หน้าหลัก / รักโบราณ / สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ / บทที่ 623 มนุษย์ล้วนไม่อาจหลีกหนีคำว่ารักได้

แชร์

บทที่ 623 มนุษย์ล้วนไม่อาจหลีกหนีคำว่ารักได้

ผู้เขียน: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-04-20 16:00:01
“แล้ว...พี่ใหญ่อิน...”

เมื่อคิดว่าจะได้พบหน้าอินสิงอวิ๋นเร็วๆ นี้ เป่าเล่อเอ่อร์ก็รู้สึกเป็นกันเองมากขึ้น หัวใจพะวักพะวน

จู่ๆ อินชิงเสวียนก็จำได้ว่าอินสิงอวิ๋นเคยถามตัวเอง ว่านางรู้จักสตรีคนหนึ่งหรือไม่ ซึ่งสตรีที่เขาพูดถึงคงเป็นเป่าเล่อเอ่อร์

แม้ว่าความทรงจำจะสูญหายไป แต่ความประทับใจนี้ยังคงอยู่ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรักอันลึกซึ้ง

ซึ่งก็เป็นอย่างนั้น มนุษย์ล้วนไม่อาจหลีกหนีคำว่ารักได้ อินชิงเสวียนคิดถึงตัวเองและเย่จิ่งอวี้ นางคลี่ยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “ได้พบเจ้า พี่ใหญ่คงจะดีใจมาก ข้าจะกลับไปหาจ้าวเอ๋อร์ก่อน แล้วค่อยไปส่งเจ้ากลับตระกูลอิน”

“อื้ม ข้ารู้แล้ว”

เสียงของเป่าเล่อเอ่อร์แผ่วเบา ว่าง่ายมาก

เมื่อมองดูท่าทางอ่อนโยนของนาง อินชิงเสวียนก็ยิ่งรู้สึกชอบ

ในเวลานี้ เย่จั้นได้เดินเข้ามาจากห้องโถงด้านนอก

อินชิงเสวียนตกอยู่ในความงุนงงอยู่ครู่หนึ่ง รูปร่างของพวกเขาสองอาหลานดูคล้ายกันมาก หลังจากสวมหน้ากากแล้ว ก็แทบจะแทนกันได้เลย

เย่จั้นรู้สึกขัดเขินเล็กน้อย ไอแห้งๆ

อินชิงเสวียนตื่นจากภวังค์ทันที นางกระแอมและพูดว่า “ถ้าเสด็จอารู้สึกไม่สบาย ก็พักผ่อนในตำหนักเฉิงเทียนเถิด ข้าจะกล
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 624 เจ้าเป็นผู้หญิงที่ต่างจากคนอื่นจริงๆ

    “ข้าไม่เป็นไร”อินชิงเสวียนถูนวดขมับน้ำพุวิญญาณสามารถรักษาอาการเมาค้างได้ แต่นางไม่อยากหายเมาค้างอาการเวียนศีรษะทำให้นางลืมหลายสิ่งหลายอย่างซึ่งนี่ก็เป็นการหลีกหนีปัญหาด้วย มิน่าเล่าคนมากมายที่มีปัญหาทุกข์ใจถึงยอมดื่มสุราจนเมามายเย่จิ่งหลานรู้สึกจนปัญญา“ถ้าอารมณ์ไม่ดีก็ร้องไห้ออกมา จะทำให้รู้สึกดีขึ้น ต่อให้เข้มแข็งแค่ไหน ก็เป็นแค่มนุษย์คนหนึ่ง เพราะเป็นมนุษย์ ย่อมมีตอนที่รู้สึกพังทลาย ไม่น่าอายหรอก”อินชิงเสวียนยิ้มอย่างเมามาย“ถ้าการร้องไห้มีประโยชน์ ข้าคงร้องไห้ไปนานแล้ว เพราะข้ารู้ดีว่าปัญหาแก้ไขไม่ได้ จึงไม่หลั่งน้ำตาร้องไห้ง่ายๆ”เย่จิ่งหลานยกนิ้วให้“ใช้ได้ เจ้าเป็นผู้หญิงที่ต่างจากคนอื่นจริงๆ”อินชิงเสวียนพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ขอบคุณสำหรับคำชม”เมื่อเห็นนางยิ้มได้ในที่สุด เย่จิ่งหลานก็รู้สึกโล่งใจ“ไปแก้อาการเมาค้างเถอะ ประเดี๋ยวต้องออกจากวังไม่ใช่หรือ”อินชิงเสวียนหรี่ตาและพูดว่า “เจ้าลืมหรือว่าข้ามีน้ำพุวิญญาณด้วย? ถ้าข้าอยากฟื้นจากการเมาค้าง ก็แค่ดื่มน้ำหนึ่งแก้ว”เย่จิ่งหลานพูดจิ๊ๆ แล้วพูดว่า “ถ้าเจ้าไม่บอกข้าคงลืมไปแล้ว อ้อ อีกอย่าง ข้าแช่ตัวในน้ำสองถังนั้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-20
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 625 เจ้ามาได้ทำไมข้าจะมาไม่ได้

