แชร์

บทที่ 546 ไว้ชีวิตนางด้วย

ผู้แต่ง: ม่อเยี่ยน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“อยากออกไปเที่ยวเล่นงั้นหรือ?”

อินชิงเสวียนเลิกตากลมโตมองไปที่เย่ไห่ถัง

ไม่รู้ว่าเย่ไห่ถังกำลังคิดเรื่องอะไร ใบหน้าของนางแดงขึ้นเล็กน้อย

พูดเสียงเบาว่า “ตั้งแต่เล็กจนโต ข้าไม่เคยออกไปนอกวังเลย หากว่าเสด็จพี่สะใภ้สะดวก... ข้าก็อยากออกไปเที่ยวบ้าง”

อินชิงเสวียนเข้าใจเป็นอย่างมาก

แม้ชีวิตในพระราชวังจะดีพร้อม แต่หากเทียบกับโลกภายนอกแล้ว สิ่งที่ขาดหายไปคืออิสรเสรี เย่ไห่ถังอยากออกไปข้างนอกถือเป็นเรื่องปกติ

“ข้าจะลองดู แต่ว่าเจ้าอย่าได้คาดหวังมากเกินไปล่ะ”

เมื่อได้ยินดังนั้น เย่ไห่ถังก็ตื่นเต้นดีใจขึ้นมาทันที

“ขอบพระทัยเสด็จพี่สะใภ้ ขอบพระทัยเสด็จพี่สะใภ้”

อินชิงเสวียนยิ้มและพูดว่า “รอให้เสด็จพี่ของเจ้ารับปากก่อน เจ้าค่อยขอบคุณข้าก็ยังไม่สาย”

เย่ไห่ถังดึงแขนของอินชิงเสวียนอีกครั้ง และแกว่งไปมาราวกับเด็ก

“เสด็จพี่โปรดปรานเสด็จพี่สะใภ้มากขนาดนั้น ขอเพียงเสด็จพี่สะใภ้รับปาก เสด็จพี่ต้องเห็นด้วยแน่นอนเพคะ”

“การออกจากวังเป็นเรื่องใหญ่ อย่างไรข้าจะช่วยพูดให้แล้วกันนะ”

อินชิงเสวียนไม่กล้าพูดอย่างเต็มปากเต็มคำ อย่างไรเสียผู้หญิงในพระราชวังก็ไม่สามารถเดินออกไปได้ตามใจชอบ ส่วนตัวเองนับว่า
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 547 ความคิดของจังอวี้จิ่น

    ณ ตำหนักจินหวูอินชิงเสวียนกำลังพาเย่ไห่ถังทำเนื้อเสียบไม้ย่าง เย่ไห่ถังเห็นของเหล่านี้เป็นครั้งแรก จึงมีสนุกสนานเพลิดเพลินอย่างมากสักพักโรยผงยี่หร่า สักพักโรยผงพริก เมื่อได้กลิ่นหอมของเนื้อเสียบไม้ น้ำลายก็แทบไหลออกมา“เสด็จพี่สะใภ้เก่งมากจริงๆ คิดวิธีการกินแบบนี้ออกมาได้ด้วย”อินชิงเสวียนยิ้มและพูดว่า “ข้าก็เคยเห็นคนอื่นกินมาก่อนเช่นกัน จึงลองทำดูบ้าง ไม้นี้สุกแล้ว องค์หญิงชิมก่อนสิ”เย่ไห่ถังหยิบขึ้นมากัดหนึ่งคำ และพูดด้วยสีหน้าที่ตื่นเต้น “อร่อยมากเลย ข้าไม่เคยกินอาหารที่อร่อยเช่นนี้มาก่อนเลย”“เจ้าอยากกินตอนไหนก็มาได้เลยนะ เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ข้าสามารถทำเพื่อองค์หญิงได้เพคะ”อินชิงเสวียนรู้สึกดีต่อเจ้าสาวคนนี้มาโดยตลอด เย่ไห่ถังเกิดในวัง แต่ยังสามารถมีจิตใจที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสาเช่นนี้ได้ ถือว่าหาได้ยากมากทีเดียวเย่ไห่ถังพยักหน้าด้วยความดีใจ“ขอบพระทัยเสด็จพี่สะใภ้”“เสด็จพี่สะใภ้ของเจ้าทำของดีอะไรให้เจ้าอีกนะ?”เสียงที่ทุ้มต่ำและนุ่มลึกดังขึ้นที่ด้านหลัง เย่จิ่งอวี้เดินนำหลี่เต๋อฝูมาด้านหน้าเมื่อเห็นเย่จิ่งอวี้ เย่ไห่ถังก็รีบหยิบเนื้อย่างขึ้นและโบกไปมา“นี่คือเนื

