Home / โรแมนติก / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 622 นี่คือพี่สะใภ้ของเจ้า

Share

บทที่ 622 นี่คือพี่สะใภ้ของเจ้า

Author: ม่อเยี่ยน
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
อินชิงเสวียนตอบรับเสียงเรียบ “ได้”

เย่จั้นได้นำหน้ากากผิวหนังมนุษย์ออกมา ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้ใช้ของสิ่งนี้อีกครั้ง

ดูเหมือนว่าสิ่งที่อินชิงเสวียนพูดนั้นถูกต้อง คนอย่างหวังซุ่น ไม่อาจสังหารได้

หวังซุ่นไปซ่อนตัวอยู่ข้างๆ เขายังคงกลัวเย่จั้นอยู่เล็กน้อย

นี่คือราชาสงครามแห่งต้าโจว ตอนที่เขาเพิ่งเดินทางมาถึงจงหยวน ก็เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนแล้ว

อินชิงเสวียนนำชุดลำลองของเย่จิ่งอวี้มาให้

“ระยะนี้ต้องรบกวนเสด็จอาแล้ว”

เย่จั้นยื่นมือออกไปรับ สีหน้าเศร้าหมอง

เขาและเย่จิ่งอวี้สนิทสนมกันมาตั้งแต่เด็กๆ ทุกครั้งที่กลับเมืองหลวง เขาจะแอบพาเด็กคนนี้ออกไปเล่นนอกวัง บัดนี้ไม่รู้ว่าเขาจะเป็นหรือตาย เมื่อเห็นเสื้อผ้าที่คุ้นเคยเหล่านี้ ทำให้เขานึกถึงเย่จิ่งอวี้ในตอนเด็กที่เดินตามหลังเขาต้อยๆ

เขาถอนหายใจเบาๆ แล้วเย่จั้นก็เดินเข้าไปในห้องโถงด้านนอกเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า

เป่าเล่อเอ่อร์ที่ยืนอยู่ข้างๆ บีบนิ้วแน่น แอบมองอย่างอดไม่ได้

ที่แท้ที่นี่คือวังหลวงของต้าโจว สวยงามเช่นนี้เอง จากนั้นก็ลอบมองหน้าอินชิงเสวียนอย่างเงียบๆ

เนื่องจากทุกคนเรียกนางว่ากุ้ยเฟย ฉะนั้นนางต้องเป็นน้องสาวของอินสิงอวิ๋นแน่ๆ

นา
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 623 มนุษย์ล้วนไม่อาจหลีกหนีคำว่ารักได้

    “แล้ว...พี่ใหญ่อิน...”เมื่อคิดว่าจะได้พบหน้าอินสิงอวิ๋นเร็วๆ นี้ เป่าเล่อเอ่อร์ก็รู้สึกเป็นกันเองมากขึ้น หัวใจพะวักพะวนจู่ๆ อินชิงเสวียนก็จำได้ว่าอินสิงอวิ๋นเคยถามตัวเอง ว่านางรู้จักสตรีคนหนึ่งหรือไม่ ซึ่งสตรีที่เขาพูดถึงคงเป็นเป่าเล่อเอ่อร์แม้ว่าความทรงจำจะสูญหายไป แต่ความประทับใจนี้ยังคงอยู่ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรักอันลึกซึ้งซึ่งก็เป็นอย่างนั้น มนุษย์ล้วนไม่อาจหลีกหนีคำว่ารักได้ อินชิงเสวียนคิดถึงตัวเองและเย่จิ่งอวี้ นางคลี่ยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “ได้พบเจ้า พี่ใหญ่คงจะดีใจมาก ข้าจะกลับไปหาจ้าวเอ๋อร์ก่อน แล้วค่อยไปส่งเจ้ากลับตระกูลอิน”“อื้ม ข้ารู้แล้ว”เสียงของเป่าเล่อเอ่อร์แผ่วเบา ว่าง่ายมากเมื่อมองดูท่าทางอ่อนโยนของนาง อินชิงเสวียนก็ยิ่งรู้สึกชอบในเวลานี้ เย่จั้นได้เดินเข้ามาจากห้องโถงด้านนอกอินชิงเสวียนตกอยู่ในความงุนงงอยู่ครู่หนึ่ง รูปร่างของพวกเขาสองอาหลานดูคล้ายกันมาก หลังจากสวมหน้ากากแล้ว ก็แทบจะแทนกันได้เลยเย่จั้นรู้สึกขัดเขินเล็กน้อย ไอแห้งๆอินชิงเสวียนตื่นจากภวังค์ทันที นางกระแอมและพูดว่า “ถ้าเสด็จอารู้สึกไม่สบาย ก็พักผ่อนในตำหนักเฉิงเทียนเถิด ข้าจะกล

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 624 เจ้าเป็นผู้หญิงที่ต่างจากคนอื่นจริงๆ