    ฟางรั่วประกบมือคารวะเขาทันที“ขอบคุณมาก”อินสิงอวิ๋นพยักหน้าเบาๆ และเดินมุ่งหน้าไปยังวังหลวงอย่างรวดเร็วส่วนอินชิงเสวียนก็พาเป่าเล่อเอ่อร์เข้ามาในจวนแล้วซูหมิงหลานกำลังปักผ้าอยู่ในห้องโถง อินชิงเสวียนบอกว่าจะเปิดร้าน นางคิดถึงเรื่องนี้มาโดยตลอด ดังนั้นนางจึงต้องการปักลวดลายต่างไว้เพิ่มก่อน เพื่อให้ผู้คนเลือกซื้อเมื่อเห็นอินชิงเสวียนจูงมือสาวน้อยน่ารักเข้ามาจากด้านนอก นางก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว“หม่อมฉันถวายพระพรกุ้ยเฟย!”“ท่านแม่รองไม่ต้องมากพิธี รีบลุกขึ้นเร็วเจ้าค่ะ”อินชิงเสวียนช่วยประคองซูหมิงหลานขึ้น แล้วแนะนำ “นี่คือองค์หญิงน้อยแห่งเจียงวู เป่าเล่อเอ่อร์ นี่คือท่านแม่รองของข้า”ซูหมิงหลานมองเป่าเล่อเอ่อร์ด้วยสีหน้าประหลาดใจ เป่าเล่อเอ่อร์ถูกมองเช่นนั้นก็รู้สึกกระดากอาย รีบยอบกายคำนับทันที“เป่าเล่อเอ่อร์น้อมคำนับอินฮูหยินเจ้าค่ะ”“รีบลุกขึ้นเร็ว ทำไมองค์หญิงถึงมาเมืองหลวงได้”ซูหมิงหลานพาเป่าเล่อเอ่อร์ไปนั่ง แล้วถามอย่างสงสัยตระกูลอินสู้รบกับเจียงวูมานานหลายปี ซูหมิงหลานไม่มีความประทับใจที่ดีต่อเจียงวูมากนัก แต่เนื่องจากอินชิงเสวียนเป็นคนพานางมาที่นี่ คงต้องมีเหตุผ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-21
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 626 เจ้าจะเอาอะไรมาเปรียบกับข้า

    มีเสียงดังขึ้นมาจากด้านนอกประตู จูอวี้เหยียนนั่งรถเข็นไม้ที่อินจ้งให้ช่างฝีมือสร้างให้นาง โดยมีสาวใช้เป็นคนเข็นเข้ามานางสวมกระโปรงคาดอกผ้าแพรไหมสีฟ้าลายดอกไม้ปักด้วยดอกโบตั๋น สวมเสื้อคลุมขนกระต่ายอยู่ด้านนอก ซึ่งดูหรูหรายิ่งกว่าชุดกุ้ยเฟยที่อินชิงเสวียนสวมใส่เสียอีกเมื่อมองไปที่เนื้อผ้า อินชิงเสวียนก็ขมวดคิ้วนี่เป็นชุดที่นางเอาให้จื่อลั่วโดยเฉพาะ แต่ซูหมิงหลานกลับนำมาทำเสื้อคลุมให้จูอวี้เหยียน จะใจดีเกินไปแล้วกระมังให้นางได้อาศัยอยู่ในจวนอิน มีอาหารและเครื่องดื่ม ก็นับเป็นความเมตตาอย่างยิ่งแล้วเมื่อเห็นนาง เป่าเล่อเอ่อร์ก็ผุดลุกขึ้นยืนโดยไม่รู้ตัว ก้าวถอยหลังหลายก้าวในเจียงวู สามารถกล่าวได้ว่าจูอวี้เหยียนสามารถควบคุมทุกสิ่งได้ แม้แต่พี่ใหญ่อูเอินก็ยังต้องยอมให้นางเมื่อเวลาผ่านไป เป่าเล่อเอ่อร์เริ่มหวาดกลัวนางโดยสัญชาตญาณยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจูอวี้เหยียนยังฝึกกู่พิษอีกด้วย แม้ว่านางจะไม่รู้ว่ามันคืออะไรแน่ แต่หลังจากเห็นพี่ใหญ่หน้าถอดสีหลังจากพูดถึงกู่ นางก็รู้ว่าน่าจะเป็นสิ่งที่ร้ายกาจมากอินชิงเสวียนก็ยืนขึ้น แล้วพูดกับเป่าเล่อเอ่อร์ “ไม่ต้องกลัว ที่นี่ไม่ใช่เจียงวู นา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-21
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 627 ความฝันอันเหน็ดเหนื่อย