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 548 จัดการจูอวี้เหยียน

    ณ คุกหลวงฝ่าบาทมาด้วยตัวเอง เหล่าผู้คุมเรือนจำต่างคุกเข่ารอรับเสด็จที่หน้าประตูเย่จิ่งอวี้โบกมือและพูดเสียงเข้มว่า “ต่างก็ลุกขึ้นเถิด นำตัวจูอวี้เหยียนออกมา”ผู้คุมเรือนจำรีบหิ้วจูอวี้เหยียนออกมาทันที และใช้โซ่เหล็กล็อกนางไว้กับเสาหินจูอวี้เหยียนยังคงเชิดหน้าชูคอเช่นเคย และมองอินชิงเสวียนด้วยสายตาที่เยือกเย็น“ข้าให้สิ่งที่พวกเจ้าต้องการไปแล้ว พวกเจ้าคิดจะทำอะไรอีก?”เย่จิ่งอวี้เดินไปด้านหน้า และพูดเสียงแข็งว่า “เจ้าคนรับใช้ชั้นต่ำ ตอนนี้เจ้าเป็นถึงนักโทษ แต่ยังกล้าจองหองเช่นนี้อีก”จูอวี้เหยียนพูดเสียงฮึดฮัด “แล้วทำไมเล่า?”“อวดดี!”เย่จิ่งอวี้ตะคอกเสียงขรึม พร้อมกับมาด้านหน้าของจูอวี้เหยียนด้วยความว่องไว มือข้างหนึ่งตบที่ศีรษะของนางจูอวี้เหยียนตกใจ“เจ้าจะทำอะไร?”ยังไม่ทันที่นางจะได้ถามคำถามที่สอง นางก็รู้สึกถึงลมปราณที่ทรงพลังไหลพรูจากเหนือศีรษะและตรงไปที่จุดตันเถียน จากนั้นก็รู้สึกว่าจุดตันเถียนว่างเปล่าราวกับถูกดึงออกไป และเหี่ยวเฉาอย่างรวดเร็ว หนอนกู่รับรู้ถึงการข่มขู่ จึงกรีดร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนกจูอวี้เหยียนแสดงสีหน้าตกใจ“เจ้า... เจ้าต้องการจะทำอะไร? อ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 549 ความควายเข้ามาแทรก

    “อวี้จิ่น เจ้าเป็นอะไร?”อวิ๋นฉ่ายใช้แขนชนนางหนึ่งทีจังอวี้จิ่นตัวสั่นในทันใด“ไม่ ข้าไม่เป็นไร”จังอวี้จิ่นซุกหัวไว้บนขา และไม่พูดอะไรอีกเลยอวิ๋นฉ่ายคิดว่านางง่วงนอน จึงไม่ได้พูดอะไรอีกด้านในห้อง เย่จิ่งอวี้อุ้มอินชิงเสวียนขึ้นมา และวางลงบนเตียงใหญ่ที่ปูด้วยฟูกนุ่มนิ่มเมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหล่าเข้ามาใกล้เรื่อยๆ อินชิงเสวียนก็เม้มริมฝีปากด้วยความเขินอาย ขนตาที่เรียวยาวสั่นสะท้านอย่างต่อเนื่องท่าทางเขินอายของเด็กสาวตัวน้อย ทำให้เย่จิ่งอวี้รู้สึกอึดอัดในลำคอ และกอดนางอย่างแน่นไว้ในอ้อมอก“เสวียนเอ๋อร์...”เขาเรียกชื่อของนางเบาๆ ริมฝีปากบางเฉียบจรดลงบนใบหน้าเล็กๆ ของนางที่ขาวนวลราวกับเครื่องเคลือบดินเผาเนื้อดีแม้ทั้งสองจะไม่ได้ร่วมหอกันเป็นครั้งแรก แต่อินชิงเสวียนยังคงรู้สึกเขินอาย และตื่นเต้นอย่างมาก นางรู้สึกถึงอุณหภูมิของร่างกายเพิ่มขึ้น และการหายใจก็เร็วขึ้นเล็กน้อยมือใหญ่ของเย่จิ่งอวี้สอดเข้าไปใต้ปกคอเสื้อ ความเย็นยะเยือกเพียงเล็กน้อยทำให้นางรู้สึกสบายใจอย่างมาก จึงแอ่นร่างขึ้นมาอย่างไม่อาจห้ามใจได้ และกอดคอของเย่จิ่งอวี้เอาไว้ริมฝีปากของทั้งสองอยู่ใกล้กันเพียงคืบเ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 550 คนดีและคนเลว