    “ข้าไม่เป็นไร”อินชิงเสวียนถูนวดขมับน้ำพุวิญญาณสามารถรักษาอาการเมาค้างได้ แต่นางไม่อยากหายเมาค้างอาการเวียนศีรษะทำให้นางลืมหลายสิ่งหลายอย่างซึ่งนี่ก็เป็นการหลีกหนีปัญหาด้วย มิน่าเล่าคนมากมายที่มีปัญหาทุกข์ใจถึงยอมดื่มสุราจนเมามายเย่จิ่งหลานรู้สึกจนปัญญา“ถ้าอารมณ์ไม่ดีก็ร้องไห้ออกมา จะทำให้รู้สึกดีขึ้น ต่อให้เข้มแข็งแค่ไหน ก็เป็นแค่มนุษย์คนหนึ่ง เพราะเป็นมนุษย์ ย่อมมีตอนที่รู้สึกพังทลาย ไม่น่าอายหรอก”อินชิงเสวียนยิ้มอย่างเมามาย“ถ้าการร้องไห้มีประโยชน์ ข้าคงร้องไห้ไปนานแล้ว เพราะข้ารู้ดีว่าปัญหาแก้ไขไม่ได้ จึงไม่หลั่งน้ำตาร้องไห้ง่ายๆ”เย่จิ่งหลานยกนิ้วให้“ใช้ได้ เจ้าเป็นผู้หญิงที่ต่างจากคนอื่นจริงๆ”อินชิงเสวียนพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ขอบคุณสำหรับคำชม”เมื่อเห็นนางยิ้มได้ในที่สุด เย่จิ่งหลานก็รู้สึกโล่งใจ“ไปแก้อาการเมาค้างเถอะ ประเดี๋ยวต้องออกจากวังไม่ใช่หรือ”อินชิงเสวียนหรี่ตาและพูดว่า “เจ้าลืมหรือว่าข้ามีน้ำพุวิญญาณด้วย? ถ้าข้าอยากฟื้นจากการเมาค้าง ก็แค่ดื่มน้ำหนึ่งแก้ว”เย่จิ่งหลานพูดจิ๊ๆ แล้วพูดว่า “ถ้าเจ้าไม่บอกข้าคงลืมไปแล้ว อ้อ อีกอย่าง ข้าแช่ตัวในน้ำสองถังนั้

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 625 เจ้ามาได้ทำไมข้าจะมาไม่ได้

    ฟางรั่วประกบมือคารวะเขาทันที“ขอบคุณมาก”อินสิงอวิ๋นพยักหน้าเบาๆ และเดินมุ่งหน้าไปยังวังหลวงอย่างรวดเร็วส่วนอินชิงเสวียนก็พาเป่าเล่อเอ่อร์เข้ามาในจวนแล้วซูหมิงหลานกำลังปักผ้าอยู่ในห้องโถง อินชิงเสวียนบอกว่าจะเปิดร้าน นางคิดถึงเรื่องนี้มาโดยตลอด ดังนั้นนางจึงต้องการปักลวดลายต่างไว้เพิ่มก่อน เพื่อให้ผู้คนเลือกซื้อเมื่อเห็นอินชิงเสวียนจูงมือสาวน้อยน่ารักเข้ามาจากด้านนอก นางก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว“หม่อมฉันถวายพระพรกุ้ยเฟย!”“ท่านแม่รองไม่ต้องมากพิธี รีบลุกขึ้นเร็วเจ้าค่ะ”อินชิงเสวียนช่วยประคองซูหมิงหลานขึ้น แล้วแนะนำ “นี่คือองค์หญิงน้อยแห่งเจียงวู เป่าเล่อเอ่อร์ นี่คือท่านแม่รองของข้า”ซูหมิงหลานมองเป่าเล่อเอ่อร์ด้วยสีหน้าประหลาดใจ เป่าเล่อเอ่อร์ถูกมองเช่นนั้นก็รู้สึกกระดากอาย รีบยอบกายคำนับทันที“เป่าเล่อเอ่อร์น้อมคำนับอินฮูหยินเจ้าค่ะ”“รีบลุกขึ้นเร็ว ทำไมองค์หญิงถึงมาเมืองหลวงได้”ซูหมิงหลานพาเป่าเล่อเอ่อร์ไปนั่ง แล้วถามอย่างสงสัยตระกูลอินสู้รบกับเจียงวูมานานหลายปี ซูหมิงหลานไม่มีความประทับใจที่ดีต่อเจียงวูมากนัก แต่เนื่องจากอินชิงเสวียนเป็นคนพานางมาที่นี่ คงต้องมีเหตุผ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 626 เจ้าจะเอาอะไรมาเปรียบกับข้า