    อินจ้งรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยการเดินทางข้ามผ่านเขาสูงชันระยะทางห่างไกลเช่นนี้ แต่สาวน้อยผู้บอบบางกลับสามารถมาถึงที่นี่ได้ด้วยตัวเอง เห็นถึงความตั้งใจจริงๆ“เจ้ามาแค่เพราะอยากพบหน้าอินสิงอวิ๋นงั้นหรือ”อินจ้งถามอีกครั้งแววตาคมกริบจับต้องไปยังศีรษะ เป่าเล่อเอ่อร์รู้สึกประหม่า ยิ่งก้มศีรษะลงมากขึ้น“ใช่ ข้าอยาก...เจอเขา”เป่าเล่อเอ่อร์อยากบอกว่านางอยากใช้ชีวิตอยู่กับอินสิงอวิ๋น แต่นางไม่รู้ว่าอินจ้งจะคิดอย่างไร นางจึงไม่กล้าพูดมากกว่านี้เมื่อเห็นอินจ้งจ้องมองไปที่เป่าเล่อเอ่อร์ราวกับพิพากษานักโทษ ซูหมิงหลานรู้สึกไม่สบายใจ รีบไกล่เกลี่ยด้วยรอยยิ้ม“สิงอวิ๋นเด็กคนนี้นี่ ยังไม่กลับมาอีกหรือ”“คงไม่กลับมาแล้วกระมัง เจ้าไปเจอลูกสาวข้าได้อย่างไร”แล้วอินจ้งก็หันกลับมาหาเป่าเล่อเอ่อร์อีกเขาต่อสู้กับเจียงวูมาหลายปี ทั้งสองฝ่ายต่างเจ็บหนัก ทุกครั้งที่เขาคิดถึงทหารเหล่านั้น ความประทับใจดีๆ ของอินจ้งที่มีต่อเจียงวูก็หายไปโดยสิ้นเชิงทันทีแม้ว่าเป่าเล่อเอ่อร์จะเป็นเพียงสตรี แต่นางก็เป็นองค์หญิงแห่งเจียงวู หากมีอะไรผิดพลาด ตระกูลอินก็จะพลอยติดร่างแหไปด้วยตอนนี้ในที่สุดครอบครัวก็ได้กล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-21
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 628 วันเซ่นไหว้บูชา

    อินชิงเสวียนจิบน้ำ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในเมื่อเกิดความผิดพลาดขึ้นแล้ว คิดมากไปก็ไม่มีประโยชน์ แต่จะตามใจจูอวี้เหยียนเช่นนี้ก็ไม่ได้ ตอนนี้อาซือหลานตายแล้ว จูอวี้เหยียนก็คงไม่มีแผนอะไรอีก ขอเพียงปล่อยให้นางเข้าใจลำดับความสำคัญ ก็จะลดความเย่อหยิ่งลงได้แน่ แล้วนางจะค่อยๆ ชินไปเอง”อินจ้งพยักหน้าแม้ว่าเขาจะไม่ยินยอมที่จะละทิ้งลูกสาวคนนี้ แต่สิ่งที่อินชิงเสวียนพูดนั้นก็ไม่ไร้เหตุผล ดังคำโบราณที่ว่า การตามใจลูกก็ไม่ต่างจากการฆ่าลูกทางอ้อม เขาก็ตามใจจูอวี้เหยียนจริงๆ นางอยากได้อะไรก็สรรหามาให้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่จูอวี้เหยียนพูดในวันนี้ ทำให้อินจ้งรู้สึกเย็นจับขั้วหัวใจจริงๆเขาถอนหายใจเบาๆ พูดว่า “พ่อรู้แล้ว แล้วเรื่ององค์หญิงน้อยเจียงวู ฝ่าบาทว่าอย่างไรบ้าง”อินชิงเสวียนกระตุกมุมปากขึ้น แต่เป็นรอยยิ้มที่ขมขื่นเล็กน้อยแม้ว่านางจะสามารถจัดการเรื่องนี้ได้ แต่ฝ่าบาทองค์ปัจจุบันก็ไม่ใช่ฝ่าบาทองค์เดิมอีกต่อไปภาพของเย่จิ่งอวี้คุกเข่าลงบนพื้นแวบขึ้นมาต่อหน้าต่อตาอีกครั้ง ทันใดนั้นหัวใจก็รู้สึกราวกับถูกมือใหญ่คว้าไว้ เจ็บปวดจนหายใจไม่ออกเพื่อไม่ให้อินจ้งมองออก อินชิงเสวียนแส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-22
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 629 พี่เขยฮ่องเต้

