป็นทรราช ฝ่าบาททรงงานปกครองบ้านเมืองอย่างหนัก แม้ว่าพระองค์จะทรงปฏิรูปครั้งใหญ่ แต่ก็ทำเพื่อประชาชนในราชวงศ์ต้าโจวเท่านั้น ขณะนี้แผ่นดินสงบสุข มีธัญพืชอุดมสมบูรณ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1535 เหลวไหลจริงๆ

    เสียงเรียกว่าท่านพี่นั้นทำให้เย่จิ่งอวี้ใจอ่อนลงมากโข ความโกรธทั้งหมดพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันทีไม่เช่นนั้นจะทำอะไรได้อีก ภรรยาที่เลือกมาเอง มีแต่ต้องตามใจเองเท่านั้น“เจ้าคนโกหกตัวน้อย กลับไปสามีจะคิดบัญชีเจ้าหนักๆ ถอนกำลังภายในของเจ้าออก สามีจะทำแทนเจ้าเอง ประเดี๋ยวจะทำร้ายลูกในท้องเอา”เสียงของเย่จิ่งอวี้เชื่อมโยงเป็นเส้น ไหลผ่านกระทบโสตประสาทของอินชิงเสวียนคำต่อคำอย่างแจ่มชัดนางยกมุมปากขึ้น เผยเป็นรอยยิ้มภาคภูมิใจเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่จิ่งอวี้ นางจึงเปิดโสตประสาท เหตุผลที่ขอให้เย่จิ่งอวี้ช่วย ก็เพราะว่ากำลังภายในในร่างกายของนางซับซ้อนเกินไป ยากต่อการควบคุม ในงานที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาดเย่จิ่งอวี้ไม่เหมือนกัน เขาบำเพ็ญตบะกำลังภายในของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังประสานพลังแห่งฟ้าดิน แม้ว่าอินชิงเสวียนจะมีพลังลมปราณของหลายสำนัก แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับกำลังภายในอันบริสุทธิ์และทรงพลังของฮ่องเต้ได้ในชั่วพริบตา กำลังภายในดุจธารานิ่งลึกหลั่งไหลเข้ามาจากด้านนอกประตู เหมือนโลกลึกล้ำ โอบกอดและยืดหยุ่น บรรยากาศที่มืดมนในห้องโถงคล้ายจะถูก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1534 ท่านพี่ช่วยข้าได้ไหม

    “ฟางรั่วเข้าวัง?”เย่จิ่งอวี้หยุดฝีเท้าหลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมถามองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูวังแล้ว แม่นางฟางรั่วเข้ามาเมื่อสามชั่วยามที่แล้ว”เจวี๋ยอิ่งคุกเข่าลงและพูดว่า “กระหม่อมเห็นฟางรั่วเข้าไปในตำหนักจินอู๋ แต่ไม่เห็นนางและฮองเฮาออกมา”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาคล้ายจะสดใสและมืดมน กำลังตกอยู่ในอาการครุ่นคิดด้วยวรยุทธ์ของฟางรั่ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำอันตรายต่ออินชิงเสวียน นางยังมีใบมีดแห่งมิติอยู่ในมือ แม้ว่าเหล่าเทพเซียนจะลงมาเอง แต่นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้จากมุมมองนี้ ควรไม่ใช่การหายตัวไปง่ายๆ นางเรียกฟางรั่วมา ต้องมีเหตุผลอื่นเป็นแน่เจวี๋ยอิ่งโค้งคำนับและถามว่า “ต้องการให้กระหม่อมปิดล้อมพระนคร สืบหาที่อยู่ของฮองเฮาอย่างถี่ถ้วนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเจวี๋ยอิ่ง“ไม่ต้อง หลี่เต๋อฝู ไปเชิญกวนเซี่ยวเข้ามาด้วย”ครู่ต่อมา กวนเซี่ยวก็วิ่งเหยาะๆ มาถึงประตูตำหนัก ยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงกับพื้น“กวนเซี่ยวถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาททรง...”เย่จิ่งอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รำคาญ โบกมือห้าม“ตามสบาย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมฟางรั่วถึงมาที่วัง”กวนเซี่ยว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status