    มีเสียงดังขึ้นมาจากด้านนอกประตู จูอวี้เหยียนนั่งรถเข็นไม้ที่อินจ้งให้ช่างฝีมือสร้างให้นาง โดยมีสาวใช้เป็นคนเข็นเข้ามานางสวมกระโปรงคาดอกผ้าแพรไหมสีฟ้าลายดอกไม้ปักด้วยดอกโบตั๋น สวมเสื้อคลุมขนกระต่ายอยู่ด้านนอก ซึ่งดูหรูหรายิ่งกว่าชุดกุ้ยเฟยที่อินชิงเสวียนสวมใส่เสียอีกเมื่อมองไปที่เนื้อผ้า อินชิงเสวียนก็ขมวดคิ้วนี่เป็นชุดที่นางเอาให้จื่อลั่วโดยเฉพาะ แต่ซูหมิงหลานกลับนำมาทำเสื้อคลุมให้จูอวี้เหยียน จะใจดีเกินไปแล้วกระมังให้นางได้อาศัยอยู่ในจวนอิน มีอาหารและเครื่องดื่ม ก็นับเป็นความเมตตาอย่างยิ่งแล้วเมื่อเห็นนาง เป่าเล่อเอ่อร์ก็ผุดลุกขึ้นยืนโดยไม่รู้ตัว ก้าวถอยหลังหลายก้าวในเจียงวู สามารถกล่าวได้ว่าจูอวี้เหยียนสามารถควบคุมทุกสิ่งได้ แม้แต่พี่ใหญ่อูเอินก็ยังต้องยอมให้นางเมื่อเวลาผ่านไป เป่าเล่อเอ่อร์เริ่มหวาดกลัวนางโดยสัญชาตญาณยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจูอวี้เหยียนยังฝึกกู่พิษอีกด้วย แม้ว่านางจะไม่รู้ว่ามันคืออะไรแน่ แต่หลังจากเห็นพี่ใหญ่หน้าถอดสีหลังจากพูดถึงกู่ นางก็รู้ว่าน่าจะเป็นสิ่งที่ร้ายกาจมากอินชิงเสวียนก็ยืนขึ้น แล้วพูดกับเป่าเล่อเอ่อร์ “ไม่ต้องกลัว ที่นี่ไม่ใช่เจียงวู นา

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 627 ความฝันอันเหน็ดเหนื่อย

    อินจ้งรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยการเดินทางข้ามผ่านเขาสูงชันระยะทางห่างไกลเช่นนี้ แต่สาวน้อยผู้บอบบางกลับสามารถมาถึงที่นี่ได้ด้วยตัวเอง เห็นถึงความตั้งใจจริงๆ“เจ้ามาแค่เพราะอยากพบหน้าอินสิงอวิ๋นงั้นหรือ”อินจ้งถามอีกครั้งแววตาคมกริบจับต้องไปยังศีรษะ เป่าเล่อเอ่อร์รู้สึกประหม่า ยิ่งก้มศีรษะลงมากขึ้น“ใช่ ข้าอยาก...เจอเขา”เป่าเล่อเอ่อร์อยากบอกว่านางอยากใช้ชีวิตอยู่กับอินสิงอวิ๋น แต่นางไม่รู้ว่าอินจ้งจะคิดอย่างไร นางจึงไม่กล้าพูดมากกว่านี้เมื่อเห็นอินจ้งจ้องมองไปที่เป่าเล่อเอ่อร์ราวกับพิพากษานักโทษ ซูหมิงหลานรู้สึกไม่สบายใจ รีบไกล่เกลี่ยด้วยรอยยิ้ม“สิงอวิ๋นเด็กคนนี้นี่ ยังไม่กลับมาอีกหรือ”“คงไม่กลับมาแล้วกระมัง เจ้าไปเจอลูกสาวข้าได้อย่างไร”แล้วอินจ้งก็หันกลับมาหาเป่าเล่อเอ่อร์อีกเขาต่อสู้กับเจียงวูมาหลายปี ทั้งสองฝ่ายต่างเจ็บหนัก ทุกครั้งที่เขาคิดถึงทหารเหล่านั้น ความประทับใจดีๆ ของอินจ้งที่มีต่อเจียงวูก็หายไปโดยสิ้นเชิงทันทีแม้ว่าเป่าเล่อเอ่อร์จะเป็นเพียงสตรี แต่นางก็เป็นองค์หญิงแห่งเจียงวู หากมีอะไรผิดพลาด ตระกูลอินก็จะพลอยติดร่างแหไปด้วยตอนนี้ในที่สุดครอบครัวก็ได้กล