    “วันนี้เจ้าจะกลับวังหรือเปล่า ถ้าไม่รีบก็นอนค้างที่บ้านสักคืนเถอะ แม่รองก็คิดถึงเจ้ามาก”ดวงตาของอินจ้งฉายแววรักและเอ็นดู กระแสเสียงกอปรไปด้วยความอ่อนโยนดั่งบิดาที่รักบุตรตอนนี้อาซือหลานตายแล้ว คนตงหลิวที่อยู่นอกวังก็ถูกกำจัดไปหมดสิ้นแล้ว ไม่มีภัยคุกคามในวัง ทั้งยังมีเย่จั้นอยู่ด้วย อินชิงเสวียนจึงไม่กังวลนักเมื่อคิดว่าตัวเองเดินทางไปคราวนี้ไม่รู้ว่าจะเป็นหรือตาย นางก็ควรใช้เวลาอยู่กับครอบครัวในนามของเจ้าของร่างเดิมให้มากขึ้นจริงๆครั้นจึงพยักหน้าแล้วพูดว่า “ก็ได้เจ้าค่ะ”“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ไปบอกแม่รองเถอะ ตั้งแต่แม่ของเจ้าจากไป นางก็ตรากตรำเพื่อพวกเจ้าพี่น้อง”หลายปีที่ผ่านมานี้ซูหมิงหลานก็ลำบากจริงๆ แต่นางก็ไม่ได้บ่นเลย แม้ว่าอินจ้งจะไม่พูดอะไร แต่เขาก็เห็นในสายตาอยู่ตลอดอินชิงเสวียนพยักหน้า“ลูกรู้แล้วเจ้าค่ะ มีบางเรื่อง ไม่ทราบว่าท่านแม่รองได้บอกท่านพ่อหรือยัง”อินจ้งถามว่า “มีอะไรหรือ”“เมื่อไม่กี่วันก่อนที่ลูกกลับจวน ได้คุยกับท่านแม่รองเรื่องการเปิดร้าน ท่านแม่รองดูสนอกสนใจมาก อีกทั้งข้าก็มีของเล็กๆ น้อยๆ อยากขายด้วย เลยอยากให้ท่านแม่รองซื้อร้านสองร้านทิ้งไว้ ร้านหนึ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-22
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 630 ชอบข้าสักนิดบ้างหรือไม่

    พริบตาเดียวก็เป็นเวลาเที่ยงคืน ยังไม่มีข่าวคราวจากอินสิงอวิ๋น ฟางรั่วอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวล“ทำไมยังไม่กลับมาอีกล่ะ เขาคงไม่เป็นไรกระมัง”กวนเซี่ยวกล่าวว่า “สหายอินมีวรยุทธ์ล้ำเลิศ ในเมืองหลวงมีผู้ที่สามารถทำร้ายเขาได้ไม่กี่คน ข้าคิดว่าเขาคงมีเรื่องคุยกับกุ้ยเฟยหลายเรื่อง จึงมาช้า หากเจ้าง่วงนอน เจ้าก็ไปพักก่อนได้ ข้าจะรอที่นี่”ฟางรั่วพูดเรียบ “ไม่จำเป็น คุณชายกวนโปรดกลับไปเถอะ ประเดี๋ยวจอมพลเฒ่าจะเป็นห่วงเอา”“ไม่เป็นไร ท่านปู่เหนื่อยจากการฝึกซ้อมมาทั้งวัน ตอนนี้คงนอนหลับไปนานแล้ว อีกอย่างเจ้าอยู่ที่นี่ตามลำพัง ข้าไม่วางใจ ข้าจะอยู่ที่นี่กับเจ้า”กวนเซี่ยวรู้อยู่แล้วว่าฟางรั่วสูญเสียทักษะวรยุทธ์ ยิ่งไม่อยากจากไปเมื่อเห็นว่าเขาปฏิเสธไม่ยอมจากไป ฟางรั่วก็ไม่พูดอะไรมาก เอนตัวพิงบนเตียงโดยมีมีดสั้นอยู่ในมือ หลับตาลงและหลับไปกวนเซี่ยวนั่งอยู่บนตั่งไม้ข้างๆ เฝ้ามองดูนางอยู่ตลอดเวลาใบหน้าของฟางรั่วขาวมาก เป็นสีขาวที่ผิดไปจากปกติ แทบไม่มีสีเลือด ดูซูบผอมลงไปมากซึ่งนี่ต้องเกี่ยวข้องกับการทำลายวรยุทธ์แน่นอน กวนเซี่ยวอดไม่ได้ที่จะขบกรามเป็นสันนูน“เจ้าวางใจ ข้าจะช่วยเจ้าตามหาหมอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-22
  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 631 ค่ำคืนอันยากจะข่มตาหลับ