    อินชิงเสวียนรู้ว่าเจวี๋ยอิ่งกำลังสิบคดีคนชราอย่างลับๆ จึงรีบถามขึ้นว่า “จับตัวฆาตกรได้แล้วหรือเพคะ?”“ยังไม่ได้”เย่จิ่งอวี้เล่าเรื่องที่เจวี๋ยอิ่งถูกโจมตีให้นางฟังอย่างง่ายๆ“เช่นนี้นี่เอง หม่อมฉันสะดวกแน่นอนเพคะ ฝ่าบาทเคยเข้าไปในมิติของหม่อมฉันแล้ว ตาบ่อน้ำที่ท่านเห็นก็คือน้ำพุวิญญาณ หม่อมฉันจะเข้าไปตักเดี๋ยวนี้เลยเพคะ”ชีวิตคนสำคัญกว่าทุกสิ่ง อินชิงเสวียนไม่มัวเสียเวลา นางใช้ความนึกคิดและเข้าไปในมิติ จากนั้นก็ตักน้ำพุวิญญาณมาหนึ่งถัง และมอบให้แก่เย่จิ่งอวี้“ขอบพระทัยเสวียนเอ๋อร์ ข้าจะไปสำนักหมอหลวงเดี๋ยวนี้ เจ้าพักผ่อนเสียเถอะ”หลังจากเย่จิ่งอวี้ไปแล้ว อินชิงเสวียนก็ไม่อยากนอนต่อความวัวยังไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรกคนเหล่านี้ทำเพื่อเหตุผลอะไรกัน?แต่สิ่งเล็กๆ ที่ทำให้นางพึงพอใจ นั่นก็คือเย่จิ่งหลานไม่ใช่คนทำเรื่องนี้เพราะเขาเป็นคนบ้านเดียวกันเพียงคนเดียวอินชิงเสวียนในโลกใบนี้ อินชิงเสวียนไม่ต้องการให้มีวันที่เขาถูกลงโทษด้วยกฎหมายของต้าโจวผ่านไปไม่นาน ท้องฟ้าก็สว่างขึ้นอวิ๋นฉ่ายหาวและลุกขึ้นยืน“ฝ่าบาทตื่นค่อนข้างไว ข้าจะไปตักน้ำล้างหน้าก่อน เจ้ารออยู่ที่นี่แหละ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 551 มีลูกคนเดียวก็ดีแล้ว

    เมื่ออินชิงเสวียนมาถึงห้องโถงด้านข้าง เสี่ยว‍หนาน‍เฟิงก็ตื่นขึ้นพอดี สองแม่ลูกหยอกเย้ากันสักพัก จากนั้นยายหลี่ก็มาอุ้มเจ้าเด็กตัวกลมไปดื่มนมอินชิงเสวียนเข้าไปอาบน้ำในมิติ เพื่อบรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย เมื่อออกมาสีหน้าก็ผ่องใสขึ้นนางรับประทานอาหารเช้าแบบง่ายๆ จากนั้นจึงเปลี่ยนชุดบุรุษ เตรียมตัวไปยังสำนักศึกษาหลวงทันทีที่ออกไป ก็เห็นเย่‍จิ่ง‍อวี้เดินนำหลี่เต๋อฝูเข้ามาจากประตู“เสวียน‍เอ๋อร์กำลังจะไปแล้วหรือ”เมื่อเห็นหญิงสาวตัวน้อยสวมชุดบุรุษ บุคลิกองอาจห้าวหาญ ดวงตาของเย่‍จิ่ง‍อวี้เป็นประกาย ช่างเป็นสตรีที่ไม่เป็นรองบุรุษอย่างแท้จริง“อืม ไม่ได้ไปหลายวันแล้ว หม่อมฉันจึงอยากไปดูเสียหน่อย ประเดี๋ยวใต้เท้าเฒ่าพวกนั้นจะด่าข้าเอา”อินชิงเสวียนเอามือไพล่หลัง อิสระเสรีดั่งบุรุษเย่‍จิ่ง‍อวี้ยื่นนิ้วแตะจมูกเชิดรั้นของนางเบาๆ“ใครกล้าดุเจ้า ข้าจะถลกหนังเขาเอง”อินชิงเสวียนเม้มปากยิ้ม แล้วถามว่า “องครักษ์เงาผู้นั้นเป็นอย่างไรบ้างเพคะ”เย่‍จิ่ง‍อวี้พูดอย่างยินดี “หลังจากดื่มน้ำของเสวียน‍เอ๋อร์ อาการก็ดีขึ้นมาก”ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงภาพหลอนที่เห็นตอนที่อยู่ในมิติของอินชิงเสวียน

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 552 เจ้ารู้จักสตรีผู้หนึ่งหรือไม่