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 628 วันเซ่นไหว้บูชา

    อินชิงเสวียนจิบน้ำ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในเมื่อเกิดความผิดพลาดขึ้นแล้ว คิดมากไปก็ไม่มีประโยชน์ แต่จะตามใจจูอวี้เหยียนเช่นนี้ก็ไม่ได้ ตอนนี้อาซือหลานตายแล้ว จูอวี้เหยียนก็คงไม่มีแผนอะไรอีก ขอเพียงปล่อยให้นางเข้าใจลำดับความสำคัญ ก็จะลดความเย่อหยิ่งลงได้แน่ แล้วนางจะค่อยๆ ชินไปเอง”อินจ้งพยักหน้าแม้ว่าเขาจะไม่ยินยอมที่จะละทิ้งลูกสาวคนนี้ แต่สิ่งที่อินชิงเสวียนพูดนั้นก็ไม่ไร้เหตุผล ดังคำโบราณที่ว่า การตามใจลูกก็ไม่ต่างจากการฆ่าลูกทางอ้อม เขาก็ตามใจจูอวี้เหยียนจริงๆ นางอยากได้อะไรก็สรรหามาให้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่จูอวี้เหยียนพูดในวันนี้ ทำให้อินจ้งรู้สึกเย็นจับขั้วหัวใจจริงๆเขาถอนหายใจเบาๆ พูดว่า “พ่อรู้แล้ว แล้วเรื่ององค์หญิงน้อยเจียงวู ฝ่าบาทว่าอย่างไรบ้าง”อินชิงเสวียนกระตุกมุมปากขึ้น แต่เป็นรอยยิ้มที่ขมขื่นเล็กน้อยแม้ว่านางจะสามารถจัดการเรื่องนี้ได้ แต่ฝ่าบาทองค์ปัจจุบันก็ไม่ใช่ฝ่าบาทองค์เดิมอีกต่อไปภาพของเย่จิ่งอวี้คุกเข่าลงบนพื้นแวบขึ้นมาต่อหน้าต่อตาอีกครั้ง ทันใดนั้นหัวใจก็รู้สึกราวกับถูกมือใหญ่คว้าไว้ เจ็บปวดจนหายใจไม่ออกเพื่อไม่ให้อินจ้งมองออก อินชิงเสวียนแส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 629 พี่เขยฮ่องเต้

    “วันนี้เจ้าจะกลับวังหรือเปล่า ถ้าไม่รีบก็นอนค้างที่บ้านสักคืนเถอะ แม่รองก็คิดถึงเจ้ามาก”ดวงตาของอินจ้งฉายแววรักและเอ็นดู กระแสเสียงกอปรไปด้วยความอ่อนโยนดั่งบิดาที่รักบุตรตอนนี้อาซือหลานตายแล้ว คนตงหลิวที่อยู่นอกวังก็ถูกกำจัดไปหมดสิ้นแล้ว ไม่มีภัยคุกคามในวัง ทั้งยังมีเย่จั้นอยู่ด้วย อินชิงเสวียนจึงไม่กังวลนักเมื่อคิดว่าตัวเองเดินทางไปคราวนี้ไม่รู้ว่าจะเป็นหรือตาย นางก็ควรใช้เวลาอยู่กับครอบครัวในนามของเจ้าของร่างเดิมให้มากขึ้นจริงๆครั้นจึงพยักหน้าแล้วพูดว่า “ก็ได้เจ้าค่ะ”“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ไปบอกแม่รองเถอะ ตั้งแต่แม่ของเจ้าจากไป นางก็ตรากตรำเพื่อพวกเจ้าพี่น้อง”หลายปีที่ผ่านมานี้ซูหมิงหลานก็ลำบากจริงๆ แต่นางก็ไม่ได้บ่นเลย แม้ว่าอินจ้งจะไม่พูดอะไร แต่เขาก็เห็นในสายตาอยู่ตลอดอินชิงเสวียนพยักหน้า“ลูกรู้แล้วเจ้าค่ะ มีบางเรื่อง ไม่ทราบว่าท่านแม่รองได้บอกท่านพ่อหรือยัง”อินจ้งถามว่า “มีอะไรหรือ”“เมื่อไม่กี่วันก่อนที่ลูกกลับจวน ได้คุยกับท่านแม่รองเรื่องการเปิดร้าน ท่านแม่รองดูสนอกสนใจมาก อีกทั้งข้าก็มีของเล็กๆ น้อยๆ อยากขายด้วย เลยอยากให้ท่านแม่รองซื้อร้านสองร้านทิ้งไว้ ร้านหนึ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 630 ชอบข้าสักนิดบ้างหรือไม่

    พริบตาเดียวก็เป็นเวลาเที่ยงคืน ยังไม่มีข่าวคราวจากอินสิงอวิ๋น ฟางรั่วอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวล“ทำไมยังไม่กลับมาอีกล่ะ เขาคงไม่เป็นไรกระมัง”กวนเซี่ยวกล่าวว่า “สหายอินมีวรยุทธ์ล้ำเลิศ ในเมืองหลวงมีผู้ที่สามารถทำร้ายเขาได้ไม่กี่คน ข้าคิดว่าเขาคงมีเรื่องคุยกับกุ้ยเฟยหลายเรื่อง จึงมาช้า หากเจ้าง่วงนอน เจ้าก็ไปพักก่อนได้ ข้าจะรอที่นี่”ฟางรั่วพูดเรียบ “ไม่จำเป็น คุณชายกวนโปรดกลับไปเถอะ ประเดี๋ยวจอมพลเฒ่าจะเป็นห่วงเอา”“ไม่เป็นไร ท่านปู่เหนื่อยจากการฝึกซ้อมมาทั้งวัน ตอนนี้คงนอนหลับไปนานแล้ว อีกอย่างเจ้าอยู่ที่นี่ตามลำพัง ข้าไม่วางใจ ข้าจะอยู่ที่นี่กับเจ้า”กวนเซี่ยวรู้อยู่แล้วว่าฟางรั่วสูญเสียทักษะวรยุทธ์ ยิ่งไม่อยากจากไปเมื่อเห็นว่าเขาปฏิเสธไม่ยอมจากไป ฟางรั่วก็ไม่พูดอะไรมาก เอนตัวพิงบนเตียงโดยมีมีดสั้นอยู่ในมือ หลับตาลงและหลับไปกวนเซี่ยวนั่งอยู่บนตั่งไม้ข้างๆ เฝ้ามองดูนางอยู่ตลอดเวลาใบหน้าของฟางรั่วขาวมาก เป็นสีขาวที่ผิดไปจากปกติ แทบไม่มีสีเลือด ดูซูบผอมลงไปมากซึ่งนี่ต้องเกี่ยวข้องกับการทำลายวรยุทธ์แน่นอน กวนเซี่ยวอดไม่ได้ที่จะขบกรามเป็นสันนูน“เจ้าวางใจ ข้าจะช่วยเจ้าตามหาหมอ