    “ข้ารู้แล้ว”น้ำเสียงสิ้นหวังของกวนเซี่ยวดังมาจากนอกประตู“ข้าจะไม่เซ้าซี้เจ้าอีก แต่ภายหน้าถ้าเจ้าเผชิญเรื่องที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ก็มาหาข้าได้เสมอ ไม่ว่าเมื่อใด ไม่ว่าเรื่องใด ข้าจะพยายามช่วยเหลือเจ้าจนสุดกำลัง”เมื่อฟังเสียงฝีเท้าที่ค่อยๆ เดินห่างจากประตูไป ฟางรั่วก็เจ็บแปลบที่ขอบตา หยาดน้ำตารินไหลลงมาเงียบๆ ขอโทษนะ กวนเซี่ยว ข้าไม่เหมาะสมกับเจ้าจริงๆ!ฟางรั่วค่อยๆ ทรุดตัวลงนั่งบนพื้น เมื่อผ่านไปเนิ่นนานหลายอึดใจ นางก็เช็ดน้ำตาและลุกขึ้นยืนจู่ๆ นางก็รู้สึกว่าชีวิตของตัวเองดูไร้ความหมายตราบใดที่แน่ใจว่าอาซือหลานเสียชีวิตแล้ว นางจะออกจากเมืองหลวงทันที ไปยังสถานที่ที่ร้างผู้คน เพื่อจบสิ้นเศษเสี้ยวชีวิตที่เหลืออยู่คืนนี้ ถูกลิขิตเป็นค่ำคืนอันยากจะข่มตาหลับได้อินชิงเสวียนนอนไม่หลับ ฟางรั่วนอนไม่หลับ กวนเซี่ยวและเย่จั้นก็นอนไม่หลับเช่นกันบ้างก็เพราะคนรัก บ้างก็เพราะคนในครอบครัวในเวลานี้ ราตรีมืดมิด นภาไร้ดวงจันทร์ ความมืดอันไม่มีที่สิ้นสุดแผ่ปกคลุมวังหลวง ราวกับว่าปากยักษ์ที่มองไม่เห็นกำลังจะกลืนกินวังหลวงอันงดงามแห่งนี้หลี่เต๋อฝูจงใจจุดตะเกียงอีกหลายดวง เมื่อเห็นเย่จั้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-04-23

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1540 สองพระองค์ครองราชย์ จบบริบูรณ์

    ปีที่สามของการครองราชย์ในราชวงศ์ต้าโจวฮองเฮาให้กำเนิดพระธิดา ได้รับพระราชทานนามว่าองค์หญิงเจ๋อเทียน นามว่าเจิน มีชื่อเล่นว่าฝูเอ๋อร์ในเดือนเก้าของปีเดียวกัน เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนปกครองร่วมกัน แบ่งกันปกครองบ้านเมืองและการดำรงชีวิตของผู้คน ราษฎรเคารพทั้งสองในฐานะพระองค์ฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา ประวัติศาสตร์ได้บันทึกช่วงเวลานี้ไว้ด้วยถ้อยคำที่งดงามที่สุด และเรียกช่วงเวลานี้อย่างเคารพว่า ยุคที่สององค์ปกครอง!ห้าปีต่อมา เครื่องกำเนิดพลังงานลมเครื่องแรกปรากฏขึ้นด้วยฝีมือความสามารถของชาวต้าโจว ซึ่งก้าวล้ำหน้าสมัยโบราณที่ล้าหลังไปอย่างมากด้วยก้าวที่ยิ่งใหญ่นักเรียนจากทั่วแคว้นได้แสดงความสามารถ พัฒนาสิ่งที่ล้ำหน้าต่างๆ ผ่านความรู้ทางคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมีใหม่ล่าสุด บุปผานับร้อยบานสะพรั่งพร้อมกัน ก่อให้เกิดยุครุ่งเรืองของราชวงศ์ต้าโจวตอนนี้อาหารไม่ขาดแคลน ราษฎรไม่ต้องทนทุกข์กับความหิวโหยอีกต่อไป ยิ่งไม่มีการอพยพย้ายถิ่นฐาน โครงการคลองส่งน้ำก็สำเร็จลุล่วง ด้วยการคมนาคมสะดวกระหว่างภาคเหนือและภาคใต้ ก็สามารถแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการได้ในที่สุด อ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นยังสามารถเปลี่ยนเส้นท

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1539 เสวียนเอ๋อร์ขอบคุณเจ้านะ

    ตำหนักจินอู๋อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ แต่ไม่กล้าโคจรกำลังภายในต้านทานไว้ เพราะกลัวว่าจะทำร้ายลูกของนางเมื่อเห็นนางกัดริมฝีปากล่างแน่น มีเหงื่อไหลอาบหน้า หัวใจของเย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกเหมือนถูกมีดคมๆ นับพันทิ่มแทง รู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่ง“ต้องทำอย่างไรถึงจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาได้ ต้องปล่อยให้นางเจ็บปวดทนทุกข์เช่นนี้หรือ”หมอตำแยกล่าวอย่างกล้าหาญว่า “สตรีคลอดบุตรก็เป็นเช่นนี้เพคะ อดทนไว้ แล้วจะดีเอง”เย่จิ่งอวี้พูดด้วยความโกรธ “ฮองเฮาของข้าจะเทียบได้กับสตรีทั่วไปได้อย่างไร รีบหาทางบรรเทาความเจ็บปวดของฮองเฮาเดี๋ยวนี้”“ข้าไม่เป็นไร อาอวี้ออกไปก่อนเถอะ!”เสียงของอินชิงเสวียนนั้นอ่อนแรง แม้จะเป็นสามีภรรยากัน แต่ถูกเห็นเข้าในสถานการณ์เช่นนี้ก็น่าอายอยู่เหมือนกันเย่จิ่งอวี้เดินก้าวเดียวก็ไปถึงเตียง จับมือของนางแน่นๆ แล้วพูดอย่างกระวนกระวายใจ “ข้าไม่วางใจ มีวิธีถ่ายทอดความเจ็บปวดให้ข้าได้ไหม เจ้าอยู่กับลั่วสุ่ยชิงมานานแล้ว ไม่ได้เรียนวิชาอาคมอะไรจากนางบ้างหรือ”อินชิงเสวียนเจ็บปวดเจียนตายอยู่แล้ว เมื่อได้ยินคำนี้ก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1538 ไท่เฟยไท่ผินออกจากวัง