    อินชิงเสวียนพยักหน้า“ใช่ หรือเจ้าอยากไปที่ไหนหรือไม่”เย่ไห่ถังกัดริมฝีปาก แล้วถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “เสด็จพี่สะใภ้ ท่าน...ไม่อยากเยี่ยมที่บ้านหรือ”อินชิงเสวียนประหลาดใจ“เจ้าอยากไปบ้านท่านพ่อข้างั้นหรือ”เย่ไห่ถังพยักหน้า แล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ข้าไม่เคยเห็นว่าคนธรรมดาเป็นอย่างไร เสด็จพี่สะใภ้พาข้าไปดูได้หรือไม่”อินชิงเสวียนไม่ค่อยอยากกลับบ้าน เพราะถ้าอินจ้งเห็นนาง เขาจะถามถึงจูอวี้เหยียนแน่นอนตัวเองไม่มีความรู้สึกใดๆ ต่อจูอวี้เหยียน แต่อินจ้งนั้นแตกต่างออกไป หากเขารู้ว่าจูอวี้เหยียนมีสภาพน่าสมเพชเพียงนั้น แม้จะไม่พูดออกมา แต่ในใจเขาคงจะรู้สึกแย่แน่ๆเย่ไห่ถังแสดงทักษะการออดอ้อนของนางทันที กระตุกแขนเสื้อของอินชิงเสวียนแล้วพูดว่า “ไปนะ ไปดูหน่อยนะเจ้าคะ”อินชิงเสวียนจนปัญญากับท่าทางการอ้อนของนาง จึงพยักหน้าฉินเทียนและหลี่ชีต่างคอยทำตามคำสั่งอินชิงเสวียน ย่อมไม่ถามมาก ครั้นแล้วอีกสิบห้านาทีต่อมา รถม้าก็หยุดที่หน้าประตูจวนแม่ทัพเด็กรับใช้ที่เฝ้าหน้าประตูเข้าไปรายงานทันที ครู่ต่อมา อินปู้อวี่ก็เดินออกจากเรือนเมื่อเห็นว่าเป็นอินชิงเสวียน อินปู้อวี่ก็ดีใจมาก“น้องหญิ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 553 ข้าจะเอาสตรีคนนี้

    ระหว่างทางกลับ อินชิงเสวียนยังคงระมัดระวังตัวขึ้นสุด จนกระทั่งเข้าใกล้ประตูจิ้งอัน นางจึงผ่อนคลายเล็กน้อยไม่ไกลนัก มีชายคนหนึ่งกำลังตะโกนเรียกลูกค้ามาซื้อขนมเปี๊ยะนึ่ง สายตาจ้องมองไปที่รถม้าเป็นครั้งคราวเมื่อเห็นอินชิงเสวียนเข้าวัง คนผู้นั้นก็เดินเข้าไปในตรอกข้างๆ ทันทีในนั้นยังมีอีกหลายหาบตั้งอยู่ ข้างหาบมีคนอีหลายคนกำลังนั่งยองๆ อยู่“เป็นอย่างไรบ้าง” คนหนึ่งถามชายร่างเตี้ยที่แบกหาบพูดด้วยภาษาของพวกเขาว่า “แปลกมาก เห็นได้ชัดว่าสตรีคนนี้ไม่รู้วรยุทธ์ แต่ให้ความรู้สึกแข็งแกร่งแก่ผู้พบเห็น”อีกคนถามว่า “หรือเจ้าคิดไปเอง สนมในวังจะรู้วรยุทธ์ได้อย่างไร”คนก่อนหน้านี้พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “นางแข็งแกร่งจริงๆ เราจะหุนหันพลันแล่นไม่ได้”คนที่อยู่อีกฟากหนึ่งยิ้มอย่างเหยียดหยาม“ก็แค่ผู้หญิงยิงเรือ มีอะไรต้องกลัว องครักษ์เงาในวังพวกนั้นก็ตายด้วยน้ำมือของเราไม่ใช่รึ”“ที่พูดมาก็มีเหตุผล พระสนมคนนี้ก็เป็นเพียงผู้หญิงยิงเรือ เหล่าซานระมัดระวังเกินเหตุ”คนที่มีตาสามเหลี่ยมจากหนึ่งในนั้นอ้าปาก เลียริมฝีปากแล้วพูดว่า “หญิงผู้นี้หน้าตาสะสวยจริงๆ เมื่อพวกเจ้าถามถึงที่อยู่ของพิณได้แล้ว ก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 554 เจอคนชั่วระหว่างทาง

    อินชิงเสวียนลุกขึ้นยืนทันที“นางไปนานแค่ไหนแล้ว”ใบหน้าของอวิ๋นฉ่ายซีดลงด้วยความหวาดกลัว“ก็ประมาณ...สิบห้านาทีเพคะ”ใบหน้าของอินชิงเสวียนมืดมน“รีบไปตามหา”ในเวลานี้ จังอวี้จิ่นกำลังอุ้มเด็กยืนตัวสั่นอยู่นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่นางได้ทำสิ่งเลวร้ายเช่นนี้ ร่างทั้งร่างสั่นเป็นเจ้าเข้าทรงจังอวี้จิ่นก็ไม่รู้ว่าจะพาเด็กไปที่ไหน นางมาอยู่ในวังไม่นาน ไม่คุ้นเคยกับสถานที่ นางจึงหาสวนเล็กๆ และมาซ่อนอยู่ในนั้นเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงคิดว่าจังอวี้จิ่นกำลังเล่นกับตัวเอง จึงหัวเราะพลางคว้าเส้นผมของนางเล่นเมื่อเห็นเด็กน่ารักเช่นนี้ จังอวี้จิ่นก็ทำไม่ลงอีกเด็กเป็นผู้บริสุทธิ์ พระสนมก็เป็นคนดี นางแค่ต้องการให้พระสนมมอบตัวอินสิงอวิ๋นผู้ชั่วร้าย ไม่เคยต้องการทำร้ายผู้ใดเมื่อคิดได้ดังนี้ จังอวี้จิ่นก็สงบจิตใจได้มากนางกำลังจะรอนางกำนัล ให้นางไปแจ้งพระสนมที่ตำหนักจินหวูขณะที่กำลังคิดอยู่ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าจังอวี้จิ่นรู้สึกกระวนกระวายใจทันที กอดเสี่ยว‍หนาน‍เฟิงไว้แน่นแล้วจึงได้ยินเสียงอ่อนหวานพูดว่า “ดูนี่สิ ดอกไม้ในตำหนักกำลังจะเหี่ยวแห้งไป อีกไม่นานฤดูเหมันต์จะเยือนแล้ว”เสียงหน