Latest chapter

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1468 อย่าได้คืบจะเอาศอก

    “สามวันติดแล้ว ที่ข้าสัมผัสลมปราณของชิงฮุยไม่ได้ หรือว่าเขาจะ...”ที่ด้านบนยอดเขา อินชิงเสวียนหยิบโต๊ะพกพาขนาดเล็กและเบาะที่นั่งสองที่นั่งออกมา ซึ่งบนโต๊ะเต็มไปด้วยน้ำผลไม้และอาหารอร่อยแม้จะบอกว่าออกมาตามหาคน แต่ในเมื่อมีปัจจัยที่อุดมสมบูรณ์เช่นนี้ ทำไมต้องไปทนทุกข์ทรมานโดยไม่จำเป็นล่ะนางหยิบนมพุทราจีนหนึ่งแก้วขึ้นมา แล้วยื่นให้ลั่วสุ่ยชิง“ว่ากันว่าถ้ากินพุทราจีนประจำ จะไม่แก่เร็ว มาลองกัน”ลั่วสุ่ยชิงหยิบขวดโยเกิร์ตขึ้นมาจิบ มันมีรสหวานอมเปรี้ยวและรสชาติค่อนข้างดี ในช่วงไม่กี่วันที่ออกมาข้างนอกกับอินชิงเสวียน สรรหาของมาให้นางกินจนเคยปากหมดแล้ว“เจ้าเป็นผู้หญิงที่แปลกจริงๆ จนป่านนี้แล้ว ยังมีรสนิยมสูงแบบนี้ได้อีก”อินชิงเสวียนเม้มปากเป็นรอยยิ้ม“คนก็เหมือนเหล็ก อาหารก็เหมือนเหล็ก ถ้าไม่กินข้าวสักมื้อจะหิวโหย เมื่อมีปัจจัยที่เพียบพร้อมเช่นนี้แล้ว ย่อมไม่ควรทำให้ตัวเองลำบาก”“ในมิติของเจ้า มีทุกอย่างจริงๆ หรือ”ลั่วสุ่ยชิงรู้แล้วว่าอินชิงเสวียนมีมิติมาด้วย จึงอดไม่ได้ที่จะสนใจใคร่รู้อยู่บ้าง“ประมาณนั้น แต่น่าเสียดายที่คนนอกเข้ามาในมิติของข้าไม่ได้ ไม่อย่างนั้นจะได้ให้เจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1467 ฉันอยากกลับไป

    อินชิงเสวียนดึงมือออก“คุณจำคนผิดแล้ว ฉันไม่ใช่เพื่อนบ้านเดียวกันของคุณ แต่เป็นลูกสาวของแม่ทัพแห่งต้าโจว อินชิงเสวียน!”“คุณ คือเจ้าของร่างเดิมของอินชิงเสวียน?”เย่จิ่งหลานมองเธอขึ้นๆ ลงๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ รูปร่างเหมือนกันทุกประการ แต่หากสังเกตให้ดี จะเห็นได้ว่าเพื่อนบ้านเดียวกันของเขามีพลังความมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้ ส่วนผู้หญิงตรงหน้าเขาดูอ่อนโยนและอ่อนแอกว่ามากในเวลาเดียวกัน เขาก็รู้ด้วยว่าทำไมเขาถึงดูคุ้นตากับเด็กน้อยคนนี้ ตอนที่ตัวเองเพิ่งข้ามภพไปยังต้าโจว เขาก็มีรูปร่างหน้าตาลักษณะเหมือนแบบนี้เลยความทรงจำก็เหมือนกับคลื่นทะเล เป็นคลื่นที่ซัดมาระลอกแล้วระลอกเล่า ในที่สุดเย่จิ่งหลานก็ค่อยๆ จำทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในต้าโจวได้ทุกคนช่วยกันต่อต้านชิงฮุยในหุบเขาเชื่อมเมฆา แต่แล้วเขาก็กลับมาในเวลานี้ และกลับมาโดยที่ร่างกายสมบูรณ์ครบถ้วนเมื่อนึกถึงความชั่วร้ายและความเจ้าเล่ห์เพทุบายของชิงฮุย เย่จิ่งหลานก็รู้สึกสับสนอย่างอธิบายไม่ถูก“หรือว่าผมข้ามภพมาได้เพราะป้ายตราคำสั่งนี้ ผมต้องรีบกลับไปโดยเร็วที่สุด”เมื่อเห็นท่าทางกังวลอย่างกะทันหันของเย่จิ่งหลาน อินชิงเสวียนก็ตระหนัก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1466 ความปรารถนาในใจสำเร็จแล้ว