    อินชิงเสวียนอดทนต่อความเจ็บปวดและกล่าวว่า “ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ วันนี้เป็นวันแต่งงานของไห่ถัง ในฐานะพี่ชาย ควรเป็นประธานงานแต่งของนางด้วยตนเอง หากไม่มีคนในราชวงศ์ไป ไห่ถังจะผิดหวังได้”แม้น้องสาวจะเป็นญาติ แต่ก็ไม่ชิดเชื้อเท่ากับภรรยา ลูกคนแรกเกิดในตำหนักเย็น ซึ่งทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกผิดไปครึ่งชีวิตแล้ว ยากนี้เด็กคนนี้คือสมบัติล้ำค่าที่แท้จริงระหว่างพวกเขา ในฐานะพ่อของลูก เขาจะจากไปได้อย่างไรเมื่อเห็นว่าใบหน้าของนางซีด มีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดพรายขึ้นเต็มขมับของนาง เย่จิ่งอวี้ก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อปลอบนาง “ไม่เป็นไร มีแม่ทัพอินและจอมพลกวนอยู่ด้วย ไห่ถังก็ไม่นับว่าเสียเกียรติอะไรนัก”อินชิงเสวียนคว้าแขนของเขา“จะได้อย่างไร หากไม่มีใครจากในวังไป มันจะกลายเป็นปมในใจของไห่ถังอย่างแน่นอน นี่คือวันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนาง”ไม่ว่าอย่างไรเย่จิ่งอวี้ก็ไม่ยอมไป แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้น้องสาวเสียหน้าได้ เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย มีความคิดอยู่ในใจ“เจวี๋ยอิ่ง ไปเชิญไท่เฟยไท่ผินทุกท่าน ให้พวกนางออกจากวัง ร่วมงานเสกสมรสขององค์หญิงเดี๋ยวนี้”ทุกคนตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่าเย่จิ่งอวี้จ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1537 ฮองเฮาทรงมีพระประสูติการ

    เย่ไห่ถังยังคงมีความสุข แต่จู่ๆ เสียงของหลี่เต๋อฝูก็ทำให้นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเปิดประตู เห็นเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้ยืนอยู่ที่กลางเรือน น้ำตาก็ไหลออกมาจากดวงตา“ไห่ถังคารวะเสด็จพี่ เสด็จพี่สะใภ้เพคะ!”เย่ไห่ถังกำลังจะคุกเข่าลง แต่เย่จิ่งอวี้ก็ปราดเข้าประคองนางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ในฐานะสตรีที่ออกเรือนแล้ว ทุกสิ่งต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวม จะทำตัวเหลวไหลซุกซนเหมือนอยู่ในวังไม่ได้ หากใช้ชีวิตนอกวังจนเบื่อแล้ว ก็สามารถกลับมาได้ตลอดเวลา วังหลวงจะเป็นบ้านของเจ้าตลอดไป”อินชิงเสวียนก็ก้าวไปข้างหน้าและพูดว่า “ถ้าพี่รองของข้ารังแกเจ้า เจ้าก็บอกข้าได้เลย ข้าจะทวงความยุติธรรมให้กับเจ้าแน่นอน”ถ้าคนที่เย่ไห่ถังแต่งงานด้วยไม่ใช่อินปู้อวี่ เย่จิ่งอวี้คงพูดคำนี้ไปนานแล้วเย่ไห่ถังสูดจมูก“ขอบพระทัยเสด็จพี่และเสด็จพี่สะใภ้เพคะ ตอนแรกข้าค่อนข้างมีความสุข แต่ตอนนี้ไม่อยากจากไปเลย”เมื่อเห็นว่าจมูกของเย่ไห่ถังแดง กำลังจะร้องไห้อีก เย่จิ่งอวี้จึงตีหน้าขรึมพูดทันที “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นข้าจะให้คนไปแจ้งอินปู้อวี่ ว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่มีแล้ว หลี่เต๋อฝู!”หลี่เต๋อฝูก็เป็นคนเจ้าเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1536 องค์หญิงกำลังจะเสกสมรส