บทล่าสุด

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1467 ฉันอยากกลับไป

    อินชิงเสวียนดึงมือออก“คุณจำคนผิดแล้ว ฉันไม่ใช่เพื่อนบ้านเดียวกันของคุณ แต่เป็นลูกสาวของแม่ทัพแห่งต้าโจว อินชิงเสวียน!”“คุณ คือเจ้าของร่างเดิมของอินชิงเสวียน?”เย่จิ่งหลานมองเธอขึ้นๆ ลงๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ รูปร่างเหมือนกันทุกประการ แต่หากสังเกตให้ดี จะเห็นได้ว่าเพื่อนบ้านเดียวกันของเขามีพลังความมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้ ส่วนผู้หญิงตรงหน้าเขาดูอ่อนโยนและอ่อนแอกว่ามากในเวลาเดียวกัน เขาก็รู้ด้วยว่าทำไมเขาถึงดูคุ้นตากับเด็กน้อยคนนี้ ตอนที่ตัวเองเพิ่งข้ามภพไปยังต้าโจว เขาก็มีรูปร่างหน้าตาลักษณะเหมือนแบบนี้เลยความทรงจำก็เหมือนกับคลื่นทะเล เป็นคลื่นที่ซัดมาระลอกแล้วระลอกเล่า ในที่สุดเย่จิ่งหลานก็ค่อยๆ จำทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในต้าโจวได้ทุกคนช่วยกันต่อต้านชิงฮุยในหุบเขาเชื่อมเมฆา แต่แล้วเขาก็กลับมาในเวลานี้ และกลับมาโดยที่ร่างกายสมบูรณ์ครบถ้วนเมื่อนึกถึงความชั่วร้ายและความเจ้าเล่ห์เพทุบายของชิงฮุย เย่จิ่งหลานก็รู้สึกสับสนอย่างอธิบายไม่ถูก“หรือว่าผมข้ามภพมาได้เพราะป้ายตราคำสั่งนี้ ผมต้องรีบกลับไปโดยเร็วที่สุด”เมื่อเห็นท่าทางกังวลอย่างกะทันหันของเย่จิ่งหลาน อินชิงเสวียนก็ตระหนัก

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1466 ความปรารถนาในใจสำเร็จแล้ว

    ไม่ว่าซูเยี่ยจะจำอดีตกับเขาหรือไม่ก็ตาม มันก็ไม่สำคัญสำหรับเย่จิ่งหลานอีกต่อไปแล้วสวรรค์ทำให้เขาได้เจอผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง อาจเป็นเพราะต้องการให้เขาได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของซูเยี่ย ผู้หญิงประเภทนี้ จริงๆ แล้วมันไม่จำเป็นต้องให้เขาเสียเวลาด้วยซ้ำเขาเพิ่งอายุได้ยี่สิบแปดปี อนาคตยังอีกยาวไกล ซูเยี่ยเป็นเพียบใบไหม้ที่ร่วงไปจากชีวิตของเขา ไม่มีความสำคัญอะไรเลยเย่จิ่งหลานกระตุกมุมปากขึ้นยิ้ม ค่อยๆ รู้สึกปลอดโปร่งใจเขาเดินออกจากสวนสาธารณะอย่างช้าๆ และทันใดนั้นก็มีอีกคำถามหนึ่งผุดขึ้นมาใบหน้านี้ไม่ใช่หน้าตาเดิมของเขา ใครเป็นคนทำศัลยกรรมให้เขา?พลังในร่างกาย มาจากไหนกันแน่แล้วผู้หญิงที่อยู่ในหัวของเขา เป็นใครกันแน่หรือว่าเขาฝึกฝนจนสำเร็จเคล็ดวิชาลับบางอย่าง และผู้หญิงคนนั้นคือแก่นวิญญาณของเขา?เย่จิ่งหลานดึงขอบเอวกางเกงของเขาโดยไม่รู้ตัว ไอ้นั่นยังคงอยู่ตรงนั้น ไม่อย่างนั้นเขาคงคิดว่าตัวเองฝึกฝนวิชาจนกลายเป็นตงฟางปุ๊ป้ายในเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักรแล้วแต่การมีสิ่งเหล่านี้จะมีประโยชน์อะไร เอามาใช้กินใช้ดื่มไม่ได้ ตอนนี้ท้องของเขาร้องโครกคราก แต่ไม่มีเงินอยู่ในกระเป๋าเลยขณะที่