    ไม่ว่าซูเยี่ยจะจำอดีตกับเขาหรือไม่ก็ตาม มันก็ไม่สำคัญสำหรับเย่จิ่งหลานอีกต่อไปแล้วสวรรค์ทำให้เขาได้เจอผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง อาจเป็นเพราะต้องการให้เขาได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของซูเยี่ย ผู้หญิงประเภทนี้ จริงๆ แล้วมันไม่จำเป็นต้องให้เขาเสียเวลาด้วยซ้ำเขาเพิ่งอายุได้ยี่สิบแปดปี อนาคตยังอีกยาวไกล ซูเยี่ยเป็นเพียบใบไหม้ที่ร่วงไปจากชีวิตของเขา ไม่มีความสำคัญอะไรเลยเย่จิ่งหลานกระตุกมุมปากขึ้นยิ้ม ค่อยๆ รู้สึกปลอดโปร่งใจเขาเดินออกจากสวนสาธารณะอย่างช้าๆ และทันใดนั้นก็มีอีกคำถามหนึ่งผุดขึ้นมาใบหน้านี้ไม่ใช่หน้าตาเดิมของเขา ใครเป็นคนทำศัลยกรรมให้เขา?พลังในร่างกาย มาจากไหนกันแน่แล้วผู้หญิงที่อยู่ในหัวของเขา เป็นใครกันแน่หรือว่าเขาฝึกฝนจนสำเร็จเคล็ดวิชาลับบางอย่าง และผู้หญิงคนนั้นคือแก่นวิญญาณของเขา?เย่จิ่งหลานดึงขอบเอวกางเกงของเขาโดยไม่รู้ตัว ไอ้นั่นยังคงอยู่ตรงนั้น ไม่อย่างนั้นเขาคงคิดว่าตัวเองฝึกฝนวิชาจนกลายเป็นตงฟางปุ๊ป้ายในเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักรแล้วแต่การมีสิ่งเหล่านี้จะมีประโยชน์อะไร เอามาใช้กินใช้ดื่มไม่ได้ ตอนนี้ท้องของเขาร้องโครกคราก แต่ไม่มีเงินอยู่ในกระเป๋าเลยขณะที่

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1465 คนแพศยามักจะสำออยแบบนี้แหละ

    ชายคนนั้นหยิบกระดาษทิชชู่ออกจากกระเป๋า เช็ดนิ้วด้วยความรังเกียจ แล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองซูเยี่ยนั่งบนพื้นร้องไห้เสียงดัง ความฝันที่จะแต่งเข้าไปอยู่ในครอบครัวที่ร่ำรวย ได้พังทลายอีกครั้งมือที่มีเห็นข้อต่อเด่นชัดยื่นออกไปต่อหน้าซูเยี่ยซูเยี่ยเงยหน้าขึ้น แล้วก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาราวกับดาราทันทีสิ่งที่ทำให้เธอตื่นเต้นยิ่งกว่านั้นคือ ชายคนนั้นสวมเสื้อผ้าแบรนด์ดัง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขามีฐานะที่ดีหากสามารถเกาะเกี่ยวลูกเศรษฐีที่ทั้งหล่อทั้งรวยแบบนี้ได้ ถูกตบหน้าแค่ครั้งเดียวจะเป็นไรไป บางทีนี่อาจเป็นความยากลำบากทั้งหมดที่สวรรค์ส่งมาให้ ที่มาอยู่ที่นี่ ก็เพื่อให้ได้เจอกับคนที่ดีกว่าเธอสูดจมูก จับมือนั้นไว้ เพิ่งยืนขึ้นมาได้ครึ่งตัว มือก็คลายออกซูเยี่ยเสียการทรงตัว และล้มลงกับพื้นอีกครั้งเธอมองเย่จิ่งหลานด้วยความประหลาดใจ ไม่เข้าใจว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่เย่จิ่งหลานยกมุมปากขึ้น คุกเข่าลงต่อหน้าเธอ ถามด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “รู้สึกยังไงที่ถูกทิ้ง?”“อะไรนะ...คุณหมายความว่ายังไง?”ซูเยี่ยถามด้วยเสียงต่ำ ดวงตาสีแดงทั้งคู่ ทำให้เขาดูมีเสน่ห์มากกว่าเมื่อก่อนนี่ไม่ใช่ฉากที่ป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1464 แพศยาอย่างเธอ