    ในวันที่หนึ่งเดือนสี่ ลำดับการสอบการต่อสู้ชี้ให้เห็นว่า เฉินเซียงเยว่ที่อินชิงเสวียนสนใจ สอบได้ลำดับหนึ่ง คนผู้นี้หน้าตาดูดุร้ายและน่าเกลียด แต่กลับมีจิตใจอ่อนโยนดังเช่นสตรี ไม่เพียงแต่วรยุทธ์ดีเลิศเท่านั้น แต่ยังเก่งในเรื่องการจัดขบวนทัพด้วย เป็นยอดแม่ทัพที่หาได้ยากนางได้ลำดับหนึ่งก็คือจอหงวนด้านวิชาการต่อสู้ ไม่มีใครไม่ยอมรับเลย แค่ยืนอยู่เฉยๆ ก็ดูฮึกเหิมมีพลังมากกว่าผู้ชายทุกคนในตอนนั้นเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งแซ่หลิวมีชื่อว่าเยว่ ก็ได้รับเลือกให้ติดอยู่ในสามอันดับแรก รั้งอยู่ในเมืองหลวงฝ่าบาทขานรายชื่อสตรีมามากขนาดนี้ เหล่าขุนนางข้าราชบริพารก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงเรื่องนี้ ต่างรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องตามระเบียบประเพณี แต่ก็กล้าที่จะวิพากษ์วิจารณ์เป็นการส่วนตัวเท่านั้น ต้าโจวในวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ที่ฝ่าบาทยินดีฟังพวกเขา ก็ถือเป็นการให้เกียรติพวกเขาแล้ว หากฝ่าบาทไม่อยากฟัง ถึงพูดมากไปก็ไร้ผลแต่ไม่มีใครกล้าพูดว่าเย่จิ่งอวี้เป็นทรราช ฝ่าบาททรงงานปกครองบ้านเมืองอย่างหนัก แม้ว่าพระองค์จะทรงปฏิรูปครั้งใหญ่ แต่ก็ทำเพื่อประชาชนในราชวงศ์ต้าโจวเท่านั้น ขณะนี้แผ่นดินสงบสุข มีธัญพืชอุดมสมบูรณ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1535 เหลวไหลจริงๆ

    เสียงเรียกว่าท่านพี่นั้นทำให้เย่จิ่งอวี้ใจอ่อนลงมากโข ความโกรธทั้งหมดพลันหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันทีไม่เช่นนั้นจะทำอะไรได้อีก ภรรยาที่เลือกมาเอง มีแต่ต้องตามใจเองเท่านั้น“เจ้าคนโกหกตัวน้อย กลับไปสามีจะคิดบัญชีเจ้าหนักๆ ถอนกำลังภายในของเจ้าออก สามีจะทำแทนเจ้าเอง ประเดี๋ยวจะทำร้ายลูกในท้องเอา”เสียงของเย่จิ่งอวี้เชื่อมโยงเป็นเส้น ไหลผ่านกระทบโสตประสาทของอินชิงเสวียนคำต่อคำอย่างแจ่มชัดนางยกมุมปากขึ้น เผยเป็นรอยยิ้มภาคภูมิใจเมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเย่จิ่งอวี้ นางจึงเปิดโสตประสาท เหตุผลที่ขอให้เย่จิ่งอวี้ช่วย ก็เพราะว่ากำลังภายในในร่างกายของนางซับซ้อนเกินไป ยากต่อการควบคุม ในงานที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ จะให้เกิดข้อผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาดเย่จิ่งอวี้ไม่เหมือนกัน เขาบำเพ็ญตบะกำลังภายในของหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังประสานพลังแห่งฟ้าดิน แม้ว่าอินชิงเสวียนจะมีพลังลมปราณของหลายสำนัก แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับกำลังภายในอันบริสุทธิ์และทรงพลังของฮ่องเต้ได้ในชั่วพริบตา กำลังภายในดุจธารานิ่งลึกหลั่งไหลเข้ามาจากด้านนอกประตู เหมือนโลกลึกล้ำ โอบกอดและยืดหยุ่น บรรยากาศที่มืดมนในห้องโถงคล้ายจะถูก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1534 ท่านพี่ช่วยข้าได้ไหม

    “ฟางรั่วเข้าวัง?”เย่จิ่งอวี้หยุดฝีเท้าหลี่เต๋อฝูโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมถามองครักษ์ที่เฝ้าหน้าประตูวังแล้ว แม่นางฟางรั่วเข้ามาเมื่อสามชั่วยามที่แล้ว”เจวี๋ยอิ่งคุกเข่าลงและพูดว่า “กระหม่อมเห็นฟางรั่วเข้าไปในตำหนักจินอู๋ แต่ไม่เห็นนางและฮองเฮาออกมา”เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาคล้ายจะสดใสและมืดมน กำลังตกอยู่ในอาการครุ่นคิดด้วยวรยุทธ์ของฟางรั่ว ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะทำอันตรายต่ออินชิงเสวียน นางยังมีใบมีดแห่งมิติอยู่ในมือ แม้ว่าเหล่าเทพเซียนจะลงมาเอง แต่นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้จากมุมมองนี้ ควรไม่ใช่การหายตัวไปง่ายๆ นางเรียกฟางรั่วมา ต้องมีเหตุผลอื่นเป็นแน่เจวี๋ยอิ่งโค้งคำนับและถามว่า “ต้องการให้กระหม่อมปิดล้อมพระนคร สืบหาที่อยู่ของฮองเฮาอย่างถี่ถ้วนหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”เย่จิ่งอวี้เหลือบมองเจวี๋ยอิ่ง“ไม่ต้อง หลี่เต๋อฝู ไปเชิญกวนเซี่ยวเข้ามาด้วย”ครู่ต่อมา กวนเซี่ยวก็วิ่งเหยาะๆ มาถึงประตูตำหนัก ยกเสื้อคลุมขึ้นและคุกเข่าลงกับพื้น“กวนเซี่ยวถวายบังคมฝ่าบาท ฝ่าบาททรง...”เย่จิ่งอวี้ได้ยินเช่นนั้นก็รำคาญ โบกมือห้าม“ตามสบาย เจ้ารู้ไหมว่าทำไมฟางรั่วถึงมาที่วัง”กวนเซี่ยว