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1465 คนแพศยามักจะสำออยแบบนี้แหละ

    ชายคนนั้นหยิบกระดาษทิชชู่ออกจากกระเป๋า เช็ดนิ้วด้วยความรังเกียจ แล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองซูเยี่ยนั่งบนพื้นร้องไห้เสียงดัง ความฝันที่จะแต่งเข้าไปอยู่ในครอบครัวที่ร่ำรวย ได้พังทลายอีกครั้งมือที่มีเห็นข้อต่อเด่นชัดยื่นออกไปต่อหน้าซูเยี่ยซูเยี่ยเงยหน้าขึ้น แล้วก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาราวกับดาราทันทีสิ่งที่ทำให้เธอตื่นเต้นยิ่งกว่านั้นคือ ชายคนนั้นสวมเสื้อผ้าแบรนด์ดัง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขามีฐานะที่ดีหากสามารถเกาะเกี่ยวลูกเศรษฐีที่ทั้งหล่อทั้งรวยแบบนี้ได้ ถูกตบหน้าแค่ครั้งเดียวจะเป็นไรไป บางทีนี่อาจเป็นความยากลำบากทั้งหมดที่สวรรค์ส่งมาให้ ที่มาอยู่ที่นี่ ก็เพื่อให้ได้เจอกับคนที่ดีกว่าเธอสูดจมูก จับมือนั้นไว้ เพิ่งยืนขึ้นมาได้ครึ่งตัว มือก็คลายออกซูเยี่ยเสียการทรงตัว และล้มลงกับพื้นอีกครั้งเธอมองเย่จิ่งหลานด้วยความประหลาดใจ ไม่เข้าใจว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่เย่จิ่งหลานยกมุมปากขึ้น คุกเข่าลงต่อหน้าเธอ ถามด้วยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม “รู้สึกยังไงที่ถูกทิ้ง?”“อะไรนะ...คุณหมายความว่ายังไง?”ซูเยี่ยถามด้วยเสียงต่ำ ดวงตาสีแดงทั้งคู่ ทำให้เขาดูมีเสน่ห์มากกว่าเมื่อก่อนนี่ไม่ใช่ฉากที่ป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1464 แพศยาอย่างเธอ

    เย่จิ่งหลานโบกมือ ประตูก็เปิดออกแสงจากด้านนอกประตูส่องเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัย ทุกคนก็เห็นหลี่ไห่ตงนอนอยู่บนพื้นทันที และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอยภัยนอนระเกะระกะอยู่ข้างๆชายหนุ่มรูปหล่อคนนี้เดินออกไปโดยไม่มีร่องรอยเลือด หรือฝุ่นผงบนร่างกายเลยทุกคนก้าวถอยหลัง มองดูเย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าหวาดกลัวเย่จิ่งหลานเดินขึ้นไปที่ลิฟต์โดยไม่หรี่ตามองในช่วงที่เขาถูกบีบให้ออกจากโรงพยาบาลระดับตติยภูมิ แต่ละนาทีแต่ละวินาที เขามักจะจินตนาการถึงการทุบตีหลี่ไห่ตงอย่างรุนแรง ได้ระบายความโกรธ วันนี้ ในที่สุดเขาก็ทำได้แล้ว สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เย่จิ่งหลานไม่อยากคิดอะไรมากเขารีบออกจากโรงพยาบาล มาที่สวนสาธารณะเล็กๆ ใกล้ ๆ มีชายชราคนหนึ่งที่อาบแดดอยู่ เย่จิ่งหลานเหลือบมองเขา และนั่งอีกด้านหนึ่งทั้งสองคนไม่ได้คุยกัน แค่พบกันโดยบังเอิญ ต่างไม่รู้จักกัน และไม่จำเป็นต้องพูดคุยกันเขาค่อยๆ ผ่อนคลายร่างกาย เอนหลังพิงเก้าอี้ หรี่ตาเหมือนที่ชายชราทำ ความอบอุ่นของดวงอาทิตย์ที่ส่องบนร่างกายของเขาช่างทำให้รู้สึกผ่อนคลายจริงๆหลังจากสงบสติอารมณ์ได้แล้ว เย่จิ่งหลานก็คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาพลังลมป

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1463 ฉันชื่อเย่จิ่งหลาน

    ความเจ็บปวดจากไฟฟ้า ทำให้เย่จิ่งหลานกลับมามีสติอีกครั้งหลี่ไห่ตงซ่อนตัวอยู่ข้างหลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เขาไออย่างบ้าคลั่ง และมองไปที่เย่จิ่งหลานด้วยสีหน้าแห่งความเกลียดชัง“ทุบตีมัน ทุบตีมันให้ตาย ตีมันตายแล้วฉันจะรับผิดชอบเอง”เมื่อเห็นว่าเย่จิ่งหลานไม่ขัดขืน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้น กระแสไฟฟ้าสีฟ้าพุ่งใส่ร่างของเย่จิ่งหลาน ทำให้ห้องรังสีวินิจฉัยที่มืดมิดสว่างไสวขึ้นมาเย่จิ่งหลานหลับตา ใช้ประสาทสัมผัสตรวจสอบอย่างระมัดระวัง และยกมุมริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเอง แต่สัมผัสได้ ความรุนแรงเท่านี้ไม่สามารถเอาชีวิตเขาได้เลย รู้สึกเหมือนกับถูกแมลงต่อยสองครั้ง ถ้าเขาจะโดนฟ้าผ่า ก็ถือว่าเป็นการได้สัมผัสประสบการณ์ล่วงหน้าเป็นเวลาสิบวินาทีเต็มๆ เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาเรียวแคบของเขาเหมือนถูกรายล้อมไปด้วยงูทองคำพ่นไฟ ดุดันน่าเกรงขาม แม้ในความมืดมิดเช่นนี้ ก็สามารถมองเห็นใบหน้าอันน่าเกลียดของทุกคนได้ชัดเจนเขาอาจจะฆ่าคนไม่ได้ แต่สามารถทุบตีพวกเขาได้ และตราบใดที่พวกเขายังหายใจอยู่ ก็ไม่ถือว่าตายเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็ค่อ

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1462 ปีศาจในชุดดำ

    “แกเป็นใคร ทำไมถึงมาทำร้ายฉัน”หลี่ไห่ตงเมื่อถูกทุ่มลงพื้นก็กรีดร้องอย่างน่าเวทนา ชายหนุ่มรูปงามตรงหน้านี้ เป็นราวกับเจ้าแห่งความตายในนรก ทำให้เขารู้สึกหวาดผวาอย่างสุดซึ้งจนแทบจะรู้สึกได้ถึงความกลัวที่มาจากจิตวิญญาณเขาไม่สงสัยเลยว่าชายคนนี้จะกล้าฆ่าเขาจริงๆหรือไม่“ฉันไม่รู้จักแกเลย แกจำคนผิดหรือเปล่า หรือคนในครอบครัวของแกอยู่ในโรงพยาบาลที่นี่ ถ้าขาดเงิน ฉันช่วยแกแก้ปัญหาได้”หลี่ไห่ตงรู้สึกว่าตัวเองยังพอมีหวัง จึงพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสร้างความประทับใจให้กับชายผมดำยุ่งเหยิงตรงหน้าเย่จิ่งหลานมองไปที่หลี่ไห่ตงอย่างเย็นชา ความทรงจำในอดีตก็หลั่งไหลกลับมาเพื่อให้ได้ทำงานในโรงพยาบาลต่อ ถึงจะนอนดึกกว่าหมา ตื่นเช้ากว่าไก่ ทำงานหนักเยี่ยงทาส ทำงานหนักมาสามปีก็ตาม แต่เพราะบังเอิญไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น จึงถูกส่งไปยังโรงพยาบาลเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งแต่เช้าจรดค่ำก็ไม่เจอใคร การทำงานหนักและค่าตอบแทนทั้งหมดของเขาถูกทำลายลงเพราะไอ้สารเลวยิ่งกว่าหมาคนนี้ เขากลับอยากมีชีวิตอยู่งั้นเหรอ ในโลกนี้ จะมีเรื่องดีๆ แบบนั้นได้อย่างไรโลกไม่ยุติธรรม เช่นนั้นก็ให้เขาได้ผดุงความยุติธรรม จัดการสัตว์ร้าย

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1461 เศษสวะ

    ไอ้ชาติชั่วนี่ ใช้อุบายเก่าๆ ของเขาอีกแล้วเย่จิ่งหลานเหลือบมองแพทย์หญิง แม้ว่าเธอจะสวมหน้ากากปลอดเชื้อสีเขียว แต่ยังคงมองเห็นความไม่เต็มใจและความลังเลในดวงตาที่เหนื่อยล้าของเธอทั้งสองเดินสวนทางกัน แพทย์หญิงก็เดินเข้าไปในห้องรังสีวินิจฉัยข้างๆ เย่จิ่งหลานอุ้มเด็กเดินเข้าไปในห้องผ่าตัด แต่ยังคงมองย้อนกลับไปที่แพทย์หญิงคนนั้น จากนั้นก็ได้ยินเสียงคลิก ซึ่งเป็นเสียงล็อคประตู“เด็กคนนี้ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกหน้าอก ขาทั้งสองข้างก็ถูกทับ”เย่จิ่งหลานอธิบายอาการของเด็กสั้นๆ จากนั้นรีบเดินไปที่ห้องรังสีวินิจฉัย ดึงที่จับประตูบานใหญ่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ดึงให้เปิดออกเมื่อนึกถึงไอ้คนชาติชั่วคนนั้นที่โรงพยาบาลเดิมใช้เส้นสายสารพัด ทำเหมือนกับว่าตัวเองเป็นแค่หมา สุดท้ายยังถูกเขาส่งไปยังโรงพยาบาลชุมชนที่อยู่ห่างไกลที่ไม่มีโอกาสก้าวหน้า เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธเขาออกแรง รู้สึกว่ามีแรงแปลกๆ ออกมาจากจุดตันเถียน ไปถึงท่อนแขนของเขาในทันที จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงกึก ประตูที่ถูกล็อคก็หักแกเป็นสองท่อนหลี่ไห่ตงกำลังจะกอดแพทย์หญิงคนนั้นทำเรื่องงามไส้ มีสายตามองจากข้างนอกเข้าไป อีกทั้งเรือนผมยาวส