    เย่จิ่งหลานโบกมือ ประตูก็เปิดออกแสงจากด้านนอกประตูส่องเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัย ทุกคนก็เห็นหลี่ไห่ตงนอนอยู่บนพื้นทันที และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอยภัยนอนระเกะระกะอยู่ข้างๆชายหนุ่มรูปหล่อคนนี้เดินออกไปโดยไม่มีร่องรอยเลือด หรือฝุ่นผงบนร่างกายเลยทุกคนก้าวถอยหลัง มองดูเย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าหวาดกลัวเย่จิ่งหลานเดินขึ้นไปที่ลิฟต์โดยไม่หรี่ตามองในช่วงที่เขาถูกบีบให้ออกจากโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ แต่ละนาทีแต่ละวินาที เขามักจะจินตนาการถึงการทุบตีหลี่ไห่ตงอย่างรุนแรง ได้ระบายความโกรธ วันนี้ ในที่สุดเขาก็ทำได้แล้ว สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เย่จิ่งหลานไม่อยากคิดอะไรมากเขารีบออกจากโรงพยาบาล มาที่สวนสาธารณะเล็กๆ ใกล้ ๆ มีชายชราคนหนึ่งที่อาบแดดอยู่ เย่จิ่งหลานเหลือบมองเขา และนั่งอีกด้านหนึ่งทั้งสองคนไม่ได้คุยกัน แค่พบกันโดยบังเอิญ ต่างไม่รู้จักกัน และไม่จำเป็นต้องพูดคุยกันเขาค่อยๆ ผ่อนคลายร่างกาย เอนหลังพิงเก้าอี้ หรี่ตาเหมือนที่ชายชราทำ ความอบอุ่นของดวงอาทิตย์ที่ส่องบนร่างกายของเขาช่างทำให้รู้สึกผ่อนคลายจริงๆหลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เย่จิ่งหลานก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาพลังลมป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1463 ฉันชื่อเย่จิ่งหลาน

    ความเจ็บปวดจากไฟฟ้า ทำให้เย่จิ่งหลานกลับมามีสติอีกครั้งหลี่ไห่ตงซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เขาไออย่างบ้าคลั่ง และมองไปที่เย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าแห่งความเกลียดชัง“ทุบตีมัน ทุบตีมันให้ตาย ตีมันตายแล้วฉันจะรับผิดชอบเอง”เมื่อเห็นว่าเย่จิ่งหลานไม่ขัดขืน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น กระแสไฟฟ้าสีฟ้าพุ่งใส่ร่างของเย่จิ่งหลาน ทำให้ห้องรังสีวินิจฉัยที่มืดมิดสว่างไสวขึ้นมาเย่จิ่งหลานหลับตา ใช้ประสาทสัมผัสตรวจสอบอย่างระมัดระวัง และยกมุมริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเอง แต่สัมผัสได้ ความรุนแรงเท่านี้ไม่สามารถเอาชีวิตเขาได้เลย รู้สึกเหมือนกับถูกแมลงต่อยสองครั้ง ถ้าเขาจะโดนฟ้าผ่า ก็ถือว่าเป็นการได้สัมผัสประสบการณ์ล่วงหน้าเป็นเวลาสิบวินาทีเต็มๆ เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาเรียวแคบของเขาเหมือนถูกรายล้อมไปด้วยงูทองคำพ่นไฟ ดุดันน่าเกรงขาม แม้ในความมืดมิดเช่นนี้ ก็สามารถมองเห็นใบหน้าอันน่าเกลียดของทุกคนได้ชัดเจนเขาอาจจะฆ่าคนไม่ได้ แต่สามารถทุบตีพวกเขาได้ และตราบใดที่พวกเขายังหายใจอยู่ ก็ไม่ถือว่าตายเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็ค่อ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1462 ปีศาจในชุดดำ

    “แกเป็นใคร ทำไมถึงมาทำร้ายฉัน”หลี่ไห่ตงเมื่อถูกทุ่มลงพื้นก็กรีดร้องอย่างน่าเวทนา ชายหนุ่มรูปงามตรงหน้านี้ เป็นราวกับเจ้าแห่งความตายในนรก ทำให้เขารู้สึกหวาดผวาอย่างสุดซึ้งจนแทบจะรู้สึกได้ถึงความกลัวที่มาจากจิตวิญญาณเขาไม่สงสัยเลยว่าชายคนนี้จะกล้าฆ่าเขาจริงๆหรือไม่“ฉันไม่รู้จักแกเลย แกจำคนผิดหรือเปล่า หรือคนในครอบครัวของแกอยู่ในโรงพยาบาลที่นี่ ถ้าขาดเงิน ฉันช่วยแกแก้ปัญหาได้”หลี่ไห่ตงรู้สึกว่าตัวเองยังพอมีหวัง จึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสร้างความประทับใจให้กับชายผมดำยุ่งเหยิงตรงหน้าเย่จิ่งหลานมองไปที่หลี่ไห่ตงอย่างเย็นชา ความทรงจำในอดีตก็หลั่งไหลกลับมาเพื่อให้ได้ทำงานในโรงพยาบาลต่อ ถึงจะนอนดึกกว่าหมา ตื่นเช้ากว่าไก่ ทำงานหนักเยี่ยงทาส ทำงานหนักมาสามปีก็ตาม แต่เพราะบังเอิญไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น จึงถูกส่งไปยังโรงพยาบาลเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งแต่เช้าจรดค่ำก็ไม่เจอใคร การทำงานหนักและค่าตอบแทนทั้งหมดของเขาถูกทำลายลงเพราะไอ้สารเลวยิ่งกว่าหมาคนนี้ เขากลับอยากมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ ในโลกนี้ จะมีเรื่องดีๆ แบบนั้นได้อย่างไรโลกไม่ยุติธรรม เช่นนั้นก็ให้เขาได้ผดุงความยุติธรรม จัดการสัตว์ร้าย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1461 เศษสวะ