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1533 เจ้าน่ะ ยังมีนิสัยดื้อรั้นเหมือนเดิม

    “ในเมื่อเจ้าเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ตามข้าไปที่อื่น”อินชิงเสวียนดีดปลายเท้าขึ้น ร่างนั้นก็กระโดดออกจากตำหนักจินอู๋ ท่วงท่ากิริยาเบาบางและสง่างาม ราวกับเทพธิดาในวังพระจันทร์ที่ทิ้งร่องรอยความงดงามไว้บนโลกมนุษย์ฟางรั่วติดตามอย่างใกล้ชิด พลางชื่นชมในใจอินชิงเสวียนเป็นคนพิเศษจริงๆ!ราวสิบห้านาที ร่างที่สง่างามทั้งสองก็ปรากฏตัวขึ้นในตำหนักฉือหนิงหลังจากไทเฮาสิ้นพระชนม์ สถานที่แห่งนี้ก็ว่างเปล่า ขณะนี้มีไท่เฟยและไท่ผินเพียงไม่กี่คนที่เหลืออยู่ในวัง ที่พักอาศัยมีมากมาย เหตุผลที่อินชิงเสวียนเลือกสถานที่นี้ ก็เพราะเย่จิ่งอวี้จะไม่มาจากนั้นก็นึกในใจ ครั้นแล้วถังไม้ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า และในพริบตาเดียว มันก็เต็มไปด้วยน้ำพุวิญญาณที่ใสสะอาด“เข้าไปสิ สิ่งนี้สามารถรับรองความปลอดภัยของเจ้าได้ในระดับสูงสุด”“เพคะ”ฟางรั่วก้าวเข้าไปในถังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้เป็นฤดูหนาว น้ำในถังนี้กลับไม่เย็น แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นที่ปกคลุมผิวหนังและเส้นลมปราณทั้งหมดของนางอินชิงเสวียนตามเข้ามา จากนั้นนั่งตรงข้ามนางแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น น้ำพุวิญญาณก็สามารถรับรองความปลอดภัยในชีวิตขอ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1532 คืนชีวิตให้ท่านแล้วจะเป็นไร

    “เจ้าลุกขึ้น ข้าหมายถึงอาจจะทำได้ แต่จะมีโอกาสฟื้นตัวได้มากเพียงใด ข้าก็ไม่แน่ใจ เรื่องนี้ เจ้าควรปรึกษากับกวนเซี่ยวก่อนดีกว่า ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับเจ้าเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเขาด้วย”อินชิงเสวียนพยุงฟางรั่วด้วยมือทั้งสองข้าง และอธิบายข้อดีข้อเสียฟางรั่วพยักหน้า“ข้าเข้าใจ เพียงแต่ สุขภาพของฮองเฮา”อินชิงเสวียนท้องโตขนาดนี้ หากมีอะไรผิดพลาดขึ้นมา นางไม่สามารถรับผิดชอบไหวอินชิงเสวียนยิ้มละไม“ร่างกายของข้าแข็งแรงมาก ไม่เป็นไร เจ้าคิดดีแล้วก็มาหาข้าที่วังหลวงได้เลย”“เพคะ”ขณะที่กำลังคุยกัน ทั้งสองคนก็เดินไปที่แท่นประลองข้างๆ แล้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งอายุสิบห้าหรือสิบหกปี ถือดาบคู่อยู่ในมือ กระโดดขึ้นลงด้วยท่าทางที่เบาและกล้าหาญ บีบชายที่อยู่ตรงข้ามหลังให้ล่าถอยทีละก้าว จนตกแท่นประลอง ล้มลงต่อหน้าผู้ชม อินชิงเสวียนอดไม่ได้ที่จะชื่นชมมัน“ทำได้ดีมาก!”ใบหน้าของฟางรั่วแสดงถึงความภาคภูมิใจ“เด็กหญิงคนนี้ชื่อหลิวซู่เยว่ เมื่อก่อนเป็นลูกสาวของหัวหน้าคณะละคร นางมีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง หลังจากที่บิดาเสียชีวิต นางไม่สามารถดูแลคณะละครได้ จึงมาที่เมืองหลวง เข้ามาเรี

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status