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1460 ความคิดชั่วร้าย

    ทันใดนั้นก็มีเสียงเบรกดังมาจากด้านหน้าผู้หญิงคนหนึ่งขี่สกู๊ตเตอร์ชนจนล้มกระแทกพื้น เด็กที่อยู่ข้างหลังก็กระเด็นห่างออกไปหลายเมตรเช่นกันหน้าที่ของแพทย์ทำให้เย่จิ่งหลานเหาะไปข้างหน้า กระโดดไปหลายสิบเมตรในก้าวเดียว และลงจอดต่อหน้าผู้หญิงคนนั้นรถที่ผ่านไปมาต่างก็อึ้งกันไปหมด นี่กำลังถ่ายหนัง หรือเรื่องจริง?คนนี้ไม่มีสายสลิงผูกอยู่บนตัวนั้นา แล้วทำไมเขาถึงเหาะได้ไกลขนาดนี้ในคราวเดียวล่ะ?เย่จิ่งหลานเองก็สะดุ้งนี้...มันเป็นไปได้อย่างไรเป็นวรยุทธ์งั้นหรือเขาไม่มีเวลาคิด ก้มลงห้ามเลือดของผู้หญิงคนนั้นทันที กลิ่นเลือดปะทะเข้าจมูกของเขา หัวใจพลันสั่นขึ้นมาเล็กน้อยดูเหมือนมีบางอย่างตื่นขึ้นมา ไฝแดงระหว่างคิ้วก็สว่างวาบขึ้นเล็กน้อยมือของเขานิ่งค้าง จากนั้นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หลายคนก็วิ่งเข้ามา“คุณคนนี้ คุณเป็นหมอเหรอ”เย่จิ่งหลานพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว“ฉันเป็นศัลยแพทย์”คนที่ดูเหมือนพยาบาลกล่าวว่า “คนไข้ได้รับบาดเจ็บสาหัส คุณช่วยตามพวกเราไปที่รถพยาบาล ช่วยรักษาฉุกเฉินได้ไหม”เย่จิ่งหลานสูดหายใจเข้าลึกๆ“ได้”เขาก้าวเข้าไปในรถพยาบาล ผู้หญิงและเด็กถูกพาไปที่เตียงในรถพยาบาล

  • สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์   บทที่ 1459 เรื่องด่วน

    “ไม่ ข้าไม่เคยสงสัยเจ้าเลย ข้าแค่คิดว่า เจ้าและชิงฮุยอาจไม่ได้เป็นแค่ราชาแคว้นกับขุนนางธรรมดาแบบนั้น”อินชิงเสวียนหยุดชั่วคราวและพูดว่า “แม้ว่าข้าจะไม่เข้าใจหลักการวิทยายุทธ์ของแคว้นเฟยเหยา แต่รู้ว่าวิทยายุทธ์แบบเดียวกันนั้นมักจะมีรากเหง้าเดียวกันที่สามารถใช้ค้นหาร่องรอยได้ หากเจ้าใช้ความพยายาม ก็ไม่น่าจะยากที่จะพบตัวชิงฮุย แต่ว่า ที่ข้ามาที่นี่ก็ไม่มามาถามเรื่องเขาทั้งหมด”“โอ้?”ลั่วสุ่ยชิงเงยหน้าขึ้น มองไปยังอินชิงเสวียน“ข้าอยากรู้ หากแก่นวิญญาณของเจ้าและแก่นวิญญาณของชิงฮุยมาพบกันในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน จะเกิดผลที่ตามมาอย่างไร”“ไม่แน่ใจ”ลั่วสุ่ยชิงพูดอย่างตรงไปตรงมา“ข้ามีลางสังหรณ์ว่าชิงฮุยอาจทำลายแก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลาน ยึดร่างกายของเขา ดังนั้นจึงซ่อนแก่นวิญญาณของตัวเองไว้ในห้วงทะเลแห่งจิตของเย่จิ่งหลาน โดยใช้วิธีเข้าฝัน...”ลั่วสุ่ยชิงคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดต่อว่า “ตามหลักการปกติทั่วไป แก่นวิญญาณของเย่จิ่งหลานอาจได้รับผลกระทบ ซึ่งอาจทำให้สมองสดใสน้อยลง แต่ไม่ต้องการให้เขาหายตัวไปโดยสิ้นเชิง เมื่อข้าลองใช้วิธีการเข้าฝันอีกครั้ง แต่ข้าไม่สามารถสัมผัสถึงลมปราณของเ

DMCA.com Protection Status