    ไอ้ชาติชั่วนี่ ใช้อุบายเก่าๆ ของเขาอีกแล้วเย่จิ่งหลานเหลือบมองแพทย์หญิง แม้ว่าเธอจะสวมหน้ากากปลอดเชื้อสีเขียว แต่ยังคงมองเห็นความไม่เต็มใจและความลังเลในดวงตาที่เหนื่อยล้าของเธอทั้งสองเดินสวนทางกัน แพทย์หญิงก็เดินเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัยข้างๆ เย่จิ่งหลานอุ้มเด็กเดินเข้าไปในห้องผ่าตัด แต่ยังคงมองย้อนกลับไปที่แพทย์หญิงคนนั้น จากนั้นก็ได้ยินเสียงคลิก ซึ่งเป็นเสียงล็อคประตู“เด็กคนนี้ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกหน้าอก ขาทั้งสองข้างก็ถูกทับ”เย่จิ่งหลานอธิบายอาการของเด็กสั้นๆ จากนั้นรีบเดินไปที่ห้องรังสีวินิจฉัย ดึงที่จับประตูบานใหญ่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ดึงให้เปิดออกเมื่อนึกถึงไอ้คนชาติชั่วคนนั้นที่โรงพยาบาลเดิมใช้เส้นสายสารพัด ทำเหมือนกับว่าตัวเองเป็นแค่หมา สุดท้ายยังถูกเขาส่งไปยังโรงพยาบาลชุมชนที่อยู่ห่างไกลที่ไม่มีโอกาสก้าวหน้า เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธเขาออกแรง รู้สึกว่ามีแรงแปลกๆ ออกมาจากจุดตันเถียน ไปถึงท่อนแขนของเขาในทันที จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกึก ประตูที่ถูกล็อคก็หักแกเป็นสองท่อนหลี่ไห่ตงกำลังจะกอดแพทย์หญิงคนนั้นทำเรื่องงามไส้ มีสายตามองจากข้างนอกเข้าไป อีกทั้งเรือนผมยาวส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1460 ความคิดชั่วร้าย

    ทันใดนั้นก็มีเสียงเบรกดังมาจากด้านหน้าผู้หญิงคนหนึ่งขี่สกู๊ตเตอร์ชนจนล้มกระแทกพื้น เด็กที่อยู่ข้างหลังก็กระเด็นห่างออกไปหลายเมตรเช่นกันหน้าที่ของแพทย์ทำให้เย่จิ่งหลานเหาะไปข้างหน้า กระโดดไปหลายสิบเมตรในก้าวเดียว และลงจอดต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นรถที่ผ่านไปมาต่างก็อึ้งกันไปหมด นี่กำลังถ่ายหนัง หรือเรื่องจริง?คนนี้ไม่มีสายสลิงผูกอยู่บนตัวนั้นา แล้วทำไมเขาถึงเหาะได้ไกลขนาดนี้ในคราวเดียวล่ะ?เย่จิ่งหลานเองก็สะดุ้งนี้...มันเป็นไปได้อย่างไรเป็นวรยุทธ์งั้นหรือเขาไม่มีเวลาคิด ก้มลงห้ามเลือดของผู้หญิงคนนั้นทันที กลิ่นเลือดปะทะเข้าจมูกของเขา หัวใจพลันสั่นขึ้นมาเล็กน้อยดูเหมือนมีบางอย่างตื่นขึ้นมา ไฝแดงระหว่างคิ้วก็สว่างวาบขึ้นเล็กน้อยมือของเขานิ่งค้าง จากนั้นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หลายคนก็วิ่งเข้ามา“คุณคนนี้ คุณเป็นหมอเหรอ”เย่จิ่งหลานพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว“ฉันเป็นศัลยแพทย์”คนที่ดูเหมือนพยาบาลกล่าวว่า “คนไข้ได้รับบาดเจ็บสาหัส คุณช่วยตามพวกเราไปที่รถพยาบาล ช่วยรักษาฉุกเฉินได้ไหม”เย่จิ่งหลานสูดหายใจเข้าลึกๆ“ได้”เขาก้าวเข้าไปในรถพยาบาล ผู้หญิงและเด็กถูกพาไปที่เตียงในรถพยาบาล

DMCA.com Protection Status